Tag : เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น

4 ผลลัพธ์
SC ทรานส์ฟอร์ม ขับเคลื่อนองค์กรมิติใหม่ ขยับสู่ผู้นำ Living Solutions Provider อย่างเต็มรูปแบบ

SC ทรานส์ฟอร์ม ขับเคลื่อนองค์กรมิติใหม่ ขยับสู่ผู้นำ Living Solutions Provider อย่างเต็มรูปแบบ

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น Living Solutions Provider โดยการกำหนดทิศทางวัฒนธรรมองค์กรใหม่เพื่อหล่อหลอมพนักงานให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งในด้านการทำงาน ความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากตอบสนองความต้องการขององค์กรโดยตรงแล้ว ยังสามารถสื่อสารความตั้งใจนี้ไปยังลูกค้า โดยการยึดถือหัวใจหลัก “สร้างทุกเช้าที่ดีให้กับลูกค้าทุกคน” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รู้ใจ” เพื่อตอบโจทย์ความพึงพอใจและการอยู่อาศัยของลูกค้าเป็นสำคัญ หากองค์กรมีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน จะสามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายและภารกิจไปพร้อมกับพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและการแข่งขันในโลกปัจจุบัน เอสซีฯ จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่จากผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก้าวสู่การเป็น Living Solutions Provider ผู้พัฒนาและสร้างสรรค์สินค้าบริการ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุดในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่   1. Re-invention: ด้วยหลัก 3 D Digitize ปรับเปลี่ยนการทำงานเข้าสู่ยุคดิจิทัล เพื่อเก็บ Data หาความต้องการลูกค้า วิเคราะห์และพัฒนา Design ใช้หลัก Human-Centric เข้าใจปัญหาของลูกค้า เพื่อออกแบบสินค้าและบริการ รวมถึงโซลูชันตอบโจทย์ลูกค้า Developer ประสานนวัตกรรมและพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพในทุกระดับราคา 2.Co-Creation: ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายใน Ecosystem เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น 3.Quality First: สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ 4.Top-Line Growth: บริหารรายได้และยอดขาย ขับเคลื่อนให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ     SC Re-Culture วัฒนธรรมองค์กรของ เอสซี แอสเสท เมื่อปี 2550 หรือประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา เราได้มีการกำหนด Core Value คือ “2C2A” เป็นกรอบในการทำงาน ได้แก่ ช่างคิด ช่างสร้างสรรค์ผลงาน (Create), ใส่ใจลูกค้า (Care), ตอบสนองต่อความต้องการอย่างรวดเร็ว มีความกระตือรือร้น (Active) และ มีความเป็นมืออาชีพ (Ability)   แนวทางการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย   การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ด้วยรูปแบบบายดีไซน์ (By Design) คือ สิ่งที่ต้องการให้คนเป็นไปตามที่องค์กรต้องการ  โดยเกิดจากการออกแบบพฤติกรรมย่อย รวมกันเป็นค่านิยมและเมื่อมีค่านิยมถูกขมวดรวมกัน ทำต่อกันมาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงเกิดเป็นวัฒนธรรม ซึ่งสามารถออกแบบด้วย 4 หลักการ   1. กำหนดวิสัยทัศน์ และเป้าหมายให้ชัดเจน 2. กำหนดยุทธศาสตร์ และกลยุทธ์ที่สอดคล้องกัน 3. การนำแบบแผนไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ 4. กำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน นำสู่ความสำเร็จ   “หัวใจสำคัญของการทรานส์ฟอร์มองค์กร คือ การกำหนดทิศทางและร่วมกันออกแบบวัฒนธรรมองค์กรใหม่ โดยในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากบริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ที่ปรึกษาและผู้ให้บริการด้านการพัฒนาผู้นำและการจัดการองค์กร ได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่การศึกษา สำรวจและการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายที่ปรึกษา, คณะผู้บริหารระดับสูง, ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และฝ่ายสื่อสารองค์กร รวมไปถึงพนักงานทุกระดับ ให้สามารถเดินไปในทิศทางเดียวกันได้ โดยไม่หลุดกรอบที่องค์กรตั้งไว้” นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อ นายอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จํากัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผู้นำ และการจัดการองค์กร เผยว่า “หลักการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร ต้องมีการวางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ล่วงหน้า และคงไม่สามารถสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของพนักงานทุกคนในองค์กร ทั้งนี้ต้องเริ่มต้นจากการค้นหาและศึกษาทั้งปัจจัยภายในและภายนอกผสมผสานกัน ซึ่งนอกจากผู้บริหารและที่ปรึกษาร่วมกันกำหนดค่านิยมใหม่ ยังลงลึกถึงการสัมภาษณ์ความคิดเห็นจากลูกค้า และลูกบ้าน รวมถึงการจัดทำแบบสำรวจกับพนักงานทั้งองค์กร เพื่อร่วมกันออกแบบวัฒนธรรมตัวใหม่ขององค์กรที่บ่งบอกตัวตน และรวบรวมเพื่อเป็นการกำหนดกรอบพฤติกรรม ค่านิยม ความคิด ให้ซึมซับไปกับการทำงาน ตลอดจนสามารถพัฒนาและหล่อหลอมกลายเป็นวัฒนธรรมภายในองค์กรได้ นายณัฐพงศ์ กล่าวสรุปว่า นอกจากความท้าทายใหม่ในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร ที่ต้องใช้เวลาค้นหาค่านิยมใหม่ ๆ ร่วมกัน และริเริ่มไปพร้อมกันกับองค์กร สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือการพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานทุกคน เอสซีฯ จึงได้จัดทำแอพลิเคชัน “SC In One” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะใช้สื่อสารระหว่างพนักงาน และมอบสิทธิประโยชน์ในรูปแบบใหม่สำหรับพนักงานทุกคน โดยมีฟังก์ชันต่างๆ อาทิ   TOOK 9 ช่วยในการนับก้าว มีการจัดอันดับ เพื่อสนับสนุน Wellness Program Flexible Benefit มีสวัสดิการที่ตอบสนอง Life Style ของพนักงาน โดยพนักงานเป็นผู้เลือกเอง Flexible Time พนักงานเลือกเวลาทำงานได้ นอกจากนี้การขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น โดยการคัดเลือกกลุ่มผู้นำการเปลี่ยนแปลง หรือ “SC Team Robin” เพื่อเป็นตัวแทนสร้างการเปลี่ยนแปลงสื่อสารกับเพื่อนพนักงานภายใต้ภารกิจนี้และบรรลุเป้าหมายร่วมกัน”   เพราะเอสซีฯ เชื่อว่า “คน” คือทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของการขับเคลื่อนองค์กร ดังนั้นการรับมือกับการปรับวัฒนธรรมองค์กร พนักงานทุกระดับจึงต้องมีส่วนร่วม ทั้ง ระดับผู้บริหาร และพนักงาน​ ร่วมจับมือเดินหน้าไปสู่เป้าหมายเดียวกัน พัฒนาให้เป็นคนเก่งและดี เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมทั้งสามารถก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลได้ ทั้งยังพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้อยู่คู่กับองค์กรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน          
SC ต่อยอดมุมมองสำคัญของการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ “เนเบอร์ฮูด บางกะดี” จับมือผู้กำกับชื่อดัง  ร่วมถ่ายทอดแนวคิดแบรนด์สู่โฆษณาชุดใหม่ “…ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว?”

SC ต่อยอดมุมมองสำคัญของการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ “เนเบอร์ฮูด บางกะดี” จับมือผู้กำกับชื่อดัง ร่วมถ่ายทอดแนวคิดแบรนด์สู่โฆษณาชุดใหม่ “…ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว?”

นางสาวโฉมชฎา กุลดิลก หัวหน้าสายงานฝ่ายสื่อสารและกลยุทธ์แบรนด์ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “SC ได้สร้างสรรค์แคมเปญสื่อสารมิติใหม่ที่สุดแห่งปี เพื่อสร้างการรับรู้ถึงแนวคิดสำคัญสำหรับการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ โมเดลต้นแบบแห่งแรกสำหรับ SC คือ “เนเบอร์ฮูด” ชุมชนที่ทุกคนมีส่วนร่วมกันออกแบบ โดยร่วมกับผู้กำกับมือหนึ่งของไทย “ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง” ในภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ชื่อ “...ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว?” เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้คนในสังคมถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่หลากหลาย ปรับตัวให้อยู่กับปัญหาได้ในมุมมองที่แตกต่างกัน โดยบอกเล่าถึงสิ่งที่คนเมืองประสบพบเจอในชีวิตประจำวันที่ทำให้กลายเป็นสิ่งเคยชิน ” The Neighbourhood  “เนเบอร์ฮูด บางกะดี” มีจุดมุ่งหมายให้เกิดเป็นโมเดลที่อยู่อาศัยที่ตอบรับการเติบโตของชุมชนเมืองในอนาคต เกิดเป็นพื้นที่สาธารณะที่เป็นประโยชน์ต่อคนในพื้นที่ทั้งผู้อยู่อาศัยในโครงการและชุมชมในย่าน รวมถึงการระดมความคิดเพื่อหา Solutions เกี่ยวกับการอยู่อาศัยจาก Co-creators ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้อยู่อาศัยในโครงการ รวมถึงชุมชนในย่าน ซึ่งโครงการนี้เป็นต้นแบบเพื่อใช้ในการพัฒนาที่ดินอื่นของบริษัทต่อไปในอนาคต   “เนเบอร์ฮูด” ชุมชนที่ทุกคนมีส่วนร่วมกันออกแบบนี้  ได้นำการศึกษาด้าน Human-Centric เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยในเมืองมาปรับใช้อย่างจริงจัง โดยจุดเริ่มต้นเพื่อพัฒนาพื้นที่สาธารณะด้านหน้าโครงการ บนที่ดินขนาดกว่า 200 ไร่ในย่านบางกะดี  โดยมีการทำงานร่วมกับภาคการศึกษา คือ Redek ศูนย์บริการวิจัยและออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทำการศึกษาวิจัยเรื่องความต้องการของมนุษย์เกี่ยวกับการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ภายในโครงการบ้านจัดสรร รวมถึงศึกษาเรื่องความต้องการใช้งานของพื้นที่สาธารณะที่ผู้คนในชุมชนสามารถใช้ร่วมกันได้ ก่อนที่จะนำผลงานวิจัยที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาพัฒนาบนที่ดินจริงภายในปี 2562 ต่อไป Neighbourhood Bangkadi ย่านบางกะดี ตั้งอยู่บนเส้นทางเชื่อมต่อถนนติวานนท์และอำเภอเมืองปทุมธานี-รังสิต เป็นย่านชานเมืองทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของกทม. เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพต่อการเติบโตและการอยู่อาศัยในอนาคต มีโครงการพัฒนาหลากหลาย เช่น สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีชมพูที่อยู่ระหว่างการดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2563* บวกกับความเป็นสวนอุตสาหกรรมที่มีโรงงานอุตสาหกรรมในเขตเทศบาลกว่า 60 แห่ง อันถือเป็นแหล่งงานสำคัญ ประกอบกับความเข้มแข็งของอีก 17 ชุมชนที่ร่วมกันพัฒนาท้องถิ่น ทำให้เกิดศักยภาพของทำเลขึ้น พร้อมรับชมเรื่องราว “...ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว?” https://www.youtube.com/watch?v=PHSBj8cixkw และติดตามข่าวสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่ “เนเบอร์ ฮูด บางกะดี” ได้ที่ www.scasset.com/theneighbourhood
เอสซี แอสเสทฯ เปิดคฤหาสน์นิวซีรี่ส์  วิลล่าหรู 3 ชั้น พร้อม Private Pool โครงการใหม่ “เดอะ เจนทริ พระราม 9” เริ่มต้น 27 ล้านบาท 11-12 พ.ย.นี้

เอสซี แอสเสทฯ เปิดคฤหาสน์นิวซีรี่ส์ วิลล่าหรู 3 ชั้น พร้อม Private Pool โครงการใหม่ “เดอะ เจนทริ พระราม 9” เริ่มต้น 27 ล้านบาท 11-12 พ.ย.นี้

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แนะนำโครงการใหม่ “เดอะ เจนทริ พระราม 9” (The Gentry Rama 9) คฤหาสน์นิวซีรี่ส์ วิลล่าหรู 3 ชั้น สไตล์ Urban Sanctuary พร้อม Private Pool และ Private Lift ส่วนตัว บนทำเลศักยภาพ เพียง 3.5 กม. จากทองหล่อ ติด Foodland หัวหมากบนถนนรามคำแหง ใกล้ทางด่วนศรีรัชและรามอินทรา-อาจณรงค์ ท่ามกลางบรรยากาศแบบส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 13 ยูนิต เริ่มต้น 27 ล้านบาท เปิดพรีเซลส์ 11-12 พ.ย.นี้ พิเศษสุด!! จองในงานรับส่วนลด 1 ล้านบาท ณ สำนักงานขายโครงการ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ www.scasset.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1749
SC เติบโตทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดฯ ครึ่งปีแรกกวาดยอดขายพุ่ง 44% ครึ่งปีหลังรุกแนวราบ ทุกระดับราคา เปิด 9 โครงการใหม่ มูลค่า 11,450 ลบ. มุ่งตอบโจทย์ human-centric เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับอนาคต มั่นใจรายได้ทะลุเป้า 20,000 ลบ. ในปี 2562

SC เติบโตทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดฯ ครึ่งปีแรกกวาดยอดขายพุ่ง 44% ครึ่งปีหลังรุกแนวราบ ทุกระดับราคา เปิด 9 โครงการใหม่ มูลค่า 11,450 ลบ. มุ่งตอบโจทย์ human-centric เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับอนาคต มั่นใจรายได้ทะลุเป้า 20,000 ลบ. ในปี 2562

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลสำเร็จของการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีแรก โดยสรุป  2 เรื่อง คือ การเติบโตของยอดขาย โดยครึ่งปีแรกมียอดขายรวม 7,493 ล้านบาท เติบโต 44% (yoy) ซึ่งมาจากผลตอบรับที่ดีจากยอดขายแนวราบ 4,491 ล้านบาท เติบโต 14% (yoy)  กับยอดขายคอนโดฯ  3,002  ล้านบาท เติบโต 137% (yoy) สื่อออนไลน์มีประสิทธิภาพสูง โดยแนวราบในครึ่งปีแรกได้รับยอด walk-in จากสื่อนี้ถึง 30% ดังนั้นทำให้ค่าใช้จ่ายการตลาดลูกค้าแวะต่อคนลดลง 5 เท่าจาก Traditional media ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายการตลาดต่อยอดขายลดลง นายณัฐพงศ์ เปิดเผยถึงมุมมองเศรษฐกิจว่า  “จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับคาดการณ์ว่า  GDP ปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 3.2% เป็น 3.5% โดยปัจจัยหลักเป็นเรื่องการลงทุนภาครัฐ รวมถึงภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนภาคลงทุนเอกชนและการบริโภคนั้นยังคงไม่เติบโตเท่าที่ควร  และสถานการณ์หนี้ยังมีความน่ากังวล ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้  ณ ปลายไตรมาส 1/2560 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงเหลือ 78.6% แต่สินเชื่อกลุ่มที่อยู่อาศัยขยายตัวแบบชะลอตัว สวนทางกับสัดส่วน housing NPLs ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 3.23%  ส่งผลต่อความเข้มงวดของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไม่สามารถวางแผนการใช้เงินอนาคต อย่างไรก็ตาม SC มียอดปฏิเสธสินเชื่อธนาคารเฉพาะแนวราบในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สัดส่วนใกล้เคียงเดิมที่ประมาณ 10%  โดยสัดส่วนการชำระเงินสดโดยเฉพาะในกลุ่ม luxury segment สูงถึง 50% สูงกว่าปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่า demand ในตลาดยังมีการเติบโต แต่สถานการณ์ของหนี้ทำให้ความสามารถในการใช้เงินอนาคตน้อยลง จึงมีแนวโน้มที่จะใช้เงินปัจจุบันมากขึ้น" นายณัฐพงศ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า “SC มีความมั่นใจในเป้าหมายปีนี้ตามที่วางไว้ ด้วยยอดขาย 16,000 ล้านบาท และรายได้ 14,800 ล้านบาท โดยแผนครึ่งปีหลังจะเปิดแนวราบทุกระดับราคา จำนวน 9 โครงการใหม่ มูลค่า 11,450 ล้านบาท ซึ่งปลายปีจะเปิดแบรนด์ใหม่ชื่อ เวิร์ฟ (Verve) ทาวน์โฮม 2 ชั้น เริ่ม 2.59 ล้านบาท โครงการใหม่ทั้งหมดแบ่งเป็น  5 แบรนด์ ดังนี้ The Gentry  โครงการเดอะ เจนทริ พระราม 9 เริ่ม 30 ล้านบาท Bangkok Boulevard ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รังสิต, สาทร-ราชพฤกษ์, ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์, แจ้งวัฒนะ  และ  สาทร-ปิ่นเกล้า เริ่ม 6-20 ล้านบาท Pave โครงการเพฟ รามอินทรา-วงแหวน เริ่ม 4 ล้านต้น Work Place โครงการเวิร์คเพลส แจ้งวัฒนะ เริ่ม 9 ล้านบาท Verve โครงการเวิร์ฟ เพชรเกษม 81 เริ่ม 59 ล้านบาท สรุปปีนี้ SC มีโครงการเพื่อขายทั้งหมด  44 โครงการ มูลค่า 44,135 ล้านบาท  แบ่งเป็น โครงการระหว่างการพัฒนา จำนวน 35 โครงการ พร้อมกับอีก 9 โครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ได้ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเพิ่มเป็น 9,100 ล้านบาท” จากที่ SC ได้ประกาศยุทธศาสตร์เรื่อง human-centric innovation  เมื่อตอนต้นปี  หลังจากนั้นมีการขยายธุรกิจใหม่และลงทุนใน platform เรื่องบริการหลังการขายกับ tech startup “Fixzy” แผนครึ่งปีหลังจึงดำเนินตามยุทธศาสตร์  ดังนี้ ร่วมพัฒนา iOT smarthome platform ชื่อ “ Rue Jai ™ (รู้ใจ™)”  สำหรับลูกค้า SC ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ AIS ผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider อันดับ 1 ของประเทศไทย ให้เป็น smarthome platform ที่พัฒนาโดยคนไทย และเพื่อคนไทย พร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ SC 4.0 housing prototypes  ได้มีการใช้ design thinking ในการออกแบบ prototype สำหรับบ้านคอนเซปท์ในอนาคต โดยจะเริ่มเปิดตัวในโครงการต่างๆ ในช่วงไตรมาส 4/2560 นายณัฐพงศ์ สรุปอย่างมั่นใจว่า   “ด้วยแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกทั้งหมดนี้ จะสนับสนุนและส่งเสริมแผนการเติบโตต่อเนื่อง 3 ปี ทำให้ SC มีรายได้ทะลุเป้าหมาย 20,000 ล้านบาท ในปี 2562”