Tag : PetFriendly

2 ผลลัพธ์
MARU Ekkamai 2 ความสุขที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ : รีวิวคอนโด

MARU Ekkamai 2 ความสุขที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ : รีวิวคอนโด

ในยุคสมัยที่ใครต่างให้ความสำคัญกับการเดินทาง คงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นักถ้าผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่าบ้านเดี่ยวทั่วไป ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายเนื่องจากทำเลมักตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ และทำให้การใช้ชีวิตง่ายมากขึ้น เช่นเดียวกับโครงการ MARU EKKAMAI 2 (มารุ เอกมัย 2) คอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่จาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่โดดเด่นตั้งแต่การดีไซน์อาคารภายในและภายนอกอย่างพิถีพิถัน ตลอดจนจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลาง ที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งแนวคิดทั้งหมดนี้ทางโครงการได้อ้างอิงมาจากผลวิจัยที่ว่า “การที่คนเรามีที่อยู่อาศัยใกล้ออฟฟิศจะทำให้มีความสุขมากขึ้น หรือการมีสัตว์เลี้ยงก็ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นเช่นกัน” ภาพจำลองรูปแบบอาคารโครงการ MARU EKKAMAI จำนวน 1 อาคาร 32 ชั้น ในสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่าย คุมโทนสีขาวเทา   ทำเล และการเดินทาง MARU EKKAMAI 2 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพอย่างแท้จริงเลยค่ะ เพราะโครงการตั้งอยู่ต้นซอยสุขุมวิท 63 หรือที่เราเรียกกันคุ้นชินว่าเอกมัย ซึ่งเป็นเอกมัยตอนใต้ระหว่างเอกมัยซอย 2 และซอย 4 อยู่ตรงข้ามกับอาคาร Bangkok Business Center เลยค่ะ อย่างที่ทราบกันดีว่าเอกมัยเป็นซอยคู่ขนานที่เชื่อมต่อกันระหว่างทองหล่อ (ถนนสุขุมวิทและเพชรบุรี) แหล่งไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ฮอตฮิตอยู่เสมอ เพราะบรรยากาศโดยรอบค่อนข้างคึกคักตลอดทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ทั้งยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารชิคๆ และคาเฟ่เก๋ๆ, สถานบันเทิงชื่อดัง, คอมมูนิตี้มอล ตลอดจนออฟฟิศและคอนโดระดับลักชัวรี่ที่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เป็นย่านอุดมสมบูรณ์สะดวกสบายทั้งการใช้ชีวิตและอยู่อาศัย การเดินทางเข้าออกเมืองก็สะดวกและคล่องตัวเช่นกันค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ อย่างที่ทราบกันดีแหละค่ะว่าถนนเอกมัยนั้นเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่จราจรค่อนข้างหนาแน่นด้วยปริมาณของกลุ่มคนที่อยู่อาศัยและทำงาน ที่มักสัญจรผ่านไปมาใช้ถนนเอกมัยเป็นเส้นทางสำหรับเข้า-ออกเมืองฝั่งสุขุมวิท แต่ข้อดีของโครงการ MARU EKKAMAI 2 คือตั้งอยู่บริเวณต้นซอยจึงได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง ไม่ต้องฝ่าฟันการจราจรที่ติดขัด ซึ่งเส้นเอกมัยก็มีทางลัดให้เลี่ยงรถติดได้หลายทางนะคะ เช่น ซอยเอกมัย 5, 19 และ 21 ใช้เชื่อมต่อกับเส้นทองหล่อ และซอยเอกมัย 12 และ 28 ที่เชื่อมกับต่อกับเส้นปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งยังมีทางลัดที่ใช้เลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้จากซอยเอกมัย 10 (ตรง Heath Land) ซึ่งสามารถใช้วิ่งลัดมาออกซอยสุขุมวิท 65 ได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้การเดินทางมายังโครงการยังสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 4 ที่สามารถวิ่งออกไปลงสีลมหรือสามย่าน หรือจะใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งไปออกเพลินจิต, ชิดลม, สยาม หรือใช้ถนนเพชรบุรีไปออกพญาไทก็ได้อีกเช่นกัน อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์, ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทั้งขาเข้าและออกเมือง เรียกได้ว่าสะดวกสบายอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ   สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สะดวกมากทีเดียวค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิทจึงมีรถเมล์ รถแท็กซี่ รวมไปจนถึงวินมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด หรือหากจะใช้รถไฟฟ้าก็สามารถเดินไปขึ้น BTS สถานีเอกมัยได้ในระยะเพียง 450 เมตรเท่านั้น หากใครอยากเปลี่ยนสายไปนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็แค่นั่ง BTS ไปลงสถานีอโศก เพราะเป็นสถานี Interchange กับสถานีสุขุมวิท ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมมา Interchange ที่สถานีทองหล่อ เรียกว่าถ้าเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่การเดินทางก็ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้นเท่านั้นค่ะ   คอนโดไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เลี้ยงสัตว์ได้ MARU EKKAMAI 2 เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น จำนวนยูนิตไม่มาก มาพร้อมที่จอดรถถึง 165 คัน หรือคิดเป็น 44.47%  แบ่งออกเป็นที่จอดรถปกติ 131 คัน และแบบ Autoparking 34 คัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live More, Live Maru เน้นความเป็นคอนโด Pet Friendly & Wellness Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ทำงานนอกออฟฟิศหรือที่บ้าน และยังชอบพักผ่อน สังสรรค์กับเพื่อนๆ ตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ดูเรียบง่ายสะอาดตา เน้นวัสดุธรรมชาติ แต่แฝงไว้ด้วยไอเดียใหม่ๆ อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด พื้นที่ใช้สอยภายในจัดวางอย่างเป็นสัดส่วนเอื้อต่อการใช้งาน โดยคำนึงถึงการอยู่อาศัย แต่ยังคงรสยิยมการตกแต่งแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ไว้เช่นเคย ภาพจำลองภายในห้อง Duplex - 1 Bedroom ที่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 41.5 - 74.5 ตร.ม. ภายในห้องดูโปร่งโล่งด้วยเพดานสูงถึง 5.5 เมตร ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกลิ่นอายสไตล์เซนที่ลงตัวไปกับพื้นที่ใช้สอย เอื้อให้ใช้ประโยชน์สูงสุด สำหรับเอกลักษณ์สำคัญของคอนโดจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ คือนโยบาย Pet-friendly ที่อนุญาตให้ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยจัดสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข นอกจากความเป็นมิตรที่ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้อย่างสบายใจแล้ว ทางโครงการยังมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำน้องหมา น้องแมว และพื้นที่สวนให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณได้วิ่งเล่นอย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องหลบซ่อนอีกด้วยค่ะ ภาพจำลองภายในห้อง Quiet room ที่มีเฉพาะโครงการ Maru Ekkamai ออกแบบมาสำหรับให้ลูกบ้านใช้อ่านหนังสือหรือทำงานภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ ภาพจำลองภายในห้อง Theater - Karaoke room รองรับการผ่อนคลายของลูกบ้าน ภาพบรรยากาศจำลองของห้อง Terrarium Workshop room ท่ามกลางสวนสวยให้ทัศนียภาพร่มรื่น แต่ยังคงรสนิยมการตกแต่งในรูปแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ในส่วนของ Facilities ต้องบอกเลยว่าทางโครงการจัดเตรียมพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางไว้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ ค่ะ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับวันพักผ่อนมากมายไม่ว่าจะเป็น ห้องฟิตเนส สระว่ายขนาดใหญ่ถึงครึ่งหนึ่งของสระโอลิมปิกที่มาพร้อมสระน้ำอุ่นให้ปรับอุณภูมิก่อนลงสระไว้ข้างๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นกิจกรรมอื่นๆ เช่น พื้นที่จอดรถจักรยาน มาพร้อมที่เติมลมยางแบบ automatic, EV Charger, Bark and Bike wash, Co-Creation Space, Co-Kitchen Space, Outdoor theater และ Quite Room ให้อ่านหนังสืออย่างสงบ ภายใต้บรรยากาศร่มรื่นใกล้ต้นไม้เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น และยังมีสวนขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการเพื่อเป็นตัวกรองมลภาวะ ทั้งอากาศ และเสียงจากภายนอก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง   เล่ารายละเอียดกันมาถึงจุดนี้แล้ว คงต้องบอกว่า MARU EKKAMAI 2 เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่น่าสนใจมากทีเดียวนะคะ ทั้งด้วยศักยภาพของทำเล และตัวโครงการเองที่มีการจัดสรรพื้นที่ในส่วนต่างๆ ไว้อย่างลงตัว ใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยใกล้รถไฟฟ้า เดินทางไปมาสะดวก อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เราว่าโครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แถมยังอยู่ในราคาที่สามารถเอื้อมถึงด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4.3 ล้านบาท หรือ 189,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น และจองเพียง 30,000 บาท สำหรับห้อง Studio กับ 1 Bedroom และ 60,000 บาท สำหรับห้อง 2 Bedroom บอกได้คำเดียวว่าไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ แถมช่วงพรีเซลวันที่ 23-24 กันยายน 2560 นี้ ณ โรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit 57 ทางโครงการยังมีโปรโมชั่นให้ส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาท* สำหรับใครที่สนใจสามารถลงทะเบียน เพื่อรับส่วนลดและสิทธิพิเศษ ได้ที่ http://bit.ly/2vASK2E  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 084-416-7777
MARU Ladprao 15 ทางเลือกใหม่ของคนเมือง : รีวิวคอนโด

MARU Ladprao 15 ทางเลือกใหม่ของคนเมือง : รีวิวคอนโด

เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้คนมีความสุขมักเกิดจากการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมสภาพแวดล้อมตามแบบที่ชอบและต้องการ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเลือกพอใจแบบไหน แต่ถ้าสองปัจจัยนี้ได้มาอยู่รวมกันแล้ว ความสุขในการดำเนินชีวิตของแต่ละวันก็คงเกิดขึ้นได้ทุกวัน จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น เชื่อไหมคะว่าจะมีอยู่ในคอนโดมิเนียมจริงๆ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบธรรมชาติ ใช้ชีวิตเรียบง่าย รักสัตว์ และกำลังมองหาคอนโดดีๆ บนทำเลศักยภาพ ไม่ควรพลาดโครงการที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ค่ะ นั่นก็คือ “MARU Ladprao (มารุ ลาดพร้าว)” คอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่อยากเลี้ยงสัตว์ไว้ในคอนโด และใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอันหาได้ยากในมหานครคอนกรีต แต่จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ   ทำเลกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย โครงการ MARU Ladprao ตั้งอยู่บนพื้นที่เก่าของปั๊ม Susco ฝั่งขาเข้า ระหว่างซอยลาดพร้าว 15 และซอยลาดพร้าว 17 ซึ่งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลาดพร้าวทางออก 3 แค่เพียง 80 เมตรเท่านั้น จัดว่าเป็นโซนลาดพร้าวตอนต้น เพราะอยู่ในช่วงห้าแยกลาดพร้าวและแยกรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งทำเลบริเวณนี้ถือว่าเจริญและอุดมสมบูรณ์มากเพราะอย่างที่ทราบกันดีพื้นที่ 2 ฝั่งถนนลาดพร้าวรายล้อมไปด้วยร้านค้า, ตลาด, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านยา, คลีนิกเสริมความงาม, คลีนิกทันตกรรม, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, สวนลุมไนท์บาซ่า รัชดาภิเษก และคอนโดมิเนียมมากมาย เรื่องอาหารการกินก็เลยค่อนข้างหาง่ายและสะดวกมากๆ หากใครอยากทานร้านอาหารดีๆ ในมื้อพิเศษก็แค่มุ่งตรงไปถนนโชคชัย 4 เส้นลาดพร้าววังหินและถนนนาคนิวาสที่อยู่ไม่ไกล ก็จะเจอร้านอาหารและแหล่งแฮงก์เอ้าท์เพียบอีกเช่นกัน นอกจากร้านค้าและร้านอาหาร ถ้าจะซื้อของใช้เข้าบ้านก็สามารถมุ่งตรงไปที่ Big C Extra + Homepro (อยู่ห่างเพียง 350 เมตร) หรือขยับไปอีกนิดก็จะเป็น Union Mall (ห่างเพียง 1.1 กิโลเมตร) และ Central Plaza ลาดพร้าว (ห่างเพียง 1.6 กิโลเมตร) ด้วยระยะทางที่แสนใกล้ หากใครยังช็อปปิ้งไม่หนำใจ จะไปต่อที่ตลาดนัดสวนจตุจักร, JJ Green หรือแต่เมเจอร์รัชโยธิน ก็สามารถไปถึงง่ายในเวลารวดเร็วด้วยค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ก็ค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ซึ่งถนนลาดพร้าวสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นได้อีกหลายสาย อาทิ ถนนรัชดาภิเษกที่ตัดกับถนนลาดพร้าว ตรงแยกลาดพร้าว-รัชดา สามารถวิ่งไปพระราม 9 ได้ หรือจะกลับรถไปถนนพหลโยธินที่สามารถวิ่งออกไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิต่อไปถึงอโศก หรือจะใช้ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า การจราจรก็จะคล่องตัวกว่าค่ะ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางยกระดับอุตราภิมุข (ทางด่วนโทลล์เวย์) เชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและศรีรัช ซึ่งสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก หรือจะใช้ทางลัดไปออกถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ก็ไปได้ง่ายๆ จากซอยลาดพร้าว 41 และถนนโชคชัย 4 ที่ตัดเข้าถนนลาดพร้าววังหินและถนนนาคนิวาส เชื่อมกับถนนสุคนธสวัสดิ์ก็เป็นเรื่องที่สะดวกทีเดียวค่ะ ส่วนใครที่ไม่มีรถส่วนตัว เดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นประจำก็สะดวกสบายไม่แพ้กันนะคะ เพราะบริเวณหน้าโครงการมีรถโดยสาร แท๊กซี่ และวินมอเตอร์ไซด์ผ่านไปมาอยู่ตลอด และอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าตัวโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินในระยะที่เดินเท้าได้เพียง 80 เมตร ซึ่งอนาคตสถานีลาดพร้าวจะเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ส่วนสถานีพหลโยธินที่อยู่ถัดไป จะเป็นสถานี Interchange กับสายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งถ้าเรียบร้อยเมื่อไหร่ ตัวเลือกในการเดินทางก็ยิ่งสะดวกสบายและมีมากขึ้นเท่านั้นค่ะ   นิยามใหม่ของการใช้ชีวิตที่ใช่กลางเมือง MARU Ladprao เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น จำนวนยูนิตไม่มาก มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “One you need less, you will have more” ที่สะท้อนภาพชีวิตของคนเมือง แฝงแนวความคิดและความหมายดีๆ “แม้จะเหนื่อยจากการทำงานภายนอก แต่เมื่อได้กลับบ้านในที่ที่ได้เป็นของตัวเอง ก็มีความสุขแล้ว” ตัวอาคารจึงดีไซน์สไตล์โมเดิร์น เรียบง่ายสะอาดตาแต่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนานรวมถึงไอเดียใหม่ๆ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด จัดวางพื้นที่ใช้สอยสะดวกต่อการใช้งาน คำนึงถึงการอยู่อาศัย แต่ยังคงรสนิยมการตกแต่งแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้เป็นอย่างดี ภาพบรรยากาศจำลองห้องขนาด 30 ตร.ม. ที่ได้รับการออกแบบเอื้อต่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายในห้องดูกว้างขวาง เนื่องจากการจัด Lay out เป็นสัดส่วน  ภาพบรรยากาศส่วนของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึงครึ่งหนึ่งของสระโอลิมปิก จะเห็นได้ว่าบริเวณข้างๆ มีสระน้ำอุ่นให้ปรับอุณหภูมิก่อนลงสระใหญ่ด้วย สำหรับพื้นที่ส่วนกลางบอกเลยค่ะว่าจัดเต็มและฉีกรูปแบบคอนโดฯ อื่นอย่างแท้จริง เพราะทางโครงการได้นำ Facility ที่เคยอยู่ใน Indoor ออกมาใช้ใน Outdoor มากขึ้น เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับธรรมชาติได้ออกมาใช้ชีวิตแบบไม่ต้องไปไหนไกล เช่น Co-Working Space ในสวน, โต๊ะ Pool กลางแจ้ง, Outdoor Theater, พื้นที่เชื่อมต่อภายนอกของ Co-Creation Space ซึ่ง MARU ตั้งใจทำให้ลูกบ้านหลีกหนีจากความวุ่นวายใจกลางเมือง หยุดใช้ Computer หรือโทรศัพท์ มาอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางอันร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ โดยพยายามใช้พันธุ์ไม้ที่ให้กลิ่นหอมในโครงการ เพื่อให้ทุกคนได้ออกมาหายใจ อยู่กับธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ยัง MARU ยังมีสวนขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการเพื่อเป็นตัวกรองมลภาวะทั้งอากาศและเสียงจากภายนอก และยังมี Wisdom Garden สวนที่ใช้พักผ่อนหรือสามารถใช้โต๊ะเล่นโกะเกมส์ได้ สำหรับใครที่ชอบปั่นจักรยานทางโครงการก็มีที่จอดรถจักยาน พร้อมที่เติมลมยางแบบ automatic และ Ev Charger, Bark and Bike wash คอยบริการด้วย และยังมี Trampoline ให้เด็กๆ ได้กระโดดเล่น มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึงครึ่งหนึ่งของสระโอลิมปิก ซึ่งบริเวณข้างๆ จะมีสระน้ำอุ่นให้ปรับอุณหภูมิก่อนลงสระใหญ่ด้วยค่ะ ในส่วนของความเป็น “Pet-Friendly Condominium” โครงการ MARU Ladprao อนุญาตให้ลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ได้เหมือนกับ โครงการอื่นๆ ของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เลยค่ะ ซึ่งถือเป็นจุดขายอย่างหนึ่งที่สร้างความแตกต่างจากคอนโดมิเนียมอื่นในตลาด ดังนั้นภายในโครงการจึงมีการจัดสรรพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง หรือ Pet Area เพื่อให้น้องหมา น้องแมว สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณได้ออกมาวิ่งเล่น ออกกำลังกายได้ แต่การจะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยนั้นก็จะมีกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง Co-Creation Space ที่ดูโปร่งโล่งสบาย ล้อมรอบด้วยกระจกใสบานใหญ่ มองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล ภายในห้องตกแต่งสไตล์มินิมอลกึ่งเซนที่เรียบง่ายและสงบ ภาพจำลองบริเวณ Lobby ที่มาในรูปแบบ Double Space 2 ชั้น รองรับลูกบ้านได้อย่างสบายๆ  ภาพบรรยากาศจำลองของ Star Gazing Deck ที่ทางโครงการตั้งใจออกแบบมารองรับลูกบ้านให้ขึ้นมาชมดาวในวันที่ฟ้าพราว และสามารถมองเห็นดาวบนพื้นเป็นกลุ่มดาวสิงโต (LEO)   โครงการ MARU Ladprao จัดว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่น่าจับตาและคุ้มค่าแก่การลงทุนทั้งอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางที่ทาง เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งใจคิดและออกแบบมาเพื่อผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งแนวคิดทั้งหมดนี้ก็อิงมาจากผลวิจัยที่บอกว่า “การที่คนเรามีที่อยู่อาศัยใกล้ออฟฟิศจะทำให้มีความสุขมากขึ้น หรือการมีสัตว์เลี้ยงก็ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นเช่นกัน” เพราะองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดถูกจัดวางให้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ลูกบ้านได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับคนที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 100,000 บาท* ได้ที่ http://bit.ly/2vASK2E หรือ www.marubymajor.com โทร 084-416-7777  ซึ่งจะจัด Pre-Sale ในวันที่ 23-24 กันยายน 2560 นี้ ณ โรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit 57 ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.6 ล้าน