Tag : BRT

5 ผลลัพธ์
August Condo เจริญกรุง 80 : รีวิวคอนโด

August Condo เจริญกรุง 80 : รีวิวคอนโด

โครงการ: August Condo เจริญกรุง 80 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,700,000 บาท บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 56,700 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิร์น สแกนดิเนเวียน บนถนนเจริญกรุงมองเห็นวิว แม่น้ำเจ้าพระยา ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: August Condo เจริญกรุง 80 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 8-3-70.6 ไร่ ที่ตั้ง ถนนเจริญกรุง ซอยเจริญกรุง 80 หน้าวัดลาดบัวขาว แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพ พิกัดโครงการ 13.700269,100.496577 ระบบขนส่งสาธารณะ BRT สะพานพระราม 3   สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ สะพานพระราม 3 เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ท่าพระ ห้างสรรพสินค้า โรบินสันบางรัก โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์   ลักษณะโครงการ: August Condo เจริญกรุง 80 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. 2 ห้องนอน ขนาด 45 – 58 ตร.ม. 3 ห้องนอน ขนาด 75 ตร.ม. จำนวนตึก 5 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 707 ยูนิต   ส่วนกลาง: August Condo เจริญกรุง 80 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส สวนหย่อม ล็อบบี้ อาคารจอดรถ ร้านค้า รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงและกล้องวงจรปิด การเข้า-ออกอาคารด้วยระบบ key card   เพิ่มเติม: August Condo เจริญกรุง 80 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1622 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.mk.co.th/august/c80condo.html ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2557
Fuse สาทร – จันทร์ : รีวิวคอนโด

Fuse สาทร – จันทร์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Fuse สาทร - จันทร์ (PREVIEW) ราคา เริ่มต้น 2,000,000 บาท บาท/ตารางเมตร 77,000 บาท เจ้าของโครงการ บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท จุดเด่น โครงการอยู่ใกล้แหล่งธุรกิจ สาทร-สีลม โครงการสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง บรรยากาศโดยรอบสงบ จุดด้อย โครงการอยู่ห่างจากสถานี BRT ค่อนข้างมาก การจราจรค่อนข้างหนาแน่น โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 ที่ตั้ง: Fuse สาทร - จันทร์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 7 - 1 - 67 ไร่ ที่ตั้ง ถนนจันทร์ ซอย 18/1 เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.705658,100.530768 ระบบขนส่งสาธารณะ BRT สถานีจันทร์ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central พระราม 3 Macro Tesco Lotus โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ลักษณะโครงการ: Fuse สาทร - จันทร์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom (Penthouse) ขนาดห้องที่มี Studio 26 ตารางเมตร Studio 28.5 – 29 ตารางเมตร 1 Bedroom 32 ตารางเมตร 2 Bedroom 56 – 59.5 ตารางเมต Penthouse 85.5 ตารางเมตร จำนวนตึก 3 อาคาร จำนวนชั้น อาคาร A 28 ชั้น, อาคาร B 31 ชั้น, อาคาร 31 ชั้น จำนวนห้อง 1,225 ยูนิต ส่วนกลาง: Fuse สาทร - จันทร์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 50% รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Clubhouse สระว่ายน้ำ WiFi Lobby กล้องวงจรปิด   เพิ่มเติม: Fuse สาทร - จันทร์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.fusecondo.com ข้อมูล ณ วันที่ 16 เมษายน 2557
U Delight Residence Riverfront พระราม 3 : รีวิวคอนโด

U Delight Residence Riverfront พระราม 3 : รีวิวคอนโด

เพิ่งจะเปิดให้จองกันได้ไม่นานสำหรับ U Delight Residence Riverfront พระราม3 คอนโด High Rise ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจในเครือ Grand U ถ้าใครที่พอจะรู้จัก Developer รายนี้อยู่บ้าง ก็คงพอจะทราบว่า ภายใต้แบรนด์ U Delight Residence แต่ละโครงการจะมีการจัดสรรบรรยากาศภายในไว้น่าอยู่ดีทีเดียวครับ พอมาถึงโครงการล่าสุดในทำเลทองย่านพระราม 3 ที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้ จึงมีการออกแบบห้องให้พิเศษกว่าปกติ และทำราคาห้องไว้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในเครือ การเดินทาง ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนพระราม 3 ช่วงระหว่างสะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล (สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม) การเดินทางไปมาบริเวณนี้มีเส้นทางหลีกเลี่ยงได้หลายเส้นทาง เริ่มจากถนนฝั่งหน้าโครงการซึ่งมีหัวถนนอยู่ที่แยกคลองเตย ขนานมากับแม่น้ำเจ้าพระยามุ่งหน้าไปทางแยกถนนตก (แยกเข้าถนนเจริญกรุงก่อนข้ามสะพานกรุงเทพ) โดยระหว่างเส้นทางนี้ก็จะต้องผ่านตั้งแต่แยกนางลิ้นจี่ แยกถนนนราธิวาสฯ และแยกทางขึ้นสะพานภูมิพล โดยก่อนจะไปถึงแยกสาธุประดิษฐ์เราจะเห็นโครงการ U Delight Residence Riverfront อยู่ทางซ้ายมือ ถัดจากวัดปริวาสไปแค่ที่ดิน 1 แปลงกั้นเท่านั้น ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่จึงหาได้ไม่ยากครับ หรือถ้ามาจากอีกฝั่งของถนน หัวถนนเริ่มที่แยกถนนตก (ถนนเจริญกรุง) มุ่งหน้ากลับมาทางคลองเตย เราจะผ่านแยกถนนเจริญราษฏร์ แยกถนนรัชดาภิเษก (ใต้สะพานพระราม9) และแยกถนนสาธุประดิษฐ์ ผ่านมาตามเส้นทางนี้แล้วเราจะต้องเลยไปกลับรถที่ใต้สะพานข้ามแยกสะพานภูมิพลแล้วกลับมาที่โครงการอีกครั้ง ตลอดเส้นทางถนนสายพระราม 3 นี้ การจราจรคล่องตัวดีตลอดวัน เพราะมีสะพานข้ามแยกทุกๆ แยก จึงไม่มีเรื่องรถติดให้กังวลมากนัก นอกจากเส้นทางหลักบนถนนพระราม 3 แล้ว ห่างจากตัวโครงการไปไม่ไกล ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ห่างออกไปแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น รวมถึงเส้นทางสะพานภูมิพล หรือสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมที่สามารถข้ามไปยังแถบสุขสวัสดิ์ พระประแดง ปู่เจ้าสมิงพรายได้โดยง่าย จึงเรียกได้ว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนที่อาศัยการเดินทางโดยรถยนต์เป็นหลัก อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีเส้นทางเข้า-ออกเมืองให้เลือกหลายเส้นทาง แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่หลายๆ คนเร่งรีบไปทำงานก็ต้องเลือกเส้นทางกันให้ดีๆ นะครับ โดยเฉพาะเส้นทางลัดเข้าใจกลางเมืองอย่างถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนนราธิวาสฯ และคลองเตย ที่การจราจรหนาแน่นเกือบตลอดวัน และอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการเดินทางของคนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็คือ รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ หรือ BRT นั่นเอง ซึ่งสถานี BRT ที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีวัดปริวาส โดยอยู่ห่างจากทางเข้าโครงการไม่เกิน 150 เมตรเท่านั้น แต่อย่าคาดหวังกับ BRTไว้สูงนะครับ เพราะในบางช่วงของถนน รถ BRT ก็ใช้เส้นทางร่วมกับรถปกติ ถ้ารถติดก็ติดยาวตามกันไปด้วย รวมถึงในช่วงกลางวัน หรือนอกช่วงเวลาเร่งด่วนจำนวนรถที่ให้บริการก็มีน้อยจนต้องรอกันนานกว่าจะมีผ่านมาซักคัน ถ้าคิดว่าไม่ต้องเร่งรีบเดินทางไปไหน BRT ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ใช้ได้แหละครับ วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ U Delight Residence Riverfront พระราม 3 เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น ตั้งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาบนเนื้อที่ 6 ไร่กว่าๆ บริเวณใกล้เคียงโดยรอบยังไม่มีอาคารสูง หรือคอนโดโครงการอื่นๆ ให้รบกวนสายตา แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ เพราะที่ดินที่อยู่ติดกันยังเป็นที่ว่างอีกหลายแปลง โอกาสที่จะมีตึกสูงขึ้นขนาบข้างจึงยังพอมีอยู่ ตัวอาคารถูกออกแบบให้อยู่ในแนวยาวลึกเข้าไปจนเกือบติดริมแม่น้ำตามลักษณะของที่ดิน ด้านหนึ่งหันไปทางวัดปริวาส ถัดจากวัดไปจะเป็นโครงการ Bangkok Square (ชื่อเดิมคือ จตุจักรพระราม 3) วิวจากห้องด้านนี้มองเลยไปจะเห็นสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมด้วย ส่วนอีกด้านซึ่ง ณ ปัจจุบันยังเป็นที่ดินว่าง ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นวิวได้ไกลไปถึงสะพานพระราม 9 เลยทีเดียว แต่ถ้าเกิดมีโครงการตึกสูงขึ้น ก็จะบังวิวกันไปเต็มๆ เลยครับ สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปแล้วยังถือว่าเงียบสงบดี เนื่องจากถนนพระราม 3 เป็นถนนใหญ่ขนาด 8 เลน (นับรวมช่อง BRT) และมีคลองระบายน้ำคั่นกลาง รวมถึงบริเวณรอบๆ ไม่มีชุมชน ร้านค้า แผงลอย จึงไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ เท่าที่เห็นก็จะมีเพียงโครงการ Bangkok Square เท่านั้นที่อยู่ในระยะเดินถึงและพอจะพึ่งพาฝากท้องไว้กับร้านอาหารในโครงการได้บ้าง นอกเหนือจากนี้ก็ต้องเลยไปถึงถนนสาธุประดิษฐ์ ซึ่งมีทั้งตลาดสด ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัล และโลตัสให้จับจ่ายใช้สอยได้สบาย หรือถ้าย้อนกลับมาอีกทางก็ยังมี Community Mall อย่าง Int ที่มีร้านอาหารให้เลือกอีกหลายร้าน รวมถึงตลาดนัดครูหวีที่อยู่ติดกับธนาคารกรุงศรีสำนักงานใหญ่ ซึ่งมีร้านค้าแผงลอยตั้งขายเป็นจำนวนมากในช่วงกลางวันของวันทำงาน จึงไม่ต้องกลัวอดอยากเลยครับถ้าไม่ขี้เกียจเดินทางออกจากโครงการกันซะก่อน การออกแบบตัวอาคารดูเผินๆ จากด้านข้างออกจะทึบและน่าอึดอัดอยู่ไม่น้อย เพราะด้วยจำนวนห้องที่มากถึง 1,094 ยูนิต ซึ่งเรียงเป็นแพทเทิร์นต่อกันตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นมา จะมีก็แค่โซนด้านหน้าและด้านหลังตึกเท่านั้นที่เพิ่มลูกเล่นบริเวณระเบียงห้องที่มีการเล่นระดับให้คล้ายกับว่าตัวห้องยื่นออกมานอกอาคาร จึงช่วยให้ตัวตึกดูไม่น่าเบื่อเกินไป พื้นที่บริเวณชั้น G ไปจนถึงชั้น 5 เป็นพื้นที่ของที่จอดรถซึ่งมีอยู่ค่อนข้างจำกัดเพียง 40% เท่านั้น แถมยังนับรวมการจอดแบบซ้อนคันแล้วด้วย เรื่องจำนวนที่จอดรถจึงจัดว่าน่าเป็นห่วงมากๆ ถ้าลูกบ้านจำนวนเกินครึ่งมีรถยนต์ส่วนตัว เพราะนับยังไงก็มีที่จอดไม่พออยู่ดี และถึงทางโครงการจะพยายามชูประเด็นว่าลูกบ้านสามารถเดินทางได้โดยง่ายด้วยบริการขนส่งมวลชนอย่าง BRT ซึ่งมีสถานีอยู่ใกล้ๆ อีกทั้งยังมีบริการ Shuttle Bus รับส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมายังโครงการยังสะดวกกว่ามากหลายเท่า นอกจากนี้อัตราส่วนของลิฟท์โดยสารภายในอาคารที่มีเพียง 4 ตัว (ไม่มีลิฟท์ขนของ) ต่อจำนวนห้องที่มากกว่า 1,000 ยูนิต นับว่าหนาแน่นมากเลยนะครับ เวลาที่ทุกคนต้องใช้ขึ้นลงอาคารจริงๆ ไม่รู้ว่าจะต้องรอลิฟท์กันนานแค่ไหน ในส่วนของ Facility ในโครงการ ถูกจัดสรรไว้ที่บริเวณริมแม่น้ำเกือบทั้งหมด ทั้งสระว่ายน้ำ ห้อง Fitness และสวนหย่อมริมน้ำ ให้บรรยากาศสบายๆ เปิดรับวิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ที่บริเวณชั้น G ยังมีห้องสมุด และร้านสะดวกซื้อไว้คอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านอีกด้วย ซึ่งดูจาก Facility ต่างๆ ที่เตรียมไว้แล้ว ก็พอจะเห็นว่าทางโครงการพยายามจัดสรรสาธารณูปโภคต่างๆ มาให้เต็มที่นะครับ แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานจริงเท่าไหร่ จากที่คิดว่าสวนริมน้ำจะถูกใช้เป็นที่นั่งเล่นรับลมชมวิวได้ชิวๆ ตอนวันหยุด ก็อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการถ้าเพื่อนร่วมอาคารกว่าครึ่งเกิดใจตรงกัน และลงมาใช้สิทธิ์ในพื้นที่ส่วนกลางพร้อมๆ กัน บรรยากาศริมน้ำก็คงไม่ต่างจากงานมหกรรมย่อมๆ แน่นอน พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้นั้นมีด้วยกัน 2 แบบ เราเริ่มกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งเป็นแบบที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ โดยมีขนาดเล็กสุดอยู่ที่ 34 ตร.ม. จุดเด่นที่แปลกตาของห้องแบบนี้คือ ห้องครัว ที่ถูกจัดไว้แนวเดียวกับระเบียง การเข้า-ออกห้องครัวจะต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน ถึงจะดูว่าการจัดพื้นที่ทำได้เป็นสัดส่วนดี แต่ก็แอบแปลกใจกับแนวคิดการออกแบบของโครงการไม่น้อยเลย ห้องครัวทำเป็นครัวปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนเล็กๆ ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเข้ามารบกวนในห้องนอนได้บ้าง หน้าต่างบานใหญ่ในห้องครัวสามารถเปิดออกเพื่อช่วยในการระบายกลิ่นได้อีกทาง เคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ และซิงค์ล้างจานมีติดตั้งมาให้พร้อมห้องเรียบร้อยแล้ว ส่วนเตาไฟฟ้าทางโครงการเลือกแบบลอยตัวมาให้สำหรับห้องขนาดเล็ก จะขาดก็แค่เครื่องดูดควันเท่านั้นเอง อีกมุมที่น่าสนใจของห้องนี้ก็คือ ระเบียง ที่ถูกออกแบบให้เป็นแบบ Sunken Balcony ระเบียงเล่นระดับขนาดกว้าง ที่สามารถใช้เป็นมุมพักผ่อน นั่งเล่นชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจะใช้เป็นที่นั่งกินข้าวก็ยังไหวเพราะประตูระเบียงเชื่อมต่อกับห้องครัวอยู่แล้ว นอกจากนี้แล้วส่วนอื่นๆ ในห้องก็ถูกจัดสรรไว้เรียบร้อย กว้างขวางดีพอสมควร ทั้งห้องนอนที่มีประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ช่วยแบ่งพื้นที่ออกจากห้องนั่งเล่นได้ชัดเจนขึ้น แถมมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวมาให้เสร็จสรรพ เกือบจะไม่ต้องหาซื้ออะไรมาเพิ่มเติมก็หิ้วกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย ส่วนอีกห้องเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมีขนาด 55-56 ตร.ม. เด่นด้วยระเบียงห้องขนาดกว้างที่ยื่นออกไปด้านนอกห้องทำให้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มตา Layout ห้องในส่วนกลางห้องจัดเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อถึงบริเวณระเบียงด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ พอเปิดม่านออกแล้วจึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น สำหรับห้องครัวแยกออกไว้เป็นอีกส่วน เป็นครัวแบบปิด พร้อมด้วยเครื่องครัวที่จัดมาให้แบบครบชุดทั้ง เตาไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควัน ซิงค์ล้างจาน เคาน์เตอร์ครัว และตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีระเบียงเล็กๆ ติดกับห้องครัว ใช้เป็นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางเครื่องซักผ้า ซึ่งพอมีพื้นที่เหลือให้ตากผ้าได้อีกเล็กน้อย ถือว่าใช้สอยประโยชน์ได้ดีทีเดียว ส่วนห้องนอนใหญ่ถูกจัดไว้อย่างง่ายๆ แต่เด่นด้วยกระจกห้องแบบเข้ามุม ซึ่งช่วยเปิดมุมรับวิวแม่น้ำได้กว้างมากขึ้น ในขณะที่ห้องนอนเล็กอาจจะมีขนาดเล็กไปซักหน่อยสำหรับการใช้งานจริง ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้เป็นห้องนอน แนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้กลายเป็นห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัวก็น่าจะดีกว่า โดยภาพรวมแล้ว เรื่องขนาดและฟังก์ชั่นของห้องที่ทางโครงการจัดไว้นั้นถือว่ากว้างขวางดีทีเดียว ทั้งฝ้าเพดานที่สูง 2.6 เมตร ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ช่วยทำให้ห้องโปร่งสบายตามายิ่งขึ้น และส่วนสำคัญที่ทางโครงการเพิ่มเติมขึ้นมาเป็นพิเศษก็คือ ช่องลม เหนือประตูทางเข้าห้องทุกห้อง ที่เราสามารถยกคันโยกเปิดช่องให้ลมไหลผ่าน ซึ่งช่วยให้อากาศในห้องถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยประหยัดค่าไฟในห้องได้อีก เพราะเมื่อเปิดช่องลมและประตูระเบียงไว้ก็สามารถรับลมแม่น้ำได้เต็มๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ทั้งวันให้เปลืองไฟ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของตำแหน่งห้องแล้วล่ะครับว่าจะชอบห้องทางทิศไหน และคาดหวังกับวิวแบบใดมากกว่ากัน ความคุ้มค่าการลงทุน สำหรับ U Delight Residence Riverfront พระราม 3 ถือว่า เรียกความน่าสนใจได้ไม่น้อยเลย ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะไม่ได้เกาะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าเลยก็ตาม แต่เพราะด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการซึ่งติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ช่วยเสริมให้บรรยากาศของโครงการพิเศษมากกว่าโครงการอื่นๆ ในเครือ โดยเฉพาะแบบห้องที่เป็น Riverfront ราคาจึงกระโดดสูงทะลุเพดานไปเลย รวมถึงห้องขนาด 1 ห้องนอน ที่น่าจะจับต้องได้ง่ายที่สุดก็มีราคาเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ซึ่งราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นของห้องเปล่าๆ ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์มาให้ด้วย นะครับ ถึงจะต้องเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องเองก็ต้องคิดกันนิดนึง เพราะด้วยขนาดห้องของ U Delight ที่หาเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปมาจัดให้ลงตัวได้ยาก ดังนั้นถ้าเลือกซื้อแบบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ได้ก็จะสะดวกกว่า สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวอาจจะต้องคิดเยอะกันพอสมควร เพราะระบบขนส่งมวลชนก็มีแค่ BRT เท่านั้นที่จะเป็นหนทางไปต่อรถไฟฟ้าในเมืองได้ประหยัดที่สุด หรือถ้าจะพึ่งพารถเมล์และรถสองแถวก็อาจจะต้องนั่งรถกันหลายต่อเลยทีเดียว รวมถึงเรื่องอาหารการกินที่ในระยะที่สามารถเดินได้สบายๆ ก็มีเพียงร้านอาหารในโครงการ Bangkok Square เท่านั้น ซึ่งมีแต่ร้านอาหารดังเจ้าใหญ่ๆ ทั้งนั้น ถ้าจะฝากท้องไว้ทุกวันมีหวังกระเป๋าแห้งแน่ๆ ดังนั้นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหารรอบๆ โครงการจึงแทบจะเรียกว่าติดลบ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเป็นคนที่รักการทำครัว ชอบไปจับจ่ายในตลาดแล้วหาซื้อของมาตุนไว้ทำกับข้าวกินเอง อันนี้อีกเรื่องนึงครับ ถ้าใครกำลังคิดจะจับจองห้องของ U Delight Residence Riverfrontไว้เกร็งกำไรในรูปแบบการปล่อยเช่า คงต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย เพราะทำเลไม่ได้อยู่ในย่านชุมชน หรือย่านธุรกิจที่คนพลุกพล่านเลย อีกทั้งยังไม่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าอีก จึงอาจจะทำให้การปล่อยเช่าเป็นไปได้ยาก แต่สำหรับคนที่มองหาที่พักอาศัยริมน้ำ บรรยากาศดีๆ ทำเลไม่ห่างจากเมืองมากนักไว้อยู่อาศัยเอง และไม่ได้หวังว่าจะทำกำไรจากการขายหรือปล่อยเช่า โครงการนี้ก็น่าจะลงตัวดีนะครับ ถึงราคาต่อตารางเมตรจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้จากโครงการก็ตาม
Bangkok horizon Lazi สาทร – นราธิวาส : รีวิวคอนโด

Bangkok horizon Lazi สาทร – นราธิวาส : รีวิวคอนโด

Bangkok Horizon Lazi โครงการของ CMC ตั้งอยู่ในซอยนราธิวาสฯ 14 ใกล้ BRT สถานีเทคนิคกรุงเทพประมาณ 350 เมตร ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่จะช่วยให้การไปต่อรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี เป็นเรื่องง่ายรองจากการใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวนั้นสามารถเข้าออกได้ 2 เส้นทางหลักๆ นั่นคือจากซอยนราธิวาสฯ14 และอีกเส้นทางคือจากซอยจันทน์ 16 ซึ่งเส้นทางนี้สามารถเลี่ยงไปออกถนนนางลิ้นจี่ ถนนสาธุประดิษฐ์ และหนีไปขึ้นทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ได้ด้วยเช่นกัน ส่วนเส้นทางลัดเลาะตามซอกซอยสำหรับคนในพื้นที่ก็ไปได้หลายทาง แต่ถนนส่วนใหญ่เป็นถนนเล็กๆ แคบๆ เท่านั้น บริเวณรอบๆ โครงการมีร้านค้าในชุมชนอยู่มาก กลางๆ ซอยจันทน์ 16 มีทั้งตลาดสด ร้านขายอาหาร และ7-11 อยู่หลายสาขา หรือจะทะลุไปออกซอยเซนหลุยส์ 3 ของกินก็มีให้เลือกเยอะเหมือนกัน หรือถ้าออกมาทางถนนนราธิวาสฯ ก็มีทั้ง Macro ที่ตั้งอยู่ในระยะที่ยังพอเดินถึง และถ้าจะเลยไปจับจ่ายที่ Lotus หรือเซนทรัลพระราม 3 ก็ต้องนั่งรถออกไปทางถนนสาธุประดิษฐ์ นอกจากนี้ยังมีร้านนั่ง Hang out บนถนนนราธิวาสฯ อีกหลายร้านให้เลือกแวะมานั่งเล่นได้ในช่วงค่ำๆ ส่วนช่วงเช้า-เย็นการจราจรบนถนนนราธิวาสฯ-สาทรติดเอาเรื่องเหมือนกัน จึงต้องทำใจเผื่อเวลาเดินทางไปทำงานกันให้ดีๆ เพราะอาคารสำนักงานใหญ่ๆ บนถนนสาทรมีมาก แถมในรัศมีรอบๆ บริเวณนี้ยังมีโรงเรียน สถานศึกษารวมกันอยู่อีกหลายแห่ง ต่อให้มีถนนเลี่ยงออกได้หลายเส้นทางแต่ก็หนีไม่พ้นรถติดในชั่วโมงเร่งด่วน อยู่ดี เรื่องนี้จึงนับเป็นจุดด้อยอย่างหนึ่งที่ต้องทำใจยอมรับให้ได้ รวมถึงทางเข้าออกในซอยก็เป็นถนนแคบและมีรถจอดริมทางเยอะ ทำให้การจราจรไม่คล่องตัวเท่าไหร่ ดูพื้นที่รอบๆ ไปแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาดูห้องตัวอย่างกันบ้าง ซึ่งทางโครงการออกแบบมาพอใช้ได้ ด้วยจำนวนห้องทั้งหมด 268 ยูนิตในอาคารสูง 24 ชั้น เริ่มจากห้องแบบ 1 ห้องนอน แบบแรก เปิดเข้ามาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน โดยที่โซฟาตั้งชิดกำแพงห้องน้ำแล้วยังเหลือพื้นที่ว่างระหว่างดูทีวีไม่มาก เฟอร์นิเจอร์ที่วางมาดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ พื้นที่ห้องจึงดูจำกัดจำเขี่ย มีมุมเว้าแปลกๆ เยอะ ให้ความรู้สึกอึดอัดในการใช้งานนิดหน่อย ส่วนห้องอีกแบบที่เป็น 1 ห้องนอนเหมือนกันแต่มีการจัด Lay out ห้องที่ต่างกัน เพิ่มตัวเลือกให้ตอบโจทย์กับ Life Style ที่ต่างกัน ห้องแบบที่ 2 เปิดเข้าห้องมาจะเจอห้องครัวก่อนเป็นอันดับแรก โดยมีมุมหนึ่งถูกจัดเป็นโต๊ะกินข้าวแบบเคาน์เตอร์หันหน้าเข้ากำแพง ผ่านประตูห้องครัวเข้าไปแล้วจะเป็นห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่ด้านในสุด ห้องแบบนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนพื้นที่ในห้องนอนกว้างขึ้น เพราะมีห้องน้ำอยู่ในตัว และพื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำสามารถวางตู้เสื้อผ้า และใช้เป็นมุมแต่งตัวได้สะดวกกว่าห้องแบบแรก ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทางโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Key Card และลิฟท์แบบล็อคชั้น รวมถึงระบบ Video Door Phone และประตูล็อคดิจิตอลก็มีมาครบเครื่องมากๆ นอกจากนี้ก็ยังมี Facility ขั้นพื้นฐานอย่าง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด และสวนหย่อมกระจายไปตามชั้นต่างๆ ส่วนที่แถมเพิ่มเติมมากกว่าโครงการอื่นๆ หน่อยก็คือ Game Room และ Golf Simulator ซึ่งก็ต้องรอดูว่าของจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนที่เรื่องที่จอดรถนับว่าจัดสรรมาให้มากอยู่เหมือนกัน เพราะมีที่จอดรถคิดเป็น 60% เลยทีเดียว ทำให้คนที่ใช้รถส่วนตัวลดปัญหาเรื่องหาที่จอดรถลงไปได้ ถึงแม้ตัวโครงการจะตั้งอยู่ใกล้ย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพ และมีอาคารสำนักงานใหญ่ๆ ในบริเวณใกล้เคียงอีกมาก แต่ถนนหนทางแถวนี้ก็มีการจราจรที่ติดหนักเอาการ ส่วนเส้นทางเข้าออกโครงการก็เป็นถนนแคบๆ ให้รถวิ่งสวนกันแค่ 2 เลนส์ ในขณะที่มีรถจอดอยู่ริมถนนเต็มเกือบจะตลอดทั้งแนว ทำให้เส้นทางเข้าออกค่อนข้างติดขัด สภาพแวดล้อมรอบๆ เป็นชุมชนที่อยู่กันมานาน ทัศนียภาพอาจไม่สวยงาม ดูไม่น่ามองนัก แต่ถ้าคนที่ทำงานใกล้ๆ แถวนี้ ไม่ติดขัดเรื่องการเดินทางที่ต้องขึ้น BRT ไปต่อรถไฟฟ้า BTS หรือต้องนั่งรถหลายๆ ต่อ Bangkok Horizon Lazi ก็พอจะอยู่ในเกณฑ์ที่เอามาพิจารณาได้เหมือนกัน