Tag : อโศก

5 ผลลัพธ์
SINGHA COMPLEX ครบทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง

SINGHA COMPLEX ครบทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง

เมื่อไม่นานมานี้ SINGHA COMPLEX  จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการอย่างยิ่งใหญ่อลังการสมกับเป็น Luxury Mixed Use Complex ใจกลางอโศก ซึ่ง SINGHA COMPLEX แห่งนี้ได้เปิดให้ใช้บริการอย่างเต็มรูปแบบในส่วนของ Office Building กับ Retail 4 ชั้น ที่เราจะพาไปเดินเล่นชมบรรยากาศกันในบทความนี้ค่ะ อย่ารอช้า นั่ง MRT ไปลงที่สถานีเพชรบุรี ทางออกที่ 2 แล้วไปเดินเล่นกันค่ะ   SINGHA COMPLEX จะประกอบไปด้วย Office Building 42 ชั้น, Retail 4 ชั้น ที่เราจะพาไปเดินเล่นกันในครั้งนี้ และอาคารสูงด้านหลังที่ยังก่อสร้างกันอยู่จะเป็นคอนโดมิเนียมที่ชื่อว่า THE ESSE @SINGHA COMPLEX รวมทั้งหมดแล้วมีพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ และด้วยเหตุที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกพอดี(เดิมคือสถาณฑูตญี่ปุ่น) จึงมีทางเข้า-ออก อยู่ 2 ทางค่ะ คือฝั่งถ.เพชรบุรี กับถ.อโศกมนตรี ซึ่งการออกแบบทางสถาปัตยกรรมนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากสีสัน เส้นสายตามธรรมชาติของรวงข้าวบาเล่ย์สีทอง กลายเป็นอาคารที่ดูทันสมัย สง่างาม โอ่งโถ่งสมกับเป็นอาคารออฟฟิศเกรดพรีเมี่ยมอย่างที่ทางสิงห์เองตั้งใจเอาไว้     ฝั่งอาคารที่เป็น Retail เราจะเห็นต้นจามจุรี 3 ต้นใหญ่วางตัวเรียงกันอยู่ริมสี่แยกอโศก-เพชรบุรี แบบที่เห็นนี้มีมาตั้งแต่ยังเป็นสถาณฑูตญี่ปุ่น ซึ่งทางสิงห์ตั้งใจเก็บรักษาเอาไว้ เพื่อให้อยู่คู่กับสถานที่แห่งนี้ต่อไป   The Bistro @SINGHACOMPLEX ลานเบียร์เป็นของคู่กันกับฤดูหนาว ซึ่งตรงนี้จะมีไปจนถึงวันที่ 13 ม.ค. 62 เวลา 17.00-24.00 น.   เรามาเริ่มเข้าไปสำรวจด้านในกันค่ะ ที่นี่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.00-23.00 น. ก้าวแรกที่เข้าไปเลยก็จะพบกับ Top Daily ที่มีทั้งของสด ขนม ผลไม้ เครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ เวชภัณฑ์ ฯลฯ เรียกได้ว่าครบครันใช้ได้ทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ในบริเวณชั้น G ก็จะมีทั้งร้านกาแฟ ขนม อาหารแบบเบาๆ และธนาคารค่ะ   ขึ้นไปกันที่ชั้น L1 ค่ะ ก็จะมีทั้งธนาคาร ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขนม และโซน Beauty&Health Care เช่น Kazan By Sushi Yanma, Gyu Kaku, King Kong Sweets, ปั้นคำหอม, Cut&Curl, SCB ฯลฯ   L2 เป็นร้านอาหารไทย อาหารฟิวชั่น เช่น bangkok bold kitchen, กล่องชา 24, คาเฟ่อเมซอน ฯลฯ  และยังเป็นโซนเริ่มต้นของ Amphitheatre สถานที่สำหรับนั่งพักผ่อน หรือหลบมุมทำงาน ซึ่งเป็นไฮไลท์ของ SINGHA COMPLEX แห่งนี้ค่ะ   สุดท้ายที่ชั้น L3 ค่ะ จะขาดไปไม่ได้เลยคือร้าน EST.33 จากสิงห์ทางเอง ร้านซาลาเปาโกอ้วนเจ้าดังจากหาดใหญ่ และโซน Amphitheatre ที่เป็น Co-Working Space ในบรรยากาศร่มรื่นสบายตาแบบที่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่ากำลังนั่งอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่อันแสนจะวุ่นวายภายนอก มาพร้อม Free Super Wifi ชาวฟรีแลนซ์เห็นแล้วจะต้องชอบค่ะ     SINGHA COMPLEX แม้จะมีพื้นที่ในส่วนของ Retail ไม่มากเหมือนห้างสรรพิสินค้าใหญ่ๆ แต่ข้อดีก็คือความไม่วุ่นวายนี่แหละค่ะ ทำให้เป็นอีกหนึ่งใน Co-Working Space ที่น่าสนใจ(ฟรีด้วยนะ) ได้เปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงาน เดินทางสะดวกไม่ว่าจะด้วยรถไฟฟ้าหรือรถยนต์ส่วนตัว ถ้าหิวก็มีอะไรให้เลือกทานหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละชั้นสามารถจัดโซนได้ดีทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่าครบทุกไลฟ์สไตล์คนเมืองจริงๆ              
ฮาบิแทท กรุ๊ป ปั้นลักชัวรี่คอนโด “วาลเด้น อโศก” รุกตลาดไฮเอนด์ย่าน CBD กรุงเทพ

ฮาบิแทท กรุ๊ป ปั้นลักชัวรี่คอนโด “วาลเด้น อโศก” รุกตลาดไฮเอนด์ย่าน CBD กรุงเทพ

ฮาบิแทท กรุ๊ป ทุ่มงบ 2,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ลักชัวรี่คอนโดฯ “วาลเด้น” รุกตลาดไฮเอนด์ย่าน CBD ในกรุงเทพฯ ประเดิมโครงการแรก “วาลเด้น อโศก” พรีเมี่ยมคอนโดเพื่อพักอาศัย และลงทุนย่านอโศก ราคาเริ่มต้น 5.9-11 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมาย Expat ญี่ปุ่นและจีน และนักลงทุนในอสังหาฯ คาดผลตอบแทนจาก Capital Gain สูงถึง 6-10% ต่อปี และผลตอบแทนการเช่า 4-6% ต่อปี มั่นใจ จะได้ผลตอบรับดีทันทีที่เปิดขาย นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ฮาบิแทท กรุ๊ป เดินหน้ารุกตลาดลักชัวรี่คอนโดมิเนียมในย่าน CBD เป็นครั้งแรก โดยใช้งบทุนรวมกว่า 2,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ลักชัวรี่คอนโดฯ ภายใต้ชื่อ “วาลเด้น” โดยได้ฤกษ์ประเดิมเปิดตัวโครงการแรก “วาลเด้น อโศก” (Walden Asoke) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนระดับลักชัวรี่ จำนวน 7 ชั้น 83 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่กรรมสิทธิ์ในซอยสุขุมวิท 23  ใกล้จุดร่วมการเดินทางระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTSอโศกและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท เพียง 700 เมตร นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมโยงการเดินทางไปที่แอร์พอร์ตเรียลลิงค์ได้อีกด้วย ซึ่งช่วยทำให้การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นไปได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยมีแบบห้องให้เลือกถึง 7 แบบตามความต้องการ ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 31 –  65 ตารางเมตร ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนเริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี2563 โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5.9 - 11 ล้านบาท สำหรับแนวคิดในการออกแบบโครงการ “วาลเด้น อโศก” สะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตที่ทันสมัย ขณะเดียวกันก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติผ่านวัสดุประเภทหิน ไม้ และต้นไม้สีเขียวชอุ่มทอดยาวจากพื้นดินสู่ชั้นดาดฟ้า สถาปัตยกรรมจากไม้ธรรมชาติไม่มีที่สิ้นสุดจรดทางเดินไปสู่พื้นที่กว้างขวาง ให้ความรู้สึกเป็นอิสระหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมือง สำหรับการดีไซน์ของห้องแต่ละแบบจะมีดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่ซ้ำกันเพื่อการปรับจูนให้ตรงตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัย อาทิ การเพิ่มพื้นที่เพดานสูงเพื่อให้ความรู้สึกโอ่โถง โปร่งสบาย หรือจัดให้มีสวนหย่อมเพื่อการพักผ่อนส่วนตัว นอกจากนี้ มีพื้นที่การใช้ที่หลากหลายเพื่อยกระดับไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว รวมถึงพื้นที่ทำงาน ฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ โดยมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ทันสมัย และมีคุณภาพสูงจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการฯ ประกอบด้วย ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด มุมอร่อยกับบาบีคิวของครอบครัว เชื่อมโยงไปยังสนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำร้อนและน้ำเย็น และสวนหย่อมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ มุม VICHY วารีบำบัดที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของใจและกายอย่างเต็มที่ด้วยวิถีแบบเซน พร้อมที่จอดรถอัตโนมัติซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถ  พิเศษสุดสำหรับบริการ “Walden Privilege” แท็บเล็ตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้านของคุณ รวมไปถึงบริการแม่บ้านทำความสะอาด สั่งอาหาร และบริการชำระบิลต่างๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสอีกด้วย “วาลเด้น อโศก นับเป็นโครงการแรกของฮาบิแทท กรุ๊ป ที่รุกตลาดคอนโดนิเนียมระดับพรีเมี่ยมเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ หลังจากลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองพัทยามานานกว่า 5 ปี โดยครั้งนี้ เราปักหมุดทำเลทองย่าน “อโศก” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น CBD ศูนย์กลางธุรกิจของย่านสุขุมวิทเพียงหนึ่งเดียวที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมีศักยภาพที่ดีเยี่ยมในด้านการเดินทาง การพัฒนาธุรกิจการค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาคารสำนักงาน หรือรีเทล กลุ่ม Mixed-use เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่กำลังเจริญเติบโต รวมถึงการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยในย่าน CBD ยังคงมีดีมานด์อยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลที่ทำเลอโศกไม่เพียงแต่เป็นแค่ทำเลที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นทำเลที่มีองค์ประกอบครบถ้วน ทั้งสถานทูต โรงแรม 5 ดาว ออฟฟิศสำนักงานและแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ แหล่งท่องเที่ยวและบันเทิง สถานศึกษาชื่อดังทั้งไทยและนานาชาติ  โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราจะเห็นการพัฒนาทั้งอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองได้เป็นอย่างดี และถือเป็นทำเลที่สามารถดึงดูดการพัฒนาได้อย่างไม่รู้จบ” นายชนินทร์ กล่าว ทั้งนี้ หากพิจารณาในแง่ของการลงทุนทั้งจากการปล่อยเช่าและการถือครองระยะยาว ทำเลอโศกนี้ถือว่ามีศักยภาพในแง่การลงทุนสูงจากดีมานด์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและชาวจีน ซึ่งมีสัดส่วนการอยู่อาศัยในทำเลนี้สูงถึง 70-80% รวมไปถึงนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของฮาบิแทท กรุ๊ป โดยจากสำรวจการเพิ่มขึ้นของราคา (Capital Gain) และอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) ของคอนโดมิเนียมในทำเลอโศก พบว่า ทำเลนี้มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคา (Capital Gain) อยู่ที่ประมาณ 6-10% ต่อปี และได้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอยู่ที่ประมาณ 4-6% ต่อปี “สำหรับโครงการ “วาลเด้น อโศก” นับเป็นลักชัวรี่คอนโดมิเนียมที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักอาศัยในทำเลที่เดินทางได้สะดวกที่สุดในกรุงเทพใกล้กับแหล่งสำนักงานชั้นนำ พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภคครบครัน รวมถึงเป็นโครงการที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยฮาบิแทท กรุ๊ป มีบริษัท ฮาบิแทท ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด บริษัทในเครือ ซึ่งมีทีมงานมืออาชีพที่สามารถให้คำปรึกษาด้านการบริหารการเช่า เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าจะสามารถได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมั่นใจว่า ด้วยศักยภาพของทำเลอันร้อนแรงแห่งนี้จะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ซื้อ และนักลงทุน พร้อมทั้งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน” นายชนินทร์ กล่าวทิ้งท้าย ทั้งนี้ ฮาบิแทท กรุ๊ป จะจัดกิจกรรมพรีเซลล์โครงการ “วาลเด้น อโศก” สำหรับผู้สนใจเยี่ยมชมและทราบรายละเอียดโครงการ ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคมนี้ ที่โรงแรมพูลแมน สุขุมวิท โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.habitatgroup.co.th
อโศก-พระราม 9 ทำเลแห่ง New CBD

อโศก-พระราม 9 ทำเลแห่ง New CBD

ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ว่ากันว่าย่านอโศก-พระราม 9-รัชดา เป็นแหล่ง New CBD(Central Business District) ต่อจากย่านเศรษฐกิจอย่างสาทร-สีลม ที่เริ่มหาที่ดินมาพัฒนาได้ยากมากขึ้น ด้วยปัจจัยของสิ่งรอบด้านในย่านนั้นส่งผลให้มีความเจริญเติบโตของเมืองเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ประกอบกับวิถีชีวิตของประชากรที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯเปลี่ยนแปลงไป ทำให้บริเวณอโศก-พระราม 9-รัชดา จึงกลายเป็นทำเลที่หลายคนต้องจับตามองกันแบบไม่กระพริบตา   ถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่สี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว เชื่อมต่อไปยังถนนอโศกมนตรี เป็นช่วงที่มีความคึกคักอยู่ตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์-อาทิตย์ เพราะตลอดสองฝั่งถนนมีทั้งโรงแรมระดับ 3-5 ดาว, ร้านอาหาร, โรงพยาบาล, สถาบันการศึกษา, ห้างสรรพสินค้า, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และอาคารสำนักงานมากมาย ที่สำคัญมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่วิ่งผ่านตลอดเส้นทาง และมีแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีมักกะสัน เป็นจุด Interchange เชื่อมต่อกับ MRT สถานีเพชรบุรี แล้วในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มเกิดขึ้น โดยมีสถานีที่เป็น Interchange กับ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม อีกทั้งยังมีจุดขึ้น-ลง ทางพิเศษศรีรัชในบริเวณเดียวกัน   หลายสถานที่สำคัญก็เปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูดให้ย่านนี้เกิดการเติบโตอันรวดเร็ว เช่น   The Rama IX Super Tower โดยบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ G Land เป็นอาคารที่กำลังจะก้าวขึ้นแท่นอาคารสูงที่สุดติดท็อป 10 ของโลกถึง 615 เมตร จำนวณ 125 ชั้น บนพื้นที่ โดย Super Tower ได้แบ่งอาคารออกเป็น 4 ส่วนหลักด้วยกัน คือ ห้างสรรพสินค้า โรงแรมระดับ 6 ดาว ศูนย์ประชุม และสำนักงานเกรดเอ ตัวอาคารตั้งอยู่หลังเซ็นทรัลพระราม 9 ปัจจุบันกำลังเริ่มการก่อสร้าง หากแล้วเสร็จเมื่อไรคาดการณ์กันว่าจะทำให้เกิดการลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล   อาคารสำนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกติดกับสถานทูตจีน อาคารนี้ถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจตลาดทุนครบวงจรของประเทศ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการวางแผนทางการเงินและการลงทุน สำหรับนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นอกจากนี้ก็ยังมีอาคารสำนักงานชื่อดังอื่นๆ เช่น Cyberworld Tower (CW Tower), AIA Capital Center, True Tower, G Tower, Unilever House เป็นต้น   ห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลพระราม 9, ฟอร์จูน, เอสพลานาด, เดอะ สตรีท รัชดา, โชว์ ดีซี ฯลฯ แต่ละแห่งก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนได้แตกต่างกันไป เช่น ฟอร์จูน สำหรับความต้องการสินค้าด้านไอทีโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายภาพ โทรศัพท์มือถือ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ, โชว์ ดีซี ศูนย์การค้าน้องใหม่สไตล์เกาหลี ที่เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงยังเป็นเอาท์เล็ทสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย   สถาบันการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมายาวนาน เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา ฯลฯ หรือโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่งเปิดตัวใหม่อย่าง SHREWSBURY INTERNATIONAL SCHOOL CITY CAMPUS ซึ่งเป็นโรงเรียนในระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดีบนพื้นที่ 15 ไร่ โดยมีกำหนดการเริ่มเปิดสอนในเดือนสิงหาคม ปี 2561     จุดที่หลายคนจับตามองมากที่สุด คือ ช่วงสี่แยกพระราม 9 ที่หลาย Developer ระดับบิ๊ก ต่างช่วงชิงจับจองพื้นที่สร้างโครงการเข้าแข่งขันในตลาดระดับกลาง-สูง กันอย่างร้อนระอุ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการห้องพักอาศัยไม่ไกลจากออฟฟิศ เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ที่พัก และในระยะหลังก็เริ่มมีกลุ่มชาวต่างชาติอย่าง ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ยุโรป เข้ามาพักอาศัยอยู่ในทำเลนี้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยแต่ละโครงการที่เปิดตัวออกมานั่นทำเอาทั้งผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัย และนักลงทุนตัดสินใจเลือกกันแทบไม่ถูก ตัวอย่างเช่น   Condolette Midst พระราม 9 จากพฤกษา เรียลเอสเตท คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น บนถนนพระราม 9 ใกล้สี่แยกพระราม 9 ฝั่งขาเข้า เป็นคอนโดที่เปิดให้เข้าอยู่มาตั้งแต่ปลายปี 2558 แต่ยังคงมีชาวต่างชาติเข้าพักอาศัยในระยะยาวอยู่ตลอด ราคาเฉลี่ยตอนเปิดตัวอยู่ที่ 150,000 บาท/ตร.ม. Chewathai Residence Asoke จาก ชีวาทัย คอนโด High Rise สูง 29 ชั้น อยู่ริมถนนอโศก-ดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าสี่แยกพระราม 9 เป็นโครงการที่ออกแบบห้องพักอาศัยกับส่วนกลางมาได้สวยมาก โดยสไตล์ห้องเป็นแบบ Loft Duplex เพดานสูงถึง 3.6 เมตร  ปัจจุบันนี้พร้อมเข้าอยู่แล้ว ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท เฉลี่ยราคา 180,000 บาท/ตร.ม. Life อโศก-พระราม 9 จาก เอพี คอนโด High Rise 2 อาคาร สูง 42 และ 46 ชั้น เพิ่งเปิดพรีเซลไปได้ไม่นานมานี้ อีกหนึ่งโครงการซึ่งเป็นที่หมายตาของนักลงทุน และผู้ซื้ออยู่อาศัยเอง ด้วยตัวโครงการมี Sky Walk ทางเชื่อมกับแอร์พอตลิงค์ สถานีมักกะสัน ราคาเริ่มต้น 2.45 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยประมาณ 98,000-120,000 บาท/ตร.ม. RHYTHM อโศก 1 จาก เอพี คอนโด High Rise สูง 37 ชั้น โครงการพร้อมเข้าอยู่ ที่ตั้งใกล้กับจากของโครงการชีวาทัยในฝั่งเดียวกัน ราคาเริ่มต้นตอนเปิดตัว 3.15 ล้านบาท เฉลี่ยราคาประมาณ 147,000 บาท/ตร.ม. RHYTHM อโศก 2 จาก เอพี คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น โครงการพร้อมเข้าอยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับ RHYTHM อโศก 1 คงจะเป็นการการันตีความร้อนแรงของทำเลนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะโครงการคอนโดมิเนียมจากเอพีในย่านนี้มีหลายตัวเป็นพิเศษ โดย RHYTHM อโศก 2 ตอนนี้ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.3 ล้านบาท เฉลี่ยราคาประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม. Ashton อโศก-พระราม 9 จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ คอนโด High Rise 2 อาคาร สูง 46 ชั้น ทำเลดีมากตามสไตล์อนันดา เพราะอยู่หัวมุมสี่แยกพระราม 9 ตรงข้ามกับฟอร์จูน ดีไซน์อาคารโดดเด่น ราคาเริ่มต้นตอนเปิดตัวอยู่ที่ 6.49 ล้านบาท หรือประมาณกว่า 200,000 บาท/ตร.ม.   แม้จะมีบางโครงการย่านนี้ที่มีอายุเกิน 5 ปี แต่ยังคงมีอัตราการเติบโตของราคาเพิ่มขึ้นอยู่ไม่น้อย ด้วยทำเลที่ดีทั้งการเดินทางสะดวก และสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อม ทุกสิ่งที่กล่าวถึงมาทั้งหมดนี้ทำให้อโศก-พระราม9 กลายเป็น New CBD อย่างสมบูรณ์แบบ
Noble BE19 : รีวิวคอนโด

Noble BE19 : รีวิวคอนโด

หลังจากที่พาไปดูบรรยากาศบริเวณรอบๆ โครงการ Noble BE19 กันไปในรีวิวทำเลฉบับก่อนหน้าแล้ว รีวิววันนี้เราจะมาเปิดห้องตัวอย่าง โชว์รายละเอียดของโครงการ Noble BE19 กันครับ เพราะเพิ่งจะเปิดตัวโครงการอย่างเต็มรูปแบบกันไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง เราเลยเก็บภาพห้องตัวอย่างมาให้ได้ชมกันอย่างจุใจ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     6,200,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise 2 อาคาร สูง 27 ชั้นและ 48 ชั้น จำนวนห้อง    586 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    3 - 2 - 95 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ   ทำเลและการเดินทาง ทางทีมงานได้ทำรีวิวทำเลของโครงการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว สามารถดูการเดินทางอย่างละเอียดได้จากลิ้งค์นี้นะครับ สำรวจทำเล Noble BE19 ขอเกริ่นเรื่องทำเลที่ตั้งกันแบบคร่าวๆ ก่อนนะครับ ตัวโครงการ Noble BE19 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 19 บนที่ดินเดียวกันกับโครงการ Noble Recole นั่นแหละ แต่ Noble BE19 จะพิเศษกว่าตรงที่มีทางเข้าออกได้ทั้งจากฝั่งสุขุมวิท 19 และสุขุมวิท 15 ซึ่งนับระยะห่างจากปากซอยมาถึงทางเข้าโครงการก็มีระยะพอๆ กันที่ 500 เมตรเท่านั้น จุดเด่นสำคัญของถนนในซอยสุขุมวิทย่านนี้คือ มีเส้นทางลัดเลาะไปมาได้หลายเส้น จะทะลุออกถนนสายหลักๆ ได้หลายทาง ทั้งถนนเพชรบุรี อโศก นานา ทองหล่อ เอกมัย สามารถศึกษาเส้นทางเพิ่มเติมกันได้นะครับ แต่ถ้าไม่อยากใช้รถส่วนตัว บริเวณปากซอยสุขุมวิท 19 ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง Interchange ที่สำคัญของระบบรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT หรือถ้าขยับขึ้นไปอีกนิด ก็ยังมี Airport Rail Link สถานีมักกะสันอีกด้วย การเดินทางในแถบนี้จึงแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวให้ต้องเสียเวลากับรถติดเลย ทางเข้าสำนักงานขายโครงการ นอกจากเรื่องการเดินทางแล้ว บรรยากาศของย่านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งใน CBD ที่สำคัญ บนถนนสุขุมวิทเรียงรายไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรมระดับ 5 ดาว และแน่นไปด้วยห้างสรรพสินค้าอย่าง Terminal 21, Robinson, Emporium, Em Quartier, Emsphere แถมด้วยห้างในเครือ Central ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วย ทั้ง Central Embassy, Central ชิดลม ในขณะที่สถานศึกษาใหญ่ๆ ก็รายล้อมอยู่รอบๆ โครงการ Noble BE19 อีกเพียบ เช่น โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, โรงเรียนนานาชาติ NIST หรือแม้แต่โรงเรียนสายน้ำผึ้งเองก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเช่นกัน และที่ลืมพูดถึงไม่ได้ก็คือ เรื่องของพื้นที่สีเขียว ซึ่งมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้โครงการ Noble BE19 มากถึง 3 แห่งด้วยกันคือ สวนเบญจสิริ, สวนเบญจกิตติ และสวนชูวิทย์ เช่นเดียวกันกับโรงพยาบาลเอกชนระดับมาตรฐานก็มาเต็มทั้ง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลสมิตเวช, โรงพยาบาลคามิลเลี่ยน และโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น สรุปสั้นๆ ได้ว่า ศักยภาพของทำเลในย่านนี้มีความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะระยะหลังมานี้ โครงการคอนโดใหม่ๆ ในโซนสุขุมวิทตอนต้นก็เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้น ในขณะที่ที่ดินทำเลดีๆ ก็เหลือน้อยเต็มที พอมีโครงการเด่นๆ หน่อยจึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกจับจองกันหมดอย่างรวดเร็ว ภาพรวมของโครงการ ทีนี้เรามาดูรายละเอียดของโครงการ Noble BE19 กันบ้างดีกว่าครับ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร แบ่งเป็น Tower A สูง 48 ชั้น และ Tower B สูง 27 ชั้น ตำแหน่งห้องส่วนใหญ่จะหันไปทางแนวทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก ซึ่งวิวทั้งสองด้านก็จะแตกต่างกันออกไปครับ ทางด้านทิศเหนือจะเด่นด้วยวิวพื้นที่สีเขียวสบายตากว่า ด้วยพื้นที่ของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ส่วนด้านทิศใต้ก็จะเป็นวิวแบบ City View มีแสงสีสวยกว่าในช่วงค่ำๆ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะครับ ภาพมุมสูงของโครงการจากชั้นที่ 27 ด้านทิศเหนือจะหันไปทางโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ซึ่งจะเทควิวได้กว้างกว่าด้านอื่นๆ เนื่องจากไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิว ขยับมาทางด้านทิศตะวันออกจะหันไปทางซอยสุขุมวิท 19 ได้วิวทางฝั่งถนนอโศกมนตรี ด้านทิศใต้จะได้วิวฝั่งถนนสุขุมวิท จะสังเกตเห็น Terminal 21 จะไม่ไกล ส่วนทิศตะวันตกจะหันไปทางซอยสุขุมวิท 15 ได้วิวฝั่งนานาไปจนถึงเพลินจิต เรื่อง Facility ทางโครงการ Noble BE19 จัดมาแบบเต็มที่เลยทีเดียว ตัวโครงการมี 2 อาคาร ดังนั้นตัว Facility จึงมีอยู่ทั้ง 2 อาคาร ทั้งนี้ลูกบ้านสามารถใช้งานร่วมกันได้ English Contemporary Lobby Semi Outdoor Lobby Lobby Lounge Swimming Pool (Lap Pool) Sky Jacuzzi and Reclining Pool Recreation Area Sauna Steam Fitness + Sky Fitness Sky Lounge Sky Game Room Laundry Room BBQ Are Playground Meeting Room กล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง ระบบ Access Control ด้วย Key Card เข้า-ออกอาคาร และพื้นที่จอดรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง โมเดลจำลองของโครงการ ภาพ Perspective ของ Lobby โมเดลจำลองให้เห็นภาพสระว่ายน้ำ และลานบาร์บีคิว ที่อาคาร A กันแบบชัดๆ ภาพ Perspective สระว่ายน้ำที่อาคาร A Sky Fitness บนชั้น 44 พาชมห้องตัวอย่าง ถึงเวลาเปิดห้องตัวอย่างกันแล้วครับ โดยเราขอเปิดกันด้วยห้อง Highlight ของโครงการ Noble BE19 กันเลย นั่นก็คือห้องแบบ 1 Bedroom ที่ขนาด 50.21 ตารางเมตร ซึ่งห้องมีขนาดกว้างขว้างกว่าห้องแบบ 1 Bedroom ทั่วไปในท้องตลาด และยังโปร่งสบายตาด้วยฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร ทางโครงการขายมาให้แบบ Fully Fitted มีชุดครัว Built-in พร้อม Microwave Oven, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาเรียบร้อยครับ พอเปิดประตูเข้ามาก็จะเห็นบรรยากาศห้องที่โล่งโปร่งสบายตามากๆ โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยภาพในห้องที่กว้างมากๆ แถมยังมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงจรดเพดาน ที่สูงถึง 3.20 เมตร ทำให้ห้องนี้เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ด้วย แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 50.21 ตารางเมตร ประตูห้องจะใช้ Digital Door Lock ของ Hafele เข้ามาในห้องแล้ว มองตรงผ่านโต๊ะทานอาหารไปจะเป็นส่วน Living Area พอหันมาด้านซ้าย จะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ที่โครงการจัดชุดครัวมาให้แบบนี้เลยนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูป L ออกมาด้านนอก มีซิงค์ล้างจาน 1 หลุม พร้อมกันพื้นที่จัดเตรียมอาหารข้างๆ ด้านล่างจะเป็นจุดวางเครื่องซักผ้า และตู้เก็บของ ขยับมาอีกด้านจะเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex ด้านบนเป็นฮูดดูดควันของ best ส่วนด้านล่างเตาไฟฟ้าโครงการจะ Built-in Microwave Oven ของ Smeg มาให้ด้วย ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัว โครงการจะเว้นเป็นช่องวางตู้เย็นไว้ให้นะครับ พร้อมกันตู้เก็บของรอบๆ ตู้เย็นด้วย จากครัวเข้าไปด้านใน จะมีโต๊ะทานอาหารวางคั่นอยู่ก่อนถึง Living Area ตรงนี้โครงการไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ วางให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ บริเวณ Living Area ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ นอกจากจะวางโซฟาและชั้นวางทีวีแล้ว ด้านหลังยังมีที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานได้อีกด้วย ระเบียงบริเวณ Living Area จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน อีก 1 บานจะเป็นบาน Fix สูง 3.20 เมตร สูงกว่าเพดานห้องนิดหน่อย เพราะเพดานห้องจะดรอปลงมาประมาณ 20 ซม. เพื่อซ่อนรางม่าน พื้นที่ระเบียงจะกว้างประมาณ 55 ซม. คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ระเบียงนี่แหละครับ หันออกนอกอาคาร มี Gill เหล็กกั้นอย่างเป็นสัดส่วน เรากลับเข้ามาที่ด้านใน เดี๋ยวเข้าไปดูในห้องนอนกันต่อครับ ภายในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดู ถือว่ากำลังพอดีเลยนะครับ แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่จะจัดเตียง King Size เลยก็ยังได้นะครับ เพราะขนาดห้องค่อนข้างกว้างพอสมควร ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีได้ ส่วนระเบียงในห้องนอนขนาดจะเท่่าๆ กับระเบียงที่ Living Area เลยนะครับ อีกด้านโครงการ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าไว้หน้าทางเข้าห้องน้ำ ภายในห้องน้ำจะปูกระเบื้องลายหินอ่อน ทั้งพื้นและผนังห้อง โถสุขภัณฑ์ของ Kasch วางอยู่ทางซ้ายมือ อ่างล้างหน้าจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่สูงถึงเพดาน และมีเคาน์เตอร์วางของข้างๆ อ่างล้างหน้าด้วย ส่วน Shower Box จะอยู่ทางขวามือ แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ชุดฝักบัวของ Grohe ที่มีฟังก์ชั่นปรับระดับสายน้ำได้หลายระดับ ในห้องน้ำจะมีระเบียงให้ด้วยนะครับ พื้นที่กะทัดรัดเหมาะกับการจัดสวนเล็กๆ ไว้ชมเวลาอาบน้ำ หลังจากดูส่วนต่างๆ ของห้องมาเรียบร้อยแล้ว ครวามนี้เรามาดูภาพกว้างๆ แบบ 360 องศา กันบ้างดีกว่าครับ จะได้เห็นภาพห้องที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น   ส่วนห้องถัดมาจะเป็นของแบบ 2 Bedroom ขนาด 73.15 ตารางเมตร เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย โดยภายในห้องยังคงมีชุดครัว และสุขภัณฑ์ Built-in มาให้เช่นกัน จุดเด่นของห้อง Type นี้ก็คือจะเป็นห้องในตำแหน่งมุมของอาคาร ห้องทุกห้องจะมีระเบียงเล็กๆ สามารถเปิดประตู หน้าต่างรับลมได้ ช่วยให้อากาศภายในห้องหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น การจัดวาง Layout แบ่งพื้นที่ห้องออกเป็น 2 โซนชัดเจนคือ Living Area จะอยู่คนละด้านกับห้องนอน จึงทำให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและเป็นสัดส่วน เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยครับ แปลนห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 73.15 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเป็น Corridor ทางเดินยาวก่อนถึงทางแยกไปที่ Living Area และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ทาง 2 ด้านของทางเดินโครงการ Built-in เป็นชั้นตู้เก็บของ และชั้นวางรองเท้า โครงการตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียสวยๆ เมื่อเข้ามาถึงด้านในเราจะมาดูที่ส่วน Dining Area ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือกันก่อน บริเวณ Dining Area จะมีโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง ด้านติดผนังจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวแนวยาว ด้านล่างเป็นจุดวาง Microwave Oven ที่โครงการ Built-in มาให้ พร้อมกับตู้เก็บของ และช่องวางเครื่องซักผ้า ขึ้นมาดูข้างบนจะเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex พร้อมฮูดดูดควันของ best ส่วนซิงค์ล้างจานจะได้แบบ 2 หลุม ด้านบนจะเป็นตู้ลอยติดผนัง บริเวณ Dining Area ที่เชื่อมต่อไปถึง Living Area จะมีระเบียงให้ 2 จุดนะครับ อย่างที่เห็นเมื่อเปิดผ้าม่านออกทั้ง 2 ด้าน จะช่วยให้บริเวณนี้สว่างมากๆ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไฟได้อีกทางนึงครับ จาก Dining Area เข้ามาด้านในสุด จะเป็น Living Area ขนาดใหญ่ สามารถวางโซฟา L Shape ได้สบายๆ จากฝั่งซ้ายที่เป็น Dining Area และ Living Area เราข้ามมาดูที่ฝั่งขวาซึ่งจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง เริ่มต้นจากห้องน้ำห้องแรกกันก่อน การตกแต่งจะคล้ายๆ กับห้องน้ำของห้อง 1 ห้องนอน ที่เราดูมาก่อนหน้านี้นะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้ และการจัดวาง Layout ก็จะเหมือนๆ กัน เลยจากห้องน้ำเข้ามาด้านใน จะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียง 5 ฟุต มาให้ดูเหมือนเดิม ด้านปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้ แต่ไม่พอที่จะวางชั้นวางทีวีนะครับ ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอน คงจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน ระเบียงในห้องนอนจะเป็นประตูบานเลื่อนคู่ ความกว้างของระเบียงประมาณ 55 ซม. จากห้องนอนเล็ก เราไปดูกันต่อที่ห้อง Master Bedroom เปิดเข้ามาแล้วจะเจอห้องน้ำก่อนนะครับ โครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ที่หน้าห้องน้ำให้ดูเป็นไอเดีย ภายในห้องน้ำก็จะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน เหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆ ชุดฝักบัวของ Grohe พร้อมฟังก์ชั่นปรับระดับสายน้ำ จุดวางโต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่หน้าห้องน้ำ ก่อนเข้าไปที่เตียงนอน ขนาดห้อง Master Bedroom จะพอๆ กับห้องนอนเล็กเลยนะครับ อาจจะเพราะมีห้องน้ำในตัว จึงทำให้ถูกลดขนาดลงมา เมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไป จะมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือนิดหน่อย ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้ ต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน ด้านหัวเตียงทั้ง 2 ข้าง มีที่เหลือนิดหน่อย พอให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้ ระเบียงที่ห้องนี้ก็จะมีขนาดพอๆ กับห้องนอนเล็กเลยครับ นอกเหนือจากห้องตัวอย่างสวยๆ ที่เราเก็บภาพมาฝากทั้ง 2 ห้องนี้แล้ว ทางโครงการ Noble BE19 ยังมีห้องขนาด 35 ตารางเมตรให้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งเราก็มีภาพมาให้ดูกันคร่าวๆ ด้วยนะครับ แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 34.96 ตารางเมตร ใครที่กำลังมองหาคอนโดในย่านใจกลางเมืองอย่าง สุขุมวิท-อโศก เชื่อว่าโครงการ Noble BE19 น่าจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ดีทีเดียวเลยนะครับ เพราะมีครบครันทั้ง Facility ภายในโครงการ และแวดล้อมไปด้วยแหล่งช็อปปิ้ง ใกล้แหล่งออฟฟิศที่ทำงาน เป็นแหล่งธุรกิจสำคัญ และมีการเดินทางที่สะดวกสบายหลากหลายเส้นทาง ซึ่งเป็นที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการซื้อไว้อยู่อาศัยเองก็ดี หรือจะซื้อหาเพื่อการลงทุนก็ดีนะครับ ถ้าสนใจก็อย่างช้านะครับ ผมได้ข่าวว่าทางโครงการมียอดจองไปเยอะแล้วเหมือนกัน แต่ถ้าต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็คลิกไปดูในเว็บของทางโครงการก่อนได้นะครับ.....​ส่วนใครที่จับจองกันไปแล้ว หรือมีความคิดเห็นอื่นๆ ก็คอมเม้นท์มาพูดคุยกันบ้างนะครับ
สำรวจทำเล Noble BE19 : รีวิวคอนโด

สำรวจทำเล Noble BE19 : รีวิวคอนโด

“ถนนสุขุมวิท” ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นทำเลสุดฮ๊อตที่ทุกคนอยากจะจับจองเป็นเจ้าของคอนโดกับเค้าซักห้อง และยิ่งถ้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ด้วยก็ยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆ แต่วันนี้เราจะพาไปดูทำเลที่น่าสนใจในโซนสุขุมวิทตอนต้น บริเวณแยกอโศก ย่านเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ย่านอโศกมีจุดเด่นที่เป็น interchange ที่สำคัญมาก มีทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แถมด้วยรถไฟฟ้า Airport Link ที่อยู่ห่างออกไปอีกแค่สถานีเดียวเท่านั้น การเดินทางไปไหนมาไหนจึงสะดวกเหมาะกับวิถีคนเมืองที่สุด ในแถบนี้มีอาคารสำนักงานใหญ่ๆ เรียงรายอยู่มากมาย เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้ง สถาบันการศึกษา คอนโดที่พักอาศัยอีกหลายโครงการ จนแทบจะหาที่ดินว่างไม่ได้ หรือถ้ามีก็คงหาได้ยากเต็มที ล่าสุดโนเบิลเปิดโครงการใหม่ในซอยสุขุมวิท 19 ในชื่อ “Noble BE19” อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ และกำลังเป็นที่หมายตาของคนที่พลาดโอกาสจากโครงการ Noble Recole ในทำเลติดกันซึ่งขายหมดไปนานแล้วตั้งแต่เปิดตัว เราไปดูกันดีกว่าว่าทำเลบริเวณซอยสุขุมวิท 19 นี้มีดีอย่างไร และมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตำแหน่งของซอยสุขุมวิท 19 อยู่ใกล้แยกอโศกและเป็นซอยที่มีบทบาทสำคัญในการเดินทางในย่านนี้เลยทีเดียว ซอยสุขุมวิท 19 มีเส้นทางเชื่อมโยงสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดเลาะไปออกได้ทั้งซอยสุขุมวิท 15, 13, 11, 3 (ซอยนานา) และถนนอโศกมนตรี (สุขุมวิท 21) จึงสามารถหลีกเลี่ยงรถการจราจรบริเวณแยกอโศกไปได้พอสมควรเลยทีเดียว บริเวณปากซอยสุขุมวิท 19 มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อยู่ 2 รายด้วยกัน เด่นๆ เลยก็คงจะเป็นห้าง The Terminal 21 ที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ห้างนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาก มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็ยังมีห้างโรบินสัน โรงแรมหรู ฟิตเนส รวมถึงร้านอาหารดังๆ ให้เลือกอีกมาก นอกจากการเดินทางด้วยเส้นทางหลักอย่างถนนสุขุมวิทแล้ว ยังมีอีกหลายเส้นทางให้เลือกหลีกเลี่ยงรถติดอีกด้วยนะครับ สำหรับขาออกจากโครงการ สำหรับคนที่ใช่บริการรถไฟฟ้าก็มีให้เลือกทั้ง BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีสุขุมวิท ที่ห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร หรือจะใช้บริการ Airport Link สถานีมักกะสัน ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ส่วนคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็มีทางด่วนให้เลือกขึ้นหลายช่วง ตามแผนที่ด้านล่างนี่เลยนะครับ บรรยากาศในย่านนี้จัดว่าคึกคักมากเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน ในช่วงกลางวันก็จะคราคร่ำไปด้วยพนักงานออฟฟิศที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ มีนักเรียน นักศึกษาจากโรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ และมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังเป็นจำนวนมาก ปะปนไปกับบรรดานักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ ทั้งที่มาท่องเที่ยวและเลือกพักอยู่ในโรงแรมใกล้ๆ รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยและเลือกอาศัยอยู่ในย่านสุขุมวิทเสียเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ช่วงค่ำ บรรยากาศก็จะคึกคักไปอีกแบบ เพราะมีร้านนั่งดื่ม สถานที่ Hang Out แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ในซอยสุขุมวิท 19 เองจะมีคอนโด เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อยู่หลายโครงการเหมือนกัน แต่โครงการ Noble BE19 ก็ยังคงได้เปรียบในเรื่องความเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย พื้นที่ข้างๆ ที่ตั้งโครงการเป็นโบสถ์วัฒนา และโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย  โรงเรียนเก่าแก่ชื่อดังประจำย่านนี้ และยังมีโรงเรียนนานาชาติ NIST อีก วิวด้านนี้จึงตัดกังวลเรื่องจะมีโครงการหรือตึกอื่นๆ ขึ้นมาบังไปได้อีกนานเลย อีกเรื่องที่ทำให้ Noble BE19 ไม่ด้อยไปกว่า Noble Recole ที่อยู่บนที่ดินด้านหน้าที่ติดกันก็คือ ทางเข้าออกโครงการ 2 ด้าน ซึ่งลูกบ้านของ Noble BE19 สามารถเลือกเข้าออกได้ทั้งจากทางฝั่งซอยสุขุมวิท 19 และสุขุมวิท 15 ความได้เปรียบนี้จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านได้อีกมากเลยทีเดียวครับ เพราะมีทางเลี่ยงรถติดๆ ของถนนสุขุมวิทได้มากขึ้นนั่นเอง ด้วยเหตุผลที่พื้นที่บริเวณสุขุมวิทตอนต้นที่เป็น CBD ที่สำคัญย่านหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ทำให้โครงการ Noble BE19 มีศักยภาพในด้านการอยู่อาศัย และการลงทุนเป็นที่น่าจับตามากๆ ถึงจะดูเหมือนว่าบริเวณแถบนี้ค่อนข้างแออัดไปด้วยอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก และให้ความรู้สึกของย่านธุรกิจมากกว่าโซนที่พักอาศัย แต่พอได้ขยับเข้ามาในซอยอีกหน่อย ให้ห่างจากถนนหลักซักนิด ก็จะเห็นว่าบรรยากาศต่างกันออกไปเลยทีเดียว ในซอยยังคงความร่มรื่น และไม่ค่อยจอแจมากนัก ในขณะที่ความพร้อมในด้านต่างๆ ก็เข้าถึงได้อย่างเต็มที่ จัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์พร้อมรองรับความต้องการได้ครบถ้วน เชื่อว่าหลังจากวันนี้ไปที่ Noble BE19 ได้เปิดตัวไปอย่างเต็มรูปแบบแล้ว คงมีคนแห่เข้าไปเยี่ยมชม และจับจองกันไม่น้อยเลย.... ถ้าสนใจก็ลองคลิ๊กไปดูรายละเอียดโครงการกันก่อนได้ครับ (ใส่ลิงค์โครงการค่ะ) ส่วนตัวรีวิวพร้อมรายละเอียดของห้องตัวอย่าง ทางทีมงานจะรีบจัดตามมาให้ชมกันอย่างทันควันเลยครับ