Tag : แคราย

3 ผลลัพธ์
Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ริมถนนรัตนาธิเบศร์ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง อีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก AP ซึ่งโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ที่เราจะพาไปเยี่ยมชมในครั้งนี้ เพิ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อต้นปี 59 นี้เอง ตัวโครงการอยู่ในตำแหน่งที่น่าสนใจมากครับ เพราะห่างจากสถานีบางกระสอเพียง 250 เมตรเท่านั้น การเดินทางสะดวกมาก ใกล้แยกแครายที่เชื่อมต่อกับถนนติวานนท์ และมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ด้วย   Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่ สูง 25 ชั้น ทางเข้าโครงการอยู่ติดริมถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก พอเลยจากแยกแครายมาประมาณ 1.4 กม. ก็จะเห็นทางเข้าได้อย่างชัดเจน หาไม่ยากเลยครับ ใกล้ๆ กับโครงการมีทั้งศูนย์ราชการนนทบุรี ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี, โลตัส, เอสพลานาดรัตนาธิเบศร์ ในขณะที่เลยไปอีกหน่อย ก็ยังมีห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของย่านนี้เลยทีเดียว   เจาะลึกโครงการ สำหรับตัวโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 จะมีพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่เศษ ซึ่งอัดแน่นไปด้วย Facility ที่ทางโครงการจัดมาแบบเต็มที่ โดย Facility หลักๆ จะอยู่บริเวณชั้นล่างระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 2 ตึก มีทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ความยาว 25 เมตร, ห้องฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ลานกิจกรรมกลางแจ้ง, สนามเด็กเล่น, สวนขนาดใหญ่, ล็อบบี้เปิดรับวิวแบบ 360 องศา, Bike Lane และ Jogging Track รอบโครงการ ในขณะที่พื้นที่จอดรถจะแยกส่วนออกมาเป็นอีกหนึ่งอาคาร สามารถรองรับปริมาณรถได้มากถึง 45% เลยทีเดียว Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกายรอบโครงการ Bike Lane อยู่คนละฝั่งถนนกับ Jogging Track Main Lobby จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ใกล้ๆ กับ Lobby จะมีสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ฟิตเนสจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยนะครับ จากฟิตเนสมองออกมาเห็นสระว่ายน้ำ ใกล้ๆ กันก็จะมีห้องน้ำ พร้อมห้องซาวน่าและตู้ล็อกเกอร์ แยกชาย-หญิง ข้อดีอย่างหนึ่งของการที่มี Facility อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัยคือ ลูกบ้านทุกคนสามารถลงมาใช้บริการได้สะดวกเท่าเทียมกัน แถมโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 นี้ยังเป็นอาคารสูงถึง 25 ชั้น จึงช่วยบังแดดได้เป็นอย่างดีเกือบตลอดทั้งวัน บริเวณสระว่ายน้ำจึงร่มรื่น สามารถลงเล่นน้ำได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องกลัวแดดร้อนกันเลย ในส่วนของที่พักอาศัยนั้นจะเริ่มกันตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคารเลยนะครับ แต่มีจำนวนห้องไม่มากนักในบริเวณชั้นล่าง ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหาส่วนกลาง เปิดรับวิวสระว่ายน้ำ และสวนสวยๆ แบบใกล้ชิดกันไปเลย นอกจากนี้บริเวณชั้น 8 ของอาคาร A ด้านที่ติดกับอาคารจอดรถ ทางโครงการยังจัดแต่งพื้นที่ดาดฟ้าของอาคารจอดรถให้เป็นสวนลอยฟ้าขนาดย่อม สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน รับลมชมวิวได้สบายๆ ห้องพักทางด้านทิศเหนือของอาคาร A จึงได้วิวสวนสีเขียวเพิ่มขึ้นมาอีกด้านไปโดยปริยาย จากแปลนอาคารจะเห็นถนนทางเข้าโครงการด้านขวามือ ก่อนจะเข้ามาเจออาคารจอดรถเป็นอาคารแรก ทางเข้าโครงการ ถนนทางเข้าโครงการร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ มีทางเท้าสำหรับเดินเข้าโครงการอยู่คู่ขนานกับถนน Main ขับรถเข้ามาด้านในแล้วจะเจออาคารจอดรถอยู่ทางด้านขวามือ อาคารจอดรถสูง 8 ชั้น อยู่ติดกับอาคาร A ทางขึ้นอาคารจอดรถ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ทั้ง 2 อาคารเลยนะครับ แต่อาคาร A จะมีน้อยกว่า เพราะติดกับอาคารจอดรถ ชั้น 3-7 ห้องพักอาศัยจะเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่อาคาร A ก็ยังติดอาคารจอดรถอยู่ ขึ้นมาถึงชั้น 8 จะเป็นชั้นสุดท้ายของอาคารจอดรถ ซึ่งชั้นดาดจะถูกทำเป็นสวนส่วนกลาง ตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไปจนถึงชั้น 25 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะมีประมาณ 31 ห้องต่อชั้น ห้องพักของ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีทั้งหมด 1,428 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือแบบ 1 Bedroom และ 2  Bedroom โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 24.5 ตร.ม. นะครับ เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการกันว่าจะน่าอยู่มากแค่ไหน   เปิดห้องตัวอย่าง ปัจจุบันทางโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีลูกบ้านย้ายเข้ามาพักอาศัยกันเป็นจำนวนพอสมควรแล้วนะครับ ดังนั้นใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่สามารถติดต่อเข้ามาขอชมห้องในบรรยากาศจริงได้เลย เปิดห้องตัวอย่างห้องแรก เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่ขนาด 24.5 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการเลย แต่การออกแบบ Layout ภายในห้องค่อนข้างลงตัว เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีทีเดียว หลังประตูทางเข้าห้อง จะเป็นพื้นที่ของ Living Area ติดกันเป็นบริเวณห้องนอน ซึ่งมีประตูกระจกบานใสกั้นไว้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้อง ในขณะที่ห้องครัวและมุมกินข้าวจะอยู่ถัดไปอีกด้านที่ติดกับระเบียงนะครับ บรรยากาศโดยรวมภายในห้องค่อนข้างโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ที่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ห้องเลยไม่อับทึบถึงแม้จะมีขนาดเพียง 24.5 ตร.ม. ก็ตาม เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ ช่วงนี้โครงการมีโปรโมชั่นจัดเฟอร์นิเจอร์ของ SB มาให้เรียบร้อย ตรงนี้จะได้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง แต่ดูจากพื้นที่แล้วถ้าใครอยากได้ใหญ่กว่านี้ก็สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านชั้นวางทีวีโครงการก็จัดเตรียมมาให้ด้วยนะครับ ติดกับ Living Area จะเป็นห้องนอน มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น โครงการวางเตียง 5 ฟุตไว้ให้ พร้อมฟูก ติดกับหัวเตียง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ให้ด้วย ปลายเตียงโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้ มุมมองจากห้องนอนออกมาที่ Living Area จากห้องนอนเราไปดูกันต่อที่ห้องครัวเลยนะครับ ห้องนี้จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ ไม่ได้มีประตูกระจกกั้นให้ ภายในห้องครัวโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมโต๊ะทานอาหาร เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจาน พร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ที่โครงการจัดมาให้ในช่วงโปรโมชั่น ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนครัว พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ห้องน้ำจะอยู่อีกด้านของห้องครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 ที่เปิดให้ชมคือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้ ดูเผินๆ แล้วจะมีการจัดวาง Layout ภายในห้องใกล้เคียงกับห้องแบบแรกมากเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมีมากกว่า ครัวที่ได้จึงเป็นครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนเพิ่มเข้ามา ในขณะที่ห้องนอนก็จะเป็นผนังทึบแทนกระจกบานเลื่อน ส่วนห้องน้ำก็เปลี่ยนมาเข้าออกจากในห้องนอนแทนครับ ห้องนี้จะได้เปรียบกว่าตรงที่ได้ครัวปิด มีประตูกั้นเรียบร้อย สามารถทำอาหารจริงจังได้มากกว่าแค่จัดเตรียม อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน พื้นที่ครัวก็กว้างขึ้นอีกหน่อย วางโต๊ะกินข้าวเข้ามุมไว้ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้อีกสบายๆ ครับ เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ พื้นที่บริเวณ Living Area กว้างอยู่พอสมควร โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีอยู่ติดกับตู้เก็บของ ตู้เก็บของ Built-in อยู่หน้าประตูห้อง ต่อจาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องครัว Type นี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ด้านในครัวจะคล้ายๆ กับห้องก่อนหน้านี้ที่เราดูกันมา ตู้เย็นวางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจานพร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านบนจะเป็นตู้ลอยเก็บของ ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ระเบียงจะอยู่ต่อจากห้องครัว ธรณีประตูยกขึ้นมาค่อยข้างสูงทีเดียว พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร เรามาดูกันต่อที่ห้องนอนนะครับ พื้นที่ในห้องนอนกว้างพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก ถ้าอยากติดทีวีไว้ในห้องด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบติดผนัง ซึ่งโครงการก็เตรียมปลั๊กไว้ให้เรียบร้อย โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้ที่ปลายเตียง หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ จะมีบานกระทุ้งเป็นบานเล็ก 1 บาน ส่วนที่เหลือจะเป็นบาน Fix ห้องตัวอย่างที่เราได้มาดูกันจะอยู่ที่ชั้น 9 มองออกไปจะเห็นสวนสีเขียวที่อยู่บนชั้น 8 อีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางของไว้หน้าห้องน้ำ การจัดวาง Layout ห้องน้ำ Type นี้จะต่างกับห้องแรกอยู่พอสมควรนะครับ เนื่องจากขนาดห้องที่ใหญ่กว่า ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard เหมือนกัน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ตรงกลางจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยนะครับ ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ ห้องแบบสุดท้ายที่เราจะเปิดชมกันก็คือ ห้อง 2 Bedroom ซึ่งมีให้เลือกขนาดเดียวคือ 45.5 ตร.ม. ส่องจาก Layout ห้องก็ว่าเป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีแล้ว พอเปิดห้องจริงก็ต้องบอกว่าภายในเป็นสัดส่วน เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกันมากๆ โซนกลางห้องเป็น Living Area ติดกับระเบียงซึ่งเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้ค่อนข้างเต็มที่ ในขณะที่พื้นที่ครัวก็กว้างขวาง เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ ซึ่งเข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากด้าน Living Area และ Master Bedroom ห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอนนี้ จัดแบ่งห้องนอนไว้คนละด้าน นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้ว แต่ละห้องยังสามารถเปิดรับวิวจากกระจกบานใหญ่ได้อย่างเต็มตา ขณะเดียวกันถ้าพื้นที่ของห้องนอนเล็ก ก็สามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ อาจจะใช้เป็นห้องทำงาน ห้องเป็นของ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็จะช่วยให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นได้ แต่ถ้าครอบครัวไหนมีลูกเล็กๆ ขนาดห้องนี้ก็กำลังกะทัดรัดพอดิบพอดีเลยครับ เข้ามาในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่ Dining Area โล่งๆ ก่อนจะเห็น Living Area ที่อยู่ด้านใน เรามาดูด้านซ้ายมือกันก่อนนะครับ ด้านซ้ายมือจะห้องน้ำ การจัดวาง Layout จะแตกต่างจาก 2 ห้องที่ผ่านมาเลยนะครับ ส่วนสุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนกัน เริ่มจากอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ที่มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พื้นที่ใน Shower Box กว้างขวางใช้ได้เลยครับ ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ ออกจากห้องน้ำมาเราข้ามไปดูห้องครัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันต่อ ครัวของห้องนี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ พื้นที่ในห้องครัวค่อนข้างกว้างเลยนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะได้ชุดใหญ่กว่า 2 ห้องที่ผ่านมา จะมีซิงค์ล้างจานพร้อมพื้นที่เตรียมอาหาร ซิงค์ล้างจานแบบหลุมของ Teka ด้านบนเป็นชั้นลอยเก็บของ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่โล่งๆ สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ห้องครัว Type จะไม่มีระเบียงให้นะครับ แต่จะมีหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมบานกระทุ้ง ไว้สำหรับระบายกลิ่นอาหารในห้องครัว กลับมาเข้าในห้อง มาดูพื้นที่ Dining Area กันต่อ ตรงนี้โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งไว้ให้ จะอยู่บริเวณหน้าห้องครัวเลยนะครับ เตรียมอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสิร์ฟกันได้เลย ถัดจาก Dining Area เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งก็ได้นะครับ ส่วนด้านที่วางทีวีโครงการ Built-in เป็นชั้นวางทีวีมาให้ด้วย จะวางบนชั้นวาง หรือจะใช้ทีวีแบบติดผนังเหมือนในห้องตัวอย่างก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้อีกแบบครับ ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ธรณีประตูยกขึ้นมาสูงทีเดียวครับ เวลาก้าวข้ามก็ระวังกันนิดนึงนะครับ พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวเท่าๆ กับพื้นที่ Living Area ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควรเลยนะครับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกว่าไว้ที่ระเบียง หันหน้าเป่าลมร้อนออกด้านนอก เรากลับเข้ามาด้านใน ขวามือของ Living Area จะเป็นห้องนอนเล็ก ด้านในห้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียงขนาดประมาณ 3 ฟุตไว้ให้ ซึ่งขนาดเตียงจะลงล็อกพอดีเป๊ะเลยนะครับ ปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังแบบนี้ก็ได้ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fix และบานกระทุ้ง 1 บาน ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in โต๊ะเครื่องแป้ง วางไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า มาถึงห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านซ้ายมือของ Living Area โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่านะครับ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เป็นบาน Fix และมีบานเล็กเป็นกระทุ้ง ข้างเตียงอีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า ในห้องนอนจะมีประตูเข้าห้องน้ำอีกด้านนึงด้วยนะครับ จะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย ทางเข้าห้องน้ำจากฝั่งห้องนอน ด้วยความที่โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 อยู่ติดกับถนนใหญ่เลย แถมยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกด้วย จึงค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง ไม่ว่าจะด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือรถส่วนตัว ยิ่งถ้าใครต้องทำงานในช่วงโซนนนทบุรีอยู่แล้ว ก็ยิ่งสะดวกกว่ามากในการเดินทางไปกลับจากที่ทำงาน นอกจากนี้ในอนาคต บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีจะเป็นจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯได้มากขึ้นไปอีกครับ รอบๆ โครงการถึงแม้จะไม่ได้มีร้านค้าร้านอาหารให้พึ่งพาในระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ แต่ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าถัดออกไปอีก 1 หรือ 2 สถานีก็จะมีห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้งให้พึ่งพาได้สบายๆ ทั้ง ห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และเทสโก้ โลตัส ส่วนภายในโครงการ ต้องบอกว่าทางโครงการจัด Facility มาแน่นเต็มที่มากๆ แถมห้องทุกห้องก็ขายให้แบบ Fully Fitted คือมีให้ทั้งเครื่องปรับอากาศ, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, สุขภัณฑ์และที่กั้นอาบน้ำ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็จัดมาให้คุ้มค่าคุ้มราคา ตามมาตรฐานทุกชิ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะครับ สำหรับที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากจะลองเข้าไปชมห้องตัวอย่างด้วยตัวเองก็สามารถนัดหมายกับเจ้าหน้าที่โครงการได้เลยครับ
Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,600,000บาท บาท/ตารางเมตร 70,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จุดเด่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี อยู่ในย่านแหล่งความเจริญใหม่ในอนาคต จุดด้อย สำหรับการซื้อลงทุน น่าจะหาผู้เช่าได้ยาก โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ 2558 ที่ตั้ง: Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 9-1-91.7 ไร่ ที่ตั้ง ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พิกัดโครงการ 13.86031,100.508058 ระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย (สายสีม่วงสถานีศรีพรสวรรค์ )   สถานที่สำคัญใกล้เคียง แยกนนทบุรี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ สะพานพระนั่งเกล้า บิ๊กซี ลักษณะโครงการ: Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bed 2 Bed ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom 24.50 – 30 ตร.ม. 2 Bedrooms 45.50 ตร.ม. จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 25 ชั้น จำนวนห้อง 1,428 ยูนิต   ส่วนกลาง: Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 503 คัน (35%)ไม่รวมซ้อนคัน (รวมซ้อนคันได้ประมาณ 40%) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 40 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 350 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รปภ. กล้องวงจรปิดโครงการ ประตู Key Card รถรับส่ง สวนหย่อม   เพิ่มเติม: Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-950-4744 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.apthai.com/คอนโด/aspire/aspire-rattanathibet-2/ ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2557
Vio แคราย : รีวิวคอนโด

Vio แคราย : รีวิวคอนโด

รีวิวครั้งนี้เราจะพาไปดูคอนโด Low Rise ติดสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรี ของ บริษัท รื่นฤดี ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ซึ่งยังถือว่าเป็นมือใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียม แต่ถ้าเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบบริษัทนี้เค้าทำมานานและทำมาหลายโครงการแล้วเหมือนกัน พอหันมาพัฒนาโครงการแนวสูงปุ๊ป ก็ถือโอกาสเปิดตัวทีเดียว 2 โครงการพร้อมๆ กันเลย ซึ่งเราจะเริ่มพาไปดูที่โครงการ Vio แคราย กันก่อนว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง การเดินทาง เป็นเพราะว่ามีสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีตั้งอยู่หน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์10 ซึ่งอยู่ใกล้กับตัวโครงการ Vio แครายมากเสียจนแทบจะเรียกได้ว่ารั้วติดกันอยู่แล้ว จะขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าก็เดินไปแค่ 50 เมตรจากประตูหน้าโครงการก็ถึงบันไดเลื่อนขึ้นรถไฟฟ้าเลย ข้อนี้จึงถือเป็นจุดแข็งสำคัญของโครงการ Vio แครายเลยทีเดียว ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามีความสะดวกสบายมากที่สุดสำหรับคนที่มีที่ทำงานอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีฟ้าสร้างเสร็จและเปิดให้บริการครบทุกสาย การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในบริเวณนี้จะยิ่งสะดวกมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเพราะสถานีศูนย์ราชการเป็นจุดเชื่อมต่อ (Interchange) ของรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายเลย ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็ถือว่าสะดวกไม่แพ้กันถ้าไม่ติดปัญหารถติดอันหนักหน่วงที่แยกแครายในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน ถนนหนทางรอบโครงการก็มีเส้นทางหลีกเลี่ยงเข้าเมืองได้หลายทาง อีกทั้งยังมีด่านทางด่วนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก จะติดก็แต่ทำเลของซอยรัตนาธิเบศร์ 10 นี่แหละที่ดันอยู่ติดกับตีนสะพานกลับรถพอดิบพอดี เมื่อกลับรถลงจากสะพานมาแล้วจะไม่สามารถเบี่ยงซ้ายเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ได้เลย ทำให้เราต้องขับรถเลยห้าง Central รัตนาธิเบศร์ไปกลับรถที่สะพานกลับรถที่ 2 นับจากแยกแคราย ซึ่งไกลพอสมควรเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้แล้ว การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็ยังคงสะดวกดี เพราะมีทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการเพียบ วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ โครงการ Vio แคราย ตั้งอยู่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ถึงก่อนศูนย์ราชการนนทบุรีเพียง 200 เมตรเท่านั้น ซึ่งภายในศูนย์ราชการฯ ยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนและออกกำลังกายได้ด้วย ช่วงเย็นๆ บริเวณนี้จึงถือว่าค่อนข้างคึกคักอยู่พอสมควร เพราะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ออกมาทำกิจกรรมที่สวนสาธารณะนี้กันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีห้าง Esplanade รัตนาธิเบศร์ และ Tesco Lotus อยู่ถัดออกไปอีกเพียง 500 เมตร ซึ่งอยู่ในระยะเดินถึงได้ง่าย จึงน่าจะเป็นที่พึ่งหลักๆ ที่จะฝากท้อง หรือใช้เป็นที่จับจ่ายซื้อของได้สบาย แต่ถ้ายังมีตัวเลือกไม่พอ ฝั่งตรงข้ามก็ยังมีห้าง Big C ที่อยู่ห่างออกไปไกลจากโครงการมากอีกหน่อยแต่ก็ยังพออยู่ในระยะที่เดินได้ไม่ยาก รวมถึงห้าง Central รัตนาธิเบศร์, The Mall งามวงศ์วาน, ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ซึ่งอยู่ในระยะเดินทางไม่เกิน 5 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีสถานที่ราชการสำคัญๆ สถานพยาบาล โรงเรียน และวัดอีกหลายแห่งอีกด้วย ในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ ปัจจุบันยังมีที่ดินว่างอยู่ทั้งด้านซ้ายและฝั่งตรงข้ามของโครงการ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในอนาคตจะมีโครงการอื่นๆ มาขึ้นบังวิวหรือไม่ ในขณะที่บริเวณเยื้องๆ กันกับโครงการเป็นอู่ซ่อมรถ และถัดเข้าไปอีกหน่อยก็มีคอนโด The Connextion ที่สร้างมาก่อนและคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกไม่นานนี้ นอกเหนือจากนี้รอบๆ ก็จะเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบ ทั้งอาคารพาณิชย์ริมถนนรัตนาธิเบศร์ และบ้านเดี่ยวที่อยู่ในซอยติดกัน จึงยังไม่เห็นปัญหาเรื่องการถูกบังวิวซักเท่าไหร่ครับ ตัวอาคารของ Vio เป็นตึก Low Rise สูง 8 ชั้น ที่ออกแบบมาตามสไตล์สมัยนิยมทั่วๆ ไป มีจำนวนยูนิตรวม 125 ยูนิต บนเนื้อที่387 ตารางวา ซึ่งถือว่าพื้นที่ของโครงการค่อนข้างเล็กนะครับ จึงทำให้การจัดวางพื้นที่ส่วนกลางมีข้อจำกัดตามไปด้วย ทั้งในเรื่องของตัวอาคารที่ออกแบบมาเป็นรูปตัว U และมีการวางสระว่ายน้ำ (ระบบน้ำเกลือ) ไว้กลางตึก ทำให้ขนาดของสระว่ายน้ำค่อนข้างเล็กเกินไปสำหรับการใช้งาน ในขณะที่ห้อง Fitness ห้องซาวน่า และสวนก็กระจายกันอยู่คนละชั้น ไม่มีพื้นที่เชื่อมต่อถึงกัน จึงทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ในส่วนของที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป โดยให้พื้นที่บริเวณชั้น 1 เป็นที่จอดรถทั้งหมด ซึ่งสามารถรองรับจำนวนรถได้ถึง 40% (รวมจอดซ้อนคันแล้ว) ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากขนาดนี้ เรื่องลิฟท์โดยสารที่มีมาให้ 2 ตัว ก็ไม่ถือว่าหนาแน่นครับ ใช้กันได้สบายๆ ที่สัดส่วนลิฟท์ 1 ตัวต่อ 63 ยูนิต เท่านั้น โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าจะมี Facility ให้มาเยอะและครบถ้วนนะครับ แต่ก็มีพื้นที่มาแบบจำกัดจำเขี่ยเหมือนกัน ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้คาดหวังกับการใช้สอย Facility ส่วนกลางพวกนี้มากนักก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ครับ พาชมห้องตัวอย่าง สำนักงานขายของโครงการ Vio แคราย จะอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการนะครับ ดังนั้นถ้าจะชมห้องตัวอย่างก็ต้องไปที่แยกติวานนท์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ Vio ติวานนท์นั่นเอง ทั้ง 2 โครงการใช้แบบห้องคล้ายๆ กัน ซึ่งขนาดห้องที่มีให้ชมกันก็คือห้อง Type A ที่มีขนาดเริ่มต้นที่ 31 ตร.ม. ซึ่งมีการจัดสรรพื้นที่มาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีครับ ห้องแบบนี้จะมีทางเข้าห้องน้ำจากบริเวณห้องครัว ซึ่งอยู่รวมกับพื้นที่นั่งเล่น ห้องครัวเป็นแบบเปิดตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าพอดี เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมีแถมมาให้แบบ Fully Furnished แล้ว เช่น โต๊ะกินข้าวแบบพับ-ขยายได้ ตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอน ตู้เก็บของ และเคาน์เตอร์ครัว พร้อมเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน เฟอร์นิเจอร์ที่โชว์ในห้องตัวอย่างถ้าชิ้นไหนแถมมากับห้องก็จะมีสติ๊กเกอร์แปะไว้ให้เห็นชัดเจนครับ พื้นห้องทางโครงการเลือกปูพื้นกระเบื้องในบริเวณห้องนั่งเล่น และห้องครัว พื้นลามิเนตจะปูให้เฉพาะในห้องนอนเท่านั้น เรื่องวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำก็จัดมาได้ค่อนข้างดี และมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยรวมแล้ว Layout ห้องของ Vio หน้าตาเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปครับ แต่เราจะรู้สึกว่าการจัดห้องของเค้าทำได้ค่อนข้างลงตัวดีทีเดียว เพราะเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ถูก Built-in และจัดตำแหน่งมาเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ค่อยเห็นว่ามีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนอยู่ผิดที่ และรู้สึกรกหูรกตา หรือทำให้ห้องอึดอัดมากนัก ทั้งๆ ที่เพดานห้องสูงแค่ 2.4 เมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่าเพดานค่อนข้างเตี้ยถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆ ในปัจจุบันที่เฉลี่ยความสูงของเพดานจะอยู่ที่ 2.6-2.7 เมตร นอกจากห้องแบบ 1 ห้องนอนแล้วทางโครงการยังมีห้องแบบ 2 ห้องนอนให้เลือกด้วยนะครับ แต่ว่าไม่มีห้องตัวอย่างให้ชม คงต้องพิจารณาเอาจากแบบแปลนผสมจิตนาการกันเอาเอง ความคุ้มค่าการลงทุน พื้นที่ในแถบแครายนี้ มีคอนโดหลายโครงการให้เลือกเปรียบเทียบเยอะมาก ซึ่ง Vio แครายเองก็ถือจุดเด่นในเรื่องการทำเลที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเอามากๆ ดังนั้นคนที่ต้องการหาที่อยู่ในบริเวณแคราย และมีการเดินทางโดยรถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยที่ไม่เน้นการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ รวมทั้งไม่แคร์เรื่องวิวสวยๆ และไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ Facility มากนัก เพราะชีวิตส่วนใหญ่ทำงานกลับบ้านและนอน โครงการนี้อาจจะพอขยับความน่าสนใจขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย หรือถ้ายิ่งทำงานอยู่ในศูนย์ราชการนนทบุรีก็น่าจะลงตัวมากๆ เพราะอาศัยการเดินแค่ 200 เมตรเท่านั้นก็ไปกลับบ้านกับที่ทำงานได้แบบไม่ต้องแคร์ปัญหาเรื่องการจราจรเลย ส่วนเรื่องการลงทุนเพื่อการปล่อยห้องเช่า คงต้องคำนวนกันให้ดีๆ ครับ อย่างที่บอกว่ามีคอนโดอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก ตัวเปรียบเทียบจึงเยอะตามไปด้วย แล้วยิ่งในบริเวณรอบๆ ก็ไม่ได้มีออฟฟิศใหญ่ๆ หรือเป็นย่านธุรกิจ กลุ่มคนหลักๆ ของบริเวณนี้น่าจะเป็นคนที่ทำงานในศูนย์ราชการ กระทรวงสาธารณะสุข หรือหน่วยงานราชการใกล้ๆ แคราย การจะหาคนมาเช่าห้องในราคา 10,000 บาท/เดือนเป็นอย่างน้อย อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่เลยครับ และด้วยราคาของห้องที่เริ่มต้นก็เปิดมา 2 ล้านต้นๆ แล้ว การลงทุนจึงต้องพิจารณาให้ละเอียดหน่อย ว่าห้องเช่าขนาด 31 ตร.ม. นี้จะหาจุดทำกำไรได้อย่างไรบ้าง