Tag : Chateau in Town

5 ผลลัพธ์
CHATEAU IN TOWN SUKHUMVIT 64/1 ขยายชีวิต…ใกล้อนาคต : รีวิวคอนโด

CHATEAU IN TOWN SUKHUMVIT 64/1 ขยายชีวิต…ใกล้อนาคต : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เรานั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีปุณณวิถีกันค่ะ ซึ่งเดินต่อเข้ามาในซอยสุขุมวิท 64/1 อีกหน่อยก็เจอคอนโดอยู่หลายโครงการเหมือนกันนะคะ ทั้งโครงการที่สร้างเสร็จนานแล้วและโครงการใหม่ที่ดูน่าสนใจอย่าง “CHATEAU IN TOWN SUKHUMVIT 64/1 (ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1)” ของ บริษัท พระยาพาณิชย์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่พลิกโฉมใหม่ ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ออกแบบให้เข้ากับยุค 2017 ในสไตล์โมเดิร์น ภายใต้แนวคิด “ขยายชีวิต ให้ใกล้อนาคต” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยมีจุดเด่นอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ล่าสุดตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะคะ เริ่มมีลูกบ้านบางส่วนทยอยโอนห้องกันเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังพอมียูนิตเหลืออีกนิดหน่อย ซึ่งเราจะพาไปชมห้องตัวอย่างกันในครั้งนี้   ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในซอยสุขุมวิท 64/1 ค่ะ ถึงจะเป็นโครงการที่อยู่เข้ามาในซอย แต่ก็เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนหลากหลายเส้นทางเลยนะคะ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ก็สะดวกสบายจริงๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะใช้ถนนสุขุมวิทที่เป็นถนนสายหลักในกรุงเทพฯ วิ่งเข้าเมืองไปทางอ่อนนุช เอกมัย ทองหล่อ ได้ง่ายๆ หรือจะใช้ถนนสุขุมวิทขาออกนอกเมืองไปทางสี่แยกบางนาแล้วเลือกไปทางสำโรงหรือจะใช้ถนนบางนา-ตราด ออกไปทางบางพลี ตรงยาวไปถึงพัทยาก็สะดวกเช่นกันค่ะ หากใครเบื่อรถติดก็สามารถไปขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้ที่ซอยสุขุมวิท 62 ที่อยู่ห่างเพียง 2 กิโลเมตรค่ะ หรือขับลึกเข้าไปในซอยซึ่งจะไปรวมกับซอยสุขุมวิท 64 ตัดทางพิเศษเฉลิมมหานครวิ่งเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาไปออกถนนทางรถไฟเก่า และถนนสรรพาวุธได้อีกด้วยค่ะ   ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็จัดว่าเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ ค่ะด้วยทำเลโครงการที่ตั้งอยู่บนจุดเชื่อมต่อใจกลางเมืองสุขุมวิทนอกจากจะใกล้รถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถีเพียง 250 เมตร บริเวณหน้าซอยยังมีรถเมล์ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซด์ผ่านไปมาอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังแวดล้อมไปสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบถ้วนทั้งร้านค้า, ธนาคาร, สถานศึกษา, วัด, สถานพยาบาล ขณะเดียวกันแหล่งช็อปปิ้งก็ไม่ได้อยู่ไกลเกินไปเลยค่ะ เช่น ปิยรมย์ เพลส, เทสโก้ โลตัส อ่อนนุช, บิ๊กซี อ่อนนุช (เอ็กซ์ตร้า), Century the movie plaza เป็นต้น     เจาะลึกโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จุดเด่นของโครงการจะเน้นเรื่องโครงสร้างที่มั่นคงแข็งแรง ประกอบกับความเป็นส่วนตัวที่เหมาะกับการพักอาศัยอย่างแท้จริง แม้ทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่เดินเท้าได้ แต่เมื่อมาถึงที่โครงการแล้วจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวที่ไม่วุ่นวาย ในขณะที่จำนวนยูนิตรวมทั้งโครงการก็มีเพียง 222 ยูนิต จำนวนห้องต่อชั้นจึงมีไม่มากลูกบ้านจึงไม่แออัดเหมือนคอนโดทั่วไป ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นที่ออกแบบให้เป็นสัดส่วน มีห้องนอน ห้องนั่งเล่นที่มาพร้อมห้องครัวแบบแยกกันทุกห้อง แถมทำเลนี้ยังได้ที่จอดรถถึง 50% (รวมจอดซ้อนคัน) เลยค่ะ เรียกได้ว่าราคาและความคุ้มค่าระดับนี้นับว่าใช้ได้กับทำเลสุขุมวิทที่ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาไม่ถึง 100,000 บาท ต่อ ตร.ม. รูปอาคารจะมีลักษณะตัว C นะคะ โดยพื้นที่ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถและพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและห้องซาวน่า สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 4 x 20 เมตร ทางโครงการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่ลูกบ้านเวลาว่ายน้ำ โดยออกแบบกำแพงล้อมรอบสระว่ายน้ำพร้อมปลูกต้นไม้เขียวขจีเพิ่มความเป็นธรรมชาติ ห้องน้ำแยกระหว่างหญิงและชายที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ภายในห้องน้ำในสุดจะเป็นส่วนของ Sauna ค่ะ บรรยากาศภายในห้อง Sauna แปลนชั้น 2-8 จะเป็นที่พักอาศัยนะคะ ซึ่งความพิเศษของชั้น 2 จะมีห้องฟิตเนสรองรับลูกบ้านด้วย บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสที่ครบครันด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบทันสมัย ผนังฝั่งหนึ่งของห้องฟิตเนสจะล้อมรอบด้วยกระจกใสนะคะ ทำให้เวลาลูกบ้านออกกำลังกายได้ชมวิวไปในตัว   และด้วยความที่ทางโครงการเน้นเรื่องบรรยากาศความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย Facility จึงถูกแบ่งเป็นสัดส่วน โดยสระว่ายน้ำระบบธาราบำบัดและห้องสตรีมจะอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ในขณะที่ห้องฟิตเนสจะอยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ ซึ่งถือว่าครบถ้วนมากๆ สำหรับคอนโดมิเนียม Low Rise แบบนี้ แถมข้อดีคือมีคนแบ่งใช้ Facility ส่วนกลางน้อยกว่าคอนโดทั่วไปด้วยค่ะ   เปิดห้องตัวอย่าง มาถึงห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 มียูนิตรวมทั้งหมด 222 ยูนิต แบ่งออกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 28.02 – 43.01 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 44.86 ตร.ม. ค่ะ ภายในห้องแต่ละยูนิตมีจุดเด่นคือฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน ถูกออกแบบมาเพื่อความโล่ง โปร่ง สบาย โดยแยกพื้นที่นั่งเล่น ครัวและห้องนอนออกจากกัน ซึ่งจะต่างจากคอนโด Low Rise ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ เพราะราคาระดับนี้แทบจะไม่มีโครงการไหนทำห้องครัวแบบปิดแยกออกมาเลยค่ะ ส่วนใหญ่ก็มีแค่ Pantry เล็กๆ เท่านั้น นอกจากนี้ห้องทุกยูนิตของโครงการ ยังเปิดขายมาแบบ Fully Furnished ด้วยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้สอยของลูกบ้านได้เป็นอย่างดี และทุกยูนิตจะได้แอร์ 2 ตัว โดยติดตั้งไว้ในห้องนั่งเล่นและห้องนอนเหมือนกันเลยนะคะ   สำหรับห้องตัวอย่างห้องแรกที่เราได้ชมก็คือ 1 Bedroom Type A6 ขนาด 29.43 ตร.ม ซึ่งเป็นขนาดที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดค่ะ ฟังก์ชั่นภายในห้องออกแบบมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว มีการกั้นแบ่งพื้นที่มาให้เรียบร้อย โดยห้องครัวและห้องน้ำจะแยกไปอยู่ทางด้านหนึ่ง เพียงแค่กันประตูกระจกเพิ่มก็จะได้ครัวแบบปิด ป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวนได้มากขึ้นเพราะครัวอยู่ติดระเบียง สามารถเปิดประตูระเบียงช่วยระบายกลิ่นได้ดี ในขณะที่ Living Area และห้องนอนก็มีประตูกั้นทึบมาให้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหากมีแขกมาที่ห้อง แปลนห้อง 1 Bedroom Type A6 ขนาด 29.43 ตร.ม เปิดประตูเข้ามาในห้องจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยค่ะ ทางโครงการได้จัดวางโซฟาตัวยาวขนาด 2 ที่นั่งไว้เป็นตัวอย่างในส่วน Living Area นะคะ จะเห็นได้ว่าบริเวณตรงกลางมีพื้นที่เหลือมากพอสำหรับวางโต๊ะกลางด้วย พื้นที่ข้างโซฟา ทางโครงการจะบิลต์อินชั้นมาให้เสร็จสรรพเลยนะคะ ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้เป็นมุมรับประทานอาหาร หรือจะทำเป็นมุมทำงานเหมือนดั่งห้องตัวอย่างก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งมุมนี้จะอยู่ติดกับห้องนอนนะคะ โดยทางโครงการออกแบบหน้าต่างบานสไลด์ไว้เพื่อความโปร่งโล่ง พื้นที่ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นคอนโซลทีวีค่ะ ซึ่งลูกบ้านไม่จำเป็นต้องติดแอร์เพิ่มแล้วนะคะ เพราะทางโครงการติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว ติดกับคอนโซลทีวีจะเป็นห้องครัวนะคะซึ่งมีประตูบานเลื่อนกั้น ติดกันนั้นเป็นห้องนอนค่ะมีประตูบานทึบกั้นกลาง เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันก่อนดีกว่าค่ะ ภายในห้องนอนดูโปร่งโล่งสบาย โอบล้อมด้วยกระจกใส เอื้อต่อการพักผ่อน พื้นที่บริเวณรอบเตียงสามารถเดินได้ด้วยนะคะ ไม่รู้สึกอึดอัดคับแคบแต่อย่างใด ทางโครงการจะบิลต์อินต์โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้ามาให้ในห้องนอนเรียบร้อยแล้วค่ะ หากใครชอบนอนดูทีวีในห้องนอน ก็สามารถติดได้ที่ผนังด้านปลายเตียงค่ะ ซึ่งทางโครงการจะแถมแอร์มาให้ในห้องนอนเรียบร้อยแล้วค่ะ ออกจากห้องนอนมาจะเป็นพื้นที่ของส่วนครัว เคาน์เตอร์ครัวโครงการจะให้มาแบบนี้เลยนะคะ แต่ผนังเหนือเคาน์เตอร์จะเป็นกระเบื้องโมเสค ทางโครงการจะเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า มาให้แล้วค่ะ ซึ่งก็มาพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันด้วย ติดกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นระเบียงนะคะ โดยมีประตูบานเลื่อนกั้นกลาง ข้อดีของระเบียงที่อยู่ติดครัวก็ช่วยระบายอากาศเวลาประกอบอาหารนั่นเองค่ะ พื้นที่ระเบียงกว้างขวางดีทีเดียวค่ะ มาพร้อมก๊อกน้ำ และติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบน กลับเข้ามาด้านในสุดติดกับครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ ซึ่งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ภายในห้องน้ำแบ่งแยกโซนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน ส่วนเปียกจะมีบานกระจกกั้นพร้อมยกธรณีสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อกันน้ำกระเด็นมาส่วนแห้ง   ห้องตัวอย่างห้องที่สองที่เราเก็บภาพมาฝากเพื่อประกอบการพิจารณาเป็นห้อง 1 Bedroom Type E2 ขนาดห้อง 38.49 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้จะต่างจากห้อง 1 Bedroom แบบแรกทั้งเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอย และ Layout ของห้องค่ะ ห้องนี้เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้รองเท้าก่อน ในขณะที่พื้นที่โถงกลางกว้างพอสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารและวางโซฟาตัวยาวในส่วนของ Living Area ที่อยู่ติดกับห้องนอน ติดกันเป็นห้องครัวและห้องน้ำที่แยกออกมาอยู่ในโซนด้านเดียวกันโดยมีประตูบานเลื่อนกั้นกลาง พร้อมระเบียงด้านในสุดสำหรับซักล้างหรือตากผ้า แปลนห้อง 1 Bedroom Type E2 ขนาดห้อง 38.49 ตร.ม. เปิดประตูเข้ามาจะมีพื้นที่แคบลึกเล็กๆ ก่อนต่อเนื่องไปยังโถงกลางนะคะ พื้นที่ข้างประตูสามารถวางตู้รองเท้าเหมือนดั่งห้องตัวอย่างเลยนะคะ ภายในห้องบริเวณโถงกลางจัดฟังก์ชั่นแบบ Open Plan หลอมรวมระหว่างมุมนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน มุมรับประทานอาหารที่ลูกบ้านสามารถวางตู้หรือชั้นติดผนังได้ พร้อมกับโต๊ะรับประทานอาหารโดยไม่รู้สึกคับแคบเลยนะคะ ทั้งยังดูโปร่งโล่งเพราะอยู่ติดกับหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ มุมมองจากโต๊ะรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับมุมนั่งเล่น ทางโครงการจะติดตั้งแอร์ไว้ให้แล้วนะคะ จากโซฟาและคอนโซลทีวีมีระยะห่างกว้างขวางทีเดียวค่ะ ซึ่งลูกบ้านสามารถวางโต๊ะกลางได้สบายๆ บริเวณข้างโซฟาติดกับผนังห้องนอนจะมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางของด้วยค่ะ ซึ่งเอกลักษณ์ของโครงการก็คือมีหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆ เชื่อมกับห้องนอนเพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งให้แก่ห้องมากขึ้นค่ะ ภายในห้องนอนจะโอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่นะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้เป็นตัวอย่าง แต่ลูกบ้านสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังได้ค่ะ เพราะบริเวณรอบๆ เตียงมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงด้วย Layout ห้องนอนจะคล้ายๆ กับห้องตัวอย่างแรกเลยค่ะ ซึ่งทางโครงการได้บิลต์อินโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ติดเพดานมาให้ด้วย พื้นที่ปลายเตียงสามารถวางโต๊ะหรือตู้ได้สบายๆ เลยนะคะ หรือหากใครอยากดูทีวีก็สามารถติดตั้งไว้ที่ผนังได้เช่นกัน ซึ่งลูกกบ้านไม่ต้องซื้อแอรืเพิ่มนะคะ เพราะทุกยูนิตจะแถมแอร์ 2 ตัว (ห้องนั่งเล่นและห้องนอน) ออกมาจากห้องนอนมาต่อที่ห้องครัวกันดีกว่าค่ะ ซึ่งทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ พร้อมชั้นลอยวางของด้านบนตามภาพเลยค่ะ ครัวจะมาพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจานและเว้นที่สำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ให้แล้วนะคะ แต่ผนังเหนือเคาน์เตอร์นั้นจะได้เป็นผนังฉาบเรียบสีขาวค่ะ ติดกับห้องครัวจะเป็นระเบียงค่ะ ซึ่งก็มีขนาดกว้างขวางสำหรับวางราวตากผ้าได้สบายๆ แถมคอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่ด้านบน และการที่ระเบียงอยู่เชื่อมต่อกับส่วนครัวก็ช่วยในการระบายกลิ่นเวลาประกอบอาหารได้เป็นอย่างดี กลับเข้ามาด้านใน พื้นที่ในสุดจะเป็นห้องน้ำนะคะ ภายในห้องน้ำแบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน ส่วนเปียกจะเป็นกระจกกั้นนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ยกธรณีสูงขึ้นประมาณนึงเพื่อกันน้ำเปียกมายังโซนแห้ง ภายในห้องอาบน้ำจะได้อุปกรณ์ตามภาพเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการได้เจาะช่องไว้สำหรับให้ลูกบ้านวางของใช้ส่วนตัวได้ด้วย บริเวณโซนล้างหน้าจะได้กระจกบานใหญ่สูงจรดเพดานแบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ข้อดีของกระจกก็ช่วยสะท้อนหลอกตาให้ห้องดูกว้างมากขึ้นนั่นเองค่ะ   ห้องทั้งหมดของโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1  ที่เราพาไปชมในครั้งนี้ จะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ชั้นวางของ เคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เครื่องปรับอากาศได้ครบ เรียกว่าพร้อมให้เข้าอยู่ในราคาเริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาท แถมจองเพียง 10,000 บาท และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน* ต้องบอกว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่ในย่านปุณณวิถี ใกล้รถไฟฟ้าและสามารถเดินทางเข้านอกออกเมืองได้สะดวก ที่สำคัญตัวโครงการสร้างเสร็จแล้ว พร้อมเข้าอยู่แล้วค่ะ ซึ่งทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า สถานีปุณณวิถี เพียง 250 เมตร นี่ต้องบอกว่าเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดในตัดสินใจได้ไม่ยากเลยค่ะ   นอกจากนี้ภายในโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 เองก็จัดเตรียม Facility ไว้อย่างหรูหราครบครันมากๆ ในขณะที่พื้นที่โดยรอบก็มีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อให้เลือกมากมาย ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปชมโครงการหรือกำลังตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดฯ ในแถบนี้อยู่แนะนำให้ไปชมบรรยากาศจริงดูค่ะ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น แต่ต้องขอบอกเลยค่ะไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือลงทุนก็คุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะในอนาคตการขยายตัวของตัวเมือง ทำให้การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้มีโอกาสที่จะเติบโตสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ สำหรับคนที่สนใจไม่ควรพลาดคอนโดมิเนียมคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึงแบบนี้เลยนะคะ   สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.chateauintown-sukhumvit.com หรือโทร. 063-903-3718
Chateau in Town รัชดา 20 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town รัชดา 20 : รีวิวคอนโด

ทำเลในย่านรัชดาภิเษก ซึ่งมีรถไฟฟ้าใต้ดินวิ่งผ่านยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจอยู่มาก ครั้งนี้เราเลยแวะไปดูโครงการ Chateau in Town รัชดา 20/2 ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise โครงการที่ 2 ของ CMC ที่เลือกทำเลในซอยรัชดา 20 และกำลังจะสร้างเสร็จในเร็วๆ นี้แล้ว แถมยังอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร ในระยะแค่ 350 เมตรเท่านั้น   การเดินทาง   สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารตั้งอยู่ใกล้ๆ ปากซอยรัชดา 20 พอดี เลือกออกทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีกหน่อย บริเวณปากซอยรัชดา 20 มีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้เรียกใช้บริการได้ หรือจะอาศัยสองเท้าเดินก็ทำได้ไม่ยาก เพราะระยะทางไม่ได้ไกลมากนัก แต่ถนนในซอยไม่มีทางเท้าเป็นเรื่องเป็นราว เวลาเดินๆ ก็ต้องคอยระวังรถกันบ้างนะครับ ถึงแม้ซอยนี้จะเป็นซอยเล็กและมีรถวิ่งผ่านไม่มากก็ตาม แต่ช่วงต้นๆ ซอยซึ่งเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน รถราเข้าออกขวักไขว่กันเลยทีเดียว สำหรับการเดินทางด้วยรถส่วนตัวนั้น ถ้ามาจากทางแยกลาดพร้าวก็ตรงมาทางสุทธิสารได้เลย แต่ไม่ต้องลงอุโมงค์ตรงแยกสุทธิสารนะครับ ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าซอยรัชดา 20 พอเข้าซอยมาเล็กน้อยให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง และเลี้ยวขวาตรงไปสุดซอยก็จะเจอโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 อยู่เยื้องจากโครงการแรกเข้าไปเล็กน้อย เดิมทีซอยนี้เป็นซอยตันนะครับ สุดซอยอยู่ที่กำแพงโครงการ Chateau in town รัชดา 20 พอดี ส่วนที่ตั้งของโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 จะอยู่สุดซอยสบายใจแยก 8 โชคดีที่ที่ดิน 2 ผืนนี้อยู่ติดกัน เจ้าของโครงการเลยทุบกำแพงใช้เป็นทางเข้าออกโครงการแบบส่วนตั๊วส่วนตัว ลูกบ้านโครงการนี้เลยไม่ต้องไปอ้อมมาจากทางซอยลาดพร้าว หรือซอยสุทธิสารวินิจฉัยให้ไกลอีกต่อไป ส่วนถ้าเดินทางมาจากทางแยกอโศก พอผ่านแยกสุทธิสารมาแล้วก็ต้องเลยไปกลับรถบริเวณแยกลาดพร้าวเพื่อกลับมาที่ซอยรัชดา 20 อีกครั้ง ระยะทางอาจจะไม่ได้ไกลนัก แต่ในช่วงเช้าและเย็นที่รถติดมากๆ ก็ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะผ่านฝ่าการจราจรไปได้แต่ละที นอกจากเส้นทางเข้าออกหลักๆ ทางซอยรัชดา 20 แล้ว เส้นทางในซอยนี้ยังสามารถเลี่ยงเข้าออกได้อีกหลายทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นมากๆ บริเวณแยกสุทธิสาร เช่น เส้นทางในซอยสบายใจ ที่สามารถไปลัดเลาะไปทางซอยลาดพร้าว 48 หรือออกไปที่ถนนสุทธิสารวินิจฉัย อย่างที่บอกไปข้างต้น อีกทั้งยังมีเส้นทางเข้าออกจากทางซอยรุ่งเรือง (ผ่านเข้าทางบุญถาวร) อีกทางที่ทำให้เลี่ยงออกมาที่ถนนรัชดาภิเษกได้ไกลพอที่จะลงอุโมงค์แยกสุทธิสารได้ทัน จึงช่วยประหยัดเวลาได้อีกหน่อย นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็สะดวกไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งมวลชนอย่างรถเมล์ ที่มีรถวิ่งผ่านหลายสาย เพราะถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนใหญ่ และป้ายรถเมล์ก็อยู่ตรงปากซอยรัชดา 20 พอดี เช่นเดียวกันกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และรถแท็กซี่ก็เรียกหาได้ง่ายเช่นเดียวกัน   วิเคราะห์ตัวโครงการ   ทำเลที่ตั้งของโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 ที่จัดว่าอยู่ใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางเมือง หรือบริเวณที่เป็นไข่แดงของรัชดา (บริเวณแยกรัชดา-พระราม9) เรื่องความเจริญแบบชีวิตคนเมืองจึงหายห่วง เพราะมีทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้ง รวมถึงอาคารสำนักงาน สถานศึกษา ก็อยู่ในรัศมีแวดล้อมที่สามารถเดินทางได้อย่างง่ายดาย เช่น ห้าง Central พระราม 9, Big C, Esplanade, Tesco Lotus หรือ Fortune Tower และตลาดนัดเมืองไทยภัทร ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่บนถนนรัชดาภิเษกบริเวณแยกรัชดา-พระราม 9 ส่วนทางฝั่งลาดพร้าวก็มี Central ลาดพร้าว, Union Mall, Major รัชโยธิน, สวนจตุจักร และตลาดอตก. ที่ว่ามานี้คือแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว และอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดินอีกต่างหาก นอกจากนี้บริเวณที่ตั้งโครงการก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ไม่น้อยเลย เพราะซอยรัชดา 20 เป็นแหล่งรวมสำนักงาน หน่วยงานราชการและเอกชนดังๆ หลายราย บริเวณนี้จึงคึกคักไปด้วยพนักงานออฟฟิศเกือบตลอดวัน หรือถ้าเลยไปที่ซอยสุทธิสาร ร้านค้า แผงลอยก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ อาหารการกินบริเวณนี้จึงอุดมสมบูรณ์มากครับ   มาถึงตัวโครงการกันบ้าง Chateau in town รัชดา 20/2 เป็นคอนโด Low Rise อาคารเดี่ยวสูง 8 ชั้น ซึ่งกำลังจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในอีกไม่นานนี้ เริ่มจากบริเวณชั้นล่างสุดเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถรองรับรถได้ 35 คัน (นับรวมจอดซ้อนคันแล้ว) ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เกินความคาดหวังเลยสำหรับคอนโด Low Rise ที่เกาะแนวรถไฟฟ้าแบบนี้ ถัดขึ้นไปที่บริเวณชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางซึ่งรวมสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่พักผ่อนไว้ด้วยกัน รวมถึงส่วนที่พักอาศัยก็เริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป นับรวมแล้วทั้งโครงการจะมียูนิตรวมทั้งหมด 73 ยูนิต โดยอัตราความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางก็ยังอยู่ในสัดส่วนที่รับได้ครับ ลูกบ้านแต่ละห้องมีโอกาสได้ใช้งานค่อนข้างเต็มที่ เช่นเดียวกันกับลิฟท์โดยสารที่ทางโครงการจัดมาให้เพียง 1 ตัว แต่ดูจะไม่น่าเป็นปัญหาเท่าไหร่เรื่องการใช้งาน นอกจากนี้เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งกล้อง CCTV และการใช้ Key Card เข้าออกอาคาร ตัวอาคารภายนอกไม่ได้มีการออกแบบตกแต่งที่พิเศษแตกต่างไปจากแบรนด์ Chateau in town ที่อื่นๆ มากนัก การจัดว่าตำแหน่งห้องในแต่ละชั้นเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นมีจำนวนแค่ ชั้นละ 12 ห้องเท่านั้น และโถงทางเดินยังออกแบบให้เป็นแบบ Single Corridor รูปตัว U ไม่มีเพื่อนฝั่งตรงข้ามห้องแน่นอน สำหรับภายนอกอาคารโดยรอบส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบ สูงไม่เกิน 2-3 ชั้น จะมีก็แต่อาคารฝั่งตรงข้ามโครงการที่กำลังก่อสร้างอาคารสำนักงานสูง 7-8 ชั้นเช่นเดียวกัน ห้องทางด้านทิศใต้ที่อยู่ทางด้านหน้าโครงการจึงถูกบังวิวกันไปแบบเต็มๆ ส่วนอีกด้านที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ก็จะถูกอาคารของ Chateau in town 20 ที่สร้างมาก่อนบังวิวเช่นกัน รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนสก็ตั้งอยู่ในตำแหน่งนี้ด้วย เท่าที่เล็งๆ แล้วก็คงขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้าง เพราะคนที่อยู่ตึกตรงกันข้ามสามารถมองส่องเข้ามาได้แน่นอน ส่วนทิศอื่นๆ ที่เหลือก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องวิวเท่าไหร่ครับ ถ้าเลือกห้องที่อยู่ชั้น 3 ขึ้นไปก็พ้นหลังคาบ้านข้างๆ แล้ว ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศห้องที่ค่อนข้างเงียบสงบ และไม่ต้องเสี่ยงเปิดหน้าต่างมาจ๊ะเอ๋กับตึกตรงข้าม แนะนำว่าเลือกห้องทางด้านทิศเหนือ และตะวันออกน่าจะดีที่สุดครับ   พาชมห้องตัวอย่าง   สำหรับห้องตัวอย่างของ Chateau in town รัชดา 20/2 ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจมากนัก ถ้าใครที่เคยแวะไปดูโครงการอื่นๆ ภายใต้แบรนด์นี้ก็คงพอจะนึกภาพตามได้ไม่ยาก เพราะการจัด Lay out ห้องมีความคล้ายคลึงกันมาก เปิดประตูห้องมาจะเจอส่วนของห้องครัวก่อน ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว และชั้นเก็บของมาให้เรียบร้อย รวมถึงพื้นในห้องครัวก็เลือกปูกระเบื้องเซรามิคมาให้ เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้มาสีสันค่อนข้างจะฉูดฉาดเลยทีเดียว ถ้าใครที่คิดจะแต่ห้องในสไตล์เรียบๆ อาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นห้องเปล่าๆ ที่มีแค่สุขภัณฑ์ในห้องน้ำตามมาตรฐานราคาห้อง เครื่องปรับอากาศ และพื้นลามิเนต สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมีขนาดเริ่มต้นที่ 25-42 ตร.ม. ขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้อง ห้องขนาดเล็กจะกั้นพื้นที่ห้องนอนออกจากครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อช่วยในการประหยัดพื้นที่ และไม่ทำให้ห้องดูแคบจนเกินไป ส่วนพื้นที่นั่งเล่นในห้องขนาด 25 ตร.ม. อาจไม่มีพื้นที่เหลือให้มากนัก เพราะต้องแบ่งกันใช้กับบริเวณห้องนอน จะว่าไปแล้วลักษณะห้องก็คล้ายกับห้องแบบ Studio เสียมากกว่า แต่ถ้าใครที่อยากจะได้ห้องที่กว้างขึ้น และมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกออกมาเป็นสัดส่วน ก็ต้องขยับขึ้นมาที่ห้องขนาด 35 ตร.ม. เพราะห้องแบบนี้จะกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ จึงมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกจากกันชัดเจน แต่ก็ต้องบอกว่ามีพื้นที่แค่พอใช้สอยนะครับ ไม่ได้กว้างขวางอะไรมากมาย อ้อ อีกส่วนที่ต่างจากห้องขนาดเล็กก็อีกอย่างก็คือ พื้นที่แต่งตัวซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ ห้องแบบนี้จึงได้บรรยากาศแบบ walk in closet น่าจะถูกใจคุณสาวๆ ไม่น้อยเลย นอกจากนี้ห้องแบบ 1 ห้องนอน ยังมีห้องขนาดใหญ่แบบ 42 ตร.ม. ให้เลือกด้วย รวมถึงห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 47-50 ตร.ม. เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากขึ้น   ความคุ้มค่าน่าลงทุน   ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 ที่อยู่เกาะแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงเรียกความน่าสนใจได้ไม่ยาก เพราะเดินเข้ามาในซอยอีกแค่ 300 เมตร บรรยากาศโดยรอบก็เงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย ต่างจากความพลุกพล่านบริเวณถนนรัชดาภิเษกเพราะเป็นย่านธุรกิจและมีอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก การออกแบบภายในตัวอาคารอาจจะยังดูขาดๆ เกินไปบ้าง สำหรับแบรนด์ Chateau in town ห้องส่วนใหญ่มักจะมีเหลี่ยมมุมหรือมีเสาเกินมาให้เห็นแล้วขัดใจบ้าง ทำให้การหาเฟอร์นิเจอร์มาจัดวางให้ลงตัวได้ยาก บางทีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Built in แทนก็อาจจะช่วยตัดปัญหาในจุดขัดตาไปได้บ้าง นอกจากนี้เรื่องสีสันของเคาน์เตอร์ครัวก็ไม่ค่อยคลาสสิคเท่าไหร่ ใครที่ไม่ชอบสีสันฉูดฉาดตัดกันชัดเจน แบบสีเหลือง แดง ตัดกันกับสีไม้เข้มๆ อาจถึงขึ้นต้องรื้อทำใหม่ยกแผงกันไปเลย ส่วนเรื่องพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็พยายามจัดสรรมาให้ค่อนข้างเต็มที่เท่าที่โครงการขนาดเล็กจะทำได้ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และส่วนพื้นที่พักผ่อน ติดนิดหน่อยที่อาจจะขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้างในการใช้งานครับ รวมถึงเรื่องอาคารใกล้เคียงที่บังวิวในบางมุม ทำให้การเลือกตำแหน่งห้องถูกจำกัดมากขึ้นรวมถึงถ้าอยากให้ได้วิวที่พ้นหลังคาบ้านข้างๆ ขึ้นมา ก็ต้องเลือกห้องในชั้นที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาห้องสูงขึ้นตามไปด้วย   ถ้าใครที่กำลังมองหาคอนโดไว้อยู่อาศัยเอง และก็ทำงานแถบนี้อยู่แล้ว อาจจะถูกใจได้ไม่ยาก เพราะความสะดวกสบายสไตล์คนเมืองอยู่แวดล้อมรอบด้าน ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน หน่วยงานราชการ และอาคารสำนักงาน อีกทั้งการเดินทางก็จัดได้ว่าสะดวกดีทีเดียว แต่ถ้าหากคิดจะจับจองไว้สำหรับการลงทุนปล่อยห้องเช่า อาจจะมี upside gain หรือได้ผลตอบแทนไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่นัก เพราะด้วย Branding ของตัวโครงการเองก็ไม่ได้มีภาพลักษณ์หรูหรามากขนาดที่จะทำราคาค่าเช่าได้สูงๆ เลยต้องพิจารณากันให้ละเอียดรอบคอบหน่อย
Chateau in Town รัชดา 10 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town รัชดา 10 : รีวิวคอนโด

โครงการ Chateau in town รัชดา 10 เป็นอีกหนึ่งโครงการของ CMC ที่เลือกทำเลขยับเข้ามาใกล้เขต New CBD (Central Business District) บนถนนรัชดาภิเษกมากขึ้น ซึ่งตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดา 10 หลังตึก Cyber World และอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวางและสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ เราจึงแวะไปดูที่ตั้งโครงการจริงมาฝากกันครับ การเดินทาง การเลือกทำเลในย่านนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยหลักจากความสะดวกสบายด้วยการเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับการเดินทางมายังโครงการ Chateau in town รัชดา 10 โดยรถไฟฟ้าใต้ดินสามารถเลือกลงได้ทั้งสถานีห้วยขวาง และสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ โดยสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ จะมีระยะทางเดินที่ใกล้กว่าคือ 550 เมตรโดยประมาณ ซึ่งใช้เส้นทางเดินลัดตัดออกมาจากด้านหลังตึก Cyber World ทำให้ย่นระยะทางไปได้พอสมควร ในขณะที่จากสถานีห้วยขวางเดินมายังโครงการจะมีระยะทางมากถึง 900 เมตรเลยทีเดียว ด้วยระยะขนาดนี้ต้องบอกว่าถ้าต้องเดินไปกลับทุกเช้า-เย็นคงจะไม่สะดวกนัก ดังนั้นการเลือกใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างจึงเป็นเรื่องที่อาจเกิดได้บ่อยกว่าที่คิด โดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่ต้องเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าคนเดียว เส้นทางบางช่วงอาจจะเงียบไม่คนมีคนเดินจนเกือบจะเรียกว่าเปลี่ยวเลยทีเดียว ถึงจะเป็นเส้นทางเดินติดถนนใหญ่ที่มีรถราขวักไขว่ แต่ก็ยังไม่น่าเดินเท่าไหร่ครับ ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ นั้นจัดว่าสะดวกดีทีเดียว เพราะออกมาทางปากซอยรัชดา 10 ก็เจอป้ายรถเมล์อยู่ตรงหน้าพอดี มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย รวมถึงรถแท็กซี่ก็มีให้บริการทั้งวันทั้งคืน ถึงจะไม่มีรถส่วนตัวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเลย ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ถนนสายหลักๆ ที่ต้องใช้คือ ถนนรัชดาภิเษก ไม่ว่าจะมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 หรือแยกลาดพร้าว เพื่อต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมถึงบริเวณแยกศูนย์วัฒนธรรมฯ ที่สามารถเลี้ยวไปออกเหม่งจ๋ายและเลียบทางด่วนรามอินทราได้ นอกจากนี้ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนตรงพระราม 9 ที่จะช่วยให้การเดินทางไปยังส่วนอื่นๆ ของกรุงเทพสะดวกมากขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ๆ ที่ยังไงก็เลี่ยงไม่ได้ก็คือ ปัญหารถติดบนถนนรัชดาภิเษก และถนนสายอื่นๆ ใกล้เคียงในช่วงเวลาเร่งด่วน กว่าจะหลุดไปได้แต่ละแยกก็ใช้เวลากันนานเลยทีเดียว แผนที่เส้นทางการเดินทางโดยรถยนต์ โดยเริ่มจากลาดพร้าวมาถึง โครงการ เริ่มมาจากแยกลาดพร้าว ให้วิ่งมุ่งหน้าไปพระราม 9 ลงอุโมงต์ลอดใต้แยกห้วยขวาง ลงอุโมงค์ ออกจากอุโมงค์ให้พยายามชิดซ้าย วิ่งมาเรื่อยๆ จะเจอโรงเรียน เตรียมอุดมพัฒนาการอยู่ทางซ้าย ก่อนเข้าซอย เตรียมตัวเลี้ยวเข้าซอย รัชดาภิเษก 10 เข้าซอยรัชดาภิเษก 10 เลยครับ พอเข้าซอยมาแล้ว ให้เลี้ยวขวาแรกทันที วิ่งตรงไปเรื่อยๆจนเกือบสุดทาง จะเห็นโครงการ Chateau in Town 10 อยู่ทางซ้ายครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ โครงการ Chateau in town รัชดา 10 ตั้งอยู่ถัดจากปากซอยเข้าไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งบริเวณปากซอยมีทั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารแผงลอยหลายร้าน ถัดออกมาอีกหน่อยที่แยกศูนย์วัฒนธรรมฯ ก็มีทั้งห้าง Big C Extra, Esplanade และCyber World ที่สามารถเป็นที่พึ่งพาในการจับจ่ายใช้สอยและฝากท้องได้ ขยับออกมาอีกหน่อยก็ยังมี Tesco Lotus, Fortune Tower และห้าง Central พระราม 9 ที่อยู่ห่างออกไปอีกแค่สถานีรถไฟฟ้าเดียว รวมถึงร้านอาหาร สถานบันเทิงบนถนนรัชดาในบริเวณใกล้ๆ ก็มีให้เลือกไม่น้อยเช่นกัน นอกจากนี้อาคารสำนักงานรอบๆ ก็มีอีกหลายตึก ทั้ง Forum Tower, ตึก Cyber World และตึกไทยประกันชีวิต เป็นต้น ทำเลในย่านนี้จึงคึกคักและพลุกพล่านไม่น้อยเลย ดีหน่อยที่ที่ตั้งโครงการอยู่ถัดเข้ามาในซอยซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยที่มีอยู่ก่อนแล้ว บรรยากาศจึงเงียบสงบกว่าด้านนอกมาก ตัวอาคารของ Chateau in town รัชดา 10 สูง 8 ชั้น สร้างใกล้เสร็จในอีกไม่นานนี้ ซึ่งการออกแบบตัวอาคารไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก เพราะเป็นโครงการเล็กที่มียูนิตรวมแค่ 79 ยูนิตเท่านั้น ทางโครงการจึงบอกว่าลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวเพราะแต่ละชั้นมีเพื่อนบ้านแค่ 10-12 ห้องเท่านั้น พื้นที่ส่วนกลางเริ่มตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นที่จอดรถภายในอาคาร สามารถจอดรถได้ 31 คัน มีทางเข้าออกทางเดียวด้านซอยรัชดา 10 แยก 7 ส่วนพื้นที่ด้านหลังโครงการที่อยู่ติดกับซอยรัชดา 10 แยก 9 จะเป็นสระว่ายน้ำและสวนหย่อมเล็กๆ สำหรับการพักผ่อน สำหรับส่วนที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 2 ขึ้นไป โดยที่บริเวณชั้น 2 ด้านเดียวกับสระว่ายน้ำจะมีห้องฟิตเนส ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปที่สระว่ายน้ำได้ด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานทั่วไป รวมถึงเรื่องลิฟท์โดยสารที่ถึงจัดมาให้ 1 ตัว แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับคอนโดโครงการขนาดนี้ การจัดวางแปลนห้องในแต่ละด้านมีจำนวนห้องไม่มากนัก ซึ่งการเลือกตำแหน่งและขนาดห้องก็ถูกบังคับไปโดยปริยาย รอบๆ อาคารเป็นอาคารพาณิชย์เสียเป็นส่วนใหญ่ ตรงข้ามกันมีอพาร์เม้นท์สูง 7-8 ชั้น 2 อาคาร อยู่ห่างจากตัวโครงการแค่ถนนในซอยกั้นเท่านั้น หันไปทางด้านหลังโครงการก็มีตึก Cyber World สูงตระหง่าน แทบจะบังแดดบังลมได้มิดเลย เรียกว่าเรื่องวิวทิศทัศน์อันสวยงามคงหวังอะไรไม่ได้ไม่ว่าจะเลือกห้องทางทิศไหน หรืออยู่ชั้นสูงที่สุดก็ตาม เพราะมองออกไปยังไงก็เห็นแต่วิวหลังคาตึกใกล้ๆ แย่หน่อยก็อาจจะเปิดหน้าต่างออกไปจ๊ะเอ๋มองเห็นเพื่อนบ้านที่อพาร์ทเม้นท์ข้างๆ อีกต่างหาก ความเป็นส่วนตัวตามที่ทางโครงการขายไว้ก็อาจจะลดลงไปบ้าง เช่นเดียวกับการใช้สระว่ายน้ำซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ในขณะที่รอบๆ มีบ้านและอาคารพาณิชย์รายล้อมอยู่ เวลาลงมาว่ายน้ำเล่นก็อาจจะรู้สึกโป๊ไปหน่อย ถึงแม้ว่าทางโครงการจะพยายามยกพื้นและขอบรั้วให้สูงกว่าปกติแล้ว แต่ใกล้ๆ กันก็ยังมีตึกที่สูงกว่าที่สามารถมองลงมาที่สระว่ายน้ำได้อยู่ดี คะแนนความเป็นส่วนตัวจึงถูกลดลงไปอีกครับ เห็นแบบนี้สาวๆ คงไม่กล้าลงมาว่ายน้ำเล่นเท่าไหร่ จะขึ้นจะลงสระอาจมีอาการระแวงสายตาจากคนในบ้านข้างๆ ได้ ทีนี้เลยพาลจะทำให้ใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ค่อยเต็มที่นัก การเสียค่าส่วนกลางโดยที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่ หรืออาจไม่ได้ใช้เลย จึงกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าคิดนะครับ พาชมห้องตัวอย่าง อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าแบรนด์ Chateau in town มีการออกแบบ Lay out ในแต่ละโครงการไม่ได้แตกต่างกันมาก เราจึงไม่ต้องพูดกันมากให้เสียเวลา ทั้งโครงการมีแบบห้องให้เลือกมากถึง 15 Type ซึ่งเยอะได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว Lay out ห้องก็คล้ายๆ กัน กลับตำแหน่งซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เว้าตรงนี้นิด ยื่นตรงนั้นหน่อย ตัดทอนไปแล้วก็เหลือห้องแบบหลักๆ อยู่ 5 แบบด้วยกัน เริ่มจากห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมีขนาดเริ่มต้นที่ 25-41 ตร.ม. ขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้อง ห้องขนาดเล็กจะกั้นพื้นที่ห้องนอนออกจากครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อช่วยในการประหยัดพื้นที่ และไม่ทำให้ห้องดูแคบจนเกินไป ส่วนพื้นที่นั่งเล่นในห้องขนาด 25 ตร.ม. อาจไม่มีพื้นที่เหลือให้มากนัก เพราะต้องแบ่งกันใช้กับบริเวณห้องนอน จะว่าไปแล้วลักษณะห้องก็คล้ายกับห้องแบบ Studio เสียมากกว่า แต่ถ้าใครที่อยากจะได้ห้องที่กว้างขึ้น และมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกออกมาเป็นสัดส่วน ก็ต้องขยับขึ้นมาที่ห้องขนาด 35 ตร.ม. เพราะห้องแบบนี้จะกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ จึงมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกจากกันชัดเจน แต่ก็ต้องบอกว่ามีพื้นที่แค่พอใช้สอยนะครับ ไม่ได้กว้างขวางอะไรมากมาย แต่ถ้าอยากได้ห้องกว้างๆ ไปเลย ก็ต้องเป็นห้องขนาด 39 ตร.ม. และ 41 ตร.ม. เลยครับ รับรองว่าพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางแน่นอน ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนก็มีให้เลือกเช่นกัน ในขนาดตั้งแต่ 47-52 ตร.ม. เลยทีเดียว เท่าที่ได้ดูห้องตัวอย่างมา ต้องบอกว่า Lay out ห้องบางตำแหน่งอาจจะทำหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งให้ลงตัวได้ยาก เพราะมีเสายื่นมาบ้าง หรือผนังเว้าเข้าไปบ้าง ไหนจะไฟเพดานที่ยื่นออกมาแทนที่จะเป็นแบบฝังติดฝ้าเพดาน อันนี้ก็อาจจะติดปัญหาในบางตำแหน่งที่ต้องวางตู้สูงจรดเพดาน บางทีการตัดปัญหาด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in ก็อาจจะช่วยได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย ถ้าจะเลือกห้องจริงๆ แนะนำว่าให้เดินดูทีละห้องไปเลยครับ เพราะปัจจุบันตัวอาคารสร้างเสร็จแล้ว เหลือแค่ตกแต่งภายในและเก็บรายละเอียดเท่านั้น จะได้เช็คกันในละเอียดๆ ไปเลยว่ามีพื้นที่ใช้สอยในห้องอย่างไรบ้าง ถูกใจและเหมาะสมแค่ไหน อย่าดูแค่แปลนในกระดาษ เกิดอยู่แล้วไม่ถูกใจขึ้นมาจะหาทางแก้ไขลำบากครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน จุดด้อยหลักๆ ของตัวโครงการ Chateau in town รัชดา 10 คือเรื่องที่ตั้งโครงการที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี ซึ่งไม่ว่าจะเลือกเดินจากสถานีไหนก็จัดว่าไกลพอสมควรเลยทีเดียว ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่เกาะแนวรถไฟฟ้า แต่ด้วยระยะทางที่ต้องเดินมากกว่า 500 เมตรขึ้นไป ก็อาจทำให้เราใช้ประโยชน์จากรถไฟฟ้าได้ไม่เต็มที่นัก แต่ในขณะเดียวกันบริเวณรอบๆ โครงการกลับมีอาคารสำนักงานหลายแห่ง รวมถึงสถานศึกษา และห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้งมากมาย ถ้าใครที่ทำงานอยู่ในระแวกนี้ โดยเฉพาะในระยะที่สามารถเดินไปกลับได้ หรือนั่งรถต่อไปใกล้ๆ โครงการนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะการจราจรบนถนนรัชดาภิเษกนั้นติดหนักขึ้นชื่ออยู่แล้ว ถ้าไม่ต้องเดินทางออกไปทำงานนอกพื้นที่รัชดาไกลๆ ก็เผชิญปัญหารถติดกันน้อยลง นอกเหนือจากนี้เรื่องพื้นที่ส่วนกลางของโครงการก็ต้องพิจารณากันให้ดีๆ ว่าเราจะได้ใช้งานมากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละส่วนทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนสก็ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่มาก รวมถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในระหว่างการใช้งานที่อาจจะน้อยไปบ้างตามที่บอกไปข้างต้น ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียค่าส่วนกลางไปโดยไม่คุ้มค่าเงินก็ได้ สำหรับการซื้อหาไว้เพื่อการลงทุนหรือปล่อยห้องให้เช่า แน่นอนว่าบริเวณโดยรอบนี้มีอาคารสำนักงานอยู่มาก โอกาสที่จะหาผู้เช่าก็ดูจะมีความเป็นไปได้มาก แต่ต้องไม่ลืมว่าในซอยเดียวกันนี้ยังมีอพาร์ทเม้นท์อีกหลายตึกที่จะกลายเป็นตัวเลือกเปรียบเทียบ ทั้งตำแหน่งที่อยู่ใกล้ปากซอยมากกว่า และราคาเช่าที่อาจจะถูกกว่าเพราะไม่มีเรื่อง Facility อื่นๆ บวกเพิ่มขึ้นมา การปล่อยห้องให้เช่าจึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าก็ได้ครับ
Chateau in Town สุขุมวิท 64 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town สุขุมวิท 64 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Chateau in Town สุขุมวิท 64 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,950,000 บาท บาท/ตารางเมตร 69,400 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) จุดเด่น โครงการ “Chateau in Town สุขุมวิท 64” ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 64 ใกล้ถนนสุขมุวิท, แยกบางนา, แยกพระราม 4, รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี, ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนสุขุมวิท 62 และ รายล้อมไปด้วยสถานที่ใกล้เคียงสำคัญๆ มากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา และโรงพยาบาล จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2557 ที่ตั้ง: Chateau in Town สุขุมวิท 64 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 0-2-35 ไร่ ที่ตั้ง ซอยสุขุมวิท 64 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.690309,100.604929 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS ปุณณวิถี สถานที่สำคัญใกล้เคียง Gate Way เอกมัย Major เอกมัย บิ๊กซี เอกมัย โลตัส อ่อนนุช โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก โรงพยาบาลสุขุมวิท ปิยรมย์ สปอร์ตคลับ ลักษณะโครงการ: Chateau in Town สุขุมวิท 64 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 28.08-29.97 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 34.94-42.27 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 79 ยูนิต ส่วนกลาง: Chateau in Town สุขุมวิท 64 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 37 คัน (คิดเป็น 47%) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) N/A ค่ากองทุน(/ตร.ม) N/A สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ บริเวณชั้น 2 ฟิตเนส ชั้น 2 Wifi ทั่วโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. Key Card Access ที่ประตูเข้าห้อง เข้าออกด้วยระบบ Key Card Access   เพิ่มเติม: Chateau in Town สุขุมวิท 64 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-741-6363 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.chateauintown.com/sukhumvit64 ข้อมูล ณ วันที่
Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 (PREVIEW) ราคา เริ่มต้น 2,000,000 บาท บาท/ตารางเมตร - เจ้าของโครงการ พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ จุดเด่น โครงการอยู่ใกล้สถานี BTS ที่ตั้งโครงการอยู่ในบรรยากาศที่สงบ เหมาะกับการอยู่อาศัย จุดด้อย ขาดแหล่งอาหารการกิน และตลาด บริเวณปากทางเข้าซอยโครงการดูไม่น่าประทับใจ โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-1-68 ไร่ ที่ตั้ง ซอยสุขุมวิท 62/1 (ซอยอู่รถเมล์ขาว) ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.692852,100.605857 ระบบขนส่งสาธารณะ - สถานที่สำคัญใกล้เคียง – ลักษณะโครงการ: Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms ขนาดห้องที่มี – จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 197 ยูนิต ส่วนกลาง: Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ, ห้องสตรีม, ฟิตเนส   เพิ่มเติม: Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-741-6363 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.chateauintown.com/sukhumvit62-1/home/ ข้อมูล ณ วันที่