Tag : LAVIQ Sukhumvit 57

3 ผลลัพธ์
“เรียลแอสเสทฯ”เปิดตัวโครงการ AESTIQ  Thonglor  คอนโดมิเนียมแบบ Ultimate  Luxury มูลค่ารวม 4,200 ล้านบาท

“เรียลแอสเสทฯ”เปิดตัวโครงการ AESTIQ Thonglor คอนโดมิเนียมแบบ Ultimate Luxury มูลค่ารวม 4,200 ล้านบาท

  “เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์” ต่อยอดความสำเร็จของ LAVIQ Sukhumvit 57 เดินหน้าปั้นแบรนด์ Luxury ใหม่ “AESTIQ Thonglor” คอนโดมิเนียมแบบ Ultimate Luxury เพื่อเป็น Iconic Landmark ใหม่บนทำเลทองหล่อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Reflection of you” สุนทรียะที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ มูลค่ารวม 4,200 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนทั้งชาวไทยและต่างชาติ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้ประกอบการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในไพร์มโลเคชั่นทั่วกรุงเทพฯ กว่า 7 ปีที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนประสบความสำเร็จสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ในทุกกลุ่มโปรดักส์มากกว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 12,800 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมเปิดตัวโครงการ AESTIQ Thonglor คอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury มูลค่าโครงการรวม 4,200 ล้านบาท ในทำเลศักยภาพบนถนนทองหล่อ สุดยอดทำเลพักอาศัยในฝันของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็น Young Successor ทำเลพักอาศัยที่สะท้อนความเป็นตัวตนที่สมบูรณ์แบบและความสุนทรียะของผู้พักอาศัย ทั้งกลุ่มชาวไทยและต่างชาติ ฉีกแนวการใช้ชีวิตแบบเดิมด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ล้ำหน้าและทันสมัย ดึงจุดแข็ง Luxury Car Sharing Service เพื่อรองรับโลกในอนาคตอย่างยั่งยืน เพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแหล่ง ช้อปปิ้ง ชั้นดี อย่าง The Em District เมืองหลวงของนักช้อป ที่รวบรวม Flagship store ของ Super Brand ชั้นนำระดับโลกไว้ที่นี่ ซึ่งกำหนดเปิดขายโครงการในช่วงเดือน กันยายน นี้ ณ สำนักงานขายโครงการ นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเน้นให้ความสำคัญในทุกๆด้าน ทั้งเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการและการออกแบบโครงการที่แตกต่างไปจากคู่แข่ง ด้านคุณภาพที่เหนือกว่า การออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียด มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น การเลือกวัสดุคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม รวมถึงการมีพันธมิตรทีมออกแบบโดยทีมสถาปนิกและบริษัทออกแบบชั้นนำของประเทศ ทำให้ทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนานั้นประสบความสำเร็จ โดยในส่วนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของเรียลแอสเสทนั้น หลังจากประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ ลาวีค สุขุมวิท 57 คอนโดมิเนียมระดับ Luxury โครงการแรกที่มีมูลค่ารวมกว่า 4,120 ล้านบาท บริษัทฯ จึงต่อยอดความสำเร็จด้วยการลงทุนพัฒนาตัวโครงการ AESTIQ Thonglor คอนโดมิเนียมแบบ Ultimate Luxury มูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท เพื่อสร้าง Iconic Landmark แห่งใหม่บนทำเลทองหล่อ AESTIQ เกิดมาจากการผสานคำระหว่าง “Aesthetic” (สุนทรียภาพ) กับ “Unique” (ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว) จนกลายมาเป็นแนวคิดของโครงการคือ “A Reflection of you” เพื่อเน้นย้ำสุนทรียภาพในการใช้ชีวิตสำหรับคนรุ่นใหม่ในเมืองผ่านแกนหลักทั้งหมด 5 แกน ดังนี้   Nature – ธรรมชาติเป็นหนึ่งในแกนที่นำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบโครงการ เพื่อต้องการผสมผสานความเป็นธรรมชาติให้แทรกซึมไปตามการใช้ชีวิตประจำวัน ผ่านการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง หรือ โครงสร้างตึกแบบ Organic Form และทางโครงการได้นำทรัพยากรธรรมชาติอย่าง “ลม” มาใช้ประโยชน์ในการออกแบบโครงการ เพื่อช่วยในการหมุนเวียนอากาศให้เข้ามายังพื้นที่ส่วนกลางและบริเวณที่พักอาศัย   Iconic - โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเรือธงใหม่ของบริษัทเพื่อต้องการปักธงในการออกแบบตัวอาคารเพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในย่านทองหล่อ ที่ใครๆจะต้องจ้องติดตามและกล่าวถึง   Future - ด้วยภาพลักษณ์การออกแบบสถาปัตยกรรมโครงการ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง เป็นการสะท้อนถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ภายในโครงการเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Private Lift และระบบที่จอดรถยนต์แบบ Auto Parking   Sustainable - ความยั่งยืน ด้วยภาพลักษณ์ของโครงการที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ สภาพแวดล้อมและเทคโนโลยี ดังนั้น โครงการ AESTIQ Thonglor จึงได้นำรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เข้ามาใช้เป็น car sharing service ภายในโครงการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างยั่งยืนและลดการปล่อยมลพิษ   Fun - ความสนุกสนานในการใช้ชีวิตในย่านทองหล่อ คงหนีไม่พ้นกับการได้ลองอะไรใหม่ๆในย่านที่มีแต่เรื่องตี่นเต้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน การพบปะผู้คน การได้ลองร้านอาหารสุดชิคและแชร์ลงบน Social Media หรือการ Hang Out สบายๆในร้านกาแฟ ที่มีการออกแบบและตกแต่งภายในอย่างมีศิลปะ หรือการไปสัมผัส แสง สี เสียง ในยามค่ำคืน กลายเป็นแกนหลักในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสนุกสนานได้ หากต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองและอยากมีพื้นที่ส่วนตัวในการสังสรรค์ “ผมเชื่อมั่นว่า โครงการ AESTIQ Thonglor ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ยกระดับทุกๆด้านในการใช้ชีวิตในเมือง ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งของโครงการ การออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว และมีความล้ำสมัยบนทำเลทองหล่อ โดยมาจากการนำแกนหลักทั้ง 5 แกนที่กล่าวมาข้างต้นนำมาใช้ในการเชื่อมโยงเข้าหากันและออกแบบได้อย่างลงตัว เพื่อตอบโจทย์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่กล้าที่จะตัดสินใจในการเลือกรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเราเองกำหนด เพราะสุดท้ายการตัดสินใจเหล่านี้ก็จะสะท้อนกลับเพื่อหล่อหลอมตัวตนของคุณที่แท้จริงออกมาในแบบ A Reflection of you” นายณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานกลยุทธ์ธุรกิจ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการ AESTIQ Thonglor ว่า โครงการนี้ถือเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Ultimate Luxury บนทำเลศักยภาพย่านทองหล่อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Reflection of you” สุนทรียะที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 – 3 – 88.9 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง 40 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 203 ยูนิต จอดรถได้ 220 คัน โดยเสนอยูนิตพิเศษในราคาเริ่มต้นเพียง 8.99 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณตารางเมตรละ 269,000 บาท โครงการพัฒนายูนิตขึ้นมาให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33-52 ตารางเมตร จำนวน 127 ยูนิต หรือคิดเป็นสัดส่วน 64 % , แบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 76 – 119 ตารางเมตร จำนวน 56 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 25 % ,แบบ 3 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 131-158 ตารางเมตร จำนวน 18 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 10 % และห้องเพนท์เฮ้าส์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 289-297 ตารางเมตร จำนวน 2 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 1 % โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือน พฤษภาคม 2562 และจะแล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคม 2564   ทั้งนี้ จุดเด่นของโครงการอยู่ที่ การออกแบบอาคารให้มีรูปทรง Façade ดูโค้งและปิดกั้นด้วยกระจก Curtain Wall ในด้านฝั่งถนนทองหล่อ ที่สะท้อนรูปทรงอาคารเพื่อสร้าง Iconic Landmark แห่งใหม่ที่สะท้อนความเป็น Futuristic ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลกแห่งอนาคต แห่งแรกในประเทศไทย และ ในทุกห้องพักของโครงการมี Private Lift ในทุกยูนิต เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่หรูหราของสังคมเมือง โดยลูกค้าสามารถขึ้นมาถึงห้องพักของตนเองได้โดยไม่ต้องเดินผ่านพื้นที่ Corridor ส่วนกลางในแต่ละชั้นแต่อย่างใด   นอกจากนี้ ภายในโครงการได้จัดให้มีระบบจอดรถถึง 2 ระบบ ทั้งแบบ Auto Parking และ Conventional Parking ในสัดส่วนมากกว่า 100%ของห้องพัก รวมทั้งในส่วนของห้องพัก floorplan ได้ถูกออกแบบให้เป็น Cluster ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้จะเกิดห้องมุมในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในเรื่องของมุมมองจากภายในห้องพักที่กว้างและเป็นการเปิดรับการระบายอากาศธรรมชาติให้การอยู่อาศัยนั้นมีความแตกต่างจากการพักอาศัยภายในคอนโดมิเนียมทั่วไป อีกทั้งเพื่อเพิ่มมุมมองจากภายในอาคารการออกแบบจึงให้ความสำคัญกับขนาดและตำแหน่งของช่องกระจกมากเป็นพิเศษ โดยออกแบบให้ฝ้าเพดานภายในสูงสุด 3 เมตร และเน้นพื้นที่กระจกบริเวณหน้ากว้างของห้องพัก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถชื่นชมทัศนียภาพที่งดงามของทิวทิศน์เมืองได้เต็มที่ที่สุด   โดดเด่นด้วย Reflection Pool : “สระว่ายน้ำ” ของโครงการอยู่บนชั้นที่ 30 ของอาคาร ซึ่งถือว่าเป็นชั้นที่สูงมาก เพียงพอที่จะชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของ Bangkok Skyline โดยที่สระถูกออกแบบให้เป็น Infinity - Edge Pool เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาตินั้นได้เต็มที่ และมีความยาวสระต่อเนื่องถึง 25 เมตรเหมาะสำหรับผู้ที่รักในการว่ายน้ำออกกำลังกายอีกด้วย โดยออกแบบให้ธรรมชาติแทรกซึมไปในทุกส่วนของพื้นที่แบบ Organic Form และเลือกใช้วัสดุที่สะท้อนความเป็น Reflective เพื่อสร้างความโดดเด่นอีกด้วย   Step Garden :“ บันได” เป็น Main Vertical Circulation ที่สำคัญของโครงการ ซึ่งโครงการ AESTIQ Thonglor นี้ได้นำแนวคิดที่จะนำ Terrace มา Integrate ใช้กับบันได เพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป กลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถเข้ามาใช้งานได้มากขึ้น อีกทั้ง Step Garden นี้ ยังตั้งอยู่ด้านหน้าของโครงการ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมานั่งพักผ่อนในบรรยากาศ Cityscape ของถนนทองหล่อได้อีกด้วย   Sky Private Garden for Penthouse บริเวณชั้นบนสุดของโครงการ ถูกออกแบบเป็นพิเศษและเพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับห้องเพนท์เฮ้าส์โดยเฉพาะ ที่สามารถเชื่อมต่อได้ด้วยบันไดภายในห้องพักและมีส่วนของ Double Space ที่เชื่อมต่อชั้นบนและชั้นล่าง รวมทั้งมี “Sky Private Garden” พื้นที่ส่วนตัวสุดพิเศษสำหรับห้องเพนท์เฮ้าส์เท่านั้นด้วย   ยิ่งไปกว่านั้น ภายในโครงการยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ที่จอดรถ Super Car & Super Bike and Bicycle , Luxury Car Sharing Service , Shuttle Service , EV Charging Station , Golf & Bike Simulator , Private Theater , Private Onzen , Panoramic Gym , Sky Social Club ฯลฯ รวมทั้งยังมีบริการเสริมอื่น ๆที่ดูแลโดย Concierge Service คอยให้บริการเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย   “เราเชื่อมั่นในทำเลที่ตั้งและคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาโครงการที่แตกต่างจากคู่แข่งจะสนับสนุนให้โครงการ AESTIQ Thonglor ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเช่นเดิม เพราะเราใส่ใจลงรายละเอียดในการออกแบบอาคารทั้งภายในและภายนอกเพื่อสะท้อนถึงความเป็นตัวตนที่งดงามแตกต่าง สะท้อนความทันสมัยและรสนิยม นอกจากนี้ยังเติมเต็มความต้องการในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเสริมพิเศษต่างๆ อีกมากมาย ปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ซื้ออยู่เองและเพื่อการลงทุนได้อย่างแน่นอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.aestiq.com หรือ โทร 1232”
LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

“ทองหล่อ”  หนึ่งในย่านไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนเมือง ซึ่งใครก็รู้กันดีว่าเป็นทำเลระดับ Premium ที่ทุกคนต่างจับตามอง เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช็อปปิ้งไลฟ์สไตล์ และที่แฮงค์เอ้าท์สุดเก๋ไม่เหมือนใคร รวมทั้งเป็นย่านที่มีที่พักอาศัยในระดับ Luxury รวมกันอยู่มากมาย ศักยภาพของทำเลจึงได้รับความสนใจทุกครั้งที่มีโครงการใหม่ๆ เปิดตัวขึ้นมา ล่าสุด Real Asset ได้เลือกทำเลดีในซอยสุขุมวิท 57 เป็นที่ตั้งโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ภายใต้ชื่อ “Laviq Sukhumvit 57” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยหรูหรา มีสไตล์ และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายแบบครบวงจร   Laviq Sukhumvit 57 มีข้อได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้งซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อไม่เกิน 300 เมตร หรือเดินเพียง 3 นาที ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว จึงแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในทำเลปากซอยทองหล่อเลยล่ะ และด้วยความที่อยู่ถัดเข้ามาในซอยสุขุมวิท 57 เล็กน้อยซึ่งเป็นซอยตัน จึงช่วยเพิ่มความเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น นอกจากระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS แล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เนื่องจากถนนหนทางในย่านนี้เชื่อมโยงถึงกันหลายสาย ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนพระราม 4 ทำให้มีเส้นทางให้เลือกเดินทางเข้าออกเมืองได้หลายทางมาก แผนที่โครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 300 เมตร ลงรถไฟฟ้าแล้วเดินเลยซอยทองหล่อมานิดเดียวก็ถึงซอยสุขุมวิท 57 แล้วครับ ซอยสุขุมวิท 57 จุดสังเกตง่ายมากๆ คือจะมีโรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit อยู่หน้าปากซอย บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 57 จากบอกซอยเดินเข้ามาไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วครับ ขณะเดียวกันรอบๆ โครงการก็มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ เดินเข้ามาที่ซอยทองหล่อแล้วก็เลือกได้เต็มที่ตั้งแต่ Street Food ร้านอาหารชื่อดัง ห้องอาหารในโรงแรม ร้านกาแฟสุดชิค รวมไปถึง Community Mall ที่มีให้เลือกแบบไม่ซ้ำสไตล์เลย เช่น J Avanue, Arena 10, Market Place, The Common, Maze ทองหล่อ ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมร้านแบบ Stand Alone ดังๆ อีกเพียบ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เพราะรวมไว้ครบทั้งแหล่งกิน เที่ยว ช๊อป แถมด้วยแหล่งแฮงค์เอ้าท์ แบบไม่ต้องออกไปไหนให้ไกลบ้านเลย J Avanue Market Place The Common Maze ทองหล่อ “Glamorous : Inspired by Fendi Casa” ความพิเศษสุดของ Laviq Sukhumvit 57 คือ ดีไซน์การออกแบบที่หรูหรา และความร่วมมือสร้างสรรค์โดย Fendi Casa จาก Italy ซึ่งเป็น High Brand ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Laviq จะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Fendi Casa ทั้งหมด ซึ่งเราจะเห็นตัวอย่างส่วนหนึ่งได้จากใน Sale Office ที่จำลองการตกแต่งบริเวณ Lobby ไว้อย่างหรูหราอลังการเลยทีเดียว นอกจากนี้การดีไซน์ตกแต่งตัวอาคารทางโครงการก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน Exterior ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ กระจก Full High Glass Window รอบตัวอาคารที่นอกจากให้ความสวยงามหรูหราแล้ว ยังช่วยให้แต่ละห้องสามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ ตัวอาคารออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรหรูหราดึงดูดสายตามากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของทองหล่อเลยก็ว่าได้ โครงการ Laviq Sukhumvit 57 เป็นอาคาร High Rise สูง 33 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมไว้ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่สวนสวยบริเวณด้านหน้าที่มีระยะกว่า 30 เมตรก่อนถึงตัวอาคารซึ่งช่วยสร้างความร่มรื่น และเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ในขณะที่พื้นที่บริเวณ Lobby มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่สวนภายนอก จัดสรรบริเวณส่วนหนึ่งเป็น Outdoor Library เพื่อเพิ่มการใช้งานพื้นที่บริเวณชั้นล่างได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกัน Facility ส่วนกลางก็ถูกจัดสรรไว้อย่างเต็มที่ เช่น Infinity Edge Lap Pool with Ozone System & Kids Pook, Fitness Studio & Bike Simulator, Yoga Room, Golf Simulator Room, Rock Climbing Station for Kids, Steam Room, Executive Lounge & Meeting Room, Library, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ซึ่งส่วนใหญ่ถูกรวบรวมไว้บนชั้น 29-30 ในส่วนของพื้นที่จอดรถ ทางโครงการจัดสรรมาให้แบบเต็มพื้นที่ สามารถรองรับได้ 100% เลยที่เดียว แถมยังมี Super Car & Super Bike Parking Space และ Bicycle Garage ไว้เอาใจคนรักรถโดยเฉพาะ รวมไปถึง Electric Vehicle Charging Station เพื่อรองรับยานยนต์แห่งอนาคต และพื้นที่สำหรับคนขับรถก็มี Separated Driver Lounge มาให้พร้อมสรรพ ที่ชั้น G เมื่อเข้าสู่โครงการแล้วจะเห็นสวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าโครงการ เรียกว่า Sanctuary Hills ก่อนเข้าสู่ด้านในอาคารจะมี Lobby และ Library ที่มองออกมาเห็นสวนด้านนอก ที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-5 ในช่องจอด 204 คัน แต่ถ้ารวมจอดซ้อนคันแล้วจะได้ 235 คัน ครบ 100% พอดี ทางเข้าโครงการ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปถึงชั้น 24 เฉลี่ย 11 ยูนิตต่อชั้น สวนสีเขียวหน้าโครงการ พื้นที่สีเขียวบริเวณชั้น 6 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย สวนสีเขียวบนชั้น 6 ส่วนชั้น 25-28 จะมี 9 ยูนิตต่อชั้น ขึ้นมาถึง 29 จะเป็นส่วนของ Facility หลักของโครงการทั้งสระว่ายน้ำที่เป็นรูปตัว L ยาว 36 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร นอกจากนั้นยังมี Rock Climbing Station for Kids, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ชั้น 30 ก็ยังเป็นของ Facility อยู่นะครับ ที่ชั้น 30 จะมี Fitness Studio, Yoga Room, Golf Simulator Room, Executive Lounge & Meeting Room ซึ่งจะมีบรรไดเดินเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 29 ได้เลย โมเดลจำลอง Facility บนชั้น 29 บันไดเดินเชื่อมระหว่างชั้น 29-30 บรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำรูปตัว L บนชั้น 29 ชั้น 31 จะกลับมาเป็นห้องพักอาศัยอีกครั้ง จะมี 6 ยูนิต ชั้น 32 จะเป็นห้อง Penthouse ขนาด 3 ห้องนอน อยู่เพียง 2 ยูนิต ชั้นบนสุดที่ชั้น 33 จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการคือห้องขนาด 4 ห้องนอน อยู่เพียงห้องเดียวบนชั้น 33 เรื่องบริการความสะดวกสบายสำหรับลูกบ้าน ทางโครงการก็ให้ความใส่ใจไม่แพ้กัน เช่น One-card access for all areas โดยไม่ต้องพกบัตร/กุญแจหลายอัน รวมถึงบริการ Concierge & Door Man บริการ Direct mail Delivery Service เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการจองร้านอาหารต่างๆ และบริการซัก-อบ-รีด นอกจากนี้ยังมีบริการ Shuttle Service ด้วยรถหรูรับส่งในจุดที่กำหนด เพื่อวันสบายๆ ที่ไม่อยากใช้รถส่วนตัว เท่าที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ก็เชื่อได้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยได้รอบด้าน ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหลแม้อยู่ในพื้นที่โครงการ “Exquisite Life Experience” ด้วยคอนเซปต์ “Exquisite Life Experience” ประสบการณ์ชีวิตที่สวยงามเหนือระดับ ทางโครงการจึงใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกเหนือจากจุดเด่นหลายๆ ข้อที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว การเปิดประสบการณ์ที่อยู่อาศัยที่หรูหราให้เป็นมากกว่าบ้านทาง Real Asset และผู้ออกแบบ ได้ลงรายละเอียด ใส่ความพิถีพิถันตั้งแต่การจัดวางพื้นที่ การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมในทุกๆ ตารางนิ้วของห้องชุดให้เป็นเหมือนงาน Master Piece เฉพาะตัว 42 ตารางเมตร คือห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ห้องแบบ 1 Bedroom ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน บนพื้นที่ใช้สอยที่จัดสรรมาแล้วอย่างดี ความสูงแบบ Floor to Floor สูงถึง 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร กระจกทุกบานในห้องเป็นแบบ Full Height ทำให้สามารถ Take View ด้านนอกได้อย่างเต็มตา เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องชิ้นหลักๆ ทางโครงการ Built-in มาให้เสร็จสรรพ เช่น ชุดครัว Top ด้วยหิน Quartz พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง ตู้เย็น, เตาไฟฟ้า 2 หัว + เครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, ไมโครเวฟแบบ Free Stand มีตู้ Built-in สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของบริเวณประตูทางเข้าห้องมาให้ด้วย และเพิ่มความใส่ใจด้วย ตู้ Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าพร้อมเก็บอุปกรณ์ซักรีดไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วน ในขณะที่ภายในห้องน้ำก็จัดเต็มด้วยสุขภัณฑ์ระดับ Luxury Brand จากยุโรปนำโดย Villeroy & Boch และ Gessi เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทุกส่วนเลยทีเดียว แปลนห้อง 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 42 ตารางเมตร ที่นี่จะใช้ Digital Door Lock ของ Samsung ทุกห้องนะครับ เข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านขวามือโครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเครื่องผ้าไว้ติดกัน หน้าบานเป็น High-Gross สีขาว ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัว Built-in พร้อมโต๊ะทาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวโครงการก็จัดเต็มมาให้เลยนะครับ ทั้งตู้เย็น ส่วนท็อปครัวเป็นหิน Quartz เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Küppersbusch มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดี๋ยวกัน ใกล้ๆ กันเป็นซิงค์ล้างจานแบบหลุม โต๊ะทานอาหารจะเชื่อมต่อกับเค้าเตอร์ครัว ทำให้เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะเป็นรูปตัว U ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของและจุดวางไมโครเวฟ เลยเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าห่างเลยนะครับ สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้สบายเลย โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝั่งชั้นวางทีวีโครงการ Built-in ชั้นวางเล็กๆ แบบใช้ทีวีติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แอร์ที่นี่จะให้แบบฝังฝ้านะครับ บริเวณ Living Area มีให้ 1 จุด ติดกับ Living Area จะมีระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน บานสูงถึงเพดาน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องลายไม้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง เข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งยังมีที่เหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่สูงจรดเพดาน มีบานเล็กๆ เป็นกระทุ้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะวางทีวี หรือถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากขึ้น ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in เป็นตู้เสื้อ ด้านบนเป็นแอร์แบบฝังฝ้า เข้ามาถึงห้องน้ำ จะตกแต่งด้วย Marble Porcelain สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ท็อป ท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะเป็นหินจริง มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ กระจกเงาจะได้บานยาว เท่าเคาเตอร์อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของอยู่ด้านหลัง ติดกันเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Box มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ มีกระจกเทมเปอร์กั้นให้เรียบร้อย พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างเลยนะครับ ด้วยพื้นที่ที่กว้างทำให้สามารถแยกอ่างอาบน้ำกับพื้นที่ยืนอาบน้ำออกจากกันได้ ไม่ต้องยืนอาบน้ำในอ่าง ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower ที่มีระบบ Thermostat ซึ่งจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ ขยับมาดู 2 Bedroom กับบ้างกับขนาดห้อง 86 ตารางเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นอีกห้องที่น่าสนใจและมีรายละเอียดแบบจัดเต็มไม่แพ้กันเลย เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าที่ Built-in ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าไว้ให้เต็มความสูงฝ้าเพดาน ในขณะที่ห้องครัวก็มาพร้อมชุดครัวและสุขภัณฑ์ระดับ Hi-Brand ทุกชิ้น เช่น เตาไฟฟ้า 4 หัว และเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, เตาอบ ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in ที่เชื่อว่าแทบจะไม่มีโครงการไหนจัดมาเต็มที่ขนาดนี้แน่นอน รวมถึง Island Counter ในห้องครัวก็ติดตั้งมาให้พร้อมเช่นกัน ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ให้มาพร้อมกับห้องทั้ง ตู้เย็นตัว Top ของ Samsung เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าของ Teka ที่จัดไว้ในตู้ Built-in มาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยสบายตา เครื่องปรับอากาศภายในห้องทุกห้องของโครงการเป็นแบบ Ceiling Concealed Type โดยออกแบบให้มีการเติมอากาศ (Fresh Air Intake) ทำให้อากาศภายในมีการหมุนเวียนตลอดเวลา เรียกได้ว่าเครื่องใช้ที่จำเป็นส่วนใหญ่ทางโครงการก็จัดการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเตรียมไว้ให้แล้ว แปลนห้อง 2 ห้องนอน Type B1 ขนาด 86 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนจะเข้าไปส่วน Living Area ด้านใน คล้ายๆ กับห้อง Type A1 ด้านหน้าประตูห้อง โครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของกระจุกกระจิก ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของหน้าประตูห้อง ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ชุดครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โครงการจัดมาให้ครบครันเลยนะครับ ท็อปเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินอ่อนสีขาว ห้องนี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัวของ Küppersbusch Island ที่อยู่ในส่วนครัวโครงการวางเก้าอี้ไว้เหมือนเป็นโต๊ะทานอาหารเล็กๆ ด้านล่างจะเป็นจุดวาง เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์ โครงการจัดมาให้อย่างครบครัน เครื่องซักผ้าจะมีตู้เก็บอย่างอย่างมิดชิด ด้านบนเป็นตู้ลอยเก็บของ พื้นที่ห้องนั่งเล่นภายในห้องกว้างขว้าง เชื่อมต่อกับบริเวณครัวได้อย่างลงตัว บริเวณนี้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดีด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงเต็มเพดาน (Full Height) 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร บริเวณระเบียงจัดแบ่งพื้นที่สำหรับแขวน Compressor แอร์ พร้อมระแนงปิดไว้อย่างสวยงามดีทีเดียว และที่สำคัญพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่เห็นไม่ได้นับรวมกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ว่ากันง่ายๆ คือ ทางโครงการไม่ได้คิดพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่ขาย ซึ่งต่างจากโครงการอื่นๆ ที่จะนับรวมพื้นที่ทั้งหมดรวมระเบียงไว้ในราคาขายด้วย ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าอยู่ในระยะที่ดีเลยนะครับ ไม่ใกล้จนเกินไป โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านหลังโซฟาจะมีโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง โต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่วางอยู่หลังโซฟาของส่วน Living Area ออกจาก Living Area มาจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ คอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน ประตูกั้นระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 3 ตอน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง   Highlight ของห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom นี้เป็นห้องในตำแหน่งห้องมุม ทำให้ Master Bedroom สามารถ Take View ได้เต็มตาด้วยกระจกบาน Full Height แบบเข้ามุมภายในห้อง หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ในขนาดกำลังดี ขณะเดียวกันภายในห้องน้ำก็ตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยกระเบื้อง Marble Pocelain หรูหรา สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็น Luxury Brand จากยุโรปที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมอ่างอาบน้ำในดีไซน์เรียบหรูมีสไตล์ จาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องแรกด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำเล็ก ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน คล้ายๆ กับห้องน้ำ Type A1 สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch เช่นกันครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ เคาเตอร์อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียง 5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนเล็กจะเป็นบาน Fix บานใหญ่สูงถึงเพดานเลยนะครับ ด้านปลายเตียงมีที่พอให้เดินได้ ถ้าจะติดทีวีไว้ในห้องนอนเล็กด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนครับ ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้าบานสูงมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ แอร์แบบฝังฝ้าในห้องนอนเล็ก ด้านในสุดจะเป็นห้อง Master Bedroom พื้นที่ในห้อง Master Bedroom ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ โครงการวางเตียง 6 ฟุต King Size มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้อีกครับ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นหน้าต่างเข้ามุมสูงถึงเพดาน ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีได้ ข้างเตียงอีกด้านโครงการจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ และชั้นวางของไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ หน้าทางเข้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เข้ามาด้านในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ โครงการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Villeroy & Boch มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ทำให้มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกเทมเปอร์กั้น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นอ่าง อาบน้ำ วางอยู่ฝั่งซ้ายมือ บริเวณอ่างอาบน้ำและใน Shower Box จะมีหน้าต่างไว้นอนแช่น้ำชมวิวใจกลางเมือง ฝั่งตรงข้ามอ่างอาบน้ำ จะเป็น Shower Box มาพร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower     Click to play ถ้าจะพูดถึง Highlight / จุดเด่นของวัสดุ สุขภัณฑ์เครื่องใช้ในโครงการแล้ว ต้องบอกว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยที่บรรยายได้ไม่รู้จักจบกันแน่นอน ทั้งเรื่อง Digital Door Lock ของ Sumsung, Video Door Phone ติดต่อสื่อสารกับ Front Desk, ประตูทางเข้าห้องสูง 2.6 เมตร พร้อม Door Seal และ Rubber Door Seal เพื่อกรองฝุ่นละอองและเสียงรบกวน ฯลฯ เพราะทางโครงการตั้งใจคัดเลือกทุกรายละเอียดให้สมกับความเป็นคอนโดในระดับ Super Luxury ในขณะที่ราคาขายเปิดกันมาแบบสมน้ำสมเนื้อ คุ้มค่าการลงทุนที่สุดในทำเลทองหล่อแบบนี้ ซึ่งนอกจากแบบห้องที่ยกตัวอย่างมาให้ดูกันในครั้งนี้แล้ว ทางโครงการยังมีแบบห้องให้เลือกอีกมาก ทั้งแบบ 2 Bedroom, 3 Bedroom, Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์ไลฟสไตล์และความต้องการที่ต่างกันของลูกค้า สำหรับราคาเริ่มต้นที่ทางโครงการเปิดมาที่ 9.7 ล้านบาทนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับ Spec และสิ่งที่จะได้รับ ทำให้โครงการ Laviq Sukhumvit 57 มีศักยภาพน่าสนใจทั้งในด้านการลงทุนเพื่อเกร็งกำไร และซื้อไว้สำหรับอาศัยอยู่เอง หรือปล่อยเช่า สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับ สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Sale Gallery ได้ ณ ที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะมีงาน Show Suites Preview ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน นี้ หรือต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.laviq.com
LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 (ลาวีค สุขุมวิท 57) คอนโด High Rise ระดับ Luxury สูง 33 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 57 ใกล้รถ BTS ทองหล่อ และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง โครงการใหม่จาก Real Asset รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    9,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    Real Asset Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    235 ยูนิต ที่จอดรถ    235 คัน (ที่จอดซุปเปอร์คาร์ 8 คัน) คิดเป็น 100% (รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 1 - 65 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit Parklane Ekkamai J Avenue The Commons Rain Hill Camillian Hospital Samitivej Hospital Emquartier ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 42 – 45 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 79 - 91 ตารางเมตร 3 Bedroom  ขนาด 115 - 144 ตารางเมตร Duplex  ขนาด 92 ตารางเมตร Penthouse  ขนาด 244 - 357 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สนามเด็กเล่น ห้องสมุด และห้องประชุม สระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge Rock-Climbing สำหรับเด็ก ระเบียง Sky Deck ระเบียงจัดปาร์ตี้ ห้องสังสรรค์ Executive Lounge และห้องประชุม Simulator เล่นกอล์ฟ Simulator ปั่นจักรยาน สตูดิโอ ฟิตเนส ห้องโยคะ บริการ Front Desk Service และพนักงานต้อนรับ ที่จอดรถซุปเปอร์คาร์ และซุปเปอร์ไบค์ โรงจอดรถจักรยาน จุดชาร์จพลังงานยานยนต์ไฟฟ้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1232 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.laviq.com