Tag : ไซมิส แอสเสท

3 ผลลัพธ์
ไซมิสฯ ผุดโครงการใหม่สุด Luxury “ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา” เจาะลูกค้าคนไทย-กลุ่มนักลงทุน ราคาขายเริ่ม 3.8-10.8 ล้านบาท

ไซมิสฯ ผุดโครงการใหม่สุด Luxury “ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา” เจาะลูกค้าคนไทย-กลุ่มนักลงทุน ราคาขายเริ่ม 3.8-10.8 ล้านบาท

ไซมิส แอสเสท ผุดคอนโดฯ โครงการใหม่แบรนด์ "ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา" (Siamese Exclusive Ratchada) โครงการ Luxury มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท สะท้อนแนวคิดธุรกิจ " Assert of life... สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต" เพื่อมอบสิ่งที่ดีและค้มค่าที่สุดตอบโจทย์เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนโดดเด่นด้วยศักยภาพทำเลเพียง 90 เมตร MRT รัชดาฯ "ราคา" ขายเริ่มต้น 120,000 บาทต่อตร.ม.ถูกกว่าโครงการอื่นในย่านเดียวกัน     นายขจรศิษฐ์ สื่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจภายในสโลแกน " Assert of life... สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต"  กล่าวว่า โครงการ "ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา" ติดโอลิมเปียไทยทาวเวอร์ และ MRT  รัชดาภิเษก บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีทั้งหมด 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น  622 ยูนิต ประกอบด้วย อาคาร A สูง 4 ชั้น อาคาร B สูง 7 ชั้น อาคาร C สูง 37 ชั้นเป็นห้องชุดพักอาศัย จำนวน 560 ยูนิต และห้องชุดพาณิชยกรรม จำนวน 3 ยูนิต และอาคาร D  สูง 10 ชั้น ใต้ดิน 5 ชั้น (อาคารจอดรถอัตโนมัติ) จำนวนที่จอดรถ 281 ช่อง แบ่งเป็นที่จอดรถอัตโนมัติ 264 ช่อง และที่จอดรถส่วนกลาง 17 ช่อง   ทั้งนี้ ลักษณะห้องชุดพักอาศัยมีทั้งแบบ 1 ห้องนอน (1 ฺBedroom) และแบบ 2 ห้องนอน(2 Bedroom) ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่ม 31-36 ตารางเมตร(ตร.ม.) มีจำนวน 420 ยูนิต และขนาดพื้นที่ใช้สอย 50-57 ตร.ม. มีจำนวน 140 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.8 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 (ค.ศ.2021) โดยจับกลุ่มลูกค้าคนไทยและกลุ่มนักลงทุน   ชูจุดเด่น "ราคา-ทำเล และ Siamese Technology"   การกำหนดราคาขายนั้นยังเน้นต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดย่านเดียวกัน กลยุทธ์นี้ถือเป็นจุดเด่นของไซมิส แอสเสท ที่ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุน เพราะมั่นใจว่า Yield  หรือผลตอบแทนในการลงทุน 5 % ใน 2 ปี (การันตี) หลังจากนั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากประสบการณ์ในการพัฒนามาอย่างยาวนาน   โครงการดังกล่าวมีจุดเด่น เรื่องทำเลที่ตั้งเพียง 90 เมตรถึง MRT รัชดา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Lobby Lounge, Mail Box, Meeting Room, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน และพื้นที่สีเขียว พร้อม Luxurious Serivce ตลอด 24 ชม. และระบบระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เป็นต้น นอกจากนี้ผู้อยู่อาศัยยังจะได้สัมผัส Siamese Technology  เพื่อความสุขที่มากกว่าในโครงการ "ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา"   สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานขายโครงการ "ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา" เบอร์โทร 099-441-0888,099-442-0888 หรือ http://www.siameseasset.co.th
ไซมิส แอสเสท ปั้นแบรนด์ใหม่ระดับลักชัวรี่ “เดอะ คอลเลคชั่น-THE COLLECTION” แฟลกชิพโปรเจกต์ มูลค่า 4,800 ล้านบาท สะท้อนแนวคิด “Live without Compromise” เพื่อมอบสิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด

ไซมิส แอสเสท ปั้นแบรนด์ใหม่ระดับลักชัวรี่ “เดอะ คอลเลคชั่น-THE COLLECTION” แฟลกชิพโปรเจกต์ มูลค่า 4,800 ล้านบาท สะท้อนแนวคิด “Live without Compromise” เพื่อมอบสิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด

บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัย เปิดพอร์ตท็อปเซกเมนต์ส่งแบรนด์ใหม่เพื่อเติมเต็มตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ ล่าสุดพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “เดอะ คอลเลคชั่น - THE COLLECTION” แฟลกชิพโปรเจกต์มูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “Live without Compromise : ที่สุดของความประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อสิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด” โชว์ความโดดเด่นด้วยที่สุดแห่งทำเลย่าน “สุขุมวิท-อโศก” และพื้นที่สีเขียวสวนเบญจกิติ เปิดประสบการณ์ครั้งแรกกับคอนโดมิเนียมหรู มุ่งเจาะกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง ทั้งกลุ่มแฟมิลี่รุ่นใหม่ นักธุรกิจ นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ   นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ดำเนินการสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ “ไซมิส - SIAMESE” ด้วยความใส่ใจและความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์การอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ตามสโลแกน “Asset of life…สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต” โดยแบ่งเป็นกลุ่มบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมและสำนักงานซึ่งในกลุ่มคอนโดมิเนียมบริษัทฯ ได้นำเสนอรูปแบบโครงการที่มีความหลากหลาย อาทิ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ แบรนด์ “ไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ-SIAMESE Exclusive” คอนโดมิเนียมระดับ Middle High แบรนด์ “ไซมิส – SIAMESE” และคอนโดมิเนียมระดับเออร์เบินแมส แบรนด์ “บลอสซั่ม - Blossom” และล่าสุดได้ดำเนินการสร้างสรรค์โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ซึ่งนับเป็นท๊อปเซกเมนต์ของบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ “เดอะ คอลเลคชั่น-THE COLLECTION” แฟลกชิพโปรเจกต์มูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท นำเสนอประสบการณ์ครั้งใหม่กับคอนโดมิเนียมที่สุดของทำเลใจกลางสุขุมวิท-อโศก พร้อมการออกแบบตึกที่ทันสมัยรวมถึงวัสดุตกแต่งภายในระดับ World-class ที่โครงการนำเข้ามาจากอิตาลี และเยอรมันเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างมีระดับ” โครงการ “เดอะ คอลเลคชั่น-THE COLLECTION” มีพื้นที่ขนาด 2 ไร่ 57.8 ตารางวา หรือประมาณ 3,431 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ทำเลศักยภาพ บริเวณสุขุมวิท ซอย 16 ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนสายหลักได้หลายเส้นทางทั้งสุขุมวิท อโศก และพระราม 4 โดยใช้เวลาเดินทางจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศกเพียง 2 นาที ดำเนินการออกแบบภายใต้แนวคิด “Live without Compromise : ที่สุดของความประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อสิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด” โดยควบคุมทุกขั้นตอนการก่อสร้างอย่างประณีตภายใต้มาตรฐานคอนโดมิเนียมระดับสากล แบ่งเป็น 2 อาคาร โดยอาคารหลัก สูง 41 ชั้น ห้องพักอาศัย 443 ยูนิต โดยแบ่งลักษณะห้องชุดเป็นทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ 1-Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 80 – 34.20 ตารางเมตร จำนวน 334 ยูนิต 2-Bedroom (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 80 – 69.50 ตารางเมตร จำนวน 107 ยูนิต Penthouse (3 ห้องนอน) มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 20 และ 135.35 ตารางเมตร จำนวน 2 ยูนิต   นายขจรศิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า “บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการออกแบบและดีไซน์ อย่าง บริษัท ครีเอทีฟครูส์ จำกัด (Creative Crews Ltd.) ที่ปรึกษาด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของโครงการที่ดึงจุดเด่นสำคัญของโครงการมาร่วมถ่ายทอดเป็นโครงสร้างของโครงการได้อย่างโดดเด่น และ บริษัท ออง แอนด์ ออง ดีไซน์ จำกัด (ONG & ONG Design Co., Ltd) รับผิดชอบด้านการออกแบบภายในผ่านการสะท้อนอัตลักษณ์ของโครงการอย่างมีชั้นเชิง ทั้งความพิถีพิถันในการออกแบบทุกรายละเอียด การเลือกใช้วัสดุนำเข้าระดับโลก อาทิ ชุดครัว แบรนด์ “ชไนเดโร-Snaidero” จากประเทศอิตาลี โดยดีไซเนอร์ผู้ออกแบบรถยนต์ Ferrari ที่ใช้กรรมวิธีปิดผิวหน้าเฟอร์นิเจอร์เช่นเดียวกับการเคลือบสีรถ Ferrari ทำให้พื้นผิวมีสัมผัสที่หรูหราเงางามและช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ หรือ อุปกรณ์ชุดครัว แบรนด์ “คุปเปอร์สบุช-Kuppersbusch” และชุดห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างประณีต โดยการเลือกใช้สุขภัณฑ์ระดับมาสเตอร์พีซ ผลงานนักออกแบบระดับโลกแบรนด์ “ฮันสโกรเฮอ-Hansgrohe” ซึ่งทุกชิ้นทำมาจากทองเหลือง และทางโครงการ THE COLLECTION ก็ยังสั่งทำสีพิเศษใหม่ ที่สวยเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังได้นำกระเบื้องหินอ่อน คุณภาพอันดับ 1 ของโลกจากประเทศอิตาลี แบรนด์ “อารีออสเทียร์-Ariostea” จากบริษัทไอริส เซรามิก้า กรุ๊ป (Iris Ceramica Group) ที่การันตีคุณภาพระดับโลก มาใช้ในส่วนของครัวและพื้นห้องน้ำของโครงการ เป็นต้น” สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกได้สร้างสรรค์อย่างครบครัน อาทิ ฟิตเนส (Fitness) โคเวิร์คกิ้งสเปซ (Co-Working Space) มินิเธียเตอร์ (Mini Theatres) ไพรเวท มีทติ้ง รูม (Private Meeting room) สกาย จ๊อกกิ้ง (Sky Jogging) สกาย การ์เด้น (Sky Garden) เป็นต้น รวมทั้งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย โครงการฯ ตั้งแต่ระบบความรักษาความปลอดภัยภายในลิฟต์ด้วยระบบ CCTV Monitoring & Control ที่เชื่อมต่อกับห้องควบคุมตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้อาศัย รวมถึงที่จอดรถที่มีทั้งแบบมาตรฐาน และที่จอดรถระบบ “Automatic Parking” หรือที่จอดรถอัจฉริยะ และ Home Intelligence System ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้านในโครงการ ควบคุมทุกอย่างเพียงปลายนิ้วสัมผัส   ด้านกลยุทธ์การตลาดและสื่อสารประชาสัมพันธ์ บริษัทฯ มุ่งเน้นการสร้างความน่าเชื่อถือของโครงการผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ แคมเปญผ่าน โซเชียลมีเดีย (Social Media) ทั้ง เฟสบุ๊ค (Facebook) บทความออนไลน์ (Content online) และอื่นๆ เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มนักคิดนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ “The Thinker” กลุ่มผู้นำเทรนด์ “The Trendsetter” กลุ่มนักเดินทางและนักลงทุน “The Traveler” และกลุ่มนักสะสมและครอบครัวขนาดเล็ก - กลาง “The Collector” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี พ.ศ. 2562 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี พ.ศ. 2564 โดยราคาขายเริ่มต้นที่ 6.2 - 45 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งกลุ่มนักลงทุนและผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย นายขจรศิษฐ์ กล่าวสรุป
“ไซมิส แอสเสท” ทุ่ม 1,000 ล้านบาท เปิดแบรนด์ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” ลุยตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผนึกกำลัง ‘เซกิซุย เคมิคอล’ โชว์จุดเด่นบ้าน “Smart Living” โครงการแรกของประเทศไทย

“ไซมิส แอสเสท” ทุ่ม 1,000 ล้านบาท เปิดแบรนด์ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” ลุยตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผนึกกำลัง ‘เซกิซุย เคมิคอล’ โชว์จุดเด่นบ้าน “Smart Living” โครงการแรกของประเทศไทย

บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัย เดินหน้าแผนการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบ แบรนด์ใหม่ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตภายใต้แนวคิด “สมาร์ท ลิฟวิ่ง – Smart Living” โครงการแรกของประเทศไทย ที่ผสานเทคโนโลยีการก่อสร้างอันล้ำสมัยจากประเทศญี่ปุ่นเข้ากับนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย ด้วยมูลค่าการลงทุน    กว่า1,000  ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดและเทคโนโลยี จาก บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านระบบโมดูลาร์อันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น ชูจุดเด่นโครงสร้างแบบโมดูลาร์ (Modular) ที่มีความแข็งแกร่ง ช่วยป้องกันภัยแผ่นดินไหวได้สูงสุดที่ 350 แกล (7 ริกเตอร์) และนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัยที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง โดยเปิดโครงการด้วยราคาเริ่มต้น 5.8 ล้านบาท มั่นใจสามารถ      ปิดการขายได้ภายปี 2561 คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างที่สั่งสมมาจากบริษัท ฤทธา จำกัด ประกอบกับความสำเร็จในการสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ “SIAMESE – ไซมิส” นับเป็นการการันตีถึงคุณภาพ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่าง ด้วยความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ในทุกรายละเอียด จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์ในการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ตามสโลแกน “Asset of life…สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต” ของบริษัทฯ ล่าสุดเราได้เล็งเห็นความสำคัญของนวัตกรรมที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของคนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุ่ม 1,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบภายใต้แบรนด์ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” แบรนด์ใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งคำว่า “คิน – SIAMESE KIN” มีความหมายว่า “ทองคำ” ในภาษาญี่ปุ่น สื่อถึงคุณภาพอันสูงสุดของโครงการที่ทรงคุณค่าอันคู่ควรต่อการครอบครองดั่งทองคำ โดยได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดและเทคโนโลยี จาก บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านระบบโมดูลาร์อันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น โดยบ้านทุกหลังในโครงการ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” โดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนาที่อยู่อาศัย            เพื่อการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “สมาร์ท ลิฟวิ่ง – Smart Living” ที่นำจุดเด่นจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทั้งสองบริษัทมาประยุกต์จนเกิดเป็นโครงการบ้านจัดสรร โครงการแรกของประเทศไทยที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยในการประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย และป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ตามมาตรฐานระดับโลก รวมถึงทำเลที่ตั้งบนพื้นที่กว่า 23 ไร่บริเวณซอยรามอินทรา 64 ที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย- มีนบุรี สถานีวงแหวนตะวันออกซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2563 ทางด่วนฉลองรัชหรือทางด่วนเอกมัย-รามอินทราที่เชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว, รวมถึงวงแหวนรอบนอกตะวันออก (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9) ที่จะทำให้การเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ ออกไปตอนเหนือ หรือภาคตะวันออกก็ทำได้ง่ายไม่แพ้กัน, และแหล่งไลฟ์สไตล์อย่างศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และเดอะ พรอมมานาด รวมถึงโรงพยาบาลสินแพทย์ และพญาไทนวมินทร์ หรือถ้าเป็นสถาบันการศึกษา ก็มีทั้งโรงเรียนสาธิตพัฒนา เลิศหล้า โรงเรียนบดินทร์เดชา 2 เป็นต้น ซึ่งโครงการ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” ประกอบด้วยบ้านจำนวน 107 ยูนิต แบ่งออกเป็นบ้าน KIN CHOU พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร จำนวน 12 ยูนิต KIN OKU พื้นที่ใช้สอย 200 ตารางเมตร จำนวน 31 ยูนิต  KIN MAN พื้นที่ใช้สอย 182 – 188 ตารางเมตร จำนวน 28 ยูนิต และทาวน์โฮม KIN SEN พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร จำนวน 36 ยูนิต โดยราคาเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ 5.8 ล้านบาท ซึ่งเหตุผลที่บริษัทสามารถกำหนดราคาได้ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดเป็นเพราะบริษัท วางกลยุทธ์ในการบริหารสินทรัพย์ (Land Bank) ควบคู่กับการหาพันธมิตรในการ ทำการตลาดเพื่อนำเสนอโครงการที่มีคุณภาพสูงภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าได้มากที่สุด คุณคาทสึมิ  ฮอมมะ ผู้จัดการแผนกส่งเสริมกิจการต่างประเทศ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ในการสร้างบ้านที่นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยภายในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 70 ปี ทำให้บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและรับรู้ถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งภายใต้การสนับสนุนในด้านการตลาดและเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” บริษัทฯ ได้วางรากฐานความมั่นคงของการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านตั้งแต่โครงสร้างและงานระบบ อาทิ โครงสร้างบ้านแบบโมดูลาร์ (Modular) ที่ออกแบบโครงเหล็กคุณภาพสูงแบบ Box Ramen Structure Module ที่แข็งแรง ทนทาน และสามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้รองรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้สูงถึง  350 แกล (ประมาณ 7 ริกเตอร์) ตามมาตรฐาน JIS ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเคลือบสาร ZAM ที่ช่วยป้องกันสนิมให้กับโครงสร้างเหล็ก สามารถยืดอายุการใช้งานได้นับร้อยปี ระบบผนัง Thermal & Sound Insulated System ผนังป้องกันความร้อนและเสียงรบกวนด้วย Ceramic wall ภายนอก และ Insulated Wall ผนังสมาร์ทบอร์ดที่มีฉนวนภายใน ควบคู่กับ Air Tightness System วงกบที่ฝังลงไปในโครงสร้างบ้านรวมถึงระบบซีลปิดช่องว่างทุกรอยต่อช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ระบบหมุนเวียนอากาศ Air Factory ช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์และออกซิเจนภายในบ้าน พร้อมการ กรองอากาศด้วยฟิลเตอร์ถึง 3 ชั้น อาทิ ฝุ่นละออง สารเคมี กลิ่น เป็นต้น ระบบห้องน้ำแบบญี่ปุ่น ที่มีโครงสร้างเป็นอิสระกับบ้านหมดปัญหาน้ำรั่วซึมสู่ส่วนอื่นๆ ระบบ Solar Power System ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 17,500 บาท/ ปี พร้อมทั้งเพิ่มนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มคุณภาพในการอยู่อาศัยอาทิ ระบบความปลอดภัยด้วยระบบประตูบ้านนิรภัยที่เปิดปิดง่ายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและระบบล็อกจากภายในถึง 3 ชั้น ซึ่งทั้งหมดผลิตภายในการควบคุมด้วยหุ่นยนต์ของโรงงาน SCG HEIM ที่มีมาตรฐานสามารถตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วย  Home Automation ระบบอัจฉริยะควบคุมการทำงานด้วยโทรศัพท์มือถือ อาทิ ควบคุมการทำงานการเปิดปิดแสงสว่าง ระบบม่านไฟฟ้า ระบบเครื่องปรับอากาศ และระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านอย่าง Door Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในบ้าน และ CCTV รวมทั้ง Floor Service ที่ได้วางงานระบบท่อทุกอย่างใต้พื้นบ้าน ซึ่งถูกยกสูงขึ้นมา 55 เซนติเมตรจากระดับดินหากต้องการซ่อมแซมท่อในอนาคต ก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องทุบพื้น คุณขจรศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้มุ่งเน้นการสื่อสารเจาะกลุ่มครอบครัวที่มองหาที่อยู่อาศัยที่รองรับด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคตเป็นหลัก โดยได้ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งสร้างบ้านนวัตกรรมตัวอย่าง (Pavilion) เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์โดยตรงให้กับลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมภายในโครงการได้เห็นถึงนวัตกรรมสำคัญของบ้าน อาทิระบบการซ่อมบำรุงท่อ และระบบไฟฟ้า ระบบหมุนเวียนอากาศ โครงสร้างเหล็กแบบโมดูลาร์ (Modular) ระบบผนัง Insulated ที่มีฉนวนกั้นความร้อนและเสียง เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าโครงการจะเสร็จสิ้นภายในปี พ.ศ. 2561 โดยโครงการ Siamese KIN มีกำหนดการเปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 และมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายภายในปลายปีนี้ ด้วยยอดสูงถึง 100%”   และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนสมาชิก Exclusive Members กับทางโครงการผ่านทางเว็บไซต์ www.siameseasset.co.th รับสิทธิ์เข้าชมโครงการก่อนใครในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 พร้อมรับของสมนาคุณพิเศษมูลค่ากว่า 1,500,000 บาท โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขาย “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” โทร 081 931 1411หรือ www.siameseasset.co.th