วันนี้เราจะพาไปดู คอนโด ในเครือพฤกษา ภายใต้แบรนด์ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย บริเวณหัวมุมซอยอินทามระ 22 จะว่าไปแล้วทำเลของโครงการอยู่ค่อนไปทางถนนวิภาวดีรังสิตมากกว่า ถนนรัชดาซึ่งมีรถไฟฟ้า MRT วิ่งผ่าน แต่ด้วยระยะทางจากตัวสถานีรถไฟฟ้าถึงหน้าโครงการประมาณ 1.4 กิโลเมตรเลยพอจะพูดได้ว่าตัวโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าได้แบบไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ตามไปดูรายละเอียดโครงการกันเลยดีกว่า
การเดินทาง
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีสุทธิสารแล้วออกทางออกที่ 1 หรือ 4 จากนั้นก็ต้องใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์ต่อไปยังตัวโครงการ ซึ่งนับเป็นทางเลือกเดียวที่สะดวกและประหยัดเวลามากที่สุด เพราะด้วยระยะทางจากตัวสถานี MRT สุทธิสารไปยังหน้าโครงการ Fuse Miti ที่ไกลเกือบ 1.5 กิโลเมตร ถ้าจะอาศัยสองเท้าเดินต่อไปก็ออกจะไกลเกินพอดีไปหน่อย แถมเส้นทางในซอยก็ไม่ค่อยเหมาะกับการเดินด้วย เลยไม่ค่อยอยากจะแนะนำให้เดินกันครับ ที่สำคัญถนนสุทธิสารบริเวณสี่แยกรัชดานี้ตำรวจจัดการจราจรให้เดินรถทางเดียวเกือบจะตลอดเวลา ถ้าจะเรียกรถแท็กซี่เข้าไปที่โครงการเลยต้องอ้อมไปทางลาดพร้าว หรือต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางในซอยรัชดาภิเษก 17 แทน ซึ่งทำให้ระยะทางที่ต้องเดินทางไกลออกไปอีก สำหรับคนที่ต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT เป็นหลักคงต้องพิจารณากันให้ดีๆ เพราะอาจจะไม่ได้ประโยชน์จากรถไฟฟ้าอย่างเต็มที่เท่าไหร่ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ค่อนไปทางฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตมากกว่า การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะอื่นๆ เข้าออกจากฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตจึงสะดวกกว่ามาก ทั้งรถเมล์ และรถแท็กซี่ ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถ้าเลือกเข้าออกจากฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตค่อนข้างสะดวกดีทีเดียว เพราะมีทางด่วนด่านดินแดง ที่สามารถใช้เป็นเส้นทางหลักไปยังส่วนต่างๆ ของเมืองได้ดี ยิ่งถนนสุทธิสารวินิจฉัยมีจุดเด่นที่เป็นเส้นทางเชื่อมถนนสายหลักๆ ในกรุงเทพไว้หลายสาย ก็เลือกเลี่ยงไปได้อีกหลายทาง เช่น ตรงไปทางถนนสะพานควายออกถนนพหลโยธิน กลับมาอีกทางก็มีถนนรัชดาภิเษกตัดออกไปถนนลาดพร้าวและถนนพระราม 9 ได้อีก ถ้าไม่ติดว่าถนนแต่ละเส้นก็ขึ้นชื่อในเรื่องปัญหารถติดแทบไม่ต่างกันแล้วล่ะก็ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกมากๆ ที่เหลือก็แค่ต้องลองคำนวนเวลาเดินทางกันหลายรอบหน่อย โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนในวันจันทร์-ศุกร์ ที่บริเวณแยกสุทธิสาร-รัชดา ก็บังคับให้เดินรถทางเดียว จึงถูกบีบให้ต้องอ้อมไปทางอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับเส้นทางในย่านนี้เป็นอย่างดี ก็อาจจะเคยชินกับเส้นทางลัดเลาะไปตามทางที่เชื่อมต่อกันระหว่างซอย ได้ไม่ยาก ซึ่งพอจะช่วยให้เลี่ยงปัญหารถติดบนถนนสายหลักได้พอสมควรเลยทีเดียว วิ่งเส้นวิภาวดี โดยมาจากบางเขน วิ่งไปตามทางสุทธิสาร เห็นป้ายห้วยขวางแล้วตามไปเลยครับ เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าห้อยขวาง เลี้ยวซ้ายเข้าห้วยขวาง พอเข้าถนนห้วยขวางมาแล้ว ตามข้างทางก็จะมีร้านค้ามากมาย วิ่งเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นโครงการ FUSE MiTi อยู่ทางขวา ถึงแล้วโครงการ FUSE MiTi เลี้ยวเข้าไปครับ ถ้าออกจากโครงการแล้วเลี้ยวขวา ก็จะสามารถออกไปถนนรัชดาได้ ข้างทางมีของขายเต็มไปหมดครับ พอออกมาสุดทาง ก็จะถนนรัชดาภิเษกครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา เป็นคอนโดย High Rise ริมถนนสุทธิสารช่วงปากซอยอินทามระ 22 ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นคึกคักมากเลยทีเดียว มีทั้งอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อหลากหลาย รวมถึงโรงแรมและสถานีดับเพลิงที่อยู่บริเวณตรงหัวมุมแยกสุทธิสาร-วิภาวดีพอดี สภาพแวดล้อมเป็นชุมชมที่เหมาะกับการอยู่อาศัยพอสมควรเลยทีเดียว เพราะมีความอุดมสมบูรณ์สูง แถมฝั่งตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการก็มีอาคารวิริยะถาวรเป็นตึกสำนักงานสูงอยู่ด้วย บรรยากาศจึงไม่มีเงียบเหงาแน่นอน ย้ายรัศมีไกลออกมาอีกหน่อย รอบโครงการก็ยังมีมหาวิทยาลัยหอการค้า โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี และเซนต์จอนห์ ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี สำหรับแหล่งช็อปปิ้งก็มีทั้ง Big C สะพานควาย, เซนทรัลลาดพร้าว, Union Mall, ตลาดอ.ต.ก. และตลาดนัดจตุจักรซึ่งอยู่ทางด้านวิภาวดี ส่วนทางฝั่งรัชดาก็มีทั้ง Esplanade และเซนทรัลพระราม 9 ความเจริญรอบๆ โครงการนับว่ามีแบบเต็มพิกัด ทางด้านอาคารรอบด้านโครงการ โชคดีที่ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดเลยทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งเป็นเพียงอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้น จะมีเพียงอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้นอาคารเดียวที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเท่านั้นที่อยู่ในระยะที่ใกล้เพียงแค่ถนนในซอยกั้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องการบังวิวเลย เพราะตัวโครงการ Fuse Miti เองก็ออกแบบไว้ไม่ให้มีห้องหันหน้าเข้าหาอพาร์เม้นท์เลยจึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ห่างออกไปอีกนิด ก็ดูจะมีแค่อาคารวิริยะถาวรเท่านั้นที่เป็นตึกสูงทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งบางห้องของฝั่งนี้จะถูกบังวิวไปบ้าง นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาเท่าไร เพราะส่วนของที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไป ห้องชั้นล่างๆ ก็ได้วิวติดหลังคาตึกบ้างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ด้านหน้าโครงการ Fuse Miti ติดกับถนนสุทธิสารตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว L หน้าตาโมเดิร์นในสไตล์เข้มขรึม ตัวอาคารสูง 17 ชั้น เริ่มตั้งแต่ชั้น 1-3 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนเพียง 40% เท่านั้น (ไม่นับรวมจอดซ้อนคัน) นับว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากถ้าคิดว่าเป็นคอนโดที่ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและมีระดับราคาขนาดนี้ และดูเหมือนว่าลูกบ้านก็มีแนวโน้มที่จะใช้รถส่วนตัวเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ถัดขึ้นมาตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไปจะเป็นพื้นที่ของส่วนพักอาศัย โดย Facilities หลักๆ จะรวมอยู่บนชั้นดาดฟ้ามีทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนหย่อม รวมถึงสวนในชั้นที่ 4 และชั้น12-13 ด้วย ซึ่งข้อดีของการจัดพื้นที่ส่วนกลางไว้บนดาดฟ้าหรือบนชั้นสูงๆ ของตึกก็คือ วิวมุมสูงที่ลูกบ้านทุกคนสามารถรับวิวได้เท่าๆ กัน แต่ในระยะยาวอาจจะติดปัญหาเรื่องการดูแลได้ อันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ นอกจากนี้ยังมีห้อง Miti Multi Space ไว้สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน พูดคุย หรืออ่านหนังสือ และห้อง Miti Theater ไว้ให้ดูหนัง ฟังเพลงได้เพลินๆ ซึ่ง Facilities ทั้งหมดของโครงการเปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมงเลย ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งซึ่งต่างจากโครงการอื่นๆ ที่มักมีกำหนดเวลาในการใช้พื้นที่ส่วนกลาง โดยภาพรวมแล้วถือว่าทางโครงการจัดสาธารณูปโภคต่างๆ มาให้ครบครันเลยทีเดียว แถมจำนวนยูนิตรวม 281 ยูนิต ก็เป็นปริมาณที่ไม่เยอะมากเกินไปถ้าเทียบกับโครงการ High Rise อื่นๆ โอกาสที่ลูกบ้านจะได้ใช้งานส่วนกลางจริงๆ จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการก็จัดไว้ตามมาตรฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึง Digital Door Lock และ Proximity Card สำหรับควบคุมการเข้าออกโครงการ อีกเรื่องที่ลืมพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ลิฟท์โดยสารภายในอาคาร ซึ่งทางโครงการจัดมาเพียง 2 ตัวเท่านั้น เทียบอัตราส่วนการใช้งานแล้ว 1:141 จัดว่าหนาแน่นเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะแยกลิฟท์ขนของมาให้อีก 1 ตัวแล้วก็ตาม ด้านหน้า ของโมเดลตึก ชั้น 6 จะมีส่วนหย่อมอยู่ที่ชั้นนี้ครับ ด้านข้างของตึก ด้านหลังของตึก ชั้นบนเป็นส่วนของ Facilities พาชมห้องตัวอย่าง
มาถึงแบบห้องของ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา กันบ้าง หลักๆ แล้วจะมีห้องอยู่ที่ 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน และ2 ห้องนอน โดยห้องแบบ 1 ห้องนอนจะแบ่งย่อยไปอีกคือ ห้องขนาด 28-31 ตร.ม. และ ห้องขนาด 29.5-34.5 ตร.ม. ซึ่งห้องทั้ง 2 แบบนี้นอกจากจะต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยแล้ว ยังต่างกันที่ขนาดหน้ากว้างของห้องที่ต่างกันด้วย ทำให้การจัด Lay out ของพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายในห้องไม่เหมือนกัน เริ่มจากห้อง Type 1A ซึ่งทางโครงการเตรียมห้องตัวอย่างขนาด 29 ตร.ม. ไว้ให้เราได้ชม ลักษณะห้องจะคล้ายห้องแบบ Studio ที่ออกแบบมาหน้าแคบและลึก การกั้นพื้นที่ห้องนอนจากห้องนั่งเล่นจึงใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไป เปิดประตูเข้าห้องมาจะเป็นพื้นที่ของครัวและส่วนเตรียมอาหาร ส่วนอีกด้านจะเป็นห้องน้ำซึ่งแบ่งโซนอาบน้ำด้วยประตูกระจกกั้นมาให้เรียบร้อย โซนกลางห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งใช้พื้นที่เต็มความหน้ากว้างของห้อง ทำให้ระยะดูทีวีกำลังดี เหนือชั้นวางทีวีที่ให้มาพร้อมห้องแล้ว (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น) ยังมีพื้นที่ให้แขวนชั้นเก็บของเพิ่มเติมได้อีกด้วย ส่วนห้องนอนจะอยู่ติดระเบียง ซึ่งประตูระเบียงใช้เป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ บรรยากาศในห้องเลยลดความอึดอัดลงไปได้เยอะเลยทีเดียว เพราะขนาดห้องค่อนข้างเล็ก พอวางเตียง 5-6 ฟุตลงไปแล้วก็เหลือพื้นที่ไม่มากนัก บริเวณปลายเตียงทางโครงการ Built in เป็นตู้เสื้อผ้ามาให้ พร้อมมุมแต่งตัวเล็กๆ อยู่ติดกัน ส่วนสุดท้ายคือระเบียงที่วางเครื่องซักผ้าได้สบายๆ แถมยังมีพื้นที่พอให้ตากผ้าได้อีกเล็กๆ น้อย เพราะตัวระเบียงถึงจะแคบแต่ก็ยาวเต็มความกว้างของห้อง ห้อง Type นี้มีพื้นที่ภายในห้องค่อนข้างจำกัดเหมือนกันจึงน่าจะเหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียวซะมากกว่า ส่วนห้องตัวอย่างอีกแบบคือ Type 1B ขนาดห้องอยู่ที่ 32 ตร.ม. พื้นที่โดยรวมของห้องแบบนี้จะกว้างกว่าห้องแบบแรก แต่ตัวห้องนอนจะถูกกั้นด้วยผนังทึบ เปิดประตูเข้าห้องก็เจอส่วนของครัวเหมือนกัน ซึ่งจะหลบมุมไปทางด้านข้างและมีเคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบเข้ามุมรูปตัว L ห้องน้ำอยู่ด้านเดียวกัน เวลาเดินเข้าห้องน้ำต้องผ่านครัวก่อน ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง เปรียบเทียบกับห้องแรกแล้วระยะดูทีวีจะแคบกว่าพอสมควรเลย เช่นเดียวกันกับระเบียงที่มีพื้นที่เพียงครึ่งเดียวของหน้ากว้างห้อง แถมยังกินพื้นที่ยื่นเข้าไปทางห้องนอนอีกเล็กน้อย พื้นที่ในห้องนอนเลยไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมเรียบๆ ถ้าเดินเข้าไปดูในห้องนอนก็จะเห็นว่า ช่วงปลายเตียงจะมีผนังยื่นมาเล็กน้อย วางเตียงลงไปแล้วทำให้มุมตรงนี้แทบจะไม่เหลือที่เดินเลย ในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า Built in มาให้แล้วตั้งอยู่หลังประตูห้องนอนพอดี นอกเหนือจากนี้พื้นที่ภายในห้องนอนอาจจะตกแต่งวางอะไรได้อีกไม่เยอะนะครับ เนื่องจากขนาดห้องกระทัดรัดเหลือเกิน นอกเหนือจากห้องแบบ 1 ห้องนอนที่ทางโครงการจัดห้องตัวอย่างไว้ให้ชมแล้ว ใครที่อยากได้ห้องแบบ 2 ห้องนอนก็สอบถามรายละเอียด และดูแปลนห้องจากพนักงานขายได้ ห้องทั้งหมดของโครงการขายมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built in บางชิ้น ชุดเคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและการต่อรองครับ โดยรวมๆ แล้วถือว่าทางโครงการเลือกวัสดุสุขภัณฑ์ต่างๆ มาคุณภาพดีพอตัวเลย อาจจะด้วยราคาเริ่มต้นของห้องที่จัดว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียวสำหรับทำเลในแถบนี้ จึงต้องมีการอัพฟังก์ชั่นให้ดูสมน้ำสมเนื้อกับราคากันหน่อยจะได้ไม่น่าเกลียดครับ เริ่มต้นที่ห้องขนาด 29.00 ตร.ม. เปิดเข้าห้องก็จะเห็นส่วนครัวอยู่ทางขวา และห้องน้ำอยู่ทางซ้าย ส่วนครัวโครงการทำเป็น built in มาให้ ซิ้งค์จะใช้เป็นแบบมาตราฐาน มีเตาไฟฟ้า และ เครื่องดูดควันให้ ส่วนครัวจะมีเว้นที่สำหรับตู้เย็น มาดูห้องน้ำกันบ้าง ทางโครงการก็มีให้ตามมาตราฐาน อ่างล้างหน้าเป็นแบบมาตราฐาน ชักโครกใช้ของ American Standard ส่วนเปียกจะมีฉากกั้นไว้ ธรณีประตูกั้นห้องน้ำ ถัดเข้ามาจะเป็นโต๊ะทานข้าว ถัดมาก็จะเป็นส่วนของนั่งเล่น ที่วางทีวีโครงการ ก็มีมาให้พร้อม เลยเข้าไปก็จะเป็นส่วนของห้องนอน ห้องนอนจะมีฉากกระจกกั้นแบ่งส่วนกันไว้ชัดเจน ส่วนของโต๊ะเครื่องแป้ง จากเตียงนอน สามารถมองเห็นทีวีได้ จากห้องนอนมองออกไปทางออก ส่วนของระเบียง ก็เป็นที่วางเครื่องซักผ้า ประตูใช้เป็น Digital Door Lock มาถึงห้องขนาด 32.00 ตร.ม. เปิดเข้าไปก็จะเห็นส่วนของโต๊ะทานข้าว และส่วนของครัวจะอยู่ทางซ้าย มาทางซ้ายที่เป็นส่วนครัว ก็จะเป็นทรงตัว L เลยเข้าไปหน่อยก็จะเป็นห้องน้ำ ส่วนครัวก็จะเป็น Built in ที่โครงการให้ ถัดมาเป็นห้องน้ำ ส่วนห้องน้ำก็จะเหมือนกับของห้อง 29.00 ตร.ม. ใช้อุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกัน เรามาดูส่วนของห้องนั่งเล่นบ้าง โซฟาก็จะวางถัดจากโต๊ะทางข้าว พื้นที่สำหรับวางทีวี มุมของเตียงนอน จะมีโต๊ะอยู่ที่หัวเตียงด้วย มุมมองออกไปทางเข้าห้องนอน จะเห็นตู้เสื้อผ้า สวิทส์ไฟใช้ของ Panasonic กล่องไฟวางอยู่มุมบนทางเข้าของห้อง มีกล่องปิดแบบดูดีเลยครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา ซึ่งอยู่บนถนนสายที่มีความสำคัญและมีความคึกคักสูง เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญๆ ได้มากมาย การเดินทางจึงนับว่าสะดวกดีสำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัว และระบบขนส่งมวลชนอย่างรถเมล์ หรือรถแท็กซี่ แต่ถ้าต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก คงจะไม่สะดวกเท่าที่ควร เพราะตัวโครงการตั้งค่อนไปทางฝั่งถนนวิภาวดี ขนาดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ใกล้ที่สุดอย่าง MRT สุทธิสารก็ยังอยู่ห่างออกไปเกิน 1 กิโลเมตร จึงไม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเท่าไหร่สำหรับคนที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า โดยภาพรวมโครงการนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในระแวกนี้อยู่แล้ว และอยากได้ที่อยู่อาศัยใกล้ๆ ที่ทำงาน หรือไม่ติดขัดเรื่องการเดินทางที่ต้องเจอปัญหารถติดบ่อยๆ ครับ เพราะทำเลแถบนี้มีชุมชนอยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น รวมทั้งอาคารสำนักงาน หอพัก อพาร์เม้นท์ ก็มีอยู่มาก ทำให้บรรยากาศพลุกพล่านทั้งกลางวันและกลางคืน เสี่ยงได้ผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงจากการจราจรหน้าโครงการ แต่ในขณะเดียวกันบริเวณรอบๆ ก็มีความอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และแหล่งช็อปปิ้งอีกหลายแห่ง ทำให้ศักยภาพด้านการอยู่อาศัยดูเพียบพร้อมดี ถ้าจะซื้อหาไว้อยู่เองก็ค่อนข้างน่าสนใจ และค่อนข้างมีความพร้อมทั้งสาธารณูปโภคภายในและนอกโครงการ แต่ถ้าต้องการซื้อไว้ลงทุนเพื่อปล่อยเช่า โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าค่อนข้างมาก เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงมีหอพักและอพาร์ทเม้นท์เป็นตัวเปรียบเทียบหลายแหล่ง ทำให้เกิดการแข่งขันเรื่องราคาห้องเช่า และกลุ่มคนเช่าก็อาจจะเลือกห้องที่อยู่ในทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกกว่ามาก