Tag : Udomsuk

1 ผลลัพธ์
Elio Del Ray สุขุมวิท 66/1 : รีวิวคอนโด

Elio Del Ray สุขุมวิท 66/1 : รีวิวคอนโด

ผ่านมาแถวสุขุมวิทมาดูโครงการยักษ์ใหญ่ในเครืออนันดากันบ้าง เข้าไปในซอยสุขุมวิท 66/1 มาประมาณ 600 เมตรจะเจอกับโครงการ Elio Del Ray ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 16 ไร่ กินพื้นที่ไปถึงซอยสุขุมวิท 64 ดังนั้นจึงสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง รวมถึงสามารถเลือกลงรถไฟฟ้าได้ 2 สถานีเช่นกัน ทั้งสถานีอุดมสุข (ซอยสุขุมวิท 66/1) และสถานีปุณณวิถี (ซอยสุขุมวิท 64) ซึ่งรถไฟฟ้าอยู่ปากซอยเหมือนกัน ลงมาปุ๊ปก็ต่อวินมอเตอร์ไซค์ได้ปั๊ป แต่ช่วงเช้า-เย็นปากซอยสุขุมวิท 64 อาจจะติดขัดมากกว่าหน่อย เพราะมีโรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ตั้งอยู่ปากซอย และในซอยยังมีโรงเรียนพิพัฒนาอีกแห่ง รับรองว่ารถในซอยติดใช่เล่นแน่ๆ ทางด้านซอยสุขุมวิท 66/1 ถึงแม้ว่าจะไม่มีโรงเรียนในซอย แต่ถนนค่อนข้างแคบหน่อย ดีที่ปากซอยมีโชว์รูมฮอนด้า และปั๊มน้ำมันเชลล์ บริเวณนี้จึงมีร้านค้า แผงลอยมากกว่า ฝั่งตรงข้ามยังเป็นตลาดอุดมสุขอีก อาหารการกินแถวนี้จึงอุดมสมบูรณ์กว่ามาก ถ้าใครอาศัยเดินทางด้วยรถส่วนตัวการเดินทาง เส้นทางในซอยสุขุมวิท 64 ยังสามารถลัดเลาะไปขึ้นทางด่วนที่แยกบางนา และสุขุมวิท 62 ได้ด้วยเหมือนกัน สำหรับใครที่ไม่ใช้รถส่วนตัว ทางโครงการก็มี Shuttle Bus ส่งถึงรถไฟฟ้าอีก จึงนับว่าสะดวกใช้ได้ จากซอยแบริ่งให้ตรงไปทางบางนา ขับไปทางถนนพระโขนง ขับเรื่อยๆไปทางพระโขนง เมื่อเจอสามแยกให้ขับตรงไป จนมาเจอสถาณีรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข ให้ขับต่อไปยังสถาณีรถไฟฟ้า BTS ปุณวิถี จากสถาณีรถไฟฟ้า ปุณวีถี ให้เข้าซอยสุขุมวิท 62 ปากซอยจะมีรถมอเตอร์ไซด์อยู่ทางซ้าย เข้ามาจะเจอคอนโด The Link และคอนโด May Fair ให้ไปทางซ้ายตามถนน จะเจอโครงการ Elio Del Ray อยู่ทางขวา โครงการ Elio Del Ray สามารถเข้าออกได้สองทาง อีกทางคือสุขุมวิท 66/1 ปากซอยสุขุมวิท 66/1 จะมีร้านค้ามากมาย ปากซอยสุขุมวิท 66/1 จะมีสถาณีรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข สำหรับสภาพแวดล้อมรอบโครงการ ยังมีบ้านของชาวบ้านในแนวราบอาศัยอยู่มาก ด้านหลังโครงการติดกับทางด่วน พื้นที่ติดกันด้านหนึ่งเป็นโรงเรียนพูนสิน และเนื่องจากข้อบังคับของกฏหมายการใช้ที่ดิน แถวนี้จึงไม่อาคารสูงขึ้นมาบังแน่นอน บรรยากาศข้างในโครงการจึงเงียบสงบใช้ได้เลยเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยจริง เว้นแต่ตึกด้านในสุดที่ติดกับทางด่วนที่ต้องลุ้นหน่อยว่า เสียงรถวิ่งบนทางด่วนจะรบกวนมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการยังถูกจัดสรรไว้อย่างเต็มที่ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของโครงการนี้ ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 5,000 ตร.ม. แบ่งเป็น สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ 2 สระ ฟิตเนส ลู่วิ่งรอบสระว่ายน้ำ สวน และร้านสะดวกซื้อที่บริเวณตึก A โดยพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยอาคารอยู่อาศัยทั้งหมด 8 ตึก แต่ละตึกสูง 8 ชั้น แต่มีจำนวนยูนิตไม่เท่ากัน รวมทั้งโครงการแล้วก็มีทั้งหมด 1,630 ยูนิต โดยส่วนของที่อยู่อาศัยเป็นพื้นที่ชั้น 2-8 ส่วนชั้นล่างและพื้นที่ตามแนวกำแพงรอบโครงการจัดสรรเป็นพื้นที่จอดรถคิดเป็น 30% ของพื้นที่ทั้งหมด ที่จอดรถดูแล้วอาจจะน้อยไปหน่อย ไม่รู้ว่าถ้าเข้าอยู่กันครบทุกยูนิตแล้วจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถหรือเปล่า อันนี้ต้องลองคิดเผื่อไว้บ้าง ส่วนห้องพักแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆ เริ่มจากห้องแบบ Studio ขนาด 24 ตร.ม. ซึ่งกระทัดรัดเหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่า เพราะพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด วางโต๊ะ ตู้ เตียง โซฟา ก็เกือบจะเต็มพื้นที่แล้ว ห้องใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 26 ตร.ม. ไปจนถึง 34 ตร.ม. จากห้องตัวอย่างที่มีให้ดูห้องแรกเป็นขนาด 26 ตร.ม. เปิดเข้ามาปุ๊ปก็เจอห้องนอนเลย ไม่ได้มีการกั้นพื้นที่ห้องนอนไว้แบบชัดเจนนัก แค่แยกพื้นที่ห้องครัวออกไปไว้ด้านเดียวกับห้องน้ำและระเบียง ต่างจากห้องตัวอย่างขนาด 34 ตร.ม. ที่เปิดเข้าห้องมาจะเจอห้องนั่งเล่นก่อน และห้องนอนจะถูกแยกไว้เป็นสัดส่วนมากกว่า แต่ก็แลกกับพื้นที่ห้องครัวที่ถูกย่อขนาดให้เล็กลง และย้ายไปไว้ตรงประตูทางเข้าแทน อันนี้ก็แล้วแต่ Life style ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน ห้องตัวอย่างแบบ A1 ขนาดกำลังกระทัดรัด ห้องทุกห้องแต่งมาแบบ Full Furnish แถมอะไรให้บ้างก็ดูตามป้ายในน้องได้เลย ประตูคันโยกแบบสแตนเลสพร้อมตัวล็อกแบบธรรมดา เปิดเข้าห้องมาก็เห็นเตียงนอนเลยทันที ก่อนถึงเตียงนอนยังมีพื้นที่ว่างพอสำหรับจัดเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวี เฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่าง ชิ้นไหนที่ไม่ได้แถมมากับห้องจะมีป้ายติดกำกับไว้ชัดเจน ชุดโซฟาจัดไว้เข้ามุม ทำให้มีระยะห่างสำหรับดูทีวีพอสมควร เฟอร์นิเจอร์ในห้องเลือกใช้แบบ multi-function ของ SB Furniture ชั้นวางทีวีออกแบบมาเพื่อพื้นที่จำกัดในคอนโด สามารถกางออกเป็นโต๊ะกินข้าวหรือพับเก็บได้ง่ายเมื่อไม่ใช้งาน โต๊ะกลางดีไซน์เรียบๆ ที่สามารถใช้งานได้จริง โต๊ะกลางหน้าชุดโซฟาดีไซน์เก๋ๆ สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ Pantry เล็กๆ หลังประตูทางเข้าห้อง สำหรับเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ถึงพื้นที่จะเล็ก แต่ก็ Built in ชั้นวางของและเว้นที่ไว้วาวตู้เสื้อผ้าให้ด้วย ซิงค์ล้างจานสแตนเลสขนาดพอให้ล้างจานชามได้เล็กๆ น้อยๆ คัตเอาท์ยี่ห้อ Schneider ติดตั้งไว้สูงติดเพดานห้องเลย สวิตช์ไฟดีไซน์เรียบๆ ของ Schneider ในห้องน้ำปูกระเบื้องในโทนสีเทา และ Built-in ช่องวางของมาให้ด้วย ในห้องน้ำถึงจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ ไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto อ่างล้างหน้าของ Prema ที่พื้นที่วางของได้อีกเล็กน้อย พัดลมระบายอากาศภายในห้องน้ำ ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน ด้านที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ติดระแนงไม้บังตาไว้อีกชั้น ไปดูห้องตัวอย่างแบบ B1-M กันบ้าง เฟอร์นิเจอร์ที่แถมมากับห้องมีหน้าตาตามนี้ครับ เปิดประตูเข้าห้องมาจะเห็นห้องนอนก่อน เพราะไม่มีการกั้นห้องไว้ให้ ระหว่างมุมนั่งเล่นกับเตียงนอน มีที่เหลือพอให้ตั้งโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่ได้อีกชุด มุมนั่งเล่นอยู่ด้านหน้าสุด วางโซฟาชิดประตูทางเข้าห้องเลย ชั้นวางทีวีให้มาพร้อมห้อง วางเข้ามุมไว้หลังประตูทางเข้าเลย ขวามือจากชั้นวางทีวีเป็นทางเข้าห้องครัว และห้องน้ำครับ หน้าประตูห้องครัววางโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าไว้ในแนวเดียวกัน เตียงนอนมีลิ้นชักเก็บของด้านล่าง โต๊ะกลางหน้าโซฟา สามารถเปิดขึ้นมาเก็บของด้านในได้ หน้าห้องน้ำเพิ่มพื้นที่เก็บของด้วยตู้สูงเกือบติดเพดาน มองจากด้านในห้องออกมาที่ประตูจะเห็นภาพรวมในห้องชัดขึ้น มองจากมุมนี้จะเห็นพื้นที่เชื่อมต่อส่วนต่างๆ ของห้องชัดเจนขึ้น ห้องครัวติดริมระเบียง เคาน์เตอร์ครัวเว้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้า และมีที่วางตู้เย็นไว้ด้านในสุดติดประตูระเบียง เหนือเคาน์เตอร์ครัวมีชั้นวางของและช่องวางไมโครเวฟ ซิงค์ล้างจานสแตนเลส พื้นที่ระเบียงเล็กๆ แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบน ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีเงินธรรมดา ธรณีระเบียงก่อไว้สูงเหมือนกัน เดินเข้าไปดูห้องน้ำกันบ้าง บริเวณอ่างล้างหน้า เจาะช่องไว้วางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ พื้นที่ส่วนอาบน้ำติดรางผ้าม่านป้องกันน้ำกระเด็นเลอะเทอะ พื้นที่ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ทำมาเป็นช่องเกือบพอดีตัว เวลาใช้งานอาจจะอึดอัดบ้าง หัวก๊อกที่อ่างล้างหน้า ธรณีห้องน้ำเป็นหินเทียม ก่อมาสูงเหมือนกันเวลาเดินต้องระวังสะดุดหน่อยครับ สวิตช์ไฟมาตรฐานคอนโดทั่วไปของ Schneider ไปดูห้องตัวอย่างแบบ D1 กันบ้าง เปิดประตูเข้าห้องมายืนที่บริเวณครัวจะเห็นโซนนั่งเล่นตามภาพครับ หมุนตัวกลับไปก็จะเห็น Pantry ครัวเล็กๆ ตรงประตูทางเข้าแบบนี้ครับ หลังประตูทางเข้า Built-in ตู้เก็บของไว้ให้ด้วย เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง นอกจากเตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว ริมหน้าต่างยังวาง Day Bed ไว้อีกตัว ใต้เตียงมีลิ้นชัก ทำให้มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น อีกฝากห้องวางตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ และมีมุมแต่งตัวเล็กๆ ข้างหัวเตียงอีก พื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่มาก จึงต้องแขวนทีวีติดผนัง ฟังค์ชั่นในห้องน้ำเหมือนกันกับห้องอื่นๆ พื้นที่อาบน้ำต้องติดม่านพลาสติกเพิ่มเอง พื้นห้องปูด้วยลามิเนต ห้องน้ำปูกระเบื้อง และก่อธรณีประตูด้วยหินเทียม สำหรับห้องแบบแบบสุดท้าย ซึ่งไม่มีห้องตัวอย่างโชว์ไว้ก็คือ ห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมีพื้นที่ 44 ตร.ม. ดู Lay out จากแบบแปลนแล้วก็ถือว่าจัดได้ลงตัวดีทีเดียว ห้องทุกห้องของโครงการ Elio Del Ray ขายมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ทตามแบบห้องตัวอย่างเป๊ะ ซึ่งทางโครงการเลือกใช้ SB Furniture ทั้งหมด และแต่ละชิ้นที่เลือกมาก็มีจุดเด่นของการใช้งานได้แบบ Multi-Function เฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นสามารถใช้งานได้หลายประโยชน์เหมาะกับคอนโดที่มีพื้นที่ขนาดจำกัด ส่วนวัสดุสุขภัณฑ์อื่นๆ ก็เลือกใช้ของได้มาตรฐาน ถ้าเทียบราคาต่อตารางเมตรกับโครงการอื่นๆ ก็จัดได้ว่าคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย เพราะของที่แถมมาให้นอกจากจะหน้าตาดูดีสวยงามแล้วยังใช้สอยได้จริงด้วย ถ้าพูดกันถึงทำเลในแถบสุขุมวิท โครงการ Elio Del Ray ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยสำหรับคนที่อยากได้ Facility ส่วนกลางเต็มที่ เพราะเค้าจัดมาเยอะจริง โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ โครงการนี้ดูจะเหมาะดีจะได้มีกิจกรรมทำช่วงวันหยุด ส่วนเรื่องทำเลที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในซอยถึง 600-700 เมตร นั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีปุณวิถีต่อรถจากปากซอยสุขุมวิท 64 ก็จะสะดวกหน่อยเพราะระยะทางสั้นกว่า อีกอย่างทางเข้า-ออกโครงการก็อยู่ค่อนไปทางฝั่งซอยสุขุมวิท 64 ด้วย แต่ช่วงเช้า-เย็นในซอยนี้รถน่าจะติดมาก ไหนจะทั้งโรงเรียน และโครงการอื่นๆ ในซอยอีก รับรองว่าการจารจรหนาแน่นมากอย่างเลี่ยงได้ยาก อย่างไรก็ดีในโซนใกล้ๆ นี้ก็ยังมีอีกหลายโครงการ ในหลายระดับราคาให้เปรียบเทียบความคุ้มค่ากันอยู่ แนะนำว่าให้ลองเข้าไปดูด้วยตัวเองน่าจะเห็นบรรยากาศได้ชัดเจนมากขึ้นนะครับ ส่วนใครที่อยากได้บทสรุปเรื่องการลงทุนเราก็เตรียมไว้ให้แล้วเช่นกัน