Tag : เอเดรียน ลี

3 ผลลัพธ์
RML ประกาศศักดาลงทุนในสินทรัพย์ “เคพีเอ็น แลนด์” ต่อยอดธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน

RML ประกาศศักดาลงทุนในสินทรัพย์ “เคพีเอ็น แลนด์” ต่อยอดธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน

RML ประกาศศักดาลงทุนในสินทรัพย์ “เคพีเอ็น แลนด์” โครงการ S19 และโครงการ S28 มูลค่า 7,700 ล้านบาท แล้วเสร็จในปี 2566 นอกจากนี้ยังได้เข้าครอบครองยูนิตที่เหลือของโครงการ Diplomat 39 และ Diplomat สาทร ซึ่งพร้อมโอน และจะก่อให้เกิดรายได้เข้ามาในปีนี้“เอเดรียน ลี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ไรมอน แลนด์” มั่นใจช่วยต่อยอดธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานลูกค้า หนุนผลกำไรที่งดงามให้กับบริษัทได้ในอนาคต นายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในทรัพย์สินของบริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL) ประกอบด้วย โครงการ S19 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เนื้อที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ไร่ 0 งาน 8 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท ซอย19 และ โครงการ S28 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เนื้อที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 2 ไร่ 0 งาน 16.4 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ ถนนสุขุมวิท ซอย 28 ซึ่งทางบริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เชิงพาณิชย์ได้ในปี 2566 นอกจากนี้ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติในการเข้าซื้อยูนิตที่เป็นยอดขายรอโอนและยูนิตที่ยังเหลืออยู่จากโครงการ Diplomat 39 และ Diplomat สาทร ตีเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ส่วนใหญ๋ในปี 2561 “เมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว ทาง KPNL จะส่งตัวแทนของบริษัทฯ จำนวน 2 ท่าน เข้ามาเป็นกรรมการในไรมอน แลนด์ ซึ่งตัวแทนของ KPNL ดังกล่าวจะไม่ใช่ผู้มีอำนาจควบคุมการดำเนินงาน โดยผู้บริหารชุดปัจจุบันของไรมอน แลนด์ ยังคงบริหารงานและควบคุมการดำเนินงานเฉกเช่นเดิม แต่เพื่อการเติมเต็มการดำเนินงานซึ่งกันและกันเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ทั้ง 2 บริษัทเดินไปข้างหน้า พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดีๆ ให้กับผู้บริโภค สร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทฯ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่ดี” นายเอเดรียน กล่าว ทั้งนี้การมีพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่นี้จะเป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ และช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการขยายตลาดคอนโดมิเนียมระดับบน อาทิเช่นกลุ่มลูกค้า ซึ่งกว่า 50% ของฐานลูกค้า ไรมอน แลนด์ เป็นชาวต่างชาติ ในขณะที่ KPNL มีฐานลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย ทำให้เรามีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น การออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับ KPNL ในครั้งนี้ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงโดยไม่นับส่วนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงต้องได้รับอนุมัติจาก กลต. ด้วยเช่นกัน
ไรมอนแลนด์ จับมือ โตเกียว ทาเทโมโนะ ผุดโครงการหรูย่านสุขุมวิท- สาทร มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท

ไรมอนแลนด์ จับมือ โตเกียว ทาเทโมโนะ ผุดโครงการหรูย่านสุขุมวิท- สาทร มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท

  ไรมอน แลนด์ จับมือ โตเกียว ทาเทโมโนะ ร่วมทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ 2 โครงการแรกใกล้สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ และสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท     นายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญาร่วมทุนกับ บริษัทโตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ทำเลย่านสาทร ซอย 12 มูลค่าโครงการ 4.2 พันล้านบาท และโครงการบนถนนสุขุมวิท โดยใช้เวลาเดินเพียง 2 นาที จากรถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านบาท หรือมูลค่ารวมกว่า 9.1 พันล้านบาท     "การร่วมทุนระหว่างไรมอน แลนด์ และโตเกียว ทาเทโมโนะ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นถือเป็นโอกาสทองที่จะขยายธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัท รวมทั้งยังคงมองหาความเป็นไปได้ และศึกษาความรู้สำหรับการพัฒนาโครงการในอนาคตร่วมกันในฐานะหุ้นส่วนระยะยาว เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและผลักดันการเติบโตให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองบริษัท ในอีก 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2566) ไรมอน แลนด์ คาดการณ์ว่าธุรกิจจะมีรายได้ประมาณ 10-12 พันล้านบาท การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุน และการบริหารการจัดการงบดุลที่แข็งแกร่งโดยมี D/E อยู่ที่ 0.67 " เอเดรียน ลี กล่าว     นายคะทสึฮิโตะ โอซะวะ กรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ เปิดเผยว่า การตัดสินใจเข้าร่วมทุนกับไรมอน แลนด์ มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เนื่องด้วยความสนใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะเพื่อการอยู่อาศัย การได้จับมือกับหุ้นส่วนที่เหมาะสมอย่างไรมอน แลนด์ จะทำให้สามารถพัฒนาการเป็นหุ้นส่วนระยะยาวร่วมกัน โดยใช้ทั้งความรู้ และประสบการณ์เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดในอนาคต   ปัจจุบัน บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) ได้พัฒนาและบริหารจัดการอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์บริลเลีย (Brillia) สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านรีสอร์ต ธุรกิจของบริษัทโตเกียว ทาเทโมโนะ กรุ๊ป ยังให้บริการด้านที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ที่จอดรถ ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ บริการดูแลเด็ก ธุรกิจต่างประเทศ และธุรกิจประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ โดยรายได้ของบริษัทในปี พ.ศ. 2560 เท่ากับ 77.8 พันล้านบาท  
“ไรมอน แลนด์” ผนึกกำลัง กลุ่มร้านอาหาร “บ้านหญิง กรุ๊ป”

“ไรมอน แลนด์” ผนึกกำลัง กลุ่มร้านอาหาร “บ้านหญิง กรุ๊ป”

  เปิดตัว 3 ร้านแรก “บ้านหญิง”, “ดิงค์ ดิงค์” (Dink Dink) และ ร้านสไตล์ ฮ็อต พ็อต ที่สิงคโปร์ พร้อมวางแผนเปิดในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีน เร็วๆนี้เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก คาดหวังรายได้กว่า 100 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2561 และเติบโตกว่า 1,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี   “บ้านหญิง กรุ๊ป” จะเป็นส่วนร่วมในการผลักดันธุรกิจสายอาหารและเครื่องดื่มของไรมอน แลนด์ ในประเทศสิงคโปร์ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีน พร้อมเปิดตัว 3 ร้านแรก “บ้านหญิง”, “ดิงค์ ดิงค์” (Dink Dink) และ ร้านสไตล์ ฮ็อต พ็อต ที่สิงคโปร์ ในส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยง และสร้างรายได้ประจำที่เกิดขึ้น ไรมอน แลนด์ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ในประเทศไทย ได้ร่วมทุนขยายการลงทุนสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ร่วมกับ “บ้านหญิง กรุ๊ป” เพื่อนำอาหารไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้น 51% โดยบริษัทไรมอน แลนด์ และ 49% โดย บ้านหญิง กรุ๊ป ซึ่งจะดำเนินการ ณ ประเทศสิงคโปร์ ไรมอน แลนด์ มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีน โดยจะเปิดร้านอาหารรวม 10-15 สาขา ภายในปี พ.ศ. 2563 ส่วนเมืองที่เป็นเป้าหมายอื่นๆ นอกเหนือจากสิงคโปร์ ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์พนมเปญ ฮานอย โฮจิมินห์ เซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ซึ่งการจับมือกันครั้งสำคัญกับ “บ้านหญิง กรุ๊ป”  เข้าสู่ตลาดอาหารและเครื่องดื่มนี้ คาดการว่าจะสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2561 และเติบโตไปเป็น 1,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2565)   นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2561 ไรมอน แลนด์ จะเปิดให้บริการร้านอาหารทะเลระดับพรีเมี่ยมริมแม่น้ำ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพฯได้     เอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "นี่เป็นกลยุทธ์ในการก้าวไปข้างหน้าของไรมอน แลนด์ เพื่อกระจายการลงทุนให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดอาหารที่นำอาหารไทยคุณภาพสู่กลุ่มลูกค้าทั่วโลก"     ทรงศร จั่นสัญชัย ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้ง บ้านหญิง กรุ๊ป เพิ่มเติมว่า "ในฐานะที่เป็นธุรกิจครอบครัว เราได้นำเสนออาหารไทยมานานกว่า 20 ปี ด้วยเมนูที่เป็นที่นิยมต่างๆทั่วประเทศไทย คุณภาพอาหารของเรามีความสดใหม่ ทันสมัย และปรุงจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การร่วมมือกับไรมอน แลนด์ในครั้งนี้ เรามุ่งหวังที่จะนำเสนออาหารไทยแก่นักชิมนานาประเทศให้ได้ลิ้มรสอาหารไทยแท้ๆ"     ร้านอาหาร 2 แห่งแรกจะเปิดในอาคาร รอยัล สแควร์ (Royal Square) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตคอมเพล็กซ์เพื่อสุขภาพของ โนวีน่า เฮล ซีตี้ (Novena Health City) ในไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2561 ซึ่งจะมีร้าน ดิงค์ ดิงค์ (Dink Dink) ร้านอาหารขนาด 68 ที่นั่ง ตั้งอยู่บนชั้น 1 นำเสนออาหารไทยในบรรยากาศสบาย ๆ เน้นความสะดวก รวดเร็ว และมีเมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง และเครื่องดื่มไทยโบราณ สำหรับรับประทานทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้ ร้าน บ้านหญิง ขนาด 126 ที่นั่ง ตั้งอยู่บนชั้น 2 ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ และแบรนด์ดั้งเดิมของ “บ้านหญิง กรุ๊ป” โดยนำเสนออาหารไทยที่คนไทยรับประทานทุกวัน ซึ่งเมนูได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีในสไตล์ไทยร่วมสมัย และร้านที่ 3 ภายใต้คอนเซ็ปท์สไตล์ ฮ็อต พ็อท (Hot Pot) ไทย-อีสาน ที่มีรสชาดจัดจ้าน มีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2561 (ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ.2561 นี้)     เขตใจกลางเมือง โนวีน่า (Novena) เป็นศูนย์กลางที่คึกคักที่สุดในย่านใจกลางเมือง สะดวกต่อการเดินทางไปยังสถานีขนส่งสาธารณะ โดยอาคาร รอยัล สแควร์ (Royal Square) อยู่ห่างจากถนนออชาร์ดเพียง 5 นาทีโดยรถยนต์ และห่างจากย่านธุรกิจต่างๆเพียง 8 นาที ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่ล่าสุดใน โดยในเขต โนวีน่า อยู่ท่ามกลางอาคารของรัฐบาล โรงพยาบาลขนาดใหญ่ โรงแรม และโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ การจราจรทางเท้าคาดว่าจะมีกว่า 10,000 คนต่อวัน ซึ่งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในสิงคโปร์มีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท