Tag : คอนโด เสนา

10 ผลลัพธ์
รีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้า Niche MONO Sukhumvit-Puchao เฟอร์ฯ ครบ จบในที่เดียว

รีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้า Niche MONO Sukhumvit-Puchao เฟอร์ฯ ครบ จบในที่เดียว

ขึ้นชื่อว่าเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า ใครๆ ก็อยากจะอยู่ทำเลแบบนี้จริงไหมคะ เพราะเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด ประหยัดเวลาได้อีกเยอะ แต่พอมาดูเรื่องราคาของโครงการเหล่านี้แล้ว ก็ทราบกันดีว่าสูงใช้ได้เลยทีเดียวถึงจะได้ห้องขนาดเหมาะๆ พอที่จะอยู่ได้อย่างไม่อึดอัด แต่ในรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับคอนโดติดรถไฟฟ้าแค่ไม่กี่ก้าว ในราคาเริ่มต้นแค่ 2.59 ล้านบาท แต่ได้ขนาดห้องเริ่มต้นถึง 35 ตร.ม. แถมยังได้เฟอร์นิเจอร์ Design ดี จาก Concept “MADE FROM HER” ตามสไตล์ของ SENA ค่ะ        ทำเลของคนทำงาน แถมติดรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าสายสีเขียว ถือเป็นระบบขนส่งสาธารณะหลักของบ้านเราเลยค่ะ เพราะช่วงใจกลางเมืองล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งออฟฟิศ และสิ่งอำนวยความสะดวกชื่อดังมากมาย ซึ่งก็มีโครงการส่วนต่อขยายเพิ่มกระจายออกไปเพื่อให้เดินทางเข้าสู่กลางเมืองได้ง่ายยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นก็มีส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก็มีผู้ใช้บริการกันอย่างคึกคักทีเดียวค่ะ   Niche MONO Sukhumvit-Puchao ตั้งอยู่ริมถ.สุขุมวิทฝั่งขาเข้า ซึ่งถ้าโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ก็จะมีทางเข้า-ออก ได้ 2 ทาง คือ ถ.สุขุมวิท เป็นประตูหลัก และถ.ทางรถไฟสายเก่า ด้านหลังโครงการ โดยโครงการจะอยู่ห่างจากตัวสถานีปู่เจ้า เพียง 30 เมตร เท่านั้นเองค่ะ รถไฟฟ้าจึงเป็นตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกที่สุด ประมาณ 15 นาทีก็ถึงทองหล่อแล้ว หรือห่างออกไปเพียง 1 สถานีก็จะเป็นจุด Interchang สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ในอนาคตที่กำลังดำเนินการก่อสร้างกันอยู่ ส่วนใครที่ใช้รถยนต์ก็สามารถใช้ถ.กาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้) ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กิโลเมตร หรือจะใช้ถ.วงแหวนอุตสาหกรรม เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างถ.พระราม3-สาทร ได้สะดวกสบาย   ย่านปู่เจ้าฯ เอง โดดเด่นในเรื่องของการเป็นแหล่งทำงาน โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมชื่อดังหลายบริษัท เช่น พานาโซนิค, โตโยต้า ฯลฯ หรือแม้แต่บริษัทที่อยู่แนวถ.บางนา-ตราดทั้งหมด ก็ยังสามารถเดินทางไป-มาตรงนี้ได้สะดวกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยใกล้กับโครงการที่สุดคือบิ๊กซี สาขาสำโรง 2 อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการพอดิบพอดี เลยไปอีกนิดก็จะพบกับอิมพีเรียลสำโรง เซ็นทรัลบางนา และไบเทคบางนา จุดนี้จึงถือว่ามีดีมานท์อยู่ไม่แพ้โซนทำงานอื่นๆ   ภาพรวมโครงการ Niche MONO Sukhumvit-Puchao คอนโดมิเนียม High Rise 12 ชั้น 3 อาคาร มี 3 รูปแบบ 1 Bed Plus, Living Plus และ 2 Bedroom ขนาดห้อง 35-48 ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็นขนาดห้องที่ใหญ่ตั้งแต่ขนาดเริ่มต้น สามารถอยู่ได้จริงแบบไม่อึดอัด ทั้งหมด 572 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต   Facilities จะถูกวางเอาไว้ทั้ง 3 อาคารเลยค่ะ ในแต่ละอาคารก็จะมีหน้าตาต่างกันออกไปทั้ง 3 อาคาร 3 สไตล์ เชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นอาคาร A คอนเซป Active เพิ่มความสดชื่นเติมพลังให้ร่างกายด้วยฟิตเนสพร้อมอุปกกณ์ และมีการแบ่งโซน Lady ไว้ให้ หรือจะวิ่งออกกำลังท่ามกลางบรรยากาศสวนสีเขียว อาคาร B คอนเซป Family ให้ช่วงเวลากิจกรรมของครอบครัวด้วยสระว่ายน้ำ โซนจากุซซี่ หรือจะสตรีม, ซาวน่า ก็มีให้เลือกพักผ่อนได้เต็มทีสำหรับทุกคนในครอบครัว อาคาร C คอนเซป Connecting พื้นที่สำหรับคนรุ่นใหม่ให้ได้นั่งทำงาน นัดประชุม แบบ Co-working Space หรือรับแขกได้ที่คอนโดของตัวเอง   บรรยากาศรอบอาคารที่ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว พร้อมจุดนั่งพักผ่อน ให้ได้บรรยากาศของธรรมชาติล้อมรอบตัว มีลานจอดจักรยาน และ EV charger เพื่อรองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า   ส่วนกลางของแต่ละอาคารลูกบ้านสามารถใช้ร่วมกันได้ เพื่อความต้องการของลูกบ้านได้อย่างครบครัน จะมีส่วนกลางทั้ง In Door และ Out Door ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 28*5 เมตร (รวมสระเด็ก) Jacuzzi, Outdoor Co kitchen, Co-working Space และ Sky Lounge   Floor Plan 3 อาคารจะถูกวางเรียงกันตามความลึกของที่ดินค่ะ แต่ละอาคารจะมีลิฟท์ 3 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด โดยจะเรียกอาคาร A อยู่ด้านในสุดของโครงการ ฝั่งติดกับถ.ทางรถไฟสายเก่า มี 198 ยูนิตยูนิต แต่จะเปิดขายชาวต่างชาติ อาคาร B เป็นอาคารเดียวที่เปิดขายอยู่ในช่วงเปิดตัวนี้ ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของพื้นที่โครงการพอดี เป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเพียง 176 ยูนิต และอาคาร C จะอยู่อาคารแรกจากหน้าโครงการ มี 198 ยูนิต ทั้ง 3 อาคารจะมียูนิตส่วนใหญ่จะหันหน้าออกไปทางทิศเหนือ วิวฝั่งสำโรงและใจกลางเมือง และทิศใต้ วิวทางช้างเอราวัณค่ะ   เป็นที่ทราบกันดีว่า โครงการจาก SENA ที่ใส่ใจเรื่องแหล่งพลังงานสะอาดมาตลอดระยะเวลาหลายปีก็จะมีการติดตั้ง Solar Rooftop เอาไว้ในทุกโครงการ เพื่อดึงแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับส่วนกลาง ส่งผลให้ค่าส่วนกลางมีราคาถูกลงกว่าปกติค่ะ   Unit Plan ทุกยูนิตจะถูกแบ่งห้องภายในเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน ซึ่งจะเน้นไปที่ฟังก์ชั่นการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งดีไซน์ตามแบบฉบับ SENA โดยเฉพาะ ชนิดที่เรียกได้ว่าพอเห็นก็รู้ได้เลยค่ะ ว่านี่คือเฟอร์นิเจอร์จากโครงการของเสนาตาม Concept “MADE FROM HER”     เปิดห้องตัวอย่าง ที่ Sale Gallery จะมีห้องตัวอย่างให้ชม 2 ห้องด้วยกันค่ะ คือห้อง 1 Bed Living Plus ขนาด 34.86 ตร.ม. กับ 1 Bed Plus ขนาด 36.70 ตร.ม. โดยจากหน้า Sale Gallery ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการจริง เราจะสังเกตเห็นได้ว่าอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีปู่เจ้าฯ ในฝั่งที่เป็นบันไดเลื่อนขึ้นสถานีด้วยนะคะ สะดวกสบายมากจริงๆ   1 Bed Living Plus ขนาด 34.86 ห้องตัวอย่างแรก ชื่อก็บอกลักษณะอยู่แล้วนะคะว่าเน้นพื้นที่ห้อง Living Room สำหรับคนที่ชอบใช้พื้นที่ในส่วน Common Area ไม่ว่าจะชอบดูหนัง ทำกับข้าว หรือมีเพื่อนมาหาที่ห้องบ่อยๆ ซึ่งจะเป็นห้องแนวลึก เริ่มจากห้องนั่งเล่น ลึกเข้าไปเป็นห้องครัวแล้วเชื่อมต่อด้วยระเบียงห้อง ความสูง Floor To Ceiling 2.7 เมตร และจะได้ Digital Door Lock ทุกยูนิตค่ะ สำหรับ Type นี้ในช่วงเปิดตัวโครงการจะได้เฟอร์นิเจอร์ ดังนี้ ตู้เก็บรองเท้า และของอเนกประสงค์ เคาน์เตอร์วางทีวี โต๊ะทานข้าว เคาน์เตอร์ครัวครบชุด เตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน เครื่องปรับอากาศ เตียง 6 ฟุต (ไม่รวมฟูก) โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า Build in ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมด จากแบรนด์ Kohler (รวมฉากกั้นอาบน้ำ)   ห้องครัวเปิดมีพื้นที่เชื่อมต่อลึกเข้าไปจากห้องนั่งเล่นค่ะ โดยจะมีโต๊ะทานข้าวลักษณะแบบบาร์วางกั้นแยกห้องให้ดูเป็นสัดส่วนขึ้น โดยพื้นครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ได้เคาน์เตอร์ครัวแบบ One Wall Kitchen ใช้วัสดุ Top หินสังเคราะห์ ภายในตู้มีฟังก์ชั่นที่คว่ำจานที่สามารถเลื่อนลงมาได้ เพื่อหยิบจับได้สะดวกติดตั้งเอาไว้ให้เรียบร้อยตามแบบค่ะ และเชื่อมต่อด้วยระเบียง เวลาทำครัวจะเหมาะกับการเปิด   ภายในห้องนอนจะวางเตียงไว้กลางห้องแล้วเหลือพื้นที่เดินได้รอบเตียง บริเวณหน้าต่างห้องสามารถวางโต๊ะทำงานไว้ได้พอดีกับความยาวของโต๊ะ มี Build in ตู้เสื้อผ้า ซึ่งมีหน้าบานฝั่งทึบกับฝั่งที่เป็นกระจกโปร่งแสง วางอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ   ภายในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์มาตามที่เห็นทั้งหมดค่ะ ยกเว้นแค่ฉากกั้นอาบน้ำ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนส่ทิชชู่ ราวแขวนผ้า ฝักบัว ชั้นวางของ     1 Bed Plus ขนาด 36.70 ตร.ม. ห้องตัวอย่างถัดมาค่ะ จะเป็นห้องมุมของอาคาร B แบ่งสัดส่วนห้องออกอย่างชัดเจน เน้นพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ห้องครัวปิด ห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ เชื่อมต่อกันในแนวลึกแล้วกั้นแต่ละห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ส่วนอีกฝั่งของห้องจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำในตัว และระเบียงค่ะ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้มาสำหรับ Type นี้ คือ ตู้เก็บรองเท้า และของอเนกประสงค์ เคาน์เตอร์วางทีวี เคาน์เตอร์ครัวครบชุด เตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน เครื่องปรับอากาศ Sofa Bed เตียง 6 ฟุต (ไม่รวมฟูก) ตู้เสื้อผ้า Build in ชุดสุขภัชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจากแบรนด์ Kohler (รวมฉากกั้นอาบน้ำ)   ส่วนแรกของห้องจะเป็นห้องครัวปิดค่ะ มีเคาน์เตอร์ครัวแบบ One Wall Kitchen ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นที่คว่ำจานสามารถจับเลื่อนลงมาได้ติดตั้งเอาไว้ให้ เพื่อหยิบจับได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และช่องสำหรับวางตู้เย็นทางขวามือ ส่วนทางซ้ายจะเป็นชั้นวางของ Build in มาให้ และเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าค่ะ   พื้นที่กลางห้องเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งจะได้เคาน์เตอร์วางทีวีมาให้ตามแบบ เชื่อมต่อด้านในสุดของห้องด้วยห้องเอนกประสงค์มาพร้อมกับ Sofa Bed ที่สามารถจัดให้เป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรือจะเป็นอีกหนึ่งห้องนอนก็ได้นะคะ   เข้าไปดูในห้องนอนกันบ้างค่ะ โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน High Ceiling 3 บาน วางเตียงเอาไว้กลางห้องแล้วเหลือพื้นที่ทางเดินรอบเตียง ข้างเตียงจะมีระเบียงส่วนตัวกั้นด้วยเหล็กโปร่ง     อีกด้านหนึ่งของห้องนอนจะมีมุมที่เป็น Walk In Closet อยู่หน้าห้องน้ำในตัวค่ะ เวลาจะอาบน้ำแต่งตัวก็สะดวกขึ้นเยอะ ส่วนภายในห้องน้ำก็จะแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ให้ พร้อมสุขภัณฑ์ตามแบบห้องตัวอย่างทั้งหมด แต่จะไม่ได้เพียงฉากกั้นอาบน้ำค่ะ    Niche MONO Sukhumvit-Puchao ถือเป็นคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ซึ่งเปิดให้บริการแล้วในปัจจุบันที่เปิดมาในราคาดีที่สุด แถมยังให้เฟอร์นิเจอร์ฟังก์ชั่นดีๆ ที่หาได้เฉพาะในโครงการจาก SENA เท่านั้นค่ะ เพราะคำว่า “MADE FROM HER” ก็ยังคงเป็นคอนเซปที่ทำออกมาแล้วโดนใจใครหลายคน ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นค่ะ แต่เพราะความใส่ใจทุกดีเทลชีวิตจากแนวคิดแบบผู้หญิงเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่สามารถครองใจกลุ่มลูกค้าได้อยู่เสมอ   รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม Niche MONO Sukhumvit-Puchao คอนโดติดรถไฟฟ้า จาก SENA PITI SUKHUMVIT 101 PITI EKKAMAI Niche MONO Itsaraphap
SENA เปิดเกมชิงพื้นที่ ปั้นคอนโด “นิช โมโน สุขุมวิท–ปู่เจ้า” โชว์จุดชิค กับ  facilities 3 อาคาร 3 สไตล์

SENA เปิดเกมชิงพื้นที่ ปั้นคอนโด “นิช โมโน สุขุมวิท–ปู่เจ้า” โชว์จุดชิค กับ facilities 3 อาคาร 3 สไตล์

SENA นำร่องเปิดตัวคอนโดใหม่ล่าสุด “นิช โมโน สุขุมวิท–ปู่เจ้า” ขานรับการขยายตัวของเมืองตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง–เคหะสมุทรปราการ ย้ำแนวคิดการพัฒนาคอนโดแบบ “MADE FROM HER” บนทำเลที่ดีที่สุดเพียง 30 เมตรจาก BTS ปู่เจ้า ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท* พร้อมเปิดขายรอบ Soft opening 30- 31 มีนาคมนี้ สำหรับลูกค้าลงทะเบียน www.sena.co.th รับส่วนลด Gift Voucher 100,000 บาท*  และลุ้นทอง มูลค่ากว่า 100,000 บาท    นางสาวสมพิศ ศรีระทัด ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่าจากอานิสงค์เส้นทางการเดินรถไฟฟ้าทั้งโครงข่ายคมนาคมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือ รถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมเปิดให้บริการล้วนแต่ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมย่านดังกล่าวยังมีดีมานด์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ทางเสนาได้พัฒนาโปรเจกต์ใหม่บนโลเคชั่นที่ดีที่สุดในย่านสุขุมวิทตอนปลาย และพร้อมเปิดขายคอนโดมิเนียมหรู “นิช โมโน สุขุมวิท – ปู่เจ้า” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่เศษ ติดถนนสุขุมวิท ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีปู่เจ้า เพียง 30 เมตร พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม สูง 12 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 572 ยูนิต และ 1 ร้านค้า โดยมีห้องชุดพักอาศัยให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอนพลัสและลิฟวิ่งพลัส ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35 – 37 ตรม.และแบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย  48 ตรม. ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท*หรือเฉลี่ยต่อตารางเมตรละ 79,000 บาท รวมมูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างแล้วตั้งแต่ต้นปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2562 โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาทางโครงการได้เปิดให้ชมห้องตัวอย่างเป็นครั้งแรก ซึ่งมีลูกค้าสนใจและให้การตอบรับที่ดี   การออกแบบยังคงดึงแนวคิดความละเอียดของผู้หญิง “MADE FROM HER” ใส่ใจทุกดีเทลของชีวิต มาสร้างเอกลักษณ์ทุกมิติด้านฟังก์ชั่นและเติมเต็มพื้นที่ส่วนกลางให้หลากหลายและสร้างความต่างให้มากกว่าด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ครบคุ้มและ facilities 3 อาคาร 3 สไตล์ เป็น Connecting facilities ประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์โครงการ “RECHARGE” ทั้งแบบ  Active facilities, Family facilities , Connecting facilities เพื่อตอบโจทย์การใช้งานตามพฤติกรรมของลูกค้า อาทิ  Entrance Lobby & Social Lounge, Fitness (Male & Female) , Jacuzzi, Outdoor Co kitchen (BBQ Area) , Steam & Sauna, Co-working Space, Swimming Pool & Kid Pool ,Play Room , EV Charger   ด้านนายปรีชา ศุภปีติพร  กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอคคิวท์ เรียลตี้ จำกัด กล่าวว่าหากพูดถึงทำเลเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) นับว่ามีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด 40% เนื่องจากรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว (เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561) ที่ผ่านมา ทั้งหมด 9 สถานี ได้แก่ สถานีสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ช้างเอราวัณ โรงเรียนนายเรือ ปากน้ำ ศรีนครินทร์ แพรกษา สายลวด และเคหะสมุทรปราการ จึงส่งผลให้ราคาที่ดินในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวปรับสูงขึ้น โดยราคาที่ดินขณะนี้อยู่ที่ราวเกือบ 2-3 แสนบาท/ตารางวา ซึ่งพื้นที่นี้ยังมีการเติบโตและขยายตัวได้อีกมาก     ด้วยศักยภาพทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง เคหะสมุทรปราการนั้น สามารถตอบสนองความต้องการของคนทำงานในเมืองและคนทำงานในย่านสมุทรปราการ ที่สำคัญการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดฯ รอบสถานีรถไฟฟ้า โดยเฉพาะ “สถานีปู่เจ้า” ซึ่งเป็นแหล่งชุมชน  ใกล้นิคมอุตสาหกรรม ในจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ห่างไป 1 สถานีตรงสถานีสำโรงจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรงทำให้สถานีสำโรงเป็นอินเตอร์เชนจ์ที่สำคัญจุดหนึ่ง และหากผังเมืองสมุทรปราการมีการปรับสีผังใหม่ให้สอดรับการพัฒนา ก็จะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในการเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมือง โดยจะเป็นทั้งแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งงานและช๊อปปิ้ง อีกทั้งยังมองว่า แนวโน้มทั้งดีมานด์และซัพพลายของตลาดที่อยู่อาศัยในเส้นทางนี้จะไปได้ดี   ทั้งนี้ ทางเสนาเตรียมเปิดขายรอบ Soft Opening ระหว่างวันที่ 30 – 31 มีนาคม 2562 ณ Sale Gallery โครงการ “นิช โมโน สุขุมวิท – ปู่เจ้า” สำหรับลูกค้าลงทะเบียนรับ Gift Voucher Central 100,000 บาท*และร่วมลุ้นทอง มูลค่ากว่า 100,000 บาท  พร้อมพบโปรโมชั่นอีกมากมายภายในวันงาน      
Niche MONO Mega Space Bangna ทุกพื้นที่สำหรับคุณ : รีวิวคอนโด

Niche MONO Mega Space Bangna ทุกพื้นที่สำหรับคุณ : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปโซนบางนากันค่ะ ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เป็นแหล่งเกิดโครงการระดับ Mega Project มากมาย ทั้งในปัจจุบันที่เกิดขึ้นแล้วและในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าหรือการคมนาคม เพราะฉะนั้นจึงสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงต่อไปในอนาคต ซึ่งโครงการที่เราจะไปชมกันในวันนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้ตัวทำเลที่ตั้งค่ะ เพราะการให้ความสำคัญในทุกพื้นที่ภายในโครงการ ทำให้เกิดความสุขในการใช้ชีวิต เป็นความคิดสไตล์ Made from Her จาก SENA ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีค่ะ ทำเลศูนย์กลางของโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก พูดถึงกรุงเทพฯ โซนตะวันออกต่อไปถึงสมุทรปราการในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ เราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ สิ่ง อย่างต่อเนื่องเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นถนนเส้นตัดใหม่ สร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ ที่อยู่อาศัยใหม่หลายโครงการ ศูนย์การค้าระดับยักษ์ใหญ่ และคอมมูลนิตี้มอลล์แห่งใหม่ก็ไม่น้อยอีกเช่นกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความเติบโตของเมืองหลวงที่ขยายออกไปมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งโซนนี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อไปยังภาคตะวันออกได้ง่ายที่สุด รองรับการขยายตัวของเขต EEC ที่จะต้องอาศัยการเดินทางของโซนนี้เชื่อมต่อไปได้อย่างสะดวกรวดเร็วที่สุด       เมื่อเอ่ยถึงโครงการระดับ Mega Project ในโซนนี้ก็มีทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังเกิดขึ้นในอนาคตค่ะ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2554 ในบ้านเราฮือฮากันมากกับ IKEA ศูนย์การค้าเฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนที่ลัดฟ้ามาเปิดให้บริการในพื้นที่เดียวกันกับ Mega Bangna ที่เปิดตัวตามมาในเดือน พ.ค. 2555 เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่เข้ามาพลิกโฉมย่านบางนาให้คึกคักมากจนถึงขั้นชาวจังหวัดชลบุรีรวมถึงชาวต่างชาติก็ชอบขับรถมาช้อปปิ้งที่นี่กันอยู่ตลอดจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ส่วนเซ็นทรัล บางนา ก็ยังมีการรีโนเวทใหม่ เรียกคนให้กลับมาเดินมากขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันฝั่งตรงข้ามอย่างไบเทคบางนาก็ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนให้เข้ามาเดินงาน Exhibition ที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาจัดงานกันทั้งปี นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกนะคะ อย่าง รพ.ไทยนครินทร์, รพ.บางนาเยนเนอรัล, รพ.สมิติเวชลาซาล, รพ.ศิครินทร์, ร.ร.บางกอกพัฒนา, ร.ร.เซนต์โยเซฟบางนา, ร.ร.เซนต์แอนดรูว์ ฯลฯ ในอนาคตสิ่งสำคัญที่น่าจับตามองมากนั่นคือ Bangkok Mall ที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วค่ะ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใกล้สี่แยกบางนา ริมถ.ถ.บางนา-ตราดขาออก โดยเมื่อเสร็จสมบูรณ์ก็จะกลายศูนย์การค้าระดับเอเชีย   Niche MONO Mega Space Bangna ตั้งอยู่ริมถ.บางนา-ตราดขาเข้า ซึ่งหากเลยเมกาบางนามาก็จะพบว่าโครงการอยู่ติดกับโชว์รูมโตโยต้าที่มีสตาร์บัคอยู่ด้านหน้าด้วยนะคะ โดยบริเวณนี้ยังมีอาคารสูงไม่มาก ทำให้ได้วิวรอบๆ ที่ดูแล้วไม่อึดอัดเท่าอยู่กลางเมือง แต่ยังคงเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายๆ เลยค่ะ เพียงแค่ตรงไปตามถ.บางนา-ตราด ฝั่งหน้าโครงการผ่านไบเทคบางนาก็จะสามารถไปเชื่อมต่อขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครได้ ขณะเดียวกันก็อยู่ห่างจากถ.กาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ประมาณ 3 กิโลเมตร หากจะไปภาคตะวันออกก็สามารถขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถี ใช้เวลาไม่นานก็ถึงชลบุรีแล้วค่ะ ส่วนระบบขนส่งสาธารณะในปัจจุบันก็สามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีบางนา อนาคตกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง สถานีบางนาตราด กม.6 อยู่ช่วงถ.บางนา-ตราด ตัดกับถ.ศรีนครินทร์ เป็นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2564 และ Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ ที่มีการศึกษาเส้นทางกันแล้วเรียบร้อย หากก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะผ่านหน้าโครงการพอดีเลยค่ะ โดยจะเริ่มต้นสายมาจากสี่แยกบางนา ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปัจจุบัน ตรงยาวบนถ.บางนา-ตราด เมื่อเลยถ.กิ่งแก้ว แล้วก็จะเลี้ยวซ้ายเข้าถึงสนามบินสุวรรณภูมิทางฝั่งใต้                  ภาพรวมโครงการ Niche MONO Mega Space Bangna คอนโดมิเนียม High Rise 40 ชั้น พร้อมส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้า 795 ยูนิต ขนาด 30.00-50.00 ตร.ม. ที่จอดรถมากถึง 70% บนพื้นที่ 3-3-46.6 ไร่ เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นภายในห้องที่มีขนาดเริ่มต้นถึง 30.00 ตร.ม. ซึ่งเมื่อมองขนาดยูนิตในคอนโดมิเนียมยุคหลังมานี้ก็จะเห็นว่าส่วนมากมีขนาดเริ่มต้นกันประมาณ 22-25 ตร.ม. ขณะที่ยูนิตขนาด 30.00 ตร.ม. กลายเป็นขนาดกลางๆ ของโครงการไปแล้วค่ะ        Made from Her คอนเซปอันเป็นเอกลักษณ์จากเสนา โดยในโครงการนี้จะนำมาประยุกต์ใช้ทั้ง 4 แกนด้วยกันค่ะ ได้แก่ Her Circle : ปันสุข พื้นที่ส่วนกลางสไตล์ Urban Courtyard สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ทั้ง TRIPLE Facilities    Her Self : มั่นใจ บริการหลังการขายครบวงจรด้วยบริการจาก Application SENA 360 Service เช่น แจ้งซ่อม 24 ชม.  บริการรับฝากขาย-เช่า ดูการทำงานจากโซล่าเซลล์ เป็นต้น มั่นใจทุกการออกแบบที่สอดคล้องกับแนวคิด Good Sleep Concept Her Security : อุ่นใจ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. แถมยังมีรปภ. หญิง บนอาคารอีกด้วย ที่สำคัญที่จอดรถยังมีถึง 70% มากที่สุดในย่านนี้ แยกโซน Lady Parking ระบบ Elevator Access Control และได้ Digital Door Lock ทุกยูนิต มี CCTV controlled by Securities 24 hrs ปลอดภัยด้วยระบบป้อมยาม+ไม้กระดกที่เปิดด้วยระบบ Bluetooth และระบบ QR Code สำหรับ Visitor    Her Comfort : สบายใจ เดินทางไปสู่ทุกจุดหมายได้ใกล้กว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วน รถไฟฟ้า และ Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ      TRIPLE Facilities สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่แบ่งออกเป็น 3 ชั้น เน้นการออกแบบมาให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ผสมผสานความเป็น  Social Community + Activity เข้าด้วยกัน ขยายฟังก์ชั่น Double Space ของพื้นที่ภายในห้องให้ออกมาโลดเล่นใน facilities เพื่อเกิดความสอดคล้องในการใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่บนพื้นที่สำหรับทุกคนใน Niche MONO Mega Space Bangna โดยแบ่งได้ดังนี้ ชั้น 1 Socialize Zone - Lobby, Garden Lobby, Green Park Co-Working Space, Co-Meeting, Chill Out Terrace, Washing Machine Area, Convenience Store, Bike Lane ที่เน้นให้มีพื้นที่กว้างๆ จะเปลี่ยนบรรยากาศทำงานหรือนั่งเล่นก็ได้สบายๆ ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกอาคาร    ชั้น 9  Active Zone - Sky Infinity Edge Pool,  Sky Fitness, Greenery Area, Sliding Hill, Kid Adventure จะว่ายน้ำหรือเข้าฟิตเนสก็จะได้วิวโล่งๆ ไร้อาคารบดบัง    Rooftop Private Zone - Sunrise & Sunset Court, Moon Terrace, Reading Lounge, Sky Lounge, Cinema Space, Co-Party & Co-Kitchen หลายห้อง หลายมุม สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ได้ครบครัน      ความพิเศษที่เกิดจากความใส่ใจแม้กระทั่งดีเทลเล็กๆ ของการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Made from Her ของเสนาในโครงการนี้ คือการสร้างภายในยูนิตแบบ Good Sleep Concept โดยการตั้งใจออกแบบพื้นที่ห้องนอนให้กว้างกว่าห้องนั่งเล่น วางเตียงนอนในระยะที่เหมาะสมกับหน้างต่าง เพื่อลดมลภาวะทางเสียงจากภายนอก หัวเตียงวางแนวลาดเอียงเล็กน้อยเผื่อการนั่งเอนหลังอ่านหนังสือเล่นบนเตียง พร้อมกับช่องเก็บหนังสือใต้หัวเตียง แล้วติดตั้งระบบแสงสว่างด้วยเทคโนโลยี Master Switch ที่ทางออกห้อง เพื่อให้มั่นใจในการปิดไฟทั้งหมดแล้ว และ Dimmer Light สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย มีกรอบผ้าม่านที่ช่วยให้สามารถปิดได้ครอบคลุมทั้งหน้าต่างไม่ให้แสงเล็ดลอดเข้ามาได้ เพื่อให้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ที่สุด ทุกสิ่งผ่านกระบวนการคิดจนเกิดเป็นความสุขเล็กๆ ในพื้นที่ส่วนตัว เพราะความเชื่อที่ว่าการนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปชมในห้องตัวอย่างกันต่อค่ะ   Floor Plan สำหรับตัวอาคารของ Niche MONO Mega Space Bangna จะวางคล้ายรูปตัว Z ค่ะ ลักษณะที่ดินหน้ากว้างพอสมควรที่เดียวค่ะสำหรับริมถนนใหญ่อย่างถนนบางนา-ตราด วางยูนิตแบบ Double Corridor แยกอาคารจอดรถจากตัวอาคารที่พักอาศัย ซึ่งอยู่ใกล้กันทางทิศเหนือ แต่มีทางเชื่อมต่อกันได้สะดวกค่ะ ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น7 (Single Corridor ชั้น7-8) สามารถเห็นวิวฝั่ง Mega Bangna ส่วนชั้น9 (Double Corridor) จะเชื่อมต่อกับFacilities   ทางเข้า-ออกมีทางเดียวค่ะ หน้าโครงการหันทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ล้อมรอบอาคารไว้ด้วยถนนและพื้นที่สีเขียวเต็มพื้นที่ ภายในตัวอาคารมีทั้งล็อบบี้และส่วนกลางให้ใช้งานได้จริงค่ะ ทั้ง Co-Working Space, Co-Meeting, Chill Out Terrace ฯลฯ    ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ 7 (Single Corridor ชั้น 7-8) ส่วนชั้น 9 เป็น Facilities ที่มีทางเชื่อมต่อกับส่วนยูนิตพักอาศัยค่ะ ซึ่งจะมีทางเดินเชื่อมต่อเข้ากับ Facility หลักของโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น รวมถึงลานสนามหญ้าแบบ slope ให้ความรู้สึกเหมือนได้มานั่งเล่นบนเนินเขาเล็กๆ ชมวิวของ Lake side villa   ลิท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด ยูนิตพักอาศัยวางให้อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ(ด้านล่างของภาพ) จะได้วิวในเมือง และฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้วิวไปทางเมกาบางนา   ชมห้องตัวอย่าง สำหรับ Niche MONO Mega Space Bangna จะมียูนิตแปลนมาให้เลือก 3 Type ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ โดยทุกยูนิตจะได้เฟอร์นิเจอร์ฟังก์ชั่นเก๋ๆ มาครบครันแบบ Fully Furnished ของจริงไม่มีกั๊ก ได้แก่ ตู้ Built in สำหรับเก็บของ ตู้เสื้อผ้า โซฟา เคาน์เตอร์ทีวี เตียง(ไม่รวมฟูก) โต๊ะ-เก้าอี้ทานข้าว โต๊ะอเนกประสงค์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดพร้อมฉากกระจก ครัวพร้อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และเครื่องปรับอากาศ      ตัวโครงการจะอยู่ติดกับโชว์รูมโตโยต้า แอท ยูไนเต็ด บางนา เลยค่ะ ซึ่งสังเกตง่ายๆ ตรงที่มีสตาร์บัค Drive Thru อยู่ด้วย   Type A 30 ตร.ม. 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นของโครงการที่ไม่ได้เล็กเลยนะคะสำหรับคอนโดฯ สมัยใหม่ ซึ่งห้องนี้จะวางห้องนั่งเล่นไว้เป็นลำดับแรก ลึกเข้าไปเป็นห้องนอน แบ่งฟังก์ชั่นอีกฝั่งเป็นห้องน้ำ ห้องครัวปิดและระเบียงค่ะ ทุกยูนิต Floor To Ceiling 2.7 เมตร พื้นปูด้วยลามิเนต หนา 8 มม. ใช้ไฟ Downlight ส่วนห้องน้ำกับห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สำหรับห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คนค่ะ ยิ่งหากชอบทำครัวด้วยก็เหมาะเลย เพราะได้ห้องครัวปิดติดกับระเบียง ก็ยิ่งช่วยระบายกลิ่นได้ดีค่ะ   เริ่มจากห้องนั่งเล่นค่ะ   พื้นที่ระหว่างโซฟากับเคาน์เตอร์ทีวี เราสามารถหาโต๊ะกลางมาวางเพิ่มได้นะคะ   โซฟาแอบมีช่องเก็บของเล็กๆ เอาไว้ให้ด้วยนะคะ เหมาะกับการเก็บรีโมททีวีที่เราๆ ชอบวางทิ้งไว้แล้วลืมทุกที   เครื่องปรับอากาศสำหรับ Type 1 Bedroom จะได้ทั้งหมด 2 เครื่อง ใช้แบรนด์ Panasonic   ข้างเคาน์เตอร์ทีวีมี Built in ตู้เก็บของมาให้ด้วยนะคะ ภายในแบ่งฟังก์ชั่นเก็บของเอาไว้ดีทีเดียวค่ะ ทั้งสำหรับเก็บรองเท้า เก็บของแนวสูงอย่างเครื่องดูดฝุ่น โต๊ะรีดผ้า และยังซ่อนตู้ไฟเอาไว้ชั้นบนสุดทำให้ดูเรียบร้อยขึ้นเยอะค่ะ   Type นี้จะได้โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ขนาด 2  ที่นั่ง   ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขอบอลูมิเนียมสีดำ จุดเด่นสำหรับ Type นี้ นั่นคือห้องนอนที่ได้กระจกเพิ่มตรงมุมห้องค่ะ แทนที่จะเป็นผนังทึบแบบเดิมที่ดูแล้วอึดอัด แต่พอแทนที่ส่วนนี้ด้วยกระจกเข้าไปแล้วก็ทำให้ห้องนอนดูโปร่งมากขึ้น   ห้องนอนให้เตียงมา 6 ฟุตเลยค่ะ แถมยังมีพื้นที่รอบเตียงด้วย โดยหากสังเกตที่หน้าต่างก็จะพบกับความพิเศษอีกอย่างของหน้าต่างกระจกทุกๆ ห้อง คือมีขอบด้านข้างและด้านบนยื่นออกมา ทำให้เวลาเราปิดผ้าม่านก็จะไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาได้   ใช้หน้าต่างบานกระทุ้ง และได้กระจกเข้ามุมทางฝั่งระเบียง พื้นที่ว่างตรงนี้ก็เป็นความตั้งใจของทางโครงการที่อยากจะเว้นระยะห่างระหว่างหน้าต่างกับเตียง เพื่อเวลานอนหลับจะได้ลดเสียงรบกวนจากถนนด้านนอกค่ะ   ตู้เสื้อผ้า Built in หน้าบานฝั่งหนึ่งทึบ อีกฝั่งหนึ่งเป็นกระจกโปร่งแสงสีดำ   ถัดมาที่พื้นที่อีกด้านของห้อง       ภายในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์มาครบตามที่เห็นเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกระจกเงา อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ KOHLER ฝักบัว ก็อกน้ำ และ Rain Shower จากแบรนด์ ENGLEFIELD ฉากกระจกโปร่งแสงบานสวิง   ระหว่างห้องน้ำกับห้องครัวจะมีพื้นที่ซึ่งมี Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้เพิ่มอีก 1 ตู้ และโต๊ะอเนกประสงค์     ตู้เสื้อผ้ามีซ่อนฟังก์ชั่นที่เป็นเหมือนตะกร้าผ้าสำหรับเสื้อผ้าใช้แล้วอยู่หน้าห้องน้ำพอดีเลยค่ะ เสื้อผ้าเต็มเมื่อไหร่ก็สามารถเอาไปใส่เครื่องซักผ้าที่สามารถวางไว้ตรงระเบียงห้องได้เลย ไม่ต้องหาซื้อตะกร้าผ้ามาวางไว้ให้เปลืองพื้นที่   โต๊ะตัวนี้มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่าเป็นโต๊ะทรานฟอร์เมอร์ค่ะ เพราะมีลูกเล่นเยอะแยะทั้งพับขึ้น-ลง สไลด์เข้า-ออก มีแบบบานสวิง ลิ้นชัก เหมาะสำหรับเก็บของจุกจิก โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่สามารถใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้เลยค่ะ   สุดท้ายที่ห้องครัวปิดค่ะ   ห้องครัวปิดจะได้เคาน์เตอร์แบบ One Wall Kitchen ซึ่งจะมีอุปกรณ์พวกที่วางจาน ที่คว่ำแก้ว ชั้นวางของเพิ่ม ลิ้นชักแบ่งช่องเก็บช้อนส้อมมาให้แบบเดียวกันทุกห้องครัวค่ะ Top ด้วยหินสังเคราะห์ มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ FRANKE ทั้งหมดค่ะ ผนังด้านในเคาน์เตอร์กรุด้วยกระจกเคลือบสี มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นไว้ข้างเคาน์เตอร์ด้านในห้อง        ระเบียงของทุกห้องจะต่อท่อน้ำสำหรับวางเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้ค่ะ ส่วน Condensing Unit จะถูกแขวนไว้หันลมร้อนออกนอกอาคาร ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งค่ะ    Type B 34.9 ตร.ม. 1 Bedroom ที่เป็นเหมือน 1 Bedroom Plus ถือเป็นหนึ่งในแปลนห้องยอดฮิตของเสนาเลยล่ะค่ะ โดยเริ่มจากห้องครัวปิด ห้องนั่งเล่นอยู่กลางห้อง ห้องอเนกประสงค์อยู่ด้านในสุด ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ตามไลฟ์สไตล์อย่างลงตัวสุดๆ และห้องนอนที่มีห้องน้ำ Triple Function ในตัว ใครที่ชอบห้องที่อยู่แล้วรู้สึกโปร่งๆ ไม่อึดอัด แสงสว่างจากภายนอกเพียงพอทั่วทั้งห้อง และยังได้ห้องที่สามารถเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์อีกก็แนะนำ Type นี้เลยค่ะ    ห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนจะอยู่ด่านแรกของห้องเลยค่ะ ซึ่งจะวางเคาน์เตอร์ครัวแบบ Double Wall Kitchen กรุผนังด้านในเคาน์เตอร์ด้วยกระจกเคลือบสีทั้งสองฝั่ง Top หินสังเคราะห์ โดยจะแยกเป็นฝั่งขวาสำหรับทำอาหาร ส่วนด้านซ้ายสำหรับเตรียมอาหาร และพื้นที่วางตู้เย็นค่ะ            ถัดเข้ามากลางห้องเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ ลึกเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ หลังโซฟาจะเป็นห้องนอน ซึ่งมีห้องน้ำในตัว ทุกห้องจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ทั่วทั้งห้องมีแสงสว่างเข้ามาได้ทั่วถึงดูโปร่งดีนะคะ และการวางทิศทางเครื่องปรับอากาศก็สามารถรับแอร์เย็นๆ ไปจนถึงห้องอเนกประสงค์ได้ค่ะ     ห้องอเนกประสงค์ที่อยู่เชื่อมต่อจากห้องนั่งเล่นนี้ก็จะได้โซฟาแบบในห้องตัวอย่างมาให้ด้วยค่ะ หรือจะปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องทำงานก็เหมาะดีนะคะ     ภายในห้องนอนจะได้เตียงขนาด 6 ฟุต วางไว้กลางห้องโดยยังเหลือพื้นที่รอบเตียง มีตู้เสื้อผ้าบานสวิง พร้อมโต๊ะอเนกประสงค์ และติดตั้งเครื่องปรับอากาศเอาไว้ช่วงปลายเตียงด้านข้างค่ะ   ข้างหนึ่งของเตียงมีช่องสำหรับเก็บของได้อีกค่ะ     ระเบียงที่เชื่อมต่อกับห้องนอนปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ มุมระเบียงจัดพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Condensing Unit แขวนไว้ด้านบนค่ะ    ข้างเตียงจะมีห้องน้ำในตัว ซึ่งห้องจริงจะกั้นด้วยประตูแบบบานเลื่อนค่ะ         ห้องน้ำแบบ Triple Function ค่ะ ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ ตรงกลางเป็นอ่างล้างแบบแขวนผนังหน้าพร้อมกระจกเงา และซ้ายมือเป็นส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ โดยจะกั้น 2 ฝั่งด้วยประตูกระจกโปร่งแสงแบบบานสวิง   Type C 50 ตร.ม. 2 Bedroom ห้องหน้ากว้างแบ่งสัดส่วนห้องแบบ Triple Function ที่เหมาะกับการอยู่แบบครอบครัวขนาดเล็กมากขึ้น เพราะจะได้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นจากห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานทึบทั้ง 2 ห้อง พร้อมกับห้องครัวปิดขนาดกว้างขวางพอสมควรเลยค่ะ และยังมีมุมซักล้างภายในห้องโดยเฉพาะด้วย     ขวามือจากประตูห้อง เราจะพบกับส่วนซักล้างที่จัดวางไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกับ Built in ตู้เก็บของที่สามารถใช้ได้ทั้งสองด้าน         ห้องครัวปิดที่วางเคาน์เตอร์ครัวในรูปแบบ L shape มีการกรุผนังด้วยกระจกเคลือบสีเฉพาะส่วนทำครัว โดยขนาดในห้องครัวก็สามารถเข้ามาช่วยกันทำอาหารได้ 2-3 คนเลยค่ะ        ถัดจากห้องครัวปิดก็จะเจอห้องนอนแรกค่ะ เป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ที่ยังคงคอนเซปเหลือพื้นที่เอาไว้รอบเตียง และห่างจากหน้าต่างเล็กน้อย เพื่อลดแสงรบกวนจากภายนอก และยังช่วยลดความร้อนจากแดดไม่ให้ส่องเข้ามาถึงเตียงได้ด้วยนะคะ       ห้องนั่งเล่นกลางห้องมีพื้นที่กว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางได้ทั้ง L shape sofa โต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง เคาน์เตอร์ทีวี แล้วยังเหลือที่เอาไว้ตกแต่งห้องอีกนะคะ    ระเบียงเชื่อมต่อจากห้องนั่งเล่นค่ะ มีเนื้อที่มากพอที่จะเป็นระเบียงพักผ่อนได้เลย   อีกด้านหนึ่งของห้องค่ะ จะเป็นห้องน้ำทางขวามือ และ Master Bedroom ทางซ้ายตรงข้ามกับห้องน้ำค่ะ           ห้องน้ำจะกั้นด้วยประตูแบบบานเลื่อนค่ะ โดยจะแบ่งเป็น Triple Function ทำให้สามารถใช้งานได้หลายคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งแบ่งเป็นส่วนเปียกมีที่นั่งเวลาขัดตัวได้ และส่วนแห้งที่เป็นโถสุขภัณฑ์ ทั้งสองฝั่งจะกั้นด้วยประตูกระจกบานสวิงค่ะ และกลางห้องก็เป็นส่วนแห้งของอ่างล้างหน้า           สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom ค่ะ นอกจากเตียงขนาด 6 ฟุต ยังมีความพิเศษตรงที่ได้กระจกเข้ามุมตรงปลายเตียง สามารถนอนเพลินๆ ชมวิวด้านนอกได้กว้างขึ้น และมีห้อง Walk In Closet ที่กั้นเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน     Niche MONO Mega Space Bangna ยังคงใส่ใจรายละเอียดการใช้ชีวิตในทุกพื้นที่ตามแบบฉบับ Made from Her ทั้ง DOUBLE Space ในห้องพักอาศัยขนาดเริ่มต้นก็กว้างถึง 30.00 ตร.ม. แล้วค่ะ ทำให้ทุกยูนิตดูแล้วรู้สึกโปร่งโล่งมากทีเดียว มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ลากกระเป๋าเสื้อผ้ามาก็เข้าอยู่ได้ทันที การออกแบบ TRIPLE Facilities ที่ให้พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 3 ชั้น คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ได้อย่างสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ขณะเดียวกันก็อยู่ท่ามกลางทำเลที่มีศักยภาพสูงต่อไปในอนาคตด้วยหลายๆ Mega Project ในย่านนี้ที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไปอีก แต่มาในราคาที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง เริ่มต้นเพียง 2.2 ล้านบาท บอกเลยว่าคุ้มสุด    
PITI EKKAMAI ใช้ชีวิตให้มีความสุขบนความเรียบง่าย : รีวิวคอนโด

PITI EKKAMAI ใช้ชีวิตให้มีความสุขบนความเรียบง่าย : รีวิวคอนโด

คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมในความคิดของคุณคืออะไรคะ? จะต้องเป็นคอนโดที่ดูหรูหราราคาแพง ต้องใช้วัสดุนำเข้าเท่านั้นหรือเปล่า แต่ SENA คิดต่างออกไปค่ะ เพราะคอนโดมิเนียม PITI EKKAMAI โครงการระดับพรีเมี่ยม แบรนด์ใหม่ล่าสุดนั้นคำนึงถึง “ความสุข” เป็นหลักค่ะ ความสุขที่ได้อยู่อาศัยในโครงการที่ดี อยู่แล้วสะดวกสบายด้วยเซอร์วิสระดับ Exclusive  เรียบง่ายได้ความสงบเป็นส่วนตัว บนทำเลที่เนื้อหอมที่สุดตลอดกาล         ทำเล   ในบรรดาคอนโดมิเนียมนั้นไม่มีทำเลไหนที่จะได้รับความนิยมสูงสุดต่อเนื่องมาโดยตลอดเท่าแนวถนนสุขุมวิทช่วงต้น-ช่วงกลางอีกแล้วค่ะ ซึ่งแต่ละช่วงก็มีคาแรคเตอร์แตกต่างกันอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น เพลินจิต-ชิดลม จะเป็นแหล่งที่ตั้งของคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury และ Office Building เกรด A เต็มไปด้วยเหล่านักธุรกิจ คนทำงาน ถัดมาที่อโศก-พร้อมพงษ์ ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่ระดับกลางๆ ไปจนถึงระดับหรู คึกคักในช่วงกลางวันด้วยกลุ่มมนุษย์ออฟฟิศ และช่วงทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในรีวิวฉบับนี้   ย่านทองหล่อ-เอกมัย มีคาแรคเตอร์โดดเด่นชัดเจนในตัวเองมากอย่างที่หากเอ่ยชื่อแล้ว หลายคนคงจะเห็นภาพได้ทันที ด้วยความที่เป็นย่านแห่งไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของคนรุ่นใหม่ สามารถรองรับได้ทุกความต้องการของชีวิตรอบด้านกันแบบ All Day All Night เลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันที่มีคนทำงานละแวกนี้ หรือคนรุ่นใหม่เหล่าฟรีแลนซ์ที่นิยมมานั่งจิบชา ดื่มกาแฟตามร้านคาเฟ่สุดเก๋ไม่เหมือนใคร เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในบรรยากาศดีๆ หรือช่วงกลางคืนก็เต็มไปด้วยสีสันคึกคัก ทั้งร้านอาหารระดับคุณภาพหลากหลายสัญชาติที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนนอกจากทองหล่อ-เอกมัย และยังเป็นแหล่งรวมร้านแฮงค์เอาท์สุดฮิตไว้มากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น บิ๊กซี เอกมัย, ท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทองหล่อ, เมเจอร์ สุขุมวิท, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ฯลฯ รวมถึงห้างสรรพสินค้าอย่าง เกตเวย์ เอกมัย, ดิ เอ็มควอเทียร์, ดิ เอ็มโพเรียม ที่ห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร      ในแง่ของการเดินทางไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือระบบขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบายค่ะ เพราะถนนเอกมัยนั้นมีเส้นทางเชื่อมต่อเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง นอกจากถนนสุขุมวิทที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ได้เดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วเพียง 10 นาทีถึงสถานีสยามแล้ว ปลายถนนเอกมัยก็เชื่อมต่อกับถนนเพชรบุรี โดยตามซอยเอกมัยก็ยังสามารถทะลุไปถึงทองหล่อ และสุขุมวิทซอย 71 (ปรีดี พนมยงค์) ได้ ทำให้การเดินทางสะดวกคล่องตัว   Floor Plan Master Plan เริ่มจากอาคาร 3 ชั้นด้านหน้า มี Drop Off ด้านหน้าก่อนถึงอาคาร B และเชื่อมต่อกับอาคาร A ด้านในสุด ซึ่งหน้าโครงการที่ติดกับถนนนั้นคือทิศตะวันตก ลักษณะที่ดินยาวลึกเข้าไปทางทิศตะวันออกด้านในสุดของโครงการ   Floor Plan ชั้น 2 พื้นที่จอดรถแบบปรกติ     Floor Plan ชั้น 4-7 เป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติ Floor Plan ชั้น 9 อาคาร A ด้านในสุดของโครงการ ซึ่งเป็นอาคารที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน สำหรับอาคาร B ด้านหน้า คาดว่าจะเปิดขายประมาณช่วงปลายปีนี้ค่ะ โดยชั้น 9 นี้เป็นชั้นเริ่มต้นของยูนิตพักอาศัยค่ะ ซึ่งจะมีห้องพักหันออกทางทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก Floor Plan ชั้น 10-24 อาคาร A Floor Plan ชั้น 37 Roof Top ของโครงการ ที่เป็น Facility หลัก สามารถใช้งานได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น  INFINITED EDGE POOL, HEATED JACUZZI, TREE HOUSE, LOBBY, SKY FITNESS, SKY LOUNGE, GOLF SIMULATOR, BIKE SIMULATOR, LIBRARY, SPA ROOM IKIGAI ROOM ฯลฯ     Unit Plan 1 Bedroom 29 ตร.ม. ได้ห้องแบ่งเป็นสัดส่วน แม้จะเป็นยูนิตขนาดเริ่มต้นของโครงการ โดยจุดเด่นคือได้เฟอร์นิเจอร์ครบครันตาม Plan ที่เห็น และห้องน้ำแบบ Triple Function แยกสัดส่วนตามการใช้งาน   1 Bedroom 31.5 ตร.ม. ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิด แต่จะได้พื้นที่ Living Room และห้องนอนเพิ่มมากขึ้น แม้จะอยู่อาศัยกัน 2 คนก็ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ        1 Bedroom 40 ตร.ม. แปลนห้องยอดฮิตของโครงการเลยค่ะ เพราะจะได้ห้องทำงานเพิ่มขึ้น หรือจะดัดแปลงเป็นห้องนอนอีก 1 ห้องก็ได้นะคะ และยังได้ระเบียงห้องยาวๆ สำหรับไว้วางเก้าอี้นั่งพักผ่อนได้   2 Bedroom 57 ตร.ม. สำหรับห้องหน้ากว้างแบบนี้เหมาะสำหรับการอยู่ร่วมกับเป็นครอบครัวมากยิ่งขึ้นค่ะ โดยจะแบ่ง Common Area และ Private Zone จากกันชัดเจน และยังได้ห้องครัวปิดที่มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และเตาอบครบครัน    2 Bedroom 64 ตร.ม. ห้องหน้ากว้างขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการค่ะ ได้ Space ทุกส่วนมาเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวปิด ระเบียงกว้างขวาง Common Area ที่สามารถชวนเพื่อนมาปาร์ตี้กันได้สบายๆ และส่วนของห้องนอนอีก 2 ห้อง                ภาพรวมโครงการ   PITI EKKAMAI คอนโดมิเนียม Flagship ระดับพรีเมี่ยม จากเสนา ที่ร่วมทุนกับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการอสังหาริมทัพย์ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมาในรูปแบบของ High Rise สูง 37 ชั้น 1 อาคาร โดยแบ่งออกเป็นอาคาร A และ B ทั้งหมด 879 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิตหน้าโครงการ ที่จอดรถมากถึง 70% มีทั้งที่จอดรถเข้าซองปรกติบนชั้น 1-3 และที่จอดรถแบบ Intelligent Parking System ชั้น 4-8 ส่วนยูนิตพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9-36 รวมพื้นที่โครงการทั้งหมด 4–2-75 ไร่   แนวคิด IKIGAI (อิคิไก) ปรัชญาแบบฉบับญี่ปุ่นในการหาความหมายของการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในทุกๆ วันที่ตื่นขึ้นมา ด้วยสิ่งเล็กๆ รอบตัว ไม่ต้องขวนขวายจากที่ไหน แค่มองไปรอบตัวก็พบเจอได้ เช่น การตื่นขึ้นมาสัมผัสกับแสงแดดอ่อนยามเช้า, ได้นั่งดื่มกาแฟชั่นเลิศ, ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวภายในบ้านของเราเอง, ได้ออกกำลังกายให้เหงื่อชุ่มตัว ฯลฯ โดยอิคิไกของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และไม่จำเป็นต้องมีเพียงอย่างเดียว โครงการนี้จึงเกิดขึ้นมาโดยนำมาประยุกต์ใช้ ให้เข้ากับวิถีชีวิตอันหลากหลายได้อย่างลงตัว จนเกิดเป็นความสุขทุก Moment ของการใช้ชีวิต ใน PITI EKKAMAI      ความโดดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่มีบริการระดับพรีเมี่ยม สำหรับคอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านแบบที่ไม่เคยมีในคอนโดมิเนียมไหนมาก่อน มาพร้อมกับบริการหลังการขายบน Application เดียว โดยมีรายละเอียดดังนี้   Elite Service   Midnight Reception and Butler Service พนักงานบริการตั้งแต่ 7.00-24.00 น. ไม่ว่าจะบริการแจ้งข่าวสารทั่วไป เรียกแท็กซี่ รับฝากบ้าน ขึ้นห้องพักอาศัยไปกับช่างซ่อม ส่งอาหาร ส่งดอกไม้ เป็นต้น Bellman พนักงานบริการช่วยยกกระเป๋าสัมภาระ เปิดประตู และช่วยเหลือบริเวณลิฟท์ Laundry Service Shop มีร้านบริกการซัก รีด Parking Guidance Systems มีหน้าจอโชว์ช่องจอดรถยนต์ที่ว่าง Access Control การผ่านเข้ามาในโครงการ และการเข้าใช้ Facility ต่างๆ จะต้องผ่านระบบ Access Control ไม่ว่าจะด้วยคีย์การ์ด สแกนนิ้ว หรือรหัสผ่าน Shuttle Car Service บริการรถรับ-ส่ง จากโครงการ-บีทีเอส-ทองหล่อ ตลอด 24 ชม. โดยสามารถเช็ครอบเวลาการเดินรถ หรือหลังเที่ยงคืนไปแล้วก็สามารถกดเรียกได้จาก Application และยังมีบริการคนขับรถเป็นผู้หญิง เพื่อความอุ่นใจของลูกบ้านอีกด้วย   SENA 360 Service Application   บริการหลังการขายแบบครบวงจร ดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชม. เช่น ติดต่อนิติบุคคล แจ้งเตือนพัสดุ แจ้งซ่อมได้ตลอด 24 ชม. เปิดดู CCTV ได้ทุกเวลา ดูการทำงานของโซลาร์เซล เรียกรถรับ-ส่ง ได้ตลอด 24 ชม. พร้อมกับดูสถานะการมาถึงของรถได้ และบริการฝากขาย-เช่า โดย Acute Realty เอง   Facility เน้นความเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ออกแบบให้สอดคล้องและเกื้อหนุนกับการใช้ชีวิตในแบบ IKIGAI เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้ได้มากที่สุด โดยจะแบ่งออกเป็น 2 จุดใหญ่ๆ นั่นคือชั้นล่างสุด ตั้งแต่หน้าโครงการจนถึงใต้อาคาร และที่ Roof Top ชั้น 37 ที่ให้ทั้งความ Active และ Passive ควบคู่กันไป อย่างโซน Active ก็จะมีทั้งสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร ฟิตเนสที่มีโซน Boxing Room Active, Bike Simulator และ Golf Simulator สำหรับโซน Passive เช่น Heated Pool & Jacuzzi,Spa Room, Yoga room, Ikigai room ให้ได้นั่งสงบจิตใจท่ามกลางบรรยากาศความเงียบสงบล้อมรอบไปด้วยเสียงของสายน้ำ ซึ่ง Facility รวมพื้นที่แล้วกว่า 1,900 ตร.ม. ถือเป็นว่าเป็นส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดในเอกมัย   The Third Place หน้าโครงการ เป็นอาคาร 3 ชั้น ที่จะมีทั้งร้านกาแฟคุณภาพ CASA Lapin ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และชั้นบนสุดจะเป็น Co-Working Space ส่วนตัวสำหรับลูกบ้านเท่านั้น   Lobby ยังคงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ดูเรียบง่าย อบอุ่น ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาตินอกอาคารด้วยกระจก High Ceiling    ฟิตเนสชั้น 37 แบ่งโซน For His และ For Her ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling เห็นวิวเมืองได้รอบด้าน โดยกลางฟิตเนสจะปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้ สูงขึ้นไปถึง Roof Top ด้านบน     Sky Lounge ที่เป็น Co-Kitchen Space พร้อมอุปกรณ์ ไปด้วยในตัว ให้ได้ขึ้นมามีตติ้งกับเพื่อน หรือครอบครัวได้ในวันสบายๆ   Golf Simulator เอาใจคนรักกอล์ฟ แม้จะไม่มีเวลาออกรอบก็มาฝึกซ้อมก่อนได้     ชมห้องตัวอย่าง   เราเดินทางมาถึง Sale Gallery อยู่ระหว่างซอยเอกมัย 26 กับ 28 เยื้องกับปั๊มน้ำมันบางจากค่ะ ซึ่ง Sale Gallery ที่เห็นนี้ในอนาคตด้านในจะถูกปรับ Layout ใหม่ให้เป็น The Third Place มีทั้งร้านกาแฟฝีมือคนไทยระดับคุณภาพอย่าง Casa Lapin ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และ Co-Working Space ชั้นบนสุดที่สงวนไว้ให้เฉพาะลูกบ้าน    ตั้งแต่เริ่มทางเข้าก็ถูกตกแต่งให้มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ตามแนวคิดของโครงการที่วางเอาไว้ค่ะ     ภายใน Sale Gallery จะมีโมเดลของโครงการตั้งอยู่ค่ะ ซึ่งจะเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าโครงการนี้ติดถนนเอกมัย ลักษณะที่ดินลึกเข้าไป มี The Third Place อยู่ด้านหน้า และตัวอาคารถูกแยกออกเป็นอาคาร A ด้านในสุดของพื้นที่โครงการ และอาคาร B ทางด้านหน้าโครงการ ส่วน Facility จะถูกยกขึ้นไปไว้บน Roof Top ชั้น 37 โดยหน้าโครงการจะหันไปทางทิศตะวันตก ส่วนยูนิตพักอาศัยจะหันออกทางทิศใต้ (ได้วิวถนนสุขุมวิท) และทิศเหนือ (ได้วิวถนนเพชรบุรี) เป็นหลักค่ะ   เรามาดูกันที่โมเดลเฉพาะส่วน Facility ชั้น 37 กันค่ะ   เริ่มจากห้องฟิตเนสฝั่งด้านหน้าโครงการ จะถูกล้อมรอบไปด้วยกระจก High Ceiling โดยจะแบ่งฟิตเนสออกเป็นโซน For His กับ For Her ด้านบนฟิตเนสเป็นสวนสีเขียวสำหรับพักผ่อนค่ะ    มองจากด้านนี้จะเห็นโซน Boxing ที่เชื่อมต่อจากภายในฟิตเนสค่ะ ส่วนบันไดทางขึ้นที่เชื่อมระหว่างชั้น 37 กับ Roof Top จะมีไฮไลท์คือ Tree House   ด้านบนฟิตเนสจะมีที่นั่งไล่ระดับ Amphitheatre และลานอเนกประสงค์ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และพื้นที่สีเขียว     ถัดมาจะพบกับสระว่ายน้ำ หันไปทางทิศใต้ค่ะ โดยจะมีการแยกสระเด็กเอาไว้ที่มุมใกล้กับที่นั่งพักผ่อน สำหรับผู้ปกครองคอยดูแลบุตรหลานเวลาเล่นน้ำค่ะ โดยสระว่ายน้ำจะเป็น Infinited Edge Pool ยาว 50 เมตร   ด้านในจะเป็นสระน้ำอุ่นพร้อม Jacuzzi ค่ะ ส่วนด้านบนสระว่ายน้ำจะเป็น Sky Lounge ซึ่งเป็น Co-Kitchen Space ไปด้วยในตัวให้ได้มาสังสรรค์ เปลี่ยนบรรยากาศทำอาหารร่วมกันกับเพื่อนหรือรอบครัว พร้อมชมวิวเมืองผ่านกระจก High Ceiling รอบด้าน    มาดูทางทิศใต้กันบ้างค่ะ ตรงนี้จะเป็น Ikigai Room มีพื้นที่ตรงกลางให้ได้นั่งฟังเสียงน้ำไหลที่ล้อมรอบตัวอยู่ เป็นความสุขง่ายๆ ในความสงบนิ่งอยู่รอบตัว   ช่วงกลางของ Facility จะเป็น Library ตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ได้วิวทั้งสองฝั่ง   ตามสไตล์ของโครงการจาก SENA ค่ะ ไม่ลืมที่จะติดตั้งโซลาร์เซล สำหรับดึงพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในส่วนกลาง ช่วยประหยัดค่าไฟลงไปอีกเยอะเลยค่ะ   Type 1 Bedroom 31.50 ตร.ม.    เรามาเริ่มเปิดห้องตัวอย่างดูกันทีละห้องค่ะ โดยห้องตัวอย่างจะมีทั้งหมด 4 ห้อง เริ่มจากขนาด 31.50 ตร.ม. เมื่อผ่านประตูห้องที่ติดตั้ง Digital Door Lock จากแบรนด์ Yale เอาไว้ทุกยูนิตแล้ว ก็จะพบกับห้องครัวปิดก่อนค่ะ โดยจะกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ภายในห้องใช้ไฟ Downlight      หันไปดูทางซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ สีขาว ใต้ตู้ด้านบนติดตั้งไฟ LED เพิ่มแสงสว่างเวลาทำครัวค่ะ แต่เครื่องซักผ้าที่เห็นจะไม่ได้มาด้วยนะคะ   มีการเก็บบัวผนัง พร้อมกับกรุกระเบื้องลายหินอ่อนเอาไว้ตลอดแนวเคาน์เตอร์ค่ะ นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังทำให้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่ายขึ้นด้วย   ฟังก์ชั่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้องค์ความรู้มาจากญี่ปุ่นแบบนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของ SENA ในโครงการรุ่นใหม่ๆ ทีเดียวค่ะ โดยตรงนี้สามารถดึงลงมาตามภาพสำหรับเป็นที่วางแก้ว   ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ จากแบรนด์ MEX มาพร้อมกับแผ่นหินสังเคราะห์สีขาว วางไว้เข้าล็อคกันกับตัวซิงค์ สำหรับเป็นที่พักจานเวลาล้างเสร็จใหม่ๆ หรือจะใช้เป็นเขียงก็ได้ค่ะ   ตู้เก็บของด้านบนค่ะ จะมีชั้นสำหรับเก็บจานเอาไว้ให้ด้วย     หันหลังกลับไปทางฝั่งขวามือจากประตูห้องค่ะ จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน จากแบรนด์ MEX พร้อมช่องวางไมโครเวฟด้านล่าง และช่องสำหรับวางตู้เย็นทางขวามือ   ตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านข้าง Built In มาให้ตามนี้เลยค่ะ   ถัดเข้ามาด้านในห้องกันบ้างค่ะ พื้นห้องทุกยูนิตจะใช้วัสดุ Hybrid Engineering ขนาด 24X200 ซม. มีคุณสมบัติให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริงมาก น้ำไม่ซึมทำให้ไม่มีปัญหาพื้นบวมภายหลัง   Living Room มีขนาดกว้างขวางกำลังดีค่ะ ไม่รู้สึกอึดอัดมาก Floor To Ceiling 2.7 ผนังกับเพดานห้องจริงจะเป็นพื้นขาวฉาบเรียบค่ะ     เคาน์เตอร์ทีวีจะได้ Built In ไม้ติดผนังตามแบบที่เห็นค่ะ แต่จะไม่ได้ลิ้นชักสีขาวมาด้วยนะคะ   โซฟาหุ้มด้วยผ้าสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง มาพร้อมกับโต๊ะกลางทำจากอลูมิเนียมสีทองแดง Top ด้วยหินอ่อนสีขาว ทางโครงการให้มาแบบนี้เลยค่ะ   ด้านในสุดของ Living Room จะมีโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้าสีเทา ซึ่งใกล้เคียงกันกับสีของโซฟา ให้มาครบเซตค่ะ    โต๊ะทานข้าว Top ด้วยหินอ่อน สีดำลายสีขาว ทำให้ห้องดูหรูหรามากขึ้น   หน้าต่างของห้องใช้แบบบานกระทุ้ง ขอบอลูมิเนียมสีดำค่ะ     หลังโต๊ะทานข้าวจะมีประตูบานสวิงเปิดออกไประเบียงได้   เครื่องปรับอากาศจากแบรนด์ Daikin จะติดตั้งเอาไว้ให้เหนือประตูกระจกที่กั้นห้องครัวค่ะ สำหรับห้องนอนด้านหลังโซฟาจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม 3 ตอน ซึ่งเป็นกระจกสูงชิดเพดานห้อง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ   มีระยะห่างระหว่างประตูกั้นห้องนอนกับเตียงอยู่พอสมควรค่ะ ไม่ได้แน่นเต็มพื้นที่จนเกินไป   เตียงนอนขนาด 5 ฟุตก็ได้มาด้วยนะคะ แต่จะไม่ได้ฟูกกับผ้าม่าน ซึ่งตามห้องตัวอย่างที่เห็นนี้มีการตกแต่งผนังด้านหัวเตียง ทำให้เตียงขยับออกมากเล็กน้อย ซึ่งห้องจริงนั้นจะได้พื้นที่ปลายเตียงมากกว่านี้ค่ะ   เครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนจะถูกติดตั้งด้านข้างเตียง เหนือประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นส่วนระเบียงค่ะ   ระเบียงจะมีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาเล็กน้อยค่ะ โดยพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ     ทางขวามือของระเบียงจะพบกับประตูบานสวิงที่เชื่อมต่อกับ Living Room หลังโต๊ะทานข้าวเมื่อสักครู่ค่ะ มีข้อดี เช่น เวลาอยู่อาศัยจริงหากคุณผู้หญิงนอนหลับแล้ว แต่ผู้ชายยังดูทีวีหรือทำงานก็สามารถเดินออกนอกระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ถือเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อลูกบ้านได้ดีค่ะ   Condensing Unit ถูกแขวนไว้เหนือศีรษะ หันออกนอกอาคารพร้อมติดตั้งกริลมาให้ด้วยค่ะ     ด้านข้างอีกฝั่งของเตียงจะมี Built In ตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตู้แยกกันค่ะ โดยฝั่งด้านซ้ายจะมีหน้าบานไม้ ส่วนตู้ขวาหน้าบานเป็นกระจกสีดำ ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำค่ะ     ภายในตู้เสื้อผ้าด้านซ้ายมือจะมีชั้นวางของเอาไว้ให้ถึงครึ่งตู้ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มีของใช้จุกจิกค่ะ     บานตู้ด้านในติดตั้งกระจกยาวเต็มตัวมาให้ด้วยค่ะ   ส่วนตู้ทางขวามือก็เหมาะกับผู้ชายที่เน้นการแขวนเสื้อผ้าเป็นหลัก   ภายในตู้มีสวิทช์ไฟมาให้ด้วยค่ะ ซึ่งหากเปิดไฟแล้วมองจากภายนอกก็จะสามารถเห็นด้านในตู้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่เปิดไฟก็จะกลายเป็นตู้ทึบค่ะ   ห้องน้ำในทุกยูนิตจะถูกแบ่งเป็น Triple Function แยกสัดส่วนกันอย่างชัดเจนค่ะ    กลางห้องน้ำเป็นส่วนแห้งที่มีอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงา สามารถเปิดออกได้ 2 บาน   สำหรับตู้กระจกด้านบนของจริงที่ได้มาจะมีขนาดเล็กและสั้นลงกว่าตามห้องตัวอย่างที่เห็นนะคะ เวลาใช้งานจริง เมื่อก้มลงจะได้ไม่ชนกับศีรษะ   ขวามือเป็นห้องสุขภัณฑ์ค่ะ จะถูกกั้นโดยกระจกขุ่นบานสวิง ด้านในมีการเจาะผนังสำหรับเป็นที่วางของได้ด้วย   ส่วนฝั่งซ้ายเป็นส่วนเปียกจะกั้นด้วยประตูกระจกขุ่นบานสวิง มีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อย   ภายในมีทั้งฝักบัว กับ Rain Shower มาให้ทั้งสองอย่างค่ะ    มีการติดตั้งท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น มาให้เรียบร้อยเลยค่ะ ลูกบ้านไม่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเองก็สามารถใช้งานได้เลย   Type 1 Bedroom 35 ตร.ม.      ห้องตัวอย่างถัดมา มีขนาดเพิ่มขึ้นมานิดค่ะ โดยส่วนแรกจะเป็นห้องครัวปิดเช่นกัน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค กั้นส่วนครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม สีดำ เคาน์เตอร์ครัวได้มาแบบ Double Wall Kitchen    เคาน์เตอร์ครัวทางขวามือ Top หินสังเคราะห์ สีขาว ผนังด้านในกรุกระเบื้องลายหินอ่อน เพื่อความสวยงามและทำความสะอาดง่าย   นอกจากฟังก์ชั่นที่วางแก้วแบบนี้แล้ว ยังมีราวสำหรับแขวนอุปกรณ์และที่วาง Ipad สำหรับใครที่ชอบเปิดคลิปสอนทำอาหารไปด้วย ทำตามไปด้วยก็สะดวกสบายยิ่งขึ้นค่ะ   บานตู้และลิ้นชักทั้งหมดจะติดตั้งระบบ Soft Close ค่ะ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น    ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์จะดูเรียบร้อยสวยงามมากกว่า และยังป้องกันน้ำกระเด็นออกมาเวลาใช้งานด้วยค่ะ   ลิ้นชัก และตู้ใต้ซิงค์ล้างจานจะมีฟังก์ชั่นให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บมีด ที่วางช้อน-ส้อม ถังขยะที่ติดตั้งมากับบานตู้ และที่วางจานก็สามารถดึงออกแยกออกมาได้ทั้ง 2 ชิ้นค่ะ   เคาน์เตอร์ฝั่งซ้ายมือจะมีช่องสำหรับวางตู้เย็น ช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้านล่างเคาน์เตอร์ มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควัน ส่วนผนังด้านในยังคงกรุกระเบื้องลายหินอ่อนให้เช่นกันค่ะ     ลึกเข้ามาที่ห้อง Living Room ค่ะ พื้นปูด้วย Hybrid Engineering ขนาด 24X200 ซม. ห้องจริงจะเป็นผนังและเพดานแบบฉาบเรียบสีขาวนะคะ    โต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้า 2 ตัว ทางโครงการให้มาด้วยนะคะ   Top โต๊ะเป็นหินอ่อนสีดำลายสีขาวค่ะ ถือว่าให้เฟอร์นิเจอร์มาครบครันแล้วยังเป็นวัสดุที่ดีด้วยนะคะ   เคาน์เตอร์ทีวีเป็นไม้ลักษณะยาวมีช่องให้เก็บของ Built In ติดผนัง ได้มาแบบนี้เลยค่ะ   โซฟาหุ้มด้วยผ้าสีเทา วางอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ทีวีค่ะ โดยด้านหลังโซฟาจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน   เข้ามาด้านในสุดของห้องติดริมหน้าต่างก็จะได้โต๊ะทำงานยาวๆ พร้อมเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้าแบบนี้มาด้วยนะคะ   Top โต๊ะทำงานยังคงใช้หินอ่อนแบบเดียวกันกับโต๊ะทานข้าวค่ะ มีพื้นที่สำหรับวางของได้เยอะทีเดียว ส่วนหน้าต่างจะใช้แบบบานกระทุ้งอยู่ทางซ้ายมือของโต๊ะค่ะ   หน้าต่างจะได้กระจกเข้ามุมค่ะ เพิ่มมุมมองให้เห็นทิวทัศน์ด้านนอกกว้างมากขึ้น   ด้านข้างมีประตูบานสวิงเปิดออกไปที่ระเบียงได้ค่ะ เป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนมากขึ้น เพราะไม่ต้องเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนที่จะออกไปที่ระเบียง   ห้องนี้ก็ยังคงได้โต๊ะกลางที่ทำจากอลูมิเนียมสีทองแดงกับ Top ลายหินอ่อนค่ะ   ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างทีเดียวค่ะ โดยในห้องตัวอย่างจะ Built In หัวเตียงให้มีช่องเก็บของด้านข้าง แต่สำหรับห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบ ก็จะทำให้ปลายเตียงมีพื้นที่เพิ่มอีก ซึ่งหากวางเตียงขนาด 5 ฟุตแบบนี้ไว้ก็ยังคงมีทางเดินได้รอบเตียงค่ะ   เหนือประตูกระจกจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบรนด์ Daikin ไว้ให้ค่ะ     ออกมาดูที่ระเบียงซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ     Condensing Unit แขวนไว้ด้านบน หันหน้าออกนอกอาคาร    ด้านข้างเตียงอีกฝั่งจะ Built In ตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตู้ค่ะ โดยซ้ายมือหน้าบานเป็นกระจกสีดำ ส่วนขวามือหน้าบานไม้เช่นเดียวกันทุกยูนิตค่ะ   ตู้เสื้อผ้าทางขวามือยังคงติดตั้งกระจกเงาแบบเต็มตัวมาให้แบบนี้ทุกยูนิตค่ะ   ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ทางโครงการก็ไม่ลืมเพิ่มเติมมาให้ค่ะ อย่างที่แขวน 2 ชิ้นนี้ที่ติดตั้งอยู่ข้างตู้เสื้อผ้าก็สามารถแขวนผ้าเช็ดตัว หรือหมวกได้   ห้องน้ำอยู่ระหว่างตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ แบ่งเป็น Triple Function โดยใช้กระจกขุ่นบานสวิงกั้นทั้ง 3 โซน   ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง ซึ่งห้องจริงจะมีการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ในตู้เก็บของนี้ด้วยค่ะ ส่วนตู้หน้าบานกระจกเงาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน สามารถเปิดเก็บของได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ   ฝั่งซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระ และแกนใส่ทิชชู่   เหนือโถสุขภัณฑ์จะมีการเจาะช่องสำหรับวางของเอาไว้ด้วยค่ะ   ส่วนขวามือเป็นส่วนเปียกที่มีทั้งฝักบัวกับ Rain Shower พร้อมระบบน้ำร้อนมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ      Type 1 Bedroom 40 ตร.ม.    มาถึงห้องที่ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าดีที่สุด จนเรียกได้ว่าเปิดจองปุ๊บห้องแปลนนี้ก็หมดปั๊บเลยค่ะ กับ Type 1 Bedroom 40 ตร.ม. โดยจะเริ่มจากห้องครัวปิดเช่นเคยค่ะ แล้วกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนก่อนจะเข้าสู่ Living Room    มาดูเคาน์เตอร์ครัวทางซ้ายกันก่อนค่ะ ใช้วัสดุ Top หินสังเคราะห์ สีขาว เพื่อความทนทานในการใช้งาน และยังทนต่อความชื้นมากกว่าด้วยค่ะ ผนังด้านในกรุ  กระเบื้องลายหินอ่อน นอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้วยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายมากกว่าที่จะปล่อยให้เป็นผนังปรกติ   ตู้ด้านบน และที่วางแก้ว ได้ฟังก์ชั่นแบบเดียวกันทุกยูนิตค่ะ   ซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ MEX พร้อมแผ่นพลาสติกหนา ให้ได้ใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะวางจานหลังล้างเสร็จแล้ว หรือใช้เป็นเขียงก็ได้ค่ะ   สวิทช์เปิด-ปิด ไฟใต้ตู้ด้านบนค่ะ นอกจากจะช่วยเพิ่มแสงสว่างแล้ว ยังทำให้การทำครัวปลอดภัยยิ่งขึ้นค่ะ   ลิ้นชักแบ่งฟังก์ชั่นสำหรับเก็บอุปกรณ์ ถังขยะที่ติดมากับบานตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน และที่วางจานสามารถเลื่อนออกมาจากในตู้ได้ และสามารถยกออกมาใช้งานได้     เคาน์เตอร์ครัวฝั่งตรงข้ามกัน จะมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควันจากแบรนด์ MEX และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟไว้ด้านล่าง และวางตู้เย็นด้านข้าง     มีตู้สำหรับเก็บของทั้งด้านบนและด้านข้าง ซึ่งตู้ทรงสูงด้านข้างนั้น สามารถใช้เก็บร่มหรือโต๊ะรีดผ้าได้ค่ะ   เข้ามาใน Living Room กันค่ะ จะวางโซฟาด้านซ้าย ตรงข้ามกันจะได้เคาน์เตอร์ทีวีมาด้วยค่ะ โดยมีระยะห่างจากทีวีพอสมควรไม่ชิดให้เสียสายตาจนเกินไปค่ะ    โต๊ะทานข้าวมาพร้อมกับเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้า วางไว้ที่มุมข้างเคาน์เตอร์ทีวีค่ะ   Top โต๊ะใช้หินอ่อนสีดำ ลายสีขาวค่ะ ช่วยเพิ่มให้ห้องดูหรูหราสวยงามมากขึ้น   เคาน์เตอร์วางทีวีเป็นไม้ยาวเกือบจะตลอดแนวผนัง   โครงการจะให้มาทั้งโต๊ะกลางอลูมิเนียมสีทองแดง Top หินอ่อน และโซฟาหุ้มด้วยผ้าขนาด 2 ที่นั่ง ถัดจากโซฟาเข้าไปด้านในสุดของห้องจะเป็นห้องทำงานค่ะ โดยกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำอีกชั้นหนึ่ง   ภายในห้องทำงานนี้มีพื้นที่พอดีๆ ไม่คับแคบจนเกินไปค่ะ ใครที่ทำงานจากที่บ้านจะต้องชอบห้องนี้แน่นอนค่ะ เพราะเป็นส่วนตัวมากทีเดียว   ภายในห้องทำงานนี้จะได้ทั้งโซฟา และโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้แบบนี้มาให้ค่ะ   โต๊ะทำงานมีลักษณะแคบยาว Top หินอ่อนสีดำ ดูเป็นห้องทำงานที่หรูหราทีเดียวค่ะ   ภายในห้องทำงานก็มีเครื่องปรับอากาศติดตั้งมาให้แยกจาก Living Room ด้วยนะคะ โดยจะติดตั้งเหนือประตูกระจกบานเลื่อนด้านข้างโต๊ะทำงาน ซึ่งกั้นระเบียงเอาไว้ค่ะ    ระเบียงของห้องนี้จะมีลักษณะเป็นตัว L ค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ     มองจากมุมระเบียงจะเห็นชัดขึ้นค่ะว่าสามารถออกมาที่ระเบียงได้จากทั้งห้องทำงานทางซ้ายมือ และห้องนอนตรงกลางค่ะ     Condensing Unit แขวนเอาไว้ด้านบนพร้อมติดตั้งกริลเพื่อความสวยงามของอาคาร และยังช่วยผลักลมร้อนออกนอกอาคารด้วยค่ะ    กลับเข้ามาภายในห้องนอนกันต่อค่ะ โดยจะมีเตียงขนาด 5 ฟุตให้ แต่จะไม่มีฟูกกับผ้าม่านมาให้นะคะ เครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนจะติดตั้งเอาไว้เหนือประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นส่วนระเบียงเอาไว้ค่ะ   ด้านข้างเตียงจะได้ตู้เสื้อผ้า Built In 2 ตู้ค่ะ โดยตู้ด้านขวามือหน้าบานกระจกสีดำ มีไฟภายในตู้มาให้ และตู้ทางซ้ายมือหน้าบานไม้ ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำค่ะ   ห้องน้ำแยกเป็น 3 ส่วน โดยใช้กระจกบานสวิงกั้นค่ะ ตรงกลางนี้เป็นอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง และตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงาด้านบน     ทางขวาเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระ และแกนใส่ทิชชู่   เหนือโถสุขภัณฑ์จะเจาะช่องสำหรับวางของเอาไว้ค่ะ   ส่วนเปียกมีทั้งฝักบัว และ Rain Shower เพิ่มความสดชื่นเวลาอาบน้ำค่ะ      Type 2 Bedroom 57 ตร.ม.    มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายกันแล้วนะคะ ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 Bedroom 57 ตร.ม. พื้นใช้วัสดุ Hybrid Engineering ผิวสัมผัสคล้ายกับไม้จริงมากกว่าไม้ Engineering ปรกติค่ะ โดยส่วนแรกของห้องจะเป็น Common Area ขวามือเป็นห้องครัวปิด และซ้ายมือเป็น Living Room ค่ะ    ซ้ายมือจากประตูห้องเป็นห้องครัวปิดค่ะ โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำ   มีตู้ทรงสูงอยู่ด้านข้างประตูครัวค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกเยอะ   ภายในห้องครัวจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค เคาน์เตอร์ครัววางแบบ U Shape ซึ่ง Top ครัว ใช้วัสดุหินสังเคราะห์ค่ะ     สำหรับห้อง 2 Bedroom จะได้เตาอบด้านล่างจากแบรนด์ MEX แบบนี้มาให้ด้วยนะคะ   เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ซึ่งทุกยูนิตจะเป็นการดูดควันแบบต่อท่อออกนอกอาคารค่ะ หมดปัญหาเรื่องกลิ่นและควันแน่นอน   ซิงค์ล้างจานแบรนด์ MEX   สวิทช์เปิด-ปิดไฟ ที่ติดตั้งเอาไว้ใต้ตู้ด้านบน มีที่วาง Ipad มาพร้อมฟังก์ชั่นวางแก้วเช่นเคยค่ะ   ในครัวสามารถมองออกไปเห็น Living Room ทำให้แสงสว่างจากด้านนอกผ่านระเบียงส่องถึงด้านในครัวได้ ไม่ทำให้ดูอับทึบจนเกินไปค่ะ    ใกล้กับประตูครัวจะมีช่องวางตู้เย็นขนาด 2 ประตูได้พอดีเลยค่ะ เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว   ออกมาจากห้องครัวมาดูที่ Living Room กันต่อค่ะ กลางห้องจะวางโต๊ะทานข้าวขนาด 3-4 ที่นั่งเอาไว้    ข้างโต๊ะทานข้าวจะมีหน้าต่างกระจกใส แต่จะไม่สามารถเปิดออกได้นะคะ ซึ่งห้องจริงมุมนี้ก็จะได้วิวเมืองโล่งๆ ให้ได้นั่งพักสายตา   โต๊ะที่ได้มาสำหรับห้องนี้จะเป็น Top กระจกค่ะ มาพร้อมเก้าอี้ทั้ง 3 ตัว ซึ่งจะมีทั้งแบบบุนวมหุ้มด้วยผ้า 2 ตัว และบุนวมหุ้มด้วยหนังอีก 1 ตัว ค่ะ   ถัดมาเป็น Living Room จะได้โซฟา L shape หุ้มด้วยผ้า เก้าอี้สตูลพร้อมโต๊ะกลาง Top กระจกขนาดเล็กค่ะ ด้านข้างโซฟาจะเชื่อมต่อกับระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำ    เคาน์เตอร์ทีวีจะ Built In ชั้นวางไม้มาให้ยาวตามแนวผนัง   จาก Living Room ด้านข้างโซฟาจะมีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะถึงระเบียง ช่วยป้องกันฝุ่นจากด้านนอกไม่ให้เข้ามาในห้อง   ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ โดยจะมีประตูเหล็กบานสวิงกั้นโซนเอาไว้สำหรับเป็นพื้นที่วาง Condensing Unit    กลับเข้ามาในห้องจะเห็นภาพรวมของ Common Area ทั้งหมดค่ะ ซึ่งห้องขนาด 2 Bedroom จะใช้เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้า ให้ความเย็นได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ โดยถัดจากเคาน์เตอร์ทีวีทางซ้ายมือจะเป็น Private Zone    ทางด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำและห้องนอนแรก ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็น Master Bedroom ค่ะ    เรามาดูห้องทางขวามือกันก่อนค่ะ   ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งก่อนส่วนเปียกด้านใน   ส่วนแห้งจะได้อ่างล้างหน้า ตู้เก็บของใต้อ่าง ตู้บานกระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ สายชำระ และแกนใส่ทิชชู่ ครบเซตค่ะ   ส่วนเปียกกั้นด้วยกระจกขุ่นบานสวิง ด้านในมีพื้นที่วางของหรือจะใช้สำหรับนั่งขัดตัวก็ได้ค่ะ   มีการเจาะผนังทำชั้นวางของ สำหรับห้องน้ำห้องนี้จะไม่ได้ Rain Shower มาด้วยนะคะ    ถัดมาที่ห้องนอนแรกจะได้เตียงขนาด 5 ฟุตค่ะ หากต้องการทางเดินได้รอบเตียงก็สามารถเลื่อนเตียงมาวางไว้กลางห้องก็ได้ค่ะ แต่หากต้องการพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงหรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ก็สามารถเลื่อนเตียงไว้ชิดหน้าต่างก็ได้ค่ะ   ปลายเตียงมี Built In ตู้เสื้อผ้าหน้าบานไม้ ด้านในติดกระจกเงาแบบเต็มตัวให้ด้วยค่ะ   หน้าต่างใช้บานกระทุ้ง เปิดออกได้ 1 บานค่ะ ข้อดีคือมีความแน่นหนามากกว่าแบบกระจกบานเลื่อน หากใครที่อยู่ชั้นสูงๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนลมพัดจนเกิดเสียงค่ะ   เครื่องปรับอากาศติดตั้งเอาไว้ให้ด้านข้างเตียงค่ะ   สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนแรกค่ะ    สำหรับ Master Bedroom จะได้เตียงขนาด 6 ฟุตค่ะ      ได้ Built In ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ ซึ่งเป็นหน้าบานกระจกสีดำทั้ง 2 ตู้ค่ะ ด้านในมีสวิทช์ไฟติดตั้งมาให้เช่นกันค่ะ   ข้างเตียงใช้หน้าต่างบานกระทุ้งเปิดออกได้ 1 บาน   ปลายเตียงมีตู้เก็บของให้ด้วยนะคะ โดยเฉพาะใครที่ชอบกีฬากอล์ฟก็สามารถเก็บอุปกรณ์เอาไว้ในนี้ได้อย่างสะดวก ส่วนเครื่องปรับอากาศจะถูกติดตั้งเอาไว้เหนือประตูห้องน้ำค่ะ   ห้องน้ำ Triple Function แบบนี้มีข้อดีตรงที่สามารถใช้ห้องน้ำได้พร้อมๆ กัน 2-3 คนค่ะ เช่น หากอีกคนกำลังแปรงฟันอยู่ แต่อีกคนปวดท้องเข้าห้องน้ำก็สามารถใช้ห้องน้ำได้พร้อมกันค่ะ    ด้านขวาเป็นส่วนเปียก มีที่วางของเอาไว้ให้ทั้งตรงผนังที่เจาะช่องเอาไว้ให้ และผนังด้านล่างที่สามารถใช้เป็นที่นั่งสำหรับขัดตัวได้ค่ะ   ได้ทั้งฝักบัวและ Rain Shower มาคู่กันเลยค่ะ    และซ้ายมือของห้องน้ำจะเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมช่องสำหรับวางของค่ะ     ความพรีเมี่ยม ในแบบฉบับ PITI EKKAMAI ไม่ใช่เพียงเน้นความหรูหราเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความสุขในการดำเนินชีวิตในทุกๆ วันของลูกบ้าน พร้อมกับบริการระดับ Exclusive ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มาในราคาเริ่มต้น 4.45 ล้านบาท ที่ไม่ได้แพงเลยสำหรับโครงการระดับนี้ บนทำเลกลางเมืองอย่างเอกมัย    ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษกว่า 400,000 บาท* >>> PITI EKKAMAI    
Niche Mono Sukhumvit-Bearing : นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง : รีวิวคอนโด

Niche Mono Sukhumvit-Bearing : นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง : รีวิวคอนโด

Niche Mono Sukhumvit-Bearing (นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง) คอนโดแนวคิดใหม่กับการสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ที่ร่วมทุนกันระหว่าง "SENA" กับ "Hankyu Realty" ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ NICHE MONO พร้อมเปิดตัวคอนเซปต์ "Geo fit+" รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,300,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 34 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    1,275 ยูนิต พื้นที่โครงการ    4-3-59.8 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนสุขุมวิท 70 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง ทางด่วน บางนา - ตราด ทางด่วน บางพลี สุขสวัสดิ์ อิมพีเรียล สำโรง Mega Bangna Central บางนา เทสโก้โลตัส บิ๊กซี โรงพยาบาลสำโรง โรงพยาบาลไทยนครินทร์ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 2 โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 4 โรงพยาบาลบางนา โรงเรียนนานาชาติแอนด์ดรูว์ส โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา โรงเรียนลาซาล พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 28-31 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 39 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 48 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Infinity Edge Pool 88 M Jacuzzi Sunken Deck Fitness Room 250 Sq.m. Boxing Room Games Room Yoga Room Steam Room Sky Lounge & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง Sky Relaxing Zone Amphitheatre Sky Meeting Room Double Lobby Jogging Track Tom & Toms Coffee 7-11 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 70 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/th/condominium/niche-mono-sukhumvit-Bearing
The Niche Mono Peak Bangna : รีวิวคอนโด

The Niche Mono Peak Bangna : รีวิวคอนโด

The Niche Mono Peak Bangna (เดอะ นิช โมโน พีค บางนา) คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.3 ให้ตวามเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อย ทั้งโครงการเพียง 42 ยูนิต พร้อมที่จอดรถที่มากถึง 200% และนวัตกรรม Solar Cell ที่นำพลังงานจากแสงอาทิตย์ มาผลิตไฟส่องสว่างส่วนกลางฟรี 24 ชม. โครงการใหม่จาก SENA Development ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่ www.sena.co.th รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 70,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    42 ยูนิต ( 7 ยูนิต/ชั้น) ที่จอดรถ     200% พร้อมโฉนดที่จอดรถ 1 คัน/ห้อง พื้นที่โครงการ    1 - 3 - 14 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนบางนา-ตราด (ก.ม.3 ฝั่งขาเข้า) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2560 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา บิ๊กซี บางนา โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ไบเทค บางนา BTS สถานีบางนา โรงพยาบาลปิยะมินทร์ เมกา บางนา อิเกีย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท 2 Bedroom ขนาด 62 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาท สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก Jogging Track พื้นที่สังสรรค์ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น Lobby แผงพลังงานแสงอาทิตย์ กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 28 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/th/condominium/thenichemono-bangna
The Niche id พระราม 2 เฟส 2 : รีวิวคอนโด

The Niche id พระราม 2 เฟส 2 : รีวิวคอนโด

The Niche id พระราม 2 เฟส 2 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร เปิดเฟสใหม่ ตั้งอยู่ถนนพระราม 2 ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก จาก SENA Development ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่ www.sena.co.th รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,490,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 54,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง    322 ยูนิต (อาคาร D จำนวน 189 ห้อง / อาคาร E จำนวน 133 ห้อง) ที่จอดรถ    121 คัน  คิดเป็น 37.58%  (ไม่รวมซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    2 - 3 - 83.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนพระราม2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนกรกฎาคม ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกรกฎาคม ปี 2560 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central Plaza พระราม 2 Big C พระราม 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธรบุรี โรงเรียนบางมดวิทยา โรงเรียนวรรณสว่างจิต โรงเรียนดรุณสิกขาลัย  โรงพยาบาลบางมด โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type A  1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร Type B  1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก ติดตั้งหลังคา Solar roof  ใช้ไฟแสงสว่างส่วนกลาง ฟรี  24 ชั่วโมง Main Lobby ขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ  ขนาด 7x12.5 เมตร (ไม่รวมสระเด็ก) สระเด็ก ห้องออกกำลังกาย สวน และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ริมน้ำ Shuttle Service พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. CCTV Keycard สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 23 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/form/theniche-id-rama2-phase2
THE NICHE MONO รัชวิภา : รีวิวคอนโด

THE NICHE MONO รัชวิภา : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้จะพาไปดูโครงการ The Niche Mono รัชวิภา คอนโด High Rise สูง 27 ชั้น 2 อาคาร จาก เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ติดถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกประชานุกูลตรงข้ามโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ที่เริ่มก่อสร้างไปได้สักระยะแล้วนะครับ การเดินทาง การเดินทางไปยังโครงการสามารถใช้ได้หลายเส้นทางเลยนะครับ เพราะตัวโครงจะตั้งอยู่ตรงสี่แยกประชานุกูล ติดกับสะพานข้ามแยก ฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปรัชโยธิน และยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชทั้งขาเข้าและขาออก จึงค่อนข้างสะดวกสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวทางโครงการก็จะมีรถ Shuttle Van รับส่งที่ MRT บางซื่อและ BTS หมอชิต ไว้ให้บริการ รถออกทุก 30 นาที ค่าบริการจะฟรีในปีแรก ส่วนปีต่อๆ ไปจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือเปล่า ตรงนี้ต้องสอบถามจากทางโครงการอีกทีนะครับ ต่อไปผมจะพาไปดูรอบๆ โครงการ การเดินทางไปยังจุดขึ้นทางด่วนทั้ง 2 ฝั่ง และที่สำคัญเรื่องอาหารการกิน จากที่ตั้งของโครงการถือว่าหาของกินได้ยากสักหน่อย ในระยะที่สามารถเดินได้ ถ้าหากไม่มีร้านค้าใต้คอนโด แต่ถ้าขยับออกมาอีกนิดบนถนนประชาชื่นฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปงามวงศ์วาน ตลอดแนวจะมีร้านอาหารเจ้าดัง เจ้าอร่อยอยู่เยอะที่เดียวครับ และอีกที่ก็จะเป็นถนนเทศบาลสงเคราะห์หรือประชานิเวศน์ 1 ย่านวัดเสมียนนารี ตรงนี้ก็มีร้านอาหารอยู่เยอะเหมือนกันครับ ตลาดบองมาเช่ ก็จะอยู่ตรงนี้ด้วย ตามผมมาเลยครับ.. แหล่งรวมของกินอีกแหล่งซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ในย่านนี้เลยก็ว่าได้ คือถนนเทศบาลสงเคราะห์หรือประชานิเวศน์ 1 ที่จะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด ให้เลือกเยอะแยะเลยครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ ตัวโครงการเป็นอาคาร High Rise สูง 27 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกห่างจากแยกประชานุกูลเพียงไม่กี่เมตร พาชมห้องตัวอย่าง จริงๆ ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 4 ห้องนะครับ แต่เราขอยกตัวอย่างให้ชม 1 ห้อง คือ Type A1 ขนาด 30 ตารางเมตร เพราะว่าเป็นแบบที่มีเยอะที่สุด โครงการจะขายแบบ Fully Fitted นะครับ เฟอร์นิเจอร์จะได้เฉพาะส่วนครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ส่วนแอร์ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะได้ 2 ตัวที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนจะได้แอร์ 3 ตัวที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องนั่งเล่นอีก 1 ตัว ส่วนแปลนห้องแบบอื่นๆ มีแบบไหนบ้าง มาดูกันครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ใกล้สี่แยกและจุดขึ้นลงทางด่วน ถือสะดวกในเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าหากต้องใช้ระบบขนส่งสาธารณะอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร เนื่องจากรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ถือว่าอยู่ห่างจากโครงการพอสมควร แต่ในจุดนี้ทางโครงการจะมี Shuttle Van ไว้ให้บริการรับส่งลูกบ้านที่ BTS หมอชิตและ MRT บางซื่อ ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องสาธารณูปโภครอบๆ โครงการถือว่าดีเลยที่เดียวครับ เนื่องจากใกล้แหล่งชุมชน เรื่องของกินของใช้นั้นหาได้ไม่ยาก ทั้งตลาด ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า สำหรับเรื่องการลงทุน อาจจะต้องศึกษากันหนักหน่อยครับ เพราะถึงแม้ว่าโครงการจะได้รับอานิสงค์จากรถไฟฟ้าหลายสาย แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะที่จะเดินได้ อีกทั้งตัวโครงการอยู่ห่างจากแหล่งธุรกิจ ออฟฟิศ และสำนักงานต่างๆ ที่อยู่ใกล้ที่สุดก็มีเพียงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ การหาผู้เช่าจึงอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย (คลิกดูบทวิเคราะห์การลงทุน)
The Kith Plus นวมินทร์ : รีวิวคอนโด

The Kith Plus นวมินทร์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Kith Plus นวมินทร์ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,240,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 35,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น ใกล้ถนนนวมินทร์ และรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย สถานีรามอินทรา กม.8 ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2557 ที่ตั้ง: The Kith Plus นวมินทร์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 3-3-84 ไร่ ที่ตั้ง ซอยอมรวิวัฒน์ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.835481,100.656998 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีรามอินทรา กม.8   สถานที่สำคัญใกล้เคียง Fashion Island 3.5 กม. โรงพยาบาลสินแพทย์ 1.8 กม. Lotus express 0.8 กม. ตลาดสด 0.7 กม.   ลักษณะโครงการ: The Kith Plus นวมินทร์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี Type A 1 ห้องนอน ขนาด 30.83 – 31.20 ตารางเมตร Type B 1 ห้องนอน ขนาด 38.11 – 39.06 ตารางเมตร Type C 1 ห้องนอน ขนาด 40.25 ตารางเมตร Type D 2 ห้องนอน ขนาด 53.78 – 54.21 ตารางเมตร Type E 2 ห้องนอน ขนาด 64.56 ตารางเมตร จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 7 ชั้น จำนวนห้อง 406 ยูนิต ส่วนกลาง: The Kith Plus นวมินทร์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 115 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 45% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 30 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 350 บาท   สาธารณูปโภค ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8-9 เครื่อง สวนหย่อมตรงกลาง ระหว่าง 2 อาคาร ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 102 : 1 ที่จอดรถ 115 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 45% ระบบ CCTV ทุกชั้น และตรงทางเข้าโครงการ / Access Card   เพิ่มเติม: The Kith Plus นวมินทร์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1775 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thekithcondo.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2557