Tag : reviewcondo

11 ผลลัพธ์
The Room BTS วงเวียนใหญ่ : รีวิวคอนโด

The Room BTS วงเวียนใหญ่ : รีวิวคอนโด

The Room BTS วงเวียนใหญ่  คอนโด High Rise สูง 29 ชั้น จาก Land & House บนถนนกรุงธนบุรี ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น  5,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 120,000 บาท เจ้าของโครงการ  บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด  High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  201 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 0 - 42.8 ไร่ ที่จอดรถ  ประมาณ 84% ที่ตั้งโครงการ  ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ   เดือนสิงหาคม 2557 ค่าบำรุงส่วนกลาง  45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน  500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลกรุงธน เดอะมอลล์ท่าพระ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 43 - 57.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 73 - 92.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ ระบบโอโซน ห้องออกกำลังกาย Sauna ห้องอ่านหนังสือ ห้องประชุม สวนหย่อมรอบโครงการ และชั้น 29 ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว  อัตราส่วนลิฟท์  100:1 ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.lh.co.th
Circle Rein สุขุมวิท 12 : รีวิวคอนโด

Circle Rein สุขุมวิท 12 : รีวิวคอนโด

Circle Rein สุขุมวิท 12 คอนโด Low Rise 8 ชั้น โครงการใหม่จาก Fragrant Property บนถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เปิด Pre-Sale วันที่ 18 ตุลาคม 2557 นี้ บรรยากาศโครงการในยามค่ำคืน ภาพมุมสุงจะเห็นสวนสีเขียวและสระว่ายน้ำที่อยู่บนดาดฟ้า รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 4,400,000 บาท (ราคา ณ วัน Pre-Sale) ราคาต่อตารางเมตร 160,000 บาท เจ้าของโครงการ Fragrant Property Co., Ltd. ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 122 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 0 - 28 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนสุขุมวิท 12 (ซอยสุขใจ) แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 70 คัน ค่าบำรุงส่วนกลาง 60 บาท/ตารางเมตร Floor Plan ชั้น 1 Floor Plan ชั้น 4-6 Floor Plan ชั้น 8 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีอโศก BTS สถานีนานา Terminal 21 Interchange Tower Time Square Tower Korean Town สวนสาธารณะ ชูวิทย์ แผนที่โครงการ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 30.73 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 47.03 - 56.73 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 70 - 89.67 ตารางเมตร 3 ห้องนอน ขนาด 155.37 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการ Shutter Bus สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า สวนสีเขียวสำหรับรับลม ชมวิว บนชั้นดาดฟ้า Fitness หน้าตาของห้องสมุดครับ Lobby   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-652-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.fragrantgroup.com
Aspire สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

Aspire สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

ใครที่กำลังมองหาคอนโดในย่านพระโขนง ต้องไม่พลาดข้อมูลของโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 คอนโด High Rise ที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว แถมยังอยู่เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทด้วย ถึงแม้สถานีพระโขนงจะอยู่ห่างจากตัวโครงการมากถึง 750 เมตร แต่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่ยังน่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับห้องในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 3 ล้านบาท การเดินทาง   การเดินทางมายังคอนโด Aspire สุขุมวิท 48 สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพระโขนง ซึ่งอยู่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 48 ประมาณ 500-600 เมตร ส่วนตัวโครงการอยู่ถัดเข้ามาในซอยอีกเกือบ 200 เมตร ด้วยระยะขนาดนี้ยังถือว่าเดินได้ไม่ยาก แต่ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่จากตัวสถานีรถไฟฟ้าลงมาทางถนนพระราม 4 ต้องข้ามทางม้าลายที่แยกใหญ่อีกทอด ซึ่งต้องเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยจากรถราบนท้องถนนบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าจะออกจากโครงการไปยังรถไฟฟ้าแล้วไม่อยากเดิน ก็มีทางเลือกให้ทั้งบริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือจะใช้บริการ Shuttle Bus ของทางโครงการที่มีบริการรับส่งตามเวลาที่กำหนดก็ได้เช่นกัน   ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถเลือกเข้าได้ทั้งจากทางซอยสุขุมวิท 48 และฝั่งถนนพระราม 4 จากซอยสุขุมวิทพลัส 2 ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสามแยกพระโขนงนั่นเอง ถ้าเราเดินทางมาจากทางอ่อนนุช จะต้องข้ามสะพานข้ามคลองพระโขนงมาก่อนนะครับ พอขึ้นสะพานมาแล้วให้พยายามชิดซ้ายเข้าไว้ เพราะลงสะพานมาปุ๊ปก็เห็นซอยสุขุมวิท 48 อยู่ตรงหน้าทันที ส่วนถ้าใครมาจากฝั่งเอกมัย ผ่านแยกพระโขนงมาแล้วจะต้องมากลับรถที่ใต้สะพานเพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 48 หรือจะเลี้ยวเข้าถนนพระราม 4 แล้วเข้าทางซอยสุขุมวิทพลัส 2 ก็ได้เช่นกัน แต่การเข้าออกทางซอยสุขุมวิทพลัส 2 ต้องเสียค่าผ่านทาง 10 บาทด้วยนะครับ ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน แน่นอนว่าการจราจรบริเวณนี้ก็ได้ชื่อว่าติดหนักเอาการ เพราะถนนสุขุมวิทมักจะมีปริมาณรถที่หนาแน่นเกือบตลอดเวลา เส้นทางหลีกเลี่ยงที่พอจะทำได้ง่ายก็เห็นจะมีถนนพระราม 4 ที่สามารถออกไปขึ้นทางด่วนที่ด่านอาจณรงค์ได้ แต่การจราจรบนถนนพระราม 4 ก็ใช่ว่าจะติดน้อยกว่าถนนสุขุมวิทซักเท่าไหร่ ดังนั้นใครที่ต้องใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักอาจจะเลี่ยงปัญหารถติดได้ยาก หรือถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยกับเส้นทางบริเวณนี้ดีพอ ก็อาจจะรู้ว่าในซอยสุขุมวิท 48 นี้มีเส้นทางลัดไปออกซอยสุขุวิท 50 เพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ด้วยอีกทาง แต่เส้นทางนี้จะต้องขับผ่านซอยแคบในพื้นที่ส่วนบุคคลด้วย จึงไม่ค่อยมีใครรู้เส้นทางเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่   สำหรับการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน เพราะบริเวณปากซอยสุขุมวิท 48 มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และป้ายรถเมล์ ซึ่งถนนสุขุมวิทมีรถราวิ่งผ่านมากมายอยู่แล้ว จะไปไหนมาไหนจึงหาเรียกรถได้สะดวก   แผนที่รอบๆ โครงการครับ สำหรับการเดินทางวันนี้ผมขอเริ่มจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ย่านบางจากใกล้ๆ โครงการเลยนะครับ ด้านซ้ายมือจะเป็นสำนักงานเขตพระโขนงครับ ตรงมาอีกนิดนึงก็ถึง BTS อ่อนนุชแล้วครับ เลยจาก BTS อ่อนนุชมาก็จะเจอแยกอ่อนนุช ด้านขวามือจะเป็นถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุช ให้ขับตรงไปเลยนะครับ พอตรงมาแล้วก็จะเจอสะพานข้ามคลองพระโขนง ให้ขับตรงขึ้นสะพานไปเลยครับ พอข้ามสะพานมาก็ถึงแล้วครับ ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยนะครับ หน้าปากซอยสุขุมวิท 48 จะมีป้ายโฆษณาของโครงการติดอยู่ด้วยนะครับ สังเกตได้ไม่ยาก โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยก็จะเห็นอาคารของโครงการตั้งตระหง่านอยู่แบบนี้เลยครับ โครงการจะอยู่ในซอยประมาณ 200 เมตรครับ ถึงแล้วครับ ทางเข้าโครงการ อย่างที่บอกว่าโครงการสร้างเสร็จแล้ว เริ่มมีลูกบ้านทยอยเข้ามาอยู่แล้วครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในโครงการแล้วให้ขับเลยมาจอดรถที่ Tower S ด้านในนะครับ เพราะสำนักงานขายจะย้ายมาอยู่ที่ Lobby Tower S ครับ บรรยากาศด้านล่างตึก น้ำพุด้านหน้า Tower S บรรยากาศภายใน Lobby ครับ Lobby อีกมุม ครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ   โครงการ Aspire สุขุมวิท 48  อยู่ถัดเข้ามาจากปากซอยเป็นระยะทางเกือบ 200 เมตร ลักษณะที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวเริ่มจากฝั่งซอยสุขุมวิท 48 ไปจรดคลองพระโขนง พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 3 อาคาร คือ อาคาร N (North) สูง 25 ชั้น อาคาร S (South) สูง 30 ชั้น และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นซึ่งอยู่ด้านในสุด อาคารทั้งหมดตั้งอยู่ตามแนวทะแยงทิศเหนือ-ใต้  ทำให้ห้องส่วนใหญ่ค่อนไปในตำแหน่งทิศตะวันออกและตะวันตก ห้องทางด้านทิศตะวันออกจะได้ City View เห็นทั้งรถไฟฟ้า BTS ถนนสุขุมวิท และวิวตึกสูงตามแบบฉบับเมืองใหญ่ ส่วนทางด้านทิศตะวันตกที่ใครๆ กลัวว่าแดดจะร้อนแต่กลับได้วิวที่สวยกว่า ด้วยวิวมุมกว้างไร้ตึกสูงให้รกตา แถมยังได้วิวแม่น้ำ ท่าเรือ และในวันที่อากาศดีๆ ก็สามารถมองเห็นได้ไกลถึงบางกระเจ้าเลยทีเดียว ใครที่เลือกห้องในชั้นสูงๆ ก็จะได้เปรียบเรื่องวิวไปเต็มๆ ส่วนปัญหาเรื่องแดดร้อนก็อาจจะร้อนบ้างแต่ยังโชคดีที่บางห้องอยู่ในตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงไม่โดนแดดเต็มที่ ใครที่อยากได้ห้องวิวสวยๆ ก็ลองพิจารณากันดูได้ครับ   ส่วนบริเวณรอบๆ โครงการยังมีบรรยากาศเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยกันมาก่อน ในซอยสุขุมวิท 48 มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และร้านซักรีดบ้าง ซึ่งก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น  ถัดมาทางถนนสุขุมวิทก็ยังมีร้านค้าอยู่อีกไม่น้อยเช่นกัน รอบๆ ในรัศมีใกล้เคียงมีสาธารณูปโภคครบถ้วนดีเช่นกัน ทั้งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท และห้างสรรพสินค้าอีกหลายแห่ง จัดว่าอุดมสมบูรณ์ดีทีเดียวครับ   และด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ มียูนิตรวมทั้ง 2 อาคารมากถึง 838 ยูนิต  ทำให้มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องใช้ร่วมกันบ้าง และแยกส่วนกันบ้าง เช่นในส่วนของอาคารจอดรถที่ลูกบ้านต้องใช้อาคารจอดรถร่วมกัน โดยอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นที่ทางโครงการจัดไว้ สามารถรองรับรถได้กว่า 400 คัน ถ้านับรวมที่จอดรถบริเวณรอบๆ อาคาร และนับรวมการจอดซ้อนคันแล้ว ก็มีสัดส่วนที่จอดรถมากถึง 50% ของจำนวนห้องทั้งหมดเลยทีเดียว แต่ลูกบ้านในอาคาร N จะเสียเปรียบกว่านิดหน่อย เพราะตั้งอยู่ห่างจากอาคารจอดรถมากกว่าอาคาร S แถมทางเดินระหว่างอาคารแต่ละหลังก็ไม่มีหลังคาบังแดดบังฝนด้วย การเดินไปมาในช่วงเวลาฝนตกอาจจะลำบากหน่อย ยิ่งถ้าต้องหิ้วของพะรุงพะรังยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะทุลักทุเลแค่ไหน นอกจากนี้สวนหย่อม และลู่วิ่งบนถนนรอบโครงการก็เป็นอีกส่วนที่ต้องใช้ร่วมกัน ส่วนสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า และพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ที่ชั้นบนสุดของทั้ง 2 อาคาร ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางนี้จะแยกกันแต่ละอาคารโดยชัดเจน โดยที่พื้นที่ส่วนกลางบนดาดฟ้าของอาคาร S จะกว้างกว่าอาคาร N อย่างชัดเจน เนื่องจากจำนวนยูนิตรวมในอาคาร S มากกว่านั่นเอง ส่วนเรื่องลิฟท์โดยการก็แบ่งเป็นอาคาร S 3 ตัว และลิฟท์เซอร์วิสอีก 1 ตัว ในขณะที่อาคาร N มีลิฟท์โดยสารให้เพียง 2 ตัวเท่านั้น เรื่องความหนาแน่นของการใช้งานส่วนกลางต่างๆ ก็ต้องบอกว่าหนาแน่นกันพอสมควร อย่างลิฟท์โดยสารก็คำนวนได้ในอัตรา 1:140-180 เลยนะครับ ส่วนสระว่ายน้ำระดับ 5x15-20 เมตร ในแต่ละอาคารไม่ต้องบอกก็น่าจะนึกออกว่าจะต้องแบ่งกันใช้งานมากน้อยแค่ไหน   เนื่องจากตัวโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 สร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัยแล้ว เราเลยได้เห็นบรรยากาศภายในโครงการจริงๆ ทั้งล็อบบี้ที่โอ่งโถงทันสมัย วิวสวยๆ จากบนตึก ระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องใช้ Key Card กันตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ไปจนถึงลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้น รวมถึงหน้าตาของพื้นที่ส่วนกลางที่บนดาดฟ้าของอาคาร S ทำให้เราไม่ต้องจินตนาการเกินจริงจากแบบแปลนในกระดาษอีกต่อไป ใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่ ลองแวะไปดูของจริงกันได้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ครับ   หน้าตาแบบแปลนของโครงการนะครับ จะมีทั้งหมด 3 อาคาร ซ้ายสุด Tower N สูง 25 ชั้น , Tower S สูง 30 ชั้น และอาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น ชั้น G ของ Tower N กับ S จะเป็น Lobby หน้าตาของ Lobby ครับ ส่วนของห้องพักอาศัยของทั้ง 2 อาคารจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปเลยนะครับ โดย Tower N จะมีห้องพักทั้งหมด 278 ยูนิต ส่วน Tower S จะมีทั้งหมด 560 ยูนิตครับ ที่ชั้น 17 และ 22 ของ Tower N จะมี Sky Garden ด้วยนะครับ ส่วนชั้น 25 จะเป็นชั้นบนสุดของ Tower N จะมีสระว่ายน้ำ,ฟิตเนส และสวนสีเขียวอยู่ที่ชั้นนี้ครับ ส่วน Facility หลักของ Tower S จะอยู่ที่ชั้นบนสุดเหมือนกันคือชั้น 30 ครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้นดาดฟ้า Fitness ที่อยู่บนชั้นสุงสุดของอาคาร อาคารจอดรถสูง 8 ชั้นครับ   พาชมห้องตัวอย่าง   แบบห้องของ Aspire สุขุมวิท 48 มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบใหญ่ คือ ห้องแบบ 1bedroom ขนาด 27-38 ตร.ม. และห้องแบบ 2 bedroom ขนาด 54-64 ตร.ม. แต่สำหรับตอนนี้ห้องที่เหลืออยู่จะมีเพียงห้องแบบ 1 bedroom เท่านั้นนะครับ ซึ่งทางโครงการขายกันมาให้แบบห้องเปล่าๆ โล่งๆ มีให้มาเพียงชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ส่วนถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งตามแบบห้องตัวอย่างก็ต้องลองสอบถามพนักงานขายกันดูว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมยังไงบ้าง สำหรับห้องแบบ 1 bedroom ยังมีแบบแยกย่อยให้เลือกอีก 2 แบบ คือห้องแบบที่มีห้องน้ำในตัวห้องนอน กับห้องแบบที่แยกห้องน้ำไว้นอกห้องนอน ซึ่งห้องทั้ง 2 แบบจะมี Layout ภายในต่างกันทั้งเรื่องขนาดของห้องครัว ตำแหน่งประตูห้องน้ำ และลักษณะการกั้นพื้นที่ห้องน้ำ โดยห้องแบบแรกมีขนาด 38 ตร.ม. เรียกว่า Type D : Bed Sky Kit เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอพื้นที่ในส่วน living room ก่อน และส่วนที่อยู่ติดในแนวเดียวกันคือห้องครัวขนาดใหญ่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งจัดมุมรับประทานอาหารไว้ชิดหน้าต่างเพื่อเปิดรับวิวขณะรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ ซึ่งห้องแบบนี้จะจัดแบ่งพื้นที่ของห้องนอนและห้องน้ำไว้เป็นสัดส่วน ประตูห้องนอนเป็นบานสวิง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันการจะเข้าออกห้องน้ำต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนทุกครั้ง ส่วนห้องอีกแบบมีขนาด 38 ตร.ม. เท่ากัน แต่เป็น Type D : Bed Std Kit ซึ่งเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอ living room ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ห้องนี้ดูโล่งโปร่งสบายตากว่า ในขณะที่ห้องครัวจะมีขนาดเล็กกว่าห้องก่อนหน้านี้ เพราะชุดโต๊ะกินข้าวถูกจัดวางไว้ในบริเวณเดียวกันกับ living room นั่นเอง และห้องน้ำก็อยู่ในแนวเดียวกันกับห้องครัว โดยรวมห้องแบบนี้จะได้คะแนนความน่าอยู่มากกว่า เพราะเราจะรู้สึกว่าห้องกว้างกว่าถึงแม้ขนาดของห้องจะเท่ากันก็ตาม   จากที่ได้ชมห้องตัวอย่างแล้วต้องบอกว่าแปลนห้องไม่ได้มีผิดแผกจากคอนโดในระดับเดียวกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องค่อนข้างครบถ้วน พื้นห้องครัวและห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้องเซรามิค ในขณะที่พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนตตามมาตรฐาน เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งตัวดูดควัน เตาไฟฟ้า และซิงค์ล้างจานติดตั้งมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน รวมถึงในห้องน้ำที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยกระจกบานเลื่อน ถึงแม้จะบอบบางไปหน่อยแต่ก็พอเหมาะกับการใช้งาน หน้าตาของวัสดุสุขภัณฑ์ที่ให้มาพร้อมห้องเป็นเกรดธรรมดาทั่วๆ ไปนะครับ ไม่ได้หรูหราสวยงามมากนัก ออกจะดูว่าทางโครงการลดเกรดวัสดุบางตัวลงมากเกินไปด้วยซ้ำ ทำให้ดูไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่ ส่วนที่น่าประทับใจก็เห็นจะเป็นเรื่องวิวของห้องทางด้านทิศตะวันตก ที่ถึงแม้จะต้องเจอกับแดดร้อนๆ ในช่วงบ่าย แต่กลับได้วิวมุมสูงที่สบายตากว่ามาก ถ้าไม่ติดปัญหาเรื่องราคาลองเลือกห้องในชั้นที่สูงซักหน่อย ก็จะได้วิวกว้างไร้สิ่งบดบังสายตา ส่วนภายในห้องถ้าตกแต่งดีๆ ก็ทำให้น่าอยู่ได้ไม่ยากครับ มาดูกันที่ห้อง 1 Bedroom แบบ Sky Kitchen ขนาด 38 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ ห้อง Type นี้จะเน้นที่ห้องครัว ดูจากผังห้องจะเห็นชัดเลยนะครับ ว่าห้องครัวมีขนาดใหญ่พอสมควร และมีโต๊ะทานอาหารหันหน้าเข้าหาหน้าต่าง เพื่อชมวิวเวลาทานอาหารด้วย เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับส่วนของ Living Area ก่อนเลยนะครับ มุมนี้จะเป็นมุมของโซฟาดูทีวีครับ อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางทีวี เมื่อมองตรงเข้าไปข้างในจะเป็นห้องครัว วางอยู่ด้านในสุด ครัวจะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น พื้นที่ห้องครัวจะเป็นพื้นกระเบื้องนะครับ ด้านในห้องครัวเราจะได้แบบนี้เลยนะครับ ทั้งเคาน์เตอร์ครัว และโต๊ะทานอาหารติดหน้าต่าง จุดวางตู้เย็นจะอยู่ติดประตูกระจกบานเลื่อนนะครับ ส่วนไฟฟ้าจะอยู่ด้านในติดกับโต๊ะทานอาหาร มีช่องใส่เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง เตาไฟฟ้า Hot Plate แบบ 2 หัว และ Hood ดูดควัน ของ Teka ซิงค์หลุมก็ของ Teke เช่นกันครับ เดี๋ยวเราไปดูที่ห้องนอนกันต่อเลยนะครับ จากการที่ทำห้องครัวใหญ่ จึงทำให้ห้องนอนค่อนข้างจะเล็กเลยนะครับ มาดูที่หัวเตียงกันบ้าง ข้างเตียงทั้ง 2 ข้างมีพื้นที่เหลือนิดหน่อย ให้วางโต๊ะข้างและโคมไฟได้ครับ ถัดไปด้านซ้ายอีกหน่อยจะเป็นตู้เสื้อผ้า ตั้งอยู่หน้าห้องน้ำเลยครับ Type นี้ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนเลยนะครับ ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยครับ ตำแหน่งการวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครับ ห้องอาบน้ำมีประตูบานเลื่อน 3 ตอนปิด ชุดฝักบัวในห้องอาบน้ำ มาดูอีกห้องนะครับ ขนาด 38 ตารางเมตรเท่ากัน แต่ห้องนี้จะเน้นที่ห้องนอนนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีครับ โซฟาขนาด 2 คน นั่งชิดกันกำลังอบอุ่นเลยครับ ทีวีที่ Built in มาให้ดูจะเป็นแบบแขวนนะครับ ทำให้ชั้นวางทีวีดูโล่งมีพื้นที่เหลือให้วางของเพิ่มขึ้นด้วยครับ ห้องนี้โต๊ะทานอาหารจะออกมาอยู่ที่ส่วน Living Area ใกล้ๆ กับชั้นวางทีวีนะครับ ถัดมาด้านในเป็นห้องนอนนะครับ อย่างที่บอกว่า Type นี้จะเน้นที่ห้องนอนเป็นพิเศษ ห้องนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นนะครับ ไม่ใช่ผนังเหมือน Type Sky Kitchen ทำให้ห้องดูโล่งขึ้นมาเยอะเลยครับ การวางเตียง จะมีโต๊ะทำงานและที่นั่งริมหน้าต่างไว้นั่งชมวิวด้วยนะครับ ที่ปลายเตียงจะมีชั้นวางทีวีให้อีกนะครับ ตู้เสื้อผ้าก็จะอยู่ปลายเตียง เหมือนกันครับ ตรงนี้เป็นช่องว่างตรงกลางก่อนจะแยกไปเป็นห้องครัวและห้องน้ำนะครับ มีการ Built in ตู้เก็บของไว้ด้วย เราเลี้ยวขวาเข้ามาดูห้องครัวกันก่อนนะครับ ห้องครัว Type นี้จะต่างกับ Type ก่อนหน้านี้ที่เราดูไปนะครับ เพราะถูกห้องนอนบีบจนแคบอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดครับ ภายในครัวนะครับ จะมีช่องใส่ไมโครเวฟและเครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่าง ด้านบนจนชั้นลอยเก็บของ เตาไฟฟ้า Hot Plate จะอยู่ด้านในติดกับระเบียง แต่ดูไม่ค่อยดีเลยนะครับที่อยู่ติดกับผ้าม่านแบบนี้ เวลาทำอาหาร ทั้งน้ำมันกระเด็น ทั้งกลิ่นอาหารคงจะติดผ้าม่านเอาได้ ธรณีประตูระเบียงค่อนข้างสูงนะครับ ถ้าก้าวไม่ระวังอาจจะสะดุดเอาได้ ข้ามมาอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำนะครับ การวางสุขภัณฑ์ของห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้อง Sky Kitchen เลยครับ ชุดฝักบัว เดี๋ยวเราออกไปดูบรรยากาศด้านนอกกันบ้างดีกว่านะครับ อันนี้เป็นโถงทางเดินของแต่ละชั้นครับ บรรยากาศ Sky Garden บนชั้นที่ 30 ของ Tower S ครับ ขึ้นมาตอนบ่ายๆ แดดอาจจะแรงหน่อยนะครับ แต่หากเป็นตอนค่ำๆ แดดร่มลมตกแล้ว ขึ้นมาเดินเล่นรับลม ชมวิวกรุงเทพยามค่ำคืน คงจงชิวน่าดู วิวอีกมุมครับ สระว่ายน้ำก็เสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ แต่ดูจากสีของน้ำแล้วน่าจะยังไม่พร้อมใช้งาน บรรยากาศอีกมุมของสระว่ายน้ำครับ ห้องน้ำสำหรับเปลี่ยนชุดและอาบน้ำครับ ภายในห้องอาบน้ำ จะมีห้องซาวน่าอยู่ด้านในสุดของห้องน้ำนะครับ มาดูที่ฟิตเนสกันบ้าง อุปกรณ์อาจจะมีน้อยไปหน่อยนะครับ เมื่อเทียบกับลูกบ้านที่มีถึง 560 ยูนิต ด้านนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้เวลาเล่นนาน ก็จะเป็นวิวสระว่ายน้ำนะครับ เพราะถ้าเล่นนานเดี๋ยวคนที่ว่ายน้ำอยู่เค้าจะเขินเอาได้ แต่ถ้าใครจะมีแรงเหลืออยากเล่นนานๆ เพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่างก็ไม่ว่ากันนะครับ ฮ่าาา.. ส่วนอีกด้านจะเป็นพวกอุปกรณ์ที่ต้องใช้เวลาเล่นนาน ก็จะเป็นวิวตึกรามบ้านช่องให้นั่งมองกันไป บรรยากาศเหมือนกำลังออกกำลังกายบนเส้นขอบฟ้า... Type A 1 ห้องนอนขนาด 25 ตารางเมตร Type B 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตารางเมตร Type C 1 ห้องนอน ขนาด 32 ตารางเมตร Type E 2 ห้องนอน (A) ขนาด 54 ตารางเมตร Type E 2 ห้องนอน (B) ขนาด 54 ตารางเมตร Type F 2 ห้องนอน (A) ขนาด 64 ตารางเมตร Type F 2 ห้องนอน (B) ขนาด 64 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับคนที่มองหาคอนโดในระดับ 2-3 ล้าน ที่ยังอยู่ในแนวรถไฟฟ้า BTS โครงการ Aspire สุขุมวิท 48 ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ถึงแม้ว่าจะค่อนมาทางตอนปลายๆ ของสุขุมวิทแล้วก็ตาม แต่การเดินทางก็ถือว่าสะดวกมากทั้งรถไฟฟ้า BTS ก็ดี หรือจะใช้รถส่วนตัวก็มีทางเข้าออกได้ทั้งฝั่งสุขุมวิท และถนนพระราม 4 ที่สำคัญยังอยู่ไม่ห่างจาก ใจกลางเมืองมากนัก แค่ขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าออกไปหน่อยก็มีทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า แหล่งบันเทิง และร้านอาหารมากมายครบครัน ในขณะที่ไม่ต้องอยู่ท่ามกลางความพลุกพล่านวุ่นวายแบบพื้นที่แถบทองหล่อหรือเอกมัย บริเวณนี้จึงค่อนข้างสงบกว่า และเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า ถึงแม้ว่าสาธารณูปโภคส่วนกลางจะมีน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับภาพรวมโครงการ แต่ก็อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่สำหรับบางคน การหากลุ่มคนเช่า หรือจะลงทุนห้องไว้ขายต่อก็มีศักยภาพในการลงทุนอยู่พอสมควรเช่นกัน ยิ่งถ้าสามารถต่อรองราคาห้อง หรือซื้อได้ช่วงที่มีราคาโปรโมชั่นพิเศษก็จะยิ่งคุ้มค่าน่าลงทุนมากขึ้น
Lumpini Place บรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

Lumpini Place บรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

โครงการ: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,450,000 บาท บาท/ตารางเมตร 51,785 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดติดถนนบรมราชชนนี (บรมราชชนนี 35) ใกล้รถไฟฟ้าบางขุนนนท์ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวย พร้อมสังคมและชุมชนคุณภาพ ภายใต้แนวคิดชุมชนน่าอยู่ ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 ที่ตั้ง: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 6 ไร่ ที่ตั้ง ถ.บรมราชชนนี (ติดกับซอยบรมราชชนนี 35) แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.784974,100.460947 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ส่วนต่อขยาย สถานีบางขุนนนท์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เมเจอร์ปิ่นเกล้า พาต้า โรงพยาบาลศิริราช The Circle The Bloc สน.ตลิ่งชัน ตลาดน้ำตลิ่งชัน สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ รถไฟฟ้าสถานีบางขุนนท์ (อนาคต) รถไฟชานเมืองสายสีแดงสถานีตลิ่งชัน   ลักษณะโครงการ: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 28 – 29 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 32 – 37.50 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 25 ชั้น จำนวนห้อง 992 ยูนิต และ ร้านค้า 4 ยูนิต   ส่วนกลาง: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 360 คันรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 36.29% (รวมซ้อนคันแบบ LPN) ค่าจอดรถยนต์ 300 บาท/คัน/เดือน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 300 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ 1 สระ ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 330 : 1 Service Lift 1 ตัว ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-689-6888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lpn.co.th/condominium/index.php/lumpini/home/LP-BP ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2557
คอนโด Supalai Elite@พญาไท : รีวิวคอนโด

คอนโด Supalai Elite@พญาไท : รีวิวคอนโด

โครงการ: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 4,400,000 บาท บาท/ตารางเมตร 100,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดหรูจากศุภาลัย ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ใกล้ BTS และ Airport Link เดินทางสะดวก พร้องสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2561 ที่ตั้ง: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 2-0-96 ไร่ ที่ตั้ง ถนนศรีอยุธยา แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.757030,100.539198 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS พญาไท, Airport Link พญาไท   สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงพยาบาลพญาไท 1 คิงเพาเสอร์ คอมเพล็กซ์ สยามเซ็นเตอร์ อนุเสาวรีชัยสมรภูมิ   ลักษณะโครงการ: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 44 – 61 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 94 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 140 – 144 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 31 ชั้น จำนวนห้อง 258 ยูนิต   ส่วนกลาง: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 48 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องออกกำลังกาย (Fitness) Sky Lounge / Roof Garden รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เพิ่มเติม: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1720 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.supalai.com/elite_phayathai ข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2557
NOBLE เพลินจิต : รีวิวคอนโด

NOBLE เพลินจิต : รีวิวคอนโด

โครงการ: NOBLE เพลินจิต (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 8,600,000 บาท บาท/ตารางเมตร 215,800 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดหรู ตั้งอยู่บนถนนเพลินจิต ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิต เดินทางสะดวกใก้ลจุดขึ้นลงทางด่วน รายล้อมไปด้วยแหล่ง Shopping Mall หรูใจกลางกรุงเทพ จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2560 ที่ตั้ง: NOBLE เพลินจิต (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 9-0-92.40 ไร่ ที่ตั้ง ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.743483,100.548440 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS เพลินจิต สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central Embassy Central ชิดลม Central World อาคาร Park Venture อาคารมหาทุน พลาซ่า ธ.กรุงไทย สำนักงานใหญ่ สถานทูต สหรัฐ อเมริกา สถานทูต อังกฤษ ลักษณะโครงการ: NOBLE เพลินจิต (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom Penthouse (สระว่ายน้ำส่วนตัว) Duplex ขนาดห้องที่มี ขนาดตั้งแต่ 39.86 – 244.74 ตร.ม. จำนวนตึก 3 อาคาร จำนวนชั้น Tower A : 14 ชั้น /Tower B : 51 ชั้น /Tower C : 46 ชั้น จำนวนห้อง 1,442 ยูนิต ส่วนกลาง: NOBLE เพลินจิต (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 1,000 คัน หรือคิดเป็น 70% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 60 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 600 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ขนาด 8×22 เมตร ระบบเกลือ ฟิตเนส สวนสวยขนาดใหญ่กว่า 4 ไร่ ลิฟต์ส่วนตัว และ ส่วนกลาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิด ประตู Key Card สตรีม ทางเดินเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าสู่โครงการ   เพิ่มเติม: NOBLE เพลินจิต (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-251-9955 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.noblehome.com/condominium/ploenchit ข้อมูล ณ วันที่
คอนโด Library Houze ประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์ : รีวิวคอนโด

คอนโด Library Houze ประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Library Houze ประชาอุทิศ - สุขสวัสดิ์ (PREVIEW) ราคา เริ่มต้น 1,100,000 บาท บาท/ตารางเมตร 47,800 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ดิ เอสเตท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จุดเด่น ติดถนนใหญ่ประชาอุทิศ ห่างจากมหาลัยบางมดเพียง 300 ม. และทางด่วนสุขสวัสดิ์เพียง 1.5 กม. ห้องชุดขนาดกระทัดรัดในราคาเบาๆ สิ่งอำนวยความสะดวก ครบครันสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องสมุด จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ กลางปี 2558 ที่ตั้ง: Library Houze ประชาอุทิศ - สุขสวัสดิ์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1 ไร่ 91 ตารางวา ที่ตั้ง ถ.ประชาอุทิศ (ติดซอย 26/7) เเขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.655619,100.498195 ระบบขนส่งสาธารณะ - สถานที่สำคัญใกล้เคียง วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน เทคโนฯบางมด สวนธนบุรีรมย์ ลักษณะโครงการ: Library Houze ประชาอุทิศ - สุขสวัสดิ์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 23 – 35 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 221 ยูนิต ส่วนกลาง: Library Houze ประชาอุทิศ - สุขสวัสดิ์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 45% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 40 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด สวนหย่อม Access Control Card CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลดภัยตลอด 24 ชม.   เพิ่มเติม: Library Houze ประชาอุทิศ - สุขสวัสดิ์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 082-353-5368 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.libraryhouze.com/index.html ข้อมูล ณ วันที่
L LOFT รัชดา 19 : รีวิวคอนโด

L LOFT รัชดา 19 : รีวิวคอนโด

โครงการ: L LOFT รัชดา 19 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,900,000 บาท บาท/ตารางเมตร 73,100 บาท เจ้าของโครงการ Lert Development Co., Ltd. จุดเด่น ทำเลใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน สถานีรัชดาภิเษก เพียง 200 เมตร สังคมที่มีความเป็นส่วนตัวสุงกับ จำนวนยูนิตเพียง 70 ยูนิต จำนวนยูนิต ต่อชั้นเพียงประมาณ 9 ยูนิตต่อลิฟท์ 2 ตัว การจัดทางเดินเข้าห้องแบบ open well เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติด้วยหลังคา skylight รูปแบบห้องที่มีให้คุณได้เลือกได้เหมาะกับความเป็น “คุณ” ที่สุด ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม. รูปแบบทาง สถาปัตยกรรมแบบ Contemporary Style ที่โดดเด่น ทันสมัย ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในวันนี้ และมูลค่าที่ทวีค่าขึ้นทุกวัน ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2557 ที่ตั้ง: L LOFT รัชดา 19 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 0-2-73 ไร่ ที่ตั้ง ถนนรัชดาภิเษก ซอย 19 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.800598,100.57381 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT รัชดาภิเษก   สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษก เซ็นทรัล พระราม 9 เอสพลานาด ฟอร์จูน ทาวเวอร์   ลักษณะโครงการ: L LOFT รัชดา 19 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 1 Bath 1 Bedroom 1 Bath (Duplex) 1 Bedroom 2 Baths (Duplex) 2 Bedsroom 1 Bath ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 26 – 31 ตร.ม. 1 Bedroom 1 Bath ขนาด 27 – 37 ตร.ม. 1 Bedroom 1 Bath (Duplex) ขนาด 41 – 42 ตร.ม. 1 Bedroom 2 Baths (Duplex) ขนาด 53 ตร.ม. 2 Bedroom 1 Bath ขนาด 35 – 40 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 70 ยูนิต ส่วนกลาง: L LOFT รัชดา 19 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 50% (34 คันรวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) N/A ค่ากองทุน(/ตร.ม) N/A   สาธารณูปโภค Lobby Lounge Swimming pool Garden Pool deck Fitness Security access card 2 passenger lifts CCTV   เพิ่มเติม: L LOFT รัชดา 19 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 090-917-6900 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lloft19.com ข้อมูล ณ วันที่
THE VIVA CONDO เพชรเกษม 68 : รีวิวคอนโด

THE VIVA CONDO เพชรเกษม 68 : รีวิวคอนโด

โครงการ: THE VIVA CONDO เพชรเกษม 68 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,590,000 บาท บาท/ตารางเมตร 58,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ทรัพย์ในดินสินในน้ำนำโชค จำกัด จุดเด่น ทำเลคุณภาพเดินทางสะดวก ผ่านจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และ BTS สายสีเขียว สถานีบางหว้า การออกแบบที่ลงตัวทั้ง Design และ Function พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2558 ที่ตั้ง: THE VIVA CONDO เพชรเกษม 68 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-2-91.8 ไร่ ที่ตั้ง ซอยเพชรเกษม 68 ถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160 พิกัดโครงการ 13.712175,100.416815 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS บางหว้า   สถานที่สำคัญใกล้เคียง โลตัส เดอะมอลล์ บางแค ซีคอน บางแค ตลาดบางแค โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค มหาวิทยาลัยสยาม ลักษณะโครงการ: THE VIVA CONDO เพชรเกษม 68 (PREVIEW)   ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 27.5 – 34.7 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 47.2 – 47.4 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 222 ยูนิต ส่วนกลาง: THE VIVA CONDO เพชรเกษม 68 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 47% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องออกกำลังกาย สวนพักผ่อน CCTV Access Card ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.   เพิ่มเติม: THE VIVA CONDO เพชรเกษม 68 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-454-2588 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thevivacondo.com/ ข้อมูล ณ วันที่
Noble Ploenchit : รีวิวคอนโด

Noble Ploenchit : รีวิวคอนโด

กลางสี่แยกเพลินจิตตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักโครงการ Noble เพลินจิต คอนโด High Rise ที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ฮ๊อตสุดๆ ในชั่วโมงนี้ เพราะด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองที่มีความเจริญถึงขีดสุด และแวดล้อมไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งสุดหรู อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรมระดับ 5 ดาว รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ อีกมากมาย ยิ่งทางโครงการได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมมาด้วยว่า มีการปรับปรุง ตกแต่งห้องตัวอย่างใหม่ แถมมีโปรโมชั่นใหม่แกะกล่องที่น่าสนใจมากๆ ทางทีมงานเลยรีบเข้าไปเก็บภาพห้องตัวอย่างมาอัพเดทกันครับ การเดินทาง พูดถึงเรื่องการเดินทางมายังโครงการ Noble เพลินจิต คงไม่มีวิธีไหนสะดวกไปกว่าการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS อีกแล้ว เพราะตัวสถานีเพลินจิตมีบันไดจ่ออยู่ถึงหน้าโครงการ แถมเมื่อโครงการแล้วเสร็จ Sky Walk ของตัวสถานีจะเชื่อมต่อเข้าไปยังโครงการด้วย ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตนี้ต้องบอกว่าเป็นสถานีที่มีเส้นทาง Sky Walk เชื่อมต่อครอบคลุมไปทั้งพื้นที่เลยทีเดียว เรียกว่าไม่ต้องเสียเวลาเดินลงจากสถานีไปเดินริมฟุตบาท หรือข้ามทางม้าลายตรงสี่แยกให้เสียเวลา หลายอาคารที่อยู่รอบๆ สถานีนี้มีสะพานเชื่อมต่อเข้าตัวอาคารเหมือนกันหมดครับ ไม่มีใครยอมน้อยหน้าใครเลย ดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเลยได้คะแนนด้านความสะดวกสบายไปเต็มๆ แถมยังรวดเร็วกำหนดเวลาได้ค่อนข้างแน่นอน ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหารถติดด้วย เว้นแต่ช่วงเวลาเร่งด่วนที่ปริมาณคนโดยสารแน่นเกินไปหน่อยเท่านั้นเองครับ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็ตามชื่อโครงการเลยครับ คือสถานีเพลินจิต ถ้ามาจากทางหมอชิต ออกจากรถไฟฟ้ามาแล้วก็จะเห็นโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่เลยนะครับ แต่ถ้ามาจากทางอ่อนนุชก็จะเห็นตึกมหาทุนพลาซ่า ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกันโครงการ ลงมาแล้วจะมีป้ายบอกทางเยอะแยะเลยนะครับ เราตามป้ายทางออก 1, 2 ไปเลยนะครับ ทางออก 2 จะเป็นทางเชื่อมเข้าตึก Park Venture ทางที่เราจะขึ้นไปดูห้องตัวอย่างกันครับ ส่วนทางออก 1 จะเป็นบันไดลงไปฝั่งที่ตั้งโครงการ ถ้าโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางออก 1 นี่แหละครับที่น่าจะเป็นทางเชื่อมเข้าโครงการ หากเดินตรงไปจะเป็น Sky Walk เชื่อไปยังตึก Wave Place และห้าง Central Embassy สำหรับการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ต้องบอกว่า สะดวกสบายตามสมควร เพราะทางโครงการเตรียมเส้นทางเข้าออกไว้ให้หลายทาง ทั้งทางด้านหน้าจากฝั่งถนนเพลินจิต ทางด้านหลังโครงการซึ่งอยู่ในซอยนายเลิศ และทางฝั่งถนนวิทยุที่ใช้ทางเชื่อมกับพื้นที่จอดรถของอาคาร Wave Place (Home Pro) นั่นเอง แต่ติดปัญหาที่ถนนเพลินจิตมีเกาะกลางกั้นยาวตลอดทั้งเส้น แถมยังไม่มีจุดกลับรถอีก ถ้าขับมาผิดฝั่งก็ต้องเลยตามเลย แล้วค่อยหาทางกลับมาที่โครงการกันอีกรอบ ไหนจะถนนวิทยุที่หาที่กลับรถยากอีก ข้อจำกัดในการขับรถมายังโครงการจึงเพิ่มเงื่อนไขมากขึ้น ถ้าจะให้ดีต้องศึกษาทางหนีทีไล่ของเส้นทางรอบๆ บริเวณนี้ให้ดีครับ เพราะมีซอยเล็กซอยน้อยเป็นตัวช่วยได้เยอะพอสมควร แผนที่แสดงให้เห็นทางเข้า-ออกโครงการที่มีทั้งหมด 3 ทาง ซึ่งทางเข้า-ออกหลักจะเป็นหมายเลข 1 ด้านที่ติดกันถนนเพลินจิต ทางที่ 2 จะเป็นฝั่งซอยนายเลิศ ส่วนทางที่ 3 จะเป็นฝั่งถนนวิทยุ ผ่านตึก Wave Place ก่อนเข้าโครงการ ทีนี้มาดูเส้นทางการเดินทางโดยรถยนต์กันบ้าง จากถนนสาทรสามารถใช้เส้นทางถนนวิทยุมาถึงแยกเพลินจิตได้เลย แล้วค่อยไปเลี้ยวเข้าตึก Wave Place หรือซอยนายเลิศก็ได้ ส่วนถ้ามาจากฝั่งสุขุมวิทก็ตรงมาเข้าถนนเพลินจิตได้เลย แต่จำไว้นิดนึงนะครับว่า ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเพลินจิตฝั่งเหนือ จึงต้องเบี่ยงรถมาอีกฟากของถนน ถ้าขับเพลินๆ ชิดซ้ายมาทางด้านฝั่งเพลินจิตใต้ก็คงต้องเลยยาวกันไป แล้วค่อยกลับตัวว่าจะเข้าซอยหลังสวนแล้วกลับมาทางถนนวิทยุ หรือจะเลยยาวไปถึงแยกราชประสงค์ดี เช่นเดียวกันกับด้านลงทางด่วนนะครับ ให้ลงฝั่งเพลินจิตเหนือ จะได้เลี้ยวเข้าโครงการได้ง่ายหน่อย ส่วนด้านขาขึ้นทางด่วน ก็มีด่านเก็บเงินอยู่ใกล้ๆ กับทางโครงการเลย จะออกนอกเมืองหรือข้ามไปฝั่งอื่นๆ ของกรุงเทพฯก็สะดวกครับ เลี้ยวออกจากโครงการมาไม่เกิน 300 เมตรเท่านั้น โดยภาพรวมแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็จัดว่าไม่แย่นะครับ ถนนบริเวณหน้าโครงการวิ่งสวนเลนมาจากทางแยกราชประสงค์ได้หนึ่งเลน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องปัญหารถติดก็ยังคงหนักหน่วงเอาเรื่องสำหรับย่านนี้ ต้องเป็นนอกช่วงเวลาเร่งด่วนเท่านั้นที่การจารจรยังลื่นไหลมากหน่อย แต่ถ้าช่วงเช้า-เย็นนี่สิรถจะติดหนักหนาเอาการเลย ซึ่งปัญหานี้ก็หลีกเลี่ยงกันยากหน่อย ยังไงชีวิตคนเมืองก็หนีไม่พ้นปัญหารถติดอยู่แล้วล่ะครับ เริ่มจากทางลงทางด่วนเลยนะครับ ให้เราชิดซ้ายเพื่อที่จะลงเพลินจิตฝั่งเหนือ ลงทางด่วนมาแล้วให้ชิดขวาไว้นะครับ เพื่อรอที่จะเลี้ยวขวาไปทางถนนวิทยุ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะเข้าถนนสุขุมวิทไปทางนานา อโศก เลี้ยวขวามานิดเดียวจะเห็นทางขึ้นทางด่วนตรงนี้แหละครับ ที่ลูกบ้านโนเบิล เพลินจิต อาจจะได้ใช้ประจำ เลยจากจุดขึ้นทางด่วนมาจะเจอสถานี BTS เพลินจิต ก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ จากนั้นก็ถึงโครงการแล้วครับ แต่ตอนนี้ยังเข้าไม่ได้นะครับ เค้ากำลังก่อสร้างอยู่ ^_^ ส่วนการเดินทางไปที่สำนักงานขายที่ตึก Park Venture ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ต้องมาลงทางด่วนอีกฝั่งนึงคือฝั่งเพลินจิตใต้นะครับ เริ่มจากทางลงทางด่วนเพลินจิตนะครับ ให้ชิดขวาไว้เพื่อที่จะตรงไปลงเพลินจิตฝั่งใต้ เบี่ยงออกทางขวา ตามป้ายเพลินจิตใต้ไปเลยครับ มองไปทางด้านขวามือก็จะเห็นตึกสูงๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ นั่นคือโครงการ Noble เพลินจิต นี่แหละครับ ลงสะพานมาแล้วขับชิดซ้ายยาวๆ เลยนะครับ จะเจอทางออกด้านซ้ายมือ ให้เรากลับรถไปทางถนนเพลินจิต กลับรถมาแล้วจะเป็นถนน 2 เลน เลียบทางด่วนย้อนกลับไปทางเพลินจิตครับ ออกมาถึงถนนเพลินจิตแล้วก็เลี้ยวซ้ายเลยครับ เลี้ยวซ้ายมานิดเดียวก็เจอ BTS สถานีเพลินจิตแล้วครับ จะผ่านตึกมหาทุนพลาซ่าที่อยู่ติดกับ BTS จากนั้นก็จะเจอตึก Park Venture แล้วล่ะครับ นอกเหนือจากนี้ การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็เห็นจะมีแต่พี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างนี่แหละครับที่น่าจะเป็นที่พึ่งพาได้ดี ยิ่งถ้ารีบๆ นี่คงต้องใช้บริการกันซักหน่อย ซึ่งหน้าโครงการก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่แล้วด้วย ออกมาจากโครงการก็โดดขึ้นรถได้เลย แต่ถ้าไม่ถนัดกับรถสองล้อ จากหน้าโครงการก็สามารถหาเรียกรถตุ๊กตุ๊ก สามล้อ หรือรถแท็กซี่ได้ง่ายไม่แพ้กัน รวมถึงรถเมล์ก็เช่นกันครับ เอาไว้เป็นทางเลือกในการเดินทางสำหรับวันที่ไม่อยากขับรถ วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ปัจจุบันโครงการ Noble  เพลินจิต อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งคืบหน้าไปได้มากแล้ว ถ้าใครมีโอกาสผ่านไปผ่านมาบริเวณแยกเพลินจิต ก็คงจะได้เห็นภาพตึกที่กำลังก่อสร้างสูงมากกว่า 40 ชั้นแล้วในตอนนี้ แน่นอนว่าโครงการฮ็อตฮิตระดับนี้ก็ย่อมได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก เท่าที่รู้มาก็เห็นว่าห้องส่วนใหญ่ก็ถูกจับจองกันไปเยอะแล้ว ถ้าใครที่สนใจก็ลองแวะเข้าไปชมห้องตัวอย่างกันได้ที่สำนักงานขาย ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 16 ของอาคาร Park Ventures ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง ทีนี้เรามาดูรอบตัวโครงการกันก่อนดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าบริเวณนี้มี Landmark สำคัญๆ อยู่หลายแห่งด้วยกัน ทั้ง Central Embassy, สถานฑูตอังกฤษ, โรงแรมปาร์คนายเลิศ, ตึกมหาทุน, เพลินจิตเซ็นเตอร์, โรงแรม Novotel และ โรงแรม The Okura Prestige อันนี้แค่บริเวณใกล้ๆ ตัวสถานีเพลินจิตแบบคร่าวๆ เท่านั้นนะครับ ยิ่งถ้าเลยไปทางแยกราชประสงค์ ก็ยังมีโรงแรมใหญ่ๆ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารหรูมีชื่อ และโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ซึ่งแต่ละสถานที่ก็เป็นที่รู้จักกันดี เลยไม่ต้องสาธยายอะไรให้ยืดยาว เอาเป็นว่าศักยภาพเรื่องการอยู่อาศัยในย่านนี้เรียกว่าเพียบพร้อม ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน สาธารณูปโภคต่างๆ ก็ครบครัน โรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ เอกชนล้วนแวดล้อมอยู่รอบตัวเลยทีเดียว สำหรับตัวโครงการ Noble เพลินจิต เป็นโครงการใหญ่ ประกอบไปด้วย 3 อาคารหลักซึ่งเป็นส่วนที่พักอาศัย และอีกหนึ่งอาคารทางด้านหน้าติดถนนเพลินจิตที่ทางโครงการจัดไว้เป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร และเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าด้วย ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการจะเป็นผู้ดูแลเอง จากโมเดลที่เราเห็นในสำนักงานขาย จะเห็นได้ว่าแต่ละอาคารก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่อาคาร A ซึ่งอยู่ทางด้านในสุดของโครงการ มีความสูงแค่ 14 ชั้น เป็นตึกที่เตี้ยที่สุดและแน่นอนว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกอาคารรอบๆ บังวิวซะมิดเลย แต่กลับได้เปรียบในเรื่องอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางมากที่สุด ถัดมาเป็นอาคาร B ที่อยู่ตรงกลาง สูง 51 ชั้น ตึกนี้จะวางตัวในแนวทิศเหนือใต้ เท่าที่รู้มาห้องพักส่วนใหญ่ในอาคารนี้จึงถูกจับจองไปอย่างรวดเร็ว เพราะไหนจะได้เรื่องวิวที่ดีกว่าอาคาร A และอยู่ในทิศทางที่ไม่ร้อนแดด จึงไม่น่าแปลกใจถ้าห้องฝั่งทิศใต้จะถูกจองเต็มก่อนเพื่อน ในขณะที่อาคาร C ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าโครงการ สูง 45 ชั้น กลับวางตัวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก แน่นอนว่าอาจจะเสียเปรียบในเรื่องทิศทางห้องที่หันรับแดดแบบเต็มๆ แต่กลับได้เปรียบในเรื่องวิวมากกว่าเพราะถูกบังวิวน้อยกว่า และเดินเข้าจากทางหน้าโครงการใกล้กว่าด้วย ทางเชื่อมจากสถานี BTS เพลินจิต เข้าตัวโครงการที่ตึก D บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ของโครงการ เราจะมีเพื่อนบ้านมากกว่า 1,400 ยูนิตเลยทีเดียว ถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะไม่ใช่เล่นเลยนะครับ พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ แล้วจะอยู่ระหว่างอาคาร A และอาคาร​ B ซึ่งจะมีทั้ง สระว่ายน้ำ แยกสระเด็กกับจากุชชี่ไว้ต่างหาก ห้องออกกำลังกาย ห้องสตรีม สนามบาสเก็ตบอล และสวนหย่อม โดยพื้นที่สีเขียวนี่จะมีทั้งโซนด้านหน้า และสวนบนดาดฟ้าของอาคารด้วย คิดเป็นพื้นที่รวมก็ราวๆ 4 ไร่เห็นจะได้ ถ้าว่ากันตามตรงแล้วด้วยจำนวนยูนิตรวมมากกว่า 1,400 ยูนิต กับพื้นที่ส่วนกลางแค่นี้ ก็คงไม่น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานจริงซักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับพื้นที่จอดรถของโครงการ ถึงแม้จะจัดมาให้มากถึง 70% แล้วก็ตาม แต่โครงการระดับนี้ที่ราคาค่าห้องทะลุ 10 ล้าน เรื่องที่จอดรถน่าจะต้องมีให้มากกว่านี้อีกหน่อย เพราะอย่างไรแล้วลูกบ้านแต่ละยูนิตก็น่าจะต้องมีรถส่วนตัวกันอยู่แล้ว เผลอๆ จะมีมากกว่ายูนิตละ 1 คันด้วยซ้ำไป ทีนี้ปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอก็อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เหมือนกันนะครับ จุดเด่นหนึ่งของโครงการ Noble เพลินจิต ก็คือการชูเรื่อง Private Elevator ได้ยินเพียงแค่นี้ ความรู้สึก Elegant และ Exclusive ก็ผุดขึ้นในมโนภาพทันที แน่นอนล่ะครับมีใครไม่ชอบความรู้สึกพิเศษของการมีลิฟท์ส่วนตัวมาจอดถึงหน้าประตูห้องบ้าง ซึ่งทางโครงการออกแบบมาให้ห้องพักทุกห้องมีโถงลิฟท์หน้าห้อง โดยในหนึ่งชั้นจึงมีสองห้องที่ใช้ลิฟท์ร่วมกันนั่นเอง แต่ในทางกลับกัน ด้วยความที่ถูกออกแบบมาให้ลิฟท์มีลักษณะการใช้งานแบบส่วนตัว ดังนั้นเราจึงไม่มีผู้ร่วมโดยสารลิฟท์ตัวเดียวกันแน่นอน ซึ่งถ้าหากขณะนั้นมีลูกบ้านห้องอื่นๆ ใช้งานลิฟท์อยู่ เราก็ต้องรอจนลิฟท์ไปส่งถึงจุดหมายก่อน ค่อยวิ่งกลับมารับลูกบ้านห้องถัดไป นอกจากลิฟท์ส่วนตัวแล้ว ทางโครงการก็จัดลิฟท์โดยสารส่วนกลางไว้สำหรับแต่ละตึกด้วยเช่นกัน อย่างน้อยก็น่าจะเอาไว้ใช้สำหรับโดยสารไปยังชั้นที่เป็นส่วนกลางได้นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมทั้งหมดของตัวโครงการที่เราเก็บข้อมูลมาจากการเยี่ยมชมในครั้งนี้ อาคาร A จะสูง 14 ชั้น เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด ทุกห้องจะหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำ โมเดลบริเวณสระว่ายน้ำที่อยู่ระหว่างตึก A กับตึก B อาคาร B จะเป็นอาคารที่สูงที่สุดคือ 51 ชั้น ห้องส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือและใต้ โดยทิศเหนือวิวจะโล่ง ส่วนทิศใต้ส่วนใหญ่วิวจะติด Park Venture อาคาร C สูง 46 ชั้น ห้องส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ทิศตะวันตกจะหันไปทางตึก Wave Place ส่วนทิศตะวันออกจะหันไปด้านทางด่วน ฝั่งนี้ข้อดีคือไม่มีตึกสูงบังวิว แต่ข้อเสียก็คือตอนเช้าก็จะได้รับแดดเต็มๆ พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงในส่วนของห้องตัวอย่างของ Noble เพลินจิตกันบ้าง อย่างที่บอกไปแล้วว่าทางโครงการมีการปรับปรุง ตกแต่งห้องตัวอย่างใหม่ทั้งหมด ซึ่งเราได้มีโอกาสเข้าไปเก็บภาพห้องใหม่มาให้ชมกันด้วย โดยห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดมาในครั้งนี้จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งคอนเซปต์ยังคงเน้นความโมเดิร์น ดูโอ่โถงอยู่สบาย โดยเราขออธิบายภาพรวมของลักษณะห้องให้เห็นก่อนละกันครับ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ค่อยตามไปดูในรูปประกอบอีกครั้งนะครับ เมื่อเราเปิดประตูห้องจากส่วนกลางเข้ามาจะเจอกับโถงลิฟท์ส่วนตัวก่อน ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะจัดแบ่งการใช้งานไว้ร่วมกับ ห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ ตู้เก็บของ และชั้นเก็บรองเท้าที่ทางโครงการ Build-in มาให้เรียบร้อย หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมคอมเพรสเซอร์แอร์จึงเอามาแขวนไว้ด้านใน แทนที่จะเป็นด้านนอกตรงระเบียงเหมือนโครงการอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งเราเองก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกัน สอบถามกับพนักงานขายแล้วก็ได้ความว่า ทางโครงการเลือกใช้วิธีการระบายความร้อนด้วยน้ำเหมือนกับที่โรงแรมใหญ่ๆ เค้าใช้กัน ดังนั้นทั้งเรื่องความร้อนและเรื่องเสียงดังรบกวนจึงหมดห่วงกันไปได้ ด้านล่างของห้องเก็บคอมเพรสเซอร์ทางโครงการใช้เป็นที่วางเครื่องซักผ้าฝาหน้า แต่เวลาใช้งานจริงๆ อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ถัดจากโถงลิฟท์เข้าไป จะมีประตูห้องอีกชั้น เปิดเข้าไปยังพื้นที่ห้องจริงๆ ซักที เข้ามาปุ๊ปก็จะเจอพื้นที่ครัว ซึ่งจัดการ Build-in ไว้ให้แล้วทั้งหมด และเห็นว่าปรับเปลี่ยนตรงส่วนของตู้เย็นให้ Build-in ซ่อนไว้หลังตู้ทั้งหมด ดูแล้วก็เป็นระเบียบเรียบร้อยดีทีเดียว ส่วนเครื่องครัวทั้งหมดจะได้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง หรือเทียบเท่า ซึ่งก็ให้มาทั้งเตาไฟฟ้า ตัวดูดควัน และเตาไมโครเวฟ พร้อมใช้งานกันเลย ถัดเข้ามาก็จะเป็นส่วนของ Living Area และห้องนอน โดยทางโครงการมีให้เลือกระหว่างห้องแบบที่ใช้บานสไลด์กันห้องนอน กับห้องที่กันห้องนอนแยกไว้เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะถูกใจห้องแบบไหนมากกว่ากัน แต่โดยภาพรวมแล้ว ห้องสองแบบนี้ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่ต่างกันออกไปเท่านั้นเอง ฝ้าเพดานภายในห้องสูงเกือบ 2.7 เมตรนะครับ ทุกห้องเป็นแอร์แบบฝังฝ้าเพดาน อะไรที่เราเห็นในห้องตัวอย่างแบบใหม่นี้ มันจะเป็นสิ่งที่เราจะได้มาพร้อมห้องทั้งหมดนะครับ ทางโครงการมีการปรับโปรโมชั่นใหม่ จัดกันมาอย่างจุใจ โดยจะขายกันมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ตกแต่งเสร็จพร้อมเข้าอยู่ โต๊ะ ตู้ เตียง เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าเป๊ะทุกชิ้น ขาดแค่ของตกแต่งห้องสวยๆ งาม แล้วก็ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวแค่นั้นเอง เรามาดูแบบแรกกันก่อนนะครับ จะเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 46.80 ตารางเมตร ลิฟท์ส่วนตัวของแต่ละห้องจะเปิดได้ 2 ด้านนะครับ เท่ากับว่าลิฟท์ 1 ตัวจะใช้ร่วมกัน 2 ห้องในแนวราบ ออกจากลิฟท์มาจะมีโถงเล็กๆ โถงตรงนี้จะเป็นสำหรับวางเครื่องซักผ้า แต่ต้องใช้แบบฝาหน้านะครับ ส่วนด้านบนจะเป็นจุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ถัดมาจะเป็นตู้ 2 ตอน ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บรองเท้า ออกจากลิฟท์มาก็ถอดรองเท้าเก็บใส่ตู้ได้เลย ด้านบนจะเป็นตู้เก็บของทั่วไป คราวนี้เราเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยดีกว่า เข้ามาในห้องก็จะเป็นส่วนของครัว และโต๊ะทานอาหารก่อนเลยครับ เคาน์เตอร์ครัวขนาดจะกระทัดรัดประมาณนี้นะครับ ซิงค์ล้างจานแบบฝังของ Mex เตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน โต๊ะทานอาหารจะมีที่นั่งทั้งแบบยาวติดกับผนังและเก้าอีกแยกอีกต่างหาก ข้างๆ กับเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เก็บของเล็กๆ Built in ไว้ติดกับผนัง ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน ระหว่างห้องนอนกับห้องครัวจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องนอนเหมือนจะรวมห้องนั่งเล่นไว้ด้วยนะครับ เพราะพื้นที่ปลายเตียงจะวางทีวีและโซฟาไว้ด้วย แต่ระยะห่างค่อนข้างจะแคบไปสักหน่อย ถ้าจะวางทีวีจอใหญ่ๆ คงต้องนั่งดูอยู่บนที่นอนถึงจะได้ระยะครับ ถ้านั่งที่โซฟาอาจจะใกล้เกินไป โซฟาที่ได้จะประมาณนี้ครับ เป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ชั้นวางทีวีเล็กๆ แต่ถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะได้พื้นที่วางของเพิ่มขึ้นอีก ขยับขึ้นมาดูที่เตียงนอน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยครับ แต่ถ้าวางเตียง 5 ฟุต จะดูไม่อึดอัดเท่าไหร่ มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้อีก แอร์จะเป็นแบบฝังฝ้านะครับ หันเข้าหาเตียงแบบนี้ ห้องน้ำจะอยู่ข้างๆ เตียงแบบนี้เลย การจัดวางสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำก็ประมาณนี้ครับ กระจกส่องหน้าจะได้บานยาวเต็มพื้นที่คู่กับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ที่กระจกส่องหน้าทั้ง 2 ฝั่งสามารถเปิดได้แบบนี้นะครับ จะเป็นช่องไว้สำหรับเก็บของเล็กๆ อยู่ทั้ง 2 ด้าน อ่างล้างหน้าจะใช้ของ Kohler จะเป็นเคาน์เตอร์ยาว ทำให้มีที่วางของได้เยอะดีครับ ใต้อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของให้อีกต่างหาก โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ข้างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ใช้สุขภัณฑ์ของ Kohler เหมือนกันครับ อีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in ฝังผนังอยู่ในห้องน้ำให้เลยนะครับ ตู้จะเป็นบานเปิดแบบนี้นะครับ จะได้ 2 ตู้ ด้านในสุดของห้องน้ำจะเป็น Shower Box กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัว จะมี Rain Shower ให้ด้วย ขนาดของ Shower Box อาจจะพอดีตัวอยู่สักหน่อยนะครับ แต่ก็ไม่ถือว่าเล็กจนดูอึดอัด ออกมาดูที่อีกฝั่งของเตียง จะเป็นระเบียงที่ยาวตลอดแนวของห้อง ระเบียงจะใช้ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน สำหรับเปิดปิด จะเป็นออกจะเป็น 3 บล็อคนะครับ เราออกมาดูด้านนอก ขนาดของระเบียงจะเป็นระเบียงเล็กๆ แบบนี้นะครับ อาจจะใช้งานได้ไม่เต็มที่สักเท่าไหร่ ระเบียงจะถูกกั้นด้วยแผงคอนกรีตแบบนี้นะครับ เพื่อความสวยงามของโครงสร้างด้านนอก ส่วนอีกห้องจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนเหมือนกันครับ แต่ขนาดจะใหญ่ขึ้นมาหน่อยประมาณ 58 ตารางเมตร หน้าตาภายใน Private Lift ของแต่ล่ะห้อง จะมีประตูเข้าออก 2 ด้าน ใช้ร่วมกัน 2 ห้อง ออกมาจากลิฟท์แล้วก็จะเจอโถงเล็กๆ เหมือนห้องก่อนหน้านี้นะครับ มีตู้เก็บเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แอร์ เหมือนกัน ข้างๆ กันก็เป็นตู้เก็บของ เก็บรองเท้า เข้ามาดูในห้องกันต่อเลยครับ เข้ามาแล้วจะเจอส่วนของครัวก่อนเลยครับ ข้างๆ เคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เย็น Built in ฝังผนังไว้ให้ด้วยนะครับ ด้านบนเป็นตู้ลอยเก็บของ เตาไฟฟ้าเซรามิค 2 หัว ของ smeg ฮูดดูดควันก็ของ smeg เหมือนกันนะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูด้วย ^_^ ใต้ซิ้งค์ล้างจานจะตู้เก็บของและถังขยะเล็กๆ ถัดมาจะเป็นลิ้นชัก 3 ชั้น สำหรับเก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ช่องวางไมโครเวฟจะอยู่ติดกับลิ้นชัก ฝั่งตรงข้ามกับส่วนครัวจะเป็นมุมโต๊ะทานอาหาร ขนาด 4 ท่าน ที่ผนัง Built in เป็นตู้โชว์ ทำให้ดูโปร่งขึ้นเยอะเลยครับ ต่อจากโต๊ะทานอาหาร เดี๋ยวเราไปดูที่ Living Area กันต่อ ส่วน Living Area ที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่าห้องเมื่อกี้พอสมควร ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาจึงได้ระยะมากขึ้น สามารถวางทีวีจอใหญ่ได้ตามใจเลยครับ สามารถวางโซฟาตัวยาว และเก้าอี้ อาร์มแชร์อีก 2 ตัวได้สบายๆ ส่วนชั้นวางทีวี Built in มาให้พร้อมกับตู้โชว์ ระเบียงเล็กๆ อยู่ติดกับส่วน Living Area ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ที่ระเบียงจะดรอปพื้นลงมาอีกนิดหน่อยนะครับ ขยับเข้ามาดูกันต่อที่ห้องนอน ห้องนอนสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยครับ ปลายเตียง Built in เป็นชั้นวางทีวี พร้อมกับตู้บานโปร่งแสง ภายในห้องนอนก็จะมีระเบียงเล็กๆ ให้อีก 2 ช่อง ส่วนอีกด้านของห้องนอนจะเป็นห้องน้ำ ที่หน้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้าให้ก่อน 1 ตู้ การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะคล้ายๆ กับห้อง Type แรกเลยนะครับ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแนวยาว ตัวท็อปเป็นหินแกรนิต ตู้เก็บของใต้อ่างล่างหน้า ที่กระจกส่องหน้ามีตู้เก็บของเล็กๆ ซ่อนอยู่เหมือนกัน ฝั่งตรงข้ามจะมีตู้เสื้อผ้าให้อีก 1 ตู้ Shower Box จะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้า ใน Shower Box จะดรอปพื้นลงมานิดหน่อยนะครับ เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปส่วนอื่น ชุดฝักบัวและ Rain Shower ส่วนโถสุขภัณฑ์จะหลบเข้ามาอยู่ด้านในต่อจาก Shower Box ว่ากันมาด้วยเรื่องจุดเด่นของห้องแล้วก็ขอเอ่ยถึงข้อด้อยเล็กๆ น้อยๆที่สะดุดความรู้สึกเราซักหน่อยดีกว่า ซึ่งก็คือ “ระเบียง” ในแต่ละห้องทางโครงการมีระเบียงมาให้นะครับ แต่พื้นที่ระเบียงกว้างแค่ 60 เซนติเมตรเท่านั้น แถมยังไม่สามารถเปิดได้เต็มหน้ากว้างห้องอีก เนื่องจากติดที่โครงสร้างของตัวอาคารที่เป็นโครงเหล็กจากด้านนอก ทำให้ระเบียงที่ได้มาทั้งเล็กและแคบ อาจจะใช้งานลำบากหน่อยไม่ว่าจะตากผ้า หรือปลูกต้นไม้ก็มีพื้นที่จำกัดมากครับ แต่ถ้าจะออกไปยืนชมวิว รับลมเย็นๆ ก็พอไหวอยู่นะ ถ้าบ้านไหนต้องซักผ้าทีละเยอะๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่ในการตากผ้ากันหน่อย ซึ่งก็พอจะแก้ไขได้ด้วยการซื้อเครื่องอบผ้ามาใช้อีกซักตัว หรือส่งเสื้อผ้าไปร้านซักรีดเลยก็สะดวกดีนะครับ นอกเหนือจากนี้ในส่วนอื่นๆ ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีทีเดียวเลย ส่วนใครจะถูกใจห้องแบบไหนมากกว่ากัน หรืออยากได้ห้องใหญ่ที่เป็นแบบห้อง combine ก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมที่สำนักงานขายกันดูครับ ยังไงซะสิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น การได้เห็นห้องด้วยตาตัวเองก็ย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ จริงมั้ยครับ