กลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี (AlloyMtd) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก จากประเทศมาเลเซีย เตรียมเปิดขาย “เดอะ เซาธ์ ทาวเวอร์ แอท วัน คราวน์ เพลส” (The South Tower at One Crown Place) เรสซิเด้นซ์สุดหรูภายในโครงการมิกซ์ยูส “วัน คราวน์ เพลส” ใจกลางลอนดอน เปิดโอกาสนักลงทุนไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย เปิดขายรอบพิเศษ 10 – 11 มีนาคมนี้ ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
นายเฮนรี่ โรบินสัน กรรมการบริหารและพัฒนาโครงการ วัน คราวน์ เพลส เปิดเผยว่า “วัน คราวน์ เพลส” โครงการมิกซ์ยูสหรู ตั้งอยู่บน “ซันสตรีท” (Sun Street) เขตอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ของกรุงลอนดอน ประกอบด้วย อพาร์ตเมนต์ที่อยู่อาศัย 246 ยูนิต, โรงแรมบูติคระดับ5 ดาว, พื้นที่อาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยม ขนาด 130,007 ตารางเมตร (140,000 ตารางฟุต), พื้นที่ร้านค้า 650 ตารางเมตร (7,000 ตารางฟุต) และระเบียงจอร์เจีย(Georgian Terrace) เป็นส่วนหนึ่งของตัวโครงการฯ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 39,500,000 บาท หรือ 888,000 ปอนด์ สำหรับห้องชุดประเภท 1 ห้องนอน ปัจจุบัน โครงการได้ดำเนินงานรื้อถอน งานก่อสร้าง ฐานราก และงานขุดเจาะชั้นใต้ดินเสร็จสิ้นแล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเข้าอยู่ได้ภายในปี 2563 “โครงการที่พัฒนาขึ้นตอบโจทย์ความชอบนักลงทุนชาวไทยเป็นอย่างดี โดยอพาร์ตเมนต์ชุดนี้มีราคาเริ่มต้นจาก 38 ล้านบาทถึง 377 ล้านบาทสำหรับห้องชุดที่ออกแบบโดย Sophie Ashby คาดว่า โครงการนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ซื้อ ทั้งที่ซื้อ เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของบุตรหลานที่กำลังศึกษาอยู่ในสหราชอาณาจักร นอกจากนั้น ยังจะดึงดูดนักลงทุนเนื่องจากผลวิจัยทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนชี้ว่า จะให้ผลตอบแทนสูงถึง 16.7% รวมถึงอัตราค่าเช่าที่สูงขึ้นถึง 4.66% ซึ่งเราคาดว่า งานพรีเซลล์ในวันที่ 10 – 11 มีนาคมนี้ จะประสบความสำเร็จอย่างมาก" นายเฮนรี่ กล่าว
ปัจจัยเหล่านี้จะนำไปสู่การเติบโตของตลาดอพาร์ตเมนต์ระดับไฮเอนด์ (High End Residential) ใจกลางกรุงลอนดอน โดยผลการวิจัยของซีบีอาร์อีคาดว่า ในช่วงปี 2560 - 2564 การเติบโตของเงินทุนจะเพิ่มขึ้นถึง 16.7% ซึ่งนับเป็นผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ทองคำ น้ำมัน และตลาดหุ้น นอกจากนั้น การลงทุนในที่อยู่อาศัยในลอนดอน ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าประเภทสินทรัพย์อื่น ๆ ทั้งหมดในระยะกลางถึงระยะยาว และได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นการลงทุนที่ยืดหยุ่นและเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยในส่วนของนักลงทุนไทยและนักลงทุนรายอื่น ๆ จากทั่วโลกมีความสนใจที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นที่พำนักที่ปลอดภัยด้วยระบบกฎหมายที่โปร่งใส มีเขตเวลาที่เหมาะสำหรับการติดต่อสื่อสารและการพาณิชย์ระหว่างประเทศ, อุปทานของที่อยู่อาศัยยังไม่เพียงพอกับความต้องการ, ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอันยาวนานของกรุงลอนดอน และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ จำนวนนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์
ทั้งนี้ กฎหมายของสหราชอาณาจักรทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ง่าย การถือครองกรรมสิทธิ์ในสัญญาเช่า (Leasehold) ที่มีความยาว 999 ปีเป็นที่น่าสนใจมาก และมีผลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย แต่ยังดึงดูดผู้ซื้อจากทั่วโลกที่เน้นการลงทุนอีกด้วย ดังนั้น นักลงทุนไทยจะมีโอกาสได้รับผลกำไรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน โดยเฉพาะผู้ที่ส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นนักเรียนชาวต่างชาติที่เข้ามาศึกษาในสหราชอาณาจักรมากเป็นอันดับที่ 7 จากทั่วโลก และมักใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 4 หรือ 5 ปี ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าการเช่า นอกจากนี้ หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นจะได้รับผลกำไรจากการเติบโตอย่างยั่งยืนของเงินทุนระยะยาวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน
นายที คิม เซียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี กล่าวว่า อาคารแห่งนี้มีอัตราค่าเช่าที่สูงเป็นพิเศษและมีพื้นที่เช่าที่ต่ำ ไม่เพียงแต่ในปัจจุบันเท่านั้นยังรวมถึงในอนาคตอีกด้วย จะเห็นได้ว่า ย่านการเงินของกรุงลอนดอนมีประชากรอยู่อาศัยต่ำมากเพียง 8,000 คน แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของร้านอาหารและวัฒนธรรมในพื้นที่นี้ ทำให้เหล่านายธนาคารและทนายความ เลือกที่จะอยู่ในเมืองลอนดอนมากขึ้น มากกว่าในพื้นที่ดั้งเดิมอย่างเคนซิงตันและเชลซี ดังนั้น “วัน คราวน์ เพลส” จะกลายเป็นสถานที่ที่เติมเต็มชีวิตในทุก ๆ วันของผู้อยู่อาศัย ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยทำเลที่ตั้งของการคมนาคมท้องถิ่นหลายเส้นทาง รวมถึง Crossrail เส้นทางใหม่ Elizabeth Line ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินฮีทโทรว (Heathrow Airport) เพียง 33 นาที และสามารถเดินทางไปยังแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของโลก อาทิ Bond Street, Broadgate Circle, Old Silicon Roundabout, Spitalfields Market และ Shoreditch ศูนย์กลางการสร้างสรรชื่อดัง เพียง 7 นาที นอกจากนั้น ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยชื่อดังและใกล้ย่านบริษัทชั้นนำของลอนดอนหลายแห่ง และพิเศษสุด คนไทยจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่มีโอกาสได้ครอบครองสุดยอดโครงการที่เป็นแลนด์มาร์คแห่งนี้
อนิึ่ง โครงการ “วัน คราวน์ เพลส” ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบชั้นนำชาวอังกฤษ Kohn Pedersen Fox Associates (KPF) บริษัทออกแบบเจ้าของรางวัลชนะเลิศด้านสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ ประกอบด้วย อาคารสูงตระหง่าน 2 อาคาร มีชั้นสูงสุดอยู่ที่ชั้นที่ 33 ทั้งสองอาคาร โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของ “ระเบียงจอร์เจีย” ที่สวยงาม ซึ่งเป็นที่สุดท้ายในละแวกนี้ที่ได้รับการบูรณะให้ยังคงความสมบูรณ์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ซึ่งจะกลายเป็นคลับเฮาส์ของผู้อยู่อาศัยและโรงแรมบูติคระดับ 5 ดาว โครงการนี้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาสสำหรับผู้อยู่อาศัย ภายใต้การดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ให้ความรู้สึกของแหล่งชุมชนที่มีสีสันและในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นส่วนตัว โดยสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย ห้องออกกำลังกายที่ทันสมัย, ห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว, เลาจน์, โรงภาพยนตร์, ห้องทรีทเมนต์, สตูดิโอ และระเบียงชมวิวกว้างขวาง นอกจากนั้น แต่ละห้องชุดยังเต็มไปด้วยพื้นที่รับแสงธรรมชาติ (Light-Filled Space) ที่อบอุ่นและมีเสน่ห์ อีกด้วย
ทั้งนี้ การตกแต่งภายในได้รับการออกแบบโดยความร่วมมือของบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก ไดแก่ B & B Italia และ Arclinea โดยจะออกแบบห้องครัวและตู้เสื้อผ้าสุดหรูสำหรับทุกยูนิตภายใน “วัน คราวน์ เพลส” ซึ่งจะนำเสนอมาตรฐานใหม่และคุณภาพที่โดดเด่นสำหรับโครงการระดับโลกแห่งนี้โดยเฉพาะ โดยพื้นที่ส่วนกลางและภายในอพาร์ตเมนต์จะได้รับการออกแบบโดยบริษัทตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงอย่าง Bowler James Brindley ในขณะที่เพนเฮ้าส์ 9 หลัง ถูกออกแบบโดย Sophie Ashby แห่ง Studio Ashby