ในอีกหลายปีข้างหน้า 20XX-XXXX รูปแบบการชีวิตเราจะถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความหมายของ Digital Life ในชีวิตประจำวัน คงจะไม่ได้เป็นแค่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น แต่สำหรับอนาคต Digital Life จะมาเป็นจุดเริ่มต้นของพื้นฐานความสำเร็จ ที่ไม่ใช่เพียงช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีกต่อไป แต่จะมาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในชีวิตที่พาคุณไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นการมองหาที่อยู่อาศัยสักที่หนึ่งที่ตอบสนอง Lifestyle และเข้าใจเทรนด์ของผู้อยู่อาศัย ก็คงเป็นสิ่งที่ควรมีไว้ครอบครองไม่แพ้โทรศัพท์มือถือ iPhone รุ่นใหม่เหมือนกัน!! “Life ลาดพร้าว” Live a Connected World คอนโดสูงระฟ้าที่สุดบนย่านห้าแยกลาดพร้าว เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดด้วยระบบ Digital Life ตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณสัมผัสโครงการ “One Step Connect” ใช้ชีวิตติดเทรนด์ ที่แทบจะไม่จำเป็นต้อง Move ไปไหนชีวิตก็ครบได้ ซึ่ง Project นี้เป็นการจอยเวนเจอร์ของ 2 บริษัทระดับแนวหน้าอย่าง APTHAI และ Mitsubishi Estate Group รังสรรค์ Project Life 2017 พร้อมยกระดับแบรนด์ Life ของที่นี่ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยภาพลักษณ์ที่เรียบหรู ลวดลายไม่เหมือนใคร และการมารวมตัวของนวัตกรรมเทคโนโลยี Living-Digital-Co Working สุดล้ำ เรียกได้ว่าชีวิตคุณจะ Move Successfully ทั้งเรื่องงาน และเรื่องชีวิตในแบบ Never Ending อย่างแน่นอน อย่างแรกลองดูรายละเอียดของโครงการคร่าวๆ กันก่อน Project details ชื่อโครงการ Life ลาดพร้าว (ไลฟ์ ลาดพร้าว) มูลค่าโครงการ 7,600 ล้านบาท จำนวนยูนิต & ที่จอดรถ 1,615 ยูนิต และร้านค้า 1 ร้าน จอดรถ 716 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 140,000 บาท / ตารางเมตร ผู้พัฒนาโครงการ คอนโดมิเนียมร่วมทุนโครงการที่ 9 ระหว่างบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป จากประเทศญี่ปุ่น (MITSUBISHI ESTATE GROUP หรือ MEC) ที่ตั้งโครงการ ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจัตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ขนาดพื้นที่โครงการ 7 ไร่ 0 งาน 71.4 ตารางวา (2,871.40 ตารางวา) การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หนึ่งก้าวถึงสถานี BTS ห้าแยกลาดพร้าว ใกล้สถานี MRT พหลโยธินเพียง 450 ม. ลักษณะโครงการ คอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 2 อาคาร (อาคาร A สูง 45 ชั้น และอาคาร B สูง 46 ชั้น)
ชั้น 1 เป็นโถงต้อนรับ, สำนักงานและห้องประชุมของนิติบุคคล, ร้านค้า, ห้องจดหมาย, ที่จอดรถ, ห้อง Generator และห้อง MDB
ชั้น 2-10 ที่จอดรถ
ชั้น 11 เป็นชั้นที่พักอาศัย, พื้นที่สวนสาธารณะ
ชั้น 12-44 สำหรับอาคาร A และ 12-45 สำหรับอาคาร B เป็นชั้นที่พักอาศัย
ชั้น 45 และ 46 เป็นพื้นที่จัดสวน, สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, ห้อง Steam ห้อง Sauna
ชั้นหลังคา เป็นพื้นที่จัดสวน, ห้องเครื่องลิฟต์และถังเก็บน้ำ ลักษณะห้องชุด Studio Type ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 26 - 29 ตารางเมตร (509 ยูนิต)
ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 35 ตารางเมตร (832 ยูนิต) Highlight
ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 48.5 - 75 ตารางเมตร (273 ยูนิต)
ห้องชุดแบบ Duplex room พื้นที่ประมาณ 355 ตารางเมตร (1 ยูนิต) สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องประชุม Portable Working Station ติดตั้งระบบ Digital เต็มรูปแบบเทคโนโลยี (Sound Dome) จอทัชสกรีน (Touchscreen) ตามจุดพื้นที่ส่วนกลาง, Wireless Phone Charger ที่ชาตแบบไร้สาย, Mirror Board และ Outdoor Facility ที่ครอบคลุมด้วยระบบ Wi-Fi ทั้งในและนอกโครงการ, Rooftop Iconic Infinity Lap Pool, Panoramic fitness, Room Sauna, Room Stream, Yoga Fly Facilities, Sky Working Space & Cocoon Space ออฟฟิศชิดขอบฟ้า และ สวนลอยฟ้า, อาคาร A ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว และอาคาร B ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด, Room Mail, Shop และระบบรักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมงรอบโครงการ ก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดการณ์ประมาณปี 2563 Map and Directions ก่อนที่จะพาไปดูหน้าตาโครงการ พามาสำรวจรอบๆ ของโครงการ Life ลาดพร้าว กันก่อนว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง รูปภาพจาก SkyscraperCity
ตัวโครงการ Life ลาดพร้าว ตั้งอยู่ติดกับถนนพหลโยธิน ตรงข้าม เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว และโรงเรียนหอวัง ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว ตัดผ่านหน้าโครงการระหว่างขาขึ้นกับขาลงพอดี ส่วนด้านข้างโครงการติดกับ Lotus ลาดพร้าว ใกล้ 7-Eleven 200 เมตร ถัดไปอีก 150 เมตร เป็น Union mall หาของกินง่ายมาก ถ้าเดินถัดไปอีก 100 เมตร ก็จะถึงรถไฟฟ้า MRT สถานี พหลโยธิน ยิ่งสะดวกเข้าไปอีก ซึ่งถ้าสถานีรถไฟฟ้า BTS ห้าแยกลาดพร้าว สร้างเสร็จปี63 พอดีกับคอนโดเลย ซึ่งจะเป็นตัวเชื่อมกับสถานี BTS หมอชิต ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางนั่งยิงยาวไปกลางเมืองได้สบายๆ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน แถมยังสามารถเดินข้ามไป เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว และโรงเรียน หอวัง ได้แบบไม่ถึง 100 เมตร รูปภาพจาก ไทยรัฐ
การเดินทางยังโครงการ Life ลาดพร้าว แนะนำให้ใช้การเดินทางรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีพหลโยธิน ออกประตูทางออก 4 จะขึ้นมาโผล่มาตรงหัวมุมห้าแยกลาดพร้าพอดี จากนั้นเดินขึ้นมาทาง Union Mall ประมาณ 450 เมตร โดยระหว่างทางเดินก็มีของกิน และร้านถ่ายรูปเยอะแยะ เดินชิวๆ มาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงโครงการแล้ว โดยระหว่าง MRT พหลโยธินกับโครงการ ตามทางก็มี ร้านอาหารน่ากินแบบนี้ด้วย “ร้าน ฝากท้อง จิ้มจุ่มหม้อเบ้อเร่อ” หม้อโคตรใหญ่ ให้โคตรเยอะ เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน หิวเมื่อไรก็แวะมารับรองอิ่มแน่นอน สำหรับคนที่เดินการเดินทางด้วยรถยนต์ ถ้ามาจากทางสี่แยกรัชโยธินจะค่อนข้างสะดวก เพราะโครงการอยู่ฝั่งขาเข้าเมือง ขับเลย Lotus ลาดพร้าว มาก็เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย ส่วนคนที่ขับมาทางจตุจักร หรือถนนลาดพร้าว จะต้องขับเลยโครงการไปกลับรถที่สี่แยกรัชโยธินเพื่อไปฝั่งตรงข้าม เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นั้นเอง Sale Gallery ของโครงการ สังเกตง่ายมาก ป้ายชื่อโครงการสีดำสุดเท่ และตึกสีขาวที่ตั้งอยู่กลางน้ำ หน้าตาดูมินิมอลมาก แอบถ่ายย้อนแสงมานิดๆ กำลังสวย Location of Community (EAT-DRINK- WORK-TRAVEL) รูปภาพจาก Wikimedia
เมืองที่ไร้กาลเวลา ทำเลห้าแยกลาดพร้าวถือว่า HUB ของคนย่านลาดพร้าว และพหลโยธิน ครบทุกอย่างตั้งแต่ เรื่องศูนย์กลางการเดินทางของ BTS, MRT, สนามบินดอนเมือง เป็นช่วงที่วิ่งเข้าเมือง-ไปต่างจังหวัดได้ค่อนข้างสะดวก แถมละแวกนั้นของกินก็เยอะและอร่อยมาก รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของสำนักงานขนาดใหญ่ และสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงด้วย อย่างเช่น แหล่งรวบรวมสำนักงานระดับแนวหน้าของไทย: ปตท, ปูนซีเมนต์ไทย (SCG), บางกอกแอร์เวย์, การบินไทย, ธนาคาร TMB สำนักงานใหญ่, ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่, Sun tower เป็นต้น สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตบางเขน และโรงเรียนหอวัง เป็นต้น ยังไม่หมด นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ด้วย เพราะอยู่ใกล้แหล่ง Community Mall ฮิปๆ ของคนกรุงเทพ คิดดูว่าถ้าได้ใช้ชีวิตบน HUB ห้าแยกลาดพร้าวแบบนี้ ก็คงจะมี lifestyle กิน ดื่ม เที่ยว ได้ตลอดทั้งวัน และก็มีอะไรให้ทำตลอด 24 ชม โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปไหนไกลก็ชิคได้ All Day Lifestyle สร้างมิติของชีวิตในแบบไม่ซ้ำเช้าจรดเย็น รูปภาพจาก Postjung
เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว (CentralPlaza Lardprao) ห้างสรรพสินค้าและศูนย์จัดแสดงสินค้าแบบครบวงจร เพราะอยู่ใกล้กับ Union Mall ศูนย์รวมแฟชั่นสำหรับเหล่านักช้อป สินค้าหลากหลายสไตล์ มาอัพเดทเทรนด์ใหม่ พร้อมเชื่อมต่อโลกแห่งสีสันมีชีวิตชีวาบนพื้นที่ 78,700 ตารางเมตร 5 ชั้น รวบรวมร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านอาหารและร้านค้ากว่า 100 ร้าน ภายใต้แนวคิด One-Stop-Shopping พร้อมจอดรถถึง 3,600 คัน แบ่งนอกจากห้างใหญ่โตแล้วยังสร้างเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว อีกด้วย รูปภาพจาก Centara Grand Hotels & Resorts
เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว (Centara Grand Ladprao) ตั้งอยู่ด้านหลังติดกับห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ฝั่งด้านเหนือของกรุงเทพ โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งแรกๆ ของประเทศไทยที่รวมศูนย์ช้อปปิ้งเข้าไว้ด้วยกัน มีห้องประชุมที่มีชื่อเสียงรับงานมาแล้วทั่วโลกอย่าง บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ฮอลล์ รับจัดงานอีเวนต์ระดับชาติและระดับภูมิภาค โดยมีชื่อเสียงในการบริการที่เอาใจใส่ กับสไตล์ที่อบอุ่น เป็นกันเอง ที่สำคัญเป็นที่ตั้งของร้านอาหารอร่อย วิวสวย รสเลิศ ที่ชื่อว่า Blue Sky ด้วย รูปภาพจาก Bkk menu รูปภาพจาก Bkk menu
บลู สกาย (Blue Sky) ห้องอาหารวิวระฟ้าสุดโรแมนติกใจกลางกรุงเทพฯ แห่งนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มชั้นดี พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันสวยงามของกรุงเทพฯ ยามราตรีในมุมมอง 360 องศา บนชั้นสูงสุดของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ อิ่มแล้ว มาออกแบบโลกแฟชั่นของคุณไปกับ Craft Fig รูปภาพจาก soimilk รูปภาพจาก Craft Fig
โรงเรียนกราฟิกดีไซน์ เล็กๆ ที่รวบรวมผู้คนในวงการ ศิลปะ กราฟิก และ อินเตอร์เฟส แถวหน้า มาถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านกราฟิกและศิลปะของคุณ แล้วโลกการออกแบบของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ที่ 12/13 ถ. ลาดพร้าว MRT พหลโยธิน นั่งไปเพียง 1 สถานี ไปต่อกันด้วยร้าน คาเฟ่ Wantong Cafe ที่ตลาดนัดสวนจัตุจักร รูปภาพจาก Bkkmanu รูปภาพจาก Bkkmanu
Wantong Cafe เป็นคาเฟ่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของตะวันตกเข้ากับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว เปรียบเสมือนกับนางวันทองที่ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใครระหว่างขุนช้างกับขุนแผน เริ่มจากบรรยากาศร้านที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามเขียวชอุ่มและดูสูงโปร่งสบายตา ที่ตั้งใจจะออกแบบมาให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ "นางวันทองสองใจ" ถ้าชอบทั้งสองอย่าง ไม่ต้องเลือกก็อยู่ร่วมกันได้
เดินย่อย ถ่ายรูป ปั่นจักรยาน กันต่อที่สวนรถไฟ รูปภาพจาก Travel MThai รูปภาพจาก baanmaha
สวนรถไฟ (กรุงเทพฯ) หรือ ‘สวนวชิรเบญจทัศ’ สวนรถไฟอยู่เขตจตุจักร ติดกับสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ใกล้ ๆ สวนจตุจักรนี่เอง สวนสาธารณะขนาดใหญ่ 375 ไร่ เหมาะสำหรับปั่นจักรยานทั้งมือใหม่-มือโปร แวะมาสูดออกซิเจนกันให้ชุ่มปอด ปั่นออกกำลังกายหรือปั่นชมธรรมชาติก็ดีทั้งนั้น ส่วนใครอยากมาถ่ายภาพสวยๆ ก็ไม่ควรพลาด
รูปภาพจาก Bkkmenu
ตกกลางคืน ก็มามันกันต่อกับร้านแฮงค์เอาท์สุดมัน The Third Pig The Third Pig เปลี่ยนพื้นที่ของธนาคารและร้านอาหารเก่าในย่านห้าแยกลาดพร้าวมาเป็นร้านนั่งกินดื่มสุดเท่ ด้วยคอนเซ็ปต์ไอเดียที่ชัดเจน ที่ทางร้านนำเอา Gimmick จากนิทานวัยเยาว์เรื่อง ลูกหมูสามตัว มาครีเอทพื้นที่แห่งนี้ให้เหมือนกับบ้านของลูกหมูตัวที่สามที่แข็งแรงที่สุด โดยได้อินทีเรียดีไซเนอร์จาก Studio Krubka มาร่วมเป็นหนึ่งในทีมของร้าน ออกแบบเตาผิงและผนังด้วยการก่ออิฐสีส้ม แล้วกะเทาะออกบางส่วนให้เห็นผนังปูนเปลือยเพื่อเพิ่มความดิบ ใช้กิ่งไม้และถังสังกะสีสำหรับโคมไฟ แล้วตกแต่งร้านด้วยของใช้อย่างเครื่องครัววัสดุไม้ ช่อดอกไม้แห้งและหนังสือนิทานเก่าเพิ่มกลิ่นอายของความเป็นบ้านได้อย่างอบอุ่นและลงตัว เน้นเสิร์ฟอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น
ใครที่แวะมาทานมื้อเย็นที่นี่ ลองสั่งจานหนักหน่อย อย่าง ลาซานญ่ามัสมั่นเนื้อ (250 บาท) ท็อปด้วยชีสเยิ้ม ๆ เข้ากันกับรสชาติเครื่องแกงมัสมั่นที่ตัดเลี่ยนได้อย่างดี ที่ ปากซอย พหลโยธิน 20 Project of Life ลาดพร้าว 2017 ต้องเกรินบอกก่อนว่า Life Condo เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ จาก เอพีไทยแลนด์ ที่ประสบความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงให้กับเอพี เป็นอย่างมากด้วยจุดขาย และความแตกต่างของโครงการที่นำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตในมิติใหม่มาโดยตลอด บนทำเลที่ตั้งยึดติดแนวรถไฟฟ้า เพื่อตอบ Lifestyle ของเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และตอนนี้ แบรนด์ Life ได้กลับมาอีกครั้งบนย่านลาดพร้าว “Life ลาดพร้าว” คอนโด High Rise ตึกคู่ 2 อาคาร (อาคาร A สูง 45 ชั้น และอาคาร B สูง 46 ชั้น) LIFE 2017 ภายใต้แนวคิดที่ว่า "PLATFORM OF SUCCESS" คอนโดที่พร้อมสนับสนุนการใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่สู่ความสำเร็จ ผ่าน 3 วิธีคิดสำคัญที่เข้าใจถึง Insight ของคนเมืองในยุคปัจจุบัน คือ In-Control ทุกองค์ประกอบในการพัฒนา Life Condo ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกและควบคุมได้ด้วยตนเอง
Connected World การจัดเตรียมระบบโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเชื่อมต่อโลกดิจิตอลได้ทุกที่ทุกเวลาตลอดการอยู่อาศัยใน Life Condo
จุดต่างสำคัญ Intelligent Facility ผสานเทคโนโลยีในการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง Intelligent Control ทุกอย่างควบคุมได้เพียงปลายนิ้ว Intelligent Space ดีไซน์พื้นที่ใช้สอยให้ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์การใช้งาน AP Corridor Window Innovation
และครั้งแรกในเมืองไทยกับนวัตกรรม AP Corridor Window Innovation ยกระดับการพักอาศัยในคอนโดมิเนียม ช่วยระบายอากาศให้โถงทางเดินเพื่อที่สุดของคุณภาพชีวิตคนเมือง ทั้งตัวอาคารและงานดีไซน์ทุกชิ้น ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก อย่าง Louis Vuitton มาสร้าง Pattern ให้ดูมีมิติน่าหลงใหลและมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ Outdoor Facility เพิ่ม Space กิจกรรมตาม Lifestyle ได้อย่างไม่จำกัด บนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ โดยทางโครงการได้ออกแบบที่นั่งและทางเดินในมุมที่ร่มรื่นที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสายน้ำ เพื่อความสวยงามเสมือนนั่งทำงานท่ามกลางธรรมชาติ และยังสามารถใช้ Wi-fi ได้เสมือนอยู่ภายในอาคาร Lobby ของโครงการจะเน้นความโปร่งโล่ง ดีไซน์ เรียบ หรู ภายในตกแต่งด้วยลายกะเบื้องหินอ่อน และกระจกเพื่อให้โถงดูกว้างมีมิติเล่นกันแสงและเงา สร้างความประทับใจได้ทุกครั้งที่เปิดเข้ามา พื้นที่ส่วนกลางภายใน Lobby ถูกออกแบบมาให้ค่อนข้าง Private คุณจะสามารถทำงานไปพร้อมรับวิวสวนแบบเป็น Box เรียกว่า Portable Working Station พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์ที่พร้อมรองรับการใช้งานจริงอย่าง เทคโนโลยีซาวน์โดม (Sound Dome) ผนังของห้องที่คัดสรรวัสดุให้สามารถใช้เป็น Mirror Board หรือ Wireless Phone Charger เป็นต้น ถูกจัดเตรียมไว้ให้ในจุดต่างๆ ของพื้นที่ส่วนกลางโครงการ Private meeting room ห้องประชุมสุดล้ำที่คำนึงถึงการทำงานเป็นกลุ่มในดีไซน์ที่ล้ำนำสมัยสู่การสร้างสรรค์ต่อยอด ไอเดียการทำงานได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มาพร้อมระบบ Digital เต็มรูปแบบ อย่าง อุปกรณ์ไร้สายเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และจอTouchscreen เพื่อความสะดวกในการนำเสนองานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น Rooftop Sky Bar ที่คุณจะไม่พลาดทุกช่วงเวลาของเฉลิมฉลองความสำเร็จ Sky Bar & Social Club Sky Working Space ออฟฟิศชิดติดขอบฟ้าบนชั้น 45 เพิ่มสีสันและความ Creative ให้การทำงานในมุมมองที่ไม่ซ้ำซากจำเจ พร้อมติดตั้ง Cocoon Space ให้เป็น Private Space แม้จะนั่งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง ก็สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวน Iconic Infinity Lap Pool สระว่ายน้ำแบบ Exclusive ที่ให้คุณสามารถแหวกว่าย และดื่มด่ำไปกับวิวเมืองระยิบระยับยามค่ำคืน และที่นั่ง Sky Cabana ที่หรูหราและผ่อนคลาย และ Panoramic Fitness ห้องฟิตเนสแบบ 360 องศา ใช้ชีวิตในแบบ Active พร้อมความเป็นส่วนตัวไปกับ Private Treadmill, Yoga Fly facilities ได้ตลอดทั้งวัน เป็นต้น นอกการ facilities ที่มาแบบจัดเต็มแล้ว ยังสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยปลายนิ้วอีก ภายใต้วิสัยทัศน์ AP Digital Community อย่างเต็มรูปแบบ ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ บน Smart Phone ผ่านระบบ Community Application เติมเต็มมากกว่าแค่ความสะดวกสบาย แต่ได้ทั้งมีความปลอดภัยและง่ายดาย โดยเปรียบเสมือนคีย์การ์ดของคอนโด ที่สามารถสั่งเปิดและปิดประตูได้ตั้งแต่ประตูทางเข้าคอนโด ประตูห้องพัก นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยยังสามารถใช้ระบบ Application นี้ในการจองสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องประชุม หรือติดต่อประสานงานกับผู้ดูแลคอนโด E-payment การติดตามการแจ้งซ่อม รวมทั้งให้คำแนะนำ และรับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของคอนโดได้อีกด้วย ROOM TYPE ครั้งแรกของวงการคอนโดไทย ฉีกทุกข้อจำกัดของ Space สู่การออกแบบ Highlight ของที่นี่ ต้องยกให้กับ TYPE 35 ตารางเมตร ที่คุณสามารถออกแบบและปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของห้องให้ตรงตาม Lifestyle ของคุณได้ พร้อมด้วยระบบ AP Master Switch โดยจะเป็นสวิตช์ไฟที่ติดตั้งอยู่ที่หน้าประตูห้อง สามารถปิดสวิตช์นี้เพียงครั้งเดียว Shutdown ทั่งห้อง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องไฟเลยเวลาออกไปไหน ช่วยให้ประหยัดทั้งเงินและเวลา เหมาะกับ Lifestyle คนรุ่นใหม่ในยุคที่เร่งรีบและต้องการความสะดวกของคนเมือง ห้องขนาด 35 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของห้องให้ตรงตามความต้องการ และ Lifestyle ของผู้อยู่อาศัยได้ถึง 5 สไตล์ เช่น ปรับเปลี่ยนห้องรับแขกป็นห้องนอนอีก 1 ห้อง หรือเป็นห้องทำงาน หรือ ห้องแต่งตัวก็ได้ เพราะมีระบบปลั๊กไฟรองรับหลากหลายตำแหน่ง จะปรับมุมไหนยังไงก็ลงตัว ซึ่งขนาดห้อง35 ตารางเมตร แต่สามารถทำถึง 2 ห้องนอน ถือว่าคุ้มมาก ลองดูภาพห้องตัวอย่างจริงดูว่าจะออกมาสวยขนาดไหน พาชมภาพจริงของห้องตัวอย่าง 35 ตารางเมตร จาก Sale Gallery เริ่มจาก 35 ตารางเมตร เปิดเข้ามาความรู้สึกแรกเลย คือ กว้างมาก ไม่เชื่อเลยว่านี้คือตัวอย่างห้องขนาด 35 ตารางเมตร ออกมากได้ สวยปังมาก โดยยังเหลือ Space ว่างๆ อีกเยอะ สำหรับไว้ทำกิจกรรม หรือเพิ่มครัว เพิ่มโต๊ะรับประทานอาหาร หรือกั้นเป็นห้องครัวก็ยังทำได้ เป็นการจัดห้อง Plus ให้เป็น Living Room ขนาดใหญ่ ด้านซ้ายมือ ถูกออกแบบให้เป็นโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง ที่จัดวางไว้ใน Box ได้อย่างลงตัว ซึ่งถ้าอยากจะดูโทรทัศน์ไปด้วยกินข้าวไปด้วย ไม่ต้องย้ายข้าวไปไหน เพราะตรงนี้ ก็ดูได้ เพราะที่นี่มีการ Built in ที่วางโทรทัศน์ติดผนังไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น กินข้าวไปพร้อมดูหนัง เพลินๆ ได้แน่นอน ส่วน AP Master Switch จะอยู่ตรงบริเวณเสา กดปุ่มก็เดินออกจากห้องได้เลย สำหรับคอนโดที่นี่ จะใช้ห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งก็จะได้มาแบบมาตรฐานครบทุกฟังก์ชั่น กั้นโซนเปียกโซนแห้งไว้ให้เรียบร้อย มาถึงห้อง Plus ของที่นี่ สามารถออกแบบและปรับเปลี่ยนได้ตาม Lifestyle เพราะค่อนข้างใหญ่ จะทำเป็นอีกหนึ่งห้องนอนก็ทำได้ หรือห้องแต่งตัว ห้องทำงานแบบส่วนตัว ซึ่งห้องตัวอย่างออกแบบให้ดู คือ สามารถวางโซฟายาวขนาด 3- 4 ที่นั่งได้ โดยที่ด้านหน้าและด้านข้างยังสามารถวางโต๊ะเพิ่มได้อีก เบื่อๆ ก็ออกไปรับลมที่ระเบียงได้เลย ภาพอีกมุมที่ด้านซ้ายเป็นห้อง Living Room สังเกตได้เลยว่าใช้ Space แบบครึ่งหนึ่งของห้องไปเลย ส่วนด้านขาวเป็นครัว ซึ่งออกแบบมาแบบนี้ จะช่วยกั้นให้ห้องเป็นสัดส่วนแบ่งโซนออกอย่างชัดเจน Mater Bedroom วางเตียง King Size ได้ไม่รู้สึกอึดอัดเลย เพื่อนๆ สามารถ Built in โทรทัศน์ติดผนัง ก็ได้ เรียกได้ว่ามีลงตัว ตั้งแต่เตียง โต๊ะทำงาน โคมไฟหัวเตียง ตู้เสื้อผ้า เลยที่เดียว ห้องตัวอย่าง 55 ตารางเมตร ROOM TYPE: 55 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่ให้ความรู้สึกกว้างขว้างเหมือนอยู่บ้าน เป็นการจัดวางสัดส่วนการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม เปิดประตูเข้ามาจะเจอโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งด้านหน้า ส่วนซ้ายมือเป็นครัวแบบ Open ที่จัดวางพื้นที่เครื่องครัวได้อย่างน่าใช้งานสุดๆ ถัดมาเป็นโซน Living Room สำหรับคนที่ไม่อยาก Built in ก็สามารถออกแบบและจัดวางโซฟา 2-3 ที่นั่ง กับโต๊ะวางโทรทัศน์ แบบนี้ก็ได้โดยที่ไม่ห้องยังดูกว้าง ส่วนระเบียงจะอยู่ด้านในของ Living Room ข้อดีของระเบียงที่อยู่ตรง Living Room คือไม่จำเป็นต้องเปิดไฟจนกว่าพระอาทิตย์จะตกดิน แยกเป็นสัดส่วนการดีไซน์ ผนังแบบนี้ก็ดูสวยเก๋ ล้ำ ไปอีก ช่วยนำสายตาแถมทำให้ห้องดูมีมิติ ดูมีระดับ โดยฝั่งซ้ายด้านในจะเป็น ห้องน้ำกับห้องนอนแบบ Mater Bedroom ส่วนอีก 1 ห้อง Bedroom จะอยู่ด้านขวา ห้องน้ำสำเร็จรูป เหมือนกับ 35 ตารางเมตร เลยครับ ชอบที่โทนสีสว่างมองแล้วดูสะอาดตาดี สำหรับ Mater Bedroom ห้องนี้จะพิเศษกว่าอีกห้อง เพราะออกแบบให้เหมือนห้องน้ำในตัว เพราะประตูทางเข้าห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทางจากในห้องนอนและนอกห้องนอน ภายในตกแต่งโทนออกน้ำตาลที่ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายของป่าไม้ อีกหนึ่งห้อง Bedroom ที่แต่งออกมาดูดีไม่แพ้ ห้อง Mater Bedroom อยู่ฝั่งเดียวกับ Living Room ที่แบบไม่ต้อง Built in โทรทัศน์ติดผนังก็แต่งออกมาสวยได้ ตัวโครงการคาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณปี 2563 เสร็จพร้อม กับ รถไฟฟ้าพอดี โดย “Life ลาดพร้าว” จะเปิด Pre-Sale ในวันที่ 21-22 พ.ค.เดือนหน้านี้แล้ว ณ Sale Gallery ของโครงการ เชื่อว่าจะต้องขายหมดภายในเวลาไม่กี่วัน และสร้างเป็นข่าว Talk of The Town ครั้งใหญ่อย่างแน่นอน เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสดีดีแบบนี้ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ VIP ก่อนใคร ลงทะเบียนพร้อมรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท* ได้ที่ https://goo.gl/XF3xJj หรือใครอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่เบอร์ 1623 ได้เลย Cr. Bkkmanu, Wikimedia