Tag : คอนโดติดรถไฟฟ้า

192 ผลลัพธ์
RHYTHM สุขุมวิท 36-38 : รีวิวคอนโด

RHYTHM สุขุมวิท 36-38 : รีวิวคอนโด

เชื่อว่าทำเลในย่านทองหล่อ คงเป็นอีกหนึ่งทำเลในดวงใจใครหลายๆ คน คราวนี้เลยจะพาไปดูคอนโดในเครือ AP ที่ชื่อว่า “Rhythm สุขุมวิท 36-38” ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ แต่ก็เกาะติดรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อไว้อย่างเหนียวแน่น เพราะอยู่ห่างจากตัวสถานีเพียง 300-400 เมตรเท่านั้น แถมโครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทาง AP ร่วมออกแบบกับ Mitsubishi Estate Group จากประเทศญี่ปุ่นด้วย ใครที่กำลังเล็งคอนโดทำเลใจกลางเมืองจึงน่าจะเก็บข้อมูลโครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ไว้พิจารณาดูนะครับ   การเดินทาง เรื่องการเดินทางแน่นอนว่าการพึ่งพารถไฟฟ้า BTS น่าจะเป็นคำตอบที่สะดวกที่สุดสำหรับคนเมืองที่มีเวลาจำกัด สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 36 และ 38 พอดิบพอดี จึงสามารถเลือกเข้าออกได้ทั้ง 2 ซอย ตัวโครงการตั้งอยู่ทางด้านซอยสุขุมวิท 36 นะครับ ดังนั้นระยะทางจากปากซอยทางด้านนี้จึงใกล้กว่า แต่ถ้าจะให้แนะนำเส้นทางที่เดินได้สะดวกและปลอดภัยก็คงจะต้องเลือกซอยสุขุมวิท 38 เป็นหลัก เพราะถนนในซอยกว้างกว่าและมีทางเท้าตลอดทาง และช่วงปากซอยจะมีร้านค้า ร้านอาหารเป็นจำนวนมากที่เปิดขายกันตั้งแต่เย็นๆ ไปจนค่ำมืด บรรยากาศช่วงต้นซอยจึงคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย ถึงแม้ระยะทางเดินทางด้านซอยสุขุมวิท 38 จะไกลกว่าทางซอยสุขุมวิท 36 อยู่เล็กน้อย แต่ยังไงก็ไม่เกิน 400 เมตร เดินกันพอเหงื่อซึมๆ เท่านั้น แถมยังแวะซื้อของกินระหว่างทางได้อีก ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเพื่อแลกกับความปลอดภัยในการเดิน แต่ถ้าใครที่ไม่อยากเดิน บริเวณปากซอยก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างคอยให้บริการทั้งคู่ จะเลือกลงจากสถานีรถไฟฟ้าทางด้านไหนก็สะดวกเหมือนกัน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ก็คงเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงได้ยากเช่นกันสำหรับคนเมือง แน่นอนว่าถนนเส้นหลักก็คือถนนสุขุมวิท ซึ่งถนนในซอยสุขุมวิท 36 ยังสามารถเชื่อมไปออกถนนพระราม 4 ได้อีกทาง ถึงตัวโครงการตั้งอยู่บนทางด้านซอยสุขุมวิท 36 แต่ทางโครงการก็ตัดถนนหน้าโครงการเชื่อมเส้นทางให้สามารถใช้เส้นทางในซอยสุขุมวิท 38 เป็นเส้นทางเข้าออกได้ ดังนั้นจึงพอจะมีเส้นทางเลี่ยงรถติดไปออกซอยสุขุมวิท 40 หรือไปออกเอกมัยทางซอยสุขุมวิท 42 ได้อีกทาง หรือถ้าเลือกไปอีกฟากของถนนสุขุมวิท ก็สามารถวิ่งตัดซอยทองหล่อไปออกถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้อีก แต่ทั้งนี้ถนนแต่ละเส้นที่ว่ามาก็ดูเหมือนจะมีปัญหาการจราจรที่ติดขัดไม่แพ้กัน เนื่องจากถนนโดยรอบเป็นถนนสายหลักๆ รวมถึงที่ตั้งของโครงการก็อยู่ใจกลางเมือง อย่างไรซะปัญหาเรื่องรถติดคงเลี่ยงได้ยาก แผนที่โครงการ ตัวโครงการจะอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 36 กับ 38 ตามชื่อโครงการเลยนะครับ ซึ่งสามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง แต่ถ้าหากเดินเท้าทางด้านซอยสุขุมวิท 38 จะสะดวกกว่านะครับ ถึงแม้ระยะทางจะไกลกว่าก็ตาม เนื่องจากมีฟุตบาทให้เดิน และมีร้านค้า ร้านอาหาร ให้เลือกซื้อกันด้วย แต่ทางฝั่งซอยสุขุมวิท 36 จะไม่มีฟุตบาทให้เดินนะครับ ซึ่งอาจจะอันตรายสักหน่อย แต่ถ้าไม่อยากเดินตรงหน้าปากซอยก็มีพี่วินมอไซต์ไว้ให้บริการด้วยนะครับ สำหรับการเดินทางวันนี้ผมขอใช้บริการรถไฟฟ้า BTS แล้วกันนะครับ เพราะถือว่าสะดวกสบายที่สุดหากเดินทางเข้ามาในย่านนี้ บริเวณด้านล่างสถานีรถไฟฟ้า ตามข้างทางก็จะมีร้านค้าต่างๆ มากมายให้เลือกซื้อกันก่อนกลับขึ้นห้องด้วยนะครับ มีไปรษณีย์อยู่ใกล้ๆ ด้วยนะครับ เหมาะกับคนที่ขายของออนไลน์ วินมอเตอร์ไซต์ที่คอยให้บริการอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 36 บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 36 อย่างที่บอกนะครับ ซอยนี้ไม่เหมาะสำหรับการเดินสักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่มีทางเท้าให้เดิน และอาจเกิดอันตรายจากรถยนต์ที่วิ่งไปมาด้วยนะครับ ตรงเข้ามาในซอยสุขุมวิท 36 อีกนิดก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วล่ะครับ ตัวโครงการกำลังเริ่มก่อสร้างรากฐานอาคารแล้วนะครับ เลยสถานที่ก่อสร้างโครงการมาอีกนิดเดียวก็จะเจอซอยเอพี อยู่ด้านซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยเอพี ก็จะถึงสำนักงานขายโครงการแล้วครับ มาดูที่ซอยสุขุมวิท 38 กันบ้างนะครับ บริเวณปากซอยก็จะมีร้านอาหารตามสองข้างทาง ถือว่าสะดวกทีเดียวนะครับ บรรยากาศภายในซอย ทั้งสองข้างทางก็จะมีทางเท้าให้เดินต่างกับซอยสุขุมวิท 36 เลยนะครับ นี่เป็นบรรยากาศในยามค่ำคืนบริเวณซอยสุขุมวิท 38 นะครับ บริเวณปากซอยมีร้านขายอาหารเรียงรายตามสองข้างทางเยอะเลยนะครับ ตอนค่ำๆ ที่นี่จะคึกคักมากเลยนะครับ เรื่องอาหารการกินถือว่าสะดวกมากๆ เลยทีเดียว ลงรถไฟฟ้ามาก็มีร้านอาหารรออยู่เพียบ!! ใครอยากจะนั่งทานที่ร้านก็มีที่นั่งริมทางให้ด้วยนะครับ หรือว่าจะซื้อกลับไปทานที่ห้องก็ได้ครับ เดินเลยเข้ามาด้านในอีกหน่อย ร้านค้าต่างๆ ก็จะหมดแล้วนะครับ ร้านส่วนใหญ่จะไปกระจุกตัวกันอยู่ปากซอยซะมากกว่า ทางเดินภายในซอยสุขุมวิท 38 ครับ ในตอนกลางคืนถ้าไม่ดึกมากๆ ก็ถือว่าปลอดภัยนะครับ มีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลา ทางเท้าภายในซอยแสงชัยก่อนถึงตัวโครงการก็กว้างขวางเดินง่ายดีครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ วิเคราะห์ตัวโครงการ ด้วยความที่โครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกว่าใจกลางเมืองพอดิบพอดี พื้นที่รอบๆ ในบริเวณใกล้เคียงแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ลองดูกันแบบคร่าวๆ ในระยะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS 1-2 สถานี ก็มีทั้ง Emporium, Terminal 21, Rain Hill, Gateway Ekamai, Major Ekamai, สวนเบญจศิริ, ท้องฟ้าจำลอง หรือถ้าห่างจากแนวรถไฟฟ้าไปนิดหน่อยก็ยังมี K Village, Big C พระราม 4, J Avenue, Market Place รวมถึงสถานศึกษา โรงเรียนนานาชาติก็อยู่ใกล้ๆ นิดเดียวเอง ซึ่งอันนี้เป็นแค่ตัวอย่างคร่าวๆ เท่านั้นนะครับ ถ้าใครที่คุ้นเคยกับย่านทองหล่อดีอยู่แล้ว คงจะนึกภาพสถานที่กิน ที่เที่ยวตามได้ไม่ยาก คราวนี้มาดูรายละเอียดตัวโครงการกันบ้างดีกว่า Rhythm สุขุมวิท 36-38 ตั้งอยู่บนถนนฝั่งซอยสุขุมวิท 36 นะครับ ถัดเข้ามาจากปากซอย 350 เมตร โดยถนนในซอยสุขุมวิท 36 จะเป็นด้านข้างของโครงการส่วนทางเข้าโครงการจะอยู่บริเวณถนน AP ซึ่งเป็นถนนสายสั้นๆ ที่ทางโครงการตัดขึ้นมาใหม่เพื่อเชื่อมซอยสุขุมวิท 36 กับซอยแสงชัยไว้ด้วยกัน ทำให้เราสามารถเลือกเดินทางเข้าออกได้ทั้ง 2 ซอย ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น มียูนิตรวม 496 ยูนิต ในอาคารรูปแบบตัว U โดยมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งรวมเอาสระว่ายน้ำสีม่วงสวยงาม (ตามภาพจำลองของโครงการ) ห้องซาวน่า และสวนพักผ่อนไว้ด้วยกัน ส่วนห้องออกกำลังกาย จะแยกไปอยู่ที่ชั้น 25 เวลาออกกำลังกายก็จะได้ชม City View จากมุมสูงไปด้วยในตัวครับ แต่ข้อเสียของการใช้งานก็มีเพราะลูกบ้านจะต้องลงลิฟท์ลงมาชั้นล่างถ้าอยากจะว่ายน้ำ หรืออบซาวน่าหลังจากออกกำลังกายแล้ว ขณะที่บริเวณชั้น 1 นอกจากจะมี Lobby ขนาดใหญ่แล้ว ยังมีร้านค้าภายในอีก 1 ร้าน และพื้นที่พักผ่อน บริเวณชั้น 1-5 ใต้คอร์ทสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่จอดรถครับ ซึ่งนับรวมแล้วจอดรถได้ 43% แต่ยังไม่รวมจอดซ้อนคันนะครับ ซึ่งอาจจะจอดได้เกือบๆ 240 คันเลยนะครับถ้านับรวมจอดซ้อนคันด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน ทั้งการใช้คีย์การ์ดผ่านเข้าออก และกล้อง CCTV ส่วนเรื่องลิฟท์โดยสารทางโครงการจัดมาให้ 4 ตัว และลิฟท์เซอร์วิสอีก 1 ตัว ตำแหน่งของลิฟท์อยู่ที่โซนทิศตะวันออก ซึ่งห้องทางฝั่งนี้จะมีระยะเดินที่สั้นกว่าห้องทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งห้องมุมของโซนนี้ต้องเดินกันไกลพอสมควรเลยทีเดียว ในวันที่ซื้อข้าวของหิ้วกันพะรุงพรังคงลำบากหน่อย สไตล์การออกแบบของโครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ได้นำเอาแนวคิดการออกแบบมาจากญี่ปุ่นในการจัดสรรพื้นที่ให้มีความเชื่อมโยงกัน ห้องแต่ละยูนิตถูกแบ่งพื้นที่แบบ Interlock โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจนถึงชั้น 24 ด้วยผังของอาคารที่เป็นรูปตัว U วิวหลักๆ ของห้องด้านนอกคือ City View ของย่านสุขุมวิทซึ่งห้องที่อยู่ชั้น 6-7 ทางฝั่งซอยสุขุมวิท 36 อาจจะหนีไม่ค่อยพ้นวิวตึกข้างๆ ซักเท่าไหร่ เพราะฝั่งตรงข้ามถนนมีอาคารสำนักงาน และคอนโด  Low Rise อีก 2-3 ตึก ดังนั้นถ้าจะให้ได้วิวแบบเซฟๆ หน่อย อย่างน้อยก็ต้องเลือกห้องตั้งแต่ชั้น 7 หรือ 8 ขึ้นไป ส่วนด้านอื่นๆ ของโครงการยังเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโดนบังวิวเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้ห้องที่อยู่ด้านตัว U ก็จะได้วิวธรรมดาๆ ของสระว่ายน้ำโครงการแทน แต่ช่วงที่เราเข้าไปดูที่โครงการก็เห็นว่าห้องขายไปเยอะแล้วพอสมควร ตำแหน่งห้องในทิศต่างๆ อาจจะเหลือให้เลือกไม่มากนัก จะเล็งห้องขนาดไหนทางด้านทิศใดก็ต้องไปดูที่สำนักงานขายกันอีกทีนะครับ หน้าตาของอาคารที่ออกแบบเป็นรูปตัว U โอมล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวรอบๆ โครงการ ถนนด้านหน้าโครงการที่ตัดจากซอยสุขุมวิท 36 ทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 38 ให้ชื่อว่า "ซอย AP" เพื่อให้ลูกบ้านได้รับความสะดวกสามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ซอย ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby มีสวนสไตล์ญี่ปุ่นอยู่ด้านหน้าโครงการ ส่วนด้านในจะเป็นที่จอดรถที่จะใช้ตั้งแต่ชั้น G ชึ้นไปถึงชั้น 5 รวมแล้วจอดได้ประมาณ 43% สวนสไตล์ญี่ปุ่นด้านหน้าโครงการที่มีการนำน้ำมาเป็นส่วนประกอบ ดูแล้วน่าจะให้ความร่มรื่นดีนะครับ Lobby ที่ชั้น G มองออกไปด้านนอกจะเห็นสวนญี่ปุ่นที่อยู่หน้าโครงการ สระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 6 นะครับ และเป็นที่ชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัย สระว่ายน้ำของที่นี่จะสีม่วงนะครับ อาจจะแปลกตากว่าสระว่ายน้ำที่เราเคยเห็นๆ กันที่ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้า สีน้ำเงิน สูงขึ้นไปชั้นที่ 7-16 จะเป็นห้องพักอาศัย ประมาณ 28 ยูนิตต่อชั้น สูงขึ้นมาอีกตั้งแต่ชั้นที่ 16-24 จำนวนยูนิตจะน้อยลง เพราะพื้นที่บางส่วนถูกแทนที่ด้วยพื้นที่สีเขียว มาถึงชั้น 25 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคารนะครับ ชั้นนี้จะมีส่วนที่เป็นฟิตเนส และพื้นที่สีเขียวไว้สำหรับพักผ่อน เรามาดูวิวทิวทัศน์กันบ้างนะครับ เริ่มทางทิศเหนือจะหันไปด้านถนนสุขุมวิท ฝั่ง BTS ทองหล่อ มองออกไปจะเห็นโครงการ Noble Remix ที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 ซึ่งมีความสูง 33 ชั้น อาจจะบดบังวิวไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ถือว่าไม่ได้อยู่ใกล้จนดูอึดอัดนะครับ ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางถนนพระราม 4 จะเห็นตึกมาลีนนท์อยู่ไกลๆ นั่นด้วยนะครับ ส่วนตึกสูงอีกโครงการที่อยู่ใกล้ๆ ก็คือโครงการ Ashton ที่ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ บริเวณซอยสุขุมวิท 38 ครับ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะหันไปทางถนนสุขุมวิทจะเป็นวิวด้านซอยทองหล่อ บริเวณรอบๆ ตัวโครงการจะเป็นบ้านเรือนพักอาศัยเตี้ยๆ ไม่มีตึกสูงขึ้นในด้านนี้ครับ พาชมห้องตัวอย่าง อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าการออกแบบพื้นที่ห้องของโครงการนี้เป็นแบบ Interlock ซึ่งคือการออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้อย่างเต็มที่ โดยจะแยกพื้นที่ส่วนของห้องน้ำออกมาเพื่อไม่ให้กินพื้นที่ของห้องใหญ่ ทำให้เรารู้สึกว่าพื้นที่ห้องกว้างขวางมากขึ้นกว่าแบบห้องแบบเดิมๆ พอนำแปลนห้องแบบต่างๆ มาต่อกัน ก็จะเข้าล็อคกันพอดีคล้ายๆ กับการต่อจิ๊กซอว์นั่นเอง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการมีให้ชมขณะนี้จะมีเพียงห้องแบบ Studio แบบเดียวเท่านั้นครับ ซึ่งขนาดห้องอยู่ที่ 24 ตร.ม. ห้องแบบนี้เปิดเข้ามาจะเจอส่วนของครัวเปิดทางด้านซ้ายมือของประตู แน่นอนว่าข้อเสียของครัวแบบนี้คือ ไม่เหมาะกับการทำครัวหนักๆ เพราะกลิ่นจะฟุ้งกระจายเต็มห้อง จะให้ดีก็คงทำได้แต่เตรียมหรืออุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และด้วยความที่ห้องเป็นแบบ Studio พื้นที่นั่งเล่นกับที่นอนก็ต้องแบ่งๆ กันใช้ การจัดวางชุดโซฟา กับเตียงก็มีรูปแบบค่อนข้างจำกัด เท่าที่ดูจากในห้องตัวอย่างแล้วก็คงขยับอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าจะร่นระยะที่นอนให้ไปอยู่ชิดกับหน้าต่างเลย ก็พอทำได้ แต่ก็อาจจะไม่ได้องศาเวลาดูทีวี หรืออาจจะได้ไอร้อนจากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ทำให้นอนไม่สบายตัวนักก็ได้ ทางโครงการจัดแบ่งพื้นที่ระเบียงมาให้ด้วยนะครับ แต่ก็เล็กมากๆ พื้นที่แค่พอก้าวเท้าได้ 1-2 ก้าว หรือจะวางที่ตากผ้าก็คงจะเต็มพื้นที่แล้ว การใช้งานที่ระเบียงจึงอาจจะหวังอะไรมากไม่ได้ ส่วนห้องน้ำที่อยู่แยกออกมาจากพื้นที่ห้องนอน กลับถูกจัดสรรไว้ค่อนข้างลงตัวกว่า ถึงแม้ว่าห้องน้ำจะเล็กแต่ก็สามารถแยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกได้เรียบร้อย ห้องที่ทางโครงการขายมาให้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ มีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และสุขภัณฑ์มาค่อนข้างครบแล้ว จากที่เห็นในห้องตัวอย่างทางโครงการจะให้อะไร ชิ้นไหนบ้างก็สอบถามกันให้ละเอียดนะครับ เพราะหน้าตาเฟอร์นิเจอร์จะไม่เป็นไปตามแบบทุกชิ้น อย่างตู้เสื้อผ้าก็ไม่ใช่บานประตูกระจก ฝ้าก็ไม่ได้ดร็อปมาให้ กระจกเงาในห้องน้ำก็ไม่มี Light Box ด้านหลัง ส่วนอื่นๆ ก็แนะนำให้เช็คและทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนเลย จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ส่วนห้องแบบอื่นๆ ที่เป็นแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ก็คงต้องดูเอาตามแปลนที่ทางโครงการมีไว้ให้นะครับ แต่เท่าที่ทราบห้องแบบ 2 Bedroom ทางโครงการขายหมดไปเรียบร้อยแล้ว เพราะห้องแบบน้มีเพียง 15 ห้องเท่านั้น ส่วนห้องที่เหลือก็ต้องตามไปเช็คกับเซลล์ดูว่าจะเหลือห้องไหน ในทิศอะไรบ้าง และจะตรงกับความต้องการมากน้อยเพียงใด ห้อง Studio ขนาด 24 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาในห้องก็จะเจอกับโซฟาที่อยู่กับกับเตียงเลยนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปดูในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นกับที่นอน เรามองย้อนกลับออกมาหน้าห้อง แล้วมาดูส่วนครัวที่อยู่ด้านหน้ากันก่อนดีกว่านะครับ ครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ ก็อย่างที่บอกนะครับ ว่าครัวแบบเปิดนี้เหมาะจะใช้สำหรับเตรียมอาหารมากกว่าที่จะทำอาหารทานเอง ตำแหน่งการวางตู้เย็นจะอยู่ด้านซ้ายมือติดกับประตูห้องเลยนะครับ ด้านล่างจะมีช่องใส่เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟ ซิ้งค์ล้างจานแบบฝังของ FRANKE นะครับ เตาไฟฟ้า 2 หัวของ FRANKE เช่นกันครับ กลับมาดูด้านในกันต่อนะครับ ติดกับส่วนครัวจะเป็นโซฟา ถัดไปก็เป็นเตียงแล้วนะครับ ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้นะครับ หน้าต่างข้างเตียงจะเป็นบาน Fix บานใหญ่เลยครับ ด้านปลายเตียงจะเป็นชั้นวางทีวีนะครับ หากจะดูทีวีก็คงต้องนอนดูบนเตียง หรือหากนั่งดูที่โซฟาก็จะต้องเอียงตัวมาทางทีวีสักหน่อย ส่วนของระเบียงจะอยู่ข้างๆ ทีวีนะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน พื้นที่ระเบียงค่อนข้างเล็กนะครับ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านบน ตู้เสื้อผ้าจะตั้งอยู่ข้างชั้นวางทีวี และอยู่หน้าห้องน้ำนะครับ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยนะครับ การวางสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำนะครับ โถสุขภัณฑ์ของ Kohler อ่างล้างหน้าของ Cristina วัสดุทำมาจากไฟเบอร์ ส่วนที่ติดกับอ่างล้างหน้าจะเป็นส่วนอาบน้ำกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวและ Rain Shower จะเป็นของ Kohler แต่จะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะครับ ชุดสวิชส์ไฟใช้ของ Siemens ทั้งหมดนะครับ เรามาดูแปลนห้องแบบอื่นๆ กันบ้างนะครับ จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน โครงการ Rhythm สุขุมวิท 36-38 ค่อนข้างเหมาะกับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในย่านทองหล่อ ในขณะที่มีงบประมาณไม่เวอร์วังอลังการเกินไป ทำเลที่ตั้งโครงการค่อนข้างดีเพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อเพียง 300-400 เมตร ซึ่งต้องอาศัยการเดินเข้าซอยเล็กน้อย หรือจะใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็สะดวก และการที่ตัวโครงการไม่ได้อยู่ในซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) จึงค่อนข้างได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า รถราและผู้คนในซอยก็ไม่พลุกพล่านมากจนเกินไป ในขณะที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 38 และริมถนนสุขุมวิทมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อมากมาย ทั้งร้านอาหารสุดหรูและแผงลอยราคาย่อมเยา ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงจึงจัดว่าดีมากๆ แถมบริเวณรอบๆ ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรก็มีห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง สถานที่ท่องเที่ยว และสถานศึกษาครับถ้วน ทำเลในย่านนี้จึงถูกใจผู้ที่นิยมวิถีชีวิตแบบคนเมืองไปเต็มๆ เรื่องการเดินทางก็สะดวกทั้งรถไฟฟ้า BTS และการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 4 หรือจะข้ามไปถนนเพชรบุรีตัดใหม่ก็ทำได้ทั้งนั้น จะติดก็แค่เรื่องรถติดที่หนักหนาอย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้วนั่นแหละครับ สำหรับตัวห้อง ต้องบอกว่าราคาเริ่มต้นมาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน เพราะแค่เริ่มต้นก็ตกตารางเมตรละ 170,000 บาทเข้าไปแล้ว และเมื่อเทียบกับแบบห้อง รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่มาพร้อมห้องก็ต้องบอกว่าแค่พอโอเคเท่านั้น เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่แถมมาอาจจะดูไม่สมราคาห้อง ทั้งๆ ราคาห้องระดับนี้ในทำเลใกล้เคียงกันก็มีตัวให้เปรียบเทียบไม่น้อยเลย ถ้าจะซื้อหาไว้อยู่เองสำหรับคนที่งบไม่มากนัก อาจจะมองทำเลอื่นๆ ที่ใกล้เคียงแทนได้ ส่วนการซื้อไว้เพื่อลงทุนก็อาจจะทำกำไร และมี Upside Gain ยาก ผลตอบแทนจากการลงทุนอาจจะไม่คุ้มค่า หรือใช้เวลานานเกินไปก็ได้ เว้นเสียแต่ว่าจะปล่อยห้องให้ชาวต่างชาติเช่าก็อาจจะพอมีโอกาสทำเงินได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
The Cabana Condo : รีวิวคอนโด

The Cabana Condo : รีวิวคอนโด

The Cabana Condo คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โครงการใหม่จาก Origin Property ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนทางรถไฟสายเก่า ใกล้รถไฟฟ้า BTS สำโรง รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวนห้อง 719 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 3 - 54 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนทางรถไฟสายเก่า ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ปีที่สร้างเสร็จ ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง   ห้างสรรพสินค้า Imperial สำโรง 100 ม. โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ 300 ม. โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ 1.5 กม. BITEC Bangna 2.5 กม. โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา 2.8 กม. Bangkok Mall 3 กม. โรงเรียนนานาชาติเบิคเลย์ 3.5 กม.   ลักษณะห้องและขนาดห้อง   Type Bs : 1 ห้องนอน ขนาด 22.8 - 23.5 ตารางเมตร Type B   : 1 ห้องนอน ขนาด 27.3 - 33.7 ตารางเมตร Type B Plus : 1 ห้องนอน พร้อมห้องอเนกประสงค์ ขนาด 34 - 35.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก   Beach Sense Lobby Greenery Fitness Laguna Bay Bali Pool Spa Bali Pool Terrace Reading Court Lawn Bowl Serenity Garden Sky Yoga Lawn Sky Jogging Track Floating Playground Rooftop BBQ Lounge Sunset Terrace Horizon Lounge   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 092-450-1100, 084-902-0009 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  thecabanacondo.com ,  www.facebook.com/thecabanacondo LINE ID : thecabanacondo
HALLMARK แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

HALLMARK แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

Hallmark แจ้งวัฒนะ คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โครงการใหม่จาก ชีวาทัย บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้เซ็นทรัล และรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด เปิดให้ลงทะเบียนแล้ววันนี้ แบบจำลองตัวโครงการ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 1,290,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 60,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง 427 ยูนิต ที่จอดรถ ประมาณ 40% เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 1 - 74.3 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 17 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ตลาดขวัญ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมืองทองธานี โรงพยาบาล World Medical Center แมคโคร Tesco Lotus Big C ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ Avenue แจ้งวัฒนะ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 24 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 28.5 - 39 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Lobby สวนสีเขียว พร้อม Jogging Track ระบบ Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง แบบจำลองสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลาง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-962-1144 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.hallmarkcondo.com
Manhattan Park Peninsula : รีวิวคอนโด

Manhattan Park Peninsula : รีวิวคอนโด

ผ่านไปผ่านมาในซอยแบริ่งช่วงต้นๆ ซอย หลายคนอาจจะสังเกตุเห็นคอนโดใหม่ๆ ขึ้นเต็มไปหมด หรือไม่ก็สำนักงานขายใหม่ๆ ก็มีให้เห็นมากมาย หนึ่งในนั้นต้องมีสำนักงานขายของ Manhattan Park Peninsula แน่นอน คราวนี้เราเลยถือโอกาสแวะเข้าไปเก็บข้อมูลมาฝาก เพราะรู้สึกสะดุดตากับภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูหรูหราตั้งแต่สำนักงานขายเลยทีเดียว   การเดินทาง การเดินทางมายังซอยแบริ่ง ปัจจุบันสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS พอมาถึงสถานีแบริ่งก็แค่เดินต่อเข้ามาในซอย หรือเลือกต่อรถเข้ามาอีกทอดก็สะดวกไม่แพ้กัน สำหรับตัวโครงการ Manhattan Park Peninsula นั้นตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 13 ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากพอสมควรเลยทีเดียว ด้วยระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร คงไม่เหมาะกับการเดินเท่าไหร่ ถ้าต้องเดินไปกลับทุกๆ วันคงไม่สนุกแน่ ดังนั้นการเลือกนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาที่ตัวโครงการ หรืออย่างน้อยก็นั่งรถสองแถวมาลงที่ปากซอยแบริ่ง 13 จึงเป็นการเดินทางที่จำเป็นครับ ในขณะที่รถไฟฟ้าจัดว่าเป็นการเดินทางหลักซึ่งเป็นจุดขายแล้ว การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปยังจุดที่รถไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ออกมาที่ปากซอยแบริ่งก็มีทั้งรถแท็กซี่ รถสองแถว และรถเมล์ให้เลือกได้หลายสายเช่นกัน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซอยแบริ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ ถนนในซอยเป็นถนนหลักสายใหญ่ที่มีปริมาณรถสัญจรมากเกือบตลอดเวลา ถ้าใครที่ต้องการเดินทางเข้าออกเมืองก็สามารถเลือกใช้เส้นทางสุขุมวิทตามปกติ หรือจะไปขึ้นทางด่วนด่านบางนาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักก็ได้ รวมถึงเส้นทางวงแหวนรอบนอก และสะพานอุตสาหกรรมก็เป็นอีกเส้นทางที่ใช้เดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพได้สะดวกเช่นกัน จะติดก็แค่เรื่องปริมาณรถที่มากมายเกือบตลอดวันและทุกวัน การจราจรแถบนี้จึงหนาแน่นจนถึงขั้นติดขัดอยู่เป็นประจำ จะไปไหนมาไหนก็ต้องเผื่อเวลากันให้มากหน่อย แผนที่โครงการครับ แผนที่รอบๆ โครงการ ตัวโครงการจะอยู่บนถนนสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง ใกล้กับ BTS สถานีแบงริ่ง ระยะทางจากตัวโครงการถึงสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 1.6 กม. ครับ วันนี้ขอเริ่มต้นการเดินทางจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปสมุทรปราการ ให้เบี่ยงซ้ายขึ้นสะพานนะครับ เมื่อลงสะพานมาก็จะเป็นถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ด้านซ้ายมือจะเป็น BITEC บางนา เลยมาอีกหน่อยก็จะเห็น BTS บางนา ให้ขับตรงไปอีกครับ ตรงมาอีกจะเจอ BTS แบริ่งแล้วล่ะครับ ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งครับ จากตัวสถานี BTS แบริ่งมาประมาณ 220 เมตร ก็จะถึงซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ หน้าปากซอยจะมี 7-11 แล้วร้านขายของตามริมฟุตบาทอยู่พอสมควรครับ สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่ด้วยเช่นกัน บรรยากาศภายในซอยครับ ในซอยจะมีคอนโดขึ้นค่อยข้างยเอะสังเกตจากป้ายโฆษณาที่ติดกันเต้มข้างทาง ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนถึง ซ.แบริ่ง 13 จะอยู่ทางซ้ายมือนะครับ ในซอยจะค่อยข้างแคบไปสักหน่อยนะครับ ระยะทางจากปากซอยแบริ่ง 13 ถึงตัวโครงการประมาณ 200 เมตร วิเคราะห์ตัวโครงการ Manhattan Park Peninsula เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โดยที่ชั้นดาดฟ้าเป็นศูนย์รวม Facility ส่วนกลางไว้ทั้งหมด ตั้งแต่สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น สวนหย่อม ลู่วิ่งลอยฟ้า ห้องฟิตเนส และห้องซาวน่า ทุกอย่างนี้อยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมของอาคารรูปทรงหรูหราที่ได้รับแรงบรรดาใจมาจากมหานครนิวยอร์ค นอกจากที่บริเวณชั้น 1 โครงการจัดสวนพร้อมน้ำพุใน Private Garden เพื่อสร้างบรรยากาศแบบ Central Park ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทางโครงการชูเป็นจุดขายอันโดดเด่น เชื่อว่าถ้าใครได้เห็นแผ่นพับและโมเดลของอาคารแล้วคงจินตนาการไปถึง Life Style อันหรูหรากลางมหานครนิวยอร์คได้ไม่ยากเลยครับ บริเวณรอบๆ โครงการเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชุมชน และมีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่ก็ยังคงเงียบสงบอยู่เพราะที่ตั้งโครงการอยู่ลึกเข้ามากลางๆ ซอยแบริ่ง 13 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถออกไปทางซอยลาซาล 24 ได้ด้วยเช่นกัน เรื่องปากท้องความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินเท่าที่เห็นดูจะมีตัวเลือกไม่มากนัก สู้ทางโซนปากซอยสุขุมวิท 105 และ 107 ไม่ได้ เพราะแถบนั้นมีร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารเพียบ ถ้าต้องการจะจับจ่ายซื้อของใช้จำเป็นอาจจะต้องออกไปไกลซักหน่อย ซึ่งในรัศมีใกล้ๆ ก็มีทั้งเซนทรัลบางนา, บิ๊กซีสำโรง หรือจะเลยไปถึงเมกะบางนาเลยก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ยังมีโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอยู่ใกล้ๆ สำหรับครอบครัวที่มีลูกอยู่ในวัยเรียน จึงค่อนข้างสะดวกถ้าเลือกเข้าเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตค่อนข้างมากนะครับ เฉลี่ยแล้วเกือบๆ 30 ห้องเห็นจะได้ กับการที่มีลิฟท์โดยสารแค่ 2 ตัว อาจจะน้อยไปซักหน่อย รวมถึงที่จอดรถด้วย ซึ่งมีมาแค่ 40% ดูยังไงแล้วก็ไม่พอจอดจริงๆ แน่นอน ลูกบ้านที่มีรถส่วนตัวคงต้องเตรียมรับมือกับปัญหาการแย่งที่จอดรถไว้ด้วยก็ดีนะครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันอาจจะต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกันหน่อย เพราะมีลูกบ้านมากกว่า 200 ห้อง ยังไงส่วนกลางก็ไม่สามารถรองรับได้หมดอยู่แล้ว อาคารรูปทรงหรูหราที่ได้รับแรงบรรดาใจมาจากมหานครนิวยอร์ค ชั้น 2-6 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดนะครับ ตกแล้วจะมียูนิตประมาณ 34 ยูนิตต่อชั้น ส่วนที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 และรอบๆ อาคาร Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 7-8 ทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่สีเขียว ยูนิตจะลดลงเหลือชั้นละประมาณ 24 ยูนิต พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างของโครงการ Manhattan Park Peninsula มีให้ชมเพียงแค่แบบเดียว คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ในขนาด 31 ตร.ม.  เปิดประตูเข้าห้องมาก็จะเจอในส่วนของ Living Area ก่อน บริเวณนี้วางชุดโซฟาเล็กๆ ได้หนึ่งชุด แล้วยังพอเหลือพื้นที่อีกเล็กน้อยให้วางตู้เก็บของหรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้ ส่วนผนังอีกด้านเป็นชั้นวางทีวีซึ่งอยู่ในระยะที่กำลังดูทีวีได้พอเหมาะพอดี ด้านหลังชั้นวางทีวีเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีการกั้นพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกให้ แต่ทางโครงการไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะครับต้องติดตั้งกันเอง ถ้าประหยัดหน่อยก็เลือกติดเป็นผ้าม่านพลาสติกแทนได้ แต่เรื่องความสวยงามอาจจะลดน้อยลงไป โซนด้านในห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอนและห้องครัวซึ่งวางอยู่ในแนวเดียวกัน มาดูที่ห้องนอนกันก่อน ประตูห้องนอนเป็นประตูบานสวิงแบบปกติทั่วไปนะครับ เปิดเข้าห้องมากก็จะเห็นพื้นที่ในห้องที่ค่อนข้างกระทัดรัด วางเตียง 5 ฟุตลงไปแล้วก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีก ในห้องจึงมีเพียงตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งไว้เป็นมุมแต่งตัวได้อีกนิดหน่อยเท่านั้น ตัวห้องครัวแยกไว้เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทางโครงการให้ความสำคัญกับห้องครัวด้วยการจัดพื้นที่ของห้องครัวไว้กว้างพอสมควรเลยถ้าเทียบกับขนาดห้อง เพราะนอกจากเคาน์เตอร์ครัวและชั้นวางของที่ติดตั้งมาให้แล้ว ในครัวยังเหลือพื้นที่มากพอให้วางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่ได้อีกชุดโดยที่ยังเหลือที่ให้เดินได้อย่างสบายๆ ห้องตัวมีพื้นที่ติดกับระเบียงจึงสามารถเปิดประตูออกเพื่อช่วยระบายกลิ่นจากการทำอาหารได้ และบริเวณระเบียงก็อีกนิดหน่อยให้พอวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้บ้าง จริงๆ แล้ว Lay out ห้องที่มีโชว์ให้ดู ก็ไม่ได้แปลกแตกต่างจากโครงอื่นๆ มากนัก ถึงจะบอกว่าห้องตัวอย่างนี้มีขนาดกว้างถึง 31 ตร.ม. แล้วก็ตาม แต่บรรยากาศภายในห้องกลับให้ความรู้สึกว่าห้องแคบกว่าที่ควรจะเป็น อาจจะเนื่องด้วยการจัดสรรพื้นที่ หรือการเลือกใช้สีและเฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่าง ที่ทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเป็นห้องจริงคงอยู่ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้วทางโครงการขายห้องมาแบบห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรแถมมาให้มากนอกจากชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์จาก SB Furniture เท่านั้น ซึ่งน่าผิดหวังอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะจากความคาดหวังแรกตอนเห็นหน้าตาอาคารของ Manhattan และสำนักงานขายที่ภายนอกดูหรูหราอลังการ แต่แบบห้องและห้องตัวอย่างที่โชว์กลับดูไม่สมฐานะเอาซะเลย งานนี้คงต้องอาศัยไอเดียและทักษะในการตกแต่งห้องตามสไตล์ส่วนตัวของเจ้าของห้องล่ะครับ ว่าจะทำให้ห้องตัวเองสวยสะดุดตาน่าอยู่ได้มากแค่ไหน ห้อง Type A 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับส่วนของ Living Area ก่อนนะครับ มุมนี้จะเป็นมุมที่มองจากโซฟาไปยังชั้นวางทีวี ที่เห็นเป็นห้องอยู่ข้างๆ นั่นคือห้องน้ำนะครับ มองกลับมาฝั่งที่วางโซฟาบ้างนะครับ เสียดายวันที่เข้าไปโครงการไม่ได้เอาโซฟามาวางด้วย จากส่วนของ Living Area ไปด้านในจะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน และห้องครัวครับ มาดูที่ห้องน้ำกันก่อนนะครับ โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าทรงกลม ส่วนอาบน้ำนะครับ อย่างที่บอกว่าทางโครงการไม่ได้ติดประตูบานเลื่อนมาให้ด้วยนะครับ เพียงเพียงขอบปูนกั้นระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้ง มาต่อกันที่ห้องนอนนะครับ ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ครับ พื้นที่ปลายเตียงจะมีพื้นที่ว่างเหลือเพียงเล็กน้อย หากต้องการวางทีวีอาจจะต้องใช้แบบแขวนเอาครับ ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่ด้านซ้ายของเตียง และสุดท้ายคือห้องครัวนะครับ ห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดกั้นไว้ ฝั่งซ้ายจะเป็นเค้าเตอร์ครัว ส่วนทางขวาจะเป็นโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ท่าน ภายในครัวจะเป็นเค้าเตอร์ทำอาคาร และมีชั้นลอยเก็บของอยู่ด้านบนครับ แต่จะไม่มีช่องใส่ไมโครเวฟให้นะครับ อาจจะต้องวางไว้ข้างๆ ผนัง ตำแหน่งของตู้เย้นอยู่ด้านในสุดติดกับระเบียง ซิ้งค์ล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้าของ MEX Type B แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 39 ตารางเมตร Type C แบบ 1 ห้องนอนขนาด 24 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน เจ้าของโครงการ Manhattan Park Peninsula ถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบภาพลักษณ์ภายนอกอาคารมีความโดดเด่นมาก ซึ่งถือว่าเป็นตัวดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่การออกแบบภายในห้องพักกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญในการตกแต่งห้องตัวอย่างให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่หรูหราภายนอกเท่าที่ควร ทำให้ความประทับใจแรกที่เห็นจากภายนอกสำนักงานขายลดลงไปอย่างน่าใจหาย เรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ลึกเข้ามาในซอยแบริ่ง 13 ทำให้บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบเป็นส่วนตัวมาก จึงค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากเกินจะเดินได้สะดวก แถมบริเวณใกล้ๆ ยังไม่ค่อยมีร้านค้า ร้านอาหารให้พึ่งพามากนัก เพราะเป็นแหล่งชุมชนและแหล่งอุตสากรรมขนาดเล็กเสียมากกว่า ต่างจากโซนปากซอยแบริ่งที่มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารให้เลือกหลากหลายมากกว่ามาก ทำให้ทำเลนี้อาจจะหาคนเช่ายากหน่อย เพราะมีโครงการอื่นๆ ที่อยู่ค่อนทางปากซอยสุขุมวิท 107 อีกมากเป็นตัวเปรียบเทียบ การหวังจะลงทุนห้องปล่อยเช่าจึงอาจจะได้ผลตอบแทนช้า หรือไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรก็ได้ครับ
WIRE RATCHADA 19  : รีวิวคอนโด

WIRE RATCHADA 19  : รีวิวคอนโด

WIRE RATCHADA 19 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โครงการใหม่ใจกลางรัชดา ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อย เพียง 46 ยูนิต ใกล้ MRT รัชดาภิเษกเพียง 300 เมตร รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 92,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท พีดับบลิวเค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 46 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 0 - 1 - 49 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ซอยรัชดาภิเษก 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ AIA Capital Market Center เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ สวนจตุจักร ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 27.19 - 30.78 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 31.22 - 48.22 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 48.66 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง Shutter Bus Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 094-589-5959 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.wirecondo.com
Aspire สาทร – ท่าพระ : รีวิวคอนโด

Aspire สาทร – ท่าพระ : รีวิวคอนโด

Aspire สาทร - ท่าพระ คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น โครงการใหม่จากเอพี ที่ร่วมทุนกับ Mitsubishi Estate Group จากประเทศญี่ปุ่น คอนโดรุ่นใหม่เพียงก้าวเดียวสู่ BTS ตลาดพลู เปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่ 22-26 ตุลาคม 2557 ในงาน AP Space Odyssey ณ ลานพาร์คพารากอน ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 1,980,000 บาท (ณ วันเปิดตัว 23 ก.ย. 57) ราคาต่อตารางเมตร 84,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 1,219 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 5 - 1 - 20.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนราชพฤกษ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 443 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ปีที่สร้างเสร็จ ไตรมาส 4 ปี 2559 แผนที่โครงการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง เดอะ มอลล์ ท่าพระ The Circle Asiatique ตลาดพลู โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 26.5 - 30.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 38 - 46 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง ลิฟท์โดยสาร 6 ตัว ลิฟท์ดับเพลิง 1 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.apthai.com
รีวิวคอนโด ติวานนท์ “Amber by Eastern Star”

รีวิวคอนโด ติวานนท์ “Amber by Eastern Star”

เคยผ่านมาดูคอนโดแนวรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงถนนกรุงเทพ - นนท์ ก็หลายครั้งแล้ว ซึ่งทำเลในแถบนี้ยังคงมีคอนโดโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เลยจะพาไปดูอีกโครงการใกล้กับรถไฟฟ้า สายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ ถ้าใครได้ผ่านมาบนถนนสายนี้อาจจะพอคุ้นตากับป้ายโครงการ Amber By Eastern Star กันบ้าง การเดินทาง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแยกติวานนท์เพียง 50 เมตรดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ถ้าหากว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในปี 2559 ในอนาคตอันใกล้การเดินทางเข้าออกเมืองก็จะประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น   ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีเส้นทางให้เลี่ยงได้หลายทางเหมือนกัน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ-นนท์ ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับถนนหลายเส้น เริ่มตั้งแต่ด่านทางด่วนงามวงศ์วานและด่วนประชานุกูล ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางเข้าออกเมืองให้รวดเร็วกว่าเส้นทางปกติ หรือถ้าจะใช้ถนนรัชดาภิเษกก็วิ่งกันได้ยาวๆ ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำก็มีทั้งสะพานพระราม 7 ข้ามมาฝั่งจรัญสนิทวงศ์ได้ รวมถึงสะพานพระราม 5 ก็เป็นอีกเส้นที่เลี่ยงไปออกถนนราชพฤกษ์ได้เช่นกัน รวมถึงถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนนครอินทร์ ถนนงามวงศ์วาน ถนนประชาชื่น และถนนวิภาวดี ดังนั้นใครที่มีรถส่วนตัวอยู่แล้วก็ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบถ้าเลือกซื้อห้องในทำเลแถบนี้ เพราะยังไงก็มีเส้นทางเข้า-ออกเมืองได้หลากหลาย ติดก็แค่เรื่องการจราจรที่ติดขัดเอาการ ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า หรือตอนเย็น เผลอๆ ติดไม่เว้นวันหยุดอีก จะขับรถไปไหนมาไหนก็ต้องทำใจเผื่อเวลากันมากหน่อย   แต่ถ้าเลือกเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน หรือบริการรถสาธารณะก็สามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว เพราะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย แถมป้ายรถเมล์ก็อยู่หน้าโครงการเลย ไปไหนมาไหนในระยะใกล้ๆ จึงสะดวกมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ถัดออกไปไม่ไกล รวมถึงรถแท็กซี่ก็หาเรียกได้ไม่ยากอีกด้วย เสียแต่ว่าการจราจรบริเวณนี้ค่อนข้างจะติดหนัก ก็ได้แต่ลุ้นว่าถ้ารถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้เมื่อไหร่อะไรๆ ก็จะดีขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย   แผนที่โครงการ คอนโด ติวานนท์ แผนที่รอบๆ โครงการครับ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้ MRT แยกติวานนท์ ประมาณ 50 เมตรนะครับ การเดินทางวันนี้ผมขอเริ่มจากถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกวงศ์สว่างนะครับ ตรงนี้จะเป็นสะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ ให้เบี่ยงออกทางซ้าย เพื่อไปรอเลี้ยวขวาที่แยกวงศ์สว่างนะครับ ตรงนี้คือสี่แยกวงศ์สว่าง ให้เลี้ยวขวาไปทางนนทบุรีนะครับ ถ้าตรงไปจะไปทางสะพานพระราม 7 ถ้าใครขับเลยขึ้นสะพานข้ามแยกนี้ไปต้องไปกลับรถใต้สะพานพระราม 7 เลยนะครับ พอเลี้ยวขวามาแล้วก็จะเจอกับ MRT สถานีวงศ์สว่างเลยนะครับ ให้ขับตรงไปอีก สถานีถัดไปก็จะเป็นสถานีแยกติวานนท์แล้วล่ะครับ ขับตรงมาอีกประมาณ 1.7 กม. ก็จะถึงสถานีแยกติวานนท์แล้วนะครับ แต่สำนักงานขายของโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องตรงไปอีกหน่อยเพื่อกลับรถนะครับ ถึงแล้วครับ สำนักงานขายโครงการ วิเคราะห์ตัวโครงการ คอนโด ติวานนท์ ทำเลที่ตั้งของโครงการ Amber by Eastern Star ตั้งอยู่ในเขตชุมชนที่อยู่อาศัยเดิม ซึ่งมีอาคารพาณิชย์ และร้านค้ารายล้อมอยู่พอสมควร ถึงจะไม่ได้สะดวกครบครันแต่ก็ไม่ถือว่าลำบากเลย เพราะติดๆ กันกับหน้าโครงการมีทั้งร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถัดไปในซอยใกล้ๆ ก็มีร้านอาหารแผงลอยเปิดขายในช่วงกลางวัน เพราะในซอยมีโรงงานอยู่ ตอนกลางวันจนถึงเย็นๆ จึงยังพอหาของกินได้ไม่ยาก เลยไปอีกหน่อยบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ก็มีรถเข็นขายอาหารในช่วงเย็นถึงค่ำอีกหลายร้าน หรือถ้าอยากซื้อขนมนมเนยและข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ติดๆ กับที่ตั้งโครงการก็มีร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ ถึงจะไม่ได้อยู่ในทำเลที่ผู้คนพลุกพล่านมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดหาอะไรไม่ได้เลยนะครับ เพราะในบริเวณรอบๆ มีทั้ง The Mall งามวงศ์วาน, Central รัตนาธิเบศร์, Big C  หรือถ้าจะเลยไปถึง Central ลาดพร้าวก็ถือว่าไปได้ไม่ยากนัก อาหารการกินถ้าเลยมาทางหน้ากระทรวงสาธารณสุขก็จะมีให้ร้านค้าให้เลือกมากมายเข้าขั้นอุดมสมบูรณ์มาก รวมถึงโรงพยาบาลนนทเวช โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็อยู่ไม่ไกลนัก ดังนั้นบริเวณรอบๆ นี้จึงถือว่าค่อนข้างพร้อมกับการอยู่อาศัยดีทีเดียว   เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าเลย จึงทำให้โครงการนี้เป็นที่น่าสนใจมากพอสมควร อีกทั้งเจ้าของโครงการยังเป็น Developer รายใหญ่ มีความน่าเชื่อถือสูงจึงไว้วางใจได้ว่าจะไม่มีการทิ้งงาน ถ้าใครเคยเห็นโบรชัวร์โครงการ หรือได้เข้าไปดูโมเดลตึกที่สำนักงานขายแล้ว จะเห็นว่า Amber By Eastern Star มีดีไซน์อาคารที่สะดุดตา น่าสนใจมาก ทั้งการเล่นระดับให้ลดหลั่นลงมา และจัดเป็นสวนลอยฟ้าไว้ในหลายๆ ชั้น รวมถึงหน้าตาอาคารที่เหมือนจรวดดูทันสมัยจึงดึงดูดใจผู้ที่พบเห็นได้ไม่ยาก ตัวตึกเป็นอาคาร High Rise สูง 37 ชั้น มียูนิตรวมทั้งหมด 563 ยูนิต โดยพื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ ซึ่งรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันที่ชั้น 5 ส่วนพื้นที่สีเขียวก็มีทั้งสวนลอยฟ้าที่อยู่ตามชั้นต่างๆ ที่ลดหลั่นกันลงมาตามการออกแบบอาคาร แต่ยังไม่รู้เลยนะครับว่า ถ้าทางโครงการเลือกใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบล็อคชั้น ลูกบ้านแต่ละห้องจะสามารถขึ้นไปใช้สวนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งตึกได้หรือไม่ หรือจะขึ้นได้เฉพาะชั้นที่เป็นห้องตัวเอง ส่วนเรื่องที่จอดรถนั้น ทางโครงการจัดพื้นที่ไว้ให้ตั้งแต่ชั้น 1-4 ซึ่งสามารถรองรับรถได้จำนวน 189 คัน (ไม่นับรวมจอดซ้อนคัน) อาจจะเพราะทางโครงการต้องการเน้นกลุ่มคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยติดกับรถไฟฟ้าและใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักในการเดินทาง เรื่องที่จอดรถจึงไม่ค่อยเน้นจำนวนเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่มีรถส่วนตัวต้องใช้อยู่เป็นประจำเรื่องที่จอดรถของโครงการดูจะน่าเป็นห่วงว่าจะต้องแย่งกันจอดกับลูกบ้านคนอื่นๆ ถ้าที่จอดรถไม่พอขึ้นมาจริงๆ อันนี้มีปัญหาตามมาแน่ๆ พิจารณากันให้ดีๆ นะครับ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ที่มีระบบ CCTV ครอบคลุมทุกพื้นที่โครงการ รวมถึง Digital Door Locked ที่มีให้ทุกห้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ ไม่มากไม่น้อยไปจัดว่าแค่เพียงพอต่อการใช้งานขั้นพื้นฐานครับ รูปร่างหน้าตาของอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โมเดลจำลองของโครงการครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้น 5 ครับ สวนลอยฟ้าที่กระจายกันอยู่ตามชั้นต่างๆ สวนสีเขียวด้านหน้าโครงการ เราเปลี่ยนมาดูรอบๆ โครงการกันบ้างนะครับ ฝั่งตรงข้ามจะเห็นสำนักงานขายของโครงการ Bangkok Horizon ของ CMC ตั้งอยู่ด้วยนะครับ ซึ่งโครงการนี้เป็นคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น ความสูงจะพอๆ กับ Amber เลยนะครับ เดินเลยที่ตั้งโครงการมาอีกหน่อย ก็จะมี Family Mart ให้ได้ฝากท้องกันด้วยนะครับ ตั้งอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้านี่เลย ที่ติดกับ Family Mart ก็จะเป็นทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าครับ มีพี่วินไว้ให้บริการด้วยนะครับ เผื่อใครขี้เกียจขับรถไปซื้อของที่บิ๊กซี พาชมห้องตัวอย่าง คอนโด ติวานนท์ Amber By Eastern Star มีห้องให้เลือกด้วยกัน 2 แบบครับ คือ ห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33-37 ตร.ม. และห้องแบบ 2 ห้องนอน ที่ขนาดพื้นที่ 55-76 ตร.ม. จุดเด่นของห้องที่นี่คือ ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร รวมถึงทิศทางของตึกที่วางตัวตามลักษณะที่ดิน ทำให้ห้องส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทิศเหนือและใต้ และได้วิวมุมสูงที่ค่อนข้างเต็มตาเลยทีเดียว เราไปดูห้องตัวอย่างในสำนักงานขายกันเลยดีกว่า เริ่มด้วยห้อง Type A4 ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอพื้นที่ของครัวที่อยู่หลังประตูห้องก่อนเลย Pantry ครัวจะอยู่ทางด้านขวามือ เปิดครัวเปิดเล็กๆ ที่เหมาะกับการเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าการทำครัวแบบจริงจัง ไม่อย่างนั้น กลิ่นกับข้าวคงได้กระจายไปทั่วห้อง ถัดจากครัวเข้ามาก็เป็นพื้นที่นั่งเล่น มุมนี้เอาไว้นั่งดูทีวีสบายๆ ในระยะที่กำลังพอดีสำหรับทีวีขนาดไม่เกิน 42 นิ้ว เพราะระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีมีไม่มากนัก ส่วนพื้นที่ติดหน้าต่างที่เป็นส่วนพิเศษหน่อย เนื่องจากเป็นกระจกเข้ามุมทำให้เปิดรับแสงและวิวได้มากขึ้น มุมนี้สามารถวาง Day Bed ซักตัว หรือจะจัดเป็นมุมนั่งทำงานก็ได้อีกเช่นกัน  ส่วนอีกด้านของห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัว พื้นที่ในห้องนอนค่อนข้างแคบนะครับ วางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็เหลือที่ปลายเตียงอีกนิดเดียวจนแทบจะเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หน้าห้องน้ำจัดเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้  ส่วนในห้องน้ำก็จัดแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกไว้เรียบร้อยด้วยกระจกเทมเปอร์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปครับ ไม่ได้หรูหราอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ข้อเสียสำคัญของห้อง Type นี้ก็คือ ไม่มีระเบียง!! ในขณะที่ในห้องเตรียมตำแหน่งติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้แล้วที่เคาน์เตอร์ครัว ซึ่งผมยังนึกไม่ออกว่าซักผ้าเสร็จแล้วจะเอาผ้าไปตากที่ไหน   เราไปดูห้อง Type B 2 ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนกันบ้างดีกว่า เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอพื้นที่ครัว และห้องนั่งเล่นแทบไม่ต่างกับห้องแบบแรกเลยทีเดียว  แต่ห้อง Type นี้มีระเบียงนะครับ อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นพอดี ถึงพื้นที่ระเบียงจะไม่ได้กว้างมาก แต่ก็พอจะวางเครื่องซักผ้าได้พอดี ซึ่งทางโครงการก็ทำระแนงเหล็กบังตาไว้ให้เรียบร้อย  ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้อยู่เหนือเครื่องซักผ้าได้พอดี ถัดเข้ามาที่โซนด้านในซึ่งเป็นพื้นที่ของห้องนอน เราจะเจอกับห้องนอนเล็กก่อนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ พื้นที่ของห้องนอนเล็กก็เล็กสมชื่อ ลักษณะห้องออกไปในแนวยาว วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วก็มีที่ให้ตกแต่งได้อีกนิดหน่อย ในห้องตัวอย่างทางโครงการตกแต่งห้องนี้ให้เป็นห้องทำงาน และมุมพักผ่อนเพิ่มเติม โดยผนังห้องส่วนหนึ่งเป็นกระจกใส และไม่มีบานประตู จึงให้ความรู้สึกว่าห้องกว้างขึ้น แต่ของจริงผนังจะเป็นผนังปูนตามปกตินะครับ ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งมีห้องน้ำอยู่ในตัว  พื้นที่ในห้องนอนก็กว้างขึ้นเล็กน้อย แต่ก็แทบจะไม่รู้สึกเท่าไรนัก เพราะมีเหลี่ยมมุมของเสาอาคารที่จำกัดพื้นที่การตกแต่ง พอวางเตียงลงไปแล้ว ปลายเตียงก็เหลือที่ว่างแค่พอให้เดินได้เท่านั้น จะว่างชั้นเก็บของ หรือจะตกแต่งอะไรเพิ่มเติมก็ทำได้ยาก อย่างมากก็ทำได้แค่แขวนทีวีอีกเครื่องเท่านั้น เอาเป็นว่าพื้นที่โดยรวมแค่พอใช้งานได้เท่านั้นนะครับ ถ้ามีสมบัติเยอะเข้าขั้นนักสะสมคงไม่มีที่ให้เก็บของแน่ๆ   จากที่ได้ชมห้องตัวอย่างมาก ต้องบอกว่าการออกแบบภายในยังขาดๆ เกินๆ อยู่ การตกแต่งห้องให้ลงตัวคงทำได้ยากซักหน่อย ที่สำคัญทางโครงการก็ขายห้องมาให้แบบห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ตามแบบห้องตัวอย่างแถมมาให้ด้วย จะมีก็แค่ ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้นที่ได้มาพร้อมห้อง ซึ่งวัสดุที่ทางโครงการเลือกมานั้นค่อนข้างธรรมดามากเมื่อเทียบกับห้องในระดับนี้ และภาพความหรูหราที่คาดหวังเอาไว้จากที่ได้เห็นรูปแบบอาคารก็ถูกลดทอนลงไปมากเลยทีเดียว เรามาเริ่มกันที่ Type A แบบ 1 ห้องนอนกันก่อนนะครับ เมื่อเปิดประตุเข้ามาแล้ว จะเจอส่วนของครัวก่อนเลย จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ เหมาะกับการเตรียมอาหารมากกว่าการทำทานเอง เคาน์เตอร์ครัวจะค่อนข้างจะเล็กนะครับ อย่างที่บอกว่าเหมาะสำหรับการเตรียมอาหารมากกว่า เพราะไม่มีเตาไฟฟ้า และฮูดดูดควันให้ด้วย มีช่องวางเครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่างนะครับ อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านครับ ส่วนถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีไม่มากนะครับ วางทีวีขนาดไม่เกิน 42 นิ้ว กำลังดีครับ มองมุมกลับออกมาหน้าห้องนะครับ เรามาดูที่ห้องนอนกันบ้างนะครับ ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังพอดีนะครับ จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้เดินนิดหน่อย ส่วนทีวีต้องแขวนผนังเหมือนห้องตัวอย่างแทนครับ ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าห้องน้ำนะครับ ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard ส่วนอาบน้ำจะแยกเป็นสัดส่วนมีนะครับ กระจกเทมเปอร์กั้นส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ชุดฝักบัวที่ได้ครับ มาดูแบบ 2 ห้องนอนกันบ้างนะครับ เปิดเข้ามาก็จะเจอครัวอีกเหมือนกันครับ จะคล้ายๆ กับ Type A แต่จะไม่มีช่องใส่เครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่างแล้วนะครับ โต๊ะทานอาหารก็จะมาอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเลย ตู้เย็นจะวางอยู่ติดผนังเดียวกันกับประตูห้องเลยนะครับ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area ส่วน Living Area จะอยู่ติดกับระเบียงเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีจะพอๆ กับห้อง Type A เลยครับ ส่วนของระเบียงจะกว้างประมาณนี้นะครับ ด้านซ้ายของระเบียงจะเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า คอมเพรสเซอร์แอร์จะวางอยู่เหนือเครื่องซักผ้านี่แหละครับ เรามาดูที่ห้องนอนเล็กกันต่อนะครับ ผนังด้านหน้าห้องจะทำเป็นกระจกเข้ามุม มองออกมาก็จะเห็นส่วนครัวที่อยู่หน้าห้อง แต่ห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังปูนปกตินะครับ ดูข้างในแล้วก็เล็กสมชื่อจริงๆ ครับ วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ก็น่าจะพอแล้วนะครับ จะได้มีที่ว่างให้วางอย่างอื่นด้วย แต่ห้องตัวอย่างที่ตกแต่งให้ดู ออกจะเป็นแนวห้องทำงานมากกว่านะครับ ห้องน้ำด้านนอกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กนะครับ การวางสุขภัณฑ์จะคล้ายๆ กับห้อง Type A เลยครับ เดินเลยเข้ามาดูที่ห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ขนาดห้องก็ไม่ได้ใหญ่เหมือนชื่อเท่าไหร่นะครับ วางเตียง 5 ฟุต กำลังเหมาะครับ มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้เดินได้นิดหน่อย ทีวีก็คงต้องแขวนผนังเอานะครับ เพราะไม่มีที่เหลือพอให้วาง Sideboard หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fix นะครับ ข้างเตียงจะมีที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้นะครับ ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวอีก 1 ห้องนะครับ ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่หน้าห้องน้ำเลยนะครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็จะใช้ของ American Standard เหมือนกับห้อง Type A ครับ ส่วนเปียกก็จะแยกเป็นสัดส่วน มีบานกระจกเทมเปอร์กั้นระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ความคุ้มค่าน่าลงทุน ของคอนโด ติวานนท์ ถึงแม้ตัวโครงการ Amber By Eastern Star จะมีความน่าสนใจอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเลย แต่ด้วยขนาดห้องเริ่มต้นที่ค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้ราคาห้องสูงตามไปด้วย ซึ่งในแง่ของการลงทุนจึงทำให้ผู้ลงทุนมีต้นทุนสูงกว่าการลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกัน กว่าจะเกิด Upside Gain ก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะลงทุนห้องเพื่อขายต่อ หรือลงทุนไว้ปล่อยเช่าคงเหนื่อยหน่อย เพราะการปล่อยห้องเช่า ถ้าเปรียบเทียบกับห้องในโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียงก็ไม่ค่อยจะคุ้มค่าการลงทุนเท่าไหร่ แต่ถ้าหากมองห้องเอาไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง ห้องของ Amber ก็จะได้เปรียบเรื่องขนาดห้องที่ใหญ่กว่าทำให้อยู่สบายกว่า แถมบรรยากาศของโครงการก็ดูสงบ ร่มรื่นดี รวมถึงอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ใกล้สาธารณูปโภคต่างๆ อีกด้วย คนที่ทำงานในย่านนี้อยู่แล้ว และกำลังมองหาที่อยู่ใหม่ ที่นี่ก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าเก็บไว้พิจารณานะครับ โครงการคอนโดอื่นๆ ที่น่าสนใจ นิช โมโน ติวานนท์ The Politan Rive ยู ดีไลท์ @ บางซ่อน สเตชั่น
Chateau in Town รัชดา 20 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town รัชดา 20 : รีวิวคอนโด

ทำเลในย่านรัชดาภิเษก ซึ่งมีรถไฟฟ้าใต้ดินวิ่งผ่านยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจอยู่มาก ครั้งนี้เราเลยแวะไปดูโครงการ Chateau in Town รัชดา 20/2 ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise โครงการที่ 2 ของ CMC ที่เลือกทำเลในซอยรัชดา 20 และกำลังจะสร้างเสร็จในเร็วๆ นี้แล้ว แถมยังอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร ในระยะแค่ 350 เมตรเท่านั้น   การเดินทาง   สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารตั้งอยู่ใกล้ๆ ปากซอยรัชดา 20 พอดี เลือกออกทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีกหน่อย บริเวณปากซอยรัชดา 20 มีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้เรียกใช้บริการได้ หรือจะอาศัยสองเท้าเดินก็ทำได้ไม่ยาก เพราะระยะทางไม่ได้ไกลมากนัก แต่ถนนในซอยไม่มีทางเท้าเป็นเรื่องเป็นราว เวลาเดินๆ ก็ต้องคอยระวังรถกันบ้างนะครับ ถึงแม้ซอยนี้จะเป็นซอยเล็กและมีรถวิ่งผ่านไม่มากก็ตาม แต่ช่วงต้นๆ ซอยซึ่งเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน รถราเข้าออกขวักไขว่กันเลยทีเดียว สำหรับการเดินทางด้วยรถส่วนตัวนั้น ถ้ามาจากทางแยกลาดพร้าวก็ตรงมาทางสุทธิสารได้เลย แต่ไม่ต้องลงอุโมงค์ตรงแยกสุทธิสารนะครับ ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าซอยรัชดา 20 พอเข้าซอยมาเล็กน้อยให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง และเลี้ยวขวาตรงไปสุดซอยก็จะเจอโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 อยู่เยื้องจากโครงการแรกเข้าไปเล็กน้อย เดิมทีซอยนี้เป็นซอยตันนะครับ สุดซอยอยู่ที่กำแพงโครงการ Chateau in town รัชดา 20 พอดี ส่วนที่ตั้งของโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 จะอยู่สุดซอยสบายใจแยก 8 โชคดีที่ที่ดิน 2 ผืนนี้อยู่ติดกัน เจ้าของโครงการเลยทุบกำแพงใช้เป็นทางเข้าออกโครงการแบบส่วนตั๊วส่วนตัว ลูกบ้านโครงการนี้เลยไม่ต้องไปอ้อมมาจากทางซอยลาดพร้าว หรือซอยสุทธิสารวินิจฉัยให้ไกลอีกต่อไป ส่วนถ้าเดินทางมาจากทางแยกอโศก พอผ่านแยกสุทธิสารมาแล้วก็ต้องเลยไปกลับรถบริเวณแยกลาดพร้าวเพื่อกลับมาที่ซอยรัชดา 20 อีกครั้ง ระยะทางอาจจะไม่ได้ไกลนัก แต่ในช่วงเช้าและเย็นที่รถติดมากๆ ก็ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะผ่านฝ่าการจราจรไปได้แต่ละที นอกจากเส้นทางเข้าออกหลักๆ ทางซอยรัชดา 20 แล้ว เส้นทางในซอยนี้ยังสามารถเลี่ยงเข้าออกได้อีกหลายทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นมากๆ บริเวณแยกสุทธิสาร เช่น เส้นทางในซอยสบายใจ ที่สามารถไปลัดเลาะไปทางซอยลาดพร้าว 48 หรือออกไปที่ถนนสุทธิสารวินิจฉัย อย่างที่บอกไปข้างต้น อีกทั้งยังมีเส้นทางเข้าออกจากทางซอยรุ่งเรือง (ผ่านเข้าทางบุญถาวร) อีกทางที่ทำให้เลี่ยงออกมาที่ถนนรัชดาภิเษกได้ไกลพอที่จะลงอุโมงค์แยกสุทธิสารได้ทัน จึงช่วยประหยัดเวลาได้อีกหน่อย นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็สะดวกไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งมวลชนอย่างรถเมล์ ที่มีรถวิ่งผ่านหลายสาย เพราะถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนใหญ่ และป้ายรถเมล์ก็อยู่ตรงปากซอยรัชดา 20 พอดี เช่นเดียวกันกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และรถแท็กซี่ก็เรียกหาได้ง่ายเช่นเดียวกัน   วิเคราะห์ตัวโครงการ   ทำเลที่ตั้งของโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 ที่จัดว่าอยู่ใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางเมือง หรือบริเวณที่เป็นไข่แดงของรัชดา (บริเวณแยกรัชดา-พระราม9) เรื่องความเจริญแบบชีวิตคนเมืองจึงหายห่วง เพราะมีทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้ง รวมถึงอาคารสำนักงาน สถานศึกษา ก็อยู่ในรัศมีแวดล้อมที่สามารถเดินทางได้อย่างง่ายดาย เช่น ห้าง Central พระราม 9, Big C, Esplanade, Tesco Lotus หรือ Fortune Tower และตลาดนัดเมืองไทยภัทร ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่บนถนนรัชดาภิเษกบริเวณแยกรัชดา-พระราม 9 ส่วนทางฝั่งลาดพร้าวก็มี Central ลาดพร้าว, Union Mall, Major รัชโยธิน, สวนจตุจักร และตลาดอตก. ที่ว่ามานี้คือแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว และอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดินอีกต่างหาก นอกจากนี้บริเวณที่ตั้งโครงการก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ไม่น้อยเลย เพราะซอยรัชดา 20 เป็นแหล่งรวมสำนักงาน หน่วยงานราชการและเอกชนดังๆ หลายราย บริเวณนี้จึงคึกคักไปด้วยพนักงานออฟฟิศเกือบตลอดวัน หรือถ้าเลยไปที่ซอยสุทธิสาร ร้านค้า แผงลอยก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ อาหารการกินบริเวณนี้จึงอุดมสมบูรณ์มากครับ   มาถึงตัวโครงการกันบ้าง Chateau in town รัชดา 20/2 เป็นคอนโด Low Rise อาคารเดี่ยวสูง 8 ชั้น ซึ่งกำลังจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในอีกไม่นานนี้ เริ่มจากบริเวณชั้นล่างสุดเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถรองรับรถได้ 35 คัน (นับรวมจอดซ้อนคันแล้ว) ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เกินความคาดหวังเลยสำหรับคอนโด Low Rise ที่เกาะแนวรถไฟฟ้าแบบนี้ ถัดขึ้นไปที่บริเวณชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางซึ่งรวมสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่พักผ่อนไว้ด้วยกัน รวมถึงส่วนที่พักอาศัยก็เริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป นับรวมแล้วทั้งโครงการจะมียูนิตรวมทั้งหมด 73 ยูนิต โดยอัตราความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางก็ยังอยู่ในสัดส่วนที่รับได้ครับ ลูกบ้านแต่ละห้องมีโอกาสได้ใช้งานค่อนข้างเต็มที่ เช่นเดียวกันกับลิฟท์โดยสารที่ทางโครงการจัดมาให้เพียง 1 ตัว แต่ดูจะไม่น่าเป็นปัญหาเท่าไหร่เรื่องการใช้งาน นอกจากนี้เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งกล้อง CCTV และการใช้ Key Card เข้าออกอาคาร ตัวอาคารภายนอกไม่ได้มีการออกแบบตกแต่งที่พิเศษแตกต่างไปจากแบรนด์ Chateau in town ที่อื่นๆ มากนัก การจัดว่าตำแหน่งห้องในแต่ละชั้นเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นมีจำนวนแค่ ชั้นละ 12 ห้องเท่านั้น และโถงทางเดินยังออกแบบให้เป็นแบบ Single Corridor รูปตัว U ไม่มีเพื่อนฝั่งตรงข้ามห้องแน่นอน สำหรับภายนอกอาคารโดยรอบส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบ สูงไม่เกิน 2-3 ชั้น จะมีก็แต่อาคารฝั่งตรงข้ามโครงการที่กำลังก่อสร้างอาคารสำนักงานสูง 7-8 ชั้นเช่นเดียวกัน ห้องทางด้านทิศใต้ที่อยู่ทางด้านหน้าโครงการจึงถูกบังวิวกันไปแบบเต็มๆ ส่วนอีกด้านที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ก็จะถูกอาคารของ Chateau in town 20 ที่สร้างมาก่อนบังวิวเช่นกัน รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนสก็ตั้งอยู่ในตำแหน่งนี้ด้วย เท่าที่เล็งๆ แล้วก็คงขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้าง เพราะคนที่อยู่ตึกตรงกันข้ามสามารถมองส่องเข้ามาได้แน่นอน ส่วนทิศอื่นๆ ที่เหลือก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องวิวเท่าไหร่ครับ ถ้าเลือกห้องที่อยู่ชั้น 3 ขึ้นไปก็พ้นหลังคาบ้านข้างๆ แล้ว ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศห้องที่ค่อนข้างเงียบสงบ และไม่ต้องเสี่ยงเปิดหน้าต่างมาจ๊ะเอ๋กับตึกตรงข้าม แนะนำว่าเลือกห้องทางด้านทิศเหนือ และตะวันออกน่าจะดีที่สุดครับ   พาชมห้องตัวอย่าง   สำหรับห้องตัวอย่างของ Chateau in town รัชดา 20/2 ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจมากนัก ถ้าใครที่เคยแวะไปดูโครงการอื่นๆ ภายใต้แบรนด์นี้ก็คงพอจะนึกภาพตามได้ไม่ยาก เพราะการจัด Lay out ห้องมีความคล้ายคลึงกันมาก เปิดประตูห้องมาจะเจอส่วนของห้องครัวก่อน ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว และชั้นเก็บของมาให้เรียบร้อย รวมถึงพื้นในห้องครัวก็เลือกปูกระเบื้องเซรามิคมาให้ เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้มาสีสันค่อนข้างจะฉูดฉาดเลยทีเดียว ถ้าใครที่คิดจะแต่ห้องในสไตล์เรียบๆ อาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นห้องเปล่าๆ ที่มีแค่สุขภัณฑ์ในห้องน้ำตามมาตรฐานราคาห้อง เครื่องปรับอากาศ และพื้นลามิเนต สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมีขนาดเริ่มต้นที่ 25-42 ตร.ม. ขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้อง ห้องขนาดเล็กจะกั้นพื้นที่ห้องนอนออกจากครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อช่วยในการประหยัดพื้นที่ และไม่ทำให้ห้องดูแคบจนเกินไป ส่วนพื้นที่นั่งเล่นในห้องขนาด 25 ตร.ม. อาจไม่มีพื้นที่เหลือให้มากนัก เพราะต้องแบ่งกันใช้กับบริเวณห้องนอน จะว่าไปแล้วลักษณะห้องก็คล้ายกับห้องแบบ Studio เสียมากกว่า แต่ถ้าใครที่อยากจะได้ห้องที่กว้างขึ้น และมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกออกมาเป็นสัดส่วน ก็ต้องขยับขึ้นมาที่ห้องขนาด 35 ตร.ม. เพราะห้องแบบนี้จะกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ จึงมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกจากกันชัดเจน แต่ก็ต้องบอกว่ามีพื้นที่แค่พอใช้สอยนะครับ ไม่ได้กว้างขวางอะไรมากมาย อ้อ อีกส่วนที่ต่างจากห้องขนาดเล็กก็อีกอย่างก็คือ พื้นที่แต่งตัวซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ ห้องแบบนี้จึงได้บรรยากาศแบบ walk in closet น่าจะถูกใจคุณสาวๆ ไม่น้อยเลย นอกจากนี้ห้องแบบ 1 ห้องนอน ยังมีห้องขนาดใหญ่แบบ 42 ตร.ม. ให้เลือกด้วย รวมถึงห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 47-50 ตร.ม. เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากขึ้น   ความคุ้มค่าน่าลงทุน   ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Chateau in town รัชดา 20/2 ที่อยู่เกาะแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงเรียกความน่าสนใจได้ไม่ยาก เพราะเดินเข้ามาในซอยอีกแค่ 300 เมตร บรรยากาศโดยรอบก็เงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย ต่างจากความพลุกพล่านบริเวณถนนรัชดาภิเษกเพราะเป็นย่านธุรกิจและมีอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก การออกแบบภายในตัวอาคารอาจจะยังดูขาดๆ เกินไปบ้าง สำหรับแบรนด์ Chateau in town ห้องส่วนใหญ่มักจะมีเหลี่ยมมุมหรือมีเสาเกินมาให้เห็นแล้วขัดใจบ้าง ทำให้การหาเฟอร์นิเจอร์มาจัดวางให้ลงตัวได้ยาก บางทีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Built in แทนก็อาจจะช่วยตัดปัญหาในจุดขัดตาไปได้บ้าง นอกจากนี้เรื่องสีสันของเคาน์เตอร์ครัวก็ไม่ค่อยคลาสสิคเท่าไหร่ ใครที่ไม่ชอบสีสันฉูดฉาดตัดกันชัดเจน แบบสีเหลือง แดง ตัดกันกับสีไม้เข้มๆ อาจถึงขึ้นต้องรื้อทำใหม่ยกแผงกันไปเลย ส่วนเรื่องพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็พยายามจัดสรรมาให้ค่อนข้างเต็มที่เท่าที่โครงการขนาดเล็กจะทำได้ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และส่วนพื้นที่พักผ่อน ติดนิดหน่อยที่อาจจะขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้างในการใช้งานครับ รวมถึงเรื่องอาคารใกล้เคียงที่บังวิวในบางมุม ทำให้การเลือกตำแหน่งห้องถูกจำกัดมากขึ้นรวมถึงถ้าอยากให้ได้วิวที่พ้นหลังคาบ้านข้างๆ ขึ้นมา ก็ต้องเลือกห้องในชั้นที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาห้องสูงขึ้นตามไปด้วย   ถ้าใครที่กำลังมองหาคอนโดไว้อยู่อาศัยเอง และก็ทำงานแถบนี้อยู่แล้ว อาจจะถูกใจได้ไม่ยาก เพราะความสะดวกสบายสไตล์คนเมืองอยู่แวดล้อมรอบด้าน ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน หน่วยงานราชการ และอาคารสำนักงาน อีกทั้งการเดินทางก็จัดได้ว่าสะดวกดีทีเดียว แต่ถ้าหากคิดจะจับจองไว้สำหรับการลงทุนปล่อยห้องเช่า อาจจะมี upside gain หรือได้ผลตอบแทนไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่นัก เพราะด้วย Branding ของตัวโครงการเองก็ไม่ได้มีภาพลักษณ์หรูหรามากขนาดที่จะทำราคาค่าเช่าได้สูงๆ เลยต้องพิจารณากันให้ละเอียดรอบคอบหน่อย
Ideo Mobi วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น โครงการใหม่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์  ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย  รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,290,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 106,511 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 559 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 2 - 22.5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 201 คัน แผนที่โครงการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย สายสีม่วง สถานีบางซ่อน รถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย สายสีแดง สถานีบางซ่อน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 21.5 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 24.5 - 30 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 48 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการ Social Club สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Lounge Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th
Circle Rein สุขุมวิท 12 : รีวิวคอนโด

Circle Rein สุขุมวิท 12 : รีวิวคอนโด

Circle Rein สุขุมวิท 12 คอนโด Low Rise 8 ชั้น โครงการใหม่จาก Fragrant Property บนถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เปิด Pre-Sale วันที่ 18 ตุลาคม 2557 นี้ บรรยากาศโครงการในยามค่ำคืน ภาพมุมสุงจะเห็นสวนสีเขียวและสระว่ายน้ำที่อยู่บนดาดฟ้า รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 4,400,000 บาท (ราคา ณ วัน Pre-Sale) ราคาต่อตารางเมตร 160,000 บาท เจ้าของโครงการ Fragrant Property Co., Ltd. ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 122 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 0 - 28 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนสุขุมวิท 12 (ซอยสุขใจ) แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 70 คัน ค่าบำรุงส่วนกลาง 60 บาท/ตารางเมตร Floor Plan ชั้น 1 Floor Plan ชั้น 4-6 Floor Plan ชั้น 8 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีอโศก BTS สถานีนานา Terminal 21 Interchange Tower Time Square Tower Korean Town สวนสาธารณะ ชูวิทย์ แผนที่โครงการ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 30.73 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 47.03 - 56.73 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 70 - 89.67 ตารางเมตร 3 ห้องนอน ขนาด 155.37 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการ Shutter Bus สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า สวนสีเขียวสำหรับรับลม ชมวิว บนชั้นดาดฟ้า Fitness หน้าตาของห้องสมุดครับ Lobby   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-652-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.fragrantgroup.com
THE UNIQUE สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

THE UNIQUE สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

อีกหนึ่งโครงการบนทำเลสุขุมวิทที่เราเก็บมาฝากกันก็คือ The Unique สุขุมวิท 62/1 คอนโด Low Rise ของ Ten Thai Development ที่ตั้งโครงการอยู่กลางๆ ซอย สุขุมวิท 62/1 ซึ่งมีคอนโดอีก 2-3 รายอยู่ในซอยนี้เหมือนกัน คิดว่าคงไม่ต้องเกริ่นกันให้มากความไปดูรายละเอียดโครงการกันเลยดีกว่า การเดินทาง สำหรับ The Unique สุขุมวิท 62/1 การเดินทางไปมาจัดว่าสะดวกดี เพราะทำเลที่ตั้งโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าอยู่เนืองๆ อาศัยเดินเอาหน่อยก็เจอรถไฟฟ้า BTS สถานีบางจากแล้ว ในระยะทางไม่เกิน 750 เมตร หรือถ้าเลือกลงที่สถานีปุณวิถีก็ไกลกว่าอีกแค่ 100 เมตรเอง ไม่ว่าจะเลือกสถานีไหนก็แทบไม่ต่างกันในเรื่องระยะทางที่ต้องเดิน เพราะเดินเหนื่อยเหมือนกัน แต่การที่ที่ตั้งโครงการอยู่กึ่งกลางระหว่าง 2 สถานีก็ทำให้ได้เปรียบในเรื่องการเลือกลงรถไฟฟ้าได้ทั้ง 2 สถานี แล้วอาศัยนั่งรถต่อตามเส้นทางเดินรถเอา ก็ช่วยประหยัดเวลาและระยะมิเตอร์แท็กซี่ได้ในวันที่ขี้เกียจเดิน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ต้องบอกว่าสะดวกมากเลยทีเดียว เพราะท้ายซอยสุขุมวิท 62/1 สามารถลัดไปขึ้นทางด่วนตรงซอยสุขุมวิท 62 ได้เลย โดยที่ไม่ต้องไปเสียเวลารถติดบนถนนสุขุมวิทให้หงุดหงิดใจ ในขณะที่การเดินทางบนถนนสุขุมวิทก็เป็นเส้นทางหลักที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว จะเข้าจะออกเมืองก็เดินทางได้ไม่ยาก จุดกลับรถก็อยู่ห่างจากปากซอยไปนิดเดียว ถ้ามาจากในเมืองพอกลับรถมาแล้ว ตรงมาอีกนิดหน่อยก็เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 62/1 ได้ไม่ยาก ใครที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักถือว่าเดินทางสะดวกดีทีเดียว ถ้าไม่นับเรื่องการจราจรบนถนนสุขุมวิทที่ติดขัดหนักหนาจนเป็นกิจวัตรทั้งช่วงเช้าและเย็น ส่วนใครที่ไม่มีรถ ก็คงต้องพึ่งพารถสาธารณะกันล่ะครับ แต่ความสะดวกก็จะลดลงมาตามลำดับ เพราะยังไงๆ ก็ต้องเดินมาเรียกรถกันที่ปากซอย ทั้งแท็กซี่ รถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก็หาได้จากบริเวณปากซอยนี่แหละครับ ระยะเดินจากหน้าโครงการมาที่ปากซอยก็แค่ 420 เมตร เดินได้สบายๆ ถ้าแดดไม่ร้อน ฝนไม่ตก ก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ครับ เส้นทางรอบๆ โครงการครับ วันนี้ขอเริ่มต้นจากทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปทางบางนานะครับ ตามป้ายบางนามาเรื่อยๆ จนมาถึงทางออกถนนสุขุมวิท 62 ให้เบี่ยงซ้ายออกมาเลยครับ จากนั้นก็ตามทางโค้งซ้ายไป เพื่อเข้าถนนสุขุมวิท 62 ครับ เส้นทางนี้คือเส้นที่เราจะพาไปสำนักงานขายที่ตั้งอยู่ติดกับ BTS บางจากนะครับ แต่ถ้าหากจะไปที่ตั้งโครงการจากจุดนี้สามารถขับตรงไปเข้าด้านหลังซอยสุขุมวิท 62/1 ได้เลย เดี๋ยวเราจะพาไปดูกัน จากตรงนี้ วิ่งเลียบทางด่วนไปประมาณ 550 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการ ซึ่งจะใกล้กว่าไปเข้าทางถนนสุขุมวิท เป็นการหนีรถติดไปในตัวด้วย แต่ถนนเส้นนี้จะค่อนข้างแคบหน่อยนะครับ และในช่วงกลางคืนอาจจะมืดสักหน่อย เพราะสองข้างทางไม่มีไฟส่องสว่าง อาจจะต้องอาศัยไฟส่องสว่างจากทางด่วนแทน ขับมาเรื่อยๆ ก็จะถึงซอยสุขุมวิท 62/1 แล้วล่ะครับ ก่อนถึงซอยจะมีป้ายบอกทางลัดไปถนนสุขุมวิทของ กทม. แอบอยู่ ไม่สังเกตดีๆ อาจจะเลยได้นะครับ จากตรงนี้เข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร ก็ถึงโครงการแล้วครับ กลับมาที่ถนนสุขุมวิท 62 หลังจากลงทางด่วนมาแล้วก็ตรงยาวมาเลยครับ เมื่อออกมาเจอสายแยกแล้ว ด้านหน้าคือถนนสุขุมวิท ด้านบนคือรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสายแบริ่ง ให้เราเลี้ยวซ้ายไปทางพระโขนงนะครับ ตรงนี้ถ้าเราจะไปที่ตั้งโครงการให้เลี้ยวขวาไปได้เลยนะครับ เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว จะเจอกับ BTS สถานีบางจากทันทีครับ สำนักงานขายจะอยู่ฝั่งตรงข้ามติดกับตัวสถานีเลย ต้องตรงไปกลับรถอีกหน่อยครับ ตรงมาอีกประมาณ 600 เมตร ก็จะเจอที่กลับรถ เมื่อกลับรถมาประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอสำนักงานขายแล้วล่ะครับ ที่จอดรถจะอยู่ด้านหลัง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 97/1 ที่อยู่ข้างๆ สำนักงานขายนี่แหละครับ ที่จอดรถด้านหลังสำนักงานขาย สำหรับการเดินทางไปยังที่ตั้งของโครงการจะอยู่ห่างจากสถานี BTS บางจาก ประมาณ 750 เมตร ออกจากสำนักงานขายมาแล้ว ตรงไปทางบางนาเลยครับ ซอยสุขุมวิท 62/1 จะอยู่ฝั่งขวามือ เราจะต้องมากลับรถตรงนี้ครับ ระยะทางจากสำนักงานขายถึงตรงนี้ประมาณ 500 เมตร เมื่อกลับรถมาแล้วให้ชิดซ้ายเลยนะครับ เพราะอีกนิดเดียวก็จะถึงซอยสุขุมวิท 62/1 แล้วล่ะครับ ก่อนถึงซอยจะมีปั๊มน้ำมัน ปตท. เป็นจุดสังเกตที่เด่นชัด ทางเข้าซอยจะเล็กนิดนึงนะครับ จะอยู่ระหว่างปั๊มน้ำมัน ปตท. กับเต็นท์ขายรถมือสอง เข้ามาในซอยจะเป็นถนน 2 เลน วิ่งสวนกันแบบนี้นะครับ เนื่องจากเป็นซอยเล็กๆ ผู้คนจึงไม่พลุกพล่านเหมือนซอยในระแวงใกล้เคียง เข้ามาประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วล่ะครับ โครงการยังไม่เริ่มก่อสร้างนะครับ มีเพียงป้ายของโครงการติดไว้ด้านหน้า มองตรงออกจากก็จะเห็นถนนเลียบทางด่วนแล้วนะครับ ซึ่งเป็นเส้นทางลัดขึ้น-ลงทางด่วน สุขุมวิท 62 อย่างที่ได้บอกไว้ในตอนแรก   วิเคราะห์ตัวโครงการ ทำเลรอบโครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 ค่อนข้างเงียบสงบดีทีเดียว เพราะในซอยยังเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบสูง2-3 ชั้น เสียเกือบทั้งหมด จะมีตึกสูง 8 ชั้นอยู่บ้างก็แค่ตึกของโครงการ Chateau in Town เท่านั้น ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ดังนั้นทิศทางรอบๆ โครงการ The Unique จึงยังโล่งโปร่ง ได้วิวสบายตาดีอยู่ ส่วนในอนาคตจะมีตึกของโครงการอื่นๆ ขึ้นอีกหรือไม่อันนี้ก็ต้องไปรอลุ้นเอาครับ  ในระแวกใกล้ๆ โครงการขาดความอุดมสมบูรณ์อย่างชัดเจน แทบจะไม่มีร้านค้า ร้านอาหารให้เราพึ่งพาได้เลย ที่ใกล้ที่สุดก็ต้องเดินออกมาทางปากซอยที่ยังพอมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 อยู่ในปั๊มน้ำมัน รวมถึงร้านอาหารอีกร้านที่พอจะฝากท้องได้บ้างในช่วงกลางวันไปจนถึงเวลาค่ำๆ  นอกเหนือจากนี้ก็ต้องตั้งใจนั่งรถไฟฟ้า หรือขับรถออกไปแบบเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย การออกแบบตัวอาคารเป็นทรงโมเดิร์นสูง 8 ชั้น ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงด้วยยูนิตรวมแค่ 116 ห้องเท่านั้น ซึ่งทางโครงการเน้นน้ำหนักให้กับห้องแบบ Tri-Plex ที่มีจำนวนมากถึง 25 ห้อง ห้องส่วนใหญ่ของ Tri-Plex จะให้บรรยากาศแบบทาวน์โฮมมากกว่าคอนโด เพราะห้องฟังก์ชั่นห้องที่จัดสรรพื้นที่ในแนวดิ่ง ให้เหมือนบ้าน 3 ชั้นนั่นเอง บริเวณชั้น G จะเป็นพื้นที่ของ Lobby และ Fitness นะครับ พื้นที่อีกส่วนหนึ่งของชั้น G จะเป็นที่จอดรถส่วนกลาง และที่จอดรถของห้อง Tri-Plex แบบพิเศษที่คิดรวมที่จอดรถไว้ในโฉนดห้องด้วย ซึ่งห้องแบบนี้จะมีเพียง 7 ห้องเท่านั้นและลูกบ้านสามารถเดินขึ้นห้องตัวเองได้จากบันไดส่วนตัวตรงที่จอดรถเลย ห้องแบบนี้จึงได้อารมณ์เหมือนอยู่ทาวน์โฮมไปเต็มๆ นอกจากที่จอดรถบริเวณชั้น G แล้ว ทางโครงการยังเตรียมที่จอดรถไว้ที่ชั้นใต้ดินด้วย ซึ่งคิดรวมแล้วสามารถรองรับรถได้ทั้งหมด 72 คัน หรือคิดเป็น 62% โดยที่ยังไม่รวมการจอดซ้อนคันนะครับ ถัดขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเริ่มเป็นพื้นที่อยู่อาศัย โดยมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางตึก แต่ตำแหน่งของสระว่ายน้ำจะอยู่ต่ำกว่าพื้นชั้น 2 เล็กน้อยครับ นอกจาก Facility  ที่ทางโครงการจัดสรรสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายไว้ให้ที่ชั้นG-2 แล้ว บริเวณรอบๆ และพื้นที่นั่งเล่นที่ชั้น 6 ก็ยังมีสวนหย่อมเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สบายตามากยิ่งขึ้น เนื่องจากปริมาณห้องในแต่ละชั้นจะค่อนข้างน้อย จึงค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวมาก เรื่องลิฟท์โดยสารทางโครงการก็จัดเตรียมไว้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 58:1 ถือว่าอยู่ในระดับที่กำลังใช้ได้สบายๆ เรื่องวิวทิวทัศน์รอบๆ โครงการก็จะติดบ้านพักในบริเวณนี้เสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะให้ดีก็ต้องเลือกห้องตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไป ก็จะพอพ้นหลังคาบ้านข้างเคียงและทำให้ได้วิวที่กว้างขึ้น ส่วนคนที่ไม่แคร์เรื่องวิวมากนักห้องในชั้น 2 และ 3 ก็จัดว่าสะดวกดีเช่นกัน จะขึ้นลงห้องก็ไม่ต้องง้อลิฟท์มากนัก โมเดลฝั่งที่เป็นสระว่ายน้ำนะครับ ลักษณะตัวอาคารจะเป็นรูปตัว U มีสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวอยู่ตรงกลาง มุมมองจากด้านบนครับ ทางเข้าของของรถด้านหน้าอาคารครับ มุมอีกด้านหนึ่งของอาคารครับ ที่จอดรถที่ชั้น G จะมีบันไดเดินขึ้นห้อง Tri-Plex ที่ชั้น 2 ได้เลยครับ ที่จอดรถชั้นใต้ดิน จะจอดได้ทั้งหมด 35 คันในช่องจอดครับ ชั้น G จะเป็นที่จอดรถใต้ตึกอีก 35 คันในช่องจอด (ไม่รวมที่จอดรถส่วนตัวของห้อง Tri-Plex ที่เป็นสีเทาเข้มนะครับ) และเป็นส่วนของ Lobby และฟิตเนส หน้าตาของ Lobby ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา หน้าตาของฟิตเนสที่อยู่ชั้น G จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำที่ถูกยกสูงขึ้นมาอยู่ที่ชั้น 2 ด้านในฟิตเนส ชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนของที่พักอาศัยแล้วนะครับ โดยจะมีห้องแบบ Tri-Plex โอบล้อมสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางตึก สระว่ายน้ำบริเวณชั้น 2 ห้องแบบ Tri-Plex ที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ให้บรรยากาศเหมือนห้องแบบ Pool Villa ตามโรงแรมต่างๆ ชั้น 3 และชั้น 4 จะจัดผังคล้ายๆ กับชั้น 2 นะครับ โดยจะมีทั้งหมด 25 ยูนิต เป็นห้องแบบ Tri-Plex จำนวน 9 ยูนิต ชั้น 5 จะลดห้อง Tri-Plex ลงเหลือ 2 ห้อง ชั้น 6 มีห้อง Tri-Plex 10 ห้อง ที่เหลือเป็นแบบ 1 ห้องนอน พาชมห้องตัวอย่าง   ห้องทุกห้องทางโครงการขายกันมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์เสร็จสรรพ แถมด้วยระบบ Smart Home ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้เราสามารถควบคุมการเปิดปิดไฟในห้องผ่านระบบมือถือได้ด้วย ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่ชอบอะไรไฮเทคหน่อย รวมถึงระบบ Digital Door Lock ก็มีมาให้ทุกห้องด้วยเช่นกัน ทีนี้มาเปิดดูห้องตัวอย่างกันบ้างดีกว่า เริ่มกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่ขนาด 33 ตร.ม. เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับ Living Area ซึ่งทางโครงการจัดแต่งไว้ด้วยโต๊ะกินข้าวชุดเล็ก ตรงข้ามกับห้องครัวแบบปิดที่อยู่ทางด้านขวามือของประตูห้อง ถัดเข้าไปเป็นโซนนั่งเล่น วางชุดโซฟาดูทีวีได้ในระยะสบายๆ แถมยังเปิดรับแสงสว่างได้เต็มที่เพราะอยู่ติดกับประตูกระจกบานใหญ่ของระเบียง ซึ่งพื้นที่ระเบียงก็จัดว่ากว้างพอใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งมีห้องน้ำอยู่ในตัว ภายในห้อง Built-in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และโต๊ะเครื่องแป้งมาพร้อมแล้ว โดยรวมพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนก็พออยู่พอใช้ครับ ข้าวของไม่ต้องสะสมกันเยอะมากไม่งั้นห้องจะรกเอาง่ายๆ หน้าตาของห้องนอนค่อนข้างใหญ่และสูงเกือบเต็มผนังเลยทีเดียว ทำให้เปิดรับแสงได้ดี ส่วนในห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตรฐานครับ มีการแบ่งพื้นที่อาบน้ำไว้ด้วยประตูกระจกเทมเปอร์ และชุดสุขภัณฑ์ต่างๆ ของ American Standard ในห้องน้ำมีพื้นที่วางข้าวของเครื่องใช้น้อยไปหน่อย แถมอ่างล้างหน้าก็ยังติดตั้งไว้ชิดกำแพงเสียจนใช้งานยากไปหน่อย ถ้าเลื่อนตำแหน่งที่ติดตั้งอย่างล้างหน้าให้ห่างจากผนังอีกหน่อยน่าจะดีกว่า แล้วกระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้า ทางโครงการติดตั้งเป็นแบบธรรมดาให้นะครับ ไม่มีกล่องไฟด้านหลังแบบในห้องตัวอย่างนะ ถ้าให้ดีผมว่าสอบถามกันให้ละเอียดหน่อยว่าอะไรชิ้นไหนแถม หรือหน้าตาของจริงจะเป็นอย่างไร ทีนี้มาดูห้องแบบ Tri-Plex กันบ้าง ซึ่งห้องแบบนี้ทางโครงการชูเป็นจุดเด่นเลยทีเดียว เพราะมีน้อยโครงการที่จะจัดทำห้องแบบนี้ พื้นที่ใช้สอยของห้อง Tri-Plex มีขนาดเริ่มต้นที่ 90 ตร.ม. โดยประมาณ ในขณะที่ห้องใหญ่สุดจะมีขนาด 106 ตร.ม. แน่นอนว่าเรื่องราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ เปิดห้องมาแน่นอนว่าชั้นล่างสุดจะต้องเป็นพื้นที่ของ Living Area โดยที่แบ่งการใช้งานเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัวแบบปิด และพื้นที่รับประทานอาหาร รวมทั้งห้องน้ำเล็กอีก 1 ห้องบริเวณบันไดทางขึ้นด้านบน พอขึ้นไปที่ชั้นสองก็จะเป็นส่วนของ  Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องใหญ่สุด และมีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำในตัว บรรยากาศของห้องนอนใหญ่ให้ความรู้สึกหรูหราดีทีเดียว ถัดขึ้นไปที่ชั้น 3 จะแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้องที่อยู่ด้านนอก ซึ่งสองห้องนี้จะใช้ร่วมกัน หน้าตาห้องนอนของทั้ง 2 ห้องเหมือนกันเป๊ะแบบคู่แฝด แค่สลับฝั่งซ้ายขวาเท่านั้น พื้นที่ใช้สอยภายในห้องก็แค่พอใช้งานนะครับ ไม่ได้กว้างขวางเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ห้องนอนมากถึง 3 ห้อง อาจจะปรับเปลี่ยนให้อีกห้องเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์แทนก็ได้นะครับ อาจจะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ตรงตามความต้องการได้มากขึ้น แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร ห้องตัวอย่างจะมีใหเดู 2 แบบนะครับ คือแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร กับแบบ Tri-Plex เรามาดูแบบ 1 ห้องนอนกันก่อนดีกว่านะครับ ทุกห้องจะได้ประตูแบบ Digital Door Lock แบบนี้นะครับ หากเปิดประตูห้องมาจนสุดจะติดกับประตูกระจกบานเลื่อนของห้องครัว แบบนี้นะครับ กันกระแทกที่ประตูห้องหน้าห้องครับ พื้นห้องจะเป็นพื้นลามิเนตนะครับ อุปกรณ์ Smart Home ที่แถมมาให้ทุกห้องนะครับ สามารถสั่งเปิด-ปิดไฟ Application บนมือถือได้เลยครับ แต่จะมีลูกเล่นน้อยกว่าแบบที่แถมให้ห้องแบบ Tri-Plex ที่จะสามารถสั่งให้เปิด-ปิด ผ้าม่าน แอร์ ได้ แต่ถ้าหากอยากได้ลูกเล่นเยอะๆ ทางโครงการก็จัดให้ได้ครับ แต่ก็ต้องเพิ่มเงินอีกครับ หน้าตามของสวิทช์ไฟที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home ครับ ระบบไฟที่ประตูหน้าห้องก็ เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอโต๊ะทานอาหารตั้งอยู่เป็นด่านแรกเลยนะครับ ต่อด้วยส่วนของห้องนั่งเล่นที่ถัดเข้ามาด้านในที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ที่ตั้งอยู่หน้าประตูห้องเลยครับ ส่วนของห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงห้องเลยนะครับ โซฟาจะอยู่ห่างก ชั้นวางทีวีพร้อมชั้นลอยวางของด้านบน ขนาดของระเบียงกว้าง 2 เมตร ยาว 2.4 เมตร มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นครับ มาดูห้องครัวกันบ้างนะครับ ห้องครัวจะอยู่ด้านหน้าห้องเลยนะครับ เป็นครัวแบบปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนปิดกันกลิ่นอาหารเข้ามาในห้อง หน้าตาของครัวก็จะได้แบบนี้เลยนะครับ มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง และชั้นลอยเก็บของไว้ด้านบน อุปกรณ์ภายในครัวจะเป็นของ Teka นะครับ เริ่มจากซิงค์ล้างจาน สังเกตที่ผนังนะครับ ผนังด้านบนจะเป็นกระจก เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเวลาทำอาหารแล้วมันกระเด็นไปติดผนัง เพราะเตาไฟฟ้าจะอยู่ค่อนข้างใกล้กับผนังนะครับ Hood ดูดควันก็ของ Teka เหมือนกันครับ มาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ หน้าห้องนอนจะมีชั้นวางของ Built in อยู่ด้วยนะครับ ด้านในห้องนอนครับ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานสูงเลยนะครับ อีกมุมของห้องนอนครับ มองออกมาจะเห็นตู้เสื้ออยู่ติดกับหัวเตียง อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าห้องน้ำเลยนะครับ งั้นเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่านะ ที่ปลายเตียงจะ Built in ชั้นแขวนทีวีมาให้ด้วยนะครับ ตำแหน่งของแอร์ในห้องนอนก็อยู่ปลายเตียงนี่แหละครับ ในห้องน้ำนะครับ ส่วนอาบน้ำจะทำกระจกกั้นให้เรียบร้อย ฝักบัวที่ได้ครับ โถสุขภัณฑ์ของ American Standard อ่างล้างหน้าก็ของ American Standard เช่นกันครับ มีช่องเก็บของเล็กๆ อยู่ข้างล่างด้วย มาต่อกันที่ห้องแบบ Tri-Plex นะครับ ห้องจะถูกแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นนี้คือล่างสุดจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องครัว และมีห้องน้ำ 1 ห้องครับ ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Master Room ทั้งหมด และมีห้องน้ำใหญ่ในตัวอีก 1 ห้อง ห้องน้ำที่ห้อง Master Room นี้จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยนะครับ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home สามารถสั่งเปิด-ปิดน้ำ จาก Smartphone ของเราได้เลย ส่วนชั้นบนสุดที่ชั้น 3 จะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องนะครับ และมีห้องน้ำด้านนอกอีก 1 ห้อง มาดูข้างในกันเลยดีกว่านะครับ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วก็จะเจอส่วนของ Living Area ก่อนเลยนะครับ Living Area ค่อนข้างจะกว้างขวางโอ่อ่าให้บรรยากาศเหมือนทาวน์โฮมอย่างไงอย่างงั้น โต๊ะทานอาหารจะอยู่ด้านหน้าห้องเลยนะครับ แอร์ที่ติดมาให้ที่ชั้นล่างจะเป็นแอร์ฝังแบบนี้นะครับ โต๊ะทานอาหารขนาด 6 ท่านครับ มองย้อนออกไปที่หน้าห้อง ด้านหลังโต๊ะทานอาหารจะมี Built in ตู้โชว์มาให้ด้วยนะครับ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องครัวนะครับ อยู่ด้านห้นาห้อง คนละฝั่งกับโต๊ะทานอาหารครับ ครัวจะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนเปิด-ปิด ตัวท็อปครัวก็จะคล้ายๆ กับครัวของแบบ 1 ห้องนอนนะครับ แต่จะสลับกันตรงที่เตาไฟฟ้าจะไม่อยู่ชิดผนังเหมือนเดิม แต่จะมาอยู่ติดตู้เย็นแทน มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่างนะครับ มาพร้อมฮูดดูดครัวและชั้นลอยเก็บของ ส่วนของระเบียงครับ ออกมาด้านนอกส่วนของ Living Area ชั้นวางทีวีที่ Built in มาให้จะโชว์ทีวีแบบแขวน แต่ถ้าไม่ชอบแขวนก็มีชั้นเล็กๆ ให้วางได้เหมือนกันครับ ชุดโซฟา ส่วนห้องน้ำจะแอบอยู่ด้านหลังทีวีนะครับ ห้องน้ำที่ชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำเล็กๆ นะครับ ไม่มีส่วนอาบน้ำ หน้าห้องน้ำจะเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ที่ว่างใต้บันไดสามารถดัดแปลงเป็นที่เก็บของเล็กๆ ได้ครับ ไฟที่บันไดจะเป็นระบบเซ็นเซอร์นะครับ เมื่อเราก้าวขึ้นบันไดไฟถึงจะติด อันนี้ทางโครงการติดมาให้ดูเฉยๆ นะครับ ไม่ได้แถมให้ด้วย เดี๋ยวเราเดินขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อเลยนะครับ ชั้น 2 เป็น Master Room นะครับ เตียงจะถูกวางไว้ติดกับหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่หัวเตียงทั้ง 2 ด้าน จะติดโคมไฟอ่านหนังสือดีไซน์เก๋มาให้ด้วยนะครับ ด้านปลายเตียงจะมีพื้นที่เหลือพอให้ Built in ชั้นวางทีวีได้ครับ ตำแหน่งของแอร์ก็จะอยู่ที่ปลายเตียงครับ ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ข้างเตียงอีกฝั่งนะครับ เป็นตู้ Built in แบบเต็มผนัง ด้านข้างก็จะเป็นห้องน้ำ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ ด้านในห้องน้ำครับ โถสุขภัณฑ์เป็นแบบถังพักน้ำซ่อนผนัง อ่างล้างหน้า มีช่องเก็บของด้านล่างด้วยนะครับ กระจกส่องหน้าบานใหญ่ใช้ได้เลยครับ ส่วนอาบน้ำจะมีประตูกระจกกั้นนะครับ มีอ่างอาบน้ำอย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่าสามารถควบคุมได้ด้วยระบบ Smart Home ติดตั้งให้ด้วย หรือจะยืนอาบก้มีชุดฝักบัวให้นะครับ ชุดฝักบัวที่ได้ครับ เราขึ้นไปต่อกันที่ชั้น 3 เลยดีกว่าครับ มองมุมกลับลงมา บันไดจะค่อนข้างแคบนะครับ เดินสวนกันอาจจะลำบากหน่อย เมื่อขึ้นมาแล้วจะมีโถงเล็กๆ ก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องนะครับ โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องที่ชั้น 3 นี้ จะวาง Lay Out เหมือนกันเป๊ะเลยนะครับ จะแตกต่างกันที่โทนสีเท่านั้น ว่าแล้วเราไปดูห้องแรกกันก่อนเลยดีกว่าครับ ห้องนอนแรก โทนสีจะออก Soft หน่อยนะครับ มี Built in ทีวีแบบแขวนไว้ที่ปลายเตียง เตียงจะติดกับหน้าต่างเลยนะครับ จะมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือเพียงเล็กน้อย หน้าต่างจะเป็นบานสูงตั้งแต่พื้นจะเกือบถึงฝ้าด้านบนเลยครับ พื้นที่ปลายเตียงเหลือเล็กน้อย ตู้เสื้อผ้าจะถูกวางไว้ด้านหน้าประตูห้องแบบนี้ครับ มาดูอีกห้องนะครับ อย่างที่บอกว่าการวาง Lay Out จะเหมือนกันเป๊ะๆ เลยครับ โดยหันหัวเตียงเข้าหาผนังเดียวกัน ตู้เสื้อผ้าก็วางไว้ตำแหน่งเดียวกันครับ มองออกไปก็จะเป็นห้องน้ำ โดยทั้ง 2 ห้องนี้จะมีห้องน้ำร่วมกัน 1 ห้อง เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำกันเลยครับ ห้องสุดท้ายแล้ว ห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ห้องเลยนะครับ เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบว่าใครจะเดินไกลกว่ากัน เค้าเตอร์อ่างล้างหน้าครับ เค้าเตอร์อ่างล้างหน้าจะเป็นรูปตัว L นะครับ ทำให้มีพื่นที่วางเครื่องสำอางของคุณผู้หญิงได้เยอะหน่อย แถมมีตู้ลอยติดให้อีกด้วย โถสุขภัณฑ์ค่อนข้างจะกว้างนะครับ ห้องอาบน้ำที่ชั้นนี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำให้นะครับ แต่จะมี Rain Shower แทนครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับโครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้า และมีการเดินทางที่สะดวก ใกล้ทั้งทางด่วน และถนนสายหลักๆ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในทำเลที่ค่อนไปทางสุขุมวิทตอนปลายแล้วก็ตาม แต่ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทั้งในแง่ของการเดินทางด้วยรถส่วนตัว และการพึ่งพารถไฟฟ้าบ้างเป็นครั้งคราว เพราะที่ตั้งโครงการเองก็ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากนัก บรรยากาศโดยรอบโครงการเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ก็ต้องแลกกับความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบาย เนื่องจากไม่มีค่อยมีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาในระยะใกล้ๆ เท่าไหร่ ยิ่งทางโครงการพยายามชุดจุดขายด้วยห้องแบบ Tri-Plex ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยในระดับ 100 ตร.ม. โดยประมาณ จึงทำให้กลุ่มคนที่ต้องการห้องเล็กๆ หรือมองหาช่องทางไว้ลงทุนมีโอกาสค่อนข้างน้อย เพราะในซอยเดียวกันก็ยังมีคอนโดรายอื่นๆ อย่าง Chateau in town ที่เน้นขายห้องขนาดเล็กในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าอยู่ด้วย ดังนั้นถ้าจะหาห้องไว้ลงทุนปล่อยเช่น โครงการอื่นจึงเป็นตัวเปรียบเทียบที่อาจทำให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากกว่า แต่ถ้าใครที่ชอบที่อยู่อาศัยแบบมีไลฟ์สไตล์หน่อย และอยากได้ความสะดวกสบายด้านเทคโนโลยีภายในห้อง ห้องของโครงการThe Unique ก็อาจจะสะดุดตา สะดุดใจมากหน่อย แต่ยังไงก็แนะนำให้มาดูห้องตัวอย่างและทำเลที่จะสร้างจริงด้วยตัวเองดีกว่าครับ ของแบบนี้ต้องเลือกกันมากหน่อย เพื่อให้ได้ห้องที่ถูกใจและคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด
hasu HAUS : รีวิวคอนโด

hasu HAUS : รีวิวคอนโด

hasu HAUS คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 2 อาคาร โครงการใหม่จากแสนสิริ บนถนนสุขุมวิท  77 ใกล้รถไฟฟ้าอ่อนนุช เปิดตัวในงาน Sansiri Life Come Home วันที่ 10-12 ตุลาคม 2557 นี้ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,2900,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 73,800 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง 324 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด ประมมาณ 4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) เขตพระโขนง กรุงเทพฯ Floor Plan ของอาคารครับ ส่วนของที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 - 7 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีอ่อนนุช Big C Extra สุขุมวิท 77 Tesco Lotus สุขุมวิท 50 Gateway เอกมัย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 31 - 31.50 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 35.5 - 37.25 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 40.25 - 41 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 61.75 - 65.25 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 92.25 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน สิ่งอำนวยความสะดวก The Water Lily Court คอร์ทส่วนกลาง The Firm ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์ The Sway ห้องพักผ่อนหย่อนใจ สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก พื้นที่พักผ่อนริมน้ำ พร้อมเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง สวนพักผ่อนพร้อมพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง อินเตอร์เน็ตไร้สายสำหรับโถงพักคอยและบริเวณสระว่ายน้ำ ที่จอดจักรยาน จักรยาน limited edition – HAUS x tokyobike รถรับส่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ที่จอดรถ   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sansiri.com
Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น โครงการใหม่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์  เพียง 150 เมตรจากรถไฟฟ้า BTS บางนา รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,290,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 109,047 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 849 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 844 ยูนิต, ร้านค้า 5 ยูนิต) เนื้อที่ทั้งหมด 4 - 0 - 18 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนสุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 270 คัน หรือประมาณ 47% สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีบางนา BITEC บางนา โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 21 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการ Social Club สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Lounge Sky Deck Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th
Ideo Q สยาม – ราชเทวี : รีวิวคอนโด

Ideo Q สยาม – ราชเทวี : รีวิวคอนโด

Ideo Q สยาม - ราชเทวี คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น โครงการใหม่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์  ที่ร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จากประเทศญี่ปุ่น ตัวโครงการตังอยู่ย่านช้อปปิ้งใจกลางกรุงเทพ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี เพียง 350 เมตร รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 5,200,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 176,271 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 550 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 1 - 60.1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ที่จอดรถ 258 คัน สถานที่สำคัญใกล้เคียง Siam Center Siam Discovery Siam Square One Siam Paragon MBK Central Word ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 29.5 - 37 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 51 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 62 - 69 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก ลิฟท์ส่วนตัว Sky Pool 360 องศา Social Club สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Lounge Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th    
คอนโด Ashton Asoke : รีวิวคอนโด

คอนโด Ashton Asoke : รีวิวคอนโด

Ashton Asoke คอนโด High Rise สูง 50 ชั้น โครงการใหม่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ คอนโดหรูระดับ Super Luxury โดยการร่วมทุนกันระหว่าง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์  และ บริษัท มิตซุย โพดูซัง จากประเทศญี่ปุ่น ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งในย่านอโศก และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีสุขุมวิท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 6,900,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 230,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 50 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 783 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 3 - 46.7 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 367 คัน สถานที่สำคัญใกล้เคียง Terminal 21 BTS สถานีอโศก MRT สถานีสุขุมวิท Exchange Tower โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลสมิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30 - 34 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 46 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 64 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการกว่า 1 ไร่ Social Club สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Lounge Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th
Aspire สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

Aspire สุขุมวิท 48 : รีวิวคอนโด

ใครที่กำลังมองหาคอนโดในย่านพระโขนง ต้องไม่พลาดข้อมูลของโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 คอนโด High Rise ที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว แถมยังอยู่เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทด้วย ถึงแม้สถานีพระโขนงจะอยู่ห่างจากตัวโครงการมากถึง 750 เมตร แต่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่ยังน่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับห้องในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 3 ล้านบาท การเดินทาง   การเดินทางมายังคอนโด Aspire สุขุมวิท 48 สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพระโขนง ซึ่งอยู่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 48 ประมาณ 500-600 เมตร ส่วนตัวโครงการอยู่ถัดเข้ามาในซอยอีกเกือบ 200 เมตร ด้วยระยะขนาดนี้ยังถือว่าเดินได้ไม่ยาก แต่ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่จากตัวสถานีรถไฟฟ้าลงมาทางถนนพระราม 4 ต้องข้ามทางม้าลายที่แยกใหญ่อีกทอด ซึ่งต้องเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยจากรถราบนท้องถนนบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าจะออกจากโครงการไปยังรถไฟฟ้าแล้วไม่อยากเดิน ก็มีทางเลือกให้ทั้งบริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือจะใช้บริการ Shuttle Bus ของทางโครงการที่มีบริการรับส่งตามเวลาที่กำหนดก็ได้เช่นกัน   ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถเลือกเข้าได้ทั้งจากทางซอยสุขุมวิท 48 และฝั่งถนนพระราม 4 จากซอยสุขุมวิทพลัส 2 ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสามแยกพระโขนงนั่นเอง ถ้าเราเดินทางมาจากทางอ่อนนุช จะต้องข้ามสะพานข้ามคลองพระโขนงมาก่อนนะครับ พอขึ้นสะพานมาแล้วให้พยายามชิดซ้ายเข้าไว้ เพราะลงสะพานมาปุ๊ปก็เห็นซอยสุขุมวิท 48 อยู่ตรงหน้าทันที ส่วนถ้าใครมาจากฝั่งเอกมัย ผ่านแยกพระโขนงมาแล้วจะต้องมากลับรถที่ใต้สะพานเพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 48 หรือจะเลี้ยวเข้าถนนพระราม 4 แล้วเข้าทางซอยสุขุมวิทพลัส 2 ก็ได้เช่นกัน แต่การเข้าออกทางซอยสุขุมวิทพลัส 2 ต้องเสียค่าผ่านทาง 10 บาทด้วยนะครับ ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน แน่นอนว่าการจราจรบริเวณนี้ก็ได้ชื่อว่าติดหนักเอาการ เพราะถนนสุขุมวิทมักจะมีปริมาณรถที่หนาแน่นเกือบตลอดเวลา เส้นทางหลีกเลี่ยงที่พอจะทำได้ง่ายก็เห็นจะมีถนนพระราม 4 ที่สามารถออกไปขึ้นทางด่วนที่ด่านอาจณรงค์ได้ แต่การจราจรบนถนนพระราม 4 ก็ใช่ว่าจะติดน้อยกว่าถนนสุขุมวิทซักเท่าไหร่ ดังนั้นใครที่ต้องใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักอาจจะเลี่ยงปัญหารถติดได้ยาก หรือถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยกับเส้นทางบริเวณนี้ดีพอ ก็อาจจะรู้ว่าในซอยสุขุมวิท 48 นี้มีเส้นทางลัดไปออกซอยสุขุวิท 50 เพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ด้วยอีกทาง แต่เส้นทางนี้จะต้องขับผ่านซอยแคบในพื้นที่ส่วนบุคคลด้วย จึงไม่ค่อยมีใครรู้เส้นทางเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่   สำหรับการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน เพราะบริเวณปากซอยสุขุมวิท 48 มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และป้ายรถเมล์ ซึ่งถนนสุขุมวิทมีรถราวิ่งผ่านมากมายอยู่แล้ว จะไปไหนมาไหนจึงหาเรียกรถได้สะดวก   แผนที่รอบๆ โครงการครับ สำหรับการเดินทางวันนี้ผมขอเริ่มจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ย่านบางจากใกล้ๆ โครงการเลยนะครับ ด้านซ้ายมือจะเป็นสำนักงานเขตพระโขนงครับ ตรงมาอีกนิดนึงก็ถึง BTS อ่อนนุชแล้วครับ เลยจาก BTS อ่อนนุชมาก็จะเจอแยกอ่อนนุช ด้านขวามือจะเป็นถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุช ให้ขับตรงไปเลยนะครับ พอตรงมาแล้วก็จะเจอสะพานข้ามคลองพระโขนง ให้ขับตรงขึ้นสะพานไปเลยครับ พอข้ามสะพานมาก็ถึงแล้วครับ ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยนะครับ หน้าปากซอยสุขุมวิท 48 จะมีป้ายโฆษณาของโครงการติดอยู่ด้วยนะครับ สังเกตได้ไม่ยาก โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยก็จะเห็นอาคารของโครงการตั้งตระหง่านอยู่แบบนี้เลยครับ โครงการจะอยู่ในซอยประมาณ 200 เมตรครับ ถึงแล้วครับ ทางเข้าโครงการ อย่างที่บอกว่าโครงการสร้างเสร็จแล้ว เริ่มมีลูกบ้านทยอยเข้ามาอยู่แล้วครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในโครงการแล้วให้ขับเลยมาจอดรถที่ Tower S ด้านในนะครับ เพราะสำนักงานขายจะย้ายมาอยู่ที่ Lobby Tower S ครับ บรรยากาศด้านล่างตึก น้ำพุด้านหน้า Tower S บรรยากาศภายใน Lobby ครับ Lobby อีกมุม ครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ   โครงการ Aspire สุขุมวิท 48  อยู่ถัดเข้ามาจากปากซอยเป็นระยะทางเกือบ 200 เมตร ลักษณะที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวเริ่มจากฝั่งซอยสุขุมวิท 48 ไปจรดคลองพระโขนง พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 3 อาคาร คือ อาคาร N (North) สูง 25 ชั้น อาคาร S (South) สูง 30 ชั้น และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นซึ่งอยู่ด้านในสุด อาคารทั้งหมดตั้งอยู่ตามแนวทะแยงทิศเหนือ-ใต้  ทำให้ห้องส่วนใหญ่ค่อนไปในตำแหน่งทิศตะวันออกและตะวันตก ห้องทางด้านทิศตะวันออกจะได้ City View เห็นทั้งรถไฟฟ้า BTS ถนนสุขุมวิท และวิวตึกสูงตามแบบฉบับเมืองใหญ่ ส่วนทางด้านทิศตะวันตกที่ใครๆ กลัวว่าแดดจะร้อนแต่กลับได้วิวที่สวยกว่า ด้วยวิวมุมกว้างไร้ตึกสูงให้รกตา แถมยังได้วิวแม่น้ำ ท่าเรือ และในวันที่อากาศดีๆ ก็สามารถมองเห็นได้ไกลถึงบางกระเจ้าเลยทีเดียว ใครที่เลือกห้องในชั้นสูงๆ ก็จะได้เปรียบเรื่องวิวไปเต็มๆ ส่วนปัญหาเรื่องแดดร้อนก็อาจจะร้อนบ้างแต่ยังโชคดีที่บางห้องอยู่ในตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงไม่โดนแดดเต็มที่ ใครที่อยากได้ห้องวิวสวยๆ ก็ลองพิจารณากันดูได้ครับ   ส่วนบริเวณรอบๆ โครงการยังมีบรรยากาศเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยกันมาก่อน ในซอยสุขุมวิท 48 มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และร้านซักรีดบ้าง ซึ่งก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น  ถัดมาทางถนนสุขุมวิทก็ยังมีร้านค้าอยู่อีกไม่น้อยเช่นกัน รอบๆ ในรัศมีใกล้เคียงมีสาธารณูปโภคครบถ้วนดีเช่นกัน ทั้งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท และห้างสรรพสินค้าอีกหลายแห่ง จัดว่าอุดมสมบูรณ์ดีทีเดียวครับ   และด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ มียูนิตรวมทั้ง 2 อาคารมากถึง 838 ยูนิต  ทำให้มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องใช้ร่วมกันบ้าง และแยกส่วนกันบ้าง เช่นในส่วนของอาคารจอดรถที่ลูกบ้านต้องใช้อาคารจอดรถร่วมกัน โดยอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นที่ทางโครงการจัดไว้ สามารถรองรับรถได้กว่า 400 คัน ถ้านับรวมที่จอดรถบริเวณรอบๆ อาคาร และนับรวมการจอดซ้อนคันแล้ว ก็มีสัดส่วนที่จอดรถมากถึง 50% ของจำนวนห้องทั้งหมดเลยทีเดียว แต่ลูกบ้านในอาคาร N จะเสียเปรียบกว่านิดหน่อย เพราะตั้งอยู่ห่างจากอาคารจอดรถมากกว่าอาคาร S แถมทางเดินระหว่างอาคารแต่ละหลังก็ไม่มีหลังคาบังแดดบังฝนด้วย การเดินไปมาในช่วงเวลาฝนตกอาจจะลำบากหน่อย ยิ่งถ้าต้องหิ้วของพะรุงพะรังยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะทุลักทุเลแค่ไหน นอกจากนี้สวนหย่อม และลู่วิ่งบนถนนรอบโครงการก็เป็นอีกส่วนที่ต้องใช้ร่วมกัน ส่วนสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า และพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ที่ชั้นบนสุดของทั้ง 2 อาคาร ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางนี้จะแยกกันแต่ละอาคารโดยชัดเจน โดยที่พื้นที่ส่วนกลางบนดาดฟ้าของอาคาร S จะกว้างกว่าอาคาร N อย่างชัดเจน เนื่องจากจำนวนยูนิตรวมในอาคาร S มากกว่านั่นเอง ส่วนเรื่องลิฟท์โดยการก็แบ่งเป็นอาคาร S 3 ตัว และลิฟท์เซอร์วิสอีก 1 ตัว ในขณะที่อาคาร N มีลิฟท์โดยสารให้เพียง 2 ตัวเท่านั้น เรื่องความหนาแน่นของการใช้งานส่วนกลางต่างๆ ก็ต้องบอกว่าหนาแน่นกันพอสมควร อย่างลิฟท์โดยสารก็คำนวนได้ในอัตรา 1:140-180 เลยนะครับ ส่วนสระว่ายน้ำระดับ 5x15-20 เมตร ในแต่ละอาคารไม่ต้องบอกก็น่าจะนึกออกว่าจะต้องแบ่งกันใช้งานมากน้อยแค่ไหน   เนื่องจากตัวโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 สร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัยแล้ว เราเลยได้เห็นบรรยากาศภายในโครงการจริงๆ ทั้งล็อบบี้ที่โอ่งโถงทันสมัย วิวสวยๆ จากบนตึก ระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องใช้ Key Card กันตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ไปจนถึงลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้น รวมถึงหน้าตาของพื้นที่ส่วนกลางที่บนดาดฟ้าของอาคาร S ทำให้เราไม่ต้องจินตนาการเกินจริงจากแบบแปลนในกระดาษอีกต่อไป ใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่ ลองแวะไปดูของจริงกันได้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ครับ   หน้าตาแบบแปลนของโครงการนะครับ จะมีทั้งหมด 3 อาคาร ซ้ายสุด Tower N สูง 25 ชั้น , Tower S สูง 30 ชั้น และอาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น ชั้น G ของ Tower N กับ S จะเป็น Lobby หน้าตาของ Lobby ครับ ส่วนของห้องพักอาศัยของทั้ง 2 อาคารจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปเลยนะครับ โดย Tower N จะมีห้องพักทั้งหมด 278 ยูนิต ส่วน Tower S จะมีทั้งหมด 560 ยูนิตครับ ที่ชั้น 17 และ 22 ของ Tower N จะมี Sky Garden ด้วยนะครับ ส่วนชั้น 25 จะเป็นชั้นบนสุดของ Tower N จะมีสระว่ายน้ำ,ฟิตเนส และสวนสีเขียวอยู่ที่ชั้นนี้ครับ ส่วน Facility หลักของ Tower S จะอยู่ที่ชั้นบนสุดเหมือนกันคือชั้น 30 ครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้นดาดฟ้า Fitness ที่อยู่บนชั้นสุงสุดของอาคาร อาคารจอดรถสูง 8 ชั้นครับ   พาชมห้องตัวอย่าง   แบบห้องของ Aspire สุขุมวิท 48 มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบใหญ่ คือ ห้องแบบ 1bedroom ขนาด 27-38 ตร.ม. และห้องแบบ 2 bedroom ขนาด 54-64 ตร.ม. แต่สำหรับตอนนี้ห้องที่เหลืออยู่จะมีเพียงห้องแบบ 1 bedroom เท่านั้นนะครับ ซึ่งทางโครงการขายกันมาให้แบบห้องเปล่าๆ โล่งๆ มีให้มาเพียงชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ส่วนถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งตามแบบห้องตัวอย่างก็ต้องลองสอบถามพนักงานขายกันดูว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมยังไงบ้าง สำหรับห้องแบบ 1 bedroom ยังมีแบบแยกย่อยให้เลือกอีก 2 แบบ คือห้องแบบที่มีห้องน้ำในตัวห้องนอน กับห้องแบบที่แยกห้องน้ำไว้นอกห้องนอน ซึ่งห้องทั้ง 2 แบบจะมี Layout ภายในต่างกันทั้งเรื่องขนาดของห้องครัว ตำแหน่งประตูห้องน้ำ และลักษณะการกั้นพื้นที่ห้องน้ำ โดยห้องแบบแรกมีขนาด 38 ตร.ม. เรียกว่า Type D : Bed Sky Kit เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอพื้นที่ในส่วน living room ก่อน และส่วนที่อยู่ติดในแนวเดียวกันคือห้องครัวขนาดใหญ่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งจัดมุมรับประทานอาหารไว้ชิดหน้าต่างเพื่อเปิดรับวิวขณะรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ ซึ่งห้องแบบนี้จะจัดแบ่งพื้นที่ของห้องนอนและห้องน้ำไว้เป็นสัดส่วน ประตูห้องนอนเป็นบานสวิง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันการจะเข้าออกห้องน้ำต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนทุกครั้ง ส่วนห้องอีกแบบมีขนาด 38 ตร.ม. เท่ากัน แต่เป็น Type D : Bed Std Kit ซึ่งเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอ living room ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ห้องนี้ดูโล่งโปร่งสบายตากว่า ในขณะที่ห้องครัวจะมีขนาดเล็กกว่าห้องก่อนหน้านี้ เพราะชุดโต๊ะกินข้าวถูกจัดวางไว้ในบริเวณเดียวกันกับ living room นั่นเอง และห้องน้ำก็อยู่ในแนวเดียวกันกับห้องครัว โดยรวมห้องแบบนี้จะได้คะแนนความน่าอยู่มากกว่า เพราะเราจะรู้สึกว่าห้องกว้างกว่าถึงแม้ขนาดของห้องจะเท่ากันก็ตาม   จากที่ได้ชมห้องตัวอย่างแล้วต้องบอกว่าแปลนห้องไม่ได้มีผิดแผกจากคอนโดในระดับเดียวกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องค่อนข้างครบถ้วน พื้นห้องครัวและห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้องเซรามิค ในขณะที่พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนตตามมาตรฐาน เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งตัวดูดควัน เตาไฟฟ้า และซิงค์ล้างจานติดตั้งมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน รวมถึงในห้องน้ำที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยกระจกบานเลื่อน ถึงแม้จะบอบบางไปหน่อยแต่ก็พอเหมาะกับการใช้งาน หน้าตาของวัสดุสุขภัณฑ์ที่ให้มาพร้อมห้องเป็นเกรดธรรมดาทั่วๆ ไปนะครับ ไม่ได้หรูหราสวยงามมากนัก ออกจะดูว่าทางโครงการลดเกรดวัสดุบางตัวลงมากเกินไปด้วยซ้ำ ทำให้ดูไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่ ส่วนที่น่าประทับใจก็เห็นจะเป็นเรื่องวิวของห้องทางด้านทิศตะวันตก ที่ถึงแม้จะต้องเจอกับแดดร้อนๆ ในช่วงบ่าย แต่กลับได้วิวมุมสูงที่สบายตากว่ามาก ถ้าไม่ติดปัญหาเรื่องราคาลองเลือกห้องในชั้นที่สูงซักหน่อย ก็จะได้วิวกว้างไร้สิ่งบดบังสายตา ส่วนภายในห้องถ้าตกแต่งดีๆ ก็ทำให้น่าอยู่ได้ไม่ยากครับ มาดูกันที่ห้อง 1 Bedroom แบบ Sky Kitchen ขนาด 38 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ ห้อง Type นี้จะเน้นที่ห้องครัว ดูจากผังห้องจะเห็นชัดเลยนะครับ ว่าห้องครัวมีขนาดใหญ่พอสมควร และมีโต๊ะทานอาหารหันหน้าเข้าหาหน้าต่าง เพื่อชมวิวเวลาทานอาหารด้วย เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับส่วนของ Living Area ก่อนเลยนะครับ มุมนี้จะเป็นมุมของโซฟาดูทีวีครับ อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางทีวี เมื่อมองตรงเข้าไปข้างในจะเป็นห้องครัว วางอยู่ด้านในสุด ครัวจะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น พื้นที่ห้องครัวจะเป็นพื้นกระเบื้องนะครับ ด้านในห้องครัวเราจะได้แบบนี้เลยนะครับ ทั้งเคาน์เตอร์ครัว และโต๊ะทานอาหารติดหน้าต่าง จุดวางตู้เย็นจะอยู่ติดประตูกระจกบานเลื่อนนะครับ ส่วนไฟฟ้าจะอยู่ด้านในติดกับโต๊ะทานอาหาร มีช่องใส่เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง เตาไฟฟ้า Hot Plate แบบ 2 หัว และ Hood ดูดควัน ของ Teka ซิงค์หลุมก็ของ Teke เช่นกันครับ เดี๋ยวเราไปดูที่ห้องนอนกันต่อเลยนะครับ จากการที่ทำห้องครัวใหญ่ จึงทำให้ห้องนอนค่อนข้างจะเล็กเลยนะครับ มาดูที่หัวเตียงกันบ้าง ข้างเตียงทั้ง 2 ข้างมีพื้นที่เหลือนิดหน่อย ให้วางโต๊ะข้างและโคมไฟได้ครับ ถัดไปด้านซ้ายอีกหน่อยจะเป็นตู้เสื้อผ้า ตั้งอยู่หน้าห้องน้ำเลยครับ Type นี้ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนเลยนะครับ ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยครับ ตำแหน่งการวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครับ ห้องอาบน้ำมีประตูบานเลื่อน 3 ตอนปิด ชุดฝักบัวในห้องอาบน้ำ มาดูอีกห้องนะครับ ขนาด 38 ตารางเมตรเท่ากัน แต่ห้องนี้จะเน้นที่ห้องนอนนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีครับ โซฟาขนาด 2 คน นั่งชิดกันกำลังอบอุ่นเลยครับ ทีวีที่ Built in มาให้ดูจะเป็นแบบแขวนนะครับ ทำให้ชั้นวางทีวีดูโล่งมีพื้นที่เหลือให้วางของเพิ่มขึ้นด้วยครับ ห้องนี้โต๊ะทานอาหารจะออกมาอยู่ที่ส่วน Living Area ใกล้ๆ กับชั้นวางทีวีนะครับ ถัดมาด้านในเป็นห้องนอนนะครับ อย่างที่บอกว่า Type นี้จะเน้นที่ห้องนอนเป็นพิเศษ ห้องนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นนะครับ ไม่ใช่ผนังเหมือน Type Sky Kitchen ทำให้ห้องดูโล่งขึ้นมาเยอะเลยครับ การวางเตียง จะมีโต๊ะทำงานและที่นั่งริมหน้าต่างไว้นั่งชมวิวด้วยนะครับ ที่ปลายเตียงจะมีชั้นวางทีวีให้อีกนะครับ ตู้เสื้อผ้าก็จะอยู่ปลายเตียง เหมือนกันครับ ตรงนี้เป็นช่องว่างตรงกลางก่อนจะแยกไปเป็นห้องครัวและห้องน้ำนะครับ มีการ Built in ตู้เก็บของไว้ด้วย เราเลี้ยวขวาเข้ามาดูห้องครัวกันก่อนนะครับ ห้องครัว Type นี้จะต่างกับ Type ก่อนหน้านี้ที่เราดูไปนะครับ เพราะถูกห้องนอนบีบจนแคบอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดครับ ภายในครัวนะครับ จะมีช่องใส่ไมโครเวฟและเครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่าง ด้านบนจนชั้นลอยเก็บของ เตาไฟฟ้า Hot Plate จะอยู่ด้านในติดกับระเบียง แต่ดูไม่ค่อยดีเลยนะครับที่อยู่ติดกับผ้าม่านแบบนี้ เวลาทำอาหาร ทั้งน้ำมันกระเด็น ทั้งกลิ่นอาหารคงจะติดผ้าม่านเอาได้ ธรณีประตูระเบียงค่อนข้างสูงนะครับ ถ้าก้าวไม่ระวังอาจจะสะดุดเอาได้ ข้ามมาอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำนะครับ การวางสุขภัณฑ์ของห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้อง Sky Kitchen เลยครับ ชุดฝักบัว เดี๋ยวเราออกไปดูบรรยากาศด้านนอกกันบ้างดีกว่านะครับ อันนี้เป็นโถงทางเดินของแต่ละชั้นครับ บรรยากาศ Sky Garden บนชั้นที่ 30 ของ Tower S ครับ ขึ้นมาตอนบ่ายๆ แดดอาจจะแรงหน่อยนะครับ แต่หากเป็นตอนค่ำๆ แดดร่มลมตกแล้ว ขึ้นมาเดินเล่นรับลม ชมวิวกรุงเทพยามค่ำคืน คงจงชิวน่าดู วิวอีกมุมครับ สระว่ายน้ำก็เสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ แต่ดูจากสีของน้ำแล้วน่าจะยังไม่พร้อมใช้งาน บรรยากาศอีกมุมของสระว่ายน้ำครับ ห้องน้ำสำหรับเปลี่ยนชุดและอาบน้ำครับ ภายในห้องอาบน้ำ จะมีห้องซาวน่าอยู่ด้านในสุดของห้องน้ำนะครับ มาดูที่ฟิตเนสกันบ้าง อุปกรณ์อาจจะมีน้อยไปหน่อยนะครับ เมื่อเทียบกับลูกบ้านที่มีถึง 560 ยูนิต ด้านนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้เวลาเล่นนาน ก็จะเป็นวิวสระว่ายน้ำนะครับ เพราะถ้าเล่นนานเดี๋ยวคนที่ว่ายน้ำอยู่เค้าจะเขินเอาได้ แต่ถ้าใครจะมีแรงเหลืออยากเล่นนานๆ เพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่างก็ไม่ว่ากันนะครับ ฮ่าาา.. ส่วนอีกด้านจะเป็นพวกอุปกรณ์ที่ต้องใช้เวลาเล่นนาน ก็จะเป็นวิวตึกรามบ้านช่องให้นั่งมองกันไป บรรยากาศเหมือนกำลังออกกำลังกายบนเส้นขอบฟ้า... Type A 1 ห้องนอนขนาด 25 ตารางเมตร Type B 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตารางเมตร Type C 1 ห้องนอน ขนาด 32 ตารางเมตร Type E 2 ห้องนอน (A) ขนาด 54 ตารางเมตร Type E 2 ห้องนอน (B) ขนาด 54 ตารางเมตร Type F 2 ห้องนอน (A) ขนาด 64 ตารางเมตร Type F 2 ห้องนอน (B) ขนาด 64 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับคนที่มองหาคอนโดในระดับ 2-3 ล้าน ที่ยังอยู่ในแนวรถไฟฟ้า BTS โครงการ Aspire สุขุมวิท 48 ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ถึงแม้ว่าจะค่อนมาทางตอนปลายๆ ของสุขุมวิทแล้วก็ตาม แต่การเดินทางก็ถือว่าสะดวกมากทั้งรถไฟฟ้า BTS ก็ดี หรือจะใช้รถส่วนตัวก็มีทางเข้าออกได้ทั้งฝั่งสุขุมวิท และถนนพระราม 4 ที่สำคัญยังอยู่ไม่ห่างจาก ใจกลางเมืองมากนัก แค่ขับรถหรือนั่งรถไฟฟ้าออกไปหน่อยก็มีทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า แหล่งบันเทิง และร้านอาหารมากมายครบครัน ในขณะที่ไม่ต้องอยู่ท่ามกลางความพลุกพล่านวุ่นวายแบบพื้นที่แถบทองหล่อหรือเอกมัย บริเวณนี้จึงค่อนข้างสงบกว่า และเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า ถึงแม้ว่าสาธารณูปโภคส่วนกลางจะมีน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับภาพรวมโครงการ แต่ก็อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่สำหรับบางคน การหากลุ่มคนเช่า หรือจะลงทุนห้องไว้ขายต่อก็มีศักยภาพในการลงทุนอยู่พอสมควรเช่นกัน ยิ่งถ้าสามารถต่อรองราคาห้อง หรือซื้อได้ช่วงที่มีราคาโปรโมชั่นพิเศษก็จะยิ่งคุ้มค่าน่าลงทุนมากขึ้น
Lumpini Place บรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

Lumpini Place บรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

โครงการ: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,450,000 บาท บาท/ตารางเมตร 51,785 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดติดถนนบรมราชชนนี (บรมราชชนนี 35) ใกล้รถไฟฟ้าบางขุนนนท์ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวย พร้อมสังคมและชุมชนคุณภาพ ภายใต้แนวคิดชุมชนน่าอยู่ ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 ที่ตั้ง: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 6 ไร่ ที่ตั้ง ถ.บรมราชชนนี (ติดกับซอยบรมราชชนนี 35) แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.784974,100.460947 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ส่วนต่อขยาย สถานีบางขุนนนท์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เมเจอร์ปิ่นเกล้า พาต้า โรงพยาบาลศิริราช The Circle The Bloc สน.ตลิ่งชัน ตลาดน้ำตลิ่งชัน สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ รถไฟฟ้าสถานีบางขุนนท์ (อนาคต) รถไฟชานเมืองสายสีแดงสถานีตลิ่งชัน   ลักษณะโครงการ: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 28 – 29 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 32 – 37.50 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 25 ชั้น จำนวนห้อง 992 ยูนิต และ ร้านค้า 4 ยูนิต   ส่วนกลาง: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 360 คันรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 36.29% (รวมซ้อนคันแบบ LPN) ค่าจอดรถยนต์ 300 บาท/คัน/เดือน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 300 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ 1 สระ ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 330 : 1 Service Lift 1 ตัว ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Lumpini Place บรมราชชนนี - ปิ่นเกล้า (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-689-6888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lpn.co.th/condominium/index.php/lumpini/home/LP-BP ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2557
คอนโด Supalai Elite@พญาไท : รีวิวคอนโด

คอนโด Supalai Elite@พญาไท : รีวิวคอนโด

โครงการ: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 4,400,000 บาท บาท/ตารางเมตร 100,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดหรูจากศุภาลัย ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ใกล้ BTS และ Airport Link เดินทางสะดวก พร้องสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2561 ที่ตั้ง: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 2-0-96 ไร่ ที่ตั้ง ถนนศรีอยุธยา แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.757030,100.539198 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS พญาไท, Airport Link พญาไท   สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงพยาบาลพญาไท 1 คิงเพาเสอร์ คอมเพล็กซ์ สยามเซ็นเตอร์ อนุเสาวรีชัยสมรภูมิ   ลักษณะโครงการ: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 44 – 61 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 94 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 140 – 144 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 31 ชั้น จำนวนห้อง 258 ยูนิต   ส่วนกลาง: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 48 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องออกกำลังกาย (Fitness) Sky Lounge / Roof Garden รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เพิ่มเติม: Supalai Elite@พญาไท (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1720 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.supalai.com/elite_phayathai ข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2557
คอนโด Noble Recole สุขุมวิท 19 : รีวิวคอนโด

คอนโด Noble Recole สุขุมวิท 19 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Noble Recole สุขุมวิท 19 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 5,100,000 บาท บาท/ตารางเมตร 150,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise ใหม่จาก Noble Development ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 19 เดินทางสะดวกใกล้ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท พร้อมแหล่งช้อปปิ้งมากมายใจกลางกรุงเทพฯ ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2561 ที่ตั้ง: Noble Recole สุขุมวิท 19 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-2-28 ไร่ ที่ตั้ง ซอยสุขุมวิท 19 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. พิกัดโครงการ 13.742246,100.560199 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS อโศก, MRT สุขุมวิท   สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โบสถ์วัฒนา โรบินสัน สุขุมวิท Terminal 21 รถไฟฟ้า BTS อโศก รถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท   ลักษณะโครงการ: Noble Recole สุขุมวิท 19 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 34 – 45 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาด 62 – 69 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 28 ชั้น จำนวนห้อง 288 ยูนิต   ส่วนกลาง: Noble Recole สุขุมวิท 19 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 60% (ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 5 ชั้น) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สวนส่วนกลาง (Ground Floor, ชั้น 23, ชั้น 28 ลอยฟ้า) สระว่ายน้ำ Steam Room ห้องอเนกประสงค์ Infinity Edge Pool Sky Fitness   เพิ่มเติม: Noble Recole สุขุมวิท 19 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-251-9955 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.noblehome.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 9 กันยายน 2557
KES รัชดา : รีวิวคอนโด

KES รัชดา : รีวิวคอนโด

โครงการ: KES รัชดา (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,170,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 68,346 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท วิษณี จำกัด จุดเด่น คอนโดใหม่ย่านรัชดา ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ห่างจากรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ประมาณ 1.5 กม. ปีที่สร้างเสร็จ ต้นปี 2559 ที่ตั้ง: KES รัชดา (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 196 ตร.วา ที่ตั้ง ซอยสุทธิพร ถนนรัชดาภิเษก 3 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพ พิกัดโครงการ 13.76665,100.562687 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT พระราม 9   สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 เซ็นทรัล พระราม 9 โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว ฟอร์จูนทาวน์   ลักษณะโครงการ: KES รัชดา (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom ขนาดห้องที่มี ขนาดตั้งแต่ 26.75 – 41.25 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 70 ยูนิต   ส่วนกลาง: KES รัชดา (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 50% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.2 x 8 เมตร ห้องออกกำลังกาย ขนาด 3.5 x 8 เมตร สวนหย่อมรอบโครงการ พื้นทีสีเขียวประมาณ 145 ตร.ม. ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 70 : 1 ระบบ CCTV / Access Card /ลิฟต์ล็อคชั้น/Car lift   เพิ่มเติม: KES รัชดา (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-641-0133, 091-784-5675 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.kesratchada.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2557
ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

โครงการ: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,790,000 บาท บาท/ตารางเมตร 108,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด จุดเด่น คอนโดหรูจากชีวาทัย เดินทางสะดวกใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย สถานีเตาปูน เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2558 ที่ตั้ง: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-3 -12.5 ไร่ ที่ตั้ง ถนนประชาราษฎ์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.806380,100.529826 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT Interchange สถานีเตาปูน   สถานที่สำคัญใกล้เคียง จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย (SCG) รัฐสภาแห่งใหม่   ลักษณะโครงการ: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 26 – 40.5 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 51.6 – 67.4 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 87 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 26 ชั้น จำนวนห้อง 279 ยูนิต ส่วนกลาง: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 170 รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 50 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกายมุมมอง 360 องศา สวนลอยฟ้า สวนสีเขียวภายในโครงการ กล้อง CCTV ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm   เพิ่มเติม: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-910-5655 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.chewathaiinterchange.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2557
คอนโด Vento Condo เกษตร-นวมินทร์ : รีวิวคอนโด

คอนโด Vento Condo เกษตร-นวมินทร์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Vento Condo เกษตร-นวมินทร์ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,990,000 บาท บาท/ตารางเมตร 62,000 บาท เจ้าของโครงการ Greenova Property Co., Ltd. จุดเด่น การสร้างพื้นที่ว่างระหว่างพื้นที่ส่วนตัว สามารถเกิดความเป็นส่วนตัวระหว่างกัน มีพื้นที่เชื่อมต่อสู่ภายนอกมากขึ้น รบกวนกันน้อยลงระหว่างยูนิต มีพื้นที่ผนีงเชื่อมต่อภายนอกถึง 3 ด้าน รวมถึงห้องน้ำที่ see through ลดความอึดอัดรวมถึง การนำแสงธรรมชาติเข้ามาในเวลากลางวัน กลางคืนเป็นพื้นที่ให้เกิดแสงสว่าง สถาปัตยกรรม ที่เกิดจาก line ในเส้นตั้งและนอนมาจัดองประกอบใหม่ ให้มีส่วนระนาบที่ทึบและโปร่ง สลับกันไปทั้งโครงการ ให้เกิดมิติที่ ทึบ กึงทึบกึงโปร่ง โปร่ง แสงทั้งอาคาร ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2557 ที่ตั้ง: Vento Condo เกษตร-นวมินทร์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 0-3-99 ไร่ ที่ตั้ง ซอยสุคนธสวัสดิ์ 11 และ ซอยประเสริฐมนูกิจ 22 พิกัดโครงการ 13.827964,100.621237 ระบบขนส่งสาธารณะ -   สถานที่สำคัญใกล้เคียง CDC Festival Walk Crystal Park Index Living Mall Chic Republic นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว โรงเรียนสตรีวิทยา 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   ลักษณะโครงการ: Vento Condo เกษตร-นวมินทร์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี Studio 28 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 32-40 ตร.ม. 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 41-59 ตร.ม. 2 ห้องนอน (Duluxe) 2 ห้องน้ำ ขนาด 54-64 ตร.ม. จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 5 ชั้น จำนวนห้อง 69 ยูนิต ส่วนกลาง: Vento Condo เกษตร-นวมินทร์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 40 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 400 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ 1 สระ ขนาด 6m x 12m ระบบเกลือ Lobby 1 จุด ที่ตึก A ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องที่ตึก B ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ ตึก A 33:1 ตึก B 37:1 ไม่มี Service Lift ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Vento Condo เกษตร-นวมินทร์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-570-9799 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.vento-condo.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2557
คอนโด Pleasanton กรุงเทพกรีฑา : รีวิวคอนโด

คอนโด Pleasanton กรุงเทพกรีฑา : รีวิวคอนโด

โครงการ: Pleasanton กรุงเทพกรีฑา (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,490,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 50,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอ็มเจพี พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทในเครือ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์) จุดเด่น โครงการเดอะ เพลซเซนตัน กรุงเทพกรีฑา เป็นคอนโดมิเนียมสไตล์แคลิฟอร์เนีย พร้อมรีเทลคอมมูนิตี้ ด้วยสถาปัตยกรรมและทัศนียภาพที่แวดล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่นเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ พร้อมเชื่อมต่อใจกลางเมืองด้วย Airport Rail Link สถานีหัวหมาก และถนนศรีนครินทร์ รามคำแหง และมอเตอร์เวย์ เพียบพร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ สิ่งอำนวยความสะดวก และคอมมูนิตี้ มอลล์ หน้าโครงการเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตเมือง ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 ที่ตั้ง: Pleasanton กรุงเทพกรีฑา (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 12-0-84.7 ไร่ ที่ตั้ง ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.745821,100.666434 ระบบขนส่งสาธารณะ Airport Link หัวหมาก   สถานที่สำคัญใกล้เคียง สนามกอล์ฟ ยูนิโก้ มหาวิทยาลัยเอแบค โรงพยาบาลสมิติเวช มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด   ลักษณะโครงการ: Pleasanton กรุงเทพกรีฑา (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 30 – 35 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 50 ตารางเมตร จำนวนตึก 4 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 946 ยูนิต ส่วนกลาง: Pleasanton กรุงเทพกรีฑา (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค Stand Alone Club House Fitness สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ห้องสมุด Retail Community ด้านหน้าโครงการ   เพิ่มเติม: Pleasanton กรุงเทพกรีฑา (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-138-8222, 092-090-4699 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.pleasanton-bangkok.com ข้อมูล ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2556