Tag : AP Thai

14 ผลลัพธ์
Rhythm สาทร – นราธิวาส : รีวิวคอนโด

Rhythm สาทร – นราธิวาส : รีวิวคอนโด

โครงการ: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 3,720,000 บาท บาท/ตารางเมตร 110,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise จาก AP ใกล้ศูนย์แหล่งธุรกิจย่านสาทร สีลม เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ปีที่สร้างเสร็จ ที่ตั้ง: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 0 - 55 ไร่ ที่ตั้ง Rhythm สาทร - นราธิวาส ซอยนราธิวาส 7 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.718809, 100.532786 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS ช่องนนทรี   สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ช่องนนทรี Empire Tower Makro โรงพยาบาล BNH   ลักษณะโครงการ: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 35 – 38.50 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 46.50 – 60.50 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 27 ชั้น จำนวนห้อง 301 ยูนิต   ส่วนกลาง: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 48.6% รวมจอดซ้อนคันได้ 59% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 55 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำชั้น 27 ห้องฟิตเนสชั้น 27 ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว มี 1 ลิฟท์บริการ สวนสาธารณะและสระน้ำเล็กๆชั้น 7 ที่จอดรถเข้าช่องจอด 48.6% รวมจอดขวางได้ 59% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.apthai.com ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2555
RHYTHM อโศก 2 : รีวิวคอนโด

RHYTHM อโศก 2 : รีวิวคอนโด

ในทำเลใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 เราเคยพาไปดู Rhythm อโศก กันมาแล้ว คราวนี้บริษัท AP Thai ร่วมมือกับบริษัท Mitsubishi Estate Group ของญี่ปุ่น ทำโครงการ Rhythm อโศก 2 คอนโดมิเนียม High Rise ติดถนนอโศกดินแดงในย่าน New CBD ของกรุงเทพ เราเลยเข้าไปเก็บข้อมูลโครงการมาฝากกันครับ   การเดินทาง เรื่องการเดินทางแน่นอนว่าสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งตัวสถานีพระราม 9 อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 300-400 เมตรเท่านั้น เป็นระยะที่กำลังเดินได้สบายๆ ครับ แต่อาจจะลำบากนิดหน่อยถ้าฝนตกหนักๆ ตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนอโศก-ดินแดงฝั่งขาเข้า  (มุ่งหน้าไปอโศก) หรืออยู่ตรงกันข้ามกับโครงการ Rhythm อโศก นั่นเอง หรือถ้าใครที่ต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Airport Link ก็ถือว่าสะดวกเช่นกัน เพราะสถานีรถไฟฟ้า Airport Link มักกะสัน อยู่ห่างออกไปประมาณ 700 เมตรเท่านั้น ดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงมีทางเลือกอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ไม่ได้ยากเลยครับ จะมีก็แค่ปัญหารถติดเท่านั้นที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ถนนสายอโศก-ดินแดงมีปริมาณรถหนาแน่นเกือบตลอดเวลา บริเวณรอบๆ มีทั้งถนนดินแดง ถนนรัชดา ถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายหลักๆ ที่เราสามารถใช้เดินทางเข้าออกเมือง รวมถึงด่านทางด่วนพระราม 9 ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอีกด้วย สำหรับขาขึ้นก็สะดวกหน่อยเพราะออกจากโครงการไปหน่อยก็ เลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วนได้เลย ส่วนขาลงก็อาจจะต้องอ้อมไปกลับรถมาที่ตัวโครงการอีกรอบ ดูจากระยะทางแล้วก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่ แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนก็รถติดเอาเรื่องเลยนะครับ จึงเสียเวลาในการเดินทางมากกว่าปกติพอสมควร การเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัว ถือว่าสะดวกใช้ได้เลย เพราะตัวโครงการติดถนนใหญ่ และรถราก็วิ่งคึกคักแทบจะตลอดเวลา โดยเฉพาะแท็กซี่ที่หาเรียกได้ง่ายที่สุด ดึกดื่นก็ยังหารถได้ง่ายครับ เพราะย่านนี้อยู่ใกล้แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน ส่วนรถเมล์ และพี่วินมอเตอร์ไซค์คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เพราะต้องเดินไปข้ามแยกไปถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินนู่นเลย แผนที่โครงการ การเดินทางวันนี้ขอใช้ทางด่วนศรีรัชฝั่งขาออก มุ่งหน้ามาลงที่ถนนพระราม 9 เลยนะครับ เพราะถ้าลงถนนรัชดาภิเษกจะต้องไปกลับรถไกลพอสมควร ลงมาแล้วจะแยก แบบนี้ให้เลี้ยวซ้ายไปทางสี่แยก อ.ส.ม.ท. ตามป้ายเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายมาแล้วก็จะเจอสีแยก อ.ส.ม.ท. เลี้ยวซ้ายอีกทีนะครับ เพื่อเข้าถนนพระราม 9 เลี้ยวซ้ายมาแล้วขับตรงมาอีกหน่อยนะครับ สำนักงานขายจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ เยื้องๆ กับเซ็นทรัล พระราม 9 ก่อนถึงแยกพระราม 9 ครับ สำนักงานขายโครงการ ส่วนที่ตั้งของโครงการนั้น จะตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกนะครับ เราออกจากสำนักงานขายมาแล้วขับตรงมาอีกนิดเดียวก็จะเจอสี่แยกพระราม 9 ให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนอโศกมนตรี ตามป้ายเลยครับ จากแยกพระราม 9 มาประมาณ 250 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ สถานที่ก่อสร้างล้อมรั้วไว้อย่างมิดชิดนะครับ แต่ยังไม่เริ่มก่อสร้าง วิเคราะห์ตัวโครงการ ด้วยความที่ที่ตั้งโครงการ Rhythm อโศก 2 อยู่ในทำเลที่กำลังมีการเติบโตมาที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพ บริเวณรอบๆ จึงมีคอนโดโครงการอื่นๆ ให้เปรียบเทียบกันเป็นจำนวนมาก ถ้านับเอาแค่ตึกที่จะอยู่ใกล้ๆ กับ Rhythm อโศก 2 ที่เห็นชัดๆ เลยก็คือ ตึกของ Rhythm อโศก ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ตึกนี้ถึงจะไม่ได้อยู่ในระยะประชิด แต่ก็มีผลต่อวิวของห้องด้านนี้พอสมควร หันไปทางแยกรัชดา-พระราม9  ก็มี Ideo Mobi พระราม 9 บังวิวอยู่นิดหน่อย ส่วนทางด้านหลังโครงการหันไปก็จะเจอทั้ง Aspire พระราม 9, Condolette Midst และ Ideo Mobi บังวิวไปเต็มๆ ห้องทางฝั่งนี้ (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) จึงค่อนข้างเสียเปรียบเรื่องวิวครับ ทั้งๆ ที่อยู่ในทิศทางที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าอยากได้ห้องที่วิวดีหน่อยก็ต้องเลือกห้องทางฝั่งทิศใต้ ซึ่งจะได้วิวมุมกว้างสุด (เห็นทางด่วน) รองลงมาก็เป็นฝั่งตะวันตก ซึ่งมีแค่ตึก Rhythm อโศก เป็นตึกสูงแค่ตึกเดียวเท่านั้น สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการ ในระยะไม่เกิน 500 เมตร จัดว่ามีตัวเลือกให้พึ่งพาได้พอสมควรเลย เริ่มตั้งแต่Central พระราม 9 ซึ่งยึดหัวหาดอยู่ที่แยกพระราม 9 คู่กับ Fotune Tower ที่มีทั้ง Tesco Lotus ศูนย์รวมอุปกรณ์ไอที และร้านค้าร้านอาหาร อยู่ในโซนพลาซ่าอีกเพียบ ถัดจาก Centralไปทางถนนพระราม 9 จะเป็นพื้นที่ของ G Land ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ในอนาคตอันใกล้บริเวณนี้จะเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน อาคารตลาดหลักทรัพย์  และCommercial Building ที่ใหญ่มาก ปริมาณรถและคนก็จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกหลายเท่าแน่ๆ เรื่องความเจริญทั้งอาหารการกิน ที่ทำงาน และแหล่งช็อปปิ้งจึงหายห่วง ถัดออกไปอีกหน่อยยังมี Esplanade, Big C หรือทางฝั่งสุขุมวิทก็มี Terminal 21 ด้วย อันนี้แค่ระยะใกล้ๆ นั่งรถไฟฟ้าไปแค่ 1-2 สถานีเท่านั้นเองนะครับ นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาล โรงเรียน สถานศึกษา มหาวิทยาลัย อยู่ในระยะที่สามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินด้วย จึงจัดว่าเป็นทำเลที่สะดวกสบายมากๆ สำหรับคนที่ขยันเดินทางซักหน่อย ตัวโครงการ Rhythm อโศก 2 เป็นคอนโด High Rise ที่ร่วมกันออกแบบกับ บริษัท Mitsubishi Estate Group ของญี่ปุ่น รูปแบบอาคารเป็นแบบเรียบๆ ไม่หวือหวามาก มีการผสมผสานบรรยากาศแบบญี่ปุ่นเข้าไปตามส่วนต่างๆ เช่น สวนหินบริเวณหน้าล็อบบี้ ภายในล็อบบี้ที่เน้นความเรียบง่ายตามสไตล์ญี่ปุ่น และการวางผังห้องแบบ Inter-Locked เป็นต้น ยูนิตรวมทั้งหมดของโครงการคือ 346 ยูนิต ภายในอาคารสูง 30 ชั้น โดยพื้นที่อยู่อาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไปครับ ซึ่งที่ชั้น 8 จะถูกแบ่งเป็นพื้นที่ของ Main Facilities ด้วย บริเวณ Main Facilities จะมีทั้ง สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่าแยกชาย หญิง และห้อง Spa ตามมาตรฐานเลยครับ สำหรับห้องพักที่ชั้น 8 จะมีเพียง 10 ยูนิตเท่านั้น โดยทางโครงการพยายามออกแบบเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องบนชั้นนี้โดยแยกทางออกบริเวณโถงลิฟท์เป็นสองทาง เพื่อป้องกันการถูกรบกวนจากคนที่ลงมาใช้สอยส่วนกลางนั่นเอง พูดถึงลิฟท์โดยสารแล้ว ก็จะเห็นในแปลนว่าทางโครงการเตรียมลิฟท์โดยสารไว้ 2 ตัว และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ซึ่งอัตราการใช้งานต่อลิฟท์โดยสาร 1 ตัวค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียว (1:173) ในขณะที่จำนวนที่จอดรถทั้งหมดตั้งแต่ชั้น 1- 7 สามารถรองรับรถได้เพียง 136 คันเท่านั้น (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งจะเป็นปัญหากับคนที่มีรถส่วนตัวมากๆ เพราะอาจจะเจอปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ แล้วต้องแย่งที่จอดกันแบบใครมาก่อนได้ก่อน ใครที่ต้องใช้รถส่วนตัวเป็นหลักแน่ๆ คงต้องพิจารณาปัญหาตรงนี้เพิ่มขึ้นอีกข้อด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ที่มีทั้งกล้องวงจรปิด CCTV, รปภ., Key Card เข้าอาคาร และลิฟท์แบบล็อคชั้น รวมถึงร้านค้า 1 ห้องที่บริเวณใต้อาคาร ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นร้านอะไรกันแน่ เรามาเริ่มที่ชั้น G กันก่อนนะครับ ที่ชั้น G จะเป็น Lobby ที่เน้นความเรียบง่าย และมีสวนหินสไตล์ญี่ปุ่นอยู่ด้านหน้าโครงการ สวนหินสไตล์ญี่ปุ่นด้านหน้าโครงการ Lobby ที่เน้นความเรียบง่าย ชั้น 2 - 7 จะเป็นส่วนของที่จอดรถทั้งหมด รวมแล้วจอดได้ประมาณ 136 หรือคิดเป็น 40% ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8 ซึ่งจะมาพร้อมกัน Facility หลักของโครงการทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำ หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 8 ครับ ตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไปถึงชั้น 29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยแล้วประมาณ 16 ยูนิตต่อชั้น พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ทางโครงการ Rhythm อโศก 2 เตรียมห้องตัวอย่างไว้ 2 แบบนะครับ ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนในขนาด 28 ตร.ม. ทั้ง 2 ห้องเลย เริ่มต้นกันด้วยห้อง Type B01 กันก่อน เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอห้องที่ตกแต่งในโทนเข้มขรึม ซ้ายมือเป็น Pantry ครัว และพื้นที่กินข้าวที่วางโต๊ะตัวสูงไว้ติดริมหน้าต่างเลย ทำให้มุมนี้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น อีกฝั่งทางด้านหลังประตูทางเข้า เว้าพื้นที่เข้าไปทำชั้นเก็บของ ชั้นวางรองเท้า และวางเครื่องซักผ้าได้ลงตัวเป๊ะ โถงกลางห้องเป็น Living Area วางโซฟาชุดเล็กไว้ตรงข้ามกับทีวี ได้ระยะเต็มความกว้างของห้องซึ่งกำลังพอเหมาะพอดี ข้างๆ ชั้นวางทีวีเป็นห้องน้ำนะครับ ซึ่งภายในก็แบ่งพื้นที่ใช้สอยไว้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว ทั้งโซนแห้งโซนเปียกที่กั้นด้วยประตูกระจก temper  แต่ที่วางของในห้องน้ำน้อยไปหน่อยครับ โดยเฉพาะตรงอ่างล้างที่ตัวอ่างเป็นทรงกลมทำให้แทบจะไม่มีพื้นที่วางของเลย ออกมาดูโซนสุดท้ายของห้องกันบ้าง ที่ด้านหลังประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่คือห้องนอน บริเวณปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in ทำให้บริเวณปลายเตียงไม่สามารถแขวนทีวีเพิ่มได้ สำหรับคนที่ชอบนอนดูทีวีคงจะขัดใจเล็กน้อยก็ได้ครับ ผังห้อง Type B01 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาในห้องแล้วถ้ามองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ที่จะอยู่ติดกับห้องนอนนะครับ แต่ถ้ามองมาด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิดที่อยู่ด้านหน้าห้อง เคาน์เตอร์ครัวจะหน้าตาประมาณนี้นะครับ มีช่อใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง ด้านบนจะเป็นชั้นลอยเก็บของ ส่วนตำแหน่งการวางอยู่เย็นจะอยู่ด้านซ้ายติดกับประตูห้อง ซิงค์หลุมจะอยู่ด้านติดกับตู้เย็น แต่ขนาดค่อนข้างเล็กไปหน่อยนะครับ เตาไฟฟ้า 2 หัว + ฮูดดูดควัน โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน หันหน้าออกนอกหน้าต่าง เพิ่มบรรยากาศในการทานอาหารได้อีกแบบ ส่วนอีกฝั่งตรงข้ามกับครัว ด้านหลังประตูทางเข้า จะเว้าพื้นที่เข้าไปทำเป็นชั้นเก็บของ ชั้นวางรองเท้า และวางเครื่องซักผ้าได้ลงตัวเป๊ะ มาดูที่ส่วน Living Area กันต่อนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากันทีวีกำลังพอดี ไม่ใกล้ ไม่ไกล จนเกินไป ชั้นวางทีวีจะวางได้ขนาดประมาณนี้นะครับ เนื่องจากถูกบีบจากทั้งฝั่งของห้องนอนและห้องน้ำ ตำแห่งวางแอร์ที่ห้องนั่งเล่นก็จะอยู่เหนือทีวีนี่แหละครับ มาดูส่วนของห้องนอนกันบ้างนะครับ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยครับ ด้านข้างเตียงมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้ ห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขนาดใหญ่ ด้านปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in ถ้าหากต้องการจะติดทีวีไว้ในห้องนอนด้วย ก็ต้องแขวนผนังไว้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งนี่เลยครับ เพราะพื้นที่มีจำกัดจริงๆ ตำแหน่งของแอร์ในห้องนอนก็จะอยู่เหนือทีวี เราออกมาดูที่ห้องน้ำกันต่อนะครับ การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ใช้สอยไว้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว อ่างล้างหน้าทรงกลม พื้นที่วางของตรงอ่างล้างหน้าแทบไม่มีเลยครับ ระยะห่างของโถสุขภัณฑ์กำลังพอดีครับ ไม่แคบเกินไป ส่วนเปียกกั้นด้วยประตูกระจก Temper มาพร้อมกับชุดผักบัวและ Rain Shower ส่วนห้องแบบที่ 2 คือ Type B02 ซึ่งขนาดใกล้เคียงกัน แต่ Layout ห้องจะมีการแยกห้องนอนไว้อย่างชัดเจน เข้าห้องมาจะเจอ Pantry ครัวก่อนเช่นกัน ด้านหลังประตูห้องเป็นพื้นที่เว้าเข้าไป Built-in เป็นชั้นวางของ และที่วางเครื่องซักผ้า ถัดจากมุมนี้ไปจะเป็นประตูห้องน้ำ ภายในห้องน้ำก็มี Layout เหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ โซนด้านในติดกับหน้าต่างเป็น Living Area ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะออกเป็นแนวลึก ทำระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟาค่อนข้างแคบ ไม่เหมาะจะแขวนทีวีขนาดใหญ่ๆ ในขณะที่นอนจะถูกแบ่งพื้นที่ไว้ชัดเจนด้วยผนังทึบและมีประตูบานสวิงปิดมิดชิด ทำให้พื้นที่ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวสูง ในนอนพอวางเตียง 5 ฟุตเข้าไปแล้วก็เหลือพื้นที่ข้างเตียงและปลายเตียงอีกนิดหน่อยเท่านั้น ผนังด้านปลายเตียงสามารถแขวนทีวีเพิ่มได้ ในขณะที่อีกด้านของห้องจะมีตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in มาเต็มผนัง ภายในห้องนอนจึงตกแต่งอะไรเพิ่มเข้าไปอีกได้ไม่เยอะนัก ซึ่งถ้าใครมีเพื่อนมาเยี่ยมห้องบ่อยๆ และชอบที่จะยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวอยู่อย่างชัดเจน ห้องแบบนี้น่าจะเหมาะกว่าครับ ผังห้อง Type B02 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกันส่วนของครัวอยู่ด้านซ้ายมือก่อนเลยนะครับ เคาน์เตอร์ครัวก็จะคล้ายๆ กับ Type B01 ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นส่วนที่เว้าเข้าไป ทำเป็นชั้นเก็บของและวางเครื่องซักผ้า ข้างๆ กันก็จะเป็นห้องน้ำ ที่จะอยู่ตรงข้ามกับส่วนครัวพอดี เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำก่อนเลยนะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนกับห้อง Type B01 เลยนะครับ ส่วนการวาง Layout ก็จะคล้ายๆ กัน ส่วนเปียกจะกั้นด้วยประตูกระจก Temper มาพร้อมกับชุดผักบัวและ Rain Shower มีส่วนเว้าเล็กๆ ไว้สำหรับวางของในห้องอาบน้ำ เดินเลยห้องน้ำและครัวเข้ามาก็จะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ก่อนถึงส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีจะค่อนข้างแคบนะครับ ไม่เหมือนกับห้อง Type B01 จึงอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของขนาดทีวี ข้างๆ กันจะเป็นหน้าต่างบาน Fix บานใหญ่ และบานกระทุ้ง 1 บาน มาต่อกันที่ห้องสุดท้ายคือห้องนอน ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุต กำลังเหมาะเลยครับ จะมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือนิดหน่อย แต่ด้านปลายเตียงจะไม่มีพื้นที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีนะครับ จะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน ตำแหน่งการวางแอร์จะอยู่ปลายเตียงเหนือทีวี ส่วนข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อและโต๊ะเครื่องแป้ง จากที่ได้ดูห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องแล้ว ต้องบอกว่าแต่ละห้องก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันออกไป แต่ที่แน่ๆ คือห้องทั้ง 2 แบบนี้ไม่มีระเบียงนะครับ ซึ่งอันนี้เป็นปัญหาใหญ่เลย เพราะมันไม่มีที่ให้ตากผ้า!! แล้วจะมีที่วางเครื่องซักผ้ามาให้เราซักผ้าแล้วไปตากที่ไหน ต่อให้เครื่องมีความสามารถในการปั่นผ้าให้หมาดจนเกือบแห้ง แต่ยังไงเราก็ยังต้องการพื้นที่ตากผ้าอยู่ดีใช่มั้ยครับ ต่อให้เลือกที่จะเอาเสื้อผ้าส่งร้านซักรีดทั้งหมด แต่ยังไงก็ต้องมีผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้ต้องซักต้องตากอยู่ดี อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าไม่เดือดร้อนก็ได้ นอกจากนี้เรื่อง Lay out ห้องที่ดูจากแปลนแล้วมีหน้าตาแปลก มีส่วนเว้า ส่วนเพิ่มตรงนั้นตรงนี้ ก็เนื่องจากการออกแบบตำแหน่งห้องในรูปแบบ Inter-Locked ซึ่งแต่ละห้องจะเหมือนจิ๊กซอร์แต่ละตัวที่เมื่อนำมาต่อกันแล้วจะเข้าล็อคลงตัวกันพอดี พื้นที่ในห้องจึงมีไม่ได้เป็นแค่ทรงสี่เหลี่ยมเรียบๆ อย่างโครงการอื่นๆ ครับ และอีกข้อที่ต้องตรวจสอบให้ดีๆ ก็คือ เรื่องเฟอร์นิเจอร์และวัสดุภายในห้องที่เราจะได้มาพร้อมห้องครับ เพราะบางชิ้นก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับที่เห็นในห้องตัวอย่างนะครับ อาจจะแค่เทียบเคียง หรือหน้าตาต่างกันมากบ้างน้อยบ้าง และหลายๆ ชิ้นที่เห็นก็จัดไว้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น อันนี้ต้องสอบถามกับพนักงานขายให้ละเอียดถี่ถ้วน ป้องกันการเข้าใจผิดเวลาที่เห็นห้องจริงครับ Type A04 แบบ Studio ขนาด 27 ตารางเมตร Type A13 แบบ Studio ขนาด 22.20 ตารางเมตร Type C07 แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าทำเลที่ตั้งของ Rhythm อโศก 2 ตั้งอยู่ในย่านที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมากที่สุดย่านหนึ่งในกรุงเทพ และบริเวณแวดล้อมก็ค่อนข้างพร้อมทั้งใกล้แหล่งสำนักงานเอกชน หน่วยงานราชการ สถานศึกษา แหล่งช็อปปิ้ง และแหล่งคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพทั้ง MRT และ Airport Link จึงเหมาะทั้งการจับจองไว้อยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุน เนื่องจากมีแนวโน้มในการทำกำไรค่อนข้างมาก ในขณะที่ตัวห้องเองก็มีขนาดเริ่มต้นที่เล็กและอยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าคนที่ต้องทำงานในระแวกนี้อยู่แล้ว การเลือกห้องในทำเลนี้ก็จะยิ่งสะดวกในการเดินทางมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าในระแวกนี้จะไม่มีโครงการอื่นๆ ไว้ให้เปรียบเทียบความต่างและความคุ้มค่าเลยนะครับ ในทางกลับกันกลับมีคอนโดโครงการอื่นๆ แวดล้อมเป็นจำนวนมาก ทีนี้ก็เหลือแค่เรื่องราคา สไตล์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และสาธารณูปโภคที่มีมาให้ ว่าโครงการไหนจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของแต่ละคนได้ดีกว่ากัน ในขณะที่ข้อดีจะมีอยู่มาก แต่ข้อด้อยก็ไม่ควรมองข้ามนะครับ ทั้งเรื่องจำนวนที่จอดรถที่ค่อนข้างน้อยถ้าเทียบว่าโครงการอยู่ในทำเลที่มีแนวโน้มว่าลูกบ้านส่วนใหญ่จะมีรถส่วนตัว ปัญหาการจารจรที่ติดหนักในชั่วโมงเร่งด่วนสำหรับคนที่ต้องเดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก และมลภาวะทางเสียง และมลภาวะทางอากาศจากฝุ่นควันที่อาจได้รับผลกระทบเนื่องจากคอนโดอยู่ติดริมถนนใหญ่ รวมถึงปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในห้อง อย่างพื้นที่เว้าไป เว้ามา ทำให้การจัดตกแต่งห้องยากในบางที หรือการที่ไม่มีพื้นที่ระเบียงให้เลย ถึงบริเวณที่ใช้แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์จะมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่อ้อมแอ้มว่าเปิดออกไปได้ และพยายามทำให้เข้าใจเหมือนว่ามันคือระเบียง แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่!! ในเมื่อมันไม่สามารถเปิดประตูเดินออกไปใช้งานอะไรได้ มันก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไร จะให้ยื่นออกไปตากผ้าก็ใช่เรื่อง และในความเป็นจริงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ด้วยครับ  อันนี้เลยอยากจะย้ำให้คิดให้รอบคอบอีกนิดว่า ถ้าเกิดต้องอยู่จริงๆ แล้วมันจะเกิดปัญหาตามมาหรือไม่ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตเราได้มากน้อยแค่ไหน
RHYTHM สุขุมวิท 36-38 : รีวิวคอนโด

RHYTHM สุขุมวิท 36-38 : รีวิวคอนโด

เชื่อว่าทำเลในย่านทองหล่อ คงเป็นอีกหนึ่งทำเลในดวงใจใครหลายๆ คน คราวนี้เลยจะพาไปดูคอนโดในเครือ AP ที่ชื่อว่า “Rhythm สุขุมวิท 36-38” ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ แต่ก็เกาะติดรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อไว้อย่างเหนียวแน่น เพราะอยู่ห่างจากตัวสถานีเพียง 300-400 เมตรเท่านั้น แถมโครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทาง AP ร่วมออกแบบกับ Mitsubishi Estate Group จากประเทศญี่ปุ่นด้วย ใครที่กำลังเล็งคอนโดทำเลใจกลางเมืองจึงน่าจะเก็บข้อมูลโครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ไว้พิจารณาดูนะครับ   การเดินทาง เรื่องการเดินทางแน่นอนว่าการพึ่งพารถไฟฟ้า BTS น่าจะเป็นคำตอบที่สะดวกที่สุดสำหรับคนเมืองที่มีเวลาจำกัด สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 36 และ 38 พอดิบพอดี จึงสามารถเลือกเข้าออกได้ทั้ง 2 ซอย ตัวโครงการตั้งอยู่ทางด้านซอยสุขุมวิท 36 นะครับ ดังนั้นระยะทางจากปากซอยทางด้านนี้จึงใกล้กว่า แต่ถ้าจะให้แนะนำเส้นทางที่เดินได้สะดวกและปลอดภัยก็คงจะต้องเลือกซอยสุขุมวิท 38 เป็นหลัก เพราะถนนในซอยกว้างกว่าและมีทางเท้าตลอดทาง และช่วงปากซอยจะมีร้านค้า ร้านอาหารเป็นจำนวนมากที่เปิดขายกันตั้งแต่เย็นๆ ไปจนค่ำมืด บรรยากาศช่วงต้นซอยจึงคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย ถึงแม้ระยะทางเดินทางด้านซอยสุขุมวิท 38 จะไกลกว่าทางซอยสุขุมวิท 36 อยู่เล็กน้อย แต่ยังไงก็ไม่เกิน 400 เมตร เดินกันพอเหงื่อซึมๆ เท่านั้น แถมยังแวะซื้อของกินระหว่างทางได้อีก ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเพื่อแลกกับความปลอดภัยในการเดิน แต่ถ้าใครที่ไม่อยากเดิน บริเวณปากซอยก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างคอยให้บริการทั้งคู่ จะเลือกลงจากสถานีรถไฟฟ้าทางด้านไหนก็สะดวกเหมือนกัน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ก็คงเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงได้ยากเช่นกันสำหรับคนเมือง แน่นอนว่าถนนเส้นหลักก็คือถนนสุขุมวิท ซึ่งถนนในซอยสุขุมวิท 36 ยังสามารถเชื่อมไปออกถนนพระราม 4 ได้อีกทาง ถึงตัวโครงการตั้งอยู่บนทางด้านซอยสุขุมวิท 36 แต่ทางโครงการก็ตัดถนนหน้าโครงการเชื่อมเส้นทางให้สามารถใช้เส้นทางในซอยสุขุมวิท 38 เป็นเส้นทางเข้าออกได้ ดังนั้นจึงพอจะมีเส้นทางเลี่ยงรถติดไปออกซอยสุขุมวิท 40 หรือไปออกเอกมัยทางซอยสุขุมวิท 42 ได้อีกทาง หรือถ้าเลือกไปอีกฟากของถนนสุขุมวิท ก็สามารถวิ่งตัดซอยทองหล่อไปออกถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้อีก แต่ทั้งนี้ถนนแต่ละเส้นที่ว่ามาก็ดูเหมือนจะมีปัญหาการจราจรที่ติดขัดไม่แพ้กัน เนื่องจากถนนโดยรอบเป็นถนนสายหลักๆ รวมถึงที่ตั้งของโครงการก็อยู่ใจกลางเมือง อย่างไรซะปัญหาเรื่องรถติดคงเลี่ยงได้ยาก แผนที่โครงการ ตัวโครงการจะอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 36 กับ 38 ตามชื่อโครงการเลยนะครับ ซึ่งสามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง แต่ถ้าหากเดินเท้าทางด้านซอยสุขุมวิท 38 จะสะดวกกว่านะครับ ถึงแม้ระยะทางจะไกลกว่าก็ตาม เนื่องจากมีฟุตบาทให้เดิน และมีร้านค้า ร้านอาหาร ให้เลือกซื้อกันด้วย แต่ทางฝั่งซอยสุขุมวิท 36 จะไม่มีฟุตบาทให้เดินนะครับ ซึ่งอาจจะอันตรายสักหน่อย แต่ถ้าไม่อยากเดินตรงหน้าปากซอยก็มีพี่วินมอไซต์ไว้ให้บริการด้วยนะครับ สำหรับการเดินทางวันนี้ผมขอใช้บริการรถไฟฟ้า BTS แล้วกันนะครับ เพราะถือว่าสะดวกสบายที่สุดหากเดินทางเข้ามาในย่านนี้ บริเวณด้านล่างสถานีรถไฟฟ้า ตามข้างทางก็จะมีร้านค้าต่างๆ มากมายให้เลือกซื้อกันก่อนกลับขึ้นห้องด้วยนะครับ มีไปรษณีย์อยู่ใกล้ๆ ด้วยนะครับ เหมาะกับคนที่ขายของออนไลน์ วินมอเตอร์ไซต์ที่คอยให้บริการอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 36 บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 36 อย่างที่บอกนะครับ ซอยนี้ไม่เหมาะสำหรับการเดินสักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่มีทางเท้าให้เดิน และอาจเกิดอันตรายจากรถยนต์ที่วิ่งไปมาด้วยนะครับ ตรงเข้ามาในซอยสุขุมวิท 36 อีกนิดก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วล่ะครับ ตัวโครงการกำลังเริ่มก่อสร้างรากฐานอาคารแล้วนะครับ เลยสถานที่ก่อสร้างโครงการมาอีกนิดเดียวก็จะเจอซอยเอพี อยู่ด้านซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยเอพี ก็จะถึงสำนักงานขายโครงการแล้วครับ มาดูที่ซอยสุขุมวิท 38 กันบ้างนะครับ บริเวณปากซอยก็จะมีร้านอาหารตามสองข้างทาง ถือว่าสะดวกทีเดียวนะครับ บรรยากาศภายในซอย ทั้งสองข้างทางก็จะมีทางเท้าให้เดินต่างกับซอยสุขุมวิท 36 เลยนะครับ นี่เป็นบรรยากาศในยามค่ำคืนบริเวณซอยสุขุมวิท 38 นะครับ บริเวณปากซอยมีร้านขายอาหารเรียงรายตามสองข้างทางเยอะเลยนะครับ ตอนค่ำๆ ที่นี่จะคึกคักมากเลยนะครับ เรื่องอาหารการกินถือว่าสะดวกมากๆ เลยทีเดียว ลงรถไฟฟ้ามาก็มีร้านอาหารรออยู่เพียบ!! ใครอยากจะนั่งทานที่ร้านก็มีที่นั่งริมทางให้ด้วยนะครับ หรือว่าจะซื้อกลับไปทานที่ห้องก็ได้ครับ เดินเลยเข้ามาด้านในอีกหน่อย ร้านค้าต่างๆ ก็จะหมดแล้วนะครับ ร้านส่วนใหญ่จะไปกระจุกตัวกันอยู่ปากซอยซะมากกว่า ทางเดินภายในซอยสุขุมวิท 38 ครับ ในตอนกลางคืนถ้าไม่ดึกมากๆ ก็ถือว่าปลอดภัยนะครับ มีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลา ทางเท้าภายในซอยแสงชัยก่อนถึงตัวโครงการก็กว้างขวางเดินง่ายดีครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ วิเคราะห์ตัวโครงการ ด้วยความที่โครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกว่าใจกลางเมืองพอดิบพอดี พื้นที่รอบๆ ในบริเวณใกล้เคียงแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ลองดูกันแบบคร่าวๆ ในระยะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS 1-2 สถานี ก็มีทั้ง Emporium, Terminal 21, Rain Hill, Gateway Ekamai, Major Ekamai, สวนเบญจศิริ, ท้องฟ้าจำลอง หรือถ้าห่างจากแนวรถไฟฟ้าไปนิดหน่อยก็ยังมี K Village, Big C พระราม 4, J Avenue, Market Place รวมถึงสถานศึกษา โรงเรียนนานาชาติก็อยู่ใกล้ๆ นิดเดียวเอง ซึ่งอันนี้เป็นแค่ตัวอย่างคร่าวๆ เท่านั้นนะครับ ถ้าใครที่คุ้นเคยกับย่านทองหล่อดีอยู่แล้ว คงจะนึกภาพสถานที่กิน ที่เที่ยวตามได้ไม่ยาก คราวนี้มาดูรายละเอียดตัวโครงการกันบ้างดีกว่า Rhythm สุขุมวิท 36-38 ตั้งอยู่บนถนนฝั่งซอยสุขุมวิท 36 นะครับ ถัดเข้ามาจากปากซอย 350 เมตร โดยถนนในซอยสุขุมวิท 36 จะเป็นด้านข้างของโครงการส่วนทางเข้าโครงการจะอยู่บริเวณถนน AP ซึ่งเป็นถนนสายสั้นๆ ที่ทางโครงการตัดขึ้นมาใหม่เพื่อเชื่อมซอยสุขุมวิท 36 กับซอยแสงชัยไว้ด้วยกัน ทำให้เราสามารถเลือกเดินทางเข้าออกได้ทั้ง 2 ซอย ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น มียูนิตรวม 496 ยูนิต ในอาคารรูปแบบตัว U โดยมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งรวมเอาสระว่ายน้ำสีม่วงสวยงาม (ตามภาพจำลองของโครงการ) ห้องซาวน่า และสวนพักผ่อนไว้ด้วยกัน ส่วนห้องออกกำลังกาย จะแยกไปอยู่ที่ชั้น 25 เวลาออกกำลังกายก็จะได้ชม City View จากมุมสูงไปด้วยในตัวครับ แต่ข้อเสียของการใช้งานก็มีเพราะลูกบ้านจะต้องลงลิฟท์ลงมาชั้นล่างถ้าอยากจะว่ายน้ำ หรืออบซาวน่าหลังจากออกกำลังกายแล้ว ขณะที่บริเวณชั้น 1 นอกจากจะมี Lobby ขนาดใหญ่แล้ว ยังมีร้านค้าภายในอีก 1 ร้าน และพื้นที่พักผ่อน บริเวณชั้น 1-5 ใต้คอร์ทสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่จอดรถครับ ซึ่งนับรวมแล้วจอดรถได้ 43% แต่ยังไม่รวมจอดซ้อนคันนะครับ ซึ่งอาจจะจอดได้เกือบๆ 240 คันเลยนะครับถ้านับรวมจอดซ้อนคันด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน ทั้งการใช้คีย์การ์ดผ่านเข้าออก และกล้อง CCTV ส่วนเรื่องลิฟท์โดยสารทางโครงการจัดมาให้ 4 ตัว และลิฟท์เซอร์วิสอีก 1 ตัว ตำแหน่งของลิฟท์อยู่ที่โซนทิศตะวันออก ซึ่งห้องทางฝั่งนี้จะมีระยะเดินที่สั้นกว่าห้องทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งห้องมุมของโซนนี้ต้องเดินกันไกลพอสมควรเลยทีเดียว ในวันที่ซื้อข้าวของหิ้วกันพะรุงพรังคงลำบากหน่อย สไตล์การออกแบบของโครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ได้นำเอาแนวคิดการออกแบบมาจากญี่ปุ่นในการจัดสรรพื้นที่ให้มีความเชื่อมโยงกัน ห้องแต่ละยูนิตถูกแบ่งพื้นที่แบบ Interlock โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจนถึงชั้น 24 ด้วยผังของอาคารที่เป็นรูปตัว U วิวหลักๆ ของห้องด้านนอกคือ City View ของย่านสุขุมวิทซึ่งห้องที่อยู่ชั้น 6-7 ทางฝั่งซอยสุขุมวิท 36 อาจจะหนีไม่ค่อยพ้นวิวตึกข้างๆ ซักเท่าไหร่ เพราะฝั่งตรงข้ามถนนมีอาคารสำนักงาน และคอนโด  Low Rise อีก 2-3 ตึก ดังนั้นถ้าจะให้ได้วิวแบบเซฟๆ หน่อย อย่างน้อยก็ต้องเลือกห้องตั้งแต่ชั้น 7 หรือ 8 ขึ้นไป ส่วนด้านอื่นๆ ของโครงการยังเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโดนบังวิวเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้ห้องที่อยู่ด้านตัว U ก็จะได้วิวธรรมดาๆ ของสระว่ายน้ำโครงการแทน แต่ช่วงที่เราเข้าไปดูที่โครงการก็เห็นว่าห้องขายไปเยอะแล้วพอสมควร ตำแหน่งห้องในทิศต่างๆ อาจจะเหลือให้เลือกไม่มากนัก จะเล็งห้องขนาดไหนทางด้านทิศใดก็ต้องไปดูที่สำนักงานขายกันอีกทีนะครับ หน้าตาของอาคารที่ออกแบบเป็นรูปตัว U โอมล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวรอบๆ โครงการ ถนนด้านหน้าโครงการที่ตัดจากซอยสุขุมวิท 36 ทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 38 ให้ชื่อว่า "ซอย AP" เพื่อให้ลูกบ้านได้รับความสะดวกสามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ซอย ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby มีสวนสไตล์ญี่ปุ่นอยู่ด้านหน้าโครงการ ส่วนด้านในจะเป็นที่จอดรถที่จะใช้ตั้งแต่ชั้น G ชึ้นไปถึงชั้น 5 รวมแล้วจอดได้ประมาณ 43% สวนสไตล์ญี่ปุ่นด้านหน้าโครงการที่มีการนำน้ำมาเป็นส่วนประกอบ ดูแล้วน่าจะให้ความร่มรื่นดีนะครับ Lobby ที่ชั้น G มองออกไปด้านนอกจะเห็นสวนญี่ปุ่นที่อยู่หน้าโครงการ สระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 6 นะครับ และเป็นที่ชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัย สระว่ายน้ำของที่นี่จะสีม่วงนะครับ อาจจะแปลกตากว่าสระว่ายน้ำที่เราเคยเห็นๆ กันที่ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้า สีน้ำเงิน สูงขึ้นไปชั้นที่ 7-16 จะเป็นห้องพักอาศัย ประมาณ 28 ยูนิตต่อชั้น สูงขึ้นมาอีกตั้งแต่ชั้นที่ 16-24 จำนวนยูนิตจะน้อยลง เพราะพื้นที่บางส่วนถูกแทนที่ด้วยพื้นที่สีเขียว มาถึงชั้น 25 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคารนะครับ ชั้นนี้จะมีส่วนที่เป็นฟิตเนส และพื้นที่สีเขียวไว้สำหรับพักผ่อน เรามาดูวิวทิวทัศน์กันบ้างนะครับ เริ่มทางทิศเหนือจะหันไปด้านถนนสุขุมวิท ฝั่ง BTS ทองหล่อ มองออกไปจะเห็นโครงการ Noble Remix ที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 ซึ่งมีความสูง 33 ชั้น อาจจะบดบังวิวไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ถือว่าไม่ได้อยู่ใกล้จนดูอึดอัดนะครับ ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางถนนพระราม 4 จะเห็นตึกมาลีนนท์อยู่ไกลๆ นั่นด้วยนะครับ ส่วนตึกสูงอีกโครงการที่อยู่ใกล้ๆ ก็คือโครงการ Ashton ที่ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ บริเวณซอยสุขุมวิท 38 ครับ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะหันไปทางถนนสุขุมวิทจะเป็นวิวด้านซอยทองหล่อ บริเวณรอบๆ ตัวโครงการจะเป็นบ้านเรือนพักอาศัยเตี้ยๆ ไม่มีตึกสูงขึ้นในด้านนี้ครับ พาชมห้องตัวอย่าง อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าการออกแบบพื้นที่ห้องของโครงการนี้เป็นแบบ Interlock ซึ่งคือการออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้อย่างเต็มที่ โดยจะแยกพื้นที่ส่วนของห้องน้ำออกมาเพื่อไม่ให้กินพื้นที่ของห้องใหญ่ ทำให้เรารู้สึกว่าพื้นที่ห้องกว้างขวางมากขึ้นกว่าแบบห้องแบบเดิมๆ พอนำแปลนห้องแบบต่างๆ มาต่อกัน ก็จะเข้าล็อคกันพอดีคล้ายๆ กับการต่อจิ๊กซอว์นั่นเอง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการมีให้ชมขณะนี้จะมีเพียงห้องแบบ Studio แบบเดียวเท่านั้นครับ ซึ่งขนาดห้องอยู่ที่ 24 ตร.ม. ห้องแบบนี้เปิดเข้ามาจะเจอส่วนของครัวเปิดทางด้านซ้ายมือของประตู แน่นอนว่าข้อเสียของครัวแบบนี้คือ ไม่เหมาะกับการทำครัวหนักๆ เพราะกลิ่นจะฟุ้งกระจายเต็มห้อง จะให้ดีก็คงทำได้แต่เตรียมหรืออุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และด้วยความที่ห้องเป็นแบบ Studio พื้นที่นั่งเล่นกับที่นอนก็ต้องแบ่งๆ กันใช้ การจัดวางชุดโซฟา กับเตียงก็มีรูปแบบค่อนข้างจำกัด เท่าที่ดูจากในห้องตัวอย่างแล้วก็คงขยับอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าจะร่นระยะที่นอนให้ไปอยู่ชิดกับหน้าต่างเลย ก็พอทำได้ แต่ก็อาจจะไม่ได้องศาเวลาดูทีวี หรืออาจจะได้ไอร้อนจากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ทำให้นอนไม่สบายตัวนักก็ได้ ทางโครงการจัดแบ่งพื้นที่ระเบียงมาให้ด้วยนะครับ แต่ก็เล็กมากๆ พื้นที่แค่พอก้าวเท้าได้ 1-2 ก้าว หรือจะวางที่ตากผ้าก็คงจะเต็มพื้นที่แล้ว การใช้งานที่ระเบียงจึงอาจจะหวังอะไรมากไม่ได้ ส่วนห้องน้ำที่อยู่แยกออกมาจากพื้นที่ห้องนอน กลับถูกจัดสรรไว้ค่อนข้างลงตัวกว่า ถึงแม้ว่าห้องน้ำจะเล็กแต่ก็สามารถแยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกได้เรียบร้อย ห้องที่ทางโครงการขายมาให้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ มีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และสุขภัณฑ์มาค่อนข้างครบแล้ว จากที่เห็นในห้องตัวอย่างทางโครงการจะให้อะไร ชิ้นไหนบ้างก็สอบถามกันให้ละเอียดนะครับ เพราะหน้าตาเฟอร์นิเจอร์จะไม่เป็นไปตามแบบทุกชิ้น อย่างตู้เสื้อผ้าก็ไม่ใช่บานประตูกระจก ฝ้าก็ไม่ได้ดร็อปมาให้ กระจกเงาในห้องน้ำก็ไม่มี Light Box ด้านหลัง ส่วนอื่นๆ ก็แนะนำให้เช็คและทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนเลย จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ส่วนห้องแบบอื่นๆ ที่เป็นแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ก็คงต้องดูเอาตามแปลนที่ทางโครงการมีไว้ให้นะครับ แต่เท่าที่ทราบห้องแบบ 2 Bedroom ทางโครงการขายหมดไปเรียบร้อยแล้ว เพราะห้องแบบน้มีเพียง 15 ห้องเท่านั้น ส่วนห้องที่เหลือก็ต้องตามไปเช็คกับเซลล์ดูว่าจะเหลือห้องไหน ในทิศอะไรบ้าง และจะตรงกับความต้องการมากน้อยเพียงใด ห้อง Studio ขนาด 24 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาในห้องก็จะเจอกับโซฟาที่อยู่กับกับเตียงเลยนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปดูในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นกับที่นอน เรามองย้อนกลับออกมาหน้าห้อง แล้วมาดูส่วนครัวที่อยู่ด้านหน้ากันก่อนดีกว่านะครับ ครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ ก็อย่างที่บอกนะครับ ว่าครัวแบบเปิดนี้เหมาะจะใช้สำหรับเตรียมอาหารมากกว่าที่จะทำอาหารทานเอง ตำแหน่งการวางตู้เย็นจะอยู่ด้านซ้ายมือติดกับประตูห้องเลยนะครับ ด้านล่างจะมีช่องใส่เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟ ซิ้งค์ล้างจานแบบฝังของ FRANKE นะครับ เตาไฟฟ้า 2 หัวของ FRANKE เช่นกันครับ กลับมาดูด้านในกันต่อนะครับ ติดกับส่วนครัวจะเป็นโซฟา ถัดไปก็เป็นเตียงแล้วนะครับ ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้นะครับ หน้าต่างข้างเตียงจะเป็นบาน Fix บานใหญ่เลยครับ ด้านปลายเตียงจะเป็นชั้นวางทีวีนะครับ หากจะดูทีวีก็คงต้องนอนดูบนเตียง หรือหากนั่งดูที่โซฟาก็จะต้องเอียงตัวมาทางทีวีสักหน่อย ส่วนของระเบียงจะอยู่ข้างๆ ทีวีนะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน พื้นที่ระเบียงค่อนข้างเล็กนะครับ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านบน ตู้เสื้อผ้าจะตั้งอยู่ข้างชั้นวางทีวี และอยู่หน้าห้องน้ำนะครับ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยนะครับ การวางสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำนะครับ โถสุขภัณฑ์ของ Kohler อ่างล้างหน้าของ Cristina วัสดุทำมาจากไฟเบอร์ ส่วนที่ติดกับอ่างล้างหน้าจะเป็นส่วนอาบน้ำกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวและ Rain Shower จะเป็นของ Kohler แต่จะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะครับ ชุดสวิชส์ไฟใช้ของ Siemens ทั้งหมดนะครับ เรามาดูแปลนห้องแบบอื่นๆ กันบ้างนะครับ จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน โครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ค่อนข้างเหมาะกับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในย่านทองหล่อ ในขณะที่มีงบประมาณไม่เวอร์วังอลังการเกินไป ทำเลที่ตั้งโครงการค่อนข้างดีเพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อเพียง 300-400 เมตร ซึ่งต้องอาศัยการเดินเข้าซอยเล็กน้อย หรือจะใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็สะดวก และการที่ตัวโครงการไม่ได้อยู่ในซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) จึงค่อนข้างได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า รถราและผู้คนในซอยก็ไม่พลุกพล่านมากจนเกินไป ในขณะที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 38 และริมถนนสุขุมวิทมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อมากมาย ทั้งร้านอาหารสุดหรูและแผงลอยราคาย่อมเยา ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงจึงจัดว่าดีมากๆ แถมบริเวณรอบๆ ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรก็มีห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง สถานที่ท่องเที่ยว และสถานศึกษาครับถ้วน ทำเลในย่านนี้จึงถูกใจผู้ที่นิยมวิถีชีวิตแบบคนเมืองไปเต็มๆ เรื่องการเดินทางก็สะดวกทั้งรถไฟฟ้า BTS และการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 4 หรือจะข้ามไปถนนเพชรบุรีตัดใหม่ก็ทำได้ทั้งนั้น จะติดก็แค่เรื่องรถติดที่หนักหนาอย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้วนั่นแหละครับ สำหรับตัวห้อง ต้องบอกว่าราคาเริ่มต้นมาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน เพราะแค่เริ่มต้นก็ตกตารางเมตรละ 170,000 บาทเข้าไปแล้ว และเมื่อเทียบกับแบบห้อง รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่มาพร้อมห้องก็ต้องบอกว่าแค่พอโอเคเท่านั้น เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่แถมมาอาจจะดูไม่สมราคาห้อง ทั้งๆ ราคาห้องระดับนี้ในทำเลใกล้เคียงกันก็มีตัวให้เปรียบเทียบไม่น้อยเลย ถ้าจะซื้อหาไว้อยู่เองสำหรับคนที่งบไม่มากนัก อาจจะมองทำเลอื่นๆ ที่ใกล้เคียงแทนได้ ส่วนการซื้อไว้เพื่อลงทุนก็อาจจะทำกำไร และมี Upside Gain ยาก ผลตอบแทนจากการลงทุนอาจจะไม่คุ้มค่า หรือใช้เวลานานเกินไปก็ได้ เว้นเสียแต่ว่าจะปล่อยห้องให้ชาวต่างชาติเช่าก็อาจจะพอมีโอกาสทำเงินได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
Aspire สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

Aspire สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

ใครที่กำลังมองหาคอนโดในย่านพระโขนง ต้องไม่พลาดข้อมูลของโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 คอนโด High Rise ที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว แถมยังอยู่เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทด้วย ถึงแม้สถานีพระโขนงจะอยู่ห่างจากตัวโครงการมากถึง 750 เมตร แต่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่ยังน่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับห้องในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 3 ล้านบาท การเดินทาง   การเดินทางมายังคอนโด Aspire สุขุมวิท 48 สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพระโขนง ซึ่งอยู่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 48 ประมาณ 500-600 เมตร ส่วนตัวโครงการอยู่ถัดเข้ามาในซอยอีกเกือบ 200 เมตร ด้วยระยะขนาดนี้ยังถือว่าเดินได้ไม่ยาก แต่ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่จากตัวสถานีรถไฟฟ้าลงมาทางถนนพระราม 4 ต้องข้ามทางม้าลายที่แยกใหญ่อีกทอด ซึ่งต้องเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยจากรถราบนท้องถนนบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าจะออกจากโครงการไปยังรถไฟฟ้าแล้วไม่อยากเดิน ก็มีทางเลือกให้ทั้งบริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือจะใช้บริการ Shuttle Bus ของทางโครงการที่มีบริการรับส่งตามเวลาที่กำหนดก็ได้เช่นกัน   ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถเลือกเข้าได้ทั้งจากทางซอยสุขุมวิท 48 และฝั่งถนนพระราม 4 จากซอยสุขุมวิทพลัส 2 ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสามแยกพระโขนงนั่นเอง ถ้าเราเดินทางมาจากทางอ่อนนุช จะต้องข้ามสะพานข้ามคลองพระโขนงมาก่อนนะครับ พอขึ้นสะพานมาแล้วให้พยายามชิดซ้ายเข้าไว้ เพราะลงสะพานมาปุ๊ปก็เห็นซอยสุขุมวิท 48 อยู่ตรงหน้าทันที ส่วนถ้าใครมาจากฝั่งเอกมัย ผ่านแยกพระโขนงมาแล้วจะต้องมากลับรถที่ใต้สะพานเพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 48 หรือจะเลี้ยวเข้าถนนพระราม 4 แล้วเข้าทางซอยสุขุมวิทพลัส 2 ก็ได้เช่นกัน แต่การเข้าออกทางซอยสุขุมวิทพลัส 2 ต้องเสียค่าผ่านทาง 10 บาทด้วยนะครับ ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน แน่นอนว่าการจราจรบริเวณนี้ก็ได้ชื่อว่าติดหนักเอาการ เพราะถนนสุขุมวิทมักจะมีปริมาณรถที่หนาแน่นเกือบตลอดเวลา เส้นทางหลีกเลี่ยงที่พอจะทำได้ง่ายก็เห็นจะมีถนนพระราม 4 ที่สามารถออกไปขึ้นทางด่วนที่ด่านอาจณรงค์ได้ แต่การจราจรบนถนนพระราม 4 ก็ใช่ว่าจะติดน้อยกว่าถนนสุขุมวิทซักเท่าไหร่ ดังนั้นใครที่ต้องใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักอาจจะเลี่ยงปัญหารถติดได้ยาก หรือถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยกับเส้นทางบริเวณนี้ดีพอ ก็อาจจะรู้ว่าในซอยสุขุมวิท 48 นี้มีเส้นทางลัดไปออกซอยสุขุวิท 50 เพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ด้วยอีกทาง แต่เส้นทางนี้จะต้องขับผ่านซอยแคบในพื้นที่ส่วนบุคคลด้วย จึงไม่ค่อยมีใครรู้เส้นทางเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่   สำหรับการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน เพราะบริเวณปากซอยสุขุมวิท 48 มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และป้ายรถเมล์ ซึ่งถนนสุขุมวิทมีรถราวิ่งผ่านมากมายอยู่แล้ว จะไปไหนมาไหนจึงหาเรียกรถได้สะดวก   แผนที่รอบๆ โครงการครับ สำหรับการเดินทางวันนี้ผมขอเริ่มจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ย่านบางจากใกล้ๆ โครงการเลยนะครับ ด้านซ้ายมือจะเป็นสำนักงานเขตพระโขนงครับ ตรงมาอีกนิดนึงก็ถึง BTS อ่อนนุชแล้วครับ เลยจาก BTS อ่อนนุชมาก็จะเจอแยกอ่อนนุช ด้านขวามือจะเป็นถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุช ให้ขับตรงไปเลยนะครับ พอตรงมาแล้วก็จะเจอสะพานข้ามคลองพระโขนง ให้ขับตรงขึ้นสะพานไปเลยครับ พอข้ามสะพานมาก็ถึงแล้วครับ ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยนะครับ หน้าปากซอยสุขุมวิท 48 จะมีป้ายโฆษณาของโครงการติดอยู่ด้วยนะครับ สังเกตได้ไม่ยาก โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยก็จะเห็นอาคารของโครงการตั้งตระหง่านอยู่แบบนี้เลยครับ โครงการจะอยู่ในซอยประมาณ 200 เมตรครับ ถึงแล้วครับ ทางเข้าโครงการ อย่างที่บอกว่าโครงการสร้างเสร็จแล้ว เริ่มมีลูกบ้านทยอยเข้ามาอยู่แล้วครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในโครงการแล้วให้ขับเลยมาจอดรถที่ Tower S ด้านในนะครับ เพราะสำนักงานขายจะย้ายมาอยู่ที่ Lobby Tower S ครับ บรรยากาศด้านล่างตึก น้ำพุด้านหน้า Tower S บรรยากาศภายใน Lobby ครับ Lobby อีกมุม ครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ   โครงการ Aspire สุขุมวิท 48  อยู่ถัดเข้ามาจากปากซอยเป็นระยะทางเกือบ 200 เมตร ลักษณะที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวเริ่มจากฝั่งซอยสุขุมวิท 48 ไปจรดคลองพระโขนง พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 3 อาคาร คือ อาคาร N (North) สูง 25 ชั้น อาคาร S (South) สูง 30 ชั้น และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นซึ่งอยู่ด้านในสุด อาคารทั้งหมดตั้งอยู่ตามแนวทะแยงทิศเหนือ-ใต้  ทำให้ห้องส่วนใหญ่ค่อนไปในตำแหน่งทิศตะวันออกและตะวันตก ห้องทางด้านทิศตะวันออกจะได้ City View เห็นทั้งรถไฟฟ้า BTS ถนนสุขุมวิท และวิวตึกสูงตามแบบฉบับเมืองใหญ่ ส่วนทางด้านทิศตะวันตกที่ใครๆ กลัวว่าแดดจะร้อนแต่กลับได้วิวที่สวยกว่า ด้วยวิวมุมกว้างไร้ตึกสูงให้รกตา แถมยังได้วิวแม่น้ำ ท่าเรือ และในวันที่อากาศดีๆ ก็สามารถมองเห็นได้ไกลถึงบางกระเจ้าเลยทีเดียว ใครที่เลือกห้องในชั้นสูงๆ ก็จะได้เปรียบเรื่องวิวไปเต็มๆ ส่วนปัญหาเรื่องแดดร้อนก็อาจจะร้อนบ้างแต่ยังโชคดีที่บางห้องอยู่ในตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงไม่โดนแดดเต็มที่ ใครที่อยากได้ห้องวิวสวยๆ ก็ลองพิจารณากันดูได้ครับ   ส่วนบริเวณรอบๆ โครงการยังมีบรรยากาศเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยกันมาก่อน ในซอยสุขุมวิท 48 มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และร้านซักรีดบ้าง ซึ่งก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น  ถัดมาทางถนนสุขุมวิทก็ยังมีร้านค้าอยู่อีกไม่น้อยเช่นกัน รอบๆ ในรัศมีใกล้เคียงมีสาธารณูปโภคครบถ้วนดีเช่นกัน ทั้งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท และห้างสรรพสินค้าอีกหลายแห่ง จัดว่าอุดมสมบูรณ์ดีทีเดียวครับ   และด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ มียูนิตรวมทั้ง 2 อาคารมากถึง 838 ยูนิต  ทำให้มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องใช้ร่วมกันบ้าง และแยกส่วนกันบ้าง เช่นในส่วนของอาคารจอดรถที่ลูกบ้านต้องใช้อาคารจอดรถร่วมกัน โดยอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นที่ทางโครงการจัดไว้ สามารถรองรับรถได้กว่า 400 คัน ถ้านับรวมที่จอดรถบริเวณรอบๆ อาคาร และนับรวมการจอดซ้อนคันแล้ว ก็มีสัดส่วนที่จอดรถมากถึง 50% ของจำนวนห้องทั้งหมดเลยทีเดียว แต่ลูกบ้านในอาคาร N จะเสียเปรียบกว่านิดหน่อย เพราะตั้งอยู่ห่างจากอาคารจอดรถมากกว่าอาคาร S แถมทางเดินระหว่างอาคารแต่ละหลังก็ไม่มีหลังคาบังแดดบังฝนด้วย การเดินไปมาในช่วงเวลาฝนตกอาจจะลำบากหน่อย ยิ่งถ้าต้องหิ้วของพะรุงพะรังยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะทุลักทุเลแค่ไหน นอกจากนี้สวนหย่อม และลู่วิ่งบนถนนรอบโครงการก็เป็นอีกส่วนที่ต้องใช้ร่วมกัน ส่วนสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า และพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ที่ชั้นบนสุดของทั้ง 2 อาคาร ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางนี้จะแยกกันแต่ละอาคารโดยชัดเจน โดยที่พื้นที่ส่วนกลางบนดาดฟ้าของอาคาร S จะกว้างกว่าอาคาร N อย่างชัดเจน เนื่องจากจำนวนยูนิตรวมในอาคาร S มากกว่านั่นเอง ส่วนเรื่องลิฟท์โดยการก็แบ่งเป็นอาคาร S 3 ตัว และลิฟท์เซอร์วิสอีก 1 ตัว ในขณะที่อาคาร N มีลิฟท์โดยสารให้เพียง 2 ตัวเท่านั้น เรื่องความหนาแน่นของการใช้งานส่วนกลางต่างๆ ก็ต้องบอกว่าหนาแน่นกันพอสมควร อย่างลิฟท์โดยสารก็คำนวนได้ในอัตรา 1:140-180 เลยนะครับ ส่วนสระว่ายน้ำระดับ 5x15-20 เมตร ในแต่ละอาคารไม่ต้องบอกก็น่าจะนึกออกว่าจะต้องแบ่งกันใช้งานมากน้อยแค่ไหน   เนื่องจากตัวโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 สร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัยแล้ว เราเลยได้เห็นบรรยากาศภายในโครงการจริงๆ ทั้งล็อบบี้ที่โอ่งโถงทันสมัย วิวสวยๆ จากบนตึก ระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องใช้ Key Card กันตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ไปจนถึงลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้น รวมถึงหน้าตาของพื้นที่ส่วนกลางที่บนดาดฟ้าของอาคาร S ทำให้เราไม่ต้องจินตนาการเกินจริงจากแบบแปลนในกระดาษอีกต่อไป ใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่ ลองแวะไปดูของจริงกันได้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ครับ   หน้าตาแบบแปลนของโครงการนะครับ จะมีทั้งหมด 3 อาคาร ซ้ายสุด Tower N สูง 25 ชั้น , Tower S สูง 30 ชั้น และอาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น ชั้น G ของ Tower N กับ S จะเป็น Lobby หน้าตาของ Lobby ครับ ส่วนของห้องพักอาศัยของทั้ง 2 อาคารจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปเลยนะครับ โดย Tower N จะมีห้องพักทั้งหมด 278 ยูนิต ส่วน Tower S จะมีทั้งหมด 560 ยูนิตครับ ที่ชั้น 17 และ 22 ของ Tower N จะมี Sky Garden ด้วยนะครับ ส่วนชั้น 25 จะเป็นชั้นบนสุดของ Tower N จะมีสระว่ายน้ำ,ฟิตเนส และสวนสีเขียวอยู่ที่ชั้นนี้ครับ ส่วน Facility หลักของ Tower S จะอยู่ที่ชั้นบนสุดเหมือนกันคือชั้น 30 ครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้นดาดฟ้า Fitness ที่อยู่บนชั้นสุงสุดของอาคาร อาคารจอดรถสูง 8 ชั้นครับ   พาชมห้องตัวอย่าง   แบบห้องของ Aspire สุขุมวิท 48 มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบใหญ่ คือ ห้องแบบ 1bedroom ขนาด 27-38 ตร.ม. และห้องแบบ 2 bedroom ขนาด 54-64 ตร.ม. แต่สำหรับตอนนี้ห้องที่เหลืออยู่จะมีเพียงห้องแบบ 1 bedroom เท่านั้นนะครับ ซึ่งทางโครงการขายกันมาให้แบบห้องเปล่าๆ โล่งๆ มีให้มาเพียงชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ส่วนถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งตามแบบห้องตัวอย่างก็ต้องลองสอบถามพนักงานขายกันดูว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมยังไงบ้าง สำหรับห้องแบบ 1 bedroom ยังมีแบบแยกย่อยให้เลือกอีก 2 แบบ คือห้องแบบที่มีห้องน้ำในตัวห้องนอน กับห้องแบบที่แยกห้องน้ำไว้นอกห้องนอน ซึ่งห้องทั้ง 2 แบบจะมี Layout ภายในต่างกันทั้งเรื่องขนาดของห้องครัว ตำแหน่งประตูห้องน้ำ และลักษณะการกั้นพื้นที่ห้องน้ำ โดยห้องแบบแรกมีขนาด 38 ตร.ม. เรียกว่า Type D : Bed Sky Kit เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอพื้นที่ในส่วน living room ก่อน และส่วนที่อยู่ติดในแนวเดียวกันคือห้องครัวขนาดใหญ่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งจัดมุมรับประทานอาหารไว้ชิดหน้าต่างเพื่อเปิดรับวิวขณะรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ ซึ่งห้องแบบนี้จะจัดแบ่งพื้นที่ของห้องนอนและห้องน้ำไว้เป็นสัดส่วน ประตูห้องนอนเป็นบานสวิง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันการจะเข้าออกห้องน้ำต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนทุกครั้ง ส่วนห้องอีกแบบมีขนาด 38 ตร.ม. เท่ากัน แต่เป็น Type D : Bed Std Kit ซึ่งเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอ living room ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ห้องนี้ดูโล่งโปร่งสบายตากว่า ในขณะที่ห้องครัวจะมีขนาดเล็กกว่าห้องก่อนหน้านี้ เพราะชุดโต๊ะกินข้าวถูกจัดวางไว้ในบริเวณเดียวกันกับ living room นั่นเอง และห้องน้ำก็อยู่ในแนวเดียวกันกับห้องครัว โดยรวมห้องแบบนี้จะได้คะแนนความน่าอยู่มากกว่า เพราะเราจะรู้สึกว่าห้องกว้างกว่าถึงแม้ขนาดของห้องจะเท่ากันก็ตาม   จากที่ได้ชมห้องตัวอย่างแล้วต้องบอกว่าแปลนห้องไม่ได้มีผิดแผกจากคอนโดในระดับเดียวกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องค่อนข้างครบถ้วน พื้นห้องครัวและห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้องเซรามิค ในขณะที่พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนตตามมาตรฐาน เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งตัวดูดควัน เตาไฟฟ้า และซิงค์ล้างจานติดตั้งมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน รวมถึงในห้องน้ำที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยกระจกบานเลื่อน ถึงแม้จะบอบบางไปหน่อยแต่ก็พอเหมาะกับการใช้งาน หน้าตาของวัสดุสุขภัณฑ์ที่ให้มาพร้อมห้องเป็นเกรดธรรมดาทั่วๆ ไปนะครับ ไม่ได้หรูหราสวยงามมากนัก ออกจะดูว่าทางโครงการลดเกรดวัสดุบางตัวลงมากเกินไปด้วยซ้ำ ทำให้ดูไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่ ส่วนที่น่าประทับใจก็เห็นจะเป็นเรื่องวิวของห้องทางด้านทิศตะวันตก ที่ถึงแม้จะต้องเจอกับแดดร้อนๆ ในช่วงบ่าย แต่กลับได้วิวมุมสูงที่สบายตากว่ามาก ถ้าไม่ติดปัญหาเรื่องราคาลองเลือกห้องในชั้นที่สูงซักหน่อย ก็จะได้วิวกว้างไร้สิ่งบดบังสายตา ส่วนภายในห้องถ้าตกแต่งดีๆ ก็ทำให้น่าอยู่ได้ไม่ยากครับ มาดูกันที่ห้อง 1 Bedroom แบบ Sky Kitchen ขนาด 38 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ ห้อง Type นี้จะเน้นที่ห้องครัว ดูจากผังห้องจะเห็นชัดเลยนะครับ ว่าห้องครัวมีขนาดใหญ่พอสมควร และมีโต๊ะทานอาหารหันหน้าเข้าหาหน้าต่าง เพื่อชมวิวเวลาทานอาหารด้วย เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับส่วนของ Living Area ก่อนเลยนะครับ มุมนี้จะเป็นมุมของโซฟาดูทีวีครับ อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางทีวี เมื่อมองตรงเข้าไปข้างในจะเป็นห้องครัว วางอยู่ด้านในสุด ครัวจะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น พื้นที่ห้องครัวจะเป็นพื้นกระเบื้องนะครับ ด้านในห้องครัวเราจะได้แบบนี้เลยนะครับ ทั้งเคาน์เตอร์ครัว และโต๊ะทานอาหารติดหน้าต่าง จุดวางตู้เย็นจะอยู่ติดประตูกระจกบานเลื่อนนะครับ ส่วนไฟฟ้าจะอยู่ด้านในติดกับโต๊ะทานอาหาร มีช่องใส่เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง เตาไฟฟ้า Hot Plate แบบ 2 หัว และ Hood ดูดควัน ของ Teka ซิงค์หลุมก็ของ Teke เช่นกันครับ เดี๋ยวเราไปดูที่ห้องนอนกันต่อเลยนะครับ จากการที่ทำห้องครัวใหญ่ จึงทำให้ห้องนอนค่อนข้างจะเล็กเลยนะครับ มาดูที่หัวเตียงกันบ้าง ข้างเตียงทั้ง 2 ข้างมีพื้นที่เหลือนิดหน่อย ให้วางโต๊ะข้างและโคมไฟได้ครับ ถัดไปด้านซ้ายอีกหน่อยจะเป็นตู้เสื้อผ้า ตั้งอยู่หน้าห้องน้ำเลยครับ Type นี้ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนเลยนะครับ ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยครับ ตำแหน่งการวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครับ ห้องอาบน้ำมีประตูบานเลื่อน 3 ตอนปิด ชุดฝักบัวในห้องอาบน้ำ มาดูอีกห้องนะครับ ขนาด 38 ตารางเมตรเท่ากัน แต่ห้องนี้จะเน้นที่ห้องนอนนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีครับ โซฟาขนาด 2 คน นั่งชิดกันกำลังอบอุ่นเลยครับ ทีวีที่ Built in มาให้ดูจะเป็นแบบแขวนนะครับ ทำให้ชั้นวางทีวีดูโล่งมีพื้นที่เหลือให้วางของเพิ่มขึ้นด้วยครับ ห้องนี้โต๊ะทานอาหารจะออกมาอยู่ที่ส่วน Living Area ใกล้ๆ กับชั้นวางทีวีนะครับ ถัดมาด้านในเป็นห้องนอนนะครับ อย่างที่บอกว่า Type นี้จะเน้นที่ห้องนอนเป็นพิเศษ ห้องนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นนะครับ ไม่ใช่ผนังเหมือน Type Sky Kitchen ทำให้ห้องดูโล่งขึ้นมาเยอะเลยครับ การวางเตียง จะมีโต๊ะทำงานและที่นั่งริมหน้าต่างไว้นั่งชมวิวด้วยนะครับ ที่ปลายเตียงจะมีชั้นวางทีวีให้อีกนะครับ ตู้เสื้อผ้าก็จะอยู่ปลายเตียง เหมือนกันครับ ตรงนี้เป็นช่องว่างตรงกลางก่อนจะแยกไปเป็นห้องครัวและห้องน้ำนะครับ มีการ Built in ตู้เก็บของไว้ด้วย เราเลี้ยวขวาเข้ามาดูห้องครัวกันก่อนนะครับ ห้องครัว Type นี้จะต่างกับ Type ก่อนหน้านี้ที่เราดูไปนะครับ เพราะถูกห้องนอนบีบจนแคบอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดครับ ภายในครัวนะครับ จะมีช่องใส่ไมโครเวฟและเครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่าง ด้านบนจนชั้นลอยเก็บของ เตาไฟฟ้า Hot Plate จะอยู่ด้านในติดกับระเบียง แต่ดูไม่ค่อยดีเลยนะครับที่อยู่ติดกับผ้าม่านแบบนี้ เวลาทำอาหาร ทั้งน้ำมันกระเด็น ทั้งกลิ่นอาหารคงจะติดผ้าม่านเอาได้ ธรณีประตูระเบียงค่อนข้างสูงนะครับ ถ้าก้าวไม่ระวังอาจจะสะดุดเอาได้ ข้ามมาอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำนะครับ การวางสุขภัณฑ์ของห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้อง Sky Kitchen เลยครับ ชุดฝักบัว เดี๋ยวเราออกไปดูบรรยากาศด้านนอกกันบ้างดีกว่านะครับ อันนี้เป็นโถงทางเดินของแต่ละชั้นครับ บรรยากาศ Sky Garden บนชั้นที่ 30 ของ Tower S ครับ ขึ้นมาตอนบ่ายๆ แดดอาจจะแรงหน่อยนะครับ แต่หากเป็นตอนค่ำๆ แดดร่มลมตกแล้ว ขึ้นมาเดินเล่นรับลม ชมวิวกรุงเทพยามค่ำคืน คงจงชิวน่าดู วิวอีกมุมครับ สระว่ายน้ำก็เสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ แต่ดูจากสีของน้ำแล้วน่าจะยังไม่พร้อมใช้งาน บรรยากาศอีกมุมของสระว่ายน้ำครับ ห้องน้ำสำหรับเปลี่ยนชุดและอาบน้ำครับ ภายในห้องอาบน้ำ จะมีห้องซาวน่าอยู่ด้านในสุดของห้องน้ำนะครับ มาดูที่ฟิตเนสกันบ้าง อุปกรณ์อาจจะมีน้อยไปหน่อยนะครับ เมื่อเทียบกับลูกบ้านที่มีถึง 560 ยูนิต ด้านนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้เวลาเล่นนาน ก็จะเป็นวิวสระว่ายน้ำนะครับ เพราะถ้าเล่นนานเดี๋ยวคนที่ว่ายน้ำอยู่เค้าจะเขินเอาได้ แต่ถ้าใครจะมีแรงเหลืออยากเล่นนานๆ เพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่างก็ไม่ว่ากันนะครับ ฮ่าาา.. ส่วนอีกด้านจะเป็นพวกอุปกรณ์ที่ต้องใช้เวลาเล่นนาน ก็จะเป็นวิวตึกรามบ้านช่องให้นั่งมองกันไป บรรยากาศเหมือนกำลังออกกำลังกายบนเส้นขอบฟ้า... Type A 1 ห้องนอนขนาด 25 ตารางเมตร Type B 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตารางเมตร Type C 1 ห้องนอน ขนาด 32 ตารางเมตร Type E 2 ห้องนอน (A) ขนาด 54 ตารางเมตร Type E 2 ห้องนอน (B) ขนาด 54 ตารางเมตร Type F 2 ห้องนอน (A) ขนาด 64 ตารางเมตร Type F 2 ห้องนอน (B) ขนาด 64 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับคนที่มองหาคอนโดในระดับ 2-3 ล้าน ที่ยังอยู่ในแนวรถไฟฟ้า BTS โครงการ Aspire สุขุมวิท 48 ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ถึงแม้ว่าจะค่อนมาทางตอนปลายๆ ของสุขุมวิทแล้วก็ตาม แต่การเดินทางก็ถือว่าสะดวกมากทั้งรถไฟฟ้า BTS ก็ดี หรือจะใช้รถส่วนตัวก็มีทางเข้าออกได้ทั้งฝั่งสุขุมวิท และถนนพระราม 4 ที่สำคัญยังอยู่ไม่ห่างจาก ใจกลางเมืองมากนัก แค่ขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าออกไปหน่อยก็มีทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า แหล่งบันเทิง และร้านอาหารมากมายครบครัน ในขณะที่ไม่ต้องอยู่ท่ามกลางความพลุกพล่านวุ่นวายแบบพื้นที่แถบทองหล่อหรือเอกมัย บริเวณนี้จึงค่อนข้างสงบกว่า และเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า ถึงแม้ว่าสาธารณูปโภคส่วนกลางจะมีน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับภาพรวมโครงการ แต่ก็อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่สำหรับบางคน การหากลุ่มคนเช่า หรือจะลงทุนห้องไว้ขายต่อก็มีศักยภาพในการลงทุนอยู่พอสมควรเช่นกัน ยิ่งถ้าสามารถต่อรองราคาห้อง หรือซื้อได้ช่วงที่มีราคาโปรโมชั่นพิเศษก็จะยิ่งคุ้มค่าน่าลงทุนมากขึ้น
Aspire พระราม 9 : รีวิวคอนโด

Aspire พระราม 9 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Aspire พระราม 9 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 3,100,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 96,800 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise ใจกลางเมืองจาก AP ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 เดินทางสะดวกใกล้ MRT พระราม 9 พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2557 ที่ตั้ง: Aspire พระราม 9 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 4-2-48.3 ไร่ ที่ตั้ง ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.754805, 100.566923 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT พระราม 9   สถานที่สำคัญใกล้เคียง Max Value ประมาณ 160 m True Coffee ประมาณ 160 m เซ็นทรัลพระราม 9 ประมาณ 400 m ฟอร์จูน ประมาณ 450 m โรงพยาบาลพระราม 9 ประมาณ 1 km มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร 1.6 km โรงเรียนสาธิต มศว ประมาณ 1.6 km โรงพยาบาลปิยะเวทประมาณ 2 km Terminal21 ประมาณ 2.5 km โรบินสัน ประมาณ 2.5 km โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ประมาณ 2.6 km โรงพยาบาลกรุงเทพ ประมาณ 3.7 km   ลักษณะโครงการ: Aspire พระราม 9 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom 32 – 49 ตารางเมตร 2 Bedrooms 49.2 – 66.2 ตารางเมตร จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น อาคาร A 23 ชั้น, อาคาร B 25 ชั้น จำนวนห้อง 663 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ส่วนกลาง: Aspire พระราม 9 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 311 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 49% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 400 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7.3 x 16.8 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง ห้อง Steam แยกชาย-หญิง สวนหย่อมรอบโครงการ ร้านค้า 1 ร้าน ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 165 : 1 อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 187 : 1 อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 144 : 1 Service Lift 1 ตัว/อาคาร ที่จอดรถประมาณ 311 คันคิดเป็น 47% รวมจอดซ้อนคัน 330 คัน ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Aspire พระราม 9 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-247-3366 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.apthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94/aspire/aspire-rama-9/home/ ข้อมูล ณ วันที่
RHYTHM สุขุมวิท 44/1 : รีวิวคอนโด

RHYTHM สุขุมวิท 44/1 : รีวิวคอนโด

โครงการ: RHYTHM สุขุมวิท 44/1 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 4,800,000 บาท บาท/ตารางเมตร 136,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 34 ชั้น จาก AP ใกล้ BTS พระโขนง จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ที่ตั้ง: RHYTHM สุขุมวิท 44/1 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3 – 0 – 75 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสุขุมวิท 44/1 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.715393,100.590497 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS พระโขนง สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS พระโขนง Gateway เอกมัย Major เอกมัย Tesco Lotus Big C มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ลักษณะโครงการ: RHYTHM สุขุมวิท 44/1 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom Duplex (1 Bedroom ) ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom 35.20 – 55.20 ตารางเมตร 2 Bedroom 50.70 – 52.20 ตารางเมตร Duplex (1 Bedroom ) 55.20 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 34 ชั้น จำนวนห้อง 486 ยูนิต ส่วนกลาง: RHYTHM สุขุมวิท 44/1 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 270 คันในช่องจอด หรือ 55.55 % ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า ที่นั่ง+ลานโยคะ บนดาดฟ้า สวนส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง   เพิ่มเติม: RHYTHM สุขุมวิท 44/1 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.apthai.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557
RHYTHM Sukhumvit 42 : รีวิวคอนโด

RHYTHM Sukhumvit 42 : รีวิวคอนโด

โครงการ: RHYTHM Sukhumvit 42 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 4,300,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 170,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 36 ชั้นบนถนนสุขุมวิท จาก เอพี เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย   ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2559 ที่ตั้ง: RHYTHM Sukhumvit 42 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 0 - 62 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.7188899,100.5830001 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS เอกมัย   สถานที่สำคัญใกล้เคียง Gateway เอกมัย Major Cineplex เอกมัย โรงพยาบาลสุขุมวิท วัดธาตุทอง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท   ลักษณะโครงการ: RHYTHM Sukhumvit 42 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 27 – 45 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 56 – 80 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 36 ชั้น จำนวนห้อง 407 ยูนิต   ส่วนกลาง: RHYTHM Sukhumvit 42 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 267 คันในช่องจอด รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 70% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ สวนบนชั้น ห้องออกกำลังกาย Sauna แยกชาย-หญิง Sky Lounge สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 135:1 Service Lift 1 ตัว และ Lift จอดรถ 2 ตัว ที่จอดรถ 267 ช่องจอด หรือถ้าซ้อนคัน คิดเป็น 70% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: RHYTHM Sukhumvit 42 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.apthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94/rhythm/rhythm-sukhumvit-42/ ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2556