Tag : เดอะโพลิแทน บรีซ

2 ผลลัพธ์
EVER คึกประเดิมยอดโอนคอนโด “โพลิแทน บรีซ” ก.ย.นี้ หนุนผลประกอบการทั้งปีโตเท่าตัว จ่อผุดโครงการแนวราบเร็วกว่ากำหนดเดิม

EVER คึกประเดิมยอดโอนคอนโด “โพลิแทน บรีซ” ก.ย.นี้ หนุนผลประกอบการทั้งปีโตเท่าตัว จ่อผุดโครงการแนวราบเร็วกว่ากำหนดเดิม

"บมจ.เอเวอร์แลนด์" เร่งอัดยอดโอนโครงการแนวสูงย่านสนามบินน้ำ "เดอะโพลิแทน บรีซ" มูลค่าโครงการ 1,900-2,000 ล้านบาท ดีเดย์โอนล็อตแรกเดือนกันยายนนี้ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ถึงธันวาคม 61 หนุนรายได้รวมปีนี้โตเท่าตัว จากปีก่อนอยู่ที่ 704 ล้านบาท เผยมีลุ้นพลิกกำไรจากขาดทุน ฟากบอส "สวิจักร์  โลจายะ" แย้มอาจได้เห็นโครงการแนวราบผุดเร็วก่อนกำหนด 1 โครงการสิ้นปีนี้จากเดิมมีแผนเปิดต้นปีหน้า   นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER  เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการแนวสูงย่านสนามบินน้ำทั้ง 3 โครงการ "เดอะ โพลิแทน ริฟ" "เดอะโพลิแทน อควา" และ "เดอะโพลิแทน บรีซ" ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าในการเข้าชม โดยโครงการเดอะโพลิแทน บรีซ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท คาดจะเริ่มโอนภายในเดือนกันยายนนี้ มูลค่า 300 – 400 ล้านบาท จากยอดขายจำนวน 130 – 150 ยูนิตจาก  ขณะที่โครงการทั้งหมดมีกว่า 500 ยูนิต ทั้งนี้ ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนไปถึงเดือนธันวาคม 2561 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุน และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากปีก่อนอยู่ที่ 704 ล้านบาท และคาดว่าจะพลิกเป็นกำไรจากปีก่อนที่ขาดทุน "ในปีนี้โครงการเดอะโพลิแทน บรีซ จะเป็นพระเอกในการทำให้ผลประกอบการเราดีขึ้น โดยในเดือนกันยายนนี้ น่าจะเห็นยอดโอนได้ราว 300 ล้านบาท และทยอยโอนเรื่อยๆ ที่ผ่านมาการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า เช่น ห้องพรี่เมี่ยมราคา 8 ล้านบาท ขายได้กว่า 70% และตอนนี้ทีมมาร์เก็ตติ้ง EVER เร่งการโอน โดยการจัดโปรโมชั่น แถมเฟอร์นิเจอร์ , อยู่ฟรี 1 ปี  ฯลฯ เป็นต้นเพื่อกระตุ้นยอดขายเพิ่ม ขณะที่แนวสูง” เดอะ โพลิแทน ริฟ “ และ"เดอะโพลิแทน อควา" จะทยอยรับรู้ปลายปีนี้ และปลายปีหน้าตามลำดับ  ” นายสวิจักร์ กล่าว   นายสวิจักร์ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากโครงการแนวสูงแล้ว โครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ "มายโฮมอเวนิว" ก็ให้ความสำคัญ เพื่อให้ EVER มีความแข็งแกร่งและยั่งยืนในการสร้างรายได้ในอนาคตมากขึ้น ซึ่งมายโฮมอเวนิว ทำเลย่านรามอินทรา-จตุโชติ ราคา 3 ล้านกว่าบาท ซึ่งเปิดขายในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา ก็มีแนวโน้มที่จะโอนได้ภายในปลายปีนี้บางส่วน นอกจากนี้อาจเห็นการเปิดโครงการแนวราบเพิ่มอีก 1 โครงการในช่วงสิ้นปี ซึ่งถือว่าเปิดได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้จะเปิดในช่วงต้นปีหน้า
EVER บุกอสังหาฯแนวราบมูลค่ารวมกว่า 2 พันลบ.  เจาะลูกค้าโซนสุขสวัสดิ์-บางนา (หนามแดง)-จตุโชติ รับสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

EVER บุกอสังหาฯแนวราบมูลค่ารวมกว่า 2 พันลบ. เจาะลูกค้าโซนสุขสวัสดิ์-บางนา (หนามแดง)-จตุโชติ รับสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

เอเวอร์แลนด์ เปิดกลยุทธ์ปี 61 เตรียมบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ผุด 3-4 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 2,000ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าโซนสุขสวัสดิ์-บางนา (หนามแดง)-จตุโชติ รับสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER  เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2561 ว่า บริษัทฯเตรียมเปิดใหม่ 3 – 4 โครงการ ซึ่งเน้นโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ “เอเวอร์ซิตี้” ในทำเลย่านสุขสวัสดิ์ , บางนา (หนามแดง) ,จตุโชติและไทยรามัน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยทั้ง 4 โครงการ บริษัทฯได้มีการซื้อที่ดิน เพื่อรอการพัฒนาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมดำเนินการก่อสร้างได้ทันที “ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของเอเวอร์แลนด์ ในการเข้ามาบุกตลาดอสังหาฯแนวราบ ทั้ง 4โซน ไม่ว่าจะเป็นโซนสุขสวัสดิ์ ,บางนา (หนามแดง) จตุโชติ และไทนรามัน ซึ่งมีดีมานด์อยู่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต จากเดิมมุ่งเน้นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2-3 ปีกว่าที่จะรับรู้รายได้ ขณะที่โครงการแนวราบใช้เวลาไม่นาน คาดว่าจะเริ่มเปิดโครงการใหม่ในโซนสุขสวัสดิ์ ในเดือนกันยายน 2561 ส่วนที่เหลือจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 คาดว่าจะฟื้นตัว และกลับมาเทิร์นอะราวด์ จากการรับรู้รายได้โครงการ คอนโดมิเนียม ทั้ง โครงการเดอะโพลิแทนรีฟ , เดอะโพลิแทน บรีซ และโครงการเดอะ โพลิแทน อควา ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้”นายสวิจักร์ กล่าว สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการขยายการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าที่ทยอยก่อสร้างและแล้วเสร็จ อีกทั้งยังพบว่าความต้องการโครงการแนวราบมีมากขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯเปิดตัว 3 – 4 โครงการใหม่ ซึ่งเป็นแนวราบในปีนี้ ในส่วนของธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทฯเข้าลงทุนผ่าน บริษัท มาย ฮอสพิทอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เชื่อว่าจะมีการเติบโตควบคู่กันไป ซึ่งในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มศักยภาพ และการวางแผนปรับปรุงระบบภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  ,การเพิ่มบริการใหม่ๆตามความต้องการในพื้นที่ รวมทั้งการเพิ่มทีมแพทย์เพื่อรองรับตามปริมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้ง 4 แห่งเข้าลงทุนและดำเนินธุรกิจได้สร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ได้แก่   1.บริษัท โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราษฎร์ จำกัด (CMR) 2.บริษัท เดนทอล อิส ฟัน จำกัด (DENTAL) 3.บริษัท โคราชเมดิคัลกรุ๊ป จำกัด (KMG)  และ 4.บริษัท พิษณุโลกอินเตอร์เวชการ จำกัด (PM) โดยที่ผ่านมากิจการโรงพยาบาลสร้างรายได้ให้บริษัทฯค่อนข้างดี  และสร้างการเติบโตในแง่ของรายได้เฉลี่ยแห่งละ 10-15%