Tag : Banyan Tree Residences Riverside Bangkok

3 ผลลัพธ์
เนอวานา ไดอิ เปิดบิ๊กโปรเจกต์ 6,500 ล้าน “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ” The Ultimate Luxury คอนโดใจกลางเมืองหนึ่งเดียว ที่อยู่บนทำเลที่สวยที่สุดของโค้งน้ำเจ้าพระยา

เนอวานา ไดอิ เปิดบิ๊กโปรเจกต์ 6,500 ล้าน “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ” The Ultimate Luxury คอนโดใจกลางเมืองหนึ่งเดียว ที่อยู่บนทำเลที่สวยที่สุดของโค้งน้ำเจ้าพระยา

บมจ. เนอวานา ไดอิ เปิดขาย “บันยันทรี เรสซิเดนซ์  ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ” (Banyan Tree Residences Riverside Bangkok) โครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองระดับ Ultimate Luxury บนทำเลที่สวยที่สุดริมโค้งน้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร เนื้อที่กว่า 5 ไร่ สุดพิเศษกับ Panoramic Riverview ทุกห้อง ราคาเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท และมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 6,500 ล้านบาท มั่นใจเป็นโครงการเดียวที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยท่ามกลางทัศนียภาพที่งดงาม ภายใต้แนวคิด The Sanctuary for your Soul โดยได้ร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกไม่ว่าจะเป็น บันยันทรี กรุ๊ป เครือโรงแรมหรูระดับโลก, SCDA Architect ที่ปรึกษาการออกแบบ, บริษัท บวิค-ไทย ผู้รับเหมาก่อสร้างระดับ Top Tier หรือแม้แต่แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำอย่าง Poliform พร้อมเปิดขาย 18-19 พฤศจิกายน 2560 นี้ นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เนอวานา ไดอิ กล่าวถึงการเปิดขายโครงการบันยันทรีเรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ อย่างเป็นทางการว่า “สำหรับโครงการนี้มีมูลค่าโครงการกว่า 6,500 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่มากกว่า 300,000 บาท/ตร.ม. ถือเป็นโครงการพรีเมียมที่สุดที่ เนอวานา ไดอิ เคยพัฒนามา โดยมีแนวคิดโครงการคือ The Sanctuary for your Soul ที่จะมอบความสงบ ความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุดให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยมีจุดเด่นโครงการที่สำคัญ 3 เรื่อง คือ Tranquility - ความเงียบสงบ ทำเลที่อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของชุมชนเก่าแก่โบราณ อันเป็นส่วนหนึ่งของเขตเมือง เก่า (Old City District) และศูนย์กลางการค้าและธุรกิจ (Central Business District) ย่านสาทร ที่สำคัญที่สุดของมหานคร กรุงเทพฯ ง่ายต่อการหลีกหนีจากความวุ่นวาย เพื่อค้นพบความสงบ นอกจากนี้ยังมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยจำนวน ห้องชุดเพียง 133 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ จำนวนห้องพักต่อชั้นสูงสุด เพียง 4 ยูนิตเท่านั้น และมีล็อบบี้ลิฟท์ส่วนตัว (Private Lift Lobby) ช่วยนำส่งถึงห้องพักแบบสุด Exclusive Rarity - ความพิเศษที่หาได้ยาก เป็นคอนโดมิเนียมทรงสูง 45 ชั้น ที่ถูกออกแบบให้เป็น Single Loaded Corridor ทุกห้อง เป็นวิวแม่น้ำแบบพาโนรามิค บนพื้นที่แห่งสุดท้ายเพียงแห่งเดียวในเมืองหลวงที่สวยที่สุด และใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยามาก ที่สุด ซึ่งทำให้ทุกห้องพักได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของสายน้ำหลักของประเทศไทย Impeccable Quality - คุณภาพไร้ที่ติ การเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด และคุณภาพอันไร้ที่ติมาไว้ ณ ที่นี่ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพระดับมาตรฐานบันยันทรี (Banyan Tree Branded Residences), ที่ปรึกษาการออกแบบอย่าง SCDA, ผู้รับเหมาก่อสร้างระดับ Top Tier อย่าง บวิค-ไทย หรือแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำอย่าง Poliform โดยผู้ซื้อโครงการนี้จะได้รับบริการสุดพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบันยันทรี  คือ สิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากแบรนด์ในเครือทั่วโลกได้รับส่วนลดสูงสุด 30% ไม่ว่าจะเป็น บันยันทรี อังสนา แคสเซีย ดาหวา หรือลากูน่า รวมถึงการเป็นสมาชิกแบบ Banyan tree private collection เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการเข้าพักในเครือ ไม่ว่าจะเป็นประเทศ ญี่ปุ่น, โมร็อคโค, สก็อตแลนด์, ลอนดอน, บาหลี และคอสตาริก้า โดยโครงการนี้ได้วางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้ที่กลุ่ม Super Premium ทั้งชาวไทยและต่างชาติ” ด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรมและงานก่อสร้างโครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพนั้น ล้วนแล้วแต่เลือกทีมงานระดับแนวหน้าของไทย และบริษัทระดับชั้นนำของโลกมาร่วมงานทั้งสิ้น อาทิ โครงการได้เลือกใช้ SCDA Architect บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบงานสถาปัตยกรรมระดับโลกจากนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา มาเป็นที่ปรึกษาและทำงานร่วมกับบริษัท อินทีเรียอาร์คิเทกเชอร์ 103 ในการร่วมมือกันออกแบบอาคารภายนอก การตกแต่งภายใน รวมไปถึงภูมิสถาปัตยกรรม จนเกิดเป็นความสวยงามที่เรียบหรู สะท้อนถึงแนวคิดเพื่อการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และเต็มไปด้วยรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร ด้านการออกแบบการใช้แสงสีบนอาคารก็ได้บริษัทชั้นนำที่ออกแบบที่สิงคโปร์มาช่วยในการดูแลงานด้วย พร้อมกันนี้ยังร่วมดำเนินงานก่อสร้างโครงการโดย บริษัท บวิค-ไทย บริษัทที่คร่ำหวอดในวงการก่อสร้างและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งโครงการนี้เราตั้งใจที่จะก่อสร้างโครงการก่อนเปิดขาย โดยเริ่มก่อสร้างแล้วตั้งแต่ปลายปี 2559 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2561 สำหรับแนวคิดการออกแบบโครงการนี้คือ The Sanctuary for your Soul  คือ เน้นให้ผู้ที่พักในโครงการได้เข้าถึงการพักผ่อน อย่างแท้จริง และเรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางทั้งหมดถูกออกแบบให้เห็นวิวแม่น้ำแบบพาโนรามิคในทุก มุมมอง โดยมีพื้นที่ส่วนกลางมากถึง 59% ของพื้นที่อาคาร เป็น Facility ถึง 6,000 ตร.ม. มีที่จอดรถถึง 200% ของจำนวน ยูนิต โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ Super Premium อาทิ Residence Lobby ถึง 3 จุด, Panoramic View Swimming  Pool ถึง 2 สระ, Riverfront Jacuzzi Pool ที่สามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามิค อีกทั้งยังมี River Front  Private Dining Room ที่พร้อมให้บริการ แบบ Private Chef Table จากโรงแรม 5 ดาว* และ Sanctuary Spa ที่สามารถเรียก เทอราปิสจากบันยันทรี* มาบริการที่โครงการได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเดินทางได้สะดวกด้วยท่าเทียบเรือส่วนตัวของโครงการ (Private Floating Jetty) พร้อม Shuttle Boat Service,  และยังมี Chao Phraya Veranda พร้อม Sunken Seat Area, Riverfront Sunrise Yoga Deck, Riverfront Function Room & Board Room รวมไปถึงบริการระดับโรงแรม 5 ดาว Doorman และ Concierge เป็นต้น โครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับ The Ultimate Luxury บนโค้งน้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร มีพื้นที่ 5-1-10 ไร่ จำนวน 1 อาคาร สูง 45 ชั้น จำนวน 133 ยูนิต ซึ่งแต่ละชั้นมีห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น สำหรับแบบห้องทางโครงการมีให้เลือกถึง 5 แบบ (Room mix) คือ 1) แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 69.40-85.45 ตร.ม.  จำนวน 48 ยูนิต 2) แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 156.40-179.20 ตร.ม.  จำนวน 66 ยูนิต 3) แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 243.10 ตร.ม. จำนวน 16 ยูนิต 4) แบบ 4 ห้องนอน ขนาด 417.35 - 419.85 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต และ 5) Penthouse ขนาด 836.70 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต  มีที่จอดรถมากกว่า 260 คัน หรือ คิดเป็น 200% ของยูนิตทั้งหมด นายศรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์  ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าถึงชั้น 20 จากทั้งหมด 45 ชั้น โดยพร้อมจัดพรีเซลล์และเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก ที่ Sales Gallery ณ ที่ตั้งของโครงการ ในวันที่ 18-19 พ.ย. นี้ ด้วยราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 22.9 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดจากการเปิดขายในรอบ VVIP ที่ผ่านมา มียอดจองแล้วถึง 27% ผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดโครงการได้ที่ www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1787
เนอวานา ไดอิ (NVD) แถลงรายได้ครึ่งปีแรก 1,315 ล้านบาท เติบโต 226% เตรียมเปิดอีก 2 โครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท เดินหน้า ธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดทัพผู้บริหารมือดีเสริมความแกร่ง

เนอวานา ไดอิ (NVD) แถลงรายได้ครึ่งปีแรก 1,315 ล้านบาท เติบโต 226% เตรียมเปิดอีก 2 โครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท เดินหน้า ธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดทัพผู้บริหารมือดีเสริมความแกร่ง

บมจ. เนอวานา ไดอิ (NVD) เปิดตัวเลขผลประกอบการครึ่งปีแรก บันทึกรายได้รวม 1,315 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 226% สร้างกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท เผยแผนครึ่งปีหลังเปิดตัวอีก 2 ​โครงการ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายหลักมาจากคอนโดระดับพรีเมียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok และโครงการ Define ศรีนครินทร์-พระราม 9 พร้อมรุกธุรกิจรับสร้างบ้านโฉมใหม่ เปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบ้านเนอวานา บนที่ดินของลูกค้าเอง เร่งสร้าง Nirvana Home Building Center ศูนย์รับสร้างบ้านแห่งใหม่ พร้อมจัดทัพผู้บริหารระดับมือดีมาดูแลด้านการเงิน ออกแบบ งานขาย งานก่อสร้าง นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD เผยว่า “ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา NVD ทำรายได้รวม (Total Revenue) ทั้งสิ้น 1,315 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่มีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ  และ NVD ได้เสริมความแข็งแกร่งของทีมงาน และได้ผู้บริหารมืออาชีพ ทั้งด้านการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานก่อสร้าง การเงินและการจัดการเข้ามา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ การที่ บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้ควบรวมกับ บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นับเป็นการผนวกจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างที่นำสมัย มั่นคงแข็งแรง เข้ากับความสามารถด้านการออกแบบที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเนอวานา ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์แก่ NVD เป็นอย่างมาก เป็นที่มาของแผนยุทธศาสตร์ Synergistically Beyond” “ในด้านการทำการตลาดนั้น เราวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ NVD คือ กลุ่ม B ถึง A++ ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ชอบความแตกต่าง เน้นรายละเอียด เพราะโครงการที่เราพัฒนานั้น จะพัฒนาภายใต้แนวความคิด Life is Full of Details เน้นการใช้ Human-Centered Design ในการออกแบบ โครงการจะถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ระดับพรีเมียม ตอบรับ high-end lifestyle สำหรับด้านคุณภาพนั้นเรามีการก่อสร้างที่มีคุณภาพ โดยใช้พื้นฐานนวัตกรรมของไดอิ ที่จะสร้างความรวดเร็วในการก่อสร้าง ทั้งยังมีความแข็งแกร่ง สวยงาม และทนทาน  ตอบโจทย์การขยายตลาดในวงที่กว้างขึ้น ทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจรับสร้างบ้าน  ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ Synergistically Beyond ที่จะตอบสนองการเติบโต ในช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้นายศรศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินธุรกิจของ NVD แบ่งเป็น  3 หมวด คือ 1.) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ครอบคลุมโครงการทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ภายใต้แบรนด์ Nirvana Beyond, Nirvana Define, Nirvana @WORK และคอนโดมิเนียมแบรนด์ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok 2.)  ธุรกิจรับสร้างบ้าน ลูกค้าสามารถสร้างบ้านเนอวานา ในที่ดินของลูกค้า โดยบริษัทมองเห็นโอกาสทางการตลาดที่จะเติบโตไปได้ต่อเนื่องและยั่งยืน อีกทั้งยังมีความพร้อมที่จะต่อยอดธุรกิจนี้ไปได้ด้วย Synergistically Beyond โดยมีแผนสร้าง Nirvana Home Building Center แห่งใหม่บริเวณพระราม 9 ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่ของการรับสร้างบ้าน ที่จะมีบ้านจริงให้ลูกค้าเลือก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2561 และสุดท้าย 3.) ธุรกิจวัสดุก่อสร้างรูปแบบทันสมัย ธุรกิจนี้จะใช้ศักยภาพเชิงเทคโนโลยีการผลิตวัสดุก่อสร้างเดิมของไดอิ โดยเสริมการออกแบบที่แตกต่างและทันสมัย ในสไตล์ของเนอวานาเข้าไป เป็น Innovative Product รูปแบบใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า คาดว่าธุรกิจนี้จะเติบโตไปพร้อมกับ NVD และตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ด้านนายจิรเดช นุตสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารมืออาชีพในวงการการเงิน ซึ่งได้เข้ามาร่วมทัพผู้บริหารเมื่อไม่นานมานี้ โดยรับผิดชอบสายงานการเงินของ NVD กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ NVD ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาว่า “ในครึ่งปีแรก NVD บันทึกรายได้รวม 1,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 912 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 226 เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2559 โดยการเติบโตนั้นมาจากธุรกิจทั้ง 3 ส่วนของ NVD คือ 1) รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นเงิน 997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 722 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกของปี 2560 เนื่องจาก โครงการใหม่ๆ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ โครงการ @WORK รามอินทรา และลาดพร้าว-เกษตร นวมินทร์ และโครงการ Define พระราม 9  ส่วนที่ 2) รายได้จากบ้านสั่งสร้างและธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นเงิน 265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่วนที่ 3) รายได้จากการขายวัสดุก่อสร้างเป็นเงิน 53 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเป็นเงิน 415 ล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2560 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 290 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 112 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกของปี 2560 และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 NVD มีรายได้รอรับรู้ (Backlog) อยู่ประมาณ 920 ล้านบาท” ในช่วงครึ่งปีหลัง NVD จะเปิดตัวอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท  ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้   แบรนด์ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok มูลค่า 6,000 ล้านบาท และโครงการ Define ศรีนครินทร์-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท” “โครงการ Define ศรีนครินทร์-พระราม 9 เป็นโครงการนำร่องบนที่ดินผืนใหญ่ของ NVD ขนาด 237 ไร่ ติดสองฝั่งถนนตัดใหม่ ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ย่านกรุงเทพกรีฑา  NVD มีแผนจะพัฒนา 6-7 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 13,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จในอีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok น่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายปี 2561 เป็นต้นไป” เกี่ยวกับ บมจ. เนอวานา ไดอิ (NVD) บมจ. เนอวานา ไดอิ (NVD) เป็นบริษัทควบรวมระหว่าง บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (Nirvana Development Co.,Ltd)  และ ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Daii Group) ด้วยทุนจดทะเบียน 1,405.6 ล้านบาท โดยดำเนินธุรกิจหลัก คือ 1) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development) ได้แก่ การพัฒนาโครงการบ้านอยู่อาศัย (Nirvana Beyond, Nirvana Icon, Intro) สำนักงานโฮมออฟฟิศ (Nirvana @Work) ทาวน์โฮม (Nirvana Define, Cover, Cluster) คอนโดมิเนียม (Banyan Tree Residences Riverside Bangkok) โดยปัจจุบัน มีโครงการที่พัฒนาแล้วทั้งสิ้น 18 ​โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือรวมกว่า 14,000 ล้านบาท, 2) ธุรกิจรับสร้างบ้าน (Nirvana Home Builder)  3) ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง NVD จึงเกิดจากการผนวกจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างที่นำสมัย มั่นคงแข็งแรงของไดอิ เข้ากับความสามารถด้านการออกแบบที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเนอวานา บริษัทฯ ได้วางกรอบกลยุทธ์การทำงานไว้ภายใต้แนวคิดที่ต้องมุ่งมั่นไปข้างหน้า โดยคำนึงถึงทุกองค์ประกอบในการทำงานเพราะเราเชื่อว่า ภายใต้ทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต ล้วนนำมาซึ่งความสุขทั้งของลูกค้า เพื่อนร่วมงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ถือหุ้นทุกคน ส่งผลให้การพัฒนาสินค้าจากทางเนอวานา ไดอิ จะสามารถตอบสนอง     ความต้องการของลูกค้า ทั้งในด้านฟังก์ชั่นการใช้งานและตอบสนองความต้องการในการทางความรู้สึก ในรูปแบบที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของเนอวานาอย่างแท้จริง เพราะที่ เนอวานา ไดอิ เราเชื่อว่า Life is Full of Details.  
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันจะได้มาครอบครอง ไม่ใช่เพียงเพราะความหรูหรา สะดวกสบายของตัวโครงการ แต่ยังได้วิวที่สวยที่สุดของกรุงเทพฯ อย่างแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลากี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงเสน่ห์เหนือกาลเวลา ซึ่ง “Banyan Tree Residences Riverside Bangkok” โครงการใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆ นี้ จาก เนอวานา ไดอิ ที่จับมือกันกับแบรนด์บันยันทรี แม้จะเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกจากเนอวานา ไดอิ แต่ครั้งนี้สามารถสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย ด้วยดีไซน์ของสถาปัตยกรรม โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตอยู่อาศัยจริงของลูกบ้าน ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ตกแต่งห้อง การจัดการพื้นที่ภายในโครงการ ไปจนถึงเซอร์วิชระดับโรงแรมห้าดาว ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเก่าอันเงียบสงบ ภายใต้แนวคิด The Sanctuary for your Soul แต่ขณะเดียวกันในอนาคตพื้นที่ในย่านี้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้า และธุรกิจ เช่นกัน Banyan Tree Residences Riverside Bangkok เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 45 ชั้น 133 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งธนบุรี) อาคารถูกออกแบบโดยบริษัทระดับโลกจาก นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เป็นทรงอาคารครึ่งวงกลม สิ่งที่โดดเด่นมากของที่นี่ คือ ทุกยูนิตหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันออก ทุกห้องจะได้ Panoramic Riverview ทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน หน้ากว้างตั้งแต่ 8 เมตรขึ้นไป และเมื่อเปรียบเทียบจากขนาดที่ดินภายในโครงการทั้งหมดกับจำนวนยูนิตแล้ว ก็สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทางโครงการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว โดยห้องพักอาศัยจะแบ่งเป็น Low zone 4 ยูนิต/ชั้น Mid zone 3 ยูนิต/ชั้น และ High zone 2 ยูนิต/ชั้น และมีให้เลือก 5 Unit Type ได้แก่ - 1 Bedroom 69.40-85.45 ตร.ม. 48 ยูนิต - 2 Bedroom 156.40-179.20 ตร.ม. 66 ยูนิต - 3 Bedroom 243.10 ตร.ม. 16 ยูนิต - 4 Bedroom 417.35-419.85 ตร.ม. 2 ยูนิต - Penthouse (Duplex) 836.70 ตร.ม. 1 ยูนิต บริเวณชั้น G - ชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panoramic ในทุกมุมมอง เช่น Residence Lobby 3 จุด, Outdoor Lounge, Riverside Lounge, Multipurpose Room, River view owners lounge, Library Lounge, Private Dining Room, Panoramic View Swimming Pool, Cabanas, Kids Room, Active Play Area, Outdoor Lounge & BBQ Area, Banyan Tree Spa Room, River Facing Jacuzzi, Fitness Center, Private Lift Lobby ฯลฯ รวมถึงเมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในช่วงปลายปีหน้าจะมีบริการ Resident Shuttle Boat เรือสุดหรูจากท่าน้ำส่วนตัวของคอนโดไว้คอยบริการรับ-ส่งลูกบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือไปหาของอร่อยทานที่เยาวราช โดยให้บริการฟรี เพียงแค่ทำการจองล่วงหน้าผ่าน Application ที่สร้างขึ้นมาเพื่อลูกบ้านโดยเฉพาะ ในเรื่องของพื้นที่จอดรถซึ่งเป็นปัญหามากสำหรับคอนโดหลายโครงการ แต่ที่นี่หมดห่วงได้เลยเพราะมีอาคารจอดรถอยู่ทางด้านหน้าโครงการ สามารถรองรับการจอดรถได้มากถึง 260 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 200% โดยแบ่งพื้นที่ชั้นล่างเป็นโซนจอดรถซุปเปอร์คาร์ และสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอีกด้วย ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถก็ยังมีส่วนกลางเพิ่มมาให้อีก คือ สระว่ายน้ำ แยกโซนเด็กกับโซนผู้ใหญ่ พร้อมสนามเด็กเล่น และโซนสำหรับนั่งพักผ่อน โดยรวมของสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่มีพื้นที่ถึง 59% ของอาคาร หรือประมาณ 6,000 ตร.ม. แล้ว ถือว่าเพียงพอแน่นอนสำหรับลูกบ้านทั้งหมด     ทำเลและการเดินทาง Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ตั้งอยู่ที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 ตรงเข้าไปสุดซอยก็จะพบกับพื้นที่โครงการ ซึ่งจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างบนอาคารจริงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพราะเป็นความตั้งใจของทางเนอวานา ไดอิ ที่ต้องการสร้างความมั่นใจในคุณภาพของโครงการจริงๆ ด้วยการลงมือสร้างอาคารก่อนที่จะเปิดขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับความเหนือระดับนี้ด้วยตัวเอง แต่หากใครที่ต้องการจะชมห้องตัวอย่างล่วงหน้า ก็สามารถนัดหมายทางโครงการ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้นำเรือไปรับที่จุดนัดพบศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ มาชมห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery ของโครงการ การเดินทางสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวก หาที่ตั้งโครงการได้ไม่ยากเลย ถ้ามาจากถนนสาทรให้ตรงมาข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก่อนลงสะพานให้เบี่ยงออกซ้ายตามป้ายถนนเจริญนคร เมื่อลงมาถึงสามแยกกรุงธนบุรีให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญนคร แล้วตรงไปจนถึงแยกคลองสาน เบี่ยงซ้ายเข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 จะอยู่ขวามือ ติดกับโรงพยาบาลตากสินเลย แม้โครงการจะตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี แต่ด้วยทำเลแล้วสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมาก จากโครงการเข้าถนนเจริญนคร เลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ถึงย่านสาทรโดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีจุดขึ้น-ลง ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอีก 2 จุดด้วยกัน คือ บนถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งออกไปทางบางนา-ดาวคะนอง และถนนสุรวงศ์ เพื่อไปทางพระราม 9-แจ้งวัฒนะ ในอนาคตหากโครงการเสร็จสมบูรณ์ ลูกบ้านก็จะสามารถใช้บริการ Resident Shuttle Boat ให้ไปรับ-ส่ง ที่ท่าเรือสาทร แล้วขึ้นรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ชีวิตก็ดูง่ายขึ้นอีกเยอะ สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า แน่นอนว่าย่านนี้มีร้านอาหารเจ้าเก่าแก่อยู่มากมาย คอมมูนิตี้มอลล์บนถนนเจริญนครก็มีให้เห็นอยู่หลายแห่ง เช่น Sena Fest, The Lighthouse, Vue Bangkok ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญย่านนี้ในอนาคต คือ ICONSAIM โปรเจคยักษ์ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าส่วนที่เป็นศูนย์การค้าพื้นที่ประมาณ 525,000 ตารางเมตร จะกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ติดอันดับ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว (อยู่ห่างจาก Banyan Tree Residences แค่ประมาณ 700 เมตร)   ชมห้องตัวอย่าง ปัจจุบันห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery มีให้ชมเพียง 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 69.40 ตร.ม. เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ ความสูง Floor to Ceiling 3.2 เมตร เฟอร์นิเจอร์ให้มาแบบ Fully Fitted เช่น เคานเตอร์ครัว พร้อม Hood Hob และเตาอบ ซิงค์ล้างจาน เตียง ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด พร้อมติดวอลเปเปอร์ และมีม่านโปร่ง มาให้ด้วย จุดเด่นอีกอย่างภายในห้องพักอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุนำเข้าจากอิตาลี ที่แอบกระซิบกันมาว่า CEO ลงมือเลือกวัสดุด้วยตัวเองเลยทีเดียว เพื่อให้ได้ของที่สวย และได้คุณภาพที่สุด แปลนของห้องตัวอย่างจะเห็นได้ว่า เน้นพื้นที่ Living Area ที่เชื่อมต่อกับครัวเปิดได้กว้างขวางมาก บวกกับความสูงของเพดาน ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด พื้นที่ช่วงกลางห้องกว้างมากพอที่จะสามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ ระเบียงหน้ากว้างต่ำสุด 8 เมตร เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นไปถึงห้องนอน ส่วนฝั่งห้องนอนจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ที่มีการแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้เป็นสัดส่วน สรุปภาพรวมแล้ว คอนโดมิเนียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สามารถดึงเอาจุดเด่น ของตัวเองออกมาได้อย่างดี ทั้งเรื่องของทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทุกยูนิตจะได้วิวแบบ Panoramic Riverview ด้วยระเบียงหน้ากว้างเหมือนกัน ต่างกันแค่วิวความสูงของชั้นที่อยู่อาศัย วิวทางขวามือจะได้เห็นเมืองอันทันสมัยในย่านสาทร-สีลม แต่ถ้ามองไปทางซ้ายจะได้วิวสุดคลาสสิกของความเป็นเมืองเก่า ภายในโครงการถูกออกแบบมาเน้นความส่วนตัว เงียบสงบเป็นพิเศษกับจำนวนยูนิตที่น้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด เพราะพื้นที่ 56% หรือ 6,000 ตร.ม. เป็น Facility  และเมื่อได้จับมือกับแบรนด์บันยันทรี สิ่งที่จะตามมาคือ เรื่องของ Service ระดับโรงแรม 5 ดาว โดยผู้ที่ซื้อโครงการนี้จะได้รับสิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับสิทธิพิเศษจากแบรนด์ในเครือที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสุด Exclusive ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ โครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ราคาเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 330,000 บาท/ตร.ม. เปิด Pre sale 18-19 พฤศจิกายน นี้ หากสนใจก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนกันก่อนได้ที่ http://www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com/ .ricoh-theta-spherical-image{margin:0 auto !important;