ในยุคสมัยที่ใครต่างให้ความสำคัญกับการเดินทาง คงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นักถ้าผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่าบ้านเดี่ยวทั่วไป ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายเนื่องจากทำเลมักตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ และทำให้การใช้ชีวิตง่ายมากขึ้น เช่นเดียวกับโครงการ MARU EKKAMAI 2 (มารุ เอกมัย 2) คอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่จาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่โดดเด่นตั้งแต่การดีไซน์อาคารภายในและภายนอกอย่างพิถีพิถัน ตลอดจนจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลาง ที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งแนวคิดทั้งหมดนี้ทางโครงการได้อ้างอิงมาจากผลวิจัยที่ว่า “การที่คนเรามีที่อยู่อาศัยใกล้ออฟฟิศจะทำให้มีความสุขมากขึ้น หรือการมีสัตว์เลี้ยงก็ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นเช่นกัน” ภาพจำลองรูปแบบอาคารโครงการ MARU EKKAMAI จำนวน 1 อาคาร 32 ชั้น ในสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่าย คุมโทนสีขาวเทา
ทำเล และการเดินทาง
MARU EKKAMAI 2 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพอย่างแท้จริงเลยค่ะ เพราะโครงการตั้งอยู่ต้นซอยสุขุมวิท 63 หรือที่เราเรียกกันคุ้นชินว่าเอกมัย ซึ่งเป็นเอกมัยตอนใต้ระหว่างเอกมัยซอย 2 และซอย 4 อยู่ตรงข้ามกับอาคาร Bangkok Business Center เลยค่ะ อย่างที่ทราบกันดีว่าเอกมัยเป็นซอยคู่ขนานที่เชื่อมต่อกันระหว่างทองหล่อ (ถนนสุขุมวิทและเพชรบุรี) แหล่งไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ฮอตฮิตอยู่เสมอ เพราะบรรยากาศโดยรอบค่อนข้างคึกคักตลอดทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ทั้งยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารชิคๆ และคาเฟ่เก๋ๆ, สถานบันเทิงชื่อดัง, คอมมูนิตี้มอล ตลอดจนออฟฟิศและคอนโดระดับลักชัวรี่ที่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เป็นย่านอุดมสมบูรณ์สะดวกสบายทั้งการใช้ชีวิตและอยู่อาศัย การเดินทางเข้าออกเมืองก็สะดวกและคล่องตัวเช่นกันค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ อย่างที่ทราบกันดีแหละค่ะว่าถนนเอกมัยนั้นเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่จราจรค่อนข้างหนาแน่นด้วยปริมาณของกลุ่มคนที่อยู่อาศัยและทำงาน ที่มักสัญจรผ่านไปมาใช้ถนนเอกมัยเป็นเส้นทางสำหรับเข้า-ออกเมืองฝั่งสุขุมวิท แต่ข้อดีของโครงการ MARU EKKAMAI 2 คือตั้งอยู่บริเวณต้นซอยจึงได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง ไม่ต้องฝ่าฟันการจราจรที่ติดขัด ซึ่งเส้นเอกมัยก็มีทางลัดให้เลี่ยงรถติดได้หลายทางนะคะ เช่น ซอยเอกมัย 5, 19 และ 21 ใช้เชื่อมต่อกับเส้นทองหล่อ และซอยเอกมัย 12 และ 28 ที่เชื่อมกับต่อกับเส้นปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งยังมีทางลัดที่ใช้เลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้จากซอยเอกมัย 10 (ตรง Heath Land) ซึ่งสามารถใช้วิ่งลัดมาออกซอยสุขุมวิท 65 ได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้การเดินทางมายังโครงการยังสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 4 ที่สามารถวิ่งออกไปลงสีลมหรือสามย่าน หรือจะใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งไปออกเพลินจิต, ชิดลม, สยาม หรือใช้ถนนเพชรบุรีไปออกพญาไทก็ได้อีกเช่นกัน อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์, ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทั้งขาเข้าและออกเมือง เรียกได้ว่าสะดวกสบายอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สะดวกมากทีเดียวค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิทจึงมีรถเมล์ รถแท็กซี่ รวมไปจนถึงวินมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด หรือหากจะใช้รถไฟฟ้าก็สามารถเดินไปขึ้น BTS สถานีเอกมัยได้ในระยะเพียง 450 เมตรเท่านั้น หากใครอยากเปลี่ยนสายไปนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็แค่นั่ง BTS ไปลงสถานีอโศก เพราะเป็นสถานี Interchange กับสถานีสุขุมวิท ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมมา Interchange ที่สถานีทองหล่อ เรียกว่าถ้าเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่การเดินทางก็ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
คอนโดไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เลี้ยงสัตว์ได้
MARU EKKAMAI 2 เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น จำนวนยูนิตไม่มาก มาพร้อมที่จอดรถถึง 165 คัน หรือคิดเป็น 44.47% แบ่งออกเป็นที่จอดรถปกติ 131 คัน และแบบ Autoparking 34 คัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live More, Live Maru เน้นความเป็นคอนโด Pet Friendly & Wellness Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ทำงานนอกออฟฟิศหรือที่บ้าน และยังชอบพักผ่อน สังสรรค์กับเพื่อนๆ ตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ดูเรียบง่ายสะอาดตา เน้นวัสดุธรรมชาติ แต่แฝงไว้ด้วยไอเดียใหม่ๆ อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด พื้นที่ใช้สอยภายในจัดวางอย่างเป็นสัดส่วนเอื้อต่อการใช้งาน โดยคำนึงถึงการอยู่อาศัย แต่ยังคงรสยิยมการตกแต่งแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ไว้เช่นเคย ภาพจำลองภายในห้อง Duplex - 1 Bedroom ที่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 41.5 - 74.5 ตร.ม. ภายในห้องดูโปร่งโล่งด้วยเพดานสูงถึง 5.5 เมตร ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกลิ่นอายสไตล์เซนที่ลงตัวไปกับพื้นที่ใช้สอย เอื้อให้ใช้ประโยชน์สูงสุด สำหรับเอกลักษณ์สำคัญของคอนโดจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ คือนโยบาย Pet-friendly ที่อนุญาตให้ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยจัดสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข นอกจากความเป็นมิตรที่ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้อย่างสบายใจแล้ว ทางโครงการยังมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำน้องหมา น้องแมว และพื้นที่สวนให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณได้วิ่งเล่นอย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องหลบซ่อนอีกด้วยค่ะ ภาพจำลองภายในห้อง Quiet room ที่มีเฉพาะโครงการ Maru Ekkamai ออกแบบมาสำหรับให้ลูกบ้านใช้อ่านหนังสือหรือทำงานภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ ภาพจำลองภายในห้อง Theater - Karaoke room รองรับการผ่อนคลายของลูกบ้าน ภาพบรรยากาศจำลองของห้อง Terrarium Workshop room ท่ามกลางสวนสวยให้ทัศนียภาพร่มรื่น แต่ยังคงรสนิยมการตกแต่งในรูปแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ในส่วนของ Facilities ต้องบอกเลยว่าทางโครงการจัดเตรียมพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางไว้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ ค่ะ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับวันพักผ่อนมากมายไม่ว่าจะเป็น ห้องฟิตเนส สระว่ายขนาดใหญ่ถึงครึ่งหนึ่งของสระโอลิมปิกที่มาพร้อมสระน้ำอุ่นให้ปรับอุณภูมิก่อนลงสระไว้ข้างๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นกิจกรรมอื่นๆ เช่น พื้นที่จอดรถจักรยาน มาพร้อมที่เติมลมยางแบบ automatic, EV Charger, Bark and Bike wash, Co-Creation Space, Co-Kitchen Space, Outdoor theater และ Quite Room ให้อ่านหนังสืออย่างสงบ ภายใต้บรรยากาศร่มรื่นใกล้ต้นไม้เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น และยังมีสวนขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการเพื่อเป็นตัวกรองมลภาวะ ทั้งอากาศ และเสียงจากภายนอก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง เล่ารายละเอียดกันมาถึงจุดนี้แล้ว คงต้องบอกว่า MARU EKKAMAI 2 เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่น่าสนใจมากทีเดียวนะคะ ทั้งด้วยศักยภาพของทำเล และตัวโครงการเองที่มีการจัดสรรพื้นที่ในส่วนต่างๆ ไว้อย่างลงตัว ใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยใกล้รถไฟฟ้า เดินทางไปมาสะดวก อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เราว่าโครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แถมยังอยู่ในราคาที่สามารถเอื้อมถึงด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4.3 ล้านบาท หรือ 189,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น และจองเพียง 30,000 บาท สำหรับห้อง Studio กับ 1 Bedroom และ 60,000 บาท สำหรับห้อง 2 Bedroom บอกได้คำเดียวว่าไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ แถมช่วงพรีเซลวันที่ 23-24 กันยายน 2560 นี้ ณ โรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit 57 ทางโครงการยังมีโปรโมชั่นให้ส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาท* สำหรับใครที่สนใจสามารถลงทะเบียน เพื่อรับส่วนลดและสิทธิพิเศษ ได้ที่ http://bit.ly/2vASK2E หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 084-416-7777