Tag : ไชยยันต์ ชาครกุล

5 ผลลัพธ์
‘ลลิล พร็อพเพอร์ตี้’ แข็งแกร่งเหนืออุตสาหกรรม  ปักหมุดลุยโครงการใหม่ 8-10 ทำเล มูลค่า 5,000 ล้านบาท

‘ลลิล พร็อพเพอร์ตี้’ แข็งแกร่งเหนืออุตสาหกรรม ปักหมุดลุยโครงการใหม่ 8-10 ทำเล มูลค่า 5,000 ล้านบาท

  บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) เดินหน้าผุดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีนี้ลุย 8-10 โครงการ มูลค่ารวม 4,500-5,000 ล้านบาท ผลักดันผลประกอบการขยายตัวตามเป้า 15% แตะ 4,000 ล้านบาท เผยไตรมาสแรกของปี 2561 รับรู้รายได้แล้ว 962.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 45% ตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการขยายตัวได้ดีในระดับที่สูงกว่า 30% อย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในแง่ของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 60% หรืออยู่ที่ระดับ 182.2 ล้านบาท   นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเปิดขายโครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพกว่า 8-10 โครงการ มูลค่าโดยประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ เพราะในช่วงช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท โดยมียอดขายใหม่ที่รอรับรู้รายได้กว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสสองมีแผนที่จะเปิดอีก 1 - 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายการรับรู้รายได้ในปี 2561 มั่นใจจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้โดยเติบโต 15% หรือแตะ 4,000 ล้านบาท   ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปี 2561 บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้ที่ 962.1 ล้านบาท เติบโตได้ราว 45% นับเป็นการขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากที่บริษัทสามารถเติบโตในระดับสูงกว่า 30% ตลอดช่วง 2 ปี ขณะที่มีกำไรสุทธิทั้งสิน 182.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงความสามารถในการบริหารและจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 39.9% นับเป็นอัตราที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ และในส่วนของต้นทุนการขายและบริหาร บริษัทฯ ยังคงสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน   สำหรับโครงสร้างเงินทุน แม้ว่าบริษัทฯ จะมีการขยายธุรกิจอย่างมากในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาระดับ Gearing ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดย ณ สิ้นไตรมาสแรก บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.3 - 1.4 เท่า สะท้อนความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท และความพร้อมในการขยายธุรกิจของทางบริษัทได้เป็นอย่างดี
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโต 60% รับรู้รายได้ 962.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 182.2 ล้านบาท

“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโต 60% รับรู้รายได้ 962.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 182.2 ล้านบาท

  บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) โชว์ศักยภาพแข็งแกร่งเหนือตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2561 มียอดรับรู้รายได้ที่ 962.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 45% นับเป็นการขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากที่บริษัทสามารถเติบโตในระดับสูงกว่า 30% ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในแง่ของกำไรสุทธิ บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 182.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 60%   นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” กล่าวว่า แม้บริษัท คาดการณ์ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 จะมีอัตราการเติบโตไม่มากนักราว 3-5% แต่ด้วยกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ ประกอบกับการบริหารงานอย่างมืออาชีพ จึงมีความเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะเป็นอีกปีที่บริษัทสามารถเติบโตได้สูงกว่าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องเช่นเคย โดยในไตรมาสแรกนี้บริษัทมียอดรับรู้รายได้ที่ 962.1 ล้านบาท ซึ่งเติบโตได้ราว 45% ในขณะที่ยอดขายสามารถทำได้ราว 1,500 ล้าน นอกจากนี้ บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 39.9% ซึ่งสูงเป็นลำดับต้นๆ ของบริษัทในตลาดฯ ในส่วนของต้นทุนการขายและบริหาร บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในไตรมาสแรกนี้บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 182.2 ล้านบาท ขยายตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 60%   สำหรับการขยายธุรกิจ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท โดยในไตรมาสสองมีแผนที่จะเปิดอีก 1 - 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจในปีนี้ที่จะมีการเปิดโครงการใหม่ 8 – 10 โครงการ มูลค่ารวม 4,500 - 5,000 ล้านบาท ในแง่ของโครงสร้างเงินทุน แม้ว่าบริษัทจะมีการขยายธุรกิจอย่างมากในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงรักษาระดับ Gearing ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.3 - 1.4 เท่า สะท้อนความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท และความพร้อมในการขยายธุรกิจของทางบริษัทได้เป็นอย่างดี   ทั้งนี้ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2560 โดยให้จ่ายปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่งหากคิดจากราคาหุ้นของบริษัทในปัจจุบัน จะมี Dividend Yield อยู่ที่ราว 5.3 % ทั้งนี้บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.135 บาท ดังนั้นจะคงเหลือจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในงวดนี้อีก 0.165 บาท ซึ่งได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

บริษัท  ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) เติบโตอย่างแข็งแกร่งเหนือตลาด ประกาศผลประกอบการ ปี 2560 มียอดรับรู้รายได้ที่ 3,589.2 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนหน้า 33% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวเกิน 30% ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่สอง  ทั้งนี้บริษัทยังคงความสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีเหนือค่าเฉลี่ยของตลาด โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 38.8%  ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับลดลง  ส่งผลให้มีกำไรสุทธิทั้งปี อยู่ที่ 680.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 36% นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดโดยรวมแทบจะไม่มีการขยายตัว แต่สำหรับบริษัทมีการวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ถูกต้อง ทำให้แม้สถานการณ์ และสภาพแวดล้อมโดยรวมจะไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทยังมียอดรับรู้รายได้ที่ขยายตัวเกิน 30% ต่อเนื่องติดต่อกันมา 2 ปี  ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยในปี 2560 บริษัทมียอดรับรู้รายได้ที่ 3,589.2 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 33% ขณะที่บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนด้านต่างๆ ได้ดีมาอย่างต่อเนื่องทำให้ในปี 2560 บริษัทยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดมาก รวมทั้งการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ในปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 36.1% หรือมีกำไรสุทธิที่ 680.8ล้านบาท ในแง่ของโครงสร้างเงินทุน แม้ว่าบริษัทจะมีการขยายตัวอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงรักษาระดับ Gearing ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดย ณ สิ้นปี 2560 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E Ratio) อยู่เพียง 0.79 เท่า ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 0.85 เท่า และเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.4 เท่า ทั้งนี้บริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเงินอย่างรัดกุม โดยมีการใช้แหล่งเงินกู้ที่หลากหลาย รวมทั้งมีการตั้งวงเงิน Committed Line จากธนาคารพาณิชย์อย่างเพียงพอสำหรับภาระหนี้ทั้งหมดที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดีบริษัทอยู่ระหว่างการออกหุ้นกู้จำนวน 500 ล้านบาท โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ที่ 2.95% ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเข้าจองซื้อเต็มทั้งจำนวน เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา นายไชยยันต์ กล่าวปิดท้ายว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติเห็นชอบจัดสรรกำไรสำหรับปี 2560 ให้กับผู้ถือหุ้น โดยเสนอให้จ่ายเงินปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่งหากคิดจากราคาหุ้นของบริษัทในปัจจุบัน จะมี Dividend Yield อยู่ที่ราว 5.6% โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วที่ 0.135 บาทต่อหุ้น ดังนั้นจะเหลือจ่ายเพิ่มอีก 0.165 บาทต่อหุ้น โดยได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 16 มีนาคม 2561 หรือขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 15 มีนาคม 2561 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ทั้งนี้การจ่ายปันผลดังกล่าวต้องนำเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ในเดือนเมษายนนี้
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

บริษัท  ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2560 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดรับรู้รายได้ที่ 657.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 14% และเติบโตดีกว่าภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มเดียวกันที่ชะลอตัว นอกจากนี้บริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 114.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% ขณะที่ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 900 ล้านบาท เตรียมลุยโครงการใหม่อีก 5-6 ทำเล จากไตรมาสแรกเปิดขาย 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,850 ล้านบาท นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนหลายรายที่ประกาศออกมาพบว่าตลาดโดยรวมชะลอตัว เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่เอื้ออำนวยมากนัก โดยมีการชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 แล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการประเมินสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจและตลาดโดยรวมได้ถูกต้อง จึงดำเนินการวางแผนงานกลยุทธ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งผลทำให้บริษัทยังคงมีผลประกอบการที่ขยายตัวได้ โดยมียอดรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกนี้ที่ 662.1 ล้านบาท ขยายตัวราว 14% และบริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 114.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% ขณะที่ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 900 ล้านบาท สำหรับการขยายธุรกิจ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,850 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป โดยตามแผนงาน บริษัทเตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่อีกราว 5 - 6 โครงการในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการขยายตัวที่มั่นคงต่อไป ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.86 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.4 เท่า นอกจากนี้บริษัทมีการใช้แหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ตลอดจนมีวงเงินสำรองที่ไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวนมาก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2559 โดยให้จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 8.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ รวมทั้งอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.1385 ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท ดังนั้นจะคงเหลือจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในงวดนี้อีก 0.0135 บาท ในส่วนของหุ้นปันผลที่ผู้ถือหุ้นได้รับนั้น จะสามารถเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 นี้
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสามเติบโตสูงต่อเนื่อง ยอดรายได้ 9 เดือน ทะลุ 2,587 ล้านบาท กำไรสุทธิ 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสามเติบโตสูงต่อเนื่อง ยอดรายได้ 9 เดือน ทะลุ 2,587 ล้านบาท กำไรสุทธิ 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เติบโตสวนทางเศรษฐกิจปิดงบปี 59 สูงกว่าเป้า รับรู้รายได้ 2,707.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 500.3 ล้านบาท ขยายตัว 41% บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เติบโตอย่างแข็งแกร่งเหนือตลาด ปิดงบปี 2559 มียอดรับรู้รายได้ที่ 2,707.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 30% และยังคงความสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 39.5% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับลดลง ส่งผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 500.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 41%  นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ที่ผ่านมา ตลาดโดยรวมจะแทบไม่มีการขยายตัว แต่ด้วยการวางแผนกลยุทธ์และดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของบริษัท ทำให้ในปี 2559 ที่ผ่านมาถือเป็นอีกปีที่บริษัททำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถมีส่วนแบ่งกำไรตลาด (Gain Market Share) เพิ่มมากขึ้น ขณะที่มียอดรับรู้รายได้ที่ 2,707.1 ล้านบาท เติบโตกว่า 30% จากปี 2558 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนต้นปีที่ 2,400 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 500.3 ล้านบาท เติบโตกว่า 40% จากปี 2558 ในแง่ของโครงสร้างเงินทุน บริษัทยังคงมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน โดย ณ สิ้นปี 2559 บริษัทมีระดับหนี้ที่สามารถบริหารจัดการได้ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่เพียง 0.85 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.4 เท่า นอกจากนี้บริษัทมีการบริหารด้านการเงินอย่างรัดกุม โดยใช้แหล่งเงินกู้ที่หลากหลาย และส่วนใหญ่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ เพื่อควบคุมต้นทุนทางการเงินรวมทั้งมีการสำรองวงเงินสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์อย่างเพียงพอที่จะชำระหนี้ครบกำหนดชำระในช่วง 1 - 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกหุ้นกู้ จำนวน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ที่ 3.4% ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั้งบุคคลและสถาบันเข้าจองซื้อเต็มทั้งจำนวน นายไชยยันต์ กล่าวปิดท้ายว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติเห็นชอบจัดสรรกำไรสำหรับปี 2559 ให้กับผู้ถือหุ้น โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตราส่วน 8.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมทั้งให้จ่ายปันผลในรูปของเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.1385 บาท ทั้งนี้บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วที่ 0.125 บาท ดังนั้นจะเหลือจ่ายเพิ่มสำหรับงวดครึ่งปีหลังปี 2559 อีก 0.0135 บาทต่อหุ้น โดยมีมติให้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 17 มีนาคม 2560 (หรือขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มีนาคม 2560) และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 ทั้งนี้การจ่ายปันผลดังกล่าวต้องนำเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ในเดือนเมษายนนี้