Tag : เลือกห้องคอนโด

1 ผลลัพธ์
แบบไหน…ถึงเรียกว่าห้องสวย??

แบบไหน…ถึงเรียกว่าห้องสวย??

เชื่อว่าแทบจะทุกคนต้องมีคำถามนี้อยู่ในใจแน่ๆ เมื่อคิดจะเลือกซื้อคอนโดมิเนียมซักห้อง ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่เองก็ดี หรือกำลังคิดจะผันตัวเองมาเป็นนักลงทุนอสังหาฯมือใหม่ ก็ต้องเคยวนเวียนอยู่กับการหาคำตอบว่า ห้องแบบไหนถึงจะดี หรือคอนโดไหนที่เรียกว่า “สวย” แน่นอนคำว่า “สวย” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่รูปร่างหน้าตาตึก หรือการตกแต่งที่สวยงามที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้นนะคะ แต่เรากำลังหมายถึง ความสวยที่มาพร้อมกับองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อการอยู่อาศัย ความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ต้องจ่าย รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่จะทำให้ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่า “สวย” อย่างเช่นเรื่อง “ทำเลที่ตั้ง” เป็นต้น ยิ่งในภาวะที่ตลาดปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมให้เลือกเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ถ้าเอาข้อมูลมาวางเรียง เปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อยกันเป็นข้อๆ ก็คงมีคนตาลาย เมาข้อมูลกันไปบ้างไม่มากก็น้อยแหละ หรือถ้าลองไปถามเพื่อนฝูง คนใกล้ชิด หรือแม้แต่ผู้มีประสบการณ์ที่เราไว้วางใจ บางทีก็อาจจะได้คำตอบไม่ตรงกับใจ แย่กว่านั้นคอนโดที่เค้าช่วยเลือกให้อาจจะไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราเลยก็เป็นได้ เจอแบบนี้ก็ยิ่งปวดหัวไปกันใหญ่...จริงมั้ยคะ วันนี้เราจึงอยากจะแชร์ข้อมูลให้ทุกคนได้ลองเก็บไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อเลือกคอนโดมิเนียมให้ตอบโจทย์ตรงใจ แถมยังได้ห้องสวยคุ้มราคาด้วยกันด้วยค่ะ คำถามแรกๆ ที่เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนก็คือ “งบประมาณที่จ่ายไหว” ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะได้ยินตัวเลข “ประมาณ 2 ล้านบาท” ที่เป็นคำตอบในใจหลายคน อาจจะบวกลบได้นิดหน่อย อันนี้ไม่ว่ากันค่ะ อันดับต่อมาคำว่า “คอนโดติดรถไฟฟ้า” ก็จะเป็นคำที่ผุดขึ้นมาในหัวและเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ของทุกคน เพราะใครๆ ก็เชื่อว่า ถ้าได้คอนโดติดรถไฟฟ้า ยังไงซะราคาขายต่อก็ต้องดีมีกำไร ถ้าจะปล่อยเช่าก็คงทำได้ไม่ยาก และอาจจะเรียกราคาค่าเช่าได้มากขึ้นด้วย ถ้าต้องเลือก “คอนโดติดรถไฟฟ้า” ปัจจุบันก็มีทำเลแนวรถไฟฟ้าหลายสายเลยค่ะ ทั้งที่เปิดใช้กันแล้ว หรือสายที่อยู่ในแผนอนาคต ซึ่งถ้าเลือกได้ คนส่วนใหญ่ก็จะขอเลือก “แนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว” กันแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะแถบเส้นทางสายสุขุมวิทที่ใครๆ ก็รู้ว่าความเจริญขยายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็กำไรเห็นๆ!!! “ทำเลที่ตั้ง” ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ เหมือนกันนะคะ นอกจากจะต้องอยู่ติดรถไฟฟ้าแล้ว ถ้าได้ทำเลในแหล่งชุมชนเก่า ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง ใกล้แหล่งงาน รวมถึงแวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคต่างๆ ได้พร้อมมากเท่าไหร่ ก็เชื่อได้ว่าความเป็นอยู่ของเราจะสะดวกสบายมากขึ้นเท่านั้นค่ะ ยิ่งถ้าได้โครงการติดถนนใหญ่ซัก 4 เลน ก็จะยิ่งเป็นข้อได้เปรียบ เพราะโครงการคอนโดติดถนนใหญ่แบบนี้ ก็จะเป็นคอนโด High Rise อย่างแน่นอน โอกาสในการซื้อขายและปล่อยเช่าก็ย่อมดีกว่าโครงการ Low Rise ในซอยชัวร์ๆ ค่ะ และอีกหนึ่งข้อสำคัญที่เราต้องนำมาพิจารณาด้วยก็คือ “ความน่าเชื่อถือของ Developer” ถึงแม้คอนโดมิเนียมจากแบรนด์ดังๆ มักจะมีราคาขายค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์ใหม่ๆ แต่บางครั้งเราก็ต้องยอมรับว่า ราคาที่ต้องจ่ายก็แลกมาด้วยความมั่นใจ ทั้งในเรื่องของคุณภาพ การจัดการ รวมถึงเชื่อได้ว่าเจ้าของโครงการจะส่งมอบห้องให้เราได้ตามสัญญา แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายเล็กจะไม่น่าเชื่อถือนะคะ อันนี้เราแนะนำให้ลองพิจารณาจากโครงการที่ผ่านๆ มาของเค้าก่อนค่ะ บางรายเป็นเจ้าถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่เป็นอย่างดี สามารถทำคอนโดตอบโจทย์กลุ่มคนในย่านนั้นได้อย่างเหมาะสม อันนี้เราก็ควรจะเก็บไว้พิจารณานะคะ บางทีอาจจะเจ๋งกว่าแบรนด์ดังๆ ที่เพิ่งเข้ามาในพื้นที่ก็ได้ค่ะ จากหัวข้อหลักๆ 4 ข้อที่เราแนะนำไปนี้ พอจะมีชื่อคอนโดมิเนียมโครงการไหนอยู่ในใจกันบ้างมั้ยคะ... แต่ถ้ายังนึกไม่ออก วันนี้เรามีคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ได้ครบทั้ง 4 ข้อที่ว่านี้มาแนะนำกันค่ะ “Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์” เป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมที่มีคุณสมบัติตรงใจ และสามารถตอบโจทย์ได้ครบทุกข้อเชียวค่ะ แน่นอนว่าอยู่ใน “งบประมาณที่จ่ายไหว” เพราะ “Kensignton สุขุมวิท-เทพารักษ์” มีห้องในราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาทเท่านั้น!! ในขณะที่ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 30.5-31.5 ตร.ม. ก็ยังอยู่ในงบประมาณ 2 ล้านนิดๆ ค่ะ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ เป็น “คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า” อย่างแท้จริง เพราะหน้าโครงการอยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีทิพวัล) ชนิดที่เรียกว่าบันไดสถานีจ่ออยู่ปากทางกันไปเลย แถมยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีสำโรง) ซึ่งเป็นสายสำคัญที่ตรงเข้าใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วสุดๆ..... [คอนโดติดรถไฟฟ้า 2 สายในราคาเริ่มต้นที่ล้านเศษๆ... บ้าไปแล้ว!!!] ในส่วนของ “ทำเลที่ตั้ง” คอนโด Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ อยู่ติดถนนใหญ่เลยจ้าาาาา แถมเป็นถนนสายหลักขนาด 4 เลน ที่เชื่อมต่อถนนสายสำคัญอย่างถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ไว้ด้วยกันอีก การเดินทางเลยสะดวกสุดๆ ทำเลที่ตั้งโครงการก็แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แหล่งงาน สถานศึกษา สถานพยาบาลก็มีพร้อม ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างครบถ้วนค่ะ เรื่อง “ความน่าเชื่อถือของ Developer” ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าตลาดที่มีความเชี่ยวชาญในทำเลย่านสุขุมวิท-สมุทรปราการเป็นอย่างดี หลายโครงการของออริจิ้นในย่านนี้ก็ประสบความสำเร็จปิดงานขายได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงโครงการในทำเลอื่นๆ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีไม่แพ้กันเลยค่ะ ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ครบถ้วนขนาดนี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะเริ่มสนใจโครงการ “Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์” กันแล้วใช่มั้ยคะ ก่อนจะไปดูว่า “ห้องสวย” ของโครงการต้องเลือกกันยังไง เราขอพูดถึง Facility และจุดเด่นอื่นๆ ในโครงการกันซักหน่อยค่ะ เผื่อจะเห็นภาพความน่าอยู่ได้ชัดเจนมากขึ้น ถ้าใครเคยอ่านข้อมูลโครงการมาบ้างแล้ว ต้องยอมรับว่าโครงการ "Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์" ตั้งใจออกแบบส่วนกลางมาให้ลูกบ้านแบบเกินราคามากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Double Volume Lobby Lounge สไตล์ Industrial British Loft, Another Home & Co-Working Space ส่วนกลางพร้อมวิวสวน 180 องศา, สวนสวย 4 แบบ 4 สไตล์, Playground Garden, Backyard Garden, Double Skyline Roof Garden, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อม Deep Relaxing Pool & Garden, The Gym Club ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ครบครัน, สนาม Mini Golf, Sky Deck ลานนั่งเล่นเอกเขนก ฯลฯ แค่ที่ยกตัวอย่างมานี้ก็เยอะจนบรรยายแทบไม่หมดเลยค่ะ (สามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ https://goo.gl/VgW67a) ด้วยความได้เปรียบที่เป็นคอนโด High Rise ภายในโครงการเลยมีพื้นที่สำหรับจัด Facility ส่วนกลางได้อย่างเต็มที่ ยิ่งชั้นสูงๆ ก็จะยิ่งได้เปรียบเรื่องวิวสวย โปร่งโล่งแบบ 360 องศา แถมในทำเลนี้ยังได้เห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยนะคะ ดังนั้นตำแหน่งห้องที่เราควรจะเลือกสำหรับคอนโดตึกสูง ก็ควรจะเป็นห้องที่สามารถเปิดรับวิวได้เต็มที่กันหน่อยค่ะ สำหรับที่โครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ นี้ เราอยากแนะนำห้องที่อยู่ในตำแหน่งประมาณชั้น 18-27 นะคะ เพราะเป็นห้องที่อยู่ในช่วงกลางๆ ของตึก ความสูงระดับนี้เพียงพอสำหรับการเปิดรับวิวรอบๆ ที่เปิดโล่งโดยไม่มีอะไรบดบังสายตา ในขณะที่ราคาห้องในชั้นเหล่านี้ยังอยู่ในงบประมาณ อัตราการผ่อนก็ไม่หนักจนเกินไป ถ้าคิดจะลงทุนไว้ปล่อยเช่า ก็ถือว่าเป็นห้องในตำแหน่งที่ผู้เช่าให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เช่นกันค่ะ ส่วนเรื่องตำแหน่งทิศของห้องอันนี้ต้องบอกกันก่อนว่า ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวนะคะ ถ้าว่ากันตามหลักการที่ใครๆ ก็ยึดถือกันมา ก็มักจะพยายามเลี่ยงทิศตะวันตก เนื่องจากกลัวว่าแดดจะร้อน และมักจะพยายามเลือกห้องในตำแหน่งทิศใต้ และทิศเหนือก่อน เพราะคาดหวังจะได้รับลมที่เย็นสบายกว่า ในขณะที่ไม่โดนแดดจัดเท่ากับทิศตะวันออกและทิศตะวันตก.... โชคดีค่ะ ที่โครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ ทำการบ้านมาอย่างดี การจัดวางตัวอาคารอยู่ในทิศทางที่ห้องส่วนใหญ่เลี่ยงแดดช่วงบ่ายได้ ไม่ต้องรับแดดตรงๆ ห้องในตำแหน่งที่เปิดรับวิวโค้งแม่น้ำได้ดี จะเป็นห้องทางปีกด้านขวาของแปลนโซน A นะคะ (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) ห้องในโซนนี้ถ้าชั้นสูงๆ หน่อยน่าจะเห็นวิวแม่น้ำได้ชัดขึ้น บวกกับได้วิวเมืองที่สวยไม่แพ้ที่ไหนเลยค่ะ หรือถ้าชอบวิวเห็นสวนสีเขียวของโครงการ ตำแหน่งห้องในโซน A และ B ที่หันเข้าหาส่วนกลาง ก็จะสามารถมองลงมาเห็นสระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวที่บริเวณชั้น 6 ได้ค่ะ ในขณะที่ห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโซน A บนชั้นที่ 37-38 ก็จะเห็นวิว Roof Top Garden เพิ่มด้วย ตำแหน่งห้องในโซน A และ B ที่หันเข้าหาส่วนกลาง พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 6 ของโครงการ ชั้น 37-38 ของโซน A จะมองเห็น Roof Top Garden ของโซน B Roof Top Garden ของทั้ง 2 โซน ตำแหน่งห้องที่ดีที่สุด อาจจะเป็นเรื่องที่ตอบแบบเจาะจงได้ยากซักหน่อยนะคะ เพราะความชอบ ความสนใจวิวที่เห็นในแต่ละทิศมักจะแตกต่างกันออกไป โชคดีที่รอบๆ โครงการ Kensingtion สุขุมวิท-เทพารักษ์ ไม่ได้มีอาคารสูงอื่นๆ มาบังสายตา เลยมีมุมสวยๆ ให้เลือกมากหน่อย ยังไงก็ลองดูภาพถ่ายจากทิศต่างๆ ที่เราเอามาให้ดูเป็นตัวอย่างกันก่อนได้นะคะ แต่เชื่อเถอะว่าของจริงยังไงก็สวยกว่าในภาพแน่ๆ วิวด้านทิศเหนือ วิวด้านทิศตะวันออก วิวด้านทิศตะวันตก วิวด้านทิศใต้ มาถึงในส่วนของแปลนห้องกันบ้างค่ะ ที่โครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบนะคะ ซึ่งห้องแต่ละแบบก็จะตอบโจทย์ความต้องการที่ต่างกันออกไปค่ะ โดยส่วนตัวแล้วถ้าหากจะซื้อไว้อยู่อาศัยเอง และมีกำลังมากพอ เราอยากแนะนำห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 30.50-31.50 ตร.ม. ค่ะ เพราะเป็นแบบห้องที่เป็นเอกลักษณ์ของออริจิ้นเลยก็ว่าได้ ด้วยเนื้อที่ใช้สอยที่กว้างขวาง เหมาะกับการอยู่อาศัย ภายในห้องมีพื้นที่ห้องเล็กที่เพิ่มขึ้นมา เป็นเหมือนห้องอเนกประสงค์ ที่เราสามารถตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ ห้องแต่งตัว หรือจะใช้เป็นห้องนอนเล็กก็ยังได้ จึงน่าจะให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านมากขึ้นด้วยค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 30.5-31.5 ตารางเมตร ส่วนห้อง Studio 1 Bedroom ขนาด 21 ตร.ม. น่าจะตอบโจทย์สำหรับคนที่มองหาคอนโดไว้สำหรับลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต เพราะต้นทุนในการผ่อนแบงค์ไม่สูงมาก มีโอกาสทำกำไรได้พอสมควร สัดส่วนของห้องเองก็จัดออกมาได้เหมาะสมค่ะ ประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ห้องโปร่งไม่อึดอัดถึงแม้จะมีเนื้อที่ไม่มากนัก แต่ก็น่าอยู่ไม่แพ้ห้องอื่นเลยค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 21 ตารางเมตร ก่อนหน้านี้ทาง ออริจิ้น เคยจัดงาน VIP Pre-Sale Day กันไปแล้วเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งโครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีคนให้ความสนใจเข้าคิวจับจองห้องกันอย่างล้นหลาม เกินความคาดหมายกันเลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่พลาดโอกาสแรกไปก็อย่าเพิ่งเสียใจนะคะ เพราะทางออริจิ้นกำลังเตรียมจัดงาน Grand Opening อีกครั้งในวันที่ 19-20 สิงหาคมที่จะถึงนี้ เพียง 2 วันเท่านั้น ที่สำนักงานขาย กับราคาและโปรโมชั่นพิเศษ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,990 บาท และส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท เตรียมติดตามข่าวกันได้เลยนะคะ.. ส่วนใครที่สนใจหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ และลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ http://kensington.origin.co.th/thepharak/ หรือโทรสอบถามได้ที่ 02 030 0000 และสามารถอ่านรีวิวโครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ ฉบับเต็มของเราได้ที่ https://goo.gl/VgW67a