คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ อนุสาวรีชัยสมรภูมิ ย่านที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของกรุงเทพฯ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อสร้างปี 2484 จนตัวอนุสาวรีย์เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 2485 ก็อยู่เคียงคู่คนไทยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ท่ามกลางบรรยากาศรอบๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูงใหญ่เกิดขึ้นมากมาย รถยนต์ผ่านตลอดทั้งวัน เพราะใกล้ทางด่วนรวมถึงสถานที่สำคัญ มีรถไฟฟ้าผ่าน อาหารการกินทั้งภัตตาคารชื่อดัง ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อไปจนถึง Street Food ทุกสิ่งส่งให้เป็นย่านที่สมบูรณ์พร้อมรอบด้าน แต่กลับมีที่อยู่อาศัยค่อนข้างน้อยค่ะ เราจึงเรียกว่าเป็น Rare Location แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งในบทความนี้เราจะไปค้นหาเหตุผลที่ช่วยตอกย้ำความเป็น Rare Location ไปพร้อมๆ กันค่ะ 1.โซนที่ดินหายาก อนุสาวรีย์ชัยฯ ถือเป็นโซนที่ดินหายากมากค่ะ โดยเฉพาะสำหรับที่อยู่อาศัย เพราะแวดล้อมส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่ทำการของทางราชการ จะมีก็เพียงแต่ช่วงถ.ราชเทวี ฝั่งใกล้สวนสันติภาพ กับซอยรางน้ำที่พอจะมีที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยวตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า และคอนโดมิเนียมสมัยใหม่ให้เห็นกันอยู่บ้างในละแวกรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก ทั้งที่มีความต้องการอยู่อาศัยในย่านนี้อยู่ไม่น้อย โดนเฉพาะกลุ่มคนทำงานทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ข้าราชการกระทรวงต่างๆ รวมถึงใกล้กับโรงเรียน, มหาวิทยาลัย และแหล่งสถาบันกวดวิชา ทำให้ราคา/ยูนิตพุ่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว สามารถเก็บเกี่ยว Capital gain ได้ดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการปล่อยเช่าตามไปด้วย เพราะ Supply มีน้อยกว่า Demand ก็ย่อมทำราคาได้ดีกว่า การแข่งขันก็ต่ำกว่าในโซนอื่น 2.ศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯ แน่นอนว่าการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วที่สุดในกรุงเทพฯ นั่นคือรถไฟฟ้าค่ะ โดยเฉพาะสายสีเขียวอ่อนที่เป็นสายหลักสำคัญที่ผ่านช่วงสำคัญต่างๆ มากมาย เช่น เอกมัย ทองหล่อ อโศก สยาม หรือแม้แต่อนุสาวรีย์ชัยฯ แห่งนี้ ซึ่งสามารถต่อการเดินทางไปยังเส้นทางอื่นๆ ได้ง่าย ชนิดที่ใครจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ย่อมต้องนึกถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ และยังมีจุดขึ้น-ลงทางพิเศษศรีรัช บริเวณฝั่งถนนพหลโยธินสามารถเชื่อมต่อไปทางแจ้งวัฒนะหรือสีลมได้สะดวก เพราะที่นี่นั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็นหนึ่งใน HUB แห่งการเดินทางของบ้านเราค่ะ 3.แหล่งรวมโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ เป็นย่านที่มีโรงพยาบาลปักหมุดอยู่เยอะที่สุดในบ้านเราก็ว่าได้นะคะ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีชื่อเสียงระดับประเทศเลยทีเดียว ตั้งแต่รพ.ราชวิถี ที่อยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยฯ มากที่สุด ไล่ขึ้นไปตามถนนราชวิถี ก็มีทั้ง รพ.เด็ก, รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน, รพ.สถาบันโรคผิวหนัง, รพ.พระมงกุฏเกล้า ไปจนตัดกับถนนพระราม 6 ก็มีทั้งรพ.รามา, สถาบันประสาทวิทยา, รพ.วิชัยยุทธ หรือแม้แต่รพ.พญาไท 1, รพ.พญาไท 2 อินเตอร์เนชันแนล, รพ.สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์, ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในบริเวณนี้ทั้งสิ้น ใครที่อยู่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ก็อุ่นใจได้เลยค่ะ 4.ย่านของคนรักสุขภาพ สวนสันติภาพ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นสวนป่ากลางกรุง บรรดาต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาช่วยกันโอบล้อมสระน้ำตรงกลาง เวลามีลมพัดผ่านจึงช่วยให้เกิดลมเย็นขึ้นมาด้วย ด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบท่ามกลางเมืองใหญ่แบบนี้ ช่วงเย็นจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนรักสุขภาพไม่ว่าจะมาเดิน-วิ่งรอบสระน้ำ มาเล่นเครื่องออกกำลังกายภายในสวน หรือมาร่วมแอโรบิคแดนซ์ช่วง 18.00 น. โดยสวนสันติภาพมีทางเข้า-ออกอยู่ 2 ทางคือจากถนนรางน้ำกับถนนราชเทวี เปิดตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. 5.ร้านอาหารชื่อดังมากมาย ตั้งแต่เช้าจรดค่ำรับรองว่าละแวกนี้อาหารการกินไม่เคยขาดแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็มีให้เลือกหลากหลายละลานตา ซึ่งถ้าจะให้เราแนะนำล่ะก็ มื้อเช้าของวันจะต้องเริ่มต้นด้วยอาหารดีๆ ต้อนรับวันใหม่ด้วยบรรยากาศร้านโทนสีขาวสว่างคลีนๆ ที่ร้าน Kay's Boutique Breakfast อาหารเช้าสไตล์ตะวันตกแบบโมเดิร์น มีทั้งบุฟเฟ่ต์และ À La Carte ใครที่เป็นสายถ่ายรูปรับรองว่าแต่ละเมนูออกมาได้ถ่ายรูปสวยแน่นอนค่ะ พอบ่ายคล้อยก็หาร้านนั่งจิบกาแฟในสไตล์ที่ไม่มีใครเหมือน เพราะร้านนี้คือ กาแฟนรสิงห์ ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในวังพญาไท โดยสร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 6 ภายในร้านจึงจำลองบรรยากาศทั้งหมดให้ย้อนกลับไปในสมัยนั้น จิบกาแฟชมวังไปด้วยก็คลาสสิคไปอีกแบบนะคะ ปิดท้ายช่วงค่ำคืนกันด้วยเสียงเพลงแจ๊สละมุนละไมจากศิลปินคุณภาพที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาขับกล่อมพร้อมเครื่องดื่มหลายชนิด และอาหาร อร่อยๆ ที่ร้าน Saxophone Pub & Restaurant คอเพลงแจ๊สไม่ผิดหวังแน่นอน 6.ช็อปปิ้งแบรนด์ดังแบบง่ายๆ มีทั้งอาหารการกินรายล้อม มีสวนสาธารณะไว้เปลี่ยนบรรยากาศออกกำลังกาย มีโรงพยาบาลอยู่ใกล้ไว้ให้อุ่นใจ มีทั้งทางด่วน รถไฟฟ้าไว้เดินทางได้ง่ายๆ ทุกวันแล้ว จะขาดแหล่ง Shopping คุณภาพดีๆ ไปก็คงจะไม่สมบูรณ์แบบสมกับเป็น Rare location ใช่ไหมคะ ซึ่งแหล่ง Shopping ที่รับประกันคุณภาพของแท้แน่นอนคงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก King Power ซ.รางน้ำ ถึงไม่มีไฟล์บินก็สามารถไปเดินช็อปปิ้งได้ง่ายๆ สังเกตแค่ป้ายราคาสีฟ้าที่ติดไว้บนตัวสินค้าค่ะ นอกจากนี้ก็ยังอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังอีกหลายแห่ง เช่น เซนจูรี่, เซนเตอร์วัน, มาบุญครอง, สยามเซนเตอร์, สยามพารากอน เป็นต้น
Maestro 07
คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น บนพื้นที่ 1-0-41.80 ไร่ 171 ยูนิต แบ่งเป็นขนาด 1 Bedroom 27-29.34 ตร.ม. 150 ยูนิต กับ 2 Bedroom 45.51-68.37 ตร.ม. 21 ยูนิต ที่จอดรถ 67 คัน (40%) อยู่ที่ชั้นใต้ดิน B1-2 สถาปัตยกรรมของยังคงเอกลักษณ์ตามแบบฉบับ Maestro คือมีความผสมผสานระหว่างกลิ่นอายของความคลาสสิคสไตล์ตะวันตกกับความโมเดิร์นสมัยใหม่(Classic Inspired with Modern Twist) ทำให้ตัวอาคารออกมาดูเรียบหรู เกิดเป็นงานดีไซน์ Timeless Design ดูแล้วให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลายเมื่อเข้ามาในโครงการ ซึ่งแตกต่างจากภายนอกที่เป็นถนนใหญ่ ซึ่ง Maestro 07 ตั้งอยู่หัวมุมซอยราชเทวี 7 ซึ่งสามารถเข้าจากทางซอยรางน้ำ แล้วเข้าซอยวัฒนโยธินอีกทีก็ได้ค่ะ ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของแบรนด์ Maestro ทุกตัวเลยนะคะที่ต้องสามารถเข้า-ออกโครงการได้หลายเส้นทาง ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วค่ะ แม้ว่าตัวโครงการจะตั้งอยู่กลางเมืองใหญ่ ห่างจาก Skywalk เพียง 80 เมตร ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ 300 เมตร และ 500 เมตรจากทางพิเศษศรีรัช ทางโครงการเองที่ตระหนักถึงความวุ่นวายจากถนนใหญ่ดีค่ะ ก็เลยพยายามออกแบบมาให้เกิดความสงบผ่อนคลายมากที่สุด อย่างตัวโครงการที่เป็น Low Rise นั้นมีข้อดีตรงที่มียูนิตน้อย ทำให้ได้ความสงบเป็นส่วนตัวมากกว่า สำหรับ Maestro 07 จะมียูนิตน้อยที่สุดเพียง 10 ยูนิต/ชั้น และมากที่สุดคือ 24 ยูนิต/ชั้น มี Facilities ครบครันเปรียบได้กับ Sanctuary Space ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนที่ดีของลูกบ้านคนพิเศษ และยังคงอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ตามสไตล์ของ Major Development หรือวันว่างก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศเดินไปออกกำลังกายกลางสวนสันติภาพได้ แค่ 160 เมตรจากโครงการเท่านั้น MAGNIFIQUE LOBBY และ EXECUTIVE LOUNGE ต้อนรับลูกบ้านและแขกผู้มาเยือนอย่างหรูหราโอ่โถง KIDS ROOM สำหรับแต่งแต้มจินตนาการให้กับเด็กๆ SWIMMING POOL กลางโครงการ พร้อม POOL TERRACE มุมนั่งพักผ่อนพร้อมเสียงสายน้ำล้อมรอบตัว Roof Top Facilities แบ่งโซนเป็นสัดส่วน ตอบสนองการใช้ประโยชน์ได้จริงทั้ง BBQ COURTYARD พื้นที่สำหรับจัดงานปาร์ตี้ปิ้งย่างกับกลุ่มเพื่อน พื้นที่ SKY PLAYGROUND ให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นท่ามกลางสวนสีเขียว ออกกำลังกายแบบเบาๆ ที่ PEACEFUL YOGA COURT มีลานให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งคลายเครียดใน PET ZONE หรืออยากมีโมเมนต์นั่งชิวรับลมก็มาพักผ่อนกันได้ที่ BIRDCAGE CABANA Floor Plan ทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ทางถนนราชวิถีค่ะ ซึ่งที่จอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ยูนิตพักอาศัยก็จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 โดยอาคารจะวางลักษณะรูปตัว U มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวอยู่กลางอาคาร บันไดหนีไฟ 2 จุด ส่วนยูนิตพักอาศัยจะมีทั้งทางทิศเหนือ ฝั่งหน้าโครงการ ทิศใต้หลังโครงการได้วิวฝั่งซอยรางน้ำ ทิศตะวันออกได้วิวทางสวนสันติภาพ และทิศตะวันตกจะได้วิวทางอนุสาวรีย์ชัยฯ ค่ะ Unit Plan สำหรับ Maestro 07 จะมีขนาดห้องเริ่มต้นตั้งแต่ 1 Bedroom 27.00-29.34 ตร.ม. และ 2 Bedroom 45.51-68.37 ตร.ม. เสน่ห์ของความเป็น Maestro ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันงดงามที่แค่มองผ่านก็ทราบได้ทันทีว่านี่คือคอนโดมิเนียมที่มีความเรียบหรูไปพร้อมกับความสงบอยู่ภายใน แม้จะตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองก็ตาม ถ้าของดีแล้วทำเลใช่อย่างนี้ก็ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะ Sold out อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าใครพลาดไปก็ยังสามารถมองหายูนิต Resale ได้อยู่นะคะ ลองติดต่อสอบถามไปดูได้ที่ ฝ่ายขายของโครงการได้ที่เบอร์ 02 116 1111 ค่ะ รายละเอียดโครงการ Maestro 07 เพิ่มเติม >>> http://bit.ly/2RiQRBM