Tag : SB

2 ผลลัพธ์
ห้องแต่งตัวในฝันทำได้จริง อยากแต่งแบบไหนก็ได้แบบนั้น

ห้องแต่งตัวในฝันทำได้จริง อยากแต่งแบบไหนก็ได้แบบนั้น

  ปัจจุบันห้องแต่งตัวไม่ได้เป็นแค่พื้นที่เก็บเสื้อผ้าเท่านั้น ด้วยตำแหน่งที่มักจัดไว้ใกล้ห้องน้ำและห้องนอน หลายคนจึงปรับพื้นที่นี้เป็นที่เก็บของใช้ต่างๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องนอน, กระเป๋าเดินทาง หรือเครื่องประดับ โดยการออกแบบและจัดแบ่งหมวดหมู่ที่ดีจะทำให้ห้องนี้ใช้งานได้สะดวกและเป็นระเบียบมากขึ้น ทว่าห้องแต่งตัวในฝันของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนฝันอยากได้ห้องแต่งตัวสไตล์เจ้าหญิงที่มี Walk-in Closet ดินแดนส่วนตัวแบบฟูลออฟชั่น หรือบางคนฝันอยากมีห้องแต่งตัวแบบสไตล์ลอฟท์เท่ๆ ตามฉบับชายหนุ่มมาดแมนที่มีตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปมาพร้อมมัลติฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับพื้นที่ทุกรูปแบบ ทั้งนี้ไม่ว่าคุณมีฝันอย่างไร อยากได้ห้องแต่งตัวรูปแบบไหน? "ห้องแต่งตัว" ก็คือพื้นที่ส่วนตัวที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณ ดังนั้นในบทความนี้เราขอยกตัวอย่างห้องแต่งตัวรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นไอเดียให้กับห้องแต่งตัวในฝัน โดยที่คุณสามารถทำได้จริง แถมยังสนุกกับการตกแต่งมากขึ้น   ห้องแต่งตัวในฝันสไตล์ Modern Luxury สุดหรู หรูหราสง่างามและทันสมัยในตัวเอง คือหัวใจสำคัญของสไตล์ Modern Luxury ใครที่ฝันอยากมีห้องแต่งตัวเหมือนเจ้าหญิงแบบ Walk-in Closet สุดหรูที่เอื้อประโยชน์ได้ทั้งหยิบใช้และโชว์ แถมยังมีให้เลือกใช้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ตู้, ช่องเก็บของ, ราวแขวน, ชั้น, หรือลิ้นชักต่างๆ โดยที่เจ้าของบ้านสามารถกำหนดรูปแบบได้ตามความพอใจเพื่อให้สอดรับกับความต้องการนั้นบอกได้เลยว่าไม่ยาก เทคนิคง่ายๆ คือเลือกเฟอร์นิเจอร์ หรือวัสดุสุดเก๋ตามเทรนด์ปัจจุบันที่ให้ทั้งลุคหรูหราพร้อมดูทันสมัยมาตกแต่ง ซึ่งควรเลือกชิ้นเด่นๆ หรือคลุมโทนสีไปในทิศทางเดียวกันก็จะช่วยทำให้ห้องแต่งตัวชวนมองมากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมเพิ่มมิติจากความวิบวับจากแสงไฟ และวัสดุตกแต่งที่มีความมันวาวอย่างเมทัลลิก เช่นเดียวกับมือจับประดับเพชรขอบทอง เฟอร์นิเจอร์จาก SB Design Square เหมือนในภาพตัวอย่างด้านบนที่สะกดทุกสายตา และสะท้อนความโก้ได้ดีทีเดียว   ห้องแต่งตัวในฝันสวยงาม สดใส สไตล์ Modern Chic  ใครที่เบื่อห้องแต่งตัวรูปแบบเดิมๆ ลองมาดูเทรนด์ใหม่มาแรงอย่างสไตล์ Modern Chic ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ซ่อนความเก๋ของงาน Design ไว้อย่างลงตัว ซึ่งทริคในการเนรมิตห้องแต่งตัวในฝันสไตล์นี้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใสจาก SB Design Square เหมือนดั่งภาพตัวอย่างด้านบนที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานตามแบบฉบับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ที่ชอบอะไรแบบเรียบเก๋ จัดวางตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวให้เต็มผนังด้านใดด้านหนึ่ง เน้นฟังก์ชั่นหลักที่ต้องการมีเพียงตู้เสื้อผ้า โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ทำบานปิดแต่ติดราวเลียนแบบห้องลองชุดตามร้าน ให้สามารถเลือกเสื้อผ้าและเปลี่ยนได้ทันที พร้อมติดตั้งลิ้นชักสำหรับเก็บเสื้อไว้ตรงกลาง แถมบริเวณใต้ลิ้นชักยังใช้เป็นส่วนจัดเก็บเพิ่มเติมที่น่าจะงอกเงยเพิ่มพูนอย่างมากมายในอนาคตได้อีกด้วย   ห้องแต่งตัวในฝันสไตล์ Minimal ตกแต่งน้อย แต่มากฟังก์ชั่น มาต่อกันที่สไตล์มินิมอลของสายคลีนกันบ้าง กับไอเดียการแต่งห้องแต่งตัวในฝันด้วยไม้สีอ่อน ดูอบอุ่น เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ ซึ่งเราแนะนำให้เลือกฟังก์ชั่นของตู้ให้ครบกับความต้องการในการใช้งาน ด้วยตู้เสื้อผ้าแนวคิดใหม่รุ่น Wardrobe จาก SB Design Square ที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาวมินิมอลได้ดี เพราะสามารถเลือกตู้เสื้อผ้าบานเปิดในห้องนอนให้ลงตัวกับพื้นที่ได้ทั้งแบบลอยตัว และแบบบิลต์อิน ด้วยขั้นตอนง่ายๆ กับการออกแบบตู้เสื้อผ้าในสไตล์ของคุณเอง แถมยังดีไซน์หน้าบาน มีให้เลือกหลากหลายวัสดุทีเดียว อาทิ บานไม้, บานกระจก, บานม่าน มีฟังก์ชั่นให้ทุกการเปิดปิดตู้เสื้อผ้า เงียบสนิท นุ่มนวล ลดแรงกระแทก ออปชั่นภายในตู้เสื้อผ้า ปรับเปลี่ยนตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง คุ้มค้าในทุกพื้นที่จัดเก็บ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องแต่งตัวในฝันที่ไม่กินพื้นที่ของห้องมากเกินไปแล้วล่ะ   ห้องแต่งตัวในฝันสไตล์ Modern Loft  คงปฏิเสธได้ยากจริงๆ สำหรับกระแสเทรนด์การแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ที่ยังได้รับความนิยมอยู่มากในปัจจุบัน กับการโชว์ให้เห็นเนื้อแท้สัจจะวัสดุในการตกแต่ง สร้างอารมณ์ดิบเท่ที่ไม่ต้องปรุงแต่งให้ผิดแปลกไปจากวัสดุดั้งเดิมมากนัก ซึ่งหากคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ตกหลุมรักเสน่ห์ของความดิบเท่สไตล์นี้ และฝันอยากมีห้องแต่งตัวที่บ่งบอกตัวตน แนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ลอฟท์จาก SB Design Square ที่ใช้ท่อเหล็ก มาสร้างโครงสร้างของห้องแต่งตัว นอกจากความแข็งแรงของวัสดุประเภทท่อ การเลือกทำ Walk-in Closet สไตล์นี้ ยังทำให้ห้องที่ดูแคบโล่งโปร่งขึ้นได้ รวมถึงไม่จำเป็นต้องทำลิ้นชักแบบยึดติดผนัง สามารถเพิ่มเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เข้ามาเป็นพื้นที่เก็บของได้อย่างกลมกลืนเช่นเดียวกับภาพตัวอย่าง นอกจากนี้ยังสามารถให้ทีม SB Interior Team ช่วยออกแบบโดยสร้างความเท่กว่าเดิมด้วยการทำเป็นประตูไม้บานเลื่อน ติดรางเพิ่มเติมสำหรับเข้าออก เป็นการสร้างกิมมิกที่ดูสะดุดตาให้กับห้องได้ดีทีเดียว   "ห้องแต่งตัว" ก็เปรียบเสมือนกับการจัดดิสเพลย์ให้กับบ้าน ดังนั้นถ้าใครคิดจะทำห้องแต่งตัวในฝันตามสไตล์ที่เราชอบ อย่าลืมคำนึงถึงความสะอาดและการจัดระเบียบเป็นสำคัญ เพราะนอกจากได้ห้องแต่งตัวที่สวยงามน่าใช้งาน ยังสะท้อนตัวตนความเป็นคุณได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การจัดเรียงเสื้อผ้าตามโทนสี ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการหยิบใช้มากขึ้นด้วยนะ แต่..ถ้าคุณกำลังมองหาไอเดียแต่งห้องแต่งตัวในฝันแต่ยังไม่รู้จะแต่งแบบไหน เราขอแนะนำให้คุณพุ่งตัวไปปรึกษาเรื่องการออกแบบ กับทีม SB Interior Team ได้ที่ SB Design Square ทุกสาขา เพราะนอกจากจะมีฝีมือระดับเทพและประสบการณ์ออกแบบห้องสวยได้อย่างใจลูกค้ามานับไม่ถ้วน ทางมัณฑนากรยังเลือกใช้แต่เฟอร์นิเจอร์คุณภาพ SB โดยที่เราสามารถกำหนดงบประมาณได้อีกด้วย จนเรากล้าการันตีเลยว่า "ไม่ว่าคุณจะอยากอยู่แบบไหน...ก็ได้อยู่แบบนั้น" สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสนใจนัดหมายออนไลน์ได้ที่ https://www.sbdesignsquare.com/th/interior-solution/free-interior-design-service 
เอสบี เปิดตัว “52 WEEKS OF DESIGN” ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์

เอสบี เปิดตัว “52 WEEKS OF DESIGN” ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์

เอสบี ดีไซน์สแควร์ เดินหน้ารุกตลาดปี 2561 เต็มรูปแบบ เปิดตัวแคมเปญแรกแห่งปี “52 WEEKS OF DESIGN by SB DESIGN SQUARE” (ฟิฟตี้ ทู วีคส์ ออฟ ดีไซน์ บาย เอสบี ดีไซน์สแควร์) ดึง 52 อินทีเรียดีไซน์เนอร์ผู้มากฝีมือและประสบการณ์ มาแชร์ไอเดียแต่งบ้านบนเว็บไซต์ เพื่อเป็นศูนย์รวมไอเดียและแรงบันดาลใจในการแต่งบ้าน เน้นชูจุดแข็งด้านการสร้างเครือข่าย Designer Connect หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม คาดปีนี้อัตรายอดขายเติบโตเพิ่มอย่างมีคุณภาพ 10%   ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปี 2561 ว่า มีสัญญาณทางการตลาดที่ดีขึ้น เนื่องด้วยดีเวลลอปเปอร์หลายรายต่างเริ่มมีการทยอยส่งมอบจำนวนยูนิตที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม เพราะปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนไป นิยมอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้น ด้วยเดินทางสะดวกสบาย ผนวกกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็มีการปรับตัวทั้งในเรื่องดีไซน์และบริการ เพื่อมุ่งเน้นตอบสนองความต้องการและให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาล (ช้อปช่วยชาติ) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคธุรกิจตลาดเฟอร์นิเจอร์ไตรมาสแรกกลับมาคึกคักอีกครั้ง และปัจจัยบวกเหล่านี้ก็ทำให้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของ เอสบี มีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้น 5% เมื่อเทียบกับเวลาในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และตั้งเป้ายอดขายทั้งปีน่าจะเติบโตโดยรวมที่ 10%   กลยุทธ์หลักในปีนี้คือ Designer Connect เน้นให้ความสำคัญกับการเข้าไปกระชับสัมพันธ์กับกลุ่มอินทีเรียดีไซน์เนอร์ ซึ่งแคมเปญแรกที่จะทำในปีนี้คือ 52 WEEKS OF DESIGN by SB DESIGN SQUARE โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 1.นำเสนอผลงานการออกแบบของ Designer คนไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ในการแต่งบ้านให้กับลูกค้า ที่จะได้เห็นมุมมองในการออกแบบของดีไซน์เนอร์แต่ละท่านในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งจะมีผลงานออกแบบที่สวยงาม น่าสนใจเป็นประโยชน์กับลูกค้าอย่างมาก และวัตถุประสงค์ที่ 2.เพื่อให้ลูกค้าได้รับไอเดียใหม่ๆ และคำแนะนำในการแต่งบ้านจากดีไซน์เนอร์มืออาชีพ ด้วยเนื้อหาในส่วน Décor Ideas และ Recommended Items by Designer แต่ละท่าน เพราะการแต่งบ้านเป็นเรื่องที่มีรายละเอียด และหลายคนอาจไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง   แคมเปญ 52 WEEKS OF DESIGN by SB DESIGN SQUARE เอสบี ได้รับเกียรติจาก 52 อินทีเรียดีไซน์เนอร์ผู้มากฝีมือและประสบการณ์มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ แนะนำไอเดียตกแต่งบ้าน โดยนำเสนอผ่าน www.sbdesignsquare.com ในแต่ละเดือนมีจำนวนผู้เข้าชมกว่า 5 แสนคนต่อเดือน โดยในแต่ละสัปดาห์จะมีไอเดียดีๆ จากอินทีเรียดีไซน์เนอร์แต่ละท่านมาแชร์ไว้ อาทิ คุณณัฎฐา สุนทรวิเนตร์, คุณบดินทร์ พลางกูร,คุณเบญญาภา ศิริโสภณ, คุณวัฒนา โกวัฒนาภรณ์, คุณภูวสิษฐ์ ทวีฤทธิ์ธนวงษ์ เป็นต้น ซึ่งแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 จนถึงปัจจุบันเข้าสู่สัปดาห์ที่ 17 มีดีไซน์เนอร์มาร่วมแสดงผลงาน 17 คนแล้ว ลูกค้าที่กำลังแต่งบ้านทุกคนสามารถเข้ามาในเว็บไซต์ของ SB Design Square และเลือกนำไอเดียของดีไซน์เนอร์แต่ละท่านไปต่อยอดตกแต่งบ้านของตัวเองได้ตามสไตล์ที่ชอบ ที่ผ่านมาเราได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดีเป็นอย่างมาก โดยวัดจากจำนวนผู้เข้าชมเว็ปไซต์ในส่วนของแคมเปญนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงวันนี้มีกว่าแสน Page View     “เราเลือกที่จะทำแคมเปญนี้ผ่านโลกออนไลน์เพราะ เอสบี ได้ทำการสำรวจศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคมาโดยตลอด และพบว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จากอดีตที่ลูกค้าจะแต่งห้องหรือบ้าน มักนิยมหาไอเดียจากนิตยสารและเดินตามร้านเฟอร์นิเจอร์ แต่ปัจจุบันกลับหันมาหาข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก นอกจากการทำแคมเปญนี้แล้ว ด้านการสื่อสารกับลูกค้าทางออนไลน์ เราได้ปรับตัวโดยใช้ช่องทางหลายแพลตฟอร์มเพื่อทำหน้าที่แตกต่างกันไป อาทิ เว็บไซต์ เอสบี ดีไซน์ สแควร์ (SB Design Square) จะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมสินค้าทุกอย่างให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาดูและเลือกชมสินค้า ในขณะที่เฟสบุ๊คจะเป็นช่องทางกระจายข่าว และ LINE Official Account ที่มีคนติดตามถึง 4 ล้านกว่าคนนั้น จะเป็นช่องทางสื่อสารเพื่อโปรโมทแคมเปญและโปรโมชั่น จากการขานรับพฤติกรรมของผู้บริโภคดังกล่าวผลปรากฏว่าปัจจุบันเฟสบุ๊คของ เอสบี ดีไซน์ สแควร์ (SB Design Square) มียอดคนติดตามถึง 8 แสนคน ในขณะที่ช่องทางยูทูปก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากแคมเปญโฆษณาแบรนด์ “คอนเซ็ปต์ เฟอร์นิเจอร์” จนได้รับรางวัล Youtube Ads Leaderboard คือเป็น 1 ใน 10 โฆษณาไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนยูทูปเมื่อปีที่ผ่านมา” ธัญญรักข์ กล่าว   สำหรับแคมเปญ 52 WEEKS OF DESIGN นับเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่ เอสบี มุ่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้ากลุ่มอินทีเรียดีไซน์เนอร์ ยังมีกระบวนการทำงานอีกหลายส่วนที่เราได้จัดเตรียมเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาให้การทำงานของเรากับลูกค้ากลุ่มนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดพิเศษสำหรับดีไซน์เนอร์ โปรแกรมสะสมแต้ม และ Pro Service ที่เป็นบริการพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้เท่านั้น โดยเราจะจัดเตรียมทีมงานช่วยดูแลโปรเจ็คต์ของลูกค้าโดยเฉพาะ พร้อมบริการจัดหาสินค้าจากเครือข่ายผู้ผลิต-นำเข้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงประสานงานดูแลการจัดส่งและติดตั้งให้ตรงตามกำหนดเวลาทั้งหมดนี้จะอยู่ในรูปแบบของ SB Designer Club ซึ่งเป็นเฟสถัดไปที่เรากำลังเร่งดำเนินการ และจะเปิดตัว SB Designer Club ในงานสถาปนิก ที่จะจัดขึ้นวันที่ 1 - 6 พฤษภาคม 2561 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี บูทเลขที่ E504   สำหรับกลยุทธ์ดำเนินงานขยายแบรนด์สินค้า กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากการสร้างเครือข่าย สร้างไอเดียการตกแต่งบ้านผ่านช่องทางออนไลน์ เอสบี ยังคงความเป็นผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์แนวไลฟ์สไตล์ ล่าสุดได้มีการนำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับลักชัวรี่จากต่างประเทศมากขึ้น เพื่อรองรับผู้บริโภคระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีกำลังซื้อจริง ได้แก่ แบรนด์ Universal, Metropole Living จากสหรัฐอเมริกา รวมถึง Habitat จากฝรั่งเศส ทั้งยังเพิ่มบริการผลิตสินค้า Customize Design ภายใต้ แบรนด์ Kelvin Giormani เป็นแบรนด์โซฟาหนังแท้นำเข้าจากอิตาลีที่ลูกค้าสามารถเลือกดีไซน์ได้มากกว่า 200 รูปแบบ 50 เฉดสี และ 8 เกรดหนังคุณภาพสูง และยังมี Customize Design ในสินค้ากลุ่มเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ชุดวางทีวี และโซฟาที่เป็นแบรนด์ของ เอสบี เอง”   “ทั้งนี้เรามั่นใจว่าจากสัญญานบวกของตลาดและแผนการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวแคมเปญ 52 WEEKS OF DESIGN by SB DESIGN SQUARE การนำเข้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ใหม่ และกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายภายในสิ้นปี 2561 ได้ที่ประมาณ 7,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 10% จากปีที่แล้ว” คุณธัญญรักข์ กล่าว