Tag : เอพี ไทยแลนด์

18 ผลลัพธ์
‘เอพี ไทยแลนด์’ ย้ำตำแหน่งเจ้าตลาดคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า เปิดตัว ‘LIFE ONE WIRELESS’ ไฮเอ็นด์คอนโดมิเนียม มูลค่า 6,400 ล้าน พร้อมเผยแผนเตรียมส่งคอนโดแบรนด์ LIFE บุกตลาดในครึ่งปีหลัง

‘เอพี ไทยแลนด์’ ย้ำตำแหน่งเจ้าตลาดคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า เปิดตัว ‘LIFE ONE WIRELESS’ ไฮเอ็นด์คอนโดมิเนียม มูลค่า 6,400 ล้าน พร้อมเผยแผนเตรียมส่งคอนโดแบรนด์ LIFE บุกตลาดในครึ่งปีหลัง

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง เสริมแกร่งความเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า เตรียมรุกตลาดคอนโดครึ่งปีหลังผนึกกำลัง “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” (MEC) พันธมิตรญี่ปุ่น เปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE 2 ทำเลใหม่ใจกลางเมือง ประเดิมด้วย “LIFE ONE WIRELESS (ไลฟ์ วัน ไวร์เลส)” คอนโดมิเนียมระดับไฮเอ็นด์ ภายใต้คอนเซปต์ “Live a Splendid Life” พบชีวิตสมบูรณ์แบบบนที่สุดของทำเลศูนย์กลางมหานคร ให้ผู้อยู่อาศัยได้เติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างสมดุล ด้วยวิธีคิดในการจัดวางผังโครงการที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบมุมมองจากภายในออกสู่ภายนอกในทุกมิติ ผ่านการผสานความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งด้านสถาปัตยกรรม อินทีเรียดีไซน์ และแลนด์สเคปดีไซน์ เพื่อให้ทุกพื้นที่ภายในโครงการ LIFE ONE WIRELESS มอบมุมมองที่สวยที่สุดของกรุงเทพมหานคร พร้อมเอกลักษณ์การตกแต่งในสไตล์ Modern Thai Heritage ที่คงเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าไว้อย่างงดงาม แวดล้อมด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่และพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับชีวิตดิจิตอลกับนวัตกรรมล้ำสมัยหนึ่งเดียวบนถนนวิทยุ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมืองบนทำเลที่ยากจะได้เป็นเจ้าของ นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยว่า “เอพีเข้าใจในความต้องการของลูกค้าและเทรนด์ที่อยู่อาศัยของคนเมืองเป็นอย่างลึกซึ้ง เราเน้นย้ำให้ทีมงานของเราคิดคำนึงเสมอว่า ‘ทำอย่างไรจึงจะสร้างความแตกต่าง และส่งมอบโครงการคุณภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเอพีได้’ สำหรับคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และถือเป็นความภาคภูมิใจของเอพีเสมอมา ด้วยทำเลที่ตั้งที่โดดเด่นใจกลางเมือง สะดวกในการเดินทาง และมอบความสบายในการอยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด ‘Platform for Success’ ที่เรามุ่งมั่นจะให้คอนโดแบรนด์ LIFE เป็นคอนโดมิเนียมแห่งแรกและแห่งเดียวที่มอบความสะดวกสบายในการพักอาศัย และการเชื่อมต่อกับผู้คนได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตอบโจทย์ความต้องการของชีวิตยุคดิจิตอลของคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างดีที่สุด” โครงการ LIFE ONE WIRELESS ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท (เฉลี่ย 170,000 บาทต่อตารางเมตร) จะเปิดขายทาง iBooking apthai.com ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ และเปิดขายอย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานขาย LIFE ONE WIRELESS ในวันที่ 29 กรกฎาคม   LIFE ONE WIRELESS ผสานความงดงามของการดีไซน์ เข้ากับความทันสมัยเพื่อชีวิตดิจิตอลไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ด้วยความโดดเด่น ดังนี้ 1. 24 Hours Connected World ผสานเทคโนโลยีในการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง เพื่อชีวิต Digital Community อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการติดตั้ง Infrastructure ที่พร้อมรองรับสิ่งอำนวยความสะดวก และสัญญาณ Wi-fi ในพื้นที่ส่วนกลางทุกจุด ทั้งยังจัดสรรพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับการใช้งานในรูปแบบ Co-working Space ที่จะทำให้การเชื่อมต่อเป็นเรื่องง่าย พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์ที่พร้อมรองรับการใช้งานจริง รองรับวิถีชีวิตการทำงานที่ยืดหยุ่นไม่ยึดติดกับกรอบของเวลาหรือสถานที่ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา   2. AP COMMUNITY APPLICATION ทุกอย่างควบคุมได้เพียงปลายนิ้ว ภายใต้วิสัยทัศน์ AP Digital Community สัมผัสอนาคตแห่งการอยู่อาศัยได้ด้วย AP COMMUNITY APPLICATION อย่างเต็มรูปแบบ ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในโครงการเอพีให้สะดวกสบายและปลอดภัยในรูปแบบใหม่ที่สะดวกกว่าเดิม โดยสามารถสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย ให้ควบคุมทุกอย่างได้แบบ real time รองรับการเปิด-ปิดระบบไฟฟ้าในห้องพัก การจองใช้พื้นที่ส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งยังสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในโครงการได้สะดวกสบายกว่าที่เคย “สำหรับภาพตลาดคอนโดในย่านพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างวิทยุ-หลังสวน-เพลินจิต-ชิดลม ส่วนใหญ่เกิดจากการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาด ด้วยข้อจำกัดในการครอบครองและต้นทุนที่ดินที่ดีดตัวสูงขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้การพัฒนาโครงการที่พักอาศัยในย่านดังกล่าว โดยเฉพาะทำเลที่มีทางเข้า-ออกติดถนนเส้นหลักเป็นไปได้ยาก จากการสำรวจในย่านพื้นที่เชื่อมต่อดังกล่าว พบซัพพลายคงเหลือเพียง 998 ยูนิต หรือคิดเป็น 30 % ของจำนวนยูนิตที่เปิดตัวทั้งหมด ซึ่งคอนโดในกลุ่มไฮเอ็นด์ระดับราคาต่อตารางเมตรประมาณ 1.5 - 2 แสนบาท คงเหลือเพียงแค่ 330 ยูนิตเท่านั้น ดังนั้นจึงมั่นใจว่า LIFE ONE WIRELESS จะได้รับการตอบรับที่ดีจากดีมานด์ในตลาด ด้วยโลเคชั่นใจกลางเมืองบนทำเลมากมูลค่าและยากที่จะครอบครองอย่างถนนวิทยุ โดยเฉพาะคอนโดในระดับราคาตารางเมตรไม่เกิน 2 แสนบาท ที่เปิดขายอยู่บนถนนวิทยุยังไม่มีคอนโดเปิดใหม่ โดยเอพีจะนำความเชี่ยวชาญและความสำเร็จในการพัฒนาลักชัวรี่คอนโดภายใต้แบรนด์ The Address และ RHYTHM เพื่อรังสรรค์ให้ LIFE ONE WIRELESS เป็น Flagship แรกภายใต้แบรนด์ LIFE ที่รังสรรค์ทุกองค์ประกอบ เพิ่มระดับการอยู่อาศัยที่เน้นความลักชัวรี่ที่ผสานสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และการออกแบบที่คำนึงถึงทุกมุมมองที่ดีที่สุด เพื่อตอบดีมานด์และเป็นโครงการคอนโดที่ดีที่สุดในถนนวิทยุ” นายวิทการกล่าวเพิ่มเติม ปัจจุบัน (ณ 30 มิถุนายน 2560) เอพีมีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Ongoing Projects) จำนวน 15 โครงการ มูลค่าคงเหลือขายรวมประมาณ 12,300 ล้านบาท โดยเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างเอพีและ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC) 9 โครงการ มูลค่าคงเหลือขายรวมประมาณ 4,090 ล้านบาท ในส่วนของผลการดำเนินงานของเอพีจากกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 8,200 ล้านบาท และมั่นใจว่าจากการเปิดตัว LIFE ONE WIRELESS ไฮเอ็นด์คอนโดมิเนียมบนทำเลที่ดีที่สุดของถนนวิทยุ จำนวน 1,344 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 170,000 บาทต่อตารางเมตร) และ LIFE อโศก – พระราม 9 สุดยอดคอนโดมิเนียมที่พร้อมสนับสนุนความสำเร็จให้กับชีวิตคนเมืองยุคดิจิตอล ราคาเริ่มต้น 110,000 บาทต่อตารางเมตร จะช่วยโกยยอดขายคอนโดมิเนียมล็อตใหญ่ และทะลุเป้าหมายยอดขายคอนโดมิเนียมที่ตั้งไว้ที่ 12,400 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน
‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิดบ้านต้อนรับนิสิตนักศึกษา “เอพี โอเพ่น เฮ้าส์ 2017” เตรียมเข้าฝึกงานแบบเจาะลึก 2 เดือนเต็ม กับ สถาบันเอพี อะคาเดมี่

‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิดบ้านต้อนรับนิสิตนักศึกษา “เอพี โอเพ่น เฮ้าส์ 2017” เตรียมเข้าฝึกงานแบบเจาะลึก 2 เดือนเต็ม กับ สถาบันเอพี อะคาเดมี่

กรุงเทพฯ (22 ก.พ. 60) – เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย เปิดบ้านต้อนรับนิสิตนักศึกษาจำนวน 50 คน (จากยอดผู้สมัคร 1,400 คนจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ) เพี่อเตรียมเข้าฝึกงานในโครงการ “เอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2017 – ชีวิตจริงยิ่งกว่าทฤษฎี” (ปีที่ 2) ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 รวมเวลา 2 เดือน เพื่อเรียนรู้กระบวนการทำงานอย่างแท้จริง ได้ปฏิบัติงานจริง ภายใต้การดูแลของ “เอพี อะคาเดมี่” (AP Academy) สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศโดย บมจ. เอพี (ไทยแลนด์)   โดยหลักสูตรฝึกงานเอพี โอเพ่นเฮ้าส์  2017 เน้นสองโปรแกรมฝึกงานสำคัญ ได้แก่ โปรแกรมวิศวกรรมโยธา  ที่ครอบคลุมทุกกระบวนการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งความพิเศษในปีนี้ คือ เน้นความรู้ด้านกระบวนการก่อสร้างบ้านแนวราบ และ โปรแกรมด้านการตลาดและการขาย ที่จะได้เรียนรู้กระบวนการทำงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเน้นให้นิสิตนักศึกษาเข้าใจและทำงานอย่างเป็นระบบ เมื่อสิ้นสุดโครงการนิสิตนักศึกษาจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากเอพี อะคาเดมี่ สำหรับนิสิตนักศึกษาจำนวน 4 คนที่มีผลการฝึกงานที่โดดเด่นยังจะได้รับโอกาสจาก บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นกับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group หรือ MEC) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศญี่ปุ่น พันธมิตรทางธุรกิจของเอพี เพื่อเป็นกำลังสำคัญในอนาคตที่จะร่วมพัฒนาวงการอสังหาฯ ไทยให้ก้าวไกลได้มาตรฐานสากล   นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานทรัพยากรบุคคล บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) และผู้อำนวยการสถาบันเอพี อะคาเดมี่ กล่าวว่า “สำหรับที่เอพี เรามุ่งมั่นในเรื่องของการสร้าง ‘คน’ โครงการ ‘เอพี โอเพ่นเฮ้าส์’ ภายใต้สถาบัน ‘เอพี อะคาเดมี่’ จึงมีเป้าหมายในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้ฝึกฝนความคิดและทักษะผ่านการลงมือปฏิบัติจริงอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและให้น้องได้เห็นภาพอย่างเป็นรูปธรรมในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ชีวิต   การทำงานจริง  เอพี โอเพ่นเฮ้าส์ มุ่งหวังช่วยยกระดับการศึกษาให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้แข่งขันได้ในระดับนานาชาติ”   คุณภูมิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอพี โอเพ่นเฮ้าส์ วางโครงสร้างหลักสูตรให้นิสิตนักศึกษาได้เจาะลึกในทุกกระบวนการทำงานจริงในการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร เริ่มจาก เรียนรู้จริงทุกกระบวนการ ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ทั้งการวางแผนงานการตลาดและการขาย ได้ลงมือทำจริง เข้าอบรมและลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริงตลอดระยะเวลา 2 เดือน และมีโค้ชส่วนตัว ประกอบด้วย วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ (Senior Engineer) นักการขาย (Senior Sales Executive) และนักการตลาด (Senior Marketing Executive) ผู้มีประสบการณ์ ทำหน้าที่ลงหน้างานจริงเพื่อดูแลและให้ความรู้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดการฝึกงาน”   โครงการฝึกงานเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2017 ประกอบด้วยนิสิตนักศึกษา 50 คน แบ่งเป็นด้านวิศวกรรมโยธา 30 คน และด้านการตลาดและการขาย 20 คน ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัคร 1,400 คน จาก 38 สถาบัน การศึกษาทั่วประเทศ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านการทำแบบทดสอบออนไลน์ และเข้าร่วมกิจกรรมคัดเลือก ณ สำนักงานใหญ่ของเอพี จนได้รับการคัดเลือกเพื่อเข้าฝึกงานกับบมจ. เอพี (ไทยแลนด์)   นายเจตวิสุทธิ์ เลี้ยงชีพ นิสิตชั้นปีที่ 3 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้ผ่านการคัดเลือกโปรแกรมฝึกงานด้านวิศวกรรมโยธา กล่าวว่า “ไม่คิดเลยครับว่าจะได้รับคัดเลือก เพราะปีนี้มีผู้ลงสมัครจำนวนมาก ทุกคนมีศักยภาพสูง แต่ผมก็ทำสุดความสามารถครับ เพราะผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ ผมอยากเห็นการทำงานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านวิศวกรรมโยธา เพราะเป็นสาขาที่ผมเรียนมาโดยตรง นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้การสร้างบ้านอย่างเจาะลึกกับเอพี (ไทยแลนด์) ตั้งแต่การพัฒนาที่ดินเปล่าไปจนถึงการส่งมอบบ้านครับ”   ขณะที่ นายสิรภพ อรุณทิพย์ไพฑูรย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เข้าร่วมโปรแกรมฝึกงานด้านการตลาดและการขาย กล่าวเสริมว่า “ดีใจมากเลยครับที่ได้รับคัดเลือก เนื่องจากจะได้ลงมือทำงานในสถานการณ์จริง โดยมีโค้ชซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ โดยส่วนตัวมองว่า การได้ลงมือทำจริงและได้เห็นของจริง ย่อมดีกว่าการเรียนรู้จากในชั้นเรียนเพียงอย่างเดียวครับ และยังมีการคัดเลือกผู้ที่มีผลงานโดดเด่นไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นถึง 4 คนอีกด้วยครับ”   เอพี (ไทยแลนด์) จัดตั้ง ‘เอพี อะคาเดมี่’ สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ประกอบไปด้วย โครงสร้างหลัก 3 ส่วน ดังนี้ 1. เอพี พร็อพเพอร์ตี้ สคูล เพื่อบุคลากรเอพี สร้างความพร้อม พัฒนาบุคลากร และยกระดับมาตรฐานการทำงานอย่างมีระบบ 2. เอพี ซิมโพเซียม คือ เวทีเสวนางานดีไซน์ที่ เอพีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิตนักศึกษา ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และ 3. เอพี โอเพ่นเฮ้าส์ คือ การเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้มาฝึกอบรม เรียนรู้กระบวนการทำงานจริง โดยมุ่งหวังให้สามารถนำความรู้และทฤษฎีมาประยุกต์ใช้กับการทำงานในพื้นที่จริง และเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ที่สำคัญคือมิตรภาพความเป็นพี่น้องของทีมงานเอพี และมิตรภาพระหว่างเพื่อนๆ ว่าที่วิศวกร นักการตลาดและนักการขายของประเทศไทย     มร.โนริคาสุ ฮายาชิ จากบริษัท พรีเมียม เรสซิเดนซ์ จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่างเอพี และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป)
“เอพี ไทยแลนด์” เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา” ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น พร้อมจับมือ “ซัมซุง” ยกระดับการใช้ชีวิตไปอีกขั้นปั้นอินเทลลิเจนท์โฮมของจริงแห่งแรกในเมืองไทย

“เอพี ไทยแลนด์” เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา” ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น พร้อมจับมือ “ซัมซุง” ยกระดับการใช้ชีวิตไปอีกขั้นปั้นอินเทลลิเจนท์โฮมของจริงแห่งแรกในเมืองไทย

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาอสังหาริมทรัพย์ สำหรับคนเมือง และผู้นำการสร้างสรรคนวัตกรรมการดีไซน์เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” (Baan Klang Muang CLASSE) บ้านเดี่ยวซูเปอร์ลักชัวรี่สูง 3 ชั้น โครงการล่าสุดของเอพี นำเสนอความต่างด้วยการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์สุดล้ำภายใต้แนวคิด ‘Multiverse Layouts’ การออกแบบพื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้ชีวิตในแนวตั้งและแนวนอนไปพร้อมๆ กัน สร้างมิติใหม่ให้กับพื้นที่ใช้สอยและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้นได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบสนองความต้องการใช้ซีวิตที่หลากหลายของคน 3 ช่วงวัยในครอบครัว พร้อมเป็นโครงการแรกในธุรกิจอสังหาทรัพย์ที่เหนือกว่า ด้วยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแนวคิด IoT (Internet of Things) ผ่านการประกาศจับมือร่วมกับทางซัมซุง เปิดตัว ‘AP Intelligent Living’ ที่สุดของนวัตกรรมเพื่อนการอยู่อาศัย ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง ซึ่งทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม IoT (Internet of Things) ยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าเอพีให้สะดวกสบายปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเอพีได้พันธมิตรเบอร์หนี่งที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องเทคโนโลยี เพื่อการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง อย่างบริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ในการเข้ามาทำงานร่วมกับทีม AP Design Lab เพื่อร่วมกันวางระบบอินเทลลิเจนท์โฮม ให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของบ้าน โดยมีโครงการบ้านกลางเมือง คลาสเซ่เป็นโครงการนำร่อง โดยเอพีเป็นรายแรกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยที่เหนือกว่าด้วยการผสานนวัตกรรม Alexa Voice Command ระบบสั่งงานด้วยเสียงให้เชื่อมต่อเข้ากับระบบสมองกลอัจฉริยะที่เป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้นภายในบ้าน นอกจากนี้ระบบอินเทลลิเจนท์โฮมยังพัฒนาขั้นสูงไปจนถึงสามารถตอบโต้กับเจ้าของบ้านตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่มีความสามารถมากขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างน่าทึ่ง ช่วยให้ชีวิตของลูกบ้านเอพีสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) คือ ผู้นำด้านการปฏิวัติออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่อยู่อาศัย ผู้พัฒนาดครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย มุ่งมันสร้างสรรค์อย่างมีสำนึกรับผิดชอบ ด้วยผลิตภัณฑ์อสังหาริมทรัพย์และบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ตั้งแต่การดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบาย ทำเลที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงคุณภาพในการก่อสร้าง การบำรุงรักษา บริการหลังการขาย และบริการขาย/ให้เช่า ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์เอพีได้ใช้ชีวิตที่ดีที่สุดและเติมเต็มความสุขในแบบที่ตนปรารถนา “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย - ทุกพื้นที่ชีวิตเราคิดเพื่อคุณ”
เอพี เตรียมเปิดขายแนวราบพร้อมกัน 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท

เอพี เตรียมเปิดขายแนวราบพร้อมกัน 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท

(14 พ.ย. 2559) คุณภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยว่าดีมานด์สินค้าที่อยู่อาศัยแนวราบมีการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าครอบครัวระดับบนที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง การันตีจากยอดขายสินค้าแนวราบ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2559 รวมประมาณ 10,950 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% จากเป้ายอดขายเฉพาะโครงการแนวราบทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 14,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ‘ฟังก์ชั่นใช้สอยภายในบ้าน’ จะต้องตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของครอบครัวคนเมือง และ ‘ทำเล’ จะต้องมีศักยภาพติดถนนใหญ่ ใกล้โครงข่ายคมนาคมที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่เมืองได้อย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดเอพีเตรียมเปิดขายบ้านเดี่ยว 3 โครงการสุดท้ายของปี มูลค่าโครงการรวม 3,900 ล้านบาท ได้แก่ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา จำนวน 56 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ จำนวน 70 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท และเดอะ ซิตี้ บางใหญ่ จำนวน 133 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.99 – 7 ล้านบาท โดยบ้านเดี่ยวทั้ง 3 โครงการจะเปิดขายอย่างเป็นทางการพร้อมกัน ณ เซลส์แกลเลอรี ในวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายนนี้   สำหรับรายละเอียดบ้านเดี่ยวทั้ง 3 โครงการ ประกอบด้วย 1. บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่าสูง 3 ชั้น โครงการแรกในเมืองไทยที่รองรับนวัตกรรมการอยู่อาศัย AP Intelligent Living เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยสนับสนุนให้การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่สะดวกสบายอย่างแท้จริง จำนวน 56 ยูนิต เพียง 15 นาทีถึงสาทร มูลค่าโครงการ 2,560 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท ขนาดที่ดินเริ่มต้น 52.6 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 346 - 454 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น พร้อมที่จอดรถ 3 คัน 2. เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ภายใต้การออกแบบสไตล์ Modern Moroccan จำนวน 70 ยูนิต โครงการบ้านเดี่ยวบนทำเลติดถนนใหญ่เพียงแห่งเดียวในย่านสุขสวัสดิ์ พร้อมการเชื่อมต่อสาทรอย่างรวดเร็ว มูลค่าโครงการ 580 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท ขนาดที่ดินเริ่มต้น 52.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 185.92 – 169.61 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน 3. เดอะ ซิตี้ บางใหญ่ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ภายใต้การออกแบบ Modern Art Deco จำนวน 133 ยูนิต ใกล้ทางด่วน 2 นาทีถึงรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีคลองบางไผ่ มูลค่าโครงการ 760 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.99 - 7 ล้านบาท ขนาดที่ดินเริ่มต้น 52.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 185.92 – 169.61 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน “โดยเอพีได้เตรียมเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจจองซื้อโครงการ เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ และ เดอะ ซิตี้ บางใหญ่ ลงทะเบียนทาง apthai.com รับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมายในงานเปิดขายระหว่างวันที่ 19 – 20 พ.ย. นี้ ณ เซลส์แกลเลอรีโครงการ” คุณภมรกล่าวเพิ่มเติม
‘เอพี’ ตอกย้ำผู้นำทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ในเมือง เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา” ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้นโครงการแรกในเมืองไทย ผสานนวัตกรรมดิจิตอลลิฟวิ่งล้ำสมัย ยกระดับการใช้ชีวิตไปอีกขั้น มูลค่าโครงการรวม 2,560 ล้านบาท

‘เอพี’ ตอกย้ำผู้นำทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ในเมือง เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา” ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้นโครงการแรกในเมืองไทย ผสานนวัตกรรมดิจิตอลลิฟวิ่งล้ำสมัย ยกระดับการใช้ชีวิตไปอีกขั้น มูลค่าโครงการรวม 2,560 ล้านบาท

กรุงเทพฯ (21 ก.ย. 59) – วันนี้ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สำหรับคนเมือง และผู้นำการสร้างสรรค์นวัตกรรมการดีไซน์เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” (Baan Klang Muang CLASSE) ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้นโครงการแรกของวงการอสังหาฯ ไทย ผลิตภัณฑ์ล่าสุดเพื่อรุกตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบไตรมาส 4/2559 ของเอพี นำเสนอความต่างด้วยการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์สุดล้ำภายใต้แนวคิด ‘Multiverse Layouts’ การออกแบบพื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้ชีวิตในแนวตั้งและแนวนอนไปพร้อมๆ กัน สร้างมิติใหม่ให้กับพื้นที่ใช้สอยและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้นได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคน 3 ช่วงวัยในครอบครัว มอบความเป็นที่สุดของการใช้ชีวิตหรูหรามีระดับ ผสมผสานกลมกลืนกับธรรมชาติในบรรยากาศส่วนตัว และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เพิ่มเติมพื้นที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น มูลค่าโครงการรวม 2,560 ล้านบาท บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ พร้อมเปิดตัวเป็นที่แรกกับ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย - รามอินทรา” โดยในเฟสแรกพร้อมนำเสนอซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น จำนวน 2 โมเดล ได้แก่ MONTE และ ETHNA สมบูรณ์พร้อมด้วย 5 ห้องนอน  6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น พร้อมที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ใช้สอย 346-454 ตารางเมตร จำนวน 56 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท เตรียมเปิดขายช่วง pre-sale วันที่ 5-6 พฤศจิกายนนี้ ณ เซลส์ แกลเลอรีโครงการ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ในเมืองอันดับหนึ่งของประเทศจากแบรนด์ “บ้านกลางเมือง” การบุกตลาดในครั้งนี้ นับเป็นการท้าทายวิธีคิดของเอพีในการพัฒนาพื้นที่ไปอีกขั้น ด้วยการต่อยอดแนวคิดในการออกแบบพื้นที่แนวตั้งไปสู่ที่อยู่อาศัยรูปแบบซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่าสามชั้น “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย - รามอินทรา” จัดเป็นโครงการแรกที่เอพีนำวิสัยทัศน์การใช้ชีวิตแบบ ‘Digital Community’ มาใช้จริงอย่างเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย โดย AP Digital Community จะเข้ามาส่งเสริมให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป ผ่านการสอดผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย เข้ากับแนวคิด IoT (Internet of Things) ที่ว่าระบบและอุปกรณ์ต่างๆ สามารถสื่อสารถึงกันได้ โดยมีเป้าหมายคือช่วยกันทำงาน เพื่อให้รูปแบบการใช้ชีวิตสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเอพีได้วางระบบสมองกลอัจฉริยะไว้เป็นคีย์สำคัญที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้นภายในบ้านให้สามารถสื่อสารและประมวลผลร่วมกัน รวมถึงการผสานนวัตกรรมระบบสั่งการด้วยเสียง ที่นอกจากจะควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านเสียงแล้ว ระบบนี้ยังทำงานร่วมกับสมองกลอัจฉริยะที่พัฒนาขั้นสูงไปจนถึงคิดคำนวณและตอบโต้กับเจ้าของบ้านได้อีกด้วย หรือระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดมากขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยจริงได้อย่างน่าทึ่ง ช่วยให้ชีวิตของลูกบ้านเอพีสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยว่า “เอพีประสบความสำเร็จในการริเริ่มบุกเบิกตลาดทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ โลเคชั่นใจกลางเมืองเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นเบอร์ 1 ของตลาดทั้งในแง่สัดส่วนยอดขายและจำนวนโครงการ จากความสำเร็จดังกล่าวการันตีได้ถึงความโดดเด่นด้านแนวคิดของ ‘การดีไซน์พื้นที่’ ที่สร้างความแตกต่างให้กับการอยู่อาศัย ซึ่งในการสร้างความแตกต่างเราไม่ได้พิจารณาเฉพาะการแข่งขันในตลาด แต่เราคำนึงถึงการ-ท้าทายตัวเราเอง นั่นคือการก้าวข้ามขีดจำกัดและศักยภาพของตัวเราเองด้วย การเปิดตัว ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย - รามอินทรา’ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการพัฒนาโครงการแนบราบของเอพี ด้วยแบรนด์ทาวน์โฮมไฮเอ็นท์ ที่มีศักยภาพแข็งแกร่งเป็นที่น่าเชื่อถือของผู้บริโภคอย่าง ‘บ้านกลางเมือง’ จึงการันตีได้ถึงคุณภาพและแนวคิดฉีกกรอบภายใต้ปรัชญาการทำงาน ‘AP – The Differentiator’ หรือเอพีผู้สร้างความแตกต่างให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย” “การที่เอพีบุกตลาดซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า (ระดับราคาขาย 20 ล้านบาทขึ้นไป) ในโซนเอกมัย - รามอินทรานับว่าเป็นทำเลที่มีจำนวนดีมานด์และมียอดขายดีมาอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจซับพลาย์กลุ่มสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวทั้งตลาด พบว่า 93% หรือประมาณ 24,332 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 15 ล้านบาท และอีก 6% หรือประมาณ 1,504 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวกลุ่มระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป และเมื่อศึกษาเข้าไปถึงทำเลที่ตั้งพบว่าจาก 6% นั้นมีเพียงแค่ 3 โครงการ หรือประมาณ 50 ยูนิตเท่านั้นที่ตั้งอยู่ในเมือง (รัศมี 10 กิโลเมตรจากรถไฟฟ้าจตุจักร) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางการตลาดที่จำนวนซับพลาย์เกิดใหม่ยังมีไม่มาก ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงกระจุกตัวอยู่ในเขตเมือง” นายภมรกล่าว โดยนายภมรยังกล่าวถึงแนวคิดการออกแบบโครงการ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” ภายใต้นวัตกรรม Multiverse Layouts ซึ่งเป็นวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่แนวตั้งและแนวนอนพร้อมกัน ก่อให้เกิดมิติด้านพื้นที่ใช้สอยและการใช้งานที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้น อีกทั้งยังสร้างความต่อเนื่องของสเปซภายนอกบ้านสู่ภายในบ้าน ตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคน 3 ช่วงวัยในครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย 5 แนวคิดหลัก ดังนี้ Multi-Dimension Space "เชื่อมต่อทุกมิติชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียว" เพิ่มประสบการณ์รวมถึงการใช้พื้นที่หลากกิจกรรมบนพื้นที่เดียวกัน เช่น ห้องนั่งเล่นชั้น 1 (Veranda Atrium) พื้นที่พักผ่อนที่มีดีไซน์เชื่อมต่อในแนวตั้งด้วยเพดานสูง 5 เมตร และการเชื่อมต่อพื้นแนวนอนสู่สวนด้านหน้า และดีไซน์ความเป็นส่วนตัวโดยเพิ่มทางเข้าบ้าน 3 แบบ โดยสามารถเข้าจากห้องรับแขก จากห้องเตรียมอาหาร หรือบันไดหน้าบ้านสู่ห้องนั่งเล่นชั้น 2 ซึ่งประสบการณ์ที่ได้จะแตกต่างกันทั้งหมด Perceptual Space "ขยายขอบเขตของบ้านให้ใหญ่ขึ้น" การออกแบบบ้านโดยไม่มีการทิ้งพื้นที่ให้เปล่าประโยชน์ เชื่อมพื้นที่หน้าบ้านและสวนมาเป็นส่วนหนึ่งของห้องภายใน ที่เสมือนการขยายขอบเขตของพื้นที่ห้องออกไปด้านนอก เช่น ห้องรับประทานอาหารสามารถเชื่อมมุมมองออกไปยังสวนหลังบ้านจนถึงแนวกำแพงบ้าน รวมถึงห้องรับแขกที่สามารถเชื่อมการใช้พื้นที่ออกไปยังลานเอนกประสงค์จนถึงแนวรั้วต้นไม้ Outside-In Space "พื้นที่สวนเดียวหลายมุมมอง" ที่บริเวณชั้น 3 ของบ้าน โดยสวนเล็กๆ นี้ได้ถูกออกแบบเป็น Courtyard และยังได้รับการออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้จากทุกชั้นภายในบ้าน รวมถึงสามารถมองต่อเนื่องขึ้นมาจากบริเวณโถงสูงของห้องรับแขก Height Ceiling เป็นพื้นที่ต่อเนื่องทางตั้ง นอกจากมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว สวนนี้ยังทำหน้าที่เป็นช่องแสง และช่วยเพิ่มการระบายอากาศภายในได้ เรียกได้ว่าเป็นสเปซที่ให้ความสำคัญกับความสงบ และความเป็นส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน Three Generational Space “พื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย” เชื่อมความสัมพันธ์ของคน 3 ช่วงวัย คือ รุ่นปู่ย่า/ตายาย รุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก โดยทุกคนในครอบครัวมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น เปลี่ยนแนวคิดด้านข้อจำกัด ทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นพื้นที่เชื่อมสายใยรัก ความอบอุ่น แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัว อาทิ Patio Family Living ห้องนั่งเล่นของครอบครัวที่ ชั้น 2 ของบ้าน โดยเพิ่มเอกลักษณ์และความเป็นส่วนตัวด้วยการเชื่อมบันไดหน้าบ้านตรงสู่ห้องนั่งเล่น    และการออกแบบที่คำนึงถึงผู้สูงอายุเป็นหลัก อาทิ ห้อง Sanctuary Unit ห้องนอนผู้สูงอายุชั้น 1 พร้อมพื้นลดแรงกระแทก (absorption floor) และราวจับในห้องน้ำ Convertible Space “การออกแบบพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย” ประโยชน์ใช้สอยเต็มพื้นที่ ฉีกกรอบคำจำกัดความแบบเดิม ยกตัวอย่าง พื้นที่เตรียมอาหารขนาดใหญ่ (Dining Terrain) ทำให้เกิดมุมมองที่โปร่ง แปลกตา จากที่จอดรถที่ไม่เป็นผนังทึบ กลายเป็นลาน-เอนกประสงค์สำหรับจัดงานสังสรรค์เล็กๆ สำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนได้อีกด้วย “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย - รามอินทรา” ตั้งอยู่ถนนสุคนธสวัสดิ์ 19 มีจำนวนทั้งสิ้น 156 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,560 ล้านบาท วางการเปิดขายเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 จำนวน 56 ยูนิต (เปิดพรีเซล 5-6 พ.ย. นี้) และเฟสที่ 2 จำนวน 100 ยูนิต (คาดว่าจะเปิดขายช่วงต้นปี 2560) โครงการได้รับการพัฒนาบนที่ดินขนาด 32.3 ไร่ ในทำเลเชื่อมต่อย่านธุรกิจใจกลางเมือง แวดล้อมไปด้วยแหล่งแฮงค์เอาท์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวคนเมือง อาทิ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, CDC และเดอะ วอล์ค เป็นต้น สะดวกต่อการเดินทางเข้าออกเมืองและใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เราเปิดตัวโครงการแนบราบไปแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวม 6,550 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการ มูลค่า 4,010 ล้านบาท และทาวน์โฮม 4 โครงการ มูลค่า 2,540 ล้านบาท ยอดขายโครงการแนวราบ (ณ วันที่ 15 กันยายน) รวม 9,745 ล้านบาท และมีสินค้าแนวราบรอรับรู้รายได้รวมมูลค่า 5,685 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจากการเปิดโครงการใหม่ และกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจยอดขายโครงการแนวราบปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ เป้ายอดขายโครงการแนวราบ 14,500 ล้านบาท” นายภมรกล่าว นอกจากนี้ ในช่วง 4 เดือนสุดท้าย เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 6,400 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่า 3,840 ล้านบาท และบ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา 1 โครงการ มูลค่ารวม 2,560 ล้านบาท บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) คือ ผู้นำด้านการปฏิวัติออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่อยู่อาศัย ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย มุ่งมั่นสร้างสรรค์อย่างมีสำนึกรับผิดชอบ ด้วยผลิตภัณฑ์อสังหาริมทรัพย์และบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ตั้งแต่การดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบาย ทำเลที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงคุณภาพในการก่อสร้าง การบำรุงรักษา บริการหลังการขาย และบริการขาย/ให้เช่า ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์เอพีได้ใช้ชีวิตที่ดีที่สุดและเติมเต็มความสุขในแบบที่ตนปรารถนา “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย – ทุกพื้นที่ชีวิตเราคิดเพื่อคุณ”
‘เอพี ไทยแลนด์’ นำเทรนด์เปิดตัว ‘Digital Community’ รายแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

‘เอพี ไทยแลนด์’ นำเทรนด์เปิดตัว ‘Digital Community’ รายแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

กรุงเทพฯ (19 ก.ย. 59) – วันนี้ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย สำหรับคนเมือง โดย คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกาศเปิดตัว “AP Digital Community” เป็นรายแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยโครงการแรกที่พร้อมรองรับวิสัยทัศน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ดิจิตอล คอมมิวนิตี้ของเอพีก็คือ โครงการ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” วิลล่าหรูเหนือระดับล่าสุด ซึ่งพร้อมเปิดตัววันพุธที่ 21 กันยายนนี้ ที่ห้องฉัตราบอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้   ทั้งนี้ วิสัยทัศน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ AP Digital Community จะเข้ามาส่งเสริมให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ในโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของเอพีเปลี่ยนไป ผ่านการสอดผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแนวคิด IoT (Internet of Things) ที่ว่าระบบและอุปกรณ์ต่างๆ สามารถสื่อสารถึงกันได้  โดยมีเป้าหมายคือช่วยกันทำงาน เพื่อให้รูปแบบการใช้ชีวิตสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น  โดยเอพีได้วางระบบสมองกลอัจฉริยะไว้เป็นคีย์สำคัญที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้นภายในบ้านให้สามารถสื่อสารและประมวลผลร่วมกัน รวมถึงการผสานนวัตกรรมระบบสั่งการด้วยเสียง ที่นอกจากจะควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านเสียงแล้ว ระบบนี้ยังทำงานร่วมกับสมองกลอัจฉริยะที่พัฒนาขั้นสูงไปจนถึงคิดคำนวณและตอบโต้กับเจ้าของบ้านได้อีกด้วย หรือระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดมากขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยจริงได้อย่างน่าทึ่ง ช่วยให้ชีวิตของลูกบ้านเอพีสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นับเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์สู่การเติบโตในปีที่ 26 ของเอพีเพื่อมุ่งสู่การเป็น 1 ใน 3 บริษัทชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจ “มอบความแตกต่างด้วยคุณภาพ” กับหลักปรัชญาการทำงาน “AP – The Differentiator”   “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย– ทุกพื้นที่ชีวิตเราคิดเพื่อคุณ”
‘เอพี ไทยแลนด์’ ปลื้มคอนโดเอพีได้รับการตอบรับดีท่วมท้น ล่าสุด ‘RHYTHM เอกมัย’ ขายหมดในวันแรกที่เปิดตัว ผลพิสูจน์ความมุ่งมั่นสร้างความแตกต่างอสังหาฯ เครือเอพี

‘เอพี ไทยแลนด์’ ปลื้มคอนโดเอพีได้รับการตอบรับดีท่วมท้น ล่าสุด ‘RHYTHM เอกมัย’ ขายหมดในวันแรกที่เปิดตัว ผลพิสูจน์ความมุ่งมั่นสร้างความแตกต่างอสังหาฯ เครือเอพี

กรุงเทพฯ (8 ก.ย. 59) – วันนี้ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการ อสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย โดยนายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ คอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแนวทางในการดำเนินงานที่มุ่งสร้าง ความแตกต่างให้กับอสังหาริมทรัพย์ในเครือเอพี ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในปีนี้ล้วนประสบความสำเร็จทางยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น Life สุขุมวิท 48 ที่เปิดขายไปเมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมาก็ปิดการขาย 100% ได้ภายในเวลาเพียง 2 วัน และล่าสุดกับการเปิดขายโครงการใหม่ RHYTHM เอกมัย  (ริธึ่ม เอกมัย) คอนโดมิเนียมร่วมทุนโครงการที่ 8 กับพันธมิตรญี่ปุ่นมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC) มูลค่า 2,680 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างด้วยนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ล่าสุด เพื่อพื้นที่อยู่อาศัยในมุมมองใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘PERSPECTIVISM’ และจากจุดขายที่ชัดเจนของโครงการนี้ที่ทุกยูนิตจะมีวิวเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถ ปิดการขายโครงการ RHYTHM เอกมัยได้ 100% ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว     “ในปีนี้เราประกาศ Sold Out ไปแล้ว 2 โครงการคือ Life สุขุมวิท 48 ที่เปิดไปเมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และล่าสุดคือ RHYTHM เอกมัย ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ มีลูกค้ามาลงทะเบียนสนใจห้องชุดมากกว่า 1,500 คน ซึ่งเรามีห้องเพียง 326 ยูนิต หลายคนไม่ได้ห้องชุดที่ต้องการซึ่งทางบริษัทต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ การ Sold Out ไม่ว่าจะของ Life สุขุมวิท 48 หรือ RHYTHM เอกมัยในวันนี้ สะท้อนให้เราเห็นภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ ข้อหนึ่งว่าจริงๆ แล้วดีมานด์สำหรับตลาดคอนโดยังคงมีอยู่ เพียงแต่สินค้าที่เปิดใหม่ขึ้นมานั้น จับตลาดถูกกลุ่มหรือไม่ และที่สำคัญสินค้านั้นมีความโดดเด่นและแตกต่างจากสินค้าที่ขายอยู่ในตลาดแค่ไหน ซึ่งสำหรับคอนโดที่มีแผนจะเปิดตัวใหม่ในปีนี้อีก 2 โครงการ ทีม AP Design Lab เราเปลี่ยนวิธีคิดในการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเป็นรายแรกในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งสร้างความแตกต่าง ให้เกิดขึ้นในทุกองค์ประกอบของโครงการ ซึ่งอยากให้คอยติดตามดูนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ของเอพีเราครับ” นายวิทการกล่าว   นอกจากโครงการ RHYTHM เอกมัย ที่นำมาเปิดขายในงาน AP SPACE VISION สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายนนี้แล้วนั้น ภายในงานบริษัทฯ มีคอนโดมิเนียมในทำเลใกล้รถไฟฟ้า มาขายในงานอีกกว่า 17 โครงการ ในราคาเริ่มต้น 1.55 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นในทำเล สุขุมวิท อโศก สาทร งามวงศ์วาน รัตนาธิเบศร์ ปิ่นเกล้า และเอราวัณ เป็นต้น รวมทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมในทำเลศักยภาพ กว่า 20 ทำเลในราคาเริ่มต้น 2.19 บาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุดในงานกว่า 4,000,000 บาท พิเศษสำหรับโครงการพร้อมอยู่รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.5% นาน 2 ปี จากพันธมิตรธนาคารชั้นนำ   สำหรับผู้ที่มองหาห้องชุดยูนิตพิเศษในทำเลที่หาไม่ได้แล้วในตลาด หรือต้องการฝากขาย-ฝากเช่า คอนโดมิเนียม ภายในงานยังมีบูธของ บริษัท บางกอก ซิตี้สมาร์ท โบรกเกอร์ในเครือเอพีคอยให้คำปรึกษา และแนะนำการลงทุน พร้อมจัดแคมเปญพิเศษ Tomorrow is NOW โอกาสเดียวในการเป็นเจ้าของคอนโดพร้อมอยู่ ในราคาเดียวกับวันเปิดตัว เริ่ม 2.2 ล้านบาทอีกด้วย   ทั้งนี้ งาน AP SPACE VISION สยามพารากอน จัดขึ้น ณ ชั้น 1 สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2559 เป็นหนึ่งในแคมเปญใหญ่ 25 ปีเอพี ที่ทางบริษัทฯ จัดขึ้น 4 งานใหญ่รอบมุมเมืองของกรุงเทพ (บางแค ลาดพร้าว เวสต์เกต สยามพารากอน) เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าเอพี ภายในงานได้นำเสนอโครงการพร้อมอยู่ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมคุณภาพ ดีไซน์สเปซยอดเยี่ยมภายใต้แบรนด์เอพี และอีกหนึ่งไฮไลท์ในงานคือนวัตกรรมการนำเสนอรูปแบบใหม่ ‘AP SPACE VR’ Virtual Reality ครั้งแรก ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยลูกค้าสามารถรับชม Space ภายในบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมของเอพี สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยได้อย่างเสมือนจริง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมายังโครงการ ช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์มากที่สุดอีกด้วย   ติดตามข้อมูลข่าวสารของเอพีได้ที่ www.apthai.com และเฟสบุ๊ค www.facebook/Apthai “พื้นที่ชีวิต...เราคิดเพื่อคุณ 25 ปี AP Think Space”
‘เอพี ไทยแลนด์’ มุ่งก้าวสู่ท็อป 3 ผู้นำอสังหาฯ ไทย ชูกลยุทธ์ “มอบความแตกต่างด้วยคุณภาพ”

‘เอพี ไทยแลนด์’ มุ่งก้าวสู่ท็อป 3 ผู้นำอสังหาฯ ไทย ชูกลยุทธ์ “มอบความแตกต่างด้วยคุณภาพ”

กรุงเทพฯ (11 ส.ค. 59) – วันนี้ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมืองที่เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการดีไซน์ เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด โดยคุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยวิสัยทัศน์สู่การเติบโตในปีที่ 26 ของเอพี มุ่งสู่การเป็น 1 ใน 3 บริษัทชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่อยู่ในใจผู้บริโภค ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มุ่ง “สร้างความแตกต่างด้วยคุณภาพ” ภายใต้หลักปรัชญาการทำงาน “AP – The Differentiator” ย้ำต้องเป็นรายแรกในการสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยจุดแข็งศักยภาพความพร้อม ทั้ง “ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ” “ทีมงานคุณภาพ” และ “พันธมิตรคุณภาพ” เตรียมเดินเกมส์รุกครึ่งปีหลังเปิดตัว 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมรับรู้รายได้ช่วงสิ้นปีกับแผนการส่งมอบคอนโดบิ๊กแพคมากถึง 8 โครงการ คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า “กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในปีที่ 26 และต่อๆ ไป เอพี ไทยแลนด์ท้าทายตนเองไปอีกขั้น ด้วยเป้าหมายการมุ่งก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่อยู่ในใจผู้บริโภค โดยเรามีกลยุทธ์สู่ชัยชนะคือ ‘การมอบความแตกต่างด้วยคุณภาพ’ ด้วยหลักปรัชญาการทำงาน ‘AP – The Differentiator’ หรือเอพีผู้สร้างความแตกต่างให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ผ่านทั้งตัวสินค้าและบริการ ภายใต้ 4 แนวคิดหลัก 1) SPACE OPTIMIZATION แตกต่างในการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด 2) CONVENIENT แตกต่างในวิธีคิดที่ทุกพื้นที่ต้องเอื้อให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายทั้งในบ้านและนอกบ้าน  และเชื่อมต่อทุกรูปแบบการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับคนเมือง 3) QUALITY มุ่งยกระดับคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้ผสานความร่วมมือกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC) พันธมิตรทางธุรกิจในการร่วมกันสร้าง AP CHECK LIST ขึ้น ซึ่งจะเป็นคู่มือสำคัญในการควบคุมการพัฒนาโครงการที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการออกแบบที่มีคุณภาพ ไปจนถึงขั้นตอนการก่อสร้างและกระบวน การตรวจสอบงานที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้จากทางญี่ปุ่น 4) HUMAN DEVELOPMENT มุ่งสร้างความแตกต่างทั้งระบบความคิดและการบริหารจัดการให้กับคนเอพีอย่างต่อเนื่อง ผ่าน  AP ACADEMY สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของไทย”   “เอพี (ไทยแลนด์) มีความพร้อมด้านศักยภาพในทุกๆ ด้านทั้งบุคลากรคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ครบทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมีเนียม บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เรามีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีคุณภาพ คือ ‘มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป’ (MEC) ที่มีอุดมการณ์เดียวกันในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าของการจับมือเป็นพันธมิตร มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มองภาพการร่วมทุนมากกว่าเรื่องของผลกำไรตอบแทน แต่คือความยินดีที่จะร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้กับทีมงานเอพีอย่างจริงใจ ตั้งแต่ความรู้ในเรื่องการออกแบบพื้นที่ใช้สอย กระบวนการก่อสร้างและการตรวจสอบคุณภาพงาน รวมไปถึงการขยายต่อองค์ความรู้ไปยังสถาบัน  AP Academy และสิ่งหนึ่งที่การันตีถึงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวได้อย่างชัดเจนคือ ทางมิตซูบิชิ เอสเตท ส่งพนักงานซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นของทางมิตซูบิชิ เอสเตทเองมานั่งประจำ ณ สำนักงานใหญ่เอพี จำนวน 4 คน เพื่อให้การทำงานและอำนาจการตัดสินใจสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น  ผมเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงจะช่วยส่งเสริมด้านการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์อสังหาฯ ของ  เอพีเท่านั้น แต่ยังจะมีส่วนช่วยเสริมยกระดับมาตรฐานอสังหาริม-ทรัพย์ไทยในภาพรวมอีกด้วย” คุณอนุพงษ์ กล่าว   สำหรับยอดขาย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 บริษัทฯ มียอดขายรวมเท่ากับ 13,200 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 3-4 บริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบมากถึง 10 โครงการ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ และทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,800 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 15,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่วางไว้ และเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน   นอกจากนั้นแล้วในช่วงไตรมาส 3-4 ยังถือเป็นช่วงที่เอพีมีคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างพร้อมกันมากถึง 8 โครงการ ได้แก่ 1) Aspire งามวงศ์วาน มูลค่า 2,680 ล้านบาท 2) Vittorio มูลค่า 3,500 ล้านบาท 3) RHYTHM สุขุมวิท 42 มูลค่า 3,500 ล้านบาท 4) RHYTHM อโศก มูลค่า 1,500 ล้านบาท 5) Aspire วุฒากาศ มูลค่า 390 ล้านบาท 6) RHYTHM สุขุมวิท 36-38 มูลค่า 2,900 ล้านบาท 7) Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง มูลค่า 2,850 ล้านบาท และ 8) Aspire สาทร-ท่าพระ มูลค่า 3,500 ล้านบาท โดย 3 โครงการหลังเป็นคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับทาง MEC ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพร้อมเปิดให้ลูกค้าเข้าตรวจรับห้องชุดและชมความสมบูรณ์ของโครงการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ย้ายเข้าอยู่ได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป   ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกรฎาคม บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มากถึง 12,834 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ มูลค่า 3,210 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 9,624 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่าประมาณ 4,633 ล้านบาท และส่วนที่เหลือในปี 2560-2561 สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 8,602 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 981 ล้านบาท   “ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา เราภาคภูมิใจที่ได้เห็นลูกค้ามีความสุข ในทุกๆ วันเอพีได้สร้างให้อย่างน้อยหนึ่งครอบครัว มีความสุขกับการเป็นเจ้าของบ้านหลังใหม่ ซึ่งบ้านใหม่ที่ขายได้ในเมืองมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นของเอพี เรายึดมั่นในจุดยืนที่จะสร้างความแตกต่างให้กับวงการอสังหาฯ มาตั้งแต่เริ่มต้น กับการเป็นรายแรกที่ผู้บุกเบิกการทำ ‘ทาวน์โฮม’ ในเมือง หรือการเป็นรายแรกที่สร้างเทรนด์การอยู่อาศัยในคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า”   “ผมเชื่อมั่นว่าเอพี ไทยแลนด์จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะเรามีทีมงานที่เก่ง และมี passion ในการทำงาน เรามีระบบที่ยอดเยี่ยมที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และเรายังมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเราไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาด้านคุณภาพ ศักยภาพ รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้วยประสบการณ์ ความมั่นคงและวินัยทางการเงินที่เข้มงวด” คุณอนุพงษ์กล่าว   “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย”  
“เอพี อะคาเดมี่” ยกระดับมาตรฐานการทำงานธรุกิจอสังหาฯ จับมือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดอบรมฝีมือช่างไฟฟ้า ครั้งแรกในเมืองไทย

“เอพี อะคาเดมี่” ยกระดับมาตรฐานการทำงานธรุกิจอสังหาฯ จับมือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดอบรมฝีมือช่างไฟฟ้า ครั้งแรกในเมืองไทย

สถาบัน เอพี อะคาเดมี่ ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การดูแลของ “บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)” ตระหนักถึงความสำคัญทุกวิชาชีพของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกาศเดินหน้าสนองนโยบาย “กระทรวงแรงงาน” จับมือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดอบรมเรื่อง รอบด้านงานช่างไฟฟ้ากับการรับรองฝีมือแรงงาน ครั้งแรกในประเทศไทยให้แก่บุคคลทั่วไปที่ประกอบวิชาชีพช่างไฟฟ้า เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และขั้นตอนการได้มาซึ่งหนังสือรับรองความสามารถ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน หวังยกระดับมาตรฐานฝืมือช่างไฟฟ้าเทียบเท่าสากล นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้อำนวยการสถาบัน เอพี อะคาเดมี่ เปิดเผยว่า ตามประกาศกระทรวงแรงงาน ที่กำหนดให้ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์, สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร เป็นสาขาอาชีพที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ โดยผู้ที่ดำเนินการในอาชีพดังกล่าวจะต้องมีหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ (Licence) ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป จึงจะปฏบัติงานในสาขาอาชีพ ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานนั้นได้ จากนโยบายดังกล่าวที่ต้องการผลักดันบุคคลากรในวิชาชีพช่างไฟฟ้าทุกคนได้มีหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ เพื่อสร้างมาตรฐานในการทำงานรวมถึงความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปทาง เอพี อะคาเดมี่ จึงได้ทำการร่วมมือกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดอบรมพิเศษให้แก่บุคคลทั่วไปที่ประกอบวิชาชีพช่างไฟฟ้าในหัวข้อเรื่อง รอบด้านงานช่างไฟฟ้ากับการรับรองฝีมือแรงงาน ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย “การจัดอบรมในหัวข้อดังกล่าวเราเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้ารับการอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันอังคารที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่เปิดรับสมัครจนกระทั่งถึงวันสุดท้าย ค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดี แต่ด้วยข้อจำกัดของสถานที่จึงทำให้เราสามารถรับผู้เข้าอบรมได้ 300 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งข้อดีของการจัดอบรมในครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับใบรับรองความรู้ความสามารถช่างไฟฟ้าตามพระราชบัญญัติฯ, หลักการช่างไฟฟ้า, เจาะลึกวงจรไฟฟ้าสำหรับอาคาร, การทดสอบมาตรฐานแรงงาน และขั้นตอนในการ ขอหนังสือรับรอง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งผู้เข้าอบรมในวันนี้สามารถนำใบประกาศนี้ไปใช้ในการสะสมชั่วโมงเพิ่มเติม เพื่อเป็นคะแนนสำหรับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร” การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน กำหนดคุณสมบัติผู้เข้ารับการทดสอบสาขาอาชีพช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ไว้ดังนี้ 1.มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ (นับถึงวันยื่นสมัครขอทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน) 2.มีประสบการณ์การทำงานหรือปฏิบัติอาชีพเกี่ยวกับสาขาอาชีพช่างไฟฟ้าภายในอาคารไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ 3.ผ่านการฝึกฝีมือแรงงานหรือฝึกอาชีพในสาขาอาชีพช่างไฟฟ้าในอาคารไม่น้อยกว่า 540 ชั่วโมง หรือมีประสบการณ์จากการฝึก หรือปฏิบัติงานในกิจการในสาขาที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 250 ชั่วโมง 4.เป็นผู้ที่จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.3) ในสาขาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ งานใช้อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน เช่น อุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ (Circuit breaker) และฟิวส์, งานเดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรัดสาย, งานเดินสายไฟฟ้าด้วยท่อร้อยสายไฟฟ้า, งานติดตั้งและต่อวงจรไฟฟ้าสำหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้า, งานต่อตัวนำแบบต่างๆ, งานตรวจสอบการทำงานของวงจรไฟฟ้า เกณฑ์การประเมินผู้เข้ารับการประเมินจะต้องมีคะแนนการประเมินตั้งแต่ 85 คะแนนขึ้นไปจากคะแนนรวมทั้งหมด 100 คะแนน ซึ่งสามารถแบ่งการเกณฑ์การประเมินได้ดังนี้ 1.ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ 50 คะแนน 2.มีประสบการณ์การทำงาน / คุณวุฒิทางการศึกษา / ประสบการณ์การทำงาน / การอบรม / สัมมนา 25 คะแนน และ 3.คุณลักษณะส่วนบุคคล 25 คะแนน นายภูมิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราคาดหวังว่าการจัดอบรมในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการพัฒนาความรู้ความสามารถของในวงการอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งช่วยยกระดับฝีมือแรงงานช่างไฟฟ้าของประเทศไทย”