Tag : เฟอร์นิเจอร์ไม้

4 ผลลัพธ์
เฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์ไทยน่าช็อป ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 (PART 2)

เฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์ไทยน่าช็อป ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 (PART 2)

สำหรับใครที่กำลังมองหาของแต่งบ้านที่มีสไตล์เป็นของตัวเองคงจะเพลิดเพลินกับเฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์ไทยน่าช็อป ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 (PART 1) จากโซน SELECTED ZONE ในงานที่เราคัดมาแนะนำกันไปแล้ว ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็เป็นอีกหนึ่งงานดีไซน์ที่เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้ดูทันสมัยในสไตล์มินิมอลที่เรียบง่าย แต่ก็แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ที่สำคัญสามารถสร้างเอกลักษณ์ที่คงความโดดเด่นได้ไม่ซ้ำใคร แม้เวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม แต่ชิ้นงานเหล่านี้ก็ยังคงงดงาม มีคุณค่าในความเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่ดูอย่างไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่จะมีเฟอร์นิเจอร์ไทยแบรนด์ไหนที่น่าสนใจอีกบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ Flo ถ้าพูดถึงสไตล์การแต่งห้องแบบมินิมอล หลายคนคงจะนึกถึงการแต่งอะไรน้อยๆ แต่ก็ดูมีอะไรขึ้นมาได้ ซึ่งคอนเซ็ปต์หลักจะเน้นที่ความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ประโยชน์ใช้สอยไม่ได้น้อยตามเลย เช่นเดียวกับ Flo (ฟโล) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความลงตัว และตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่โดยเฉพาะ ซึ่งวัสดุหลักของแบรนด์จะเป็นไม้ เฟอร์นิเจอร์ของฟโลแต่ละชิ้นได้ถูกสร้างสรรค์ออกมาอย่างมีคุณภาพ และใส่ใจในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว จนออกมาเป็นชิ้นงานที่เรียบง่ายแต่ว่าสวยงาม ดูดี อย่างที่เราได้เห็นกันนั่นเองค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.flofurniture.com หรือโทร. 088-220-8611 Niiq อีกหนึ่งแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์มินิมอลที่ได้รับรางวัลการันตีมากมายอย่าง Niiq ดีไซน์ของแบรนด์ไม่ได้คำนึงถึงแต่ความเรียบหรือเก๋เท่านั้น แต่ยังคงให้ความสำตัญในเรื่องดีเทล ฟังก์ชั่น ออฟชั่นในการใช้งานต่างๆ ด้วย ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นของแบรนด์นั้นให้ความรู้สึกที่น่าใช้งาน ดูโปร่งสบายตา และสีของไม้จะค่อนข้างนุ่มนวล ไม่เข้มจนเกินไป เรียกได้ว่าถ้าซื้อไปใช้ที่บ้านหรือคอนโดฯ ก็ช่วยเติมความอบอุ่นให้กับบรรยากาศของห้องได้ดีเลยทีเดียวค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.niiqshop.com หรือโทร. 02-002-2860-1 odst เฟอร์นิเจอร์สวยๆ ที่ได้แรงบันดาลใจและดีไซน์จากความงดงามของศิลปะและธรรมชาติอย่าง odst ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คนรักบ้านไม่ควรพลาดเลยค่ะ เพราะด้วยสไตล์มินิมอลที่ดูทันสมัยผสมผสานเข้ากับลูกเล่นให้เฟอร์นิเจอร์ดูน่าดึงดูดมากขึ้น ไอเท็มเด็ดของแบรนด์คงหนีไม่พ้นเฟอร์นิเจอร์ไม้หลากหลายโทนสี ตั้งแต่ไม้สีอ่อนที่ดูอบอุ่น ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มที่ให้อารมณ์แตกต่างกันออกไป แต่ยังคงความเรียบง่ายอย่างกลมกล่อมเอาไว้ในตัว ถ้าลองเลือกไปตกแต่งบ้านหรือคอนโดดูบ้าง คงเพิ่มความมีสไตล์ให้กับพื้นที่ธรรมดาๆ ได้ไม่น้อยเลยค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.odstmaker.com หรือโทร. 02-933-5040 Romanee เฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์มินิมอลอีกหนึ่งแบรนด์ แน่นอนว่าต้องมาในคอนเซ็ปต์ความเรียบง่าย ดีไซน์ไม่ซับซ้อน แต่จุดเด่นของ Romanee น่าจะเป็นเรื่องของความโค้งมนที่ซ่อนอยู่ในการออกแบบของเฟอร์นิเจอร์แต่ละตัว รวมถึงความง่ายต่อการใช้สอย และก็เหมาะกับชีวิตความเป็นอยู่สไตล์คนเมืองมากๆ ไม่ต้องเยอะ แต่ก็ดูมีเสน่ห์ได้ ไอเท็มที่น่าสนใจก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเซตโต๊ะรับประทานอาหาร เตียงนอนสไตล์ญี่ปุ่น โต๊ะ ตู้ และเก้าอี้ เป็นต้น เชื่อว่าใครเห็นก็คงอยากได้มาครอบครองไว้ใช้ที่บ้านแน่นอนค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : http://romaneedesign.com  หรือโทร. 02-890-5051-5 Hari Ora Hari Ora คือแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ฝีมือดีไซน์เนอร์ไทยรุ่นใหม่ ที่ตั้งใจออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทั้งเรื่องความสวยงามและการใช้งาน โดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นไม้โอ๊คเกือบทั้งหมดเพราะมีความเหนียว แข็งแรง และให้ลวดลายไม้สวยงาม โดยนำเสนอผ่านสไตล์มินิมอลและสแกนดิเนเวียที่ดูเรียบง่าย ไม่รกสายตา แต่แอบแฝงความอบอุ่นไว้ด้วยโทนสีและผิวสัมผัสจากธรรมชาติ ทั้งยังคำนึงถึงประโยชน์ของการใช้พื้นที่ให้มากที่สุดอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพและยังสวยงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคจริงๆ ค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.hariora.com หรือโทร. 080-934-9347 Chaw Cher : ฌ เฌอ แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้วล่ะ สำหรับแบรนด์นี้ Chaw Cher : ฌ เฌอ เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์โดยคนไทย แน่นอนว่าต้องมีความมินิมอลที่เรียบง่ายในตัวอยู่แล้ว แต่จุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่การนำกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาผสมผสานในเฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว ซึ่งก็มีทั้ง โต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ที่ทำมาจากไม้วอลนัทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงคงทน ส่วนเรื่องดีไซน์นั้นจะเน้นออกแบบให้ดูเรียบง่าย ใช้งานได้จริง แต่ขณะเดียวกันก็มีรายละเอียดและลูกเล่นที่สวยงามซ่อนอยู่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์เลยล่ะ ใครที่ชอบแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น คงรู้สึกดีต่อใจกับแบรนด์นี้แน่นอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.chawcher.com  หรือโทร. 095-490-3174 Many go Round แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กที่เติมเต็มช่องว่างความต้องการของคนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดพื้นที่จำกัด เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่มีขายอยู่มากมาย จึงทำให้แบรนด์ Many go Round คิดผลิตเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก โดยหยิบเอาวัสดุใกล้ตัวอย่างแม่พิมพ์เก่ามาดัดแปลงผสมผสานกับงานออกแบบจนกลายเป็นโต๊ะและเก้าอี้ Wood composite plactic ที่เติมความสนุกและพื้นที่การใช้งาน โดยดีไซน์ให้ผลิตภัณฑ์สามารถถอดประกอบง่ายทั้งยังเอื้อต่อการขนส่ง แต่ก็ยังเน้นในเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน เหมาะแก่การใช้ตกแต่งบ้านที่มีขนาดเล็กหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดได้เป็นอย่างดี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.manygoround.com  หรือโทร. 086-365-9716 Filobula แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีจุดเด่นอยู่ที่งานดีไซน์ โดยเอาความโค้งมนใส่เข้าไปในงานออกแบบเกือบทุกชิ้น ให้ความรู้สึกที่ดูเป็นกันเอง นุ่มนวล ดูอบอุ่นขึ้น และยังมีโทนสีของเนื้อไม้ให้เลือกหลากหลายเฉด อีกทั้งยังมีโทนสีของผ้าที่นำมาประกอบในเฟอร์นิเจอร์ให้เราสามารถจับ Mix & Match กันได้หลากหลายสีอีกด้วย ใครอยากให้บ้านและคอนโดฯ มีความ Unique ไม่ซ้ำใคร คงต้องเพิ่มเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ Filobula เข้าไปอยู่ใน shopping list แล้วล่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.facebook.com/Filobula/   หรือโทร. 099-421-5553 เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้จากฝีมือดีไซเนอร์ไทยที่เราคัดมาแนะนำกันใน PART 2 นี้ ใครที่ชื่นชอบงานสไตล์มินิมอลที่เรียบง่ายอยู่แล้ว ก็คงถูกใจกับรูปฟอร์มและดีไซน์ของแต่ละแบรนด์ที่มีความน่ารัก เก๋ไก๋ มากฟังก์ชั่นในตัวเอง จนกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้ใครเห็นแล้วเป็นต้องหลงรักอย่างแน่นอน หากลิสช็อปปิ้งยังไม่เต็มสามารถเข้าไปเลือกเฟอร์นิเจอร์จาก PART ก่อนหน้าได้ที่นี่เลยค่ะ สำหรับงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 นี้จัดขึ้นวันที่ 27 ตุลาคม ไปจนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 ตั้งแต่เวลา ตั้งแต่เวลา 9:30 - 21:00 น. ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
เฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์ไทยน่าช็อป ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017

เฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์ไทยน่าช็อป ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017

“เราจะไม่ลืม” งานบ้านและสวนแฟร์ปีนี้ชวนให้เราย้อนรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมราโชวาทที่ชี้แนะให้ทุกคนคำนึงถึงการรักษาความสมดุลในการใช้ชีวิต พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันระหว่างผู้คนกับธรรมชาติรอบตัว ภายในงานกลับมาพร้อมกับโซนสินค้าและงานดีไซน์ที่ชวนตื่นตาตื่นใจหลายโซน เริ่มตั้งแต่นิทรรศการและกิจกรรมที่ให้ความรู้ ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย, บ้านตัวอย่าง, บูธวัสดุก่อสร้าง, เครื่องใช้ไฟฟ้าและครัว, ของแต่งสวนไปจนถึงพรรณไม้นานาชนิด และหนึ่งในโซนที่คนรักบ้านไม่ควรพลาดก็คือ SELECTED ZONE โซนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มากร้านละลานตาเต็มไปหมด ซึ่งแต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร เราเลยอาสาพาไปช้อปปิ้งในโซนนี้กัน รับรองว่าแต่ละแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เราเลือกมานั้นสวยและดี เหมาะแก่การแต่งบ้านและคอนโดฯ อย่างแน่นอน oggi เรามาเริ่มแบรนด์แรกกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เพิ่มความอบอุ่นให้แก่บ้านอย่าง oggi ที่เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 โดยยึดคอนเซ็ปต์เรียบง่ายและซุกซนเพื่อแสดงถึงตัวตนของแบรนด์ โดยเฟอร์นิเจอร์ในร้านจะมีตั้งแต่โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ เตียงนอน ที่ทำมาจากไม้โอ๊ค ลวดลายธรรมชาติและมีดีไซน์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วเรื่องของคุณภาพก็ยังมีรางวัลการันตรีมากมายอีกด้วยค่ะ สำหรับผู้ที่สนใจ Oggi มีโชว์รูมอยู่ที่ซอยนาคนิวาส 47 ซึ่งสามารถติดต่อขอเข้าชมโชว์รูมได้ แต่ต้องทำการนัดหมายก่อนนะคะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.oggi-living.com หรือโทร. 087-700-5401 KILTT เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราตกหลุมรักในความเรียบง่ายและน่ารักจริงๆ ค่ะ สำหรับ KILTT (คิลท์) เฟอร์นิเจอร์ใช้งานภายในบ้านที่ทำจากไม้จริง ในรูปแบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และฟังก์ชั่นที่เหมาะแก่การใช้งาน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้ทุกวัยในครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งทุกขั้นตอนล้วนผ่านกระบวนการคิด ความใส่ใจในรายละเอียด ผลิตด้วยทักษะของงานช่างฝีมือผสมผสานกับเครื่องจักรในระบบอุตสาหกรรม จนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์คุณภาพที่มีความน่ารักสดใส ใครอยากแต่งบ้านในสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียบง่าย แต่ว่าครบครันทุกความต้องการ คงต้องมีครอบครองไว้สักชิ้นแล้วล่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.kilttdesign.com หรือโทร. 092-529-5465 3. Skog “ไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ แต่แสดงออกถึงตัวตนของคุณ show YOUR style with your FURNITURE” นี่คือนิยามของแบรนด์ Skog เฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติของวัสดุและดีไซน์ โดยใช้ไม้ธรรมชาติอย่างไม้แอชและไม้โอ๊คดีไซน์สวยหรู ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่สไตล์โมเดิร์นไปจนถึงสไตล์วินเทจสอดแทรกอยู่ในความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา รวมไปถึงของแต่งบ้านมากมายหลายชนิดที่รอให้ทุกคนไปจับจองเป็นเจ้าของ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.skog-home.com หรือโทร. 086-561-9000 MAHASAMUT เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไทยที่นำวัสดุที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงอย่างเหล็กมาผสมผสานดีไซน์กับงานไม้ solid จนออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็แฝงด้วยเส้นสายเฉียบคม สมกับความเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น  หากใครอยากตกแต่งบ้านให้ดูทันสมัย รับรองว่าเฟอร์นิเจอร์ของ MAHASAMUT จะต้องถูกใจคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่นิยมงานดีไซน์ที่มี detail ไม่เยอะ แต่ยังสร้างเอกลักษณ์ที่คงความโดดเด่นได้ไม่ซ้ำใคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.mahasamut.com หรือโทร. 02-811-8054 POOM แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เหมาะกับการนำไปตกแต่งในคอนโดมิเนียมและบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ดีไซน์ของแบรนด์จะผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและสแกนดิเนเวียน แต่ชื่อของสินค้าจะเป็นภาษาไทยทั้งหมด งานทุกชิ้นจึงมีเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนจดจำได้ง่ายด้วยรูปฟอร์มโค้งมน เรียบง่าย แต่ก็ยังแอบซ่อนฟังก์ชันที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ตรงใจ ในส่วนของการเลือกใช้วัสดุนั้นก็เน้นความเป็นธรรมชาติอย่าง ไม้อเมริกันแอช แอชวูด ไม้นำเข้าเนื้อแข็งจากอเมริกา ซึ่งเป็นพืชป่าปลูกโดยเฉพาะ เรียกว่าไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและยังเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ที่อยู่อาศัยไปในตัวด้วยค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.poom-home.com หรือโทร. 092-456-9555 Easy Cozy เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างมีสไตล์ เพราะสินค้าของ Easy Cozy นั้นผลิตจากไม้ยางพาราเกรดคุณภาพ ลายสวยและไม่มีตาไม้ ออกแบบมาให้ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราทั่วไป ด้วยดีไซน์ Minimalist เรียบง่ายแต่มีสไตล์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไอเดียการใช้งานเอนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายแต่มีความเก๋ไก๋อยู่ในตัว ทั้งยังเหมาะแก่การใช้สอยในบ้าน คอนโดฯ หรือแม้แต่ร้านค้า เพราะสามารถเข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นได้อย่างกลมกลืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.easycozyfurniture.com หรือโทร. 081-771-2298 นอกเหนือจากเฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์ไทยที่เรานำมาแนะนำในวันนี้แล้ว ยังมีร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้อีกหลากหลายแบรนด์ ที่เหมาะแก่การนำมาตกแต่งบ้านและคอนโดในสไตล์มินิมอล หากใครสนใจและอยากรู้ว่าจะมีแบรนด์อะไรในโซน SELECTED ZONE ที่น่าสนใจอีกบ้าง ก็สามารถติดตาม PART 2 ได้ที่นี่เลยค่ะ :))
แต่งห้องไซส์เล็กให้เป็นห้องใหญ่ง่ายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน!

แต่งห้องไซส์เล็กให้เป็นห้องใหญ่ง่ายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน!

  พูดถึงขนาดห้อง Studio ของคอนโดมิเนียม หลายคนคงนึกถึงภาพห้องที่โล่งเปล่าไม่แบ่งกั้นสัดส่วน มีเพียงห้องน้ำและเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ มากกว่าห้องขนาด 1 Bedroom ที่ใหญ่กว่าและยังแบ่งกั้นพื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอนให้เสร็จสรรพ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าราคาของไทป์แต่ละห้องย่อมต่างกัน ใครสะดวกใจและมีกำลังซื้อห้องขนาดไหนก็เลือกตามใจชอบได้เลยค่ะ แต่สำหรับคนงบน้อยที่ตัดสินใจซื้อห้อง Studio ขนาดเล็กและไม่รู้จะแต่งห้องยังไง? วันนี้ทีมงาน Review Your Living มีทางออกให้คุณแล้วค่ะ เพราะเราได้นำตัวอย่างการแต่งห้องเล็กให้ดูใหญ่ง่ายๆ ด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินให้เหมาะสมพื้นที่จากแบรนด์ Poom มาให้ดู เผื่อใครจะนำไอเดียไปปรับใช้ให้เข้ากับห้องของตัวเอง ไปดูกันเลย... และนี่คือ Reference : IDEO Q Chula – Samyan ห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร ที่ทางแบรนด์ Poom เป็นคนออกแบบให้ค่ะ เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะเห็นได้ว่าแปลนห้องก็คล้ายกับคอนโดฯ ทั่วไป คือมีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ อยู่ด้านซ้ายตรงข้ามกันก็คือห้องน้ำนั่งเอง ห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร ที่ได้รับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยและเก็บของได้อย่างเพียงพอ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดและรู้สึกโปร่งโล่งสบายในสไตล์เฟอร์นิเจอร์ไม้ของแบรนด์ Poom ที่ดูเรียบง่าย อบอุ่น น่ารักเหมาะห้องขนาดเล็ก ออกแบบผนังที่ว่างเปล่าอีกฝั่งหนึ่งให้เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันด้วยชั้นวางของ โต๊ะทำงานหรือเขียนหนังสือโดยไม่ไม่เปลืองเนื้อที่ นอกจากนี้ยังดูน่ารัก น่าใช้ อบอุ่นเข้ากับสไตล์และบรรยากาศห้องได้เป็นอย่างดี   และหากใครสงสัยว่างานบิลต์อินนั้นว่ามีข้อดีและเสียยังไง ทีมงานเราก็รวบรวมคำตอบมาให้คุณเช่นกันค่ะ... ข้อดี สามารถออกแบบและใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า จึงมีประโยชน์ในเรื่องของความสามารถในการจัดเก็บข้าวของได้มากขึ้น มีความแข็งแรง เพราะเป็นการติดตั้งโดยการยึดติดอยู่กับโครงสร้างอาคารหรือพื้นที่นั้นๆ สามารถออกแบบได้ตามใจเพียงแค่บอกความต้องการกับสถาปนิกหรือเจ้าของแบรนด์นั้นๆ อีกทั้งยังสามารถปรับแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ตรงตามความต้องการได้อีกด้วย ข้อเสีย ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากมีค่าออกแบบและต้องใช้ช่างที่ชำนาญเป็นคนติดตั้งให้ค่ะ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เนื่องจากเป็นการติดตั้งยึดติดกับพื้นที่นั้นๆ ระหว่างการติดตั้งอาจจะมีฝุ่น เศษไม้ กลิ่นทินเนอร์รบกวน ทำให้ใช้พื้นที่บริเวณนั้นไม่ได้   เป็นยังไงกันบ้างคะเมื่อได้ดูไอเดียตัวอย่างการแต่งห้องเล็ก รวมถึงข้อดีข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินกันไปแล้ว สำหรับใครที่คิดว่า “ราคาแพงแน่เลย แต่งเองดีกว่า” ขอแนะนำว่าให้ลองปรึกษาทางสถาปนิกหรือแบรนด์ Poom ดูก่อนก็ได้ค่ะ เพราะทางแบรนด์แอบกระซิบว่าไม่ได้คิดค่าออกแบบเพียงแต่ใช้มัดจำตามขนาดพื้นที่ของห้อง และจึงหักลบกับยอดซื้อภายหลัง ที่สำคัญคือลูกค้าสามารถแจ้งกำหนดงบประมาณที่มีเพื่อการออกแบบที่เหมาะสมได้ด้วยค่า สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ทาง https://www.facebook.com/Poom.living Line: @poomdesign   ขอขอบคุณรูปภาพจากแบรนด์  Poom design