Tag : เอพี

9 ผลลัพธ์
‘เอพี ไทยแลนด์’ สานต่อวิสัยทัศน์ ‘AP WORLD’ เปิดตัวแนวคิด ‘PROJECT GROW’

‘เอพี ไทยแลนด์’ สานต่อวิสัยทัศน์ ‘AP WORLD’ เปิดตัวแนวคิด ‘PROJECT GROW’

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าและผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัย สานต่อวิสัยทัศน์ ‘AP WORLD’ ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างพิมพ์เขียวใหม่ให้กับเมืองที่สมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศ (Eco System) ล่าสุดเปิดตัวแนวคิด ‘PROJECT GROW’ ปรัชญาแห่งการสร้างมาสเตอร์แพลนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ผ่านการออกแบบที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่มีสุขภาพกายและใจที่ดี การพัฒนาพื้นที่สีเขียว การรักษาสิ่งแวดล้อม และการเอื้อประโยชน์สู่สังคมรอบข้างอย่างสูงสุด นำร่องแนวคิดการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในเมืองด้วยการอนุรักษ์ต้นไม้เก่าอายุกว่า 50 ปีบนที่ดินพัฒนาโครงการ ‘RHYTHM EKKAMAI ESTATE’ เพื่อเติมเต็มคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนและสังคมเมือง เพราะต้นไม้เปรียบเสมือนประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตที่เป็นตัวแทนความทรงจำที่ดี และความผูกพันกับคนในชุมชน พร้อมจับมือพันธมิตรกลุ่มบิ๊กทรีส์ และเครือข่าย ต้นไม้ในเมืองต่อยอดจุดประกายความตระหนักและให้ความรู้ในการดูแลต้นไม้แก่คนรุ่นใหม่ ในงาน ‘AP GROW DAY’ 30 มีนาคมนี้ที่สวนรถไฟ   นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพในการผลิตออกซิเจนลดอุณหภูมิ และฟอกอากาศได้ดีจะมีรูปทรงของต้นที่แผ่ร่มเงาในพื้นที่บริเวณกว้าง และมีใบเล็กละเอียด จึงไม่น่าแปลกใจที่ต้นจามจุรีจะได้รับการจัดอันดับให้เป็นต้นไม้ที่ให้ประโยชน์ในด้านสิ่งแวดล้อมมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ในการอนุรักษ์ต้นไม้ประวัติศาสตร์ทั้ง 3 ต้นในที่ดินโครงการ RHYTHM EKKAMAI ESTATE ถือว่าเป็นความท้าทาย เพราะการเคลื่อนย้ายต้นไม้ใหญ่ ไปพร้อมๆ กับการจัดสรรพื้นที่ในโครงการให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มพื้นที่ และต้องทำอย่างถูกวิธี เพื่อให้ต้นไม้ทุกต้นรอด และสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน”   “จากวิสัยทัศน์ ‘AP WORLD’ ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านการสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้าที่สมบูรณ์ ไปด้วยระบบนิเวศ (Eco System) นั้น ในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สิ่งที่เอพีดำเนินงานยังคงเกี่ยว เนื่องต่อการพัฒนาเมือง และคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างมาก เราจึงไม่สามารถให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องของการออกแบบก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ‘PROJECT GROW’ จึงถือเป็นปรัชญาที่ทีมเอพีจะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างมาสเตอร์แพลนในการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เคียงคู่ไปกับการออกแบบพื้นที่ภายในโครงการ การให้ความสำคัญกับวิธีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง   การเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสภาพแวดล้อม ตลอดจนการร่วมสร้างสังคมให้ตระหนักรู้ โดยเริ่มต้นจากเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด ซึ่งสำหรับเอพีแล้วเริ่มต้นด้วยการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ต้องทำควบคู่ไปกับรายละเอียดอื่นๆ ในการพัฒนาโครงการ สำหรับคอนโดมิเนียม RHYTHM EKKAMAI ESTATE ที่เป็นโครงการนำร่องภายใต้แนวคิด ‘PROJECT GROW’ ปรัชญาแห่งการสร้างมาสเตอร์แพลนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนนั้น เอพีมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะรักษาให้ต้นจามจุรีใหญ่ทั้ง 3 ต้น อยู่คู่กับชุมชนย่านเอกมัยตราบนานเท่านาน ในขณะเดียวกัน เรายังคงมองถึงการจัดสรรให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วภายในโครงการสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด เราจึงตัดสินใจย้ายต้นจามจุรี ที่แต่ละต้นมีขนาดสูงประมาณ 20 เมตร หรือเท่าตึกสูง 8 ชั้น โดยมีคุณธราดล ทันด่วน หรือครูต้อรุกขกรผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่ในงานภูมิทัศน์เมืองมาเป็นที่ปรึกษาและดูแลการย้ายต้นไม้ในครั้งนี้ให้สำเร็จและเติบโตต่อไป” นายวิทการกล่าว   “ถ้าเราดูจากภายนอกเราก็เห็นว่าต้นไม้น่าจะมีสุขภาพดี แต่เมื่อทีมรุกขกรได้ขุดลงไป กลับพบปัญหาเกี่ยวกับรากที่ติดอยู่กับแผ่นปูนใต้ดินทำให้ทีมงานต้องแก้ปัญหาเรื่องรากก่อนเริ่มเคลื่อนย้ายไปปลูกในตำแหน่งใหม่ที่วางไว้ ส่วนอีกต้นหนึ่งพบปัญหาลำต้นเอียงก็ต้องปรับลำต้นให้ตรง เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับสิ่งปลูกสร้างในอนาคต ความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพของทุกๆ ฝ่ายจะช่วยสานต่อให้ความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิต ที่ดีให้กับสังคมเมืองภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ ‘AP WORLD’ ประสบความสำเร็จได้ในเร็ววัน” คุณวิทการ กล่าวสรุป   ล่าสุดเอพี ไทยแลนด์ เตรียมต่อยอด จัดงาน ‘AP GROW DAY’ เพื่อจุดประกายให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ต้นไม้ และสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง มุ่งให้คนกับต้นไม้ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยจับมือกับภาครัฐ, กลุ่มบิ๊กทรีส์, เครือข่ายต้นไม้ในเมือง เพื่อขยายแนวร่วมรักษ์ต้นไม้ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ ภารกิจพลิกฟื้นคืนพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองร่วมกับ ‘แพตตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา’ ดารานักแสดงคนดัง ตัวแทนคนรุ่นใหม่ครั้งแรกกับการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาติในมุมมองที่สูงกว่า 25 เมตร กับกิจกรรม Tree Climbing ปีนต้นไม้ใต้ร่มเงาจามจุรียักษ์อายุกว่า 50 ปี และกิจกรรม Zip Line ผจญภัยผ่านต้นไม้ใหญ่นานาพันธ์กับความยาวกว่า 50 เมตร รวมถึงการให้ความรู้เรื่องต้นไม้ การตรวจสุขภาพต้นไม้ จากรุกขกรมืออาชีพ ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการรับฟังดนตรีในสวนกับ บอย ตรัย ภูมิรัตน และรับพันธุ์ไม้พิเศษกลับบ้าน งาน ‘AP GROW DAY’ จะจัดขึ้นในวันที่ 30 มีนาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 18.00 น. ที่สวนรถไฟ กรุงเทพฯ โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ www.APprojectgrow.com (รับจำนวนจำกัด)          
‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิดตัว 3 ธุรกิจใหม่ เตรียมเปิด 39 โครงการ

‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิดตัว 3 ธุรกิจใหม่ เตรียมเปิด 39 โครงการ

‘เอพี ไทยแลนด์’ ปิดปี ’61 คาดโตสวนกระแสกว่า 30% เติบโตเป็นประวัติการณ์ ขึ้นแท่นอันดับ 2 ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายได้สูงสุด ดินหน้าเต็มสูบ ชูวิสัยทัศน์และพันธกิจยิ่งใหญ่ พัฒนาระบบนิเวศใหม่ นำเทคโนโลยีเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตยุคใหม่ ทำวิสัยทัศน์ ‘มอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้คนในสังคม’   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนวัตกรรมการอยู่อาศัยของประเทศไทย ประกาศความสำเร็จคาดปิดปี 2561 ธุรกิจโดยรวมโตสวนกระแส 30% ขึ้นแท่นอันดับ 2 ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายได้สูงสุด เดินหน้าประกาศวิสัยทัศน์ครั้งใหญ่ นำองค์กรก้าวสู่ศักราชใหม่ที่มากกว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเป็นรายแรกที่ริเริ่มสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้แนวคิด ‘AP World, A New Vision of Quality of Life’ สร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า พร้อมเปิดตัว 3 ธุรกิจใหม่นอกธุรกิจอสังหาฯ อย่างสมภาคภูมิ ได้แก่ SEAC (เอสอีเอซี) VAARI (วาริ) และ CLAYMORE (เคลย์มอร์) มุ่งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกและการเติบโตที่ยั่งยืน ตั้งเป้าภายในปี 2565 ทั้ง 3 ภาคธุรกิจใหม่จะมีส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมของเอพีให้เติบโตแบบก้าวกระโดดแตะหลัก 60,000 ล้านบาท   นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า “ในปี 2561  ที่ผ่านมาธุรกิจโดยรวมของเอพี ไทยแลนด์เติบโตมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เราคาดการณ์ว่า ในปี 2561 บริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้รวมเติบโตขึ้นประมาณ 30% จากปีก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เอพี ไทยแลนด์ ขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้สูงสุดของเมืองไทย การเติบโตแบบสวนกระแสของเอพีเป็นผลลัพธ์ของความสำเร็จในทุกธุรกิจที่เราดำเนินกิจการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในสินค้าทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ต่างได้รับ    การตอบรับที่ดีจากตลาด สะท้อนได้ทั้งจากยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี”   นอกจากนี้ ธุรกิจอื่นๆ ในเครือเอพี ทั้ง ธุรกิจ Property Agent ภายใต้ชื่อ ‘BC (บีซี)’ ที่ให้บริการรับฝากขาย ฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ และไม่ได้จำกัดอยู่ที่สินค้าของเอพีเพียงอย่างเดียว มีผลการดำเนินงานที่เติบโตแบบก้าวกระโดด มีอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อ-ขาย-เช่า ผ่าน บีซี รวมมูลค่าสูงกว่า 12,000 ล้านบาทก้าวขึ้นเป็น Property Agent อันดับ 1 ของประเทศอย่างเต็มภาคภูมิ และธุรกิจ Property Management ภายใต้ชื่อ ‘SMART (สมาร์ท)’ เป็นธุรกิจบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ส่งผลให้วันนี้ สมาร์ทได้รับความไว้วางใจให้เข้าบริหารจัดการคุณภาพชีวิตในโครงการต่างๆ ที่ไม่ใช่แต่เฉพาะเครือเอพีกว่า 55,000 ครอบครัว ในกว่า 200 โครงการ ซึ่งก้าวต่อไปทั้งสองบริษัท ‘บีซีและสมาร์ท’ จะยังคงเดินหน้าขยายขอบเขตการให้บริการเพื่อเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง   ทั้งนี้ ทั้ง 3 ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเอพี ไทยแลนด์ในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในทุกช่วงชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์และครบวงจรที่สุด (Space Expert for Living Satisfaction) ซึ่งก้าวต่อไปจากนี้ เอพี ไทยแลนด์จะไม่หยุดอยู่เพียงภาคธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่จะก้าวไปสู่ศักราชใหม่ ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘AP World, A New Vision of Quality of Life’ วิสัยทัศน์ในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ซึ่งจะสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศ (Eco System) ที่เอพีพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นรายแรกที่ริเริ่มสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้ง ยังเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน บริษัทฯ จึงพร้อมเปิดตัว 3 ภาคธุรกิจใหม่ (Disruptive Business) ได้แก่ 1) VAARI ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการบริหารจัดการคุณภาพชีวิต 2) CLAYMORE ดำเนินธุรกิจสร้างและผลักดันนวัตกรรมดีไซน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบ และ 3) SEAC ดำเนินธุรกิจในการดิสรัปวิธีการเรียนรู้ของคนในองค์กรและคน ในสังคมด้วยกระบวนการใหม่ๆ  ผ่านความร่วมมือจากสถาบันระดับโลก   ทั้ง 3 ธุรกิจใหม่จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยเสริมวิสัยทัศน์ในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประสบความสำเร็จ เคียงคู่ไปกับ Core Business คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริษัทในเครือ ที่จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าภายในปี 2565 สามภาคธุรกิจใหม่นี้จะมีส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมของเอพีให้เติบโตแบบก้าวกระโดดแตะหลัก 60,000 ล้านบาท      นายอนุพงษ์กล่าวว่า “หนทางในการไปถึงวิสัยทัศน์ในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีนั้น มีความท้าทายหลัก   3 ประการที่เราจะต้องตระหนัก ต้องบริหารจัดการ และต้องเตรียมการทุกอย่างให้พร้อม นั่นคือ 1. โลกที่กำลังดิสรัปและทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คำถาม คือ เราจะนำ Technology มาช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นได้อย่างไร 2. เราจะรู้จักและพัฒนานวัตกรรมให้สอดคล้องและตอบรับกับความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบที่แตกต่างกันของคนในสังคมได้อย่างไร 3. เราจะพัฒนาความรู้ ความสามารถของ ‘คนในองค์กรและคนในสังคม’ ให้ก้าวทันกระแสดิสรัปชั่นได้อย่างไร ดังนั้นการขยายองค์กรสู่ 3 ภาคธุรกิจใหม่ล่าสุดของเรา จึงช่วยตอบโจทย์และเติมเต็มให้วิสัยทัศน์ในการมอบคุณภาพชีวิตแก่คนในสังคมให้เป็นผลสำเร็จ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเอพีแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”   บริษัทใหม่ทั้ง 3 มีลักษณะการดำเนินธุรกิจ และเป้าหมายสำคัญแตกต่างกัน ดังนี้ บริษัท วาริ จำกัด: ดำเนินธุรกิจสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการบริหารจัดการคุณภาพชีวิต (LIFE MANAGEMENT ECOSYSTEM) ที่จะมาจุดประกายคุณภาพชีวิตในวันข้างหน้าให้มีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์สังคมแห่งการอยู่อาศัยในอุดมคติให้เกิดขึ้น ลดทอนความซ้ำซ้อนที่เป็น Pain ของผู้อยู่อาศัยในวันนี้ และมอบประสบการณ์ใหม่ที่ยกระดับรูปแบบการดำเนินชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ผ่านนวัตกรรมดีไซน์ที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของคนในสังคม บริษัท เคลย์มอร์ จำกัด: ดำเนินธุรกิจการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบของคนในสังคม ผ่านการสร้างทีมนวัตกรรมที่มีจิตวิญญาณในการเป็นผู้ประกอบการขึ้นภายในองค์กร มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการเป็น Innovation Lab สร้างนวัตกรรมโดยใช้กระบวนการ Stanford Design Thinking ต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดิมไปสู่ธุรกิจใหม่ โดยมีเป้าหมายให้นวัตกรรมที่คิดค้น จับต้องได้ และใช้งานได้จริง SEAC (เอสอีเอซี): ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ดำเนินธุรกิจในการดิสรัปวิธีการเรียนรู้ของคนในองค์กรและคนในสังคมด้วยกระบวนการใหม่ๆ มุ่งพัฒนาความพร้อม ความสามารถของคนให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในวันนี้และอนาคต โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันระดับโลก อาทิ Stanford University ที่มีมุมมองในเรื่องการเรียนรู้ตรงกัน เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถและกระบวนการคิดของผู้นำในเมืองไทยและระดับภูมิภาคให้มีศักยภาพทัดเทียมผู้นำระดับโลก   “การรุกขึ้นมาปรับวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับเปลี่ยนโฉมหน้าของเอพี ไทยแลนด์ ไปสู่การเป็นบริษัทที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมแทนที่จะเป็นเพียงผู้ส่งมอบที่อยู่อาศัยเพียงเท่านั้นซึ่งสุดท้ายแล้วนวัตกรรมหรือระบบนิเวศต่างๆ ที่ถูกพัฒนาจะเปิดกว้างให้บริการกับทุกคนไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นลูกค้าเอพีเท่านั้น โดยเราคาดหวังว่า ดอกผลที่เกิดขึ้นจากการขยายภาคธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ AP World นี้ จะมีส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมของเอพี ไทยแลนด์ให้เติบโตแบบดับเบิ้ล หรือตั้งเป้าสร้างรายได้รวมแตะหลัก 60,000 ล้านบาทภายในปี 2565” นายอนุพงษ์ กล่าว   นอกจากความสำเร็จด้านผลประกอบการณ์แล้ว ในปี 2561 ที่ผ่านมายังเป็นเกียรติยศของเอพี ไทยแลนด์ จากการคว้ารางวัลทรงเกียรติ ทั้งจากในประเทศและระดับนานาชาติ มาครองได้มากถึง 14 รางวัล อาทิ ‘บริษัทผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชียประจำปี 2018’ จากเวที The Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards (ACES) ประเทศสิงคโปร์, ‘ที่สุดของบริษัทพัฒนาคอนโดมิเนียมยอดเยี่ยมแห่งเอเชียประจำปี 2018’ จากเวที Property Guru Asia Property Awards 2018 และได้รับการจัดอันดับให้เป็น ‘The Most Admired Company 2018’ องค์กรพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคประจำปี 2018 อีกด้วย      
เอพี ไทยแลนด์ ยิ้มรับความสำเร็จ รายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 27,110 ล้านบาท

เอพี ไทยแลนด์ ยิ้มรับความสำเร็จ รายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 27,110 ล้านบาท

เอพีประกาศความสำเร็จรายได้รวม ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 27,110 ล้านบาท ผลจากการที่สินค้าแนวราบและคอนโดโตต่อเนื่องชูไฮไลต์เด็ดประจำไตรมาส VITTORIO อัลตร้า-ลักซ์คอนโดมิเนียม คีย์ไดรฟ์สำคัญหนุนรายได้พุ่งหลังปิดการขายทั้งโครงการ ด้านกำไรสุทธิรวม โตขึ้น 62% หรือกว่า 2,900 ล้านบาท ยอดขายรวม 10 เดือนคิดเป็น 38,540 ล้านบาท โค้งสุดท้ายของปีเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปีเตรียมยิ้มรับยอดขายที่คาดว่าจะทะลุเป้าอีกครั้ง นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาถือว่าเกินความคาดหมายเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในภาพรวมของเอพี ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี มีอัตราการเติบโตที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100%JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 27,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.9% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมเท่ากับ 18,090 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากที่สินค้าแนวราบและคอนโดเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน   ไตรมาส 3 นี้ ส่วนหนึ่งของยอดรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการทยอยโอนกรรมสิทธิ์โครงการ VITTORIO คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ระดับอัลตร้า-ลักซ์ ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูงสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้เป็นที่เรียบร้อย  ด้านกำไรสุทธิรวม ณ สิ้นไตรมาส 3 (Net Profit) สูงถึง 2,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 1,792 ล้านบาท   “หนึ่งใน Key Success ของการพัฒนาโครงการเอพีคือ การมีสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของคนเมือง ทั้งในเรื่องของโมเดลสินค้าที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานการเข้าใจถึงความต้องการแฝงอย่างแท้จริง การกำหนดแพคเกจราคาขาย ตลอดจนจำนวนโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลรอบกรุงเทพ ซึ่งโครงการ VITTORIO ถือเป็นหนึ่งใน Key Drive ที่สำคัญต่อการเติบโตของรายได้รวม ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปีนี้ นอกเหนือจากโครงการอื่นๆ ของเอพีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมที่ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้ถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าเครือ  เอพีเสมอมา ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้รวมได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน” นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนแรก ณ วันที่ 31 ตุลาคมนี้ บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 38,545 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียมมูลค่า 20,930 ล้านบาท แนวราบมูลค่า 17,615 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 96.8% ของเป้ายอดขายปี 2561 ที่ปรับขึ้นใหม่ (เป้ายอดขาย 39,800 ล้านบาท)   ทั้งนี้ในไตรมาส 4 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่า 16,840 ล้านบาท  เปิดไปแล้วจำนวน 9 โครงการ 13,200 ล้านบาท คงเหลือเปิดตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของปีอีกจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,640 ล้านบาท โดยหนึ่งในไฮไลท์คือการเปิดพรีเซลคฤหาสต์หรู The Palazzo ศรีนครินทร์อย่างเป็นทางการในวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงยังคงมีโครงการอยู่ในพอร์ตพร้อมขาย ในทำเลศักยภาพรอบกรุงเทพอีกกว่า 100 โครงการ มูลค่าคงเหลือขายประมาณ 53,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่า ณ สิ้นปีจะสามารถทำยอดขายทะลุเป้าได้อย่างแน่นอน “บริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการนำพาเอพีก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 ของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และวางแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมและยกระดับรูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์สู่วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น”  นายอนุพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย ทั้งนี้ สรุปตัวเลขทางการเงินเฉพาะไตรมาส 3 ปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบกลุ่มคอนโดมิเนียม (100%JV) และธุรกิจอื่นๆ เท่ากับ 9,203 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 54.3% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 5,965 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 915 ล้านบาท เติบโต 43.9% หากเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2560 ที่ได้ 636 ล้านบาท ณ  31 ตุลาคม 2561 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ามากถึง 54,147 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 7,542 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมมูลค่า 46,605 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ภายในปีประมาณ 4,025 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566   “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง”          
Pleno ราชพฤกษ์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ

Pleno ราชพฤกษ์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม บนทำเลถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ

Pleno ราชพฤกษ์ โครงการทาวน์โฮมคุณภาพ ใหม่ล่าสุด จาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live in the Embrace of Nature”--ใช้ชีวิตมีระดับ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ – โดดเด่นที่สุดบนทำเลศักยภาพของถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้าสะดวกทุกการเดินทาง เพรียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับทุก Lifestyle ทั้ง คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และส่วนกลางที่มีสวนสวยขนาดใหญ่ ด้วยแรงบันดาลใจ จากดอกราชพฤกษ์ เพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ให้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ   มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของสุดยอดทำเล! สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แสนสบาย กับโครงการใหม่ Pleno ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนทำเลศักยภาพถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สามารถตอบสนองทุกการเดินทางอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว ไม่เกิน 10 นาที ถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชฯ – วงแหวนรอบนอก อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อย่างห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งฯ อย่าง Central Plaza WestGate, Central Plaza รัตนาธิเบศร์, The Walk ราชพฤกษ์, The Crystal SB ราชพฤกษ์  และใกล้โรงพยาบาลกับสถานศึกษาชั้นนำ เช่น รพ. เกษมราษฐ์ รัตนาธิเบศร์ รพ. พระนั่งเกล้า  รร.อนุบาลเด่นหล้า รร. เทพศิรินทร์ นนทบุรี เป็นต้น เรียกว่าเป็น ทำเลศักยภาพ ที่เพรียบพร้อมและน่าจับตามองในการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง   รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ   :   Pleno ราชพฤกษ์ สถานที่ตั้ง   :   บางกร่าง 45 ถ.ราชพฤกษ์ ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000 ลักษณะโครงการ   :   ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน   :   346 ยูนิต พื้นที่โครงการ   :   29-3-75.5 ไร่ พื้นที่ขาย   :   6,938.3 ตารางวา พื้นที่สวนสาธารณะ    :   352.4 ตารางวา พื้นที่ตั้งอาคารสโมสรและสระว่ายน้ำ   :   134.9 ตารางวา รายละเอียดแบบบ้าน แบบบ้าน FLORA  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 106.86 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก   ฟิตเนต สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะภายในโครงการ พื้นที่ตั้งนิติบุคคล ระบบรักษาความปลอดภัย เส้นทางคมนาคม เพียง 800 ม. จากถนนราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางรักใหญ่ 6 กม. เดินทางสะดวกสบายหลายเส้นทาง ถ.ราชพฤกษ์ ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ถ.รัตนาธิเบศร์. เชื่อมสู่เมืองด้วยทางพิเศษสายศรีรัช– วงแหวนรอบนอก ที่ ถ.ราชพฤกษ์ สถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลพลาซา เวสเกต เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์  เดอะ วอล์ค ราชพฤกษ์ เดอะ คริสตัล พาร์ค ราชพฤกษ์ สถานพยาบาล    รพ.เกษมราษฏร์ รัตนาธิเบศร์ รพ.พระนั่งเกล้า   เว็ปไซต์   :   http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ   :   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร   :   1623 Pleno ราชพฤกษ์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นในบ้าน ให้เชื่อมต่อกันได้อย่างอิสระ บนทำเลศักยภาพ ถนนราชพฤกษ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ เพียง 10 นาที และใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง เชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย เริ่มต้น 2.09 ล้าน* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
District เอกมัย-รามอินทรา บ้านใหม่สไตล์โฮมออฟฟิศ เพื่อชีวิตที่ลงตัว : รีวิวทาวน์โฮม

District เอกมัย-รามอินทรา บ้านใหม่สไตล์โฮมออฟฟิศ เพื่อชีวิตที่ลงตัว : รีวิวทาวน์โฮม

จากที่ก่อนหน้านี้เราได้ไปสำรวจดูทำเลในย่านนวลจันทร์กันไปแล้ว รีวิวฉบับนี้เราจะเข้าไปดูที่ตัวโครงการ “District เอกมัย-รามอินทรา” กันบ้างครับ โครงการนี้เป็นที่อยู่อาศัยกึ่งบ้านกึ่งสำนักงาน หรือที่เรียกกันติดปากว่า Home Office นั่นแหละครับ ซึ่งเป็นโครงการล่าสุดจาก AP Property แถมยังเป็นรูปแบบดีไซน์ใหม่ล่าสุดภายใต้คอนเซปต์ Modern Luxury ที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนอย่างมีสไตล์ เพื่อให้มุมมองธุรกิจและชีวิตส่วนตัวสอดคล้องไปได้อย่างกลมกลืน รายละเอียดจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ       รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     15,900,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น และ 4 ชั้น จำนวน 36 หลัง เนื้อที่ทั้งหมด    6 - 0 - 9.6 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยรามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ   ศักยภาพของที่ตั้งโครงการ   ถ้าพูดถึงย่าน “นวลจันทร์” ในปัจจุบัน จะเห็นว่าไม่ใช่พื้นที่ห่างไกลที่จะใช้คำว่าชานเมืองแบบเมื่อก่อนได้อีกแล้วนะครับ เพราะความเจริญต่างๆ ก็ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทั้งการเดินทาง การกินอยู่ รวมถึงศักยภาพของทำเลในย่านนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ย่านนี้มีความเป็นเมืองที่พร้อมในการรองรับการทำธุรกิจ หรือเปิดกิจการมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ   ในเรื่องของรายละเอียดเกี่ยวกับ Life Style ความน่าสนใจของทำเลที่ทำให้โครงการ District เลือกปักหมุดในย่านนี้ สามารถตามไปอ่านตัวรีวิวทำเลอย่างละเอียดได้ที่นี่ครับ "สำรวจทำเล โฮมออฟฟิศ โครงการใหม่ล่าสุด ย่านเอกมัย-รามอินทรา เพื่อชีวิตและธุรกิจที่ลงตัว"   ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ District เอกมัย-รามอินทรา ต้องบอกว่า เด่นในเรื่องของการเดินทางมากนะครับ ข้อแรกซอยรามอินทรา 40 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ เชื่อมต่อกับถนนนวลจันทร์ ที่สามารถทะลุไปออกถนนเกษตรนวมินทร์ได้ แถมห่างออกไปเพียงแค่ 1 นาที ก็มีจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และถนนสายสำคัญของย่านนี้อย่าง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เรียกติดปากกันว่าถนนเลียบด่วนฯ ก็เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมถนนสำคัญอีกหลายๆ สาย เข้าไว้ด้วยกันตั้งแต่หัวจรดท้ายถนน ดังนั้นไม่ว่าจะต้องการเดินทางไปยังมุมไหนของกรุงเทพก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร   เส้นทางเข้าออกโครงการหลักๆ ก็คือทางด้านถนนนวลจันทร์ พอเลี้ยวจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมเข้ามาเล็กน้อย ก็จะเห็นป้ายซอยรามอินทรา 40 อยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้ามาอีกไม่เกิน 200 เมตร จะเห็นโครงการอยู่ขวามือ หรือถ้าเลือกเดินทางมาจากถนนรามอินทรา ก็ให้สังเกตุป้ายซอยรามอินทรา 40 เอาไว้ให้ดี เลี้ยวเข้าซอยมาประมาณ 1.5 กม. ก็ถึงโครงการแล้วครับ การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากถนนเกษร-นวมินทร์ กันเลยนะครับ เราตรงตามถนนเกษตร-นวมินทร์ มาเรื่อยๆ จะถึงแยกที่ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายถนนรามอินทราไปเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางด่วน จากนั้นขับตรงต่อไปอีกเรื่อยๆ นะครับ ถึงตรงนี้จะตัดกับถนนรามอินทรา ฝั่งขวาจะเป็นสะพานข้ามถนนรามอินทรา เราชิดซ้ายไว้ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ เดี๋ยวเราไปตรงไปกลับรถใต้สะพาน กลับรถใต้สะพานตรงนี้เลยนะครับ กลับรถมาแล้ว เราตรงกลับไปตามถนนเลียบทางด่วนเหมือนเดิม ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นตลาดนัดเลียบทางด่วน อยู่ทางซ้ายมือ เลยมาอีกนิดหน่อยก็จะถึงถนนนวลจันทร์ สังเกตป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนวลจันทร์ไปเลยครับ เข้าถนนนวลจันทร์มาแล้วก็ตรงไปอีกนะครับ ตรงเข้ามานิดเดียวจะเจอสามแยก เลี้ยวซ้ายไปออกถนนรามอินทราตามป้าย เดี๋ยวเราเลี้ยวซ้ายที่สามแยกนี้เลยนะครับ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 40 มีป้ายโฆษณาของโครงการติดบอกทางอยู่ที่ปากซอยด้วย จากนั้นตรงเข้าไปในซอยรามอินทรา 40 อีกนิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วหล่ะครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ District เอกมัย-รามอินทรา อยู่ฝั่งขวามือ ทางเข้าโครงการ   แต่ในอนาคตการเดินทางมายังโครงการจะสะดวกกว่านี้อีก ด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่คาดว่าจะมีสถานีใกล้กับปากซอยรามอินทรา 40 เลยทีเดียว ถ้าหากอนุมัติการก่อสร้างเมื่อไหร่ ก็เชื่อได้ว่าความเจริญต่างๆ จะยิ่งแผ่ขยายมาเร็วกว่านี้อีกแน่นอน   Home Office รูปแบบใหม่ ดีไซน์ทันสมัย   Home Office ของ District เอกมัย-รามอินทรา มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบด้วยกัน คือ Home Office 4 ชั้น ที่มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอยประมาณ 360 ตร.ม. และ Home Office 3.5 ชั้น กับพื้นที่ใช้สอยประมาณ 173 ตร.ม. ซึ่งแบบบ้านที่เราจะพาไปดูกันก็คือ Home Office 4 ชั้นครับ   รูปร่างหน้าตาภายนอกอาคารถูกออกแบบมาเป็นคู่ หรือที่เรียกว่าบ้านแฝดนั่นแหละครับ ดูหรูหราทันสมัย ตามคอนเซปต์ Modern Luxury เลย หน้าบ้านกว้างถึง 8 เมตร สามารถจอดรถได้มากถึง 6 คันเลยทีเดียว ตัวอาคารเน้นใช้กระจกบานใหญ่ เพื่อให้ดูโปร่งสบายตา ไม่อึดอัด แล้วก็ช่วยให้รับแสงภายนอกได้ดีขึ้น ซึ่งภายในบ้านตัวอย่างก็มีการตกแต่งพื้นที่ใช้สอยในส่วนต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ   ทางโครงการลองตกแต่ง Home Office หลังนี้ให้เป็นห้องเสื้อหรูสำหรับสาวๆ โดยพื้นที่ชั้นล่างหน้าร้านจัดเป็นรับรองลูกค้า และมุมโชว์สินค้า ตกแต่งด้วยพื้นเล่นระดับในโทนสีขาวสบายตา ในขณะที่ชั้น 2 เป็นโถงขนาดใหญ่เพื่อโชว์เสื้อผ้าสวยๆ ได้มากขึ้น มีห้องลองเสื้อ วางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ไว้ด้วย นับว่าเป็นไอเดียในการตกแต่งไม่เลวเลยครับ ดูเรียบๆ แต่แฝงไว้ด้วยความโก้หรู หน้าทางเข้าเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ด้านหน้าโครงการตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์ Reception ด้านขวามมือเป็นพื้นที่ว่างสามารถจัดเป็นพื้นที่รับรองลูกค้า หรือโชว์สินค้าก็ได้ครับ เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในกันต่อ ห้องแรกจะเป็นห้องน้ำ อยู่ทางด้านขวามือ ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำหรับลูกค้าที่มาติดต่องานจึงมีเพียงอ่างล้างหน้ากับโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าทรงกลม พร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว โถสุขภัณฑ์วางอยู่ใกล้ๆ กัน ถัดจากห้องน้ำเป็นห้องครัวแอบอยู่ด้านในสุด พื้นที่บริเวณห้องครัวถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ ตรงข้ามห้องครัวเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 สังเกตว่าจะมีห้องใต้บันไดไว้สำหรับทำเป็นห้องเก็บของได้ด้วย ขึ้นมาถึงชั้น 2 ตรงกับบันไดมีห้องน้ำอีก 1 ห้อง ห้องน้ำบนชั้น 2 จะคล้ายๆ กับที่ชั้น 1 ขึ้นมาบนชั้น 2 โครงการยังตกแต่งเป็นพื้นที่สำหรับโชว์สินค้า และมีพื้นที่สำหรับพบปะลูกค้า ที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้น 1 บันไดขึ้นไปที่ชั้น 3 พอขึ้นมาที่ชั้น 3 ทางโครงการตกแต่งให้เป็นออฟฟิศ จัดห้องทำงานให้ดูโล่งๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถแชร์ไอเดียงานกันได้สะดวก นอกจากนี้ยังเพิ่มมุมหนังสือ และ Pantry ครัวเล็กๆ เอาไว้เตรียมเครื่องดื่มและของว่าง ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการทำงานให้ไม่น่าเบื่อ และมีอิสระทางความคิดมากขึ้นด้วย ขึ้นมาถึงชั้น 3 จะเริ่มเป็นโซนออฟฟิศแล้วนะครับ ตรงกับบันไดโครงการทำเป็น Pantry เล็กๆ สำหรับพนักงานในออฟฟิศ ด้านหลัง Pantry จะเป็นห้องน้ำอีก 1 ห้อง การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้จะคล้ายๆ กับห้องน้ำที่เราดูมาแล้วนะครับ แต่ห้องนี้จะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำมาให้ด้วย พื้นที่บนชั้น 3 โครงการตกแต่งเป็นโซนออฟฟิศสำหรับนั่งทำงาน ด้านขวามือตกแต่งเป็นที่นั่งสำหรับผู้บริหาร มีฉากบางๆ กั้น เนื่องจากเป็นออฟฟิศแฟชั่น การตกแต่งการจึงดูออกแนวแฟชั่นอย่างที่เห็น ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับพนักงาน โครงการวางโต๊ะแนวยาวจัดเป็นโต๊ะทำงาน ได้หลายที่เลยนะครับ ประหยัดพื้นที่ไปอีกแบบ ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย พ้นบันไดมาก็จะเป็นห้องนั่งเล่นเลย พื้นที่ติดกันจะเป็นครัวเล็กๆ สำหรับทำอาหาร อาจจะไม่ได้เป็นครัวจริงจังมาก แต่ก็พร้อมใช้งานเลยนะครับ มีหน้าต่างระบายอาหารเรียบร้อย ในขณะที่พื้นที่อีกโซนจะแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน คือ Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวอยู่ในโซนหน้าบ้าน และห้องนอนเล็กอยู่โซนกลางของชั้น จริงๆ ห้องนอนเล็กนี้สามารถดัดแปลงไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกเยอะนะครับ ถ้าสมาชิกในครอบครัวมีไม่เยอะ จะจัดให้เป็นห้องทำงานเล็กๆ ห้องเก็บของ หรือห้องอเนกประสงค์อีกล้านไอเดียเลย ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะเป็นชั้นสำหรับพักอาศัย ตรงหน้าบันไดโครงการตกแต่งเป็นส่วนครัวไว้ให้ดูเป็นไอเดีย Built in เป็นเคาน์เตอร์แนวยาว มี Island เล็กๆ เป็นที่นั่งรับประทานอาหาร ฝั่งตรงข้ามเป็น Living Area พื้นที่บริเวณ Living Area สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีอยู่ในระยะที่ถือว่าไม่ใกล้เกินไป มุมมองจาก Living Area ไปที่ส่วนครัว จะเห็นทางออกไปบันไดหนีไฟอยู่ทางซ้ายมือ จาก Living Area จะเป็นทางเดินเข้าไปด้านใน ห้องแรกด้านขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย อีกด้านโครงการ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าบานสูงถึงเพดาน ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำ พร้อมพื้นที่อาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นให้นะครับ แต่จะดรอปพื้นลงไปเล็กน้อย ตรงเข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอน Master โครงการวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ปลายเตียง Built in เป็นกระจกกั้น พร้อมติดทีวีแบบแขวน เดี๋ยวไปดูที่ห้องน้ำกันต่อ หน้าทางเข้าห้องน้ำโครงการจะ Built in ตู้เสื้อเป็นแบบ Walk in Closet ตู้เสื้อผ้าอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ที่โครงการ Built in ไว้ให้ดูเป็นไอเดีย มาถึงห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำในห้องนอน Master จะใช้สุขภัณฑ์ต่างจากห้องน้ำที่เราดูมาแล้วทั้งหมดนะครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมกับกระจกเงา ฝั่งตรงข้ามเป็น Shower Box มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย อย่างที่บอกไปแล้วนะครับว่าตัวอาคารเน้นใช้กระจกเพื่อช่วยในการรับแสง พื้นที่แทบจะทุกส่วนของบ้านสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่โถงบันได ซึ่งจะมีหน้าต่างกระจกใหญ่ ทำให้ทางเดินบริเวณบันไดดูโล่งสบายตามากขึ้น และด้วยความที่ตัวอาคารถูกใช้งานให้เป็นออฟฟิศด้วย เรื่องความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน ทางโครงการออกแบบให้มีบันไดหนีไฟอยู่ทางด้านหลังอาคาร และมีประตูทางออกในทุกๆ ชั้น ช่องแสงที่โถงบันได บันไดหนีไฟบนชั้น 2 จะสังเกตเห็นทางด้านซ้ายมือ บันไดหนีไฟบริเวณครัวบนชั้น 4 และสุดท้ายก็คือเรื่องของ Facility ต่างๆ ภายในโครงการ ซึ่งทางโครงการก็จัดไว้ให้ค่อนข้างครบเลยครับ ทั้งสโมสร ฟิตเนส สวนสาธารณะ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และกล้อง CCTV รอบโครงการ เพื่อความสะดวกสบาย และความอุ่นใจของลูกบ้านทางโครงการก็ไม่ลืมให้ความใส่ใจทุกจุดอย่างเต็มที่นะครับ District เอกมัย-รามอินทรา สามารถตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาบ้านแบบ Home Office ที่อยู่ในย่านที่เดินทางสะดวก แวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคครบครัน และเอื้อประโยชน์ทั้งในแง่ของการประกอบกิจการธุรกิจต่างๆ พร้อมทั้งไม่ทิ้ง Life Style แบบคนเมืองที่สามารถออกไปพบปะลูกค้า หรือสังสรรค์หลังเลิกงานได้สบายๆ ในขณะเดียวกันพื้นที่ภายในบ้านก็กว้างมากพอให้สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้สอยได้ตามลักษณะธุรกิจ เติมเต็มทุกจินตนาการ ต่อยอดกิจการใหม่ได้อย่างไม่สิ้นสุด และยังมีพื้นที่อยู่อาศัยสบายๆ ที่คุณจะพบจังหวะใหม่ในการทำงานที่สอดคล้องไปกับชีวิตส่วนตัวได้อย่างกลมกลืนเลยทีเดียว
สำรวจทำเล โฮมออฟฟิศ โครงการใหม่ล่าสุด ย่านเอกมัย-รามอินทรา เพื่อชีวิตและธุรกิจที่ลงตัว : รีวิวทาวน์โฮม

สำรวจทำเล โฮมออฟฟิศ โครงการใหม่ล่าสุด ย่านเอกมัย-รามอินทรา เพื่อชีวิตและธุรกิจที่ลงตัว : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้ เรากำลังพูดถึง District เอกมัย-รามอินทรา โครงการ Home Office สุดหรูย่านเอกมัย-รามอินทรา หนึ่งในทำเลที่แวดล้อมด้วยสังคมเมืองของคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตาในเวลานี้ เพื่อให้ทุกคนเห็นสภาพแวดล้อมของสังคมที่ดีและคุณภาพชีวิตอันสะดวกสบาย ไปจนถึงละแวกโดยรอบที่เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยและทำธุรกิจในเวลาเดียวกัน เราจะมาพูดถึงความพิเศษที่ District เลือกปักหมุดทำเลในย่านนี้กันครับ Lifestyle สุดชิค ชีวิตแบบคนเมือง เริ่มตั้งแต่ตัวโครงการ District ที่เป็น Home Office ดีไซนต์ทันสมัยภายใต้คอนเซปต์ Modern Luxury เพื่อตอบโจทย์รูปแบบชีวิตที่ลงตัวของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้จังหวะชีวิตและมุมมองธุรกิจเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการเพื่อการอยู่อาศัยที่ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมถึงบริเวณโดยรอบของ District เอกมัย-รามอินทรา ก็แวดล้อมไปด้วย Community Place และบรรดาห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ขับรถไปได้ในเวลาไม่กี่นาที ตอบโจทย์การใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง ด้วย Supermarket และ Grocery Store ชั้นนำที่เปิดให้บริการทั้งวันทั้งคืนอย่าง Foodland และ Max Value รวมถึง Tops Supermarket และ Tops Food Market ให้คนรักการทำอาหารได้จับจ่ายของเข้าครัว หรือจับจ่ายของอุปโภคบริโภคนำเข้าจากต่างประเทศ ทีนี้ไม่ว่าจะต้องทำงานอยู่ดึกแค่ไหนก็หายห่วง หรือว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งชิลร้านกาแฟ คาเฟ่เก๋ๆ ในละแวกนี้ก็มีให้เลือกเพียบ ทั้งใน Community Mall ชื่อดังประจำย่านอย่าง Crystal Design Center (CDC) และ The Crystal Park ที่มีคาเฟ่น่านั่งอยู่มากมาย ในขณะที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ชั้นนำก็ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ที่ทันสมัยและชิคสุดในเวลานี้ต้องยกให้ Central Festival East Ville ห้างใหม่เลียบทางด่วนรามอินทราที่ดึงดูดทุกไลฟ์สไตล์ไว้อย่างไม่ตกเทรน หรือจะขยับไปอีกนิด ก็ยังมี Central Plaza Ladprao ที่คุ้นเคยไว้ให้อุ่นใจอีกแห่ง เรื่องชิคเรื่องช๊อปยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ แหล่งช็อปสุดแนวทั้งตลาดนัดเลียบด่วน และตลาดนัดหัวมุม ก็เป็นอีกตัวเลือกบนถนนเลียบทางด่วนรามอินทราสำหรับวันสบายๆ ที่อยากอัพเดทเทรนวัยรุ่น หรือหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจก็น่าสนใจไม่แพ้กัน Varity of Foods นานาร้านอาหารชื่อดัง ที่เลือกกินได้แบบไม่ซ้ำ บอกแล้วว่าใกล้ๆ กับโครงการ District เอกมัย​-รามอินทรานี่มีของดีเพียบ รอบโครงการก็เต็มไปด้วยร้านอาหารนานาชนิด อร่อยง่ายๆ ตลอดทั้งซอยรามอินทรา 40 และถนนนวลจันทร์ แต่ถ้าชีวิตคนเมืองต้องป๊อป ต้องชิค ร้านเด่นร้านดังก็มีให้เลือก Hangout ได้ไม่เว้นวัน ไม่ว่าจะเป็นนัดกินมื้อกลางวันแบบคลูๆ ที่ On The Table, Zen, กัลปพฤกษ์ หรือร้านก๋วยเตี๋ยวแม่ศรีเรือน ก็ไม่เลวสำหรับวันทำงาน ส่วนค่ำๆ ขอเลยเถิดอีกนิด จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ Est.33, Wine Connection, Wine I Love You ที่ CDC ก็รวบรวมไว้ครบในที่เดียว แต่ถ้ายังไม่พอ ขับรถต่อไปอีกหน่อยก็ถึง เอกมัย-ทองหล่อ ย่านปาร์ตี้แถวหน้าที่ไม่มีใครไม่รู้จัก แค่ใช้เส้นทางถนนหลักเลียบทางด่วนรามอินทราไปแค่นี้ก็สะดวกสุดๆ แล้ว เชื่อมต่อทุกการเดินทาง เข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายยิ่งกว่าใคร ประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อบ้าน หรือหาที่ตั้งออฟฟิศก็คือ เรื่องของการเดินทาง แน่นอนว่า District เอกมัย-รามอินทรา อยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์การเดินทางครบทุกข้อ เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งของโครงการที่ใกล้ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีด่านขึ้นลงอยู่ไม่ไกล เข้าซอยมาไม่ลึกก็เจอเลย สังเกตุเห็นได้ไม่ยากครับ ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับการเปิดกิจการ อีกทั้งยังสามารถเข้าออกได้หลายทางอีกด้วย เช่น จากถนนรามอินทรา ก็ให้เข้ามาทางซอยรามอินทรา 40 หรือถ้ามาจากทางถนนเลียบทางด่วน ก็ให้เลี้ยวเข้าถนนนวลจันทร์ เข้ามานิดเดียวก็เห็นป้ายซอยรามอินทรา 40 เลี้ยวซ้ายมาอีกหน่อยก็ถึงโครงการแล้วครับ แค่เส้นทางหลักๆ สองอันนี้ก็อธิบายให้ใครต่อใครเข้าใจได้ง่ายแบบสุดๆ ข้อดีของทำเลบนถนนนวลจันทร์นี้ยังมีอีกเยอะทีเดียว เพราะถึงแม้จะเป็นถนนสายรอง แต่ก็เชื่อมต่อไปยังถนนหลายๆ เส้น ทั้งถนนเกษตร-นวมินทร์ ถนนประเสิรฐมนูกิจ ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดี หรือไปถึงย่านสุขุมวิท เอกมัย-ทองหล่อก็ง่าย มีซอยให้ลัดเลาะมากมาย แถมมีถนนวงแหวนอยู่ใกล้ๆ ให้ใช้อีก ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน หรือต้องติดต่องาน นัดลูกค้าไว้ในย่านใดก็จัดว่าสะดวกมากๆ ตอบโจทย์ในแง่ของการเดินทางเพื่อการติดต่อธุรกิจที่ง่ายแบบนี้นี่เอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำเลในย่านนี้จะมีโครงการที่เป็น Home Office ค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้การเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับคนเมืองอย่างรถไฟฟ้าก็ไม่ได้อยู่ไกลเกินฝันนะครับ เพราะที่ตั้งของ District อยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่ยังไงๆ ในอนาคตก็ต้องได้ใช้อย่างแน่นอน พอรถไฟฟ้ามาถึง การเดินทางก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็คงประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก จากแผนที่จะเห็นโครงการ District เอกมัย-รามอินทรา อยู่ในซอยรามอินทรา 40 ที่เชื่อมต่อระหว่างถนนรามอินทรากับถนนนวลจันทร์ที่แยกมาจากถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เรียกกันติดปากว่าถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งถือเป็นเส้นหลักในการเดินทางในย่านนี้ นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์อีกด้วย ส่วนบรรยากาศในย่านนี้จะเต็มไปด้วย Home Office, ร้านค้า และร้านอาหารต่างๆ มากมายเลยนะครับ ไล่ตั้งแต่หน้าปากซอยนวลจันทร์ด้านถนนประดิษฐ์มนูธรรม เรื่อยเข้าไปถึงในซอยรามอินทรา 40 และยาวเข้าไปในถนนนวลจันทร์ก็จะเต็มไปด้วย Office Building, Home Office และร้านค้าต่างๆ พอรวมทุกศักยภาพของทำเลที่ District เอกมัย-รามอินทรา เลือกปักหมุดในตำแหน่งนี้แล้ว ก็ต้องบอกว่าโครงการนี้ถือเป็น Home Office ที่น่าจับตาเป็นอย่างมาก ปัจจัยโดยรอบสามารถตอบโจทย์การทำงาน และไลฟ์สไตล์ที่มีสีสัน ให้คุณมีแรงบันดาลใจในการทำงาน รวมถึงมีจังหวะชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบรอบด้านทั้งครอบครัวและธุรกิจ ถ้าคุณกำลังมองหา Home Office ในฝัน เราเชื่อว่า District เอกมัย-รามอินทรา เป็นหนึ่งในโครงการที่ดีที่สุดโครงการหนึ่งที่สำหรับคุณ สำหรับโครงการ District เอกมัย-รามอินทรา จะเปิดจองครั้งแรกในวันที่ 25-26 มิถุนายนนี้ ในราคาเริ่มต้น 8.9 - 15.9 ล้านบาท ใครสนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่เลยนะครับ www.apthai.com/โฮมออฟฟิศ/district/district-ekkamai-ramintra/
DISTRICT เอกมัย-รามอินทรา : รีวิวทาวน์โฮม

DISTRICT เอกมัย-รามอินทรา : รีวิวทาวน์โฮม

DISTRICT เอกมัย-รามอินทรา โฮมออฟฟิศรูปแบบใหม่ในซอยรามอินทรา 40 ด้วยการออกแบบภายใต้ Concept Modern Luxury ทั้งการออกแบบภายนอกและภายใน อำนวยความสะดวกด้วย Private Parking 2-6 คัน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบด้วยพื้นที่ส่วนกลาง สโมสร และ ฟิตเนสภายในโครงการ โครงการใหม่ล่าสุดจาก AP เปิดจอง 25-26 มิถุนายนนี้ ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ www.apthai.com     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     8.99 - 15.90 ล้านบาท เจ้าของโครงการ     บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น และ 4 ชั้น จำนวน 36 หลัง เนื้อที่ทั้งหมด    6 - 0 - 9.6 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยรามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   สนามกอล์ฟนวลจันทร์    450 M โรงเรียนเลิสหล้า     3.5 KM Cristal Park     4.2 KM โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์     4.7 KM CDC     5 KM Tesco Lotus     5 KM Home Pro     5 KM Central Festival     5 KM โรงเรียนสตรีวิทยา 2     5 KM Central Plaza     7 KM มหาวิทยาลัยเกษตร     8 KM มหาวิทยาลัยศรีปทุม     9 KM แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 360.95 ตร.ม. จำนวน 24 ยูนิต พื้นที่จอดรถส่วนตัว 6 คัน โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 172.80 ตร.ม. จำนวน 12 ยูนิต พื้นที่จอดรถส่วนตัว 2-3 คัน   สิ่งอำนวยความสะดวก   สโมสร พร้อมห้องฟิตเนส สวนสาธารณะ ป้อมยามรักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV รอบโครงการ ระบบสายไฟฟ้าปักเสาพาดสาย ตามแบบมาตราฐานการไฟฟ้านครหลวง ระบบท่อเมนประปา ตามแบบมาตราฐานการประปานครหลวง ถนนคอนกรีตหลักกว้าง 9 เมตร   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.apthai.com
Pleno เพชรเกษม 81 : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno เพชรเกษม 81 : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno เพชรเกษม 81 ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ Modern Oriental หน้ากว้าง 5 เมตร บนถนนเพชรเกษม 81 โครงการใหม่จาก AP รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     1,990,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 224 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     18 - 2 - 98.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ     ถนนเพชรเกษม 81 เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ เขตหนองแขม กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ     ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี เพชรเกษม โรงเรียนมัถยมวัดหนองแขม โรงเรียนสารสาสน์บางบอน โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา โรงเรียนสารสาสน์หนองแขม วัดหนองแขม ตลาดหนองแขม สน.หนองแขม แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาด 16.4 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 91.33 ตร.ม.  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะภายในโครงการ อาคารนิติบุคคล เข้า-ออกโครงการ Access Card Control CCTV และ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :   02-814-9922 , 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   www.apthai.com
บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 ทาวน์โฮม 3 ชั้น จาก AP Thai ในซอยอ่อนนุช 17 ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   5,490,000 บาท ราคาต่อตารางวา   ประมาณ 275,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ   ทาวน์โฮม 3 ชั้น เนื้อที่ทั้งหมด   18-2-2 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยอ่อนนุช 17 ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือน มิถุนายน 2557 ค่าส่วนกลาง   67 บาท/ตารางวา จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี สถานที่สำคัญใกล้เคียง Lotus Express Big C mini The Curve People Park Big C อ่อนนุช ตลาดอ่อนนุช Lotus สุขุมวิท 50 BTS สถานีอ่อนนุช Pickadaily Bangkok แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย ทาวน์โฮม 3 หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ 1 จุด ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร Key Card Access ระยะใกล้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :   02-300-2400, 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   www.apthai.com