Tag : Aspire

8 ผลลัพธ์
รีวิวคอนโด Aspire : ใช้ชีวิตให้ Pop กว่าเดิม ที่ Aspire

รีวิวคอนโด Aspire : ใช้ชีวิตให้ Pop กว่าเดิม ที่ Aspire

ถ้าถามถึงชื่อของแบรนด์คอนโดมิเนียมจาก AP เชื่อว่าหลายคนก็จะนึกถึงชื่อ Aspire ด้วยแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่ดูเรียบง่ายตามสไตล์ Modern ทันสมัย แม้จะเป็นอาคารแบบ High Rise ติดถนนใหญ่ แต่ราคาไม่แรง จึงเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ง่าย นั่นคือภาพที่ทุกคนจดจำสำหรับแบรนด์ Aspire ค่ะ               ในปี 2019 นี้ คือปีที่ AP ตั้งใจปรับแบรนด์ Aspire เปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อเตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ Aspire แบบ New Series ซึ่งการปรับลุคครั้งใหม่นี้จะมีความหรูหรามากขึ้น ในความร่มรื่นสไตล์รีสอร์ท ดีไซน์ให้อารมณ์ของความเป็น Colonial จากฝั่งยุโรปในยุคคลาสสิก ผสมผสานกับสีสันที่สะท้อนให้เห็นถึงความสดใสมีชีวิตชีวาจากคนรุ่นใหม่ในความ Modern POP ผสมผสานกันจนเกิดเป็น “Colonial Pop” คอนเซปใหม่เฉพาะตัวของคอนโดมิเนียมแบรนด์ Aspire      โดยครั้งนี้จะเปลี่ยนตั้งแต่หน้าตาของสถาปัตยกรรม ด้วยการดึงเอาเสน่ห์ของความเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise จำนวนยูนิตแต่ละอาคารน้อยลง ผลคือการที่ได้ความเงียบสงบมากกว่า เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านของตัวเอง พร้อมกับมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบความต้องการได้ในทุกๆ วัน รวมถึง Facility ภายในโครงการจะยึดดีไซน์ให้คนกับธรรมชาติได้อยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เหมือนได้นั่งพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทหรู ทุกสิ่งถูกจัดวางให้ลงตัวที่สุดใน Aspire ทั้ง 2 โครงการใหม่   นอกจากเรื่องของการดีไซน์แล้วก็ยังมีเรื่องของทำเลของแต่ละโครงการจะเน้นที่ตั้งอยู่ในโซน Prime location สามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้ง่ายมากขึ้น ทำให้ใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า   คอนโด Aspire สุขุมวิท อ่อนนุช สุขุมวิทช่วงกลางที่ได้รับความนิยมจากเหล่าคอนโดมิเนียมที่สุดก็คงจะเป็นย่านอ่อนนุชค่ะ เพราะอยู่ออกมาจากใจกลางเมืองไม่มาก แต่ยังคงอยู่ในเส้นทางสุขุมวิท ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นสายหลักของบ้านเราพาเข้าสู่ทองหล่อ-อโศก เพียงเวลาไม่เกิน 10 นาที และยังมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ไม่ไกล     Aspire Sukhumvit-Onnut เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร แบ่งเป็น  อาคาร A ใกล้กับทางเข้า-ออก ติดถนน จะกันโควต้าต่างชาติไว้ที่ชั้น  7-8  อาคาร B ทางทิศตะวันตก (ซ้ายมือของภาพ) เป็นอาคารที่กันโควต้าต่างชาติไว้ทั้งอาคาร อาคาร C ริมน้ำ จะเปิดให้จองก่อนใครรอบ Online Booking วันที่ 26 ก.พ. นี้ เวลา 19.00-21.00 น. เฉพาะชั้น 4    และแยกอาคารสันทนาการ 1 อาคาร และอาคารที่พักขยะ 1 อาคาร (1 ชั้น) บนที่ดินกว่า 6 ไร่ ที่จอดรถ 38% ขนาดห้อง 26.5-52 ตร.ม. ทั้งหมด 553 units ขายแบบ Fully Fitted ดีไซน์ภายนอกยังคงความเป็น Colonial ส่วนออกแบบภายในใช้โทนสีธรรมชาติ เพิ่มความสนุกสนานสดใสสไตล์ POP แต่จะใช้วัสดุที่ดูพรีเมี่ยมขึ้น   ที่ดินของโครงการอยู่ภายในซ.อ่อนนุช 21 ติดคลองพระโขนงอันเงียบสงบ Facility ภายในโครงการจึงถูกถอดแบบมาจากความพลิ้วไหวของสายน้ำ ไม่ว่าเป็นสระว่ายน้ำ, Backyard Garden, Signature POP Track จะสามารถมองเห็นคลองพระโขนง Lobby ทำให้รู้สึกเหมือนมี Boutique Resort ส่วนตัว     สระว่ายน้ำยามค่ำคืนจะมีแสงไฟสีชมพู เพิ่มความ Pop ที่ไม่เหมือนใคร   Signature POP Track ริมน้ำ หากสังเกตทางซ้ายมือจะเห็นยูนิตของชั้น 1 ที่สามารถเดินออกมาตรงนี้ได้เลย      เป็นครั้งแรกของ Aspire ที่เอารูปแบบ Unit Interlock มาใช้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่าที่สุด และ 99% จากทั้งหมดจะเน้นเป็นครัวปิด เพื่อให้ใช้ประโยชน์จริงได้อย่างเต็มที่ ความสูง Floor To Ceiling 2.5 เมตร แต่ยูนิตพิเศษที่อยากจะแนะนำที่สุด คือ Type B3 กับ B4 ขนาด 30.50 ตร.ม. Type C3 ขนาด 36.00 ตร.ม. Type D2 ขนาด 41.00 ตร.ม. Type E2 ขนาด 50.00 ตร.ม. Type F2 ขนาด 52 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Graden access unit สามารถเดินออกจากระเบียงไปยัง Backyard Garden เหมือนมีสวนริมน้ำส่วนตัวเลยค่ะ     สำหรับห้องตัวอย่างของ Aspire Sukhumvit-Onnut จะอยู่ที่ซ.อ่อนนุช 21 เข้ามาก็จะเห็นได้เลยทันทีค่ะ โดย Sales Gallery ออกมาตามคอนเซปของตัวคอนโดเห็นความเป็น Colonial เด่นชัด ซึ่งจะมีห้องตัวอย่างให้ชม 2 ห้องด้วยกันค่ะ   1 Bedroom 36 ตร.ม. ส่วนแรกของห้องจะป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว ทุกห้องไม่ว่าจะเป็นห้องครัวทางซ้ายมือ ห้องนั่งเล่นตรงกลาง และห้องนอนทางขวามือ จะมีประตูกั้นแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งหมด โดยห้องน้ำทางขวามือของห้องจะเป็นประตูแบบ Double Access เชื่อมต่อระหว่างส่วนกลางห้องกับห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ได้แบบ Fully Fitted ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ 2 ตัว ที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ซึ่งภายในห้องนอน Type นี้ จะได้กระจกเข้ามุมตรงหัวเตียงด้วยค่ะ      2 Bedroom 50 ตร.ม. สำหรับห้องนี้จะเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ค่ะ ซึ่งก็จะได้ครัวปิดที่มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศและความชื้นเอาไว้ให้ด้วย พื้นที่วางโต๊ะทานข้าว จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นด้านใน ซึ่งเชื่อมต่อกับระเบียงอีกที ส่วนห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งของห้อง ห้องนอนแรกจะอยู่หลังเคาน์เตอร์ทีวี และ Master Bedroom จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำด้วยประตู Double Access        เตรียมตัวจับจองรอบแรก Online Booking วันที่ 26 ก.พ. นี้ เวลา 19.00-21.00 น. เฉพาะอาคาร C ชั้น 4 ยูนิตสวยวิวสระว่ายน้ำหรือวิวริมน้ำ ลงทะเบียน i booking รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท และได้ Digital Door Lock >>> https://ibooking.apthai.com   PRESALE 2-3 มี.ค.นี้ ที่สำนักงานขาย ลงทะเบียนรับส่วนลด 50,000 บาท สำหรับ 1 Bed และ 100,000 บาท สำหรับ 2 Bed พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท และฟรี! เฟอร์นิเจอร์ (เฉพาะวันพรีเซลเท่านั้น) คลิก https://goo.gl/S59jz2    เริ่ม 1.89 ล้านบาท* เฉลี่ย 86,000 บาท/ตร.ม. คอนโด Aspire อโศก รัชดา Aspire Asoke-Ratchada ทำเลสุดฮอตของทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เพียงช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาคอนโดมิเนียมในย่านนี้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพราะได้รับความนิยมอย่างมากนี่แหละค่ะ ซึ่งตัว Aspire Asoke-Ratchada จะมีที่ดินกว่า 11 ไร่ ถือว่าเป็นขนาดที่หาได้ยากมากแล้วสำหรับโซนนี้ โดยตัวโครงการจะอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 หรือที่เรียกกันว่าซอยสถานฑูตจีน เข้าไปประมาณ 700 เมตร    Aspire Asoke-Ratchada เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 6 อาคาร ที่จอดรถ 38% ขนาดห้อง 25-51 ตร.ม. ทั้งหมด 1,025 units+3 shop ดีไซน์โดดเด่นด้วยเส้นสายที่โค้งมน ให้ความรู้สึกหรูหรานุ่มนวล บวกกับต้นไม้ตัดแต่งที่ให้อารมณ์เน้นไปที่ความเป็น Colonial ทำให้เกิดเป็นพื้นท่ี่ transition space “Courtyard”    ที่สำคัญคือเรื่องของราคาค่ะ แม้จะอยู่ในทำเล Prime ขนาดนี้ แต่ราคาเริ่มต้นประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม. นะคะ คอยจับตากันเอาไว้ให้ดีกับ Aspire Asoke-Ratchada ที่กำลังจะเปิด Pre-sale 30-31 มี.ค. ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* จองเพียง 5,000 บาท* ฟรีค่าทำสัญญา ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท (Studio, 1 bed, 1 bed plus ลด 50,000, 2 bed ลด 100,000) พิเศษ! เปิด AP iBooking ตึก B ชั้น 7 และตึก E ชั้น 4 วันที่ 26 มี.ค. 19.00-21.00   ใครที่อยากมาชมห้องตัวอย่างหรือมาในวันงาน Pre-sale ก็สามารถจอดรถเอาไว้ที่ ลาน G Tower และตึก Unilever แล้วข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะพบกับ Sale Gallery ของโครงการค่ะ โดยจะเริ่มให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 21-24 มีค 9.00-20.00 น.   Aspire Asoke-Ratchada ลงทะเบียนที่ >>> https://bit.ly/2Uh2rPO         แต่ก่อนจะเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่าง เรามีภาพมาให้ชมกันก่อนค่ะ   1 Bedroom Plus 35 ตร.ม.  ห้องตัวอย่างแรกจะเป็นแบบ 1 Bedroom Plus คือมี 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถดัดแปลงเป็นห้องอะไรก็ได้ตามใจ เช่น ห้องทำงาน  หรือห้องนอนที่ 2 ส่วนครัวครัวเปิดจะเชื่อมต่อกับพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวเอาไว้กลางห้องค่ะ แต่ด้วยพื้นที่แบ่งเอาไว้เป็นสัดส่วนก็จะสามารถกั้นเป็นห้องครัวปิดได้ เรียกได้ว่าจัด Space มาให้มีความยืดหยุ่นต่อการอยู่อาศัยจริงทีเดียวค่ะ   2 Bedroom Plus 49.5 ตร.ม.  สำหรับ 2 ห้องนอน จะวาง common area ไว้กลางห้อง แล้วแบ่งฝั่งซ้าย-ขวา ซึ่งจะได้ห้องครัวปิดที่มีเครื่องดูดควันต่อท่อออกไปนอกระเบียงติดตั้งมาให้เรียบร้อย ช่องว่างตู้เย็นขนาดใหญ่มากขึ้นเหมาะสำหรับครอบครัว และยังมีห้องเก็บของที่ถูกดีไซน์ไว้เพื่อวางเครื่องซักผ้า สามารถตากผ้าได้ด้วยในตัว เพราะมีหน้าต่างทรงสูงมาให้ เวลาตากผ้า แถมยังมีพื้นที่สำหรับเก็บของเพิ่ม ตรงนี้ถือว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยจริงได้ดีเลยค่ะ     สำหรับ Aspire ทั้ง 2 โครงการที่เปิดตัวมาในปีนี้ มีความแตกต่างออกไปจากที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ทั้งส่วนกลางที่เพิ่มมากขึ้น ดีไซน์ทันสมัย การจัด Sapce ภายในห้องก็ตอบโจทย์การอยู่อาศัจริงได้ดียิ่งขึ้น กลายเป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตามองถึงพัฒนาการที่ก้าวขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อไปค่ะ รายละเอียดคอนโด Aspire เพิ่มเติม Aspire Asoke-Ratchada Aspire Sukhumvit-Onnut โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) Aspire Erawan Aspire Ngamwongwan Life Asoke Hype RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน
คิดถึงคอนโดติดรถไฟฟ้า ทำไมต้อง “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง”(Advertorial)

คิดถึงคอนโดติดรถไฟฟ้า ทำไมต้อง “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง”(Advertorial)

ปัจจุบันการจะเลือกซื้อคอนโดสักแห่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องการหลายปัจจัยมาเสริมกัน ทั้งเรื่อง Location Facility ความคุ้มค่าและผลตอบแทน เข้าใจเทรนด์ของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างครบครันพร้อมจะเติบโตไปด้วยกันทำให้ทุกพื้นที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในทุกวันของการใช้ชีวิต สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าขาดไม่ได้สำหรับคนทำงานยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง คอมมูนิตี้ กิน ช้อป เที่ยว ตามแบบ Lifestyle ของคนเมือง ดังนั้นการเลือกซื้อคอนโดที่ดี มีศักยภาพที่ครบพร้อมในทุกด้านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” คอนโดที่ให้คุณได้มากกว่าความคุ้มค่าบนทำเลศักยภาพ ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีวงศ์สว่างที่พร้อมจะต่อติดชีวิตในแบบคุณ พร้อมเติมเต็มความลงตัว ความสะดวกสบายใกล้เมือง เพื่อการใช้ชีวิตในย่านบางซื่อ บางซื่อมีการเติบโตมากที่สุดในปี 2016-2017 แต่ไม่รู้จัก คือที่ไหน ไกลมาก ช่วงที่ผ่านมานี้ย่านบางซื่อจัดเป็นอีกหนึ่งย่านที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปี 2016-2017 หลายคนมองเห็นศัยภาพในโซนนี้ จึงทำให้มีคอนโดและบ้านจัดสรรผุดขึ้นมาเพียบเพื่อรองรับประชากรที่จะมีมากขึ้นในอนาคต ที่ผ่านมาความเปลี่ยนแปลงของย่านบางซื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีเส้นทางรถไฟฟ้าหลายสายกำลังต่อขยายมุ่งตรงเข้ามา โดยมีสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเส้นทางคมคมนาระบบรางเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟฟ้าต่อขยาย สายสีม่วง เตาปูน – ราษฎร์บูรณะ และบางใหญ่ – บางซื่อ นั้นก็หมายความว่า สถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางด้านการเดินทางทั้ง รถไฟชานเมือง รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าแอร์พอตเรียลลิ้ง รวมถึง รถไฟฟ้าส่งผลให้ทำเลนี้เป็นทำเลที่ตอบโจทย์ของคนที่มีงบจำกัดแต่ยังต้องการความสะดวกสบายด้านการเดินทาง ที่แวดล้อมไปด้วยไลฟ์สไตล์มอลล์มากมาย ทั้งสวนสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับทุกความต้องการ ทำให้ “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” เป็นคอนโดของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต เดินทางสะดวกสบาย เข้าสู่ CBD ได้อย่างรวดเร็วพร้อมสถานที่พักผ่อนมากมายในระแวกเดียวกัน อยากซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้า แต่มีมากมายเต็มไปหมด ไม่รู้จะซื้อที่ไหนดี... ใครๆก็ล้วนตามหาคอนโดติดรถไฟฟ้าที่มีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด แต่! ในบรรดาเหล่าคอนโดติดรถไฟฟ้าพวกนี้ก็ไม่ได้ดีทุกที่เสมอไป ทุกโครงการต่างมีจุดอ่อนและจุดแข็งที่ผู้ซื้อและนักลงทุนต้องคอยสังเกตเอง ซึ่งวันนี้เราจะบอกให้ว่า ทำไม “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” ถึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่ผู้ซื้อต่างให้ความสนใจและคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างไร ทำเลศักยภาพที่เชื่อมการเดินทางสู่ใจกลางเมือง ด้วยถนนใหญ่และรถไฟฟ้า ที่ให้ความสะดวกคล่องตัว “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” จึงจัดอยู่ในคอนโดที่มีทำเลศักยภาพมาก เพราะติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง และติดถนนใหญ่ กรุงเทพ-นนทบุรี และยังมี ทางขึ้น-ลง ทางพิเศษศรีรัชอีกด้วย จนเรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายครบครันอย่างแน่นอน ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์มอลล์ที่เป็นคุณ นอกจากเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ด้านการเดินทางแล้ว Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ยังแวดล้อมไปด้วยไลฟ์สไตล์มอลล์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, โฮม โปร ประชาชื่น, La Unique, Big C วงศ์สว่างและ Gypsy Market ให้คุณสามารถช้อปข้าวของเครื่องใช้ได้อย่างชิวๆไม่ต้องไปไหนไกล แหล่งรวมร้านอาหารดังที่ไม่ควรพลาด หากเบื่อการเดินห้างแล้ว ย่านนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่ออีกเพียบ ทั้ง ร้าน Smith & Rabbit Cuisine ร้านอาหารไทย-ฟิวชั่น ที่คนเต็มร้านตลอดๆ, ร้าน Steeler ร้านสวย นั่งสบาย สถานที่กว้างขวางเหมาะกับครอบครัว, ร้านอาหารประพักตร์ อร่อยทั้งอาหารและขนมไทยแบบต้นตำหรับ, ร้าน บ้านไอซ์ ร้านอาหารของคุณย่าสำหรับคนชอบรสอาหารแบบดั้งเดิม, ร้าน ปรุง ร้านอาหารรสชาติดีราคาไม่แรง, เจ๊ไข่ซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลสดๆที่ไม่ควรพลาด , ร้านพิมพ์รภัส ร้านอาหารไทยแบบดั้งเดิม, ร้าน นิตยาไก่ย่างกับไก่ย่างหอมๆที่เราคุ้นเคย  ,ร้าน ขาหมู ประชาชื่น ขาหมูอร่อยๆที่ไม่ต้องไปไหนไกล, ร้าน ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยบ้านนา ก๋วยเตี๋ยวรสเลิศที่ใครๆต้องมาลอง, ร้าน กาลิค ร้านอาหารไทยเก่าแก่กว่า 30 ปี, ไก่ย่าง โคราช อีกตัวเลือกความอร่อยกับไก่ย่าง, ร้านอาหาร โอยั๊วะริเวอร์เทอร์เรซ เห็นชื่อแบบนี้บรรยากาศดี อาหารอร่อยนะจะบอกให้ แหล่งรวมสำนักงานใจกลางเมือง ด้วยการเดินทางที่สะดวกและยังเป็นศูนย์รวมคอมมูนิตี้มอลล์และร้านอาหารต่างๆมากมาย ทำให้ย่านนี้เป็นแหล่งสำนักงานขนาดใหญ่อีกหลายแห่งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงสาธารณสุข, นนทบุรี City Hall, สำนักงานใหญ่ SCG, ตึก EGAT และบุญรอดบริวเวอรี่ ทำให้ย่านนี้กลายเป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่เพรียบพร้อม ตอบโจทย์วันชิวๆกับ Café ชิคๆ เอาใจคนรัก Café กันบ้าง เพราะย่านนี้มีผู้คนเข้ามาอาศัยและทำงานอยู่มาก ทำให้มี Café ต่างๆผุดขึ้นมาเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Hatch by J’Khai คาเฟ่นั่งชิวที่จัดเต็มทั้งกาแฟและขนมหวาน, Kopi’ Cino ร้านที่สาวกผู้ชื่นชอบกาแฟไม่ควรพลาด , The Attic Diary Café ร้านสวยเครื่องดื่มดีงาม, Café Mallow คาเฟ่ชิคๆที่แวะมาได้ทุกวัน และ Waiting Floor ร้านขนมหวานที่จัดเต็มทั้งบิงซู Honey Toast แบบที่สาวๆต้องคุ้นเคย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชุมชน นอกจากความสะดวกสบายต่างๆในบ่านนี้แล้วก็ยังมีโรงพยาบาลสำหรับอำนวยความสะดวกให้ชุมชนอีกหลายแห่ง ทั้งโรงพยาบาลนนทเวช โรงพยาบาลวิภาวดี โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่นโรงพยาบาลศรีธัญญา และ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ก็มีใครเลือกสรรตามความสะดวก แหล่งการศึกษาชั้นนำ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ย่านนี้คึกคักตลอดทั้งวันมาจากสถานศึกษาชั้นนำมากมายที่รวมตัวกันตั้งอยู่ในบริเวณย่านนี้ ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงเด็กมหาลัยก็มีครบพร้อม ทั้ง โรงเรียนสาธิตเกษตร โรงเรียนนวพัฒน์วิทยา โรงเรียนราชวินิตบางเขน โรงเรียนโยธินบูรณะ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ โรงเรียนสตรี นนทบุรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ผ่อนคลายวัยสบายๆกับสถานที่แฮงค์เอ้าท์ อีกเรื่องที่พลาดไม่ได้นั่นคือสถานที่แฮงค์เอ้าท์นั่นเอง สำหรับย่านนี้ก็มีร้านแฮงค์เอ้าท์เพียบ อย่าง ร้าน นั่งเล่น Pub& Restaurant ชื่อดังที่ดาราชอบมากัน อาหารอร่อยแถมบรรยากาศก็ชิวสุดๆ หรือจะเป็น ร้าน Lizm อีกหนึ่งร้านดังยอดฮิต กับความชิคที่ไม่เหมือนใครกับเก้าอี้ถังและบรรยากาศที่ไม่ซ้ำใคร Facilities จัดเต็ม เอามาเน้นๆให้คุณแบบไม่มีกั๊ก พร้อมเปิดตัวพื้นที่ส่วนกลางใหม่สุดว้าวทั่วโครงการ กลางปี 2561 นี้แน่นอน พูดถึงทำเลโดยรวมไปแล้ว เรามาเจาะตัวโครงการ “Aspire รัชดา-วงสว่างค์” กันบ้างดีกว่า สำหรับ Facility ถือว่าจัดมาแบบเต็มที่ไม่กักเลยทีเดียว  ซึ่งตัวโครงการยังได้พัฒนาพื้นที่ส่วนกลางใหม่นี้จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการและกิจกรรมของกลุ่มลูกค้าแอสปาย ไม่ว่าจะเป็น -WORKING PAVILION บนพื้นที่ Co-Working Space ขนาดใหญ่ที่ภายในจัดสรรพื้นที่ support ทุกการทำงานอย่างลงตัว ทั้งแบบเดี่ยว (WORKBAR) และแบบกลุ่ม (THINK SPACE) สร้างสรรค์เป็นพื้นที่สุดครีเอทีพ ในบรรยากาศ se-mi outdoor สุดเรียบหรูของโครงการ -SKY SEASONING ROOFTOP ที่มากับสวน 3 ฤดู บรรยากาศร่มรื่น ตั้งอยู่ที่ชั้นสูงสุดของโครงการบนพื้นที่ถึง 1 ไร่ สูดลมหายใจรับอากาศดีๆหลังเลิกงานบนพื้นที่กิจกรรมมากมาย พร้อมเสพวิวแสงสีของมหานคร ดื่มด่ำ Panoramic view ทัศนียภาพเมืองสุดขอบฟ้าได้แบบเต็มตา และ Lobby ชั้นล่างของอาคาร ที่อยู่ indoor ในส่วนนี้เป็นผนังกระจกใส 3 ด้านแบบเห็นวิวชัดๆกันไปเลย ในส่วนของ Semi-outdoor ก็จะมีการวางโซฟากระจายหลายๆจุด เชื่อมต่อกับสวนและบ่อน้ำ ตกแต่งด้วยบานเฟี้ยมไม้ให้บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น มาถึงสระว่ายน้ำกันบ้าง ที่นี่มีสระว่ายน้ำขนาด 9 x 30 เมตรระบบเกลือ รวมไปถึงห้องออกกำลังกายเอาใจคนรักสุขภาพแบบจัดเต็มอีกด้วย ความคุ้มค่าบนความลงตัวบนย่านบางซื่อ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด สิ่งสำคัญที่ทำให้ “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” เป็นคอนโดที่ถูกจับตามองอย่างมาก คือเรื่องของความคุ้มค่าทางด้านราคาด้วยราคาเริ่มต้นเพียงตารางเมตรละ 79,000 เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับคอนโดในบริเวณเดียวกันจัดว่ามีราคาที่ดีกว่ามาก นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา ย่านบางซื่อเริ่มมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนมองเห็นการเติบโตในอนาคต ซึ่งต่อไปราคาคอนโดในย่านนี้จะต้องอัพสูงขึ้นลิบแน่นอน ต้องมาทำงานย่าน “บางซื่อ” แต่ยังไม่ชินทำเล “เช่า” คือคำตอบ เชื่อว่าการที่ได้ที่พักใกล้ที่ทำงานคือลาภอันประเสริฐ หลายคนคงเคยผ่านช่วงเวลาที่ต้องเสียเวลาในชีวิตกว่า 1 ใน 4 ไปกับการติดแหง็กอยู่บนรถ มันช่างแสนจะเบื่อหน่ายซะเหลือเกิน แต่ปัญญาหาพวกนี้จะหายวับไปทันทีเมื่อเราขยับขยายย้ายมาอยู่ใกล้ที่ทำงานมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องมาทำงานในย่านบางซื่อ แต่กลัวไม่ชินทำเล เราขอแนะนำให้ลองมาเช่าคอนโด “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” ดูก่อน รับรองไม่หลงทางเพราะเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า นอกจากจะเดินทางสะดวกแล้ว การมาเช่าอยู่ก็มีอะไรดีๆมากกว่าที่เราคิด สิ่งแรกเมื่อเราจะได้รับหลังจากย้ายที่พักมาอยู่ใกล้ที่ทำงาน คือ “เวลา” ช่วงแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆสักหน่อย เพราะเรามีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น ซึ่งนี่คือข้อดี การที่เรามีเวลามากขึ้นทำให้เราดูแลตัวเองได้มากขึ้น อาจจะใช้เวลาหลังเลิกงานในการออกกำลังกาย ช้อปปิ้ง หาร้านอาหารอร่อยๆกิน เป็นสิ่งมีค่าที่เราสามารถเพิ่มความสุขให้ตัวเองได้ อีกข้อหนึ่งคือ “ประหยัดเงิน” อาจจะยังงงๆว่าประหยัดตรงไหน แต่เชื่อหรือไม่ว่าสำหรับบางคน การเดินทางมาทำงานทุกวันนั้น นอกจากต้องต่อรถหลายต่อแล้ว วันวันหนึ่งหมดไปกับค่ารถเกือบ 200-300 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเราย้ายมาอยู่ใกล้ที่ทำงานมากขึ้นก็จะช่วยเซฟงบค่าเดินทางไปได้เพียบ สำหรับการเช่านั้นก็จะมีระยะเวลาสัญญาต่างๆ อาจจะเป็น 6 เดือน 1 ปี หรือ 2 ปี แล้วแต่ว่าเราวางแผนระยะสั้นไว้นานแค่ไหน การย้ายออกจึงทำได้สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งนี่เป็นปัจจัยหลักข้อแรกๆ เลยของคนที่เลือกเช่าคอนโดมาก เพราะส่วนใหญ่ยังไม่แน่ใจว่าจะลงหลักปักฐานที่นี่นานหรือไม่ หากในอนาคตมีการโยกย้ายที่ทำงาน หรืออาจมีแพลนสำหรับครอบครัวที่ใหญ่ก็สามารถย้ายออกไปทันที ต่อมาคือการที่เราไม่ต้องมีความพร้อมด้านการเงินมากนัก เพราะการซื้อคอนโดนั้นจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเงินจอง, เงินดาวน์, เงินค่าตกแต่งห้อง นี่ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายปลีกย่อย อย่างพวกค่าซ่อมแซมห้องกรณีปล่อยเช่าต่ออีกนะ สำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆที่สภาพคล่องทางการเงินมีน้อยนั้น การเลือกเช่าอยู่จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ยิ่งถ้าเลือกได้ขอให้ได้อยู่ใกล้ที่ทำงานนี่แหละดีสุด ภาระรับผิดชอบน้อย อย่างที่บอกว่าสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีความพร้อมทางการเงินไม่มากนัก การเช่าอยู่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะไม่ต้องใช้เงินเยอะแล้ว เราไม่ต้องปวดหัวกับการหาของตกแต่งเข้าห้อง การเสียค่าส่วนกลางและความรับผิดชอบอีกมากมายที่เป็นหน้าที่ของเจ้าของห้อง แถมยังไม่มีพันธะผูกพันธ์อะไรอีกด้วย ซื้อคอนโดคือการสร้างหนี้ในระยะยาวจริงหรือ? จริงๆแล้วการซื้อคอนโดถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ยิ่งถ้าอยู่ในทำเลที่ดีมีศักยภาพจะให้ผลคุ้มค่าอย่างมากในอนาคต เพราะคอนโดจะราคาสูงขึ้นตลอดเวลา ซึ่งคอนโดก็ถือเป็นสินทรัพย์ประเภททุนอย่างหนึ่งที่เราสร้างได้ แม้จะต้องจ่ายเงินทุกเดือนเหมือนตอนเช่า แต่เราจะไม่ต้องเสียเงินเปล่าอีกต่อไป เพราะเงินที่จ่ายไปจะเป็นการแลกห้องกลับมาหาเรานั่นเอง ยิ่งในยุคปัจจุบันหลายธนาคารต่างปล่อยสินเชื่อเงื่อนไขดีๆ ออกมามากมายเพื่อให้ผลประโยชน์สูงสุดกับผู้กู้ ทำให้การกู้ซื้อคอนโดนั้นสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ดอกเบี้ยผ่อนชำระเงินกู้นั้นสามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ โดยเป็นไปตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจในแต่ละปี เรียกได้ว่าเป็นส่วนลดค่าคอนโดไปในตัวด้วยอีกด้วย ซึ่ง Aspire รัชดา-วงศ์สว่างก็จัดเป็นโครงการคอนโดที่มีศักยภาพและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แอสปายรัชดา-วงศ์สว่าง คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ แค่ก้าวจากรถไฟฟ้า ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง เชื่อมต่ออโศก-สุขุมวิท ในราคาสุดคุ้มค่า 17-18 มี.ค.นี้  1 ห้องนอน ชิดขอบฟ้า ทุกชั้น ราคาเดียว  2.1 ล้าน* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://goo.gl/SShUZ3  
Aspire Sathorn – Ratchapruek เปลี่ยน..ชีวิตให้เพียบพร้อม ต่อติดทุกการเดินทาง : รีวิวคอนโด

Aspire Sathorn – Ratchapruek เปลี่ยน..ชีวิตให้เพียบพร้อม ต่อติดทุกการเดินทาง : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปอัพเดทความคืบหน้าล่าสุดของคอนโดมิเนียมใหม่ที่อยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีบางหว้า อินเตอร์เชนจ์ เพียงแค่ก้าวเดียวจาก Skywalk กับโครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek (แอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์)” แบรนด์คอนโดคุณภาพจาก AP Thai นั่นเองค่ะ หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณสองปีก่อนหลายคนอาจจำกันได้ว่าทางโครงการได้เคยเปิดจองกันไปแล้ว และก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ แต่ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงที่พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน ทำให้ทางแบรนด์อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกบ้าน โดยเล็งเห็นอนาคตว่าการมาถึงของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่ทำการเชื่อมต่อกับ BTS สถานีบางหว้า จะทำให้ทำเลย่านนี้ดูคึกคัก น่าสนใจ และเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น จึงได้หยุดทำการขายและมีการคืนเงินให้แก่ผู้จองเพื่อพัฒนาโครงการให้ดีขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันทางโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างใกล้เสร็จเต็มทีแล้วนะคะ และการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ เพราะจุดเด่นนอกจากเรื่องของทำเลศักยภาพแล้ว ตัวอาคารยังถูก Re-design และปรับวาง Layout ภายในใหม่ทั้งหมด รวมถึงคัดสรรแต่วัสดุพรีเมี่ยมที่ดีกว่าเดิมมาใช้กับโครงการในราคาที่แทบไม่ต่างจากเดิมเลย เรียกว่าทุกคนสามารถจับต้องได้เช่นเดิม ซึ่งจะมีการ Pre-Sale อีกครั้งในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 นี้ ทำเลและการเดินทาง   ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า โครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” ตั้งอยู่บนทำเลที่น่าสนใจจริงๆ ค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ใกล้กับท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากถนนราชพฤกษ์และถนนเทอดไท จุดเด่นคืออยู่ติด BTS สถานีบางหว้าที่อยู่บนถนนเพชรเกษมตัดกับถนนราชพฤกษ์ บริเวณโดยรอบโครงการเป็นย่านชุมชนเก่าที่คึกคักพอสมควร เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยซะส่วนใหญ่ มีทั้งบ้านเรือนรวมถึงคอนโดฯ ทั้ง High Rise และ Low Rise อยู่หลายโครงการ โดยปกติแล้วคอนโดฯ ในโซนนี้ มักโฆษณาว่าอยู่ติดรถไฟฟ้า แต่ แอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์ นับว่าเป็นโครงการเดียวที่อยู่ติด BTS บางหว้ามากที่สุดในตอนนี้ค่ะ เพราะมี Skywalk ติดหน้าโครงการเลย นับว่าสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากทีเดียว   สำหรับการเดินทางของคนใช้รถยนต์ก็ถือว่าสะดวกและคล่องตัวอยู่พอตัวเลยนะคะ เพราะด้านหน้าโครงการสามารถกลับรถได้เลย และอย่างที่บอกไปว่าโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ตรงหัวมุมถนนเทอดไทพอดี โดยถนนเทอดไทนั้นเป็นถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมไปออกถนนบางแค และถนนเพชรเกษมได้ ซึ่งก็ช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงคับคั่งได้เป็นอย่างดี แถมถนนบางแค และถนนเพชรเกษมก็มีร้านค้า, ตลาดสด, ห้างสรรพสินค้า ให้เลือกจับจ่ายมากมาย สาธารณูปโภคต่างๆ ก็มีครบถ้วนทั้งสถานศึกษา, โรงพยาบาล, ศาสนสถาน ไปจนถึงหน่วยงานราชการต่างๆ ใครที่ทำงานในเมืองก็น่าจะถูกใจและสะดวก เพราะจากโครงการสามารถวิ่งตรงเข้าใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ด้วย 2 สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งสะพานกรุงเทพ (ห่างประมาณ 5 กิโลเมตร) และสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (ห่างประมาณ 6 กิโลเมตร) ก็มุ่งตรงสู่ย่าน CBD อย่างสาทร, สีลม, พระราม 4 แล้วค่ะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บอกได้คำเดียวว่าสะดวกที่สุดค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทำให้มีรถแท็กซี่ รวมถึงวินมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด ที่สำคัญคืออยู่ติด BTS สถานีบางหว้า สามารถเดิน Skywalk มาลงหน้าโครงการได้สบายๆ หากใครอยากจะเข้าเมืองไปช็อปปิ้งเพลินๆ ก็สามารถใช้ BTS จากสถานีบางหว้า (ต้นสาย) นั่งไปลงที่สถานีสยาม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางระหว่างสายสุขุมวิทและสายสีลม ที่มีห้างสรรพสินค้ามากมาย อาทิ สยามพารากอน, สยามสแควร์วัน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยใช้เวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางสำหรับคนเมืองที่อยากหนีความจอแจบนท้องถนน สามารถใช้เรือด่วนในคลองภาษีเจริญที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการได้ ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม และท่าเรือด่วนสาทร ศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของกรุงเทพแล้วค่ะ และในอนาคตสถานีบางหว้าก็จะกลายเป็นศูนย์กลางระบบการคมนาคมขนาดใหญ่ด้วยการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินอีกด้วย เรียกว่าถ้าเปิดให้ใช้บริการเมื่อไหร่ ความสะดวกสบายและตัวเลือกในการเดินทางก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น วันนี้เราเริ่มต้นการเดินทางจากสยาม นั่งมาลงสถานีบางหว้านะคะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 25 นาที จากสถานีจะมองเห็น MRT สายสีน้ำเงิน ที่เป็น Interchange กับ BTS สถานีบางหว้าเลยนะคะ ซึ่งก็ดูก่อสร้างใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าเปิดใช้บริการเมื่อไหร่ ตัวเลือกในการเดินทางก็มีเพิ่มขึ้นเท่านั้น สำหรับทางไปคอนโดจะอยู่ที่ทางออก 3 และ 4 นะคะ สังเกตป้ายที่บอกไปท่าเรือ สะพานตากสิน-เพชรเกษม และเดินตามลูกศรไปเลยค่ะ เดินลงบันไดมาจะเจอ Skywalk ก็เลี้ยวขวาไปตามทางเลยค่ะ ทางเดินเชื่อมจากตัวสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าข้ามคลองภาษีเจริญมายังฝั่งเทอดไทจะทอดยาวไปจนถึงหน้าคอนโดเลยนะคะ โดยทางโครงการได้ทำการเชื่อมต่อทางเดินบน Skywalk ให้ถึงหน้าทางเข้าโครงการเลยทีเดียว ระห่างทางเดินจะมีป้ายบอกทางอยู่ตลอดเลยนะคะ แถมยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ตามจุดเป็นระยะๆ ด้วย ซึ่งก็ให้ความอุ่นใจเวลาเดินไปกลับคอนโดฯ ได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ จาก Skywalk มีบันไดลงมาถึงท่าเรือ สะพานตากสิน-เพชรเกษมเลยนะคะ ถ้าใครอยากหลีกเลี่ยงรถติด ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบายมากๆ ตัวโครงการตั้งอยู่บริเวณตรงหัวมุมถนนเทอดไทพอดี ดังนั้นจึงสามารถเดินตามป้ายที่ชี้ไปทางเทอดไทได้เลยค่ะ เดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นตัวคอนโดแล้วค่ะ เพราะอยู่ห่างจาก BTS สถานีบางหว้าเพียง 450 เมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ จาก Skywalk จะมองเห็นถนนเส้นราชพฤกษ์หน้าโครงการเลยนะคะ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดกลับรถไม่ไกล หากจะเข้าเมืองไปสาทรก็สามารถกลับรถใต้สะพานและมุ่งตรงไปได้เลย บริเวณใกล้ๆ โครงการเป็นย่านชุมชนเก่านะคะ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยซะส่วนใหญ่ นอกจากบ้านเรือนก็จะมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่บ้างนะคะ ถ้าใครอยู่คอนโดและใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก เดินลงมาจากสถานีซื้อข้าวกลับไปคอนโดก็เป็นเรื่องที่สะดวก ติดกับทางลงโครงการ จะเป็นทางลงฝั่งถนนเทอดไทนะคะ ซึ่งเป็นย่านชุมชนเก่าที่คึกคักไม่เบา เนื่องจากเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะเชื่อมต่อกับถนนบางแค และเพชรเกษมได้นั่นเอง ถัดจากทางลงฝั่งเทอดไท ก็จะเป็นทางลงสู่โครงการแล้วค่ะ ซึ่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าเลย เปรียบเสมือนเป็น private walk way ประตูทางเข้าโครงการจะติดกับ Skywalk เพียงแค่ก้าวเดียวเลยนะคะ แถมยังเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้านด้วยการใช้ระบบ keycard ในการเข้าออก ที่ดินของโครงการฝั่งที่ติดกับถนนราชพฤกษ์จะมีคลองระบายน้ำเล็กๆ กั้นอยู่ จากภาพจะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ติดหัวมุมถนนเทอดไทเลยนะคะ   เจาะลึกโครงการ   โครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 4-3-13.6 ไร่ แบ่งออกเป็นร้านค้า 1 ยูนิต และที่พักอาศัย 1,049 ยูนิต มาพร้อมที่จอดรถ 419 คัน (คิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และมี EV Fharger ด้วย สำหรับลิฟท์โดยสารนั้นมีทั้งหมด 5 ตัว และมี Service Lift ไว้ขนของอีก 1 ตัว อย่างที่บอกไปว่าทางโครงการได้ทำการ Re-design ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้ากับยุค 2018 แบบที่ไม่มีใครเคยเห็นจากโครงการไหนของ Aspire มาก่อน ตัวอาคารถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่าย มี Façade ปกคลุมอาคารไว้ และแฝงความเก๋ด้วยการไล่โทนสีอ่อนเข้มแบบ Gradient ให้ตัวอาคารเกิดความมีมิติที่สวยงาม ดูแปลกตาและน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสีประจำโครงการอย่างสีมัสตาร์ด ที่นำมาตกแต่งรายละเอียดภายในอาคารบางจุด เพื่อเพิ่มสีสันและเป็นกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ให้กับโครงการ   สำหรับพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็จัดเต็มแบบสุดๆ เรียกว่าครบครันและคุ้มค่าเกินราคามากเลยค่ะ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของพื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบโดยหลอมรวมความต้องการใช้ชีวิตแบบสังคมยุคใหม่เข้ากับความเป็นส่วนตัวที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานร่วมกันและแยกเป็นส่วนตัว ในรูปแบบของ Facility ที่ใหญ่ขึ้นและมีความหลากหลายมากกว่าเดิม รวมถึงดีไซน์ให้ต่างไปจากเดิมและน่าใช้งานได้มากขึ้น เริ่มตั้งแต่บริเวณ Ground Floor พื้นที่ Lobby อันหรูหรา มาพร้อม multi function แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Reception Hall, Lobby Loumge และ Semi Outdoor Area ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง โดยการทำ Co-working & sharing space ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งทํางาน หรือรีแลกซ์ได้ แถมยังมี Internet แบบ Fibre optic เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้ให้บริการอีกด้วย จาก Master Plan จะมีทางเข้าโครงการจากถนนราชพฤกษ์นะคะ และมีจุด Drop-off ก่อนจะเข้าสู่ Lobby พื้นที่ Lobby ของโครงการออกแบบมาให้เป็น Co-working and Sharing Space อย่างสมบูรณ์ ด้วยจุดที่ลูกบ้านสามารถใช้ทํางาน ได้ถึง 4 จุดตามไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย Social lounge, meeting room, semi outdoor lounge และ techno booth ภาพบรรยากาศจำลองส่วนของโถงต้อนรับ Lobby Lounge ที่ดูหรูหราและทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Social Library Lounge ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Social Library Lounge โซนห้องสมุดที่มาพร้อมโต๊ะนั่งอ่านหนังสือแบบ Indoor สามารถนั่งคุยงาน ทํางานในห้องแอร์แบบ Casual ได้ แต่ถ้าใครต้องการความ private ก็เปลี่ยนไปใช้ Private Meeting Room อีกโซนแทนได้ค่ะ ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Private Meeting Room ออกแบบไว้รองรับลูกบ้านได้ถึง 6-8 คน สําหรับคุยงานจริงจัง ซึ่งสามารถปิดเป็นที่ประชุมได้แบบ private ซึ่งมาพร้อม TV ให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วยค่ะ ภาพบรรยากาศจำลองห้อง Techno Booth ออกแบบให้ลูกบ้านสามารถมานั่งทำงานหรือติวหนังสือคนเดียว หรือเป็นคู่ได้ แถมยังมี TV ให้สามารถต่อ Laptop Present งานได้ แปลนอาคารชั้น 3 ซึ่งแบ่งเป็นที่จอดรถ และเป็นส่วนของที่พักอาศัย โดยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นนี้เลยค่ะ ในส่วนของสระว่ายน้ำ, ฟิตเนต และความสะดวกสบายอื่นๆ ถูกยกขึ้นไปไว้บนพื้นที่ชั้น 8 และ Rooftop ทั้งหมดเลยนะคะ โดยพื้นที่ชั้น 8 นั้นมีสระว่ายน้ำแบบ Overlap Pool ความยาวถึง 40 เมตร โดยจะแบ่งการใช้งานไว้ 2 ฟังก์ชั่น คือ Active Zone มาพร้อมสระว่ายน้ำ Lap pool ความยาวขนาด 25 เมตร สำหรับนักออกกำลังกายแบบจริงจัง ในส่วนของ Passive Zone แบ่งออกเป็น Relaxing Zone ประกอบด้วย Sunken bed, Social pool, kid pool, sunbed บนผิวน้ำ และ Pool Cabana/Pavilion แถมในโซนสระว่ายน้ำยังมีโซน Multifunction Deck เพื่อลูกบ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสำหรับนั่งทำงานและพักผ่อน ซึ่งเป็นออฟชั่นเสริมจากชั้น GF ที่ทางโครงการตั้งใจมอบให้แก่ลูกบ้าน แปลนของพื้นที่ชั้น 8 เป็นส่วนของ Facility สำคัญอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนสนะคะ ซึ่งชั้นนี้จะมียูนิตห้องพักอาศัยรวมด้วย ภาพบรรยากาศจำลอง Facility ชั้น 8 ในส่วนของ Social Pool, kid Pool และ Sunken Bed ภาพบรรยากาศจำลอง Facility ชั้น 8 ที่ออกแบบ Landscape ใหม่ โดยทำทางเดินขนานไปกับผืนน้ำ นับว่าเป็นดีไซน์ที่แปลกใหม่ต่างจากโครงการ Aspire อื่นๆ สำหรับ Fitness ถูกวางขนานไปกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยกระจกใสให้ลูกบ้านได้ออกกำลังกายอย่างเพลิดเพลิน และเป็นครั้งแรกของแบรนด์ AP ที่มุ่งเน้นการออกกำลังกายอย่างแท้จริง โดยจัดเต็มเครื่องเล่นใหม่ๆ อย่าง Matrix และ Johnsons ให้ลูกบ้านแบบไม่มีกั๊ก ซึ่งแบ่งพื้นที่ทั้งหมดออกเป็น 5 Sections ได้แก่ Boxing Arena & dummies, ลานเครื่องออกกําลังกายที่มีถึง 5 เครื่อง รวมไปจนถึง S-Drive และ Rower, 2 Dumbbell racks & 2 benches, Cable Machine และ Multi-purpose area โซนเอนกประสงค์หลากหลายกิจกรรม เช่น Yoga, Yoga ball และ free style ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องฟิตเนสที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายอย่างครบครัน แถมยังดีไซน์โฉบเฉี่ยวเพิ่มความเก๋ด้วยการฝังเส้นไฟ LED สีเหลืองมัสตาร์ด (สีประจำโครงการ) ลงที่ขอบพื้น มาต่อกันที่ Rooftop พื้นที่ชั้น 32 ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดถึง 1,200 ตร.ม. เลยนะคะ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่งคือ Corecreational Sky Park และ Rooftop Garden เพื่อให้ลูกบ้านได้พักผ่อนในรูปแบบของลานกิจกรรม เป็น Sharing space ไม่ว่าจะเป็น Relax Sitting และ Amphitheater, Jogging track, BBQ area, Outdoor TRX และยังมีลานสำหรับกีฬาแบบกลุ่ม (Co-Sporting) ที่รองรับกีฬาหลากหลายประเภทเช่น ฟุตซอล, แฮนด์บอล, แชร์บอล, โยคะ อีกด้วย แปลนของพื้นที่ชั้น 32 นะคะ ซึ่งเป็น Facility บน Rooftop ขนาดใหญ่ ภาพมุมสูงอาคาร จะมองเห็นเนื้อที่บนดาดฟ้าทั้งหมด 1,200 ตร.ม. โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ Corecreational Sky Park และ Rooftop Garden เพื่อให้ลูกบ้านพักผ่อนได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมี Rooftop Garden พื้นที่สีเขียวและเป็น Buffer กันความร้อนเข้าตึกแล้ว ยังมีพื้นที่ 20% เป็น Urban Farming ที่ลูกค้า สามารถปลูกผักสลัดและสมุนไพรต่างๆ เพื่อนำมาประกอบอาหารได้ โดยโครงการมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดทุกวัน และมีจุดชมวิวเมือง City Scape ได้ 360 องศา มี Multifunction Deck สำหรับนั่งทำกลางเป็นจุดสูงสุด ของถนนราชพฤกษ์ได้พร้อมๆ กัน   เปิดแบบห้อง Aspire Sathorn – Ratchapruek ครั้งแรก!   สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek”  มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 แบบด้วยกันนะคะ มีตั้งแต่ห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 31-32 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร และ 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 45-48 ตารางเมตร ทั้งนี้ทางแบรนด์ยังได้พัฒนา Layout รูปแบบใหม่ให้ดีและคุ้มค่ามากกว่าเดิม โดยนำมาใช้เป็นโครงการแรกของ AP ด้วย ซึ่งภายในห้องแต่ละยูนิตมีจุดเด่นคือฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลายรูปแบบ ถูกออกแบบมาเพื่อความโปร่งโล่ง สบาย ตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังจัดเต็มวัสดุให้เกินราคาจริงๆ ค่ะ เพราะเท่าที่เราสอบถามข้อมูลมาคร่าวๆ ก็พอจะเห็นถึง Spec ที่ต่างไปจากเดิมมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นประตูกั้นห้อง Full height ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา, ห้องน้ำสําเร็จรูปที่ใช้กระเบื้องเพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกเหมือนห้องน้ำทั่วไป ข้อดีคือทำความสะอาดง่าย และมี service ที่ดีกว่า, ภายในครัวใช้กระเบื้องครัวขนาด 60 x 60 นิ้ว เหนือกว่าโครงการอื่นๆ ที่มักใช้กระเบื้องขนาด 30 x 30 นิ้วเท่านั้น และชุดครัว Hob hood ก็ใช้ Teka Sink MEG ด้วยค่ะ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ลูกบ้านจะได้รับทั้งหมดเลยนะคะ เพราะทางโครงการจะเปิดขายห้องแบบ Fully Fitted ในราคาที่แทบไม่ต่างจากเดิมเลยค่ะ   นอกจากการปรับ Layout และเพิ่ม Spec ที่คุ้มค่าให้ห้องพักอาศัยแล้ว ทางโครงการยังมอบ Fiber Optic to Room ให้ลูกบ้านสามารถใช้ Internet Hi-speed ได้สูงสุด ซึ่งเป็นครั้งแรกใน Product Aspire ด้วยค่ะ แถมโครงการคู่แข่งรอบข้างส่วนใหญ่จะใช้เป็นสายทองแดงปกติ ทำให้สามารถสมัคร Net fiber ได้แต่ความเร็วก็จะลดลงนั่นเองค่ะ นับว่าเป็นข้อดีที่เหนือกว่าอีกข้อเลย สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่คงต้องอดใจรออีกนิดนะคะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าปัจจุบันตัวโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างจนเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย ทีมงานจึงยังไม่สามารถเข้าไปเก็บภาพห้องตัวอย่างมาฝากได้ แต่เพื่อชาว Review Your Living ทุกคน วันนี้เราจึงมีภาพ Draft และภาพ Mockup room จากทางโครงการ มาให้พิจารณาก่อนที่ทาง AP จะมีการเปิดตัวใหญ่ในช่วงปลายเดือนที่จะถึงนี้ แปลนห้องทั้ง 4 แบบด้วยกันนะคะ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 31-32 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร และ 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 45-48 ตารางเมตร แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.5-32 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ติดกันนั้นเป็นห้องน้ำและส่วนห้องนอนอยู่ถัดไป ส่วนครัวเป็นแบบครัวปิดมีกั้นห้องมาให้ ห้องครัวมีระเบียงอยู่ด้านในสุด ตัวระเบียงสามารถวางแอร์คอมเพรสเซอร์ และเครื่องซักผ้าได้ ภาพตัวอย่างส่วนของ Living area ที่ดูกว้างขวาง ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ฝั่งขวามือของห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนครัวมีประตูบานเลื่อนกระจกใสกั้นไว้ให้ ติดกับคอนโซลทีวีจะเป็นห้องนำ้และห้องนอนที่เป็นประตูทึบ เพดานห้องสูง 2.55 เมตร ภาพตัวอย่างภายในห้องนอนโอบล้อมด้วยกระจกใส สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ แถมยังดูมีระยะพื้นที่ข้างเตียงเหลือพอให้เดินโดยรอบได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. นับว่าเป็นห้องไฮไลท์ของโครงการได้เลยค่ะ เพราะออกแบบมาให้ลูกบ้านสามารถจัดวาง Layout ได้ตามใจชอบ มีให้เลือกถึง 5 option สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายฟังก์ชั่น โดยจะมีห้องอเนกประสงค์กั้นเพิ่มมาให้ 1 ห้อง ซึ่งเราสามารถที่จะจัดเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานได้ค่ะ ภาพตัวอย่างส่วนของ Living area ที่แบ่ง Zoning ของ Living Ding ชัดเจน โดยใช้ Furniture Built-in ท่ีเป็น Style BAY WINDOW BENCH เข้ามาเป็นตัวแบ่ง ZONE ทําให้พื้นที่ห้องดูกว้างขวางและลงตัวมากขึ้น ภาพตัวอย่างภายในห้องนอนจะมีขนาดกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบถ้วนแบบเหลือๆ ไม่อึดอัด มีช่องแสงป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้ง แปลนห้อง 2 Bedroom ขนาด 46.5-48 ตารางเมตร เป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการค่ะ เข้าห้องมาจะเจอส่วนกลางเป็นมุมรับประทานอาหารที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่น มีห้องครัวแบบปิดกั้นอยู่ตรงกลางระหว่าง MasterBedroom และห้องนอนเล็ก ระเบียงจะอยู่ด้านหลังครัวนะคะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนใหญ่ ซึ่งใช้ร่วมกันกับห้องนอนเล็ก เพราะมีประตูเข้าออก 2 ทาง ภาพตัวอย่างส่วนของ Living area เน้น Function ที่ห้อง Living ใหญ่ ยาวต่อเนื่องไปยังพื้นที่ Dining area โดยสามารถนั่งทานข้าวบริเวณเก้าอี้ที่เสมือนเป็น sofa ได้ เหมาะสําหรับตอนเพื่อนๆ มา Party จะได้นั่งต่อกันเป็นพื้นท่ีใหญ่ได้โดยไม่รู้สึกว่าแยกพื้นที่กัน ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องนอนเล็กที่ดูกว้างขวางทีเดียว เพราะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง Master Bedroom มีขนาดกว้างเลยทีเดียวค่ะ เพราะสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบ อัพเดทข้อมูลกันมาถึงตรงนี้ คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธใช่ไหมคะว่าโครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก AP Thai ที่น่าสนใจมากๆ นอกจากเป็น Product Aspire ตัวแรกในปี 2018 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ Spec, Design, Technology, และ Facilities อย่างแท้จริงแล้ว โลเคชั่นของโครงการยังสามารถเดินทางสะดวกทั้งคนใช้รถส่วนตัวและรถสาธารณะ เพราะอยู่ใกล้ Interchange บางหว้า ที่มีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย (สายเขียวอ่อน BTS + สายสีน้ำเงิน MRT เสร็จภายใน 2 ปี) โดยสายสีฟ้าเป็นรถไฟลอยฟ้าเชื่อมต่อกับใต้ดิน วิ่งครบลูปรอบเมือง ที่สำคัญตัวโครงการมี Skywalk เปรียบเสมือนเป็น Private walk way ส่วนตัว ติดกับประตูทางเข้าเพียงแค่ก้าวเดียว ซึ่งโครงการเองก็เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านอีกขั้นด้วยระบบ keycard เข้าออก   สำหรับคนที่สนใจไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่า บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะเป็นโครงการที่จองต้นปีก็สามารถย้ายเข้าอยู่ช่วงปลายปีเลย ไม่ต้องอดทนรอก่อสร้างอีกนานกว่าจะได้อยู่จริง จึงสามารถดึงดูด Real demand ได้ดี อีกทั้งราคายังสามารถจับต้องได้ โดยแตกต่างจากเดิมนิดหน่อยแต่ยังคงสูสีกับโครงการในตลาดด้วยราคา 87,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้นค่ะ แถมทุกยูนิตขายแบบ Fully Fitted มาพร้อมวัสดุและสุขภัณฑ์คุณภาพซึ่งถูกคัดสรรมาอย่างดี ซึ่งทางโครงการแอบกระซิบว่า โครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” จะเปิด Pre-Sale ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท* พิเศษ! สำหรับชาว Review Your Living สามารถลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท ได้ที่นี่ https://goo.gl/7XdzS4 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร Call Center 1623
Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ริมถนนรัตนาธิเบศร์ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง อีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก AP ซึ่งโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ที่เราจะพาไปเยี่ยมชมในครั้งนี้ เพิ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อต้นปี 59 นี้เอง ตัวโครงการอยู่ในตำแหน่งที่น่าสนใจมากครับ เพราะห่างจากสถานีบางกระสอเพียง 250 เมตรเท่านั้น การเดินทางสะดวกมาก ใกล้แยกแครายที่เชื่อมต่อกับถนนติวานนท์ และมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ด้วย   Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่ สูง 25 ชั้น ทางเข้าโครงการอยู่ติดริมถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก พอเลยจากแยกแครายมาประมาณ 1.4 กม. ก็จะเห็นทางเข้าได้อย่างชัดเจน หาไม่ยากเลยครับ ใกล้ๆ กับโครงการมีทั้งศูนย์ราชการนนทบุรี ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี, โลตัส, เอสพลานาดรัตนาธิเบศร์ ในขณะที่เลยไปอีกหน่อย ก็ยังมีห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของย่านนี้เลยทีเดียว   เจาะลึกโครงการ สำหรับตัวโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 จะมีพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่เศษ ซึ่งอัดแน่นไปด้วย Facility ที่ทางโครงการจัดมาแบบเต็มที่ โดย Facility หลักๆ จะอยู่บริเวณชั้นล่างระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 2 ตึก มีทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ความยาว 25 เมตร, ห้องฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ลานกิจกรรมกลางแจ้ง, สนามเด็กเล่น, สวนขนาดใหญ่, ล็อบบี้เปิดรับวิวแบบ 360 องศา, Bike Lane และ Jogging Track รอบโครงการ ในขณะที่พื้นที่จอดรถจะแยกส่วนออกมาเป็นอีกหนึ่งอาคาร สามารถรองรับปริมาณรถได้มากถึง 45% เลยทีเดียว Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกายรอบโครงการ Bike Lane อยู่คนละฝั่งถนนกับ Jogging Track Main Lobby จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ใกล้ๆ กับ Lobby จะมีสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ฟิตเนสจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยนะครับ จากฟิตเนสมองออกมาเห็นสระว่ายน้ำ ใกล้ๆ กันก็จะมีห้องน้ำ พร้อมห้องซาวน่าและตู้ล็อกเกอร์ แยกชาย-หญิง ข้อดีอย่างหนึ่งของการที่มี Facility อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัยคือ ลูกบ้านทุกคนสามารถลงมาใช้บริการได้สะดวกเท่าเทียมกัน แถมโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 นี้ยังเป็นอาคารสูงถึง 25 ชั้น จึงช่วยบังแดดได้เป็นอย่างดีเกือบตลอดทั้งวัน บริเวณสระว่ายน้ำจึงร่มรื่น สามารถลงเล่นน้ำได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องกลัวแดดร้อนกันเลย ในส่วนของที่พักอาศัยนั้นจะเริ่มกันตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคารเลยนะครับ แต่มีจำนวนห้องไม่มากนักในบริเวณชั้นล่าง ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหาส่วนกลาง เปิดรับวิวสระว่ายน้ำ และสวนสวยๆ แบบใกล้ชิดกันไปเลย นอกจากนี้บริเวณชั้น 8 ของอาคาร A ด้านที่ติดกับอาคารจอดรถ ทางโครงการยังจัดแต่งพื้นที่ดาดฟ้าของอาคารจอดรถให้เป็นสวนลอยฟ้าขนาดย่อม สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน รับลมชมวิวได้สบายๆ ห้องพักทางด้านทิศเหนือของอาคาร A จึงได้วิวสวนสีเขียวเพิ่มขึ้นมาอีกด้านไปโดยปริยาย จากแปลนอาคารจะเห็นถนนทางเข้าโครงการด้านขวามือ ก่อนจะเข้ามาเจออาคารจอดรถเป็นอาคารแรก ทางเข้าโครงการ ถนนทางเข้าโครงการร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ มีทางเท้าสำหรับเดินเข้าโครงการอยู่คู่ขนานกับถนน Main ขับรถเข้ามาด้านในแล้วจะเจออาคารจอดรถอยู่ทางด้านขวามือ อาคารจอดรถสูง 8 ชั้น อยู่ติดกับอาคาร A ทางขึ้นอาคารจอดรถ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ทั้ง 2 อาคารเลยนะครับ แต่อาคาร A จะมีน้อยกว่า เพราะติดกับอาคารจอดรถ ชั้น 3-7 ห้องพักอาศัยจะเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่อาคาร A ก็ยังติดอาคารจอดรถอยู่ ขึ้นมาถึงชั้น 8 จะเป็นชั้นสุดท้ายของอาคารจอดรถ ซึ่งชั้นดาดจะถูกทำเป็นสวนส่วนกลาง ตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไปจนถึงชั้น 25 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะมีประมาณ 31 ห้องต่อชั้น ห้องพักของ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีทั้งหมด 1,428 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือแบบ 1 Bedroom และ 2  Bedroom โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 24.5 ตร.ม. นะครับ เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการกันว่าจะน่าอยู่มากแค่ไหน   เปิดห้องตัวอย่าง ปัจจุบันทางโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีลูกบ้านย้ายเข้ามาพักอาศัยกันเป็นจำนวนพอสมควรแล้วนะครับ ดังนั้นใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่สามารถติดต่อเข้ามาขอชมห้องในบรรยากาศจริงได้เลย เปิดห้องตัวอย่างห้องแรก เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่ขนาด 24.5 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการเลย แต่การออกแบบ Layout ภายในห้องค่อนข้างลงตัว เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีทีเดียว หลังประตูทางเข้าห้อง จะเป็นพื้นที่ของ Living Area ติดกันเป็นบริเวณห้องนอน ซึ่งมีประตูกระจกบานใสกั้นไว้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้อง ในขณะที่ห้องครัวและมุมกินข้าวจะอยู่ถัดไปอีกด้านที่ติดกับระเบียงนะครับ บรรยากาศโดยรวมภายในห้องค่อนข้างโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ที่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ห้องเลยไม่อับทึบถึงแม้จะมีขนาดเพียง 24.5 ตร.ม. ก็ตาม เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ ช่วงนี้โครงการมีโปรโมชั่นจัดเฟอร์นิเจอร์ของ SB มาให้เรียบร้อย ตรงนี้จะได้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง แต่ดูจากพื้นที่แล้วถ้าใครอยากได้ใหญ่กว่านี้ก็สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านชั้นวางทีวีโครงการก็จัดเตรียมมาให้ด้วยนะครับ ติดกับ Living Area จะเป็นห้องนอน มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น โครงการวางเตียง 5 ฟุตไว้ให้ พร้อมฟูก ติดกับหัวเตียง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ให้ด้วย ปลายเตียงโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้ มุมมองจากห้องนอนออกมาที่ Living Area จากห้องนอนเราไปดูกันต่อที่ห้องครัวเลยนะครับ ห้องนี้จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ ไม่ได้มีประตูกระจกกั้นให้ ภายในห้องครัวโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมโต๊ะทานอาหาร เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจาน พร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ที่โครงการจัดมาให้ในช่วงโปรโมชั่น ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนครัว พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ห้องน้ำจะอยู่อีกด้านของห้องครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 ที่เปิดให้ชมคือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้ ดูเผินๆ แล้วจะมีการจัดวาง Layout ภายในห้องใกล้เคียงกับห้องแบบแรกมากเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมีมากกว่า ครัวที่ได้จึงเป็นครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนเพิ่มเข้ามา ในขณะที่ห้องนอนก็จะเป็นผนังทึบแทนกระจกบานเลื่อน ส่วนห้องน้ำก็เปลี่ยนมาเข้าออกจากในห้องนอนแทนครับ ห้องนี้จะได้เปรียบกว่าตรงที่ได้ครัวปิด มีประตูกั้นเรียบร้อย สามารถทำอาหารจริงจังได้มากกว่าแค่จัดเตรียม อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน พื้นที่ครัวก็กว้างขึ้นอีกหน่อย วางโต๊ะกินข้าวเข้ามุมไว้ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้อีกสบายๆ ครับ เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ พื้นที่บริเวณ Living Area กว้างอยู่พอสมควร โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีอยู่ติดกับตู้เก็บของ ตู้เก็บของ Built-in อยู่หน้าประตูห้อง ต่อจาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องครัว Type นี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ด้านในครัวจะคล้ายๆ กับห้องก่อนหน้านี้ที่เราดูกันมา ตู้เย็นวางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจานพร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านบนจะเป็นตู้ลอยเก็บของ ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ระเบียงจะอยู่ต่อจากห้องครัว ธรณีประตูยกขึ้นมาค่อยข้างสูงทีเดียว พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร เรามาดูกันต่อที่ห้องนอนนะครับ พื้นที่ในห้องนอนกว้างพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก ถ้าอยากติดทีวีไว้ในห้องด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบติดผนัง ซึ่งโครงการก็เตรียมปลั๊กไว้ให้เรียบร้อย โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้ที่ปลายเตียง หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ จะมีบานกระทุ้งเป็นบานเล็ก 1 บาน ส่วนที่เหลือจะเป็นบาน Fix ห้องตัวอย่างที่เราได้มาดูกันจะอยู่ที่ชั้น 9 มองออกไปจะเห็นสวนสีเขียวที่อยู่บนชั้น 8 อีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางของไว้หน้าห้องน้ำ การจัดวาง Layout ห้องน้ำ Type นี้จะต่างกับห้องแรกอยู่พอสมควรนะครับ เนื่องจากขนาดห้องที่ใหญ่กว่า ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard เหมือนกัน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ตรงกลางจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยนะครับ ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ ห้องแบบสุดท้ายที่เราจะเปิดชมกันก็คือ ห้อง 2 Bedroom ซึ่งมีให้เลือกขนาดเดียวคือ 45.5 ตร.ม. ส่องจาก Layout ห้องก็ว่าเป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีแล้ว พอเปิดห้องจริงก็ต้องบอกว่าภายในเป็นสัดส่วน เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกันมากๆ โซนกลางห้องเป็น Living Area ติดกับระเบียงซึ่งเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้ค่อนข้างเต็มที่ ในขณะที่พื้นที่ครัวก็กว้างขวาง เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ ซึ่งเข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากด้าน Living Area และ Master Bedroom ห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอนนี้ จัดแบ่งห้องนอนไว้คนละด้าน นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้ว แต่ละห้องยังสามารถเปิดรับวิวจากกระจกบานใหญ่ได้อย่างเต็มตา ขณะเดียวกันถ้าพื้นที่ของห้องนอนเล็ก ก็สามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ อาจจะใช้เป็นห้องทำงาน ห้องเป็นของ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็จะช่วยให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นได้ แต่ถ้าครอบครัวไหนมีลูกเล็กๆ ขนาดห้องนี้ก็กำลังกะทัดรัดพอดิบพอดีเลยครับ เข้ามาในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่ Dining Area โล่งๆ ก่อนจะเห็น Living Area ที่อยู่ด้านใน เรามาดูด้านซ้ายมือกันก่อนนะครับ ด้านซ้ายมือจะห้องน้ำ การจัดวาง Layout จะแตกต่างจาก 2 ห้องที่ผ่านมาเลยนะครับ ส่วนสุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนกัน เริ่มจากอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ที่มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พื้นที่ใน Shower Box กว้างขวางใช้ได้เลยครับ ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ ออกจากห้องน้ำมาเราข้ามไปดูห้องครัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันต่อ ครัวของห้องนี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ พื้นที่ในห้องครัวค่อนข้างกว้างเลยนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะได้ชุดใหญ่กว่า 2 ห้องที่ผ่านมา จะมีซิงค์ล้างจานพร้อมพื้นที่เตรียมอาหาร ซิงค์ล้างจานแบบหลุมของ Teka ด้านบนเป็นชั้นลอยเก็บของ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่โล่งๆ สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ห้องครัว Type จะไม่มีระเบียงให้นะครับ แต่จะมีหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมบานกระทุ้ง ไว้สำหรับระบายกลิ่นอาหารในห้องครัว กลับมาเข้าในห้อง มาดูพื้นที่ Dining Area กันต่อ ตรงนี้โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งไว้ให้ จะอยู่บริเวณหน้าห้องครัวเลยนะครับ เตรียมอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสิร์ฟกันได้เลย ถัดจาก Dining Area เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งก็ได้นะครับ ส่วนด้านที่วางทีวีโครงการ Built-in เป็นชั้นวางทีวีมาให้ด้วย จะวางบนชั้นวาง หรือจะใช้ทีวีแบบติดผนังเหมือนในห้องตัวอย่างก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้อีกแบบครับ ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ธรณีประตูยกขึ้นมาสูงทีเดียวครับ เวลาก้าวข้ามก็ระวังกันนิดนึงนะครับ พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวเท่าๆ กับพื้นที่ Living Area ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควรเลยนะครับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกว่าไว้ที่ระเบียง หันหน้าเป่าลมร้อนออกด้านนอก เรากลับเข้ามาด้านใน ขวามือของ Living Area จะเป็นห้องนอนเล็ก ด้านในห้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียงขนาดประมาณ 3 ฟุตไว้ให้ ซึ่งขนาดเตียงจะลงล็อกพอดีเป๊ะเลยนะครับ ปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังแบบนี้ก็ได้ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fix และบานกระทุ้ง 1 บาน ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in โต๊ะเครื่องแป้ง วางไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า มาถึงห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านซ้ายมือของ Living Area โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่านะครับ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เป็นบาน Fix และมีบานเล็กเป็นกระทุ้ง ข้างเตียงอีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า ในห้องนอนจะมีประตูเข้าห้องน้ำอีกด้านนึงด้วยนะครับ จะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย ทางเข้าห้องน้ำจากฝั่งห้องนอน ด้วยความที่โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 อยู่ติดกับถนนใหญ่เลย แถมยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกด้วย จึงค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง ไม่ว่าจะด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือรถส่วนตัว ยิ่งถ้าใครต้องทำงานในช่วงโซนนนทบุรีอยู่แล้ว ก็ยิ่งสะดวกกว่ามากในการเดินทางไปกลับจากที่ทำงาน นอกจากนี้ในอนาคต บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีจะเป็นจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯได้มากขึ้นไปอีกครับ รอบๆ โครงการถึงแม้จะไม่ได้มีร้านค้าร้านอาหารให้พึ่งพาในระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ แต่ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าถัดออกไปอีก 1 หรือ 2 สถานีก็จะมีห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้งให้พึ่งพาได้สบายๆ ทั้ง ห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และเทสโก้ โลตัส ส่วนภายในโครงการ ต้องบอกว่าทางโครงการจัด Facility มาแน่นเต็มที่มากๆ แถมห้องทุกห้องก็ขายให้แบบ Fully Fitted คือมีให้ทั้งเครื่องปรับอากาศ, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, สุขภัณฑ์และที่กั้นอาบน้ำ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็จัดมาให้คุ้มค่าคุ้มราคา ตามมาตรฐานทุกชิ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะครับ สำหรับที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากจะลองเข้าไปชมห้องตัวอย่างด้วยตัวเองก็สามารถนัดหมายกับเจ้าหน้าที่โครงการได้เลยครับ
Aspire งามวงศ์วาน…เรียบหรูอย่างมีสไตล์ บนทำเลที่ถือว่าดีที่สุดบนถนนงามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

Aspire งามวงศ์วาน…เรียบหรูอย่างมีสไตล์ บนทำเลที่ถือว่าดีที่สุดบนถนนงามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปเยี่ยมชมคอนโดมิเนียมแบรนด์ “Aspire” อีกหนึ่งโครงการจาก AP ที่ยึดทำเลแยกพงษ์เพชรสร้างคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่ พร้อม Facility จัดเต็ม หรูหรามีสไตล์ ในราคาโปรโมชั่นสุดคุ้มด้วยราคาเพียง 1.59 ล้านบาท* แต่ต้องบอกก่อนว่ามีจำนวนจำกัดนะครับ ใครสนใจทำเลที่มีศักยภาพคุ้มค่ากับการลงทุนแบบนี้ แนะนำว่าต้องรีบๆ กันหน่อย   โครงการ Aspire งามวงศ์วาน ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว ภาพที่เก็บมาฝากในคราวนี้จึงเป็นภาพในบรรยากาศจริงทั้งหมด รวมถึงห้องตัวอย่างก็เป็นห้องจริงบนตึกที่ทางโครงการจัดตกแต่งไว้ให้ชมครับ ที่ตั้งของโครงการ Aspire งามวงศ์วาน อยู่ติดถนนใหญ่เลยนะครับ ห่างจากแยกพงษ์เพชรมาทางฝั่งขาไปถนนวิภาวดีฯ นิดเดียวเอง การเดินทางสะดวกมาก เพราะเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง สะดวกทั้งเข้าเมือง และ ออกนอกเมือง ถึงแม้จะไม่มีรถไฟฟ้าผ่านหน้าโครงการก็ตาม ซอยใกล้ๆ โครงการคือ ซอยชินเขต 1 สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดไปออกถนนวิภาวดี และถนนประชาชื่นได้ แถมถนนรอบๆ ยังเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรัตนาธิเบศร์ แยกประชานุกูลได้อีกด้วย  จึงจัดได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเดินทางมากเลยทีเดียว ส่วนในอนาคตทำเลนี้ก็ยังรองรับรถไฟฟ้า ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ระหว่างสถานีบางเขน (สายสีแดง) กับสถานีศูนย์ราชการนนทบุร (สายสีม่วง)  นอกจากนี้รอบๆ โครงการยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เทสโก้โลตัส, โฮมโปร, ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า, เมเจอร์รัชโยธิน, โรงพยาบาลนนทเวช, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ศูนย์ราชการ, SCG, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมไปถึงด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลครับ เพียง 3.9 กิโลเมตรเท่านั้น ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็จัดว่าสะดวกมากๆ เราซูมมาดูใกล้ๆ จะเห็นว่าโครงการจะตั้งอยู่ริมถนนงามวงศ์วานเลยจากแยกพงษ์เพชรมาประมาณ 400 เมตร ก่อนถึงซอยชินเขต 1 ซึ่งจะเป็นช่วงเชิงสะพานข้ามแยกพงษ์เพชรพอดี เพราะฉะนั้นถ้ามาจากทางแยกแครายก็ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยกพงษ์เพชรนะครับ เพราะจะเลยทางเข้าโครงการ บริเวณใกล้ๆ โครงการ Aspire งามวงศ์วาน แวดล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมายเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ และตลาดพงษ์เพชร ซึ่งต่างก็อยู่ในระยะที่สามารถเดินได้สบายๆ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเขตชุมชนนะครับ บรรยากาศจึงคึกคักหน่อย รถราขวักไขว่ มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่ใกล้ๆ แท็กซี่ก็มากมาย การที่ไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านจึงไม่รู้สึกเป็นปัญหาเท่าไหร่ ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็แค่นั่งรถเลยไปขึ้นที่บางซื่อ หรือไปใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเลยก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร โดดเด่นด้วย Facility แบบจัดเต็มจนคุณคาดไม่ถึง Aspire งามวงศ์วาน เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 28 ชั้น จำนวน 2 อาคาร โดยมี Lobby อยู่ตรงกลาง ส่วนอาคารจอดรถ 9 ชั้น แยกออกมาทางด้านหลัง และจัดพื้นที่บริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถเป็นพื้นที่ส่วนกลาง รวม Facility หลักไว้ทั้งหมด ซึ่งลูกบ้านจะต้องเดินมาใช้ร่วมกันที่บริเวณนี้ ชั้น 1 จะเป็น Lobby ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร และมีร้านค้าจำนวน 6 ร้าน อยู่ที่ตึก South ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 เลยนะครับ ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปจนถึงชั้น 28 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมดเลยนะครับ มีชั้นละ 27 ยูนิต Facility หลักๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ต้องบอกว่าเต็มที่มากๆ ครับ เช่น สระว่ายน้ำขนาด 25x7 เมตร, ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์ครบครัน, ห้องอาบน้ำ, ล็อคเกอร์, ห้องอบไอน้ำ, ซาวน่า ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางที่บริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถนั้นค่อนข้างให้ความเป็นส่วนตัวดีทีเดียวครับ เนื่องจากรอบๆ โครงการไม่มีตึกสูงอยู่ใกล้ๆ เลย (นอกจากตึกของโครงการเอง) วิวบนดาดฟ้าจึงเปิดโล่งเต็มตา ลมพัดเย็นสบายมากเลยทีเดียว ที่จอดรถในอาคารจอดรถสูง 9 ชั้น บนดาดฟ้าของอาคารจอดรถจะเป็น Facility หลักของโครงการ สระว่ายน้ำขนาด 25x7 เมตร ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำจะมีสวนสีเขียว ไว้สำหรับนั่งพักผ่อน ฟิตอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ถัดมาเป็นห้องน้ำ พร้อมตู้ล็อกเกอร์ และห้อง Steam & Sauna ห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับฟิตเนส นอกจาก Facility บนดาดฟ้าอาคารจอดรถแล้ว ทางโครงการยังเพิ่มเติมพื้นที่สีเขียวไว้รอบโครงการ โดยมีพื้นที่รวมกว่า 5 ไร่เลยทีเดียว ทั้งสวนหย่อมบริเวณด้านหน้าโครงการ และด้านหลังโครงการ ซึ่งต่างก็มีมุมร่มๆ ใต้ต้นไม่ให้นั่งเล่นพักผ่อนมากมาย และที่พิเศษกว่าโครงการอื่นๆ คือ ทาง AP จัดสนามสตรีทบาสเกตบอลไว้บริเวณสวนด้านหน้าโครงการ ในขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณชั้นล่างของอาคารพักอาศัย ยังจัดแบ่งให้เป็นพื้นที่ร้านค้า และพื้นที่บริการด้วย หน้าทางเข้าโครงการ มีพื้นที่สีเขียวระหว่างทางเดินเข้าโครงการ ให้นั่งพัก หรือนั่งรอเพื่อนด้านหน้าโครงการ สนามสตรีทบาสเก็ตบอล สำหรับลูกบ้านที่ชอบเล่นกีฬา ให้ได้ยืดเส้นยืดสาย อยู่หน้าโครงการเช่นกัน เปิดห้องเพื่อการใช้ชีวิตที่หรูหราอย่างมีสไตล์ ในส่วนของที่พักอาศัยนั้น จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจนถึงชั้น 28 สำหรับโครงการ Aspire งามวงศ์วาน มียูนิตรวมทั้งหมด 1,458 ยูนิต ซึ่งโครงการนี้มีห้องชุดขนาด 28 ตร.ม. ให้เลือกเพียงขนาดเดียวนะครับ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom มีให้เลือกด้วยกัน 2 Type เปิดห้องตัวอย่างแบบแรกกันด้วยห้อง Type A เปิดห้องมาก็จะเจอกับส่วนของ Living Area ก่อน โดยมี Pantry ครัว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง พื้นที่บริเวณนี้จะเปิดโล่งเชื่อมถึงกัน ทำให้เราสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ ส่วนพื้นที่ของห้องนอน กั้นด้วยประตูกระจกบานใส มีห้องน้ำในตัว ซึ่งประตูกระจกบานใหญ่ของห้องนอนสามารถเปิดออกให้เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้เลย ห้อง Type นี้จะได้เปรียบเรื่องการเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวนอกอาคาร ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจนทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอนผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ แต่ในขณะเดียวกัน ห้อง Type นี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำครัว เนื่องจาก Pantry ครัวเป็นแบบเปิด เหมาะกับการเตรียม อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเป็นส่วน Dining Area ก่อนนะครับ บริเวณนี้จะมีแอร์ให้ 1 ตัว และในห้องนอนอีก 1 ตัว ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka พร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจะวางอยู่ติดกับโซฟาในพื้นที่ Living Area ถัดจาก Dining Area เข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง ฝั่งที่วางโซฟาโครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนด้านชั้นวางทีวีจะอยู่ติดกับห้องนอน ซึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน จึงอาจจะไม่สามารถ Built-in ชั้นวางทีวีได้นะครับ ระเบียงห้องจะอยู่ติดกับส่วน Living Area กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงได้เลยครับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกแขวนไว้ด้านบน หันหน้าออกนอกระเบียง มาถึงห้องนอน พื้นที่กว้างขวางพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียง 5 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง วางเตียงลงไปแล้วยังพอมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟได้อีกด้วยนะครับ ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้เดินได้สะดวก หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ มีบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fix ห้องน้ำจะอยู่อีกด้านของห้องนอน จุดวางตู้เสื้อผ้าจะอยู่ที่หน้าห้องน้ำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานยาว โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดๆ กัน ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นให้เรียบร้อย เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ชุดฝักบัวและที่วางของใน Shower Box ส่วนห้อง Type B จะมีการจัดวาง Layout ห้องที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นมาอีกหน่อย พอเปิดประตูห้องมาแล้วก็จะเจอกับ Living Area บริเวณพื้นที่นั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นห้องนอน ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานใหญ่ ในขณะที่ห้องน้ำและ Pantry ครัว จะไปรวมกันอยู่อีกด้านที่ติดกับระเบียง ห้อง Type B นี้จะค่อนข้างได้เปรียบเรื่องสัดส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ชัดเจนกว่า คนที่ชอบเข้าครัวทำกับข้าวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน เนื่องจากสามารถเปิดประตูตรงระเบียงช่วยระบายอากาศได้ดี สำหรับห้องนี้มี Detail เพิ่มเติมเล็กๆ บริเวณมุมห้องนอน ที่ทางโครงการเลือกติดกระจกเข้ามุมมาให้แทนที่จะใช้ผนังทึบทั้งหมด ห้องนอนจึงดูโปร่งสบายตามากขึ้นอีกนิดครับ ห้องนี้เข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนนะครับ โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาใหเดูเป็นตัวอย่าง ขนาดจะเข้ากับพื้นที่ได้พอดี ด้านชั้นวางทีวีสามารถวางชั้นวางหรือจะ Built-in ก็ได้เช่นกันครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา ถัดจาก Living Area เข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูประจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องนอนโครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง วางเตียงลงไปแล้วยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟได้อีก หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ ช่วยให้แสงเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ด้านปลายเตียงโครงการวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะวางของเล็กตกแต่งให้ดู จากห้องนอนเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนครัว จะสังเกตว่าผนังห้องนอนด้านที่ติดกับส่วนครัว โครงการจะทำเป็นกระจกเข้ามุมไว้ ซึ่งช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้น เคาเตอร์ครัวจะคล้ายๆ กับของห้อง Type A แต่อาจจะยาวกว่านิดหน่อย เนื่องจาก Layout ห้องที่ต่างกัน ซิงค์ล้างจานแบบหลุม พร้อมที่พัก ใกล้ๆ กันเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านบนจะเป็นตู้เก็บลอยเก็บของ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ จุดวางตู้เย็นจะอยู่ด้านใน ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นจุดวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ระเบียงจะอยู่ต่อจากส่วนครัว พื้นที่ระเบียงจะกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงได้ครับ ด้านบนจะเป็นจุดแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้ง 2 ตัว หันหน้าออกนอกระเบียง กลับเข้ามาด้านในเรามาดูห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ กับส่วนครัว การจัดวาง Layout ในห้องน้ำจะเหมือนกับ Type A เลยนะครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard มาพร้อมกับกระจกเงาบานยาว ข้างๆ จะเป็นโถสุขภัณฑ์ ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ชุดฝักบัวและที่วางของใน Shower Box โครงการ Aspire งามวงศ์วาน นี้จัดว่าเหมาะมากสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่ในย่านนี้ โดยที่ไม่ค่อยสนใจหรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถไฟฟ้ามากนัก เนื่องจากการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็ถือว่ายังสะดวกดี แถมในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย โครงการนี้จัดขนาดห้องมาที่ไซส์เดียว วัสดุ อุปกรณ์ สุขภัณฑ์ต่างๆ จัดมาได้ดีตามมาตรฐาน ราคาห้องจับต้องได้ง่ายเลยทีเดียว ยิ่งมีโปรโมชั่นแรงๆ จัดมาในราคา 1.59 ล้านบาท* แบบนี้ น่าซื้อลงทุนเป็นที่สุด ไม่ว่าจะจับจองไว้อยู่อาศัยเอง หรือจะปล่อยเช่าก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจดีทีเดียว แถมทำเลในย่านนี้ยังอยู่ในแหล่งชุมชน และใกล้กับแหล่งงานทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน ใครที่กำลังสนใจคอนโดน่าอยู่ในย่านนี้ อยากหาบ้านหลังแรก เพื่อการขยายครอบครัว Aspire งามวงศ์วาน น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่คุ้มค่า คุ้มราคาเลยทีเดียวครับ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://goo.gl/GwjzJD *ราคา 1.59 ล้านบาท เป็นราคาพิเศษตามโปรโมชั่น มีจำนวนห้องจำกัด
รีวิวทำเล Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

รีวิวทำเล Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งในหลายโครงการของเครือ AP ที่มีกระแสการตอบรับที่ดีมากๆ วันนี้เราเลยจะพาไปสำรวจทำเลที่ตั้งโครงการ และบรรยากาศโดยรอบแบบคร่าวๆ กันก่อนที่จะมีการเปิดตัวเต็มๆ อีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ เผื่อว่าใครที่กำลังสนใจอยู่จะได้เก็บข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจ เพราะได้ข่าวมาว่ายอดลงทะเบียนทางหน้าเว็บไซต์ของโครงการตอนนี้พุ่งกระฉูดเกินความคาดหมายไปไกลแล้วครับ สำหรับใครสนใจโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ก็อย่าลืมไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ผ่านทาง www.apthai.com ไว้ด้วยนะครับ   การเดินทาง   ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ อยู่ติดถนนราชพฤกษ์ ตรงหัวมุมถนนเทอดไทพอดิบพอดี ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมที่ดินสำหรับก่อสร้าง ซึ่งเราได้มีโอกาสได้เข้าไปดูพื้นที่จริงก่อนที่จะมีการเปิด Pre-sale พร้อมๆ กับได้เดินสำรวจดูทำเลใกล้ๆ ไปด้วยเลย   สำหรับการเดินทางในครั้งนี้เราขับรถข้ามสะพานตากสินมาทางถนนกรุงธนบุรี แล้วเข้าถนนราชพฤกษ์ ผ่านสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศมาก็ชิดซ้ายเลี้ยวไปตามป้ายบอกทางถนนเทอดไท พอขึ้นสะพานข้ามแยกมาแล้วให้ชิดซ้ายเพื่อไปถนนเทอดไท ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ ไม่งั้นจะเลยไปเข้าถนนเพชรเกษมกันซะก่อน วิ่งมาตามทางอีกนิดหน่อยก็จะเห็นตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือพอดี ซึ่งเส้นทางนี้น่าจะเป็นเส้นทางหลักๆ ในการเดินทางมายังโครงการ ส่วนเส้นทางรองอีกทางก็สามารถเข้ามาทางถนนบางแคก็ได้ หรือถ้ามาจากทางถนนเพชรเกษม ก็ให้สังเกตป้ายวัดนิมมานรดีตรงปากซอย เส้นทางในซอยแถวนี้พอจะให้ใช้หลีกหนีรถติดได้พอสมควรครับ ส่วนการเดินทางมายังโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ด้วยรถไฟฟ้าก็ถือว่าเป็นอีกวิธีที่สะดวกพอสมควร เพราะอยู่ห่างออกไปเพียง 10 สถานีเท่านั้น แค่เดินจากหน้าโครงการไปอีก 350 เมตร ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว ยิ่งในอนาคตทางกรุงเทพมหานครจะทำทางเดินเชื่อมจากตัวสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าข้ามคลองภาษีเจริญมายังฝั่งเทอดไท ก็จะยิ่งความสะดวกกับคนที่อาศัยอยู่ฝั่งนี้มากขึ้น แถมทางโครงการจะเชื่อมต่อทางเดินบน Sky Walk ให้ยาวมาจนถึงหน้าทางเข้าโครงการเลย ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกให้กับลูกบ้านที่ต้องใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะแค่ก้าวเท้าออกจากประตูโครงการเพียงก้าวเดียวก็สามารถขึ้น (บันไดสถานี) รถไฟฟ้าได้แล้วครับ ในขณะที่การเดินทางด้วยวิธีการอื่นๆ ก็มีไว้รองรับพอสมควรเลยเหมือนกัน ทั้งรถสองแถวที่วิ่งผ่านหน้าโครงการเลย รถแท็กซี่ก็หาเรียกได้ไม่ยากเท่าไหร่ หรือถ้าจะลองใช้บริการเรือด่วนในคลองภาษีเจริญก็ได้เช่นกัน ทางกรุงเทพมหานครก็จัดให้มีเรือด่วนวิ่งรับส่งทั้งเช้าและเย็น ก็ทำให้การเดินทางไปยังโซนต่างๆ บนถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ประตูน้ำภาษีเจริญ ไปจนถึงเพชรเกษม 69 จะเดินทางขึ้นรถ ต่อเรือ นั่งรถไฟฟ้า ก็จัดว่าสะดวกดีทีเดียวเลย สำรวจรอบโครงการ   ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในเขตที่ใกล้แหล่งชุมชนเก่าที่มีอยู่กันมาก่อนแล้ว ถึงจะอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์ซึ่งเป็นถนนใหญ่ แต่ก็ยังได้บรรยากาศความคึกคักของชุมชนอยู่พอสมควร เพราะถนนเทอดไทเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมไปออกถนนบางแค และถนนเพชรเกษมได้ จึงมีรถวิ่งผ่านไปมาเยอะพอสมควร แต่ยังไม่ถึงกับมีปัญหารถติดหนักๆ ในซอยนะครับ เรียกว่าวิ่งกันได้สบายๆ ตลอดทั้งวัน บริเวณใกล้ๆ โครงการไม่ได้มีตึกสูงขึ้นมาใกล้ๆ เลย ดังนั้นปัญหาเรื่องการบังวิวจึงยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง รอบๆ ที่ดินโครงการจะเป็นที่พักอาศัยในแนวราบสูงไม่เกิน 4-5 ชั้น ฝั่งตรงข้ามมีห้องพักให้เช่าซึ่งมีอยู่เดิม บริเวณด้านหน้าจึงมีเพิงขายอาหารเล็กๆ อยู่ให้พอซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง แต่ถ้าเลยเข้ามาในถนนเทอดไทหน่อย ก็จะเห็นว่ามีร้านค้า ร้านขายของอยู่เรื่อยๆ ยิ่งออกไปที่ถนนบางแค และถนนเพชรเกษมก็ยิ่งคึกคักใหญ่เลย ร้านค้า ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า มีให้เลือกจับจ่ายได้เต็มที่ สาธารณูปโภคต่างๆ ก็มีครบทั้งสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ศาสนสถาน หน่วยงานราชการต่างๆ อีก ต่อไปในอนาคตอันใกล้พอรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเปิดให้บริการ การเดินทางก็จะยิ่งสะดวกขึ้น บรรยากาศการค้าบริเวณนี้ก็คงจะยิ่งคึกคักมากขึ้นไปอีกหลายเท่า ดังนั้นเรื่องการอยู่อาศัยในย่านนี้จึงจัดว่าค่อนข้างสะดวกสบาย ครบครันดีทีเดียว ในขณะที่บรรยากาศรอบๆ โครงการก็ยังเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน   พอวิ่งตามถนนราชพฤกษ์มาตามป้ายบอกไปถนนเทอดไทแล้ว พอเจอป้ายแบบนี้ก็เลี้ยวซ้ายเตรียมเข้าโครงการได้เลย ที่ดินของโครงการฝั่งที่ติดกับถนนราชพฤกษ์จะมีคลองเล็กๆ กั้นอยู่ ความคืบหน้าของโครงการขณะนี้ก็มีการล้อมรั้ว เตรียมปรับหน้าดินเพื่อก่อสร้างกันแล้ว มุมนี้ถ่ายจากหัวมุมถนนเทอดไทครับ ตรงที่รถตู้จอดอยู่กำลังก่อสร้าง Sale Gallery ส่วนทางเข้าโครงการก็อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นเลยครับ หน้าโครงการฝั่งถนนเทอดไทครับ จะเห็นว่าอยู่ตรงหัวมุมทางเข้าพอดีเลย ถ่ายจากหน้าโครงการก็เห็นรางรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ เลย อีกไม่นาน Sale Gallery ก็คงเปิดให้เข้าชมได้ละครับ บริเวณ Sale Gallery หน้าโครงการเลยครับ จะเห็นว่าถนนเทอดไทตรงหน้าโครงการก็ไม่ได้ใหญ่มาก เป็นถนนสองเลนมีรถราวิ่งผ่านตลอดวัน ข้างๆ Sale Gallery ตอนนี้ยังเป็นซอยเล็กๆ และมีบ้านอยู่ แต่อีกไม่นานก็จะถูกปรับพื้นที่ใหม่แล้ว ที่ดินตรงนี้รวมถึงบ้านที่เห็นก็เป็นพื้นที่ของโครงการนะครับ ภายในพื้นที่จริงที่กำลังจะมีการเตรียมก่อสร้างครับ พอเจ้าของบ้านหลังที่เห็นย้ายออก ที่ตรงนี้ก็จะลึกไปถึงด้านหลังนู่นเลย คลองระบายน้ำที่อยู่ตรงหน้าโครงการจะยาวไปจนถึงคลองภาษีเจริญเลย ตอนนี้ทางกทม.ก็มีการปรับภูมิทัศน์บริเวณทางเดินจากหน้าโครงการไปจนถึงคลองภาษีเจริญให้ดูสวยงามและเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น สถานีรถไฟฟ้าบางหว้าอยู่ฝั่งตรงข้ามนะครับ เดี๋ยวทาง BTS จะทำทาง Sky Walk มาลงที่ฝั่งนี้ แล้วทาง AP ก็ลงทุนต่อทางเดินเพิ่มเพื่อไปลงยังหน้าโครงการเลย บรรยากาศในคลองภาษีเจริญครับ มีเรือด่วนวิ่งรับส่งด้วย ทำให้การเดินทางในแถบนี้สะดวกมากยิ่งขึ้น ถนนเทอดไทหน้าโครงการ เป็นถนนสองเลนมีรถวิ่งสวนไปมาเกือบตลอดเวลาเลยครับ เพราะในซอยนี้ทะลุไปออกถนนบางแคได้ ตรงข้ามโครงการมีเพิงขายอาหารเล็กๆ พอให้พึ่งพาได้บ้าง ตรงข้ามโครงการยังมีหอพักสูง 2 ชั้น เลยเข้ามาในถนนเทอดไทเพื่อไปออกถนนบางแค ก็เริ่มเป็นแหล่งชุมชน มีโรงเรียนและบ้านพักอาศัยเยอะเลยครับ จากถนนเทอดไทก็เลี้ยวมาออกถนนบางแคได้ ถือว่าการเดินทางก็สะดวกดีครับ ถ้ามาทางถนนเพชรเกษมก็สามารถเข้าถนนบางแค ตรงทางเข้าวัดนิมมานรดีเลย แหล่งช็อปปิ้งสำคัญของฝั่งบางแคครับ ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้โครงการที่สุดแล้ว รายละเอียดโครงการ ในส่วนของรายละเอียดโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอะไรออกมามากนัก เพราะทาง AP เตรียมจะมีการเปิดตัวใหญ่ในช่วงปลายเดือนที่จะถึงนี้ แต่เท่าที่เราสอบถามข้อมูลมาคร่าวๆ ก็พอจะเห็นจุดเด่นของโครงการในเรื่อง ทางเชื่อมต่อขึ้น Sky Walk ไปยังสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ที่ใกล้ชนิดที่เรียกว่า ก้าวเดียวถึง!! รวมถึง Facility ที่จัดกันมาแบบเต็มที่ และที่แน่ๆ สำหรับโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ นี่ยังมี Layout ห้องแบบใหม่ที่ทาง AP เอามาใช้เป็นโครงการแรก ซึ่งภายในห้องมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้ทำประโยชน์ได้มากขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านได้ดีขึ้นกว่าเดิม Master Plan ของโครงการ ทางเข้า-ออก โครงการใช้ทางเดียวนะครับ คือทางถนนเทอดไท Outdoor lobby ที่แบ่งพื้นที่นั่งเป็น pocket space ส่วนตัว ขนาบด้วย waterscape และ green area Indoor Lobby ชั้น 8 จะเป็น Facility หลักของโครงการ มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool ยาว 40 เมตร และฟิตเนส สระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool ยาว 40 เมตร ชั้น 11-28 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด มี Rooftop Garden อยู่ที่ชั้น 33 Rooftop Garden บนชั้น 33 ทั้งนี้ก็อดใจรอชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในงานเปิดตัวของ AP ที่สยามพารากอนอีกครั้ง หรือที่ www.apthai.com ส่วนรีวิวโครงการแบบเต็มๆ พร้อมห้องตัวอย่าง เราจะรีบตามไปเก็บข้อมูลมาฝากกันอีกครั้งนะครับ อย่าลืมติดตามกันด้วย
Aspire สาทร – ท่าพระ : รีวิวคอนโด

Aspire สาทร – ท่าพระ : รีวิวคอนโด

Aspire สาทร - ท่าพระ คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น โครงการใหม่จากเอพี ที่ร่วมทุนกับ Mitsubishi Estate Group จากประเทศญี่ปุ่น คอนโดรุ่นใหม่เพียงก้าวเดียวสู่ BTS ตลาดพลู เปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่ 22-26 ตุลาคม 2557 ในงาน AP Space Odyssey ณ ลานพาร์คพารากอน ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 1,980,000 บาท (ณ วันเปิดตัว 23 ก.ย. 57) ราคาต่อตารางเมตร 84,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 1,219 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 5 - 1 - 20.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนราชพฤกษ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 443 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ปีที่สร้างเสร็จ ไตรมาส 4 ปี 2559 แผนที่โครงการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง เดอะ มอลล์ ท่าพระ The Circle Asiatique ตลาดพลู โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 26.5 - 30.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 38 - 46 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง ลิฟท์โดยสาร 6 ตัว ลิฟท์ดับเพลิง 1 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.apthai.com
ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง : รีวิวคอนโด

ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง : รีวิวคอนโด

โครงการ: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,590,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 79,555 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จุดเด่น จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ 2559 ที่ตั้ง: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ที่ตั้ง ถนนกรุงเทพนนท์ ตำบลบางซื่อ อำเภอบางซื่อ กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.830782, 100.525051 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีวงศ์สว่าง   สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี วงศ์สว่าง ร.พ.เกษมราษฏร์ กระทรวงสาธาณสุข โฮมโปร โลตัส   ลักษณะโครงการ: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio 22.50 ตร.ม. 1 Bedroom 26 ตร.ม. 2 Bedroom 45 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 27 ชั้น จำนวนห้อง 1,232 ยูนิต จำนวนร้านค้า 2 ยูนิต   ส่วนกลาง: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 424 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) ค่ากองทุน(/ตร.ม) สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สำนักงานนิติบุคคล   สวนสาธารณะ ลิฟท์โดยสาร ลิฟท์ดับเพลิง ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.   เพิ่มเติม: ASPIRE รัชดา วงศ์สว่าง (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.apthai.com ข้อมูล ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2557