Tag : อ่อนนุช

6 ผลลัพธ์
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทำเลพระโขนง-อ่อนนุชดีมานด์ต่างชาติพุ่ง ค่าเช่าขยับ 10% ราคารีเซล 5 ปี เพิ่ม 40%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทำเลพระโขนง-อ่อนนุชดีมานด์ต่างชาติพุ่ง ค่าเช่าขยับ 10% ราคารีเซล 5 ปี เพิ่ม 40%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยผลสำรวจตลาดเช่าที่อยู่อาศัยของต่างชาติ ในปี 2560 พบความต้องการในย่าน พระโขนง – อ่อนนุชเติบโตสูง ชี้ครึ่งปีแรกค่าเช่าขยับแล้วถึง 10% อัตราผลตอบแทนสูง 5-7% แซงหน้าย่านทองหล่อ –เอกมัย อีกทั้งตลาดรีเซลยังทำกำไรสูงกว่า โดยรูปแบบ 1 ห้องนอน ในระยะเวลา 5 ปี มีราคาขายต่อยูนิตเพิ่มขึ้นจากราคาในช่วงเปิดตัวถึง 24% นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ทำการสำรวจ ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ โดยพบว่าทำเลพระโขนง-อ่อนนุช เป็นทำเลใหม่ที่ตลาดเช่าโดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างประเทศที่มาทำงานในเมืองไทย (Expat) มีความต้องการเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยล่าสุดครึ่งปี 2560 มีชาวต่างชาติเช่าห้องชุดเพื่ออยู่อาศัยในย่านนี้สูงถึงประมาณ 70% เพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2555 ที่มีชาวต่างชาติเช่าเพียง 56% จากความต้องการที่สูงขึ้นนี้จึงทำให้คอนโดมิเนียมในย่านนี้สามารถปรับค่าเช่าขึ้นได้แบบก้าวกระโดด โดยค่าเช่ามีการขยับตัวสูงขึ้น 10% ใน 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรับขึ้นมาดังกล่าวถือว่าเป็นการปรับที่สูงกว่าโซนทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเป็นโซนที่ชาวต่างชาตินิยมเช่าคอนโดมิเนียมมากที่สุด ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 90% มีผู้เช่าคนไทยเพียงแค่ 10% โดย โซนทองหล่อ–เอกมัย มีอัตราค่าเช่าขึ้น 4% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวต่างชาติเริ่มหันไปเช่าคอนโดมิเนียมโซนพระโขนง–อ่อนนุช เพราะการเดินทางสะดวกมีรถไฟฟ้าผ่านแถมยังมีระยะทางไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ที่สำคัญราคาอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สูงมากเหมือนโซนใจกลางเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะย่านทองหล่อ–เอกมัย ซึ่งเดิมเป็นทำเลที่มีความต้องการเช่าของต่างชาติ (ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ อเมริกา จีน) นั้น มีจำนวนที่ดินในการพัฒนาอย่างจำกัด ส่งผลให้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างน้อย ทำให้ราคาเปิดตัวมีราคาแพงและส่งผลให้อัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าลดลง โดยมีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที 800 – 1,000 บาทต่อตารางเมตร หรือคิดเป็นผลตอบแทน (Rental Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 % ต่อปี หากขนาด 1 ห้องนอน (40-50 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ 35,000-55,000 บาท และรูปแบบ 2 ห้องนอน (60-80 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 60,000-80,000บาทต่อเดือน ในขณะที่โซนพื้นที่พระโขนง-อ่อนนุช มีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 500 – 600 บาทต่อตารางเมตร หรือคิดเป็นผลตอบแทน (Rental Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 5-7 %  รูปแบบห้องที่นิยมคือ ขนาด 1 ห้องนอน (30-35 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ 14,000-18,000 บาท และรูปแบบ 2 ห้องนอน (50-60 ตารางเมตร) ราคาค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 25,000-36,000บาทต่อเดือน นอกจากนี้ในส่วนของห้องที่นำกลับมาขายใหม่ (รีเซล) ในย่านพระโขนง–อ่อนนุช ก็ถือว่ามีความน่าสนใจ โดยตั้งแต่ปี 2555  เป็นต้นมา พบว่ารูปแบบ 1-2 ห้องนอนถูกนำกลับมาขายใหม่มากที่สุด โดยรูปแบบ 1 ห้องนอน มีราคาขายต่อยูนิตเพิ่มขึ้นจากราคาในช่วงเปิดตัวถึง 40% โดยปัจจุบันราคาเฉลี่ยรีเซลอยู่ที่ 122,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของห้องรีเซลย่านทองหล่อ – เอกมัย อยู่ที่ 230,000 บาทต่อตารางเมตร เมื่อเปรียบเทียบกันจะพบว่าราคารีเซลในพื้นที่พระโขนง-อ่อนนุช ถูกกว่าพื้นที่ทองหล่อ – เอกมัย ถึง 47% และยังสามารถทำกำไรได้ดีกว่าถึง 9% “ปัจจัยที่สนับสนุนให้ทำเลพระโขนง – อ่อนนุช ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ เพราะมีการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วและยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และไม่เพียงแต่ราคาที่ถูกกว่าย่านทองหล่อ–เอกมัยเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่โดดเด่นในด้านการคมนาคมที่สะดวก ทั้งถนนสายหลักเส้นสุขุมวิท ใกล้ทางขึ้นทางด่วนที่สะดวก รวมถึง แนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (BTS) ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จึงทำให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบใหม่ๆ อย่างครบครัน  ทั้งโรงเรียนนานาชาติ ร้านอาหารที่เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย แหล่งแฮงค์เอ้ทท์  และคอมมูนิตี้มอลล์ที่หลากหลาย แต่ก็ยังมีสถานที่ที่ตอบสอนองความต้องการของคนพื้นที่ เช่น ตลาดแบบดั้งเดิมในย่านพระโขนง หรือร้านอาหารเก่าแก่เจ้าดัง ทำให้ทำเลนี้มีสีสัน และสามารถเอื้อผลประโยชน์ต่อการลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมอีกด้วย และในอนาคตเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาพร้อมเปิดให้บริการ บริเวณนี้จะกลายเป็นจุดอินเตอร์เชนจ์ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเทา ปัจจัยเหล่านี้จึงสนับสนุนให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลพระโขนง – อ่อนนุช ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ” นายอนุกูล กล่าว
mori HAUS ชีวิตดีดี ที่เลือกได้ : รีวิวคอนโด

mori HAUS ชีวิตดีดี ที่เลือกได้ : รีวิวคอนโด

“สุขุมวิท” ทำเลที่ใครต่อใครต่างก็อยากจับจองมีที่พักอาศัยอยู่ในย่านนี้กับเค้าบ้าง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาห้องชุดใจกลางเมืองซักแห่ง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาที่เอื้อมถึง วันนี้เราจึงมีคอนโดมิเนียมดีๆ ในย่านอ่อนนุช-พระโขนงมาแนะนำ ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ mori HAUS ตั้งอยู่ในพื้นที่ T77 Community ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ในบริเวณระหว่างซอยสุขุมวิท 71 และซอยสุขุมวิท 77 ที่ตอนนี้หลายคนอาจจะรู้จักกันดีว่า T77 Community เปรียบเสมือนเมืองขนาดเล็กที่รวบรวมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ ทั้งโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ที่จะเปิดแคมปัสสำหรับชั้นมัธยมศึกษาในเดือนสิงหาคมปี 2560 และ Community Mall สุดชิคอย่าง HABITO ก็เข้ามาช่วยเติมเต็มให้การใช้ชีวิตของครอบครัวมีสีสันและมีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม พื้นที่ T77 Community โรงเรียนนานาชาติ Bangkok International Preparatory and Secondary School (Bangkok Prep) HABITO Winter Market Fest ถ้าพูดถึงการเดินทางมายัง mori HAUS ก็จัดว่าสะดวกมากๆ เพราะเลือกเข้าได้ทั้งจากทางฝั่งซอยสุขุมวิท 71 และซอยสุขุมวิท 77 เช่นเดียวกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ที่เลือกขึ้นได้ทั้งสถานีอ่อนนุช และสถานีพระโขนง ในขณะที่ด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอีกเช่นกัน mori HAUS มีความโดดเด่นที่เราต้องพูดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ การออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “Trees of  Life” ซึ่งให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กลางโครงการ มีการจัดวางพืชพรรณนานาชนิดให้คล้ายกับสวนป่าขนาดย่อม รอบสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ในรูปแบบทะเลสาบจำลอง ในขณะที่อาคารพักอาศัยทั้ง 2 อาคารถูกวางแบบตัว L ให้โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ทุกห้องพักได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และได้ใช้ชีวิตแบบ “Urban Slow Living” ผสานทั้งชีวิตแบบคนเมือง กับการพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ ไว้อย่างลงตัว โดยพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่น สระว่ายน้ำแบบลากูนพร้อมจากุชชี่ สระเด็ก ห้องฟิตเนส และล็อบบี้แบบ The Glass Haus เปิดรับวิวสวนสวยเต็มตา สวนขนาดใหญ่ ห้องซักผ้า ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาที่ไม่ได้เกินเอื้อมเลยล่ะครับ แถมทาง mori HAUS ยังมีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ในขนาด 35-117.5 ตร.ม. สามารถรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายมากขึ้น ถ้าหากสนใจโครงการดีๆ แบบนี้ คงต้องรีบกันหน่อยนะครับ เพราะชีวิตคุณภาพบนทำเลสุขุมวิทไม่ได้หากันง่ายๆ แล้ว สนใจอ่านอ่านรายละเอียดโครงการได้ที่นี่เลยครับ http://www.homenayoo.com/mori-haus-sukhumvit-77/
Artemis Sukhumvit 77 : รีวิวคอนโด

Artemis Sukhumvit 77 : รีวิวคอนโด

Artemis Sukhumvit 77 (อาร์ทิมิส สุขุมวิท 77) คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น สร้างเสร็จก่อนขาย ในซอยสุขุมวิท 77 ใกล้ BTS อ่อนนุช จาก ETCC Engineering รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     2,000,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    เริ่มต้น 77,000 บาท เจ้าของโครงการ   CTCC Engineering Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     673 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 288 คัน คิดเป็น 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    3 - 3 - 53 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนสุขุมวิท 77  แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 59 ค่าส่วนกลาง    40 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Pickadaily Bangkok บิ๊กซี อ่อนนุช เทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 ซีคอน สแควร์ พาราไดซ์ พาร์ค ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.58 - 35.24 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 45.07 - 53.97 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 74.11 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby ร้านค้า ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ สวนลอยฟ้า Access Card Control CCTV รปภ. 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-730-3255 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : artemis-condo.com
Areeya Mandarina สุขุมวิท 77 : รีวิวทาวน์โฮม

Areeya Mandarina สุขุมวิท 77 : รีวิวทาวน์โฮม

Areeya Mandarina สุขุมวิท 77 ทาวน์โฮม/โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น กับฟังก์ชั่นที่ปรับเปลี่ยนได้ พร้อม 4 ห้องนอนใหญ่ 5 ห้องน้ำ และห้องรับแขกขนาดใหญ่ พื้นที่จอดรถ 2-4 คันครบครันด้วยคลับเฮ้าส์หรู สระว่ายน้ำ และสวนสีเขียวรอบโครงการ จาก Areeya Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     6,600,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 4 ชั้น จำนวน 198 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     20 - 1 - 20 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Pickadaily Bangkok Mall The Emporium J avenue Paradise Park Max Value ร.พ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย ทาวน์โฮม 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ สวนสีเขียวขนาดใหญ่ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1797 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.areeya.co.th
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชี้สุขุมวิทชั้นในหนาแน่นผู้อาศัยหันซบ “อ่อนนุช” ตลาดปล่อยเช่าคึกคักแตะ 2 หมื่น บาท/เดือน ราคาขายต่อพุ่ง 30%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชี้สุขุมวิทชั้นในหนาแน่นผู้อาศัยหันซบ “อ่อนนุช” ตลาดปล่อยเช่าคึกคักแตะ 2 หมื่น บาท/เดือน ราคาขายต่อพุ่ง 30%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยผลสำรวจอสังหาฯ ย่านอ่อนนุชน่าจับตา หลังพบที่อยู่อาศัยโซนสุขุมวิทชั้นในหนาแน่นและราคาสูง ส่ง อานิสงส์การขยายตัวย่านอ่อนนุชมีความต้องการสูง เพราะทำเลใกล้ศูนย์กลางธุรกิจและใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทำให้กลุ่มลงทุนปล่อยเช่าคึกคัก ด้วยราคาค่าเช่าที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ราว 20,000 บาทต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 13% ส่วนราคาห้องชุดรีเซลปรับเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันระหว่างปี 2556 และ 2557     นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า  พื้นที่ย่านอ่อนนุช (ซ.สุขมวิท 77) เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความต้องการสูง เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ที่แยกตัวมาจากเส้นสุขุมวิท ประกอบด้วยที่พักอาศัย ร้านค้า และร้านอาหารต่างๆ มากมาย มีระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่มีสถานีอ่อนนุชเป็นที่หมายปลายทางสุดท้ายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ปัจจุบันมีส่วนต่อขยายมาจากสถานีอ่อนนุชยาวจนถึงสถานีแบริ่ง) จึงทำให้พื้นที่ย่านอ่อนนุชกลายเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญให้กับกลุ่มคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่นี้เกิดธุรกิจการค้าขนาดย่อมๆ ขึ้นอยู่โดยทั่วไป ความชุกชุมของผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ จนถึงความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้เมือง ใกล้รถไฟฟ้า เริ่มอยู่ในความสนใจของบุคคลมาเป็นระยะ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้พลิกฟื้นให้กลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจอีกแห่งที่เข้ามารองรับความหนาแน่นของพื้นที่ศูนย์กลาง ธุรกิจอย่างพื้นที่สุขุมวิท ด้วยศักยภาพของทำเลซึ่งใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน เช่น ทางพิเศษศรีรัช รามอินทรา-อาจณรงค์ ทางด่วนบูรพาวิถี อีกทั้งยังเชื่อมต่อเข้าถึงพื้นที่สุขุมวิทชั้นในได้ในระยะเวลาอันสั้นด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ทำให้เกิดคอมมูนิตี้มอลล์ขึ้นหลายแห่งในพื้นที่เพื่อรองรับกลุ่มคนที่หนาแน่นในย่านนี้ และรองรับการขยายตัวของครอบครัวที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต     ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำเลอ่อนนุช เกิดการขยายตัวของคอนโดมิเนียมค่อนข้างหนาแน่น และมีความต้องการรองรับได้ดีในระดับสูงไม่แพ้โซนสุขุมวิทชั้นใน แต่ยังมีราคาที่ต่ำกว่าสุขุมวิทชั้นใน ที่ปรับตัวขึ้นไปแล้วถึงตารางเมตรละ 300,000 บาท อีกทั้งสุขุมวิทชั้นในอุปทานเริ่มน้อยลงเพราะเริ่มเหลือพื้นที่พัฒนาอย่างจำกัด ในขณะที่โซนอ่อนนุชยังสามารถพัฒนาห้องชุดในระดับกลางที่ราคาไม่สูงจนเกินไปจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้อ่อนนุชโดดเด่นขึ้นมา เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อเข้าใกล้พื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะศูนย์กลางธุรกิจได้สะดวกมากกว่าโซนส่วนต่อขยายอื่นๆ ทำให้เกิดกระแสการพัฒนาตลาดคอนโดมิเนียมมาสักระยะหนึ่งแล้ว ที่สำคัญยังเป็นที่หมายตาของอุปสงค์ผู้ที่ทำงานในย่านธุรกิจหลักให้เข้ามาจับจองห้องชุดได้อยู่เป็นระยะๆ อีกทั้งยังรองรับกลุ่มอุปสงค์ที่ซื้อเพื่อการลงทุน เช่น การปล่อยเช่าได้เป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันราคาปล่อยเช่าคอนโดฯ ในย่านนี้ขยับตัวขึ้นไปถึง 13% ในปี 2557 (ภาพ 1) มาอยู่ที่ค่าเช่าเฉลี่ย 458.89 บาทต่อตารางเมตรหรือประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ในห้องชุดรูปแบบ 1 ห้องนอน  ซึ่งนับว่าเป็นอัตราค่าเช่าที่ถูกกว่าบริเวณใกล้เคียงกัน เช่น ทองหล่อ เอกมัย ส่วนราคารีเซล (นำกลับมาขายใหม่) ในพื้นที่นี้ราคาเพิ่มสูงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันระหว่างปี 2556 และ 2557 มาอยู่ที่ราคาขายเฉลี่ย 89,573 บาทต่อตารางเมตรในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา (ภาพ 2)   “กลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เช่น จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฯลฯ ที่ต้องการพักอาศัยอยู่โซนสุขุมวิท แต่สุขุมวิทชั้นในเริ่มมีความหนาแน่นและมีราคาสูง อ่อนนุชจึงเข้ามารองรับความต้องการในส่วนนี้ ถึงแม้ในช่วงนี้อาจจะยังเห็นโครงการใหม่ไม่มาก เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ชิงความได้เปรียบหันไปก่อสร้างโครงการแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสและส่วนต่อขยายจากเส้นอ่อนนุชก่อน แต่อย่างไรก็ตามอ่อนนุชยังคงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญ ที่ยังมีความได้เปรียบกว่าทำเลอื่นๆ ดังนั้น คาดว่าในอนาคตคอนโดฯ ในพื้นที่อ่อนนุชยังพร้อมขยายตัวได้อีกมาก อีกทั้งยังจะมีความต้องการที่หลากหลายจากการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ในพื้นที่สุขุมวิท ที่น่าจะดันอุปสงค์ให้ขยายตัวมาลงที่อ่อนนุชซึ่งเป็นพื้นที่ข้างเคียงได้มาก อีกทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันเริ่มเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น จึงมีการประเมินว่าย่านอ่อนนุช จะกลับมาคึกคัก และทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยมากขึ้นเช่นกัน” นายภูมิภักดิ์ กล่าว
Lumpini Ville อ่อนนุช พัฒนาการ : รีวิวคอนโด

Lumpini Ville อ่อนนุช พัฒนาการ : รีวิวคอนโด

ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อโครงการ LPN Ville อ่อนนุช-พัฒนาการ ยังคิดถึงคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้า BTS แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วต้องบอกว่าทำเลที่ตั้งนั้นห่างไกลจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชเอาเรื่องเลยทีเดียว เราเลยต้องหันกลับไปตั้งหลักใหม่ สำรวจแล้วก็เห็นว่ายึดเอาแนวรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีหัวหมาก น่าจะใกล้กว่าเพราะทางโครงการเองก็แว่วว่าจะเตรียมรถรับส่งไปยังสถานีหัวหมาก แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนนะครับ เอาเป็นว่าเราไปแอบดูก่อนดีกว่าว่าโครงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง การเดินทาง ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเขตชานเมืองอยู่แล้ว ถ้าจะหวังการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หรือรถสาธารณะที่สะดวกรวดเร็วจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้อยากซักหน่อย เพราะแค่สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ที่จัดว่าใกล้ที่สุดแล้ว ยังมีระยะทาง 4.5 กิโลเมตรโดยประมาณ หรือถ้าจะใช้เส้นทางซอยสุขุมวิท 77 ออกไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ก็ยังมีระยะทางคร่าวๆ มากถึง 6.5 กิโลเมตร และถึงแม้ตัวโครงการจะตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท 77 ไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยาก แต่ถ้าต้องนั่งรถสองแถว พึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือต่อรถอื่นๆ ไปขึ้นรถไฟฟ้าไม่ว่าจะสายไหนก็ต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควรเหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีปริมาณรถหนาแน่นด้วยแล้ว รับรองว่ารถติดกันจนเพลียแน่ๆ ถึงแม้ว่าทางโครงการจะบอกว่ามีบริการรถ Shutter Bus รับส่งระหว่างสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link และโครงการเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะคิดค่าบริการเท่าไหร่ และจะเพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านแค่ไหน ดังนั้นไม่ว่าจะต้องต่อรถด้วยวิธีใดเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ยังไม่เห็นความสะดวกที่มาก-น้อยกว่าหรือแตกต่างกันเท่าไหร่ นอกเสียจากว่าจะไม่หวังพึ่งพาการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็พอจะเป็นไปได้และจัดว่าสะดวกพอใช้ได้เหมือนกัน เช่น รถเมล์ รถสองแถว มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือรถแท็กซี่ ก็มีให้เลือกตามความเหมาะสม ส่วนคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก น่าจะสะดวกที่สุดในเรื่องการเดินทาง เพราะทำเลที่ตั้งที่อยู่ระหว่างถนนศรีนครินทร์ และถนนพัฒนาการ จึงทำให้มีเส้นทางเลี่ยงรถติดได้พอสมควร ทั้งเส้นทางเข้าเมืองอย่างเส้นทางหลักถนนอ่อนนุช ถนนสุขุมวิท หรือจะเลี่ยงไปใช้ถนนศรีนครินทร์ ออกบางนา แล้วค่อยขึ้นทางด่วน หรือออกถนนพัฒนาการไปทางรามคำแหง ขึ้นทางด่วนพระราม 9 หรือต่อไปลาดพร้าว ก็ทำได้เหมือนกัน ส่วนถ้าจะออกนอกเมืองก็ยังมีทั้ง ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) หรือจะออกไปทางลาดกระบัง หรือเลือกเส้นทางมอเตอร์เวย์ก็ยังได้ รวมถึงการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ยิ่งไม่ยากเข้าไปใหญ่ เพราะอยู่ห่างออกไปแค่ 11 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากเรื่องปัญหารถติดที่ยังไงก็ต้องเผชิญอยู่แล้ว ที่น่าห่วงอีกเรื่องก็เห็นจะเป็นเรื่องที่จอดรถในโครงการนั่นแหละที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ ถึงทำเลที่ตั้งของโครงการจะจัดว่าอยู่ค่อนไปทางแถบชานเมือง แต่ว่ารอบๆ โครงการถือว่าอุดมสมบูรณ์ และพลุกพล่านอยู่มากทีเดียว ทั้งหมู่บ้านเสรีอ่อนนุชที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีทั้งตลาดสด ตลาดโต้รุ่ง ร้านขายอาหาร ร้านสะดวกซื้อหลายๆ แบรนด์ แถมตลอดเส้นทางบนถนนอ่อนนุชตั้งแต่ปากซอยฝั่งสุขุมวิทก็มีห้างร้านใหญ่ๆ หลายแห่ง และคึกคักมากเพราะมีชุมชน หมู่บ้าน คอนโดทั้งเก่าและใหม่อีกเพียบ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในรัศมีรอบๆ ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน ทั้ง Seacon Square, Paradise Park, Thanya Park และ MaxValue รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสวนหลวงร.9 ก็อยู่ไม่ไกลเช่นกัน สำหรับตัวโครงการ LPN Ville อ่อนนุช-พัฒนาการนั้นต้องบอกว่าไม่ได้มีการออกแบบ หรือดีไซน์ที่ต่างจากรูปแบบเดิมๆ ของ LPN เท่าไหร่ ถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยอยู่แล้วก็น่าจะพอนึกหน้าตาตึกและโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ LPN ออก ตัวโครงการประกอบด้วยหมู่ตึกแบบ Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 7 ตึก เรียงตัวกันตามลักษณะที่ดินที่ลึกเข้าไปด้านใน นอกจากอาคาร A ที่เป็นอาคารแรกด้านหน้าโครงการที่ขนานไปตามแนวถนนแล้ว อาคารอื่นๆ ที่เหลือเป็นรูปทรงตัว L ว่าเรียงสลับฝั่งและหันหน้าเข้าหากัน และอาศัยพื้นที่ตรงกลางตกแต่งเป็นสวนหย่อม ด้วยความหนาแน่นของจำนวนยูนิตรวมกว่า 1,600 ยูนิต บนเนื้อที่ขนาด 15 ไร่เศษ ถือว่าเป็นชุมชนขนาดใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว พื้นที่ส่วนกลางถูกจัดแยกไว้ในบริเวณใกล้ๆ กับอาคาร C1 และ D1 ซึ่งจะมีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนสตามมาตรฐาน แต่ก็อย่าคาดหวังเกินไปนะครับ เพราะขนาดของส่วนกลางนั้นคับแคบเกินกว่าที่จะสามารถรองรับการใช้งานของลูกบ้านทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริงแน่ๆ รวมถึงเรื่องที่จอดรถด้วย เพราะทั้งโครงการมีที่จอดรถเพียง 560 คันเท่านั้น ซึ่งนับรวมแบบจอดซ้อนคันแล้วด้วย ทำให้ปัญหาเรื่องที่จอดรถเป็นประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว เพราะนอกจากจะต้องเผชิญปัญหารถติดแล้ว ถ้ายังต้องมีปัญหาเรื่องหาที่จอดรถไม่ได้อีกคงไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเอาซะเลย อีกเรื่องที่ไม่น่ามองข้ามก็คือ อัตราความหนาแน่นของลิฟต์โดยสารที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว ทำให้อัตราเฉลี่ยรวมของทั้งโครงการอยู่ที่ จำนวน 114 ยูนิต ต่อ ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว ซึ่งถือว่าหนาแน่นมาก แต่ถ้าเทียบกับราคาห้องที่จ่ายไปในระดับล้านต้นๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอถูไถได้ ถ้ามองในแง่ดีขึ้นมาหน่อยก็ในมุมที่อาคารพักอาศัยเป็น Low Rise สูงแค่ 8 ชั้น ถ้าจะตัดปัญหาโดยเลือกเดินขึ้นลงทางบันไดบ้างก็ยังสามารถทำได้แบบไม่ลำบากจนเกินไป พาชมห้องตัวอย่าง สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ LPN Ville อ่อนนุช-พัฒนาการ ก็ไม่ได้ต่างไปจากโครงการอื่นๆ ของ LPN ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ขนาดห้องที่มีให้เลือกก็ยังคงเริ่มต้นด้วยขนาดเล็กสุดที่ 22.5 ตร.ม. ตามมาด้วยห้องขนาด 26 ตร.ม. และ 45 ตร.ม. ในแบบห้อง combine และความสูงของฝ้าเพดานที่ 2.4 เมตร ตามมาตรฐาน LPN เลยครับ ห้องทั้งหมดขายมาแบบห้องเปล่า ของที่มีมาพร้อมห้องก็มีแค่ ตู้เสื้อผ้า Built in ในห้องนอน ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น การออกแบบ Lay out ห้องก็เป็นไปตามฟอร์มและแพทเทิร์นเดิม ซึ่งน่าจะเป็นเอกลักษณ์ของเค้าอยู่แล้ว จนแทบจะไม่ต้องพูดอะไรมากก็น่าจะนึกภาพกันออกนะครับ ตัวห้องนอนถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ห้องน้ำของห้อง 22.5 ตร.ม. จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ ในขณะที่ห้องขนาด 26 ตร.ม. ขึ้นไปจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แล้ว พื้นที่ใช้สอยในห้องมีขนาดเล็กและค่อนข้างจำกัด เปิดประตูเข้าห้องมาก็เจอพื้นที่นั่งเล่น และชั้นวางทีวีอยู่หลังประตูเลย ด้วยพื้นที่ห้องที่จำกัดทำให้การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งห้องต้องคำนวนกันให้ดีๆ ไม่งั้นอาจจะขาดๆ เกินๆ ได้ แต่ถ้าอยากตัดปัญหาในการเลือกเฟอร์นิเจอร์เอง ทางโครงการเค้าก็มีแพคเก็จราคาค่าตกแต่งห้องไว้เป็น option เสริมให้ลูกค้าพิจารณาจ่ายเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ข้อด้อยในจุดเดิมที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ในที่เหนือประตูระเบียงบริเวณห้องครัวก็ยังเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเราเห็นว่าน่าจะเป็นปัญหาตามมาในเรื่องการทำความเย็นได้ไม่ทั่วห้องและทำให้เปลืองค่าไฟครับ ห้องขนาด 22.5 ตร.ม. และ 26 ตร.ม. ยังคงใช้ Lay out เหมือนกันเป๊ะ ต่างกันแค่พื้นที่ใช้สอยภายในห้องเท่านั้น รวมไปถึงห้องขนาด 45 ตร.ม. ที่มาในลักษณะห้อง Combine มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 3-4 คนได้แบบพอดีๆ แต่ถ้าใครยังอยากเห็นห้องตัวอย่างเปรียบเทียบกับห้องเปล่าๆ แบบเต็มตา ก็สามารถแวะเข้าไปชมได้ที่สำนักงานขายเลยครับ ทางโครงการเตรียมห้องตัวอย่างที่ตกแต่งเสร็จ และห้องตัวอย่างแบบโล่งๆ โล้นๆ ให้เราได้เห็นพื้นที่จริงชัดๆ ไปเลย ความคุ้มค่าการลงทุน เนื่องจาก LPN Ville อ่อนนุช-พัฒนาการเป็นโครงการใช้ ภายใต้การบริหารงานของบริษัทมหาชน ดังนั้นตัวโครงการจึงมีความน่าเชื่อถือสูงในเรื่องการจัดการด้านต่างๆ ได้ค่อนข้างดี การเลือกที่จะอยู่อาศัยในทำเลแถบนี้ก็จัดได้ว่าเงียบสงบอยู่พอสมควร เนื่องจากบริเวณรอบๆ โครงการยังเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ จะติดขัดอยู่บ้างก็เป็นเรื่องความหนาแน่นของโครงการ และพื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และที่จอดรถที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริง รวมถึงเรื่องของการเดินทาง เพราะที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากพอสมควร อีกทั้งระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็ต้องฝ่าฟันสภาพการจราจรที่ค่อนข้างติดหนัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนของทุกวัน ในส่วนของการลงทุนไว้สำหรับปล่อยเช่านั้น อาจจะหากลุ่มคนเช่าได้ยากสักหน่อย เพราะระแวกใกล้เคียงไม่มีสำนักงาน หน่วยงานราชการ หรือสถานศึกษาอยู่เลย ดังนั้นกลุ่มคนทำงานที่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายในการปล่อยเช่าจึงมีน้อย โครงการนี้จึงน่าจะเหมาะกับคนที่กำลังมองหาห้องไว้อยู่อาศัยเองเสียมากกว่า ยิ่งถ้ามีความคุ้นเคยหรือต้องอาศัยอยู่ในแถบนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะรู้สึกสะดวกมากยิ่งขึ้น (คลิกดูบทวิเคราะห์การลงทุน)