Tag : แอสเซทไวส์

11 ผลลัพธ์
แอสเซทไวส์ รุกเจาะทำเลทองย่านแจ้งวัฒนะ เปิดตัว “แอทโมซ  แจ้งวัฒนะ”

แอสเซทไวส์ รุกเจาะทำเลทองย่านแจ้งวัฒนะ เปิดตัว “แอทโมซ แจ้งวัฒนะ”

“แอสเซทไวส์” รุกเจาะทำเลทองย่านแจ้งวัฒนะ เปิดโครงการ “แอทโมซ แจ้งวัฒนะ” คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สไตล์รีสอร์ท จำนวน 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 625 ยูนิต แบบ Fully Furnished ที่มีเอกลักษณ์ พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยสอดรับกับไลฟ์สไตล์ทุกยูนิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายครบครันถึง 3 ชั้น ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 1,100 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพแจ้งวัฒนะ  -เลียบคลองประปา ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท โดยพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้   นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัย เพื่อการใช้ชีวิตที่ดี ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” (We Build Happiness) เปิดเผยว่า “หลังจากที่บริษัทฯ ได้ขยายศักยภาพของการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่อย่างโครงการเคฟทาวน์ และได้รับความสนใจจากการเปิดพรีเซลล์ไปเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทฯ ยังคงศึกษา และมองเห็นความต้องการที่ต่อเนื่องของลูกค้าอีกกลุ่ม นั่นคือกลุ่มคนทำงานในย่านแจ้งวัฒนะ ล่าสุด บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์แอทโมซเพิ่มอีกหนึ่งโครงการ ได้แก่ “แอทโมซ แจ้งวัฒนะ” (Atmoz Chaengwattana) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนเลียบคลองประปาใกล้สี่แยกคลองประปาตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ โดยถือว่าเป็นทำเลที่มีการเติบโตของภาคธุรกิจ และการขยายตัวของการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นที่สำคัญของพื้นที่ คือความสะดวกสบายในการเดินทางทั้งเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือเดินทางเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม โดยมีถนนเส้นหลักอย่างถนนแจ้งวัฒนะที่สามารถเชื่อมตรงเข้าสู่เมือง พร้อมกันนั้นยังมีจุดขึ้นลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ และศรีสมาน หรือแผนการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูของรัฐในอนาคต ซึ่งโครงการ “แอทโมซ แจ้งวัฒนะ” จะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีแจ้งวัฒนะ 14 และสถานีศรีรัช อีกด้วย”   “แอทโมซ” (Atmoz) เป็นหนึ่งในแบรนด์คอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ที่ประสบความสำเร็จ จากการเน้นเลือกทำเลที่มีศักยภาพสะดวกสบายในการเดินทาง รวมถึงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด อาทิ แอทโมซ ลาดพร้าว 71 ซึ่งขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 70 % และจะก่อสร้างเสร็จตรงตามที่กำหนดไว้ในเดือน พ.ค นี้อย่างแน่นอน ในขณะที่แอทโมซ รัชดา – ห้วยขวาง ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยังสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 40 % ทีเดียว สำหรับทำเลย่านแจ้งวัฒนะ มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้พักอาศัยในพื้นที่ ทำให้ทำเลแจ้งวัฒนะ กลายเป็นทำเลเด่นที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศสำนักงานทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ อย่าง “ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ” บริษัทเอกชนต่าง ๆ และสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ซึ่งถ้ามองในมุมตลาดการเช่าคอนโดมิเนียมในโซนของแจ้งวัฒนะเอง ยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่มากสำหรับการอยู่อาศัย เนื่องจากอยู่ในแหล่งงานที่มีดีมานต์สูง โดยมีราคาขายเฉลี่ยที่ 63,000 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจมาก และคาดว่าเมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูก่อสร้างเสร็จจะทำให้ได้รับอัตราผลตอบแทนที่ดี จึงถือว่าย่านแจ้งวัฒนะจะสร้างความคึกคักในตลาดอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง” นายกรมเชษฐ์ กล่าวเสริม   แอทโมซ แจ้งวัฒนะ” (Atmoz Chaengwattana) ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด Futuristic Design ที่มีความอบอุ่น ผ่อนคลาย และมีสไตล์ พร้อมการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ที่มีเอกลักษณ์ โดยเน้นคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่า พร้อมมอบเทคโนโลยีเพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยในทุกยูนิต อาทิ Bluetooth Sound System ที่ไม่ว่าจะอยู่บริเวณไหนของห้องก็สามารถเพลิดเพลินกับการฟังเพลงได้ทุกที่, Thermostat ระบบระบายความร้อนภายในห้อง, Rescue Alarm ระบบแจ้งเตือนอุบัติเหตุภายในห้องพัก และ LED Lighting Motion Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวติดตั้งที่ปลายเตียง ช่วยเปิด – ปิดไฟอัตโนมัติ   นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการครบครันถึง 3 ชั้น ที่ออกแบบทุกรายละเอียดให้การพักผ่อนไม่ธรรมดา และไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม โดยได้รับการออกแบบได้โดดเด่นทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน รองรับกิจกรรมของลูกบ้านได้ 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็น SECRET GARDEN พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางโครงการ มาพร้อมกับ THE OASIS POOL สระว่ายน้ำท่ามกลางสวนขนาดใหญ่ WATERFALL KIDS POOL สระว่ายน้ำเด็กพร้อมม่านน้ำตก TASTY2PARTY SPACE เพิ่มพื้นที่ให้กับงานปาร์ตี้พิเศษของ ทุกคน LIFEBRARY สำหรับความเป็นส่วนตัวกับการอ่านหนังสือเล่มโปรด CO-CREATIVE SPACE พื้นที่สำหรับนั่งทำงาน และยกระดับด้วย ADAPTABLE MEETING ROOM ห้องประชุมที่สามารถปรับโต๊ะได้ตามจำนวน ที่ต้องการ O2 JOGGING TRACK พื้นที่ออกกำลังกายเพื่อเปิดรับออกซิเจนในสวนได้ทุกวัน เป็นต้น และมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง   “แอทโมซ แจ้งวัฒนะ” (Atmoz Chaengwattana) เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 625 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,100 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการกว่า 4 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา ใกล้สี่แยกคลองประปาตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ ประกอบด้วยห้องชุด 4 แบบ ได้แก่ ห้อง Studio ขนาดพื้นที่ 20.10 – 21.56 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 22.98 – 25.89 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ประมาณ 29.04 – 30.38 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ประมาณ 33.12 – 34.99 ตร. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ รร.เซนต์ฟรังซิสเซเวียร์, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ, รพ.เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์, อิมแพค เมืองทองธานี, เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ, โลตัส แจ้งวัฒนะ, ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ เป็นต้น ในราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2563   ผู้สนใจ สามารถเยี่ยมชมห้องตัวอย่าง ณ เซลส์ แกลเลอรี่ แอทโมซ แจ้งวัฒนะ ถนนเลียบคลองประปา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-168-0000 หรือ www.assetwise.co.th        
“KAVE TOWN” คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่สุดฮิป  พลิกโฉมสู่อาณาจักร  แห่งที่อยู่อาศัยตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ย่านรังสิต

“KAVE TOWN” คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่สุดฮิป พลิกโฉมสู่อาณาจักร แห่งที่อยู่อาศัยตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ย่านรังสิต

แอสเซทไวส์ ต่อยอดความสำเร็จภายใต้แบรนด์ “เคฟ” (KAVE) รุกเปิดตัว “เคฟทาวน์” (KAVE TOWN) 2 เฟสแรก ได้แก่ โครงการเคฟ ทาวน์ ชิฟ (KAVE TOWN Shift) และ เคฟ ทาวน์ สเปซ (KAVE TOWN Space) ด้วยมูลค่าโครงการรวมถึง 4,000 ล้านบาท จำนวนกว่า 2,000 ยูนิต แบบ Fully Furnished บนทำเลศักยภาพย่านรังสิต โดยห่างจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพียง 170 เมตรเท่านั้น ชูจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ จัดเต็มด้วยพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากถึง 20 โซน ที่ผ่านการคิดและคัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมมั่นใจด้วยการรักษาความปลอดภัย ถึง 5 ขั้นตอน ทั้งยังเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ด้วยคอมมูนิตี้มอลล์ด้านหน้าโครงการ ในราคาเริ่มต้น เพียง 1.49 ล้านบาท โดยพร้อมเปิดขายพรีเซลล์ในวันที่ 2–3 มีนาคม ศกนี้   นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ เพื่อจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่ดี ภายใต้แนวคิด “ความสุข ที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” (We Build Happiness) เปิดเผยว่า “หลังจากที่ ‘เคฟ คอนโด’ (KAVE Condo) ซึ่งเป็นโครงการแรกในย่านรังสิต ภายใต้แบรนด์ “เคฟ” (KAVE) ประสบความสำเร็จจากการได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจนสามารถปิดการขายได้ภายในเวลา 1 เดือน ด้วยปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ สะดวกในการเดินทาง ประกอบกับการดีไซน์พื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะนักศึกษาในพื้นที่มาแล้วเมื่อเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมา ล่าสุด โครงการเคฟ คอนโด ยังได้รับรางวัลโครงการคุณภาพในกลุ่มคอนโดมิเนียมระดับเอเชีย แปซิฟิก จากเวที Asia Pacific Property Awards 2019 - 2020 ซึ่งเป็นเวทีที่ได้รับการยอมรับในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างกว้างขวาง ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่บริษัทฯ เป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 เฟสภายใต้แบรนด์เคฟ (KAVE) ที่มีชื่อว่า โครงการเคฟ ทาวน์ ชิฟ (KAVE TOWN Shift) และโครงการเคฟ ทาวน์ สเปซ (KAVE TOWN Space) บนทำเลใกล้เคียงเดิม ใกล้ ม.กรุงเทพ รังสิต แต่มาพร้อมด้วยคุณภาพ ความยิ่งใหญ่ และความพิเศษต่าง ๆ ที่เตรียมไว้มอบให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งเก่า และใหม่อย่างแน่นอน”   “โครงการเคฟ ทาวน์ ชิฟ (KAVE TOWN Shift) และโครงการเคฟทาวน์ สเปซ (KAVE TOWN Space) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคฟ (KAVE) ที่มีมูลค่าโครงการรวมขณะนี้ สูงถึง 4,000 ล้านบาท ที่พร้อมเปิดตัวในปี 2562 ตามแผนที่ประกาศไว้ ซึ่งถือเป็นแบรนด์ใหญ่ของแอสเซทไวส์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในทำเลใกล้ ม. กรุงเทพเช่นกัน ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นคอนโดมิเนียมแบบโลวไรส์ สูง 8 ชั้น 4 อาคาร โดยมีจำนวนยูนิต รวม 2 เฟสกว่า 2,000 ยูนิต แบบ Fully Furnished บนพื้นที่เฟสละ 9 ไร่ (รวมทั้งสิ้น 18 ไร่) ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน- รังสิตฝั่งเดียวกับ ม.กรุงเทพ โดยห่างกันเพียง 170 เมตรเท่านั้น ทั้งยังถือเป็นทำเลศักยภาพ ที่สามารถเชื่อมต่อสู่ ใจกลางเมืองและออกนอกเมืองได้สะดวกสบาย ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา ดอนเมืองโทลล์เวย์ อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) ที่จะเปิดใช้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นสายที่วิ่งผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง ทำให้สามารถเดินทางสู่สนามบินได้อย่างคล่องตัว และยังรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ ทั้งศูนย์การค้า สถานศึกษา สถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, Zpell, เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์, เทสโก้โลตัส, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นต้น”   โดยทั้ง 2 เฟส ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์ผ่านการศึกษาความต้องการของกลุ่มลูกค้าตัวจริง และข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “Built For Evolution of Young” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ทุกแนวคิดการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ตัวอาคารจึงได้รับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมในสไตล์โมเดิร์น มีความทันสมัย ตกแต่งภายนอกให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่าง ในขณะที่ภายในห้องพักอาศัย ยังได้นำไลฟ์สไตล์แนวคิด การใช้ชีวิต มาตกแต่งและออกแบบให้เข้ากับบุคลิกของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินที่ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพออกแบบห้องพักที่คำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานและประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า   ในด้านความสะดวกสบาย “เคฟ ทาวน์” (KAVE TOWN) ยังรายล้อมไปด้วยร้านค้า เช่น แมคโดนัลด์ เปิด 24 ชม. รวมถึงไฮไลท์พิเศษอย่างคอมมูนิตี้ มอลล์ที่วางแผนตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ เพื่อตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด ภายในโครงการยังพร้อมสรรพไปด้วยพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันจัดเตรียมไว้มากถึง 20 โซน ไม่ว่าจะเป็น Pool in the Park สระว่ายน้ำในสวนสวย Sky Pool, Panorama View สระว่ายน้ำบนดาดฟ้าที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา, KAVE Pavilion มุมพักผ่อนที่สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำอย่างชัดเจน, Library House สำหรับความเงียบสงบเป็นส่วนตัวสำหรับทำงาน อ่านหนังสือ, Co - Working, Lobby พื้นที่สำหรับนั่งทำงาน และยกระดับด้วย Meeting Room & Co Creation Space พื้นที่สำหรับประชุม ทำงาน และสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ มาพร้อมโซนความสนุก อย่าง Theater Deck, Fun Space,  VR Game, Creative  Entertain Lounge และฟิตแอนด์เฟิร์มเอาใจสายออกกำลังด้วยโซนออกกำลังกาย ต่างๆ อาทิ The Gym, Sky Fitness, Yoga Cover Studio เป็นต้น มาพร้อมที่จอดรถถึง 46 % ทั้งยังยกระดับความปลอดภัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ถึง 5 ขั้นตอน ที่สามารถมั่นใจในคุณภาพการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ   “โครงการเคฟ ทาวน์ ชิฟ (KAVE TOWN Shift) และเคฟ ทาวน์ สเปซ (KAVE TOWN Space) เป็นโครงการที่เรามั่นใจในศักยภาพ ทั้งคุณภาพโครงการ การออกแบบ และพื้นที่ส่วนกลางที่พร้อมสรรพ รวมถึงการตั้งอยู่บนทำเลพื้นที่ที่มีดีมานด์สูง ทั้งใกล้กับมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นแคมปัสหลักที่มีขนาดใหญ่ ถึง 3 แห่ง ผนวกกับความต้องการอยู่อาศัยของพนักงาน ในบริษัทขนาดใหญ่ นิคมอุตสาหกรรม หรือสนามบินดอนเมือง พร้อมกับการมาถึงของสาธารณูปโภค และแหล่งงานใหญ่ ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงมีความคุ้มค่าทั้งกับอยู่เอง หรือลงทุน ซึ่งที่ผ่านมามีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Yield) อยู่ที่ 8-10 % จากสถิติที่เปิดขาย KAVE Condo หรือราคาเฉลี่ยในการปล่อยเช่าที่ 10,000–17,000 บาท/เดือน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ดีมาก” นายกรมเชษฐ์ กล่าวเสริม   ทั้งนี้ โครงการ โครงการเคฟ ทาวน์ (KAVE Town) ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่าง ๆ ได้แก่ ห้อง One Bedroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 24.22 ตร.ม. ห้อง One Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ประมาณ 27.26 ตร.ม. ห้อง One Bedroom Extra ขนาดพื้นที่ประมาณ 24.50 ตร.ม. และห้อง One Bedroom Plus ขนาด 38.43 ตร.ม. โดยจะเริ่มการก่อสร้างมีนาคม 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2020   ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาทได้ที่ www.assetwise.co.th พร้อมเปิดขายพรีเซลล์ในวันที่ 2-3 มีนาคม ศกนี้ ณ เซลล์ แกลเลอรี่ เคฟ ทาวน์ ถนนพหลโยธิน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-168-0000        
แอสเซทไวส์ เปิดตัว “แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง” ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาท  เผยคาดปิดการขาย 50% ภายใน 3 เดือน หวังดันยอดขายตามเป้าที่ 4,200 ล้านบาทสิ้นปี 2561 นี้

แอสเซทไวส์ เปิดตัว “แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง” ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาท เผยคาดปิดการขาย 50% ภายใน 3 เดือน หวังดันยอดขายตามเป้าที่ 4,200 ล้านบาทสิ้นปี 2561 นี้

บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ต่อยอดความสำเร็จจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ขยายแบรนด์ Atmoz เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ “Atmoz Ratchada- Huaikwang” (แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง)ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิต“Active Mode” ท่ามกลางสีสันของเมืองสไตล์เออร์เบิร์น ไลฟ์แต่ยังคงต้องการกลับสู่ “Rest Mode”เพื่อพักผ่อนและใกล้ชิดธรรมชาติส่วนตัวใจกลางเมืองภายใต้คอนเซ็ปต์“แค่เปิด...ก็ปิดชีวิตเมือง” พร้อมเผยคาดการณ์ปิดการขาย 50% ภายใน 3 เดือนนี้ ส่งผลดันยอดขายตามเป้าที่ 4,200 ล้านบาทแน่นอน     นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัดกล่าวว่า“แบรนด์แอทโมซได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแอทโมซ ลาดพร้าว 71, แอทโมซ ลาดพร้าว 15 เป็นต้น โดยแบรนด์แอทโมซได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ยังคงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ส่วนกลางเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริงบนทำเลใจกลางเมืองล่าสุด เราจึงขยายแบรนด์แอทโมซมายังทำเลรัชดา-ห้วยขวาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพหรือ New CBD ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการขยายตัวออกมาจากย่านสุขุมวิทชั้นใน จนกลายเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในหลายภาคธุรกิจแน่นอนว่าจะทำให้เกิดการขยายตัวของแหล่งงานเพิ่มขึ้นด้วยและมั่นใจว่าจะส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน"     โครงการแอทโมซ รัชดา-ห้วยขวางเป็นคอนโดโลว์ไรส์แบบตกแต่งพร้อมอยู่ (Fully Furnished)สูง 8ชั้น 3 อาคาร มีจำนวน 594 ยูนิต และร้านค้าจำนวน 1 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ Activityที่หลากหลายครบทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ดังนั้น โครงการฯ จึงจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ให้สามารถรองรับความต้องการได้ถึง 31 กิจกรรม และเชื่อมต่อกันได้ทั้งโครงการ อาทิ สระว่ายน้ำ 2 สระมาตรฐาน แบบ Reflection Pool (ชั้น G) ที่ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวและ Scenic Sky Pool (ชั้น Rooftop) เพื่อผ่อนคลายกับวิวเมือง, ล็อบบี้ เลาจน์ (LobbyLounge)     และพื้นที่พักผ่อนในทุกอาคาร, Sunken Island, Gym & Boxing Studio, Creative Inspiration Workspace, Theater, Fit Studio, Social Club, Outdoor Sky Dining และThe Secret Garden เป็นต้นนอกจากนั้นยังเข้าใจการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่จึงเพิ่มอุปกรณ์สมาร์ท เทคโนโลยี (Smart Technology) ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นและใช้งานได้จริง ทั้งด้านการดูแลสุขภาพ และรองรับความปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัยในทุกยูนิต อาทิ Themostatระบบระบายความร้อนภายในห้อง เพื่อสูดความสดชื่นจากอากาศที่ถ่ายเทBluetooth Sound Systemระบบเสียงไร้สาย ในทุกห้องให้คุณผ่อนคลายกับเสียงเพลงที่ชื่นชอบได้ทุกที่ในห้องพัก Rescue Alarmระบบแจ้งเตือนอุบัติเหตุที่สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือได้ทันที และ LED Lighting Motion Sensorเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว ช่วยเปิด / ปิดไฟอัตโนมัติใต้เตียง เพื่อความสะดวกยามค่ำคืนเมื่อลุกจากเตียง โดยโครงการฯ ยังตอบรับทุกการใช้ชีวิตอีกขั้นด้วยบริการพิเศษ Shuttle Bus Serviceและ Late Night Conciergeเพื่อให้ลูกบ้านสะดวกสบายกับสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบได้ง่ายยิ่งขึ้น     สำหรับการออกแบบโครงการฯ มุ่งเน้นการดีไซน์ให้ทุกตารางนิ้วของโครงการฯ เปิดรับกับธรรมชาติได้ในทุกสัมผัสสบายตาจากสีสไตล์เอิร์ธโทนของตัวอาคาร ให้ความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มอง พร้อมตกแต่งแสงธรรมชาติด้วยร่มเงาจากระแนงไม้ บดบังไอร้อนและความวุ่นวายจากภายนอก กับความสุขที่ออกแบบมาอย่างลึกซึ้งเพื่อให้ทุกวันเสมือนวันพักผ่อนและเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้ทุกช่วงเวลา     “ด้วยโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพของรัชดา-ห้วยขวาง ซึ่งนับว่าเป็นทำเลที่ได้รับการขยายตัวจากกรุงเทพฯ ฝั่งสุขุมวิท และสามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวกในอนาคตจากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคหลักทั้งรถไฟฟ้า และ MRT อาคารสำนักงานจึงกระจายตัวออกมาเพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น ชาวจีน เกาหลี สิงคโปร์ ฯลฯ ที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากใกล้สถานทูตจีน เกาหลี เป็นต้น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ,ซูเปอร์มาร์เก็ต,โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ซึ่งเรียกว่ารายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายแบบ 24 ชั่วโมงผมเชื่อว่าย่านรัชดา-ห้วยขวางนี้มีความคุ้มค่าทั้งสำหรับซื้อเพื่ออยู่เอง หรือเพื่อการลงทุนแน่นอน จากความน่าสนใจที่ราคาซื้อขายมีการปรับราคาขึ้นเรื่อยๆ อย่างก้าวกระโดดจากโครงการที่เปิดตัวใหม่ในแต่ละปีมีการปรับตัวสูงขึ้นปีละ 10-20% และมีอัตราค่าตอบแทนเฉลี่ย (Yield) อยู่ที่ 5-6 % ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถถือครองเพื่อเก็งกำไรในอนาคตได้ ซึ่งคาดว่าการเปิดโครงการแอทโมซ รัชดา- ห้วยขวางในครั้งนี้ จะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 50% ภายใน 3 เดือน และมั่นใจว่าจะช่วยดันยอดขายรวมของบริษัทฯ ได้ตรงตามเป้าที่วางไว้ที่ 4,200 ล้านบาทอย่างแน่นอน จากปัจจุบันมียอดขายรวมแล้วกว่า 3,900 ล้านบาท หรือคิดเป็น 93% ” นายกรมเชษฐ์ กล่าวเสริม     โครงการ แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง ตั้งอยู่บนทำเลที่สามารถเข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง เชื่อมต่อถนนรัชดาภิเษก, พระราม9, ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ หรือเข้าสู่ชีวิตเมืองย่านเอกมัย ทองหล่อภายใน 10 นาที หรือเพียง 5 กม. เท่านั้น และมีเส้นทางลัดออกสู่ ถนนลาดพร้าว, ถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนประชาอุทิศ อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT สถานีห้วยขวาง และสถานีศูนย์วัฒนธรรม รวมไปถึงรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีประดิษฐ์มนูธรรมในอนาคตอีกด้วย     โดยโครงการจะเปิด Pre-saleในวันเสาร์ที่17-18 พฤศจิกายน ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ที่เซลส์ แกลเลอรี่ โครงการแอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง (ซอยสหการประมูล) หรือลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านเว็บไซท์ www.assetwise.co.th/condominium/atmoz-rh/ เพื่อรับส่วนลด 100,000 บาททันทีหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.02-168-0000 /Line ID: @ATMOZRH            
แอสเซทไวส์ เปิดตัวคอนโดหรู High-Rise “ โมดิซ สุขุมวิท 50 ” ภายใต้แนวคิด “Living in the Clouds”

แอสเซทไวส์ เปิดตัวคอนโดหรู High-Rise “ โมดิซ สุขุมวิท 50 ” ภายใต้แนวคิด “Living in the Clouds”

เปิดตัวโครงการใหญ่แห่งใหม่ โมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) คอนโด High Rise สูง 25 ชั้นจาก AssetWise และเป็นคอนโดตึกสูงสุดพิเศษบนทำเลสุขุมวิท ที่มองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า ด้วยคอนเซ็ปท์ "Living in the Clouds" กับส่วนกลางมากมายในหลายชั้น สะดวกสบายใกล้ทุกการเดินทาง บนพื้นที่โครงการขนาด 3-3-11.6 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดตัวโครงการใหญ่แห่งใหม่ของปีนี้ โมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนสุขุมวิท ที่สามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาถึงสองโค้งน้ำพร้อมทั้งวิวบางกระเจ้า ภายใต้คอนเซ็ปท์ "Living in the Clouds" กับความโดดเด่นในเรื่องของ Facilities ส่วนกลางมากมายที่แทรกเข้าไปในทุกอาคาร ทั้งชั้น 1, ชั้น 8, ชั้น 25 และชั้น Rooftop รวมทั้งสวนสวยกว่า 1 ไร่ เพื่อให้โมดิซ สุขุมวิท 50 เป็นโอเอซิสของสุขุมวิท บนทำเลทองใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน บางนา-ดาวคะนอง-แจ้งวัฒนะ และจุดขึ้น-ลงทางด่วนพระราม 9-อาจณรงค์ รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้กับสถานี BTS อ่อนนุช เพียงแค่ 1.3 กม. จึงทำให้โลเคชั่นนี้ เป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพสูงและอยู่ใจกลางย่านธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกว่าคุ้มค่ากับราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท นายกรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพของทำเลสุขุมวิท ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โมดิซ สุขุมวิท 50 จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากดีมานด์กลุ่มลูกค้าคนเมืองที่มองหาคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลสุขุมวิทกับราคาที่จับต้องได้ มีความคุ้มค่าทั้งสำหรับซื้อเพื่ออยู่เอง หรือเพื่อการลงทุนในอนาคต โดยโครงการจะเปิดจองรอบ Presales ในวันเสาร์ที่ 15 กันยายนนี้   สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 จากบริษัท บลูเวิร์ค ดีไซน์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบว่า โครงการ “โมดิซ สุขุมวิท 50” ตั้งอยู่บนทำเลที่พิเศษมาก เพราะอยู่ใจกลางสุขุมวิท แต่สามารถเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาถึงสองโค้งน้ำและบางกระเจ้า จึงได้ออกแบบจัดวางอาคารเป็น 3 อาคาร สูงขึ้นไป 25 ชั้น เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้เห็นทัศนียภาพอย่างสวยงาม โดยมี Facilities มากมาย อาทิ เช่น Retreat Garden, Panoramic Fitness, Theater, Co-Living & Co-Working Lounge, Co-Dining & Sky Bar, Play Room, Kids Room, Private Onsen & Spa Room และสระว่ายน้ำ Rooftop ถึง 2 สระ คือ Blue Jacuzzi และ Lap Pool ในส่วนของห้องพักมีแบบห้อง vertical height ฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร และระบบ Bluetooth Sound System ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการฟังเพลงได้ทุกที่ และเพิ่มความทันสมัยในเรื่องของระบบการจอดรถอัจฉริยะ   อินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ บริษัท รอคส์เปซ จำกัด เล่าถึงแนวความคิดในการออกแบบโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 โดยนำเอาความเป็นธรรมชาติ ให้เข้ามาอยู่รวมกับวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ เนื่องจากโครงการที่มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือทางเชื่อมลอยฟ้า สระน้ำลอยฟ้า และ จุดชมดาว เราจึงพยายามหาธรรมชาติ ที่สอดคล้อง ที่มีความสัมพันธ์กับตัวโครงการเรามากที่สุดมาเป็นจุดเด่นในการออกแบบ ใช้ concept หลักในการออกแบบทั้งหมด คือ ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า - พระอาทิตย์ทรงกลด - จันทรุปราคา - ฝนดาวตก - การเคลื่อนไหวของก้อนเมฆ มาเป็นองค์ประกอบในการออกแบบ โดยได้ผสมผสานสไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์น ลักชัวรี่ (modern luxury) เข้าไปเพื่อเพิ่มความหรูหรา และมีระดับเพิ่มขึ้นด้วยเส้นสายบนท้องฟ้า ทำให้เกิดบรรยากาศแบบใหม่ๆ รูปแบบฝ้าที่เปรียบเหมือนชั้นของก้อนเมฆ และเส้นขอบฟ้าช่วยสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์มากขึ้นให้กับส่วนต่างๆ พื้นที่ต่างๆของโครงการถูกจัดแบ่งฟังก์ชั่นไว้อย่างลงตัว พื้นที่ใช้สอยที่แบ่งไว้ในส่วนต่างๆ ถูกคิดมา เพื่อคนรุ่นใหม่ที่ให้ใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัวและสนุกกับมัน นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เผยภาพรวมธุรกิจจนถึงปัจจุบันของแอสเซทไวส์ โดยในปี 2018 เปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ เป็นมูลค่า 6,759 ล้านบาท โดยโครงการที่เปิดขายไปแล้ว คือ บราวน์ ห้วยขวาง, แอทโมซ ลาดพร้าว 15 และเคฟ ทาวน์ สเปซ 2 ตึกแรก โครงการที่กำลังจะเปิดขายอีก 3 โครงการ ได้แก่ โมดิซ สุขุมวิท 50, แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง และแกลม ลักชัวรี่ทาวน์โฮม ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 4,200 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วเป็นมูลค่า 3,286 ล้านบาท ส่วนโครงการที่จะแล้วเสร็จในปีนี้มีทั้งหมด 8 โครงการ ส่งมอบให้ลูกค้าได้แล้วจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ วินน์ พหลฯ 52-สะพานใหม่, เอพพิโซด, โมดิซ สเตชั่น, บราวน์ รัชดา 32 และวินน์ ลาดพร้าว - โชคชัย 4 และกำลังจะส่งมอบอีก 3 โครงการ คือ เคฟ คอนโด, โมดิซ อินเตอร์เชนจ์ และบราวน์ พหลฯ 67 – สะพานใหม่ ตั้งเป้ารับรู้รายได้ตลอดปี 4,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้แล้ว ณ ปัจจุบันเป็นมูลค่า 2,350 ล้านบาท โดยในปีนี้ บริษัทฯจะนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาภาพลักษณ์องค์กร ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” สะท้อนภาพแอสเซทไวส์เป็นองค์กรที่รับฟัง เข้าใจ และคาดการณ์ความต้องการรวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค จึงออกแบบโครงการและบริการต่างๆ เพื่อความสุขของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และจากการพัฒนาธุรกิจด้านอสังหาฯ ที่บริษัทฯ ทำมาอย่างต่อเนื่อง แอสเซทไวส์ วางแผนการเติบโต ปี 2561-2564 เฉลี่ยปีละ 20% รวมถึงการผลักดันให้ระบบภายในบริษัทได้มาตรฐาน เพื่อเตรียมพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีหน้า 2562 นี้
แอสเซทไวส์ เปิดตัวคอนโด “แอทโมซ ลาดพร้าว 15”  บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ติดบิ๊กซี ลาดพร้าว

แอสเซทไวส์ เปิดตัวคอนโด “แอทโมซ ลาดพร้าว 15” บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ติดบิ๊กซี ลาดพร้าว

แอสเซทไวส์ เดินหน้าธุรกิจเปิด “แอทโมซ ลาดพร้าว 15” (Atmoz Ladprao 15) คอนโดมิเนียมบนทำเลถนนลาดพร้าว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย สะดวกสบาย ใกล้ MRT ลาดพร้าวพร้อมส่วนกลางสุดอลังการ พิเศษด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้แนวคิด “double FACILITY” สุข...จนไม่ได้พักผ่อน  บนพื้นที่โครงการขนาด 4-0-15.1 ไร่  มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท   นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของคอนโดในย่านลาดพร้าว ซึ่งมีคนที่เริ่มทำงาน เริ่มแยกครอบครัวออกจากครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในย่านลาดพร้าว จึงเปิดตัวโครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 15 ซึ่งเป็นคอนโดที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “double FACILITY” โดยจุดเด่น คือ มีส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น ทำกิจกรรมได้ไม่มีวันเบื่อ มีสระว่ายน้ำ 2 สระ ขนาดมาตรฐานที่ว่ายได้จริง พร้อม Aqua Bike, Serenity Courtyard, Co-Living Lounge, Boxing Corner, Game Room, Cinema Lounge, Party Zone เป็นต้น แถมยังสามารถชวนเพื่อนมา          Chat & Share ได้ไม่ซ้ำมุม     นายกรมเชษฐ์ เปิดเผยต่อไปว่า บริษัทฯ คาดว่า จะมียอดขายในช่วง 6 เดือนแรกประมาณ 1,600 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมองอีกว่า ศักยภาพของทำเลลาดพร้าว มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะทำเลห้าแยกลาดพร้าว-รัชดาภิเษก มีความครบถ้วนไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์, บิ๊กซี, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ม.ราชภัฏจันทรเกษม อาคารสำนักงาน และแหล่ง Hang Out อีกจำนวนมาก เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทำเลนี้มีศักยภาพสูงมากขึ้น โดยตั้งใจพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์สวย หรู และ Facility ที่รองรับกิจกรรมและการพักผ่อนมากมาย   นายรชฏ วรรณกนก กรรมการผู้จัดการ บริษัท DB Studio จำกัด สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 15 กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดในการออกแบบโครงการว่า จากโจทย์ที่ได้รับมาด้วยพื้นที่เป็นพื้นที่หน้ากว้าง จึงได้จัดวางอาคารโดยคำนึงถึงทิศทางลม จำนวนรวม 3 อาคาร 8 ชั้น ในลักษณะที่ทุกอาคารหายใจได้ คือมีความโปร่ง รับลม โดยล้อมรอบคอร์ทกลางซึ่งออกแบบเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำ เพื่อให้เกิดทัศนียภาพที่ดีที่สุด ตัวอาคารมี Facilities ชั้นบนสุดเชื่อมถึงกัน  ทำให้ได้พื้นที่ส่วน Rooftop ขนาดใหญ่ที่มีความต่อเนื่อง สามารถจัดวางสระว่ายน้ำสระที่สอง รวมทั้งพื้นที่กิจกรรมอื่นๆ ได้  โดยเตรียมอาคารจอดรถอัตโนมัติไว้รองรับการใช้งาน     นายปสงค์จิต แก้วแดง กรรมการผู้จัดการ บริษัท Redland-Scape จำกัด สถาปนิกผู้ออกแบบภูมิ สถาปัตย์ของโครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 15 เล่าว่า ในมุมมองของสถาปนิกเรื่องของการวาง Landscape ภายในโครงการทั้งหมดนั้น เนื่องจากทำเลย่านลาดพร้าวตอนต้น เป็นย่านกลางเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีวิถีชีวิตคนเมือง จึงกำหนดแนวคิดให้แอทโมซ ลาดพร้าว 15เป็น Urban Sanctuary และออกแบบให้ภูมิสถาปัตย์ของโครงการเป็นเสมือน Timeless Urban Forest ที่ซ่อน Double Facilities ไว้ภายใน  ทั้งในส่วนของสวนและสระว่ายน้ำในคอร์ทกลางติดกับล็อบบี้และไลบรารี่ และส่วนของชั้น 8 ที่มีฟังก์ชั่นของห้อง Passive & Active Fitness พร้อม Boxing Corner, Cinema Lounge, Game Room และ Co-Living Lounge & Pantry ทั้งยังมีสระว่ายน้ำบนชั้น Rooftop ที่มี Aqua Bike, Yoga Deck, และ Barefoot Garden ซึ่งเป็นแนวทางเดินเพื่อสุขภาพ งานออกแบบทั้งหมดเน้นงานดีไซน์ที่เรียบหรู ไร้กาลเวลา พร้อมด้วยความใส่ใจในการออกแบบ Softscape การคัดสรรพันธุ์ไม้และต้นไม้ที่เน้นต้นขนาดใหญ่ที่ดูดซับคาร์บอน  สร้างอากาศสดชื่นในทุกๆ วัน ทำให้ไม่รู้สึกว่าอยู่ใจกลางเมือง     นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาด บริษัท ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสแรกปี 2561 มี 13,970 ยูนิต ซึ่งในพื้นที่ย่านลาดพร้าวตอนต้น ตั้งแต่ซอยลาดพร้าว 1-23 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ไม่มาก มีอัตรา Sold rate สูงอยู่ 81-94% บริเวณพื้นที่โดยรอบเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง และถึงแม้ว่าราคาขายเฉลี่ยจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6-7% ต่อปี แต่ด้วยปัจจัยในเรื่องความเป็นชุมชนดั้งเดิม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และรถไฟฟ้าสายใหม่ในอนาคตอีก 3สาย จึงทำให้โครงการที่เปิดใหม่ในย่านนี้จะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
แอสเซทไวส์ เปิดตัวคอนโดโมดิซ รัชดา 32 คอนโดมิติใหม่ ใจกลางเมือง

แอสเซทไวส์ เปิดตัวคอนโดโมดิซ รัชดา 32 คอนโดมิติใหม่ ใจกลางเมือง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ต่อยอดความสำเร็จของคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ Modiz ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ล่าสุด “โมดิซ คอนโด รัชดา 32” (Modiz Condo Ratchada 32) อีกหนึ่งผลงานดีไซน์ที่โดดเด่น ออกแบบในสไตล์ “Modern Luxury” เปิดมุมมองมิติใหม่ในการใช้ชีวิต กลางใจเมือง ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท พร้อมเปิดให้จองรอบ VIP Booking ในวันที่ 16 กันยายนศกนี้ ที่โมดิซ เซลล์ แกลลอรี่ รัชดา 32 ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ทางเว็บไซต์ www.assetwise.co.th  หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 08 3556 3232  หรือ Line ID: @modiz32
“แอสเซทไวส์” รุกทำเลใจกลางลาดพร้าว ปักธงด้วยโครงการใหม่สุดหรูริมทะเลสาบ “แอทโมซ (Atmoz) ลาดพร้าว 71”

“แอสเซทไวส์” รุกทำเลใจกลางลาดพร้าว ปักธงด้วยโครงการใหม่สุดหรูริมทะเลสาบ “แอทโมซ (Atmoz) ลาดพร้าว 71”

"แอสเซทไวส์" (AssetWise) เตรียมส่งโครงการ "แอทโมซ (Atmoz) ลาดพร้าว 71" คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ (Low-Rise) จำนวน 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพถนนนาคนิวาส ใจกลางลาดพร้าว พร้อมส่วนกลางจัดเต็ม ครบทุกฟังก์ชั่น ในราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท   นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด กล่าวว่า โครงการฯ ตั้งอยู่ในซอยนาคนิวาส ใจกลางลาดพร้าว 71 ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกและห้างสรรพสินค้ามากมาย เช่น คริสตัล ปาร์ค, เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์, นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) แหล่งรวมศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ หรือตลาดนัดสุดอินเทรนด์ รวมทั้งแหล่งรวมวัสดุก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ พร้อมด้วยร้านอาหารนั่งชิลล์ก็มีให้เลือกไม่ไกลจากโครงการฯ ทั้งช่วงกลางวัน หรือยามค่ำคืน ทำเลใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเอกมัย- รามอินทรา ทำให้สามารถเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ถนนนาคนิวาสยังเชื่อมต่อไปยังถนนอื่น ๆ ได้หลายสาย ทำให้สามารถเลือกเส้นทางในการเดินทางได้มากขึ้น เช่น ออกถนนเกษตร - นวมินทร์ ทางถนนนาคนิวาส ออกถนนเลียบด่วนรามอินทรา - อาจณรงค์ ทางซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15 หรือจะไปออกถนนลาดพร้าว ทางซอยลาดพร้าว 71 หรือ ถนนโชคชัย 4 หรือ ถนนรัชดา ทางถนนลาดพร้าว – วังหิน "Atmoz ลาดพร้าว 71" ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Urban Refresh ให้ผู้อยู่อาศัยได้ชาร์ตพลังชีวิตจากความเหนื่อยล้าท่ามกลางเมืองใหญ่ด้วยวิวธรรมชาติริมทะเลสาบติดโครงการฯ ขนาดใหญ่ถึง 21 ไร่ พร้อมทั้งชาร์จความสุข ความสดชื่น ให้กับตัวเองได้ทุกวันจากส่วนกลางที่ครบครัน กับพื้นที่ส่วนกลางเกือบ 2 ไร่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง ในราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการ "Atmoz ลาดพร้าว 71" จะพร้อมให้เข้าชมห้องตัวอย่างในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสุดพิเศษ 100,000 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร. 08 7701 0071 หรือ www.atmozcondo.com หรือ Line ID: @atmoz71
“แอสเซทไวส์” ปลื้มยอดขายไตรมาสแรก 1,500 ล้านบาท พร้อมบุกใจกลางเมือง ลุยทำเลฮ็อตต่อเนื่อง

“แอสเซทไวส์” ปลื้มยอดขายไตรมาสแรก 1,500 ล้านบาท พร้อมบุกใจกลางเมือง ลุยทำเลฮ็อตต่อเนื่อง

“แอสเซทไวส์” ปลื้มยอดขายไตรมาสแรก 1,500 ล้านบาท พร้อมบุกใจกลางเมือง ลุยทำเลฮ็อตต่อเนื่อง   นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายใน ไตรมาสแรก ของปี 2560 ว่า ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดขายอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากยอดขายของโครงการ “เคฟ คอนโด” (Kave Condo) คอนโดมิเนียมบนทำเลที่มีศักยภาพ ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ที่มียอดขายในขณะนี้ถึง 95% หลังจากเปิดขายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา   “นอกจากนี้ รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากโครงการ  “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว-โชคชัย 4”คอนโดมิเนียมตั้งอยู่บนถนนโชคชัย 4 ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่แวดล้อมไปด้วยความสะดวกสบายรอบด้าน แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำ การคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองได้อย่างคล่องตัว ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา - อาจณรงค์ (ลาดพร้าว) และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2สาย ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีโชคชัย 4 ซึ่งจะเปิดให้บริการในอีกไม่ช้า ทั้งยังรองรับด้วยการคมนาคมหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และถนนเกษตร - นวมินทร์ พร้อมทั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญ ทั้งสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยในปัจจุบัน มียอดขายมากกว่า 70%”   นอกจากนี้ นายกรมเชษฐ์ได้กล่าวถึงความคืบหน้ายอดขายโครงการคอนโดมิเนียมอื่น ๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็น           บราวน์ คอนโด รัชดา 32 ซึ่งเปิดขายเมื่อช่วงปลายปี 2559 ปัจจุบันมียอดขายมากกว่า 80%  พร้อมทั้งโครงการโมดิซ อินเตอร์เชนจ์ ซึ่งมีการทำการตลาดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มียอดขาย 50% รวมถึงล่าสุดกับโครงการ “บราวน์ คอนโด พหลฯ – สะพานใหม่” ซึ่งตั้งอยู่ซอยพหลโยธิน 67 ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เริ่มเปิดขายเมื่อไม่นานมานี้มียอดขายขณะนี้อยู่ที่ 30%   “ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายเปิดตัวโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ แอทโมซ (Atmoz) ขนาด 600 – 700 ยูนิต ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ซอยลาดพร้าว 71 ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายในเดือนสิงหาคม ศกนี้” นายกรมเชษฐ์ กล่าวในตอนท้าย
“แอสเซทไวส์” บุกใจกลางเมือง ลุยทำเลฮ็อต “ลาดพร้าว–โชคชัย 4” ส่ง “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว-โชคชัย 4” คอนโดที่ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ในแนวคิด “Eco Design…เพื่อไลฟ์สไตล์คนเมือง”

“แอสเซทไวส์” บุกใจกลางเมือง ลุยทำเลฮ็อต “ลาดพร้าว–โชคชัย 4” ส่ง “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว-โชคชัย 4” คอนโดที่ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ในแนวคิด “Eco Design…เพื่อไลฟ์สไตล์คนเมือง”

บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ ที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ส่งคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดลุยตลาดกับ “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว-โชคชัย 4” (Wynn Condo Ladprao-Chokchai 4) ต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ “วินน์ คอนโด” กับคอนโดแต่งครบชูคอนเซ็ปต์ “Eco Design…เพื่อไลฟ์สไตล์คนเมือง”  ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ บนทำเลฮ็อต ลาดพร้าว – โชคชัย 4  เป็นครั้งแรก ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกฟังก์ชั่น ในราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เผยว่า “วินน์” (Wynn) เป็นหนึ่งในแบรนด์คอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ที่ประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับที่ดี ด้วยทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น สะดวกในการเดินทาง ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์  ในปีนี้บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Wynn เพิ่มอีกหนึ่งโครงการ โดยเป็นทำเลใหม่ที่รุกใจกลางเมืองยิ่งขึ้น ได้แก่โครงการ  “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว-โชคชัย 4” “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว-โชคชัย 4” ตั้งอยู่บนถนนโชคชัย 4 ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่แวดล้อมไปด้วยความสะดวกสบายรอบด้าน แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำ การคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองได้อย่างคล่องตัว ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ลาดพร้าว) และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีโชคชัย 4 ซึ่งจะเปิดให้บริการในอีกไม่ช้าทั้งยังรองรับด้วยการคมนาคมหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และถนนเกษตร-นวมินทร์ พร้อมทั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญ ทั้งสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ตลาดโชคชัย 4 โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล  (โชคชัย 4) ห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รัชโยธิน และ The Jass วังหิน เป็นต้น “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว-โชคชัย 4” โดดเด่นด้วยการออกแบบและสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด “Eco Design…เพื่อไลฟ์สไตล์คนเมือง” ใส่ใจรายละเอียดทั้งภายนอกและภายใน ด้วยแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติในสังคมเมืองได้อย่างลงตัว เริ่มต้นจากการออกแบบอาคารให้อากาศถ่ายเทได้ทั่วถึง เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน อาทิ ใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ที่บริเวณสวนดาดฟ้า ใช้หลอดไฟ LED ที่สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 20% รวมถึงแปลงปลูกผักสวนครัวที่ลูกบ้านรับประทานได้  ทั้งยังจัดสรรพื้นที่จอดจักรยาน ตอบสนองการใช้ชีวิตแบบ Ecology มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่มีเอกลักษณ์ เลือกใช้วัสดุคุณภาพ คำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานและประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่าง Bluetooth Sound System ระบบหน้าจอสัมผัสรุ่นล่าสุด ที่ไม่ว่าจะอยู่บริเวณไหนของห้องก็สามารถเพลิดเพลินกับการฟังเพลงได้ทุกที่ “นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและตอบสนองทุกด้านของการใช้ชีวิต ด้วยอาคารส่วนกลางที่ถูกออกแบบให้เป็นสถานที่ชิลเอ้าท์สำหรับผู้อยู่อาศัย แยกออกมาจำนวน 1 อาคารเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว ขยายพื้นที่พักผ่อนที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบายกับดูเพล็กซ์ ล็อบบี้ เลานจ์ (Duplex Lobby Lounge) พร้อม ห้องสมุด (Library / Social Club) มุมเงียบสงบเป็นส่วนตัวสำหรับทำงาน อ่านหนังสือ ฟิตแอนด์เฟิร์มด้วยห้องออกกำลังกายที่สามารถมองเห็นวิวได้อย่างชัดเจน (Panoramic Fitness) สระว่ายน้ำที่มาพร้อมอ่างน้ำวน (Scenic Swimming Pool & Jacuzzi) และเติมความพิเศษยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่พักผ่อนสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ บนชั้น Roof Top ของอาคาร ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว (Barbecue Terrace) พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง (Outdoor Gym) สวนหมากรุกที่ไม่เหมือนใคร (Chess Garden) และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งทำงาน (Co-Working Space) พร้อมยังเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยด้วยประตูระบบ Digital Door Lock กล้องวงจรปิด ควบคุมการเข้าออกโครงการด้วยระบบคีย์การ์ด ปลอดภัยอีกขั้นด้วยระบบลิฟท์ล็อคชั้น และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง” นายกรมเชษฐ์ กล่าว “วินน์ คอนโด ลาดพร้าว - โชคชัย 4” เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวม 325 ยูนิต และอาคารส่วนกลาง สูง 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มูลค่าโครงการประมาณ 650 ล้านบาท รวมพื้นที่โครงการทั้งสิ้น  2-1-54 ไร่ ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่าง ๆ ได้แก่ ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 23.18 – 23.60  ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Extra ขนาดพื้นที่ประมาณ 25.33 – 25.70 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ประมาณ 25.67 – 34.86 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ประมาณ 34.79 – 39.97 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 42.91 – 48.24 ตร.ม. โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2561 ผู้สนใจ สามารถเยี่ยมชมห้องตัวอย่าง ณ สำนักงานขาย วินน์ คอนโด ถนนโชคชัย 4 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 081 614 1144 หรือ www.wynn-condo.com
แอสเซทไวส์ รุกหนักไตรมาสสุดท้าย บุกทำเลใหม่รัชดา ส่งโครงการ “บราวน์ คอนโด รัชดา 32” เริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท

แอสเซทไวส์ รุกหนักไตรมาสสุดท้าย บุกทำเลใหม่รัชดา ส่งโครงการ “บราวน์ คอนโด รัชดา 32” เริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท

ขยายฐานการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ให้ครอบคลุมพื้นที่ความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น บนทำเลที่สะดวกสบายของซอยรัชดา 32 ภายใต้แนวคิด “The Extraordinary” เติมความพิเศษในทุกด้านของการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่า ใกล้สถานีรถไฟฟ้าถึง 3 สาย โดดเด่นด้วยเพดานที่สูงกว่า ถึง 2.8 เมตร พร้อม Private Clubhouse ดีไซน์สวยหรูมีเอกลักษณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มากกว่า ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง  บุกทำเลใหม่ใจกลางเมือง เปิดตัวโครงการ “บราวน์ คอนโด รัชดา 32” (Brown Condo) คอนโดมิเนียมโลวไรส์ สูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 242 ยูนิต มูลค่าโครงการ 501 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการ 1-3-44 ไร่ โดดเด่นด้วย ทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง การคมนาคมสะดวกเข้าออกได้หลายทาง ใกล้รถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว และรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีเหลือง ที่จะเปิดให้บริการในอีกไม่ช้านี้ นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด กล่าวว่า ย่านรัชดาภิเษก เป็นทำเลที่ยังมีความต้องการคอนโดอยู่อีกเป็นจำนวนมาก  แต่ที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีอยู่ค่อนข้างจำกัด และราคาที่ดินก็สูงขึ้นมาก เพราะเป็นพื้นที่ New CBD ที่สำคัญ มีสาธารณูปโภค แหล่งงานการคมนาคมที่สะดวก มีอาคารสำนักงานจำนวนมาก อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้เลือกสรรทำเลที่ดีที่สุด เปิดตัวโครงการ “บราวน์ คอนโด รัชดา 32” เพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังถือเป็นอีกก้าวในการขยายฐานการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทฯ ให้เข้ามาอยู่ใจกลางเมืองมากขึ้น โครงการบราวน์ คอนโด ตั้งอยู่ในซอย รัชดา 32 เป็นทำเลที่เดินทางได้สะดวกสบาย สามารถเลือกเชื่อมต่อเป็นเส้นทางลัดได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนลาดพร้าว พหลโยธิน ประดิษฐ์มนูธรรม ใกล้สถานีรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว รถไฟฟ้าสายสีเขียว และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในอีกไม่ช้า นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมสถานที่สำคัญ ทั้งสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงาน สถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ เป็นต้น บราวน์ คอนโด รัชดา 32 ออกแบบในแนวคิด “The Extraordinary” เปลี่ยนการอยู่อาศัยให้พิเศษยิ่งกว่าเดิม ด้วยดีไซน์ที่สวยหรู โดดเด่น มีสไตล์ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งกว่า ด้วยความสูงของฝ้าเพดานถึง 2.8 เมตร มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินที่สวยโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพ  ออกแบบห้องพักที่คำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานและประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์แบบครบเซ็ต พร้อมเทคโนโลยีเพื่อไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยอย่าง Digital Door Lock และ Bluetooth Sound System ระบบหน้าจอสัมผัส รุ่นล่าสุด บราวน์ คอนโด  ยังมีความพิเศษด้วยไพรเวท คลับเฮ้าส์ ที่ถูกออกแบบให้เป็นสถานที่ชิลเอ้าท์สำหรับผู้อยู่อาศัยอีก 1 อาคาร ครบครันทั้ง  ดูเพล็กซ์ ล็อบบี้ เลานจ์ (Duplex Lobby Lounge) พื้นที่พักผ่อน พร้อมห้องสมุดที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยความสูงถึง 2 ชั้น พื้นที่สำหรับเล่นเกมส์ (Playroom)  สระว่ายน้ำ (Swimming Pool) ยาว 18.5 เมตร ฟิตเนสเห็นวิวสระว่ายน้ำได้อย่างชัดเจน (The Gym)  และเติมความพิเศษยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่พักผ่อนสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ บนชั้น Roof Top ของอาคาร ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว (Barbecue Party & Wine Bar)  มุมพักผ่อนชมวิว (Starlight Terrace) พื้นที่เล่นโยคะ (Yoga Deck) พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง (Outdoor Exercise) พื้นที่สำหรับพัตกอล์ฟ (Putting Green) สนามเด็กเล่น (Sculptural Playground) พื้นที่สำหรับนั่งทำงาน  (Outdoor Working Space & Community Table) เตียงสำหรับนอนพักผ่อน (Day Bed) ลู่วิ่ง (Jogging Track) และแปลงผักที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเก็บไปทำอาหารได้ (Healthy Plants Garden)  ทั้งยังเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โครงการ บราวน์ คอนโด รัชดา 32 เป็นคอนโดมิเนียมในรูปแบบโลว์ไรส์ จำนวน 7 ชั้น 1 อาคาร รวม 242 ยูนิต ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่างๆ ได้แก่ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.96 – 25.48 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Exclusive ขนาด 29.79 – 34.78 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 33.08 – 46.36 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท นายกรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้าว่า จะเริ่มรุกขยายพื้นที่ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ในทำเลใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง “ต้นปี 2560 จะเปิดตัวโครงการ วินน์ คอนโด โชคชัย 4 ( Wynn) มูลค่าโครงการ 652 ล้านบาท โดยมีจำนวน 352 ยูนิต  ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพสูง บนถนนโชคชัย 4  ที่ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ ทั้งศูนย์การค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล ตลาด  ทั้งยังสามารถเดินถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้สบายๆ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนั้น ในปี 2560 คาดว่าจะเปิดอีกไม่ต่ำกว่า 4 โครงการ โดยเน้นโครงการในแนวสูง เชื่อมั่นว่าด้วยคุณภาพของโครงการ บวกกับการยอมรับและการบอกต่อในแบรนด์ จะทำให้ลูกค้ามั่นใจและเกิดการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง” นายกรมเชษฐ์ กล่าวในตอนท้าย ทั้งนี้ สำหรับโครงการ บราวน์ คอนโด รัชดา 32 ได้มีการเปิดจองรอบ VIP Booking ไปเมื่อวันที่ 5 – 6 พฤศจิกายนศกนี้ ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ผู้ที่สนใจบราวน์ คอนโด สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.browncondo.com พร้อมเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้ ณ สำนักงานขาย บราวน์ ซอยรัชดา 32 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 081 064 3232
แอสเซทไวส์ ส่ง “ดิ ออเนอร์” (The Honor) รุกตลาดบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ บ้านหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 12 หลัง ชูศักยภาพผลงานคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซ

แอสเซทไวส์ ส่ง “ดิ ออเนอร์” (The Honor) รุกตลาดบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ บ้านหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 12 หลัง ชูศักยภาพผลงานคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซ

แอสเซทไวส์ ส่ง “ดิ ออเนอร์” (The Honor) รุกตลาดบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ บ้านหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 12 หลัง ชูศักยภาพผลงานคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซ บนที่สุดแห่งทำเลศักยภาพของย่านลาดพร้าว-ประดิษฐ์มนูธรรม รับแรงซื้อบ้านเดี่ยวระดับบนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “Privileged Art of Living” อภิสิทธิ์ที่มากกว่าการอยู่อาศัยกับบ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นลักชัวรี่ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ใจกลางเมือง พิเศษด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในอาณาจักรความสุขส่วนตัว พร้อม Private Pool Villa ทุกหลังในราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ  จัดแถลงข่าวเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการแรกของปี 2559 “ดิ ออเนอร์” (The Honor) บ้านหรูดีไซน์เหนือระดับในสังคมคุณภาพ เพียง 12 ยูนิต 12 หลังเท่านั้น บนพื้นที่โครงการเกือบ 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของถนนลาดพร้าว-ประดิษฐ์มนูธรรม ในราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด กล่าวว่า “ดิ ออเนอร์”เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Privileged Art of Living” อภิสิทธิ์ที่มากกว่าการอยู่อาศัย สื่อถึงการตอบรับในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และรู้สึกเป็นคนพิเศษเมื่อได้เป็นเจ้าของ ด้วยความโดดเด่นในทุกองค์ประกอบ ทั้งทำเล การออกแบบทั้งภายนอกภายใน ที่ถูกเลือกสรรไว้เพื่อสร้างประสบการณ์ความพิเศษเหนือระดับให้กับผู้เป็นเจ้าของ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ “ดิ ออเนอร์” ตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางพิเศษฉลองรัช (เอกมัย – รามอินทรา) ซึ่งถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีระดับ สะดวกสบายในการเดินทาง แต่ยังเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย โดยนอกจากจะสามารถขึ้นลงทางด่วนได้อย่างสะดวก ยังสามารถเดินทางเข้าออกสู่โครงการฯ ได้หลายทาง ทั้งทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม และถนนลาดพร้าว เชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น เอกมัย พระรามเก้า รามอินทรา เกษตร- นวมินทร์ พร้อมทั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีฉลองรัช และยังเป็นศูนย์รวมสถานที่สำคัญ ทั้งสถานศึกษา รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ อาทิ เซ็นทรัลเฟสติวัลอีสท์วิลล์, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC), คริสตัล ปาร์ค เป็นต้น นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด กล่าวว่า “ดิ ออเนอร์”เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Privileged Art of Living” อภิสิทธิ์ที่มากกว่าการอยู่อาศัย สื่อถึงการตอบรับในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และรู้สึกเป็นคนพิเศษเมื่อได้เป็นเจ้าของ ด้วยความโดดเด่นในทุกองค์ประกอบ ทั้งทำเล การออกแบบทั้งภายนอกภายใน ที่ถูกเลือกสรรไว้เพื่อสร้างประสบการณ์ความพิเศษเหนือระดับให้กับผู้เป็นเจ้าของ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ “สัญลักษณ์หนึ่งเมื่อเข้าสู่โครงการ คือ ต้นจามจุรีใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีที่เราตั้งใจจะรักษาไว้ในโครงการ เพื่อเป็น Signature ที่สำคัญ รวมถึงเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสถึงบรรยากาศของธรรมชาติอย่างแท้จริง จึงเป็นที่มาของการดีไซน์ด้วยแนวคิด "Privileged Art of Living” โดยสร้างเป็นคลับเฮ้าส์บริเวณด้านหน้าของต้นจามจุรี ด้วยดีไซน์ที่โปร่ง หรูหรา สามารถมองเห็นบรรยากาศอันร่มรื่นของต้นจามจุรีได้อย่างชัดเจน ภายในคลับเฮ้าส์ถูกออกแบบให้เป็นสถานที่ชิลเอ้าท์ของผู้อยู่อาศัย ทั้งยังครบครันด้วยฟิตเนส และห้องสมุด ดิ ออเนอร์ มีบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ Apex และ Zenith ซึ่งถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ เน้นความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย แต่ไม่ทิ้งความโก้หรูมีระดับ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ ทรอปิคอล โมเดิร์น ออกแบบตามสภาพอากาศของเมืองไทย ลดอุณหภูมิในตัวบ้าน เพื่อป้องกันบ้านร้อน พื้นที่ใช้สอยออกแบบให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด โดยการวางแปลนให้เชื่อมต่อทั้งจากภายในสู่ภายนอกตัวบ้าน เพื่อการใช้งานพื้นที่ใช้สอยที่ต่อเนื่องกัน นอกจากนี้บ้านทุกหลังยังถูกออกแบบให้มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ สำหรับเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวของครอบครัว ภายในบ้านยังถูกออกแบบตกแต่งโดยการคำนึงถึงการแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้ตอบสนองกับทุกความต้องการให้มากที่สุด และสามารถปรับเปลี่ยนใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้ห้องนอนกว้างขวางเป็นพิเศษ เปิดโล่ง พร้อม Walk in Closet ขนาดใหญ่ ฝ้า เพดานโปร่งสูงกว่าปกติ เพื่อความสบายในการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ พื้นที่รับประทานอาหาร ต่อเนื่องกับส่วนกลางของบ้านสามารถผสมผสานกิจกรรมของครอบครัวได้อย่างหลากหลาย พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Living room & Private Roof Deck Garden ผสมผสานระหว่างส่วนพักผ่อนและสวนส่วนตัวบริเวณชั้น 3 ได้อย่างลงตัว Home Theater Room ห้องดูหนังส่วนตัวในบ้านด้วยฟังก์ชั่นที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับผู้อยู่อาศัย Double Volume Living Room ความโปร่งของส่วนรับแขกที่มอบเอกลักษณ์และความโดดเด่นให้กับบ้าน ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ ให้มุมมองที่สวยงาม ผ่อนคลาย รองรับการใช้ชีวิตและการสังสรรค์ทุกรูปแบบ Multi- Purpose Living Room สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องได้ตามไลฟ์สไตล์ Modern Luxury Bathroom ห้องน้ำที่ออกแบบพิเศษด้วยวัสดุระดับพรีเมียม นอกจากนี้ภายในโครงการยังมอบความมั่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด(Full-scaled Security System) ตลอด 24 ชม.อีกด้วย นายกรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลดำเนินการในปี 2558 ที่ผ่านมาของบริษัทฯ ถือว่ามีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยบวกทางด้านมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ออกมา ทำให้เกิดแรงบวกต่อภาพรวม พร้อมกับการเปิดโครงการใหม่ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจาก Real Demand ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทฯ มียอดขายรวม 1,500 ล้านบาท โดยมียอดรับรู้รายได้ในปี 2558จำนวน 750 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับในครึ่งปีแรกของปี 2559 นี้ นอกจากโครงการ  The Honor ที่เป็นมาสเตอร์พีซสำหรับโครงการในแนวราบแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดโครงการในแนวสูงอีกหลายโครงการ  เริ่มจากโครงการ Wynn Condo พหลโยธิน 52 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสะพานใหม่  ซึ่งจะเปิด  Pre – Sale วันที่ 26-27 มีนาคมนี้  สำหรับการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 33% และตั้งเป้ารับรู้รายได้ที่ 1,500 ล้านบาท อนึ่ง โครงการ “ดิ ออเนอร์” ประกอบด้วยแบบบ้านขนาดต่างๆ ได้แก่ แบบบ้าน Apex ขนาดพื้นที่ 55 - 67 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 438 - 469 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ห้องพระ,ห้องรับแขก,ห้องโฮมเธียร์เตอร์,ห้องพักผ่อน,ส่วนอเนกประสงค์,ส่วนรับประทานอาหาร,พื้นที่เตรียมอาหาร,ห้องครัว,ห้องเก็บของ,ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ,ห้องซักรีด  สระว่ายน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน ในราคาเริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท แบบบ้าน Zenith ขนาดพื้นที่ 86 - 87 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 538 - 543 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องผู้สูงอายุ, ห้องพระ, ห้อง Double Volume Living, ห้องพักผ่อน, ห้องโฮมเธียร์เตอร์, ส่วนอเนกประสงค์, ส่วนรับประทานอาหาร, พื้นที่เตรียมอาหาร, ห้องครัว, ห้องเก็บของ, ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ, ห้องซักรีด,สระว่ายน้ำ และที่จอดรถ 3 คันในราคาเริ่มต้นที่ 39 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสชีวิตมีสไตล์ เหนือระดับ ทันสมัย อย่างมีเอกลักษณ์ กับโครงการดิ ออเนอร์ (The Honor) พร้อมเยี่ยมชมบ้านได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ The Honor Glass House ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 10 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 081 650 7272 หรือ www.TheHonor.com