Tag : เครื่องปรับอากาศ

4 ผลลัพธ์
คิดยังไงก็คุ้ม กับ 5 วิธีเลือกแอร์สุดคูล !!

คิดยังไงก็คุ้ม กับ 5 วิธีเลือกแอร์สุดคูล !!

ดูเหมือนว่าตอนนี้เมืองไทยเราเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เพราะอากาศภายนอกอาคารร้อนจนทำเอาหน้ามันเยิ้มได้เลยทีเดียว แต่จะว่าไปแม้ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาอากาศเมืองไทยก็ไม่ได้หนาวอย่างที่คิดไว้ หากอยากจะสัมผัสกับอากาศเย็นๆ เราก็คงต้องขึ้นไปอยู่บนภูเขาหรือบนดอยสูง แต่ถ้าอยู่ในเมืองโดยเฉพาะกรุงเทพฯ หากอยากจะสัมผัสความเย็นแบบชุ่มฉ่ำ ทำได้ดีที่สุดก็คงต้องอยู่ในบ้านเปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นชุ่มฉ่ำหัวใจเท่านั้น เครื่องปรับอากาศหรือแอร์จึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นประจำบ้านประจำห้องของคนในยุคปัจจุบัน ยิ่งตอนนี้ปัญหามลพิษนอกบ้าน ฝุ่นควันอันตรายระดับ PM 2.5 ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วไป การอยู่ในบ้านกับแอร์ที่มีประสิทธิภาพสร้างอากาศสะอาดให้ได้สูดอากาศกันแบบเต็มปอดและเย็นสัมผัสผิวกาย ถือเป็นทางเลือกที่แฮปปี้สุดๆ   เมื่อแอร์เป็นเครื่องไฟ้ฟ้าจำเป็นแบบขาดไม่ได้ แล้วเราจะมีวิธีเลือกอย่างไรให้ได้ทั้งประสิทธิภาพความคุ้มค่าไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่คุ้มค่าในประสิทธิภาพของแอร์ และในทุกๆ เรื่องให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลแบบนี้ ซึ่งเราก็มี 5 เทคนิคและวิธีการเลือกแบบสุดคูล ที่คิดยังไงก็คุ้มมาแนะนำ   1.เริ่มต้นด้วยหลักเกณฑ์พื้นฐาน (Basic Need) การเลือกแอร์สักเครื่องมาติดในบ้านหรือห้องต่างๆ สิ่งแรกคงต้องพิจารณา คือ ขนาดของห้องว่าใหญ่เล็กแค่ไหน เพื่อเลือกขนาด Btu/h ของแอร์ให้เหมาะสมกับแต่ละห้องการเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องก็ไม่ได้ต่างจากการเลือกซื้อเสื้อให้พอดีกับตัวคนใส่ เล็กไปก็คับ ใหญ่ไปก็หลวม แต่ถ้าเลือกให้พอดีกับตัวคนใส่ก็จะสบายแถมดูดีอีกต่างหาก เลือกแอร์ก็เช่นกัน เพราะถ้าเลือกได้พอดีและเหมาะสมก็จะได้ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไป ทั้งการประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานนั่นเอง ซึ่ง BTU (British Thermal Unit) คือ หน่วยบอกความสามารถในการทำความเย็นภายในห้องต่อ 1 ชั่วโมง จากการถ่ายเทหรือดึงความร้อนออกจากห้อง โดยคำนวณจากปริมาตรของห้อง ความกว้าง คูณ ความยาว คูณกับจำนวน Btu ต่อตารางเมตร ก็จะได้ขนาด Btu/h ของแอร์ที่เหมาะสม เช่น ห้องทั่วไปก็คูณด้วย 750 Btu ต่อตารางเมตร ห้องเพดานสูงเกิน 2.5 เมตร คูณด้วย 800-1,000 Btu ต่อตารางเมตร หรือห้องที่มีคนอยู่เยอะๆ ประเภทออฟฟิศ หรือร้านอาหาร ก็ต้องคูณมากหน่อยไปถึง 1,200 Btu ต่อตารางเมตร เลยทีเดียว   ตัวอย่างการคำนวณ : ห้องทั่วไปมีขนาด 3×4 เมตร = 12 ตารางเมตร ให้นำปริมาตรของห้องไปคูณกับจำนวน Btu/h ต่อตารางเมตรดังนี้ 12 ตารางเมตร x 750 Btu/ตารางเมตร = 9,000 Btu/h หมายความว่าห้องดังกล่าว ควรใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 Btu/h นั่นเอง ทั้งนี้ก่อนที่จะเลือกขนาดเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม ควรต้องพิจารณาจากลักษณะการใช้งานและประมาณความร้อนที่เกิดขึ้นจากจำนวนคนหรือแดดที่ส่องเข้ามาในห้องเพิ่มเติมด้วย แต่ไม่ต้องกังวลใจเรื่องนี้ เพราะสามารถปรึกษาพนักงานขายหรือช่างแอร์ได้ไม่ยาก แค่ให้รู้ขนาดกับสภาพห้องก็พอ   นอกจากเรื่องของขนาดแล้วประเภทของแอร์ที่จะติดตั้งก็ไม่ควรมองข้าม ซึ่งแอร์ที่นิยมติดตามบ้านเรือนหรือคอนโดมิเนียมทั่วไป ก็คงหนีไม่พ้นแอร์ติดผนัง เพราะมีความเหมาะสมทั้งรูปลักษณ์ การดีไซน์ขนาดใช้งาน แถมยังประหยัดพลังงานและดูแลง่ายด้วย นอกจากนี้ ยังมีแอร์ประเภทฝังในฝ้า แอร์แขวนใต้ฝ้า และแอร์ตู้ตั้งพื้น ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน   2.เลือกแอร์มีฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน Energy Saving เรื่องประหยัดพลังงานเป็นเกณฑ์พิจารณาจำเป็นอีกเรื่อง เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเงินในกระเป๋าของเราที่จะต้องถูกจ่ายไปใน แต่ละเดือน เพราะเมื่อเสียเงินค่าแอร์เป็นหลักหมื่นต่อปีแล้ว ต้องมามีภาระจ่ายค่าไฟอีกเดือนละหลายพันบาทก็คงไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องแน่ๆ ยิ่งตอนนี้รัฐบาลรณณงค์ให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน เพื่อให้ประเทศชาติเรามีความมั่นคงด้านพลังงานด้วยแล้ว เราจึงจำเป็นต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ซึ่งเราทำได้ไม่ยากเลย แค่เลือกแอร์ที่มีฟังก์ชั่นหรือระบบประหยัดพลังงานต่างๆ เท่านั้นเอง นอกเหนือจากการเลือกพิจารณาแอร์ฉลากเบอร์ 5   และตอนนี้แอร์หลายรุ่นก็มีฟังก์ชั่นที่ช่วยประหยัดพลังงานมาเป็นทางเลือกให้เราได้ซื้อไปใช้มากมาย อย่างเช่น ระบบ ECONOMY MODE ฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานและช่วยป้องกันไม่ให้อุณภูมิเย็นหรือร้อนจนเกินไป AUTO OFF ฟังก์ชั่นปิดการทำงานอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบว่าไม่มีความเคลื่อนไหวภายในห้องเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง เครื่องจะเข้าสู่โหมด Standard และเมื่อตรวจไม่พบความเคลื่อนไหวเกินกว่า 12 ชั่วโมง เครื่องจะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ (สามารถปรับตั้งค่าระยะเวลาการตรวจจับได้ตามความเหมาะสมของการงาน) โดยเป็นการทำงานของระบบ MOTION SENSOR ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor)   ที่จะคอยจับความเคลื่อนไหวภายในห้องและปรับอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ กรณีที่ตรวจไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ เลยในห้องภายใน 1 ชั่วโมงแรก เครื่องจะเข้าสู่โหมด Stand by ถ้ามีคนเดินเข้ามาในห้องเครื่องจะกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่หากตรวจไม่พบการเคลื่อนไหวเลยภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง เครื่องจะปิดเองโดยอัตโนมัติ (Auto off) นั่นเอง ถือเป็นลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกินความจำเป็น เป็นต้น ซึ่งถ้าเราเลือกซื้อแอร์ที่มีระบบอัจฉริยะแบบนี้ เราก็ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้มากโข แถมยังช่วยประหยัดพลังงานให้กับประเทศได้อีกทางด้วย   3.แอร์ดีต้องมีระบบทำความสะอาดและมีแผ่นฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ (CLEAN OPERATION & FILTER) สงสัยไหม ว่าทำไมต้องเลือกแอร์ที่มีระบบทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศก็ในเมื่อเราต้องล้างแอร์อยู่เป็นประจำเมื่อใช้งานไปสักพักอยู่แล้ว   คำตอบเรื่องนี้ง่ายมาก เพราะสุขภาพของเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เดี๋ยวนี้ลองป่วยต้องเข้านอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนสัก 3-4 คืนดูซิ เผลอๆ ค่ารักษาพยาบาลแพงกว่าค่าซื้อแอร์ใหม่ด้วยซ้ำ แล้วทำไมเราต้องรอให้ร่างกายย่ำแย่จากปัญหาอากาศที่ไม่ดีในบ้านด้วยล่ะ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าแอร์ที่เปิดมาใช้งาน 4-5 เดือนโดยยังไม่ถึงกำหนดเวลาล้างแอร์จะยังมีประสิทธิภาพการทำงานให้เกิดอากาศที่สะอาดภายในบ้านเราได้   จะดีกว่าไหมหากเลือกแอร์ที่มีฟังก์ช่วยเรื่องทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ รวมถึงระบบอื่นๆ ที่เสริมประสิทธิภาพให้อากาศสะอาดบริสุทธ์ให้สูดเข้าไปได้เต็มปอด อาทิ อุปกรณ์ที่มีการเคลือบสารต่อต้านเชื้อราและเชื้อโรคทำให้อากาศสะอาดและไม่มีกลิ่น ฟังก์ชั่นที่ทำให้คอยล์เย็นแห้งเพื่อยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา แผ่นฟอกอากาศที่ประกอบด้วยเอ็นไซม์ยูเรีย (Emzyme-urea) มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ และมีคุณสมบัติดับกลิ่นโดยการขจัดโมเลกุล ที่ก่อให้เกิดกลิ่น รวมถึงมีส่วนประกอบของเอ็นไซม์ธรรมชาติที่สามารถทำลายผนังของเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ   เมื่อเราอยู่นอกบ้านต้องเจอกับมลพิษ ฝุ่นควัน ระดับ PM 2.5 ซึ่งอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว การมีแอร์ที่มีประสิทธิภาพสร้างอากาศบริสุทธิ์ แถมป้องกันการเกิดเชื้อรา เชื้อโรคต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรละเลยในการพิจารณาเลือกซื้อแอร์ที่มีฟังก์ชั่นเหล่านี้ด้วย   4.ต้องตอบโจทย์ความสบาย กระจายอากาศได้ดี ติดแอร์แล้วไม่เย็นสบาย คงไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง นี่ก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญ ไม่น้อยกว่าเรื่องอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา ซึ่งฟังก์ชั่นหลายอย่างถูกพัฒนาและเติมเข้าใส่มาไว้ในแอร์ให้ผู้บริโภคได้เลือกเพื่อให้ได้สัมผัสกับความเย็นสบาย เช่น ระบบการปรับบานสวิงอัตโนมัติในแนวขึ้น-ลง และสามารถกำหนดมุมตามที่ต้องการได้ด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีความอัจฉริยะของเครื่อง เพราะสามารถจดจำตำแหน่งของบานสวิงเดิมก่อนปิดเครื่องได้ด้วย เมื่อเปิดใหม่ตำแหน่งก็จะกลับมาอยู่ที่เดิม เจ๋งสุดๆ ระบบส่งลมที่ช่วยให้กระจายลมไปได้ในระยะไกล เพราะใช้เทคโนโลยีเดียวกับใบพัดในเครื่องยนต์เจ็ต เป็นต้น   5.เลือกซื้อทั้งที เอาที่ทนทานใช้นานจนลืมเรื่องสุดท้ายที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเช่นกัน คือ เรื่องอายุการใช้งานและความทนทาน เพราะแอร์ที่ซื้อมาต่อให้ดีมีคุณสมบัติเลอเลิศหรือดีเพียงใด แต่ถ้าใช้ไปไม่เท่าไรก็พังเสียแล้ว หรือต้องซ่อมกันบ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะ มันไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ได้จ่ายเลยจริงๆ ดังนั้น จะเลือกซื้อทั้งทีต้องเลือกชนิดที่ทนทาน ชนิดเปิดเครื่องได้ต่อเนื่องนานๆ ก็ไม่ได้ส่งผลให้เครื่องต้องชำรุดเสียหาย แล้วเลือกแอร์อย่างไรให้ทน คุ้มค่า และอยู่คู่บ้านเราไปได้นาน ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ หลักเกณฑ์พิจารณาคงมีหลายองค์ประกอบ อาทิ   -แบรนด์ ชื่อเสียงของแบรนด์ก็มีส่วนสำคัญ หากเลือกพิจารณาจากแบรนด์ ซึ่งมีประวัติมายาวนาน และพัฒนาสินค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง   -เทคโนโลยีและนวัตรรมสินค้า แอร์แต่ละรุ่นต่างก็มีนวัตกรรมการพัฒนาสินค้าออกมา ให้มีมาตรฐานและความคงทนแข็งแรงแตกต่างกัน แต่แอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ต่างพัฒนาให้มีคุณสมบัติ ความคงทนแข็งแรง และผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่า สามารถเปิดต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานานๆ อย่างล่าสุด แบรนด์มิตซูบิชิ เฮฟวี่ ดิวตี้ ที่เปิดตัวสินค้าใหม่ออกมาทำตลาด มีจำนวนรุ่นให้เลือกมากมาย เช่น รุ่น Super Deluxe Inverter : ZSXS Series  ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติจำเป็นครบถ้วน แต่เพิ่มเติมคุณสมบัติเรื่องความคงทนแข็งแรง   โดยในรุ่นดังกล่าว ถืออยู่ในกลุ่ม Super Deluxe inverter ซึ่งมีคุณสบัติสำคัญที่น่าสนใจในการเลือกซื้อ อาทิ Jet Flow เทคโนโลยีการกระจายอากาศ ส่งผลให้เย็นเร็ว และส่งลมได้ไกล 15-17 เมตร Hi Power การทำงานแบบพลังสูง ช่วยให้ได้ตามอุณหภูมิตามที่ต้องการอย่างรวดเร็ว 3D auto โปรแกรมควบคุมการกระจายลม สามารถกระจายทิศทางลมได้มากถึง 6 รูปแบบในแนวตั้ง และ 8 รูปแบบในแนวนอน เพียงแค่กดปุ่มเดียวเท่านั้น   Solar Filter การป้องกันกลิ่นเหม็นและกลิ่นต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ จากแผ่นกรอง Natual Solar Filter ทำให้อากาศในห้องมีความสดชื่น   Allergen Clear Filter แผ่นฟอกอากาศมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อก่อภูมิแพ้และแบคทีเรีย สามารถทำลายเชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการทำงานของแผ่นฟอกที่ประกอบด้วยเอ็นไซม์ยูเรีย (Enzyme-urea)   Self Clean Operation ฟังก์ชั่นช่วยทำให้คอยล์เย็นแห้ง ยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา   นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ช่วยประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ทั้ง Motion Sensor ช่วยจับความเคลื่อนไหวและเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติ หรือ Auto off ที่เครื่องจะเข้าสู่โหมด Stand by หรือปิดการทำงานเมื่อไม่พบความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายในห้อง รับรองได้ว่าประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากอย่างแน่นอน   คุณสมบัติของแอร์มิตซูบิชิ เฮฟวี่ ดิวตี้ จึงยืนยันถึงประสิทธิภาพของแอร์ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย แล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา สามารถเปิดได้นาน 24 ชั่วโมง ต่อเนื่องถึง 5 ปีเลยทีเดียว  และนี่คือ 5 วิธีในการเลือกพิจารณาซื้อแอร์แบบสุดคุ้ม เพราะจะได้แอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยเติมคุณภาพชีวิต และครบทุกความต้องการเพื่อคุณภาพการอยู่อาศัย ได้แอร์ที่มีความคงทนแข็งแรงอยู่คู่บ้านไปนาน เรียกได้ว่า ถ้าใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้มาเป็นตัวเลือกซื้อแอร์คุณจะได้แอร์ที่คุ้มค่าแบบสุดคูล!!! เลยทีเดียว      
Top 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูดเงินในกระเป๋าคุณ แบบร้องไห้หนักมาก

Top 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูดเงินในกระเป๋าคุณ แบบร้องไห้หนักมาก

หลายๆ ท่าน ที่เห็นบิลค่าไฟตอนสิ้นเดือน อาจจะร้องไห้หนักมากเนื่องจากเห็นตัวเลขที่สูงปรี๊ด เรามาดู Top 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องสงสัย ที่ดูดเงินในกระเป๋าอย่างไม่ปราณี กันเลยดีกว่า   เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ อันดับ 1 "เครื่องปรับอากาศ"  เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟอันดับ 1 ภายในบ้านที่กินไฟเปลืองมาก และยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากสู่ชั้นบรรยากาศ เครื่องปรับอากาศ 1 เครื่อง จะกินไฟ ประมาณ 680 – 3,330 วัตต์ บวกกับสภาพอากาศบ้านเราเป็นเมืองร้อน ทำให้บ้านหลายหลังต้องเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำค่าไฟในบ้านเลยสูงปรี๊ดเลยทีเดียว เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวเล็กกินไฟ "เครื่องทำน้ำอุ่น"  ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้งานไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน แต่มีอัตราการกินไฟสูงไม่ใช่เล่น เครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง กินไฟประมาณ 900 – 4,800 วัตต์ อัตราการกินไฟเยอะขนาดนี้ เรามากลั้นใจอาบน้ำเย็นกันดีกว่า ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกันทุกบ้าน ตู้เย็น ขนาด 2 – 12 คิว จะกินไฟประมาณ 53 – 194 วัตต์ ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟไม่มาก แต่เพราะเราเสียบปลั๊กตู้เย็นไว้ 24 ชั่วโมง จึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูดเงินในกระเป๋าคุณออกไปมากจนแทบอยากร้องไห้ เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้ให้ดี เหตุผลที่คุณแม่บ้าน ต้องซักผ้าครั้งละมากๆ ก็เพราะ เครื่องซักผ้า 1 เครื่อง กินไฟประมาณ  250 – 2,000 วัตต์ หากซักผ้าน้อยชิ้น แต่ซักบ่อยๆ คุณแม่บ้านอาจจะกระเป๋าตังค์ฉีกไม่รู้ตัวนะ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เลี่ยงไม่ได้ "เตารีด" และก็เช่นเดียวกับการซักผ้าครั้งละมากๆ คุณแม่บ้าน ก็ควรจะรีดผ้าครั้งละมากๆ ด้วยเหมือนกัน เพราะเตารีด 1 เครื่อง จะกินไฟประมาณ 430 – 1,600 ทั้งนี้ เทคนิคการรีดผ้า การเลือกใช้อุณหภูมิให้เหมาะสมกับเนื้อผ้า ก็สามารรถช่วยคุณแม่บ้าน ประหยัดขึ้นได้นะคะ   ทีนี้เรามีวิธีคำนวณอัตราการกินไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบง่ายๆ มาฝาก เพื่อคุณจะได้รู้ว่าจะต้องเตรียมเงินค่าไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประมาณเท่าไหร่ บ้านมีหลอดไฟจำนวน 100 วัตต์ 10 หลอด เท่ากับ 100 x 10 = 1,000 วัตต์ (1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง) ถ้าเปิดไฟทั้ง 10 ดวง นาน 2 ชั่วโมง เท่ากับ 1,000 x 2 = 2,000 วัตต์ (2 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง) ดังนั้น 2 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง = 2 ยูนิต หรือ 2 หน่วย ค่าไฟฟ้าหน่วยละประมาณ 4 บาท = 2 x 4 = 8 บาท อัตราค่าไฟฟ้าปัจจุบันสำหรับบ้าน การไฟฟ้านครหลวง บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 4 วิธีกำจัดสิ่งสกปรกในเครื่องซักผ้า ถอดรหัสกระแสบ้านอัจฉริยะ วิธีใช้ปลั๊กพ่วงอย่างไรให้ปลอดภัย
เลือกซื้อแอร์อย่างไรให้คุ้มค่า เข้ากับทุกขนาดและสไตล์การแต่งห้อง

เลือกซื้อแอร์อย่างไรให้คุ้มค่า เข้ากับทุกขนาดและสไตล์การแต่งห้อง

ย่างเข้าสู่  “ฤดูร้อน” กันแล้ว อย่างที่ทราบกันดีว่าสภาพอากาศช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยนั้นทวีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศา กันเลยทีเดียว วิธีรับมือส่วนใหญ่ของใครหลายๆ คนคงเป็นการมองหาเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่เพื่อมาคลายร้อนให้กับตัวเอง แต่ปัจจุบันการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศโดยคำนึงเพียงแค่ขนาด BTU และราคานั้นไม่ได้แล้วนะคะ เพราะด้วยสภาวะแวดล้อม คุณภาพของอากาศ หรือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เราต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น   ซึ่งจะดีแค่ไหนถ้ามีเครื่องปรับอากาศสักตัวที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความเย็น ดีไซน์ คุณภาพ และราคา ที่สำคัญต้องประหยัดไฟฟ้า แน่นอนว่าผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty จึงได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ที่หลายครอบครัวกำลังมองหานั่นคือให้ทั้งความคุ้มค่า ที่มาพร้อมประสิทธิภาพทรงพลัง ด้วยนวัตกรรมการผลิตที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพของผู้ใช้ และความสะดวกสบายจากการใช้งาน วันนี้เราจึงมีข้อแนะนำในการเลือกขนาดเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้อง ที่จะทำให้วันสบายๆ ของคุณหมดกังวลเรื่องความร้อน แถมยังประหยัดและดีต่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ..   ถ้ารู้ขนาดห้องที่ชัดเจน ก็จะเลือกเครื่องปรับอากาศง่าย!   สิ่งแรกต้องรู้ในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ คือจะใช้แอร์กี่ บีทียู (BTU) โดยค่า BTU คือหน่วยบอกความสามารถในการถ่ายเทหรือดึงความร้อนออกจากห้อง และทำความเย็นภายในห้อง ซึ่งคิดหน่วยต่อชั่วโมง (BTU/h) เราจึงต้องเลือก BTU ให้เหมาะกับขนาดห้อง ในการซื้อแอร์มาติดตั้ง ซึ่งสูตรสำเร็จง่ายๆ ที่เราอยากแนะนำ คือโดยทั่วไปแล้ว เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง หรือเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก จะมีมาตรฐานเริ่มต้นที่ 9000-24,000 บีทียู ขนาด 9,000 BTU จะเหมาะกับห้องขนาด 9-12 ตารางเมตร หรือห้องนอนขนาดเล็ก 12,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 12-16 ตารางเมตร หรือห้องนอนมาตรฐานของคอนโดฯ ทั่วไป ถ้าเป็นขนาด 18,000 BTU จะเหมาะกับห้องขนาด 16-24 ตารางเมตร ซึ่งสามารถเป็นเครื่องปรับอากาศตัวเดียวของห้องสตูดิโอในคอนโดได้ และ 24,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 24-32 ตารางเมตร ใช้กับขนาดของห้องโถงในบ้าน หรือสตูดิโอขนาดใหญ่นั่นเองค่ะ   ถ้าเน้นประหยัดไฟ ต้องเลือกเครื่องปรับอากาศแบบประหยัดพลังงาน   การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีระบบ Inverter จะช่วยประหยัดไฟได้จริงนะคะ เพราะระบบนี้จะเน้นสร้างความเย็นคงที่ อุณหภูมิจะไม่สวิงไปมา จึงมีความเงียบในการใช้งาน เนื่องจากคอมเพรสเซอร์ในระบบนี้ทำงานต่อเนื่องแบบลดรอบ ซึ่งต่างจากคอมเพรสเซอร์ธรรมดาที่ทำความเย็นถึงจุดหนึ่งแล้วตัด แล้วก็เริ่มทำความเย็นใหม่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เครื่องปรับอากาศที่มีระบบ Inverter อาจจะมีราคาสูงสักหน่อย แต่ลงทุนระยาวถือว่าคุ้ม น่าสนใจไม่น้อย แต่เครื่องปรับอากาศ ระบบ inverter ในท้องตลาดนั้นมีมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อเลยะคะ แถมยังมีราคาที่สูงกว่าระบบธรรมดาอีกด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ ที่สำคัญควรคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงาน และชิ้นส่วนประกอบภายในของเครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่องที่เรียกว่า ระบบ inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) เพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดไฟที่มากกว่า คุ้มค่ากว่าในระยะยาว   ถ้าเครื่องปรับอากาศมันเก่ากินไฟ ก็อย่าฝืนใช้ต่อเลย..   หลายๆ คนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องปรับรุ่นเก่า หรือเครื่องที่ใช้งานมาอย่างหนักหน่วงยาวนานนั้นกินไฟมาก ดังนั้นแนะนำให้ตัดใจเลือกซื้อใหม่ดีกว่าค่ะ เพราะเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่นั้นมีความสามารถในการทำความเย็นได้ดี ในขณะที่กินไฟน้อย ทั้งยังมีระบบทำความเย็นต่างๆ ที่เราสามารถเลือก หรือปรับใช้ให้เหมาะกับพื้นที่ พร้อมสู้หน้าร้อนได้สบาย แถมยังมีคุณสมบัติพิเศษรวมอยู่ในตัวด้วยเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าแก่ผู้ใช้มากที่สุด เช่น SENSOR ที่จะคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของเราและเลือกโหมดการทำงาน, อุณหภูมิ หรือระดับพัดลมโดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับจำนวนคนและจำนวนคนและการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในห้อง, โหมดประหยัดพลังงาน หลีกเลี่ยงการทำให้อากาศภายในห้องเย็นจนเกินไป ด้วยการเพิ่มอุณหภูมิและลดระดับพัดลมให้ต่ำลง เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานมากที่สุด, ระบบเร่งทำความเย็น ที่จะเร่งการทำงานเมื่อเปิดเครื่องให้อุณหภูมิห้องลดลงอย่างรวดเร็ว และลมแรงทำให้เรารู้สึกเย็นสบายขึ้นเมื่อเข้าในห้อง, ฟังก์ชั่นที่ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศโดยอัตโนมัติหากไม่มีคนอยู่ในห้องเป็นเวลานาน หรือโหมดอัจฉริยะต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนการทำงานตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นใหม่ทุกข้อเลยนะคะ   Mitsubishi Heavy Duty 5 ทศวรรษในประเทศไทย 5 ปีรับประกันทุกชิ้น และเย็นเร็วทันใจ   Mitsubishi Heavy Duty คือเครื่องปรับอากาศแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีจุดแข็งในการผลิตเครื่องจักรกล เครื่องยนต์กลไก เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ทำให้เครื่องปรับอากาศของแบรนด์นี้ ขึ้นชื่อด้านประสิทธิภาพ มาตรฐานการผลิต ความทนทาน ตลอดจนมีตัวแทนจำหน่าย และบริการหลังการขายที่ครองใจและเคียงคู่คนไทยมากว่า 5 ทศวรรษ ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยีวิศวกรรมระดับโลกที่มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังคงจุดเด่น “ประหยัดทนทานทุกงานหนัก” ไม่ว่าจะเป็นขนาด หรือฟังก์ชั่นการใช้งานแบบใด เครื่องปรับอากาศแบรนด์นี้ทุกรุ่น ล้วนมีประสิทธิภาพ ประหยัด ทนทานสมชื่อ Heavy Duty ที่เป็นจุดขายอย่างยาวนาน     ความคุ้มค่าของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ ยังมีระบบ Jet Flow ที่ทำให้เครื่องปรับอากาศ ลมแรงเย็นเร็วทันใจ แถมยังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า ด้วย Inverter แท้ทั้งระบบ  และยังคงใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยงดใช้สารทำความเย็นที่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศโอโซน ตามนโยบายของบริษัท “Move the world forward” มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่ออนาคต ทั้งสังคม อุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน ที่สดใสยิ่งขึ้น     Mitsubishi Heavy Duty ช่วยประหยัดและทนทานทุกงานหนัก   เมื่อเครื่องปรับอากาศ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น Mitsubishi Heavy Duty จึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่มาช่วยให้อากาศเย็นขึ้น ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย และมาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่น โดยล่าสุดปี 2561 นี้ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) รุ่น SRK-ZSXS SERIES ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศระดับลักชัวรี่ จุดเด่นอยู่ที่ทุกรุ่นทุกขนาดครอบคลุมทุกความต้องการการใช้งาน ตั้งแต่ 9,000, 12,000, 18,000 และ 24,000 BTU ที่เหนือกว่าด้วยดีไซน์สวยงาม เหมาะแก่การติดตั้งเข้ากับขนาดและสไตล์การแต่งห้อง แถมยังได้รับรางวัล A’ Design award 2017 มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานอันสะดวกสบายและทันสมัย เช่น Motion Sensor ที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของมนุษย์อยู่ภายในห้อง, ECO OPERATION ที่ทำงานร่วมกับ Motion Sensor โดยการปรับความเหมาะสมของอุณหภูมิและระดับพัดลมให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่อยู่ในห้อง, AUTO OFF ฟังก์ชั่นที่ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศโดยอัตโนมัติหากไม่มีคนอยู่ในห้องนานกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป, PRESET OPERATION ให้ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานล่วงหน้าได้, LED BRIGHTNESS ADJUSTMENT ให้ผู้ใช้งานสามารถหรี่ไฟ LED หน้า Panel แอร์โดยเพื่อไม่ให้รบกวนการนอน เป็นต้น   เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นล่าสุดปี 2561 SRK-ZSXS SERIES ที่มี inverter แท้ทั้งระบบ  (100% Real Inverter) Design : Italian Designได้รับรางวัล A’ Design award   Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK-ZSXS SERIES ดีต่อสุขภาพมากกว่า   นอกจาก Mitsubishi Heavy Duty inverter รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง SRK-ZSXS SERIES จะมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานอันสะดวกสบายและทันสมัยแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นเอาใจคนรักสุขภาพ โดยการใช้ Filter ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ ตามฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพต่างๆ เช่น Natural Enzyme Filter ที่มีส่วนประกอบของเอ็นไซม์ธรรมชาติ สามารถป้องกันและทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ, Natural Solar Filter ช่วยกรองอากาศกำจัดกลิ่นเหม็นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ทำให้อากาศในห้องมีความสดชื่นมากยิ่งขึ้น, Anti-allergy & Activated carbon filter ช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตรายและฝุ่นละอองในอากาศ, Vitamin C Filter ช่วยทำให้อากาศที่ออกมามีวิตามิน C ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK-ZSXS SERIES ขนาด 9,000 BTU ที่ออกแบบให้มีหน้าตาเหมือนกันทุกขนาด Btu เหมาะกับห้องขนาด 9-12 ตารางเมตร ซึ่งเมื่อนำไปติดตั้งบริเวณห้องนั่งเล่นของคอนโดมิเนียมก็มีความลงตัว ทั้งขนาดของพื้นที่ และดีไซน์ที่เข้ากับทุกการตกแต่งห้องทุกๆ สไตล์   สุดท้ายนี้ คงไม่มีใครไม่อยากหายใจเอาอากาศดีๆ เข้าปอดหรอกใช่ไหมคะ ดังนั้นการเลือกเครื่องปรับอากาศสักเครื่องหนึ่งก็ถือว่าเป็นตัวช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้นได้เยอะเลยนะคะ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นใหม่ SRK-ZSXS SERIES ที่มาพร้อมระบบ inverter แท้ทั้งระบบ เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่งทั้งหมด อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการทำงานแบบครบครันทันสมัย ที่สำคัญตัวแบรนด์ยังความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการผลิตที่ดีเยี่ยม โดยทุกเครื่องที่ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศไทยนั้นได้ผ่านการตรวจรับรองคุณภาพตามมาตรฐานโลกเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นที่ QC กันทุกชิ้นส่วนตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการ Packaging สินค้าลงกล่อง ทำให้กล้ารับประกันทุกชิ้นส่วนเป็นระยะเวลา 5 ปี แถมดีไซน์ก็ยังสวยงามเข้ากับทุกสไตล์ห้อง ในขณะที่ขนาด BTU ก็มีให้เลือกมากมาย จึงมั่นใจในคุณภาพได้ว่า Mitsubishi Heavy Duty เป็นเครื่องปรับอากาศที่จะช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวคุณเสมอ   และอีกหนึ่งโปรโมชั่นสุดคุ้มเพียงซื้อเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK10CRV และ SRK13CRV รับไปเลย ลำโพง JBL Go สุดคุ้ม 1 เครื่อง ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค. 2561 เท่านั้น   ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2561 เมื่อซื้อเครื่องปรับอากาศซีรี่ย์ SRK-CVV ทุกรุ่น รับไปเลยเสื้อยืดสุดเท่ห์จาก MITSUBISHI HEAVY DUTY   หน้าร้อนนี้ไม่ว่าจะซื้อรุ่นไหน รับรองได้เลยว่าคุ้ม!!!   หมายเหตุ : เฉพาะสินค้ารุ่นที่ร่วมรายการ และห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น โปรดสอบถามข้อมูล ณ จุดขาย ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.mitsuheavythai.com     #หนีร้อนมาพึ่งโอ้ #HeavyDutyชื่อนี้ไม่ได้มีไว้เล่นๆ #MitsubishiHeavyDuty #เย็นเร็วทนทานประหยัดไฟ
เรื่องของเครื่องปรับอากาศ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

เรื่องของเครื่องปรับอากาศ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

รวมเรื่องจริงที่เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศหรือแอร์เพื่อให้เราได้รู้จักและรู้ถึงที่มามากขึ้น แอบบอกหน่อยดีกว่าว่า ถ้ายิ่งรู้จักคุณก็จะรักแอร์ของคุณมากขึ้น นับวันอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งสิ่งศักสิทธิ์ที่ไหนแล้ว ก็เห็นจะมีแต่เครื่องปรับอากาศนี่แหละที่ช่วยเราได้ ในเมื่อเครื่องปรับอากาศก้าวเข้ามาบทบาทสำคัญกับชีวิตของเราอย่างมาก วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเจ้าเครื่องปรับอากาศหรือที่เรียกติดปากว่าแอร์ ผ่าน 11 เรื่องจริงของเครื่องทำความเย็นเหล่านี้กันครับ แล้วจะมีอะไรบ้างนั้นต้องไปดู 1. ผู้ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องปรับอากาศ วิลลิส แคร์เรียร์ วิศวกรโรงพิมพ์ในสหรัฐอเมริกา เป็นคนแรกที่ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องปรับอากาศเครื่องแรกของโลก เมื่อปี ค.ศ. 1902 โดยแคร์เรียร์มองหาวิธีในการควบคุมความชื้นในอาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกแห้งเร็ว จึงเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เขาเรียกว่า "Apparatus for Treating Air" หรือเครื่องปรับอากาศ กระทั่งได้รับการจดสิทธิบัตรในปี ค.ศ. 1906   2. กลายมาเป็นเครื่องปรับอากาศปี 1950 แม้จะได้รับการจดสิทธิบัตรในปี ค.ศ. 1906 แต่เครื่องปรับอากาศก็เพิ่งจะมาเป็นรูปเป็นร่าง มีขนาดและระบบที่เล็กอย่างทุกวันนี้ เมื่อปี  ค.ศ. 1950 และออกขายสู่ท้องตลาดมากกว่า 1 ล้านเครื่อง ซึ่งปรากฎว่าขายหมดเกลี้ยง   3. ควรตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศประจำปี หากที่บ้านไหนมีเครื่องปรับอากาศชควรจะเรียกช่างเข้ามาตรวจเช็กระบบเป็นประจำทุก ๆ ปี เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศที่บ้านยังใช้งานได้ตามปกติและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจนต้องตามแก้ไขทีหลัง   4. เครื่องปรับอากาศทำงานด้วยการลดความชื้น เครื่องปรับอากาศทำงานด้วยการนำพาความชื้นหรือลดความชื้นออกจากอากาศในบริเวณนั้น ถึงแม้หลักการทำงานจะไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าเครื่องปรับความชื้น แต่เครื่องปรับอากาศก็ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและฝุ่นสกปรกได้   5. เครื่องปรับอากาศช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ นอกจากเครื่องปรับอากาศจะทำให้บ้านเย็นแล้ว ระบบการทำงานภายในยังมีคุณสมบัติช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้และเศษฝุ่นที่มากับอากาศได้อีกด้วย ถ้าหากอาการภูมิแพ้ของคุณกำเริบในช่วงที่อากาศกำลังร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ก็ลองเปิดเครื่องปรับอากาศช่วยดูสิครับ   6. หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุก 3 เดือน เครื่องปรับอากาศจะทำงานได้ดีหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับแผ่นกรองอากาศด้วยนะครับ เพราะถ้าปล่อยให้แผ่นกรองด้านในสกปรก มีฝุ่นเกาะเต็มไปหมด ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องปรับอากาศก็จะลดลงตามไปด้วย แถมเครื่องยังต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นไม่ว่าที่บ้านจะใช้เครื่องปรับอากาศชนิดไหน ก็ต้องหมั่นทำความสะอาดทุก 3 เดือนด้วยนะครับ   7. ผ้าม่านช่วยกักเก็บความเย็น ถ้าหน้าต่างของห้องหันตรงกับทางที่แสงแดดส่องเข้ามาพอดี ให้หาม่านมาติดไว้เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดดไม่ให้เข้ามาทำให้อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้น จนเครื่องปรับอากาศก็ต้องทำงานหนักตามไปด้วย   8. ยิ่งปิดช่องลมแอร์ เครื่องก็ยิ่งพังง่าย หลายคนคงไม่รู้ว่าการปิดช่องลมแอร์ด้านใดด้านหนึ่ง มันไม่ได้ช่วยปรับเปลี่ยนทิศทางแอร์ได้ตามที่ต้องการหรอกนะครับ แต่มันกลับทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม จนอาจถึงขั้นทำให้ระบบภายในเสียหายเลยก็มี  หากต้องการให้ความเย็นกระจายตัวอย่างทั่วถึง แนะนำให้เปิดพัดลมช่วยอีกแรงจะดีกว่า   9. เครื่องปรับอากาศใหญ่ก็ก็ยิ่งจ่ายค่าไฟเยอะ อย่างที่รู้กันดีว่าเครื่องปรับอากาศจะทำให้บ้านอยู่สบายขึ้น แต่ก็กินไฟโหดไม่แพ้กัน ทางที่ดีควรหันมาเลือกใช้เครื่องปรับอากาศแบบติดผนังและ BTU ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง เนื่องจากจะทำให้การใช้ไฟฟ้าน้อยลง และจะช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะเลย   10. แอร์บ้านสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1913 แอร์สำหรับติดตั้งในบ้านเครื่องแรกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1913 โดย ชาร์ลส์ เกตส์ (Charles Gates) ผู้ที่ได้ฉายาว่า “Spend-a-Million” ทายาทเจ้าของกิจการลวดหนามในสมันนั้น ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่สร้างอพาร์ทเม้นท์ติดแอร์ขึ้นมา แต่ยังไม่ทันสร้างเสร็จสมบูรณ์ดี เกตส์ก็เสียชีวิตไปในระหว่างร่วมทริปล่าสัตว์ แม้จะเป็นคนสร้างแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้งาน   11. คนอเมริกันจ่ายเงินเป็นพันล้านเพื่อแอร์ ทุกวันนี้ชาวอเมริกันต้องเสียเงินไปกับการติดตั้งแอร์บ้านเป็นจำนวนมาก ตามที่กระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า โดยรวมแล้วคนอเมริกันจะจ่ายเงินมากกว่า 22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 700 พันล้านบาทในการติดตั้งแอร์ นอกจากนี้ยอดการใช้ไฟฟ้ายังมากกว่า 183 พันล้านกิโลวัตต์ ต่อชั่วโมงในทุก ๆ ปีอีกด้วย   เป็นอย่างบอกไว้ไหมล่ะครับ ถ้าคุณยิ่งรู้จักเครื่องปรับอากาศคุณก็จะยิ่งรักและอยากดูแลเอาใจใส่ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะกว่าเจ้าเครื่องนี้จะมาช่วยให้เราไม่ต้องทุรนทุรายกับอากาศร้อนได้นั้น มันต้องมีการพัฒนามาอย่างยาวนาน ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปต่าง ๆ นานา รวมไปถึงการดูแลจากเราเป็นสำคัญ   ขอขอบคุณข้อมูลจาก home.kapook.com