Tag : ไอเดียแต่งห้องนอน

5 ผลลัพธ์
แต่งบ้านสวยดูแพง ในงบหลักร้อย จากอิเกีย บางใหญ่

แต่งบ้านสวยดูแพง ในงบหลักร้อย จากอิเกีย บางใหญ่

อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีอยู่แล้วว่า "อิเกีย บางใหญ่" ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เรียกว่าสร้างความตื่นเต้นให้ย่านบางใหญ่กลับมาคึกคักยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นสโตร์อิเกียที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเนื้อที่รวมถึง 50,278 ตารางเมตร มาพร้อมสินค้าให้เลือกสรรกว่า 8,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสำหรับแต่งบ้าน อาทิ ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องน้ำ จุดเด่นของเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านภายใต้แบรนด์ อิเกีย นั้นอยู่ในช่วงราคาย่อมเยา แต่มาพร้อมดีไซน์ที่ดูดีทันสมัยและฟังก์ชั่นที่โดนใจใช้งานได้ดี วันนี้ทีมงาน “Review Your Living” เลยขอเอาใจคนรักบ้าน ที่มีความสุขกับการแต่งบ้านโดยคัดสรรเฟอร์นิเจอร์และสินค้าไอเท็มเด็ดๆ ราคาโดนใจในราคาหลักร้อยจาก อิเกีย บางใหญ่ มาให้แล้ว บอกเลยว่านอกจากจะใช้งานได้ดี ยังตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้ที่กำลังมองหาตัวช่วยที่ทำให้บ้านหลังสวย หรือคอนโดมิเนียมสุดที่รักได้ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่ที่มีอยู่แบบจำกัด แถมยังประหยัดงบในกระเป๋าสตางค์ด้วย   1. จัดห้องน้ำให้งาม และใช้ง่าย     เพราะเราต่างเริ่มต้นวันใหม่ทุกวันที่ “ห้องน้ำ” ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ก็ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้ห้องอื่นๆ ของบ้าน เพราะเป็นพื้นที่ที่ทำให้เรารู้สึกดีเสมอ ช่วยสร้างความสุขให้ผู้ใช้ได้แม้ในระยะเวลาไม่นานนักก็ตาม เมื่อห้องน้ำมีความสำคัญมากขนาดนี้ เราจึงอยากแบ่งปันไอเท็มดีๆ ราคาหลักร้อย ที่จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น..   1.1 VESKEN เวสเก้น ชั้นวางของ ราคา 399 บาท  ชั้นวางของ VESKEN เวสเก้น ที่ใครๆ ก็สามารถประกอบได้ง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือ เพียงต่อให้ลงล็อกก็พร้อมใช้งาน ชั้นผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล จึงใช้เก็บของกระจุกกระจิกในห้องน้ำได้สบายๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องขึ้นเชื้อรา 1.2. BRICKAN บริคกัน ชั้นวางของ ราคา 790 บาท ชั้นวางของ BRICKAN บริคกัน ที่ใช้ในห้องน้ำขนาดเล็กได้อย่างลงตัว และช่วยให้คุณหาของที่ต้องใช้ได้รวดเร็วทันใจ มี 2 ฟังก์ชันการใช้งาน ใช้ชั้นเก็บผ้าเช็ดตัวที่ยังไม่ได้ใช้และใช้ตะขอแขวนผ้าเช็ดตัวผืนที่ใช้งานอยู่ 1.3.  ฮูร์เน็น ราวม่านห้องน้ำ ราคา 399 บาท ราวม่านห้องน้ำฮูร์เน็น ที่สามารถติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องเจาะรูหรือขันสกรู มีปลอกพลาสติกหุ้มรอยต่อราวม่าน ช่วยให้เลื่อนผ้าม่านได้ไม่สะดุดเพราะราวม่านมีระบบสปริง จึงยึดติดกับผนังได้มั่นคง ทั้งนี้ที่ครอบปลายราวม่านทำจากยาง จึงไม่ก่อให้เกิดร่องรอยขีดขวนบนผนังหรือกระเบื้อง ทนทานและดูแลทำความสะอาดง่าย เพราะทำจากสแตนเลส และสามารถยืดออกได้ตั้งแต่ 70 ถึง 120 ซม. 1.4. บาลุงเง่น ราวตากผ้า ราคา 590 บาท ราวตากผ้าซีรีส์ BALUNGEN/บาลุงเง่น ได้แรงบันดาลใจจากห้องน้ำในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ต้นศตวรรษที่ 19 สกรูที่ซ่อนอย่างแนบเนียน และผิวชุบโครเมียม จึงทนทาน ไม่ผุกร่อน ช่วยให้ห้องน้ำดูสวยเนี้ยบกลมกลืนกันทั้งห้อง 1.5. คนอดด์ ถังขยะมีฝาปิด ราคา 299 บาท ถังขยะมีฝาปิด คนอดด์ ฝามีตะขอใช้เกี่ยวขอบถังเวลาเปิด ทำให้ไม่ต้องหาที่วางฝา สามารถใช้ได้ทุกที่ในบ้าน แม้แต่ในที่เปียกชื้น อย่างในห้องน้ำ   2. แต่งห้องนอนให้ชวนฝัน     “ห้องนอน” ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญไม่แพ้มุมอื่นๆ ภายในบ้าน เนื่องจากเป็นแหล่งพักผ่อนและเป็นห้องที่สมาชิกในบ้านใช้เวลากับมันมากที่สุดในแต่ละวัน ทั้งนี้ตามศาสตร์ของเรื่องฮวงจุ้ย การตกแต่งห้องนอนให้เป็นระเบียบและเรียบร้อยอยู่เสมอจะส่งผลถึงดวงชะตาในชีวิต ดังนั้นไม่ควรพลาดไอเท็มเด็ด ราคาหลักร้อย ที่จะทำให้ห้องนอนของคุณน่าทิ้งกายพักผ่อนชวนฝันมากกว่าที่เคย   2.1 เซียลเย่ โต๊ะข้างเตียง สีขาว ราคา 999 บาท โต๊ะข้างเตียงดีไซน์เรียบง่าย มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานสุดเจ๋ง เพียงร้อยสายไฟปลั๊กพ่วงสำหรับเสียบที่ชาร์จออกทางด้านหลังลิ้นชัก เท่านี้คุณก็มีที่ชาร์จอยู่ใกล้มือ สะดวกสบาย แถมยังเก็บสายไฟได้เรียบร้อยมิดชิดในราคาสบายกระเป๋า 2.2 ทูฟเบร็กก้า ปลอกผ้านวม และปลอกหมอน2ใบ สีดำ/ขาว ราคา 990 บาท เติมเต็มความสุขในการนอนด้วยปลอกผ้านวมเนื้อนุ่ม ทอด้วยเส้นใยฝ้ายที่ทนทาน ระบายอากาศ และซึมซับความชื้นได้ดี ให้สัมผัสนุ่มสบายผิว ปลอกผ้านวมมีลายทางที่วาดด้วยมือที่ได้รับความนิยมในยุค 70 หากลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าลายเส้นไม่ตรงนัก เพราะดีไซเนอร์วาดลวดลายขึ้นเองกับมือ และปลอกผ้านวมลายหน้าหลังต่างกัน ใช้ได้ทั้งสองด้าน สลับได้ตามชอบ อีกทั้งยังติดกระดุมแป๊กซ่อน ช่วยให้ผ้านวมเรียบ ไม่เป็นกระจุกอีกด้วย 2.3 EIDSÅ กระจกเงา ราคา 699 บาท ให้คุณเตรียมพร้อมก่อนออกจากบ้านด้วยกระจกเงารุ่น EIDSÅ ขนาด 48 x 120 ซม. ดีไซน์สวยเหนือกาลเวลา จะแขวนในห้องนั่งเล่นหรือห้องน้ำก็ได้ และยังเลือกติดแนวตั้งหรือแนวนอนได้ตามความชอบและขนาดพื้นที่ 2.4 โลเต้ ตู้ 3 ลิ้นชัก สีขาว ราคา 999 บาท ออกแบบตู้เสื้อผ้าได้ตามความต้องการจัดเก็บอย่างแท้จริง เพียงเลือกใช้ตู้ลิ้นชักน้ำหนักเบาและมีมือจับอยู่ข้างตู้ จึงเคลื่อนย้ายได้สะดวกสบาย และจัดเก็บเสื้อผ้าหรือข้าวของได้อย่างเป็นระเบียบ 2.5 ÄNGLAND (แองแลนด์) โคมไฟตั้งพื้น ราคา 790 บาท สร้างบรรยากาศอบอุ่น แสนสบาย ด้วยโคมไฟตั้งพื้นและฐานเหล็กเป็นการผสมผสานแบบคลาสสิกที่ลงตัว ช่วยเพิ่มกลิ่นอายของความดั้งเดิมในห้องของคุณ ที่ช่วยกระจายแสงไฟให้ดูนวลตา โคมไฟ ÄNGLAND (แองแลนด์) จึงตอบโจทย์ทุกความต้องการของโคมไฟด้วยลุคเดียวที่ลงตัว   3. แต่งครัวให้สวยดั่งใจนึก   “ห้องครัว” หนึ่งในหัวใจสำคัญอีกห้องหนึ่งของบ้านที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นบริเวณประกอบอาหาร ยังกลายเป็นมุมสำหรับพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันของคนในครอบครัวได้อย่างมีอรรถรส ดังนั้นเราควรตกแต่งห้องครัวให้สวยงามดั่งใจจากไอเท็มสำคัญราคาหลักร้อย ดังต่อไปนี้..   3.1 วาเรียร่า ถาดเก็บช้อนส้อม ราคา 990 บาท ครัวที่สมบูรณ์แบบคือครัวที่แก้ปัญหาความไม่ลงตัวในชีวิตประจำวันได้ อาทิ การเลือกใช้ถาดเก็บช้อนส้อมวาเทียร่า เพื่อจัดระเบียบอุปกรณ์ครัว ซึ่งผลิตจากไม้จริง เป็นวัสดุธรรมชาติที่ทนทานการใช้งาน ขนาด 52 x 50 ซม. คุ้มค่าในราคาไม่ถึง 1,000 บาท 3.2 เวียดดิงเง บานตู้ สีขาว ราคา 1,000 บาท ตู้ครัวที่เหมาะกับการใช้งานจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและพลังงานทุกครั้งที่คุณทำอาหารหรือจัดการงานครัว อิเกียมีตู้ครัวหลากหลายแบบและราคาให้เลือกสรร แต่ที่น่าสนใจทั้งในแง่ของคุณภาพและราคาก็คือ บานตู้ รุ่น เวียดดิงเง สีขาวที่ดูสบายตา สะท้อนสไตล์โมเดิร์นที่ดูสบายตาในราคาน่าคบหา 3.3 วาเรียร่า ที่วางจาน ราคา 359 บาท จานชามที่วางตั้งอยู่ธรรมดาคงดูไม่สวยงามเท่าไหร่ แนะนำให้เลือกใช้ วาเรียร่า ที่วางจาน ขนาด 21 - 31 ซม. ซึ่งสามารถปรับความกว้างได้ตามขนาดของจานชาม วางเก็บในลิ้นชักสูง บนชั้นวาง หรือบนโต๊ะได้ตามใจ และเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย 3.4. RIMFORSA (ริมฟอร์ซา) ที่วางแท็บเล็ต ราคา 490 บาท ผู้ช่วยของครัวยุคใหม่คงหนีไม่พ้น RIMFORSA (ริมฟอร์ซา) ที่ตั้งแท็บเล็ตให้คุณเห็นการคลิปการทำอาหารชัดๆ และไม่เกะกะเลอะเทอะ ขณะคุณยุ่งอยู่กับการปรุงอาหารสูตรใหม่ 3.5 ฟินทอร์ป ที่คว่ำจาน สีดำกัลวาไนซ์ ราคา 429 บาท ถ้าตู้ครัวและลิ้นชักเก็บของมีพื้นที่ไม่พอเก็บเครื่องครัวและของใช้ต่างๆ ที่เก็บของแขวนผนังคือทางเลือกที่ลงตัว นอกจากจะเลือกออกแบบได้ตอบโจทย์การใช้งาน ด้วยราวแขวน ตะขอ ภาชนะใส่ของ และชั้นวางของแบบต่างๆ แล้ว ยังช่วยให้คุณเก็บเครื่องครัวได้อย่างเป็นระเบียบ อยู่ใกล้มือหยิบใช้ง่าย เช่นเดียวกับ ฟินทอร์ป ที่คว่ำจาน สำหรับแขวนติดผนังหรือตั้งโต๊ะ มีถาดรองน้ำใต้ที่คว่ำจาน ช่วยป้องกันพื้นเปียกเลอะเทอะ   4. แต่งแต้มห้องนั่งเล่นในฝัน     การมี "ห้องนั่งเล่น" ไว้พักผ่อนในวันหยุด ก็ทำให้เราหายเหนื่อยจากการทำงานทั้งสัปดาห์ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงรวบรวมไอเท็มน่าสนใจจากอิเกียบางใหญ่ ที่จะช่วยให้ห้องนั่งเล่น ต่างสไตล์ ที่ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน ดูทีวี และทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวมาฝาก   4.1 ลัค โต๊ะกลาง ราคา 790 บาท ห้องนั่งเล่นเป็นสถานที่ที่บอกเล่าความเป็นตัวตนคุณ จึงไม่ควรวางข้าวของให้รกรุงรัง แนะนำให้ใช้โต๊ะกลาง รุ่นลัค ที่มีชั้นวางของใต้โต๊ะ เก็บนิตยสารและของต่างๆ ได้เป็นระเบียบ ไม่รกบนโต๊ะ ก็ช่วยทำให้ห้องดูน่าอยู่ขึ้นมาง่ายๆ 4.2 อัลเซด้า สตูลเตี้ย ราคา 990 บาท มีโต๊ะกลางแล้ว ก็ต้องมีสตูลเล็กๆ อย่าง อัลเซด้า สตูลทรงเตี้ย ที่ทำจากใยกล้วย ให้ผิวสัมผัสธรรมชาติ แต่เมื่อนำไปวางไว้ในห้องนั่งเล่นก็ช่วยทำให้ห้องดูมีสไตล์มากขึ้น 4.3 โอสเตียด พรมทอเรียบ ราคา 990 บาท ไม่ว่าจะตกแต่งสบายแค่ไหน แต่การให้นั่งพักผ่อนในห้องที่คุณไม่รู้สึกเป็นตัวของตัวเองก็คงไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก การใช้พรมเข้าไปตกแต่งก็ช่วยให้ห้องดูโดดเด่นขึ้นมาง่ายๆ ซึ่งเราขอแนะนำ โอสเตียด พรมทอเรียบ สีน้ำตาล ขนาด 80 x 140 ซม. พรมทอจากใยป่านศรนารายณ์ ซึ่งเป็นเส้นใยที่ได้จากต้นอะกาเว่ (Agave) ทำให้พรมมีความเหนียวทนทานเป็นพิเศษ 4.4 ยิลล์ฮอฟ ปลอกหมอนอิง ราคา 599 บาท เมื่อใดที่คุณเริ่มรู้สึกเบื่อห้องนั่งเล่นเดิมๆ แนะนำให้เปลี่ยนหมอนอิง และปลอกหมอนใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายดาย รวดเร็ว และสบายกระเป๋าสตางค์ ในการเพิ่มความแปลกใหม่ให้ห้อง เช่นเดียวกับ ยิลล์ฮอฟ ปลอกหมอนอิงลวดลายป่าทรอปิคอล ขนาด 40 x 65 ซม. สีสันสดใสที่จะทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณมีเสน่ห์มากขึ้น 4.5 SJÖPENNA (เคอเพนนา) โคมแขวนเพดาน ราคา 790 บาท เพราะแสงไฟจากโคมไฟแต่ละชิ้นสร้างความแตกต่างได้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นห้องนั่งเล่นที่ดีนอกจากมีแสงสว่างจากธรรมชาติสาดส่องเข้ามาเพียงพอแล้ว แสงประดิษฐ์จากโคมไฟก็มีความจำเป็นเช่นกัน ซึ่งเราขอแนะนำ SJÖPENNA (เคอเพนนา) โคมแขวนเพดาน ทรงรี ขนาด 35 ซม. ที่จะช่วยกระจายแสง ให้แสงสว่างทั่วบริเวณห้องนั่งเล่นของคุณได้อย่างทั่วถึงในราคาแสนประหยัด  
8 เคล็ดลับ แต่งห้องนอนไม่ได้นอน เติมไฟรักให้ชีวิตคู่

8 เคล็ดลับ แต่งห้องนอนไม่ได้นอน เติมไฟรักให้ชีวิตคู่

เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักกันแล้ว สำหรับคู่รักทั่วไปคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการมอบของขวัญแทนใจเพื่อแสดงความรักให้กันและกันในวันวาเลนไทน์ ไม่ว่าจะเป็นการมอบช่อดอกไม้, ของขวัญ, Chocolate, ตุ๊กตา ไปจนถึงของใช้ส่วนตัว ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจและกำลังทรัพย์ส่วนตัวนะคะ แต่การแสดงความรักนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรือของขวัญแทนใจเสมอไป เพราะเพียงแค่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็ทำให้ชีวิตคู่มีความสุขแล้ว ซึ่ง 'ห้องนอน' ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ตอบโจทย์คู่รักได้มากที่สุดเลยทีเดียวค่ะ เพราะนอกจากจะใช้สำหรับพักผ่อนแล้ว ยังเป็นพื้นที่เติมเต็มความรักของใครหลายๆ คนอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรตกแต่งห้องนอนธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสวรรค์ของรังรักเพื่อกระตุ้นบรรยากาศให้หอมหวานและโรแมนติก ด้วยเคล็บลับเหล่านี้..   1. เริ่มต้นที่เลือกเตียงนอนและฟูก คิดจะแต่งห้องนอนให้เป็นรังรักทั้งที การลงทุนเลือกซื้อเตียงและฟูกดีๆ นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากเลยนะคะ โดยเตียงนอนนั้นควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และรองรับน้ำหนักได้ดี สำหรับฟูกนั้นควรเลือกที่ความนุ่มสบาย ลงตัวกับสรีระ แนะนำให้ลองศึกษาหาข้อมูลสเปคของฟูกให้ตรงกับความต้องการของตนเองก่อน ว่าชอบความสบายประมาณไหน ตัวฝูกทำมาจากอะไร เช่น ทำมาจากโฟม, ยางพารา, สปริง หรือแบบธรรมชาติอื่นๆ ทั้งนี้ควรคำนึงถึงขนาดของเตียงนอนและฟูกที่ต้องกว้างพอสำหรับ 2 คนด้วยนะคะ เพราะพื้นที่ส่วนนี้มักเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของกิจกรรมบนเตียงนั่นเอง   2. เพิ่มความโรแมนติกด้วยแสงไฟ ข้อนี้หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าภายในห้องนอนควรมีแสงไฟส่องสว่างเพียงพอ แต่ไฟที่ช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติกเสมือนห้องพักในโรงแรมคือ แสง Warm White ในโทนสีแดงอมส้ม สาเหตุที่ควรใช้ไฟโทนสีอุ่นในห้องนอนนั้น เป็นเพราะไฟสีนี้มีความอ่อนโยนต่อสายตา สว่างน้อย ช่วยสร้างบรรยากาศสลัวๆ อันแสนโรแมนติกที่มีความนุ่มนวล ดูอบอุ่น ที่สำคัญคือช่วยให้ผู้หญิงดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ และน่าสัมผัสมากขึ้นอีกด้วยค่ะ   3.  ปลุกอารมณ์ด้วยโทนสี คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้โทนสีอ่อน และสีพาสเทลที่ผนังหรือวอลเปเปอร์ทำให้ห้องดูอ่อนหวาน ชวนฝัน และโรแมนติกได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งโทนสีเข้มๆ อย่างสีม่วงเข้มที่ดูมีเสน่ห์น่าค้นหา หรือสีแดงที่ดูเร่าร้อน ก็ช่วยปลุกอารมณ์ร้อนแรงได้ดีกว่านะคะ เพราะมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าสีม่วงและสีแดงมีคุณสมบัติในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้สูงกว่าสีอื่นๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคู่รักแล้วค่ะ ว่าสีอะไรจะช่วยปลุกอารมณ์รักแก่คู่ของคุณได้มากกว่า หากชอบกันคนละสีก็อาจลองผสมสองสีเข้าด้วยกัน และจัดไฟสลัวๆ ด้วยแสง Warm White เพิ่มอีกนิด เท่านี้ก็ปลุกความพลุ่งพล่านสำหรับคืนพิเศษได้แล้วค่ะ   4. เครื่องนอนชวนสัมผัส นอกจากสัมผัสอันนุ่มนวลของกันและกันจะสามารถเติมอารมณ์รักได้ดีแล้ว การเลือกเครื่องนอนอย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่ม ก็นับว่าควรใส่ใจทุกรายละเอียดนะคะ เพราะนอกจากสีสันและลวดลายที่สวยถูกใจแล้ว เนื้อผ้าของเครื่องนอนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยปัจจุบันได้มีการนำผ้าหลากหลายแบบมาตัดเย็บเป็นเครื่องนอนมากมาย ซึ่งผ้าแต่ละชนิดก็จะให้สัมผัสนุ่มนวลที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เราอยากแนะนำให้ใช้เป็นพิเศษคือผ้าแพรและผ้าซาตินค่ะ เพราะเนื้อผ้าค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีความเซ็กซี่เล็กๆ เพราะเนื้อเรียบเนียน มันวาว นิ่ม และนุ่มลื่น เรียกได้ว่าถ้าผิวกายของคุณและคนรักได้สัมผัสกับเนื้อผ้าแล้วจะยิ่งเคลิบเคลิ้ม และช่วยกระตุ้นอารมณ์รักได้ดีทีเดียวค่ะ   5. เคลิบเคลิ้มด้วยกลิ่นหอม   แน่นอนว่ากลิ่นหอมช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบาย และเพลิดเพลิน ซึ่งเรื่องของ 'กลิ่น' ก็มีผลต่อกิจกรรมบนเตียงอย่างมาก เพราะนอกจากกลิ่นฟีโรโมนร่างกาย และกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวที่ช่วยปลุกอารมณ์ให้ตื่นตัวแล้ว การทำให้ห้องนอนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนชวนหลงใหลก็เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำอย่างยิ่ง แนะนำให้ใช้เทียนหอม, น้ำมันหอมระเหย หรือน้ำหอมที่มาพร้อมก้านไม้หอม ในกลิ่นอโรมาที่คุณชื่นชอบมาวางไว้ในบริเวณห้องนอนหรือโต๊ะข้างเตียง รับรองว่าไอเท็มเหล่านี้จะช่วยสร้างบรรยากาศให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายดุจสปาส่วนตัว ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความโรแมนติก เร้าอารมณ์ทางเพศให้คุณเคลิบเคลิ้มจนไม่อยากก้าวขาออกจากห้องนอนเลยล่ะ   6. เปิดเสียงเพลงคลอเคล้าพร้อมจังหวะรัก เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้ค่ำคืนพิเศษของคุณและคนรัก ด้วยการเปิดเพลงจังหวะช้าๆ เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกในห้องนอน เพราะจังหวะของเพลงนั้นมีผลต่อการเย้ายวน ปลุกอารมณ์ทางเพศของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงได้ดี และการใช้เสียงเพลงเบาสบาย หรือเสียงธรรมชาติ ก็ช่วยขับกล่อมให้นอนหลับได้ง่ายและสบายขึ้นด้วยนะคะ แต่หากใครกลัวว่าดนตรีเบาๆ จะทำให้เคลิ้มหลับไปเสียก่อน ก็อาจจะเปิดเพลงที่มีจังหวะสนุกๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้คึกคักในจังหวะรักของคุณได้เช่นกันนะ   7. กระตุ้นอารมณ์รักด้วยรูปภาพ หากคุณอยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องนอนที่ชวนหลับใหล ให้กลายเป็นห้องนอนที่แสนโรแมนติกแถมยังกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ แนะนำให้ตกแต่งด้วยรูปภาพที่ช่วยเสริมอารมณ์รักด้วยรูปภาพแนวอีโรติก, รูปถ่ายกันและกัน, รูปถ่ายสมัยที่เพิ่งคบกัน, รูปตอนไปเที่ยวด้วยกัน หรือรูปคู่หวานชื่น แทนการตกแต่งด้วยรูปภาพแนวธรรมชาติจำพวกป่าเขาทั่วไป ก็นับว่าเป็นตัวช่วยที่เติมไฟรักได้ดี หากใครอยากเพิ่มความมุ้งมิ้งก็อาจจะนำมารูปมาแปะเรียงบนผนังห้องเป็นรูปหัวใจ ก็เป็นการเพิ่มลูกเล่นให้ห้องนอนดูแปลกตาไปจากทุกวันได้ดีนะคะ ซึ่งรับรองเลยค่ะว่าวิธีนี้ต้องทำให้คนรักของคุณรู้สึกอยากขยับเข้ามาชิดใกล้เพื่อกระชับความสัมพันธ์แน่นอน   8. เติมความเซ็กซี่ให้ขยี้หัวใจด้วยกระจกวิเศษ แน่นอนค่ะว่า 'กระจกเงา' มีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย ถ้าเป็นเรื่องของ interior ก็เป็นวัสดุที่ช่วยสะท้อนหลอกตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ในเรื่องของฮวงจุ้ยก็เป็นไอเท็มสำคัญที่ช่วยสะท้อนสิ่งไม่ดีออกไป ส่วนด้านของการใช้งานในห้องนอนส่วนใหญ่นั้นมักใช้ส่องสำรวจร่างกายเวลาแต่งตัว นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยกระตุ้นอารมณ์รักจากมองเห็นรูปร่าง และลีลาระหว่างที่กำลังทำกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ของตัวเองได้ดีอีกด้วย ซึ่งแนะนำให้ลองแขวนหรือติดกระจกเงาไว้ที่ผนังหัวเตียงนะคะ เพราะเมื่อเปิดไฟสลัวๆ จะยิ่งช่วยสะท้อนให้เกิดอารมณ์เซ็กซี่ได้ดีทีเดียว เคล็ดลับแต่งห้องนอนไม่ได้นอน ที่เรานำมาฝากในบทความด้านบนเป็นเพียงตัวช่วยเติมไฟรักให้ชีวิตคู่ของคุณมีสีสันและชีวิตชีวามากขึ้นเท่านั้น หากแต่การรักษาชีวิตคู่ให้ยืนยาวนั้นต้องขึ้นอยู่กับการกระทำ ความใส่ใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และการประนีประนอมซึ่งกันและกันนะคะ สุดท้ายหากชาว Review Your Living ได้ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปตกแต่งห้องนอนกันแล้ว ก็อย่าลืมถ่ายรูปมาให้ทีมงานชื่นชมในแฟนเพจบ้างนะคะ :) รูปภาพจาก : Pinterest
How to แต่งห้องนอนสไตล์ Zen สร้างบรรยากาศแบบญี่ปุ่น

How to แต่งห้องนอนสไตล์ Zen สร้างบรรยากาศแบบญี่ปุ่น

ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าในยุคปัจจุบันการแต่งบ้านสไตล์ Zen หรือที่เราเรียกติดปากกันว่ามินิมอล ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยวิถีชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่ายและเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบคนญี่ปุ่น รวมไปจนถึงการออกแบบที่พิถีพิถัน คำนึงถึงการใช้งานของผู้อยู่อาศัยมาเป็นอย่างดี ทำให้ผู้คนที่มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวต่างประทับใจ และไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะได้เห็นการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้ในประเทศไทยมากขึ้น   เมื่อกระแสของความมินิมอลยังดีอยู่เสมอ และดูมีทีท่าที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะอย่างที่ทราบกันดีแหละค่ะว่าความมินิมอลอยู่บนพื้นฐานของความเรียบง่าย และถึงจะมีความเรียบง่าย แต่ก็ดูไม่ธรรมดา แม้จะใช้ของตกแต่งเพียงน้อยชิ้น แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันตามความต้องการ นี่จึงถือเป็นเสน่ห์สำคัญที่สไตล์มินิมอล เข้ามาครองใจใครหลายคน วันนี้ Review Your Living เลยขอหยิบเอาไอเดียการตกแต่งห้องนอนในสไตล์ Zen หรือสไตล์มินิมอลแบบฉบับญี่ปุ่น ที่เน้นความเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สำหรับคนที่กำลังคิดจะแต่งหรือเปลี่ยนโฉมห้องนอนใหม่มาฝาก โดยเฉพาะห้องนอนไซส์มินิ ที่หากจัดเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งเยอะจนเกินไปอาจจะทำให้ดูรกและเกะกะได้ ดังนั้นการแต่งห้องนอนสไตล์นี้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้ห้องนอนออกมาดูสวยและตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนในบ้านได้.. ตกแต่งห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่น ห้องนอนที่เรานำมาให้ชมกันเป็นห้องนอนในบ้านตัวอย่าง โครงการ Noble Gable Kanso Watcharapol ด้วยคอนเซ็ปต์ของการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สงบและใกล้ชิดธรรมชาติ มาสู่แรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยลดทอนความฟุ่มเฟือยให้เหลือเพียงแก่นแท้ของประโยชน์ใช้สอยแบบตะวันตก ทว่ายังแอบแฝงรายละเอียดสัมผัสความเป็นธรรมชาติของพื้นผิวรอบข้าง หลอมรวมออกมาในสไตล์เซน สะท้อนผ่านการตกแต่งห้องนอนขนาดพื้นที่จำกัด โทนสีของห้องใช้จึงเป็นสีเอิร์ธโทน เพื่อให้ห้องนอนดูเรียบง่ายมากที่สุด และการใช้วัสดุไม้มาตกแต่ง ก็ทำให้ห้องดูสว่าง และให้ความรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น   ภายในห้องนอนตกแต่งอย่างเรียบง่าย ดูอบอุ่นด้วยโทนสีอ่อนละมุนจากวัสดุไม้โทนสีวอร์มโอ๊คที่นำมากรุผนังและฝ้า เซาะร่องเพื่อเพิ่มความมีมิติ ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งและทำให้ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น ใช้หน้าต่างกระจกใสรับแสงธรรมชาติที่มาเสริมให้ห้องดูสว่างโดยไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวัน ทั้งยังทำหน้าที่ช่วยถ่ายเทอากาศ ทำให้ห้องนอนเล็กๆ ดูสะอาดสะอ้านน่าพักผ่อนแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ขนาดน้อยนิดก็ตาม เทคนิค แต่งห้องนอนขนาดเล็ก ส่วนการตกแต่งที่ทำให้ห้องนอนดูไม่คับแคบไร้ซึ่งความอึดอัดใดๆ คือการบิลต์อินเฟอร์นิเจอร์ ไปตามความยาวของผนังห้องฝั่งหนึ่งเพื่อเหลือพื้นที่ว่างให้ได้มากที่สุด บริเวณข้างเตียงออกแบบให้เป็นลิ้นชักเก็บของ ซึ่งข้อดีของงานบิลต์อินคือเราสามารถทำขึ้นให้พอดีกับพื้นที่ได้โดยไม่เสียประโยชน์การใช้งานส่วนนั้นไป ทั้งยังเหมาะกับขนาดพื้นที่จำกัด จึงเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ทำให้สามารถใช้พื้นที่อันน้อยนิดได้อย่างคุ้มค่า   รวมไปถึงการบิลต์อินตู้เสื้อผ้า แทนการซื้อเฟอร์นิเจอร์ และการเลือกชั้นวางแบบโปร่งไม่มีหน้าบานเปิดปิด ก็ช่วยทำให้ห้องนอนไม่อึดอัด และยังทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น จะเห็นว่าแม้จะมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งน้อยชิ้น แต่ในทุกๆ ชิ้นต่างใช้ประโยชน์ได้เต็มที่และเข้ากับสไตล์ Zen ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ นี่เป็นเพียงไอเดียส่วนหนึ่ง ที่สามารถทำออกมาให้เป็นจริงได้ สำหรับใครที่มีไอเดียหรือแรงบันดาลใจแล้วอยากเปลี่ยนโฉมห้องนอนใหม่ สามารถนำไอเดียที่เรานำมาฝากไปปรึกษาสถาปนิกหรืออินทีเรียเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ :) ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ แต่งห้องนอนแบบเรียบง่าย IKEA Younique ไอเดียแต่งห้องนอนหลากหลายสไตล์ แต่งห้องนอนสวยด้วยวอลเปเปอร์ ชี้เป้าเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านสไตล์อินดัสเทรียล 10 วิธีแต่งห้องนอนแบบประหยัด ใช้แค่ของใกล้ตัว 22 ไอเดียแต่งห้องนอนโทนสีเบจ เติมเต็มความอบอุ่น
แต่งห้องนอนสวยด้วยวอลเปเปอร์ ต้อนรับปีใหม่

แต่งห้องนอนสวยด้วยวอลเปเปอร์ ต้อนรับปีใหม่

"เมื่อเริ่มรู้สึกเบื่อห้องนอนเก่าที่อยู่มานาน ใกล้ปีใหม่ทั้งทีลองเพิ่มสีสันให้กับห้องง่ายๆ แค่..เปลี่ยนวอลเปเปอร์" เคยรู้สึกเบื่อห้องนอนกันบ้างไหมคะ? ด้วยความที่เป็นห้องที่เราต่างใช้เวลาอยู่กับมันนานที่สุดในแต่ละวัน ครั้นจะทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ก็คงจะเปลืองสตางค์และเสียเวลาใช่ไหมละคะ และหากคุณผู้อ่านกำลังเบื่อห้องนอนเก่าอยากเปลี่ยนห้องให้ดูใหม่ ผู้เขียนมีไอเดียมาฝากซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยสำคัญให้แก่บ้านแสนรักของคุณ โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายข้าวของให้เหนื่อยหรือเสียสตางค์เพื่อปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น แต่ทว่าห้องกลับดูสวยงามมีชีวิตชีวาขึ้นด้วยการติดวอลเปเปอร์นั่นเองค่ะ เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนลุคเพิ่มสไตล์ใหม่ๆ ให้กับห้องนอนได้แล้ว 1. แบ่งสีไล่โทน การเลือกวอลเปเปอร์ในสไตล์ที่คุณชื่นชอบให้เข้ากับห้องนอนนั้น นอกจากสะท้อนรสนิยมชั้นเลิศแล้ว ยังบ่งบอกความละเอียดจากการผสมผสานของคุณด้วย การติดวอลเปเปอร์ลวดลายดอกไม้แต่ตัดความหวานด้วยสีพื้นๆ อย่างสีฟ้าอมม่วงแบบในภาพ ก็ดูสวยงามและลงตัว 2. Perfect match เลือกวอลเปเปอร์ที่ใช่ในสไตล์คุณ เปลี่ยนวอลเปเปอร์สีพื้นๆ จากที่เคยเป็นแค่ส่วนประกอบภายในห้อง ให้กลายเป็นจุดนําสายตาอย่างมีสไตล์ไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ในห้องนอนของคุณด้วยการเลือกลายกราฟิกน่ารักโทนสีขาวและดำ เพียงเท่านี้ก็เหมือนได้ห้องนอนใหม่แล้วค่ะ 3. เพิ่มลูกเล่นด้วยลายเส้น ห้องนอนเด็กก็สามารถตกแต่งให้สวยงามเก๋ไก๋ในสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครได้เช่นกันนะคะ แนะนำให้เลือกติดวอลเปเปอร์ลายเส้นแนวตั้ง อย่างสีฟ้าสดใสแต่เพิ่มเติมด้วยของตกแต่งอื่น อาทิ รูปวาดน่ารักๆ เพื่อเป็นการเพิ่มลูกเล่นให้กับผนังซึ่งจะดูโดดเด่นขึ้นมาได้ง่ายๆ รับรองว่าเด็กน้อยต้องชอบแน่นอน 4. เลือกลวดลายคล้ายวัสดุธรรมชาติ วอลเปเปอร์ลายอิฐก่อเหมาะที่จะใช้ติดผนังแทนการก่ออิฐขึ้นมาจริงๆ ค่ะ เพราะนอกจากความง่ายในการติดตั้งและประหยัดเงินกว่านั้น ยังช่วยเสริมความอบอุ่นให้แก่ห้องนอนได้อีกด้วยนะคะ เพราะโทนสีที่เลือกใช้ก็ดูเข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ภายในห้อง ทำให้ไม่ต้องควักเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่เลย 5. โดดเด่นแบบเท่ๆ สำหรับชายหนุ่มมาดแมนอยากแต่งห้องนอนรับปีใหม่ด้วยวอลเปเปอร์ แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ลายไหน สีอะไรดี ไอเดียที่นำอลูมิเนียมขนาดพอดีมาติดบนผนังหัวเตียงนั้นช่วยทำให้ผนังที่ว่างเปล่าดูสวยงามและเท่ขึ้นมาทันที ครั้นจะใช้วอลเปเปอร์ลวดลายสีสันฉูดฉาดก็คงไม่เข้ากับสไตล์ห้องก็คงจะไม่เข้า การเลือกใช้วอลเปเปอร์สีเรียบๆ อย่างสีเทาก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้ห้องนอนของคุณผู้อ่านดูเท่และไม่เหมือนใคร และการใช้โคมไฟที่มีวัสดุอย่างตะแกรงเหล็กสีดำก็ยิ่งเพิ่มความแมนได้เป็นอย่างดี ความสุขสำหรับใครหลายๆ คนคือการได้เจอและอยู่ในสถานที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นที่ของเราใช่ไหมคะ เช่นเดียวกับห้องนอนที่ใครต่างให้คำนิยามว่าเป็น ‘พื้นที่ส่วนตัว’ แต่หากกำลังเบื่อห้องนอนเก่าอยากเปลี่ยนห้องให้ดูใหม่ ไอเดียการติดวอลเปเปอร์เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยสำคัญให้แก่บ้านแสนรักของคุณ โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายข้าวของให้เหนื่อยหรือเสียสตางค์เพื่อปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น แต่ทว่าห้องกลับดูสวยงามมีชีวิตชีวาขึ้นมาง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนลุคเพิ่มสไตล์ใหม่ๆ ให้กับห้องนอนได้แล้ว
แต่งห้องไซส์เล็กให้เป็นห้องใหญ่ง่ายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน!

แต่งห้องไซส์เล็กให้เป็นห้องใหญ่ง่ายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน!

  พูดถึงขนาดห้อง Studio ของคอนโดมิเนียม หลายคนคงนึกถึงภาพห้องที่โล่งเปล่าไม่แบ่งกั้นสัดส่วน มีเพียงห้องน้ำและเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ มากกว่าห้องขนาด 1 Bedroom ที่ใหญ่กว่าและยังแบ่งกั้นพื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอนให้เสร็จสรรพ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าราคาของไทป์แต่ละห้องย่อมต่างกัน ใครสะดวกใจและมีกำลังซื้อห้องขนาดไหนก็เลือกตามใจชอบได้เลยค่ะ แต่สำหรับคนงบน้อยที่ตัดสินใจซื้อห้อง Studio ขนาดเล็กและไม่รู้จะแต่งห้องยังไง? วันนี้ทีมงาน Review Your Living มีทางออกให้คุณแล้วค่ะ เพราะเราได้นำตัวอย่างการแต่งห้องเล็กให้ดูใหญ่ง่ายๆ ด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินให้เหมาะสมพื้นที่จากแบรนด์ Poom มาให้ดู เผื่อใครจะนำไอเดียไปปรับใช้ให้เข้ากับห้องของตัวเอง ไปดูกันเลย... และนี่คือ Reference : IDEO Q Chula – Samyan ห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร ที่ทางแบรนด์ Poom เป็นคนออกแบบให้ค่ะ เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะเห็นได้ว่าแปลนห้องก็คล้ายกับคอนโดฯ ทั่วไป คือมีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ อยู่ด้านซ้ายตรงข้ามกันก็คือห้องน้ำนั่งเอง ห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร ที่ได้รับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยและเก็บของได้อย่างเพียงพอ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดและรู้สึกโปร่งโล่งสบายในสไตล์เฟอร์นิเจอร์ไม้ของแบรนด์ Poom ที่ดูเรียบง่าย อบอุ่น น่ารักเหมาะห้องขนาดเล็ก ออกแบบผนังที่ว่างเปล่าอีกฝั่งหนึ่งให้เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันด้วยชั้นวางของ โต๊ะทำงานหรือเขียนหนังสือโดยไม่ไม่เปลืองเนื้อที่ นอกจากนี้ยังดูน่ารัก น่าใช้ อบอุ่นเข้ากับสไตล์และบรรยากาศห้องได้เป็นอย่างดี   และหากใครสงสัยว่างานบิลต์อินนั้นว่ามีข้อดีและเสียยังไง ทีมงานเราก็รวบรวมคำตอบมาให้คุณเช่นกันค่ะ... ข้อดี สามารถออกแบบและใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า จึงมีประโยชน์ในเรื่องของความสามารถในการจัดเก็บข้าวของได้มากขึ้น มีความแข็งแรง เพราะเป็นการติดตั้งโดยการยึดติดอยู่กับโครงสร้างอาคารหรือพื้นที่นั้นๆ สามารถออกแบบได้ตามใจเพียงแค่บอกความต้องการกับสถาปนิกหรือเจ้าของแบรนด์นั้นๆ อีกทั้งยังสามารถปรับแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ตรงตามความต้องการได้อีกด้วย ข้อเสีย ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากมีค่าออกแบบและต้องใช้ช่างที่ชำนาญเป็นคนติดตั้งให้ค่ะ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เนื่องจากเป็นการติดตั้งยึดติดกับพื้นที่นั้นๆ ระหว่างการติดตั้งอาจจะมีฝุ่น เศษไม้ กลิ่นทินเนอร์รบกวน ทำให้ใช้พื้นที่บริเวณนั้นไม่ได้   เป็นยังไงกันบ้างคะเมื่อได้ดูไอเดียตัวอย่างการแต่งห้องเล็ก รวมถึงข้อดีข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินกันไปแล้ว สำหรับใครที่คิดว่า “ราคาแพงแน่เลย แต่งเองดีกว่า” ขอแนะนำว่าให้ลองปรึกษาทางสถาปนิกหรือแบรนด์ Poom ดูก่อนก็ได้ค่ะ เพราะทางแบรนด์แอบกระซิบว่าไม่ได้คิดค่าออกแบบเพียงแต่ใช้มัดจำตามขนาดพื้นที่ของห้อง และจึงหักลบกับยอดซื้อภายหลัง ที่สำคัญคือลูกค้าสามารถแจ้งกำหนดงบประมาณที่มีเพื่อการออกแบบที่เหมาะสมได้ด้วยค่า สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ทาง https://www.facebook.com/Poom.living Line: @poomdesign   ขอขอบคุณรูปภาพจากแบรนด์  Poom design