คอนโด LPN Park รัตนาธิเบศร์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์ (สายสีม่วง) ชนิดที่ทางขึ้นสถานีแทบจะเกยอยู่หน้าโครงการเลยทีเดียว เพราะตั้งอยู่ห่างเพียง 100 เมตรจากหน้าทางเข้าเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานีรถไฟฟ้าที่ฮ็อตมากแห่งหนึ่งบนเส้นทางนี้ เพราะบริเวณใกล้ๆ มีโครงการอื่นๆ ให้เลือกอยู่พอสมควร อยู่ที่ว่าใครจะได้เปรียบในเรื่องทำเลที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากกว่ากันเท่านั้นเอง การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการถือว่าสะดวกพอสมควรเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะอยู่ใกล้ทางด่วนงามวงศ์วาน รวมทั้งยังมีเส้นทางเลี่ยงเมือง และถนนติวานนท์ จึงทำให้พอจะมีทางหนีรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้บ้างไม่มากก็น้อย เนื่องจากช่วงเวลาที่รถติดนั้นก็ติดกันจริงจังชวนให้หงุดหงิดกันได้ง่ายๆ เหมือนกัน ถึงจะเป็นถนนกว้างหลายเลนแต่ด้วยปริมาณรถที่มากกว่า เวลาจะไปไหนมาไหน หรือต้องรีบเดินทางไปทำงานในเมืองจึงต้องเผื่อเวลากันให้ดีๆ นะครับ ส่วนการเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะอื่นๆ ก็ดูจะไม่น่ามีปัญหาเท่าไหร่สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว เพราะมีทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการเพียบ แต่ถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเมื่อไหร่ การเดินทางเข้าออกเมืองก็จะยิ่งสะดวกมาขึ้นและช่วยประหยัดเวลาได้อีกหลายเท่า ซึ่งกว่าจะได้ใช้ก็น่าจะไล่ๆ กับเวลาที่ตัวโครงการจะแล้วเสร็จนั่นแหละครับ เนื่องจากตัวโครงการ LPN Park รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ถ้าเรามาจากทางแยกแคราย ก็ตรงเข้าถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าไปทางบางบัวทอง ผ่านเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ไปนิดหน่อยแล้วกลับรถมายังตัวโครงการอีกประมาณ 700-800 เมตรเท่านั้น ระยะทางแค่นี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่ครับ ถ้ารถไม่ติดก็ใช้เวลาแป๊บเดียวเอง ถ้าใครทำงานใกล้ๆ บริเวณนี้ หรือที่ทำงานอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าเหมือนกัน การหวังพึ่งรถไฟฟ้าคงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ เดินจากในโครงการออกมากไกลสุดอย่างมากก็ไม่เกิน 400-500 เมตร ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว ส่วนระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า 100 เมตร ตามที่โครงการคุยไว้ เค้านับจากหน้าทางเข้านะครับ ถ้าเลือกได้ตึกแรกหน้าโครงการก็ถือว่าใกล้เคียง แต่ถ้าอยู่ที่ตึกด้านในสุดก็ต้องเดินกันไกลหน่อยล่ะครับ วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ ทำเลแถบนี้ยังถือว่าไกลจากศูนย์กลางธุรกิจ หรือกลางเมืองพอสมควรเหมือนกัน บรรยากาศรอบๆ ก็ยังไม่ได้เจริญเท่าที่ควร ร้านค้า ร้านอาหารที่พอจะพึ่งพาได้ในระยะเดินถึงก็มีเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น ที่ดูเหมือนจะดีหน่อยก็มีห้าง Big C ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งร้านค้าภายในก็อาจจะแค่พอถูไถ ไม่ได้มีให้เลือกมากมายนัก ถ้าจะให้ดีก็ต้องเลยไปทางห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ หรือไปทางงามวงศ์วานก็จะมีทั้ง Lotus, The Esplanade, The Mall, Home Pro และห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า พื้นที่รอบๆ โครงการยังเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ ในระยะประชิดจึงไม่มีอาคารสูงขึ้นขนาบข้าง สำหรับตัวโครงการ LPN Park เป็นคอนโด High Rise โครงการใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตรวมทั้งหมดกว่า 3,000 ยูนิต แบ่งออกเป็น 5 อาคาร บนเนื้อที่ 14 ไร่ ซึ่งทางเข้าโครงการอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้า และอยู่ห่างจากทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์เพียง 100 เมตร จึงค่อนข้างสะดวกถ้าหากตั้งใจจะพึ่งพาการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลักอยู่แล้ว ด้วยรูปที่ดินที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าลึกเข้าไปด้านใน อาคารแต่ละหลังจึงตั้งเรียงตัวกันไปเป็นแนวยาวตั้งแต่ตึก A-E โดยที่รูปแบบการออกแบบอาคารก็เป็นไปตามมาตรฐานของลุมพินีในรูปทรงตัว L ระยะห่างของแต่ละอาคารค่อนข้างน้อย ด้วยระยะห่างเพียง 10 เมตรเท่านั้น เลยบังมุมกันเองซะเป็นส่วนใหญ่ เปิดหน้าต่างห้องมาก็เห็นเพื่อนบ้านอยู่กันอุ่นหนาฝาคั่งเลยทีเดียว เรื่อง Facility ต่างๆ ในโครงการ จะใช้พื้นที่ระหว่างอาคาร C และ D เป็น Club House ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนหย่อมรวมกันอยู่ในที่เดียวกัน นั่นก็หมายความว่าผู้อยู่อาศัยทุกยูนิตจะต้องเดินมาใช้ Facility ส่วนกลางร่วมกัน ความแออัดและอัตราความหนาแน่นจึงสูงอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ เพราะดูยังไงแล้วก็ไม่มีทางเพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านทุกยูนิตแน่นอน เตรียมทำใจกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้เลย ส่วนเรื่องที่จอดรถ ถึงแม้แต่ละอาคารจะมีที่จอดรถใต้อาคารรวมถึงที่จอดรถกลางแจ้งบริเวณรอบๆ แล้ว ก็ยังมีปริมาณเพียง 40% เท่านั้น ไม่ว่าจะพยายามจัดการเรื่องปัญหาการจอดรถด้วยการเก็บค่าที่จอดรถรายเดือนแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้อยู่ดี เช่นเดียวกันกับเรื่องลิฟท์โดยสารในแต่ละอาคารที่มีอัตราความหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ที่ 300 ห้อง ต่อลิฟท์ 1 ตัว เชื่อว่าในชั่วโมงเร่งด่วนได้รอลิฟท์กันนานแน่ ถ้าเลือกอยู่ชั้นที่ไม่สูงมากนัก อาจจะเลี่ยงปัญหาการรอลิฟท์ได้ด้วยการเดินขึ้นลงบันไดแทนครับ พาชมห้องตัวอย่าง สำหรับห้องตัวอย่างของ LPN Park รัตนาธิเบศร์นั้น ก็ไม่ได้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในแบรนด์ LPN เท่าไหร่ ทั้งเรื่องขนาดห้องที่เริ่มต้นกันที่ 22.5 ตร.ม. ซึ่งขายกันมาแบบห้องเปล่าๆ จะมีตกแต่งให้ก็แค่ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ที่เหลือกถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์ Built in ตามแบบห้องตัวอย่างก็ต้องจ่ายเพิ่มกันไปตามระเบียบ การจัดวาง Lay out ห้องไม่ได้มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากเดิม เนื่องด้วยขนาดห้องที่ค่อนข้างกระทัดรัดมากๆ พอเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วก็จะเจอพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นเลย มีการจัดวางชั้นวางทีวีไว้ที่หลังประตู พื้นที่ห้องนอนถูกแบ่งให้เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แถมมาด้วยการ Built in ตู้เสื้อมาเล็กๆ มาให้อีกอย่าง ขยับมาอีกทางก็จะเป็นห้องครัวที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่ถึงอย่างไรก็ยังพอจะใช้ประกอบอาหารได้บ้างเล็กๆ น้อย เพราะนอกเหนือจากซิงค์ล้างจานแล้ว ยังพอมีพื้นที่เหลือให้วางเตาไฟฟ้าและเตาไมโครเวฟได้ด้วย ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามครัว ในห้องตัวอย่างวางโต๊ะกินข้าวตัวยาวหันหน้าเข้ากำแพงไว้ให้เห็นเป็นไอเดีย ห้องน้ำที่อยู่บริเวณเดียวกันกลับห้องครัว มีขนาดเล็กกว่าห้องแบบอื่นๆ นะครับ เรื่องสุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เป็นแบบธรรมดาสามัญ ส่วนฉากกั้นอาบน้ำ ทางโครงการไม่ได้มีมาให้ ต้องติดตั้งกันเองครับ ที่เหลือก็เป็นบริเวณระเบียงเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากห้องครัวไป ซึ่งมีพื้นที่ใช้จำกัดมากๆ แค่วางเครื่องซักผ้าลงไปก็แทบจะไม่มีที่เหลือให้พอตากผ้ากันแล้ว สำหรับห้องตัวอย่างในแบบ 22.5 ตร.ม. และแบบ 26 ตร.ม. จะมี Lay out เหมือนกันเป๊ะ ต่างกันแค่ขนาดของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเท่านั้นเอง ซึ่งห้องแบบ 26 ตร.ม. ดูจะอยู่สบายกว่าหน่อย เพราะขนาดห้องมีความลึกมากกว่า จึงให้ความรู้สึกโล่งและอึดอัดน้อยกว่านั่นเอง นอกจากเรื่องขนาดห้องที่ค่อนข้างกระทัดรัดของ Lay out ห้องแบบนี้แล้ว ถ้าสังเกตุให้ดี ก็จะเห็นว่าเรื่องตำแหน่งในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศดูจะผิดที่ผิดทางไปซักหน่อย เครื่องหนึ่งติดตั้งไว้ในห้องนอนซึ่งก็ดูปกติดี ในขณะที่เครื่องปรับอากาศอีกเครื่องกลับไปติดตั้งในบริเวณห้องครัว เหนือประตูระเบียงซึ่งอยู่ด้านในสุด จึงไม่น่าจะทำความเย็นให้กับห้องนั่งเล่นได้เลย มีแต่จะทำความเย็นให้ห้องน้ำแทนซะมากกว่า
นอกจากห้องแบบ 1 ห้องนอนที่ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ได้ชมกันแล้ว ก็ยังมีห้องตัวอย่างของห้องแบบ 2 ห้องนอนไว้ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะการ Combine ห้องเข้าด้วยกัน พื้นที่ใช้สอยที่ได้จึงกว้างขวาง และเป็นสัดส่วนมากขึ้น ทั้งเรื่องห้องครัวที่มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเป็นสัดส่วน และมีพื้นที่นั่งเล่น รวมถึงบริเวณรับประทานอาหารที่กว้างขึ้น สามารถอาศัยอยู่กันแบบครอบครัว 3-4 คนได้สบายเหมือนกัน ความคุ้มค่าการลงทุน โครงการ LPN Park รัตนาธิเบศร์ ถือว่าได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์มาก เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง แถมยังเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่มาก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับความสนใจมากถูกจองจนเกือบจะเต็มทุกยูนิตแล้ว ด้วยการตั้งราคาห้องไว้ที่ล้านต้นๆ ทำให้จับต้อง และตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของกันได้ง่ายหน่อย โดยเฉพาะคนที่ต้องการที่อยู่อาศัย และทำงานในย่านนี้อยู่แล้ว ปัจจัยเรื่องการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาหนักหนา เพราะมีรถราวิ่งผ่านเยอะ ไหนจะรถไฟฟ้าที่น่าจะเปิดให้บริการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นอีก การซื้อหาไว้เก็งกำไร หรือปล่อยห้องให้เช่าก็ดูจะเป็นไปได้มาก เพราะบริเวณใกล้ๆ มีทั้งศูนย์ราชการฯ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาอีกหลายแห่ง กลุ่มคนเช่าห้องที่เป็นคนทำงาน หรือนักศึกษาก็น่าจะมีเข้ามาเรื่อยๆ นะครับ แต่ถ้าคิดจะซื้อหาไว้อยู่เอง เราแนะนำว่าให้ลองพิจารณาดีๆ ว่าตัวคุณเองพร้อมที่จะรับมือกับการอยู่ร่วมกันแบบชุมชนขนาดใหญ่เช่นนี้หรือเปล่า ไหนจะเรื่อง Facility ที่มีค่อนข้างจำกัด และเรื่องที่อาจจะต้องรอลิฟท์นานในชั่วโมงเร่งด่วน หรือเรื่องปัญหาที่จอดรถที่ไม่เพียงพอ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องขนาดห้องที่ค่อนข้างเล็กกระทัดรัดซะเหลือเกิน และทางโครงการขายมาให้แบบห้องเปล่าๆ การจะหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งให้ลงล็อคพอดีกับพื้นที่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ Built in กับทางโครงการก็ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ก็ต้องคิดเผื่อค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นมาด้วย เพราะไม่แน่ว่าราคาห้องรวมๆ เข้าแล้ว อาจจะมีห้องจากโครงการอื่นที่ดีกว่า หรือคุ้มค่ากว่า ถึงแม้ว่าทำเลอาจจะด้อยกว่าหน่อยก็ตาม