SEAC ศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูง เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ชูวิสัยทัศน์ ศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูงที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดแห่งแรกในอาเซียน งบกว่า 300 ล้านบาท ตั้งเป้าเดินหน้าพัฒนาองค์กรในเมืองไทยและอาเซียนกว่า 500 องค์กร นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและนำพาความเปลี่ยนแปลงมาพัฒนาองค์กรให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้ คือ ผู้นำองค์กรที่มีศักยภาพมีความเท่าทันสถานการณ์ เห็นเทรนด์ทางธุรกิจ และกล้าที่จะเปลี่ยน ทุกวันนี้โลกธุรกิจพัฒนาไป อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ผนวกกับพลวัตทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป ล้วนมีผลกระทบกับธรุกิจในทุกอุตสาหกรรม คู่แข่งในยุคปัจจุบันจึงไม่ได้มาจากผู้ที่อยู่อุตสาหกรรมเดียวกันหรืออยู่ในประเทศเดียวกันอีกต่อไปเท่านั้น แต่คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดอาจมาจากอุตสาหกรรมอื่น หรือจากต่างประเทศ ที่มองเห็นโอกาสและมีศักยภาพในการช่วงชิงความได้เปรียบทางธุรกิจก่อน การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันจึงไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จและอยู่รอดได้อย่างยั่งยืนได้เลย หากยังมุ่งที่จะทำธุรกิจจากฐานลูกค้ากลุ่มเดิม ตลาดเดิม และด้วยวิธีการแบบเดิมๆ ต่อไป “เราวางเป้าหมายไว้ว่าภายในปีนี้ SEAC จะสามารถเดินหน้าพัฒนาองค์กรในเมืองไทยและอาเซียนกว่า 500 องค์กร เราเชื่อมั่นว่าผู้นำและบุคลากรในประเทศไทยและอาเซียนมีความสามารถและศักยภาพที่ซ่อนอยู่ แต่อาจจะยังไม่สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งโปรแกรมต่างๆ ของ SEAC จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผู้นำสามารถดึงศักยภาพในด้านต่างๆ ของตนออกมาบริหารองค์กร และเมื่อองค์กรเกิดความก้าวหน้า เศรษฐกิจจะเกิดการฟื้นตัว ควบคู่ไปกับสังคมและประเทศที่พัฒนา อันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของ SEAC โดยแต่ละโปรแกรมของ SEAC มีส่วนช่วยยกระดับขีดความสามารถ และให้แนวทางการเป็นผู้นำที่มีศักยภาพ กล้าที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตนเองและองค์กรเพื่อที่จะก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งและประสบความสำเร็จท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก” นางอริญญากล่าว นอกจากนี้ อีกหนึ่งรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงใบนี้ คือ ‘นวัตกรรม’ โดยนอกจาก SEAC จะมุ่งมั่นในการเป็นศูนย์พัฒนาภาวะการเป็นผู้นำ เรายังเน้นบ่มเพาะ ‘ผู้นำที่สามารถสร้างนวัตกรรมได้อย่างยั่งยืน’ และ ผู้นำที่สามารถสอนให้บุคลากรในองค์กรเกิดความตื่นตัวในการสร้างนวัตกรรมได้ด้วยตนเองอีกด้วย กลุ่มธุรกิจชั้นนำในเมืองไทยที่ SEAC ได้รับความไว้วางใจในการเข้ามาพัฒนาจนประสบความสำเร็จไปแล้วมากกว่า 200 ราย อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์, บมจ. ธนาคารกสิกรไทย, บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ. ธนาคารกรุงไทย, บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ. เอพี (ไทยแลนด์), บมจ. เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป, บมจ. สมิติเวช, บจ. ฟู้ดแพชชั่น และอื่นๆ “คำตอบของการพัฒนาองค์กรให้ยืนหยัดอย่างสง่างามในโลกของความเปลี่ยนแปลง คือ การทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นกลายเป็นโอกาสและใช้ประโยชน์จากโอกาสนั้นให้คุ้มค่าที่สุด ผู้นำที่พร้อมเปลี่ยนและมีความสามารถในการปรับตัวเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จและเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เป็นที่ทราบกันดีว่าในแวดวงการศึกษา มีทฤษฎีมากมายสอนเรื่องการเป็นผู้นำ แต่การศึกษาเพื่อการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้นำที่เท่าทันโลก คือ สิ่งที่ทำให้องค์กรอยู่รอด และยังไม่มีหนังสือและทฤษฎีเรื่องไหนสอนสิ่งเหล่านี้ได้แม่นยำและครอบคลุมอย่าง SEAC และด้วยศักยภาพและประสบการณ์ที่สั่งสมในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรมนุษย์มาอย่างยาวนานของ SEAC ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า SEAC จะสามารถเป็นหัวเรือใหญ่ที่นำพาองค์กรโลดแล่นอย่างสง่างามและมั่นคงตลอดไป ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ” นางอริญญากล่าวสรุป ทั้งนี้ SEAC ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ บนพื้นที่ใหญ่กว่า 4,550 ตารางเมตร 3 ชั้น ของอาคาร FYI Center (ซึ่งออกแบบมาให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานตามมาตรฐาน LEED หรือ Leadership in Energy and Environmental Design) บนสี่แยกถนนพระราม 4 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก จัดสรรพื้นที่ให้เป็นห้องเรียนรู้อย่างครบวงจร พื้นที่สำหรับทำงานร่วมกันของผู้นำองค์กรต่างๆ และพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมหลากหลายขนาด โดยห้องจัดกิจกรรมที่ใหญ่ที่สุดนั้นสามารถรองรับได้มากถึง 180 คน