Tag : SENA 360 SERVICE

2 ผลลัพธ์
SENA ลุยเปิดครึ่งปีหลัง 3 โครงการรวด รวมมูลค่า 4,868 ล้านบาท พร้อมปล่อยโฆษณาชุดใหม่ “หัวคิดหัวใจ” ตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กร

SENA ลุยเปิดครึ่งปีหลัง 3 โครงการรวด รวมมูลค่า 4,868 ล้านบาท พร้อมปล่อยโฆษณาชุดใหม่ “หัวคิดหัวใจ” ตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กร

SENA ไฟเขียวจ่ายเงินปันผล  0.05455 บาท/หุ้น แย้มไตรมาส 3/60 ลุยเปิดโครงการใหม่รวดเดียว 3 โครงการ รวมมูลค่า 4,868 ล้านบาท มั่นใจโค้งสุดท้ายปลายปีรายได้ตามเป้า ล่าสุด เตรียมเปิดแคมเปญใหม่ “หัวคิดหัวใจ” ปี 2 ภาพยนตร์โฆษณาชุด “แนนซี่” จ่อ On Air พร้อมกันทั้งประเทศ 25 ส.ค. นี้ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และในฐานะ Developer รายแรกที่พัฒนาโครงการบ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีความพร้อมในการผลักดันและสร้างการเติบโตในธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องทุกรูปแบบทั้งการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์,ธุรกิจโซลาร์และการร่วมมือกับพันธมิตรในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยล่าสุด คณะกรรมการมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.05455 บาท สำหรับหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 1,214,442,959 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 66,247,863 บาท ทั้งนี้ เงินปันผลดังกล่าวจะจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่บริษัทเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 20 ซึ่งผู้รับเงินปันผลเป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับเครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 28 สิงหาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในวันที่ 8 กันยายน 2560 ด้านผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/2560 ทั้งรายได้และกำไรลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมียอดโอนจากโครงการ นิช โมโน รัชวิภา ในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐด้วยการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม  อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity ratio : D/E) เท่ากับ 1.33 ซึ่งบริษัทยังคงสามารถดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไว้ได้ตามที่กำหนด ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 / 2560 จะมีรายได้จากค่าเช่าและบริการจากการรับจ้างบริหารโครงการในนาม บริษัท เสนา แมเนจเม้นท์ จำกัด ด้วย สำหรับปีนี้ ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20%  โดยตั้งเป้ารายได้รวม 4,500 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก มียอดโอนเข้ามาแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกกว่า 3,600  ล้านบาท  ซึ่งจะเป็นยอดที่รอรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท  จากการโอนโครงการ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี โครงการ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 โครงการ นิช โมโน บางนา เฟส 3 อีกทั้งบริษัทฯมีแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังเพื่อสะสมยอดขายรอโอนสำหรับปี 2561 ทั้งนี้ ตามแผนดำเนินงานของบริษัททั้งปี จะเปิดโครงการทั้งสิ้น 10 โครงการ  มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากช่วงไตรมาส 4/2560 จะมีการประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯรัชกาลที่ 9 จึงไม่เหมาะที่บริษัทจะทำการตลาดในช่วงไตรมาส 4 จึงเลื่อนเปิดโครงการ 1 โครงการออกไปในช่วงปี 2561 แทน ซึ่งทำให้ทั้งปีนี้ ทางบริษัทเปิดโครงใหม่รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ รวมมูลค่า 9,031 ล้านบาท  โดยในช่วงครึ่งปีแรก เปิดโครงการไปแล้ว 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 2,113 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ เดอะ คิทท์ ไลท์ บางกระดี ติวานนท์ เฟส 2 มูลค่าโครงการ 367 ล้านบาท 2.โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท 50  มูลค่าโครงการ 1,154 ล้านบาท และ 3.โครงการ นิช ไอดี สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ 592 ล้านบาท ขณะที่แผนในครึ่งปีหลัง ทางเสนาฯ เปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 6,918 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการไปแล้ว 2 โครงการ คือ โครงการนิช ไอดี @ ปากเกร็ด สเตชั่น  เป็นคอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น  จำนวน 857 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาทและโครงการ เสนา ช้อปเฮ้าส์ บางแค อาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น มูลค่าโครงการ 460 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการ  เสนา ช้อปเฮ้าส์ พหลโยธิน –คูคต อาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น มูลค่าโครงการ 190 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3/2560 เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่พร้อมกัน 3 โครงการรวด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,868 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการ เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน –คูคต  เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2  อาคาร ทั้งหมด 728 ยูนิต (เฟสละ 364 ยูนิต) ราคาเริ่มต้น 1.1 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 483 ล้านบาท 2.โครงการ เสนา อีโคทาวน์ – รามอินทรา– วงแหวน คอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ สูง 5 ชั้น จำนวน 20 อาคาร ทั้งหมด 480 ยูนิต ราคาเริ่ม 1.59 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการกว่า 985 ล้านบาท และ 3.โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง คอนโดมิเนียมไฮไลท์ สูง 33 ชั้น ทั้งหมด 1,467 ยูนิต ราคาเริ่ม 2.3 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท ขณะเดียวกันแผนการดำเนินงานในปีนี้ SENA ยังคงมุ่งเน้นการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ปีนี้เสนา เราทำงานภายใต้ธีม" Eco Innovation" ซึ่ง หมายถึง ลบ 2 บวก 1 เพราะ Eco คือการประหยัดพลังงาน และประหยัดเวลา Innovation คือการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสิ่งที่เราทำอยู่แล้วให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อลูกค้า ซึ่งมีที่เสนาทำไปบ้างแล้วคือการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผลโซลาร์ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางและเป็นพลังงานสะอาด การทำแอพพลิเคชั่น SENA 360 SERVICE ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหลังการขายของบริษัทได้โดยง่าย ซึ่งในปี 2560 เรามีแผนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้สูงสุดให้ลูกค้าประหยัดพลังงาน และประหยัดเวลา รวมทั้งเราจะเพิ่มประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นให้มีบริการที่ครบวงจรยิ่งขึ้น เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล นอกจากนี้ ทางเสนายังได้เตรียมแผนรุกตลาดเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ให้กับองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้ออกแคมเปญใหม่ “หัวคิดหัวใจ” ปี 2 พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “แนนซี่” ภายใต้แนวคิด เพื่อการบริการที่ดีให้กับลูกค้าได้ภูมิใจ ถ่ายทอดเรื่องราวจากพนักงานของเสนาที่พร้อมบริการด้วยหัวใจ ยอมก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ทำทุกอย่างเพื่อได้ความไว้วางใจจากลูกค้า เตรียมพบกับแคมเปญใหม่ “หัวคิดหัวใจ” ภาพยนตร์โฆษณา ชุด “แนนซี่” จากบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ทางออนไลน์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนทางโทรทัศน์ สามารถรับชมพร้อมกันทั้งประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมนี้
SENA ปักธงปี”60 รายได้โต 20% จากปีก่อน ส่งอสังหาฯแนวสูง-แนวราบบุกตลาดฯต่อเนื่อง ไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่า 1.9 – 2.5 พันลบ.

SENA ปักธงปี”60 รายได้โต 20% จากปีก่อน ส่งอสังหาฯแนวสูง-แนวราบบุกตลาดฯต่อเนื่อง ไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่า 1.9 – 2.5 พันลบ.

SENA เร่งเครื่องอัพยอดขายครึ่งปีหลัง ไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่ากว่า1.9 – 2.5 พันล้านบาทผู้บริหารหญิงแกร่ง  “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์”มั่นใจผลงานปีนี้มาตามนัด  รายได้โตเกิน 20% โชว์แบ็คล็อกหนากว่า 3 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 จนถึงปี”61 ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA)ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยและในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/60 มีรายได้รวม 466.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 70.70 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งโครงการแนวราบ และแนวสูงจำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท (ณ 31 มีนาคม 2560) ซึ่งจะเป็นการทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ในไตรมาส 2/60 และต่อเนื่องไปถึงปีหน้า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทฯเตรียมเปิดใหม่ แผนเปิดโครงการใหม่ประมาณ 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาทและในไตรมาส 2/60 เตรียมเปิด 2 -3 โครงการ มูลค่ารวม 1,900-2,500 ล้านบาท “แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจาการการร่วมมือกับพันธมิตรในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงจากธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งในส่วนของโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ โดยในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% เทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 4,059  ล้านบาท” ผศ.ดร.เกษรากล่าว สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ SENA จะเน้นการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ปีนี้เสนา เราทำงานภายใต้ธีม " Eco Innovation" ซึ่งหมายถึง ลบ 2 บวก 1 เพราะ Eco คือการประหยัดพลังงาน และประหยัดเวลา Innovation คือการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสิ่งที่เราทำอยู่แล้วให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อลูกค้า ซึ่งมีที่เสนาทำไปบ้างแล้วคือการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผลโซลาร์ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางและเป็นพลังงานสะอาด การทำแอพพลิเคชั่น SENA 360 SERVICE ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหลังการขายของบริษัทได้โดยง่าย ซึ่งในปี 2560 เรามีแผนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้สูงสุด ให้ลูกค้าประหยัดพลังงาน และประหยัดเวลา รวมทั้งเราจะเพิ่มประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่น ให้มีบริการที่ครบวงจรยิ่งขึ้น เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล