ท่ามกลางความศิวิไลซ์ของกรุงเทพมหานครอันแฝงไปด้วยความแออัดวุ่นวายของผู้คน และอาคารสูงใหญ่มากมายตามแบบฉบับเมืองหลวงของประเทศ มีแม่น้ำเจ้าพระยาอันทรงเสน่ห์ไหลมาจากแหล่งต้นน้ำทางภาคเหนือผ่านใจกลางเมือง ลงสู่อ่าวไทย เจ้าพระยาจึงเป็นหัวใจสำคัญของกรุงเทพฯ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เปรียบเสมือนช่องว่างให้เราได้มีพื้นที่พักหายใจ ซึ่งใครหลายคนก็ย่อมที่จะอยากมีพื้นที่ส่วนตัวบรรยากาศดี สามารถเปิดระเบียงห้องของตัวเองออกมายืนรับลม พร้อมชมวิวโค้งแม่น้ำสวยๆ ในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน Lumpini Place Rama 3- Riverine คอนโดมิเนียมที่สามารถมอบความสงบส่วนตัวบนวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมใกล้พื้นที่ปอดของคนกรุงเทพฯ อย่างบางกระเจ้า ในขณะเดียวกันก็ยังอยู่ในช่วงถนนที่มีความสำคัญในการเชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างสะดวกทั้งเข้าไปในใจกลางเมือง และออกแถบชานเมือง ภาพรวมโครงการ คอนโดมิเนียม High Rise 35 ชั้น 1 อาคาร ตัวล่าสุดจาก LPN ภายใต้แนวคิด "Embrace of the River" โอบล้อมด้วยอ้อมกอดแห่งสายน้ำ บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ เน้นความเงียบสงบเป็นส่วนตัวด้วยพื้นที่สีเขียวหลายจุดตั้งแต่พื้นที่โดยรอบของชั้นกราว พื้นที่ฝั่งทิศตะวันออกชั้น 6 สระว่ายน้ำที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำรอบด้านบนชั้น 27 ฟิตเนสชั้น 29 และพื้นที่ Roof Top Graden พร้อมด้วยวิวจากธรรมชาติภายนอกทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา และบางกระเจ้า ห้องพักอาศัยทั้งหมด 719 ยูนิต ตั้งแต่ชั้น 6-35 ขนาด 24-51.50 ตร.ม. ถือว่าจำนวนยูนิตยังไม่มากจนเกินไป ยูนิตที่หันหน้าออกทางทิศตะวันออกจะได้วิวของแม่น้ำเจ้าพระยารวมถึงบางกระเจ้า ส่วนยูนิตที่หันหน้าออกทางทิศตะวันตกจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน แต่จะได้วิวเมืองกับวิวสะพานภูมิพลด้วย ซึ่งรอบโครงการจะไม่โดนวิวบล็อก และด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ติดกับสะพานภูมิพลทำให้ระยะมีความสูงที่พ้นจากระดับเดียวกันกับสะพานจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 9 เพราะฉะนั้นใครที่จะเลือกอยู่ห้องทางฝั่งทิศตะวันตกแนะนำให้เลือกตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไปค่ะ วิวที่ได้ก็จะมีมุมที่เปิดโล่งกว่า ภายในอาคารมีจำนวนลิฟท์โดยสาร 4 ตัว บันไดหนีไฟ 3 จุด ช่วงปลายทั้งสองด้านของอาคาร กับตรงกลางอาคาร ทำเล Lumpini Place Rama 3- Riverine ตั้งอยู่ริมถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ฝั่งขาออก ข้างสะพานภูมิพล 1 ตัวอาคารมีระยะร่นจากถนนประมาณ 55 เมตร ตรงนี้ทำให้ลดเสียงรบกวนของรถบนท้องถนนลงได้ แต่ด้วยทำเลที่ตั้งของถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่ไม่มีรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่าน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า แต่หากจะเดินทางด้วยรถประจำทาง แนะนำให้ใช้บริการ BRT สถานีวัดปริวาส ทางออกที่ 2 แล้วนั่งรถต่อเข้ามาที่โครงการ โดยต้องกลับรถใต้สะพานภูมิพล หรือ BRT สถานีวัดด่าน ทางออกที่ 2 แล้วเดินย้อนไปตามถนนพระราม 3 ประมาณ 600 เมตร และเข้าสู่ถนนวงแหวนอุตสาหกรรมอีก 600 เมตรก็จะพบโครงการ ข้อดีคือความเงียบสงบเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง เมื่อการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกที่สุด สิ่งสำคัญที่ตามมานั่นคือทางด่วน ซึ่งโครงการนี้อยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลง ทางด่วนอยู่หลายจุด หลายเส้นทางด้วยกัน ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสาธุประดิษฐ์ ทางพิเศษศรีรัช ด่านพระราม 3 และใกล้ที่สุด คือ สะพานภูมิพลที่สามารถไปได้ทั้งถนนปู่เจ้าสมิงพราย สามารถเชื่อมต่อเข้าถนนกาญจนาภิเษก สู่กรุงเทพฯ โซนตะวันออก และไปถนนสุขสวัสดิ์ สู่กรุงเทพฯ โซนตะวันตก ถือว่าเป็นทำเลที่สามารถเดินทางออกนอกเมืองได้ง่ายมาก และเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างสีลม-สาทร ก็ไม่ไกล สิ่งอำนวยความสะดวกที่ใกล้ที่สุด และสามารถเดินทางไปได้สะดวก หลักๆ ก็จะอยู่บนถนนพระราม 3 ถนนพระราม 4 และเข้าไปในเมืองย่านสาทร เช่น Int Intersect, โฮมโปร, เซ็นทรัลพระราม 3, โลตัส, The Up, Tree on 3, โรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม, โรงเรียนพระแม่มารีสาธุประดิษฐ์, โรงเรียนสารสาสน์พัฒนา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ, โรงเรียนนานาชาติสาทรใหม่, โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์, โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในระยะไม่เกิน 6-7 กิโลเมตร ชมห้องตัวอย่าง ภายใน Sale Gallery จะมีห้องตัวอย่างทั้งหมด 3 ห้องด้วยกันค่ะ เป็นห้อง Studio 24 ตร.ม. ห้อง 1 Bed 28 ตร.ม. และห้อง 2 Bed 35 ตร.ม. การเดินทางมาที่โครงการ หากใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจะง่ายมากค่ะ โดยเรามาจากสี่แยกพระราม 4 แล้วเข้าสู่ถนนพระราม 3 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆ จนเลยทางขึ้นสะพานภูมิพลก็จะพบกับ Sale Gallery อยู่ทางซ้ายมือ อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตัวโครงการที่จะสร้างเลยค่ะ ดูจากโมเดลแล้วเป็นโครงการ LPN อีกตัวหนึ่งที่ออกแบบมาได้ดูโมเดิร์น สวยงามดีค่ะ ทางเข้าโครงการอยู่ติดริมถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ใช้ระบบ Keycard Access ชั้น 1-5 เป็นพื้นที่จอดรถ พื้นที่ชั้น 6 เป็นยูนิตพักอาศัยชั้นแรก และยังมีพื้นที่ Green Togetherness Area อยู่ทางทิศตะวันออกเห็นวิวบางกระเจ้า ชั้น 28 เป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ให้ได้ว่ายน้ำพร้อมมองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆ ส่วนชั้น Roof Top บนสุดของอาคารก็จัดให้เป็นพื้นที่สีเขียวอีกเช่นกัน เรามาเริ่มชมห้องตัวอย่างไล่จากห้อง Studio ขนาด 24 ตร.ม. เปิดเข้ามาจะพบกับเลย์เอาท์ที่จัดวางเอาไว้ดีทีเดียวค่ะ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่คับแคบเลย ความสูงของห้อง 2.6 เมตร พื้นปูด้วยลามิเนต ใช้ไฟแบบดาวน์ไลท์ ซึ่งทางโครงการจะให้เคาน์เตอร์ครัว กับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาเท่านั้นนะคะ ขวามือของห้องจะพบกับเคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้มาด้วย พร้อมบุกระเบื้องเซรามิคตรงผนังครัว ลึกเข้ามาในห้องจะเป็นโซนสำหรับวางเตียงเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นทางด้านซ้าย ซึ่งสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต โดยยังมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าได้ ห้องน้ำจะอยู่ทางขวามือหลังเคาน์เตอร์ครัว มีพื้นที่ทางเดินข้างเตียงทั้งสองด้าน หน้าต่างใช้แบบบานกระทุ้งขอบอลูมิเนียม เราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ ภายในห้องน้ำปูพื้น และผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา แยกส่วนเปียก-แห้ง กั้นด้วยฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อนที่ทางโครงการให้มาแบบนี้ทั้งหมดค่ะ สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ American Standard สายชำระทางขวามือของผู้ใช้ ราวแขวนผ้าด้านบนชักโครก อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังจากแบรนด์ Charmer พร้อมกระจกสี่เหลี่ยมทรงสูง โซนเปียกกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน โซนห้องนั่งเล่นด้านปลายเตียงสามารถวางโซฟาขนาด 3 คนนั่งได้ แล้วยังมีพื้นที่ให้เดินเข้าไปโซนเตียงด้านหลังได้ ระเบียงห้องด้านข้างโซฟากั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขอบอลูมิเนียม ด้านนอกมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ราวกันตกใช้แบบเหล็กโปร่งทาสีเทา Condensing Unit แขวนอยู่ด้านบนเพดาน หันหน้าออกด้านนอก ต่อไปห้องตัวอย่างแบบ 1 Bed ขนาด 28 ตร.ม. เป็นแบบห้องที่มีมากที่สุดในโครงการประมาณ 60% เลย์เอาท์เหมือนกับห้องแบบ Studio แต่มีการกั้นห้องนอนเพิ่มมาให้เพื่อความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น ด้านขวาของห้องเป็นส่วนครัวเปิด เคาน์เตอร์ครัวพร้อมบุกระเบื้องเซรามิคตรงผนังส่วนครัวแบบเดียวกันกับห้อง Studio ใช้โทนสีขาวดูสะอาดตาดีค่ะ ส่วนด้านซ้ายตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นด้านใน พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 คนได้ พร้อมเคาน์เตอร์วางทีวีขนาดเล็ก ด้านข้างโซฟาเป็นระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ราวกันตกแบบเหล็กโปร่ง และ Condensing Unit แขวนอยู่บนเพดานหันหน้าออกนอกอาคาร เข้าไปดูในห้องนอนโซนขวามือของห้องกันบ้างค่ะ ขวามือหลังประตูเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านซ้ายเป็นพื้นที่ห้องนอน กลางห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต มีพื้นที่เหลือด้านขวามือสำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งแบบที่ทางโครงการ Built in มาให้เห็นนี้ เราสามารถจัดให้คล้ายกับ Walk in closet เล็กๆ ได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้อีก ข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่ แต่สามารถเปิดออกได้ช่องเดียว เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันค่ะ พื้นห้องน้ำ และผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ด้านซ้ายมือเป็นโซนเปียก ส่วนแห้งเป็นอ่างล้างหน้าแบบแขวนแบรนด์ Charmer พร้อมกระจกติดผนัง สุขภัณฑ์ American Standard สายชำระทางขวามือของผู้ใช้ ราวแขวนผ้าด้านบน ส่วนเปียกกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ห้องตัวอย่างสุดท้ายแล้วค่ะ แบบ 2 Bed 35 ตร.ม. เรามาดูกันที่โซนแรกของห้องทางขวามือกันก่อนค่ะ พื้นที่ตรงนี้สำหรับจัดเป็นโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง หรือเราจะ Built in ทำเป็นตู้เก็บรองเท้า ตู้เก็บของก็ได้นะคะ ตรงนี้จะได้พื้นที่สำหรับเก็บของเพิ่มขึ้นเยอะเลย เข้าไปที่ห้องแรกค่ะ ห้องนี้เราสามารถทำเป็นห้องนอนเล็กแล้ววางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ได้ พร้อมพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า หรือจะทำเป็นห้องทำงานแบบนี้ก็ได้นะคะ ออกมาดูพื้นที่กลางของห้องค่ะ ซ้ายมือด้านที่ติดกับผนังหน้าห้อง เป็นส่วนครัวเปิดมาพร้อมเคาน์เตอร์ครัว บุกระเบื้องเซรามิคตรงเคาน์เตอร์เช่นเดิมค่ะ ถัดจากครัวเปิดเป็นห้องน้ำ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งห้อง แยกส่วนเปียก-แห้ง ออกมาดูที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันค่ะ ตรงนี้สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ได้พอดีกับผนัง ข้างโซฟาเป็นระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom ค่ะ ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยมีทางเดินเหลือทั้งสองข้าง ข้างเตียงมีหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถเปิดออกได้ 1 บาน อีกฝั่งของเตียงสามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยรวมแล้วโครงการ Lumpini Place Rama 3- Riverine ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวค่ะ เพราะเสน่ห์ของถนนพระราม 3 คือ การเป็นถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นเหมือนจุดกึ่งกลางระหว่างใจกลางเมืองไปสู่ชานเมือง ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนสายสำคัญ ส่วนถนนวงแหวนอุตสาหกรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำเรื่องของการเป็นถนนแห่งการเชื่อมต่อจากทั้งใจกลางเมือง โซนตะวันออก และโซนตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันให้เดินทางได้อย่างง่ายดาย ข้อดีของโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ช่วงโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา คือ จะเปิดมุมมองจากห้องพักอาศัยให้ได้เห็นวิวได้กว้าง เห็นวิวได้หลายทิศทางมากขึ้น และแน่นอนว่ายิ่งโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี วิวสวย ก็จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มีราคาสูงขึ้นไปอีก แต่สำหรับ Lumpini Place Rama 3- Riverine กลับมีราคาในระดับที่มนุษย์เงินเดือนสามารถเอื้อมถึง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการนี้อยู่แล้ว ด้วยศักยภาพของทำเลพร้อมวิวสวยๆ แบบนี้ ถือว่าราคาเริ่มต้นมาได้อย่างน่าสนใจมาก และเชื่อว่า Lumpini Place Rama 3- Riverine จะมอบพื้นที่ส่วนตัวอันแสนลงตัวให้ชีวิตได้มีมุมสงบ สวยงาม เติมพลังให้ตัวเองได้ในทุกๆ วัน