กลุ่มเซนต์จอห์น เจ้าของ บริษัท ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Salan Development Co., Ltd.) ลุยต่อเนื่อง งัดที่ดินผืนงามย่านกรุงเทพฝั่งเหนือ ขนาดเกือบ 6 ไร่ ขึ้นโครงการ โพลี เพลส คอนโด แอท พหลโยธิน 23 (Poly Place Condo @ Phahon Yothin 23) คอนเซปต์พร้อมสัมผัส “ความกลมกลืนของชีวิตเมือง” เพราะพิกัด ตั้งอยู่บนทำเลทองผืนสุดท้ายย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ บริเวณถนนพหลโยธิน 23 ติด SCB Park เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว, รถไฟฟ้าสายสีแดง และ ทางยกระดับอุตราภิมุข เตรียมเปิดขายวันที่ 4-5 มี.ค. นี้ ณ สำนักงานขายโครงการ โพลี เพลส คอนโด แย้มราคา Pre-Sale เริ่มเพียง 1.8 ล้านบาท* มั่นใจเรื่องฟี๊ดแบ๊ค มีแรงหนุนด้านโปรดักส์ และ ทำเลที่ตั้ง ที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง (วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ณ ร.ร. เซ็นทารา ลาดพร้าว) คุณชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย ประธานกรรมการ บริษัท ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เผยว่า “ปัจจุบันราคาที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน นับตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมของกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ ทะยานสูงขึ้น และจากการก่อสร้างของรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ย่านดังกล่าว โดยเฉพาะหัวถนนไล่ไปจนถึงเมเจอร์รัชโยธิน มีความตื่นตัวและเติบโตค่อนข้างสูง เห็นได้ชัดจากเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากที่อยู่อาศัยเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์มากขึ้น ในส่วนของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ และมีที่ดินสะสมได้รับอานิสงส์จากการเติบโตและขยายตัว ทำให้ทรัพย์สินของบริษัทฯ นับวันยิ่งเป็นโลเคชั่นที่ดี ล่าสุดจึงได้ตัดสินใจขึ้นโครงการ โพลี เพลส คอนโด แอท พหลโยธิน 23 (Poly Place Condo @ Phahon Yothin 23) คอนเซ็ปท์ในการออกแบบโครงการ คือต้องการให้ โพลี เพลส คอนโด เป็นมากกว่าการอยู่อาศัย ให้ความรู้สึกเหมือนทุกวันคือการพักผ่อน โดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีสวนสีเขียวกว่า 1 ไร่ ที่ออกแบบสไตล์ Urban Tropical Garden และมี Club House พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน ในย่านรัชโยธิน พหลโยธิน วิภาวดี ลาดพร้าว ที่ต้องการมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง เป็นบ้านหลังแรก หรือคนที่มองหาคอนโดเพื่อการลงทุน ตามคอนเซปต์โครงการ The Urban Harmony ที่ให้คุณได้สัมผัสความกลมกลืนของชีวิตเมืองท่ามกลางธรรมชาติ โครงการ Poly Place Condo @ พหลโยธิน 23 เป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร จำนวนยูนิตโดยรวม 553 ยูนิต มีห้องชุดขนาดเริ่มต้น 29 – 58 ตร.ม. ที่จัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge ห้องออกกำลังกาย ลู่วิ่ง ท่ามกลางสวนสีเขียวสไตล์ Urban Tropical Garden กว่า 1 ไร่ ด้วยงบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท จุดเด่นของโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด คือ สวนสวยขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มากกว่าที่อื่น เมื่อเทียบกับโครงการ Low-Rise ด้วยกันในย่านนี้ อีกทั้งในเรื่องของ Location ของโครงการเอง ที่เข้า-ออกได้ 2 เส้นทาง ทั้ง ฝั่งวิภาวดี 32 และฝั่งพหลโยธิน 23 (ใกล้สถานีพหลโยธิน 24 : BTS สายสีเขียว โครงการส่วนต่อขยายมาจากจตุจักร) เมื่อเทียบระหว่าง Product, Location และราคาขายที่เริ่มเพียง 1.8 ล้านบาท ถือว่าเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่า นอกจากนี้ ผู้บริหารยังเผย ว่า “ตามที่ทราบกันในอนาคต ทำเลในย่านนี้ กำลังจะมีทั้ง สถานีกลาง บางซื่อคอมเพล็กซ์ ที่กำลังจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนาดใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็น New CBD ในอนาคต แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทำเลที่มีสูงมาก ซึ่งทางโครงการได้มอบหมายให้ Knight Frank Charter (Thailand) เป็นตัวแทนในการบริหารงานขายและการตลาด โดยในช่วงแรกเราเปิดขายรอบ Internal สำหรับลูกค้าที่สนใจราคาก่อน Presale โดยทำแผนประชาสัมพันธ์โครงการเพียงแค่ออก Booth ตามสถานที่ต่างๆ เท่านั้น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายกว่า 40% และเราจะเปิดตัวโครงการ PRE-SALE ในวันที่ 4-5 มี.ค. ที่ สำนักงานขายโครงการ โพลี เพลส คอนโด คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก คุณพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า สภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณลาดพร้าว จตุจักร เกษตร พหลโยธิน มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี อุปทานมีเหลือขายน้อย และซัพพลายในตลาดมีไม่มากเนื่องจากโครงการเปิดตัวในปีที่แล้วน้อย โดยในปี 2016 มีอุปทานใหม่เพียงประมาณ 570 ยูนิตในขณะที่ยูนิตเหลือขายมีอยู่ประมาณ 2,000 หน่วยและจำนวนยูนิตที่มีการขายต่อปีอยู่ประมาณ 2,000-3,000 หน่วย ณ สิ้นปี 2016 มีอุปทานรวมในบริเวณประมาณ 24,900 หน่วย มียอดขายแล้วอยู่ที่ประมาณ 22,800 หน่วย คิดเป็นยอดขายสะสมที่ร้อยละ 91.5 ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายสะสมที่สูง ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากความชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรถฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ทดลองใช้บริการได้ช่วงต้นปี 2020 รูปภาพที่ 1: อุปทาน และอุปทานใหม่ ตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณ ลาดพร้าว จตุจักร เกษตร พหลโยธิน วิภาวดี ปี 2009-2016 ที่มา: ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย
รูปภาพที่ 2: อุปทาน-อุปสงค์สะสม และอัตราการขายคอนโดมิเนียมบริเวณลาดพร้าว จตุจักร เกษตร พหลโยธิน วิภาวดี ที่มา: ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย
ระดับราคาขายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่ ปัจจุบันพบว่าราคาขายเฉลี่ยโครงการเปิดตัวใหม่ในบริเวณนี้อยู่ที่ตารางเมตรละ 118,146 บาท หากดูราคาโครงการที่เปิดตัวภายในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยคอนโดมิเนียมในบริเวณมีการปรับตัวสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากมีโครงการพัฒนาคอนโดมิเนียมเกรด เอ เพิ่มขึ้นในบริเวณใกล้กับสวนจตุจักร รูปภาพที่ 3 ระดับราคาขายโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ในบริเวณลาดพร้าว จตุจักร เกษตร พหลโยธิน วิภาวดี (บาทต่อตารางเมตร) ที่มา: ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย
คุณพนม กล่าวเสริมว่า ศักยภาพของทำเลที่มีแนวโน้มการพัฒนาที่ดินและการขยายตัวในเชิงพาณิชย์ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟบริเวณนิคมรถไฟ กม. 11 ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบผสมผสาน ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานและศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติขนาดใหญ่ที่สุดแห่งใหม่ของประเทศไทย โครงการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์บริเวณสภานีรถไฟฟ้าหมอชิตของกรมธนารักษ์ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจาต่อสัญญากับผู้รับสัมปทานโครงการ และกลับมาพัฒนาโครงการต่อได้อีก การพัฒนาพื้นที่ 30 ไร่บริเวณตรงข้ามแดนเนรมิตของบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน)และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ทั้งหมดนี้ส่งผลให้บริเวณนี้มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการเพื่ออยู่อาศัยสูงขึ้นอย่างมาก ประกอบกับตลาดที่มีซัพพลายเหลือขายน้อย และอุปทานที่ดินที่มีในตลาดที่จะนำมาพัฒนาได้มีน้อย จึงเป็นโอกาสในการลงทุนสำหรับผู้ซื้อห้องชุดในพื้นที่นั้นในรูปแบบของการลงทุนและอยู่อาศัยเอง เนื่องจากแนวโน้มราคาจะยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต