Tag : Art&Design

15 ผลลัพธ์
แบบบ้านชั้นเดียว หลังเล็กๆ เรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น

แบบบ้านชั้นเดียว หลังเล็กๆ เรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น

แบบบ้านชั้นเดียวยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพราะมีความง่ายไม่ซับซ้อน แต่ได้พื้นที่ใช้สอยเพียงพอ ที่สำคัญคือราคาประหยัด เพียงหลักแสนต้นๆ เท่านั้น ก็จะได้บ้านหลังน้อยน่ารัก อบอุ่นสำหรับครอบครัวเล็ก   เราจึงขอนำเสนอบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่นยุคเก่า ที่ดูเรียบง่าย ไม่ยุ่งยากทั้งการออกแบบและการตกแต่งแต่อบอุ่น ตัวบ้านเป็นแบบชั้นเดียว พร้อมด้วยพื้นที่เฉลียงไม้ใต้ชายคาเล็กๆ ยื่นออกมาสำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านเราได้ไม่ยาก บรรยากาศบ้านชั้นเดียว ภายในเน้นวัสดุไม้ ภายในบ้านตกแต่งตามสไตล์ญี่ปุ่นยุคเก่า เน้นโชว์ลายไม้ขัดมันสวยๆ ดูสวยงามอบอุ่น ข้อดีคือไม่ต้องดูแลรักษามากก็ยังดูสวยอยู่เสมอ มีการปล่อยพื้นที่กว้างสำหรับเป็นห้องรับแขก มีมุมเล็กๆ ไว้ทำอาหารและทานอาหารร่วมกันในครอบครัวได้  และสามารถวางฟูกที่นอนไว้อีกมุมตามสไตล์ญี่ปุ่นยุคเก่า แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถกั้นห้องนอนไว้อีกมุมได้ และยังมีห้องน้ำในตัวที่ขนาดไม่ต้องใหญ่โต แต่ยังสามารถแยกส่วนเปียก-แห้งได้ อย่างเป็นสัดส่วนทำให้สะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น บ้านชั้นเดียว ราคาถูก เห็นรูปแบบบ้านน่ารักขนาดนี้ แต่เชื่อมไหมครับว่าบ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยเพียง 30 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งมีราคาในการก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 250,000 - 350,000 บาท แต่หากนำมาประยุกต์ใช้ในบ้านเราก็อาจได้ราคาที่ถูกลงกว่านี้ก็ได้นะครับ ใครมีเนื้อที่ก็สามารถนำไปสร้างสำหรับเป็นบ้านพักผ่อนได้ ไอเดียบ้านชั้นเดียว อีกหลากหลายรูปแบบ แบบบ้านชั้นเดียว หลังเล็กแต่อบอุ่น ความรู้อื่นๆ เกี่ยวกับบ้านชั้นเดียว บ้านชั้นเดียวต่อเติมเป็นบ้านสองชั้นได้หรือไม่ สร้างบ้านใหม่เลือกแบบบ้านชั้นเดียวหรือแบบบ้านสองชั้นดี? ปัจจัยหลักในการออกแบบบ้านชั้นเดียวสำหรับผู้สูงอายุ
รอแยลเฮ้าส์ชี้เทรนด์บ้าน 2017 รักษ์โลก-ลดขนาด-คุ้มค่าบนพื้นที่จำกัด มั่นใจประชาชนสร้างบ้านมากขึ้นช่วงปลายปี เผยยอดขาย 2 ไตรมาสแรก 450 ล้าน

รอแยลเฮ้าส์ชี้เทรนด์บ้าน 2017 รักษ์โลก-ลดขนาด-คุ้มค่าบนพื้นที่จำกัด มั่นใจประชาชนสร้างบ้านมากขึ้นช่วงปลายปี เผยยอดขาย 2 ไตรมาสแรก 450 ล้าน

บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด เปิดเผยถึงผลประกอบการใน 2 ไตรมาสแรกของปี 2559 ว่าบริษัทปิดยอดผลประกอบการที่ 450 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 3 และ 4 ผู้ต้องการสร้างบ้านจะปรับตัวได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ทรงตัว ส่งผลให้ตัดสินใจสร้างบ้านมากขึ้นในช่วงปลายปีหลังจากที่รอโอกาสในการสร้างบ้านมาตลอด 6 เดือน ทิศทางของธุรกิจรับสร้างบ้านในครึ่งปีหลังจึงมีความเคลื่อนไหวในเชิงบวกมากกว่าลบ ส่วนการแข่งขันด้านราคาที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในวงการอสังหาริมทรัพย์จะส่งผลดีต่อผู้ต้องการสร้างบ้านเป็นอย่างมาก โดยนายโกศล โควิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า “จากสถิติของรอแยลเฮ้าส์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ต้องการสร้างบ้านมักจะตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงปลายปีมากกว่าต้นปี ส่งผลให้ไตรมาสที่ 3 และ 4 มียอดขายที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจัยบวกของธุรกิจรับสร้างบ้านในครึ่งปีหลังจึงเป็นความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคที่ชะลอตัวและเฝ้าสังเกตการณ์มาตั้งแต่ต้นปี ส่วนปัจจัยลบอย่างการขึ้นราคาของวัสดุ เนื่องจากภาครัฐมีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่จนส่งผลให้ความต้องการวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรอแยลเฮ้าส์แต่อย่างใด เพราะมีระบบการจัดการวัสดุที่ดีเยี่ยม ดังนั้น รอแยลเฮ้าส์จะไม่ลงไปมีส่วนร่วมในเรื่องการแข่งขันการลดราคาอย่างเช่นบริษัทรับสร้างบ้านอื่นๆ แต่จะใช้จุดเด่นในเรื่องของมาตรฐานการก่อสร้างและการรับประกันโครงสร้างของบ้านและการบริการอย่างครบถ้วนในการนำเสนอลูกค้า เพราะเราเชื่อว่ามากกว่าเรื่องราคา คือเรื่องของมาตรฐานการก่อสร้างและความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ลูกค้าจะให้ความสำคัญ” ด้านนายประสงค์ โควิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด เผยถึงแผนในครึ่งปีหลังของรอแยลเฮ้าส์ว่า “ใน 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี รอแยลเฮ้าส์ตั้งเป้าทำยอดขายให้ถึง 550 ล้านบาท โดยจะมีการออกบูธในงานธุรกิจสร้างบ้านต่างๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งเน้นการรุกตลาดในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอีสานที่มีอัตราการเติบโตมากถึง 25% นำไปสู่การเปิดสาขาที่ 12 ของรอแยลเฮ้าส์ที่จังหวัดอุบลราชธานีในปลายปี 2559 ที่มีการลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาทเพื่อตอบสนองต่อความต้องการสร้างบ้านของลูกค้าในภาคอีสาน  พร้อมกันนี้ รอแยลเฮ้าส์ก็ยังคงเดินหน้าและรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานในการก่อสร้างแบบรอแยลเฮ้าส์  โดยเพิ่งทำการตรวจรับรองมาตรฐาน ISO 9001ประจำปี 2559 ไป โดยผลการตรวจเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เนื่องจากเราผ่านการตรวจตามมาตรฐาน ISO เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเรายังเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายเดียวที่มีคู่มือตรวจงานให้ลูกค้าได้เข้าใจวิธีการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบ” และนายโกศล โควิสุทธิ์ ยังได้เปิดเผยถึงเทรนด์ในการสร้างบ้านของปี 2017-2020 ดังนี้ 1. Eco Friendly บ้านประหยัดพลังงานและรักษ์โลก : จุดประสงค์หลักคือการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าโดยไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม บ้านประเภทนี้จึงมักถูกออกแบบให้โปร่ง โล่ง สบาย เพื่อรับลมและความเย็นจากธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็ป้องกันความร้อนที่จะสะสมในบ้าน โดยทั่วไปการออกแบบบ้านประหยัดพลังงานจะเน้นวิถีทางธรรมชาติ (Passive Cooling) เป็นหลัก แต่ต้องผสมผสานการออกแบบ ที่เตรียมการสำหรับการทำให้เกิดความเย็น ด้วยวิธีกลไกและการพึ่งพาเทคโนโลยี (Active Cooling) โดยอาจมีการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มในบ้าน รวมทั้งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเก็บเป็นพลังงานทดแทน ซึ่งจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านไปในที่สุด 2. Small is cool บ้านพื้นที่เล็กแต่ประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า : จากรายงานของ IFDA (International Furnishings and Design Association) พบว่า 49% ของคนอเมริกัน ต้องการบ้านที่มีขนาดเล็กลง แต่ตอบสนองได้ทุกความต้องการ ซึ่งมีแนวโน้มว่าเทรนด์นี้จะได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยอาจลดทอนห้องบางห้องที่ใช้ประโยชน์น้อยที่สุดออก หรือรวมห้องบางห้องเข้าด้วยกันแล้วใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น โดย 76% ของสมาชิก IFDA มีแนวโน้มที่จะตัดห้องทานอาหาร หรือห้องนั่งเล่นอย่างเป็นทางการออก แล้วเปลี่ยนเป็นห้องที่ใช้งานได้อย่างหลากหลายสำหรับสมาชิกทุกคนในบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับ 92% ที่บอกว่า ห้องที่สร้างขึ้นมาสำหรับคนแค่คนเดียวภายในบ้าน เช่น ห้องทำงานของพ่อ ห้องเก็บเสื้อผ้าของแม่ จะต้องกลายเป็นพื้นที่ส่วนรวมของทุกคนในบ้านภายในปี 2020 3. Home Tech บ้านอัจฉริยะ : ในอนาคต การสร้างบ้านจะต้องคำนึงถึงการรองรับกับระบบเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาไปอย่างรุดหน้าและแพร่ขยายการใช้งานจนกลายเป็นมาตรฐานเดียวกัน นั่นหมายความว่าทุกบ้านจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย โดยคาดว่าปี 2020 บ้านที่สร้างใหม่ทุกหลังจะเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง เช่น การควบคุมระบบไฟด้วยรีโมต, Gesture Control หรือการสั่งการด้วยเสียง นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงขั้นตอนการสร้างบ้านและนวัตกรรมการสร้างบ้านที่มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่หรือเทคนิคการสร้างแบบใหม่เข้ามาใช้ เช่น บ้านโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นบ้านที่ออกมาตรงตามความต้องการทุกอย่าง 4. Elderly Care บ้านสำหรับผู้สูงอายุ : ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรสูงวัยมากที่สุดในอาเซียน โดยคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ตามมาด้วยสิงคโปร์ 9% และอินโดนีเซีย 7% ซึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุของไทยจะมีจำนวนมากถึง 20% ของประชากรทั้งประเทศ และอีก 20 ปีข้างหน้าไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสุดยอด คือมีประชากรผู้สูงอายุมากกว่า ร้อยละ 25 ของประชากรทั้งหมดดังนั้น การสร้างบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุจึงต้องออกแบบและปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุด้วย เนื่องจากใน 1 วัน ผู้สูงอายุมักจะใช้เวลาอยู่ในบ้านไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง “บ้าน” จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้สูงอายุ 5. Cluster บ้านหลายหลังในพื้นที่เดียวกัน : แนวโน้มของราคาที่ดินที่สูงขึ้น และความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยที่เริ่มกระจายตัวออกไปเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดความนิยมสร้างบ้านที่ใช้พื้นที่ส่วนรวมด้วยกัน โดยเป็นความนิยมแบบไทยและการมองถึงประโยชน์ร่วมของการอยู่รวมกันแบบเป็นครอบครัวใหญ่ โดยบ้านลักษณะนี้ มักเป็นบ้านของพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว หรือพี่น้อง ที่ตัดสินใจสร้างบ้านอาศัยอยู่บนพื้นที่เดียวกัน และพื้นที่ส่วนรวมของบ้านก็มักจะเป็น ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ หรือสวนของบ้านนั่นเอง หรืออาจจะเป็นลักษณะ Multi Family เป็นการอยู่อาศัยแบบหลายครอบครัวแต่เป็นการขยายไปแนวสูง คือ หลายชั้นแต่มีส่วนบริการและสันทนาการร่วมกัน เช่น สระว่ายน้ำ ห้องทานอาหาร ฟิตเนส 6. Back to nature บ้านอิงธรรมชาติ : กระแสการหวนคืนสู่ธรรมชาติกำลังมาแรงเป็นอย่างมาก และมีทีท่าว่าจะเป็นที่นิยมไปอีกหลายปี เนื่องจากผู้คนในยุคปัจจุบันรักตัวเอง รักสุขภาพ และรักธรรมชาติกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความนิยมการสร้างบ้านแบบใกล้ชิดธรรมชาติ และสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เช่น การสร้างบ้านแบบเปิดโล่งเพื่อรับลมและรับแสงธรรมชาติ การแบ่งพื้นที่ของบ้านทำสวน ปลูกผัก ปลูกสมุนไพร โดยสมาชิกของ IFDA ยืนยันว่าบ้านจะต้องมีพื้นที่ส่วนนอกที่ไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามากเพื่อให้ได้สามารถใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ในทุกวัน 7. Personalization Selected บ้านตามความต้องการส่วนบุคคล : ลักษณะพื้นฐานของบ้านแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จะต้องเปลี่ยนไปเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคลให้มากขึ้น โดยอิงกับเทรนด์ของการลดขนาดบ้านและการลดทอนห้องบางห้อง เพื่อให้บ้านกลายเป็นบ้านอย่างแท้จริง เช่น บางบ้านไม่มีห้องรับแขกแต่มีห้องซ้อมดนตรีของพ่อกับลูกชาย บางบ้านไม่มีห้องทานอาหาร แต่มีห้องสมุดและห้องทำงานของทุกคนในครอบครัว เป็นต้น นำมาซึ่งการสร้างบ้านแบบ Open Plan ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างหลากหลายตามความต้องการของแต่ละบุคคล พร้อมกันนี้ ยังพบว่าเทรนด์การตกแต่งบ้านในปี 2017-2020 ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของห้องน้ำ โดยเน้นความสำคัญของห้องน้ำมากขึ้น จากการตกแต่งห้องน้ำที่ได้รับความสนใจมาในระยะหนึ่ง จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีกในปีหน้า โดยพบว่าจะมีการใช้อ่างอาบน้ำ และติดตั้งจอโทรทัศน์ในห้องน้ำเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ จะต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สอยได้หลากหลาย โดยลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายจะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก เพื่อตอบโจทย์ให้สอดคล้องกับบ้านในยุคสมัยใหม่ที่พื้นที่เล็กลง แต่ใช้งานได้คุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมนำหน้าการบิลด์อินและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ และยังมีการเพิ่มความน่าสนใจให้กับบ้านด้วย LED โดยไฟแบบ LED จะเข้ามาเติมเต็มจินตนาการแนว sci-fi ให้กับบ้าน สร้างสีสัน สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาของบ้าน จนกล่าวได้ว่าระบบไฟ LED นั้นจะกลายมาเป็นงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งของบ้าน สุดท้าย คือเรื่องของห้องครัว โดยมีแนวโน้มว่าห้องครัวของบ้านจะถูกใช้งานเพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากการใช้ประกอบอาหารเพียงอย่างเดียว นั่นคือการใช้เป็นสถานที่ทานข้าวของครอบครัวไปด้วย โดยการออกแบบห้องครัวจะต้องเพิ่มพื้นที่และโต๊ะสำหรับทานข้าวเข้าไป ซึ่งเป็นการประหยัดพื้นที่และค่าใช้จ่าย รวมทั้งเป็นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้กับครอบครัวอีกด้วย ด้านนายประสงค์ โควิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ซึ่งจากเทรนด์การสร้างบ้านดังกล่าวนี้ รอแยลเฮ้าส์ก็ได้นำมาพัฒนาและออกแบบบ้านเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยเรามีแบบบ้านใหม่ถึง 5 แบบ มานำเสนอให้ทุกท่านได้ชมกัน ซึ่งทุกท่านจะสามารถพบกับแบบบ้านใหม่นี้ และแบบบ้านทั้งหมดของรอแยลเฮ้าส์ พร้อมทั้งคำแนะนำและการให้คำปรึกษาในทุกเรื่องของการสร้างบ้าน ได้ในงานมหกรรมรับสร้างบ้าน ระหว่างวันที่ 18-21 สิงหาคม 2559 ที่บูธหมายเลข B7 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”
บ้านแคปซูล Ecocapsules ที่พักสุดล้ำ เพื่อการท่องเที่ยวแห่งอนาคต

บ้านแคปซูล Ecocapsules ที่พักสุดล้ำ เพื่อการท่องเที่ยวแห่งอนาคต

Ecocapsules เป็นผลงานการออกแบบโดยทีม Nice Architects จากประเทศสโลวาเกีย ที่นอกจากจะเด่นเรื่องดีไซน์แล้วยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ที่สำคัญด้วยขนาดที่พกพาสะดวกจึงทำให้มันกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดการท่องเที่ยวของต่างประเทศเป็นอย่างมากครับ Ecocapsules นั้นสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในตัวด้วยกังหันลม และแผงโซลาห์เซลล์ที่ติดตั้งมาในตัว รวมถึงมีการออกแบบให้สามารถกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ได้อีกด้วย พื้นที่ภายในแคปซูลแม้จะไม่ใหญ่มากแต่ก็เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน มีห้องน้ำ ห้องทำงาน ห้องครัว ห้องเก็บของ และเตียงนอน ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวกขนาดนี้ ใครสนใจเข้าไปชมสเป็คเพิ่มเติม และสั่งซื้อได้ทาง ecocapsule.sk ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก  travel.truelife.com
25 แปลนบ้าน 3 ห้องนอน ใช้ได้ทั้งบ้านชั้นเดียวและคอนโด

25 แปลนบ้าน 3 ห้องนอน ใช้ได้ทั้งบ้านชั้นเดียวและคอนโด

แปลนบ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน สำหรับคนที่กำลังมองหาแบบบ้านชั้นเดียว วันนี้เรารวบรวมมาให้ชมถึง 25 แบบ ลองไปเก็บไอเดียกันเลย แบบบ้านชั้นเดียว ยังคงฮอตฮิตติดอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ของคนอยากมีบ้านอยู่เสมอ เพราะความสะดวกสบายที่ทุกห้องสามารถอยู่ใกล้ชิดกันได้ อีกทั้งยังราคาประหยัดไม่ต้องลงเสาและคานชั้น 2 วันนี้มี แปลนบ้าน 3 ห้องนอน จากเว็บไซต์ home-designing.com มาฝาก แถมยังสามารถนำไปปรับใช้เป็นแปลนห้องสำหรับคนที่อยู่คอนโดได้อีกด้วย 1. แปลนบ้านสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีสมาชิกประมาณ 3 คน และต้องการห้องนั่งเล่นที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดใช้สอยได้ตามความต้องการ อีกทั้งแต่ละพื้นที่ยังมีผนังกั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นด้วย 2.แปลนบ้านเน้นห้องนั่งเล่น ถึงแม้ขนาดของห้องนอนตามแปลนบ้านจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่อย่าลืมว่าบ้านหลังนี้ยังมีพื้นที่กลางแจ้งและห้องนั่งเล่นอันกว้างขวาง ที่เปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ 3.แปลนบ้านแบบแฟร์ๆ ห้องนอน 3 ห้องเท่ากัน เนื่องจากแปลนบ้านหลังนี้แบ่งพื้นที่ของห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ด้วยขนาดที่เท่า ๆ กัน ดังนั้นช่วยลดปัญหาของการเลือกห้องได้มากทีเดียว ทั้งยังมีห้องน้ำแยกให้ต่างหากด้วย 4. แปลนบ้านที่เหมาะกับการอยู่เป็นครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ๆ ด้วยกันเอง เพราะนอกจากจะมีผนังกั้นห้องส่วนตัวแล้ว ทุกคนยังสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นที่เคาน์เตอร์อาหารเช้า ห้องกินข้าว หรือห้องนั่งเล่น 5. แปลนบ้านที่จะทำให้ทั้งบ้านสว่างไปตลอดทั้งวัน เพราะแต่ละห้องต่างก็มีระเบียงส่วนตัว พร้อมทั้งหน้าต่างมากมายที่ช่วยให้แสงเข้าถึงพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น 6.แบ่งห้องนอนคนละมุม แปลนบ้านแบบส่วนตัว ห้องนอนถูกกระจายออกไปตามมุมต่าง ๆ ของแปลน โดยมีห้องน้ำ ห้องนั่ง และห้องครัวคั่นกลาง ก็เลยทำให้ห้องนอนแต่ละห้องดูเป็นสัดเป็นส่วน และมีความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น 7.คนรักปาร์ตี้ต้องชอบแปลนบ้านนี้ ส่วนแปลนบ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมทั้งห้องนั่งเล่นกับห้องกินข้าวขนาดใหญ่ และมุมนั่งเล่นบนระเบียง เหมาะกับคนที่ชอบชวนเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้กันที่บ้านมาก ๆ เลย 8.แปลนบ้านแบบคนชอบความเป็นส่วนตัว ห้องนอนขนาดใหญ่ที่ถูกจัดวางเอาไว้ตามมุมต่าง ๆ ของแปลนบ้านเช่นนี้ ก็จะช่วยให้แต่ละคนมีมุมส่วนตัวของตัวเองกันมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม 9.ห้องนอนขนาดใหญ่ แปลนบ้านแบบมีพื้นที่ สำหรับห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว แถมยังมีห้องครัวกับห้องกินข้าวขนาดใกล้เคียงกัน ถือเป็นออปชั่นที่น่าสนใจสำหรับแปลนบ้าน 3 ห้องนอนมากทีเดียว 10.แปลนแบบคนชอบห้องนอนสว่างๆ แม้ภาพรวมของแปลนบ้านจะคล้าย ๆ กัน แต่หากสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นว่าทางเข้าของแปลนบ้านหลังนี้อยู่ทางตะวันออก พร้อมทั้งสลับตำแหน่งระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น เพื่อให้ห้องนอนได้รับแสงมากขึ้น 11.พื้นที่เล็ก ก็มีแปลนบ้านดีๆ ได้ ถึงแม้ห้องน้ำจะค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับสัดส่วนของห้องอื่น ๆ แต่ก็ถือเป็นแปลนบ้าน 3 ห้องนอนอีกหนึ่งแปลน ที่ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่าดีจริง ๆ 12. แปลนบ้านน่ารัก ๆ สำหรับครอบครัวเล็ก ๆ เพราะนอกจากจะมีห้องต่าง ๆ ครบครันแล้ว ยังเปลี่ยนห้องนอน 1 ใน 3 ห้องนี้ ให้เป็นห้องสำหรับทำการบ้านของเด็ก ๆ ได้ด้วย 13.ดูหรูหรา แบบแปลนบ้าน 3 ห้องนอน บ้าน 3 ห้องนอน ก็สามารถปรับเปลี่ยนลุคให้ดูหรูหราขึ้นได้เช่นกัน หากพื้นที่ภายในบ้านมีขนาดกว้างขวางพอ จะจัดบ้านให้ดูโล่ง ๆ บรรยากาศปลอดโปร่งสบายตามแปลนบ้านนี้ 14. อีกหนึ่งแปลนบ้านสวย ๆ บนพื้นที่ขนาดเท่ากัน แต่สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งห้องกับพาทิชั่นบางจุด แต่ก็ยังรักษาพื้นที่ใช้สอยเอาไว้ได้เท่าเดิม 15.แปลนแบบมีผนังน้อย เปิดพื้นที่โล่ง แม้ห้องนอนจะดูเหมือนมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังพื้นที่ให้ใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย แถมพื้นที่ส่วนรวมก็ยังดูกว้างขวาง เพราะไม่มีผนังมาจำกัดพื้นที่ใช้สอย 16.บ้านพักตากอากาศ ต้องแปลนบ้านนี้เลย การวางเตียงนอน 2 เตียงไว้ในห้องเดียวกัน อาจทำให้ดูคับแคบไปถนัดตา แต่สำหรับแปลนบ้านแปลนนี้กลับยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้สอยตามอัธยาศัย แถมการตกแต่งในภาพรวมก็ยังความรู้สึกคล้าย ๆ กับบ้านพักตากอากาศด้วย 17. แปลนบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คน ที่อยากจะมีห้องนอนใหญ่ ๆ พร้อมตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน และห้องน้ำในตัว อีกทั้งยังมีห้องกินข้าวบรรยากาศสบาย ๆ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของทุกห้องด้วย 18. สำหรับแปลนบ้าน 2 ห้องนอน แต่มีถึง 5 เตียงนอนของบ้านหลังนี้ ถึงแม้จะใช้ตกแต่งบ้านพักตากอากาศชั่วคราว แต่ก็ต้องจัดสรรปันส่วนเวลาอาบน้ำไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องรอคิวเข้าห้องน้ำกันยาวเลย 19.แปลนบ้าน แบบครัวปิด แม้การวางชุดครัวไว้ในห้องปิด อาจจะเป็นเทรนด์บ้านที่ไม่ค่อยทันสมัยสักเท่าไรนัก แต่ก็ช่วยเก็บทั้งกลิ่นและเสียงระหว่างการทำอาหารแต่ละมื้อได้ดีทีเดียว 20.ทุกห้องนอนมีระเบียง แปลนแบบคนรักธรรมชาติ ข้อดีของห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ในแปลนบ้านหลังนี้ก็คือ แต่ละห้องมีพื้นที่กลางแจ้งเป็นของตัวเองด้วย นั่นก็คือระเบียงที่สามารถเดินออกไปได้โดยตรงจากห้องนอน รวมถึงในส่วนของห้องครัวด้วย 21.แปลนบ้านเน้นมีระเบียง แปลนบ้านนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างออกไปเล็กน้อย ตรงที่ห้องนอน 2 ห้องแรกใช้ระเบียงร่วมกัน ในขณะที่ห้องนอนสุดท้ายมีระเบียงแยกออกมาเป็นส่วนตัว 22. แปลนบ้าน 1 ห้องนอนใหญ่ กับ 2 ห้องนอนเล็ก ซึ่งถึงแม้จะไม่มีระเบียง แต่ก็มีหน้าต่างอยู่ตามห้องต่าง ๆ ของบ้าน อีกทั้งยังมีห้องกินข้าวบรรยากาศปลอดโปร่ง เป็นจุดเชื่อมต่อจากทุกห้อง 23.แปลนบ้านแบบมีมุมกลางแจ้ง นอกจากจะมีห้องนอนขนาดใหญ่แล้ว ยังมีมุมนั่งเล่นกลางแจ้งบนระเบียงถึง 2 ฝั่ง ตามมาด้วยห้องนั่งเล่นสุดกว้างขวาง ทำให้ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง เทียบเท่ากับคอนโดหรู ๆ หนึ่งห้องเลย 24. แปลนบ้านตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติ และมีตู้เสื้อผ้าซ่อนอยู่มากมาย ทำให้กลายเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะกับการพักผ่อนหลังเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันมากเลยทีเดียว 25. ดีไซน์เรียบง่ายและดูสบายตา แปลนบ้านแนวโมเดิร์น ทำให้ห้องและองค์ประกอบสำคัญที่อยู่ภายในบ้านดูเป็นระเบียบ อีกทั้งยังเงียบสงบมากทีเดียว แถมห้องนอนแต่ละห้องก็ยังมีระเบียงให้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์กันด้วย           แปลนบ้านแต่ละหลังน่าอยู่ทั้งนั้น อีกทั้งยังเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่มีสมาชิกแบบพ่อ แม่ ลูก ก็หวังว่าไอเดียแปลนบ้านเหล่านี้จะเป็นแนวทางในการสร้างบ้านที่ดีให้กับใครหลาย ๆ คนได้นะคะ ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก  home.kapook.com แบบแปลนบ้านสวยๆ แปลนบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่แล้วรวย บ้านโมเดิร์นเรียบง่าย อยู่สบาย ในเมืองร้อน ข้อดีและข้อเสีย ของการแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์
11 เทรนด์สีแต่งบ้านปี 2015 ที่ห้ามพลาด !

11 เทรนด์สีแต่งบ้านปี 2015 ที่ห้ามพลาด !

เทรนด์สีในการตกแต่งบ้านปี 2015 จะเป็นอย่างไร ใครกำลังเตรียมตัวแต่งบ้านหลังปีใหม่ กระซิบให้ว่าเทรนด์สีปี 2015 เป็นแบบนี้จ้า.. เนื่องจากเราไม่ได้เปลี่ยนสไตล์การตกแต่งบ้านบ่อย ๆ เหมือนเสื้อผ้า ดังนั้นก็อาจจะหลุดเทรนด์ไปบ้างหากไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของการตกแต่งบ้านอยู่เป็นประจำ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ต้องการจะสร้างบ้านหรือรีโนเวทบ้านใหม่ในปีหน้า เพราะเว็บไซต์ House Beautiful ได้รวบรวมโทนสีแต่งบ้านที่น่าจะมาแรงในปี ค.ศ. 2015 จากการคาดการของ 11 ดีไซเนอร์ชื่อดังมาฝากกันแล้ว 1. สีกรีกบลู (Greek Blue) ซาร่า สตอรี กล่าวว่าสำหรับโทนสีตกแต่งบ้านแบบสีกรีกบลูก็คือ สีน้ำเงินแบบการตกแต่งอาคารในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อย่างเช่น หลังคาโบสถ์บนเกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นโทนสีเข้มอันยอดเยี่ยมที่ทำให้องค์ประกอบต่าง ๆ ภายในบ้านมีความสวยงามมากขึ้นแล้ว ยังมีความสมบูรณ์ยิ่งกว่าเมื่อจับคู่กับสีเทาหรือชมพูด้วย 2. โทนสีแบบยุค 1960 (60's Shades) หลังจาก อเล็กซานดร้า เคียร์เลอร์ ได้เห็นโทนสีแบบยุค 1960 เจิดจรัสอยู่บนลำตัวของนางแบบ ที่่ออกมาอวดโฉมคอลเลคชั่นเสื้อผ้าของปี ค.ศ. 2015 ก็ทำให้ให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก และคิดว่าน่าเป็นโทนสียอดนิยมสำหรับการตกแต่งบ้านในปีเดียวกันด้วย ซึ่งโทนสีแบบยุค 1960 ก็ได้แก่ สีเขียวมะกอก สีส้มอิฐ และน้ำตาล เป็นต้น 3. สีเขียวอ่อนและน้ำเงิน (Sour Green With Blue) ทั้ง แอนน์ แม็กซ์เวลล์ ฟอสเตอร์ และ ซุยเซล เดอเพโดร คันนิ่งแฮม ต่างก็คิดว่าเทรนด์สีการตกแต่งบ้านยอดนิยมสำหรับพวกเขาน่าจะเป็นโทนสีแบบลวดลายบนผ้าปาเต๊ะ โดยเฉพาะการจับคู่ระหว่างสีเขียวอ่อนกับสีอื่น ๆ ได้แก่ สีเขียวอ่อน และสีน้ำเงิน เพราะนอกจากสีน้ำเงินจะทำให้บ้านมีกลิ่นอายของความคลาสสิกแล้ว ยังมีสีเขียวเข้ามาช่วยเพิ่มความสดใสอีกด้วย 4. โทนสีพาสเทล (Pastel Palettes) ส่วน คริสโทส เพลฟวีเซนอส กล่าวว่าหากให้เลือกโทนสีที่จะนำมาตกแต่งบ้านในปี ค.ศ. 2015 เขาจะเลือกโทนสีพาสเทลที่เคยสร้างความสวยงามให้กับนครลอสแอนเจลิสในยุค 1980 ที่เกิดจากการผสมผสานหลากหลายโทนสีมาใช้ อย่างเช่น สีส้มและสีม่วงขณะพระอาทิตย์ตก สีเขียวแบบต้นปาล์ม สีฟ้าน้ำทะเล และสีชมพูขนนกฟลามิงโก้ ซึ่งล้วนเป็นโทนสีที่สร้างภาพที่่น่ามหัศจรรย์ไม่แพ้โทนสีนีออนเลย 5. โทนสีเทา (Neutral Gray) ในขณะที่ เจฟ แอนดรูวส์ คิดว่า โทนสีเทาเป็นสีกลางที่มาแรงที่สุดสำหรับตอนนี้ โดยเฉพาะการตกแต่งบ้านในส่วนของแบ็กดรอปหรือพื้นหลังต่าง ๆ อย่างเช่น ผนัง และเพดาน ส่วนการตกแต่งที่เขาชอบเป็นการส่วนตัวเลยก็คือ บ้านผนังสีเทาอ่อน ที่ใช้กรอบประตูสีน้ำตาลชาโคล ในขณะที่ตกแต่งเพดานด้วยสีเทาอ่อนและสีขาว 6. งานศิลป์ในยุคเรเนสซองส์ การรวมตัวของสีเขียว แดงอมม่วง ฟ้าเข้ม เบจ ขาว บวกกับรูปแบบและผิวสัมผัสที่หลากหลาย แบบภาพวาดในยุคเรเนสซองส์ เป็นโทนสีที่ อเล็กซานดร้า บลังก้า คิดว่าน่าจะเป็นโทนสียอดนิยมในหมู่คนรักบ้าน และเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปี ค.ศ. 2015 อย่างแน่นอน 7. สีเขียวมะกอก (Olive Green) โทนสีที่ คาเพลล่า คินเชอร์ คิดว่าน่าจะเป็นสียอดนิยมสำหรับการตกแต่งบ้านในปี ค.ศ. 2015 ได้ไม่ยากเลยก็คือ สีเขียวมะกอก เพราะเธอค้นพบว่ามันเป็นสีที่ยอดเยี่ยมมาก หลังจากเธอตกแต่งห้องครัวด้วยตู้เก็บของสีเดียวกันนี้ เนื่องจากสีเขียวมะกอกไม่ได้เป็นแค่สีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น กับอากาศที่ปลอดโปร่งเท่านั้น แต่ยังเป็นสีที่เข้ากันได้ดีกับโทนสีอื่น ๆ ด้วย 8. การผสมผสานสีเข้ม เนื่องจากแกรนท์ เค กิบสัน ชื่นชอบการผสมผสานของโทนสีชมพู ม่วง และเขียวเข้มอมฟ้าเทอร์ควอยซ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นตัวเขาเองก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นโทนสีที่น่านำมาตกแต่งภายในบ้านสำหรับปีค.ศ. 2015 มากทีเดียว ส่วนตัวอย่างการผสมผสานสีทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันก็ได้แก่ การใช้ของตกแต่งสีม่วง วอลเปเปอร์สีฟ้า ชุดเครื่องนอนสีชมพูเข้ม และอาร์มแชร์สีเขียว เป็นต้น 9. โทนสีอบอุ่น หลังจากที่ เจนนี่ โคเมนดา เห็นโทนสีอบอุ่นกลับมาแต่งแต้มความสวยงามให้กับวงการแฟชั่นเสื้อผ้าอีกครั้ง ก็จะไม่รู้สึกแปลกใจหากจะเห็นคนส่วนใหญ่นำโทนสีที่กล่าวมา อย่างเช่น สีเขียวมะกอก ดัสตี้มินต์ และม่วงเข้ม มาใช้ตกแต่งบ้านในปี ค.ศ. 2015 ด้วย อีกทั้งยังเป็นโทนสีที่เธอชอบเรื่อยมา โดยเฉพาะการตกแต่งที่แทรกโทนสีสว่างลงไปบางส่วน เพื่อให้การตกแต่งมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น 10. จับคู่ระหว่างโทนสีร้อนและอบอุ่น สำหรับการตกแต่งบ้านในปี ค.ศ. 2015 มัลคอม เจมส์ คัทเนอร์ คาดว่าการจับคู่โทนสีตรงกันข้ามน่าจะมาแรง พร้อมทั้งช่วยสร้างพลัง ความคิดสร้างสรรค์ และชีวิตชีวาได้มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะสีดำ เทา และขาว พร้อมกับมีสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน หรือสีส้มที่คละเคล้ากันไปกับสีน้ำตาล น้ำเงิน และเขียว 11. สีน้้ำเงินกับผิวมันวาว หลังจากที่ ซูซานนา ซอร์ค เห็นการตกแต่งบ้านด้วยสีน้ำเงินเข้มกับองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีลักษณะแบบผิวสัมผัสมันวาว คละเคล้ากันไปกับของตกแต่งบ้านสีขาว เธอก็คิดว่าเป็นโทนสีที่มหัศจรรย์ไม่น้อย เพราะสามารถเปลี่ยนจากบ้านธรรมดา ให้มีความทันสมัยผสมผสานไปกับความคลาสสิกได้ในทันทีเลยทีเดียว   หากคุณกำลังมองหาสีสำหรับนำไปตกแต่งบ้านใหม่ แต่ดูอย่างไรก็ยังเลือกโทนสีที่ต้องการไม่ได้สักที ก็หวังว่าทั้ง 11 เทรนด์โทนสีที่เหล่าดีไซเนอร์แนะนำกันไปในวันนี้จะช่วยให้การตกแต่งบ้านของคุณง่ายขึ้น และมีบ้านที่ตรงกับความคาดหวังของแต่ละคนกันนะคะ   ที่มา : home.kapook.com