Tag : sena

21 ผลลัพธ์
SENA เปิดเกมชิงพื้นที่ ปั้นคอนโด “นิช โมโน สุขุมวิท–ปู่เจ้า” โชว์จุดชิค กับ  facilities 3 อาคาร 3 สไตล์

SENA เปิดเกมชิงพื้นที่ ปั้นคอนโด “นิช โมโน สุขุมวิท–ปู่เจ้า” โชว์จุดชิค กับ facilities 3 อาคาร 3 สไตล์

SENA นำร่องเปิดตัวคอนโดใหม่ล่าสุด “นิช โมโน สุขุมวิท–ปู่เจ้า” ขานรับการขยายตัวของเมืองตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง–เคหะสมุทรปราการ ย้ำแนวคิดการพัฒนาคอนโดแบบ “MADE FROM HER” บนทำเลที่ดีที่สุดเพียง 30 เมตรจาก BTS ปู่เจ้า ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท* พร้อมเปิดขายรอบ Soft opening 30- 31 มีนาคมนี้ สำหรับลูกค้าลงทะเบียน www.sena.co.th รับส่วนลด Gift Voucher 100,000 บาท*  และลุ้นทอง มูลค่ากว่า 100,000 บาท    นางสาวสมพิศ ศรีระทัด ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่าจากอานิสงค์เส้นทางการเดินรถไฟฟ้าทั้งโครงข่ายคมนาคมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือ รถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมเปิดให้บริการล้วนแต่ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมย่านดังกล่าวยังมีดีมานด์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ทางเสนาได้พัฒนาโปรเจกต์ใหม่บนโลเคชั่นที่ดีที่สุดในย่านสุขุมวิทตอนปลาย และพร้อมเปิดขายคอนโดมิเนียมหรู “นิช โมโน สุขุมวิท – ปู่เจ้า” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่เศษ ติดถนนสุขุมวิท ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีปู่เจ้า เพียง 30 เมตร พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม สูง 12 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 572 ยูนิต และ 1 ร้านค้า โดยมีห้องชุดพักอาศัยให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอนพลัสและลิฟวิ่งพลัส ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35 – 37 ตรม.และแบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย  48 ตรม. ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท*หรือเฉลี่ยต่อตารางเมตรละ 79,000 บาท รวมมูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างแล้วตั้งแต่ต้นปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2562 โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาทางโครงการได้เปิดให้ชมห้องตัวอย่างเป็นครั้งแรก ซึ่งมีลูกค้าสนใจและให้การตอบรับที่ดี   การออกแบบยังคงดึงแนวคิดความละเอียดของผู้หญิง “MADE FROM HER” ใส่ใจทุกดีเทลของชีวิต มาสร้างเอกลักษณ์ทุกมิติด้านฟังก์ชั่นและเติมเต็มพื้นที่ส่วนกลางให้หลากหลายและสร้างความต่างให้มากกว่าด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ครบคุ้มและ facilities 3 อาคาร 3 สไตล์ เป็น Connecting facilities ประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์โครงการ “RECHARGE” ทั้งแบบ  Active facilities, Family facilities , Connecting facilities เพื่อตอบโจทย์การใช้งานตามพฤติกรรมของลูกค้า อาทิ  Entrance Lobby & Social Lounge, Fitness (Male & Female) , Jacuzzi, Outdoor Co kitchen (BBQ Area) , Steam & Sauna, Co-working Space, Swimming Pool & Kid Pool ,Play Room , EV Charger   ด้านนายปรีชา ศุภปีติพร  กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอคคิวท์ เรียลตี้ จำกัด กล่าวว่าหากพูดถึงทำเลเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) นับว่ามีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด 40% เนื่องจากรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว (เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561) ที่ผ่านมา ทั้งหมด 9 สถานี ได้แก่ สถานีสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ช้างเอราวัณ โรงเรียนนายเรือ ปากน้ำ ศรีนครินทร์ แพรกษา สายลวด และเคหะสมุทรปราการ จึงส่งผลให้ราคาที่ดินในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวปรับสูงขึ้น โดยราคาที่ดินขณะนี้อยู่ที่ราวเกือบ 2-3 แสนบาท/ตารางวา ซึ่งพื้นที่นี้ยังมีการเติบโตและขยายตัวได้อีกมาก     ด้วยศักยภาพทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง เคหะสมุทรปราการนั้น สามารถตอบสนองความต้องการของคนทำงานในเมืองและคนทำงานในย่านสมุทรปราการ ที่สำคัญการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดฯ รอบสถานีรถไฟฟ้า โดยเฉพาะ “สถานีปู่เจ้า” ซึ่งเป็นแหล่งชุมชน  ใกล้นิคมอุตสาหกรรม ในจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ห่างไป 1 สถานีตรงสถานีสำโรงจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรงทำให้สถานีสำโรงเป็นอินเตอร์เชนจ์ที่สำคัญจุดหนึ่ง และหากผังเมืองสมุทรปราการมีการปรับสีผังใหม่ให้สอดรับการพัฒนา ก็จะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในการเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมือง โดยจะเป็นทั้งแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งงานและช๊อปปิ้ง อีกทั้งยังมองว่า แนวโน้มทั้งดีมานด์และซัพพลายของตลาดที่อยู่อาศัยในเส้นทางนี้จะไปได้ดี   ทั้งนี้ ทางเสนาเตรียมเปิดขายรอบ Soft Opening ระหว่างวันที่ 30 – 31 มีนาคม 2562 ณ Sale Gallery โครงการ “นิช โมโน สุขุมวิท – ปู่เจ้า” สำหรับลูกค้าลงทะเบียนรับ Gift Voucher Central 100,000 บาท*และร่วมลุ้นทอง มูลค่ากว่า 100,000 บาท  พร้อมพบโปรโมชั่นอีกมากมายภายในวันงาน      
SENA ท็อปฟอร์มขึ้นแท่นรองแชมป์ ปี 61 ทุบสถิติครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 3 ปี

SENA ท็อปฟอร์มขึ้นแท่นรองแชมป์ ปี 61 ทุบสถิติครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 3 ปี

SENA จุดพลุประกาศความสำเร็จ “Growth Hormone” ตามโรดแมปปี 61 โตพุ่งปรี๊ดครบทุกองศา ล่าสุดขึ้นแท่นรองแชมป์อันดับ 2 เปิดตัวคอนโดมิเนียมเยอะสุดทั้งในแง่แวร์ลูและควอลิตี้ทำลายสถิติครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 3 ปี   ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2561 ที่ผ่านมามีความท้าทายต่างๆ เข้ามากดดันให้ผู้ประกอบการเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อย่างระมัดระวังการแข่งขันในตลาดที่ยังคงเป็นไปอย่างรุนแรงและความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีจำกัด แต่ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างครอบคลุม ครบทุกเซกเมนท์ทำให้ในปีที่ผ่านมา เสนาสามารถทำลายสถิติหลายอย่างให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้   สำหรับปี 2561 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่พีคที่สุดของเสนาในรอบ 3 ปี ทั้งในแง่การเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีมูลค่าและจำนวนยูนิตที่สูงสุด ครองแชมป์อันดับ 2 ในธุรกิจเรียลเอสเตท (เครดิต:จากฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย) โดยเฉพาะหากย้อนดูข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ปี 2561) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15–20   และมีการเปิดตัวโครงการและจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2559 เปิดคอนโดมิเนียม 5 โครงการ 1,654 ยูนิต รวมมูลค่า 2,560 ล้านบาท ปี 2560 เปิดคอนโดมิเนียม 7 โครงการ 4,111 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 8,477 ล้านบาท และปี 2561 เปิดคอนโดมิเนียม 9 โครงการ 6,397 ยูนิต รวมมูลค่า 22,030 ล้านบาท ประกอบกับทางเสนาเองมีพันธมิตรธุรกิจที่แข็งแกร่ง “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น” ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการทั้งสิ้น ณ ปัจจุบัน 6 โครงการ ประกอบด้วย 1.นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง 2.นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ 3.นิช โมโน เจริญนคร 4.นิช โมโน เมกะ สเปช บางนา 5.นิช โมโน รามคำแหง และ6.ปีติ เอกมัย รวมมูลค่าทั้งสิ้น 20,846 ล้านบาท ซึ่งสร้างยอดขายเป็นที่น่าพอใจทุกโครงการ นอกจากนี้ทางเสนายังมีพาสเนอร์อย่างบริษัท แอคคิวท์ เรียลตี้ที่เข้ามาช่วยบริหารดูแลด้านการขายอย่างมืออาชีพให้กับหลายโครงการรวมถึงการทำตลาดในต่างประเทศด้วย   ทั้งนี้ทางเสนายังได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้ทุกโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง ซึ่งเป็นรายแรกของเมืองไทยที่เดินหน้าพัฒนาโครงการมุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดแบบ100% โดยการนำร่องติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ให้บ้านทุกหลัง และเครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า EV ready รวมทั้งมีบริษัทในเครือเป็นผู้ติดตั้งและจัดจำหน่ายระบบพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของประเทศไทย รวมถึงได้ต่อยอดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ใน Application SENA 360° Service ให้ครบ จบ ง่าย บริการหลังการขายแบบครบวงจรพร้อมดูแลลูกบ้านทุกที่ทุกเวลา   ด้วยหัวใจสำคัญแห่งความสำเร็จครั้งนี้ เสนาวางคอร์เปอเรทแคมเปญใหญ่ “MADE FROM HER” ใส่ใจทุกดีเทลชีวิตจากแนวคิดแบบผู้หญิงเพื่อสร้างจุดต่างและจุดขายให้กับโปรดักส์ในโครงการ ซึ่งความสำเร็จของเสนาในวันนี้เป็นผลพวงจากวิสัยทัศน์ผนวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของผู้บริหารระดับสูง และการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน            
บ้านประหยัดพลังงาน อยู่แล้วดีอย่างไร?

บ้านประหยัดพลังงาน อยู่แล้วดีอย่างไร?

หลายต่อหลายครั้งที่เราได้ยินคำว่า บ้านประหยัดพลังงาน, บ้านอนุรักษ์พลังงาน หรือนิยามอะไรก็แล้วแต่ที่ดูเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นบ้านที่อยู่แล้วสบายมากกว่าท่ามกลางสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นในบ้านเรา แต่อะไรคือความหมายที่แท้จริงของบ้านลักษณะนี้ อยู่แล้วสบายกว่าอย่างไร แล้วจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้จริงๆ หรือเปล่า เราไปค้นหาคำตอบด้วยกันค่ะ     ลองนึกภาพตามนะคะ ช่วงฤดูร้อนเดือนเมษายน บางวันแดดจัดจนแสบผิว บางวันก็อบอ้าวทั้งวัน แล้วถ้านั่งอยู่ในบ้านเราเอง แต่ยังรู้สึกร้อนจนเหงื่อไหล เปิดหน้าต่างก็ไม่มีลม สุดท้ายต้องไปจบที่การเปิดแอร์กันทั้งวัน ผลคือค่าไฟพุ่งสูงกว่าปกติเท่าตัว บางคนก็แก้ปัญหาด้วยการขับรถยนต์ไปเดินห้างสรรพสินค้ารับแอร์เย็นคลายร้อน แต่นั่นก็เกิดค่าใช้จ่ายตามมาอีกอยู่ดี ถ้าเราหันมาแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อย่างการอยู่ในบ้านที่มีลมพัดเข้าในตัวบ้านได้ อากาศหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น แสงแดดส่องเข้ามาได้น้อย หรือส่องเข้ามาในทิศทางที่เราไม่ได้ใช้งานมาก เช่น ห้องเก็บของ อยู่ในบ้านได้แบบสบายๆ ส่งผลต่อการใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง สิ่งเหล่านี้แหละค่ะคือส่วนหนึ่งที่เรียกว่า บ้านประหยัดพลังงาน         พอพูดถึงโครงการที่อยู่อาศัย สิ่งแรกที่จะต้องเอ่ยถึงคือเรื่องทำเลที่ตั้ง จะต้องใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา รวมถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วน และรถไฟฟ้า ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นโครงการที่ดี แต่จะมีสักกี่โครงการที่กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าอยู่แล้วสุขกายสบายใจ ซึ่งบ้านเดี่ยวจากโครงการ Sena Parkgrand Ramindra เป็นโครงการที่มีความโดดเด่นอย่างมีสไตล์ เพราะมีดีไซน์ที่มาจากงานวิจัยร่วมกันระหว่าง SENA กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกิดเป็นบ้าน Green Smart Design ที่มีทั้งเรื่องดีไซน์ที่รับกับทิศทางลม แสงแดด ใช้วัสดุป้องกันความร้อน มีระบบ Air Fresh ช่วยให้อากาศหมุนเวียนในบ้านได้ดีขึ้น ความร้อนเข้าตัวบ้านน้อยลง ตอนที่เดินถ่ายรูปอยู่ในโครงการก็รู้สึกได้เลยว่า นานแล้วนะคะที่เราไม่ได้ยินเสียงนกร้องในโครงการแบบนี้   ไม่ใช่แค่เรื่องของสถาปัตยกรรมเท่านั้นนะคะ แต่นวัตกรรมก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะช่วยส่งให้ความเป็น Green จับต้องได้ ดูเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ SENA จับมาใส่ในโครงการก็มีทั้ง EV Charger เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ติดตั้งให้เลยทุกยูนิต     คุณเศรษฐวิชย์ อารีสกุลกิจ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจพลังงาน บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้มานั่งอยู่กับเราท่ามกลางบรรยากาศอันสงบร่มรื่นในโครงการ Sena Parkgrand Ramindra แล้วเริ่มเล่าให้เราฟังถึงนวัตกรรมเหล่านี้ว่า “ในระยะ 3-4 ปีต่อจากนี้เป็นช่วงเปลี่ยนเทรนด์จากรถยนต์ใช้น้ำมันธรรมดามาเป็นใช้ไฟฟ้าแทน อย่างที่เห็นรถยนต์ Hybrid ซึ่งใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ทางโครงการมองว่าในอนาคตอันใกล้ที่จะมีเพิ่มมากขึ้น คนก็จะเริ่มหันมาสนใจขึ้นด้วย เพราะมีทั้งในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน ช่วยสิ่งแวดล้อมในการลดมลพิษที่เกิดขึ้นได้ด้วย ซึ่ง EV charger ก็เป็นเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่มีอายุการใช้งาน 20-30 ปี โดยไม่ต้องดูแลรักษาอะไรมาก เสนาจึงได้เตรียม EV charger เอาไว้ให้ก่อนใคร”   ส่วนที่เป็นไฮไลท์เลยคือ Solar Scale up หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Solar Cell ติดตั้งมาให้บนหลังคาบ้านทุกหลังขนาด 2 กิโลวัตต์ นับเป็นโครงการแรกของประเทศไทยเลยทีเดียวค่ะ ที่ติดตั้งมาให้เลยแบบนี้ และยังสามารถติดตั้งเพิ่มได้สูงสุดถึง 5 กิโลวัตต์ แล้วแต่การใช้งานของแต่ละบ้าน      คุณเศรษฐวิชย์ อธิบายให้เราฟังต่อว่า “โซล่าเซลล์เป็นระบบที่ไม่มีความยุ่งยากเลย เรียกได้ว่าแค่ต่อระบบ มีแสงสว่างก็เป็นอันใช้ได้ ในท้องตลาดทั่วไปขายตัว อุปกรณ์เฉลี่ยประมาณ 40,000 บาท/ 1 กิโลวัตต์ ไม่รวมค่าติดตั้ง และการขออนุญาติจากการไฟฟ้า ซึ่งเป็นระเบียบของการไฟฟ้าว่า หากมีการผลิตไฟฟ้าไม่ว่าจะใช้เองหรือขายจะต้องขออนุญาตก่อน ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับระบบสายส่งการไฟฟ้า คุณภาพไฟฟ้า และความสเถียรของไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับภาพรวมของระบบไฟฟ้าหลัก และความปลอดภัย แต่สำหรับ Sena Parkgrand Ramindra เรามีการดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านทุกอย่างจึงสามารถไฟจากโซล่าเซลล์ได้หมด เพราะระบบโซล่าเซลล์ของทางโครงการต่อขนานเข้ากับระบบของการไฟฟ้าภายในบ้าน เกิดการผสมผสานกันระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ได้จากโซล่าเซลล์ กับที่ได้จากการไฟฟ้าแบบทั่วไป”      การผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์จะได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายยอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดของแผงที่ติดตั้ง ซึ่งก็ต้องดูเรื่องของแบรนด์ที่ใช้ เพื่อให้ได้คุณภาพและความทนทาน โดยอายุการใช้งานทั่วไปอยู่ที่ 25-30 ปี ระหว่างนี้ก็ต้องมีการทำความสะอาดหน้าแผง เพื่อไม่ให้มีคราปสกปรกเกาะ แล้วบดบังการรับแสงแดด และความเข้มของแสงอาทิตย์ในแต่ละวัน เช่น หากวันไหนได้รับความเข้มข้นจากแสงอาทิตย์มากก็จะมีสัดส่วนไฟฟ้าที่ได้เข้าไปมาก ช่วยการใช้ไฟบ้านปกติให้ลดลงได้         คุณเศรษฐวิชย์ ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า คำว่าประหยัด ไม่ได้แปลว่าไม่ใช้เลย แต่ช่วยกันใช้ให้น้อยที่สุด ไม่ใช่แค่บ้านอยู่แล้วสบาย อากาศปลอดโปร่งเท่านั้น แต่เป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย   ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่นวัตกรรม ยังมีบริการหลังการขายแบบครบวงจร ทั้งหมดนี้จับลง Application SENA 360 องศา ที่สามารถเห็นการทำงานของโซล่าเซลล์ได้ตลอดเวลา รวมไปถึงบริการทำความสะอาดแผง ดูกล้อง CCTV ภายในบ้านได้ตลอดเวลา ปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ฯลฯ ครบทุกการอยู่อาศัยใน App เดียว ง่ายดายแค่สัมผัสปลายนิ้ว เป็น Smart Lifestyle แบบกรีนๆ ที่ SENA ให้ความสำคัญมาตลอด         
เสนา ขานรับนโยบายพลังงานสะอาด  หนุนโซลาร์ทุกโครงการ  ช่วยลูกบ้านลดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าเป็นผู้นำพลังงานสะอาด 100%

เสนา ขานรับนโยบายพลังงานสะอาด หนุนโซลาร์ทุกโครงการ ช่วยลูกบ้านลดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าเป็นผู้นำพลังงานสะอาด 100%

เสนา หนุนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีมุ่งลดการใช้พลังงานไฟฟ้า หันมาเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือกในชีวิตประจำวันมากขึ้น เดินหน้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ในทุกโครงการ หวังช่วยลูกค้าบริหารค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยนวัตกรรม “โซลาร์ สเกล อัพ” สามารถคำนวณค่าไฟได้ก่อน รองรับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกและไลฟ์สไตล์คนไทย ที่เริ่มหันมาใส่ใจพลังงานสะอาด ลดภาวะโลกร้อน พร้อมตอกย้ำตั้งเป้าเป็นผู้นำพลังงานสะอาด 100%   ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้ดำเนินโครงการหมู่บ้านใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) เต็มรูปแบบรายแรกของไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายที่รัฐบาลส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และไลฟ์ไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเทรนด์ การผลิตรถยนต์ในอนาคต ทำให้คาดการณ์ว่า ความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ในระยะ 5 ปีข้างหน้า จะมีแนวโน้มของการขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งตรงกับแผนดำเนินงานของเสนา ในเรื่องการหันมาให้ความสำคัญของการประหยัดพลังงาน เป็นนโยบายหลักที่จะทำให้ “บ้านทุกหลัง” ของเสนา ใช้พลังงานสะอาดโดยใช้ “โซลาร์เซลล์” ซึ่งในปัจจุบัน เสนา ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และ เครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า (EV Charger ) ภายใต้ชื่อ EV ready รองรับยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งแบบไฮบริด และ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าชนิดแบตเตอรี่ (BEV) ให้กับลูกค้า โดยตั้งเป้าจะติดตั้งให้ได้ทุกโครงการ     ทั้งนี้ การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนดังกล่าวเป็นไปตามทิศทางของโลกที่ให้ความสำคัญต่อพลังงานสีเขียว พึ่งพาพลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เทรนด์การใช้ชีวิตที่จะเกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด ได้รับการตอบรับจากทุกภาคธุรกิจ ที่จะเข้ามานำเสนอนวัตกรรมรองรับรูปแบบการใช้พลังงานสะอาดที่เปลี่ยนแปลงไป สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจแนว Go Green ของเสนา นอกจากการติดตั้งแผง Solar Cell เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน(โซลาร์รูฟท็อป) แล้ว ยังนำนวัตกรรม “โซลาร์ สเกล อัพ (Solar Scale Up)” ที่ช่วยให้ลูกบ้านสามารถปรับ-เพิ่มจำนวนแผง Solar Cell ได้ตามลักษณะการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อีกทั้งยังสามารถเลือกช่วงเวลาของการใช้ไฟฟ้า ได้ตามพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยประหยัดค่าไฟ และตอบโจทย์พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย เพื่อให้ลูกบ้านสามารถบริหารค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น   จากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ในปัจจุบันกระแสไฟฟ้ายังคงเป็นทางเลือกหลักที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ โดยมีอัตราการใช้งานสูงถึง 42% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเป็น 47% ในปี 2578 เนื่องจากปัจจัยการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของประชากร การปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น ทำให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวันมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่างๆของมนุษย์ นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มหันมาสนใจใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเดิม ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้สัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้น     “เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ทำให้เสนาโซลาร์ วางเป้าหมายการเติบโตในแต่ละปี เฉลี่ย 5-10 % โดยในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 480 ล้านบาท และในปี 2562 คาดว่าจะมีรายได้ 500 ล้านบาท และในปี 2563 คาดว่าจะมีรายได้ 520 ล้านบาท” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว     สำหรับโครงการที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charger Station) ภายในโครงการของเสนา ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม เพื่อบริการให้กับลูกบ้าน ได้แก่ เสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา, เสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา – วงแหวน, เสนาวิลล์ ศาลายา, เสนาอเวนิว บางกะดี – ติวานนท์ ,เสนาช็อปเฮ้าส์ พหลโยธิน – คูคต, เสนาช็อปเฮ้าส์ลำลูกกา – คลองสอง, เสนาช็อปเฮ้าส์ บางแค – เทอดไท และคอนโดมิเนียม ได้แก่ นิช โมโน สุขุมวิท 50, นิช โมโน พีค บางนา, และมีเป้าหมายที่จะขยายให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมการบริการมากขึ้น สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 1775 หรือ sena.co.th
เจาะคอนเซ็ปต์ 24 HR.HEALTHY LIFESTYLE  คอนโดที่ๆ ทำให้หัวใจเต้นครบทุกจังหวะ

เจาะคอนเซ็ปต์ 24 HR.HEALTHY LIFESTYLE คอนโดที่ๆ ทำให้หัวใจเต้นครบทุกจังหวะ

การมองหาที่อยู่อาศัยสักแห่ง รายละเอียดในความต้องการของชีวิตนั้นมีมากเกิน เพราะไม่ใช่แค่มีเพียงทำเลดี เดินทางสะดวก facilities มากมายที่ถูกนำมาพัฒนาเพื่อสร้างจุดขาย หรือแม้แต่ราคาที่สร้างแรงโน้มถ่วงการตัดสินใจซื้อ ทั้งหมดกลายเป็นสูตรทางการตลาดที่ตายตัว แต่วันนี้ดีเทลความต้องการของชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ด้วยเหตุผลของการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์นี่เอง ทำให้ทางบริษัทเสนา ฮันคิว หยิบยกเทรนด์ของการออกกำลังกายขึ้นมาสื่อสารผ่านคอนโดมิเนียมใหม่ ภายใต้แบรนด์ “นิช โมโน รามคำแหง” (Niche MONO ramkhamhaeng) เอาใจสายเฮลตี้ Fit & Fun & Firm ที่รักในสุขภาพ      ดร.ยุ้ย - ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่า จากความใส่ใจและการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมารักสุขภาพและออกกำลังกายมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ในขณะเดียวคนกลุ่มดังกล่าวจะมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวที่สุด ยิ่งสิ่งอำนวยความสะดวกในการออกกำลังกายที่สามารถรองรับทุกคนทุกวัยได้ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส โยคะ หรือการออกวิ่งจ๊อกกิ้ง เป็นต้น  ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ทางเสนาฯ ได้เห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ และนำแนวคิดดังกล่าว มาพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด “นิช โมโน รามคำแหง (Niche MONO RAMKHAMHAENG)” ซึ่งเป็นโครงการแนวสปอร์ตแห่งแรกของบริษัทที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ เทรนด์การใช้ชีวิตทุกด้านทั้งเรื่องงานและการพักผ่อน โดยเฉพาะคนรักสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ     กับแนวคิด “24 HR.HEALTHY LIFESTYLE” ที่ถูกนำมาตีความขยายทุกดีเทลความต้องการของคนที่รักในสุขภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดก็ตามนั้น เรามองว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ ไม่ว่าจะช่วยควบคุมน้ำหนัก สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ลดความเครียด ทำให้มีสมาธิ และทำให้กระฉับกระเฉงขึ้น จึงเป็นที่มาของคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ 24 HR. HEALTHY LIFESTYLE ตอบโจทย์สาย Fit & Fun & Firm ที่หลงใหลการออกกำลังกายได้สนุกกับการใช้ชีวิตเติมเต็มทุกกิจกรรมตลอด 24 ชม.พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 6.5 ไร่ ต่อเนื่องทั้งโครงการพร้อม Jogging Track สามารถสัมผัสวิวเมือง 270 องศา พร้อม Cool down ไปกับ Sky Lounge บนชั้น Rooftop   มีการแบ่งตามโซนเพื่อการออกกำลังกายตามการเต้นของหัวใจ Heart Rate Zone กว่า 10,500 ตรม.ใหญ่ที่สุดในย่านรามคำแหง ซึ่งลูกบ้านสามารถเลือกมุมที่เหมาะกับตัวเองได้ว่าต้องการออกกำลังและเผาผลาญพลังงานมากน้อยแค่ไหน ทั้งลู่วิ่งมาตรฐานรอบคอนโด สระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก สระว่ายน้ำวนแบบนักกีฬาครบครันเพื่อให้ตอบโจทย์สายรักสุขภาพแบบสุด ๆ  สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมแนวสปอร์ต ตอบโจทย์การออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านมุมมองและแนวคิด “24 HR. HEALTHY LIFESTYLE” ปลดล็อคการออกกำลังกายที่ไม่ได้ถูกจำกัดแค่เวลาหรือแค่ที่อยู่อาศัยแต่คือที่สุดของการออกกำลังกาย กับโครงการ “นิช โมโน รามคำแหง (Niche MONO RAMKHAMHAENG)” คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม สถานีหัวหมาก 0 เมตรราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท* เตรียมพบ lifestyle รูปแบบใหม่ที่ ๆ ทำให้หัวใจเต้นครบทุกจังหวะ ครั้งแรกได้ในวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ ภายในงานรับข้อเสนอพิเศษสุดมากมาย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1775 # 69
SENA โตสนั่นกำไรครึ่งปีแรกพุ่ง 146.6%  อัดโปรเจกต์พรีเมี่ยมดันยอดขายโตตามเป้า

SENA โตสนั่นกำไรครึ่งปีแรกพุ่ง 146.6% อัดโปรเจกต์พรีเมี่ยมดันยอดขายโตตามเป้า

  SENA กางผลงานครึ่งปีแรก 2561 กำไรสะพรั่ง 389.8 ล้านบาท โต 146.6 %ฟันยอดขาย 6 เดือน 4,296 ล้านบาท มั่นใจดีมานด์ตลาดอสังหาฯระดับกลางถึงไฮเอนด์ตอบรับดี เผยครึ่งปีหลังจ่อเปิดโครงการใหม่สินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมพรีเมี่ยมและบ้านเดี่ยว ปั้นยอดขายและยอดรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แน่นอน   นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดเผยถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้นจากปัจจัยบวก อาทิ กำลังซื้อในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีอยู่มากโดยเฉพาะตลาดระดับกลางบนถึงไฮเอนด์ ซึ่งยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมจะเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึงกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่ของสินค้าระดับกลางบนได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/2561 บริษัทมีรายได้รวม 1,734 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 551.3 ล้านบาท คิดเป็น 46.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,182.7 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 225.2 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 137.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 157.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 สำหรับรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2/2561 อยู่ที่ 1,596.9 ล้านบาท โตเพิ่ม 524.6 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 48.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้ 1,072.3 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ทำให้ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทในครึ่งปีแรกนี้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง     โดยผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2561 นั้น ทางเสนามีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ โดยสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ แนวสูง และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 2,822.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่ากับ 1,151.9 ล้านบาท คิดเป็น 69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้รวม 1,670.5 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิโตขึ้น 146.6% หรือ 389.8 ล้านบาท คิดเป็น 13.8% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 231.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีกำไรสุทธิ158.1 ล้านบาท ส่วนยอดขายในช่วง 6 เดือนแรก (ณ. วันที่ 30 มิถุนายน 2561) บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 4,296 ล้านบาท ซึ่งถ้าหากบริษัทฯ ยังคงรักษาระดับการขายในปัจจุบันได้เชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้   ทั้งนี้ ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ รวมทั้งสิ้น 2,493.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,051.7 ล้านบาท คิดเป็น 72.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1,441.7 ล้านบาท ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมและโครงการบ้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย โครงการ นิช ไอดี บางแค เฟส 2 ,โครงการ นิช ไอดี พระราม 2 เฟส 2 ,โครงการ นิช ไอดี สุขุมวิท 113 ,โครงการ นิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี ,โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท 50 ,โครงการ เดอะ คิทท์ ไลท์ บางกะดี และ โครงการ เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบมาอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ได้แก่ โครงการเสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา ,โครงการ เสนา พาร์ค วิลล์ วงแหวนฯ – รามอินทรา ,โครงการ เสนา วิลล์ บรมราชชนนี สาย 5 และโครงการ เสนา ทาวน์ รามอินทรา เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจการให้เช่าและบริการในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 278.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปี 2560 ซึ่งมีรายได้จากค่าเช่าและบริการ 154.7 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 8.4 ล้านบาท ลดลง 31.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อนที่มีรายได้ อยู่ที่ 40.3 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน(Backlog) ณ. สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 มูลค่า 7,133.89 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน 2 โครงการประกอบด้วย นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ และ นิช โมโน สุขุมวิท– แบริ่ง)   อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2561 คณะกรรมการบริษัทฯจึงมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.109757 บาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่12 กันยายน 2561 ทั้งนี้ สรุปแผนธุรกิจในปี 2561 ทางบริษัทเสนาฯ พร้อมเดินหน้ามุ่งมั่นสู่“Growth Hormone2018” โดยตั้งเป้ายอดขาย 10,300 ล้านบาท และเป้ารายได้ 6,200 ล้านบาท เติบโต 20 % จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากการเปิดตัวโครงใหม่ทั้งสิ้น 17 โครงการ รวมเป็นมูลค่า 23,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกเปิด 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,527 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 12 โครงการทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงบททำเลศักยภาพ รวมมูลค่า 16,000 – 17,000 ล้านบาท
เปิดตัวคอนโดใหม่ย่านแบริ่ง นิช โมโน สุขุทวิท-แบริ่ง ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยจัด Presale 30 กันยา 1 ตุลานี้พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน

เปิดตัวคอนโดใหม่ย่านแบริ่ง นิช โมโน สุขุทวิท-แบริ่ง ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยจัด Presale 30 กันยา 1 ตุลานี้พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน

เตรียมพบกับโครงการคอนโด High Rise ใหม่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง บนทำเลถนนสุขุมวิทตอนปลาย โดยทางบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มหาชน ร่วมมือกับบริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด จัดงาน Pre-Sale คอนโดแนวคิดใหม่ที่นำ GEO Fit+ นวัตกรรมจากญี่ปุ่นมาออกแบบฟังก์ชั่นห้องชุดในโครงการ และ SENA Solar Station ซึ่งช่วยลดค่าส่วนกลางด้วย Solar Cell ผลิตกระแสไฟฟ้า  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยและคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ยังเอาใจคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพให้ได้ชาร์จพลังชีวิตจากความวุ่นวายในเมือง ภายใต้คอนเซ็ป”Life Charger” ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ 250 ตร.ม., สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ระบบเกลือ ความยาว 88 เมตร, Jogging Track, Boxing Room, Yoga Room และ Co-Working Space ที่มองเห็นวิวเมือง 270 องศาแบบ Panorama สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบข้อมูลและเข้าชมห้องตัวอย่างได้ที่ Sale Gallary พบโปรโมชั่นพิเศษ รับส่วนลดทันที 50,000 บาท และลุ้นจับรางวัลห้องราคาพิเศษ เฉพาะภายในงาน Pre-Sale 30 กันยา ถึง 1 ตุลานี้
Niche Mono Sukhumvit-Bearing : นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง : รีวิวคอนโด

Niche Mono Sukhumvit-Bearing : นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง : รีวิวคอนโด

Niche Mono Sukhumvit-Bearing (นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง) คอนโดแนวคิดใหม่กับการสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ที่ร่วมทุนกันระหว่าง "SENA" กับ "Hankyu Realty" ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ NICHE MONO พร้อมเปิดตัวคอนเซปต์ "Geo fit+" รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,300,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 34 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    1,275 ยูนิต พื้นที่โครงการ    4-3-59.8 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนสุขุมวิท 70 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง ทางด่วน บางนา - ตราด ทางด่วน บางพลี สุขสวัสดิ์ อิมพีเรียล สำโรง Mega Bangna Central บางนา เทสโก้โลตัส บิ๊กซี โรงพยาบาลสำโรง โรงพยาบาลไทยนครินทร์ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 2 โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 4 โรงพยาบาลบางนา โรงเรียนนานาชาติแอนด์ดรูว์ส โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา โรงเรียนลาซาล พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 28-31 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 39 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 48 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Infinity Edge Pool 88 M Jacuzzi Sunken Deck Fitness Room 250 Sq.m. Boxing Room Games Room Yoga Room Steam Room Sky Lounge & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง Sky Relaxing Zone Amphitheatre Sky Meeting Room Double Lobby Jogging Track Tom & Toms Coffee 7-11 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 70 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/th/condominium/niche-mono-sukhumvit-Bearing
Niche id @ Pakkrat Station – นิช ไอดี ปากเกร็ด สเตชั่น : รีวิวคอนโด

Niche id @ Pakkrat Station – นิช ไอดี ปากเกร็ด สเตชั่น : รีวิวคอนโด

Niche id @ Pakkret Station คอนโด High Rise 35 ชั้น ฟังก์ชั่นครบทุกการใช้สอย เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเดินทางสะดวกบนทำเลที่คุ้นเคย ใกล้สถานีรถไฟฟ้าปากเกร็ด รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,2oo,000 บาท* (ราคาพรีเซล) ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 52,000 บาท/ตร.ม. เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ลักษณะคอนโด    High Rise ความสูง 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ   305 ตารางวา จำนวนห้อง     864 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี ห้าแยกปากเกร็ด บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาแจ้งวัฒนะ อาคารจัสมิน ทาวน์เวอร์ อาคารซอฟแวร์ปาร์ค เมืองทองธานี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนา่ด 25.25-34.00 ตร.ม. 2 Bedrooms ขนาด 51.00-56.00 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก Cool Lobby  เพื่อการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นกันเอง Meeting Room  เพื่อการพูดคุยในทุกธุรกิจ Sport Area  สำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้ง รับลมเย็น Chill Pool  สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่มาพร้อมสระเด็ก GYM  เพื่อการออกกำลังกายแบบ Fit & Firm กับเครื่องมาตรฐาน Solar Pavillion  พักผ่อนชาร์จแบตมือถือได้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ Co-Working Space  ให้ไอเดียและการพบปะดีดีเกิดขึ้นที่นี่ Free Wifi Sky Garden  ขยับขึ้นมาพักผ่อนพร้อมชมวิวเมืองแบบเต็มตา Triple Security  กับความปลอดภัย 3 ระดับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 33 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/th/condominium/niche-id-pakkret-station
SENA เปิดโครงการ “Niche id @ Pakkret Station” ภายใต้คอนเซ็ปต์ ขยายทุกพื้นที่..ให้ชีวิตลงตัว พร้อมฟังก์ชั่นครบทุกการใช้สอย วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท

SENA เปิดโครงการ “Niche id @ Pakkret Station” ภายใต้คอนเซ็ปต์ ขยายทุกพื้นที่..ให้ชีวิตลงตัว พร้อมฟังก์ชั่นครบทุกการใช้สอย วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดโครงการ”นิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น” มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท คอนโดมิเนียมพร้อมฟังก์ชั่นครบทุกการใช้สอย วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา บนทำเลที่คุ้นเคยเพียง 600 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าปากเกร็ด ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท พร้อมพรีเซล 1 – 2 กรกฎาคม 2560 นี้  ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทย และในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโครงการใหม่ “นิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น” มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ขยายทุกพื้นที่..ให้ชีวิตลงตัว” เป็นโครงการแรกภายใต้แบรนด์ นิช ไอดี ที่โดดเด่นด้วยวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมการออกแบบฟังก์ชั่นการดีไซน์ห้องที่ลงตัวและคุ้มค่า ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท เปิดพรีเซลล์ในวันที่ 1 – 2 กรกฎาคม 2560 “นิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น” เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise โครงการแรกภายใต้แบรนด์ นิช ไอดี ที่มีความสูงถึง 35 ชั้น 1 อาคาร แบ่งเป็นห้องพัก 857 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต รวมทั้งสิ้น 864 ยูนิต สำหรับทำเลที่ตั้งมีศักยภาพและน่าสนใจเพราะติดถนนติวานนท์ ช่วงแยกปากเกร็ด-ถนนศรีสมาน สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีปากเกร็ดที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตร พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน เช่น เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เมืองทองธานี, ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาแจ้งวัฒนะ, โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี (ตรงข้ามโครงการ) ฯลฯ นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีส่วนกลางอำนวยความสะดวกมากขึ้น เพิ่ม ECO Innovation ด้วยการติดตั้ง Solar Pavillion สำหรับพักผ่อนพร้อมชาร์จแบตมือถือจากพลังงานแสงอาทิตย์ และการดูแลความปลอดภัยถึง 3 ระดับ 1. Keycard Access 2. Lift Access 3. CCTV 24 ชม. “โครงการ นิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น เป็นโครงการที่ SENA เปิดตัวในไตรมาส 3/2560 และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เพราะจุดขายบนทำเลวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และการออกแบบฟังชั่นการดีไซน์ห้องที่ลงตัวและคุ้มค่า สอดคล้องคอนเซ็ปต์“ขยายทุกพื้นที่..ให้ชีวิตลงตัว” ดร.เกษรา กล่าว รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังใส่ใจ ดูแลลูกค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ "หัวคิด และหัวใจ" พร้อมบริการดูแลหลังการขาย  360 องศา เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยองศาแห่งความอุ่นใจ ในบริการแจ้งซ่อมออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดย SENA We Care , องศาแห่งความสุข ดูแลทุกโครงการให้อยู่สบายโดย Victory , องศาแห่งความสบายใจ วันไหนก็ยังมั่นคงด้วยบริการรับฝากขาย – เช่า โดย 360° Living agent  , องศาแห่งความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะติดต่อหรือติดตาม และยังตรวจสอบปริมาณการลดค่าไฟฟ้าจากโซลาร์ ก็สะดวกสบายด้วยแอพพลิเคชั่น SENA 360° SERVICE
SENA ปักธงปี”60 รายได้โต 20% จากปีก่อน ส่งอสังหาฯแนวสูง-แนวราบบุกตลาดฯต่อเนื่อง ไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่า 1.9 – 2.5 พันลบ.

SENA ปักธงปี”60 รายได้โต 20% จากปีก่อน ส่งอสังหาฯแนวสูง-แนวราบบุกตลาดฯต่อเนื่อง ไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่า 1.9 – 2.5 พันลบ.

SENA เร่งเครื่องอัพยอดขายครึ่งปีหลัง ไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่ากว่า1.9 – 2.5 พันล้านบาทผู้บริหารหญิงแกร่ง  “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์”มั่นใจผลงานปีนี้มาตามนัด  รายได้โตเกิน 20% โชว์แบ็คล็อกหนากว่า 3 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 จนถึงปี”61 ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA)ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยและในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/60 มีรายได้รวม 466.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 70.70 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งโครงการแนวราบ และแนวสูงจำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท (ณ 31 มีนาคม 2560) ซึ่งจะเป็นการทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ในไตรมาส 2/60 และต่อเนื่องไปถึงปีหน้า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทฯเตรียมเปิดใหม่ แผนเปิดโครงการใหม่ประมาณ 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาทและในไตรมาส 2/60 เตรียมเปิด 2 -3 โครงการ มูลค่ารวม 1,900-2,500 ล้านบาท “แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจาการการร่วมมือกับพันธมิตรในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงจากธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งในส่วนของโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ โดยในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% เทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 4,059  ล้านบาท” ผศ.ดร.เกษรากล่าว สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ SENA จะเน้นการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ปีนี้เสนา เราทำงานภายใต้ธีม " Eco Innovation" ซึ่งหมายถึง ลบ 2 บวก 1 เพราะ Eco คือการประหยัดพลังงาน และประหยัดเวลา Innovation คือการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสิ่งที่เราทำอยู่แล้วให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อลูกค้า ซึ่งมีที่เสนาทำไปบ้างแล้วคือการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผลโซลาร์ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางและเป็นพลังงานสะอาด การทำแอพพลิเคชั่น SENA 360 SERVICE ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหลังการขายของบริษัทได้โดยง่าย ซึ่งในปี 2560 เรามีแผนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้สูงสุด ให้ลูกค้าประหยัดพลังงาน และประหยัดเวลา รวมทั้งเราจะเพิ่มประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่น ให้มีบริการที่ครบวงจรยิ่งขึ้น เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล
เสนา – ฮันคิว จับมือลุยเปิดคอนโด “นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์” ชูไฮไลท์ปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของวงการ กับ “ส่วนกลาง 30 ชั้น”

เสนา – ฮันคิว จับมือลุยเปิดคอนโด “นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์” ชูไฮไลท์ปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของวงการ กับ “ส่วนกลาง 30 ชั้น”

เสนา – ฮันคิว จับมือลุยเปิดคอนโดใหม่ “นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์” ตอกย้ำความสำเร็จ ชูไฮไลท์ “ส่วนกลาง 30 ชั้น” เขย่าวงการอสังหาฯครั้งแรกในไทย ล่าสุด เตรียมจัด Pre sale 10 มี.ค.นี้ ด้านไนท์แฟรงค์ฯ เผยย่านเตาปูน-บางซื่อ พื้นที่ศักยภาพแห่งใหม่ที่น่าจับตามอง ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่าบริษัท เสนา- ฮันคิว 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SENA กับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น หนึ่งในกลุ่ม บริษัท Hankyu Hanshin Holding Group หลังจากพัฒนาโครงการร่วมกันโปรเจกต์แรก “นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง” เมื่อปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าได้รับกระแสการตอบรับดีมากจากตลาดกลุ่มเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเกิดจากนวัตกรรมจากญี่ปุ่นที่นำมาใช้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Geo fit+” ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นและเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่นำนวัตกรรมดังกล่าวเข้ามาใช้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จ ล่าสุด เตรียมเปิดโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์” ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่เศษ ติดรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับสูง 38 ชั้น 1 อาคาร ทั้งหมด 742 ยูนิต พร้อมอาคารพาณิชย์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร โดยมีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ 1 Bedroom ขนาด 28 -32 ตารางเมตร ,แบบ 1 bedroom plus ขนาด 34.50 ตารางเมตร และ แบบ 2 Bedroom ขนาด 49 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 3.2 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตกตารางเมตรละ 1.3 แสนบาท รวมมูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท ด้านการออกแบบที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ลงตัว ภายใต้แนวคิดการออก “My Select” นวัตกรรมจากญี่ปุ่น ที่เลือกฟังก์ชั่นและปรับเปลี่ยนได้ ไม่ว่าจะเป็น Working Zone สาหรับคนที่ชอบพื้นที่ในการสร้างสรรค์งาน หรือ Relaxing Zone สาหรับคนที่ต้องการพักผ่อนจากความวุ่นวาย และพักอาศัยในห้องชุดเพื่อชาร์จพลัง อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของสาธารณูปโภคในโครงการ และนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาฯกับ “พื้นที่ส่วนกลางกว่า 30 ชั้น” ที่พร้อมให้คุณเลือกกิจกรรมกว่า 7 ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ ทั้ง Active & Passive ไม่ว่าจะเป็น Sky Fitness ห้องออกกำลังกายลอยฟ้าพร้อม Sky Garden ชมสวนสาธารณะพร้อมวิวเมือง, Sky Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือยาวเกือบ 50 เมตร, Sky Lounge, Mini-Theater, Co-Working Space, Kid Club, Yoga Room, Party Room & Recreation Game Room เป็นต้น ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึง ทำเลเตาปูน-บางซื่อ จะถูกพลิกโฉมกลายเป็นสถานีศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปีใน 2563 และเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อ MRT ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางซื่อและรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีเตาปูนในปลายปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นตัวช่วยเพิ่มศักยภาพด้านทำเลที่อยู่อาศัยในบริเวณเตาปูน-บางซื่อเป็นอย่างมาก ผนวกกับแนวคิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน Transit Oriented Development (TOD) ครอบคลุมพื้นที่เชิงพาณิชย์กว่า 300 ไร่ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดินรอบสถานีรถไฟในรูปแบบ Mixed-use Development โดยจะมีรถไฟฟ้าถึง 4 สายที่เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อในอนาคต ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน  นอกจากรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายแล้ว สถานีกลางบางซื่อยังเป็นสถานีต้นทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระยะทาง 670 ก.ม. และกรุงเทพฯ – หนองคาย ระยะทาง 615 ก.ม. อีกทั้งยังมีส่วนต่อขยาย Airport Rail Link 5 สถานีจากสถานีพญาไทเชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากมีการพัฒนาด้านขนส่งคมนาคมแล้วยังมีโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่นำมาซึ่งการพัฒนาโครงการพื้นฐานอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ การขยายช่องทางจราจร และการก่อสร้างถนนเพิ่มเติมในอนาคต และยังมีโครงการศูนย์การค้า “เกตเวย์ บางซื่อ” มูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท มีพื้นที่รองรับร้านค้าปลีกกว่า 40,000 ตารางเมตร ห่างจากสถานีเตาปูนเพียง 650 เมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการในปีนี้ สถานีกลางบางซื่อ (ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ยังจะถูกพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบ (Smart City) ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตัลต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานภาครัฐอื่นๆทีเกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่สนใจเป็นหน่วยงานร่วมสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะต้นแบบ (Smart City) อันจะส่งผลด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านเตาปูน-บางซื่อ นับตั้งแต่ปี 2552 ถึง ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 มีจำนวนอุปทานสะสมทั้งสิ้นประมาณ 30,200 หน่วย มีอัตราการขายสะสม 90% ของจำนวนอุปทานสะสมรวม
SENA สุดเจ๋ง โครงการ the kith plus สุขุมวิท 113 ตอบรับดีเกินคาด ยอดจองพุ่งกว่า 70% คอนโดที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว ฟังก์ชั่นที่ลงตัว ลดค่าไฟด้วยโซลาร์

SENA สุดเจ๋ง โครงการ the kith plus สุขุมวิท 113 ตอบรับดีเกินคาด ยอดจองพุ่งกว่า 70% คอนโดที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว ฟังก์ชั่นที่ลงตัว ลดค่าไฟด้วยโซลาร์

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ( SENA ) อวดโครงการ” เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113” กระแสตอบรับดีเกินคาด …..  ยอดจองพุ่งกว่า 70%   “คอนโดฯ แรกในไทย….ที่ช่วยลดค่าไฟด้วยโซลาร์ “ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สำโรง ติดตั้งแผงโซลาร์ “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” เดินหน้าผุดโครงการช่วงที่เหลือต่อเนื่อง - คอนเฟิร์มผลงานปีนี้เจ๋ง!!! ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า โครงการใหม่ “เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 “มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดี จากการเปิดขายในช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 70%  และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในเร็วๆ นี้ พร้อมเตรียมเปิดเฟส 2 ต่อเนื่องเพื่อตอบรับกระแสความต้องการของตลาดในย่านนี้ ทั้งนี้โครงการ “เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113  เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีจุดเด่น ทั้งการเดินทางที่สะดวก เพียง 400 เมตร ถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว  และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายเหลือง การออกแบบเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบพิเศษเฉพาะโครงการ รวมทั้งเป็นโครงการที่นำพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์มาใช้ โดยการติดตั้งโซลาร์เซลล์ประหยัดไฟฟ้าส่วนกลาง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังเพิ่มพื้นที่นั่งเล่น ใกล้ชิดธรรมชาติ ติดห้องพักอาศัย ด้วยสวนลอยฟ้า ขนาดใหญ่ กว่า 200 ตรม. ถือเป็นการตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว สำหรับห้องที่มีขนาด 28 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท “โครงการ “เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113” ได้รับการตอบรับที่ดีมาก หลักๆ ก็มาจากทำเลที่สะดวกเพียง 400 เมตร ถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว แถมยังมีฟังก์ชั่นที่ลงตัว โดยเฉพาะแผงโซลาร์ ที่ช่วยลดค่าไฟ อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ให้เฟอร์ฯครบ ในราคาสบายๆ  ซึ่งถือว่าเป็นการตอบโจทย์ได้ดี แบบลงตัว  ภายใต้ราคาที่คุ้มค่าสามารถจับต้องได้ “ผศ.ดร.เกษรา กล่าว ผศ.ดร.เกษรา  กล่าวต่อว่า บริษัททยอยเปิดโครงการใหม่ที่เหลือครบ ภายในปีนี้ตามแผนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานโครงการใหม่ในปี 2559 มีจำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,670 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 1,980 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,690 ล้านบาท นั้น ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทได้เปิดแล้ว 2 โครงการ คือโครงการ SENA Ville บรมราชชนนี – สาย  5  มูลค่าโครงการ 880 ล้านบาท และโครงการ SENA Park Ville รามอินทรา-วงแหวน เฟส 1 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท พร้อมเปิดอีก 5 โครงการอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เปิด The Kith Plus สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ  550  ล้านบาท , เดือนกันยายนเปิด The Niche Mono บางนา เฟส 3 มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท  The Niche ID พระราม 2 เฟส 2 มูลค่าโครงการ 540 ล้านบาท และบริษัทจะทยอยเปิดโครงการที่เหลืออีก 2 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย  The Kith Lite บางกะดี เฟส 2 มูลค่าโครงการ 310 ล้านบาท และ  The Niche Mono สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 1,130 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559  ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวม 3,500 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก มียอดโอนเข้ามาแล้วกว่า 2,500 ล้านบาท และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 59 อีกกว่า 2,400 ล้านบาท  ซึ่งจะเป็นยอดที่รอรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังประมาณ 1,000 ล้านบาท  อีกทั้งบริษัทฯมีแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังเพื่อสะสมยอดขายรอโอนสำหรับปี 2560 ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงให้ความใส่ใจ ดูแลลูกค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ “หัวคิด และหัวใจ” พร้อมบริการดูแลหลังการขาย  360 องศา เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วย องศาแห่งความอุ่นใจ ในบริการแจ้งซ่อมออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. โดย SENA We Care , องศาแห่งความสุข ดูแลทุกโครงการให้อยู่สบายโดย Victory , องศาแห่งความสบายใจ วันไหนก็ยังมั่นคงด้วยบริการรับฝากขาย – เช่า โดย Living agent  , องศาแห่งความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะติดต่อหรือติดตาม และยังตรวจสอบปริมาณการลดค่าไฟฟ้าจากโซลาร์ ก็สะดวกสบายด้วยแอพพลิเคชั่น SENA 360° SERVICE
The Niche Mono Peak Bangna : รีวิวคอนโด

The Niche Mono Peak Bangna : รีวิวคอนโด

The Niche Mono Peak Bangna (เดอะ นิช โมโน พีค บางนา) คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.3 ให้ตวามเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อย ทั้งโครงการเพียง 42 ยูนิต พร้อมที่จอดรถที่มากถึง 200% และนวัตกรรม Solar Cell ที่นำพลังงานจากแสงอาทิตย์ มาผลิตไฟส่องสว่างส่วนกลางฟรี 24 ชม. โครงการใหม่จาก SENA Development ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่ www.sena.co.th รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 70,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    42 ยูนิต ( 7 ยูนิต/ชั้น) ที่จอดรถ     200% พร้อมโฉนดที่จอดรถ 1 คัน/ห้อง พื้นที่โครงการ    1 - 3 - 14 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนบางนา-ตราด (ก.ม.3 ฝั่งขาเข้า) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2560 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา บิ๊กซี บางนา โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ไบเทค บางนา BTS สถานีบางนา โรงพยาบาลปิยะมินทร์ เมกา บางนา อิเกีย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท 2 Bedroom ขนาด 62 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาท สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก Jogging Track พื้นที่สังสรรค์ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น Lobby แผงพลังงานแสงอาทิตย์ กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 28 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/th/condominium/thenichemono-bangna
SENA ครบเครื่อง “ธุรกิจอสังหาฯ-โซลาร์รูฟ” ผลงานครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง! ลุยเปิดโครงการใหม่ตามแผน ทุ่มงบกว่าครึ่ง 100 ลบ. ปั้นแบรนด์ ภายใต้กลยุทธ์ “หัวคิดและหัวใจ”

SENA ครบเครื่อง “ธุรกิจอสังหาฯ-โซลาร์รูฟ” ผลงานครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง! ลุยเปิดโครงการใหม่ตามแผน ทุ่มงบกว่าครึ่ง 100 ลบ. ปั้นแบรนด์ ภายใต้กลยุทธ์ “หัวคิดและหัวใจ”

SENA ครบเครื่อง “ธุรกิจอสังหาฯ-โซลาร์รูฟ” ผลงานครึ่งปีหลังสุดเจ๋ง! เติบโตต่อเนื่อง ลุยเปิดโครงการใหม่ตามแผน  ลุ้นปี”59 รายได้-กำไร ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทุ่มงบกว่าครึ่ง 100 ลบ. ปั้นแบรนด์ ภายใต้กลยุทธ์ "หัวคิดและหัวใจ" “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” ผู้บริหารหญิงแกร่งแห่งค่าย SENA ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจครบเครื่องอสังหาริมทรัพย์ และรายแรกของไทยที่ทำโครงการหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ ประเมินแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี”59 เติบโตต่อเนื่อง เหตุปริมาณ Backlog เต็มมือ ควบคู่กับการผุดโครงการใหม่ตามแผน!!! รวมทั้งปี 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,570 ล้านบาท มั่นใจยอดโอนปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 3,500 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท  โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เผยปัจจุบันมี Backlog ในมือกว่า 2,400 ล้านบาท (ณ 30 มิ.ย.59 )  พร้อมเตรียมทุ่มงบกว่าครึ่ง 100 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ให้ติดอยู่ในใจของลูกค้า ภายใต้กลยุทธ์ “หัวคิดและหัวใจ”  ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของ SENA ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และด้านโซลาร์รูฟ ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะเห็นภาพของการเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก และมั่นใจว่ายอดโอนในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3,500 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการที่เปิดใหม่ ซึ่งในนั้นจะเป็นโครงการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟบนหลังคาบ้าน โดยปัจจุบันมี Backlog กว่า 2,400 ล้านบาท (ณ 30 มิ.ย.59 )  ซึ่งจะรับรู้ 1,000 ล้านบาท ในปีนี้ “แนวโน้มรายได้และกำไรในปีนี้ มีโอกาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงทำให้เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และเราก็ยังมีรายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่รับรู้รายได้เต็มปีอีกด้วย” ผศ.ดร.เกษรากล่าว สำหรับโครงการที่จะเปิดในช่วงที่เหลือของปีนี้  ได้แก่ โครงการ เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 ซึ่งเปิด Pre-sales ไปแล้วเมื่อวันที่  30 – 31 ก.ค. ที่ผ่านมา และได้นับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า , The Kith Lite บางกระดี เฟส 2 , The Niche Mono สุขุมวิท 50  , The Niche ID พระราม 2 เฟส 2 และโครงการ The Niche Mono บางนา  เฟส 3" ฯลฯ จากทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 4,570 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ได้มีการเปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ ในปี 2559 “หัวคิดและหัวใจ” โดยได้เตรียมเงินกว่าครึ่ง 100 ล้านบาท ในการสร้างการรับรู้ และตอกย้ำแบรนด์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ภายใต้คอนเซ็ปต์  “หัวคิดและหัวใจ” เพื่อพิชิตใจลูกค้า โดยคำว่า “หัวคิด”  มาจากการที่บริษัทฯ ใช้หัวคิดในการนึกถึงความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้งหรือศูนย์กลาง และในส่วน “หัวใจ” คือการแสดงออกในการบริการลูกค้าด้วยใจของพนักงาน ตามปรัชญาองค์กรที่ว่า “ความไว้วางใจจากลูกค้า คือความภูมิใจของเรา”  
The Niche id พระราม 2 เฟส 2 : รีวิวคอนโด

The Niche id พระราม 2 เฟส 2 : รีวิวคอนโด

The Niche id พระราม 2 เฟส 2 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร เปิดเฟสใหม่ ตั้งอยู่ถนนพระราม 2 ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก จาก SENA Development ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่ www.sena.co.th รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,490,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 54,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง    322 ยูนิต (อาคาร D จำนวน 189 ห้อง / อาคาร E จำนวน 133 ห้อง) ที่จอดรถ    121 คัน  คิดเป็น 37.58%  (ไม่รวมซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    2 - 3 - 83.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนพระราม2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนกรกฎาคม ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกรกฎาคม ปี 2560 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central Plaza พระราม 2 Big C พระราม 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธรบุรี โรงเรียนบางมดวิทยา โรงเรียนวรรณสว่างจิต โรงเรียนดรุณสิกขาลัย  โรงพยาบาลบางมด โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type A  1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร Type B  1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก ติดตั้งหลังคา Solar roof  ใช้ไฟแสงสว่างส่วนกลาง ฟรี  24 ชั่วโมง Main Lobby ขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ  ขนาด 7x12.5 เมตร (ไม่รวมสระเด็ก) สระเด็ก ห้องออกกำลังกาย สวน และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ริมน้ำ Shuttle Service พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. CCTV Keycard สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 23 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/form/theniche-id-rama2-phase2
SENA รุกธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มเหนี่ยว เปิดตัวบริษัทน้องใหม่ SENA SOLAR ENERGY จ่อรับรายได้โซลาร์กว่า 50 MW ในเดือนม.ค.59 เปิดแผน 3 ปี คว้างานติดตั้งแผงโซลาร์ ขนาดรวม 100 MW

SENA รุกธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มเหนี่ยว เปิดตัวบริษัทน้องใหม่ SENA SOLAR ENERGY จ่อรับรายได้โซลาร์กว่า 50 MW ในเดือนม.ค.59 เปิดแผน 3 ปี คว้างานติดตั้งแผงโซลาร์ ขนาดรวม 100 MW

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ผู้นำอสังหาฯชั้นแนวหน้าของเมืองไทย เปิดตัวบริษัทน้องใหม่ “SENA SOLAR ENERGY” พร้อมทีมผู้บริหาร “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” เผยเตรียมรุกธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์เต็มเหนี่ยว จ่อรับรู้รายได้โซลาร์กว่า 50 MW ในเดือนม.ค.59 นี้ พร้อมลุยต่อ โซลาร์ฟาร์ม โซลาร์ รูฟ และอยู่ระหว่างเสนอราคารับงานติดตั้งโซลาร์ให้หน่วยงานราชการ เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี ติดตั้งแผงโซลาร์ ขนาดกำลังการผลิตรวม 100 MW ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย แถลงข่าวเปิดตัวผู้บริหารบริษัท SENA SOLAR ENERGY และทิศทางธุรกิจพลังงานทดแทนของบริษัทในอนาคตว่า หลังจากที่บริษัทได้รุกเข้าธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ โดยก่อนหน้านี้ได้ขยายการลงทุนและเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านการร่วมลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์ม ร่วมกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงาน และร่วมกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่าง First Solar ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ที่โครงการบ้านและโฮมออฟฟิศ เพื่อให้ลูกค้ามีรายได้จากการขายไฟให้รัฐ หรือใช้ไฟฟรีนาน 25 ปี  นับว่าเป็นการแสดงถึงการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ของ SENA ตามกลยุทธ์ “ไฟนีออน” ที่จะส่องสว่างชัดเจนในด้านการเปิดตัวธุรกิจรูปแบบใหม่ เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัท แสดงให้เห็นถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่รุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์อย่างชัดเจน “ในวันนี้ ทาง SENA ก็ได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในบริษัท เอท โซลาร์ จำกัด (Eight Solar)หรือ WE Solar เดิม โดยมีผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมติดตั้งโซลาร์รูฟ โดยมีคุณสุเมธ บุญบรรดารสุข ผู้บริหาร บริษัท วัฒนสุข เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท เพื่อดำเนินงานด้านการติดตั้งและวางระบบ (EPC) โซลาร์รูฟท็อปมายาวนาน เข้ามาเสริมทัพเพื่อให้ บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งนับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้การดำเนินงานด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของ SENA SOLAR ENERGY ครบวงจร” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว MR.José Luis Martín , Advisor to CEO, SENA SOLAR ENERGY กล่าวว่า ในฐานะที่มีประสบการณ์ยาวนานในการดำเนินงานเกี่ยวกับพลังงานทดแทน โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการบริหารงานที่ SENA SOLAR ENERGY ซึ่งในอนาคต มั่นใจว่า SENA จะกลายเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ที่เป็นเจ้าตลาดพลังงานทดแทนได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากมีเสนาฯ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำธุรกิจด้านพลังงานทดแทนโดยได้มีการวางแผนงานตลอดจนโครงสร้างไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องการรับซื้อกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเอกชนในระยะยาวถึง 25 ปี ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นว่าภาครัฐต้องการให้มีการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจังด้วย นายสุเมธ บุญบรรดารสุข ผู้ก่อตั้ง บริษัท เอท โซลาร์ จำกัด (EIGHT SOLAR) กล่าวว่า “มั่นใจว่าความร่วมมือกับเสนาฯในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยเหตุผลสำคัญที่ร่วมมือกับเสนาฯ เพราะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโดยคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ทั้งยังมีคณะผู้บริหารที่มีความพร้อมด้านประสบการณ์ ความรู้ และความสามารถ ตลอดจนเจตนารมณ์ในการทำธุรกิจด้านพลังงานทดแทนอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ทางเสนาฯ ก็มีความจริงจังที่จะดำเนินงานในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีโครงการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 50 เมกะวัตต์ที่พร้อมจะจ่ายไฟในต้นปีหน้า” ในส่วนของ Eight Solar เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เอ็น.ซี.อาร์ รับเบอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 55 ปี และ Eight Solar ถือเป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการติดตั้งและวางระบบวิศวกรรม (EPC) โซลาร์รูฟท็อป ซึ่งได้รับอนุญาตจากการพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) โดยที่ผ่านมามีการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขนาดกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาให้กับผู้ใช้ตามบ้านพักอาศัยอีกเป็นจำนวนมาก นายสุเมธ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทาง Eight Solar ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่าย Inverter ของ ABB อย่างเป็นทางการเจ้าแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็น Inverter ที่ผลิตในยุโรป ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และเป็นตัวแทนจำหน่ายแผงโซลาร์และอุปกรณ์เกี่ยวกับการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ยักษ์ใหญ่ 1 ใน 3 ของโลก อย่างบริษัท  First Solar  ด้วย ซึ่งความพร้อมของทีมงานมืออาชีพ และพันธมิตรชั้นนำจะช่วยเสริมให้การดำเนินธุรกิจพลังงานในครั้งนี้ ดำเนินไปอย่างแข็งแกร่ง และเติบโต” นายสุธรรม โอฬารกิจอนันต์ ประธานฝ่ายการเงิน ของ SENA SOLAR ENERGY กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท “ทางบริษัทเริ่มต้นดำเนินธุรกิจด้าน Solar Business โดยต้นเดือนมกราคม 2559 จะเริ่มรับรู้รายได้ จาก Solar Farm และ Solar Roof ที่กำลังผลิตกว่า 50 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายกำลังผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ ภายใน 3 ปี จากการเป็นผู้สนับสนุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร และ การติดตั้งให้กับลูกค้าทั่วไปทั้งที่เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของโครงการ รวมถึงเจ้าของธุรกิจบางประเภทที่ต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟในโครงการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้สม่ำเสมอ รวมถึงเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายจากใบเรียกเก็บเงินค่าไฟฟ้า  เนื่องจากลูกค้าสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อมาใช้เองได้  รวมถึงได้รับค่าบริการสำหรับการควบคุมดูแลและบำรุงรักษาหลังการติดตั้ง (O&M) ” ทั้งนี้ ถือเป็นความสมบูรณ์พร้อมด้าน Solar Business ของบริษัทฯ เพราะเราดำเนินงานทั้งในรูปแบบ Solar Farm และ Solar Rooftop ตั้งแต่กระบวนการติดตั้ง ตลอดจนการบริการหลังการขาย ส่งผลให้บริษัทสามารถให้บริการที่ครบวงจรสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ ในด้านงานปฏิบัติการและบำรุง (O&M - Operation and Maintenance) ทางผู้บริหารมั่นใจว่า จากประสบการณ์ของทีมผู้บริหารตลอดจนทีมงาน O&M จาก Eight Solar จะสามารถสร้างความต่อเนื่องและสมบูรณ์ของงานให้สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน
The Niche Pride คอนโดฯสุดหรู Pre-Sales 2 วัน ยอดขายทะลัก 800 ลบ. SENA เตรียมปรับราคาขึ้นในเดือน ก.ย.อีก 5% สอดคล้องราคาตลาดในทำเลเพชรบุรี-รัชดาที่พุ่งพรวด 28%

The Niche Pride คอนโดฯสุดหรู Pre-Sales 2 วัน ยอดขายทะลัก 800 ลบ. SENA เตรียมปรับราคาขึ้นในเดือน ก.ย.อีก 5% สอดคล้องราคาตลาดในทำเลเพชรบุรี-รัชดาที่พุ่งพรวด 28%

บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) และบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ปลื้มกระแสตอบรับโครงการคอนฯ สุดหรู  "The Niche Pride" ที่ตั้งตระหง่านบนถนนเพชรบุรี ใกล้ถนน "ทองหล่อ-เพชรบุรี-พระราม 9" เปิด Pre-Sale แค่ 2 วัน ยอดขายทะลุเป้ากว่า  800 ล้านบาท เตรียมปรับราคาขึ้นอีก 5% ภายในเดือนกันยายนนี้ สอดคล้องราคาคอนโดฯในทำเลเพชรบุรี-รัชดาที่พุ่งพรวด 28% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์  กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA)   เปิดเผยว่า โครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู ใจกลางเมือง "เดอะนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี" ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่   3 ไร่เศษ ท่ามกลางบรรยากาศที่มีความสงบและเป็นส่วนตัว โดยมีเพียง 1 อาคาร 33 ชั้น จำนวน 667 ยูนิตเท่านั้น ขนาดห้องเริ่มต้น 1 ห้องนอน  30 ตร.ม. ราคาเริ่มเพียง 2.59 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,230 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เปิด Pre-Sales ในวันเสาร์ที่ 8 และวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมโดยมียอดจองกว่า 800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของจำนวนโครงการ และบริษัทเตรียมปรับราคาขายขึ้นอีก 5% ภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับราคาในตลาด ทั้งนี้ โครงการ "เดอะนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี"  มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ตัวอาคารตั้งบนถนนเพชรบุรี เชื่อมทุกความสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้ถนนทองหล่อ ถนนอโศก และถนนพระราม 9 เชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ สิ่งอำนายความสะดวกแบบครบครัน ทั้งร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ภายในโครงการ และรายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำ สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกันยังมีความโดดเด่นเรื่องของการออกแบบดีไซน์ตัวอาคารที่นำความงดงามจากธรรมชาติมาผสมผสานอย่างลงตัว ภายนอกอาคารออกแบบด้วยลวดลายเปลือกไม้ Cedar Crust เพิ่มมนต์เสน่ห์ให้อารมณ์แห่งการพักผ่อน พร้อมสวนสวยขนาดใหญ่ ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงทุกสัมผัสของการใช้ชีวิตภายในโครงการ อีกทั้งยังดีไซน์ทุกตารางนิ้ว เพื่อรองรับการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ด้วยการคำนึงถึงความคล่องตัวในทุกฟังก์ชั่นของการใช้งาน เต็มตากับวิวเมืองด้วย Unblock View ซึ่งทุกห้องสามารถเปิดรับวิวธรรมชาติและวิวเมืองได้หลากหลายอารมณ์ นอกจากนี้ ยังเพิ่มบรรยากาศที่จะทำให้คุณผ่อนคลายด้วยการโอบล้อมของธรรมชาติรอบตัว เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำยาว 35 เมตร พร้อม Jacuzzi และสระเด็ก ห้องฟิตเนส ซาวน่า Exclusive Lounge และสวนสวยสไตล์ Tropical ขนาดใหญ่ เพื่อการพักผ่อนอย่างลงตัว ขณะที่นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าคอนโดฯ บริเวณถนนเพชรบุรี-รัชดา และย่านสุขุมวิท-พระโขนง ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนอุปทานและราคา โดยคอนโดฯย่านสุขุมวิท-พระโขนง มีราคาเฉลี่ยสูงถึง 226,344 บาทต่อตารางเมตร ในปี 2558 ราคาปรับเพิ่มสูงกว่าปี 2557 ถึง 50% ขณะที่คอนโดฯบริเวณถนนเพชรบุรี-รัชดา มีราคาเฉลี่ยสูงถึง 110,454 บาทต่อตารางเมตรในปี 2558 ราคาปรับเพิ่มสูงกว่าปี 2557 ถึง 28%  ทั้งนี้ บริเวณพื้นที่เพชรบุรี-รัชดา มีจำนวนหน่วยคอนโดฯ ที่เปิดขายโครงการตั้งแต่ปี 2551-ครึ่งปีแรกของปี 2558 รวม 46,363 ยูนิต โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีจำนวนคอนโดฯ เปิดขายใหม่ประมาณ 4,593 ยูนิต
ผู้ถือหุ้น SENA รับข่าวดี 3 เด้ง! ปันผลเป็นเงินสด-รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน-อัพไซด์ราคาหุ้น

ผู้ถือหุ้น SENA รับข่าวดี 3 เด้ง! ปันผลเป็นเงินสด-รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน-อัพไซด์ราคาหุ้น

ผู้ถือหุ้น SENA รับข่าวดี 3 เด้ง! ปันผลเป็นเงินสด-รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน-อัพไซด์ราคาหุ้น ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิกว่า 111 ลบ.สวนกระแสเศรษฐกิจ เดินหน้าเปิดโครงการใหม่อีก 4-5 โครงการตามแผน   ผู้ถือหุ้น SENA เฮรับข่าวดี 3 เด้ง! บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นเงินสดสำหรับงวดผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี"58 ในอัตรา 0.050604 บาท/หุ้น เด้งที่ 2 รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน RO เด้งที่ 3 อนาคตหุ้นมีอัพไซด์ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับราคาในกระดาน พร้อมโชว์ผลงานครึ่งปีแรกของปี"58 กำไรสุทธิ  111 ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจ "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์"ประกาศพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่อีก 4-5 โครงการ ตามแผน มั่นใจการสยายปีกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน หนุนผลงานปี"59 เติบโตก้าวกระโดด ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558) มีรายได้รวม 976.44 ล้านบาท กำไรสุทธิ 111.33 ล้านบาท และคณะกรรมการของบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้ ในอัตรา 0.050604  บาท/หุ้น "การประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดสำหรับงวดผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปีนี้ ถือเป็นการให้โบนัสสำหรับผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ เสนาฯด้วยดีเสมอมา และผู้ถือหุ้นยังได้รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่ขายให้กับ RO ที่เราเตรียมนำเงินที่ได้ไปรุกธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ที่เป็น Recurring Income เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่า เป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจ และทำให้ราคาหุ้นมีอัพไซด์ได้อีกมาก เมื่อเทียบกับราคาในปัจจุบัน"ผศ.ดร.เกษรากล่าว ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 262 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในราคาส่วนลดไม่เกิน 50% ของราคาตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าลงทุนใน TTRE สัดส่วน 99.9995% รุกคืบเข้าสู่ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทน ผ่านการร่วมทุนกับบริษัท บี.กริมเพาเวอร์ จำกัด ในโครงการโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิต 46.5 เมกกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 3,336 ล้านบาทเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงให้บริษัทยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เสี่ยงน้อย และสร้างรายได้สม่ำเสมอในระยะยาว ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีสามารถทำยอดขายอสังหาฯได้แล้วกว่า 2.5-2.6  พันล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะทำได้ 4.5 พันล้านบาท ตามเป้าหมาย โดยในช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะเปิดโครงการแนวราบอีก 4-5 โครงการ มูลค่ารวม 3-4 พันล้านบาท หลังจากเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเดอะนิช ไพร์ด ทองหล่อ-เพชรบุรี มูลค่า 2.23 พันล้านบาทไปแล้ว ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา"ผศ.ดร.เกษรา   กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวอีกว่า ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไว้ที่ระดับ 3 พันล้านบาท  โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่กว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ และตัวแปรที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่กดดันคือ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าบางรายได้รับการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า "ไฟนีออน" เชื่อมั่นว่าจะสามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์ ขณะที่บทวิเคราะห์ บริษัท เอเอสแอล จำกัด ระบุว่า แนวโน้มธุรกิจของ SENA คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นในปี  2559 ทั้งจากธุรกิจอสังหาฯเดิม และพลังงานทดแทน โดยแนะนำให้ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2559 ที่ 4.80 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PER  อิง P/E ที่ 9 เท่า คิดเป็นอัพไซด์สูงถึง 40.4% และคาดการณ์อัตราเงินปันผลปี 2515-2516 ที่ 3.2% และ 4.3% ตามลำดับ  บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" SENA ราคาเป้าหมายที่ 4.94 บาท/หุ้น เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจโซล่าร์ที่จะเข้ามาในปีหน้า และ Backlog คอนโดฯที่มีมาก รวมถึงการขายโครงการเดิมที่น่าจะสดใสขึ้น ทำให้เราคาดว่า SENA จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่กำไรโตโดดเด่นมากในปีหน้าถึง +50% YoY                  บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การก้าวสู่ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับรายได้และกำไรจะเห็นผลเต็มปีในปี 2559 และหนุนให้กำไรในปี 2559 กลับมาเติบโตสูง 38% yoy โดยราคายังมี upside 35% เทียบกับ FV ปี 2559 ที่ 4.80 บาท จึงแนะนำให้ "ซื้อ"
คอนโด THE KITH ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

คอนโด THE KITH ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: THE KITH ติวานนท์ (PREVIEW) ราคา เริ่มต้น 1,000,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 37,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น สัมผัสอารมณ์ Minimal Style ในความเรียบง่ายสบายๆ ใกล้รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยายสายสีชมพู สถานีปากเกร็ด เพียง 600 เมตร รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2557 ที่ตั้ง: THE KITH ติวานนท์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 14-1-58.8 ไร่ ที่ตั้ง ซ.ติวานนท์-ปากเกร็ด 17 ถ.ติวานนท์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พิกัดโครงการ 13.912048,100.506862 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT (ส่วนต่อขยาย สายสีชมพู) สถานีปากเกร็ด สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาแจ้งวัฒนะ ประมาณ 1.6 กม. อาคารจัสมิน ทาวน์เวอร์ ประมาณ 2.3 กม. อาคารซอฟแวร์ปาร์ค ประมาณ 3.2 กม. เมืองทองธานี ประมาณ 3.2 กม. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ประมาณ 3.2 กม. ลักษณะโครงการ: THE KITH ติวานนท์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 27.25 – 29 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 56 – 59 ตารางเมตร จำนวนตึก 11 อาคาร จำนวนชั้น 7 ชั้น จำนวนห้อง 869 ยูนิต ส่วนกลาง: THE KITH ติวานนท์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด N/A ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 36 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 350 บาท สาธารณูปโภค Key Card Access รปภ. CCTV กล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง Swimming Pool Fitness Center ร้านสะดวกซื้อ   เพิ่มเติม: THE KITH ติวานนท์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1775 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thekithcondo.com ข้อมูล ณ วันที่