“ทองหล่อ” หนึ่งในย่านไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนเมือง ซึ่งใครก็รู้กันดีว่าเป็นทำเลระดับ Premium ที่ทุกคนต่างจับตามอง เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช็อปปิ้งไลฟ์สไตล์ และที่แฮงค์เอ้าท์สุดเก๋ไม่เหมือนใคร รวมทั้งเป็นย่านที่มีที่พักอาศัยในระดับ Luxury รวมกันอยู่มากมาย ศักยภาพของทำเลจึงได้รับความสนใจทุกครั้งที่มีโครงการใหม่ๆ เปิดตัวขึ้นมา ล่าสุด Real Asset ได้เลือกทำเลดีในซอยสุขุมวิท 57 เป็นที่ตั้งโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ภายใต้ชื่อ “Laviq Sukhumvit 57” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยหรูหรา มีสไตล์ และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายแบบครบวงจร Laviq Sukhumvit 57 มีข้อได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้งซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อไม่เกิน 300 เมตร หรือเดินเพียง 3 นาที ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว จึงแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในทำเลปากซอยทองหล่อเลยล่ะ และด้วยความที่อยู่ถัดเข้ามาในซอยสุขุมวิท 57 เล็กน้อยซึ่งเป็นซอยตัน จึงช่วยเพิ่มความเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น นอกจากระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS แล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เนื่องจากถนนหนทางในย่านนี้เชื่อมโยงถึงกันหลายสาย ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนพระราม 4 ทำให้มีเส้นทางให้เลือกเดินทางเข้าออกเมืองได้หลายทางมาก แผนที่โครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 300 เมตร ลงรถไฟฟ้าแล้วเดินเลยซอยทองหล่อมานิดเดียวก็ถึงซอยสุขุมวิท 57 แล้วครับ ซอยสุขุมวิท 57 จุดสังเกตง่ายมากๆ คือจะมีโรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit อยู่หน้าปากซอย บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 57 จากบอกซอยเดินเข้ามาไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วครับ ขณะเดียวกันรอบๆ โครงการก็มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ เดินเข้ามาที่ซอยทองหล่อแล้วก็เลือกได้เต็มที่ตั้งแต่ Street Food ร้านอาหารชื่อดัง ห้องอาหารในโรงแรม ร้านกาแฟสุดชิค รวมไปถึง Community Mall ที่มีให้เลือกแบบไม่ซ้ำสไตล์เลย เช่น J Avanue, Arena 10, Market Place, The Common, Maze ทองหล่อ ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมร้านแบบ Stand Alone ดังๆ อีกเพียบ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เพราะรวมไว้ครบทั้งแหล่งกิน เที่ยว ช๊อป แถมด้วยแหล่งแฮงค์เอ้าท์ แบบไม่ต้องออกไปไหนให้ไกลบ้านเลย J Avanue Market Place The Common Maze ทองหล่อ “Glamorous : Inspired by Fendi Casa” ความพิเศษสุดของ Laviq Sukhumvit 57 คือ ดีไซน์การออกแบบที่หรูหรา และความร่วมมือสร้างสรรค์โดย Fendi Casa จาก Italy ซึ่งเป็น High Brand ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Laviq จะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Fendi Casa ทั้งหมด ซึ่งเราจะเห็นตัวอย่างส่วนหนึ่งได้จากใน Sale Office ที่จำลองการตกแต่งบริเวณ Lobby ไว้อย่างหรูหราอลังการเลยทีเดียว นอกจากนี้การดีไซน์ตกแต่งตัวอาคารทางโครงการก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน Exterior ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ กระจก Full High Glass Window รอบตัวอาคารที่นอกจากให้ความสวยงามหรูหราแล้ว ยังช่วยให้แต่ละห้องสามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ ตัวอาคารออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรหรูหราดึงดูดสายตามากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของทองหล่อเลยก็ว่าได้ โครงการ Laviq Sukhumvit 57 เป็นอาคาร High Rise สูง 33 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมไว้ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่สวนสวยบริเวณด้านหน้าที่มีระยะกว่า 30 เมตรก่อนถึงตัวอาคารซึ่งช่วยสร้างความร่มรื่น และเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ในขณะที่พื้นที่บริเวณ Lobby มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่สวนภายนอก จัดสรรบริเวณส่วนหนึ่งเป็น Outdoor Library เพื่อเพิ่มการใช้งานพื้นที่บริเวณชั้นล่างได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกัน Facility ส่วนกลางก็ถูกจัดสรรไว้อย่างเต็มที่ เช่น Infinity Edge Lap Pool with Ozone System & Kids Pook, Fitness Studio & Bike Simulator, Yoga Room, Golf Simulator Room, Rock Climbing Station for Kids, Steam Room, Executive Lounge & Meeting Room, Library, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ซึ่งส่วนใหญ่ถูกรวบรวมไว้บนชั้น 29-30 ในส่วนของพื้นที่จอดรถ ทางโครงการจัดสรรมาให้แบบเต็มพื้นที่ สามารถรองรับได้ 100% เลยที่เดียว แถมยังมี Super Car & Super Bike Parking Space และ Bicycle Garage ไว้เอาใจคนรักรถโดยเฉพาะ รวมไปถึง Electric Vehicle Charging Station เพื่อรองรับยานยนต์แห่งอนาคต และพื้นที่สำหรับคนขับรถก็มี Separated Driver Lounge มาให้พร้อมสรรพ ที่ชั้น G เมื่อเข้าสู่โครงการแล้วจะเห็นสวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าโครงการ เรียกว่า Sanctuary Hills ก่อนเข้าสู่ด้านในอาคารจะมี Lobby และ Library ที่มองออกมาเห็นสวนด้านนอก ที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-5 ในช่องจอด 204 คัน แต่ถ้ารวมจอดซ้อนคันแล้วจะได้ 235 คัน ครบ 100% พอดี ทางเข้าโครงการ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปถึงชั้น 24 เฉลี่ย 11 ยูนิตต่อชั้น สวนสีเขียวหน้าโครงการ พื้นที่สีเขียวบริเวณชั้น 6 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย สวนสีเขียวบนชั้น 6 ส่วนชั้น 25-28 จะมี 9 ยูนิตต่อชั้น ขึ้นมาถึง 29 จะเป็นส่วนของ Facility หลักของโครงการทั้งสระว่ายน้ำที่เป็นรูปตัว L ยาว 36 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร นอกจากนั้นยังมี Rock Climbing Station for Kids, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ชั้น 30 ก็ยังเป็นของ Facility อยู่นะครับ ที่ชั้น 30 จะมี Fitness Studio, Yoga Room, Golf Simulator Room, Executive Lounge & Meeting Room ซึ่งจะมีบรรไดเดินเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 29 ได้เลย โมเดลจำลอง Facility บนชั้น 29 บันไดเดินเชื่อมระหว่างชั้น 29-30 บรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำรูปตัว L บนชั้น 29 ชั้น 31 จะกลับมาเป็นห้องพักอาศัยอีกครั้ง จะมี 6 ยูนิต ชั้น 32 จะเป็นห้อง Penthouse ขนาด 3 ห้องนอน อยู่เพียง 2 ยูนิต ชั้นบนสุดที่ชั้น 33 จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการคือห้องขนาด 4 ห้องนอน อยู่เพียงห้องเดียวบนชั้น 33 เรื่องบริการความสะดวกสบายสำหรับลูกบ้าน ทางโครงการก็ให้ความใส่ใจไม่แพ้กัน เช่น One-card access for all areas โดยไม่ต้องพกบัตร/กุญแจหลายอัน รวมถึงบริการ Concierge & Door Man บริการ Direct mail Delivery Service เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการจองร้านอาหารต่างๆ และบริการซัก-อบ-รีด นอกจากนี้ยังมีบริการ Shuttle Service ด้วยรถหรูรับส่งในจุดที่กำหนด เพื่อวันสบายๆ ที่ไม่อยากใช้รถส่วนตัว เท่าที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ก็เชื่อได้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยได้รอบด้าน ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหลแม้อยู่ในพื้นที่โครงการ “Exquisite Life Experience” ด้วยคอนเซปต์ “Exquisite Life Experience” ประสบการณ์ชีวิตที่สวยงามเหนือระดับ ทางโครงการจึงใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกเหนือจากจุดเด่นหลายๆ ข้อที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว การเปิดประสบการณ์ที่อยู่อาศัยที่หรูหราให้เป็นมากกว่าบ้านทาง Real Asset และผู้ออกแบบ ได้ลงรายละเอียด ใส่ความพิถีพิถันตั้งแต่การจัดวางพื้นที่ การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมในทุกๆ ตารางนิ้วของห้องชุดให้เป็นเหมือนงาน Master Piece เฉพาะตัว 42 ตารางเมตร คือห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ห้องแบบ 1 Bedroom ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน บนพื้นที่ใช้สอยที่จัดสรรมาแล้วอย่างดี ความสูงแบบ Floor to Floor สูงถึง 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร กระจกทุกบานในห้องเป็นแบบ Full Height ทำให้สามารถ Take View ด้านนอกได้อย่างเต็มตา เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องชิ้นหลักๆ ทางโครงการ Built-in มาให้เสร็จสรรพ เช่น ชุดครัว Top ด้วยหิน Quartz พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง ตู้เย็น, เตาไฟฟ้า 2 หัว + เครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, ไมโครเวฟแบบ Free Stand มีตู้ Built-in สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของบริเวณประตูทางเข้าห้องมาให้ด้วย และเพิ่มความใส่ใจด้วย ตู้ Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าพร้อมเก็บอุปกรณ์ซักรีดไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วน ในขณะที่ภายในห้องน้ำก็จัดเต็มด้วยสุขภัณฑ์ระดับ Luxury Brand จากยุโรปนำโดย Villeroy & Boch และ Gessi เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทุกส่วนเลยทีเดียว แปลนห้อง 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 42 ตารางเมตร ที่นี่จะใช้ Digital Door Lock ของ Samsung ทุกห้องนะครับ เข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านขวามือโครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเครื่องผ้าไว้ติดกัน หน้าบานเป็น High-Gross สีขาว ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัว Built-in พร้อมโต๊ะทาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวโครงการก็จัดเต็มมาให้เลยนะครับ ทั้งตู้เย็น ส่วนท็อปครัวเป็นหิน Quartz เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Küppersbusch มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดี๋ยวกัน ใกล้ๆ กันเป็นซิงค์ล้างจานแบบหลุม โต๊ะทานอาหารจะเชื่อมต่อกับเค้าเตอร์ครัว ทำให้เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะเป็นรูปตัว U ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของและจุดวางไมโครเวฟ เลยเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าห่างเลยนะครับ สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้สบายเลย โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝั่งชั้นวางทีวีโครงการ Built-in ชั้นวางเล็กๆ แบบใช้ทีวีติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แอร์ที่นี่จะให้แบบฝังฝ้านะครับ บริเวณ Living Area มีให้ 1 จุด ติดกับ Living Area จะมีระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน บานสูงถึงเพดาน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องลายไม้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง เข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งยังมีที่เหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่สูงจรดเพดาน มีบานเล็กๆ เป็นกระทุ้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะวางทีวี หรือถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากขึ้น ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in เป็นตู้เสื้อ ด้านบนเป็นแอร์แบบฝังฝ้า เข้ามาถึงห้องน้ำ จะตกแต่งด้วย Marble Porcelain สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ท็อป ท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะเป็นหินจริง มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ กระจกเงาจะได้บานยาว เท่าเคาเตอร์อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของอยู่ด้านหลัง ติดกันเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Box มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ มีกระจกเทมเปอร์กั้นให้เรียบร้อย พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างเลยนะครับ ด้วยพื้นที่ที่กว้างทำให้สามารถแยกอ่างอาบน้ำกับพื้นที่ยืนอาบน้ำออกจากกันได้ ไม่ต้องยืนอาบน้ำในอ่าง ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower ที่มีระบบ Thermostat ซึ่งจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ ขยับมาดู 2 Bedroom กับบ้างกับขนาดห้อง 86 ตารางเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นอีกห้องที่น่าสนใจและมีรายละเอียดแบบจัดเต็มไม่แพ้กันเลย เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าที่ Built-in ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าไว้ให้เต็มความสูงฝ้าเพดาน ในขณะที่ห้องครัวก็มาพร้อมชุดครัวและสุขภัณฑ์ระดับ Hi-Brand ทุกชิ้น เช่น เตาไฟฟ้า 4 หัว และเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, เตาอบ ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in ที่เชื่อว่าแทบจะไม่มีโครงการไหนจัดมาเต็มที่ขนาดนี้แน่นอน รวมถึง Island Counter ในห้องครัวก็ติดตั้งมาให้พร้อมเช่นกัน ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ให้มาพร้อมกับห้องทั้ง ตู้เย็นตัว Top ของ Samsung เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าของ Teka ที่จัดไว้ในตู้ Built-in มาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยสบายตา เครื่องปรับอากาศภายในห้องทุกห้องของโครงการเป็นแบบ Ceiling Concealed Type โดยออกแบบให้มีการเติมอากาศ (Fresh Air Intake) ทำให้อากาศภายในมีการหมุนเวียนตลอดเวลา เรียกได้ว่าเครื่องใช้ที่จำเป็นส่วนใหญ่ทางโครงการก็จัดการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเตรียมไว้ให้แล้ว แปลนห้อง 2 ห้องนอน Type B1 ขนาด 86 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนจะเข้าไปส่วน Living Area ด้านใน คล้ายๆ กับห้อง Type A1 ด้านหน้าประตูห้อง โครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของกระจุกกระจิก ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของหน้าประตูห้อง ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ชุดครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โครงการจัดมาให้ครบครันเลยนะครับ ท็อปเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินอ่อนสีขาว ห้องนี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัวของ Küppersbusch Island ที่อยู่ในส่วนครัวโครงการวางเก้าอี้ไว้เหมือนเป็นโต๊ะทานอาหารเล็กๆ ด้านล่างจะเป็นจุดวาง เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์ โครงการจัดมาให้อย่างครบครัน เครื่องซักผ้าจะมีตู้เก็บอย่างอย่างมิดชิด ด้านบนเป็นตู้ลอยเก็บของ พื้นที่ห้องนั่งเล่นภายในห้องกว้างขว้าง เชื่อมต่อกับบริเวณครัวได้อย่างลงตัว บริเวณนี้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดีด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงเต็มเพดาน (Full Height) 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร บริเวณระเบียงจัดแบ่งพื้นที่สำหรับแขวน Compressor แอร์ พร้อมระแนงปิดไว้อย่างสวยงามดีทีเดียว และที่สำคัญพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่เห็นไม่ได้นับรวมกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ว่ากันง่ายๆ คือ ทางโครงการไม่ได้คิดพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่ขาย ซึ่งต่างจากโครงการอื่นๆ ที่จะนับรวมพื้นที่ทั้งหมดรวมระเบียงไว้ในราคาขายด้วย ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าอยู่ในระยะที่ดีเลยนะครับ ไม่ใกล้จนเกินไป โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านหลังโซฟาจะมีโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง โต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่วางอยู่หลังโซฟาของส่วน Living Area ออกจาก Living Area มาจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ คอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน ประตูกั้นระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 3 ตอน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง Highlight ของห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom นี้เป็นห้องในตำแหน่งห้องมุม ทำให้ Master Bedroom สามารถ Take View ได้เต็มตาด้วยกระจกบาน Full Height แบบเข้ามุมภายในห้อง หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ในขนาดกำลังดี ขณะเดียวกันภายในห้องน้ำก็ตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยกระเบื้อง Marble Pocelain หรูหรา สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็น Luxury Brand จากยุโรปที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมอ่างอาบน้ำในดีไซน์เรียบหรูมีสไตล์ จาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องแรกด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำเล็ก ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน คล้ายๆ กับห้องน้ำ Type A1 สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch เช่นกันครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ เคาเตอร์อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียง 5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนเล็กจะเป็นบาน Fix บานใหญ่สูงถึงเพดานเลยนะครับ ด้านปลายเตียงมีที่พอให้เดินได้ ถ้าจะติดทีวีไว้ในห้องนอนเล็กด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนครับ ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้าบานสูงมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ แอร์แบบฝังฝ้าในห้องนอนเล็ก ด้านในสุดจะเป็นห้อง Master Bedroom พื้นที่ในห้อง Master Bedroom ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ โครงการวางเตียง 6 ฟุต King Size มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้อีกครับ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นหน้าต่างเข้ามุมสูงถึงเพดาน ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีได้ ข้างเตียงอีกด้านโครงการจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ และชั้นวางของไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ หน้าทางเข้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เข้ามาด้านในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ โครงการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Villeroy & Boch มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ทำให้มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกเทมเปอร์กั้น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นอ่าง อาบน้ำ วางอยู่ฝั่งซ้ายมือ บริเวณอ่างอาบน้ำและใน Shower Box จะมีหน้าต่างไว้นอนแช่น้ำชมวิวใจกลางเมือง ฝั่งตรงข้ามอ่างอาบน้ำ จะเป็น Shower Box มาพร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower Click to play ถ้าจะพูดถึง Highlight / จุดเด่นของวัสดุ สุขภัณฑ์เครื่องใช้ในโครงการแล้ว ต้องบอกว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยที่บรรยายได้ไม่รู้จักจบกันแน่นอน ทั้งเรื่อง Digital Door Lock ของ Sumsung, Video Door Phone ติดต่อสื่อสารกับ Front Desk, ประตูทางเข้าห้องสูง 2.6 เมตร พร้อม Door Seal และ Rubber Door Seal เพื่อกรองฝุ่นละอองและเสียงรบกวน ฯลฯ เพราะทางโครงการตั้งใจคัดเลือกทุกรายละเอียดให้สมกับความเป็นคอนโดในระดับ Super Luxury ในขณะที่ราคาขายเปิดกันมาแบบสมน้ำสมเนื้อ คุ้มค่าการลงทุนที่สุดในทำเลทองหล่อแบบนี้ ซึ่งนอกจากแบบห้องที่ยกตัวอย่างมาให้ดูกันในครั้งนี้แล้ว ทางโครงการยังมีแบบห้องให้เลือกอีกมาก ทั้งแบบ 2 Bedroom, 3 Bedroom, Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์ไลฟสไตล์และความต้องการที่ต่างกันของลูกค้า สำหรับราคาเริ่มต้นที่ทางโครงการเปิดมาที่ 9.7 ล้านบาทนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับ Spec และสิ่งที่จะได้รับ ทำให้โครงการ Laviq Sukhumvit 57 มีศักยภาพน่าสนใจทั้งในด้านการลงทุนเพื่อเกร็งกำไร และซื้อไว้สำหรับอาศัยอยู่เอง หรือปล่อยเช่า สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับ สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Sale Gallery ได้ ณ ที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะมีงาน Show Suites Preview ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน นี้ หรือต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.laviq.com