Tag : Gadget

10 ผลลัพธ์
SECOM Smart Security ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจรอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น

SECOM Smart Security ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจรอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น

SECOM Smart Security ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจรอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น ที่มากกว่ากล้องวงจรปิดทั่วไป เพื่อการดูแลทุกคนในบ้านให้ปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   SECOM Smart Security คือบริการอะไร? Smart Security Care บริการใหม่เพื่อดูแลผู้สูงวัยในบ้าน อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ควรติดตั้งในบ้าน บริการของ Smart Security care …………………………………………………………………     เมื่อระบบรักษาความปลอดภัยที่มีแค่กล้องวงจรปิด (CCTV) ไม่สามารถทำให้คุณอุ่นใจ ได้อย่างแท้จริง เพราะหลายเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เราไม่สามารถจัดการเหตุได้อย่างทันท่วงที ยิ่งสังคมในปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่ต้องออกไปทำงาน ทำกิจกรรมนอกบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ การมองหาอุปกรณ์และระบบเพื่อรักษาความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินภายในบ้าน จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่หลายคนมองหามาติดในบ้าน   ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “SECOM” ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น มีเครือข่ายทั่วโลกครอบคลุม 17 ประเทศ และดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานถึง 37 ปี และปัจจุบันมีการขยายศูนย์บริการมากกว่า 50 สาขาแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องการันตีความเป็นผู้เชี่ยวชาญและเป็นผู้นำในตลาดระบบรักษาความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี     ด้วย “SECOM Smart Security” เป็นโซลูชันที่ครอบคลุมการดูแลความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มให้คำปรึกษา, บริการออกแบบระบบ, บริการติดตั้งโดยทีมงานมืออาชีพ พร้อมบริการเฝ้าระวังสัญญาณผิดปกติตลอด 24 ชั่วโมง, บริการซ่อมบำรุง, รวมถึงระบบวิเคราะห์ภาพอัจฉริยะ (Video Analytics) และเซ็นเซอร์ตรวจจับความผิดปกติ แจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน และโทรแจ้งเจ้าบ้าน รวมทั้งบริการส่งทีมเข้าพื้นที่กรณีฉุกเฉินตามความจำเป็น ซึ่งนับเป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรอย่างแท้จริง   ความปลอดภัยที่เหนือกว่า ด้วยจุดเด่นของ SECOM SECOM มีประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพด้านความปลอดภัย และเป็นระบบรักษาความปลอดภัยเดียว ที่ป้องกันความเสี่ยงอย่างครบวงจร ตั้งแต่มาตรการป้องกันก่อนเกิดเหตุไปจนถึงหลังเกิดเหตุ เพื่อควบคุมและลดความเสียหายจากเหตุฉุกเฉิน ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่มีจุดเด่น 3 ด้าน ได้แก่ One Intelligent Platform : บริการสุดทันสมัย ให้คุณจัดการควบคุมทั้งเซ็นเซอร์ กล้อง และระบบอัตโนมัติได้อย่างสะดวกสบายใน Application เดียว Monitoring 24/7 : ศูนย์ควบคุมคอยเฝ้าระวังสัญญาณจากเซ็นเซอร์ตลอด 24 ชม. อุ่นใจได้หากตรวจพบเหตุการณ์ผิดปกติ ทางศูนย์จะติดต่อลูกค้า พร้อมมีบริการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานดับเพลิงได้ตามความต้องการ Interactive Solution : แจ้งเตือนจาก Application เมื่อมีผู้มาเยี่ยมบ้าน หรือตรวจพบผู้บุกรุก พร้อมบันทึกภาพจากกล้องบน Cloud และตรวจจับคนและสัตว์ได้อัตโนมัติ   จากระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะครบวงจรที่กล่าวถึงมาข้างต้นนี้แล้ว ล่าสุด SECOM ได้เปิดตัวบริการ “Smart Security Care” ซึ่งถือเป็นการต่อยอดบริการอีกขั้นของระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัยภายในบ้าน     เตรียมป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่า “Smart Security Care” เป็นบริการที่จะมาตอบโจทย์การดูแลผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Caring By Your Side เนื่องจากสังคมประเทศไทยในปัจจุบันก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่เริ่มมีจำนวนผู้สูงวัยต้องใช้ชีวิตในบ้านเองเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สมาชิกของครอบครัวต้องออกไปทำงานนอกบ้าน มีความจำเป็นต้องอยู่อาศัยคนละที่ หรือแม้กระทั่งผู้สูงวัยที่อยู่คนเดียวและอยากดูแลตัวเอง ดังนั้นโซลูชันอัจฉริยะที่ทาง SECOM ออกแบบไว้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพื่อลดความกังวลทั้งในด้านความปลอดภัย และด้านสุขภาพ ให้กับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที ซึ่งบริการและอุปกรณ์ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจะมีอะไรบ้าง เราไปทำความรู้จักกันได้เลย     3 จุดเด่นของ SECOM SMART security care ด้านความปลอดภัย ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงโดยทีมงานมืออาชีพ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ SECOM จะติดต่อผ่านเบอร์ของลูกค้าที่ลงทะเบียนไว้ และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านสุขภาพ โซลูชันติดตามกิจกรรมและพฤติกรรมของผู้สูงวัยผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอดเวลา ด้านการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการแจ้งเตือนสมาชิกในครอบครัวทันทีที่เกิดเหตุ และหากมีเหตุฉุกเฉิน SECOM จะช่วยเรียกรถพยาบาลให้ตามความจำเป็น   จุดเด่นของบริการทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งไว้ในบ้าน เพื่อเฝ้าติดตามกิจกรรมและพฤติกรรมโดยรวมของผู้สูงวัย ทำให้สามารถแจ้งเตือนความผิดปกติผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทันที พร้อมรายงานสรุปข้อมูลช่วยให้วิเคราะห์สุขภาพของผู้สูงวัยได้อีกด้วย     สำหรับอุปกรณ์แต่ละตัวที่จะใช้ทำงานร่วมกันก็ยกตัวอย่างเช่น กล้อง Wi-Fi สำหรับใช้ภายในบ้าน (Indoor Wi-Fi Camera) กล้องวงจรปิดที่สามารถพูดคุย โต้ตอบ กับคนในบ้านได้อย่างเรียลไทม์ ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ ถือแม้จะอยู่กันคนละที่ แต่เราก็สามารถทักทาย พูดคุยกับคนที่บ้านได้ตลอดเวลาที่ต้องการ   ปุ่มฉุกเฉินทางการแพทย์ (Medical Button) อุปกรณ์สำหรับขอความช่วยเหลือ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นปุ่มสีแดงที่ติดตั้งในจุดเสี่ยงสำคัญ เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน เพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้สมาชิกในบ้านรับรู้ และส่งไปที่ศูนย์ควบคุมของ SECOM เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์และให้ความช่วยเหลือได้ทันที     เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Sensor) หรือเซ็นเซอร์เฝ้าระวังการเปิด-ปิดประตู (Door Contact) อุปกรณ์ตัวนี้จะช่วยติดตามการเคลื่อนไหวตามการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างเวลาตื่นนอน หรือเวลาที่ใช้ทำกิจกรรมตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน ซึ่งข้อมูลนี้จะนำไปวิเคราะห์ว่ามีความผิดปกติในชีวิตประจำวัน หรือใช้วิเคราะห์ปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน   ตัวอย่างเหตุการณ์ : หากไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่ผู้สูงวัยต้องตื่นนอนตามเวลา อาจจะสันนิษฐานได้ว่ามีความผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น เจ็บป่วย ไม่สบายหรือไม่ หรือเกิดอุบัติเหตุที่ส่วนใดของบ้าน ซึ่งเราก็จะสามารถตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชันในมือถือได้ทันที ด้วยการเปิดดูกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ ของบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถนำเซ็นเซอร์ไปติดตั้งไว้ในกล่องยา เพื่อแจ้งเตือนให้ทานยาให้ตรงเวลาได้ด้วย   เซ็นเซอร์ตรวจจับควัน (Smoke Detector) และเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่ว (Water Leakage Sensor) เนื่องจากผู้สูงวัยอาจจะมีการหลงลืม เปิดแก๊สทำอาหาร หรือเปิดน้ำทิ้งไว้ การตรวจจับเหล่านี้ ก็จะช่วยแจ้งเตือน และป้องกันความเสียหายจากเหตุไม่คาดคิดได้ทันนั่นเอง   SECOM Smart Security Care ถือเป็นตัวช่วยที่ถูกออกแบบมาเพื่อชีวิตคนยุคใหม่อย่างแท้จริง เพราะด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ลูกหลานอาจจะไม่สามารถอยู่บ้านดูแลผู้สูงวัยได้ตลอดเวลา ด้วยบริการที่มีให้เลือกหลายหลายรูปแบบตามความต้องการ จึงช่วยลดความกังวลใจในเรื่องต่าง ๆ ในบ้านไปได้มากเลยทีเดียว ขณะเดียวกันผู้สูงวัยก็อุ่นใจ ไม่รู้สึกเป็นภาระให้กับลูกหลาน เมื่อลูกหลานต้องออกไปทำงานข้างนอก     ซึ่งเราได้มีโอกาสได้ฟังประสบการณ์การใช้งานจริงจาก Real User คุณบอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และคุณแม่ เล่าถึงเวลาต้องออกไปทำงาน หรือเดินทางไปต่างประเทศนาน ๆ แล้วคุณแม่ต้องอยู่ที่บ้านคนเดียว Smart Security Care สามารถช่วยเตือนให้คุณแม่ทานยาได้ตามเวลา รวมถึงคุณบอยสามารถเปิดกล้อง พูดคุยกับคุณแม่ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตาม ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องเล่าจากเหตุการณ์สัญญาณของปุ่มฉุกเฉินทางการแพทย์แจ้งเตือนไปยังศูนย์ควบคุม แล้วเจ้าหน้าที่ต่อสายตรงถึงคุณบอยอย่างรวดเร็ว เพื่อขออนุญาตเข้าดูภาพในระบบว่าเกิดเหตุอะไรภายในบ้าน ก่อนที่จะทราบเรื่องภายหลังว่า คุณแม่พลาดกดถูกปุ่มฉุกเฉินโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทำให้ได้รู้เพิ่มเติมว่า “ความเป็นส่วนตัว” เป็นอีกเรื่องที่ทาง SECOM ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ถึงแม้ศูนย์ควบคุมจะสามารถเข้าดูภาพและข้อมูลได้ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด แต่ก็ต้องผ่านการได้รับความยินยอมจากเจ้าของบ้านก่อนทุกครั้ง ด้วยระบบป้องกันความเป็นส่วนตัวที่แน่นหนา ทำให้ SECOM และคนนอกไม่สามารถเข้าดูภาพและข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน   ดูวิดีโอตัวอย่างการใช้งาน Smart Security Care ได้ที่ bit.ly/3UrtxVN     หลังจากได้รับฟังข้อมูลของ SECOM Smart Security Care พร้อมประสบการณ์ใช้งานจริงแล้ว เราเชื่อว่าการลงทุนติดตั้งบริการเพื่อความปลอดภัยของคนที่เรารักนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก ด้วยค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นเพียง 1,099 บาท เพื่อแลกกับความอุ่นใจ และทุกคนในครอบครัวสามารถออกไปทำงาน ไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ถือว่าไม่แพงเลย     ใครที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line : @secomthailand โทร. 02-026-6593 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3VTzdt0   บทความอื่นที่น่าสนใจ 5 จุดเหมาะติดกล้องวงจรปิด ไขความลับ “คนสูงวัย” เลือกซื้อบ้านยังไง ตอบโจทย์ชีวิตเกษียณ 7 วิธีปรับปรุงบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ด้วยตัวเอง    
[PR News] อีซี่วิซ  เปิดตัว กล้องวงจรปิด ซีรีย์ใหม่​ “H8 Pro” ความคมชัดระดับ

[PR News] อีซี่วิซ เปิดตัว กล้องวงจรปิด ซีรีย์ใหม่​ “H8 Pro” ความคมชัดระดับ

EZVIZ (อีซี่วิซ) เตรียมอวดโฉม กล้องวงจรปิด สำหรับการติดตั้งภายนอกอาคารซีรีย์ใหม่ “H8 Pro” กล้องสมาร์ท Wi-Fi แบบแพนและเอียง หมุนได้ 360 องศา     EZVIZ H8 Pro Series นวัตกรรมกล้องวงจรปิดอัจฉริยะสำหรับการติดตั้งภายนอกอาคาร เชื่อมต่อสัญญาณผ่านระบบ Wi-Fi ที่มีนวัตกรรมโดดเด่น 4 ด้าน ได้แก่   นวัตกรรมที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติที่โดดเด่นน่าจับตา ทั้งการตรวจจับด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูง แยกแยะการเคลื่อนไหวของมนุษย์หรือรถยนต์ได้อย่างชาญฉลาด พร้อมล็อกและติดตามเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และยังเพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็นที่ครอบคลุมทุกมิติมากขึ้น แสดงภาพสีคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมสลับโหมดการแสดงภาพอัตโนมัติกับฟีเจอร์ Smart Night Vision (มีไฟ IR 2 ดวง) ช่วยให้คุณตรวจจับทุกเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและไกลถึง 30 เมตร (98 ฟุต) มาพร้อมระบบเตือนภัยเชิงรุก แจ้งเตือนผู้บุกรุกด้วยไฟกระพริบและไซเรนดังอัตโนมัติ พร้อมส่งข้อความแจ้งเตือนให้คุณรับรู้ในทันที ให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวและป้องกันภัยได้อย่างทันท่วงที   เสริมวิสัยทัศน์การมองเห็นครอบคลุมทุกมิติด้วยเลนส์ประสิทธิภาพสูงแบบเรียลไทม์ ช่วยทลายทุกกรอบการมองเห็นเพื่อการปกป้องที่กว้างมากขึ้น ด้วยการออกแบบให้กล้องปรับหมุนได้ทั้งแนวตั้ง 340° และแนวนอน 80° (Pan and tilt camera) ครอบคลุมมุมมองพาโนรามา 360° ผ่านเลนส์อัจฉริยะที่ให้ภาพคมชัดสูงสุด กับ 2 โมเดลที่แตกต่างให้เลือก คือ วิดีโอความละเอียดระดับ 2K (3 ล้านพิกเซล) และระดับ 3K (5 ล้านพิกเซล) ที่คมชัดทุกรายละเอียด ผสานการทำงานกับเซ็นเซอร์ DWDR (Digital Wide Dynamic Range) ที่ช่วยปรับสมดุลความสว่างในภาพย้อนแสงอัตโนมัติ ช่วยให้การบันทึกภาพมีความคมชัดสมจริงแม้อยู่ในที่แสงน้อยที่สุด   นวัตกรรมที่สนับสนุนการควบคุมและสั่งงานจากระยะไกล ผ่าน EZVIZ App ซึ่ง อีซี่วิซ ไม่เคยหยุดยั้งการพัฒนาระบบให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถเฝ้าติดตามดูแลและควบคุมการสั่งงานได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายและรวดเร็ว มีฟังก์ชั่น “การสื่อสารสองทาง” พร้อมเสริมประสิทธิภาพเสียงให้คมชัดมากยิ่งขึ้นด้วยไมโครโฟนแบบตัดเสียงรบกวนและลำโพงในตัว  สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารกับคนในครอบครัวได้จากทุกที่ทุกเวลา และยังมาพร้อมฟีเจอร์เด็ดที่ผู้บริโภคกำลังมองหามากที่สุด กำหนดตำแหน่งเริ่มต้น (Home) ให้กล้องปรับหมุนไปยังจุดที่บันทึกไว้ล่วงหน้าได้มากถึง 12 ตำแหน่งแบบอัตโนมัติ ช่วยลดความยุ่งยากกับการใช้งาน ไม่ต้องคอยกดหมุนกล้องทุกครั้งที่ต้องการเฝ้าดูเหตุการณ์ต่างๆ ในบริเวณโดยรอบ และฟีเจอร์พิเศษที่มีเฉพาะในกล้องรุ่น H8 Pro 3K ให้คุณสามารถสร้างคำสั่งให้กล้องจดจำท่าทาง “การโบกมือ” เพื่อให้คุณ VDO Call หากันได้ง่ายๆ อีกด้วย   ระบบการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในระดับสูงสุด ด้วยการเข้ารหัสลับแบบ AES 128 บิต และการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน บน EZVIZ Cloud ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกสำหรับการจัดเก็บวิดีโอที่ปลอดภัย เพื่อให้ทุกข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานได้รับการรักษาความปลอดภัยสูงสุด และอีกหนึ่งความพิเศษ กล้อง H8 Pro ได้เพิ่มความจุเมมโมรี่ได้สูงถึง 512 GB เสริมด้วยเทคโนโลยีการบีบอัดวิดีโอรูปแบบใหม่ H.265 ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการบีบอัดข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้พื้นที่ความจุน้อยลง เพื่อให้การบันทึกมีความต่อเนื่อง พร้อมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเฝ้าดูแลบ้านคุณให้ปลอดภัยตลอด 24 ชม.   EZVIZ H8 Pro มาอวดโฉมด้วยดีไซน์ที่ดูทันสมัยและมีความมินิมัลมากขึ้น ตัวเครื่องออกแบบให้มีสีขาวสะท้อนความเรียบง่ายที่เข้าได้กับการตกแต่งทุกสไตล์ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุที่ได้มาตรฐาน กันน้ำ กันฝุ่น ทนต่อทุกสภาพอากาศในเมืองไทย โดยสามารถหาซื้อ EZVIZ “H8 Pro” กล้องสมาร์ท Wi-Fi Outdoor Camera ได้แล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
อีซี่วิซ รับเทรนด์ชีวิตยุคดิจิทัล ลุยตลาดสินค้าโซลูชั่น สมาร์ทโฮม

อีซี่วิซ รับเทรนด์ชีวิตยุคดิจิทัล ลุยตลาดสินค้าโซลูชั่น สมาร์ทโฮม

อีซี่วิซ อีซี่วิซ เปิดตัวสินค้าโซลูชั่น “บ้านอัจฉริยะ” รับไลฟ์สไตล์ชีวิตยุคดิจิทัล ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ กลุ่มอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและเซ็นเซอร์ภายในบ้าน และกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ   นายวิคเตอร์ จาง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย EZVIZ (อีซี่วิซ)  แบรนด์นวัตกรรมเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมโซลูชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันแนวคิดบ้านแบบ Smart Home ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจากวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนไป ดังนั้นบ้านจึงต้องปรับตามวิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไปด้วย  โดยอีซี่วิซผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นด้านความปลอดภัยภายในบ้าน  ได้จับกระแสสมาร์ทโฮมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่บ้านมากขึ้น   โดยได้มีการเปิดตัวสินค้าเพื่อพร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ของการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล เปลี่ยนบ้านธรรมดา ให้เป็น “บ้านอัจฉริยะ” ผ่านอุปกรณ์นวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นที่ครบครัน มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย สามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้ตามไลฟ์สไตล์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ยกระดับความปลอดภัย ดูแลความเรียบร้อยในบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง   สำหรับสินค้าภายใต้แบรนด์อีซีวิซ มีไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย​ ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มและยกระดับบ้านให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้านในด้านต่าง ๆ ดังนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ที่ใช้เทคโนโลยี AI  อาทิ กล้องสมาร์ท Wi-Fi “C8W Pro” สำหรับการดูแลความปลอดภัยภายนอกบ้าน ด้วยภาพคมชัดระดับ 3K ความละเอียดกว่า 5 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์การตรวจจับบุคคลและรถยนต์  กล้องสมาร์ทโฮมในบ้าน รุ่น “C6” กล้องที่สามารถตรวจจับเสียง จดจำ และแยกแยะการตรวจจับความเคลื่อนไหวของมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง  กล้องเบบี้แคร์อัจฉริยะ “Baby Monitor 1” (BM1)  สำหรับเฝ้าดูแลลูกน้อยผ่านจอภาพได้ตลอดเวลา มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ขับเคลื่อนด้วย AI อัจฉริยะ ตัวกล้องมีแบตเตอรี่ในตัว ที่สามารถชาร์จจากแผงโซลาร์เซลล์ได้ และยังมีให้เลือกอีกหลากหลายรุ่นตามการใช้งาน ในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพและการใช้งานที่คุ้มค่า กลุ่มอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและเซ็นเซอร์ภายในบ้าน  อุปกรณ์ประตูล็อกอัจฉริยะ (Smart Door Lock) ที่รองรับการปลดล็อกได้ทั้งลายนิ้วมือ รหัส คีย์การ์ด กุญแจ และแอปพลิเคชัน กริ่งประตูที่มาพร้อมกล้องวิดีโออัจฉริยะ ที่พร้อมจะแจ้งเตือนให้คุณรับรู้ได้ทันทีเมื่อมีคนยืนอยู่หน้าประตู ชุดอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ (Home Sensor Kit) เกตเวย์เชื่อมต่อไร้สายในบ้าน เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์ตรวจจับการเปิด-ปิดประตูหรือหน้าต่าง และเซ็นเซอร์อัจฉริยะสำหรับดูแลผู้สูงอายุ ที่พร้อมทำหน้าที่เป็นปุ่มกดฉุกเฉินอัจฉริยะ ขอความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน กลุ่มสินค้าสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ อุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ฉลาดขึ้นด้วยปลั๊กอัจฉริยะ (Smart Plug) ที่ควบคุมการปิด-เปิด หรือตั้งเวลาการใช้งาน ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแบบ 2in1 เป็นทั้งกล้องวงจรปิดและไฟติดผนังในตัว และผลิตภัณฑ์เครื่องฟองอากาศ เพื่อให้คุณและครอบครัวได้สูดอากาศบริสุทธิ์ภายใน สำหรับอุปกรณ์ของอีซีวิซ มีการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติและเรียลไทม์ ช่วยให้การปกป้องดูแลบ้านให้ปลอดภัย  มีการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมโยงการสั่งงานผ่าน EZVIZ App ที่แอปเดียวสามารถควบคุมทุกอุปกรณ์ในบ้านได้จากทุกที่ทุกเวลาเพียงปลายนิ้วสัมผัสบนสมาร์ทโฟน   นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ด้วยระบบการรักษาความปลอดภัยแบบ 4 ชั้น ผ่านระบบการเข้ารหัสลับแบบ AES 128 บิต และการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของอีซี่วิซ บน EZVIZ CloudPlay สำหรับการบันทึกวิดีโออัตโนมัติและจัดเก็บอย่างปลอดภัย   อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง -[PR News] “EZVIZ” รุ่น C6W คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นอัจฉริยะภายในบ้านแห่งปี จาก “IoT Innovator Award 2021”
4 เทคนิค ทำความสะอาดตู้เย็น ช่วยลดค่าไฟสร้างสุขอนามัยในหน้าร้อน

4 เทคนิค ทำความสะอาดตู้เย็น ช่วยลดค่าไฟสร้างสุขอนามัยในหน้าร้อน

ทำความสะอาดตู้เย็น หลายคนคงได้ยินข่าว กกพ. (เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)  ที่เตรียมปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที ในรอบเดือนเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2565 นี้  โดยให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 5.82% จากงวดปัจจุบัน ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างนี้ สิ่งที่เราทำได้ ก็คงเป็นการประหยัดการใช้ไฟ้ หรือหากประหยัดไฟไม่ได้ ก็คงต้องใช้ไฟให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เราได้จ่ายออกไป แต่สิ่งสำคัญเราคงดูกันว่า ทุกวันนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไร ที่กินไฟ้มาก หรือเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราเสียค่าไฟแพง ๆ โดยไม่เกิดประโยชน์   ตอนนี้อากาศบ้านเราก็ยังถือว่าร้อนเอาเรื่องอยู่ และหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกใช้กันมาก ก็คือ ตู้เย็น โดยเฉพาะในช่วงที่หลายคนต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เพราะคงต้องเปิดเข้าเปิดออกหาของกินตลอดวัน ซึ่งใครหลายคนอาจจะมองข้ามและละเลยการทำความสะอาดตู้เย็น เพราะสาเหตุสำคัญของการสิ้นเปลืองไฟฟ้าของตู้เย็น ก็คือปริมาณของที่ถูกแช่ไว้จำนวนมาก รวมถึงการไม่ได้ทำความสะอาด ให้ตู้เย็นได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง   วันนี้เราจะมาบอกเทคนิค การทำความสะอาดตู้เย็นในทุกซอกทุกมุม ซึ่งจะช่วยในเรื่องการทำงาของตู้เย็นให้มีประสิทธิภาพ และลดต้นเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงาน ที่สำคัญจะทำให้อาหารที่แช่อยู่ในตู้เย็น คงความสด สะอาด ซึ่งดีต่อร่างกายและสุขภาพของคนกินด้วย กับ 4 เทคนิคทำความสะอาดตู้เย็น ช่วยลดค่าไฟสร้างสุขอนามัยในหน้าร้อน 1.ทำความสะอาดพื้นที่ภายในทุกซอกมุม การทำความสะอาดตู้เย็น ก่อนอื่นเลยควรถอดสายไฟออกก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นให้นำอาหารที่แช่ไว้ทั้งหมดออกมา ถอดชั้นวาง ลิ้นชัก ตู้แช่ผัก และส่วนอื่นๆ ที่สามารถถอดออกได้ เพื่อนำมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน ตามด้วยการล้างน้ำเปล่า และนำไปตากหรือเช็ดให้แห้งก่อนนำกลับมาใส่ในตู้เย็นอีกครั้ง   สำหรับพื้นผิวภายในตู้เย็น สามารถใช้ฟองน้ำชุบเบกกิ้งโซดาที่นำไปละลายกับน้ำเปล่าเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว รวมถึงบริเวณขอบยางตู้เย็น หากพบจุดที่มีคราบสกปรกหรือเชื้อราฝังแน่น สามารถนำสำลีชุบน้ำส้มสายชู แล้วมาทาบริเวณดังกล่าวเพื่อขจัดคราบเชื้อราให้หมดไป   นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดที่หลายคนอาจมองข้ามไปในขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นคือท่อจ่ายน้ำ (water dispenser) ในที่กดน้ำของตู้เย็น ซึ่งอาจเกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกเมื่อไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ 2.ขจัดกลิ่นอับภายในตู้เย็น การทำความสะอาดตู้เย็น อีกเรื่องที่ต้องทำตาม คือ หลังจากขจัดคราบและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ภายในตู้เย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ควรจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นลำดับต่อไป ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่มาจากอาหารที่แช่ค้างไว้เป็นเวลานานจนบูด กลิ่นคาวของอาหารสดหรืออาหารที่มีกลิ่นแรง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลิ่นอับภายในตู้เย็นที่เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย   โดยนอกจากการขจัดกลิ่นด้วยเบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชูแล้ว ยังมีวิธีธรรมชาติอื่นๆ เช่น การใช้ถ่าน กากใบชา เมล็ดกาแฟ หรือหนังสือพิมพ์ ไปแช่ไว้ในตู้เย็น เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีคุณสมบัติในการดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ การเลือกใช้ตู้เย็นที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในตู้เย็น ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกได้ในระยะยาว ​ 3.ทำความสะอาดตู้เย็น ด้านนอก เมื่อทำความสะอาดพื้นที่ภายในตู้เย็นอย่างหมดจดแล้ว การทำความสะอาดตู้เย็น ก็ไม่ควรมองข้ามการทำความสะอาดพื้นที่ภายนอกของตู้เย็น โดยเฉพาะที่จับประตูตู้เย็นซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ถูกสัมผัสบ่อยที่สุด และยังถูกใช้งานบ่อยขึ้นในยุคที่คนนิยมทำอาหารทานเองหรือสั่งอาหารมาทานที่บ้านมากขึ้น สำหรับใครที่ใช้ผ้าหุ้มที่จับตู้เย็น ควรถอดและนำไปซักทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง   สำหรับการทำความสะอาดภายนอกตู้เย็น รวมถึงที่จับประตู สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาละลายน้ำหรือน้ำส้มสายชู เช่นเดียวกับการทำความสะอาดภายในตู้เย็น หรือใช้สเปรย์แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคอย่างเป็นประจำ 4.จัดระเบียบ-ตรวจเช็คอาหารที่แช่ในตู้เย็น การทำความสะอาดตู้เย็น อีกอย่างที่ไม่ควรละเลย คือ การรักษาความสะอาดและจัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบอยู่เสมอจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำความสะอาดครั้งต่อไป เทคนิคง่ายๆ คือการหมั่นเช็ดชั้นวางภายในตู้เย็น เพื่อลดโอกาสในการก่อตัวของคราบสกปรกและเชื้อแบคทีเรียฝังแน่น รวมถึงการตรวจเช็ควันหมดอายุของอาหารที่แช่อยู่ในตู้เย็นบ่อยๆ เพื่อป้องกันอาหารบูดเสียค้างอยู่ในตู้เย็น   เทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นวิธีการทำความสะอาดตู้เย็น ที่ไม่ได้ยุ่งยาก หรือซับซ้อนอะไร ทำได้ง่าย ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ตู้เย็นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และไม่สิ้นเปลืองไฟฟ้า เชื่อว่าหากใครเอาไปใช้ ก็น่าจะช่วยทำให้ตู้เย็นไม่กินไฟโดยไม่จำเป็น และที่สำคัญจะได้ตู้เย็นที่สะอาด อาหารที่แช่ก็จะมีความสดสะอาด ให้เราไว้ได้กินอย่างมีสุขภาพดีด้วย     CR:แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ในประเทศไทย   บทความที่เกี่ยวข้อง -รวมวิธีประหยัดไฟ รับมือค่าไฟฟ้าขึ้นราคา 4 บาท กับสารพัดวิธีเซฟเงินในกระเป๋า  
[PR News] “EZVIZ” รุ่น C6W คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นอัจฉริยะภายในบ้านแห่งปี จาก  “IoT Innovator Award 2021”

[PR News] “EZVIZ” รุ่น C6W คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นอัจฉริยะภายในบ้านแห่งปี จาก “IoT Innovator Award 2021”

ผลิตภัณฑ์กล้องสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ อีซี่วิซ  รุ่น “C6W” สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ และเป็นผู้ชนะประเภท Home Automation เพียงผู้เดียว จากเวทีการประกวด “IoT Innovator Award 2021” ที่จัดขึ้นโดย Compass Intelligence บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยด้านการตลาด IoT จากสหรัฐฯ เพื่อยกย่องให้กล้องวงจรปิดภายในบ้าน EZVIZ C6W เป็นสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นอัจฉริยะภายในบ้านที่ดีที่สุด   จากความโดดเด่นด้านการผสานมิติแห่งการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีสไตล์ เข้ากับเทคโนโลยีกล้องวงจรปิดแบบฟลูฟังก์ชั่น (Full Fuction) ขับเคลื่อนด้วยระบบเอไอเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพิ่มความสามารถซูมอัตโนมัติสูงสุด 4 เท่าเมื่อตรวจพบความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ พร้อมคุณภาพวีดิโอ 2K (4 ล้านพิกเซล) ที่คมชัดทุกรายละเอียด ปรับหมุนได้ทั้งแนวตั้ง 340° และแนวนอน 75° (Pan and tilt camera) ไร้สายติดตั้งง่าย ควบคุมและสั่งผ่านได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่าน EZVIZ App และฟังก์ชั่น “การสื่อสารสองทาง” ที่ติดตั้งไมโครโฟนและลำโพงมาในตัว และสามารถจัดการกล้องผ่านสมาร์ทโฟน ​    
คลิปรีวิว Dyson V12 Detect Slim แกะกล่องเทคโนโลยีตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์รุ่นแรก!!

คลิปรีวิว Dyson V12 Detect Slim แกะกล่องเทคโนโลยีตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์รุ่นแรก!!

Dyson V12 Detect Slim Dyson V12 Detect Slim เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นแรก ที่ใช้เทคโนโลยีการตรวจจับด้วยเลเซอร์ เผยให้เห็นฝุ่นที่ซ่อนอยู่ตามบ้านของคุณ!! เครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดกะทัดรัดที่ทรงพลังที่สุดของ Dyson สามารถตรวจจับ ดูดฝุ่น ปรับโหมดได้อัตโนมัติ และยังสามารถนับจำนวนฝุ่นด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก   การตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์ เผยให้เห็นอนุภาคฝุ่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เลเซอร์สีเขียวจะติดตั้งอยู่ในหัวดูดทำความสะอาด Fluffy ช่วยตรวจจับฝุ่นได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยี Acoustic Dust Sensing จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณได้ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก หน้าจอ LCD จะแสดงขนาดและจำนวนของอนุภาคให้ผู้ใช้ได้เห็น ซึ่งเป็นการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ของการทำความสะอาดแบบเรียลไทม์โดยการนับและวัดอนุภาคของฝุ่นด้วยกล้องจุลทรรศน์ นอกจากนี้ piezo เซ็นเซอร์จะช่วยปรับพลังดูดและเปลี่ยนโหมดตามประเภทของพื้นต่าง ๆ และปริมาณฝุ่นได้โดยอัตโนมัติ หัวแปรงทำความสะอาด anti-tangle hair screw แบบใหม่ สามารถดูดเส้นผมที่หลุดร่วงตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แถบแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกันของเส้นผมจะดูดเส้นผมเข้าไปในถังฝุ่นได้ง่ายดายและน่าทึ่ง เป็นการทำความสะอาดด้วยมอเตอร์สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก     การสร้างบ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีและถูกสุขลักษณะสามารถทำได้ง่ายขึ้น วันนี้ Dyson ได้เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ Dyson V12 Detect Slim ออกแบบมาเพื่อตรวจจับฝุ่นที่ซ่อนอยู่ตามบ้านและมีขนาดเล็กเท่า 10 ไมครอน ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์ Piezo จึงทำให้เครื่องสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ถูกดูดเข้าไป   เครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดนี้พัฒนาโดยทีมนักวิศวกรกว่า 370 คนทั่วโลก โดยขับเคลื่อนด้วยพลังของมอเตอร์ Dyson Hyperdymium ที่สามารถสร้างกำลังดูดอากาศได้สูงถึง 150 วัตต์ นอกจากนี้ ระบบการกรอง 5 ขั้นตอนจะช่วยดักจับอนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.99% เพื่อการทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก Dyson V12 Detect Slim จึงเป็นตัวช่วยในการสร้างบ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีและถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาปัจจุบันนี้ ผู้คนกว่า 60% หันมาทำความสะอาดบ้านบ่อยมากกว่าที่เคย     “ในฐานะนักวิศวกร งานของเราคือการหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่เราพบเจอ และตลอด 12 เดือนที่ผ่านมานี้ เราได้พบกับปัญหาใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายเนื่องจากเราได้ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น” James Dyson หัวหน้าวิศวกรและผู้ก่อตั้งกล่าว “เราหลายคนได้หันมาใส่ใจในการทำความสะอาดมากขึ้น พยายามกำจัดฝุ่นและทำให้บ้านสะอาด แต่เราก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบ้านของเราสะอาดอย่างแท้จริง   เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ถูกพัฒนามาใช้กับเครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดของเราจะช่วยเผยให้เห็นถึงฝุ่นที่ซ่อนอยู่ตามบ้านโดยการติดตั้ง diode เลเซอร์เข้ากับหัวทำความสะอาดในตำแหน่งที่แม่นยำในมุม 1.5 องศา ห่างจากพื้น 7.3 มม. เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกระหว่างฝุ่นตามพื้นและพื้นบ้าน นอกจากนี้ เครื่องยังสามารถคัดแยกขนาดและนับจำนวนอนุภาคอย่างพิถีพิถันถึง 15,000 ครั้งต่อวินาทีโดยใช้ acoustic piezo เซ็นเซอร์ซึ่งแปลงการสั่นให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า และแสดงขนาดและจำนวนของอนุภาคที่ถูกดูดเข้าไปบนหน้าจอ LCD ได้อย่างแม่นยำ   Dyson V12 Detect จึงเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ทรงพลังและชาญฉลาดด้วยการแสดงให้เห็นถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากการทำความสะอาดบ้านของคุณ”   การตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์ Dyson ได้ออกแบบเทคโนโลยีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่นเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เลเซอร์ Dust Detection เผยให้เห็นอนุภาคขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เลเซอร์ที่ทำมุมได้อย่างแม่นยำถูกติดตั้งอยู่ในส่วนหัวแปรงทำความสะอาด     แนวคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อนักวิศวกรของ Dyson ได้สังเกตเห็นอนุภาคฝุ่นในอากาศภายในบ้านเมื่อมีแสงแดดเปล่งประกาย พวกเขาเริ่มคิดค้นว่าจะนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับฝุ่นผงที่เรามองไม่เห็นในบ้านได้อย่างไร ทีมงานจึงได้ทดลองกับแสงเลเซอร์ในห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบว่าวิธีนี้จะสามารถทำได้หรือไม่ จึงทำให้เกิดโซลูชันใหม่ขึ้น   นักวิศวกรของ Dyson ได้พัฒนา diode เลเซอร์สีเขียวซึ่งมีความสามารถในการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างได้ที่ดีที่สุด และติดตั้งเข้ากับหัวแปรงทำความสะอาด Slim Fluffy โดยจัดตำแหน่งได้อย่างแม่นยำที่มุม 1.5 องศา ห่างจากพื้น 7.3 มม. ทำให้สามารถดักจับฝุ่นที่ซ่อนอยู่บนพื้นผิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและดูดฝุ่นให้หมดออกได้   เซ็นเซอร์ Piezo นักวิศวกรของ Dyson เข้าใจดีว่าในปัจจุบันนี้ผู้คนต้องการมีบ้านที่ถูกสุขลักษณะมากขึ้น Dyson จึงพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้ใช้ตรวจวัดฝุ่นที่ตรวจพบเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสะอาดเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์แบบเรียลไทม์   Acoustic Piezo เซ็นเซอร์ถูกติดตั้งในหัวแปรงทำความสะอาด ตัวเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ในหัวแปรงจะดูดอนุภาคขนาดเล็กเข้าไป และคำนวณจำนวนอนุภาคได้สูงถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที นอกจากนี้ เมื่อฝุ่นถูกดูดเข้าไปและผ่านตัว Piezo เซ็นเซอร์สู่ถังฝุ่น ตัวเครื่องจะสามารถแสดงขนาดและปริมาณฝุ่นบนจอ LCD ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถเห็นได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นได้ดูดฝุ่นไปแล้วมากน้อยเพียงใด ตลอดจนขนาดของอนุภาคต่าง ๆ ที่ดูดได้     นอกจากนี้ เครื่องดูดฝุ่นยังได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับเปลี่ยนโหมดพลังดูดได้โดยอัตโนมัติเมื่อเครื่องตรวจพบฝุ่นจำนวนมากขึ้นในขณะที่กำลังใช้งานในโหมดอัตโนมัติ และจะปรับสู่โหมดพลังดูดแบบปกติเมื่อตรวจพบฝุ่นที่มีปริมาณน้อยลง   เทคโนโลยี Anti-Tangle หัวแปรงทำความสะอาด anti-tangle Hair screw ใหม่ได้ถูกพัฒนาแถบแปรงเป็นทรงกรวย ป้องกันการพันกันของเส้นผมกับตามแถบหัวแปรงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งหัวแปรงนี้จะดูดเส้นผมของมนุษย์และขนสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้อย่างง่ายดายและน่าทึ่ง ลดปัญหาเส้นผมพันติดแกนหัวดูด และลดปัญหาการทำความสะอาดหัวแปรงได้อีกด้วย   ระบบการกรอง เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim มาพร้อมกับเทคโนโลยีการกรองขั้นสูงของ Dyson 5 ขั้นตอน ซึ่งดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ 99.99% และปล่อยอากาศที่ผ่านการกรองให้สะอาดขึ้นออกมาเท่านั้น เทคโนโลยีไซโคลนของ Dyson มีประสิทธิภาพในการแยกฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากพื้น และปิดผนึกไม่ให้ฝุ่นรั่วไหลกลับออกมาในบ้านของคุณ   การวางจำหน่าย เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ในราคา 21,900 บาท สำหรับรุ่น Fluffy และราคา 25,900 บาท สำหรับรุ่น Total Clean หากสนใจซื้อสามารถเข้าไปได้ที่ Dyson.co.th หรือร้าน Dyson Demo สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว สยามพารากอน และไอคอนสยาม     บทความที่เกี่ยวข้อง รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ ไรฝุ่น ผู้ร้ายบนที่นอน (Dyson V8 Carbon Fibre)    
KEF เผยโฉม LS50 Meta และ LS50 Wireless II ลำโพงสองรุ่นแรกที่พ่วงเทคโนโลยีดูดซับเสียงสะท้อนแบบใหม่ล่าสุด

KEF เผยโฉม LS50 Meta และ LS50 Wireless II ลำโพงสองรุ่นแรกที่พ่วงเทคโนโลยีดูดซับเสียงสะท้อนแบบใหม่ล่าสุด

KEF เผยโฉม LS50 Meta และ LS50 Wireless II คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด KEF (เคฟ) เผยโฉมคอลเลคชั่น LS50 ใหม่ล่าสุด นำเสนอลำโพงสองรุ่น ได้แก่ LS50 Meta’ และ ‘LS50 Wireless II’ ที่ต่อยอดมาจากนวัตกรรมอันยอดเยี่ยมของ LS50 รุ่นก่อนหน้าในตำนาน แม้ว่าเคฟได้สร้างมาตรฐานเครื่องเล่นเสียงไว้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด แต่จากการค้นคว้าอย่างเข้มข้นกว่าสามปีทำให้คอลเลคชั่น LS50 ตัวใหม่ล่าสุดนี้ยกระดับมาตรฐานเครื่องเล่นเสียงของเคฟ ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น โดยทั้ง LS50 Meta’ และ ‘LS50 Wireless II’ พร้อมมอบพลังเสียงคมชัดและใสเป็นธรรมชาติ ที่ทุกคนต้อง ‘Listen and Believe’ หรือลองฟังและพิสูจน์ด้วยตัวเอง   กว่าศตวรรษที่เคฟเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเสียงที่เป็นธรรมชาติและสมจริง จนทำให้ผู้ฟังสามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนกำลังนั่งฟังดนตรีสดจากศิลปินคนโปรด หรือฟังเรื่องราวที่มีผู้บรรยายกำลังนั่งเล่าอยู่ข้างๆ หรือกระทั่งรู้สึกว่ากำลังอยู่ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันกีฬาอันดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ที่คุณชื่นชอบบนโซฟา การนั่งทำงานภายในสตูดิโอในบ้าน หรือการฟังเพลงเสริมบรรยากาศ เคฟให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่เหนือชั้นเสมอ   MAT เทคโนโลยีการดูดซับเสียงแบบใหม่ ครั้งนี้เคฟสานต่อความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมที่ไร้ขีดจำกัด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหนือความคาดหมาย จนกลายมาเป็นคอลเลคชั่น LS50 ใหม่ที่สามารถนำเสนอเสียงอันบริสุทธิ์แบบที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ เป็นเสียงดุจธรรมชาติสร้างที่ผู้ฟังสามารถดื่มด่ำอรรถรสได้เต็มพิกัดในทุกทัศนียภาพของเสียง ให้คุณสัมผัสได้ถึง ‘Every note, Every word, Every detail’ แบบเต็มอิ่มครบรส ถือเป็นลำโพงแรกของโลกที่ปฎิวัติวงการโดยมีการนำเทคโนโลยีดูดซับเสียงสะท้อน Metamaterial Absorption Technology (MAT) มาใช้ในการออกแบบลำโพงเป็นครั้งแรกของโลก แหวกทุกกฎเกณฑ์เดิมเรื่องการดูดซับเสียงสะท้อนในลำโพง ซึ่งเคฟได้ออกแบบพัฒนาร่วมกับ Acoustic Metamaterials Group   เทคโนโลยี MAT เกิดจากการใช้วัสดุสังเคราะห์ใหม่ที่มีคุณสมบัติขั้นสูงในการดูดซับเสียงส่วนเกินที่แผ่ออกมา ช่วยลดการบิดเบือนความใสของเนื้อเสียง ทำให้ได้เสียงแท้ที่คมชัดกว่าเดิม ซึ่ง MAT นี้ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างเหมือนเขาวงกต เพื่อให้แต่ละช่องสามารถดูดซับเสียงที่มีความถี่หลากหลายอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทำงานประสานกันโครงสร้างนี้เปรียบเสมือนหลุมดำของเสียงที่สามารถดูดซับเสียงส่วนเกิน ลดความผิดเพี้ยนของความถี่สูง ได้กว่า 99% ในขณะที่กรรมวิธีแบบอื่นๆ มีประสิทธิภาพการกำจัดเสียงเกินส่วนนี้อยู่ที่ประมาณ 60% เท่านั้น ดังนั้นผลลัพธ์ของคุณภาพเสียงจึงมีความโดดเด่นยากจะหาใครเทียบ     ทั้ง LS50 Meta’ และ ‘LS50 Wireless II’ ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพของไดรเวอร์เพื่อให้เสียงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และความผิดเพี้ยนของเสียงน้อยลง โดยมาพร้อมเทคโนโลยี Uni-Q ไดร์เวอร์เจนเนอเรชั่น 12 โดยไดร์เวอร์ Uni-Q จะทำงานร่วมกันกับ MAT ที่ช่วยให้กระจายเสียงได้ทั่วห้องอย่างสม่ำเสมอ ให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเสมือนจริงได้จากทุกมุมห้องและยังมีกรวยลำโพงแยกแบบใหม่และการพัฒนาระบบมอเตอร์ที่ช่วยลดความเพี้ยนของเสียง ทำให้ได้เสียงโปร่งขึ้นและมีเบสลึกขึ้นกว่าเดิม   นอกจากนี้ ทั้ง LS50 Meta และ LS50 Wireless II ยังมีการพัฒนาจากลำโพง LS50 รุ่นเดิมในส่วนต่างๆ ได้แก่ การใช้พอร์ตเสียงเบสที่มีความยืดหยุ่น (off-set flexible bass port) ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและลดความผิดเพี้ยนของเสียง การใช้ตู้ลำโพงที่มีลักษณะโค้งทำให้เกิดการเลี้ยวเบนของคลื่นที่ต่ำ (curved baffle) และใช้หลักการดีไซน์ตู้ลำโพงแบบ Finite Element Analysis (FEA) พร้อมโครงสร้างซับพอร์ตภายในด้วยหลักการ Cross Bracing และ Constrained Layer Damping เพื่อให้ได้โครงสร้างตู้ที่แข็งแกร่งมั่นคง ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ประกอบเป็น ‘LS50 Meta’ และ ‘LS50 Wireless II ที่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไร้รอยต่อก่อให้เกิดเสียงที่ชัดเจนทุกรายละเอียดอย่างยอดเยี่ยม เกิดความผิดเพี้ยนของเสียงน้อยมาก ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของห้อง   สำหรับ LS50 Wireless II มี มีการประมวลผลสัญญาณดิจิทัลขั้นสูง ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีเสียง Music Integrity Engine ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของเคฟ แอมพลิฟายเออร์คลาส A / B 100W ตัวใหม่ที่ช่วยให้กำลังทวีตเตอร์ และแอมพลิฟายเออร์คลาส D 280W ช่วยขับเสียงกลาง / เบส ทำให้ LS50 Wireless II เป็นลำโพงที่ประสิทธิภาพเยี่ยม ทรงพลังและยังได้รับการรับรองจาก Roon Ready ด้วย สามารถครอบคลุมทุกการเชื่อมต่อบนระบบ Apple หรือ Android ผ่านแอป KEF Connect ให้คุณสามารถฟังเพลงหรือปรับแต่งเสียงได้ตามความต้องการ และสามารถสตรีมดนตรีผ่าน Tidal, Amazon Music, Qobuz, Deezer, Podcasts หรือสามารถสตรีมโดยตรงจากแอป Spotify Connect LS50 Wireless II และยังมีออดิโอไฟล์ที่รองรับการสตรีมไฟล์เพลงสูงสุด 24 บิต / 384kHz ตลอดจนการถอดรหัส MQA และ DSD256 เพื่อการเล่นเสียงที่มีความละเอียดสูงอย่างแท้จริง ให้คุณเป็นอิสระไปกับทุกเสียงเพลงในทุกๆ เวลา   นอกจากประสิทธิภาพอันทรงพลังแล้ว LS50 Meta และ LS50 Wireless II ยังมาพร้อมดีไซน์ตู้ลำโพงที่สวยงามที่ออกแบบรูปทรงส่วนโค้งด้านหน้าเพื่อประสิทธิภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ตามแบบฉบับของ KEF โดยทีมดีไซเนอร์ของ KEF ยังให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดการดีไซน์เพื่อให้แน่ใจว่าลำโพง LS50 Meta’ และ ‘LS50 Wireless II’ สามารถกลมกลืนและเสริมสร้างสภาพแวดล้อมราวกับเป็นเฟอร์นิเจอร์หนึ่งภายในบ้านคุณ ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ตัวลำโพงให้มีความหรูหราสวยงามและมาพร้อมหลากหลายสีให้เลือกสรร ด้วย Carbon Black, Titanium Grey, Mineral White และสี Special Edition เฉพาะรุ่น LS50 Meta สี Royal Blue และ LS50 Wireless II สี Crimson Red ที่สามารถเลือกแมทช์ได้กับขาตั้งพื้นรุ่น Bespoke S2 ที่มีมาในสี Carbon Black, Titanium Grey, Mineral White และสี Special Edition ได้อย่างสมบูรณ์   ลำโพงเคฟนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท วีแกดซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด สามารถสัมผัสประสบการณ์จริงกับเสียงใสที่คมชัดกว่าเคย สำรองเวลาทดสอบเสียง ’book a demo’ ลำโพง คอลเลคชั่น LS50 ใหม่ที่มีเทคโนโลยีวัสดุดูดซับเสียง MAT สองรุ่นแรกของโลกได้เร็ว ๆ นี้ที่ตัวแทนจำหน่ายหรืออีเมลสอบถามรายละเอียด ‘book a demo’ มาที่ kef@vgadz.com   สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วทางออนไลน์ได้ที่ www.vgadz.com/kef หรือที่ the Gadget centralworld ชั้น 4, ร้าน Piyanas ทุกสาขา, SweetPig Audio, BKK AUDIO, .Life, Fullbright Technology, Bangkok Digital, mercular.com, มั่นคงแก็ดเจ็ท และร้านเครื่องเสียงชั้นนำทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/vgadz/ และ https://www.vgadz.com/kef  
รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ

รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ

รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ เอาล่ะ ถ้าคุณมีความคิดว่าการทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย ยุ่งยาก แล้วก็ไม่สนุกเลยซักนิด ที่ต้องกลายร่างมาเป็นนางแจ๋วหน้ามัน หัวกระเซิงเพื่อกำจัดฝุ่นภายในบ้านให้หมดเกลี้ยง.... เราขอให้คุณเปลี่ยนความคิดซะใหม่ แล้วตามเราไปดูกันว่า เราจะช่วยให้ “งานทำความสะอาดบ้าน” เป็นเรื่องสวยๆ ชวนพิสมัยได้อย่างไร   เกิดเป็นผู้หญิงในยุคนี้ งานนอกบ้านก็ต้องเริ่ด งานในบ้านก็ต้องให้เป๊ะ ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านสำหรับแม่บ้านยุคใหม่แบบเราที่เวลาก็รีบเร่ง จะต้องบริหารเวลาสำหรับงานบ้านให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ เริ่มจากหาผู้ช่วยคนสำคัญ อย่าง “Dyson V11 Absolute” เพื่อให้งานทุกอย่างสะดวกรวดเร็ว ได้บ้านสะอาดเอี่ยมในพริบตา     ด้วยประสิทธิภาพพลังดูดของ Dyson V11 Absolute ตัวล่าสุดนี้ บวกกับขนาดของแบตเตอรี่ที่ทรงพลังที่สุดที่ Dyson เคยมีมา ทำให้ระยะเวลาในการทำงานสูงสุด 60 นาทีนี้ เป็น 60 นาทีที่คุ้มค่าที่สุดในการทำความสะอาดบ้านสำหรับเรา ยิ่งเป็นคอนโดมิเนียมขนาดไม่เกิน 300 ตร.ม. แบบที่เราอยู่ด้วยแล้ว รับรองว่าสบายหายห่วงได้เลย   เริ่มต้นการทำความสะอาดบ้านวันนี้ด้วย การจิบกาแฟนิดๆ เช็คเมลซักหน่อย พร้อมกับดูดฝุ่นไปด้วยก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะว่า Dyson V11 Absolute เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีน้ำหนักกำลังพอดี สามารถถือและทำงานสะดวกได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว     เมื่อเป็นแม่บ้านในยุคดิจิตอลแล้ว ทุกอย่างก็ต้องดูทันสมัยจริงมั้ยคะ แน่นอนว่า Dyson V11 Absolute นี้ทำงานเต็มกำลังได้แรงสุดๆ แบบไม่เคยงอแง เพราะ Dyson ดิจิตอลมอเตอร์ V11 มีพลังดูดที่เพิ่มกว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 20% แถมยังมีหน้าจอ LCD เพิ่มความไฮโซเข้าไปอีก ซึ่งหน้าจอ LCD นี้จะแสดงโหมดการทำความสะอาดให้เห็นอย่างชัดเจน แล้วก็ยังง่ายต่อการสลับโหมดด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Eco แบบประหยัดพลังงาน, โหมด Auto แบบสวยๆ และ Boost ที่พลังดูดแรงสะใจ   เอาจริงๆ แล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แค่โหมด Eco หรือ Auto ก็ทำให้บ้านเราสะอาดเรียบร้อยได้แล้วค่ะ แต่บางพื้นผิว หรือพื้นที่ที่ต้องการแรงดูดอันทรงพลังมากๆ อย่างพื้นพรมหนาๆ หรือต้องการกำจัดไรฝุ่นบนที่นอนและโซฟา โหมด Boost ก็พร้อมจะเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งได้อย่างไม่มีเกี่ยงงอนเลยทีเดียว     ความไฮเทค ไฮโซของการมีหน้าจอ LCD ไม่ได้มีดีแค่การบอกโหมดการใช้งานเท่านั้นนะจ๊ะ เพราะหน้าจอเล็กๆ นี้ยังสามารถแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานปัจจุบัน พลังงาน และเวลาที่คงเหลือ เพื่อให้เราวางแผนการทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องทำความสะอาดตัวกรองให้อีกด้วย   คุยเรื่องสเปคต่างๆ ของตัวเครื่องอย่างเดียวเดี๋ยวจะหาว่าโม้ งานนี้บอกเลยว่า เราได้ทดลองใช้จริงไรจริงไม่พึ่งสแตนอินนะจ๊ะ เรียกว่าแกะกล่องแล้วก็เอามาดูดๆๆๆๆ กันให้ครบทุกซอกทุกมุมในบ้านให้รู้กันไปเลย ก็ Dyson เค้าเป็นตัวจริงเรื่องเครื่องดูดฝุ่นที่หมกมุ่นพัฒนามานานกว่า 25 ปีเลยนี่นา แล้วจะต้องไปง้อยัยแจ๋วจอมอู้อีกทำไม   "รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ" จากประสบการณ์ใช้จริง ข้อแรกเราเห็นว่า Dyson V11 Absolute ตัวนี้ จับได้ถนัดมือขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ควบคุมทิศทางได้ง่าย ถึงแม้น้ำหนักของตัวเครื่องจะไม่ได้เบาหวิวจนสามารถยกดูดฝุ่นบนที่สูงๆ ได้คราวละนานๆ แต่ชะนีออกกำลังกายแบบเราก็สามารถอยู่ค่ะ ถือว่าเป็นการเวทเทรนนิ่งเบาๆ ซึ่งในชีวิตจริงแล้ว เราก็ไม่ได้จับเครื่องดูดฝุ่นมายกดูดผ้าม่านกันทุกวันหรอกจริงมั้ย     จุดเด่นต่อมาของ Dyson V11 Absolute คือ หัวแปรงดูด และอุปกรณ์เสริมที่ให้มาเยอะแยะมากมายจนบางทีก็แอบงงว่าตัวเองเลือกใช้ถูกประเภทอยู่รึเปล่า ซึ่ง Highlight ของรุ่นนี้คือ หัวดูดแบบ High Torque ที่เป็นหัวแปรงแรงบิดสูงพร้อมเซ็นเซอร์โหลดแบบไดนามิก (Dynamic Load Sensor - DLS) โดยระบบนี้จะช่วยตรวจจับแรงต้านของพื้นผิว เพื่อทำการเปลี่ยนโหมดพลังดูดให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ทำให้แม่บ้านสมัยใหม่อย่างเราไม่ต้องคอยกังวลว่าจะกดโหมดถูกๆ ผิดๆ จนทำให้การทำความสะอาดบ้านขาดความเนี้ยบแล้วต้องเหนื่อยทำซ้ำอีกรอบ     ส่วนหัวดูดแบบอื่นๆ ก็คล้ายกับรุ่นก่อนเลยค่ะ มีทั้งหัวดูดลูกกลิ้งนุ่ม, หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก, หัวดูดปากแคบ, หัวดูด 2 in 1, และแปรงปัดฝุ่นขนนุ่ม ซึ่งหัวดูดแต่ละอันก็มีคุณสมบัติเฉพาะที่ต่างกันออกไป ทำให้ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผงขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ เศษขนม เส้นผม ขนสัตว์เลี้ยง ฝุ่นฝังแน่น หรือแม้แต่สารก่อภูมิแพ้อย่างไรฝุ่นตัวจิ๋ว ก็เก็บได้เรียบโดยไม่ทำลายพื้นผิวแต่อย่างใด ที่สำคัญหัวดูดทุกตัว ข้อต่อทุกชิ้นสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกเดียว ทำให้แม่บ้านสวยๆ แบบเราไม่ต้องออกแรงเยอะเลยค่ะ     พูดถึงฝุ่นผงขนาดเล็ก รวมถึงสารก่อภูมิแพ้แล้ว หลายคนอาจจะกลัวว่า มอเตอร์ที่ดูดแรงทรงพลังอย่างนี้ แรงลมที่ออกมาทางท้ายเครื่องจะพาอะไรต่อมิอะไรฟุ้งกระจายเต็มอากาศในห้องมั้ย เรื่องนี้ทาง Dyson เค้าเคลมว่า Dyson V11 Absolute มีระบบการกรองที่ปิดผนึกอย่างแน่นสนิท สามารถดักจับอนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กระดับ 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97% เลยทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเกสรดอกไม้ หรือแบคทีเรียต่างๆ ที่ว่าอนุภาคเล็กจนต้องมองด้วยกล้องจุลทรรศน์ ก็จะถูกเก็บเข้าไปในถังฝุ่นจนหมดเกลี้ยง   แล้วถ้าถังฝุ่นเต็มล่ะ? เราต้องสัมผัสกับถังเก็บฝุ่น ต้องกลั้นหายใจใส่หน้ากากสิบชั้นอีกรึเปล่า? ลืมภาพถุงเก็บฝุ่นที่มีแต่ฝุ่นผงนานาชนิดจนเกรอะกรังเทเท่าไหร่ก็หลุดไม่หมดไปได้เลย เพราะ Dyson มีการออกแบบวิธีการเทถังฝุ่นแบบที่เราไม่ต้องสัมผัสโดนฝุ่นเลยยยยยย ซึ่งในรุ่น V11 Absolute นี้พัฒนามาดีกว่ารุ่นเก่าเยอะ ด้วยระบบ Point and Shoot แค่เรายื่นฝาถังเก็บฝุ่นลงไปในถุงขยะ แล้วก็ปลดสลักตัวล็อค ฝุ่นทั้งหมดก็จะลงไปกองอยู่ในถุงขยะแล้ว เหลือแค่ผูกปากถุงให้เรียบร้อย แล้วก็ปิดฝาถังเก็บฝุ่นแค่นี้พร้อมใช้งานครั้งต่อไปได้สวยๆ     เรื่องการจัดเก็บเครื่องก็เป็นอีกเรื่องที่มักจะกวนใจแม่บ้านสายเนี้ยบอย่างเรา เพราะหลายครั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ก็ไม่ได้สวยงามชวนให้เอามาอวดโชว์ซักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหากับ Dyson ไหนๆ ก็ซื้อมาตั้งแพงแล้ว ถ้าอยากจะแอบวางไว้อวดเบาๆ ก็ไม่น่าจะแปลกเกินไปหรอกเนอะ ก็ในกล่องเค้ามีตัวแขวนยึดกับผนังพร้อมแท่นชาร์จมาให้ด้วยค่ะ ทำให้การจัดเก็บเครื่องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยจนอยากจะอวดชาวโลกให้รับทราบโดยทั่วกัน นอกจากจะทำให้หยิบใช้งานได้ง่าย พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้ขัดตาอะไรถ้าจะมีเครื่องดูดฝุ่นอย่าง Dyson แขวนไว้ในห้องกับเค้าด้วย     เชื่อว่าเครื่องดูดฝุ่น Dyson น่าจะเป็นไอเทมในฝันของแม่บ้านยุคใหม่หลายๆ คนเลยแหละ ยิ่งโดนเราป้ายยาแบบนี้คงต้องอยากได้กันบ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าลังเลยังไม่ปักใจเชื่อรีวิวของเรา ลองไปทดลองเล่นเครื่องจริงกันได้ที่ร้าน Dyson Demo สยามพารากอน และไอคอนสยามก่อนได้นะคะ รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีหลายแห่งเลยจ้า แต่ถ้าการป้ายยาของเราได้ผล นอกจากการเดินไปช็อปปิ้งด้วยตัวเอง ยื่นบัตรให้พนักงานรูดปรื้ดๆ แล้ว เรายังสามารถเข้าไปคลิกสั่งซื้อแบบออนไลน์ให้สมกับเป็นแม่บ้านยุคใหม่กันได้ที่ เว็บไซต์ https://www.dyson.co.th/ เชื่อเถอะว่า มันจะเป็นการลงทุนเงินหมื่น ที่คุ้มแสนคุ้มเลยทีเดียว   แล้วถ้าอยากได้ห้องชุดสวยๆ อยู่ใจกลางเมือง มีวิวดีๆ ติดริมน้ำ หรืออยากมาเป็นเพื่อนบ้านกับเรา เชิญชมห้องตัวอย่างได้ที่ Park Court Sukhumvit 77 เลยจ้า   บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไรฝุ่น ผู้ร้ายบนที่นอน (Dyson V8) รีวิว PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูห้องใหญ่ใจกลางเมือง เทคนิคทำความสะอาดบ้านแบบง๊ายง่าย ห่างไกล “ภูมิแพ้” บ้านสะอาดไร้ฝุ่นด้วย BOSCH Flexxo Serie 4  
เปิด Fresh Taiwan สินค้าไลฟ์สไตล์ สุดล้ำจากไต้หวัน

เปิด Fresh Taiwan สินค้าไลฟ์สไตล์ สุดล้ำจากไต้หวัน

ช่วงปลายปีแบบนี้เชื่อว่าหลายคนจะต้องหาซื้อของขวัญกันเอาไว้บ้างแล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าใครอยากจะหาของขวัญหรือสินค้าที่เป็นนวัตกรรม ดีไซน์สวย ไม่ต้องกลัวว่าจะซื้อไปซ้ำกับใครแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดที่จะไปเดินงาน Style Bangkok Fair 2019 ซึ่งหนึ่งในไฮไลท์ของงานนั่นคือการนำเอาสินค้าจากต่างประเทศมาไว้ในงานด้วย โดยครั้งนี้เราจะพาไปทำความรู้จักสินค้า Fresh Taiwan จากไต้หวัน ที่เห็นแล้วจะต้องรู้สึกอยากจะได้เป็นเจ้าของสักชิ้นแน่นอนค่ะ   Fresh Taiwan คือโครงการที่กระทรวงวัฒนธรรมไต้หวัน จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์และการสร้างแบรนด์ของ Designer ชาวไต้หวัน แล้วผลักดันไปไกลระดับโลก ซึ่งการมาร่วมจัดพาวิลเลี่ยนภายในงาน Style Bangkok Fair 2019 ถือเป็นครั้งที่ 6 แล้ว โดยในแต่ละปีก็มีหลากหลายแบรนด์ใหม่ๆ มาโชว์ผลงานที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของขวัญแบบไม่ซ้ำใคร หรือจะเจรจาธุรกิจก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ   สำหรับปีนี้ไต้หวันพาวิลเลี่ยนจะมาในธีม “ไฮไลท์” (HIGHTLIGHT) เน้นสินค้าที่เป็นนวัตกรรมคุณภาพ ความสร้างสรรค์ และฟังก์ชันที่ล้ำสมัย สะท้อนไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งหมด 10 แบรนด์ ซึ่ง 8 ใน 10 แบรนด์จะเป็นครั้งแรกที่มาร่วมงานนี้ ได้แก่ 49101 Electronics, Vinaera, Eye Candle, Singular Concept, Conquer Casa, Hands, Dilio, และ CLARECHEN รวมถึงแบรนด์ที่กลับมาอีกครั้งอย่าง bi.du.haev และ Fyber Forma จะมีสินค้าตัวไหนน่าสนใจบ้าง เรานำมาฝากกันค่ะ   Dilio สินค้าตกแต่งบ้านที่ไม่ใช่แค่วางประดับไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นที่รองน้ำมันหอมระเหย ด้วยส่วนผสมเฉพาะจากวัสดุหลักที่เป็นซีเมนต์พิเศษ จะช่วยให้กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยฟุ้งกระจายและคงทนอยู่ได้นานขึ้นด้วย   bi.du.haev (Biduhaev cold brew system) ใครที่ชื่นชอบกาแฟสกัดเย็น หรือที่เรียกกันว่า cold brew จะต้องอยากมีเครื่องนี้ไว้ครองครองค่ะ ด้วยวัสดุของทั้งตัวเครื่องทำมาจากแก้ว ทำให้การแฟ cold brew แก้วโปรดได้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น   Vinaera เครื่องเติมอากาศในไวน์ สำหรับคอไวน์โดยเฉพาะจะต้องสะดุดตากับเจ้าเครื่องเติมอากาศในไวน์ครั้งแรกของโลก สินค้าตัวนี้จะมีอยู่ 2 รุ่นด้วยกันค่ะ Vinaera Classic กังหันน้ำไวน์ไฟฟ้า และ Vinaera Pro เครื่องเติมอากาศไฟฟ้าแบบปรับได้   49101 Electronics หูฟังบลูทูธ คนรักเสียงเพลงก็ย่อมจะต้องหาหูฟังดีๆ ไว้สักอันใช่ไหมคะ โดยหูฟังแบรนด์ 49101 มีความโดดเด่นตรงที่เป็นหูฟังบลูทูธสามารถเปลี่ยนเป็นสายชาร์จความเร็วสูงได้ และยังสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ในตัวได้ด้วย   Fyber Forma กระเป๋ากันน้ำ กระเป๋าหลากหลายดีไซน์ มีคุณสมบัติพิเศษด้านนอกกันน้ำ ผิวสัมผัสนุ่มละเอียดคล้ายหนัง น้ำหนักเบา ด้านในกรุด้วยผ้าอ่อนนุ่ม เพิ่มความทนทาน     หากใครอยากจะสัมผัสของจริง แล้วซื้อเก็บไว้เป็นของขวัญในช่วงสิ้นปีก็แนะนำให้รีบมาในงาน Style Bangkok Fair 2019 ในวันที่ 17-21 ตุลาคม 2562 นี้เท่านั้นนะคะ รับรองว่าไม่เหมือนใครแน่นอน    
“SANSIRI SERVICE” พาไปชม “บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน” จากบริการที่ใส่ใจจากแสนสิริ

“SANSIRI SERVICE” พาไปชม “บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน” จากบริการที่ใส่ใจจากแสนสิริ

“บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน” ด้วยบริการที่ใส่ใจจากแสนสิริ เพราะความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญของการอยู่อาศัย "SANSIRI SERVICE" พร้อมให้บริการที่จะทำให้ลูกบ้านทุกคนอุ่นใจได้ตลอด 24 ชม. เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และครอบคลุมรอบด้าน แล้วคุณจะว้าวกับชีวิตดี๊ดี ที่ได้เป็นลูกบ้านแสนสิริ   #บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน #SansiriService #CompleteYourLivingExperience สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://siri.ly/gn7 ----------------------------------------------------------- ติดตามเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจได้ที่ Website : https://www.reviewyourliving.com Facebook : https://www.facebook.com/reviewyourliving Youtube : http://bit.ly/2CCTMBk