Tag : รีวิวคอนโดย่านรัชดา

2 ผลลัพธ์
MAESTRO 03 RATCHADA-RAMA9 (มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม9) ทำเลดี เฟอร์นิเจอร์ครบ : รีวิวคอนโด

MAESTRO 03 RATCHADA-RAMA9 (มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม9) ทำเลดี เฟอร์นิเจอร์ครบ : รีวิวคอนโด

หลายครั้งที่เราเอ่ยถึงคอนโดมิเนียมในย่าน New CBD ที่แต่ละ Developer ต่างก็ขยันกันสร้างโครงการใหม่ขึ้นมาอย่างหนาแน่นในพื้นที่แทบจะติดกัน เรื่องราคาก็แรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในรีวิวฉบับนี้เราลองมาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างค่ะ เพราะแม้จะอยู่ในย่านเดียวกัน แต่ขยับเข้ามาในซอยอีกนิดก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบครันแบบ FULLY FURNISHED ราคาน่าสนใจ เดินหาของกินรอบโครงการได้มากมาย ที่สำคัญคือเป็นคอนโดมิเนียมเพียงโครงการเดียวในบริเวณสี่แยกพระราม 9 ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ด้วยนะคะ     ทำเล   ขึ้นชื่อว่าเป็น New CBD ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เช่น เซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูนทาวน์, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์, บิ๊กซี, เดอะสตรีท รัชดา และอาคารออฟฟิศเกรดเออย่าง จี ทาวเวอร์, เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ไซเบอร์เวิลด์ เป็นต้น และยังใกล้โรงพยาบาลพระราม 9 โรงพยาบาลปิยะเวท สถานฑูตจีน สถานฑูตเกาหลี ส่วนช่วงกลางคืนก็ยังมีตลาดนัดรถไฟรัชดา ศูนย์รวมของอร่อยเด็ดๆ เอาไว้เพียบ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน ทั้งหมดนี้จะให้ขนานนามว่าเป็นย่านที่ All Day All Night ก็คงจะไม่ผิดนัก   การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงถนนอโศก-ดินแดง ซึ่งสามารถวิ่งตรงที่ฝั่งขาออกไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็ใกล้กับ MRT สถานีพระราม 9 ประมาณ 600 เมตร โดยห่างไปเพียง 1 สถานี ก็จะเป็น Interchange กับ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน และถัดไปก็จะถึง MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งก็เป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอโศก อีกเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปเชื่อมต่อกับโซน CBD เดิมอย่างสาทร-สีลม ได้อย่างสะดวกรวดเร็วอีกด้วยค่ะ          ภายในซอยรัชดา 3 เป็นซอยที่มีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงกลางวันที่มีร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่มากมายจนเรียกได้ว่าอยู่ล้อมรอบโครงการเลยค่ะ ตั้งแต่ร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านคาเฟ่ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลี ร้านแฮงค์เอ้าท์ช่วงกลางคืน ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. ร้านขายยา คลินิกทันตกรรม ฯลฯ แต่ละร้านก็ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ ฉะนั้นอยู่แถวนี้หาของกินง่ายมากๆ หายห่วงเรื่องปากท้องไปเลยค่ะ   ภาพรวมโครงการ   MAESTRO 03 RATCHADA-RAMA 9 คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร รวมทั้งหมด 335 ยูนิต ขนาดห้อง 29-74 ตร.ม. ที่จอดรถ 45% อยู่ที่ชั้นใต้ดิน จำนวน 2 ชั้นของทุกอาคาร ตั้งอยู่ภายในซอยรัชดา 3 (ซอยข้างสถานฑูตจีน) บนพื้นที่ 3-0-18 ไร่ ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท      สถาปัตยกรรมของโครงการนี้ ซึ่งเป็นคอนโดประเภท Low Rise นั้นได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากอาคารดีไซน์ยุคคลาสสิกตามเมืองใหญ่ในยุโรปที่ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้กลางเมืองใหญ่อันทันสมัย จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสไตล์ยูโรเปี้ยนคลาสสิก กลิ่นอายตะวันตก ผสานกับศิลปะร่วมสมัยจากเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ได้อย่างลงตัว     Facility ถูกออกแบบมาให้เป็น Clubhouse สร้างบรรยากาศความเป็นธรรมชาติของสวนในหมู่บ้าน พร้อมกับมีสระว่ายน้ำสไตล์ยุโรป เข้ากับดีไซน์ของตัวอาคารที่โอบล้อมเอาไว้อยู่ เพิ่มแสงธรรมชาติเข้าถึงห้องพักอาศัย ให้ความรู้สึกเงียบสงบได้อยู่กับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น มีมุมลานบาร์บีคิว ลานหินสำหรับเดินนวดเท้า ห้องซาวน่า ห้องสตีม ทั้งหมดก็เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย ขณะเดียวกันก็สามารถพาสัตว์เลี้ยงออกมาวิ่งเล่นออกกำลังกับเจ้าของไปด้วยกันได้ที่ Jogging Track รอบๆ อาคาร และพื้นที่ซุ้มคนรักสัตว์เลี้ยง โดยลูกบ้านที่ต้องการจะเลี้ยงสัตว์จะต้องทำตามกฎระเบียบเพื่อการอาศัยอยู่ร่วมกันได้ในระยะยาวกับลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ด้วย ดังนี้  - การนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาเลี้ยง จะต้องขออนุญาตฝ่ายบริหารอาคารฯ และลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยงไว้เป็นข้อมูล โดยชำระค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียน จำนวน 3,600 บาท/ต่อตัว/ต่อปี(ค่าใช้จ่ายนี้จะนำมาเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์) - ชำระเงินประกันความเสียหายจำนวน 5,000 บาท/ต่อตัว (เรียกเก็บครั้งแรกครั้งเดียว) และจะคืนให้เมื่อเจ้าของห้องชุดเลิกเลี้ยงสัตว์/สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต และไม่พบการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดและ/หรือพบความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับเจ้าของห้องชุด/เจ้าของร่วม/อาคารชุดรวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง) - สัตว์เลี้ยงที่เจ้าของห้องชุดจะเลี้ยง จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม เมื่อโตเต็มที่ เจ้าของห้องชุดสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้ 1 ตัว / พื้นที่น้อยกว่า 50 ตร.ม. และไม่เกิน 50 ตร.ม. 2 ตัว / พื้นที่ 100 ตารางเมตร 3 ตัว / พื้นที่ 150 ตารางเมตร เป็นต้นไป (จำนวนสูงสุดของสัตว์เลี้ยงจะมีได้ไม่เกิน 3 ตัวต่อ 1 ห้องชุดเท่านั้น) - สัตว์เลี้ยงจะต้องมีสายผูก/จูงและมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง กฎระเบียบ ข้อห้าม ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ รวมถึงบทลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามกฎ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ   Master Plan หน้าโครงการติดกับถนนในซอยรัชดา 3 (ซอยข้างสถานฑูตจีน) มีทางเข้า-ออกโครงการทางเดียว ซึ่งหันหน้าทางทิศใต้ โดยอาคาร A จะอยู่ด้านหน้าโครงการ อาคาร B ทางทิศตะวันตก กับ อาคาร C ทางทิศตะวันออกของโครงการจะโอบล้อมสระว่ายน้ำตรงกลางโครงการเอาไว้ มีพื้นที่จอดรถอยู่ชั้นใต้ดินจำนวน 2 ชั้นของทั้ง 3 อาคาร และรอบนอกอาคาร B และ C มี Jogging Track ที่มีรั้วต้นไม้ตลอดสองข้างทาง พร้อมซุ้มคนรักสัตว์เลี้ยงที่มุมด้านนอกอาคาร Plan อาคาร A ถูกวางอยู่ด้านหน้าสุดของรั้วโครงการ ชั้น Ground ใกล้กับทางเข้าอาคารจะมีลานจอดซุปเปอร์ไบค์ ส่วนล็อบบี้ของอาคารนี้จะมีห้องที่เป็นที่ตั้งของนิติบุคคล ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และบันไดหนีไฟ 2 จุด ส่วนยูนิตพักอาศัยจะหันหน้าออกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ทางด้านหน้าโครงการ กับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วิวด้านในตัวโครงการ    Plan อาคาร B เมื่อยืนหันหลังให้อาคาร A ทางซ้ายมือของสระว่ายน้ำจะเป็นอาคาร B ซึ่งถูกวางเป็นรูปตัว L โดยมียูนิตพักอาศัยที่หันหน้าออกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้วิวด้านนอกโครงการ ยูนิตทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะได้วิวนอกโครงการทางฝั่งด้านหลังอาคาร ซึ่งจะมองเห็นอาคารตลาดหลักทรัพย์ อาคารเอไอเอแคปปิตอล เซนเตอร์ และยูนิตทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง    Plan อาคาร C ทางขวามือของสระว่ายน้ำคืออาคาร C วางเป็นรูปตัว L โดยมียูนิตพักอาศัยที่หันหน้าออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะได้วิวนอกโครงการทางฝั่งด้านหลังอาคาร ซึ่งจะมองเห็นอาคารตลาดหลักทรัพย์ อาคารเอไอเอแคปปิตอล เซนเตอร์ ส่วนยูนิตทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ได้วิวทางสถานฑูตจีน และยูนิตทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง            Unit Plan ทุกยูนิตจะได้เฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบ Built In และแบบลอยตัวครบเซต พร้อมเครื่องปรับอากาศที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนทุกห้องแบบเดียวกันทุกยูนิต จะมีเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น, โทรทัศน์ เท่านั้นที่ไม่ได้มีมาให้ โดยแต่ละอาคารจะมีห้องหลายขนาด ดังนี้ อาคาร A 1 Bedroom 29-33.57 ตร.ม., 2 Bedroom 57.67-67.53 ตร.ม. อาคาร B  1 Bedroom 29.01-41 ตร.ม., 2 Bedroom 50.39-74 ตร.ม. อาคาร C 1 Bedroom 29-41.38 ตร.ม., 2 Bedroom 57.24-74 ตร.ม. 1 Bedroom 29.02 จะมีลักษณะเป็นครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นลึกเข้าไปด้านใน และต่อด้วยระเบียง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างใน Plan ที่เห็นนี้จะได้ทุกอย่างมาครบเลยค่ะ   1 Bedroom 29.42   1 Bedroom 30.57 เริ่มจากครัวเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น และระเบียงห้อง กั้นโซนห้องนอนกับห้องน้ำได้อย่างเป็นสัดส่วน   1 Bedroom 33.50 Plan ห้องนี้จะเหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้ค่ะ แต่จะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น   1 Bedroom 41.00 ยูนิตตั้งแต่พื้นที่ขนาดนี้เป็นต้นไปจะมีลักษณะของห้องหน้ากว้างค่ะ โดยจากครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และระเบียง กั้นห้องนอนและห้องน้ำในตัว   2 Bedroom 57.67 กลางห้องจะเป็นโซน Common Area เริ่มจากครัวเปิด ห้องนั่งเล่น และระเบียง ห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีห้องน้ำในตัว   MRT พระราม 9 - MAESTRO 03     ครั้งนี้เรามาเริ่มเดินไปโครงการ MAESTRO 03 RATCHADA-RAMA9 จาก MRT สถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1 กันค่ะ โดยประตูนี้จะอยู่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งเป็นทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และโรงแรม อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเซ็นทรัล พระราม 9 กับอาคารจี ทาวเวอร์พอดีค่ะ   เดินหน้าฟอร์จูนทาวน์มาเรื่อยๆ พอถึงเทสโก้ โลตัสที่อยู่ในอาคารฟอร์จูน เราจะเห็นว่ามีทางเดินด้านขวามือสุด ซึ่งเป็นทางลัดไปสู่โครงการได้ค่ะ   ทางลัดนี้ไม่ใช่เฉพาะคนเดินเท่านั้นนะคะ แต่รถยนต์ก็สามารถวิ่งเข้ามาได้ เพราะยังอยู่ในพื้นที่ของฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งทางลัดตรงนี้จะมีคนเดินอยู่ตลอดตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงช่วงหัวค่ำ   เดินตามทางเข้ามาจนสุดก็จะเจอประตูทางออกด้านหลังอาคารค่ะ เราสามารถเดินเข้าซอยทะลุไปถึงซอยรัชดา 3 ที่ตั้งของโครงการได้   ภายในซอยที่ใช้เดินทะลุไป เป็นซอยของบ้านส่วนตัวตลอดสองข้างทางค่ะ ไม่ได้เปลี่ยวอะไร   แต่ถ้าไม่ใช้ทางลัดก็สามารถเดินจาก MRT ตรงมาตามถนนรัชดา แล้วมาเจอกับปากซอยรัชดา 3 ก็ได้นะคะ โดยกำแพงสีขาวที่เห็นนี้เป็นที่ตั้งของสถานฑูตจีนค่ะ   ภายในซอยเป็นถนน 2 เลนสวนกันได้ บรรยากาศคึกคักทีเดียวค่ะ   ร้านค้า ร้านอาหารมากมายเรียงรายอยู่ทั้งสองฝั่งถนน มีทั้งร้านที่เปิดช่วงกลางวันและกลางคืนค่ะ หมดห่วงเรื่องอาหารการกินไปได้เลย   จากปากซอยเดินมาจนถึงตัวโครงการ ใช้ระยะทางประมาณ 250 เมตรค่ะ เดินชมโครงการ เรามาเดินชมภายในโครงการกันเลยค่ะ โดยปัจจุบันนี้สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้วค่ะ เริ่มจากรั้วโครงการที่แบ่งทางคนเดินกับทางรถยนต์เอาไว้แยกกันเพื่อความปลอดภัย   ทางเข้า-ออก รถยนต์ใช้ระบบ Key Card Access มีป้อมรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. อยู่ด้านข้าง   ฝั่งทางเดินเข้า - ออก มีแร็คจอดจักรยาน   ใต้อาคาร A มีพื้นที่จอดซุปเปอร์ไบค์ ซึ่งจะได้พื้นที่กว้างกว่าลานจอดมอเตอร์ไซค์ทั่วไป   ทางโครงการมีรถสามล้อขนาด 4-6 ที่นั่ง เอาไว้คอยรับ-ส่งลูกบ้านด้วยนะคะ   ทางซ้ายมือของเราเป็นอาคาร A ส่วนทางขวาเป็นอาคาร B ซึ่งมีทางลงไปที่จอดรถชั้นใต้ดินของแต่ละอาคาร   ที่จอดรถชั้นใต้ดินจะมีทั้งหมด 2 ชั้นของแต่ละอาคาร คิดรวมเป็น 45%   เราไปดูกันที่ Facility กันก่อนค่ะ อยู่ตรงกลางพื้นที่โครงการทั้งหมด โดยอาคารตรงกลางนี้ชั้นบนจะเป็นฟิตเนสค่ะ ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ค่ะ ฟิตเนสจะล้อมรอบไปด้วยผนังกระจก High Ceiling ทุกด้าน เพิ่มความโปร่งไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ วิวจากห้องฟิตเนสมองลงไปด้านล่างจะเห็นสระว่ายน้ำและโซนสวนสีเขียวด้านในที่ถูกโอบล้อมด้วยอาคาร B ทางซ้าย และอาคาร C ทางขวามือค่ะ   บันไดวนมุมนี้เราสามารถขึ้นไปที่ Roof Top ของอาคารส่วนกลางได้ด้วยนะคะ   Roof Top ของอาคารส่วนกลางเป็นลานสนามหญ้าเทียมกว้างๆ ให้ขึ้นมารับลมชมวิว   กลับลงมาที่ชั้น 1 ใต้บันไดทางด้านซ้ายมีห้องน้ำสำหรับส่วนกลางอยู่ค่ะ   ทางขวามือเป็นห้องน้ำแยกชาย - หญิงค่ะ ห้องน้ำชาย มีทั้งห้องน้ำที่เป็นโถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำ   มีห้องซาวน่าอยู่ด้านในด้วยนะคะ   ส่วนห้องน้ำสำหรับผู้หญิงก็จะมีทั้งห้องน้ำ และห้องอาบน้ำอยู่เช่นเดียวกัน และยังมีห้องสตีมอยู่ด้วยค่ะ   ออกมาเดินชมรอบๆ สระว่ายน้ำกันค่ะ ทางเดินรอบสระจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ทางเดินค่อยข้างกว้างทีเดียวค่ะ และมีเก้าอี้ตั้งอยู่รอบสระทุกด้าน ยูนิตที่อยู่ชั้น 1 ฝั่งริมสระว่ายน้ำจะมีพุ่มไม้สูงกั้น เพื่อบังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ   จุดล้างตัวอยู่ข้างสระว่ายน้ำ   แยกสระเด็กออกจากสระผู้ใหญ่อย่างชัดเจนค่ะ แบบนี้จะปลอดภัยต่อเด็กๆ มากกว่าที่แยกความลึกของสระแต่ยังอยู่ในพื้นที่สระเดียวกัน   สระว่ายน้ำระบบเกลือมีข้อดีตรงที่ปราศจากสารเคมี กลิ่นไม่ฉุน ทำให้ผมไม่แห้งแข็ง ตาและผิวหนังไม่แสบ ไม่รู้สึกระคายเคือง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อ่อนโยนต่อผิว จึงเหมาะสำหรับเด็กๆ และผู้มีปัญหาภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ส่วนชั้น 2 ที่เป็นห้องฟิตเนส มีโซฟาสีขาววางเรียงกันด้านในห้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางโครงการจัดกิจกรรมขึ้นมาค่ะ แต่ห้องฟิตเนสจริงๆ แล้ว ตรงนี้จะเป็นเครื่องเล่นฟิตเนสแทนค่ะ   บรรยากาศภาพรวมของส่วนกลางค่ะ มีอาคาร 2 ชั้น ซึ่งเป็นลานกว้าง ฟิตเนส ห้องซาวน่า ห้องสตีม ห้องน้ำ สระว่ายน้ำ อยู่ตรงกลางโครงการพอดี   ถัดมาเป็นโซนสวนสีเขียวค่ะ โดยจะมีการแบ่งสัดส่วนให้ได้ใช้ประโยชน์กันได้อย่างหลากหลายมุม เริ่มจากลานหินตรงนี้ เราสามารถเดินเท้าเปล่าแล้วค่อยๆ เดินเหยียบลงบนหินสีดำเหล่านี้เพื่อนวดเท้าท่ามกลางบรรยากาศสวนสีเขียวได้   ลานบาร์บีคิว สำหรับจัดปาร์ตี้สังสรรค์ริมสระว่ายน้ำกับกลุ่มเพื่อน    มีเคาน์เตอร์ที่จัดเป็นเตาปิ้งย่างพร้อมพื้นที่จัดเตียมอาหาร และซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อยค่ะ     สวนตารางหมารุกสไตล์ยุโรปเข้ากับคอนเซปดีไซน์ของตัวอาคาร   มุมพักผ่อนเงียบๆ โอบล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว   หรือจะมานั่งเปลี่ยนบรรยากาศอ่านหนังสือตรงซุ้มนี้ก็ดีนะคะ ส่วนประตูทางด้านหลังสุดของโครงการที่เห็นนั้นสามารถออกไปยัง Jogging Track ได้ค่ะ    Jogging Track ด้านหลังอาคารค่ะ สองข้างทางจะเต็มไปด้วยสวนสีเขียวไปตลอดทาง และยังได้ร่มเงาจากทั้งต้นไม้และอาคารระหว่างที่วิ่งด้วยค่ะ    เดินชม Facility กันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาขึ้นไปชมห้องตัวอย่างกันบนอาคารจริงเลยค่ะ โดยห้องตัวอย่างทั้งหมดจะอยู่ที่อาคาร A นี้ค่ะ   เปิดห้องตัวอย่าง   เดินเข้ามาใน Lobby ของอาคาร A จะมีพื้นที่กว้างๆ วางโต๊ะสำหรับรับแขกเอาไว้อยู่หลายมุม   ทางซ้ายมีห้องซักรีดอยู่ รวมถึงห้องของเจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร   ห้อง Mail Box อยู่ก่อนถึงโถงลิฟท์   แต่ละอาคารจะมีลิฟท์โดยสารอยู่ 2 ตัวตรงค่ะ โดยอาคาร A จะอยู่ตรงกลางอาคารพอดี   ยูนิตพักอาศัยวางแบบ Double Corridor   ห้องตัวอย่างแรกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ โดยเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างที่จะเห็นในห้องกับเครื่องปรับอากาศจะได้ทุกอย่างมาตามแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ ยกเว้นแค่ของตกแต่ง ผ้าม่าน และวอลเปเปอร์เท่านั้น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์จะมีโทนสีให้เลือกอยู่ 2 แบบค่ะ คือ Monet เป็นโทนสีอ่อน และ Malvyn โทนสีเข้มค่ะ   เริ่มจากประตูห้องใช้ลูกกุญแจล็อค มีมือจับก้านโยกเป็นสแตนเลสสตีล   เปิดประตูห้องเข้าไปจะพบกับห้องครัวเปิดเป็นส่วนแรกค่ะ โดยพื้นส่วนครัวจะปูด้วยแกรนิตโต้ ความสูง Floor To Ceiling 2.45 เมตร ใช้ไฟ Downlight   ขวามือหลังประตูห้องจะมี Built In ตู้เก็บของประตูบานสวิง 4 บาน โดยจะแบ่งให้ฝั่งขวาเป็นตู้สำหรับวางเครื่องซักผ้าพร้อมอุปกรณ์ได้ โดยมีการต่อท่อน้ำมาไว้อยู่แล้ว ส่วนฝั่งซ้ายเป็นตู้เก็บของที่แบ่งช่องสำหรับวางรองเท้าเอาไว้ให้ค่ะ   ส่วนทางซ้ายมือตรงข้ามกับตู้เก็บของก็จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวแบบ One Wall Kitchen กรุกระเบื้องมาให้ตรงส่วนเคาน์เตอร์ เพื่อป้องกันคราบสกปรก ทำความสะอาดง่ายขึ้นกว่าเดิม ทางซ้ายมือมีช่องสำหรับวางตู้เย็น โดยมี Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ซึ่งมาพร้อมกับซิงค์ล้างจาน เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควัน ครบเซตเลยค่ะ   เคาน์เตอร์ครัวมีฟังก์ชั่นมาให้สำหรับการใช้งานอันสะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างตู้ใต้ซิงค์ล้างจานมีถังขยะพร้อมฝาปิดติดมาให้ ส่วนลิ้นชักใต้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะแบ่งช่องสำหรับวางช้อน-ส้อม และอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ ซึ่งบานตู้และลิ้นชักทุกบานติดตั้งระบบ Soft Close ป้องกันเสียงดังเวลาปิด และยังสามารถยืดอายุการใช้งานได้ด้วยค่ะ   ติดกับเคาน์เตอร์ครัวมีโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่ง อยู่ระหว่างพื้นที่ห้องครัวและห้องนั่งเล่นค่ะ   โต๊ะทานข้าวที่ติดมากับเคาน์เตอร์ครัวนี้ สามารถพับเก็บได้ด้วยนะคะ เป็นฟังก์ชั่นที่ดีสำหรับคอนโดมิเนียมจริงๆ   ภาพรวมของห้องครัวเปิดค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ทำกับข้าวไม่หนักมาก และพื้นที่ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานจริง   ลึกเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นค่ะ ซึ่งจะได้เครื่องปรับอากาศแบรนด์ TRANE ติดตั้งมาให้เหนือโซฟา โดยทั้งหมดที่เห็นนี้ทั้งโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง โต๊ะด้านข้าง เคาน์เตอร์วางโทรทัศน์ ทางโครงการให้มาทั้งหมดเลยค่ะ   พื้นห้องในส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนปูด้วยลามิเนต 8 มม. ส่วนเฟอร์นิเจอร์ของห้องนี้จะเป็นโทนสีอ่อนแบบ Monet ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีแค่โทรทัศน์ ผ้าม่าน และวอลเปเปอร์ที่ไม่ได้ให้มาด้วยค่ะ   ด้านข้างโซฟาจะมีประตูกระจกขอบอลูมิเนียมสีดำกั้นระเบียงเอาไว้   ระเบียงห้องปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก โดยมีพื้นที่พอให้วางราวตากผ้าได้ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ   มุมหนึ่งของระเบียงจะมีกริลแอร์ติดตั้งเอาไว้แบบประตูบานสวิง   เปิดประตูออกมาจะพบกับพื้นที่ใต้ Condensing Unit ติดตั้งหัวก๊อกเอาไว้ให้ด้วยค่ะ   condensing unit หันหน้าเข้าระเบียง แต่มีกริลแอร์ที่ช่วยผลักลมร้อนออกนอกระเบียง ไม่ทำให้ระเบียงของเราร้อนจนเกินไปค่ะ   กลับเข้ามาในห้องไปดูที่ห้องนอนอยู่ทางซ้ายมือถัดจากเคาน์เตอร์วางโทรทัศน์ค่ะ   เปิดประตูห้องนอน ทางซ้ายมือจะเป็นเตียง ส่วนขวามือหลังประตูเป็นตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำในตัวค่ะ   เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนทางโครงการให้มาทั้งตู้เสื้อผ้า Built In โต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ เตียงขนาด 5 ฟุต และตู้หัวเตียง   เหนือหัวเตียงติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ค่ะ   ใต้เตียงมีลิ้นชัก 2 ช่อง สำหรับเก็บของ   หัวเตียงมีตู้เล็กๆ มาให้อีก   ข้างเตียงเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขอบอลูมิเนียมสีดำ   กลางห้องวางโต๊ะทำงานชิดผนังเอาไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า     โต๊ะทำงานเราสามารถเปิดขึ้นมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยนะคะ   ถัดจากตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำในตัว พื้นและผนังทั้งหมดปูด้วยกระเบื้องเซรามิก โดยขวามือเป็นอ่างล้างหน้าแบรนด์ LAVENZ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง และมีกระจกเงาติดตั้งมาให้   ทางซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์แบรนด์ KOHLER พร้อมสายชำระ   ส่วนเปียกกั้นด้วยประตูกระจก ฝักบัวใช้แบรนด์ KOHLER ผนังด้านในสุดมีการเจาะช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ   ห้องตัวอย่างถัดมาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom เช่นกันค่ะ แต่จะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และจะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้มแบบ Malvyn   เปิดประตูเข้ามาจะพบกับห้องครัวเปิดก่อนค่ะ ลักษณะเป็นห้องแนวลึกเช่นเดียวกันกับห้องตัวอย่างแรก   ซ้ายมือหลังประตูห้องเป็น Built In ตู้เก็บของบานสวิง 4 บานค่ะ ตู้แรกสำหรับวางเคื่องซักผ้าพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนตู้ถัดมาสำหรับวางรองเท้า และของอื่นๆ ค่ะ   ทางด้านขวามือตรงข้ามกับตู้เก็บของ คือ One Wall Kitchen มีช่องวางตู้เย็น ครัวที่ได้ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์จากแบรนด์ HAFELE เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออก เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว กับเครื่องดูดควันจากแบรนด์ Electrolux มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้านล่าง   บานตู้ใต้ซิงค์ล้างจานติดถังขยะพร้อมฝาปิดมาให้ ลิ้นชักด้านบนแบ่งช่องสำหรับวางอุปกรณ์ต่างๆ   โต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง สามารถพับเก็บได้ค่ะ สามารถเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องได้มากขึ้นอีกหากเราไม่ได้ทานข้าวตรงนี้ จะเปลี่ยนไปนั่งทานที่ห้องนั่งเล่นกับโต๊ะลอยขนาดเล็กที่ให้มาก็ได้ค่ะ   ใต้ตู้เหนือเคาน์เตอร์ครัวด้านใต้มีการติดตั้งไฟเอาไว้ เพิ่มแสงสว่างเวลาทำครัวค่ะ   ลึกเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น มีโต๊ะลอย 2 ตัว โซฟากับเคาน์เตอร์วางโทรทัศน์ครบเซต   เครื่องปรับอากาศติดตั้งเหนือโซฟา   ระเบียงถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน   ระเบียงมีขนาดที่สามารถใช้งานได้จริง พร้อมติดตั้งกริลแอร์เพื่อปัดลมร้อนจาก condensing unit ให้ออกนอกตัวระเบียง   เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันบ้างค่ะ   ทั้งหมดที่เห็นนี้ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานสวิงที่ติดตั้งกระจกบานใหญ่เอาไว้ให้ด้วย โต๊ะทำงาน เตียง โต๊ะหัวเตียง เราจะได้ทั้งหมดยกเว้นเพียงผ้าม่านกับวอลเปเปอร์เท่านั้นค่ะ   ข้างหน้าต่างกระจกสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต โดยยังเหลือทางเดินทั้งสองข้างของเตียงอยู่ค่ะ เครื่องปรับอากาศติดตั้งเอาไว้เหนือโต๊ะทำงาน   เตียงนอนมีลิ้นชักใต้เตียงให้ 2 ช่อง   โต๊ะหัวนอนมีลิ้นชักทรงลึกอยู่ด้วยค่ะ   ที่โต๊ะทำงานนี้เราสามารถยกขึ้นเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้เช่นเดิม แบบเดียวกันกับห้องที่แล้วค่ะ   หน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอนขอบอลูมิเนียม   ตู้เสื้อผ้าบานสวิง 4 ประตู แบ่งเป็น 2  ฝั่ง   สุดท้ายเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ ด้านขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ   ด้านซ้ายมือเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง   ลึกเข้ามาเป็นส่วนเปียกค่ะ กั้นด้วยกระจกบานสวิง   ภายในส่วนเปียกมีการเจาะช่องผนังเอาไว้ให้สำหรับวางของ มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายกันแล้วค่ะ เป็นห้อง 2 Bedroom หน้ากว้างขึ้นมาอีก แบ่งพื้นที่ห้องนอน Private Zone เอาไว้สองด้านของห้อง ส่วนตรงกลางเป็นพื้นที่ Common Area   เปิดห้องเข้าไปจะพบกับ Common Area ที่เป็นครัวเปิดกันก่อนค่ะ   ซ้ายมือถัดจากประตูเป็นตู้ Built In สำหรับเก็บรองเท้า   ห้องครัวเปิด มีพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งอยู่กลางห้องค่ะ   เคาน์เตอร์ครัว double wall kitchen เป็นรูปตัว L มีพื้นที่วางตู้เย็นที่ตรงสุดปลายเคาน์เตอร์   Top ครัวใช้หินสังเคาระห์ ซึ่งสามารถทนความร้อนจากเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ดีค่ะ ใต้ซิงค์ล้างจานยังคงมีตู้ที่ติดถังขยะมาให้เช่นเคย   ห้องไซส์นี้จะได้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 4 หัวค่ะ ส่วนลิ้นชักมีแบ่งช่องเอาไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบ   ที่โต๊ะทานข้าวนี้จะมีฟังก์ชั่นที่สามารถขยายพื้นที่โต๊ะได้ด้วยนะคะ โดยเมื่อยกแผ่นไม้ด้านข้างขึ้นแล้วสไลด์ไปด้านข้างก็จะสามารถเพิ่มพื้นที่ได้อีก   กางออกมาแล้วจะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ   เชื่อมต่อพื้นที่ห้องครัวไปที่ห้องนั่งเล่นค่ะ โดยส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนทั้งหมดจะปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. พื้นที่ตรงกลางระหว่างโซฟากับเคาน์เตอร์วางโทรทัศน์สามารถซื้อโต๊ะกลางขนาดใหญ่กว่านี้มาเพิ่มได้นะคะ เพราะมีพื้นที่กว้างขวางมากพอที่จะสามารถวางได้โดยยังเหลือทางเดินอยู่   ถัดไปเป็นระเบียงที่ถูกกั้นด้วยประตูประจกบานเลื่อนค่ะ   เนื่องจากห้องขนาด 2 Bedroom จะได้เครื่องปรับอากาศมา 3 ตัว จึงมีการแยก Condensing Unit ออกเป็นสองมุมของระเบียงค่ะ เพื่อให้ทั้งสองด้านมีพื้นที่ข้างใต้เหลือไว้ใช้ประโยชน์   แม้จะถูกวางเอาไว้ทั้งสองมุม แต่ติดตั้งกริลแอร์เอาไว้ให้ทั้งหมด ไม่ต้องกังวลเรื่องลมร้อนที่ออกมาค่ะ   กลับเข้ามาในห้องดูอีกด้านหนึ่งของห้องกันค่ะ ขวามือจะมีตู้ Built In อยู่หน้าห้องน้ำที่เป็นประตูแบบ Double Access สามารถเปิดเข้า-ออกได้ระหว่าง Common Area กับห้องนอนทางซ้ายมือค่ะ   ตู้ Built In หน้าห้องน้ำค่ะ ถูกออกแบบมาสำหรับวางเครื่องซักผ้าและของใช้อื่นๆ   เข้ามาดูในห้องนอนแรกค่ะ ทางซ้ายมือเป็นเตียง ส่วนทางขวาเป็นตู้เสื้อผ้ากับห้องน้ำ   เตียงขนาด 5 ฟุต วางอยู่ข้างหน้าต่าง โดยมีโต๊ะทำงานวางเอาไว้ระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้า   ยังคงมีพื้นที่ทางเดินทั้งสองข้างของเตียงค่ะ และยังมีโต๊ะหัวเตียงอยู่ด้านข้างริมหน้าต่าง   หน้าต่างกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำ และเครื่องปรับอากาศติดตั้งทางปลายเตียงค่ะ   ใต้เตียงมีลิ้นชัก 2 ช่องเช่นเดิมค่ะ   อีกด้านหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาถึง 2 ตู้ แยกออกจากกันคนละมุม และห้องน้ำค่ะ   ใครที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ โครงการนี้มีมุมให้เก็บของ เก็บเสื้อผ้าได้เยอะเลยค่ะ   ภายในตู้เสื้อผ้าทุกตู้จะมีสวิทช์ไฟเพิ่มแสงสว่างภายในตู้เสื้อผ้าด้วยนะคะ   ห้องน้ำแบ่งส่วนแห้งให้อยู่ทางซ้ายมือทั้งหมดค่ะ ผนังด้านข้างโถสุขภัณฑ์มีการเจาะเข้าไปเพิ่มช่องวางของได้อีก   อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของ กระจกเงา โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ ทางโครงการติดตั้งทั้งหมดนี้มาให้เลยค่ะ   ส่วนเปียกใช้กระจกใสบานสวิงกั้นเอาไว้แบบมีธรณีประตูขึ้นมาเล็กน้อย   มองจากมุมนี้จะเห็นชัดขึ้นค่ะว่าห้องน้ำนี้ใช้ประตูแบบ Double Access คือประตูทางซ้ายจะออกไปโซน Common Area ส่วนประตูตรงกลางจะออกไปที่ห้องนอนแรกค่ะ   เปิดประตูห้องน้ำทางซ้ายมือก็ออกไปห้องครัวเปิดได้เลยค่ะ   สุดท้ายเราไปดูกันที่ Master Bedroom ด้านหลังเคาน์เตอร์วางโทรทัศน์กันค่ะ   เปิดประตูเข้าไป Master Bedroom ทางด้านขวาเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง ปลายเตียงมีโต๊ะทำงานและ Built In เคาน์เตอร์วางโทรทัศน์เอาไว้ด้วยค่ะ   หน้าต่างกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำ   เหลือทางเดินรอบเตียงทั้งสองข้าง พร้อมกับมีโต๊ะหัวเตียงของทั้งสองมุมค่ะ   ใต้เตียงยังคงมีลิ้นชัก 2 ช่อง   Built In เคาน์เตอร์ตรงปลายเตียง หากเราไม่วางโทรทัศน์ก็สามารถใช้เป็นที่วางของอื่นๆ ได้ มีฟังก์ชั่นให้เก็บของได้หลายจุดทีเดียวค่ะ   หันไปดูทางซ้ายของห้องกันบ้างค่ะ มีมุมโซฟาไว้นอนอ่านหนังสือเล่นๆ เครื่องปรับอากาศติดตั้งเอาไว้เหนือโซฟา ส่วนตู้เสื้อผ้าจะได้ขนาดใหญ่ 5 บานสวิง และซ้ายมือด้านในสุดตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าคือห้องน้ำค่ะ   ด้านในตู้เสื้อผ้ายังคงมีการแบ่งชั้นสำหรับเก็บของได้หลายช่อง   ภายในห้องน้ำจะพบกับส่วนแห้งก่อนค่ะ โดยจะเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกเงา และโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ   หันไปทางขวามือเป็นส่วนเปียกกั้นด้วยประตูกระจกมีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อย   ภายในส่วนเปียกมีการเจาะผนังเพิ่มช่องวางอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำค่ะ   แบรนด์ MAESTRO เป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สเปคภายในที่ให้มาถือว่าจัดเต็มค่ะ แค่ลากกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมอุ้มสัตว์เลี้ยงของคุณมาด้วยก็เข้าอยู่ได้เลย และด้วยทำเลที่ตั้งของ MAESTRO 03 RATCHADA-RAMA 9 ภายในซอยรัชดา 3 ที่เต็มไปด้วยอาหารการกินราคาไม่แพง ทั้งที่อยู่ท่ามกลางแหล่ง New CBD เช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นหนึ่งในโครงการที่จับตามอง    
Arise Ratchada 19 คอนโดคุณภาพ เชื่อมต่อ 3 ทำเลใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

Arise Ratchada 19 คอนโดคุณภาพ เชื่อมต่อ 3 ทำเลใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปอัพเดทข้อมูลโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดในซอยรัชดา 19 ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากการเปิดจอง VIP Day ครั้งแรกไปไม่นานนี้ กับโครงการ Arise Ratchada 19 (อะไรส์ รัชดา 19) โดย บริษัท ฟอร์จูน พลัส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่เกิดจากการรวมตัวของเจ้าของพื้นที่ที่อาศัยและคุ้นชินทำเลในย่านนี้เป็นอย่างดี ทั้งยังจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างหมอ และทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบก่อสร้าง ที่มีผลงานก่อสร้างเด่นๆ หลายโครงการ เรียกได้ว่าเป็นผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ เรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ในทำเลศักยภาพ ย่าน New CBD ที่สำคัญ เชื่อมต่อ 3 ทำเล รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และวิภาวดี แถมยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี รัชดาฯ อยู่ในระยะที่เดินทางเพียง 5 นาทีเท่านั้น เรียกว่าครบเครื่องเรื่องการเดินทางมากจริงๆ ค่ะ สำหรับคนเมืองอย่างเรา และอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทำเลในแถบนี้ถือเป็น New CBD ใหม่ของกรุงเทพ พื้นที่ในย่านนี้จึงมีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่, ห้องปล่อยเช่า, หรือห้องขายต่อ ก็จะถูกจับจองกันอย่างรวดเร็ว เพราะศักยภาพของทำเลบริเวณรัชดาเป็นอีกหนึ่งทำเลทองที่กำลังได้รับความสนใจมากทีเดียวค่ะ จะเห็นได้ว่ามีคอนโดมิเนียมหลายแบรนด์เลือกปักหมุดบนทำเลนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยทำเลที่มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน เป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน มีแหล่งช็อปปิ้งมากมาย และยังมีความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย แถมยังเดินทางสะดวกด้วยทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถสาธารณะ และรถส่วนตัว สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเรื่องสะดวกมากค่ะ เนื่องจากที่ตั้งโครงการ Arise Ratchada 19 อยู่ในซอยรัชดา 19 สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนใหญ่รัชดาภิเษก (ซอยรัชดาภิเษก 19), ถนนวิภาวดีรังสิต (ซอยวิภาวดีรังสิต 16 หรือโชคชัยร่วมมิตร) และถนนลาดพร้าว (ซอยลาดพร้าว 18) ที่เชื่อมต่อกันได้อีกด้วย ซึ่งจากโครงการออกมาถนนใหญ่รัชดาภิเษกจะอยู่ฝั่งออกเมืองมุ่งหน้าแยกรัชดา – ลาดพร้าว เข้าสู่ถนนลาดพร้าว กลับรถไปอีกฝั่งไปทางพระราม 9, อโศก, สุขุมวิท จุดกลับรถก็อยู่ไม่ไกล ซึ่งข้อดีของโซนนี้คือถนนย่อยและทางลัดเลาะเยอะค่ะ ใครอยากเลี่ยงรถติดที่ถนนรัชดาภิเษกจากแยกพระราม 9 ก็สามารถวิ่งลัดไปออกวิภาวดีหรือลาดพร้าวแทนได้สบาย นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชแถวแยกพระราม 9 ซึ่งเชื่อมต่อไปทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์และทางด่วนมหานครได้ ซึ่งเป็นตัวเลือกให้ลูกบ้านใช้เข้านอกออกเมืองได้สะดวก ในส่วนของคนไม่ใช้รถก็ถือว่าสะดวกมากขึ้นไปอีก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ไปไหนมาไหนได้ง่ายและสบายมากๆ เนื่องจากมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย รวมถึงจุดเด่นของโครงการที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษก ในระยะเพียง 5 นาที ซึ่งพอออกมาถนนใหญ่รัชดาภิเษกก็มีแท็กซี่และรถเมล์ผ่านตลอด แถมในซอยจะมีรถกะป๊อวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน และที่สำคัญตัวโครงการเองก็มีบริการรถรับส่งผ่าน Application ให้ลูกบ้านสามารถเรียกรถ รับ – ส่ง ระหว่างโครงการและ MRT สถานีรัชดาฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ถ้าใครเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศบ่อยก็น่าจะถูกใจ เพราะจาก MRT สถานีรัชดาภิเษก นั่งไป MRT สถานีเพชรบุรีที่เชื่อมกับแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน เพียง 5 สถานีเท่านั้น ซึ่งสามารถนั่งไปสุวรรณภูมิได้เลย หรือนั่งไป 3 สถานีก็ถึง MRT สถานีสวนจตุจักร ที่ Interchange กับ BTS หมอชิต ไปใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวได้สบายๆ แถมในอนาคต จาก MRT สถานีรัชดาภิเษก นั่งไปสถานีเดียวก็ถึง MRT ลาดพร้าวที่ทำการ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว - สำโรง (สถานีรัชดา – ลาดพร้าว) แล้วค่ะ เรียกได้ว่าอดใจรอไม่นาน ลูกบ้านในโครงการก็จะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้นเยอะแน่นอน เจาะลึกโครงการ โครงการ Arise Ratchada 19 เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ทางโครงการเลือกใช้คอนเซ็ปต์โมเดิร์นในการออกแบบ โดยเน้นอาคารสีน้ำเงิน, สีขาว และสีเทา ที่ดูสะดุดตาและชวนพักผ่อน ทั้งยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อาทิ สระว่ายน้ำ, ฟิสเนต, สวนสวย และ Co-Working Space แม้ทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่เดินทางเพียง 5 นาที แต่เมื่อมาถึงที่โครงการแล้วจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวที่ไม่วุ่นวาย ในขณะที่จำนวนยูนิตรวมทั้งโครงการก็มีเพียง 132 ยูนิต จำนวนห้องต่อชั้นจึงมีไม่มากลูกบ้านจึงไม่แออัดเหมือนคอนโดทั่วไป ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นที่ออกแบบให้เป็นสัดส่วน แถมทำเลนี้ยังได้ที่จอดรถ 40 - 45% (รวมจอดซ้อนคัน) เลยค่ะ เรียกได้ว่าราคาและความคุ้มค่าระดับนี้นับว่าใช้ได้กับทำเลรัชดาที่ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาเฉลี่ย 85,000 บาท ต่อ ตร.ม. เปิดห้องตัวอย่าง มาถึงห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าโครงการ Arise Ratchada 19 มียูนิตรวมทั้งหมด 132 ยูนิต แบ่งออกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 22.70 – 32.60 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus ขนาด 36.80 ตารางเมตร และ 2 Bedroom ขนาด 49.51 ตารางเมตร ค่ะ ภายในห้องแต่ละยูนิตมีจุดเด่นคือฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน ถูกออกแบบมาเพื่อความโล่ง โปร่ง สบาย โดยแยกพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนออกจากกัน นอกจากนี้ห้องทุกยูนิตของโครงการ ยังเปิดขายมาแบบ Fully Furnished ด้วยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้สอยของลูกบ้านได้เป็นอย่างดี และทุกยูนิตจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดแต่งครบจากแบรนด์ Modernform ที่สำคัญโครงการเน้นคุณภาพของวัสดุและทุกขั้นตอนการก่อสร้าง โดยเฉพาะห้องน้ำระบบ Modular จาก SCG ที่ผลิตสำเร็จ ควบคุมคุณภาพจากโรงงานเพื่อลดปัญหาน้ำรั่วซึม ที่เป็นปัญหาหนักใจของผู้อยู่อาศัยคอนโดทั่วไป พร้อมยังรับประกันคุณภาพไม่รั่วซึมนานถึง 5 ปีด้วยค่ะ สำหรับห้องตัวอย่างใน Sale Gallery จะมีให้ชมเพียงห้องเดียวนะคะ ก็คือ 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม ซึ่งเป็นขนาดที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดค่ะ ฟังก์ชั่นภายในห้องออกแบบมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว มีการกั้นแบ่งพื้นที่มาให้เรียบร้อย โดยห้องครัวและห้องน้ำจะแยกไปอยู่ทางด้านหนึ่ง เพียงแค่กันประตูกระจกเพิ่มก็จะได้ครัวแบบปิด ป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวนได้มากขึ้นเพราะครัวอยู่ติดระเบียง สามารถเปิดประตูระเบียงช่วยระบายกลิ่นได้ดี ในขณะที่ Living Area และห้องนอนก็มีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนมาให้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหากมีแขกมาที่ห้อง ห้องทั้งหมดของโครงการ Arise Ratchada 19 ที่เราพาไปชมในครั้งนี้ จะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ชั้นวางของ, คอนโซลทีวี, ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ครัว, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศที่คำนึงถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัย 1 ตัว ซึ่งเรียกว่าได้ครบและคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท แถมตอนนี้ยังสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 10,000 บาท ได้ที่ https://goo.gl/NDMQrP ต้องบอกว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่ในย่านรัชดา ใกล้รถไฟฟ้าและสามารถเดินทางได้หลากหลาย ต้องบอกว่าเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดในตัดสินใจได้ไม่ยากเลยค่ะ นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบก็มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีร้านค้า, ร้านสะดวกซื้อให้เลือกมากมาย ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปชมโครงการหรือกำลังตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดฯ ในแถบนี้อยู่แนะนำให้ไปชมบรรยากาศจริงดูค่ะ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น แต่ต้องขอบอกเลยค่ะไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือลงทุนก็คุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะในอนาคตการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้มีโอกาสที่จะเติบโตสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ ยิ่งไม่ควรพลาดคอนโดมิเนียมคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึงแบบนี้เลยนะคะ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.arisecondo.com  หรือโทร. 091-417-1919