Tag : คอนโดย่านรัชดา

15 ผลลัพธ์
Atmoz Ratchada-Huaikwang-แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

Atmoz Ratchada-Huaikwang-แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Atmoz Ratchada-Huaikwang (แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง) เจ้าของโครงการ : บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอยสหการประมูล ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. พื้นที่โครงการ : 3 – 3 – 10  ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 595 ยูนิต   ขนาดห้อง : -Studio ขนาด 21.10 ตร.ม. - 1 Bedroom ขนาด 22.35 – 25.90 ตร.ม. - 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.95 – 28.95 ตร.ม. - 1 Bedroom Plus ขนาด  31.25 – 34.35 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - Lobby & Library Lounge A - Sunken Island - Reflecting Pool - Gym & Boxing Studio - Creative Space - Lobby Lounge C & Workspace - Theatre - Fit Studio - Social Club - Outdoor Sky Dining - The Secret Garden - Scenic Sky Pool - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,690,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 49 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : กลางปี 2563 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ยังคงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ส่วนกลางเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริงบนทำเลใจกลางเมือง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนประชาอุทิศ,ถนนรัชดาภิเษก, ถนนลาดพร้าว, ถนนพระราม 9, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, รถไฟฟ้าสายสีส้ม, MRT ห้วยขวาง, MRT ศูนย์วัฒนธรรม สถานที่ใกล้เคียง : สถานทูตลาว, สถานทูตกัมพูชา, ศูนย์อาหาร 39, Family Mart, Cp Fresh Mart, St.Regent International School, SISB International School, KIS International School
Ideo Ratchada-Sutthisan-ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

Ideo Ratchada-Sutthisan-ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Ideo Ratchada-Sutthisan (ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร) เจ้าของโครงการ : บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. พื้นที่โครงการ : 1-3-97 ไร่ ลักษณะโครงการ : high rise จำนวนชั้น : 24 ชั้น จำนวนยูนิต : 410 ยูนิต ที่จอดรถ : 182  คัน ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 28.00-29.00 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด 33.5-34.5 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 46.00-71.50 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก : - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - สวนพักผ่อน - ฟิตเนส เปิดตลอด 24 ชม. - ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,490,000 บาท ราคาเฉลี่ย : 90,000 บาท/ตร.ม จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมที่ออกแบบที่อยู่อาศัยที่ให้คุณใช้ชีวิตเมืองได้เต็มที่ในทุกด้านอย่างที่คุณต้องการ บนทำเลกึ่งกลางระหว่างพื้นที่ทางธุรกิจกับแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้องพักอาศัยที่ปรับตามไลฟ์สไตล์คุณ และพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับมิติ ชีวิตที่หลากหลายเพื่อวิวัฒน์ 24 ชั่วโมงของคุณ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : MRT สุทธิสาร สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูน พระราม 9, โรงพยาบาลพระราม 9, สำนักงานเขตห้วยขวาง, สน.ห้วยขวาง, ตลาดห้วยขวาง, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน
Living Nest Ladprao 44 – ลีฟวิ่งเนสท์ ลาดพร้าว 44 : รีวิวคอนโด

Living Nest Ladprao 44 – ลีฟวิ่งเนสท์ ลาดพร้าว 44 : รีวิวคอนโด

Living Nest Ladprao 44 (ลีฟวิ่งเนสท์ ลาดพร้าว 44) - คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร ทำเลใกล้ทั้ง BTS สถานีภาวนา และ MRT รัชดา, ลาดพร้าว รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และโรงพยาบาล     รายละเอียดโครงการ   ราคา เริ่มต้น 1,990,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 80,000 บาท/ตร.ม. เจ้าของโครงการ บริษัท ฮิวแมนเนสท์ จำกัด ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ 0-3-5 ไร่ จำนวนห้อง 77 ยูนิต ที่จอดรถ คิดเป็น 39% หรือ 30 คัน ไม่รวมซ้อนคัน ที่ตั้งโครงการ ซอยลาดพร้าว 44 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ มี.ค. ปี 2562   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ลาดพร้าว ยูเนียนมอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว เซ็นทรัล พระราม 9 ฟอร์จูน เทสโก้ โลตัส ตลาดโชคชัย 4 การบินไทย     ลักษณะห้องและขนาดห้อง   1 Bedroom ขนาด 28.17 - 32.73 ตารางเมตร 1 Bedroom Loft ขนาด 28.17-29.39 ตารางเมตร     สิ่งอำนวยความสะดวก   Tropical Garden Spa Jet Pool Fitness Business Lounge ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 085-002-8888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://livingnestladprao.com/
คอนโด The Excel Ratchada 17 – ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 : รีวิวคอนโด

คอนโด The Excel Ratchada 17 – ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 : รีวิวคอนโด

The Excel Ratchada 17  (ดิ เอ็กเซล รัชดา 17) - คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น  บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร และทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   1,700,000 บาท  เจ้าของโครงการ    บริษัท  ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์  จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร จำนวนห้อง    239 ยูนิต ที่จอดรถ    เฟส A-B 40%, เฟส C-D 42% ที่ตั้งโครงการ    ซอยอินทามระ 45 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง    เดือน ก.พ. ปี 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือน ม.ค. ปี 2562 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน    500 บาท/ตร.ม. สถานที่สำคัญใกล้เคียง สโมสรทหารบก ยูเนี่ยน มอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ตลาดห้วยขวาง The Street รัชดา Esplanade รัชดา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย Fortune Tower เซ็นทรัล พระราม ศูนย์วัฒนธรรมแหง่ประเทศไทย โรงพยาบาลพระราม 9 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 25 - 33.5 ตร.ม. 1 Bedroom Plus ขนาด 34.9 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก Swimming pool Co-Working Space Fitness, Garden Shop สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-029-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.allinspire.co.th/
ASHTON Asoke – Rama 9 – แอชตัน อโศก – พระราม 9 : รีวิวคอนโด

ASHTON Asoke – Rama 9 – แอชตัน อโศก – พระราม 9 : รีวิวคอนโด

ASHTON Asoke – Rama 9 (แอชตัน อโศก-พระราม 9) คอนโด High Rise 2 อาคาร สูง 50 ชั้น และ 46 ชั้น Super Luxury ตัวใหม่ล่าสุดจากอนันดา บริเวณหัวมุมแยกรัชดา-พระราม 9 รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    6,490,000 บาท (ราคา ณ วันเปิดตัว) ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    2xx,xxx บาทต่อตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise 2 อาคาร สูง 50 และ 46 ชั้น จำนวนห้อง    ห้องพักอาศัย 607 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต ที่จอดรถ    65% (Autonomous Parking) ที่ตั้งโครงการ    ติดแยกรัชดา-พระราม 9 ฝั่งถนนดินแดง, ถนนอโศก-ดินแดง กทม. ปีที่สร้างเสร็จ   ปี 2020 สถานที่สำคัญใกล้เคียง G Tower Unileaver HQ The Ninth Tower SET Capital Center AIA Central Rama 9 Shoppes Grand Rama 9 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 2 Bedrooms สิ่งอำนวยความสะดวก โถงต้อนรับ ห้องจดหมาย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนพักผ่อน Co-Working Space ห้องอเนกประสงค์ต่างๆ ร้าน DEAN & DELUCA เข้า-ออกระบบ Access Card Control กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.ananda.co.th/register/ashton-asoke-rama9/  
Arise Ratchada 19 คอนโดคุณภาพ เชื่อมต่อ 3 ทำเลใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

Arise Ratchada 19 คอนโดคุณภาพ เชื่อมต่อ 3 ทำเลใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปอัพเดทข้อมูลโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดในซอยรัชดา 19 ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากการเปิดจอง VIP Day ครั้งแรกไปไม่นานนี้ กับโครงการ Arise Ratchada 19 (อะไรส์ รัชดา 19) โดย บริษัท ฟอร์จูน พลัส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่เกิดจากการรวมตัวของเจ้าของพื้นที่ที่อาศัยและคุ้นชินทำเลในย่านนี้เป็นอย่างดี ทั้งยังจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างหมอ และทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบก่อสร้าง ที่มีผลงานก่อสร้างเด่นๆ หลายโครงการ เรียกได้ว่าเป็นผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ เรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ในทำเลศักยภาพ ย่าน New CBD ที่สำคัญ เชื่อมต่อ 3 ทำเล รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และวิภาวดี แถมยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี รัชดาฯ อยู่ในระยะที่เดินทางเพียง 5 นาทีเท่านั้น เรียกว่าครบเครื่องเรื่องการเดินทางมากจริงๆ ค่ะ สำหรับคนเมืองอย่างเรา และอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทำเลในแถบนี้ถือเป็น New CBD ใหม่ของกรุงเทพ พื้นที่ในย่านนี้จึงมีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่, ห้องปล่อยเช่า, หรือห้องขายต่อ ก็จะถูกจับจองกันอย่างรวดเร็ว เพราะศักยภาพของทำเลบริเวณรัชดาเป็นอีกหนึ่งทำเลทองที่กำลังได้รับความสนใจมากทีเดียวค่ะ จะเห็นได้ว่ามีคอนโดมิเนียมหลายแบรนด์เลือกปักหมุดบนทำเลนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยทำเลที่มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน เป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน มีแหล่งช็อปปิ้งมากมาย และยังมีความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย แถมยังเดินทางสะดวกด้วยทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถสาธารณะ และรถส่วนตัว สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเรื่องสะดวกมากค่ะ เนื่องจากที่ตั้งโครงการ Arise Ratchada 19 อยู่ในซอยรัชดา 19 สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนใหญ่รัชดาภิเษก (ซอยรัชดาภิเษก 19), ถนนวิภาวดีรังสิต (ซอยวิภาวดีรังสิต 16 หรือโชคชัยร่วมมิตร) และถนนลาดพร้าว (ซอยลาดพร้าว 18) ที่เชื่อมต่อกันได้อีกด้วย ซึ่งจากโครงการออกมาถนนใหญ่รัชดาภิเษกจะอยู่ฝั่งออกเมืองมุ่งหน้าแยกรัชดา – ลาดพร้าว เข้าสู่ถนนลาดพร้าว กลับรถไปอีกฝั่งไปทางพระราม 9, อโศก, สุขุมวิท จุดกลับรถก็อยู่ไม่ไกล ซึ่งข้อดีของโซนนี้คือถนนย่อยและทางลัดเลาะเยอะค่ะ ใครอยากเลี่ยงรถติดที่ถนนรัชดาภิเษกจากแยกพระราม 9 ก็สามารถวิ่งลัดไปออกวิภาวดีหรือลาดพร้าวแทนได้สบาย นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชแถวแยกพระราม 9 ซึ่งเชื่อมต่อไปทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์และทางด่วนมหานครได้ ซึ่งเป็นตัวเลือกให้ลูกบ้านใช้เข้านอกออกเมืองได้สะดวก ในส่วนของคนไม่ใช้รถก็ถือว่าสะดวกมากขึ้นไปอีก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ไปไหนมาไหนได้ง่ายและสบายมากๆ เนื่องจากมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย รวมถึงจุดเด่นของโครงการที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษก ในระยะเพียง 5 นาที ซึ่งพอออกมาถนนใหญ่รัชดาภิเษกก็มีแท็กซี่และรถเมล์ผ่านตลอด แถมในซอยจะมีรถกะป๊อวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน และที่สำคัญตัวโครงการเองก็มีบริการรถรับส่งผ่าน Application ให้ลูกบ้านสามารถเรียกรถ รับ – ส่ง ระหว่างโครงการและ MRT สถานีรัชดาฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ถ้าใครเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศบ่อยก็น่าจะถูกใจ เพราะจาก MRT สถานีรัชดาภิเษก นั่งไป MRT สถานีเพชรบุรีที่เชื่อมกับแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน เพียง 5 สถานีเท่านั้น ซึ่งสามารถนั่งไปสุวรรณภูมิได้เลย หรือนั่งไป 3 สถานีก็ถึง MRT สถานีสวนจตุจักร ที่ Interchange กับ BTS หมอชิต ไปใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวได้สบายๆ แถมในอนาคต จาก MRT สถานีรัชดาภิเษก นั่งไปสถานีเดียวก็ถึง MRT ลาดพร้าวที่ทำการ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว - สำโรง (สถานีรัชดา – ลาดพร้าว) แล้วค่ะ เรียกได้ว่าอดใจรอไม่นาน ลูกบ้านในโครงการก็จะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้นเยอะแน่นอน เจาะลึกโครงการ โครงการ Arise Ratchada 19 เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ทางโครงการเลือกใช้คอนเซ็ปต์โมเดิร์นในการออกแบบ โดยเน้นอาคารสีน้ำเงิน, สีขาว และสีเทา ที่ดูสะดุดตาและชวนพักผ่อน ทั้งยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อาทิ สระว่ายน้ำ, ฟิสเนต, สวนสวย และ Co-Working Space แม้ทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่เดินทางเพียง 5 นาที แต่เมื่อมาถึงที่โครงการแล้วจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวที่ไม่วุ่นวาย ในขณะที่จำนวนยูนิตรวมทั้งโครงการก็มีเพียง 132 ยูนิต จำนวนห้องต่อชั้นจึงมีไม่มากลูกบ้านจึงไม่แออัดเหมือนคอนโดทั่วไป ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นที่ออกแบบให้เป็นสัดส่วน แถมทำเลนี้ยังได้ที่จอดรถ 40 - 45% (รวมจอดซ้อนคัน) เลยค่ะ เรียกได้ว่าราคาและความคุ้มค่าระดับนี้นับว่าใช้ได้กับทำเลรัชดาที่ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาเฉลี่ย 85,000 บาท ต่อ ตร.ม. เปิดห้องตัวอย่าง มาถึงห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าโครงการ Arise Ratchada 19 มียูนิตรวมทั้งหมด 132 ยูนิต แบ่งออกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 22.70 – 32.60 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus ขนาด 36.80 ตารางเมตร และ 2 Bedroom ขนาด 49.51 ตารางเมตร ค่ะ ภายในห้องแต่ละยูนิตมีจุดเด่นคือฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน ถูกออกแบบมาเพื่อความโล่ง โปร่ง สบาย โดยแยกพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนออกจากกัน นอกจากนี้ห้องทุกยูนิตของโครงการ ยังเปิดขายมาแบบ Fully Furnished ด้วยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้สอยของลูกบ้านได้เป็นอย่างดี และทุกยูนิตจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดแต่งครบจากแบรนด์ Modernform ที่สำคัญโครงการเน้นคุณภาพของวัสดุและทุกขั้นตอนการก่อสร้าง โดยเฉพาะห้องน้ำระบบ Modular จาก SCG ที่ผลิตสำเร็จ ควบคุมคุณภาพจากโรงงานเพื่อลดปัญหาน้ำรั่วซึม ที่เป็นปัญหาหนักใจของผู้อยู่อาศัยคอนโดทั่วไป พร้อมยังรับประกันคุณภาพไม่รั่วซึมนานถึง 5 ปีด้วยค่ะ สำหรับห้องตัวอย่างใน Sale Gallery จะมีให้ชมเพียงห้องเดียวนะคะ ก็คือ 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม ซึ่งเป็นขนาดที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดค่ะ ฟังก์ชั่นภายในห้องออกแบบมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว มีการกั้นแบ่งพื้นที่มาให้เรียบร้อย โดยห้องครัวและห้องน้ำจะแยกไปอยู่ทางด้านหนึ่ง เพียงแค่กันประตูกระจกเพิ่มก็จะได้ครัวแบบปิด ป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวนได้มากขึ้นเพราะครัวอยู่ติดระเบียง สามารถเปิดประตูระเบียงช่วยระบายกลิ่นได้ดี ในขณะที่ Living Area และห้องนอนก็มีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนมาให้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหากมีแขกมาที่ห้อง ห้องทั้งหมดของโครงการ Arise Ratchada 19 ที่เราพาไปชมในครั้งนี้ จะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ชั้นวางของ, คอนโซลทีวี, ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ครัว, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศที่คำนึงถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัย 1 ตัว ซึ่งเรียกว่าได้ครบและคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท แถมตอนนี้ยังสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 10,000 บาท ได้ที่ https://goo.gl/NDMQrP ต้องบอกว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่ในย่านรัชดา ใกล้รถไฟฟ้าและสามารถเดินทางได้หลากหลาย ต้องบอกว่าเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดในตัดสินใจได้ไม่ยากเลยค่ะ นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบก็มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีร้านค้า, ร้านสะดวกซื้อให้เลือกมากมาย ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปชมโครงการหรือกำลังตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดฯ ในแถบนี้อยู่แนะนำให้ไปชมบรรยากาศจริงดูค่ะ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น แต่ต้องขอบอกเลยค่ะไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือลงทุนก็คุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะในอนาคตการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้มีโอกาสที่จะเติบโตสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ ยิ่งไม่ควรพลาดคอนโดมิเนียมคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึงแบบนี้เลยนะคะ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.arisecondo.com  หรือโทร. 091-417-1919
THAN Living รัชดา – ประชาอุทิศ : รีวิวคอนโด

THAN Living รัชดา – ประชาอุทิศ : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ จาก Siralai (สิราลัย) คอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ซึ่งรวมทั้งตึก High Rise และ Low Rise ไว้ในพื้นที่เดียวกันบนถนนประชาอุทิศ ทำเลที่ตั้งของโครงการค่อนไปทางถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ดังนั้นการเดินทางมายังตัวโครงการจึงค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของตัวโครงการเราก็เก็บมาฝากกันครบถ้วนเช่นเคย ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยดีกว่า   การเดินทาง อย่างที่บอกว่าด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่มาทางด้านถนนประดิษฐ์มนูธรรม ลองดูจากแผนที่จะเห็นว่าระยะห่างจากสี่แยกแค่ 300 เมตรเท่านั้น เส้นทางนี้ถ้าวิ่งตามถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปเรื่อยๆ ผ่านแยกพระราม 9 แยกเพชรบุรี แล้วก็จะเข้าสุขุมวิท 63 และไปบรรจบกับถนนสุขุมวิท เส้นทางนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางเข้าออกเมืองได้ดีทีเดียวนะครับ กลับกันถ้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปก็จะเจอแยกลาดพร้าว แยกเกษตร-ประดิษฐ์ฯ และไปสุดที่ถนนรามอินทรา เส้นทางที่ตัดเชื่อมกับถนนเลียบทางด่วน หรือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม มีอยู่ด้วยกันหลายเส้น ทำให้การเลือกเส้นทางเลี่ยงการจราจรมีตัวเลือกมากขึ้น แม้แต่ด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ใกล้นิดเดียวเองด้วย การเดินทางจากทางฝั่งถนนประดิษฐ์มนูธรรมจึงสะดวกมากๆ สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ระยะทางจากถนนสุขุมวิท ถึงโครงการประมาณ 6 กม. หรือถ้าใครสะดวกเดินทางด้วยทางด่วน ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชฝั่งขาออก ต่อทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา มาลงที่ลาดพร้าว เข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม จะเลยถนนประชาอุทิศมานิดหน่อย ต้องกลับรถ แล้วไปเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อเข้าถนนประชาอุทิศไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงตัวโครงการแล้วครับ จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก็จะมาเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม ตามป้ายที่บอกว่าไปทางถนนรัชดาภิเษกนะครับ จากสี่แยกนี้ไปนิดเดียวก็จะเจอสำนักงานขายที่อยู่ด้านซ้ายมือแล้วครับ ส่วนตัวโครงการต้องตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้การเดินทางมายังตัวโครงการจากทางฝั่งถนนรัชดา ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 เส้นทางคือ เข้าทางแยกห้วยขวาง แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เพื่อมายังถนนประชาอุทิศ วิ่งมาตามถนนเส้นนี้เรื่อยๆ ก็จะถึงตัวโครงการเลย เสียแต่ถนนเส้นนี้ค่อนข้างแคบ ผ่านแหล่งชุมชนและมีรถรามากหน่อย บางครั้งการจราจรอาจจะไม่คล่องตัวนะครับ ส่วนอีกเส้นทางคือเข้ามาทางแยกศูนย์วัฒนธรรม เข้าถนนเทียมร่วมมิตร แล้ววิ่งมาตามถนนเลียบรั้ว รฟม. มาต่อที่ถนนประชาอุทิศอีกนิดเดียวก็เจอตัวโครงการเลย เส้นทางนี้มีระยะทางที่ใกล้กว่า และการจราจรสะดวกกว่ามากครับ แต่ช่วงดึกๆ อาจจะเปลี่ยวมากหน่อย คุณสาวๆ เดินทางด้วยรถรับจ้างดึกๆ คนเดียวถ้าเลี่ยงเส้นทางนี้ได้ก็ดีครับ นอกจากเส้นทางหลักๆ ที่เราแนะนำกันไปแล้ว ถนนประชาอุทิศก็ยังมีซอยเล็กซอยน้อยเลี่ยงไปออกถนนพระราม 9 ลาดพร้าว หรือรามคำแหงได้อีกหลายทาง ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการศึกษาเส้นทางกันสักหน่อยครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เริ่มจากถนนรัชดาภิเษก ก่อนถึงแยกห้วยขวาง จะเจอป้ายให้เลี้ยวขวาไปประชาอุทิศ ถึงตรงนี้ให้ชิดซ้ายไว้ อย่าลงอุโมงนะครับ ถ้าพลาดลงอุโมงไปแล้วต้องไปกลับรถยาวเลยล่ะครับ ถึงแยกห้วยขวางแล้วก็รอสัญญาณไฟเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT พอลงรถไฟฟ้าสถานีห้วยขวางที่อยู่ปากซอยแล้ว ก็จะมีพี่วินคอยให้บริการด้วยนะครับ แต่ก็อาจจะไกลอยู่สักหน่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ก็มีรถตุ๊กตุ๊กไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เข้ามาในซอยแล้วก็อย่างที่เห็นนะครับ ถนนค่อนข้างจะแคบ การจราจรในซอยนี้จึงค่อนข้างจะติดขัด ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอสามแยกนี้ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาอุทิศนะครับ เลี้ยวขวามาปุ๊บก็จะเจอกับสำนักงานเขตห้วยขวางเลยนะครับ เผื่อใครต้องมาติดต่อทำธุระที่นี่ เข้ามาเรื่อยๆ ถนนจาก 3 เลน ก็จะเหลือ 2 เลน ถึงสี่แยกถนนประชาอุทิศตัดซอยรัชดานิเวศน์ 24 ก็ตรงไปเลยนะครับ ถึงตรงนี้ถนนจะขยายเป็น 4 เลนแล้วก็แทบไม่ต่างกันเลย รถจอดสองข้างทางก็กินไปเลนนึงแล้ว ถนนเส้นนี้โรงเรียนจะเยอะหน่อยนะครับ ทั้งโรงเรียนไทย และโรงเรียนนานาชาติ เวลาเลิกเรียนรถจะเยอะมาก ข้ามสะพานข้ามคลองลาดพร้าวไปก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ จะอยู่ติดกับซอยจําเนียรเสริม แต่สำนักงานขายตรงขับตรงเลยโครงการไปอีกหน่อยนะครับ โครงสร้างของอาคาร High Rise ก่อสร้างไปได้กว่า 80% แล้วนะครับ เลยสถานที่ก่อสร้างโครงการมาอีกนิดก็จะเจอสำนักงานขายอยู่ด้านขวามือ สำนักงานขายโครงการ ร้านโฮคิทเช่น ซีฟู๊ด มีทั้งอาหารจีน และซีฟู๊ดให้เลือก อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ เลยมาอีกหน่อยก็จะมีร้านเฉลียง ร้านอาหารบรรยากาศชิวๆ มีดนตรีสด ปั๊มใกล้ๆ มีทั้งปั๊มน้ำมัน ทั้งปั๊มแก๊ส สำหรับใครที่ต้องพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางโครงการก็มีบริการ Shuttle Service รับส่งมายังสถานีรถไฟฟ้าทุกๆ ครึ่งชั่วโมง จากที่สอบถามมาก็น่าจะเป็นสถานีศูนย์วัฒนธรรมนะครับ เพราะระยะทางใกล้กว่าสถานีห้วยขวางนิดหน่อย แต่ถ้ารอบริการจาก Shuttle Bus ไม่ไหว ก็คงต้องเลือกต่อรถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อมาที่โครงการอีกที ต้องพึ่งพารถรับจ้างเยอะค่าใช้จ่ายก็จะเยอะตามไปด้วย ถ้าไม่มีรถส่วนตัวใช้อาจจะเดินทางไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ ตัวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ เป็นโครงการที่มีทั้งตึก High Rise และ Low Rise อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ประกอบไปด้วย 6 อาคาร แบ่งเป็นตึกสูง (Smart Building)  3 ตึก และตึกเตี้ย 8 ชั้น อีก 3 ตึก ถ้าเอาตามคอนเซปต์ที่ทางโครงการว่าไว้ ในแต่ละตึกก็จะมีคอนเซปต์ไม่เหมือนกัน คือ ตึก B – B Healthy เป็นตึกที่เน้นสุขภาพ มีห้องออกกำลังกายและสระว่ายน้ำ ในขณะที่ตึก C – C Curity จะเน้นเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มเป็นพิเศษ และส่วนของตึก D - Smart Building ที่เป็นตึกสูง โดยจะเน้นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการออกแบบให้มี Double Space นั่นเอง  ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นคอนเซปต์ที่ทางโครงการเค้าวางเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจมากๆ ครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความเป็นไปได้ยาก อย่างเรื่องตึก C ที่จำกัดให้เฉพาะผู้หญิงเข้าอยู่เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงอาจควบคุมได้ยาก เพราะคงไม่สามารถกำหนดให้ผู้หญิงโสดเท่านั้นที่จะซื้อห้องได้ เช่นเดียวกับตึก A ที่จะเปิดให้ผู้อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ในอาคารได้ ซึ่งล่าสุดที่สอบถามกับเจ้าหน้าที่มาก็เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์แล้วนะครับ นี่แหละครับข้อจำกัดในหลายๆ เรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วระหว่างที่ยังทำการก่อสร้างโครงการอยู่ กลับมาดูที่ Facilities ส่วนกลางของโครงการกันบ้าง อย่างที่บอกแล้วว่าแต่ละตึกมีคอนเซปต์ที่ต่างกัน ทางโครงการจึงมีการจัดสรร Facilities ให้กระจายกันออกไป ซึ่งลูกบ้านในแต่ละตึกจะต้องเดินลงมาใช้ส่วนกลางตามจุดที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น บริเวณชั้นล่างของ Smart Building 1 จะมี Coffee Shop ส่วน Smart Building 2 เป็นพื้นที่ห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ในขณะที่ Smart Building 3 ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ห้องสมุด และบริเวณชั้น 2 ของอาคาร Low Rise ก็มีส่วนหย่อมที่ตึก A เพราะจากคอนเซปต์แรกที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนตึก B จะมีสระว่ายน้ำใหญ่ขนาด 17 เมตร ลึก 1.2 เมตร ในระบบน้ำเกลือ และห้องออกกำลังกายแบบ Function Room และที่ตึก C จะมีสระว่ายน้ำเล็กขนาด 3.7 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนครับ ข้อดีของการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้คือ ทำให้ภายในโครงการมี Facilitiesที่หลากหลาย รวมถึงมีพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อรองรับลูกบ้านเป็นจำนวนมาก แต่ข้อเสียคือ ลูกบ้านจะต้องเดินเข้าออกตึกนั้นที ตึกนี้ทีให้วุ่นวาย อย่างถ้าออกกำลังกายในห้อง Fitness แล้วต่อด้วยว่ายน้ำ ก็ต้องเดินจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง จึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เว้นแต่ว่าจะเลือกออกกำลังกายที่ห้องข้างๆ สระว่ายน้ำ ก็ค่อยสะดวกหน่อยครับ สำหรับเรื่องพื้นที่จอดรถทั้งโครงการจัดไว้ทั้งหมด 60% จากจำนวนห้องทั้งหมด 823 ยูนิต ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการ และการใช้งานจริง เพราะด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชนพอสมควร ทำให้แนวโน้มที่ลูกบ้านส่วนใหญ่จะต้องใช้รถส่วนตัวมีมาก ถ้าลูกบ้านเกิน 60% มีรถส่วนตัวก็คงเกิดปัญหาเรื่องแย่งที่จอดรถแน่นอน ทางด้านลิฟท์โดยสาร ในแต่ละตึกจะมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว และไม่มีลิฟท์เซอร์วิส ถ้าอาศัยอยู่ในตึก Low Rise ก็คงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่ในตึก High Rise ก็คงลำบากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าๆ ที่อาจต้องรอลิฟท์กันนานหน่อย ทีนี้ขยับมาดูตัวอาคารและพื้นที่รอบๆ กันบ้างนะครับ ตัวอาคารนั้นออกแบบมาวันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ จาก Siralai (สิราลัย) คอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ซึ่งรวมทั้งตึก High Rise และ Low Rise ไว้ในพื้นที่เดียวกันบนถนนประชาอุทิศ ทำเลที่ตั้งของโครงการค่อนไปทางถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ดังนั้นการเดินทางมายังตัวโครงการจึงค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของตัวโครงการเราก็เก็บมาฝากกันครบถ้วนเช่นเคย ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยดีกว่า การเดินทาง อย่างที่บอกว่าด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่มาทางด้านถนนประดิษฐ์มนูธรรม ลองดูจากแผนที่จะเห็นว่าระยะห่างจากสี่แยกแค่ 300 เมตรเท่านั้น เส้นทางนี้ถ้าวิ่งตามถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปเรื่อยๆ ผ่านแยกพระราม 9 แยกเพชรบุรี แล้วก็จะเข้าสุขุมวิท 63 และไปบรรจบกับถนนสุขุมวิท เส้นทางนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางเข้าออกเมืองได้ดีทีเดียวนะครับ กลับกันถ้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปก็จะเจอแยกลาดพร้าว แยกเกษตร-ประดิษฐ์ฯ และไปสุดที่ถนนรามอินทรา เส้นทางที่ตัดเชื่อมกับถนนเลียบทางด่วน หรือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม มีอยู่ด้วยกันหลายเส้น ทำให้การเลือกเส้นทางเลี่ยงการจราจรมีตัวเลือกมากขึ้น แม้แต่ด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ใกล้นิดเดียวเองด้วย การเดินทางจากทางฝั่งถนนประดิษฐ์มนูธรรมจึงสะดวกมากๆ สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ระยะทางจากถนนสุขุมวิท ถึงโครงการประมาณ 6 กม. หรือถ้าใครสะดวกเดินทางด้วยทางด่วน ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชฝั่งขาออก ต่อทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา มาลงที่ลาดพร้าว เข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม จะเลยถนนประชาอุทิศมานิดหน่อย ต้องกลับรถ แล้วไปเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อเข้าถนนประชาอุทิศไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงตัวโครงการแล้วครับ จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก็จะมาเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม ตามป้ายที่บอกว่าไปทางถนนรัชดาภิเษกนะครับ จากสี่แยกนี้ไปนิดเดียวก็จะเจอสำนักงานขายที่อยู่ด้านซ้ายมือแล้วครับ ส่วนตัวโครงการต้องตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้การเดินทางมายังตัวโครงการจากทางฝั่งถนนรัชดา ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 เส้นทางคือ เข้าทางแยกห้วยขวาง แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เพื่อมายังถนนประชาอุทิศ วิ่งมาตามถนนเส้นนี้เรื่อยๆ ก็จะถึงตัวโครงการเลย เสียแต่ถนนเส้นนี้ค่อนข้างแคบ ผ่านแหล่งชุมชนและมีรถรามากหน่อย บางครั้งการจราจรอาจจะไม่คล่องตัวนะครับ ส่วนอีกเส้นทางคือเข้ามาทางแยกศูนย์วัฒนธรรม เข้าถนนเทียมร่วมมิตร แล้ววิ่งมาตามถนนเลียบรั้ว รฟม. มาต่อที่ถนนประชาอุทิศอีกนิดเดียวก็เจอตัวโครงการเลย เส้นทางนี้มีระยะทางที่ใกล้กว่า และการจราจรสะดวกกว่ามากครับ แต่ช่วงดึกๆ อาจจะเปลี่ยวมากหน่อย คุณสาวๆ เดินทางด้วยรถรับจ้างดึกๆ คนเดียวถ้าเลี่ยงเส้นทางนี้ได้ก็ดีครับ นอกจากเส้นทางหลักๆ ที่เราแนะนำกันไปแล้ว ถนนประชาอุทิศก็ยังมีซอยเล็กซอยน้อยเลี่ยงไปออกถนนพระราม 9 ลาดพร้าว หรือรามคำแหงได้อีกหลายทาง ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการศึกษาเส้นทางกันสักหน่อยครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เริ่มจากถนนรัชดาภิเษก ก่อนถึงแยกห้วยขวาง จะเจอป้ายให้เลี้ยวขวาไปประชาอุทิศ ถึงตรงนี้ให้ชิดซ้ายไว้ อย่าลงอุโมงนะครับ ถ้าพลาดลงอุโมงไปแล้วต้องไปกลับรถยาวเลยล่ะครับ ถึงแยกห้วยขวางแล้วก็รอสัญญาณไฟเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT พอลงรถไฟฟ้าสถานีห้วยขวางที่อยู่ปากซอยแล้ว ก็จะมีพี่วินคอยให้บริการด้วยนะครับ แต่ก็อาจจะไกลอยู่สักหน่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ก็มีรถตุ๊กตุ๊กไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เข้ามาในซอยแล้วก็อย่างที่เห็นนะครับ ถนนค่อนข้างจะแคบ การจราจรในซอยนี้จึงค่อนข้างจะติดขัด ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอสามแยกนี้ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาอุทิศนะครับ เลี้ยวขวามาปุ๊บก็จะเจอกับสำนักงานเขตห้วยขวางเลยนะครับ เผื่อใครต้องมาติดต่อทำธุระที่นี่ เข้ามาเรื่อยๆ ถนนจาก 3 เลน ก็จะเหลือ 2 เลน ถึงสี่แยกถนนประชาอุทิศตัดซอยรัชดานิเวศน์ 24 ก็ตรงไปเลยนะครับ ถึงตรงนี้ถนนจะขยายเป็น 4 เลนแล้วก็แทบไม่ต่างกันเลย รถจอดสองข้างทางก็กินไปเลนนึงแล้ว ถนนเส้นนี้โรงเรียนจะเยอะหน่อยนะครับ ทั้งโรงเรียนไทย และโรงเรียนนานาชาติ เวลาเลิกเรียนรถจะเยอะมาก ข้ามสะพานข้ามคลองลาดพร้าวไปก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ จะอยู่ติดกับซอยจําเนียรเสริม แต่สำนักงานขายตรงขับตรงเลยโครงการไปอีกหน่อยนะครับ โครงสร้างของอาคาร High Rise ก่อสร้างไปได้กว่า 80% แล้วนะครับ เลยสถานที่ก่อสร้างโครงการมาอีกนิดก็จะเจอสำนักงานขายอยู่ด้านขวามือ สำนักงานขายโครงการ ร้านโฮคิทเช่น ซีฟู๊ด มีทั้งอาหารจีน และซีฟู๊ดให้เลือก อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ เลยมาอีกหน่อยก็จะมีร้านเฉลียง ร้านอาหารบรรยากาศชิวๆ มีดนตรีสด ปั๊มใกล้ๆ มีทั้งปั๊มน้ำมัน ทั้งปั๊มแก๊ส สำหรับใครที่ต้องพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางโครงการก็มีบริการ Shuttle Service รับส่งมายังสถานีรถไฟฟ้าทุกๆ ครึ่งชั่วโมง จากที่สอบถามมาก็น่าจะเป็นสถานีศูนย์วัฒนธรรมนะครับ เพราะระยะทางใกล้กว่าสถานีห้วยขวางนิดหน่อย แต่ถ้ารอบริการจาก Shuttle Bus ไม่ไหว ก็คงต้องเลือกต่อรถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อมาที่โครงการอีกที ต้องพึ่งพารถรับจ้างเยอะค่าใช้จ่ายก็จะเยอะตามไปด้วย ถ้าไม่มีรถส่วนตัวใช้อาจจะเดินทางไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ ตัวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ เป็นโครงการที่มีทั้งตึก High Rise และ Low Rise อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ประกอบไปด้วย 6 อาคาร แบ่งเป็นตึกสูง (Smart Building)  3 ตึก และตึกเตี้ย 8 ชั้น อีก 3 ตึก ถ้าเอาตามคอนเซปต์ที่ทางโครงการว่าไว้ ในแต่ละตึกก็จะมีคอนเซปต์ไม่เหมือนกัน คือ ตึก B – B Healthy เป็นตึกที่เน้นสุขภาพ มีห้องออกกำลังกายและสระว่ายน้ำ ในขณะที่ตึก C – C Curity จะเน้นเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มเป็นพิเศษ และส่วนของตึก D - Smart Building ที่เป็นตึกสูง โดยจะเน้นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการออกแบบให้มี Double Space นั่นเอง  ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นคอนเซปต์ที่ทางโครงการเค้าวางเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจมากๆ ครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความเป็นไปได้ยาก อย่างเรื่องตึก C ที่จำกัดให้เฉพาะผู้หญิงเข้าอยู่เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงอาจควบคุมได้ยาก เพราะคงไม่สามารถกำหนดให้ผู้หญิงโสดเท่านั้นที่จะซื้อห้องได้ เช่นเดียวกับตึก A ที่จะเปิดให้ผู้อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ในอาคารได้ ซึ่งล่าสุดที่สอบถามกับเจ้าหน้าที่มาก็เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์แล้วนะครับ นี่แหละครับข้อจำกัดในหลายๆ เรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วระหว่างที่ยังทำการก่อสร้างโครงการอยู่ กลับมาดูที่ Facilities ส่วนกลางของโครงการกันบ้าง อย่างที่บอกแล้วว่าแต่ละตึกมีคอนเซปต์ที่ต่างกัน ทางโครงการจึงมีการจัดสรร Facilities ให้กระจายกันออกไป ซึ่งลูกบ้านในแต่ละตึกจะต้องเดินลงมาใช้ส่วนกลางตามจุดที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น บริเวณชั้นล่างของ Smart Building 1 จะมี Coffee Shop ส่วน Smart Building 2 เป็นพื้นที่ห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ในขณะที่ Smart Building 3 ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ห้องสมุด และบริเวณชั้น 2 ของอาคาร Low Rise ก็มีส่วนหย่อมที่ตึก A เพราะจากคอนเซปต์แรกที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนตึก B จะมีสระว่ายน้ำใหญ่ขนาด 17 เมตร ลึก 1.2 เมตร ในระบบน้ำเกลือ และห้องออกกำลังกายแบบ Function Room และที่ตึก C จะมีสระว่ายน้ำเล็กขนาด 3.7 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนครับ ข้อดีของการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้คือ ทำให้ภายในโครงการมี Facilitiesที่หลากหลาย รวมถึงมีพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อรองรับลูกบ้านเป็นจำนวนมาก แต่ข้อเสียคือ ลูกบ้านจะต้องเดินเข้าออกตึกนั้นที ตึกนี้ทีให้วุ่นวาย อย่างถ้าออกกำลังกายในห้อง Fitness แล้วต่อด้วยว่ายน้ำ ก็ต้องเดินจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง จึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เว้นแต่ว่าจะเลือกออกกำลังกายที่ห้องข้างๆ สระว่ายน้ำ ก็ค่อยสะดวกหน่อยครับ สำหรับเรื่องพื้นที่จอดรถทั้งโครงการจัดไว้ทั้งหมด 60% จากจำนวนห้องทั้งหมด 823 ยูนิต ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการ และการใช้งานจริง เพราะด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชนพอสมควร ทำให้แนวโน้มที่ลูกบ้านส่วนใหญ่จะต้องใช้รถส่วนตัวมีมาก ถ้าลูกบ้านเกิน 60% มีรถส่วนตัวก็คงเกิดปัญหาเรื่องแย่งที่จอดรถแน่นอน ทางด้านลิฟท์โดยสาร ในแต่ละตึกจะมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว และไม่มีลิฟท์เซอร์วิส ถ้าอาศัยอยู่ในตึก Low Rise ก็คงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่ในตึก High Rise ก็คงลำบากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าๆ ที่อาจต้องรอลิฟท์กันนานหน่อย ทีนี้ขยับมาดูตัวอาคารและพื้นที่รอบๆ กันบ้างนะครับ ตัวอาคารนั้นออกแบบมาได้สะดุดตามากๆ ดูจากโมเดลจะเห็นลูกเล่นของเส้นสายกราฟฟิกของตัวตึก High Rise อันเนื่องมาจากตำแหน่งของห้องในแต่ละแบบที่วางสลับกันไปมานั่นเอง สำหรับเรื่องทิศทางของแดดและลม ก็ต้องมาดูที่ตัวที่ดินของโครงการซึ่งวางอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้  ดังนั้นตัวอาคารจึงต้องหันหน้าเผชิญกับทิศตะวันออกและตะวันตกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ห้องในตึก High Riseด้านที่หันหน้าไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรมคงจะร้อนน้อยหน่อย เพราะเป็นทิศตะวันออก ส่วนอีกด้านทางทิศตะวันตก ก็โดนแดดกันไปเต็มๆ ครับ เลี่ยงได้ยากจริงๆ หรือถ้าใครเลือกที่จะอยู่ในตึก Low Rise อาจจะเสียเปรียบเรื่องวิวบ้าง แต่ก็แลกกับร่มเงาที่ได้ตึก High Rise ที่ช่วยผ่อนความร้อนจากแดดเช้าไปได้มากพอสมควร ในขณะที่แดดบ่ายก็ไร้ทางหลบเลี่ยงได้เช่นกัน ออกมาดูรอบๆ โครงการก็ต้องบอกว่า บนถนนประชาอุทิศคึกคักไม่น้อยเลย เพราะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงมากมาย และปั้มน้ำมันพร้อมมินิมาร์ทที่อยู่ภายในให้เราได้พึ่งพาได้ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ใกล้ๆ กับโครงการอีกหลายแห่ง เช่น โรงเรียนนานาชาติคิซ (KIS International School) โรงเรียนนานาชาติรีเจนท์ (Regent International School) เป็นต้น หรือถ้าออกจากถนนประชาอุทิศไปอีกหน่อย บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งช๊อปปิ้งดังๆ มากมาย ถ้ามีรถส่วนตัวไว้ใช้หน่อยการไปไหนมาไหนรอบๆ โครงการก็จัดว่าสะดวกและครบครันมากๆ ครับ ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศเหนือ ซึ่งก็คือด้านถนนประชาอุทิศ ผืนที่ดินบังคับให้อาคารต้องหันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูที่อาคาร Low Rise กันก่อนนะครับ ชั้น G ของทั้ง 3 อาคารจะคล้ายๆ กัน ซึ่งจะเป็นที่จอดรถอยู่ใต้อาคาร ผังอาคาร Low Rise จะเห็นว่า มีที่จอดรถ 3 ชั้น อยู่ใต้อาคาร ทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดิน มาดูที่ชั้น 2 กันต่อนะครับ ชั้น 2 ของอาคาร A จะเน้นไปที่สวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร B สำหรับคนรักสุขภาพ ก็จะมี Gym และสระว่ายน้ำ สระใหญ่ อยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร C จะมีสระว่ายน้ำ สระเล็ก ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่ง มาดูที่กันที่อาคาร High Rise บ้างนะครับ ที่ชั้น G ของแต่ละอาคารก็จะคล้ายๆ กัน เป็นที่จอดรถใต้อาคารส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็น Facility อย่าง Lobby, Mailbox, Shop, Gym แตกต่างกันไปในแต่ละอาคาร เรามาเริ่มจากอาคาร Smart 1 ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุดกันก่อนนะครับ ที่ตึก Smart 1 นอกจากจะมี Lobby และ Mailbox ก็จะมี Coffee Shop อยู่ด้วย อาคาร Smart 2 เป็นอาคารที่อยู่ตรงข้ามกับอาคาร B (B Healthy) ที่จะเน้น Facility อย่างสระว่ายน้ำ และ Gym ที่ใต้อาคาร Smart 2 นี้จึงมา Gym ให้อีกหนึ่งห้องครับ ซึ่งใหญ่กว่าที่อาคาร B ด้วย หน้าตาของ Gym ใต้อาคาร Smart 2 อาคาร Smart 3 จะมีห้องสมุดสำหรับอ่านหนังสือ นั่งติวหนังสือ หรือทำการบ้านได้ ครับ บรรยากาศของห้องสมุดใต้อาคาร Smart 3 ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไปนะครับ เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10 ยูนิตต่อชั้น การวาง Layout ของทั้ง 3 อาคารก็จะคล้ายๆ กัน ที่ชั้น 18-19 อาคาร Smart 2 และ ชั้น 19-20 อาคาร Smart 3 จะเป็นห้อง Duplex ส่วนที่ชั้นบนสุดของอาคาร High Rise ของทั้ง 3 อาคาร จะเป็นห้อง Penthouse พาชมห้องตัวอย่าง ถึงคราวของห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ทางโครงการเตรียมห้องตัวอย่างให้เราได้ชมด้วยกัน 4  แบบ เริ่มต้นกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ที่ขนาด 32 ตร.ม. โดยประมาณ เปิดประตู้ห้องนี้เข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องครัวก่อนเลยครับ พื้นที่ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเว้นเป็นที่วางตู้เย็นได้ ส่วนตู้ Built-in ในห้องตัวอย่างจะมีไว้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น ของจริงไม่ได้มาพร้อมกับห้องนะครับ ถัดเข้าไปด้านในเป็น Living Area ที่จัดสรรพื้นที่ให้โต๊ะกินข้าวชุดเล็กๆ อยู่รวมกับชุดโซฟานั่งเล่นได้พอดี ระยะห่างระหว่างโซฟากับผนังห้องที่ใช้แขวนทีวีมีขนาดกำลังพอเหมาะ ประกอบกับอยู่ติดระเบียงจึงช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดูสบายตามากขึ้น ภายในห้องนอน ทางโครงการมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ พื้นที่ที่เหลือพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็เกือบจะเต็มห้องพอดี จะมีพื้นที่ติดหน้าต่างเหลือไว้นิดหน่อย พอจะวางโต๊ะทำงาน หรือใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ได้บ้าง ส่วนห้องน้ำของห้องนี้อยู่ในห้องนอนนะครับ ซึ่งด้านในห้องน้ำก็แบ่งโซนแห้งโซนเปียกไว้ชัดเจน มีกระจกเทมเปอร์กั้นห้องอาบน้ำไว้ กระจกเหนืออ่างล้างหน้าก็เป็นบานใหญ่แบบในห้องตัวอย่างเลย ฟังก์ชั่นเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้องน้ำถือว่าทางโครงการค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียด ทั้งชั้นวางของที่ยาวเต็มพื้นที่ ทำให้วางของได้มากขึ้น และที่วางกระดาษทิชชู่ด้านข้างอ่างล้างหน้า ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเห็นแล้วขัดตาขัดใจบ้าง อย่างเช่น หัวก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้า ที่ถูกชั้นวางของด้านบนติดตั้งในตำแหน่งเกือบชิดติดกัน คือเวลาใช้งานก็ปกติแหละครับไม่ได้มีปัญหาหรอก แต่ถ้าเกิดต้องซ่อมแซมหัวก๊อกขึ้นมาคงวุ่นวายกันน่าดู จุดที่สองที่ขัดใจก็คือ พื้นตรงส่วนห้องอาบน้ำไม่มีการดร๊อปให้ต่ำลงไป หรือไม่ได้มีการก่อธรณีให้สูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลมาที่ส่วนแห้ง เวลาใช้งานจริงๆ เชื่อว่าน้ำซึมออกมาได้แน่นอน แถมตรงประตูห้องน้ำก็ไม่ได้ก่อธรณีกั้นไว้อีก ถ้าเกิดท่อตัน หรือน้ำระบายไม่ทัน มีโอกาสที่จะไหลเข้าห้องนอนได้นะครับ ตรงจุดนี้ถ้าแก้ไขได้อีกนิดหน่อยคงจะดีกว่านี้เยอะครับ สำหรับพื้นที่ระเบียงของห้อง ต้องขอยกให้เป็นจุดเด่นข้อหนึ่งเลย ด้วยพื้นที่ระเบียงที่จัดว่ากว้างพอให้ใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งยังจัดสรรพื้นที่ไว้แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางเครื่องซักผ้าไว้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ทำให้พื้นที่ตรงระเบียงเหลือมากพอให้ใช้ตากผ้า หรือจัดสวนเล็กๆ ได้เลย มาดูแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ขนาด 32 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ Plan ห้อง ที่นี่จะใช้ประตู Digital Door Lock แบบนี้นะครับ สวิตช์และปลั๊กไฟทั้งหมดของที่นี่จะใช้ยี่ห้อ Sierra เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว จะเจอกับส่วนครัวที่ตั้งอยู่หน้าห้องก่อนเลยนะครับ ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนด้านซ้ายจะเป็นตู้ที่ Built-in ขึ้นมาเป็นตู้เก็บของ และช่องใส่ตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัว จะวางเตาไฟฟ้าไว้ด้านขวา ซิ้งค์ล้างจานอยู่ด้านซ้าย ตัวท็อปจะเป็นหินควอทซ์ มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง ซิ้งค์ล้างจานแบบฝัง ตัวก็อกจะใช้ยี่ห้อ Sierra เหมือนกันครับ เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX มาพร้อมฮูดดูดควัน ยี่ห้อเดียวกัน ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆ กับครัว จะเป็นโต๊ะทานอาคารสำหรับ 2 ท่าน เลยเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ออกมาดูที่ระเบียงกันต่อเลยนะครับ จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่ระเบียง ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่เหนือเครื่องซักผ้า หันออกนอกระเบียง แล้วก็จะมีประตูเหล็กปิดกั้นอย่างเป็นสัดส่วนให้ด้วยนะครับ รางประตูกระจกบานสไลด์ ทำมาเนียบใช้ได้เลยครับ มาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ วางเตียง 5 ฟุตกำลังพอดีครับ มีพื้นที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้บ้าง พื้นที่ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้ Built-in ชั้นวางทีวีได้นิดหน่อย แต่ถ้าใช้ทีวีแบบแขวนก็จะมีที่วางของเพิ่มขึ้นอีกครับ ด้านข้างเตียงที่ติดกันหน้าต่างมีที่เหลือเยอะพอสมควร ห้องตัวอย่างจะ Built-in เป็นเหมือนโต๊ะนั่งทำงาน แต่ห้องจริงไม่ได้แบบนี้นะครับ หน้าต่างจะเป็นบาน fix นะครับ และมีบานกระทุ้ง 1 บาน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นตู้เสื้อผ้า มุมมองจาก Living Area เข้าไปในห้องนอน ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนนะครับ เดี๋ยวไปดูห้องน้ำกันต่อเลย ธรณีประตูเตี้ยๆ กั้นระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Sierra ข้างๆ อ่างล้างหน้า เว้าเข้าไปให้มีที่แขวนกระดาษทิชชู่ และวางของได้ด้วย โถสุขภัณฑ์ อยู่ข้างๆ ห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำจะกั้นด้วยประตูกระจก Temper ชุดฝักบัวของ Sierra เหมือนกันครับ ห้องต่อไปคือเป็นห้อง Type 1B ซึ่งยังคงเป็นแบบ 1 ห้องนอน ในขนาดห้องที่ใกล้เคียงกับห้องแรก คือ 33 ตร.ม. โดย Layout ของห้องนี้จะจัดแบ่งพื้นที่ภายในห้องไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดเข้าห้องมาจะเจอ Living Area ก่อนเป็นอันดับแรก ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นครัวแบบปิดพร้อมประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยป้องกันปัญหากลิ่นรบกวนภายในห้องระหว่างทำครัวได้ดี พื้นที่ครัวของห้องนี้กว้างขวางติดกับระเบียง ซึ่งก็กว้างขนาดที่วันไหนเกิดอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศย้ายโต๊ะออกไปนั่งกินข้าวชมวิวที่ระเบียงก็สามารถย้ายโต๊ะไปตั้งได้เลยครับ ส่วนอีกโซนของห้อง จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนก็กำลังพอเหมาะแบบคนที่ข้าวของไม่เยอะมาก เพราะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เท่านั้น ส่วนชั้นเก็บของอื่นๆ คงต้องเฟ้นหาเพิ่มเติมกันเอง ในขณะที่ห้องน้ำก็มี Layout เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ ทั้งวัสดุสุขภัณฑ์และตำแหน่งที่ติดตั้ง สำหรับห้องตัวอย่างห้องนี้ถ้าใครได้เห็นคงรู้สึกถูกใจกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่จัดไว้ได้ลงตัวมากๆ อีกทั้งยังให้บรรยากาศที่โล่งโปร่งสบายด้วย เห็นห้องตัวอย่างแล้วก็อย่าลืมว่า ของจริงทางโครงการขายให้มาเป็นห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ พวกลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ตามมุมต่างๆ ที่เห็นในห้องตัวอย่างเป็นแค่ไอเดียการตกแต่งเท่านั้นครับ ต่อไปเป็นห้อง 1 ห้องนอน Type 1B ขนาด 33 ตารางเมตรนะครับ Plan ห้อง Type นี้เข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ มุมมองจากในห้อง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ถ้าวางโซฟาขนาดเท่านี้ ด้านข้างจะมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะข้างได้อีกนะครับ ชั้นวางของเหนือโซฟา โต๊ะข้างโซฟา ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องครัว ครัวของ Type นี้จะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นระหว่างครัวกับ Living Area ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ข้างบนทางเข้าห้องครัว มีการทำชั้นวางของหลบอยู่ด้วย เก๋ไปอีกแบบ แต่ห้องจริงไม่มีให้แบบนี้นะครับ เคาน์เตอร์ครัวก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A เลยครับ มุมมองจากระเบียงเข้ามาในห้อง จะเห็นโต๊ะทานอาคารขนาด 2 ท่าน อยู่ตรงข้ามกับครัว ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างระเบียงกับครัว ระเบียงของ Type 1B จะไม่เหมือนกับ 1A นะครับ ของ Type นี้ระเบียงจะเป็นทรงสามเหลี่ยม เลยดูเหมือนจะกว้างกว่า ส่วนที่วางเครื่องซักผ้า และคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับ Type 1A ครับ กลับเข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังเหมาะครับ จะได้มีที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้ด้วย ปลายเตียงมีที่เหลือให้พอเดินได้ แต่วางชั้นวางทีวีไม่ได้ ต้องแขวนอย่างเดียวครับ อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า ที่จะอยู่ติดกับห้องน้ำเลยครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ติดกับห้องน้ำ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยนะครับ ซึ่งชุดสุขภัณฑ์และการจัดวางก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ ทีนี้มาดูห้อง Type 1C กันบ้างครับ ห้องนี้นับว่าโดดเด่นมากเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบให้เพดานห้องเป็นแบบ Double Volume สูงถึง 5.5 เมตรและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา ทำให้ห้องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น จากประตูทางเข้าห้อง ขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดเชื่อมต่อกับ Living Area ด้วยโต๊ะกินข้าวเล็กๆ อีกชุด ถัดเข้ามาจากห้องครัวเป็นห้องน้ำและห้องนอนนะครับ รูปแบบและการจัดวางพื้นที่ในห้องน้ำคล้ายกับห้องก่อนหน้าเลย แต่ห้องนอนของห้องนี้รู้สึกว่าจะมีพื้นที่ค่อนข้างเล็กกว่าห้องอื่นๆ เล็กน้อย ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะครับ แต่เท่าที่เห็นในห้องพอวางเตียงขนาด 5 ฟุต และใส่ตู้เสื้อผ้า Built-in เข้าไปแล้ว ก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่างเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าห้องแบบนี้มีพื้นที่ชั้นลอยมาให้ใช้เพิ่มเติมแล้วมั้งครับ ในห้องนอนจึงไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นอะไรมาก บริเวณชั้นลอยก็สามารถจัดเป็นมุมทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือใช้เก็บของก็ได้ ถึงแม้ห้องแบบนี้จะมีการออกแบบที่แปลกและเก๋ไก๋ แต่ก็มีข้อจำกัดบ้างในบางเรื่อง เช่น ตำแหน่งที่แขวนทีวี ที่ต้องแขวนไว้ตรงชานพักบันไดเลย ซึ่งดูไม่ชินตาซักเท่าไหร่ แต่ด้วยพื้นที่ของ Living Area ที่มีบันไดเพิ่มเข้ามา การจะจัดห้องให้เป็นรูปแบบที่ต่างออกไปคงยากหน่อยครับ อ้อ ข้อเสียอีกอย่างของห้องแบบนี้คือ ใช้แอร์เปลืองมากหน่อย เพราะต้องติดแอร์ถึง 3 จุด ทั้งในห้องนอน โซนนั่งเล่น และชั้นลอยที่ต้องติดแยกกัน ไม่อย่างนั้นเพดานสูงๆ แบบนี้เย็นไม่ทั่วแน่ๆ ต่อมาเป็น Type 1C แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร ที่โดดเด่นด้วยการทำห้องแบบDouble Volume เพดานสูง 5.5 เมตร และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา Plan ห้อง เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้ว มองตรงไปก็จะเป็นส่วน Living Area แต่เราจะมาดูทางขวามือที่เป็นส่วนครัวกันก่อนนะครับ ส่วนครัวจะเป็นแบบเปิดตั้งอยู่หน้าห้อง ฝั่งตรงข้ามที่อยู่ใต้บันไดก็จะเป็นจุดวางตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัวก็จะคล้ายๆ กับ Type ที่ผ่านมานะครับ แต่จะต่างกันตรงที่ห้องนี้จะย้ายเครื่องซักผ้ามาไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวแทน ส่วนวัสดุที่ใช้ และเครื่องครัวก็เหมือนเดิมหมด ส่วนไมโครเวฟ ก็อาจจะต้องเอาไปไว้ที่ชั้นลอยด้านบน เดินเลยผ่านครัวเข้ามาก็จะเป็นห้องน้ำกับห้องนอน เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนกันก่อนนะครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่หน้าห้องนอน ห้องนอน Type นี้ ค่อนข้างจะเล็กอยู่สักหน่อยนะครับ วางเตียง 5 ฟุตแล้ว ทางด้านซ้ายของเตียงจะมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้ ส่วนด้านขวาที่ติดกับหน้าต่างบานกระทุ้ง จะมีที่เหลือพอให้ผ้าม่านเท่านั้น ออกมาดูที่ห้องน้ำกันต่อนะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้และการจัดวางก็จะเหมือนกับห้องที่ผ่านๆ มา ห้องอาบน้ำ กลับมาที่ส่วน Living Area โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับครัว ข้างๆ โซฟา ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นจุดที่วางทีวี บวกกับบันไดขึ้นชันลอย เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วน Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเหมือนห้องที่ผ่านมา จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะอยู่ตรงนี้นะครับ หันหน้าออกนอกระเบียง มุมมองจากระเบียง บันไดขึ้นชั้นลอยจะเป็นบันไดเหล็กนะครับ ดูแล้วอาจจะแคบและชันอยู่สักหน่อย เวลาเดินชึ้น เดินลง ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะครับ โต๊ะทำงานที่ชั้นลอย ชั้นวางของ Built-in ด้านหลังโต๊ะทำงาน มุมมองจากโต๊ะทำงาน ติดโคมไฟเก๋ๆ เพิ่มบรรยากาศในการนั่งทำงาน มุมมองจากชั้นลอยลงมาที่ Living Area แล้วก็มาถึงห้องแบบสุดท้ายคือ Type 2A เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน มีขนาดพื้นที่ 56 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้จะเป็นห้องหน้ากว้างและอยู่ในตำแหน่งมุมของอาคารHigh Rise เท่านั้นนะครับ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเห็นพื้นที่ครัวอยู่ตรงหน้าพอดี ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะแยกออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา โดยที่ด้านขวาจะเป็น Living Area ติดกับระเบียงและได้กระจกแบบเข้ามุม ซึ่งจะช่วยให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น และรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย แต่พอต้องวางทีวีไว้ที่ตำแหน่งหน้ากระจกใสบานใหญ่ ก็ทำให้เกิดปัญหาแสงสะท้อนเข้าตาขณะดูทีวีอีก ดังนั้นผ้าม่านที่มุมนี้คงได้ใช้งานเปิดๆ ปิดๆ บ่อยแน่นอน ด้านที่ติดกันกับชุดโซฟาใน Living Area จะเป็นห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ครับ พื้นที่ในห้องนอนไม่ได้กว้างมาก วางเตียง และตู้เสื้อผ้า Built-in ไปแล้วก็เหลือที่แค่พอเดินได้เท่านั้น ส่วนบริเวณหน้าต่างของห้องนี้ก็อาจจะวาง Day Bed หรือโต๊ะสูงตามแบบห้องตัวอย่างก็ได้เช่นกัน ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมาก คล้ายๆ กับห้องที่ผ่านมานั่นแหละ ข้ามไปที่โซนทางด้านซ้ายของห้องบ้าง ติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำอยู่หน้าห้องนอนเล็กเลย ส่วนพื้นที่ในห้องนอนก็กำลังกระทัดรัด วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วก็เหลือที่ว่างให้ตั้งโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีกหน่อย ถ้าเป็นห้องของเด็กๆ ก็ดูลงตัวน่ารักดีครับ ห้องสุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน Type 2A ขนาด 56 ตารางเมตร Plan ห้อง เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวที่อยู่ตรงกับประตูห้องก่อนเลยนะครับ ครัว Type นี้ จะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง หน้าตาครัวจะได้แบบนี้นะครับ ตู้เย็นจะอยู่ฝั่งเดียวกับเตาไฟฟ้า ส่วนอีกฝั่งจะเป็นซิ้งค์ล้างจานพร้อมที่เตรียมอาหาร ที่มีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์ยาว เตาไฟฟ้าก็จะต่างกับห้อง 1 ห้องนอนนะครับ Type นี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัว ของ MEX เจ้าเก่า ฮูดดูดควัน ซิ้งค์ล้างจาน พร้อมที่เตรียมอาหาร ก็อกน้ำ Sierra เครื่องซักผ้าจะวางอยู่ใต้เคาน์เตอร์ซิ้งค์ล้างจาน โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน จะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร กั้นกลางระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่นนะครับ เลยจากโต๊ะทานอาหารเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ผนังด้านหลังทีวีทำเป็นกระจกเข้ามุมเชื่อมต่อกับส่วนของระเบียง สามารถเห็นวิวได้ทั้ง 2 ด้านเลยล่ะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ระเบียงก็จะเหมือนกับ Type ที่ผ่านมานะครับ ตำแห่งการวางคอมเพรสเซอร์แอรืก็จะเหมือนกัน จาก Living Area มาดู Master Bedroom ที่อยู่ใกล้ๆ กันต่อนะครับ ขนาดห้องก็ไม่ได้กว้างมาก วางเตียง 5 ฟุตแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงนิดหน่อย ปลายเตียงก็จะเหลือพื้นที่ประมาณนี้นะครับ ใช้ทีวีแบบแขวนจะเหมาะกว่า ถ้า Built-in ชั้นวางไปแล้วแทบไม่เหลือที่ให้เดินเลย ริมหน้าต่างมีที่ว่างเหลือพอให้วางโต๊ะสูงนั่งทำงาน หรือจะวาง Daybed เก๋ๆ ไว้นอนอ่านหนังสือริมหน้าต่างก็ไม่ว่ากัน ตู้เสื้อผ้า Built-in วางอยู่ข้างเตียง ใกล้ๆ ห้องน้ำ ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เหมือน Type ก่อนๆ นะครับ ห้องอาบน้ำ จากห้องนอนใหญ่เราข้ามฟากไปดูห้องนอนเล็กกันบ้างนะครับ ก่อนถึงห้องนอนเล็กจะมีห้องน้ำอีกห้องนึงนะครับ ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่หน้าห้องเหมืองห้องนอนใหญ่นะครับ ห่้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียง 3 ฟุตนะครับ ทำให้ข้างเตียงมีที่ว่างเหลือให้วางโต๊ะทำงาน ทำการบ้านได้ โต๊ะทำงานข้างเตียง ปลายเตียงมีที่เหลือเล็กน้อยให้ Built-in ชั้นวางของ ส่วนทีวีใช้แบบแขวนน่าจะเหมาะกว่าครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่ค่อนมาทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก และไม่หวังพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนมากนัก รวมถึงต้องการที่อยู่อาศัยในย่านประชาอุทิศ เนื่องจากทำเลย่านนี้มีเส้นทางเลี่ยงเข้าออกเมืองได้หลายทาง อีกทั้งยังใกล้ด่านขึ้นลงทางด่วนด้วย ถึงจะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นหลายจุด แต่ก็ยังถือว่าเดินทางด้วยรถส่วนตัวได้สะดวกดี ผิดกับการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่อยู่ห่างออกไปมาก คนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ด้วย โครงการนี้คงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ส่วนศักยภาพทางด้านการเติบโตของย่านนี้ คงไม่ได้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงซักเท่าไหร่ ถึงต่อให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-สุวินทวงศ์) สร้างเสร็จใช้งานได้ ตัวโครงการก็คงไม่ได้รับอานิสงค์มากนัก เพราะยังไงสถานีที่ใกล้ที่สุดก็ยังคงมีระยะห่างมากกว่าจะใช้คำว่าเดินทางสะดวกได้ พื้นที่รอบๆ โครงการมีความพร้อมค่อนข้างสูงสำหรับการอยู่อาศัย เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ ที่พอจะพึ่งพิงได้หลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในรัศมีที่ต้องเดินทางด้วยรถส่วนตัวถึงจะสะดวก ส่วนแหล่งพึ่งพิงในระยะเดินถึงก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันใกล้ๆ บริเวณรอบๆ ไม่ค่อยมีสำนักงาน หน่วยงานราชการใหญ่ๆ เท่าไหร่นัก ดังนั้นคนทำงานกลุ่มนี้จึงไม่ใช่เป้าหมายหลักสำหรับการปล่อยห้องเช่า จากที่ลองสำรวจดู ตัวโครงการอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติถึง 2 แห่ง ซึ่งกลุ่มครอบครัวที่มีลูกๆ วัยเรียน และครูอาจารย์ในโรงเรียนนานาชาติเหล่านี้น่าจะพอหวังให้มาเช่าห้องได้บ้าง แต่ทั้งนี้ก็คงต้องทำการตกแต่งเชิญชวนกันหนักหน่อย นอกจากนี้เรื่องความคุ้มค่าจากราคาห้องก็ถือว่า สมน้ำสมเนื้อพอสมควร เพราะวัสดุ สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ที่ให้มากับห้องจัดเป็นเกรดพรีเมี่ยมดี รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ทางโครงการเน้นจัดให้กว้างขวาง มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน และมีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการใช้งานได้จริง รวมถึงเรื่องดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัย จึงน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบรูปลักษณ์ทันสมัยได้สะดุดตามากๆ ดูจากโมเดลจะเห็นลูกเล่นของเส้นสายกราฟฟิกของตัวตึก High Rise อันเนื่องมาจากตำแหน่งของห้องในแต่ละแบบที่วางสลับกันไปมานั่นเอง สำหรับเรื่องทิศทางของแดดและลม ก็ต้องมาดูที่ตัวที่ดินของโครงการซึ่งวางอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้  ดังนั้นตัวอาคารจึงต้องหันหน้าเผชิญกับทิศตะวันออกและตะวันตกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ห้องในตึก High Riseด้านที่หันหน้าไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรมคงจะร้อนน้อยหน่อย เพราะเป็นทิศตะวันออก ส่วนอีกด้านทางทิศตะวันตก ก็โดนแดดกันไปเต็มๆ ครับ เลี่ยงได้ยากจริงๆ หรือถ้าใครเลือกที่จะอยู่ในตึก Low Rise อาจจะเสียเปรียบเรื่องวิวบ้าง แต่ก็แลกกับร่มเงาที่ได้ตึก High Rise ที่ช่วยผ่อนความร้อนจากแดดเช้าไปได้มากพอสมควร ในขณะที่แดดบ่ายก็ไร้ทางหลบเลี่ยงได้เช่นกัน ออกมาดูรอบๆ โครงการก็ต้องบอกว่า บนถนนประชาอุทิศคึกคักไม่น้อยเลย เพราะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงมากมาย และปั้มน้ำมันพร้อมมินิมาร์ทที่อยู่ภายในให้เราได้พึ่งพาได้ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ใกล้ๆ กับโครงการอีกหลายแห่ง เช่น โรงเรียนนานาชาติคิซ (KIS International School) โรงเรียนนานาชาติรีเจนท์ (Regent International School) เป็นต้น หรือถ้าออกจากถนนประชาอุทิศไปอีกหน่อย บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งช๊อปปิ้งดังๆ มากมาย ถ้ามีรถส่วนตัวไว้ใช้หน่อยการไปไหนมาไหนรอบๆ โครงการก็จัดว่าสะดวกและครบครันมากๆ ครับ ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศเหนือ ซึ่งก็คือด้านถนนประชาอุทิศ ผืนที่ดินบังคับให้อาคารต้องหันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูที่อาคาร Low Rise กันก่อนนะครับ ชั้น G ของทั้ง 3 อาคารจะคล้ายๆ กัน ซึ่งจะเป็นที่จอดรถอยู่ใต้อาคาร ผังอาคาร Low Rise จะเห็นว่า มีที่จอดรถ 3 ชั้น อยู่ใต้อาคาร ทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดิน มาดูที่ชั้น 2 กันต่อนะครับ ชั้น 2 ของอาคาร A จะเน้นไปที่สวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร B สำหรับคนรักสุขภาพ ก็จะมี Gym และสระว่ายน้ำ สระใหญ่ อยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร C จะมีสระว่ายน้ำ สระเล็ก ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่ง มาดูที่กันที่อาคาร High Rise บ้างนะครับ ที่ชั้น G ของแต่ละอาคารก็จะคล้ายๆ กัน เป็นที่จอดรถใต้อาคารส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็น Facility อย่าง Lobby, Mailbox, Shop, Gym แตกต่างกันไปในแต่ละอาคาร เรามาเริ่มจากอาคาร Smart 1 ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุดกันก่อนนะครับ ที่ตึก Smart 1 นอกจากจะมี Lobby และ Mailbox ก็จะมี Coffee Shop อยู่ด้วย อาคาร Smart 2 เป็นอาคารที่อยู่ตรงข้ามกับอาคาร B (B Healthy) ที่จะเน้น Facility อย่างสระว่ายน้ำ และ Gym ที่ใต้อาคาร Smart 2 นี้จึงมา Gym ให้อีกหนึ่งห้องครับ ซึ่งใหญ่กว่าที่อาคาร B ด้วย หน้าตาของ Gym ใต้อาคาร Smart 2 อาคาร Smart 3 จะมีห้องสมุดสำหรับอ่านหนังสือ นั่งติวหนังสือ หรือทำการบ้านได้ ครับ บรรยากาศของห้องสมุดใต้อาคาร Smart 3 ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไปนะครับ เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10 ยูนิตต่อชั้น การวาง Layout ของทั้ง 3 อาคารก็จะคล้ายๆ กัน ที่ชั้น 18-19 อาคาร Smart 2 และ ชั้น 19-20 อาคาร Smart 3 จะเป็นห้อง Duplex ส่วนที่ชั้นบนสุดของอาคาร High Rise ของทั้ง 3 อาคาร จะเป็นห้อง Penthouse พาชมห้องตัวอย่าง ถึงคราวของห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ทางโครงการเตรียมห้องตัวอย่างให้เราได้ชมด้วยกัน 4  แบบ เริ่มต้นกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ที่ขนาด 32 ตร.ม. โดยประมาณ เปิดประตู้ห้องนี้เข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องครัวก่อนเลยครับ พื้นที่ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเว้นเป็นที่วางตู้เย็นได้ ส่วนตู้ Built-in ในห้องตัวอย่างจะมีไว้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น ของจริงไม่ได้มาพร้อมกับห้องนะครับ ถัดเข้าไปด้านในเป็น Living Area ที่จัดสรรพื้นที่ให้โต๊ะกินข้าวชุดเล็กๆ อยู่รวมกับชุดโซฟานั่งเล่นได้พอดี ระยะห่างระหว่างโซฟากับผนังห้องที่ใช้แขวนทีวีมีขนาดกำลังพอเหมาะ ประกอบกับอยู่ติดระเบียงจึงช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดูสบายตามากขึ้น ภายในห้องนอน ทางโครงการมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ พื้นที่ที่เหลือพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็เกือบจะเต็มห้องพอดี จะมีพื้นที่ติดหน้าต่างเหลือไว้นิดหน่อย พอจะวางโต๊ะทำงาน หรือใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ได้บ้าง ส่วนห้องน้ำของห้องนี้อยู่ในห้องนอนนะครับ ซึ่งด้านในห้องน้ำก็แบ่งโซนแห้งโซนเปียกไว้ชัดเจน มีกระจกเทมเปอร์กั้นห้องอาบน้ำไว้ กระจกเหนืออ่างล้างหน้าก็เป็นบานใหญ่แบบในห้องตัวอย่างเลย ฟังก์ชั่นเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้องน้ำถือว่าทางโครงการค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียด ทั้งชั้นวางของที่ยาวเต็มพื้นที่ ทำให้วางของได้มากขึ้น และที่วางกระดาษทิชชู่ด้านข้างอ่างล้างหน้า ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเห็นแล้วขัดตาขัดใจบ้าง อย่างเช่น หัวก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้า ที่ถูกชั้นวางของด้านบนติดตั้งในตำแหน่งเกือบชิดติดกัน คือเวลาใช้งานก็ปกติแหละครับไม่ได้มีปัญหาหรอก แต่ถ้าเกิดต้องซ่อมแซมหัวก๊อกขึ้นมาคงวุ่นวายกันน่าดู จุดที่สองที่ขัดใจก็คือ พื้นตรงส่วนห้องอาบน้ำไม่มีการดร๊อปให้ต่ำลงไป หรือไม่ได้มีการก่อธรณีให้สูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลมาที่ส่วนแห้ง เวลาใช้งานจริงๆ เชื่อว่าน้ำซึมออกมาได้แน่นอน แถมตรงประตูห้องน้ำก็ไม่ได้ก่อธรณีกั้นไว้อีก ถ้าเกิดท่อตัน หรือน้ำระบายไม่ทัน มีโอกาสที่จะไหลเข้าห้องนอนได้นะครับ ตรงจุดนี้ถ้าแก้ไขได้อีกนิดหน่อยคงจะดีกว่านี้เยอะครับ สำหรับพื้นที่ระเบียงของห้อง ต้องขอยกให้เป็นจุดเด่นข้อหนึ่งเลย ด้วยพื้นที่ระเบียงที่จัดว่ากว้างพอให้ใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งยังจัดสรรพื้นที่ไว้แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางเครื่องซักผ้าไว้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ทำให้พื้นที่ตรงระเบียงเหลือมากพอให้ใช้ตากผ้า หรือจัดสวนเล็กๆ ได้เลย มาดูแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ขนาด 32 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ Plan ห้อง ที่นี่จะใช้ประตู Digital Door Lock แบบนี้นะครับ สวิตช์และปลั๊กไฟทั้งหมดของที่นี่จะใช้ยี่ห้อ Sierra เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว จะเจอกับส่วนครัวที่ตั้งอยู่หน้าห้องก่อนเลยนะครับ ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนด้านซ้ายจะเป็นตู้ที่ Built-in ขึ้นมาเป็นตู้เก็บของ และช่องใส่ตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัว จะวางเตาไฟฟ้าไว้ด้านขวา ซิ้งค์ล้างจานอยู่ด้านซ้าย ตัวท็อปจะเป็นหินควอทซ์ มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง ซิ้งค์ล้างจานแบบฝัง ตัวก็อกจะใช้ยี่ห้อ Sierra เหมือนกันครับ เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX มาพร้อมฮูดดูดควัน ยี่ห้อเดียวกัน ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆ กับครัว จะเป็นโต๊ะทานอาคารสำหรับ 2 ท่าน เลยเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ออกมาดูที่ระเบียงกันต่อเลยนะครับ จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่ระเบียง ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่เหนือเครื่องซักผ้า หันออกนอกระเบียง แล้วก็จะมีประตูเหล็กปิดกั้นอย่างเป็นสัดส่วนให้ด้วยนะครับ รางประตูกระจกบานสไลด์ ทำมาเนียบใช้ได้เลยครับ มาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ วางเตียง 5 ฟุตกำลังพอดีครับ มีพื้นที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้บ้าง พื้นที่ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้ Built-in ชั้นวางทีวีได้นิดหน่อย แต่ถ้าใช้ทีวีแบบแขวนก็จะมีที่วางของเพิ่มขึ้นอีกครับ ด้านข้างเตียงที่ติดกันหน้าต่างมีที่เหลือเยอะพอสมควร ห้องตัวอย่างจะ Built-in เป็นเหมือนโต๊ะนั่งทำงาน แต่ห้องจริงไม่ได้แบบนี้นะครับ หน้าต่างจะเป็นบาน fix นะครับ และมีบานกระทุ้ง 1 บาน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นตู้เสื้อผ้า มุมมองจาก Living Area เข้าไปในห้องนอน ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนนะครับ เดี๋ยวไปดูห้องน้ำกันต่อเลย ธรณีประตูเตี้ยๆ กั้นระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Sierra ข้างๆ อ่างล้างหน้า เว้าเข้าไปให้มีที่แขวนกระดาษทิชชู่ และวางของได้ด้วย โถสุขภัณฑ์ อยู่ข้างๆ ห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำจะกั้นด้วยประตูกระจก Temper ชุดฝักบัวของ Sierra เหมือนกันครับ ห้องต่อไปคือเป็นห้อง Type 1B ซึ่งยังคงเป็นแบบ 1 ห้องนอน ในขนาดห้องที่ใกล้เคียงกับห้องแรก คือ 33 ตร.ม. โดย Layout ของห้องนี้จะจัดแบ่งพื้นที่ภายในห้องไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดเข้าห้องมาจะเจอ Living Area ก่อนเป็นอันดับแรก ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นครัวแบบปิดพร้อมประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยป้องกันปัญหากลิ่นรบกวนภายในห้องระหว่างทำครัวได้ดี พื้นที่ครัวของห้องนี้กว้างขวางติดกับระเบียง ซึ่งก็กว้างขนาดที่วันไหนเกิดอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศย้ายโต๊ะออกไปนั่งกินข้าวชมวิวที่ระเบียงก็สามารถย้ายโต๊ะไปตั้งได้เลยครับ ส่วนอีกโซนของห้อง จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนก็กำลังพอเหมาะแบบคนที่ข้าวของไม่เยอะมาก เพราะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เท่านั้น ส่วนชั้นเก็บของอื่นๆ คงต้องเฟ้นหาเพิ่มเติมกันเอง ในขณะที่ห้องน้ำก็มี Layout เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ ทั้งวัสดุสุขภัณฑ์และตำแหน่งที่ติดตั้ง สำหรับห้องตัวอย่างห้องนี้ถ้าใครได้เห็นคงรู้สึกถูกใจกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่จัดไว้ได้ลงตัวมากๆ อีกทั้งยังให้บรรยากาศที่โล่งโปร่งสบายด้วย เห็นห้องตัวอย่างแล้วก็อย่าลืมว่า ของจริงทางโครงการขายให้มาเป็นห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ พวกลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ตามมุมต่างๆ ที่เห็นในห้องตัวอย่างเป็นแค่ไอเดียการตกแต่งเท่านั้นครับ ต่อไปเป็นห้อง 1 ห้องนอน Type 1B ขนาด 33 ตารางเมตรนะครับ Plan ห้อง Type นี้เข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ มุมมองจากในห้อง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ถ้าวางโซฟาขนาดเท่านี้ ด้านข้างจะมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะข้างได้อีกนะครับ ชั้นวางของเหนือโซฟา โต๊ะข้างโซฟา ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องครัว ครัวของ Type นี้จะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นระหว่างครัวกับ Living Area ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ข้างบนทางเข้าห้องครัว มีการทำชั้นวางของหลบอยู่ด้วย เก๋ไปอีกแบบ แต่ห้องจริงไม่มีให้แบบนี้นะครับ เคาน์เตอร์ครัวก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A เลยครับ มุมมองจากระเบียงเข้ามาในห้อง จะเห็นโต๊ะทานอาคารขนาด 2 ท่าน อยู่ตรงข้ามกับครัว ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างระเบียงกับครัว ระเบียงของ Type 1B จะไม่เหมือนกับ 1A นะครับ ของ Type นี้ระเบียงจะเป็นทรงสามเหลี่ยม เลยดูเหมือนจะกว้างกว่า ส่วนที่วางเครื่องซักผ้า และคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับ Type 1A ครับ กลับเข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังเหมาะครับ จะได้มีที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้ด้วย ปลายเตียงมีที่เหลือให้พอเดินได้ แต่วางชั้นวางทีวีไม่ได้ ต้องแขวนอย่างเดียวครับ อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า ที่จะอยู่ติดกับห้องน้ำเลยครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ติดกับห้องน้ำ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยนะครับ ซึ่งชุดสุขภัณฑ์และการจัดวางก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ ทีนี้มาดูห้อง Type 1C กันบ้างครับ ห้องนี้นับว่าโดดเด่นมากเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบให้เพดานห้องเป็นแบบ Double Volume สูงถึง 5.5 เมตรและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา ทำให้ห้องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น จากประตูทางเข้าห้อง ขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดเชื่อมต่อกับ Living Area ด้วยโต๊ะกินข้าวเล็กๆ อีกชุด ถัดเข้ามาจากห้องครัวเป็นห้องน้ำและห้องนอนนะครับ รูปแบบและการจัดวางพื้นที่ในห้องน้ำคล้ายกับห้องก่อนหน้าเลย แต่ห้องนอนของห้องนี้รู้สึกว่าจะมีพื้นที่ค่อนข้างเล็กกว่าห้องอื่นๆ เล็กน้อย ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะครับ แต่เท่าที่เห็นในห้องพอวางเตียงขนาด 5 ฟุต และใส่ตู้เสื้อผ้า Built-in เข้าไปแล้ว ก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่างเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าห้องแบบนี้มีพื้นที่ชั้นลอยมาให้ใช้เพิ่มเติมแล้วมั้งครับ ในห้องนอนจึงไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นอะไรมาก บริเวณชั้นลอยก็สามารถจัดเป็นมุมทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือใช้เก็บของก็ได้ ถึงแม้ห้องแบบนี้จะมีการออกแบบที่แปลกและเก๋ไก๋ แต่ก็มีข้อจำกัดบ้างในบางเรื่อง เช่น ตำแหน่งที่แขวนทีวี ที่ต้องแขวนไว้ตรงชานพักบันไดเลย ซึ่งดูไม่ชินตาซักเท่าไหร่ แต่ด้วยพื้นที่ของ Living Area ที่มีบันไดเพิ่มเข้ามา การจะจัดห้องให้เป็นรูปแบบที่ต่างออกไปคงยากหน่อยครับ อ้อ ข้อเสียอีกอย่างของห้องแบบนี้คือ ใช้แอร์เปลืองมากหน่อย เพราะต้องติดแอร์ถึง 3 จุด ทั้งในห้องนอน โซนนั่งเล่น และชั้นลอยที่ต้องติดแยกกัน ไม่อย่างนั้นเพดานสูงๆ แบบนี้เย็นไม่ทั่วแน่ๆ ต่อมาเป็น Type 1C แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร ที่โดดเด่นด้วยการทำห้องแบบDouble Volume เพดานสูง 5.5 เมตร และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา Plan ห้อง เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้ว มองตรงไปก็จะเป็นส่วน Living Area แต่เราจะมาดูทางขวามือที่เป็นส่วนครัวกันก่อนนะครับ ส่วนครัวจะเป็นแบบเปิดตั้งอยู่หน้าห้อง ฝั่งตรงข้ามที่อยู่ใต้บันไดก็จะเป็นจุดวางตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัวก็จะคล้ายๆ กับ Type ที่ผ่านมานะครับ แต่จะต่างกันตรงที่ห้องนี้จะย้ายเครื่องซักผ้ามาไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวแทน ส่วนวัสดุที่ใช้ และเครื่องครัวก็เหมือนเดิมหมด ส่วนไมโครเวฟ ก็อาจจะต้องเอาไปไว้ที่ชั้นลอยด้านบน เดินเลยผ่านครัวเข้ามาก็จะเป็นห้องน้ำกับห้องนอน เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนกันก่อนนะครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่หน้าห้องนอน ห้องนอน Type นี้ ค่อนข้างจะเล็กอยู่สักหน่อยนะครับ วางเตียง 5 ฟุตแล้ว ทางด้านซ้ายของเตียงจะมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้ ส่วนด้านขวาที่ติดกับหน้าต่างบานกระทุ้ง จะมีที่เหลือพอให้ผ้าม่านเท่านั้น ออกมาดูที่ห้องน้ำกันต่อนะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้และการจัดวางก็จะเหมือนกับห้องที่ผ่านๆ มา ห้องอาบน้ำ กลับมาที่ส่วน Living Area โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับครัว ข้างๆ โซฟา ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นจุดที่วางทีวี บวกกับบันไดขึ้นชันลอย เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วน Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเหมือนห้องที่ผ่านมา จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะอยู่ตรงนี้นะครับ หันหน้าออกนอกระเบียง มุมมองจากระเบียง บันไดขึ้นชั้นลอยจะเป็นบันไดเหล็กนะครับ ดูแล้วอาจจะแคบและชันอยู่สักหน่อย เวลาเดินชึ้น เดินลง ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะครับ โต๊ะทำงานที่ชั้นลอย ชั้นวางของ Built-in ด้านหลังโต๊ะทำงาน มุมมองจากโต๊ะทำงาน ติดโคมไฟเก๋ๆ เพิ่มบรรยากาศในการนั่งทำงาน มุมมองจากชั้นลอยลงมาที่ Living Area แล้วก็มาถึงห้องแบบสุดท้ายคือ Type 2A เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน มีขนาดพื้นที่ 56 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้จะเป็นห้องหน้ากว้างและอยู่ในตำแหน่งมุมของอาคารHigh Rise เท่านั้นนะครับ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเห็นพื้นที่ครัวอยู่ตรงหน้าพอดี ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะแยกออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา โดยที่ด้านขวาจะเป็น Living Area ติดกับระเบียงและได้กระจกแบบเข้ามุม ซึ่งจะช่วยให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น และรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย แต่พอต้องวางทีวีไว้ที่ตำแหน่งหน้ากระจกใสบานใหญ่ ก็ทำให้เกิดปัญหาแสงสะท้อนเข้าตาขณะดูทีวีอีก ดังนั้นผ้าม่านที่มุมนี้คงได้ใช้งานเปิดๆ ปิดๆ บ่อยแน่นอน ด้านที่ติดกันกับชุดโซฟาใน Living Area จะเป็นห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ครับ พื้นที่ในห้องนอนไม่ได้กว้างมาก วางเตียง และตู้เสื้อผ้า Built-in ไปแล้วก็เหลือที่แค่พอเดินได้เท่านั้น ส่วนบริเวณหน้าต่างของห้องนี้ก็อาจจะวาง Day Bed หรือโต๊ะสูงตามแบบห้องตัวอย่างก็ได้เช่นกัน ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมาก คล้ายๆ กับห้องที่ผ่านมานั่นแหละ ข้ามไปที่โซนทางด้านซ้ายของห้องบ้าง ติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำอยู่หน้าห้องนอนเล็กเลย ส่วนพื้นที่ในห้องนอนก็กำลังกระทัดรัด วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วก็เหลือที่ว่างให้ตั้งโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีกหน่อย ถ้าเป็นห้องของเด็กๆ ก็ดูลงตัวน่ารักดีครับ ห้องสุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน Type 2A ขนาด 56 ตารางเมตร Plan ห้อง เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวที่อยู่ตรงกับประตูห้องก่อนเลยนะครับ ครัว Type นี้ จะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง หน้าตาครัวจะได้แบบนี้นะครับ ตู้เย็นจะอยู่ฝั่งเดียวกับเตาไฟฟ้า ส่วนอีกฝั่งจะเป็นซิ้งค์ล้างจานพร้อมที่เตรียมอาหาร ที่มีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์ยาว เตาไฟฟ้าก็จะต่างกับห้อง 1 ห้องนอนนะครับ Type นี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัว ของ MEX เจ้าเก่า ฮูดดูดควัน ซิ้งค์ล้างจาน พร้อมที่เตรียมอาหาร ก็อกน้ำ Sierra เครื่องซักผ้าจะวางอยู่ใต้เคาน์เตอร์ซิ้งค์ล้างจาน โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน จะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร กั้นกลางระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่นนะครับ เลยจากโต๊ะทานอาหารเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ผนังด้านหลังทีวีทำเป็นกระจกเข้ามุมเชื่อมต่อกับส่วนของระเบียง สามารถเห็นวิวได้ทั้ง 2 ด้านเลยล่ะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ระเบียงก็จะเหมือนกับ Type ที่ผ่านมานะครับ ตำแห่งการวางคอมเพรสเซอร์แอรืก็จะเหมือนกัน จาก Living Area มาดู Master Bedroom ที่อยู่ใกล้ๆ กันต่อนะครับ ขนาดห้องก็ไม่ได้กว้างมาก วางเตียง 5 ฟุตแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงนิดหน่อย ปลายเตียงก็จะเหลือพื้นที่ประมาณนี้นะครับ ใช้ทีวีแบบแขวนจะเหมาะกว่า ถ้า Built-in ชั้นวางไปแล้วแทบไม่เหลือที่ให้เดินเลย ริมหน้าต่างมีที่ว่างเหลือพอให้วางโต๊ะสูงนั่งทำงาน หรือจะวาง Daybed เก๋ๆ ไว้นอนอ่านหนังสือริมหน้าต่างก็ไม่ว่ากัน ตู้เสื้อผ้า Built-in วางอยู่ข้างเตียง ใกล้ๆ ห้องน้ำ ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เหมือน Type ก่อนๆ นะครับ ห้องอาบน้ำ จากห้องนอนใหญ่เราข้ามฟากไปดูห้องนอนเล็กกันบ้างนะครับ ก่อนถึงห้องนอนเล็กจะมีห้องน้ำอีกห้องนึงนะครับ ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่หน้าห้องเหมืองห้องนอนใหญ่นะครับ ห่้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียง 3 ฟุตนะครับ ทำให้ข้างเตียงมีที่ว่างเหลือให้วางโต๊ะทำงาน ทำการบ้านได้ โต๊ะทำงานข้างเตียง ปลายเตียงมีที่เหลือเล็กน้อยให้ Built-in ชั้นวางของ ส่วนทีวีใช้แบบแขวนน่าจะเหมาะกว่าครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่ค่อนมาทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก และไม่หวังพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนมากนัก รวมถึงต้องการที่อยู่อาศัยในย่านประชาอุทิศ เนื่องจากทำเลย่านนี้มีเส้นทางเลี่ยงเข้าออกเมืองได้หลายทาง อีกทั้งยังใกล้ด่านขึ้นลงทางด่วนด้วย ถึงจะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นหลายจุด แต่ก็ยังถือว่าเดินทางด้วยรถส่วนตัวได้สะดวกดี ผิดกับการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่อยู่ห่างออกไปมาก คนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ด้วย โครงการนี้คงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ส่วนศักยภาพทางด้านการเติบโตของย่านนี้ คงไม่ได้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงซักเท่าไหร่ ถึงต่อให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-สุวินทวงศ์) สร้างเสร็จใช้งานได้ ตัวโครงการก็คงไม่ได้รับอานิสงค์มากนัก เพราะยังไงสถานีที่ใกล้ที่สุดก็ยังคงมีระยะห่างมากกว่าจะใช้คำว่าเดินทางสะดวกได้ พื้นที่รอบๆ โครงการมีความพร้อมค่อนข้างสูงสำหรับการอยู่อาศัย เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ ที่พอจะพึ่งพิงได้หลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในรัศมีที่ต้องเดินทางด้วยรถส่วนตัวถึงจะสะดวก ส่วนแหล่งพึ่งพิงในระยะเดินถึงก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันใกล้ๆ บริเวณรอบๆ ไม่ค่อยมีสำนักงาน หน่วยงานราชการใหญ่ๆ เท่าไหร่นัก ดังนั้นคนทำงานกลุ่มนี้จึงไม่ใช่เป้าหมายหลักสำหรับการปล่อยห้องเช่า จากที่ลองสำรวจดู ตัวโครงการอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติถึง 2 แห่ง ซึ่งกลุ่มครอบครัวที่มีลูกๆ วัยเรียน และครูอาจารย์ในโรงเรียนนานาชาติเหล่านี้น่าจะพอหวังให้มาเช่าห้องได้บ้าง แต่ทั้งนี้ก็คงต้องทำการตกแต่งเชิญชวนกันหนักหน่อย นอกจากนี้เรื่องความคุ้มค่าจากราคาห้องก็ถือว่า สมน้ำสมเนื้อพอสมควร เพราะวัสดุ สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ที่ให้มากับห้องจัดเป็นเกรดพรีเมี่ยมดี รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ทางโครงการเน้นจัดให้กว้างขวาง มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน และมีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการใช้งานได้จริง รวมถึงเรื่องดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัย จึงน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบรูปลักษณ์ทันสมัย
Supalai Wellington II : รีวิวคอนโด

Supalai Wellington II : รีวิวคอนโด

Supalai Wellington II คอนโด High Rise สูง 14 ชั้น โครงการใหม่จาก ศุภาลัย บนถนนเทียมร่วมมิตร ใกล้ศูนย์วัฒนธรรมฯ และแหล่งธุรกิจบนนถนนรัชดาภิเษก เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท ราคาต่อตารางเมตร  60,000 - 70,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 14 ชั้น 7 อาคาร จำนวนห้อง 1,092 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 12 - 2 - 90.7 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ คาดว่าจะสร้างเสร็จ : ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สยามนิรมิตร Cyber World Tower Esplanade Big C AIA Capital Center ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 42 - 45 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 66.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำระบบเกลือ Infinity Edge ซาวน่า Fitness Internet Wifi ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1720 กด 89 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.supalai.com
WIRE RATCHADA 19  : รีวิวคอนโด

WIRE RATCHADA 19  : รีวิวคอนโด

WIRE RATCHADA 19 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โครงการใหม่ใจกลางรัชดา ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อย เพียง 46 ยูนิต ใกล้ MRT รัชดาภิเษกเพียง 300 เมตร รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 92,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท พีดับบลิวเค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 46 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 0 - 1 - 49 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ซอยรัชดาภิเษก 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ AIA Capital Market Center เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ สวนจตุจักร ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 27.19 - 30.78 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 31.22 - 48.22 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 48.66 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง Shutter Bus Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 094-589-5959 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.wirecondo.com
KES รัชดา : รีวิวคอนโด

KES รัชดา : รีวิวคอนโด

โครงการ: KES รัชดา (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,170,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 68,346 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท วิษณี จำกัด จุดเด่น คอนโดใหม่ย่านรัชดา ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ห่างจากรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ประมาณ 1.5 กม. ปีที่สร้างเสร็จ ต้นปี 2559 ที่ตั้ง: KES รัชดา (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 196 ตร.วา ที่ตั้ง ซอยสุทธิพร ถนนรัชดาภิเษก 3 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพ พิกัดโครงการ 13.76665,100.562687 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT พระราม 9   สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 เซ็นทรัล พระราม 9 โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว ฟอร์จูนทาวน์   ลักษณะโครงการ: KES รัชดา (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom ขนาดห้องที่มี ขนาดตั้งแต่ 26.75 – 41.25 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 70 ยูนิต   ส่วนกลาง: KES รัชดา (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 50% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 35 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.2 x 8 เมตร ห้องออกกำลังกาย ขนาด 3.5 x 8 เมตร สวนหย่อมรอบโครงการ พื้นทีสีเขียวประมาณ 145 ตร.ม. ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 70 : 1 ระบบ CCTV / Access Card /ลิฟต์ล็อคชั้น/Car lift   เพิ่มเติม: KES รัชดา (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-641-0133, 091-784-5675 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.kesratchada.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2557
Chateau in Town รัชดา 10 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town รัชดา 10 : รีวิวคอนโด

โครงการ Chateau in town รัชดา 10 เป็นอีกหนึ่งโครงการของ CMC ที่เลือกทำเลขยับเข้ามาใกล้เขต New CBD (Central Business District) บนถนนรัชดาภิเษกมากขึ้น ซึ่งตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดา 10 หลังตึก Cyber World และอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวางและสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ เราจึงแวะไปดูที่ตั้งโครงการจริงมาฝากกันครับ การเดินทาง การเลือกทำเลในย่านนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยหลักจากความสะดวกสบายด้วยการเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับการเดินทางมายังโครงการ Chateau in town รัชดา 10 โดยรถไฟฟ้าใต้ดินสามารถเลือกลงได้ทั้งสถานีห้วยขวาง และสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ โดยสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ จะมีระยะทางเดินที่ใกล้กว่าคือ 550 เมตรโดยประมาณ ซึ่งใช้เส้นทางเดินลัดตัดออกมาจากด้านหลังตึก Cyber World ทำให้ย่นระยะทางไปได้พอสมควร ในขณะที่จากสถานีห้วยขวางเดินมายังโครงการจะมีระยะทางมากถึง 900 เมตรเลยทีเดียว ด้วยระยะขนาดนี้ต้องบอกว่าถ้าต้องเดินไปกลับทุกเช้า-เย็นคงจะไม่สะดวกนัก ดังนั้นการเลือกใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างจึงเป็นเรื่องที่อาจเกิดได้บ่อยกว่าที่คิด โดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่ต้องเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าคนเดียว เส้นทางบางช่วงอาจจะเงียบไม่คนมีคนเดินจนเกือบจะเรียกว่าเปลี่ยวเลยทีเดียว ถึงจะเป็นเส้นทางเดินติดถนนใหญ่ที่มีรถราขวักไขว่ แต่ก็ยังไม่น่าเดินเท่าไหร่ครับ ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ นั้นจัดว่าสะดวกดีทีเดียว เพราะออกมาทางปากซอยรัชดา 10 ก็เจอป้ายรถเมล์อยู่ตรงหน้าพอดี มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย รวมถึงรถแท็กซี่ก็มีให้บริการทั้งวันทั้งคืน ถึงจะไม่มีรถส่วนตัวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเลย ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ถนนสายหลักๆ ที่ต้องใช้คือ ถนนรัชดาภิเษก ไม่ว่าจะมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 หรือแยกลาดพร้าว เพื่อต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมถึงบริเวณแยกศูนย์วัฒนธรรมฯ ที่สามารถเลี้ยวไปออกเหม่งจ๋ายและเลียบทางด่วนรามอินทราได้ นอกจากนี้ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนตรงพระราม 9 ที่จะช่วยให้การเดินทางไปยังส่วนอื่นๆ ของกรุงเทพสะดวกมากขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ๆ ที่ยังไงก็เลี่ยงไม่ได้ก็คือ ปัญหารถติดบนถนนรัชดาภิเษก และถนนสายอื่นๆ ใกล้เคียงในช่วงเวลาเร่งด่วน กว่าจะหลุดไปได้แต่ละแยกก็ใช้เวลากันนานเลยทีเดียว แผนที่เส้นทางการเดินทางโดยรถยนต์ โดยเริ่มจากลาดพร้าวมาถึง โครงการ เริ่มมาจากแยกลาดพร้าว ให้วิ่งมุ่งหน้าไปพระราม 9 ลงอุโมงต์ลอดใต้แยกห้วยขวาง ลงอุโมงค์ ออกจากอุโมงค์ให้พยายามชิดซ้าย วิ่งมาเรื่อยๆ จะเจอโรงเรียน เตรียมอุดมพัฒนาการอยู่ทางซ้าย ก่อนเข้าซอย เตรียมตัวเลี้ยวเข้าซอย รัชดาภิเษก 10 เข้าซอยรัชดาภิเษก 10 เลยครับ พอเข้าซอยมาแล้ว ให้เลี้ยวขวาแรกทันที วิ่งตรงไปเรื่อยๆจนเกือบสุดทาง จะเห็นโครงการ Chateau in Town 10 อยู่ทางซ้ายครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ โครงการ Chateau in town รัชดา 10 ตั้งอยู่ถัดจากปากซอยเข้าไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งบริเวณปากซอยมีทั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารแผงลอยหลายร้าน ถัดออกมาอีกหน่อยที่แยกศูนย์วัฒนธรรมฯ ก็มีทั้งห้าง Big C Extra, Esplanade และCyber World ที่สามารถเป็นที่พึ่งพาในการจับจ่ายใช้สอยและฝากท้องได้ ขยับออกมาอีกหน่อยก็ยังมี Tesco Lotus, Fortune Tower และห้าง Central พระราม 9 ที่อยู่ห่างออกไปอีกแค่สถานีรถไฟฟ้าเดียว รวมถึงร้านอาหาร สถานบันเทิงบนถนนรัชดาในบริเวณใกล้ๆ ก็มีให้เลือกไม่น้อยเช่นกัน นอกจากนี้อาคารสำนักงานรอบๆ ก็มีอีกหลายตึก ทั้ง Forum Tower, ตึก Cyber World และตึกไทยประกันชีวิต เป็นต้น ทำเลในย่านนี้จึงคึกคักและพลุกพล่านไม่น้อยเลย ดีหน่อยที่ที่ตั้งโครงการอยู่ถัดเข้ามาในซอยซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยที่มีอยู่ก่อนแล้ว บรรยากาศจึงเงียบสงบกว่าด้านนอกมาก ตัวอาคารของ Chateau in town รัชดา 10 สูง 8 ชั้น สร้างใกล้เสร็จในอีกไม่นานนี้ ซึ่งการออกแบบตัวอาคารไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก เพราะเป็นโครงการเล็กที่มียูนิตรวมแค่ 79 ยูนิตเท่านั้น ทางโครงการจึงบอกว่าลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวเพราะแต่ละชั้นมีเพื่อนบ้านแค่ 10-12 ห้องเท่านั้น พื้นที่ส่วนกลางเริ่มตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นที่จอดรถภายในอาคาร สามารถจอดรถได้ 31 คัน มีทางเข้าออกทางเดียวด้านซอยรัชดา 10 แยก 7 ส่วนพื้นที่ด้านหลังโครงการที่อยู่ติดกับซอยรัชดา 10 แยก 9 จะเป็นสระว่ายน้ำและสวนหย่อมเล็กๆ สำหรับการพักผ่อน สำหรับส่วนที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 2 ขึ้นไป โดยที่บริเวณชั้น 2 ด้านเดียวกับสระว่ายน้ำจะมีห้องฟิตเนส ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปที่สระว่ายน้ำได้ด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานทั่วไป รวมถึงเรื่องลิฟท์โดยสารที่ถึงจัดมาให้ 1 ตัว แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับคอนโดโครงการขนาดนี้ การจัดวางแปลนห้องในแต่ละด้านมีจำนวนห้องไม่มากนัก ซึ่งการเลือกตำแหน่งและขนาดห้องก็ถูกบังคับไปโดยปริยาย รอบๆ อาคารเป็นอาคารพาณิชย์เสียเป็นส่วนใหญ่ ตรงข้ามกันมีอพาร์เม้นท์สูง 7-8 ชั้น 2 อาคาร อยู่ห่างจากตัวโครงการแค่ถนนในซอยกั้นเท่านั้น หันไปทางด้านหลังโครงการก็มีตึก Cyber World สูงตระหง่าน แทบจะบังแดดบังลมได้มิดเลย เรียกว่าเรื่องวิวทิศทัศน์อันสวยงามคงหวังอะไรไม่ได้ไม่ว่าจะเลือกห้องทางทิศไหน หรืออยู่ชั้นสูงที่สุดก็ตาม เพราะมองออกไปยังไงก็เห็นแต่วิวหลังคาตึกใกล้ๆ แย่หน่อยก็อาจจะเปิดหน้าต่างออกไปจ๊ะเอ๋มองเห็นเพื่อนบ้านที่อพาร์ทเม้นท์ข้างๆ อีกต่างหาก ความเป็นส่วนตัวตามที่ทางโครงการขายไว้ก็อาจจะลดลงไปบ้าง เช่นเดียวกับการใช้สระว่ายน้ำซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ในขณะที่รอบๆ มีบ้านและอาคารพาณิชย์รายล้อมอยู่ เวลาลงมาว่ายน้ำเล่นก็อาจจะรู้สึกโป๊ไปหน่อย ถึงแม้ว่าทางโครงการจะพยายามยกพื้นและขอบรั้วให้สูงกว่าปกติแล้ว แต่ใกล้ๆ กันก็ยังมีตึกที่สูงกว่าที่สามารถมองลงมาที่สระว่ายน้ำได้อยู่ดี คะแนนความเป็นส่วนตัวจึงถูกลดลงไปอีกครับ เห็นแบบนี้สาวๆ คงไม่กล้าลงมาว่ายน้ำเล่นเท่าไหร่ จะขึ้นจะลงสระอาจมีอาการระแวงสายตาจากคนในบ้านข้างๆ ได้ ทีนี้เลยพาลจะทำให้ใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ค่อยเต็มที่นัก การเสียค่าส่วนกลางโดยที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่ หรืออาจไม่ได้ใช้เลย จึงกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าคิดนะครับ พาชมห้องตัวอย่าง อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าแบรนด์ Chateau in town มีการออกแบบ Lay out ในแต่ละโครงการไม่ได้แตกต่างกันมาก เราจึงไม่ต้องพูดกันมากให้เสียเวลา ทั้งโครงการมีแบบห้องให้เลือกมากถึง 15 Type ซึ่งเยอะได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว Lay out ห้องก็คล้ายๆ กัน กลับตำแหน่งซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เว้าตรงนี้นิด ยื่นตรงนั้นหน่อย ตัดทอนไปแล้วก็เหลือห้องแบบหลักๆ อยู่ 5 แบบด้วยกัน เริ่มจากห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมีขนาดเริ่มต้นที่ 25-41 ตร.ม. ขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้อง ห้องขนาดเล็กจะกั้นพื้นที่ห้องนอนออกจากครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อช่วยในการประหยัดพื้นที่ และไม่ทำให้ห้องดูแคบจนเกินไป ส่วนพื้นที่นั่งเล่นในห้องขนาด 25 ตร.ม. อาจไม่มีพื้นที่เหลือให้มากนัก เพราะต้องแบ่งกันใช้กับบริเวณห้องนอน จะว่าไปแล้วลักษณะห้องก็คล้ายกับห้องแบบ Studio เสียมากกว่า แต่ถ้าใครที่อยากจะได้ห้องที่กว้างขึ้น และมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกออกมาเป็นสัดส่วน ก็ต้องขยับขึ้นมาที่ห้องขนาด 35 ตร.ม. เพราะห้องแบบนี้จะกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ จึงมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกจากกันชัดเจน แต่ก็ต้องบอกว่ามีพื้นที่แค่พอใช้สอยนะครับ ไม่ได้กว้างขวางอะไรมากมาย แต่ถ้าอยากได้ห้องกว้างๆ ไปเลย ก็ต้องเป็นห้องขนาด 39 ตร.ม. และ 41 ตร.ม. เลยครับ รับรองว่าพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางแน่นอน ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนก็มีให้เลือกเช่นกัน ในขนาดตั้งแต่ 47-52 ตร.ม. เลยทีเดียว เท่าที่ได้ดูห้องตัวอย่างมา ต้องบอกว่า Lay out ห้องบางตำแหน่งอาจจะทำหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งให้ลงตัวได้ยาก เพราะมีเสายื่นมาบ้าง หรือผนังเว้าเข้าไปบ้าง ไหนจะไฟเพดานที่ยื่นออกมาแทนที่จะเป็นแบบฝังติดฝ้าเพดาน อันนี้ก็อาจจะติดปัญหาในบางตำแหน่งที่ต้องวางตู้สูงจรดเพดาน บางทีการตัดปัญหาด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in ก็อาจจะช่วยได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย ถ้าจะเลือกห้องจริงๆ แนะนำว่าให้เดินดูทีละห้องไปเลยครับ เพราะปัจจุบันตัวอาคารสร้างเสร็จแล้ว เหลือแค่ตกแต่งภายในและเก็บรายละเอียดเท่านั้น จะได้เช็คกันในละเอียดๆ ไปเลยว่ามีพื้นที่ใช้สอยในห้องอย่างไรบ้าง ถูกใจและเหมาะสมแค่ไหน อย่าดูแค่แปลนในกระดาษ เกิดอยู่แล้วไม่ถูกใจขึ้นมาจะหาทางแก้ไขลำบากครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน จุดด้อยหลักๆ ของตัวโครงการ Chateau in town รัชดา 10 คือเรื่องที่ตั้งโครงการที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี ซึ่งไม่ว่าจะเลือกเดินจากสถานีไหนก็จัดว่าไกลพอสมควรเลยทีเดียว ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่เกาะแนวรถไฟฟ้า แต่ด้วยระยะทางที่ต้องเดินมากกว่า 500 เมตรขึ้นไป ก็อาจทำให้เราใช้ประโยชน์จากรถไฟฟ้าได้ไม่เต็มที่นัก แต่ในขณะเดียวกันบริเวณรอบๆ โครงการกลับมีอาคารสำนักงานหลายแห่ง รวมถึงสถานศึกษา และห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้งมากมาย ถ้าใครที่ทำงานอยู่ในระแวกนี้ โดยเฉพาะในระยะที่สามารถเดินไปกลับได้ หรือนั่งรถต่อไปใกล้ๆ โครงการนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะการจราจรบนถนนรัชดาภิเษกนั้นติดหนักขึ้นชื่ออยู่แล้ว ถ้าไม่ต้องเดินทางออกไปทำงานนอกพื้นที่รัชดาไกลๆ ก็เผชิญปัญหารถติดกันน้อยลง นอกเหนือจากนี้เรื่องพื้นที่ส่วนกลางของโครงการก็ต้องพิจารณากันให้ดีๆ ว่าเราจะได้ใช้งานมากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละส่วนทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนสก็ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่มาก รวมถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในระหว่างการใช้งานที่อาจจะน้อยไปบ้างตามที่บอกไปข้างต้น ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียค่าส่วนกลางไปโดยไม่คุ้มค่าเงินก็ได้ สำหรับการซื้อหาไว้เพื่อการลงทุนหรือปล่อยห้องให้เช่า แน่นอนว่าบริเวณโดยรอบนี้มีอาคารสำนักงานอยู่มาก โอกาสที่จะหาผู้เช่าก็ดูจะมีความเป็นไปได้มาก แต่ต้องไม่ลืมว่าในซอยเดียวกันนี้ยังมีอพาร์ทเม้นท์อีกหลายตึกที่จะกลายเป็นตัวเลือกเปรียบเทียบ ทั้งตำแหน่งที่อยู่ใกล้ปากซอยมากกว่า และราคาเช่าที่อาจจะถูกกว่าเพราะไม่มีเรื่อง Facility อื่นๆ บวกเพิ่มขึ้นมา การปล่อยห้องให้เช่าจึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าก็ได้ครับ
CENTRIC รัชดา – ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

CENTRIC รัชดา – ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

โครงการ: CENTRIC รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 3,090,000 บาท บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 120,200 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) - SC Asset จุดเด่น จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ 2558 ที่ตั้ง: CENTRIC รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3-2-91 ไร่ ที่ตั้ง ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.780746,100.574394 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีห้วยขวาง 120 ม.   สถานที่สำคัญใกล้เคียง ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พระราม9 รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีห้วยขวาง   ลักษณะโครงการ: CENTRIC รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms Duplex ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom 25.7 – 39.1 ตารางเมตร 2 Bedrooms 47.4 – 59.1 ตารางเมตร Duplex 47.4 – 88.4 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 31 ชั้น จำนวนห้อง 674 ยูนิต   ส่วนกลาง: CENTRIC รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 287 คัน คิดเป็น 42% ถ้ารวมจอดซ้อนคัน จะได้ประมาณ 55% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 550 บาท   สาธารณูปโภค ห้องสมุดส่วนตัว ที่ชั้น2 สระว่ายน้ำ JOGGING TRACK   เพิ่มเติม: CENTRIC รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1749 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.scasset.com/th/Condo/CTRH/default.aspx ข้อมูล ณ วันที่
G Style Condo รัชดา – ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

G Style Condo รัชดา – ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

โครงการ: G Style Condo รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,630,000 บาท บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 56,900 บาท เจ้าของโครงการ มีสไตล์ พร๊อพเพอร์ตี้ จุดเด่น ภายใต้คอนเซปต์ Garden & Gallery คอนโดมิเนียมที่ให้ศิลปะ และ ธรรมชาติ อยู่ใกล้คุณมากขึ้น สัมผัสดีไซน์โดดเด่น ด้วยสีสันโดนใจ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องสมุด เหนือกว่า ด้วยทำเลใจกลางรัชดา เดินทางเพียง 3 นาทีจากรถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวาง เข้าออกสู่ถนนสายหลักได้หลายเส้นทาง เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น รอให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ G Style โครงการที่ให้คุณได้มากกว่าคำว่าคอนโด ปีที่สร้างเสร็จ พ.ศ. 2559 ที่ตั้ง: G Style Condo รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-2-29 ไร่ ที่ตั้ง 58 ซอยไพศาล ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.776703,100.582205 ระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง   สถานที่สำคัญใกล้เคียง เทสโก โลตัส เอเทรียม บูติค รีสอร์ท รัชดาซิตี้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 9 โรงพยาบาลพระราม 9   ลักษณะโครงการ: G Style Condo รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom / 26.00 – 35.00 ตร.ม. 2 Bedroom / 55.00 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 192 ยูนิต, ห้องชุดร้านค้า 2 ห้อง   ส่วนกลาง: G Style Condo รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด ประตู Key Card ห้องสมุด   เพิ่มเติม: G Style Condo รัชดา - ห้วยขวาง (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 0-2690-5888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.gstylecondo.com/ ข้อมูล ณ วันที่
Chateau in town รัชดา 10 : รีวิวคอนโด

Chateau in town รัชดา 10 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Chateau in town รัชดา 10 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,500,000 บาท บาท/ตารางเมตร 80,000 บาท เจ้าของโครงการ พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ (PPP – ในเครือ CMC) จุดเด่น Metro Concept จินตนาการชีวิตแนวคิดใหม่กับคอนโดอารมณ์รีสอร์ทที่เน้นความเป็นส่วนตัว หรูหรา ทันสมัย ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ คอนโดพร้อมอยู่ ที่ตั้ง: Chateau in town รัชดา 10 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 0-3-14ไร่ ที่ตั้ง ซอยรัชดาภิเษก 10 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพ พิกัดโครงการ 13.771341,100.573857 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล พระราม9 เอสพลานาด โรบินสัน รัชดา บิ๊กซี ฟอร์จูน มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย ลักษณะโครงการ: Chateau in town รัชดา 10 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom 25-41 ตร.ม. 2 Bedroom 47-52 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 79 ยูนิต ส่วนกลาง: Chateau in town รัชดา 10 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 31 คัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) ค่ากองทุน(/ตร.ม) สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ระบบรักษาความปลอดภัย ประตู Key Card   เพิ่มเติม: Chateau in town รัชดา 10 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-168-3323 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.chateauintown.com/ratchada10/ ข้อมูล ณ วันที่
ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง : รีวิวคอนโด

ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง : รีวิวคอนโด

โครงการ: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,590,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 79,555 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จุดเด่น จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ 2559 ที่ตั้ง: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ที่ตั้ง ถนนกรุงเทพนนท์ ตำบลบางซื่อ อำเภอบางซื่อ กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.830782, 100.525051 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีวงศ์สว่าง   สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี วงศ์สว่าง ร.พ.เกษมราษฏร์ กระทรวงสาธาณสุข โฮมโปร โลตัส   ลักษณะโครงการ: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio 22.50 ตร.ม. 1 Bedroom 26 ตร.ม. 2 Bedroom 45 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 27 ชั้น จำนวนห้อง 1,232 ยูนิต จำนวนร้านค้า 2 ยูนิต   ส่วนกลาง: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 424 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) ค่ากองทุน(/ตร.ม) สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สำนักงานนิติบุคคล   สวนสาธารณะ ลิฟท์โดยสาร ลิฟท์ดับเพลิง ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.   เพิ่มเติม: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.apthai.com ข้อมูล ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2557