Tag : นนทบุรี

3 ผลลัพธ์
ดี-แลนด์ฯ ปักหมุดทำเลทองนนทบุรี  ผุด “นนทบุรี ฯ” จับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ดี-แลนด์ฯ ปักหมุดทำเลทองนนทบุรี ผุด “นนทบุรี ฯ” จับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ดี-แลนด์ฯ ขยายฐานรับดีมานด์ที่อยู่อาศัยนนทบุรี อวดโฉมทาวน์โฮมอารมณ์บ้านเดี่ยว “บ้านดี เดอะแฮมิลตัน ชัยพฤกษ์-วงแหวน” มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์สไตล์อังกฤษ ผสานเทคโนโลยี Greenovation พร้อมฟังก์ชั่นใช้สอยครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง เดินทางเข้าเมือง-ออกต่างหวัดสะดวกสบาย มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ ในราคาเริ่มต้น 2.20 ล้านบาท     นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ในเขตกรุงเทพฯ ตอนใต้ พระราม2-สมุทรสาคร โซนภาคตะวันออก และโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนนทบุรีมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักจากการเป็นทำเลที่เป็นส่วนต่อขยายของเมือง มีการพัฒนาและเชื่อมโยงในส่วนของระบบขนส่งและสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การขยายถนนและรถไฟฟ้า เป็นเส้นทางเชื่อมต่อการเดินทางออกไปสู่จังหวัดอื่นๆ เช่น สุพรรณบุรี ปทุมธานี และยังเชื่อมต่อกับวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตกที่สามารถเดินทางไปนครปฐมหรือชลบุรีได้อีกด้วย ส่งผลให้ความต้องการ (Demand) ที่อยู่อาศัยในจังหวัดนนทบุรียังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น     ล่าสุด บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการ “บ้านดี เดอะแฮมิลตัน ชัยพฤกษ์-วงแหวน” (Baan D The Hamilton Chaiyapruek-Wongwaen) ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์บ้านเดี่ยว จำนวน 500 ยูนิต เนื้อที่โครงการรวมกว่า 49 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพ ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงการคมนาคมระหว่างนนทบุรีและโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกไว้ด้วยกัน รวมถึงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (สถานีคลองบางไผ่-เตาปูน) ในพื้นที่ดังกล่าวทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ และพื้นที่สำคัญอื่นๆ ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยโครงการบ้านดี เดอะแฮมิลตัน ชัยพฤกษ์-วงแหวน เริ่มพัฒนาโครงการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 และได้กระแสตอบรับที่ดีมากจากการเปิด Pre-Sale ในช่วงเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มียอดจองในเฟสแรกแล้วกว่า 110 ล้านบาทเลยทีเดียว     โครงการ “บ้านดี เดอะแฮมิลตัน ชัยพฤกษ์-วงแหวน” อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่เพียง 10 นาที ได้รับการออกแบบและดีไซน์ภายใต้แนวคิด “English Cottage” ที่นำความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ที่สวยงามตามแบบฉบับอังกฤษมาผสานเข้ากับงานโครงสร้างสไตล์โมเดิร์นที่คำนึงถึงการใช้งานฟังก์ชั่นในส่วนต่างๆ ของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยแบบบ้าน 3 แบบ 3 สไตล์ ดังนี้ 1. Type A: Westminster (เวสต์มินส์เตอร์) ทาวน์โฮม 2 ชั้น ปลูกสร้างบนที่ดินขนาด 28.70 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยรวม 140 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 2 คัน ในราคาเริ่มต้นที่ 3.4 ล้านบาท 2. Type B: Northampton (นอร์ทแธมป์ตัน) ปลูกสร้างบนที่ดินขนาด 21.20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท และ 3. Type C: Birmingham (เบอร์มิงแฮม) ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนที่ดิน 18.50 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยรวม 100 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 1 คัน ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท     นายศิริพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ดี-แลนด์ฯ ยังได้พัฒนาฟังก์ชั่นของตัวบ้านและภายในโครงการ “บ้านดี เดอะแฮมิลตัน ชัยพฤกษ์-วงแหวน” ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ Smart Home Automation และ Multi-Generations Living Area ภายในบ้าน ตอบรับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวที่แตกต่างกันตามช่วงวัย ด้วยคอนเซ็ปต์ “Greenovation” ซึ่งผสมผสานเข้ากับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในงานก่อสร้างต่างๆ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อาทิ การเลือกใช้สีคุณภาพที่เป็นมิตรต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการออกแบบและการจัดวางผังโครงการให้มีพื้นที่สีเขียวขนาดย่อมกระจายอยู่ทั่วทั้งโครงการ มีสวนสาธารณะส่วนกลางสไตล์อังกฤษ ขนาดกว่า 1 ไร่ ที่พร้อมเติมเต็มความสดชื่นให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด   นอกจากนี้ ภายในโครงการยังครบครันด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ สนามเด็กเล่น คลับเฮ้าส์ Co-Working Space สระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ในขณะที่บริเวณรอบโครงการแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัลเวสต์เกต อิเกียบางใหญ่ พลัสมอลล์ บิ๊กซี แม็คโคร และอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สามารถเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ หรือออกต่างจังหวัดได้อย่างสะดวก     สำหรับผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างได้ที่สำนักงานขายโครงการ “บ้านดี เดอะแฮมิลตัน ชัยพฤกษ์-วงแหวน” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1793 ต่อ 8 หรือคลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.dl.co.th และ facebook: Dlandclub
The Privacy ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

The Privacy ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

The Privacy ติวานนท์ ตั้งอยู่ในซอยติวานนท์ 50 อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคต และมีการคาดการณ์ว่าตัวโครงการจะมีระยะห่างจากตัวสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ 300 เมตร และด้วยที่เส้นทางนี้อยู่ในแนวรถไฟฟ้าความเจริญจึงเริ่มขยายตัวมาถึง ทำเลแถบนี้จึงเป็นที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้ย่านชุมชนเดิม ซึ่งมีแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ เพียบพร้อมอยู่แล้ว   การเดินทาง   ปัจจุบันการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมายังโครงการถือว่าสะดวกดีทีเดียว เพราะมีทั้งเส้นทางหลักอย่างถนนติวานนท์ ถนนสามัคคี รวมถึงถนนเส้นอื่นๆ ที่ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงได้ทั้งทางแยกแครายออกถนนงามวงศ์วานซึ่งมีด่านขึ้นลงทางด่วนห่างออกไปไม่ไกล รวมถึงถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนสนามบินน้ำ ที่ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงออกไปทางสะพานพระนั่งเกล้าได้อีกทาง แต่ปัญหารถติดก็ยังคงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ยิ่งตอนนี้ถนนไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งอยู่ใกล้ๆ กำลังก่อสร้าง รถที่เลี่ยงมาใช้ถนนติวานนท์ก็เยอะ พอรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้แล้ว ก็ใช่ว่าจะปัญหารถติดจะหมดไปนะครับ เพราะหลังจากปี 57 ซึ่งตัวโครงการพร้อมเข้าอยู่แล้ว รถไฟฟ้าสายสีชมพูบนเส้นติวานนท์ก็จะเริ่มทำการก่อสร้างกันต่อ ปัญหาการจราจรจึงติดยาวกันไปอีกหลายปี   เริ่มต้นมาจากทางด่วน ลงแจ้งวัฒนะเลยครับ วิ่งไปทางปากเกร็ดนะครับ วิ่งเลนในนะ อย่าขึ้นสะพาน ไม่ใช่ว่าไปไม่ได้แต่จะโดนกล้องถ่ายเอาได้ครับ ผ่านทางเข้า เมืองทองธานีไปครับ ผ่านโรงพยาบาล World Medical Center ผ่านตึกจัสมิน เมื่อเลยตึกจัสมินมาก็จะเห็นสะพานลอย ให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด เข้าถนนเลี่ยงเมือง ก็วิ่งตรงยาวเลยครับ พอมาถึงสามแยกให้เลี้ยวขวา ทางซ้ายจะไปซอยสามัคคี เจอสามแยกให้เลี้ยวซ้ายอีกทีครับ ให้ชิดซ้ายเพื่อเข้าซอยติวานนท์ 50 เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วก็ตรงเข้าไปเรื่อยๆเลยครับ ถึงแล้วโครงการ The Privacy ติวานนท์ ยังไม่มีอะไรขึ้นเลยครับ ส่วนการเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะ บริเวณปากซอยติวานนท์ 50 ก็มีทั้งรถแท็กซี่ รถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ การเดินทางไปไหนมาไหนจึงไม่ลำบากนัก แค่ต้องเผื่อเวลากันให้ดีๆ หน่อย ส่วนหลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าพร้อมเปิดใช้บริการแล้วการเดินทางคงสะดวกขึ้นมาก ในระยะแรกๆ คงได้พึ่งพารถไฟฟ้าสายสีม่วงกันไปก่อนสำหรับการเดินทางเข้าเมือง พอรถไฟฟ้าสายสีชมพูแล้วเสร็จก็น่าจะสะดวกยิ่งขึ้นไปอีก ถึงจะต้องเปลี่ยนสายกันหลายต่อหน่อย แต่ก็ยังพอจะกะเวลาเดินทางที่แน่นอนได้   วิเคราะห์ตัวโครงการ   ทำเลที่ตั้งโครงการ The Privacy ติวานนท์ อยู่ในย่านชุมชนเดิมบรรยากาศจึงค่อนข้างพลุกพล่านอยู่พอสมควร แต่ด้วยความที่ตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ และอยู่ห่างจากปากซอยติวานนท์ 50 เข้ามาอีกประมาณ 100 เมตร บรรยากาศรอบโครงการจึงค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยขึ้นเยอะ ยิ่งบ้านเรือนในซอยนี้ก็เป็นบ้านเดี่ยวเตี้ยๆ ไม่มีตึกสูงอยู่ใกล้ๆ จึงไม่ห่วงเรื่องเสียงรบกวนเลย ถึงจะบอกว่าตัวโครงการอยู่ในย่านชุมชนที่มีบรรยากาศคึกคัก แต่เรื่องอาหารการกิน ร้านค้า ร้านอาหารที่พอจะฝากท้องได้ก็ไม่มีอยู่ในระยะที่เดินสบายๆ เลย บริเวณปากซอยส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านจำพวกฮาร์ตแวร์ อุปกรณ์ก่อสร้าง จานดาวเทียม แบตเตอรี่รถยนต์ ฯลฯ แต่ถ้าขับรถขยับออกไปหน่อยก็จะมีทั้ง ห้างโลตัส ติวานนท์ โลตัสรัตนาธิเบศร์ The Mall งามวงศ์วาน Big C Extra แจ้งวัฒนะ รวมถึง Central แจ้งวัฒนะ และ Central รัตนาธิเบศร์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในรัศมีที่สามารถเดินทางได้ในระยะเวลา 10-15 นาที (ถ้ารถไม่ติด) นอกจากนี้แล้วบริเวณรอบๆ ยังมีสถานที่ราชการใหญ่ๆ โรงพยาบาล อีกหลายแห่ง ถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยเส้นทางอยู่บ้าง หรือทำงานในแถบนี้ คงจะเคยชินกับสภาพแวดล้อมได้ไม่ยาก สำหรับตัวโครงการ The Privacy ติวานนท์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7 ชั้น มีจุดเด่นที่ตัวโครงการมีขนาดค่อนข้างเล็กและมีจำนวนยูนิตค่อนข้างน้อย รวมทั้ง 2 อาคารแล้วก็มีจำนวนแค่ 156 ยูนิต (อาคารละ 78 ยูนิต) ดังนั้นจึงได้เรื่องความเป็นส่วนตัวมากกว่าโครงการใหญ่ๆ แน่นอน ตัวอาคารไม่ได้มีลูกเล่นในการออกแบบเป็นพิเศษ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ชูเรื่องเพดานห้องที่สูง 2.6 เมตรและเรื่องช่องลมที่ช่วยระบายอากาศ ทำให้อากาศภายในอาคารไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ภาพรวมของตัวโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ถึงจะอยู่บนพื้นที่เดียวกันแต่ก็แยกออกจากกันเป็น 2 โครงการ คือ โครงการ A ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าโครงการเป็นอาคารทรงตรงๆ แบบปกติ ส่วนโครงการB จะเป็นอาคารรูปตัว L อยู่ทางด้านใน โดยทั้ง 2 อาคารจะใช้ทางเข้าออกแยกกันอย่างชัดเจน รวมถึงการบริหารงานก็ใช้นิติบุคคลดูแลแยกกันนะครับ เว้นแต่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องฟิตเนส สวนหย่อม และล็อบบี้ที่ยังใช้ร่วมกัน ที่จอดรถจะมีเฉพาะบริเวณใต้อาคารนับรวมจอดซ้อนคันแล้วสามารถจอดได้ทั้งหมด 62 คันเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก ถ้าคิดว่าตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ยังต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถส่วนตัวพอสมควร ส่วนเรื่องลิฟท์โดยสารนั้น แต่ละอาคารมีลิฟท์ให้ 1 ตัว อัตราส่วนที่ 1:78 ห้องถือว่าไม่หนาแน่นมากแต่ลิฟท์ห้ามเสียเด็ดขาด ไม่งั้นได้เดินขึ้นบันไดกันสนุกแน่ Plan ของอาคาร A Plan ของอาคาร B ภาพตัวโมเดลของโครงการ The Privacy ติวานนท์ ครับ อีกมุมนึงของโมเดลโครงการ The Privacy ติวานนท์   พาชมห้องตัวอย่าง   สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ The Privacy ติวานนท์ เรามีโอกาสได้เข้าไปชมห้องที่โครงการ The Privacy งามวงศ์วานแทน เนื่องจากสำนักงานขายได้ย้ายไปตั้งอยู่ที่งามวงศ์วาน ซึ่ง 2 โครงการนี้มีความใกล้เคียงกันทั้งตัวแปลนและ Lay out ห้อง แบบห้องที่มีมากที่สุดก็คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตร.ม. ซึ่งถ้าใครที่เคยมีโอกาสได้ชมห้องตัวอย่างในเครือ The Privacy มาบ้าง ก็คงจะเห็นถึงความใกล้เคียงกันกับโครงการอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ห้องที่นี่จะขายให้แบบ Fully Furnished เลย เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องครัวก่อนเลย ซึ่งเป็นครัวเล็กๆ ขนาดกำลังเหมาะกับการเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากเป็นครัวแบบเปิด แน่นอนว่าเคาน์เตอร์ครัว พร้อมซิงค์ล้างจานก็ Built-in มาให้แล้ว ส่วนด้านตรงข้ามกับ Pantry ครัวจะเป็นห้องน้ำ ที่สามารถเปิดประตู้เข้าห้องน้ำได้ทั้งจากทางห้องครัวและห้องนอนครับ ถัดจากบริเวณครัวเข้ามาก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง โดยระยะระหว่างโซฟากับผนังนั้นไม่ได้กว้างมากนัก ดังนั้นแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดีกว่ามาก นอกจากจะประหยัดพื้นที่แล้วยังช่วยเพิ่มระยะการดูทีวีได้ด้วยครับ ติดกันกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไปยังระเบียง ซึ่งมีพื้นที่ให้ใช้งานได้เต็มที่ เพราะทางโครงการเลือกที่จะแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบน เราจึงได้พื้นที่ใช้สอยบริเวณระเบียงไปเต็มๆ ธรณีประตูระเบียงก็ก่อมาให้สูงมาก ได้ข้อดีเรื่องไม่ต้องห่วงว่าน้ำจากระเบียงจะท่วมเข้าห้องครับ ถัดเข้ามาดูที่ห้องนอนกันบ้างครับ พื้นที่ห้องนอนไม่ได้กว้างมากนัก วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตเข้าไปก็เกือบจะไม่เหลือพื้นที่ปลายเตียงแล้ว แต่กลับกันพื้นที่ห้องที่มีลักษณะลึกเป็นแนวยาวมากกว่า บริเวณหน้าห้องน้ำจึงมีพื้นที่มากพอที่จะวางตู้เสื้อผ้าใหญ่ได้ 2 ตู้ เลยทำให้เหมือนได้พื้นที่แต่งตัวแบบ walk in closet เพิ่มขึ้นมา ส่วนในห้องน้ำก็จัดพื้นที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้เรียบร้อย มี Shower Box ติดตั้งมาให้พร้อมชุดสุขภัณฑ์มาตรฐาน แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้นะครับ อันนี้ต้องไปติดเพิ่มกันเอง อ้อ! อีกอย่างที่ติดตั้งมาให้พร้อมห้องเลยก็คือ Digital Door Lock ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบ Key Card และกดรหัสเข้าห้อง   Plan ห้องขนาด 28.00 ตร.ม. เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเห็นส่วนครัวอยู่ทางซ้าย มุมครัวจะมีโต๊ะทานข้าวอยู่ติดกับส่วนครัว ซิ้งค์ล้างจานก็ใช้เป็นแบบมาตรฐาน ถัดจากส่วนครัว ก็จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ถัดไปก็จะเป็นส่วนของระเบียง จากห้องนั่งเล่นมองออกไปทางประตู มาที่ห้องนอน ในห้องนอนก็จะมีหน้าต่างบานใหญ่ไว้รับแดดอีกด้วย ส่วนของโต๊ะเครื่องแป้ง มองจากด้านในมองออกมาก็จะเห็นว่าส่วนของโต๊ะเครื่องแป้งนั้นจะอยู่อีกมุมนึง ตู้เสื้อผ้านก็จะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ เข้ามาในห้องน้ำกันครับ มีกระจกกั้นส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจนครับ ฝักบัวที่โครงการให้มาครับ ชักโครกใช้ของ MOGEN อ่างล้างหน้าใช้แบบมาตรฐาน สวิทส์ไฟก็ใช้แบบธรรมดา Plan ห้องขนาด 33.00 ตร.ม. Plan ห้องขนาด 50.00 ตร.ม. ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดอยู่อาศัยในย่านติวานนท์-แจ้งวัฒนะ โครงการ The Privacy น่าจะเหมาะกับความต้องการ เพราะทั้งทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็ใกล้แหล่งชุมชน อีกทั้งยังได้พึ่งพาใช้งานรถไฟฟ้าสายสีชมพูด้วยในอนาคต การเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าจึงสะดวกขึ้นมากเลยทีเดียว ส่วนคนที่ใช้รถส่วนตัวอยู่แล้วการเดินทางไปไหนมาไหนก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย นอกจากเรื่องการจราจรติดขัดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก นอกจากนี้สาธารณูปโภคต่างๆ ก็อยู่แวดล้อมในระยะที่เดินทางถึงได้ไม่ยาก ถึงจะไม่ค่อยมีร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารให้พึ่งพาในระแวกใกล้ๆ แต่ห้างสรรพสินค้าก็มีหลายแห่งให้เลือกไปจับจ่ายใช้สอยได้ เช่นเดียวกันกับ Facilities ส่วนกลางที่มีมาให้ครบถ้วน แต่ก็เป็นแบบแค่พอใช้งานเท่านั้น ถ้าใครไม่ได้ซีเรียสเรื่องส่วนกลางมากก็จัดว่าอยู่ในระดับที่รับได้ครับ ส่วนซื้อหาห้องไว้เพื่อการลงทุน จัดว่าทำเลในย่านนี้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยโครงการรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงที่ใกล้จะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะเริ่มสร้างในอนาคตอันใกล้นี้ จึงทำให้ความเจริญด้านต่างๆ ขยายตัวเข้ามามากขึ้น อีกทั้งในระแวกใกล้ๆ ก็มีศูนย์ราชการนนทบุรี และสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลเฉพาะทาง และโรงงานด้วย การปล่อยห้องให้เช่าจึงเป็นเรื่องที่น่าจะทำได้ไม่ยาก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นผู้เช่าซึ่งทำงานอยู่ระแวกนี้มีจำนวนมากพอสมควร รวมถึงการปล่อยขายห้องให้ผู้ที่สนใจและอยากได้ที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานก็มีโอกาสทำกำไรได้เช่นกัน
SONY DSC : รีวิวคอนโด

SONY DSC : รีวิวคอนโด

คอนโด LPN Park รัตนาธิเบศร์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์ (สายสีม่วง) ชนิดที่ทางขึ้นสถานีแทบจะเกยอยู่หน้าโครงการเลยทีเดียว เพราะตั้งอยู่ห่างเพียง 100 เมตรจากหน้าทางเข้าเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานีรถไฟฟ้าที่ฮ็อตมากแห่งหนึ่งบนเส้นทางนี้ เพราะบริเวณใกล้ๆ มีโครงการอื่นๆ ให้เลือกอยู่พอสมควร อยู่ที่ว่าใครจะได้เปรียบในเรื่องทำเลที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากกว่ากันเท่านั้นเอง การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการถือว่าสะดวกพอสมควรเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะอยู่ใกล้ทางด่วนงามวงศ์วาน รวมทั้งยังมีเส้นทางเลี่ยงเมือง และถนนติวานนท์ จึงทำให้พอจะมีทางหนีรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้บ้างไม่มากก็น้อย เนื่องจากช่วงเวลาที่รถติดนั้นก็ติดกันจริงจังชวนให้หงุดหงิดกันได้ง่ายๆ เหมือนกัน ถึงจะเป็นถนนกว้างหลายเลนแต่ด้วยปริมาณรถที่มากกว่า เวลาจะไปไหนมาไหน หรือต้องรีบเดินทางไปทำงานในเมืองจึงต้องเผื่อเวลากันให้ดีๆ นะครับ ส่วนการเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะอื่นๆ ก็ดูจะไม่น่ามีปัญหาเท่าไหร่สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว เพราะมีทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการเพียบ แต่ถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเมื่อไหร่ การเดินทางเข้าออกเมืองก็จะยิ่งสะดวกมาขึ้นและช่วยประหยัดเวลาได้อีกหลายเท่า ซึ่งกว่าจะได้ใช้ก็น่าจะไล่ๆ กับเวลาที่ตัวโครงการจะแล้วเสร็จนั่นแหละครับ เนื่องจากตัวโครงการ LPN Park รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ถ้าเรามาจากทางแยกแคราย ก็ตรงเข้าถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าไปทางบางบัวทอง ผ่านเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ไปนิดหน่อยแล้วกลับรถมายังตัวโครงการอีกประมาณ 700-800 เมตรเท่านั้น ระยะทางแค่นี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่ครับ ถ้ารถไม่ติดก็ใช้เวลาแป๊บเดียวเอง ถ้าใครทำงานใกล้ๆ บริเวณนี้ หรือที่ทำงานอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าเหมือนกัน การหวังพึ่งรถไฟฟ้าคงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ เดินจากในโครงการออกมากไกลสุดอย่างมากก็ไม่เกิน 400-500 เมตร ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว ส่วนระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า 100 เมตร ตามที่โครงการคุยไว้ เค้านับจากหน้าทางเข้านะครับ ถ้าเลือกได้ตึกแรกหน้าโครงการก็ถือว่าใกล้เคียง แต่ถ้าอยู่ที่ตึกด้านในสุดก็ต้องเดินกันไกลหน่อยล่ะครับ วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ ทำเลแถบนี้ยังถือว่าไกลจากศูนย์กลางธุรกิจ หรือกลางเมืองพอสมควรเหมือนกัน บรรยากาศรอบๆ ก็ยังไม่ได้เจริญเท่าที่ควร ร้านค้า ร้านอาหารที่พอจะพึ่งพาได้ในระยะเดินถึงก็มีเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น ที่ดูเหมือนจะดีหน่อยก็มีห้าง Big C ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งร้านค้าภายในก็อาจจะแค่พอถูไถ ไม่ได้มีให้เลือกมากมายนัก ถ้าจะให้ดีก็ต้องเลยไปทางห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ หรือไปทางงามวงศ์วานก็จะมีทั้ง Lotus, The Esplanade, The Mall, Home Pro และห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า พื้นที่รอบๆ โครงการยังเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ ในระยะประชิดจึงไม่มีอาคารสูงขึ้นขนาบข้าง สำหรับตัวโครงการ LPN Park เป็นคอนโด High Rise โครงการใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตรวมทั้งหมดกว่า 3,000 ยูนิต แบ่งออกเป็น 5 อาคาร บนเนื้อที่ 14 ไร่ ซึ่งทางเข้าโครงการอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้า และอยู่ห่างจากทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์เพียง 100 เมตร จึงค่อนข้างสะดวกถ้าหากตั้งใจจะพึ่งพาการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลักอยู่แล้ว ด้วยรูปที่ดินที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าลึกเข้าไปด้านใน อาคารแต่ละหลังจึงตั้งเรียงตัวกันไปเป็นแนวยาวตั้งแต่ตึก A-E โดยที่รูปแบบการออกแบบอาคารก็เป็นไปตามมาตรฐานของลุมพินีในรูปทรงตัว L ระยะห่างของแต่ละอาคารค่อนข้างน้อย ด้วยระยะห่างเพียง 10 เมตรเท่านั้น เลยบังมุมกันเองซะเป็นส่วนใหญ่ เปิดหน้าต่างห้องมาก็เห็นเพื่อนบ้านอยู่กันอุ่นหนาฝาคั่งเลยทีเดียว เรื่อง Facility ต่างๆ ในโครงการ จะใช้พื้นที่ระหว่างอาคาร C และ D เป็น Club House ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนหย่อมรวมกันอยู่ในที่เดียวกัน นั่นก็หมายความว่าผู้อยู่อาศัยทุกยูนิตจะต้องเดินมาใช้ Facility ส่วนกลางร่วมกัน ความแออัดและอัตราความหนาแน่นจึงสูงอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ เพราะดูยังไงแล้วก็ไม่มีทางเพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านทุกยูนิตแน่นอน เตรียมทำใจกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้เลย ส่วนเรื่องที่จอดรถ ถึงแม้แต่ละอาคารจะมีที่จอดรถใต้อาคารรวมถึงที่จอดรถกลางแจ้งบริเวณรอบๆ แล้ว ก็ยังมีปริมาณเพียง 40% เท่านั้น ไม่ว่าจะพยายามจัดการเรื่องปัญหาการจอดรถด้วยการเก็บค่าที่จอดรถรายเดือนแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้อยู่ดี เช่นเดียวกันกับเรื่องลิฟท์โดยสารในแต่ละอาคารที่มีอัตราความหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ที่ 300 ห้อง ต่อลิฟท์ 1 ตัว เชื่อว่าในชั่วโมงเร่งด่วนได้รอลิฟท์กันนานแน่ ถ้าเลือกอยู่ชั้นที่ไม่สูงมากนัก อาจจะเลี่ยงปัญหาการรอลิฟท์ได้ด้วยการเดินขึ้นลงบันไดแทนครับ พาชมห้องตัวอย่าง สำหรับห้องตัวอย่างของ LPN Park รัตนาธิเบศร์นั้น ก็ไม่ได้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในแบรนด์ LPN เท่าไหร่ ทั้งเรื่องขนาดห้องที่เริ่มต้นกันที่ 22.5 ตร.ม. ซึ่งขายกันมาแบบห้องเปล่าๆ จะมีตกแต่งให้ก็แค่ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ที่เหลือกถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์ Built in ตามแบบห้องตัวอย่างก็ต้องจ่ายเพิ่มกันไปตามระเบียบ การจัดวาง Lay out ห้องไม่ได้มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากเดิม เนื่องด้วยขนาดห้องที่ค่อนข้างกระทัดรัดมากๆ พอเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วก็จะเจอพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นเลย มีการจัดวางชั้นวางทีวีไว้ที่หลังประตู พื้นที่ห้องนอนถูกแบ่งให้เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แถมมาด้วยการ Built in ตู้เสื้อมาเล็กๆ มาให้อีกอย่าง ขยับมาอีกทางก็จะเป็นห้องครัวที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่ถึงอย่างไรก็ยังพอจะใช้ประกอบอาหารได้บ้างเล็กๆ น้อย เพราะนอกเหนือจากซิงค์ล้างจานแล้ว ยังพอมีพื้นที่เหลือให้วางเตาไฟฟ้าและเตาไมโครเวฟได้ด้วย ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามครัว ในห้องตัวอย่างวางโต๊ะกินข้าวตัวยาวหันหน้าเข้ากำแพงไว้ให้เห็นเป็นไอเดีย ห้องน้ำที่อยู่บริเวณเดียวกันกลับห้องครัว มีขนาดเล็กกว่าห้องแบบอื่นๆ นะครับ เรื่องสุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เป็นแบบธรรมดาสามัญ ส่วนฉากกั้นอาบน้ำ ทางโครงการไม่ได้มีมาให้ ต้องติดตั้งกันเองครับ ที่เหลือก็เป็นบริเวณระเบียงเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากห้องครัวไป ซึ่งมีพื้นที่ใช้จำกัดมากๆ แค่วางเครื่องซักผ้าลงไปก็แทบจะไม่มีที่เหลือให้พอตากผ้ากันแล้ว สำหรับห้องตัวอย่างในแบบ 22.5 ตร.ม. และแบบ 26 ตร.ม. จะมี Lay out เหมือนกันเป๊ะ ต่างกันแค่ขนาดของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเท่านั้นเอง ซึ่งห้องแบบ 26 ตร.ม. ดูจะอยู่สบายกว่าหน่อย เพราะขนาดห้องมีความลึกมากกว่า จึงให้ความรู้สึกโล่งและอึดอัดน้อยกว่านั่นเอง นอกจากเรื่องขนาดห้องที่ค่อนข้างกระทัดรัดของ Lay out ห้องแบบนี้แล้ว ถ้าสังเกตุให้ดี ก็จะเห็นว่าเรื่องตำแหน่งในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศดูจะผิดที่ผิดทางไปซักหน่อย เครื่องหนึ่งติดตั้งไว้ในห้องนอนซึ่งก็ดูปกติดี ในขณะที่เครื่องปรับอากาศอีกเครื่องกลับไปติดตั้งในบริเวณห้องครัว เหนือประตูระเบียงซึ่งอยู่ด้านในสุด จึงไม่น่าจะทำความเย็นให้กับห้องนั่งเล่นได้เลย มีแต่จะทำความเย็นให้ห้องน้ำแทนซะมากกว่า นอกจากห้องแบบ 1 ห้องนอนที่ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ได้ชมกันแล้ว ก็ยังมีห้องตัวอย่างของห้องแบบ 2 ห้องนอนไว้ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะการ Combine ห้องเข้าด้วยกัน พื้นที่ใช้สอยที่ได้จึงกว้างขวาง และเป็นสัดส่วนมากขึ้น ทั้งเรื่องห้องครัวที่มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเป็นสัดส่วน และมีพื้นที่นั่งเล่น รวมถึงบริเวณรับประทานอาหารที่กว้างขึ้น สามารถอาศัยอยู่กันแบบครอบครัว 3-4 คนได้สบายเหมือนกัน ความคุ้มค่าการลงทุน โครงการ LPN Park รัตนาธิเบศร์ ถือว่าได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์มาก เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง แถมยังเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่มาก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับความสนใจมากถูกจองจนเกือบจะเต็มทุกยูนิตแล้ว ด้วยการตั้งราคาห้องไว้ที่ล้านต้นๆ ทำให้จับต้อง และตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของกันได้ง่ายหน่อย โดยเฉพาะคนที่ต้องการที่อยู่อาศัย และทำงานในย่านนี้อยู่แล้ว ปัจจัยเรื่องการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาหนักหนา เพราะมีรถราวิ่งผ่านเยอะ ไหนจะรถไฟฟ้าที่น่าจะเปิดให้บริการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นอีก การซื้อหาไว้เก็งกำไร หรือปล่อยห้องให้เช่าก็ดูจะเป็นไปได้มาก เพราะบริเวณใกล้ๆ มีทั้งศูนย์ราชการฯ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาอีกหลายแห่ง กลุ่มคนเช่าห้องที่เป็นคนทำงาน หรือนักศึกษาก็น่าจะมีเข้ามาเรื่อยๆ นะครับ แต่ถ้าคิดจะซื้อหาไว้อยู่เอง เราแนะนำว่าให้ลองพิจารณาดีๆ ว่าตัวคุณเองพร้อมที่จะรับมือกับการอยู่ร่วมกันแบบชุมชนขนาดใหญ่เช่นนี้หรือเปล่า ไหนจะเรื่อง Facility ที่มีค่อนข้างจำกัด และเรื่องที่อาจจะต้องรอลิฟท์นานในชั่วโมงเร่งด่วน หรือเรื่องปัญหาที่จอดรถที่ไม่เพียงพอ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องขนาดห้องที่ค่อนข้างเล็กกระทัดรัดซะเหลือเกิน และทางโครงการขายมาให้แบบห้องเปล่าๆ การจะหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งให้ลงล็อคพอดีกับพื้นที่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ Built in กับทางโครงการก็ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ก็ต้องคิดเผื่อค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นมาด้วย เพราะไม่แน่ว่าราคาห้องรวมๆ เข้าแล้ว อาจจะมีห้องจากโครงการอื่นที่ดีกว่า หรือคุ้มค่ากว่า ถึงแม้ว่าทำเลอาจจะด้อยกว่าหน่อยก็ตาม