“บมจ.เอเวอร์แลนด์” งัดแผนลุยขยายฐานแนวราบ ภายใต้แบรนด์ “มายโฮม อเวนิว - เอเวอร์ ซิตี้” หลังทำเลรามอินทรา-จตุโชติ โกยยอดขายดีเวอร์ เล็งทุ่มงบ 800 ล้านบาท ซื้อที่ดินพัฒนาโครงการเพิ่มเติม ผลประกอบการไตรมาส 3/61 ฟื้นตัวชัดเจน ส่วนรอบเก้าเดือนกวาดรายได้รวม 806 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 550 ล้านบาท และขาดทุนลดลงเหลือ 164 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 206 ล้านบาท รับรู้ยอดโอนโครงการ “ เดอะโพลิแทน บรีซ” เข้ากระเป๋า ด้านบอส “สวิจักร์ โลจายะ” มั่นใจไตรมาสสุดท้ายปีนี้คึกคักต่อเนื่อง หนุนผลประกอบการสดใส ลุ้นผลงานกลับมาเทิร์นอะราวด์ นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ ,โครงการแนวราบแบรนด์ “มาย อเวนิว บ้านเดี่ยว” และทาวน์โฮม “เอเวอร์ ซิตี้” เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีความเปราะบางด้วยปัญหาเศรษฐกิจในปีนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ เร่งหากลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายที่จะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทขยายตัวทิศทางที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทเร่งขยายแบรนด์แนวราบนอกเหนือจากโครงการแนวสูง และให้ความสำคัญซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะการเปิดขายโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ มายโฮม อเวนิว สไตล์ MODERN CHIC บนทำเลรามอินทรา-จตุโชติ ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ มียอดโอนกว่า 50% ของมูลค่าโครงการ 300 ล้านบาทและคาดว่าจะเริ่มโอนได้ภายในปลายปี 2561 บางส่วน ขณะที่ทาวน์โฮม แบรนด์ เอเวอร์ ซิตี้ เช่น ย่านสุขสวัสดิ์ , หนามแดง ฯลฯ ได้เริ่มทยอยก่อสร้างบ้านตัวอย่าง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจะเปิดขายแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังมองหาการขยายการลงทุน โดยเฉพาะการซื้อที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น เพราะโครงการแนวราบใช้ระยะเวลาก่อสร้างสั้น 6-9 เดือนและรับรู้รายได้เร็วเมื่อเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2-3 ปีกว่าที่จะรับรู้รายได้ ซึ่งเป็นการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานใหม่ เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางที่ดี ส่วนผลประกอบการในรอบเก้าเดือนบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 550 ล้านบาท และขาดทุนลดลงเหลือ 164 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนขาดทุน 206 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากรับรู้รายได้จากยอดโอนโครงการแนวสูง เดอะโพลิแทน บรีซ มูลค่ารวม 1,900 ล้านบาท ที่ทยอยโอนล็อตแรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาและทยอยโอนอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ “เราพยายามกระจายความเสี่ยงของพอร์ต โดยเฉพาะการขยายโครงการแนวราบ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จึงทำให้เราพูดคุย วางแผนที่จะหาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ซึ่งเตรียมงบลงทุนไว้ 800 ล้านบาทต่อปี ส่วนแนวสูงในปีนี้ก็จะสนับสนุนผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ”นายสวิจักร์ กล่าว นายสวิจักร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งปีคาดว่าจะเห็นผลการดำเนินงานที่ดี รายได้มีโอกาสเติบโตเกือบเท่าตัว จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 725 ล้านบาท และมีโอกาสพลิกเป็นกำไรจากปีก่อนที่ขาดทุน โดยเฉพาะในไตรมาส 4 /2561 เพราะได้รับปัจจัยบวกจากยอดโอน เดอะโพลิแทน บรีซ, เดอะโพลิแทนรีฟ และโครงการแนวราบบางส่วน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นบริษัทจึงเชื่อว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างแน่นอน