Tag : คอนโด ทองหล่อ

11 ผลลัพธ์
พฤกษา เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “Chapter Thonglor 25” ลูกค้าให้การตอบรับล้นหลาม

พฤกษา เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “Chapter Thonglor 25” ลูกค้าให้การตอบรับล้นหลาม

พฤกษาเปิดตัวคอนโดพรีเมียมแบรนด์ใหม่ “Chapter” จับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ โดยเปิดตัวที่แรก ในทำเลทองหล่อลูกค้าให้การตอบรับเข้าเยี่ยมชมโครงการอย่างล้นหลาม เกิดเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์สนั่นโลกออนไลน์ ด้วยการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงบรรยากาศและไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยจริง พร้อมเปิดตัว Chapter café สุดชิค ที่ Sales Gallery โครงการ ร่วมสัมผัสความชิคที่ไม่เหมือนใครได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มี.ค. นี้   นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท - พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอนโดพรีเมียมแบรนด์น้องใหม่ Chapter เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าระดับราคา 5 - 10 ล้านบาท ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์ โดยส่งโครงการ “Chapter Thonglor 25” เป็นโครงการแรก ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับเข้าเยี่ยมชมโครงการกันอย่างคับคั่ง จนเกิดกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ในโลกออนไลน์ จากกลยุทธ์ในการทำการตลาดรูปแบบใหม่ โดยการสร้างประสบการณ์แห่งการอยู่อาศัย ให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสถึงไลฟ์สไตล์และบรรยากาศจริงของการอยู่อาศัยในโครงการ พร้อมเปิดตัว CHAPTER CAFÉ จับมือกับร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Pacamara มาสร้างเป็นคาเฟ่สุดชิคไว้ที่ Sales Gallery ซึ่งถูกออกแบบไว้เป็นพื้นที่เปิดสำหรับนั่งเล่น ชมวิวสวน พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร   นอกจากนี้แล้วบริษัทฯ ได้สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ Chapter Thonglor 25 ภายใต้คอนเซ็ปต์ของโครงการ “Curated Thonglor Living” ร่วมมือกับ Illustrator ชื่อดัง คุณก้อง – กันตภน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานศิลปะ Wrap สติ๊กเกอร์ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ด้วยการตกแต่งภายในขบวนไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของคนเมือง อาทิ คนดื่มกาแฟ เดินช็อปปิ้ง ถ่ายรูป เพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากอยู่ทำเลใจกลางเมืองในราคาที่เอื้อมถึงง่ายๆ   Chapter Thonglor 25 คอนโด Low – Rise ระดับไฮเอนด์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 288 ยูนิต แต่งครบด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบชุด จัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันพร้อมบริการตลอด 24 ชม. อาทิ The Chapter Hall, Co-function Space, Co-living Garden, The Sunset Deck, Co-Creating Deck, The Social Club, White Marble Pool, Steam & Suana และ Fitness มีแบบห้องพักให้เลือกตั้งแต่ขนาด 28.91 - 61.17 ตร.ม ทุกยูนิตจะเน้นพื้นที่เก็บของใช้และเสื้อผ้าที่กว้างเป็นพิเศษ และบางยูนิตมีฟังก์ชั่นพิเศษเอาใจสาวๆ ด้วย Walk-in Closet ราคาพร้อมตกแต่งเริ่มต้น 5.3 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 160,000 บาท/ตรม. ในราคาที่หาไม่ได้อีกแล้วในย่านทองหล่อ มาร่วมสัมผัสกับบรรยากาศสุดชิคได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 มี.ค. นี้ ที่ Sales Gallery โครงการ Chapter Thonglor 25 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1739 หรือ https://chapter.pruksa.com/22379/thonglor-25          
“นิวาติ ทองหล่อ 23” อาณาจักรแห่งความลักชัวรี่ สงบ ปลอดภัย ใจกลางเมือง

“นิวาติ ทองหล่อ 23” อาณาจักรแห่งความลักชัวรี่ สงบ ปลอดภัย ใจกลางเมือง

การครอบครองคอนโดสักห้อง นอกเหนือจากทำเลที่ “ชอบ” และโปรดักส์ที่ “ใช่” แล้ว ที่สำคัญเรื่องคุณภาพต้องเหมาะสมกับราคาควบคู่กับการบริการจะต้องเป็นที่พึงพอใจ บริษัท เซวาส พรอพเพอตี้ส์ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างไทยและฮ่องกง ได้พัฒนาคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่ โครงการ “นิวาติ” (NIVATI) ทองหล่อ 23 อีกหนึ่งคอนโดหรู ที่มีไอเดียการดีไซน์และการเลือกของตกแต่งที่เป็น โมเดิร์นลักชัวรี่ ใส่ใจทุกรายละเอียด มาพร้อมฟังก์ชันใช้สอยที่กว้างขวางและวัสดุคุณภาพระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ Elegant Classic Contemporary เป็นเสน่ห์ของโครงการที่ถูกถ่ายทอดผ่านดีไซน์ที่เข้าใจและเข้าถึงผู้ชื่นชอบการตกแต่งสไตล์ตะวันตก   แม้ภาพรวมของทองหล่อจะขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่พลุกพล่าน และวุ่นวาย แต่โครงการ Nivati คำนึงถึงเรื่องความสงบและความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิต จึงเลือกพัฒนาอยู่บนทำเลที่ตอบโจทย์เรื่อง Privacy เพิ่มความสุขและสงบ ขณะเดียวกัน ยังสามารถเดินทางไปยังแหล่งไลฟ์สไตล์และแหล่งแฮงเอาท์ทั้ง Day Life และ Night Life เช่น Emquatier, J-Avenue โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ รพ.สมิติเวช ได้ไม่ยาก โครงการยังตอบโจทย์เรื่อง Exclusivity ด้วยจำนวนยูนิตในโครงการเพียง 52 ยูนิต บนพื้นที่ 7 ชั้น ผ่านวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากแบรนด์ชั้นนำ 100% เป็นโครงการที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ใจกลางเมืองให้กับลูกหลานและยังคาดหวังกำไรส่วนต่างจากการขายต่อได้ในอนาคต โครงการยังใส่ใจเรื่องความกว้างใหญ่ของห้องพักทุกแบบ ทำให้ทุกห้องตั้งแต่ขนาด 1-3 ห้องนอน มีสเปซกว้างขวางกว่าโครงการต่างๆ บนทำเลเดียวกัน ห้องนั่งเล่นและ Master Bedroom มีสเปซกว้างขวางสำหรับทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง เติมเต็มความรู้สึก Luxury ในการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง   โครงการ Nivati บนพื้นที่ดินขนาด 1-1-34 ไร่ ใจกลางทองหล่อ ได้รับการเนรมิตให้เป็นโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มูลค่าโครงการกว่า 1,600  ล้านบาท โก้หรูไปกับฟาซาดที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์สไตล์ "Timeless classicism of the architecture" สถาปัตยกรรมคลาสสิกร่วมสมัย ให้ความรู้สึกสวยงามเหนือกาลเวลา ให้ความหรูหรา มีระดับการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน สะท้อนให้เห็นการทำงานแบบศิลปะขั้นสูงโดยในทุกหน้าต่าง ทุกบานประตู ใช้วัสดุ  กรุผนังภายนอกอาคารด้วย Limestone โทนสีครีม เป็นสีสะท้อนความคลาสสิก ร่วมสมัย ให้ความรู้สึกหรูหรา อบอุ่น น่าอยู่อาศัย เป็น ‘บ้าน’ ที่ผู้อาศัยสามารถผ่อนคลายและชาร์จพลังเพื่อออกไปสู่โลกของการทำงาน และใช้ชีวิตได้อย่างมีพลังเต็มเปี่ยม   ขณะที่ส่วนกลางนั้นครบถ้วนทั้งฟังก์ชันการใช้งาน และความสวยงามในการใช้ชีวิต อาทิ ล็อบบี้หรู, Business Lounge, Swimming Pool, Fitness, ที่จอดรถใต้ดินแบบ Automatic Underground Car Parking ถึง 78 คัน หรือ 150% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด และการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสเปควัสดุที่คัดสรรมาให้นั้นล้วนเป็นวัสดุอิมพอร์ตระดับไฮเอนด์ อาทิ ชุดครัวจากพอเกนโพล (Poggenpohl) ชุดเครื่องครัวแบรนด์ชั้นนำของโลกที่มีประสบการณ์และประวัติมายาวนานนับร้อยปี เคียงคู่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์และสุขภัณฑ์แบรนด์ดัง อย่าง Siemens, Dornbracht, Blanco และ Villeroy & Boch แบรนด์คุณภาพเยี่ยมจากเยอรมัน พร้อมก๊อกน้ำและอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ ดีไซน์สวยงามและคุณภาพสูงจากแบรนด์ Gessi ซึ่งนำเข้าจากประเทศอิตาลี เป็นต้น   แบบห้องมีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน เริ่มจากแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 77.2 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 20 ล้านบาท แบบ 2 Bedroomเริ่มต้นที่ 104.4 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 26 ล้านบาท แบบ 3 Bedroom ขนาด 178.9 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 44 ล้านบาท และ Duplex 1-2 Bedroomขนาด 110-190 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 31 ล้านบาท   ทุกห้องตกแต่งแบบ Fully Fitted และพิเศษสำหรับช่วงเปิดชมห้องตัวอย่างครั้งแรก มีโปรโมชั่น Fully Furnished Package ให้กับลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการและตัดสินใจจอง ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2562 และโครงการมีแนวโน้มจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ช่วงเดือนกันยายน 2562   สำหรับห้องตัวอย่างได้ถูกเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 2 ห้องด้วยกัน เริ่มที่ห้อง แบบ 2 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 130.7 ตร.ม. ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์เฟมินีน เหมาะสำหรับหนุ่มสาววัยทำงานหรือครอบครัวที่ชอบความเรียบหรูมีระดับ ตกแต่งด้วยวัสดุสีทองเมทัลลิกและไฟ warm white ทั่วทั้งห้องเพื่อเน้นบรรยากาศผ่อนคลายและอบอุ่น พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยคอนโดในเมืองด้วย walk in closet ที่กว้างขวางเป็นสัดส่วน รวมถึงห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ขนาดใหญ่ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ซึ่งไม่ว่าใครได้มาเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์ทุกราย   อีกหนึ่งห้องที่เนรมิตมาสำหรับบิซิเนสแมนและครอบครัวขนาดเล็กที่สร้างความต่างแบบมีสไตล์ คือ Duplex 1 Bedroom ขนาด 125.4 ตร.ม.ด้วยการตกแต่งในแบบเรียบง่าย เน้นบรรยากาศการอยู่อาศัยจริงและการใช้พื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มความหรูหราน่าครอบครอง ด้วยการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่มีผิวสัมผัสชั้นเลิศ อยู่แล้วสบายผ่อนคลาย โดยจะเลือกใช้สีเทา น้ำตาล ให้ความรู้สึกถึงความเนี้ยบ ความซอฟท์ในแบบธรรมชาติ ชูความโดดเด่นของวัสดุพื้นผิวและชุดครัวคุณภาพสูงตามมาตรฐานของโครงการนิวาติ   ผู้สนใจหรือต้องการชมห้องตัวอย่างจริง สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.nivaticondo.com หรือ โทร. 095-914-9888 เปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น.      
6 ตึกสูงระฟ้าใจกลางมหานครทั่วโลก กับ สถาปัตยกรรม “โมโนลิธ” ความเรียบที่ไม่ง่าย

6 ตึกสูงระฟ้าใจกลางมหานครทั่วโลก กับ สถาปัตยกรรม “โมโนลิธ” ความเรียบที่ไม่ง่าย

6 ตึกสูงระฟ้าใจกลางมหานครทั่วโลก กับ สถาปัตยกรรม “โมโนลิธ” ความเรียบที่ไม่ง่าย...แรงบันดาลใจสู่ดีไซน์ระดับเวิลด์คลาสแห่งแรกของไทย “เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ สูงที่สุดบนทองหล่อ   ในโลกของการออกแบบอาคารสำนักงานระฟ้า โรงแรม และที่อยู่อาศัยยุคปัจจุบันทั่วโลก มีการแข่งขันกันในเรื่องของการสร้างอาคารที่มีความมั่นคงแข็งแรง ทว่ามาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามและแปลกใหม่ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็น ซึ่งความแปลกใหม่เหล่านั้นได้เลือนหายไปตามยุคสมัยเช่นกัน แต่ทราบหรือไม่ว่า ยังมีสถาปัตยกรรมอยู่รูปแบบหนึ่ง ที่ยังคงท้าทายเหนือกาลเวลามาหลายพันปีโดยไม่คลายเสน่ห์แห่งความงดงามมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ นั่นคือ สถาปัตยกรรมแบบ “โมโนลิธ” (Monolith) ซึ่งแปลว่าหินหรือเสาหินขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว   และในยุคปัจจุบัน สถาปัตยกรรมแบบโมโนลิธ นั้นได้หมายถึง ตัวอาคารที่มีจุดเด่นในเรื่องรูปทรง ที่มีลักษณะเป็นแท่งสมมาตร อัตราส่วนความกว้างของฐานอาคารต่อความสูงอยู่ที่ 1:10 จากพื้นดินไปจนถึงยอดอาคาร เน้นลักษณะภายนอกอาคารแบบมินิมัล โดยลดทอนรายละเอียดต่างๆ จนเกิดเป็นความเรียบ...แต่ไม่ง่าย... ให้ความรู้สึกมั่นคง สง่างาม โดดเด่น เป็นแลนด์มาร์กคงความโดดเด่น ในทุกยุคทุกสมัย การออกแบบงานสถาปัตยกรรม “โมโนลิธ” นิยมนำมาใช้ในการสร้างตึกระฟ้าระดับโลกมากมายที่มีความโดดเด่นและมักตั้งอยู่ในใจกลางเมือง กลางย่านธุรกิจสำคัญ รวมถึงมักจะกลายเป็นแลนมาร์กของเมืองนั้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ กลางเกาะแมนฮัตตัน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นเขตที่นิยมสร้างอาคารด้วยสถาปัตยกรรมรูปทรงโมโนลิธมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก    One World Trade Center แมนฮัตตัน, นิวยอร์ก (เครดิตภาพ: Aecom.com) One World Trade Center เป็นอาคารหลังใหม่ที่สร้างขึ้นในพื้นที่ พื้นที่ 65,000 ตารางเมตรของพื้นที่ทั้งหมด ปัจจุบัน อาคารแห่งนี้ถือว่าสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นอาคารที่สูงเป็นลำดับที่ 6 ของโลก ด้วยความสูง 1,776 ฟุต หรือ 541 เมตร โดยผู้สร้างตั้งใจให้เป็นอาคารที่โดดเด่นทั้งในแง่ของการดีไซน์และประโยชน์ใช้สอย นี่จึงเป็นที่มาของการสร้างให้อาคารหลังนี้มีความสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเลือกสร้างในสไตล์โมโนลิธที่มีความสมมาตร มากด้วยรายละเอียดในการออกแบบที่   สวยโดดเด่น และตอบทุกโจทย์เรื่องฟังก์ชั่น   432 Park Avenue แมนฮัตตัน, นิวยอร์ก (เครดิตภาพ: Businessinsider.com) 432 Park Avenue เป็นอาคารที่พักอาศัยที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ไม่ไกลจากสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค จึงทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเกาะแมนฮัตตันและเมืองนิวยอร์กได้อย่างเต็มที่ ด้วยความสูง 1,396 ฟุตที่ถือว่าเป็นอาคารที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในซีกโลกตะวันตก และเป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับสองในนิวยอร์ก ทำให้ 432 Park Avenue เป็นอาคารสไตล์โมโนลิธที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นในยุคปัจจุบัน   Millenium Hilton Hotel แมนฮัตตัน, นิวยอร์ก (เครดิตภาพ: Pinterest: Bruce Cairns) อีกหนึ่งอาคารที่อยู่ไม่ไกลจาก One World Trade Center คือ อาคารซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของโรงแรมมิลเลเนียม ฮิลตัน ซึ่งตั้งอยู่มุมถนนฟูลตันสตรีทตัดกับถนน เชิร์ชสตรีท โรงแรมแห่งนี้ ซึ่งเลือกสะกดชื่อ “Millenium” แบบผิดไวยากรณ์เพื่อเพิ่มความสะดุดตาให้กับชื่อ มีห้องพักทั้งหมด 471 ห้อง ตั้งอยู่ภายในอาคารสูง 55 ชั้นที่ออกแบบให้มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสูงขึ้นไปตรงๆ เป็นดีไซน์โมโนลิธที่มินิมอลอย่างที่สุด ทว่าก็โดดเด่นในทันทีที่ได้พบเห็น   Seagram Tower แมนฮัตตัน, นิวยอร์ก (เครดิตภาพ: archspeech.com) อีกหนึ่งอาคารสำคัญทางสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1958 และยังคงโดดเด่นมาจนถึงปัจจุบัน คือ Seagram Tower (ซีแกรม ทาวเวอร์) ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนพาร์คอเวนิว มิดทาวน์ นิวยอร์ก อาคารโมโนลิธแห่งนี้ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกัน-เยอรมัน ลุดวิก มีส์ ฟาน เดอ โรฮ์ ด้วยความตั้งใจในการเผยให้เห็นโครงสร้างของตัวอาคารเมื่อมองจากด้านนอก ซึ่งถือว่าล้ำหน้ากว่ายุคสมัยและได้กลายเป็นอาคารหลังสำคัญที่ส่งอิทธิพลต่องานออกแบบทางสถาปัตยกรรมในสหรัฐอเมริกามาจนถึงปัจจุบัน   Al Sharq Tower ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เครดิตภาพ: arabexperts.ae) อาคารสไตล์โมโนลิธส่วนใหญ่มักจะออกแบบมาในลักษณะแท่งสี่เหลี่ยม ทรงสูงตรง แต่ Al Sharq Tower (อัล ชาร์ก ทาวเวอร์) อาคารที่ พักอาศัยระดับไอคอนที่เมืองดูไบนั้นออกแบบให้เป็นเหมือนแท่งทรงกระบอก 9 แท่งมัดรวมอยู่ด้วยกัน กลายเป็นอาคารหลังใหม่ในดีไซน์ที่ดูหรูหราและอยู่เหนือกาลเวลาอย่างไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งเมื่อเปิดไฟประดับในเวลากลางคืนยิ่งเผยให้เห็นความโดดเด่นของตัวอาคารที่มีความสูง 360 เมตร ทว่ายังคงสัดส่วนการออกแบบอาคารโมโนลิธให้มีความกว้างฐานและความสูงในอัตราส่วน 1:10 เช่นเดิม   Montparnasse Tower ปารีส, ฝรั่งเศส (เครดิตภาพ: inexhibit.com) โดยทั่วไปแล้ว เมืองปารีสไม่อนุญาตให้มีการสร้างอาคารสูงในตัวเมือง สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในตัวเมืองปารีสจึงมีแต่หอไอเฟลเท่านั้น จนกระทั่ง Tour Montparnasse หรือ Montparnasse Tower ถูกก่อสร้างขึ้นด้วยความสูงถึง 210 เมตร ปฏิเสธไม่ได้ว่า อาคารแห่งนี้เปิดโอกาสให้ผู้คนทั้งในปารีสและนักท่องเที่ยวได้ชมวิวเมืองปารีสอย่างเต็มตา และมองเห็นหอไอเฟลในอีกหนึ่งมุมที่สวยที่สุด ส่วนในเชิงของการออกแบบ อาคารแห่งนี้ยังคำนวณองศาของการจัดวางกระจกทุกบานอย่างตั้งใจเพื่อให้ทั้งอาคารกลายเป็นกระจกสะท้อนวิวเมืองขนาดใหญ่ เกิดเป็นภาพลวงตาที่ทำให้ตัวอาคารกลมกลืนไปกับเมืองปารีสได้อย่างน่าสนใจ     สถาปัตยกรรมโมโนลิธในเมืองไทย สำหรับในประเทศไทยหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับสถาปัตยกรรมสไตล์โมโนลิธมากนัก เพราะเบื้องหลังของ ความเรียบเท่ของอาคารระฟ้ารูปทรงโมโนลิธในมหานครใหญ่ทั่วโลก แฝงไว้ซึ่งรายละเอียดมากมายตั้งแต่กระบวนการออกแบบที่เน้นเทคนิคในการออกแบบและการก่อสร้างที่มีรายละเอียดมากกว่าอาคารปกติ เช่น การคำนวณเรื่องแรงลม หรือ สัดส่วนของอาคารที่เหมาะสม รวมถึงการเลือกใช้วัสดุพิเศษ เช่น กระจกชนิดพิเศษรอบอาคาร และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้แตกต่างไปจากการก่อสร้างอาคารทั่วไป จึงทำให้อาคารรูปทรงโมโนลิธโดดเด่นกับทุก ๆ สายตาของผู้พบเห็น   The Monument Thong Lo (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) สถาปัตยกรรมรูปทรงโมโนลิธแห่งแรก ของเมืองไทย ล่าสุด แสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศไทยที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยด้วยดีไซน์ที่เปี่ยมด้วยรสนิยม ควบคู่การออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่ลงตัว และบริการพิเศษเพื่อการใช้ชีวิตที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการสถาปัตยกรรมของประเทศไทย ด้วยการนำสถาปัตยกรรมแบบโมโนลิธมาใช้ในการออกแบบโครงการเดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่สูงที่สุดบนถนนทองหล่อด้วยความสูงถึง 45 ชั้นหรือ 177 เมตร โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์รูปทรงอาคารที่สูงตรงตั้งตระหง่าน โดยนำที่จอดรถลงไปไว้ในชั้นใต้ดินเพื่อความสวยงามเช่นเดียวกับอาคารสูงระฟ้าในมหานครใหญ่ทั่วโลก   พร้อมเพิ่มความงดงามด้านหน้าอาคารด้วยงานประติมากรรมขนาดใหญ่สระว่ายน้ำดีไซน์ระดับไอคอนิก สูงถึง 10 เมตร ยาว 28 เมตร กว้าง 9.5เมตร แรงบันดาลใจจากต้นไม้ใหญ่ ประกอบด้วยสระเด็กและสระน้ำวนในบริเวณเดียวกัน พื้นของสระเป็นหินไวท์ คลาวด์ (White Cloud) สีขาวดุจก้อนเมฆตัดกับสีฟ้าของน้ำ รายล้อมไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวยุคใหม่ในพื้นที่ที่เป็นโอเอซิสใจกลางเมือง (Urban Oasis) อย่างแท้จริง   เตรียมพบกับนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยของโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ กับพื้นที่กว้างขวางเสมือนบ้านเดี่ยว Luxury is Spaceบนทำเลทองหล่อ ได้เร็วๆ นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1685      
“Chapter Thonglor 25” คอนโดใหม่ใจกลางทองหล่อ จากพฤกษา

“Chapter Thonglor 25” คอนโดใหม่ใจกลางทองหล่อ จากพฤกษา

พฤกษา เตรียมเปิดตัวคอนโดพรีเมียมใจกลางทองหล่อภายใต้แบรนด์ “Chapter Thonglor 25” ชูคอนเซ็ปต์ Curated Thonglor Living ที่จะมาสร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยแห่งใหม่ในย่านทองหล่อ จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากอยู่ทำเลใจกลางเมืองในราคาที่เอื้อมถึงง่ายๆ โครงการออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยงานดีไซน์ที่ทันสมัย โดดเด่นมีสไตล์ไม่เหมือนใคร จัดเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ในราคาเริ่มต้น 4.9 ลบ. เฉลี่ย 160,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเป็นราคาที่ดีที่สุดและหาไม่ได้อีกแล้วในย่านทองหล่อ   นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท - พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ใจกลางทองหล่อ “Chapter Thonglor 25” ซึ่งเป็นโครงการ   พรีเมียมโครงการแรกของพฤกษาในปีนี้ โดยในย่านทองหล่อเรียกได้ว่าเป็นทำเลลักษ์ชัวรี่อันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ แวดล้อมไปด้วยแหล่งแฮงค์เอ้าท์ทั้งกลางวันกลางคืน และเป็นย่านไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย เพียบพร้อมไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลชั้นนำ และในอนาคตยังมีอีกหลายธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในย่านนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ที่ดินมีราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี     Chapter Thonglor 25 คอนโด Low – Rise ระดับไฮเอนด์แต่งครบ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 288 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,820 ล้านบาท ชูคอนเซปต์ Curated Thonglor Living ที่พร้อมจะมาสร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยในย่านทองหล่อ ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง โดดเด่นมีสไตล์ไม่เหมือนใครด้วยการเลือกใช้สี Copper และสี Pastel จัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันพร้อมบริการตลอด 24 ชม. อาทิ The Chapter Hall, Co-function Space, Co-living Garden, The Sunset Deck, Co-Creating Deck, The Social Club, White Marble Pool, Steam & Suana และ Fitness มีแบบห้องพักให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ Studio ขนาด 28.91 – 29.30 ตร.ม, แบบ 1 Bedroom ขนาด 34.62 – 61.85 ตร.ม และแบบ 2 Bedroom ขนาด 57.63 – 61.17 ตร.ม ทุกยูนิตจะเน้นพื้นที่เก็บของใช้และเสื้อผ้าที่กว้างเป็นพิเศษ และบางยูนิตมีฟังก์ชั่นพิเศษเอาใจสาวๆ ด้วย Walk-in Closet ราคาพร้อมตกแต่งเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 160,000 บาท/ตรม. ซึ่งราคานี้เมื่อเทียบกับทำเล สิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม สเปคมาตรฐานที่หรูหรา และมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุดถือว่ามีความคุ้มค่าอย่างมาก ในราคาที่หาไม่ได้อีกแล้วในย่านทองหล่อ   โครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 เดินทางสะดวกสบายด้วย BTS เพียง 1 สถานี ถึงเอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์ เพียง 5 นาทีถึง BTS ทองหล่อ สามารถเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทางไม่ว่าเชื่อมต่อไปยังทองหล่อเส้นหลักหรือสุขุมวิท 49 และสุขุมวิท 39 แวดล้อมไปด้วยคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง 72 Courtyard, The Commons, Seen Space, J Avenue ร้านอาหารชื่อดัง สถานศึกษานานาชาติ และโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลคามิลเลียน และไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ในทำเลใจกลางทองหล่อ แต่ยังมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่หาได้ยากมากในย่านนี้ เตรียมเปิด Open House 2 - 3 ก.พ. นี้ ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท สนใจสามารถเข้าเยี่ยมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ที่สำนักงาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1739 หรือhttps://chapter.pruksa.com/22379/thonglor-25        
เปิดตัวโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูฯ ริมถนนสุขุมวิท

เปิดตัวโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” คอนโดหรูฯ ริมถนนสุขุมวิท

แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำอสังหาฯ เมืองไทย ผนึกกำลังพันธมิตร ซูมิโตโม ฟอเรสทรี บริษัทชั้นนำในธุรกิจป่าไม้และรับสร้างบ้านของญี่ปุ่น เปิดตัวโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” (Hyde Heritage Thonglor) คอนโดฯหรูระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มูลค่า 6,000 ล้านบาท บนสุดยอดทำเลริมถนนสุขุมวิทใกล้สถานีบีทีเอสทองหล่อเพียง 350 เมตร พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษและสิทธิประโยชน์สูงสุดจากบัตร GA Elite Card  ตอกย้ำความเหนือระดับปรับโฉมโลโก้ต้อนรับศักราชใหม่   นายวิทวัส วิภากุล กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสทโฮเทลส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า การร่วมมือกับ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่นเพื่อสร้างสรรค์โครงการอสังหาฯ ระดับมาสเตอร์พีช “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” (Hyde Heritage Thonglor) ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ในวงการอสังหาฯ เมืองไทย เพราะ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ไม่เพียงเป็น พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาฯ ทั้งในญี่ปุ่นและหลายประเทศทั่วโลก แต่ยังเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการอสังหาฯ ระดับโลก เราจึงมั่นใจว่าความร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความเชื่อมั่นให้กับโครงการได้อย่างมาก     “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” เป็นหนึ่งในโครงการที่ดีที่สุดบนสุดยอดทำเลริมถนนสุขุมวิทใกล้สถานีบีทีเอสทองหล่อเพียง 350 เมตร ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับในทุกด้าน ใช้วัสดุคุณภาพและแบรนด์ระดับโลก เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการประสานความทันสมัยและเทคโนโลยีอย่างครบครัน  โดยมีการนำนวัตกรรมของญี่ปุ่นมาใช้ ออกแบบโดยสถาปนิกและดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง เช่น I will Design, That’s Ith และ SHMA พร้อมทั้งใช้วัสดุและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่มีการโคแบรนด์ดิ้งจากแบรนด์คุณภาพระดับโลก ตลอดจนพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Lobby, Mailbox, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์ต่าง ๆ, ที่จอดรถส่วนตัวทุกห้องรองรับรถได้ 100% โดยมีการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์จอดรถในการอำนวยความสะดวกผู้พักอาศัย, ทั้งมีลิฟต์โดยสาร, กล้องวงจรปิด, Access Card Control พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบชาวเมืองได้เป็นอย่างดี    นายชิเกรุ ซาซาเบะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสร้างคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่บนพื้นที่ใจกลางเมืองริมถนนสุขุมวิทอย่าง “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” ซึ่งมีการนำประสบการณ์ในการเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ยาวนานกว่า 300 ปี พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นมาใช้ในการออกแบบก่อสร้าง ทำให้โครงการนี้แตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมหรูอื่นๆ ที่มีการออกแบบที่ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งยังแวดล้อมด้วยภูมิสถาปัตย์ที่โดดเด่น ด้วยสภาพแวดล้อมสีเขียวในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ที่ทำให้ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ เป็นหนึ่งในโครงการที่ดีที่สุด ที่ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ได้ร่วมพัฒนา   ทั้งนี้ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด เริ่มต้นธุรกิจจากการทำเหมืองแร่ทองแดงในจังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) เมื่อปี พ.ศ. 2234 ควบคู่กับบริหารจัดการป่าไม้รอบเหมืองแร่ ปัจจุบัน ซูมิโตโม ฟอเรสทรี เป็นบริษัทชั้นนำลงทุนในญี่ปุ่นและหลายประเทศทั่วโลก ครอบคลุมธุรกิจปลูกป่าไม้และการจัดการป่าไม้ การก่อสร้างบ้านไม้ ที่อยู่อาศัย ธุรกิจไม้และวัสดุก่อสร้าง ตลอดจนธุรกิจบริการไลฟ์สไตล์   โดยในส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทได้เริ่มต้นธุรกิจรับสร้างบ้านเมื่อปี  พ.ศ. 2518 เป็นผู้พัฒนาระบบการก่อสร้างด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ (Big-Frame Construction Method) เป็นรายแรกในญี่ปุ่น ปัจจุบันมีการพัฒนาแล้วไม่น้อยกว่า 280,000 ยูนิต สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ได้ก่อสร้างบ้านมาแล้วมากกว่า 7,000 หลัง ในประเทศสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย และในเอเชีย โดยมีการขยายไปสู่การพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ในเวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ และประเทศไทย     สำหรับโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ”  เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท 59 บนพื้นที่ประมาณ 2.2 ไร่ ความสูง 45  ชั้น จำนวน 311 ยูนิต  ขนาดห้องตั้งแต่  40 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในย่านที่คนไทย นักเดินทางต่างชาติ และชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทย (expat) โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นต่างให้ความนิยมมายาวนาน เพราะมีความสะดวกหลายประการ ทั้งการเดินทาง ร้านอาหารชั้นเลิศหลากหลายสัญชาติ โรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนระดับแนวหน้าของประเทศ (Wells International School, Bangkok Prep) ทั้งยังอยู่ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ (รพ.สุขุมวิท และ รพ.สมิติเวช) ศูนย์การค้าหรู (EmQuartier, Emporium), และซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้ชีวิตแบบไฮเอนด์อย่างครบครัน ซึ่งผู้พักอาศัยยังสามารถไว้วางใจกับบริการหลังการขายที่พร้อมสร้าง lifetime customer value อย่างไม่มีที่สิ้นสุด   นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรียังคงเติบโตได้ด้วยดีมานด์ที่ต่อเนื่อง ตลาดตอบรับดีต่อสินค้าที่ดีที่อยู่ในทำเลที่ดีในราคาที่แข่งขันได้ แม้ว่าย่านสุขุมวิทจะมีจำนวนยูนิตมากกว่าเมื่อเทียบกับทำเลอื่นๆ แต่ย่านนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นย่านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับห้องพักอาศัย ทั้งสำหรับผู้ซื้อและผู้เช่าเพื่อการลงทุน”   ปัจจุบัน บริษัท แกรนด์ แอสเสทโฮเทลส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลัก 2 ประเภทคือ ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจเน้นการลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับ 4-5 ดาว โดยจะจัดจ้างบริษัทผู้บริหารโรงแรมที่มีประสบการณ์และมีเครือข่ายทั่วโลกเข้าบริหารงาน  อาทิ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า, โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรมเดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้แก่ โครงการไฮด์ สุขุมวิท 11, โครงการไฮด์ สุขุมวิท 13, โครงการหัวหิน บลู ลากูน รีสอร์ท, โครงการเดอะ เทรนดี้ คอนโดมิเนียม และล่าสุดที่เปิดตัวคือ โครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ซึ่งในโอกาสนี้ บริษัทฯ ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเหนือระดับด้วยการปรับโฉมโลโก้บริษัทใหม่เพื่อต้อนรับปี 2562 อย่างเป็นทางการด้วย   ร้อมกันนี้ บริษัทฯ ขอมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับท่านที่สนใจจองและทำสัญญาโครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 อาทิ รับบัตรห้องพักฟรีสูงสุด 20 คืน, บัตรรับประทานอาหาร-เครื่องดื่ม และสปา ของโรงแรม ไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพฯ สุขุมวิท, เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ, รอยัล ออคิด เชอราตัน และ เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา มูลค่าสูงสุด 250,000 บาท และสิทธิประโยชน์จากบัตร GA Elite Card สำหรับส่วนลด 20% ทุกครั้งที่เข้ารับบริการในส่วนของอาหาร-เครื่องดื่ม และสปาของโรงแรมในเครือ   ขอเชิญสัมผัสชีวิตเหนือระดับกับคอนโดฯหรู “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” บนทำเลที่ดีที่สุดใกล้สถานีบีทีเอสทองหล่อเพียง 350 เมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.099-282-3965 หรือwww.hydeheritage.com            
มิกซ์ดีไซน์ แมทช์เฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัว

มิกซ์ดีไซน์ แมทช์เฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัว

มิกซ์ดีไซน์ แมทช์เฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัว ถ้าได้ผ่านไปผ่านมาแถวทองหล่อบ่อยๆ เชื่อว่าหลายคนคงจะเริ่มคุ้นตากับโครงการ THE ESSE Sukhumvit 36 จาก SINGHA ESTATE ที่มี Sales Gallery อยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 กันบ้างแล้ว ต้องบอกว่าโครงการนี้มีความโดดเด่นในเรื่องการออกแบบ โดยมีที่ปรึกษาจากทีมดีไซน์เนอร์ระดับโลกทำให้โครงการนี้จัดเป็นโครงการ ที่น่าจับตามองมากในเวลานี้ ปัจจุบันโครงการ THE ESSE Sukhumvit 36 มียอดขายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 60% โครงการนี้ไม่ได้มีดีแค่จุดเด่นของทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางสุขุมวิท ติดสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อเท่านั้นนะคะ งานดีไซน์ของคอนโดมิเนียมทั้ง Exterior และ Interior ต้องเรียกว่าเป็นการลงรายละเอียดในทุกๆ ตารางนิ้ว เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง   โครงการ THE ESSE Sukhumvit 36 ได้ทีมออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายเจ้า แถมยังเป็นทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านแทบทั้งสิ้น อย่างงานด้านสถาปัตยกรรมก็ได้ “Tandem” บริษัทออกแบบสัญชาติไทยที่มีประสบการณ์มากมาย มาร่วมมือกับบริษัทสถาปนิกชื่อดังจากอเมริกาอย่าง “SOM” Skidmore, Owings and Merrill (Thailand) Co. Ltd เป็นที่ปรึกษา ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการออกแบบอาคารสูง และฝากผลงานไว้มากมาย ทำให้ดีไซน์ตัวอาคารของ THE ESSE Sukhumvit 36 สวยสะดุดตาเป็นที่สุด   ส่วนงานภูมิสถาปัตยกรรม ทาง SINGHA ESTATE เลือก “Shma” เป็นผู้ออกแบบ ในขณะที่ Interior ส่วนกลางได้ “dwp” (Design Worldwide Partnership) มาเป็นอีกแรงสำคัญที่ทำให้บรรยากาศภายในมีกลิ่นอายที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบภูมิปัญญาไทย กับการออกแบบที่เป็นสากล ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “The Essence of Luxurious Living is HARMONY OF CONTRAST” ที่ต้องการสื่อสารถึง “การใช้ชีวิตที่มีความสมดุลในความแตกต่างอย่างกลมกลืน”   แน่นอนว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เห็นในโครงการทั้งหมดนี้ เกิดจากการผสมผสานเอกลักษณ์ของดีไซน์เนอร์แต่ละคนไว้อย่างลงตัว   จริงอยู่ที่ทางโครงการ THE ESSE Sukhumvit 36 เปิดขายห้องชุดแบบ Fully Fitted เพื่อให้เจ้าของห้องชุดได้มีโอกาสสร้างสรรค์การตกแต่งห้องตามสไตล์ตัวเองได้อย่างเต็มที่ แต่ความชื่นชอบที่หลากหลายและแตกต่างกัน ก็สามารถนำมา Mix and Match จนได้สไตล์ส่วนตัวที่ไม่ซ้ำกับใคร บางครั้งเราอาจจะนึกไม่ถึงเลยว่าเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Loft จะสามารถเข้ากันได้ดีห้องสไตล์ Classic หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เรียบง่าย หากเพิ่มเติมโลหะสีทองหรือสีทองแดงเข้าไป จะสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับชิ้นงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่เราเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ให้ถูกชิ้น จัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็สามารถผสมผสานวัสดุ และสไตล์ Mix & Match กันได้อย่างกลมกลืน   การออกแบบหรือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้กับห้องใดๆ ไม่ได้มีกฏกำหนดตายตัวเสมอไปหรอกค่ะ เราเชื่อว่าห้องนั้นๆ จะถูกตกแต่งอย่างไร ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบ รสนิยม ความพึงพอใจของเจ้าของห้องเป็นหลัก ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้มา คือห้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และสามารถบ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของห้องได้ดีที่สุดนั่นเองค่ะ   ก็เหมือนกับที่ THE ESSE Sukhumvit 36 ที่ผสมผสานเอกลักษณ์งานออกแบบของดีไซน์เนอร์หลากหลายสัญชาติ ให้มารวมกันได้อย่างลงตัวที่สุด และเพื่อให้เจ้าของห้องชุดรู้สึกว่าการตกแต่งห้องเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องจ้าง Interior Designer เสมอไป ที่โครงการจึงจัดชุดเฟอร์นิเจอร์สวยๆ จาก LOAM ARTISANAL LIVING มาจัดโปรโมชั่นพิเศษ (Limited Offer) ให้เจ้าของห้องได้มีโอกาสเลือกห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่จะมา Mix& Match ความหรูหราอย่างมีสไตล์ได้ตามใจคุณ เริ่มต้นกันด้วยห้อง 1 Bedroom กับ Furniture Package จาก LOAM ARTISANAL LIVING มูลค่า 500,000 บาท ชุดเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน สี Earth Tone สบายตา ทำให้เราสามารถแต่งเติมสีสันด้วยของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพิ่มเติมเข้าไปได้ง่ายขึ้น รับรองว่าไม่ซ้ำกับใครแน่นอนค่ะ     ส่วนห้อง 2 Bedroom ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะมูลค่า Furniture Package มากถึง 700,000 บาทเลย ชุดเฟอร์นิเจอร์สวยๆ จาก LOAM ARTISANAL LIVING มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว งานดีไซน์เรียบหรู แต่ก็แอบซ่อนกิมมิกเก๋ๆ ไว้ในเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นด้วยนะคะ     นอกจาก Exclusive Furniture Package ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทาง SINGHA ESTATE ยังได้เสนอเงื่อนไขพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ชำระค่าห้องผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ จะได้คะแนนสะสมสูงสุด 20 เท่า**   จะมามัวรีรอไม่ได้แล้วค่ะ คอนโดสวยๆ ใจกลางเมือง ติดสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ แถมยังได้เฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ดังครบเซ็ต ในราคาเริ่มต้น 12.6 ล้านบาท* แบบนี้มีจำนวนจำกัด และหาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ แล้วนะจ๊ะ รีบคลิกลงทะเบียนกันที่ http://bit.ly/2ws3h1s  หรือ โทร. 1221    
เอกมัย-ทองหล่อ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

เอกมัย-ทองหล่อ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ถ้าถามถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ของในกรุงเทพฯ ยุคนี้ย่อมต้องมีองค์ประกอบเรื่องกิน-เที่ยวในตัวเองครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ตกแต่งเก๋ๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟเฉพาะตัว หรือร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ เชฟและวัตถุดิบอิมพอร์ตจากต่างประเทศโดยเฉพาะ ไปจนถึงร้านที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างรอบด้าน เช่น ร้านจักรยาน ร้านแฟชั่น ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านบาร์เบอร์-ซาลอน ร้านสปา ร้านแฮงค์เอาท์ ผับบาร์ยามค่ำคืนยาวไปจนร้านข้าวต้มโต้รุ่ง เรียกได้ว่าย่านนี้ไม่เคยหลับใหล จึงไม่แปลกที่ย่านเอกมัย-ทองหล่อ คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบค่ะ   หากพูดถึงในแง่ของที่อยู่อาศัยย่านนี้แล้ว เชื่อว่าคงเป็นที่อยู่อาศัยในฝันของใครหลายคน รวมไปถึงชุมชน Expat ที่กระจุกตัวกันอยู่ในย่านนี้ไม่น้อย เพราะนอกจากไลฟ์สไตล์อันเพียบพร้อมรอบด้านแล้วยังเดินทางสะดวกสบาย ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเอกมัย-ทองหล่อ และตัวถนนเองที่แม้จะเป็นเพียงถนนหรือซอยที่เป็นทางเชื่อมลัดเลาะไปสู่ถนนหลักอย่างถนนเพชรบุรีกับถนนสุขุมวิท แต่ด้วยความกว้างของถนนจึงทำให้สามารถมีอาคารสูงขนาดใหญ่เกิดขึ้นได้ตามกฏหมาย อีกทั้งยังสามารถทะลุออกไปถนนพระราม 4 ที่ต่อไปยังสีลม-สาทรได้ในระยะไม่ไกลกัน จึงทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในย่านที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ              จากแผนที่จะเห็นภาพชัดขึ้นค่ะว่าช่วงซอยทองหล่อ 10  - เอกมัย 12 - ปรีดีฯ 31 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกันตรงใจกลางย่านนี้พอดี ส่วนจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็มีทั้งทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งอยู่เลยแยกพระโขนงไปเล็กน้อย และทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยอยู่บริเวณถนนพระราม 4   เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้แล้ว เราก็จะพาไปเดินชมทำเลเอกมัย-ทองหล่อด้วยเลยค่ะ   รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ใครๆ ต่างก็จดจำได้ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้กันทั้ง เกตเวย์ เอกมัย, เมเจอร์ สุขุมวิท และ สถานีขนส่งเอกมัย   บรรยากาศช่วงปากซอยเอกมัย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในย่านนี้คึกคักอยู่ตลอดเวลา เดินเล่นในเอกมัยก็มีความคึกคักไม่แพ้กันทั้งกลางวัน-กลางคืน ตลอดทางมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านที่น่าสนใจเรียงรายอยู่มากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในปัจจุบัน ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนได้หลากหลาย หากโฟกัสกันที่จุดสำคัญของย่านเอกมัยก็คงต้องบอกว่าอยู่ตรงสี่แยกกลางซอยที่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ตั้งแต่ซอยทองหล่อ 10 ต่อมาที่ซอยเอกมัย 5 ซอยเอกมัย 12 แล้วไปทะลุสุดที่ซอยสุขุมวิท 71 ตรงซอยปรีดี พนมยงค์ 31 ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น  ลองเดินทะลุมาที่ทองหล่อ ช่วงทองหล่อซอย 10 ยังเป็นแหล่งปาร์ตี้ชื่อดังอยู่หลายร้าน ใครที่ชอบชีวิต nightlife ต่างก็รู้จักแถวนี้แน่นอน      จากนั้นเราลองเดินกลับมาที่เอกมัย เข้าไปดูในซอยเอกมัย 12 กันต่อค่ะ    บรรยากาศภายในซอยเอกมัย 12 เป็นช่วงถนนที่มีความกว้างถึง 4 เลน ซึ่งเรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างทองหล่อ-เอกมัย-ซอยสุขุมวิท 71(ซอยปรีดีพนมยงค์) ภายในซอยเอกมัย 12 แห่งนี้มีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่น่าสนใจอยู่ค่ะ ชื่อว่า "The FINE Bangkok"   The FINE Bangkok คอนโดมิเนียม High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร 220 ยูนิต ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ 70% บนพื้นที่ 1-1-05 ไร่ ในซอยเอกมัย 12  เกิดจากการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) จำกัด(บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น) กับ บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Keihan Railways  ผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ในภูมิภาคคันไซ จึงเกิดเป็น The FINE Bangkok คอนโดมิเนียมสไตล์ Luxury Modern Japanese มูลค่าโครงการกว่า 1.7 พันล้านบาท และรังสรรค์งานดีไซน์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ออกแบบตกแต่งภายใน และ Landscape โดยบริษัทชื่อดังอย่าง  Architects 49     สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ได้แก่   โซน Fine Greenery แม้เป็นคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง แต่กลับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าโครงการด้วยบรรยากาศแแบบ Fine Spring Garden และสวนพักผ่อนที่ชั้น 23 และ 27 ให้ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วย City View   โซน Fine Lounge ด้วยความตั้งใจออกแบบให้เป็นพื้นที่ใช้ร่วมกัน มีส่วนรองรับสำหรับการใช้งานจากกลุ่มใหญ่ แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัว โดยดีไซน์ออกมาให้มีเอกลักษณ์ความเป็น Modern Luxury แบบญี่ปุ่นชัดเจนที่สุด ประกอบไปด้วย  Lobby, Mail Room, Co-working room และ Private Meeting room   โซน Fine Retreat พื้นที่พักผ่อนรับลมธรรมชาติพร้อมดื่มด่ำทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองไปด้วย ซึ่งทุกส่วนออกแบบให้สามารถชมวิวขอบฟ้าได้ใกล้ที่สุดอย่าง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, Pool Bar, Sauna Room, Hot Pool, The Edge View Point     โซน Fine Sky พื้นที่ Roof Lounge สูงสุดของอาคาร ออกแบบมาให้สามารถชม City View ได้รอบทิศทาง 360 องศา ไปพร้อมกัน เช่น Fitness, Golf Club, Sky Seat, Karaoke room, Kid Room, Wine Lounge                          Floor Plan ชั้น 1 หน้าโครงการหันไปทางทิศใต้ จัดสวนสไตล์ Fine Spring Garden โดยต้องผ่านลำธารเล็กๆ หน้าโครงการไปก่อน ให้ความรู้สึกแบบสวนญี่ปุ่น  Floor Plan ชั้น 9-22 เป็นชั้นสำหรับยูนิตพักอาศัย ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์เซอร์วิส 1 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด วางรูปแบบ Double Corridor ฝั่งทิศตะวันออกได้วิวทางพระโขนง-อ่อนนุช ส่วนทางฝั่งตะวันตกจะได้วิวในเมืองอย่างทองหล่อ-อโศก Floor Plan ชั้น 30 เป็น Facility โซน Fine Retreat ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่, Pool Bar, Sauna Room, Hot Pool และ The Edge View Point       สิ่งเหล่านี้สามารถพูดได้ว่าเป็นการออกแบบมาเพื่อวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในระดับพรีเมียม เพื่อสนองต่อความต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตได้ดีที่สุดบนกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอันทรงเสน่ห์   The FINE Bangkok ไม่ใช่แค่คอนโดมิเนียมสไตล์ญี่ปุ่น แต่เป็นคอนโดที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นในบ้านเราได้สัมผัสกับความแตกต่างในสไตล์ Luxury Modern Japanese เตรียมเปิดห้องตัวอย่างเร็วๆ นี้ และพร้อมเปิด Pre sale 2-3 มิ.ย. นี้   
IDEO Q Sukhumvit 36 สัมผัสความโมเดิร์นหรูหราย่านทองหล่อ : รีวิวคอนโด

IDEO Q Sukhumvit 36 สัมผัสความโมเดิร์นหรูหราย่านทองหล่อ : รีวิวคอนโด

บนความสมบูรณ์แบบของไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ คงหนีไม่พ้นความเป็นอยู่ย่านใจกลางเมืองที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยมมากมายตลอด 24 ชม. เดินทางง่าย เชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง ทำเลที่เรียกได้ว่า All Day All Night เช่นนี้ เราจะต้องนึกถึงย่านทองหล่อเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอนใช่ไหมคะ ซึ่งการมองหาที่อยู่อาศัยท่ามกลางทองหล่อเพื่อให้ได้ความสะดวกสบายหลายอย่างอยู่รอบตัว ก็คงต้องแลกมาด้วยความวุ่นวายของผู้คนและการจราจรที่ติดขัดอยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นการเลือกที่อยู่อาศัยให้ห่างออกมาจากในซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ ออกมาไม่ไกล แต่ยังคงอยู่ในย่านนี้ และยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว   ทุกวันนี้ย่านทองหล่อยังคงครองแชมป์ทำเลสุดฮอต ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนตลาดบนที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนยุคใหม่ และนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยศักยภาพของทำเลที่เต็มเปี่ยมจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม โครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดในย่านนี้ แต่ละโครงการก็มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดทั้งเรื่องของทำเลที่ตั้ง สถาปัตยกรรม และราคา ถือเป็นกำไรของผู้บริโภคให้ได้เลือกสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับตัวเอง   ทำเล   ถนนสุขุมวิท ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีไม่มากก็น้อย เพราะเป็นหนึ่งในเส้นทางสายหลักของกรุงเทพฯ และสำหรับประเทศไทยด้วย ตั้งแต่เริ่มต้นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนเพลินจิตยาวไปจนสุดที่จังหวัดตราด ซึ่งทั้ง 488 กิโลเมตรนี้ ช่วงที่มีความโดดเด่นมากที่สุด คือ ซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ เพราะความเพียบพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งร้านอาหารระดับคุณภาพจากหลากหลายสัญชาติ บางร้านก็มีเชฟชาวต่างชาติมาเปิดร้านเองในแบบฉบับต้นตำหรับแท้ๆ ซึ่งหาทานไม่ได้ที่ไหนนอกจากทองหล่อ ร้านแฮงเอาท์บรรยากาศดี และสถานบันเทิงชื่อดังมากมาย   สำหรับโครงการ IDEO Q Sukhumvit 36 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 เข้าไปประมาณ 450 เมตร ปากซอยติดกับสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ ซึ่งทางโครงการจะมี shuttle bus รับ-ส่งฟรีสำหรับลูกบ้าน ซอยสุขุมวิท 36 นี้ สามารถทะลุไปสู่ถนนพระราม 4 ฝั่งขาออก แล้วไปขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณถนนเกษมราษฎร์ได้ และยังใกล้ศูนย์การค้าชั้นนำอย่าง EmQuartier, Emporium, Gateway เอกมัย ก็อยู่ในระยะทางไม่เกิน 2 กิโลเมตร ซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดัง เช่น Top Supermarket, K Village, ทองหล่อ, BigC เอกมัย, Lotus พระราม 4 โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง รวมถึงสถาบันการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมไปจนถึงมหาวิทยาลัย ก็มีครบครันแถมอยู่ใกล้ๆ โครงการทั้งนั้น ภาพรวมโครงการ   IDEO Q Sukhumvit 36 คอนโดมิเนียม High Rise 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A สูง 47 ชั้น ยูนิตพักอาศัยชั้น 7-23, 25-46 รวมทั้งหมด 364 ยูนิต ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์เซอร์วิช 1 ตัว ที่จอดรถระบบ Auto Parking 125 คัน ที่ชั้น 2-6 มีบันไดหนีไฟ 2 จุด และอาคาร B สูง 24 ชั้น ยูนิตพักอาศัยชั้น 7-23 รวมทั้งหมด 85 ยูนิต ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์เซอร์วิช 1 ตัว ที่จอดรถระบบ Auto Parking 161 คัน ที่ชั้น B1-B2 มี EV Charger สำหรับ 2 คัน บันไดหนีไฟ 2 จุด โดยทั้งสองอาคารจะถูกเชื่อมต่อกันด้วย Facility ชั้น 24 ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน ดังนี้   ชั้น 1 Garden บริเวณหน้าโครงการ กับพื้นที่ระหว่าง 2 อาคาร, Lobby   ชั้น 24 Swimming Pool, Golf Simulator, Fitness and Virtual fitness, Retreat Area, Locker and Changing Room, Social Club, Sky Bar, Workshop/Tea Room, Co-Working Space, Library, Creative Lounge, Meeting Room   ชั้น 47 Japanese Garden, Changing Room with Locker, Stream and Sauna, Black Onsen     ดูจาก Facility แล้วเห็นได้ชัดว่าทางโครงการออกแบบมาเพื่อเอื้อต่อการปล่อยเช่าสำหรับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาอาศัยอยู่ในย่านนี้ ทั้ง Japanese Garden, Golf Simulator, Tea Room และ Black Onsen ภาพ Master Plan ที่ดินเป็นรูปแบบตัว L ตัวอาคารมีระยะร่นลึกเข้ามาจากถนน และมีระยะห่างจากรั้วโครงการโดยรอบพอสมควร มีสวนสีเขียวด้านหน้า ตัวอาคารหลังสวนสีเขียวด้านหน้า คือ อาคาร A มีสวนอยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร A กับ B ที่จอดรถอยู่หลังอาคาร Floor Plan ของทั้งสองอาคาร โดยแปลนด้านล่างของรูป คือ อาคาร A วางรูปแบบ Double Corridor ระเบียงห้องหันหน้าออกทางทิศใต้ วิวฝั่งถนนพระราม 4 กับทิศเหนือ วิวฝั่งถนนสุขุมวิท ส่วนห้องมุมจะได้วิวทิศตะวันออก ฝั่งหน้าโครงการได้วิวทองหล่อ-เอกมัย กับฝั่งตะวันตก ฝั่งหลังโครงการได้วิวในเมือง ส่วนอาคาร B มีห้องที่หันระเบียงออกอยู่ 3 ทิศด้วยกัน คือ ทิศตะวันออก ทิศเหนือ และทิศตะวันตก เห็นแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะกังวลเรื่องการถูกบล็อกวิวกันเองระหว่างสองอาคารนี้ แต่ทางโครงการได้ออกแบบมาให้ไม่มีห้องไหนมาบล็อกกันเลย โดยระเบียงได้หันออกไปมุมอื่นได้วิวเมืองด้านนอก ไม่ได้หันระเบียงเข้าตัวตึกข้างๆ แต่อย่างใด มีเพียงห้องตำแหน่ง 01 ของอาคาร A เท่านั้นที่ระเบียงหันออกทางทิศเหนือ ฝั่งอาคาร B แต่ทางโครงการออกแบบอาคาร B มาให้เล็กกว่าอาคาร A จึงทำให้ระเบียงของห้องตำแหน่งนี้ พ้นจากตัวอาคาร B พอดี สามารถได้วิวฝั่งรถไฟฟ้าเช่นกัน   ห้องตัวอย่าง   ภายใน Sale Gallery ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่เดียวกันกับตัวโครงการจะมีทั้งหมด 2 ห้องตัวอย่างค่ะ คือ 1 Bed ขนาด 45 ตร.ม. กับ 2 Bed ขนาด 63 ตร.ม. ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องให้มาแบบ Fully Fitted ค่ะ   สำหรับสถาปัตยกรรมโครงการนี้เน้นโทนสีดำ ดูมีความเป็นโมเดิร์นมากๆ เชื่อว่าหลายคนจะต้องบอกว่าสวยมากแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปสำหรับแบรนด์ IDEO กันเลยค่ะ ทางเข้าโครงการติดกับถนนในซอยสุขุมวิท 36 มีสวนสีเขียวหน้าโครงการ ตัวอาคารมีระยะร่นจากถนนพอสมควร ระยะห่างระหว่างสองอาคารไม่มากนัก แต่ไม่ห่วงเรื่องมีมุมวิวบล็อกเลยค่ะ ด้วยดีไซน์ทุกห้องจะไม่โดนบล็อกวิวกันเอง ชั้น 24 ที่เป็น Facility เชื่อมต่อกันระหว่างสองอาคาร เริ่มชมห้องตัวอย่างแบบ 1 Bed ขนาด 45 ตร.ม. ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตร ใช้ไฟแบบดาวน์ไลท์ ปูพื้นด้วยไม้เอ็นจิเนียร์ พื้นที่แรกของห้องมีพื้นที่ในการ Built in ตู้เก็บรองเท้าฝั่งขวามือ ฝั่งซ้ายสามารถวางโต๊ะทานข้าวได้ขนาด 2 ที่นั่ง เดินลึกเข้าไปอีกหน่อยเป็นโซนห้องนั่งเล่นค่ะ สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้ โดยยังมีพื้นที่ให้เป็นทางเดินเหลือได้สบายๆ อีกด้านสำหรับวางเคาน์เตอร์วางทีวี ข้างโซฟาสามารถออกไประเบียงได้ โดยจะกั้นด้วยประตูกระจก 3 บาน ขอบอลูมิเนียมเคลือบ Powder Coat ผิวด้าน สีเทาเข้ม ส่วนผ้าม่านทางโครงการก็ติดตั้งมาให้ด้วยนะคะ ระเบียงห้องเป็นแบบปิดค่ะ โดยจะปิดด้วยหน้าต่างกว้างชิดผนังทั้งทั้งสองด้าน และเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอนด้านบน ตรงนี้สามารถวางโต๊ะ-เก้าอี้ ขนาดไม่ใหญ่มาก เอาไว้สำหรับนั่งเล่นรับลมจากด้านนอก แถมยังได้ความปลอดภัยที่มากกว่าระเบียงกั้นด้วยรั้วเหล็กปกติ ซึ่งหากมองจากภายนอกเข้ามาในอาคารก็จะได้ความเป็นส่วนตัว และสวยงามมากกว่าค่ะ   กลับเข้ามาในห้องกันค่ะ เราเข้าไปดูอีกโซนด้านในกัน ซ้ายมือของทางเดินเป็นห้องครัวปิดค่ะ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องครัวมีพื้นที่กว้างพอสำหรับ 2-3 คนเดินสวนกันได้ โดยเคาน์เตอร์ครัว Built in ตลอดแนวผนังที่เห็น ลูกบ้านจะได้ไปทั้งเซตนี้เลยค่ะ แต่ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ลายหินอ่อน มาพร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดครัว ซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ Franke ทั้งหมดคุมโทนสีดำ-ทอง สวยงามดูหรูหรามากค่ะ หันหลังกลับมาที่ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัว ฝั่งขวามือของทางเดินเป็นห้องน้ำค่ะ ทั้งพื้นกับผนังปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน โทนสีขาว ฝั่งซ้ายเป็นอ่างล้างหน้าจากแบรนด์ TOTO ได้ตู้สำหรับเก็บของด้านล่าง พร้อมกระจกบานใหญ่มาด้วยค่ะ ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าเป็นสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ แบรนด์ TOTO เช่นกันค่ะ โซนเปียกกั้นด้วยฉากอาบน้ำกระจกใสแบบบานประตูเปิด-ปิด ตรงกลางติดตั้งฝักบัวพร้อม Rain Shower แบรนด์ Grohe และอ่างอาบน้ำแบรนด์ TOTO อยู่ติดกับกระจก กระจกข้างอ่างอาบน้ำสูงชิดเพดานด้านบน เป็นกระจกแบ่งออกเป็น 3 ตอน และมีบานกระทุ้งสามารถเปิดออกได้ 1 บาน สามารถเทควิวเมืองในมุมสูงพร้อมแช่น้ำในอ่างอาบน้ำไปด้วยได้บรรยากาศดีค่ะ ออกมาจากห้องน้ำ สุดทางเดินของห้องเป็นห้องนอนค่ะ พื้นที่กว้างขวางใช้ได้เลยทีเดียว ตรงกลางห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยเหลือทางเดินของทั้งสองฝั่งข้างเตียงแบบสบายๆ ด้านข้างเตียงมีกระจกสูงชิดเพดาน แบบบานกระทุ้งเปิดได้ 1 บาน มาพร้อมผ้าม่านด้วยค่ะ   อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนเราสามารถวางโต๊ะทำงาน พร้อมมีพื้นที่สำหรับจัด Walk in Closet สำหรับห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่กัน 2 คนได้ค่ะ พื้นที่ให้มากว้างดี ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป   โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใจกลางเมืองแบบนี้คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสะดวกสบายทั้งการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวก เพราะย่านนี้ถือว่าตั้งอยู่ในทำเลทองของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ต้องการของทั้งชาวไทยแล้วชาวต่างชาติอยู่ตลอด ดูจากยอดขาย ณ ปัจจุบันไปถึง 70% แล้ว   ส่วนเรื่องห้องพักอาศัยของที่นี่มีความน่าสนใจอยู่หลายตำแหน่งเลยค่ะ ด้วยเรื่องของการออกแบบที่สามารถวางให้ทุกยูนิตไม่มีการบล็อกวิวกัน แม้อาคารจะอยู่ห่างกันนิดเดียว บวกกับทำเลของโครงการ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเลือกอยู่ Low Zone หรือ High Zone ก็จะได้วิวที่ดีพอๆ กันหมด โดยเฉพาะห้องมุมที่ได้ส่วนโค้งของมุมตึกสามารถเทควิวได้กว้างมากขึ้นกว่าปกติ แต่สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากๆ แนะนำอาคาร B ที่มีจำนวนเพียง 5 ยูนิต/ชั้น สำหรับคนที่ชอบวิวมุมสูงก็แนะนำ High Zone ของอาคาร A ค่ะ แต่เมื่อเทียบจำนวนอาคาร จำนวนชั้น กับยูนิตทั้งหมดที่ถือว่าไม่มากแล้ว ถือว่าเป็นโครงการที่เน้นความเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควร สิ่งที่เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของโครงการนี้คือเรื่องของการใช้วัสดุที่สวยงาม ดูหรูหราสมราคา และ Facility ที่เอื้อต่อการปล่อยเช่าชาวต่างชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจทั้งการอยู่อาศัยเอง และปล่อยเช่าที่ย่านนี้ได้ราคาดี ประมาณ 900-1,000 บาท/ตร.ม.   Q 36 Event Grand Opening 20-21 Jan 2018  วันที่ 20 มกราคม นี้ เวลา 13.00-15.00 น. จัดสัมนาฟรี ในหัวข้อ “เจาะลึกพฤติกรรมผู้เช่าห้องญี่ปุ่น ทำห้องอย่างไรให้โดนใจ”โดย ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ (คุณเกตุวดี Marumura กูรูด้านการตลาดญี่ปุ่น)   พิเศษ Promotion Free! iPhone X* เมื่อจองทำสัญญาได้รับเครื่อง 60 วันหลังทำสัญญา ลงทะเบียนได้เลย >>> https://goo.gl/G4gFJF
The Bangkok Thonglor เปิดห้องตัวอย่างครั้งแรก!!!! : รีวิวคอนโด

The Bangkok Thonglor เปิดห้องตัวอย่างครั้งแรก!!!! : รีวิวคอนโด

The Bangkok Thonglor อีกหนึ่งโครงการที่ถูกจับตามอง และได้รับความสนใจมากที่สุดในทำเล “ทองหล่อ” ตั้งแต่มีข่าวว่า Land & Houses ได้ที่ดินสวยต้นซอยทองหล่อ เพื่อขึ้นคอนโดสุดหรู หลายๆ คนก็คอยตามข่าวความคืบหน้ามาเรื่อยๆ มีทั้งข่าวหลุด ภาพหลุด ข้อมูลหลุดมาให้ได้เห็นกันเป็นระยะ และสุดท้ายก็มีข้อมูลจากทางโครงการออกมาให้เห็น ทั้งรูป Perspective และข้อมูลโครงการ รวมถึงแปลนห้องก็มีให้เห็นมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปเปิดห้องตัวอย่างของโครงการเป็นครั้งแรก!! จากปากซอยทองหล่อเข้ามาเพียง 300 เมตร บริเวณหัวมุมปากซอยทองหล่อ 1 ก็จะเห็นพื้นที่โครงการ The Bangkok Thonglor อยู่ตรงหน้าพอดี ซึ่งบริเวณช่วงต้นๆ ของซอยทองหล่อ จะค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัยนะคะ เนื่องจากไม่ค่อยพลุกพล่านด้วย Community Mall ร้านอาหาร สถานที่ Hangout ยามค่ำคืน เหมือนช่วงกลางซอย อีกอย่างการเดินทางก็สะดวก เพราะอยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิท อยากขึ้นรถไฟฟ้าก็อยู่ในระยะเดินได้สบายๆ ค่ะ ในขณะที่ถ้าใช้รถส่วนตัวสะดวกมากเช่นกัน ซอยทองหล่อ 1 เชื่อมไปออกซอยสุขุมวิท 53 ได้ รวมถึงซอยย่อยอื่นๆ ในซอยทองหล่อก็เชื่อมกับซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ได้อีกเช่นกัน อันที่จริงเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการ แทบจะไม่ต้องพูดอะไรให้มากแล้ว เพราะใครๆ ก็คงรู้จัดซอยทองหล่อดี เอาเป็นว่า เราขอข้ามไปดูที่ตัวโครงการกันเลยดีกว่าค่ะ Timeless Designs The Bangkok Thonglor ได้รับการออกแบบตัวอาคารให้มีดีไซน์เรียบหรู สวยงาม เหนือกาลเวลา (Timeless Designs) ภายนอกตกแต่งตัวกระจกเรียบไร้กรอบทั้งหมด ประกอบกับ Façade กระจกตัดแต่งเหลี่ยมมุมคล้ายกับแท่งคริสตัล รูปแบบอาคารจึงดูแพงมาก หลังจากที่โครงการสร้างเสร็จ ตึกนี้จะกลายเป็น Landmark ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของทองหล่อเลยทีเดียวค่ะ The Bangkok Thonglor มีจำนวนยูนิตเพียง 148 ยูนิตเท่านั้น จัดว่าน้อยมากๆ สำหรับอาคารสูง 31 ชั้น ในขณะที่พื้นที่จอดรถมีมากถึง 120% แถมยังเป็นแบบ Auto Parking เพิ่มความสะดวกสบาย ให้กับลูกบ้านแบบสุดๆ กันไปเลย Top Triple Floor พื้นที่ส่วนกลางของ The Bangkok Thonglor ทางโครงการจัดไว้ในส่วนที่ดีที่สุด นั่นคือ บริเวณ 3 ชั้นบนสุดของตัวอาคาร เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนได้ใช้ Facility ทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ เริ่มกันที่ชั้น 28 ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ของ Sky Reading Lounge, Sky Fitness และ Upper Sky Terrace Sky Reading Lounge Upper Sky Terrace ขยับขึ้นมาที่ชั้น 29 ก็จะได้สัมผัสกับ Sky Japanese Onsen ชนิดที่เรียกว่า เต็มพื้นที่ทั้งชั้นกันไปเลย โดยจัดแบ่งโซนแยกชาย หญิง ไว้เรียบร้อยค่ะ ลองจินตนาการถึงการแช่บ่อน้ำร้อน Onsen ท่ามกลาง Sky View ที่เปิดโล่งมองเห็นดวงไฟระยิบระยับกับวิวท้องฟ้าในยามเย็น ก็เกินบรรยายได้แล้วค่ะ และจุดที่ Peak ที่สุดของโครงการนั่นคือ ตำแหน่ง Top of The Crown บนชั้น 31 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ 360 Degree Rooftop Swimming Pool ใครจะเชื่อว่ายอดอาคารแห่งนี้จะถูกเนรมิตให้เป็นสระว่ายน้ำทั้งหมด เราเชื่อว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ขั้นสุด ที่หาที่ไหนเทียบได้ยากมากๆ เพราะมันคงเหมือนเราได้แหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้าแน่ๆ ว่ายไปทางไหนก็เจอ Top View แบบ 360 องศา ไร้สิ่งกีดขวาง บดบังสายตา เป็นใครก็คงอยากจะขึ้นมาสัมผัสด้วยตัวเองซักครั้ง บรรยากาศของสระว่ายน้ำบนชั้นที่สูงที่สุดของโครงการ นอกเหนือจาก Facility เด่นๆ ที่เรายกตัวอย่างมา พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ The Bangkok Thonglor ยังไม่ได้หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมี Lobby Lounge สุดหรู ซึ่งการตกแต่ง และรายละเอียดน่าจะเทียบได้กับโรงแรมหรูระดับ 6 ดาวเลยทีเดียว ในขณะที่ยังคงมีพื้นที่สวนที่บริเวณชั้น 1 และ Pocket Garden บนชั้น 22 อีกด้วย   เปิดประตูห้องตัวอย่าง The Bangkok Thonglor ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนในการพักผ่อนมากๆ ดังนั้นจึงออกแบบให้มียูนิตเฉลี่ยต่อชั้นเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น โดยคำนึงถึงรายละเอียด ฟังก์ชันภายในห้องพักอาศัยแบบสูงสุด นอกจากการคัดสรรวัสดุระดับพรีเมี่ยมแล้ว พื้นที่ใช้สอยภายในห้องก็กว้างขวาง ด้วยขนาดห้องเริ่มต้นที่ 55.80 ตร.ม. (1 Bedroom) แต่ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดู เป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 84.30 ตร.ม. ค่ะ ห้อง Type นี้ จะเป็นห้องในตำแหน่งมุมอาคารเกือบทั้งหมดนะคะ ไปดูภาพห้องจริงกันเลยค่ะ ด้วยทำเล Prime Location ของกรุงเทพฯ ริมถนนทองหล่อแบบนี้  The Bangkok Thonglor จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ถูกจับตามองมากที่สุดโครงการหนึ่ง ทาง Land & Houses ประกาศราคาเริ่มต้นมาที่ 25 ล้านบาท หรือ 370,000 บาท / ตารางเมตร ถ้าเทียบกับคอนโดมิเนียม Luxury ในระดับเดียวกันแล้ว ถือว่าราคาไม่ได้หนีห่างกันมากเลยนะคะ.... ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า โครงการ The Bangkok Thonglor เตรียมจะเปิด Pre-Sale วันที่ 17 มิถุนายน 2560 ที่ โรงแรม Grande Centre Point สุขุมวิท 55 แล้วค่ะ แต่ช่วงนี้ถ้าใครสนใจ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือจะนัดหมายเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ ก็ติดต่อได้ที่ http://www.lh.co.th/condo/projects/คอนโด-The-Bangkok-Thonglor หรือ โทร. 1198
THE RESERVE THONGLOR 2 เดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ 2 : รีวิวคอนโด

THE RESERVE THONGLOR 2 เดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ 2 : รีวิวคอนโด

The Reserve thonglor 2 เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ 2 คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมโครงการแรกของพฤกษา ที่จับกลุ่มตลาด High End บนทําเลที่แพงที่สุดในกรุงเทพมหานครอย่างต้นซอยทองหล่อ ด้วยคอนเซปต์ที่แตกต่าง โดยการใช้ Wolfpack (ฝูงหมาป่า) มาเป็นตัวแทนการใช้ชีวิตที่ชอบเข้าสังคม เปรียบกับ Target Group ที่ชื่นชอบ การใช้ชีวิต ในเมืองอย่างทองหล่อ ชอบ Hangout กับ กลุ่มเพื่อน แต่ในขณะเดียวกัน ก็หลงใหลความเงียบสงบในพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งเป็นที่มาของ Concept “Reserve Your Nature” ที่ออกแบบให้การใช้ชีวิตภายในโครงการมีธรรมชาติ แทรกเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของโครงการ รวมถึงทําให้ทุกห้องเป็นห้องมุม ออกแบบตัวอาคารใหม่ให้มีเส้นสายที่เป็น modern ใช้สีเทาเป็นสีอาคารและใช้วัสดุโลหะ Copper เป็นเส้นตั้งอาคาร เพื่อสร้างความหรูหรา ทันสมัย และมี character เหมาะกับคนรุ่นใหม่ วัสดุภายในห้องระดับพรีเมี่ยมที่คัดสรรมาอย่างดี เพื่อให้โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    10 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 250,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ     บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 26 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ซอยทองหล่อ 2 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    1 - 1 - 40.7 ไร่ จำนวนห้อง    110 ยูนิต ที่จอดรถ    100% ของจำนวนห้องพัก เริ่มก่อสร้าง    เริ่มกลางปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2562 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีทองหล่อ Maze Thonglor Market Place J-Avenue The Emporium The EmQuartier โครงการตั้งอยู่บนทองหล่อ ซึ่งเป็นทำเลยอดนิยมอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ ตอบโจทรย์ไลทฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ จึงทำให้ทำเลนี้เป็นที่ต้องการของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ 500 เมตร และ ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 2 เป็น ซอยที่เงียบสงบเป็นส่วนตัวสูง( Luxury Neighborhood Area ) ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาดพื้นที่ประมาณ 43.94 - 58.15 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท 2 Bedroom  ขนาดพื้นที่ประมาณ 70.86 - 76.77 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท Penthouse  ขนาดพื้นที่ประมาณ 121.71 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก High Ceiling Lobby Concierge Lounge Creek Garden Marble Pool Jacuzzi Bed Kids Pool The Resevce Lounge Fitness Sky Amphitheatre Concierge by The Reserve Project Highlight มีความเป็นส่วนตัวสูง แค่เพียง 110 ยูนิต / 5 ยูนิตต่อชั้น ทุกยูนิตเป็นห้องมุม SKY Rooftop Facility บนชั้น 25 - 26 Water Channel ไหลผ่านผนัง จากตัวอาคารเชื่อมต่อมายังส่วนพื้นที่สีเขียวด้านหน้า Creek Garden ทําให้เกิดเสียงน้ำและความสดชื่น สร้างความรู้สึกถึงธรรมชาติ ที่แทรกตัวอยู่ในอาคาร ที่จอดรถ 100% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด Exclusive Finest Service: Concierge by The Reserve Premium Specification เลือกใช้ Premium Specification บรรจงปราณีตทั้งการออกแบบและดีไซน์ ความสูงฝ้า 3 เมตร, พื้นไม้จริง Engineering Wood หนา 12 mm., ใช้หินอ่อน Cheta Grey Stone ในการตกแต่งฝนังห้องน้ำ, ระบบเครื่องปรับอากาศแบบ VRV ซึ่งจะวาง Condensing Air ไว้ภายนอกห้องพักอาศัย ทำให้ระเบียงเปิดรับวิวโดยไม่มีอะไรบดบัง อุปกรณ์ชุดครัวนำเข้า สั่งพิเศษ โดยใช้ Brand จากยุโรป Gorenje By Philippe Starck - ใช้ระบบ Home Automation , Video Door Phone พร้อม Emergency Call ใช้กระจกสเปคพิเศษ Insulated Glass ที่สามารถกันความร้อนและเสียงได้มากกว่ากระจกธรรมดา ElectricCarCharger ตอบโจทย์นวัตกรรมรถยนต์ในอนาคต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : thereservecondo.com
The Bangkok Thonglor : รีวิวคอนโด

The Bangkok Thonglor : รีวิวคอนโด

The Bangkok Thonglor คอนโดหรูระดับ Super Luxury ในซอยทองหล่อ ห่างจาก BTS ทองหล่อเพียง 350 เมตร จาก Land & Houses รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    18 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    Land and Houses Public Company Limited ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 31 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ซอยทองหล่อ 1 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    1 - 2 - 94 ไร่ จำนวนห้อง     148 ยูนิต ค่าส่วนกลาง    95 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    900 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ทองหล่อ โรงพยาบาลสมิติเวช ห้าง EM District สวนเบญจสิริ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 53 - 63 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 82 - 94 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Lounge Board Room Pocket Garden Sky Terrace Upper Sky Terrace Reading Lounge Sky Fitness Seperated male/ female Sky Japanese Onsen and 360 Degree Rooftop Swimming Pool Access Card Control Security 24 hour สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.lh.co.th/