Tag : เอสซี แอสเสท

14 ผลลัพธ์
SC ASSSET  ชูแนวคิด Circular Living ชวนลูกค้าร่วมเรียนรู้ในงาน “#BeRightBack ยิ่งแยกทิ้ง ยิ่งยั่งยืน”

SC ASSSET ชูแนวคิด Circular Living ชวนลูกค้าร่วมเรียนรู้ในงาน “#BeRightBack ยิ่งแยกทิ้ง ยิ่งยั่งยืน”

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นางสาวสุดารัตน์ เจริญเกตุมงคล หัวหน้าสายงานบริหารลูกค้าและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ #BeRightBack ยิ่งแยกทิ้ง ยิ่งยั่งยืน ชวนครอบครัว SC FAMILY เป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก  โดยให้ทุกคนมาทำความรู้จักกับขยะที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมถึงการคัดแยกขยะ และการสร้างวงจรชีวิตใหม่ของผลิตภัณฑ์พลาสติกให้สามารถหมุนเวียนอยู่ในระบบการผลิต และการบริโภคให้นานที่สุด ภายใต้แนวคิด Circular Living ทำให้เกิดชุมชนสร้างสรรค์ และเป็นมิตรไปกับสิ่งแวดล้อมพร้อมๆ กัน โดยมีคุณนุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา มาร่วมพูดคุยภายในงาน  นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตามแนวคิด Lively Neighbourhood กับนิทรรศการทำไมต้องแยกขยะ, กิจกรรม แยกขยะทำไม? แยกแล้วไปไหน? (ขยะแปลงร่าง) และ Refill Station ที่ทุกคนสามารถนำขวดน้ำใช้แล้ว มาเติมผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติกลับไปใช้ที่บ้าน รวมทั้ง กิจกรรมDIY ทำจานสีจากฝาพลาสติก เรียนรู้การทำสีน้ำออแกนิกส์ และการทำกระถางต้นไม้จากถุงพลาสติก ณ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด พระราม9- ศรีนครินทร์ เมื่อวันก่อน  #SCASSETisQuality  #LivingSolutionsProvider    
SC ชูทิศทาง 5 ปี “NEXT is NOW” ปี 62 รุกเปิด 13 โครงการใหม่

SC ชูทิศทาง 5 ปี “NEXT is NOW” ปี 62 รุกเปิด 13 โครงการใหม่

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชูทิศทาง 5 ปี 2562-2566 “NEXT is NOW” ทำอนาคตให้เกิดขึ้นจริง สร้าง living solutions ให้จับต้องได้ เพื่อส่งมอบสู่ผู้อยู่อาศัย หลังประกาศวิชั่นอนาคตก้าวสู่การเป็น living solutions provider ในปี 61 ที่ผ่านมา โดยขับเคลื่อน SC ผ่าน 3 เป้าหมายหลัก (objectives ) คือ   1. “SC ASSET Profit Growth” กำไรดี หนี้ลด มุ่งสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท ในปี 62สู่ 3,000 ล้านบาท ในปี 66   2. “SC ASSET is Quality” เติบโตโดยรักษาระดับมาตรฐานคุณภาพสูง SC Family จะเติบโตจาก 20,000 ครอบครัว ปี 62 เป็น 35,000ครอบครัว ปี 66 คุณภาพเป็น top priority ในการขับเคลื่อนบริษัท   3. “SC ASSET as Living Solutions Provider” รู้ใจผู้อยู่อาศัย ประสานนวัตกรรมสู่ที่อยู่อาศัยและบริการ    ทำ living solutions ให้เกิดขึ้นจริง ส่งมอบสู่ผู้อยู่อาศัยอย่างจับต้องได้   หัวใจสำคัญของความสำเร็จขององค์กร คือ บุคลากรองค์กร และสิ่งที่ขับเคลื่อนบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ วัฒนธรรมองค์กร ต้นปี 62 SC ได้ประกาศวัฒนธรรมองค์กรใหม่ที่มีชื่อว่า #SKYDIVE สู่การเป็น living solutions provider โดยมีค่านิยม (core values) 4 อย่างคือ care, courage, collaboration, continuous improvement     สำหรับปี 2562 นายณัฐพงศ์  กล่าวว่า “SC ตั้งเป้ารายได้ 19,000 ล้านบาท เติบโต 22% แบ่งสัดส่วนแนวราบ-แนวสูง-เพื่อเช่า ในสัดส่วน 60-35-5 พร้อมกับเป้ายอดขาย 22,000 ล้านบาท เติบโต 46%  โดยการเติบโตของรายได้และยอดขาย มาจากโครงการเปิดขายทั้งหมดรวม 59 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 62,700 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง 46 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท พร้อมรุกเปิดอีก 13 โครงการใหม่ มูลค่า 22,700 ล้านบาท ได้แก่ แนวราบ 9 โครงการใหม่ มูลค่า 6,500 ล้านบาท มีทั้งโครงการบ้านและทาวน์โฮมซีรีย์ใหม่ในทุกระดับราคา แบ่งเป็นกลุ่มระดับราคาน้อยกว่า 8 ล้านบาท  ประมาณ 71% กับ กลุ่มระดับราคามากกว่า 8  ล้านบาท  ประมาณ 29%   โดยข้อมูลจาก Area (Agency Real Estate Affairs) สรุปเมื่อปี 2561 ชี้ว่า บ้านเดี่ยวจาก SC ในกลุ่มบ้านราคามากกว่า 8 ล้านบาทขึ้นไป  ครองอันดับ 1 มี Market Share ถึง 14% ส่วนบ้านระดับราคา น้อยกว่า 5 ล้านบาท   เติบโตจาก Top 10 มาอยู่อันดับ 4 ด้วย Market Share 6%   พร้อมกับแนวสูง 4 โครงการใหม่  มูลค่า 16,200 ล้านบาท  แบ่งเป็น SC พัฒนา 2 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ The Crest  (เดอะเครสท์)  ได้แก่   1. โครงการ The Crest Park Residences ขนาดพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มูลค่า 3,500 ล้านบาท บนที่ดิน Prime ที่สุดของห้าแยกลาดพร้าว เพียง 75 เมตร ถึง MRT พหลโยธิน ใกล้กับศูนย์การค้า ชั้นนำอย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ใกล้สวนจตุจักร และสวนรถไฟ ทำให้ได้วิวสวนพื้นที่กว่า 700 ไร่ โดยพัฒนาภายใต้บริษัท เอสซี เอ็นเอ็นอาร์ วัน จำกัด (SC NNR1 Co.,Ltd.) บริษัทร่วมทุนระหว่าง SC กับ Nishitetsu Group ยักษ์ใหญ่และผู้นำในภูมิภาคคิวชูของประเทศญี่ปุ่น   2. โครงการ The Crest Asoke Residences บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ 2 งาน มูลค่า 2,500 ล้านบาท ทำเลสุขุมวิท 23 เพียง 450 เมตรถึง MRT สุขุมวิท และ BTS สถานีอโศก ย่านใจกลางธุรกิจที่ผสมผสานความสะดวกสบาย และความเงียบสงบเป็นส่วนตัว อีกทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อพื้นที่ lifestyle ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและชอปปิ้ง ในย่านทองหล่อ พร้อมพงษ์ และอโศกและ พัฒนาโดยบริษัท สโคป จำกัด  อีก 2 คอนโดฯ ระดับ Super Luxury  มูลค่า 10,200 ล้านบาท ทำเลหลังสวน ศูนย์รวมธุรกิจใจกลางเมือง และทำเลติด  BTS สถานีทองหล่อ   บางส่วนของ living solutions ที่ทั้งเกิดขึ้นจริงแล้ว และ กำลังจะเกิดขึ้นจริงในครึ่งปีแรก ปี 62 ดังนี้   - “Baan Rue Jai application” พร้อมให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการโดย SC ทั้งหมดกว่า 20,000 ครอบครัวดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ มี feature เบื้องต้นคือ สื่อสารกับเจ้าหน้าที่ SC, แจ้งซ่อม, และตรวจสอบคุณภาพอากาศ (AQI) บริเวณใกล้เคียงที่อยู่อาศัย และ SC จะเพิ่ม feature ใหม่ๆอีก 6-7 อย่าง ภายในครึ่งปีแรกนี้   - “Rue Jai Subscription” ช่วยเรื่องบ้าน จัดการเรื่องชีวิต  เป็น feature ล่าสุด ช่วยอำนวยความสะดวกรายเดือน พร้อมให้บริการบน application ครั้งแรก 7 มี.ค. 62 นี้ โดยเสนอแพคเกจรายเดือนเริ่มต้น เดือนละ 1,990 บาท ครอบคลุมบริการดูแลที่อยู่อาศัย เช่น ดูแลสวน, ซัก อบ รีด, ทำความสะอาดบ้าน รวมไปถึงบริการอื่นๆ ในอนาคต ที่ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องที่อยู่อาศัยเท่านั้น   - “Mr. Holmes” หุ่นยนต์ตรวจการอัจฉริยะสัญชาติสิงคโปร์ตัวแรกในประเทศไทย ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยรอบโครงการ The Neighbourhood บางกระดี เป็นก้าวแรกของการใช้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับ รปภ.ที่เป็นมนุษย์   - “Project Agora” เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง SC X IDEO Tokyo บริษัท ออกแบบโซลูชั่นระดับโลก ผู้นำแนวคิด human-centered design และใช้ design thinking มาสร้างงานออกแบบพื้นที่ “Third Space” ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางแนวคิดใหม่ในโครงการของ SC ในแบบที่ไม่เคยมีบริษัท ไหนทำมาก่อน   - “Project Computational” เป็นการทดลองนวัตกรรมการออกแบบผังโครงการครั้งแรกของวงการอสังหาฯไทย ร่วมกันระหว่าง SC X Fire One One โดยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้การออกแบบผังโครงการ เพื่อเป็นก้าวแรกสำหรับสร้าง AI ที่จะออกแบบผังโครงการให้ SC ในอนาคต และก้าวต่อไปจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์นักออกแบบและ AI นักออกแบบ   ทั้งนี้ในปี 2561 SC มีผลการดำเนินงานที่ดีเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 15,616 ล้านบาท เติบโต 25% กำไรสุทธิ1,782 ล้านบาท เติบโต 42% พร้อมมียอดขาย 15,022 ล้านบาท นอกจากนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบนำเสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 2561 ในอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 โดยจะนำเสนอขออนุมัติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 25 เมษายนนี้ ต่อไป      
SC ASSET เผยโฉมที่สุดของ Luxury Privacy Clubhouse ด้วยแรงบันดาลใจจากเวนิส โครงการ แกรนด์ บางกอก  บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เสรีไทย

SC ASSET เผยโฉมที่สุดของ Luxury Privacy Clubhouse ด้วยแรงบันดาลใจจากเวนิส โครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เสรีไทย

เอสซี แอสเสท ขอแนะนำ โครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เสรีไทย แรงบันดาลใจจากเวนิสคฤหาสน์หรู ชั้นสไตล์ Modern Venice ที่สุดของ Luxury Privacy Clubhouse จากแรงบันดาลใจสถาปัตยกรรมเวนิส มอบพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ในบรรยากาศของวันพักร้อนที่เหนือระดับ ตั้งแต่สระว่ายน้ำในร่มระบบเกลือขนาด Half Olympic 28 เมตร ที่สามารถเชื่อมสู่สวนส่วนกลางขนาด กว่า 1 ไร่ พร้อมฟิตเนสขนาดใหญ่ อยู่บนชั้น 2 ของสโมสร ห้องซาวน่าส่วนตัวแยกชายหญิง สนามเด็กเล่น และ Pavilion ส่วนกลางพักผ่อนขนาดใหญ่ 75 ตารางเมตร ที่เหมาะสำหรับให้ทุกกิจกรรมวันพักผ่อนมาบรรจบในที่เดียว   แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เสรีไทย บนพื้นที่ 25 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 443-563 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 25-40 ล้านบาท พร้อม Facility ที่ครบครัน และนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ Eldercare Solution by SC ASSET ให้คุณได้ใช้ชีวิตท่ามกลางสังคมส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 48 ครอบครัว ภายใต้ระบบความปลอดภัย Triple Security System  แยกสัดส่วนอย่างเป็นส่วนตัวระหว่าง Guest Area และ Residential Area เข้าออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass ทําเลศักยภาพในย่านรามอินทรา เดินทางสู่ใจกลางเมืองด้วยทางด่วนศรีรัชและทางด่วนรามอินทรา-อาจนรงค์ ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายเส้นทางถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมสู่ย่านสําคัญ เช่น ถ.รามอินทรา ถ.ลาดพร้าว ถ.รามคําแหง ถ.เสรีไทยไปมีนบุรี หรือ มอเตอร์เวย์   สนใจเยี่ยมชมโครงการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขายโครงการโทร.1749 หรือ www.scasset.com / www.facebook/scasset/          
SC สร้างสรรค์เพื่อรับฟังเสียงลูกค้า ภายใต้งาน  “The Art of Gastronomy 2019”

SC สร้างสรรค์เพื่อรับฟังเสียงลูกค้า ภายใต้งาน “The Art of Gastronomy 2019”

อีกหนึ่งมุมมองสำคัญที่ SC สร้างสรรค์เพื่อรับฟังเสียงลูกค้า นำมาพัฒนาสินค้าและบริการคุณภาพ เพื่อทุกเช้าที่ดี ภายใต้งาน  “The Art of Gastronomy 2019”   บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยคุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างมีคุณค่า เพื่อสร้างเช้าที่ดีสำหรับลูกค้า  จึงได้จัดกิจกรรม “The Art of Gastronomy 2019” ภายใต้บรรรยากาศอบอุ่นและค่ำคืนแบบเอ็กคลูซีฟและแสนพิเศษสำหรับครอบครัว SC Family 8 ครอบครัว โครงการ SALADAENG ONE (ศาลาแดง วัน)   Limited Luxury Condominium  โดยร่วมสังสรรค์และรับประทานอาหารที่คัดสรร สไตล์ไคเซกิ (Kaiseki) ซึ่งเป็นอาหารรสชาติญี่ปุ่นขนานแท้  พร้อมดื่มด่ำกับรสชาติของวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติที่คัดสรรตามฤดูกาล ผ่านการปรุงและการประดิดประดอยอาหารแต่ละจานดั่งงานฝีมือจากเชฟระดับ 5 ดาว อีกทั้งผ่อนคลายในบรรยากาศการตกแต่งสไตล์บ้านญี่ปุ่น ด้วยความร่มรื่นพร้อมแมกไม้เขียวสดชื่นสบายตา ณ Ten-Sui Japanese Dining (เท่นสุ่ย) ซ. สุขุมวิท 16   สำหรับลูกค้าติดตามกิจกรรมต่าง ๆ  จาก SC Family  ได้ที่ Baan Rue Jai Application ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้งระบบ iOS และ Android  และ ชมรายละเอียดโครงการ SALADAENG ONE (ศาลาแดง วัน) Limited Luxury Condominium   ได้ที่ https://luxurycondo.scasset.com/th/saladaengone      
SC ASSET   เปิดตัว “Mr. Holmes” หุ่นยนต์ตรวจการณ์สุดล้ำ

SC ASSET เปิดตัว “Mr. Holmes” หุ่นยนต์ตรวจการณ์สุดล้ำ

SC ASSET เปิดตัว “Mr. Holmes” หุ่นยนต์ตรวจการณ์สุดล้ำ โมเดลต้นแบบด้านความปลอดภัยแห่งแรกในไทย  เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบ   นอกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้การมุ่งสู่เป็นผู้นำ Living Solutions Provider ด้วยคุณภาพสินค้าและบริการชั้นนำ SC ยังมุ่งตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลด้วยหัวใจสำคัญของการดูแลลูกค้า ด้านมาตรการความปลอดภัย 24 ชม. ทั้งในรั้วและนอกรั้วโครงการ โดยล่าสุดได้นำ “Mr. Holmes” หุ่นยนต์ตรวจการณ์จากประเทศสิงคโปร์ นำร่องปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยภายในโครงการ “เดอะ เนเบอร์ฮูด บางกะดี” เพื่อเป็นโมเดลต้นแบบสำหรับการยกระดับด้านความปลอดภัยต่อไปในอนาคต   ด้วยนโยบายด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกค้าของ SC โดย นายพิษณุ เดชสง หัวหน้าสายงานต้นทุนและนวัตกรรมการก่อสร้าง บริษัท เอสซี แอสเสท  คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อมุ่งยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยไปอีกขั้น จึงได้นำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์จากสิงคโปร์ โดยใช้ชื่อว่า “Mr. Holmes” หุ่นยนต์ตรวจการณ์เคลื่อนที่อัตโนมัติ มาใช้ตรวจการในพื้นที่บริเวณโดยรอบนำร่องที่โครงการเดอะ เนเบอร์ฮูด บางกะดี เป็นแห่งแรก เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยซึ่งคนไม่สามารถทำได้ตลอด 24 ชม.”   ทั้งนี้ปัจจุบันที่เดอะ เนเบอร์ฮูด บางกะดี มีโครงการเพื่อขาย 2 โครงการ ได้แก่  โครงการบ้านเดี่ยว “เวนิว ติวานนท์-รังสิต” และโครงการทาวน์โฮม “เวิร์ฟ ติวานนท์-รังสิต พร้อมกับการดูแลระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เข้า-ออกโครงการผ่านระบบ Access Card ที่มีความปลอดภัยจาก Double Gate System ภายในโครงการยังมีการติดตั้ง CCTV ครอบคลุมทั้งโครงการ โดย SC ยังมี Security Management System นโยบายฝึกอบรมและสุ่มตรวจสอบสำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัย ควบคุมให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้   โดยแนวทางการทำงานของหุ่นยนต์ตรวจการณ์ “Mr. Holmes” ปลอดภัยไปกับรู้ใจ เมื่อพบสิ่งผิดปกติระบบจะส่งสัญญาณไปที่ป้อมรปภ. เพื่อแจ้งเหตุการณ์ได้ในทันที ด้วยระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ ได้อย่างชาญฉลาด ผ่านการส่งข้อมูลด้วย Wi-Fi และ 4G LTE มุมมอง 360 องศา  มีกล้อง Live Streaming รูปแบบ Real-time ที่แสดงผลเป็นภาพ 360 องศา ด้วยกล้องจำนวน 4 ตัว สามารถจดจำภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว พร้อมบันทึกข้อมูลที่แม่นยำ ด้วยนวัตกรรมเซนเซอร์จับสิ่งผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น บุคคล กระเป๋า ยานพาหนะ และ ทะเบียนรถยนต์   “Mr. Holmes” หุ่นยนต์ตรวจการณ์ที่เป็นไฮไลท์สำหรับโครงการ “เดอะ เนเบอร์ฮูด บางกะดี” เป็นนวัตกรรมสุดล้ำจาก OTSAW บริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ชั้นนำระดับโลก ประเทศสิงคโปร์ พัฒนาหุ่นยนต์อัจฉริยะ O-R3 ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัย (Outdoor Autonomous Security Robot) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยแห่งแรกในไทย โดยอนาคต SC มีแผนความร่วมมือที่จะพัฒนาความสามารถของ “Mr. Holmes” ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับโครงการเดอะ เนเบอร์ฮูด บางกะดี ต่อไป   สามารถชมประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ตรวจการณ์ “Mr. Holmes” ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=qPWSgt3Ps7c   และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้ที่: www.scasset.com/TheNeighbourhood          
SC ตั้งเป้าปี 62 เติบโต 40% เตรียมเปิด 12 โครงการใหม่

SC ตั้งเป้าปี 62 เติบโต 40% เตรียมเปิด 12 โครงการใหม่

SC ตั้งเป้าเติบโตทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ มุ่งยอดขายเติบโตมากกว่า 40% ในปี 62 และรายได้ 19,000 ลบ.  เตรียมเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่า 22,700 ลบ. เผย “โครงการ SCOPE หลังสวน” เปิดขายปีนี้   นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแผนธุรกิจว่า “ในปี 2562 SC มุ่งเติบโตทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ โดยตั้งเป้ายอดขาย 22,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 40% เทียบกับปีที่ผ่านมา และรายได้ 19,000 ล้านบาท ”   โดยยอดขายทั้งปีของ SC จะมาจากโครงการเพื่อขายทั้งหมดรวม 58 โครงการ มูลค่ารวม 62,700 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการต่อเนื่อง 46 โครงการ มูลค่า 40,000 ล้านบาท และ โครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 22,700 ล้านบาท   โครงการใหม่แบ่งเป็น 8 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยว ระดับราคา 4-50 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ เพฟ, เวนิว, บางกอก บูเลอวาร์ด และ เดอะเจนทริ พร้อมบ้านและทาวน์โฮม 2-5 ล้านบาท มีแบรนด์ วี คอมพาวด์ กับ เวิร์ฟ โดยทุกโครงการอยู่ในทำเลศักยภาพ ได้แก่ พระราม 5 , วิภาวดี , รังสิต , บางนา และ ลาดพร้าว-เสรีไทย เป็นต้น   ส่วนโครงการแนวสูงจะรุกเปิดทำเลใจกลางกรุงเทพฯ รวม 4 โครงการใหม่ มูลค่า 16,200 ล้านบาท โดย SC เปิด 2 โครงการ และ SCOPE จำนวน 2 โครงการ   คอนโดฯ ที่ SC เปิดใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการ The Crest ทำเล Prime ที่สุดของย่านห้าแยกลาดพร้าว ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์รวมคมนาคมแห่งอนาคต โดยใกล้กับ Interchange Station กับ BTS ห้าแยกลาดพร้าว และเพียง 75 เมตร จาก MRT พหลโยธิน พื้นที่ขนาดกว่า 1.3 ไร่ มูลค่า 3,500 ล้านบาท อีกทั้งแวดล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ เช่น เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนียนมอลล์ ที่สำคัญ คือ ใกล้สวนจตุจักร และสวนรถไฟ ที่ได้วิวสวนพื้นที่กว่า 700 ไร่  โดยพัฒนาภายใต้บริษัท เอสซี เอ็นเอ็นอาร์ วัน จำกัด (SC NNR1 Co.,Ltd.) บริษัทร่วมทุนระหว่าง SC กับ Nishitetsu Group ยักษ์ใหญ่และผู้นำในภูมิภาคคิวชู 2. โครงการ The Crest ทำเลสุขุมวิท 23 ย่านใจกลางธุรกิจสำคัญซึ่งผสมผสานความสะดวกสบายใจกลางเมือง ทั้งอยู่ใกล้กับ Interchange Station สถานีอโศก และสุขุมวิท บนพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ มูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยความพิเศษของทำเลนั้น เป็นจุดเชื่อมต่อพื้นที่ lifestyle ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและชอปปิ้ง ในย่านทองหล่อ พร้อมพงษ์ และอโศก   สำหรับบริษัท สโคป จำกัด ซึ่งมีนายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ เป็น CEO บริหารอยู่ ปีนี้จะเปิด คอนโดฯ ใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 10,200 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการ SCOPE หลังสวน บนพื้นที่ประมาณ 2.02 ไร่ มูลค่าโครงการ 7,800 ล้านบาท   2. โครงการ SCOPE ทองหล่อ บนพื้นที่ประมาณ 1.01 ไร่ มูลค่า 2,400 ล้านบาท   โดยสรุปโครงการเพื่อขายทั้งหมด 58 โครงการ แบ่งสัดส่วนแนวราบ : แนวสูง คือ 60:40 ในส่วนแนวราบมี stock พร้อมโอน 3,000 ล้านบาท และ stock จากแนวสูงพร้อมโอน 6 โครงการ 8,400ล้านบาท ได้แก่ โครงการ SALADAENG ONE (ศาลาแดง วัน), BEATNIQ (บีทนิค) สุขุมวิท, CHAMBERS CHER (แชมเบอร์ส เฌอ) รัชดา-รามอินทรา  และ CHAMBERS CHAAN (แชมเบอร์ส ชาน) ลาดพร้าว-วังหิน เป็นต้น พร้อมกับอีก 2 โครงการใหม่สร้างเสร็จพร้อมโอนเพิ่มในปีนี้ คือ   1. โครงการ 28 CHIDLOM (ทเวนติ้เอท ชิดลม)   2. โครงการ CENTRIC RATCHAYOTHIN (เซ็นทริค รัชโยธิน)                
เอสซี แอสเสทฯ เปิดจองครั้งแรก บ้านเดี่ยวและโฮม ออฟฟิศ โครงการใหม่ 2 ทำเล พร้อมรับสิทธิพิเศษ 15-16 ธ.ค.นี้

เอสซี แอสเสทฯ เปิดจองครั้งแรก บ้านเดี่ยวและโฮม ออฟฟิศ โครงการใหม่ 2 ทำเล พร้อมรับสิทธิพิเศษ 15-16 ธ.ค.นี้

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขอแนะนำ 2 โครงการใหม่ บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น โครงการ VENUE (เวนิว) พระราม9 และ โฮม ออฟฟิศ โครงการ WORKPLACE (เวิร์คเพลส)  เพชรเกษม 81-2 เปิดจองพร้อมกันครั้งแรก พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย 15-16 ธ.ค.นี้ โครงการ  VENUE (เวนิว) พระราม 9  บนพื้นที่โครงการกว่า 34 ไร่   จำนวน 143 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท  บ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์ Modern  ด้วยแนวคิด Organic Living ซึ่งออกแบบภายในและภายนอกอย่างมีเอกลักษณ์  โดยพื้นที่ใช้สอยใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพิ่มบรรยากาศแห่งการพักผ่อน ด้วยฟังก์ชั่นที่ลงตัว ราคา 6-10 ล้านบาท มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ได้แก่   1.HAZEL  : พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ , Living Area , Dining Area , Kitchen ,และ 2 ที่จอดรถ 2.ROWAN : พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม.  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ , Living Area , Dining Area , Kitchen , Family Area , และ 2 ที่จอดรถ 3.WILLOW : พื้นที่ใช้สอย 234 ตร.ม.  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ , Foyer , Living Area , Dining Area , Kitchen , Family Area , และ 2 ที่จอดรถ โครงการ VENUE (เวนิว) พระราม 9 ตั้งอยู่ทำเลศักยภาพ ติดถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) เชื่อมต่อทุกการเดินทาง ใกล้ย่าน NEW CBD พระราม 9 ใกล้ทุกความสะดวกสบาย รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ใกล้สถาบันการศึกษา และใกล้ศูนย์การแพทย์ ผ่อนคลายไปกับ Clubhouse ขนาดใหญ่ที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, สวนส่วนกลางขนาดใหญ่, Kid’s Club เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้พักผ่อนและออกกำลังไปด้วยกัน สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.063-197-4666 หรือ Line : @vnpr9  ลงทะเบียนรับสิทธิ์ : http://bit.ly/2NMobyJ ส่วนอีกโครงการคือ WORKPLACE  (เวิร์คเพลส)  เพชรเกษม 81-2 โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น สไตล์ Loft   พื้นที่โครงการกว่า 11 ไร่ จำนวน 112 ยูนิต   มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท  ด้วยที่สุดของทำเลย่านเพชรเกษม ตั้งอยู่ห่างถนนเพชรเกษม เพียง 1.2 กิโลเมตร โครงการติดถนนใหญ่ ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(โครงการในอนาคต) รายล้อมด้วย Community Mall และ สถานศึกษาชั้นนำมากมาย พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบายทั้งรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถประจำทาง พร้อมเชื่อมต่อถนนเส้นหลักหลายสายทั้งเข้าเมือง และ ออกเมือง ได้แก่ ถนนเพชรเกษม,ถนนเอกชัย,ถนนพุทธสาคร,ถนนพุทธมณฑลสาย 3-4 และ ถนนกาญจนาภิเษก ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 163 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท  พร้อมสิทธิพิเศษในวันงาน ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษมูลค่า 100,000 บาท* ได้ที่ www.scasset.com รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 080-604-5660 หรือ Line@ : @wpp81-2          
เอสซีฯ ตั้งบริษัท เอสซี อัลฟ่า อินคอร์ปอเรชั่น ลุยตลาดอสังหาฯอเมริกา ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 17,000 ล้านบาท

เอสซีฯ ตั้งบริษัท เอสซี อัลฟ่า อินคอร์ปอเรชั่น ลุยตลาดอสังหาฯอเมริกา ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 17,000 ล้านบาท

เอสซีฯ รุกลุงทนธุรกิจอสังหาฯ ในอเมริกา   ตั้งบริษัทย่อย เอสซี อัลฟ่า อินคอร์ปอเรชั่น ปี 60 ทำสถิตินิวไฮยอดขายรวมและแนวราบโตกว่า 30% กำไรสุทธิ 1,256 ล้านบาท พร้อมปันผล 0.12 บาท/หุ้น ปี 61 ตั้งเป้ายอดขายและรายได้ 17,000 ล้านบาท โต 36% นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 2560 ยอดขายรวมเท่ากับ 15,280 ล้านบาท โต 32% (YoY) และยอดขายแนวราบ 10,547 ล้านบาท โต 33% (YoY) กลุ่มที่เติบโตมากที่สุด คือ บ้านเดี่ยวระดับราคาน้อยกว่า 5 ล้านบาท หรือแบรนด์ PAVE เติบโต 189% (YoY) ส่วนบ้านเดี่ยวระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ครองมาร์เกต แชร์ อันดับ 1 เติบโตถึง 63% (YoY) และบ้านเดี่ยวรวมทุกระดับราคา เป็นอันดับ 2 ขณะที่ รายได้จากการดำเนินงาน มูลค่า 12,450 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้จากค่าเช่าและบริการ 850 ล้านบาท กับรายได้หลักจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 11,600 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้จากโครงการแนวราบ 9,093 ล้านบาท โต 18% (YoY) และโครงการแนวสูง 2,507 ล้านบาท ลดลง 58% (YoY) เนื่องจากโครงการคอนโดฯ ขนาดใหญ่จะสร้างเสร็จพร้อมโอนได้ในปี 2561 เป็นผลให้รายได้จากการดำเนินงานลดลงเมื่อเทียบกับปี 2559 และมีกำไรสุทธิ 1,256 ล้านบาท ส่วนยอดขายรอโอนหรือ Backlog รวม 9,703 ล้านบาท จะพร้อมโอนปีนี้ 50% อีก 50% ที่เหลือจะโอนในปี 2562-2563  ณ วันที่ 31 ธ.ค. 60 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม และหนี้สินรวมเท่ากับ 38,498 ล้านบาท และ 23,583 ล้านบาทตามลำดับ ทั้งนี้ มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ SC ALPHA Inc.(บริษัท เอสซี อัลฟ่า อินคอร์ปอเรชั่น) ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ได้เห็นชอบให้เสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 2560 ในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น โดยจะนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 เมษายน 2561 ปี 2561 ตั้งเป้ายอดขายและรายได้ 17,000 ล้านบาท โต 11% และ 36% ตามลำดับ มีโครงการที่เปิดขายทั้งหมดรวม 58 โครงการ มูลค่ากว่า 56,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการต่อเนื่อง 39 โครงการ มูลค่ารวม 37,000 ล้านบาท และโครงการเปิดใหม่ 19 โครงการ มูลค่า 19,000  ล้านบาท ซึ่งในเดือนมีนาคมจะเปิด 2 โครงการใหม่ ได้แก่ เซ็นทริค รัชโยธิน (CENTRIC RATCHAYOTHIN)คอนโดฯ ใกล้BTS สถานีรัชโยธินเพียง 150 เมตร บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อาคารสูง 21 ชั้น จำนวน 261 ยูนิต เริ่มต้น 3.7 ล้านบาท โดยได้จัด Speed Online Booking 3 ชั่วโมง! ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ที่ https://booking.scasset.com รับราคาดีที่สุดพร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะวันที่ 6 มีนาคม ก่อนเปิดพรีเซลส์ 10-11 มีนาคมนี้ สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1749 เพฟ บ้านโพธิ์-ฉะเชิงเทรา (PAVE BANPHO-CHACHOENGSAO) บ้านสไตล์โมเดิร์นทำเลติดถนนสุขุมวิท ฉะเชิงเทรา 314 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางหรือฮับของเส้นทางโลจิสติกระหว่าง กทม. - ภาคตะวันออกโดยเป็นจุดศูนย์กลางของการขนส่งสินค้าต่างๆ และ ใกล้โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงในอนาคตสถานีกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา อีกทั้งใกล้นิคมอุตสาหกรรมและแวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคสำคัญต่างๆบนพื้นที่กว่า 36 ไร่ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท จำนวน 144 หลัง ราคาเริ่ม 4 ล้านต้น พรีเซลส์วันที่  24-25 มีนาคม 2561
SC โชว์ยอดขายไตรมาสแรกเติบโต 30% ปลื้มกลุ่มบ้านเดี่ยวราคา 3-10 ลบ. เติบโต 43% พร้อมกับ โครงการ 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม) ได้รับการตอบรับดีมาก มียอดพรีเซลส์ปัจจุบันถึง 70% ของเฟสแรก

SC โชว์ยอดขายไตรมาสแรกเติบโต 30% ปลื้มกลุ่มบ้านเดี่ยวราคา 3-10 ลบ. เติบโต 43% พร้อมกับ โครงการ 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม) ได้รับการตอบรับดีมาก มียอดพรีเซลส์ปัจจุบันถึง 70% ของเฟสแรก

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทุกระดับราคา กล่าวว่า  “ไตรมาส 1/60 บริษัทมียอดขาย 3,420   ล้านบาท เติบโต 30 % เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องจากการได้รับการตอบรับที่ดีจากโครงการแนวราบและแนวสูง คือ กลุ่มบ้านเดี่ยวราคา 3-10 ล้านบาท ในแบรนด์ “เวนิว” และ “เพฟ”  มียอดขายเติบโต 43% พร้อมกับโครงการ 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม) คอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ทำเลบนถนนชิดลม มียอดพรีเซลส์ ณ ปัจจุบันถึง  70%  จากเฟสแรกของอาคาร The Tower โดยมีรายได้รวม 1,756 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท พร้อมมียอดขายรอโอน หรือ Backlog ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นยอดโอนในปีนี้ประมาณ 30%” นายณัฐพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2/60 ว่า “SC จะเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 3,100 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ติดถนนศรีนครินทร์ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เยื้องซีคอน พื้นที่กว่า37 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท จำนวน 73 ยูนิต ราคาเริ่ม 25 ล้านบาท เปิดจองครั้งแรก วันที่ 20-21 พ.ค.นี้ โครงการ เวนิว พระราม 5-2 ตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ พื้นที่กว่า 20 ไร่ มูลค่าโครงการ 760 ล้านบาท จำนวน 90 ยูนิต ราคาเริ่ม 5.99 ล้านบาท เปิดจองครั้งแรก วันที่ 3-4 มิ.ย.นี้” แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ศรีนครินทร์ เวนิว พระราม5-2   นอกจากนี้เป็นครั้งแรกของวงการอสังหาฯ ที่นำเทคโนโลยีทันสมัย Virtual Reality (VR) ให้ลูกค้ารับชมตัวอย่างบ้านผ่านเว็บไซต์เสมือนจริงแบบ 360 องศาได้ที่ https://goo.gl/0qGHOv  และ www.facebook.com/scasset นายณัฐพงศ์ กล่าวสรุปว่า “เราจะนำนวัตกรรมมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมกับแก้ปัญหาที่เป็น pain points ของผู้อยู่อาศัย ด้วยแนวคิด human-centric ที่เข้าใจถึงพฤติกรรม และความต้องการของมนุษย์ โดยจะมุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่มีทั้งนวัตกรรมและคุณภาพสูงในทุกระดับราคา”
SC ยุค 4.0 มั่นใจเติบโตทั้งปริมาณและคุณภาพ ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร พร้อมแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง

SC ยุค 4.0 มั่นใจเติบโตทั้งปริมาณและคุณภาพ ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร พร้อมแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากที่ได้ประกาศยุทธศาสตร์เชิงรุกของ SC ยุค 4.0 ด้วยแนวคิด human-centric ที่เข้าใจถึงพฤติกรรม และความต้องการของมนุษย์ โดยจะมุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่มีทั้งนวัตกรรมและคุณภาพสูงในทุกระดับราคา”  บริษัทจึงปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงาน พร้อมแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง มีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 ดังนี้ แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง โดยแต่งตั้ง นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ เป็นกรรมการบริษัท และดำรงตำแหน่งประธาน เจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร (Chief Corporate Officer) ทำหน้าที่กำกับดูแลสายงาน  Corporate ได้แก่ สายงานการเงิน บัญชี กฎหมาย บริหารทรัพยากรบุคคลและธุรการ เทคโนโลยีสารสนเทศ และสายงานบริหารทรัพย์สิน พร้อมแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในสายงาน 3 ท่าน ดังนี้ นางปรารถนา แพทย์สมาน ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (Chief Financial Officer) นายวิทิต วิศาลพัฒนะสิน ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านบัญชี (Chief Accounting Officer) นายสมบูรณ์ คุปติมนัส ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย (Chief Legal Officer) จัดกลุ่มโครงสร้างสายงานพัฒนาโครงการใหม่เพื่อความคล่องตัว แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ภายใต้การดูแลของผู้บริหารตำแหน่งรองหัวหัวหน้าคณะผู้บริหาร (Deputy Chief Operating Officer) ดังนี้ นายเกรียงศักดิ์  เหี้ยมโท้       ดูแลด้านพัฒนาโครงการ แนวราบ 1 นายมงกุฎ เตโชฬาร           ดูแลด้านพัฒนาโครงการ แนวราบ 2 นายประยงค์ยุทธ   อิทธิรัตน์ชัย  ดูแลด้านพัฒนาโครงการ แนวสูง ตั้งแผนกใหม่ เพื่อทำหน้าที่ออกแบบผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง (Product Design & Innovation Low Rise - Product Design & Innovation High Rise) เพื่อสร้าง concept home ต้นแบบในแต่ละปีให้มีทั้งนวัตกรรมและคุณภาพสูง การปรับเปลี่ยนโครงสร้างครั้งนี้ นับเป็นกลยุทธ์หนึ่งเพื่อสร้างเสริมประสิทธิภาพต่อการเติบโต ทั้งปริมาณและคุณภาพ ของ SC ยุค 4.0
เอสซี แอสเสทฯ เปิดบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม 2 สไตล์ 2 โครงการใหม่

เอสซี แอสเสทฯ เปิดบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม 2 สไตล์ 2 โครงการใหม่

เข้าสู่ไตรมาส 2/2560 บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวซีรี่ยส์ใหม่ 2 โครงการบนทำเลศักยภาพ ได้แก่ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ศรีนครินทร์ (Grand Bangkok Boulevard Srinakarin)  คฤหาสน์หรูแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์ Moroccan ติดถนนศรีนครินทร์ เยื้องซีคอน ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนครินทร์ 38 (อนาคต) สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศแห่ง Marrakesh ตั่งแต่สโมสรของโครงการ กับสระว่ายน้ำในร่มดีไซน์หรูพร้อม Sky light และสวนส่วนกลางที่ดีไซน์อุโมงค์น้ำพุแนวยาว พร้อมศาลาพักผ่อนกลางสวน   เชิญร่วมงาน Grand Opening โครงการใหม่ 20-21 พ.ค. นี้ ที่ Sale gallery พร้อมรับเอกสิทธิ์พิเศษช่วงเปิดโครงการ ราคาเริ่ม 25-60 ล้านบาท และอีกหนึ่งโครงการล่าสุดคือ โครงการเวนิว (VENUE) พระราม 5-2 จากความสำเร็จของโครงการเวนิว VENUE พระราม 5 นำมาสู่โครงการใหม่ที่ได้แรงบันดาลในการออกแบบมาจาก Sense Of Japanese เน้นพื้นที่การใช้ชีวิตภายในบ้านอย่างพิถีพิถัน ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นส่วนตัว เชื่อมต่อถนน เส้นหลักเข้าสู่เมืองได้หลากหลายเส้นทาง ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย 4 มิ.ย.นี้ เชิญร่วมงาน Grand Opening โครงการใหม่ พิเศษเฉพาะ 10 หลังแรก รับเทคโนโลยี Life Smart กล้อง CCTV ติดในบ้าน พร้อมระบบควบคุมการเปิดปิดไฟและเปลี่ยนสีไฟได้โดยผ่าน Application ใน Smart Phone ราคาเริ่มต้น 5.99–15 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน SC ASSET ที่มี Double Security Gate ระบบประตู 2 ชั้น ตลอด 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ, สัญญาณกันขโมยในตัวบ้านระบบ Magnetic และ Shock Sensor, ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1749 หรือ www.scasset.com
เอสซีฯ เติบโตทั้งรายได้และกำไร ปี 59 สรุปรายได้รวม 14,504 ลบ. กำไรสุทธิ 1,968 ลบ. เตรียมเสนอปันผล 0.19 บาทต่อหุ้น ปี 60 พร้อมรุกเปิด 17 โครงการใหม่ มูลค่า 27,000 ลบ.

เอสซีฯ เติบโตทั้งรายได้และกำไร ปี 59 สรุปรายได้รวม 14,504 ลบ. กำไรสุทธิ 1,968 ลบ. เตรียมเสนอปันผล 0.19 บาทต่อหุ้น ปี 60 พร้อมรุกเปิด 17 โครงการใหม่ มูลค่า 27,000 ลบ.

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ ปี 2559 ที่ผ่านมา SC  มีการเติบโตทั้งรายได้และกำไร   ทั้งนี้มาจากการวางกลยุทธ์สำหรับสร้างรายได้ และบริหารค่าใช้จ่าย โดยสามารถรักษาฐานผู้นำส่วนแบ่งตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป, มีการเติบโตทางรายได้จากบ้านเดี่ยวระดับราคา 5-10 ล้านบาท สูงถึง 21 %, และมีการโอนคอนโดได้เกินเป้าหมาย โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา เมื่อประกอบกับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและเน้นการใช้สื่อ Digital Marketing มากขึ้น ทำให้มูลค่ากำไรสุทธิของบริษัทสูงที่สุดในรอบ 14 ปี ” สรุปผลการดำเนินงานปี 2559 SC มีรายได้รวม 14,504 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 14,434 ล้านบาทเติบโต 3% จากปี 2558  ซึ่งรายได้หลักมาจากธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 13,678 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 95% ของรายได้จากการดำเนินงาน  ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าและบริการ 756 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 5%  บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,968 ล้านบาทหรือคิดเป็น 13.6% ของรายได้รวม เติบโต 4% และ มีกำไรต่อหุ้น เท่ากับ 0.47 บาท บริษัทฯ มียอดขายรวม 11,612 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวมเท่ากับ 33,487 ล้านบาท และ 19,046 ล้านบาทตามลำดับ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.32 เท่า พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาผลประกอบการปี 2559 และ มีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.19 บาทโดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ตามแผนปี 2560   SC จะมีโครงการเพื่อขายรวมทั้งสิ้น 49 โครงการ มูลค่า 54,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่า 27,000 ล้านบาท และโครงการต่อเนื่อง 32 โครงการ มูลค่า 27,000 ล้านบาท  โดยในไตรมาสแรกนี้  ได้เปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 2 โครงการ มูลค่า 2,200 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการเฮดควอเทอร์ส เอกมัย – ลาดพร้าว (HEADQUARTERS EKAMAI – LADPRAO) 2. โครงการเดอะ เจนทริ สุขุมวิท (THE GENTRY SUKHUMVIT) และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 8,800 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการทเวนตี้เอท ชิดลม (28 Chidlom) 2. โครงการแชมเบอร์ส เฌอ รัชดา-รามอินทรา (CHAMBERS CHER Ratchada-Ramintra) นายณัฐพงศ์กล่าวสรุปว่า “สำหรับปี 2560 SC  ได้เดินหน้าตามกลยุทธ์เชิงรุกสำหรับ SC ในยุค 4.0 ที่เติบโตทั้งรายได้ควบคู่ไปกับนวัตกรรมและคุณภาพ ด้วยวิธีคิดอย่าง human-centric approach ใช้นวัตกรรมมาแก้ปัญหาที่เป็น seen และ unseen pain points ของผู้อยู่อาศัยโดย SC จะทั้งร่วมงานและร่วมลงทุนกับบริษัท startup หลายแห่ง เพื่อนำนวัตกรรมมาพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้อยู่อาศัย และเรามั่นใจว่า SC จะทำรายได้ทะลุ 20,000 ล้านบาทในปี 2562”
SC ASSET ผู้พัฒนาอสังหาระดับพรีเมี่ยม โชว์ผลงานคราฟท์ทั้งงานสร้างบ้านและคราฟท์ทั้งงานโฆษณา กวาดรางวัลจากการประกวด  Adman Awards & Symposium 2016 กับ B.A.D Awards 2016

SC ASSET ผู้พัฒนาอสังหาระดับพรีเมี่ยม โชว์ผลงานคราฟท์ทั้งงานสร้างบ้านและคราฟท์ทั้งงานโฆษณา กวาดรางวัลจากการประกวด Adman Awards & Symposium 2016 กับ B.A.D Awards 2016

คุณณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และ คุณโฉมชฎา กุลดิลก ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ภูมิใจที่ผลงานจากภาพยนตร์โฆษณาคฤหาสน์หรู ภายใต้แบรนด์ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด เรื่อง “It’s Worth Everything” (The Curator) กวาด 3 รางวัลรวดจากเวที B.A.D Awards 2016 ในหมวด “Best of Craft” ได้แก่ 1. Best of Craft Award in Cinematography 2. Certificate of Excellence in Production design และ 3. Certificate of Excellence in Music and Jingle และรางวัลประเภท Bronze ในหมวด Film จากการเข้าร่วมประกวดในงาน Adman Awards & Symposium 2016 ซึ่งจัดโดยสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย โดยมีแนวคิดสำคัญมาจากการเป็นผู้นำตลาดบ้านหรูที่ “รู้จักและเข้าใจ” กลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง เข้าใจถึงทัศนคติของคนที่เลือกซื้อคฤหาสน์หรู เพื่อให้เป็น “บ้าน” ที่ดีที่สุดสำหรับตนเองและคนสำคัญ เช่นเดียวกับ คฤหาสน์หรู  แกรนด์ บางกอก   บูเลอวาร์ด คนที่มองเห็นว่าอะไร คือคุณค่าที่แท้จริงสำหรับครอบครัว แม้ต้องจ่ายในราคาสูงเท่าไหร่ แต่เพื่อ ‘สิ่งที่มีค่าที่สุด’ ทุกสิ่งที่ทำมันคุ้มค่าเสมอ ผลงานสร้างสรรค์โดย Spa-Hakuhodo เอเจนซีโฆษณาชั้นนำของไทย และผู้กำกับมากฝีมือ คุณวุฒิศักดิ์ อนรรฆพร จากบริษัท Factory01
เอสซี แอสเสท ตอกย้ำภาพลักษณ์สังคมไม่มีรั้ว ส่งแคมเปญ Walk With Me สานต่อปรัชญา ‘For Good Mornings’ ชวนก้าวเดินออกจากรั้วเพื่อไปพบเพื่อนบ้านและมิตรภาพดีๆ พร้อมร่วมส่งต่อแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้สังคม

เอสซี แอสเสท ตอกย้ำภาพลักษณ์สังคมไม่มีรั้ว ส่งแคมเปญ Walk With Me สานต่อปรัชญา ‘For Good Mornings’ ชวนก้าวเดินออกจากรั้วเพื่อไปพบเพื่อนบ้านและมิตรภาพดีๆ พร้อมร่วมส่งต่อแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้สังคม

บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำ ก้าวสู่ปีที่ 13 ของการดำเนินธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ฯ  ด้วยวิสัยทัศน์ที่เติบโตยั่งยืนควบคู่ไปกับการสร้างสังคมเพื่อนบ้านอบอุ่น  ซึ่งในปีนี้ได้สร้างสรรค์คอร์ปอเรทแคมเปญภายใต้ชื่อ “ Walk With Me มิตรภาพดีๆ มีอยู่รอบรั้ว...แค่ออกเดิน” ต่อยอดสโลแกน “For Good Mornings ชีวิตที่ดี มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี” เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าก้าวเดินออกจากบ้าน เพื่อพบมิตรภาพดี ๆ ที่มีอยู่รอบรั้ว  เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านและมิตรภาพอบอุ่น  อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตที่ยั่งยืน นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “เพราะเราเชื่อว่าบ้านที่ดีไม่ได้เป็นแค่ที่พักอาศัย แต่ยังต้องเป็นจุดเริ่มต้นที่นำความสุขและโอกาสดี ๆ มาให้ผู้อาศัยด้วย เรามุ่งสร้างสังคมคุณภาพอันอบอุ่น ในทุกๆ โครงการที่พัฒนาภายใต้แบรนด์ SC ASSET เราเชื่อว่าสังคมอบอุ่นเพราะมี “มิตรภาพ” ดังนั้นจึงได้กิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แก่ลูกค้าของเรามาโดยตลอด โดยแคมเปญ Walk With Me ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สะท้อนถึงจุดยืนดังกล่าว ที่เราอยากให้ทุกคนเชื่อว่าการก้าวเท้าออกเดินจากบ้านเป็นโอกาสที่จะพบปะเพื่อนใหม่ เสริมสร้างสังคมเพื่อนบ้านอันอบอุ่น ให้มีความสัมพันธ์และมิตรภาพที่แข็งแรง ซึ่งได้เลือกการสื่อสารเรื่องราวทั้งหมดนำเสนอผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ พร้อมกับเลือกรองเท้าเดิน adidas มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ ในกิจกรรมร่วมสนุกผ่านโซเชียลมีเดียให้มีโอกาสแบ่งปันบริจาครองเท้ากับมูลนิธิ Second Chance เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้สังคม” แคมเปญ Walk With Me ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารหลัก เนื่องจากสื่อออนไลน์เป็นสื่อที่กำลังเติบโตและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม โดยสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบมิวสิควีดิโอแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ (Interactive Music VDO) ซึ่งนับว่าเป็นนวัตกรรมสุดล้ำครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นสื่อกลางในการเชิญชวนผู้ชม ทั้งลูกค้าและบุคคลทั่วไปมาร่วมกิจกรรม Walk With Me บนเว็บไซต์ walkwithme.scasset.com ภาพยนตร์โฆษณาของแคมเปญ Walk With Me บอกเล่าเรื่องราวมิตรภาพของการเดินใน 3 เส้นทาง ได้แก่ Night Walker, Dream Walker และ Dog Walker  ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมในการเลือกเรื่องราวได้เองถึง 12 รูปแบบที่แตกต่างกัน กำกับโดยโคไซ เซกิเนะ (Kosai Sekine) ผู้กำกับมือรางวัลระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโดดเด่นในการนำเทคนิคใหม่ ๆ มาสร้างความตื่นเต้นแก่วงการภาพยนตร์อยู่เสมอ และสร้างสรรค์เพลงประกอบโดยเจ-มณฑล จิรา ศิลปินแถวหน้าของไทย และแฮนน่า เบ็งสัน (Hanna L Bengtsson) นักร้องและโปรดิวเซอร์ชาวสวีเดน ที่เคยสร้างผลงานอันฮือฮา ร่วมกับ SC ASSET มาแล้วกับแคมเปญ “ฟาร์มรัก” แคมเปญ Walk With Me นี้ ยังมีกิจกรรมต่อยอดให้ทุกคนร่วมสนุกด้วยการลงทะเบียนลุ้นรับรองเท้าเดินรุ่นสุดฮิตจาก adidas หลังจากชมภาพยนตร์โฆษณาจบผ่านทางเว็บไซต์ walkwithme.scasset.com โดยอัพโหลดถ่ายภาพของตัวเองใส่กรอบรูปบนหน้าเว็บ จากนั้นกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วนในแบบฟอร์มออนไลน์ และแชร์ภาพกิจกรรมลงบน Facebook ของตน พร้อมแท็กเพื่อนที่อยากชวนมาร่วมกิจกรรม ใส่ Hashtag #WalkWithMe #SCASSET  ระยะเวลาในการร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม – 7 กันยายน 2559 โดยจะมีการประกาศผลทางอีเมล์ และทางเว็บไซต์ walkwithme.scasset.com ในวันที่ 29 สิงหาคม, 5 และ 12 กันยายน 2559 ผู้โชคดีที่ได้รับรองเท้า  สามารถติดต่อรับได้ในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างช่วงวันที่ 10 กันยายน ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2559 ที่โครงการ BEATNIQ สุขุมวิท 32 คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดของเอสซี แอสเสท นอกจากนั้นผู้ที่มารับมอบรองเท้ายังสามารถร่วมสร้างโอกาสดีๆ แก่สังคม โดยการนำรองเท้าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาบริจาคให้มูลนิธิ Second Chance ซึ่งจะเป็นตัวแทนส่งต่อให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนคลองเตยต่อไป “เราหวังว่าแคมเปญ Walk With Me นี้ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นตัวกลางในการสร้างความสัมพันธ์และความสุขให้แก่ลูกค้าของเราผ่านประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ  โดยคาดหวังว่าจะมีมิตรภาพดีๆ และสังคมเพื่อนบ้านอบอุ่น เกิดขึ้นรอบๆ รั้วโครงการของเอสซี แอสเสทมากขึ้น  นอกจากนั้นการที่เราเปิดโอกาสให้ทุกๆ คน ไม่จำกัดเฉพาะลูกค้า สามารถร่วมแคมเปญได้ เพราะเชื่อว่านี่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างมิตรภาพและสังคมที่ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขยั่งยืน” นายณัฐพงศ์กล่าว