Tag : Lalin Property

4 ผลลัพธ์
‘ลลิล พร็อพเพอร์ตี้’ ปลุกตลาดอสังหาฯ ก่อนจบไตรมาสแรก อัดแคมเปญสุดปัง “พรรคนี้ ผ่อนน้อยยย”

‘ลลิล พร็อพเพอร์ตี้’ ปลุกตลาดอสังหาฯ ก่อนจบไตรมาสแรก อัดแคมเปญสุดปัง “พรรคนี้ ผ่อนน้อยยย”

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ปลุกตลาดอสังหาฯ ก่อนจบไตรมาสแรก อัดแคมเปญสุดปัง “พรรคนี้ ผ่อนน้อยยย” พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ช่วยผ่อนนาน 10 เดือน ขนทัพบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมคับคุณภาพหลากหลายทำเล ในราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านกว่า – 12 ล้านบาท ร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 21 – 24 มีนาคม ศกนี้ ที่บูธ G 215 – 226 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  มั่นใจกระแสตอบรับดี ลูกค้าเร่งตัดสินใจซื้อก่อนมาตรการรัฐบังคับใช้ 1 เมษายน ศกนี้   นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยถึงแคมเปญ “พรรคนี้ ผ่อนน้อยยย” ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ว่า “บริษัทฯ ปล่อยโปรโมชั่นสุดพิเศษเอาใจลูกค้าอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการยกขบวนโครงการคุณภาพ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ใจกลางทำเลยุทธศาสตร์ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด อาทิ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และนครราชสีมา รวมกว่า 40 โครงการ มาไว้ที่บูธลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บูธ G 215 - 226 ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 พร้อมเสิร์ฟสุดยอดโปรโมชั่น ได้แก่ ต่อที่ 1 ช่วยผ่อนนาน 10 เดือน และฟรี! เงินทำสัญญา 0 บาท ฟรี! ทุกค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าโอน ค่าส่วนกลาง ค่ามิเตอร์น้ำ - ไฟ เป็นต้น หรือต่อที่ 2 เลือกรับ Samsung S10 เอาใจลูกค้าในงานโดยเฉพาะตลอด 4 วัน ระหว่างวันที่ 21 – 24 มีนาคม ศกนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เท่านั้น   แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้นปี 2562 โดยรวมยังคงมีการเติบโต โดยมีปัจจัยสนับสนุน อาทิ ภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวมยังขยายตัวได้ดี ยังเป็นปัจจัยเร่งการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้า การจัดแคมเปญ “พรรคนี้ผ่อนน้อย” จึงนับเป็นทางเลือกให้ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ที่มีคุณภาพ ด้วยโครงการบ้านที่หลากหลายกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในรูปแบบบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ หรือบ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม บนทำเลศักยภาพ 5 มุมเมืองในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดในเขตระเบียงเศรษฐกิจที่เป็นตลาดงาน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงจุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านกว่า มั่นใจว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ประเดิมต้นปีก่อนปิดไตรมาสแรกได้อย่างแน่นอน” นายชูรัชฏ์กล่าว   ทั้งนี้ ลูกค้าที่เข้าชมบูธของ ลลิล พร้อพเพอร์ตี้ จะได้สัมผัสรูปแบบบูธที่จัดเต็มด้วยโครงการคุณภาพ ให้เลือกสรรมากมายภายในงาน การเปิดพรีเซลล์โครงการใหม่ล่าสุด มหานครแห่งใหม่ใจกลางพุทธมณฑลสาย 4 “ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ เพชรเกษม – พุทธมณฑล สาย 4” บ้านและทาวน์โฮมฟังก์ชั่นครบตอบทุกโจทย์ความสมบูรณ์แบบแห่งการใช้ชีวิต ขนาด 4 ห้องนอน พร้อมโมเดิร์นคลับเฮ้าส์ ราคาเริ่มต้น 1 ล้านกว่าบาท ตลอดจนโครงการคุณภาพอีกมากมายกว่า 40 โครงการ เลือกบ้านที่ใช่ ในทำเลที่ถูกใจ กับ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี ที่บูธ G 215 - 226 ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 21 - 24 มีนาคม ศกนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ /// โทร Call Center 1778 หรือ www.lalinproperty.com * เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด      
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกหนุนอสังหาฯ ไทย ปี 2561 โต 5-7% ปักหมุดขยายอาณาจักร ‘ลลิล ทาวน์’ 8-10 ทำเล – ตั้งเป้าเติบโต 15 %

“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกหนุนอสังหาฯ ไทย ปี 2561 โต 5-7% ปักหมุดขยายอาณาจักร ‘ลลิล ทาวน์’ 8-10 ทำเล – ตั้งเป้าเติบโต 15 %

บริษัท  ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มองเศรษฐกิจโลกปี 2561 ส่งสัญญาณบวก หนุนเศรษฐกิจไทย - ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ฟื้นตัวชัดเจน จากโครงการอีอีซี-โครงการลงทุนรถไฟฟ้า ระบบ Mass Transit  มองการเติบโตตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ที่ 5-7% ประกาศแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปีที่สามทศวรรษ ด้วยนโยบาย ‘Year of Competitiveness and Innovation for LALIN 4.0’ ตอกย้ำความเป็นมืออาชีพ และเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงเทรนด์อสังหาฯ เตรียมเปิดอาณาจักร “ลลิล ทาวน์ (LALIN Town)’ ทำเลใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑล และต่างจังหวัด ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 4,400 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 4,000 ล้านบาท เติบโต 15% นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2561 ยังคงมีสัญญาณบวก ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นเล็กน้อยจากปี 2560 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ราว 3.8 - 3.9% โดยการขยายตัวในปี 2561 นั้นจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ดี ตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะยังคงขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ในปี 2561 นี้ จะมีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเม็ดเงินจากการลงทุนของภาครัฐ ที่จะเริ่มทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กอปรกับการคาดการณ์ว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นแรงส่งช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยให้ตัวเลขการบริโภคและการลงทุน ขยายตัวได้ดีขึ้นในระยะต่อไป สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นจากปี 2560 โดยมีปัจจัยบวกมาจากทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการลงทุนของภาครัฐ  นอกจากนี้ภาพรวมของตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนต่อจีดีพี ที่เริ่มค่อยๆ ปรับลดลง จะช่วยให้กำลังซื้อปรับดีขึ้น ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังคงทรงตัวในระดับต่ำ แม้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกามีความเป็นไปได้ที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีกราว 3 ครั้ง ในปี 2561 นี้ โดยมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งเป็นตลาด Real Demand จะยังคงขยายตัวได้ราว 5-7%  สำหรับตลาดอาคารชุด อาจต้องระมัดระวังในบาง Sector และในบางทำเล ซึ่งอาจเริ่มเห็นสัญญาณ Over Supply บ้าง สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2561 ซึ่งนับเป็นปีที่ครบรอบ 3 ทศวรรษของบริษัทฯ บริษัทยังคงเชื่อมั่นที่จะขยายตัวได้สูงกว่าภาพรวมของตลาดฯ ติดต่อกันเป็นปีที่สาม โดยมีการวางแผนธุรกิจที่สนับสนุนการขยายตัวของบริษัท ทั้งนี้ในปี 2561 นี้ บริษัทมีแผนขยายโครงการใหม่ทั้งสิ้น 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 4,400 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นราว 15% จากปีก่อน นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) กล่าวว่า ในปี 2561 ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในเชิงรุกเพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไว้วางใจ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มากว่าสามทศวรรษ และบริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการแนบราบที่บริษัทมีความชำนาญ ทั้งแนวความคิด การวางคอนเซ็ปต์ ความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย และการเลือกทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์และราคา และเน้นการทำ Digital Marketing และ CRM Strategy สำหรับแผนงานกลยุทธ์โครงการ “ลลิล ทาวน์ (LALIN Town) เตรียมเปิดโครงการใหม่ไว้ 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,500 – 5,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดในส่วนของหัวเมืองหลัก และหัวเมืองชั้นรอง แบ่งสัดส่วนทำเลออกเป็น โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล 75-80% และในทำเลต่างจังหวัด 20-25% ในส่วนของทางด้านการเงิน บริษัทฯ วางงบซื้อที่ดินไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ที่ได้มาจากการโอนโครงการต่างๆ และส่วนหนึ่งจะมาจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งจะพิจารณาออกในจำนวนและช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สอดรับกับการขยายธุรกิจ และการเติบโตในระยะยาวของบริษัททั้งนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของบริษัทในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่มาก ซึ่งสะท้อนความเสี่ยงทางด้านการเงินที่ต่ำ และยังคงมีศักยภาพในการขยายธุรกิจได้อีกมากโดยไม่ติดปัญหาเรื่องของแหล่งเงินทุน
“เทพารักษ์-ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ” สังคมน่าอยู่แห่งใหม่
ครบทุกฟังก์ชั่นความต้องการของผู้อยู่อาศัย

“เทพารักษ์-ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ” สังคมน่าอยู่แห่งใหม่
ครบทุกฟังก์ชั่นความต้องการของผู้อยู่อาศัย

ย่านเทพารักษ์-ศรีนครินทร์ ในเวลานี้ถือว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ ด้วยทำเลศักยภาพใกล้แหล่งงานและย่านเศรษฐกิจ รวมทั้งยังแวดล้อมไปด้วย ไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก-ใหญ่ ตั้งอยู่โดยรอบพื้นที่ รวมถึงตลาดที่อยู่อาศัย เริ่มมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ มากขึ้น หากใครกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตและรองรับไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย รับรองว่าย่านเทพารักษ์-ศรีนครินทร์ ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ สุขุมวิท เชื่อมต่อเพียงพริบตา ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของย่านเทพารักษ์ เกิดขึ้นจากความคืบหน้าของแผนการลงทุนระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีความสะดวกสบายต่อการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง  ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เพียงเท่านั้น แต่ย่านนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู) ที่มีแผนก่อสร้างและจะเปิดให้บริการในอนาคต เรียกได้ว่าสร้างความน่าสนใจและน่าอยู่อาศัยให้กับพื้นที่เทพารักษ์เป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น หากมองทำเลเทพารักษ์ ในช่วงถนนบางพลี – ตำหรุ ยังเป็นถนน 6-8 ช่องจราจร ใช้งานสะดวก โดยถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนโดยรอบได้หลายเส้นทาง ได้แก่ ถนนกิ่งแก้วที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนบางนา-ตราด โดยเส้นบางนา-ตราดนี้จะเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าขนาดใหญ่หลายแห่งและเป็นจุดขึ้น-ลงทางด่วนบูรพาวิถีเพื่อเชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวก เช่นเดียวกันยังอยู่ใกล้ถนนวงแหวนตะวันออกรอบนอก ที่สามารถเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรี และจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออก อีกทั้งยังเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักไปสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งนับว่าสามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างลงตัว ตลาดอสังหาฯ ย่านเทพารักษ์ - ศรีนครินทร์  สำหรับตลาดอสังหาฯ ในทำเลนี้  ปัจจุบันยังคงเป็นตลาดแนวราบ ด้วยพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย ยังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอย เพียงพอกับกิจกรรมของผู้เริ่มสร้างครอบครัวใหม่ รวมถึงครอบครัวใหญ่ โดยตลาดอสังหาในทำเลดังกล่าว แบ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรร ที่มีทั้งโครงการใหม่ และบ้านมือสอง อพาร์ทเม้นท์ และยังมีคอนโดมิเนียม Low-rise ในราคาที่ยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยในใจกลางเมือง อีกทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น บิ๊กซี บางพลี, มาร์เก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิ, โลตัส ซิตี้ พาร์ค บางพลี, โรบินสัน สมุทรปราการ, ไบเทค บางนา, เมกา บางนา และ อิเกีย นับว่าเป็นทำเลที่มีความเจริญเติบโตและน่าสนใจเป็นอย่างมาก เตรียมพบกับโครงการ ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ เทพารักษ์-ตำหรุ โดยบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ปรากฏการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยบนทำเลเทพารักษ์ ด้วยฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถในร่ม พร้อมครัวไทย ใกล้ทางด่วน เมกาบางนา ราคาเริ่ม 1 ล้านกว่าบาทเท่านั้น และเร็วๆ นี้ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ เพื่อรับสิทธิ์ช้อปปิ้งทั่วกรุง 20,000 บาท จองแปลงสวยทำเลหน้าโครงการ โซนติดสวนก่อนใคร คลิก!: http://bit.ly/lalinliotamru หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center โทร 1778 และเว็บไซต์ www.lalinproperty.com, Line @LalinSociety
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

บริษัท  ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2560 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดรับรู้รายได้ที่ 657.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 14% และเติบโตดีกว่าภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มเดียวกันที่ชะลอตัว นอกจากนี้บริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 114.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% ขณะที่ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 900 ล้านบาท เตรียมลุยโครงการใหม่อีก 5-6 ทำเล จากไตรมาสแรกเปิดขาย 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,850 ล้านบาท นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนหลายรายที่ประกาศออกมาพบว่าตลาดโดยรวมชะลอตัว เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่เอื้ออำนวยมากนัก โดยมีการชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 แล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการประเมินสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจและตลาดโดยรวมได้ถูกต้อง จึงดำเนินการวางแผนงานกลยุทธ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งผลทำให้บริษัทยังคงมีผลประกอบการที่ขยายตัวได้ โดยมียอดรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกนี้ที่ 662.1 ล้านบาท ขยายตัวราว 14% และบริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 114.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% ขณะที่ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 900 ล้านบาท สำหรับการขยายธุรกิจ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,850 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป โดยตามแผนงาน บริษัทเตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่อีกราว 5 - 6 โครงการในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการขยายตัวที่มั่นคงต่อไป ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.86 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.4 เท่า นอกจากนี้บริษัทมีการใช้แหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ตลอดจนมีวงเงินสำรองที่ไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวนมาก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2559 โดยให้จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 8.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ รวมทั้งอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.1385 ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท ดังนั้นจะคงเหลือจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในงวดนี้อีก 0.0135 บาท ในส่วนของหุ้นปันผลที่ผู้ถือหุ้นได้รับนั้น จะสามารถเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 นี้