Tag : BTS สถานีสุรศักดิ์

9 ผลลัพธ์
THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

จากพรีวิวฉบับก่อนที่เราพาไปดูบรรยากาศรอบๆ โครงการ The Bangkok สาทร กันไปแล้ว ฉบับนี้เรายังคงอยู่ในทำเลย่านสาทร แต่จะพาข้ามไปดูอีกหนึ่งโครงการในเครือ Land and House ซึ่งก็คือ The Room สาทร-ถนนปั้นนั่นเอง อีกคอนโด ​High Rise ที่ยังคงอยู่ในศูนย์กลางแหล่งธุรกิจของเมืองกรุง และเกาะติดแนวรถไฟฟ้าด้วย การเดินทาง โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่กลางๆ ซอยถนนปั้น ซอยนี้จะเชื่อมถนนสาทรและถนนสีลมไว้ด้วยกัน ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกเส้นทางเข้าออกได้สองทาง ถ้ามาจากแยกสุรศักดิ์ก็เลยมาอีก 500 เมตรโดยประมาณ ก็จะเห็นซอยถนนปั้นอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้ามาทางถนนสีลมก็ให้สังเกตุวัดพระศรีมหาอุมาเทวีหรือวัดแขกให้ดี เจอวัดแขกก็เลี้ยวเข้าซอยถนนปั้นไปได้เลยครับ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ดูจะสะดวกมาก เพราะเราสามารถเลือกใช้ถนนสายหลักได้ทั้งสองเส้นทาง ด่านทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ทั้งทางฝั่งสีลม และทางแยกสุรศักดิ์ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ยากเลย ข้ามไปฝั่งธนบุรีแค่กลับรถก็มีสะพานตากสินอยู่ใกล้ๆ หรือวิ่งตามถนนสาทรไปก็เลี้ยวไปพระราม 3 แยกไปออกพระราม 4 หรือจะตรงไปเข้าถนนวิทยุก็ได้อีก แต่ที่ต้องกังวลมากหน่อยก็คือ ปัญหารถติดบนถนนสาทรที่ติดขึ้นชื่อ โดยเฉพาะในช่วงที่เปิดเทอม เวลาเข้าเรียน และตอนเย็นๆ ใกล้เลิกเรียนที่บรรดาผู้ปกครองมาจอดรถรอรับลูกกันเป็นแถวยาว ซึ่งรถก็จะติดต่อเนื่องกันไปอีกหลายช่วงโมง เพราะไหนจะได้เวลาเลิกงานคนแย่งกันกลับบ้านอีก บนท้องถนนจึงเต็มไปด้วยปริมาณรถอันหนาแน่น จะหนีไปทางถนนสีลมก็ยังคงเจอรถติดหนักไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเลย ยังไงก็ต้องเจอกับปัญหารถติดแน่ๆ สำหรับที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนการเดินทางที่ง่าย สะดวก และน่าจะช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุดสำหรับคนเมืองก็คือรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้า BTS ที่อยู่ใกล้ตัวโครงการที่สุดคือ สถานีสุรศักดิ์ ลงจากตัวสถานีแล้วเดินต่อเข้ามาในซอยถนนปั้นอีกไม่เกิน 500 เมตรเท่านั้น ด้วยระยะทางขนาดนี้ยังถือว่าสะดวกมากครับ ไม่ต้องต่อรถให้ยุ่งยากอีก ถือว่าได้ออกกำลังกายอีกเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่ว่าถ้าเจอช่วงหน้าฝนคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเช่นกัน แค่เดินออกมาทางปากซอย จะเลือกทางฝั่งถนนสาทร หรือฝั่งถนนสีลมก็ได้ทั้งนั้น ถนนทั้งสองเส้นมีรถเมล์วิ่งผ่านเยอะแยะหลายสาย รถสามล้อ แท็กซี่ก็เยอะ แถมยังมีรถสองแถวแดงอีก แต่ถ้ายังสะดวกรวดเร็วไม่พอก็คงต้องใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างแถวๆ หน้าโครงการกันไปเลย เราเริ่มจาก BTS สุรศักดิ์ เลยนะครับ เราต้องออกมาทางที่ 3 ฝั่งเดียวกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เวลานี้ยังเงียบสงบอยู่ครับ เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน จากตัวสถานี BTS เดินผ่านซอยประมวลมานิดหน่อยก็ถึงถนนปั้นแล้วล่ะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้นจะเป็นโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ บรรยากาศในช่วงปากซอยอาจจะดูไม่คึกคักเท่าไหร่นะครับ แต่พอเข้ามาในซอยเรื่อยๆ ก็เริ่มจะมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น ต้นไม้ในซอยก็ให้ความร่มรื่นดี ก่อนจะถึงโครงการก็มีตึกแถวเปิดเป็นร้านอาหารอยู่ด้านล่าง ถึงแล้วครับ ที่ตั้งโครงการ The Room สาทร ด้านหน้าโครงการกว้างประมาณ 40 เมตร วันนี้เราเข้าไปทำการรีวิว ตัวโครงการก่อสร้างไปได้มากแล้วนะครับ วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ด้วยความที่โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง บรรยากาศโดยรวมจะค่อนข้างพลุกพล่านในช่วงวันธรรมดา และค่อนข้างเงียบในหยุด แต่โชคดีหน่อยที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักอาศัย อพาร์ทเม้นท์ และอาคารสำนักงานอยู่รวมกัน ดังนั้นจึงไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องอาหารการกินเท่าไหร่ เพราะช่วงกลางวันก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน รวมถึงรถเข็น แผงลอยอีกพอสมควร ยิ่งถ้าค่อนออกไปทางฝั่งถนนสีลมด้วยแล้วยิ่งหายห่วง เพราะใกล้ๆ วัดแขกก็มีร้านอาหารเจ้าดังอีกหลายร้าน โดยเฉพาะอาหารแขกก็มีให้เลือกหลายร้านแล้ว ตลาดสดก็อยู่ในซอยฝั่งตรงกันข้าม ในระยะซัก 300 เมตร จากวัดแขกก็มีทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมพลูแมน คอมมูนิตี้มอลอย่าง บ้านสีลม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสีลม และร้านอาหารนานาชาติอีกเพียบ เรียกได้ว่าฝั่งสีลมนี่คึกคักพึ่งพาได้ดีที่สุด ส่วนฝั่งถนนสาทรก็จะเน้นไปทางร้านอาหารใหญ่หน่อย ร้านฮิปๆ หรือนั่งกินกันเป็นเรื่องเป็นราว อาหารข้างทาง แผงลอยไม่ค่อยมีให้เห็น ในขณะเดียวกันในซอยถนนปั้นก็มีร้านสะดวกซื้ออยู่เยื้องๆ กับโครงการ ดังนั้นถ้าเอาสะดวกและง่ายเข้าว่า ก็มีที่ให้พึ่งพายามหิวแบบ 24 ชั่วโมง นอกเหนือจากเรื่องอาหารการกินแล้ว สาธารณูปโภคอื่นๆ ก็มีครบครันเช่นกัน โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนก็อยู่ใกล้มากๆ โรงพยาบาลเซนหลุยส์ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามซอยด้านถนนสาทรใต้ ซึ่งมีทั้งโรงเรียนและโบสถ์ สถานฑูตพม่าก็อยู่แค่ปากซอยถนนปั้น อันนี้แค่ในบริเวณรอบๆ ซอยเท่านั้นนะครับ แต่ถ้านับรัศมีให้กว้างออกไปอีก ก็ยังมีสถานที่สำคัญอีกเพียบ เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนเอกชน โรงแรมดัง ห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ฯลฯ ด้วยทำเลแถบนี้ที่เป็นศูนย์กลางหลายๆ อย่าง จึงเพียบพร้อมมากๆ ในขณะที่บรรยากาศในซอยก็ค่อนข้างเงียบสงบกว่าบริเวณถนนใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อนอาศัยอย่างยิ่ง ซึ่งเราก็ไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ มาฝาก เผื่อใครที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับพื้นที่จะได้เห็นภาพได้มากขึ้นครับ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นตึกแถวมีร้านทำฟัน มีแฟมิลี่ มาร์ท อยู่ด้านล่าง เดี๋ยวเราเดินดูบรรยากาศในซอย ฝั่งที่จะทะลุออกไปทางสีลมกันต่อ เลยจากโครงการมานิดหน่อยจะมีคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ชื่อคอนโด ปภาดา สีลม เดินเข้าไปเรื่อยๆ บรรยากาศทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นตึกแถว มีร้านค้า ร้านอาหาร เยอะเลยครับ คอนโดอีกโครงการที่อยู่ในซอยนี้ โครงการ The Treasure เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ออกมาถึงปากซอยด้านถนนสีลม จะมี 7-11 อยู่ด้วย ร้านค้าช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายพวงมาลัย เพราะอยู่ใกล้วัดแขก ออกมาถึงฝั่งถนนสีลมแล้วบรรยากาศจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งฝั่งถนนปั้นและฝั่งตรงข้าม เพราะจะมีผู้คนเดินทางมาวัดแขกกันแทบจะตลอดทั้งวัน นอกจากร้านขายดอกไม้แล้ว ก็ยังมีขายอาหารด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้น คือซอยสีลม 20 จะมีตลาด มีของกินให้เลือกเยอะแยะเลยครับ ตลาดฝั่งตรงข้ามถนนปั้น มีของกินเพียบเลยครับ ทั้งอาหารคาว หวาน และผลไม้ ทางซ้ายจากถนนปั้นออกมาที่ถนนสีลมมุ่งหน้าไปทางถนนเจริญกรุง ทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร โรงแรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ อย่างบ้านสีลม ส่วนด้านขวาจะมุ่งหน้าไปทางศาลาแดง ก็มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ ทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมฟูราม่า และโรงแรม Pullman ภาพรวมตัวโครงการ โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น เป็นคอนโด High Rise อย่างที่บอกไปแล้ว ตัวตึกสูง 25 ชั้น มีจำนวน 219 ยูนิต แบ่งแบบห้องหลักๆ เป็น 2 Type คือ 1 Bed Room และ 2 Bed Room ซึ่งขนาดห้องเริ่มต้นประมาณ 40 ตร.ม. ไปจนถึง 85 ตร.ม. แน่นอนว่าแต่ละห้องก็มีรายละเอียดปลีกย่อยกันไป อันนี้ก็ต้องไปดูกันตามแปลน และตำแหน่งห้องกันอีกที แบบห้อง Standard 1 ห้องนอน ขนาด 46.8 ตารางเมตร แบบห้อง Extra 1 ห้องนอน ขนาด 50.1 ตารางเมตร แบบห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 78 ตารางเมตร หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันออกนะครับ ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น แล้วก็มีคอนโด / อพาร์ทเม้นท์สูง 7-8 ชั้น และสูงประมาณ 20 ชั้นอีกตึก ซึ่งอยู่เยื้องๆ ไปทางซ้ายและขวา ไม่ได้อยู่ตรงข้ามโครงการเป๊ะ ดังนั้นเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องบังวิวในระยะประชิดเท่าไหร่ ทิศอื่นที่เหลือรอบๆ ก็ไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องถูกบล็อควิว เว้นแต่ฝั่งทิศใต้ ที่กำลังมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานอยู่ ซึ่งน่าจะสูงประมาณ 7 ชั้น ห้องพักทางฝั่งนี้ที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 8 หรือ 9 ลงมาก็คงเสียเปรียบเรื่องวิวไปเลยนะครับ เวลาเรื่องตำแหน่งห้องก็ลองพิจารณาให้รอบคอบก่อนก็ดีครับ ในส่วนของ Facilities ทางโครงการก็จัดมาสมน้ำสมเนื้อครับ ตั้งแต่เรื่องที่จอดรถที่จัดไว้ที่ชั้น 1-5 นับรวมจอดซ้อนคันแล้วก็เห็นว่าจอดได้ถึง 80% เลยทีเดียว นับว่าเยอะดีครับ พื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 23-24 ทั้งสระว่ายน้ำที่ทางโครงการว่าเป็นระบบโอโซน ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด และห้องประชุม แถมด้วยพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนในบริเวณชั้น 1 โดยภาพรวมแล้วถือว่าทางโครงการจัดมาเต็มที่เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ต้องลงไปดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องขนาดของสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ว่าจะสามารถรองรับลูกบ้านได้มากแค่ไหน นอกเหนือจากนี้ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบมาตรฐานทั้ง Keycard Access, Digital Door Lock ฯลฯ ส่วนรายละเอียดและภาพเพิ่มเติมเราจะมีรีวิวแบบทุกซอกทุกมุมมาให้ชมกันอีกครั้งครับ ชั้น 6-21 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ชั้น 23 จะเป็นสระว่ายน้ำ และมีส่วนของห้องพักอาศัยอยู่ด้วย ประมาณ 7 ห้อง หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 23 เลื่อนขึ้นมาที่ชั้น 24 จะเป็นส่วนของ Fitness และห้องประชุม จะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย 4 ห้อง ส่วนชั้นบนสุดที่ชั้น 25 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จำนวน 8 ห้อง
The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

ก่อนหน้านี้เราเคยรีวิวทำเล ในย่านสาทรกันมาแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าหัวมุมถนนสาทร บริเวณแยกสุรศักดิ์มีโครงการหรูอย่าง The Bangkok Sathorn แบรนด์ Hi-End ของ Land and House คราวนี้เราเลยเก็บเอาข้อมูลโครงการมาฝาก เผื่อใครที่กำลังสนใจตัวโครงการ The Bangkok Sathorn อยู่จะได้ใช้ประกอบการพิจารณาเบื้องต้นกันได้บ้าง การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการ The Bangkok Sathorn จัดว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนเมือง เพราะมีให้เลือกได้หลายวิธี ซึ่งจุดเด่นเลยก็คือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS โดยสถานีสุรศักดิ์อยู่ตรงหน้าโครงการพอดิบพอดี เดินออกจากตัวโครงการมาไม่กี่ก้าวก็ถึงบันไดทางขึ้นสถานีแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงจัดว่าเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และกำหนดเวลาได้แน่นอนที่สุด ไม่ว่าจะข้ามไปยังฝั่งธนบุรี หรือเดินทางเข้าสู่ในกลางเมืองก็ง่ายแสนง่าย แบบไม่ต้องเสียเวลาปวดตับกับปัญหารถติดให้มากความ แผนที่โครงการ การเดินทางที่สะดวกที่สุดในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นรถไฟฟ้า BTS นี่แหละครับ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีสุรศักดิ์ มองจากรถไฟฟ้าไปจะเห็นตัวโครงการ The Bangkok ที่กำลังก่อสร้างอยู่เลยครับ นี่แหละครับการจราจรด้านล่าง ดีนะเรานั่ง BTS มา โครงการจะอยู่ฝั่งเดียวกับอาคาร Thai CC ลงมาแล้วเดินมาอีกนิดหน่อยก็จะถึงตัวโครงการแล้วครับ เห็นชื่อโครงการ The Room สาทร อยู่ด้วยก็อย่างเพิ่งงงนะครับ เพราะสำนักงานขายของโครงการ The Room สาทร ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย ส่วนใครที่ยังติดกับการเดินทางด้วยรถส่วนตัว เส้นทางบนถนนสาทรใต้โซนนี้ก็จัดว่าเดินทางได้สะดวกไม่แพ้กัน แต่จะติดปัญหามากหน่อยก็ตรงปัญหารถติดบริเวณแยกสุรศักดิ์ที่หนักหนาเอาการ จะว่าไปแล้วตลอดทั้งถนนสาทรก็มีปัญหารถติดเป็นประจำอยู่แล้วตลอดทั้งเส้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าและเย็น ยิ่งในช่วงที่เปิดภาคเรียนด้วยแล้ว รับรองว่าติดตั้งแต่เช้ายันสาย และตั้งแต่บ่ายยังค่ำกันเลยทีเดียว ข้อเด่นอีกอย่างของทำเลที่ตั้งโครงการนี้ก็คือ อยู่ใกล้ด่านทางด่วน แค่คุณลูกบ้านของโครงการเลี้ยวซ้ายออกมาตรงแยกสุรศักดิ์แล้วเลี้ยวเข้าถนนเจริญราษฏร์ ก็จะเจอด่านขึ้นทางด่วนศรีรัช ด่านสาทร ข้ามไปฝั่งดาวคะนอง หรือบางนาได้สบายๆ สำหรับเส้นทางการเดินทางบนถนนสาทรซึ่งเป็นถนนใหญ่ การมายังหน้าโครงการทำได้หลายทาง เช่น จากฝั่งพระราม 3 สามารถใช้ถนนเจริญราษฎร์เป็นหลัก พอมาสุดที่แยกถนนสาทรแล้วก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสาทรเหนือ ผ่านไปกลับรถตรงที่กลับรถใกล้ๆ ตึกหุ่นยนต์ แล้วตรงมายังแยกสุรศักดิ์อีกครั้ง หรือถ้าข้ามมาจากสะพานตากสิน ก็ให้ตรงมาบนถนนสาทรเหนือ แล้วมากลับรถที่จุดเดียวกันนี่แหละครับ แต่ถ้ามาจากฝั่งถนนวิทยุ ก็ให้วิ่งมาตามถนนสาทรใต้ รวมถึงมาจากแยกนราธิวาสฯ-สาทร พอเลี้ยวเข้าถนนสาทรใต้แล้ว ก็ตรงมายังตัวโครงการได้เลย ทีเหลือนอกจากนี้ก็เป็นเส้นทางย่อยในซอยเล็กซอยน้อย ซึ่งถ้าพอจะคุ้นเคยกับเส้นทางในระแวกนี้อยู่แล้ว หรืออยู่ๆ ไปซักพักก็คงจะเริ่มชินเส้นทาง และหาเส้นทางเลี่ยงอื่นๆ ได้อีกหลายทาง ยกตัวอย่างเช่น ซอยเซ็นหลุยส์ (ซอยสาทร 11) ที่เชื่อมไปออกถนนจันทน์ หรือถนนปั้นที่เชื่อมถนนสาทร กับถนนสีลมเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงถนนสุรศักดิ์ที่ตรงมาจากถนนพระราม 4 ผ่านถนนสี่พระยา ถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม มาจนถึงแยกสุรศักดิ์ เป็นต้น แผนที่รอบๆ โครงการ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวผมขอเริ่มจากถนนพระราม 4 เราจะมาเลี้ยวซ้ายตรงแยกวิทยุ เพื่อเข้าถนนสาทรใต้กันเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเจอตึก Q House ลุมพินี อยู่ด้านซ้ายมือ ถา้ใครเข้าผิดช่องขึ้นสะพานข้ามแยกไป ก็จะไปทางศาลาแดงเลยครับ พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทรใต้แล้ว ครวานี้ก็ตรงยาวเลยครับ ตรงมาจนถึงแยกสาทร เราก็ตรงไปอีกครับ มาจนถึง BTS สถานีสุรศักดิ์ ก็ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าโครงการได้เลยครับ เลยตัวสถานีรถไฟฟ้ามานิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วครับ นอกเหนือจากนี้ก็คือการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ซึ่งหน้าโครงการก็มีให้เลือกใช้บริการได้ตั้งแต่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสองแถว รถเมล์ รถตุ๊กตุ๊ก และรถแท็กซี่ แทบจะตลอด 24 ชั่วโมง วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง บริเวณรอบๆ จะมีบรรยากาศแบบเมืองใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม และตึกสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่โชคดีที่โครงการ The Bangkok Sathorn ยึดพื้นที่หัวมุมถนน ทางด้านทิศตะวันตกซึ่งติดกับถนนเจริญราษฎร์จึงเป็นมุมที่มีวิวในมุมกว้างที่สุด ถ้าอยู่ในชั้นสูงๆ ก็อาจจะสามารถเห็นวิวไกลไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ห้องส่วนใหญ่ก็ได้วิวสวยๆ ของในเมืองกันแบบเต็มๆ ตา พื้นที่บริเวณรอบๆ โครงการบรรยากาศคึกคักมากๆ ครับ โดยเฉพาะในวันธรรมดา เนื่องจากอยู่ในย่านที่มีอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังใกล้ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และมีชุมชนเก่าแก่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก รถราและผู้คนจึงขวักไขว่แทบทั้งวัน ถัดออกไปทางสถานีรถไฟฟ้าอีกนิดก็จะเป็นอาคาร Thai CC ร้านอาหารไทย Blue Elephant และโรงแรม Eastin ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีโรงแรม Mode Sathorn และอาคารสำนักงาน รวมถึงโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนด้วย ที่ว่ามาทั้งหมดนี้อยู่ในระยะที่ยังไม่พ้นสถานีรถไฟฟ้าดีเลยนะครับ ยังแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญๆ มากขนาดนี้ และถ้าเลยไปทางแยกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ความพรั่งพร้อม และความเจริญแบบใจกลางเมืองก็จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เอาเป็นว่าแค่ระยะห่างจากโครงการไม่เกิน 2 กิโลเมตร ก็มีทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ให้เลือกเพียบ รวมถึงอาคารสำนักงานใหญ่ๆ สถานฑูต แถมด้วยวัดวาอารามก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย ความเพียบพร้อมในเรื่องทำเลจึงหายห่วงได้เลยครับ อาคาร Thai CC เป็นอาคารสำนักงานที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ขยับออกมาอีกหน่อยก็จะเป็นโรงแรม Eastin ตึกเหลืองๆ นี่คือตึก King Royal Garden Inn มี Family Mart และร้านขายของอยู่หน้าตึกให้พอฝากท้องได้บ้าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จะอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ที่ติดกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนมีโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่คือโครงการ Diplomat Sathorn ของ KPN Group แต่ถ้าใครที่ยังติดบรรยากาศแบบชุมชนอยู่หน่อยๆ เลยไปทางฝั่งบางรัก บนถนนเจริญกรุงก็ยังคงได้บรรยากาศของชุมชมดั้งเดิม มีทั้งตลาดสด และร้านอาหารเจ้าดังให้เลือกอร่อยอีกเพียบ รวมถึงฝั่งถนนจันทน์ก็ได้อารมณ์ย่านชุมชนไม่ต่างกันครับ (ดูทำเลฝั่งถนนจันทน์เพิ่มเติมได้ที่นี่ Click!!) แต่ด้วยความที่ทำเลตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นใจกลางเมืองมากๆ บรรยากาศจึงคึกคัก และรถติดหนักในวันธรรมดาแทบจะตลอดทั้งวัน กลับกันที่วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์บรรยากาศรอบๆ จะเงียบเหงาขึ้นมาทันตา อาหารการกินแบบง่ายๆ ในรูปแบบ Street Foods ร้านค้าแผงลอย อาจจะหาที่พึ่งพายากหน่อย จะซื้อกับข้าวกับปลาแบบง่ายๆ อาจจะต้องขับรถ นั่งรถไปที่บางรักน่าจะมีหวังให้ฝากท้องได้ง่ายกว่า รวมถึงราคาก็ย่อมเยากว่าฝั่งสีลมเป็นไหนๆ แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนก็อาจจะต้องคำนวนเส้นทางกันนิดหน่อย จะเลี้ยวแยกไหน กลับรถฝั่งไหน เข้าซอยไหนดี เพราะถ้าขับเลยหรือเลี้ยวผิดอาจได้กลับรถกันหลายรอบ แต่ถึงยังไงระยะทางที่ต้องไปกลับรถก็ไม่ได้ไกลมากไปกว่าต้องเจอปัญหารถติดหนักหรอกครับ ภาพรวมตัวโครงการ มาถึงตัวโครงการกันบ้าง The Bangkok Sathorn เป็นโครงการ High Rise สูง 50 ชั้น ที่ออกแบบมาให้ห้องส่วนใหญ่ของทางด้านทิศตะวันตกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ แต่ก็คงต้องเป็นชั้นที่สูงๆ ขึ้นไปหน่อยนะครับ เพราะถึงจะไม่มีตึกสูงตั้งประชิดในด้านนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีตึกสูงอยู่ในระยะที่สามารถบังวิวเลยซะทีเดียว รายละเอียดของตัวโครงการแบบคร่าวๆ ตอนนี้คาดว่าโซนด้านหน้าบริเวณชั้นล่างของโครงการ ทาง Land and House จะจัดสรรให้เป็นส่วนของ Retail ซึ่งทางโครงการจะเป็นผู้บริหารเอง คาดว่าจะมีทั้ง Super Market ร้านอาหาร ร้านซักรีด หรือร้านกาแฟ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกบ้านให้มากขึ้น มาดูแปลนที่ชั้น G กันก่อน นอกจาก Lobby และก็อย่างที่บอกนะครับว่าจะมี Super Market ร้านกาแฟ และร้านอาหารต่างๆ อยู่ที่ชั้นนี้ ที่ชั้น 3-5 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด รวมแล้วจอดได้ประมาณ 120% หน้าตาของ Lobby ด้านของ  Facilities ก็จัดมาแบบเต็มที่ไม่แพ้กัน ด้วยส่วนหนึ่งเป็นเพราะแบรนด์ของโครงการที่ต้องการโชว์ความหรูหรา อลังการ ส่วนกลางจึงมีทั้ง สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องซาวน่า และห้องสตรีม โดยพยายามจัดให้พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ มีน้ำล้อมรอบประหนึ่งว่าอยู่บนเกาะอย่างไงอย่างงั้น ส่วนที่จอดรถก็มีมากขึ้น 120% แบบยังไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งทางโครงการสร้างอาคารจอดรถแยกออกมาต่างหาก ในขณะที่ชั้นบนสุดของอาคารจอดรถยังทำเป็นสวนขนาดใหญ่ คุยว่าสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ๆ เพื่อให้ความร่มรื่นแก่ลูกบ้าน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของส่วนกลางในตึกพักอาศัยได้ด้วย ชั้น 6 จะเป็นชั้นบนสุดของอาคารจอดรถ จะมีสวนขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องซาวน่า และห้องสตรีม อยู่ที่ชั้นนี้ สวนขนาดใหญ่ที่ทางโครงการจะวางไว้บนชั้น 6 ห้องฟิตเนสบนชั้น 6 ต่อมาที่ชั้น 7-29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ขึ้นมาที่ชั้น 32-32A จะเป็นชั้นที่มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge 2 สระอยู่ขนาบทั้ง 2 ข้าง สระว่ายน้ำบนชั้น 32 วิวสระว่ายน้ำอีกสระ สูงขึ้นมาอีกที่ชั้น 34-40 ก็จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยอีกชุดนึงครับ   ส่วนความเหนือระดับในด้านอื่น ทาง The Bangkok Sathorn ก็จัดเตรียมเอาไว้เต็มพิกัดให้สมกับฐานะราคา เรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ความสะดวกสบายนับว่ามีพร้อมแทบจะทุกด้านที่สามารถนึกออกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าโครงการระดับนี้ ห้องที่เปิดมาในขนาดเริ่มต้นที่ 1 ห้องนอนก็มีขนาด เกือบ 60 ตร.ม. แล้วครับ อย่างไรแล้วลองดูรายละเอียดโครงการที่เรารวบรวมมาให้เพื่อทดสอบความสนใจในเบื้องต้นกันก่อน ส่วนบรรยากาศโครงการจริง และห้องตัวอย่าง รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ไว้โอกาสหน้า ทีมงานจะรีบเข้าไปเก็บภาพทุกซอกทุกมุมมาฝากกันครับ
The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

พรีวิวคอนโดโครงการใหม่วันนี้ เราจะพาไปดูโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ อีกหนึ่งคอนโด High Rise จาก Land and House ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ที่ซอยจันทน์ 18/7 แยก 1 คนในระแวกนี้มักจะเรียกกันติดปากว่า “ซอยเซนต์หลุยส์” หรือถ้าจะให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น ก็ต้องบอกว่าอยู่ท้ายๆ ซอยสาทร 11 นั่นเอง การเดินทาง ถ้าดูจากแผนที่เราจะเห็นได้ว่า ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่สะดวกมากๆ เพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน สามารถเข้าออกโครงการได้หลายทาง และถนนรอบๆ ยังเชื่อมต่อถึงกันทำให้มีเส้นทางเลี่ยงลัดเลาะไปออกถนนสายหลักได้อีกหลายเส้นทางเช่นกัน ถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยเส้นทางในย่านนี้อยู่แล้วก็น่าจะเข้าใจถนนหนทาง ซอกเล็ก ซอยน้อยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ที่ตั้งโครงการอยู่ถัดเข้ามาจากปากซอยจันทน์ 18/7 ประมาณ 150 เมตร ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมแยก 1 พอดิบพอดี ถนนหน้าโครงการเป็นถนนในซอยเล็กๆ ซึ่งเชื่อมไปยังซอยจันทน์ 24 หรือซอยเย็นจิตได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถเลือกเข้าโครงการได้ทั้ง 2 ซอย โดยเส้นทางหลักๆ ของถนนด้านนี้ก็คือ ถนนจันทน์ ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ที่ตัดผ่านย่านชุมชนที่พักอาศัยดั้งเดิม ยาวไปตั้งแต่ปากตรอกจันทน์ ตัดผ่านถนนเจริญราษฎร์ แยกสาธุประดิษฐ์ และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ไปจนถึงนางลิ้นจี่นู่นเลยครับ ส่วนทางด้านถนนสาทร เราสามารถเลี้ยวเข้าซอยสาทร 11 แล้วตรงมาตามถนนในซอยอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวโครงการครับ ส่วนเส้นทางลัดเลาะออกซอยนั้นเข้าซอยนี้ ก็ยังมีอีกหลายทาง เช่น ทางซอยนราธิวาสฯ 8 และ 10 ที่ตัดมาเข้ากลางซอยได้เลย หรือจะเป็นเส้นทางในซอยเย็นจิตที่สามารถลัดไปออกถนนเจริญราษฎร์ได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าใครที่ใช้รถส่วนตัวอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ทำเลในแถบนี้ถือว่าเดินทางได้ง่ายดีครับ ใกล้ใจกลางเมืองและแหล่งชุมชน มีเส้นทางให้ซิกแซกหนีรถติดกันสนุกเลยทีเดียว สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัว การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนท้องถิ่นก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน เพราะมีรถสองแถววิ่งผ่านโครงการตลอดทั้งวัน ซึ่งสายหลักๆ ที่น่าจะได้พึ่งพาอาศัยแน่ๆ เลยก็คือ สาย 1256 เพราะวิ่งผ่านโครงการไปออกถนนสาทร และสุดสายที่ท่าน้ำสะพานตากสิน ดังนั้นถ้าต้องการจะไปต่อรถไฟฟ้า BTS ก็สามารถใช้บริการรถสองแถวสายนี้ไปลงยังสถานีสุรศักดิ์ หรือสถานีตากสินก็ได้ครับ แต่ถ้ากังวลกับปัญหารถติดก็ต้องใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างซึ่งตั้งวินอยู่หน้าโครงการเลย รับรองว่ารวดเร็วทันใจแน่ๆ ในขณะเดียวกันก็ยังมีรถตุ๊ก ตุ๊ก และแท็กซี่วิ่งผ่านไปมาขวักไขว่ หาเรียกได้ง่ายมากๆ ชนิดที่ไม่ต้องกลัวถูกโชเฟอร์ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารกันเลย เพราะพลาดคันนี้เดี๋ยวคันหลังก็มีให้โบกตามมาติดๆ หรือถ้าเดินออกมาทางปากซอยจันทน์ 18/7 อีกหน่อย ก็จะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางด้วยรถสองแถวได้มากขึ้น เพราะมีสองแถวอีกหลายสายที่วิ่งไปทั้งฝั่งพระราม 3 และฝั่งเจริญกรุง รวมถึงรถเมล์ก็มีกับเค้านะครับ ถึงแม้จะมีแค่สาย 35 วิ่งผ่านมาแค่สายเดียวก็เถอะ ลงทางด่วนถนนจันทน์มาที่ถนนเจริญราษฎร์ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจันทน์เลยครับ การเดินทางไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพจัดว่าสะดวกดีเพราะด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ตรงนี้เลยครับ ถ้าจำกันได้ จากแยกนี้ถ้าตรงไปเราก็จะไปเจอกับโครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ แต่เราลองไปสำรวจทางซ้ายกันบ้างดีกว่า บนถนนจันทน์มี Community Mall เปิดใหม่ ชื่อ Vanilla Moon มีทั้งร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbuck, Max Value และร้านอาหารอีกหลายร้าน ดึกๆ ด้านบนดาดฟ้าก็มี Roof Top Bar ไว้ให้นั่งรับลมชิวๆ ได้ด้วย ซึ่งน่าจะพอให้พึ่งพา และเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ง่ายๆ ของคนในย่านนี้ครับ ทำเลแถบนี้เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ครับ บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านค้าจึงเต็มไปหมด แถมด้วยสถาบันการเงินที่มีให้เลือกครบทุกธนาคาร นี่แค่ถนนสายสั้นๆ สายเดียวยังมีธนาคารตั้งติดๆ กันเยอะขนาดนี้ คงไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าทำเลนี้เป็นย่านทำมาค้าขายที่คึกคักมากแค่ไหน ถ้าเราวิ่งตามถนนจันทน์มาเรื่อยๆ จะเจอกับสี่แยกไฟแดงแรกที่ซอยจันทน์ 18/7 หรือที่คนแถวนี้เค้าเรียกกันว่า ซอยเซนต์หลุยส์ แยกนี้ถ้าตรงไปจะไปตัดกับถนนสาธุประดิษฐ์และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ตามลำดับ หรือถ้าเลี้ยวไปทางขวาก็จะเข้าซอยอยู่ดี ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนที่เก่าแก่ที่อยู่กันมานานแล้ว ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปออกถนนสาทรได้ ซึ่งเราจะพาไปดูบรรยากาศในซอยเซนต์หลุยส์กันก่อนดีกว่า พอเลี้ยวซ้ายมาถนนจะเหลือแค่ 2 เลนเล็กๆ แต่ปริมาณรถในซอยนี้ไม่ได้เล็กตามถนนนะครับ เพราะซอยนี้ลัดไปออกถนนสาทร ถนนนราธิวาส และถนนเจริญราษฎร์ได้ รถราเลยขวักไขว่ตลอดทั้งวัน เลี้ยวเข้าซอยจันทน์ 18/7 มาประมาณ 150 เมตร จะเห็นป้ายคอนโด The Room สาทร-เซนต์หลุยส์อยู่ตรงหัวมุมจันทน์ 18/7 แยก 1 ชัดเจน ทางเข้าโครงการอยู่ในซอยจันทน์ 18/7 แยก 1 นะครับ ซึ่งซอยนี้เชื่อมต่อไปถึงซอยจันทน์ 24 หรือซอยเย็นจิตได้ด้วย ดังนั้นทางเข้าออกโครงการนี้จึงเข้าได้ทั้ง 2 ทาง ปัจจุบันตัวโครงการเริ่มทำการก่อสร้างแล้วนะครับ ส่วนสำนักงานขายนั้นจะไปอยู่ที่ถนนเจริญราษฎร์ ใช้สำนักงานขายเดียวกับ The Key สาทร-เจริญราษฎร์ ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ คือสำนักงานเขตสาทร เวลาจะติดต่องานราชการของเขตนี้ก็สะดวกเลย ถ้าใครต้องการความรวดเร็ว ใกล้ๆ คอนโดก็มีพี่วินคอยให้บริการอยู่ด้วยนะครับ ราคาก็ตามป้ายนี้เลย ออกจากจันทน์ 18/7 แยก 1 แล้วเราไปดูในซอยเซนต์หลุยส์กันต่อครับ ในซอยก็เป็นถนนสองเลนตลอดสาย สองฝั่งถนนมีร้านค้า ร้านอาหารเพียบครับ จัดว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ บรรยากาศตอนเช้าๆ และช่วงเย็น การจราจรในซอยจะติดมากหน่อย เพราะในซอยนี้รวมเอาตลาดสด และโรงเรียนใหญ่ๆ ไว้ในซอยเดียวกันเลย ช่วงเช้าถ้าจะรีบไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ก็อาจจะต้องพึ่งพี่วินมอเตอร์ไซค์เพื่อทำเวลากันหน่อย ลึกเข้ามาในซอยเซนต์หลุยส์ก็จะเห็นว่ามีร้านขายของเต็มไปหมด ทั้งคลินิค ร้านขายยา ร้านขายอะไหล่รถ ร้านอาหารริมทาง รวมไปถึงธนาคารสาขาย่อยก็มีมาเปิดในซอยนี้อีกหลายเจ้า รถราในซอยจึงมีมากตลอดทั้งวัน ช่วงกลางๆ ซอยจะเป็นถนนวันเวย์นะครับ เป็นบล็อคเล็กๆ ให้เดินรถทางเดียวเพื่อแยกไปออกถนนสาทร และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ได้ เราเลี้ยวตามทางวันเวย์มาเรื่อยๆ จะเห็นว่าถนนจะแคบลงเล็กน้อย แถมยังมีร้านค้าที่เปิดกันมานานอีกเลยมีรถจอดริมถนนบ้าง การจราจรในซอยอาจจะติดขัดบ้างเป็นบางครั้ง ช่วงถนนวันเวย์สั้นๆ ในซอยเซนต์หลุยส์ซึ่งเต็มไปด้วยร้านเก่าแก่อย่างที่บอกนี่แหละครับ มาถึงตรงนี้ ถ้าเลี้ยวขวาตามทางวันเวย์ไปก็จะกลับไปออกถนนจันทน์เหมือนเดิม หรือแยกไปออกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซอย 10 ก็ได้เช่นกัน แต่เราจะเลี้ยวซ้ายไปออกถนนสาทรกันครับ เลี้ยวมาแล้วบรรยากาศโดยรอบก็จะคล้ายๆ กันครับ มีร้านค้าเต็มสองข้างทาง เป็นย่านชุมชนที่อยู่กันอย่างเหนียวแน่นมายาวนานมาก ช่วงปากซอยสาทร 11 จะมีคิวรถสองแถวจอดรถรับคนด้วย ซึ่งก็เป็นสายเดียวกับที่วิ่งไปรถไฟฟ้าสถานีตากสินนั่นแหละครับ เพียงแต่ขากลับมาจะมีคิวรถรอรับคนตรงนี้อีกช่วงหนึ่ง นอกจากคิวสองแถว ก็มีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วย ซึ่งหัวมุมถนนด้านนี้จะเป็นอาคารสำนักงานของ AIA นะครับ สร้างใกล้จะเสร็จแล้ว อีกหน่อยผู้คนคงมากมายขึ้นอีกหลายเท่า ออกจากซอยสาทร 11 ซึ่งถูกบังคับเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางสะพานตากสิน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทรมาแล้ว บรรยากาศริมถนนช่วงนี้ยังคงคึกคักนะครับ เพราะยังใกล้โรงเรียนอยู่ และก็ยังอยู๋ติดกับโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์อีกด้วย จึงมีทั้งร้านสะดวกซื้อ และหาบเร่แผงลอยเต็มไปหมด ซ้ายมือนี่แหละครับ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ซึ่งมีวิทยาลัยการพยาบาลอยู่ด้วย บอกแล้วว่าย่านนี้โรงเรียนน้อยใหญ่เต็มไปหมด ที่เห็นถนนโล่งๆ นี่เราเดินทางมากันช่วงบ่ายนะครับ ปริมาณรถบนถนนเลยน้อยหน่อย เลยจากโรงพยาบาลมาอีกหน่อย ก็จะถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์แล้ว ซึ่งสถานีนี้ก็มีความสำคัญมากพอตัวเลย เพราะใกล้ทั้งโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และอาคารสำนักงานใหญ่ๆ อย่าง Thai CC Tower และยังเชื่อมต่อกับโรงแรม Eastin อีก รถราและผู้คนบริเวณรอบสถานีนี้จึงมากเป็นพิเศษครับ เรื่องการเดินทางของโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ จัดว่าสะดวกเข้าขั้น จะติดก็แต่ปัญหารถติดหนักๆ ตอนช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะถนนในซอยตรงช่วงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญประถมไปจนออกถนนสาทรจะถูกปรับให้เดินรถทางเดียว เนื่องจากปริมาณรถที่มารับส่งนักเรียนทั้งเช้าและเย็นมีเป็นจำนวนมาก รถเลยติดกันนานหน่อย อีกทั้งบริเวณรอบๆ นี้ก็มีโรงเรียนอยู่อีกหลายแห่ง จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถาบันการศึกษามารวมตัวกันได้มากขนาดนี้  เรื่องรถติดเลยต้องทำใจกันไว้บ้างครับยังไงก็ต้องเจอไม่มากก็น้อย วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ อย่างที่บอกไปแล้วว่า โครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ ตั้งอยู่ในย่านชุมชนเก่าแก่ของถนนจันทน์ บริเวณรอบๆ ที่ตั้งโครงการจึงเต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ร้านอาหารดั้งเดิมที่เปิดกิจการกันมายาวนาน กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่รวบรวมสาธารณูปโภคต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน เริ่มกันต้งแต่เรื่องปากท้อง ข้าวปลาอาหารการกินในย่านนี้รับรองว่าไม่มีขาด เพราะมีร้านค้า แผงลอยเปิดขายหมุนเวียนกันตั้งแต่เช้าตรู่ไปยันค่ำมืด เอาอย่างคนขี้เกียจมากหน่อย แค่เดินออกมาหน้าโครงการก็มีให้เลือกกินได้อย่างน้อย 3-4 ร้านเข้าไปแล้ว แต่ถ้าขยันเดินอีกนิด ออกมาทางตลาดสะพาน 3 ริมถนนจันทน์ รถเข็นขายอาหารในช่วงเย็นๆ ไปจนค่ำนั้นมีมากจนเลือกกันไม่หวาดไม่ไหวกันเลย หรือถ้านึกขยันอยากลุกขึ้นมาเข้าครัวทำกับข้าวกินเอง เช้าๆ ก็มีตลาดเช้าในซอยเซนต์หลุยส์ ห่างจากตัวโครงการไปแค่ 200 เมตรเท่านั้น แต่ถ้าตื่นไม่ทันตลาดเช้า ก็ยังมีตลาดเย็นตรงสี่แยกถนนจันทน์ตัดกับซอยจันทน์ 18/7 นั่นแหละครับ แถมยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตอีก แค่นี้ก็นับว่ามีทางเลือกมากเกินพอแล้ว โรงเรียนพาณิชย์อยู่ติดกับตลาดสดเลยครับ เช้าๆ นี่คึกคักจนรถติดเอาเรื่องอยู่ เพราะมีคนมาจับจ่ายซื้อของกันมากมาย ที่เดินในภาพเป็นรถสองแถวสาย 1256 ครับ วิ่งผ่านตลอดซอยแล้วไปสุดสายที่สถานีรถไฟฟ้าตากสินนู่นเลย ถ้าไม่ใช้รถส่วนตัวก็มีรถสองแถวนี่แหละครับเป็นที่พึ่งในการเดินทางที่ประหยัดมากๆ บรรยากาศตอนสายๆ ครับ จะเห็นว่ามีรถเยอะพอสมควรเลย ตลาดเช้ายังไม่วายดี ตรงนี้เป็นแหล่งซื้อหาอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งของคนในย่านนี้ครับเพราะมีของอร่อยๆ เพียบ นอกจากเรื่องอาหารการกินที่หายห่วงไปได้แล้ว เรื่องแหล่งช็อปปิ้ง ที่แฮงค์เอ้าท์ก็มีอยู่ไม่ไกลเช่นกัน เริ่มจากที่ใกล้ๆ ก็ Community Mall เปิดใหม่บนถนนจันทน์ ชื่อ Vanilla Moon ที่เราสามารถพึ่งพาได้แบบไม่ต้องดั้นด้นไปไกลนัก แต่ถ้าอยากช็อปให้เป็นเรื่องเป็นราวมากหน่อย ก็มีห้างเซ็นทรัล และเทสโก้ โลตัส ให้เป็นอีกตัวเลือกที่อยู่ออกไปทางฝั่งพระราม 3 รวมถึงอีกหนึ่ง Community Mall อย่าง The Up ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน นอกจากนี้แหล่งชิวสุดฮิตของคนกรุงอย่าง Asiatique The River Front ก็อยู่ในระยะที่สามารถเดินทางได้สะดวก ถ้าไม่ติดปัญหารถติดนะครับ เรื่องกินเรื่องเที่ยวในย่านนี้จึงครบเครื่องดีทีเดียว Vanilla Moon คอมมูนิตี้ มอลล์ แห่งใหม่บนถนนจันทร์ Asiatique The Riverfront ที่เดินเล่นชิลๆ พร้อมร้านอาหารมากมาย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถัดจากเรื่องกินเรื่องเที่ยว สถานที่สำคัญๆ ในบริเวณรอบๆ โครงการก็มีไม่น้อยเช่นกัน เริ่มจากสถานศึกษาเผื่อไว้สำหรับคนที่มีครอบครัว และมีลูกหลานอยู่ในวัยเรียน ซึ่งก็มีตัวเลือกมากมาย ตั้งแต่ โรงเรียนอัสสัมชันแผนกประถม ที่อยู่ในซอยเดียวกัน หรือจะเป็นโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนบนถนนสาทร โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ และโรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้ง แผนกสามัญ และแผนกสองภาษา ซึ่งล้วนแต่เป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังในย่านนี้ทั้งนั้น อีกทั้งยังมีโรงเรียนนานาชาติอย่าง Shrewbury International School และ New Sathorn Internation School ไว้เป็นอีกทางเลือก ในขณะที่โรงเรียนรัฐบาลในบริเวณรอบๆ ก็ยังมี โรงเรียนวัดสุทธิวราราม โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ไปจนถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตพระนครใต้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวอย่างโรงเรียนคร่าวๆ เท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วยังมีโรงเรียนอีกนับสิบในย่านนี้ที่เรายังไม่ได้เอ่ยถึง รวมไปถึงธนาคารที่ตั้งเรียงติดๆ กันเป็นแถว มีให้เลือกทุกสถาบัน แล้วไหนจะโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์อีกที่ตั้งอยู่ปากซอยสาทร 11 เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาก็วิ่งมาหาหมอได้ไม่ลำบากเลยครับ เอาเป็นว่าสาธยายกันมาคร่าวๆ แค่นี้ก็น่าจะพอนึกภาพรวมกันออกแล้วนะครับ เพราะรายละเอียดยิบย่อยอื่นๆ อาจจะต้องลองไปสำรวจด้วยตัวเองดูซักครั้ง เผื่อจะใช้ประกอบการตัดสินใจด้วยว่าจะชอบไม่ชอบทำเลยย่านนี้มากน้อยแค่ไหน โรงเรียนอัสสัมชัญประถม อีกหนึ่งโรงเรียนใหญ่ที่แทรกตัวอยู่ในซอยเซนต์หลุยส์กับเค้าด้วย ช่วงเช้าและเย็นถนนบริเวณหน้าโรงเรียนไปจนออกถนนสาทรจะถูกปรับให้เดินรถทางเดียวนะครับ ใครที่จะออกสาทรก็ต้องเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ข้างโรงเรียนไป ซึ่งมีคุณตำรวจจราจรคอยควบคุมการจราจรอยู่ทุกวัน ภาพรวมตัวโครงการ สำหรับ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ เป็นคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ ซึ่งมียูนิตรวมทั้งหมด 376 ยูนิต จากแปลนจะเห็นว่า ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ทางฝั่งซอยจันทน์ 18/7 ติดกับธนาคาร UOB นะครับ ไม่ใช่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานเขตสาทรอย่างที่เข้าใจแต่แรก พื้นที่รอบๆ โครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 4 ชั้น จะมีตึกที่สูงหน่อยก็แค่ตึกของสำนักงานเขตสาทรเท่านั้นครับที่สูง 10 ชั้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตเรื่องทิศทางวิว เพราะไม่มีห้องพักไหนหันหน้าเข้าด้านนั้นในระยะประชิด จึงไม่ต้องกลัวว่าจะถูกบังวิวสวยๆ ไป มาดูที่ชั้น G กันก่อนนะครับ ด้านหน้าโครงการจะมีสวนสีเขียวขนาดใหญ่ทางโครงการจะทำเป็นอาคารรับรอง หรือ Serene Garden ไว้สำหรับเป็นที่พักผ่อนและจุดนัดพบได้ ส่วนด้านในจะเป็น Lobby และที่จอดรถตั้งแต่ชั้น G ขึ้นไปถึงชั้น 4 รองรับรถได้ประมาณ 70% Serene Garden ด้านหน้าโครงการ Main Lobby ที่ชั้น G Facilities หลักๆ ทั้งหมดของโครงการจะรวมไว้ที่ชั้น 5 ซึ่งก็มีทั้งสระว่ายน้ำในระบบน้ำเกลือ ห้องฟิตเนส กับห้องอบไอน้ำแยกชายหญิง โดยที่พื้นที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้นแรกมาจนถึงชั้นที่ 4 ซึ่งนับรวมแล้วทางโครงการแจ้งว่าสามารถรองรับปริมาณการจอดรถได้ถึง 70% เลยทีเดียว นับว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยถ้าเทียบกับคอนโดอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าใครที่เลือกห้องในชั้นนี้ก็อาจจะต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวที่ต้องสูญเสียไปบ้างจากการที่ห้องอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะห้องที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ แต่ยังไงก็แลกมาด้วยวิวที่อาจจะดูสบายตามากขึ้นมาหน่อย ที่ชั้น 5 อย่างที่บอกจะเป็นชั้นที่รวม Facility หลักของโครงการไว้ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องอบไอน้ำ รวมถึงเป็นชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัยด้วย วิวสระว่ายน้ำบนชั้น 5 ภาพอีกมุมของพื้นที่รอบๆ สระว่ายน้ำ ตั้งแต่ชั้น 7-24 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จะมีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 3 ตัวและ Service Lift อีก 1 ตัว นอกเหนือจากนี้เรื่องแบบห้อง ทางโครงการก็เตรียมเอาไว้ 2 แบบ คือห้องแบบ 1 ห้องนอน และแบบ 2 ห้องนอน ขายกันมาแบบ Fully Fitted มีชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาให้ ที่เหลือก็ต้องไปตกแต่งกันเอง อ้อ! ลืมบอกไปว่า ทางโครงการจัดเตรียมสวนหย่อมเอาไว้บริเวณด้านหน้าโครงการด้วย ถือเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้ ซึ่งเราก็เอาภาพบรรยากาศจำลองจากทางโครงการมาให้ชมกันคร่าวๆ ก่อน รวมถึงแบบแปลนของห้องพักในแต่ละชั้นด้วย ส่วนห้องตัวอย่างของโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ ทีมงานจะรีบตามไปเก็บทุกรายละเอียดเอามาฝากกันในรีวิวฉบับต่อไป ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันให้ดีนะครับ หรือถ้าไม่อยากพลาดก็อย่าลืมไปกด Like เป็น Fanpage ของพวกเราได้ที่  www.facebook.com/reviewyourcondo Type 1A 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.90 ตารางเมตร Type 2A 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 63.80 ตารางเมตร Type 2B 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 66.70 ตารางเมตร Type 2C 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 66.70 ตารางเมตร
THE KEY สาทร-เจริญราษฎร์  : รีวิวคอนโด

THE KEY สาทร-เจริญราษฎร์  : รีวิวคอนโด

THE KEY สาทร-เจริญราษฎร์ คอนโด High Rise สูง 38 ชั้น โครงการใหม่จาก Land & House บนถนนเจริญราษฎร์ ใกล้ BTS สุรศักดิ์ ,BRT สถานีเจริญราษฎร์ และจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช พร้อมแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ ทั้งเซ็นทรัล พระราม 3 และเอเชียทีค  เปิด Pre-sale 4 ตุลาคม 2557 รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 3,000,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 90,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 885 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 5 - 3 - 65 ไร่ ที่จอดรถ  60% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ ถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง จุดขึ้นลงทางด่วน  0.8 กม. ถนนสาทร  2.0 กม. BRT เจริญราษฎร์  2.0 กม. BTS สุรศักดิ์  2.2 กม. เอเชียทีค  2.2 กม. เซ็นทรัล พระราม 3   4.2 กม. ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน  ขนาด 32.6 - 37.6 ตารางเมตร 2 ห้องนอน  ขนาด 55.2 - 75.3 ตารางเมตร Type A1 1 ห้องนอน ขนาด 33.1 ตารางเมตร Type B1 2 ห้องนอน ขนาด 55.4 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Grand Lobby Reading Lounge Multi-Purpose Room Activity Room Swimming Pool with Kid's Pool Fitness Front Garden CCTV 24 ช.ม. ระบบKey Card ในการเข้าออกทุกทางเข้าและออก พนักงานรักษาความปลอดภัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  thekey.lh.co.th
The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Bangkok Sathorn (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 12,900,000 บาท บาท/ตารางเมตร 218,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดหรูสูง 50 ชั้น ใจกลางสาทร จาก Land & House ใกล้ BTS สุรศักดิ์ และแหล่งธุรกิจกลางใจเมือง ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2560 ที่ตั้ง: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 4 - 3 - 79 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.718819,100.520391 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สุรศักดิ์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สุรศักดิ์ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงแรม Eastin   ลักษณะโครงการ: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 59 – 67 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 106 – 152 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 50 ชั้น จำนวนห้อง 468 ยูนิต ส่วนกลาง: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 120% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 70 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 800 บาท   สาธารณูปโภค Retails ที่ชั้น G ส่วนกลางทั้งชั้น 6 และชั้น 32, 32A สระว่ายน้ำ 2 สระ ห้องออกกำลังกาย ห้องโยคะ ห้องนั่งเล่น Sky Lounge Sky Deck สวนหย่อมรอบโครงการ สวนใหญ่ชั้น G, 6 ลิฟท์โดยสาร 14 ตัว อัตราส่วนประมาณ​ 33:1 ที่จอดรถ 120% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lh.co.th/condo/TB/t ข้อมูล ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2557
THAN Living สาทร – เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

THAN Living สาทร – เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

หลังจากที่ดูคอนโดแนวรถไฟฟ้าในแถบชานเมืองกันมาหลายโครงการแล้ว คราวนี้ขอพามาดูโครงการในเขตเมืองกันบ้างนะครับ โครงการ Than  Living สาทร-เจริญราษฏร์ คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น ริมถนนเจริญราษฏร์ ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้ใจกลางเมืองหรือถนนสาทรแค่เอื้อม   การเดินทาง โครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ช่วงระหว่างถนนจันทน์ไปยังถนนพระราม 3 ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่ไกลอยู่พอสมควร ถ้าเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS พอลงจากสถานีแล้วต้องอาศัยต่อรถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อมายังโครงการแบบไม่ค่อยมีทางเลือก เพราะการเดินเท้าคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ด้วยระยะทาง 2 กิโลเมตร บนเส้นทางถนนเจริญราษฎร์ที่เป็นถนนตัดใหม่และมีบ้านเรือนหรือร้านค้าอยู่ประปรายเนื่องจากเป็นถนนใหญ่ที่อยู่ใต้ทางด่วนคงไม่ใช่เส้นทางที่น่าเดินแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินตอนกลางวันแสกๆ หรือตอนค่ำๆ ก็ตาม อีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนก็คือ การเดินทางด้วย BRT ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเจริญราษฏร์ แต่ก็มีระยะห่างจากโครงการมากถึง 1.7 กิโลเมตร นับว่าไม่ได้ใกล้กว่ากันเลย และก็ยังต้องต่อรถมายังโครงการเหมือนกันอีกด้วย   การเดินทางที่ดูน่าจะสะดวกที่สุดก็คือ การใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะมีจุดขึ้นลงทางด่วนถึง 2 ด่าน อยู่ใกล้ๆ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนอื่นๆ ได้หลายเส้นทาง ทั้งฝั่งบางนา รามอินทรา ดินแดง หรือแจ้งวัฒนะก็เดินทางได้สะดวกมาก ส่วนเส้นทางราบถนนเจริญราษฎร์ก็เป็นเส้นทางเชื่อมต่อถนนพระราม 3 และถนนสาทรเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังตัดผ่านถนนจันทน์ซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่เลี่ยงเข้าเมืองได้ด้วยเช่นกัน ส่วนถ้าจะข้ามไปฝั่งธนบุรีก็ยังมีทางเลือกทั้งสะพานตากสินบนถนนสาทร หรือจะออกถนนพระราม 3 ไปข้ามสะพานกรุงเทพก็ได้อีกเช่นกัน ถ้าใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้ว เส้นทางเลี่ยงลัดเลาะไปยังถนนต่างๆ มีมากเลยครับ เพราะช่วงเวลาเช้าและเย็นบนถนนสาทรนั้นรถติดหนักอย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้ว นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ดูจะไม่มีตัวเลือกมากนักนอกจากบริการรถรับส่งของทางโครงการ ที่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้เพราะทางโครงการยกให้ลูกบ้านและนิติบุคคลเป็นผู้ดูแลกันเองครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้ขอเริ่มจากถนนสาทร บริเวณสถานี BTS สุรศักดิ์ นะครับ เลยจากสถานี BTS มานิดเดียว เราก็จะมาเลี้ยวซ้ายที่แยก สาทร-สรุศักดิ์ เพื่อเข้าถนนเจริญราษฎร์ เลี้ยวซ้ายมาแล้วให้วิ่งตรงยาวไปเลยนะครับ ทางซ้ายจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ฝั่งขาออกไปทางบางนา-ดาวคะนอง หรือถ้าใครสะดวกเดินทางด้วยทางด่วน ก็มาลงที่ถนนจันทร์ เลยนะครับ ลงทางด่วนมาแล้วจะเจอสี่แยกถนนเจริญราษฎร์ตัดถนนจันทร์ ให้ตรงไปทางถนนพระราม 3 ตามป้านเลยนะครับ ทางขวาจะไปถนนเจริญกรุง ส่วนทางซ้ายจะไปสาธุประดิษฐ์ ตรงจากสี่แยกมาก็จะเป็นถนนเจริญราษฎร์ ทีนี้ก็ตรงยาวเลยนะครับ ระยะทางจากจุดลงทางด่วนถึงตัวโครงการประมาณ 1 กม. ก่อนถึงโครงการจะเห็นโรงแรม Best Western Grand Howard อยู่ฝั่งขวามือ ส่วนตึกที่กำลังก่อสร้างอยู่นั่นคือโครงการ Supalai Lite ที่อยู่ใกล้ๆ กับ Than Living 1 ใน 3 โครงการที่อยู่ติดกัน โครงการแรก Supalai Lite โครงการต่อมา The Key สาทร-เจริญราษฎร์ จาก Land House อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ตึก ต่อจากโครงการ The Key ก็จะเป็นโครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ แล้วครับ มองจากสำนักงานขายย้อนกลับไปทางฝั่งสาทร จะเห็นโครงการ Supalai Lite กำลังก่อสร้างอยู่ ส่วนโครงการ The Key สาทร ที่อยู่ข้างๆ กันยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง สถานที่ก่อสร้างอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ เพื่อเริ่มก่อสร้างรากฐานอาคาร ตึกแถวข้างๆ โครงการเป็นร้านขายของ และโรงพยาบาลสัตว์ ส่วนการเดินทางจากโครงการไป BRT ก็ตรงไปตามถนนเจริญราษฎร์เลยนะครับ มาถึงตรงนี้จะเป็นสามแยกตัดถนนพระราม 3 เราสามารถเลือกไปได้ทั้ง 2 ทางเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายไปทางคลองเตยจะเป็น BRT สถานีพระราม 9 เลี้ยวขวาไปทางถนนตก มไหสวรรย์ จะเป็นสถานีเจริญราษฎร์ ระยะทางก็พอๆ กันนะครับ แต่ทางสถานีเจริญราษฎร์จะใกล้กว่า ประมาณ 100 เมตร ผมเลือกมาทางสถานีพระราม 9 นะครับ เพราะเลี้ยวซ้ายได้เลย จะได้ไม่ต้องไปติดไฟแดงรอเลี้ยวขวา   วิเคราะห์ตัวโครงการ สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ ต้องบอกว่าอยู่ในย่านชุมชนที่อยู่อาศัยเดิมที่มีมาก่อนจะตัดถนนเจริญราษฏร์ ความเจริญรอบๆ อาจไม่เด่นเท่าถนนนราธิวาสฯ เพราะเป็นถนนเลียบทางด่วน ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในระยะเดินถึงจึงมีให้พึ่งพาไม่มากนัก แต่ถ้าขับรถออกจากโครงการไปหน่อย รับรองว่าวิถีชีวิตแบบคนเมืองมีให้ครบเครื่องเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่แหล่งช๊อปปิ้งอย่าง เซ็นทรัล พระราม 3 โลตัส โฮมโปร โรบินสันบางรัก เอเชียทีค ไปจนถึงเซ็นทรัลสีลม คอมเพล็กซ์ ก็อยู่ไม่ไกลนัก โรงพยาบาลก็มีทั้งของรัฐฯ อย่างโรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ หรือจะเลือกโรงพยาบาลเอกชนก็เช่น โรงพยาบาลเซนหลุยส์ โรงพยาบาลไทยจักษุ ที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง รวมไปถึงโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน และโรงพยาบาล BNH ที่อยู่แถบสีลมด้วย ส่วนสถานศึกษา โรงเรียนรัฐฯ โรงเรียนเอกชนเล็กใหญ่ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติก็มีอีกเพียบ ไหนจะวัดวาอาราม สุเหร่า โบสถ์ ก็ยังอยู่ในรัศมีที่เดินทางได้สบายๆ และเพราะอยู่ใกล้ย่านชุมชนเดิมบนถนนจันทน์ ร้านค้า ร้านอาหารเจ้าดังๆ เก่าแก่ และตลาดสด ก็มีให้พึ่งพาฝากท้องได้ตั้งแต่เช้ายันดึก ขอแค่ไม่ขี้เกียจขับรถออกมาเท่านั้นแหละ รับรองว่าไม่อดตายแน่นอน ขยับเข้ามาใกล้ๆ ตัวโครงการกันบ้าง ที่ดินติดกันทางด้านซ้ายล้อมรั้วเตรียมขึ้นโครงการ The Key เจริญราษฎร์ ส่วนที่ดินแปลงถัดจาก The Key ไป ที่กำลังก่อสร้างคือ ศุภาลัย ไลท์ สาทร-ถนนจันทน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นตึก High Rise ความสูงเทียบเคียงกัน เรื่องวิวของห้องในมุมด้านนี้จึงบังมุมกันอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่ ยิ่งไปเลือกซื้อห้องขณะที่ยังไม่มีการก่อสร้างแบบนี้ เรียกว่าต้องอาศัยพลังจิต จินตนาการล้วนๆ ว่าตึกข้างๆ จะขึ้นมามุมไหน ยังดีที่มีส่วนของ Facility บนชั้น 6 ซึ่งวางไว้ด้านเดียวกับ The Key มาช่วยเพิ่มระยะห่างระหว่างตึกเข้าไปได้อีกพอสมควร ส่วนด้านอื่นๆ ของโครงการยังเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะติดกับย่านชุมชนเดิมในพื้นที่ จึงมีแค่บ้านเดี่ยว หรือตึกแถวสูงไม่เกิน 4-5 ชั้นเท่านั้น เท่าที่เห็นก็ยังไม่น่าจะมีโครงการอื่นๆ ที่เป็นตึกสูงขึ้นในระยะใกล้อีก วิวด้านหลังทางฝั่งทิศตะวันออก และทางทิศใต้จึงยังโอเคอยู่ครับ อ้อ! ลืมบอกไปว่าฝั่งตรงข้ามโครงการมีสถาบันเทิงชื่อ X-zyte และร้านอาหารอีสานแนวจิ้มจุ่ม ถึงจะไม่ได้มีเสียงดังรบกวนในตอนกลางคืน แต่เท่าที่รู้มาหน้าสถานบันเทิงก็มีเรื่องตีกันบ่อยเหมือนกันนะครับ กลับบ้านดึกๆ ก็ระมัดระวังกันหน่อยโดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่ต้องกลับบ้านค่ำๆ คนเดียว แบบจำลองโครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ ออกแบบอาคารในสไตล์โมเดิร์น ตัวอาคารฝั่งทิศเหนือจะเห็นว่าตำแหน่งห้องไม่ได้วางไว้ในระนาบเดียวกัน โซนด้านหน้าจะถูกเว้าเข้าไปเล็กน้อย ส่วนนึงก็เพราะเว้นตามพื้นที่ส่วนกลางของชั้น 6 นั่นเอง ที่บริเวณชั้น 6 เป็นแหล่งรวม Facility ต่างๆ ไว้ ทั้งสระว่ายน้ำในระบบน้ำเกลือ มีสระเด็กให้ด้วย ขนาดของสระมีความยาวประมาณ 20 เมตร จึงเพียงพอที่จะว่ายน้ำออกกำลังกายได้ ใกล้ๆ กันเป็นห้องโยคะ ห้องฟิตเนส ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องสมุด นอกจากนี้ยังมีสวนหย่อมกระจายอยู่ตั้งแต่ชั้นล่าง ชั้น 6 ไปจนถึงสวนบนดาดฟ้า ที่เปิดรับวิวแบบ Panorama ซึ่งสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลยทีเดียว ส่วนของห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจนถึงชั้น 36 การจัดวางแปลนห้องค่อนข้างเน้นความเป็นส่วนตัวโดยที่แต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องสูงสุดอยู่ที่ 18 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งยูนิตรวมทั้งหมดของโครงการคือ 528 ยูนิต ถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย ความหนาแน่นของลิฟท์โดยสารก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดีเหมือนกัน ด้วยจำนวนลิฟท์โดยสาร 4 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1:132 ถือว่าแน่นอยู่เหมือนกัน และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับคอนโดที่อยู่ในทำเลที่ต้องอาศัยรถส่วนตัวเป็นหลักแบบนี้ก็คือ เรื่องที่จอดรถ ซึ่งทางโครงการก็ดูเหมือนจะเข้าใจตรงจุดนี้ดีอยู่แล้ว จึงจัดที่จอดรถไว้มากถึง 68% (นับรวมจอดซ้อนคัน) นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ที่ใช้ระบบ Key Card ในการเข้าอาคาร และมี CCTV ให้อุ่นใจตามมาตรฐานครับ มาดูตัว Plan อาคารกันบ้างนะครับ ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby ร้านค้า และที่จอดรถตั้งแต่ชั้น G - ชั้น 5 ด้านหน้าทางเข้าโครงการ และที่จอดรถขึ้นไปถึงชั้น 5 แบบจำลองทางเข้าโครงการ หน้าตาของ Lobby ต่อที่ชั้น 6 จะเป็น Facility หลักของโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องสมุด ส่วนพักอาศัยก็จะเริ่มต้นที่ชั้นนี้นะครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 6 แบบจำลองสระว่ายน้ำ Sky Fitness Private Library ชั้น 7 - 34 จะเป็นส่วนของที่พักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 18 ยูนิตต่อชั้น ชั้น 35 ยูนิตจะลดลงเหลือ 15 ยูนิต มีห้อง Penthouse ขนาด 265 และ 284 ตารางเมตร อยู่ที่ชั้นนี้นะครับ มุมมองจากชั้นสูงๆ ของโครงการ ชั้นสุดท้ายที่ชั้น 36 จะมีเพียง 4 ยูนิตเป็นห้องแบบ Executive ทั้ง 4 ยูนิต Roof Top Garden จุดชมวิวแบบ Panorama บนชั้นดาดฟ้าของโครงการ พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้นั้นมีด้วยกัน 3 แบบ เราเริ่มต้นกันด้วยห้อง Type A แบบ 1 ห้องนอนในขนาดพื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. ตัวห้องวาง Lay out มาเป็นแนวลึก ของที่แถมมาให้พร้อมกับห้องก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วๆ ไปครับ ชุดเครื่องครัว และสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ต้องหามาตกแต่งกันเอง ถ้าไม่ได้มีข้าวของเครื่องใช้มากมาย ห้องขนาดนี้ก็กำลังพออยู่เลย เว้นเสียแต่สมบัติบ้าจะเยอะ งานนี้อาจจัดสรรหาที่เก็บของกันยากหน่อย โชคดีที่ทางโครงการออกแบบให้ฝ้าเพดานของห้องสูงถึง 2.7 เมตร บรรยากาศโดยรวมภายในห้องจึงไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่ ถึงแม้แบบห้องจะเป็นห้องหน้าแคบก็ตาม เรื่องสเปควัสดุแนะนำว่าให้สอบถามและตรวจสอบกับทางโครงการให้ดูนะครับ ว่าชิ้นไหนแถมมาให้พร้อมห้อง หน้าตา สีสันเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่คุยๆ มาดูเหมือนห้องจริงจะไม่เป็นไปตามแบบห้องตัวอย่างหลายจุดเหมือนกัน Room Type A1 ขนาด 29 ตารางเมตร plan ห้อง ประตูจะเป็นแบบ Digital Door Lock เปิดเข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟากำลังดี ชุดสวิตช์และปลั๊กไฟใช้ของ Sierra ทั้งหมด พื้นที่ข้างโซฟาทั้ง 2 ข้าง มีที่เหลือพอให้วางโต๊ะข้างได้ครับ ชั้นวางทีวีเตี้ยๆ อยู่ในระยะสายตาพอดี ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอน ซึ่งถูกกั้นพื้นที่ไว้ด้วยผนังครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ วางเตียงขนาด 5 ฟุต กำลังพอดีครับ เหลือพื้นที่รอบเตียงนิดหน่อย ด้านที่ติดกับหน้าต่าง ด้านปลายเตียงเหลือพื้นที่พอให้เดินได้ ถ้าจะติดทีวีไว้ในห้องนอน คงต้องแขวนอย่างเดียวเลยครับ อีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า มุมมองจากห้องนอนออกมาที่ส่วน Living Area อีกด้านของห้องจัดเป็นโซนห้องครัวและห้องน้ำ เดี๋ยวเราเลี้ยวซ้ายไปดูห้องครัวกับก่อนนะครับ เคาน์เตอร์ครัวแนวยาวไปถึงระเบียง ซิงค์ล้างจานแบบฝัง และเตาไฟฟ้า 2 หัว มาพร้อมฮูดดูดควัน มีระเบียงเล็กๆ อยู่ติดกับห้องครัว ประตูออกไปยังระเบียงเป็นบานพับเล็กๆ จากที่เห็นพื้นที่ระเบียงนั้นแคบมากจนแทบจะไม่เหลือที่ให้ยืนเลย เมื่อวางเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แอร์ลงไปแล้ว ดังนั้นเรื่องพื้นที่ตากผ้าจึงต้องทำใจกันได้เลย เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งกันต่อนะครับ การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ด้วยประตูกระจกแทมเปอร์ ด้านล่างอ่างล้างมือไม่มีตู้ให้นะครับ เป็นพื้นที่โล่งๆ ข้างโถสุขภัณฑ์จะมีที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้ด้วย ชุดฝักบัวจะใช้ของ Sierra ต่อมาเป็น Type C แบบ 1 ห้องนอนเหมือนกัน แต่พื้นที่ใช้สอยจะเพิ่มขึ้นเป็น 41 ตร.ม. Type นี้จะย้ายส่วนครัว กับห้องน้ำมาไว้ที่หน้าห้อง เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L เชื่อมต่อกับโต๊ะทานอาหาร และส่วน Living Area ที่ติดกับระเบียง แต่ระเบียงจะไม่เล็กเหมือน Type A แล้วนะครับ วางเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แล้วยังไม่ที่เหลือให้ทำอย่างอื่นได้อีก ส่วนห้องนอนขนาดกำลังพอดี วางเตียงแล้วด้านที่ติดกับหน้าต่างมีที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานหรือจะเป็น Daybed เอาไว้นอนอ่านหนังสือริมหน้าต่างก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ Type C1 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 41 ตารางเมตร Plan ห้อง เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนครัวก่อนนะครับ ครัวแบบเปิดรูปตัว L แยกซิงค์ล้างจานกับเตาไฟฟ้าไว้คนละฝั่ง ซิงค์ล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้า 2 หัวยี่ห้อ Teka มาพร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน อยู่ติดกับส่วนครัว ถัดไปด้านในเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวี จากมุมมองออกไปหน้าห้อง เราออกมาดูที่ระเบียงกันต่อนะครับ ห้องนี้ระเบียงจะดูกว้างขวางกว่า Type A เพราะจะแยกคอมเพรสเซอร์แอร์ กับจุดที่วางเครื่องซักผ้าออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ด้านซ้ายจะเป็นจุดที่วางเครื่องซักผ้า คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านขวามือ หันหน้าออกนอกระเบียง กลับเข้ามาดูในห้องนอนกันต่อนะครับ วางเตียงแล้วพื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งมีพื้นที่เหลือเยอะเลยครับ ด้านที่ติดกับหน้าต่าง โครงการ Built-in โต๊ะทำงานให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้เท่านั้น ทีวีในห้องนอนต้องใช้แบบแขวน อีกด้านของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ถัดไปก็จะเป็นห้องน้ำ ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ด้านนะครับ จากทางห้องนอนและห้องครัว การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนๆ กับห้อง Type A อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ส่วนเปียกจะกั้นด้วยกระจกแทมเปอร์ ขอบปูนกันส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ชุดฝักบัว สุดท้ายเป็นห้อง Type F แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บนพื้นที่ใช้สอยขนาด 70 ตร.ม.  บรรยากาศภายในห้องดูโอ่งโถง โปร่งสบายตา พร้อมเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่ทำให้พื้นที่ในการทำครัวกว้างขึ้น ครัวเป็นแบบเปิดนะครับ เชื่อมต่อกับส่วนของพื้นที่นั่งเล่นพอดี อีกจุดเด่นหนึ่งของห้องนี้ก็คือ ระเบียงที่กว้างขวางสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ขยับเข้ามาที่โซนห้องนอน เริ่มจากห้องนอนเล็ก ที่ขนาดกำลังพอใช้งาน วางตู้เสื้อผ้าและเตียงเข้าไปแล้วยังพอเหลือที่ว่างอยู่บ้าง บรรยากาศภายในห้องจึงไม่อึดอัดจนเกินไป ต่างจากห้องนอนใหญ่ที่พื้นที่ค่อนข้างกว้างมากพอที่จะวางโต๊ะทำงานตัวยาว หรือ Daybed ไว้ที่ริมหน้าต่างได้อีกตัว ส่วนห้องน้ำทั้ง 2 ห้องก็จัดพื้นที่ได้กว้างพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเรียบร้อย โดยรวมแล้วบรรยากาศภายในห้อง Type นี้ น่าอยู่เลยทีเดียว Plan ห้อง เข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็น Living Area แต่เราจะไปดูทางขวามือที่เป็นส่วนครัวก่อนนะครับ ด้านซ้ายมือตรงข้ามครัว จะมีตู้เก็บของ เก็บรองเท้า Built-in ให้ดูเป็นไอเดียอยู่ด้วย มาดูที่ครัวกันเลยดีกว่าครับ ครัว Type นี้จะเป็นรูปตัว L เหมือนห้อง Type C แต่จะใหญ่กว่า มีพื้นที่ให้เตรียมอาหาร ทำอาหารได้มากกว่า และมีโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่านอยู่กลางครัวเลยครับ ทำอาหารเสร็จก็ไม่ต้องเดินไปเสิร์ฟไกล เตาไฟฟ้าจะเป็นเตา 4 หัว ของ Teka ซิงค์ล้างจานแบบฝัง มุมมองจากส่วน Living Area ออกไปที่ส่วนครัว มาดูที่ Living Area ต่อนะครับ ส่วนนี้กว้างขวางมาก สามารถวางโซฟาแบบ L Shape ได้เลย ระยะห่าวระหว่างโซฟากับทีวี สามารถตั้งทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ ระเบียงที่อยู่ติดกับ Living Area ก็ดูกว้างขวางดีนะครับ วางเครื่องซักผ้าแล้วยังมีที่เหลืออีกเยอะเลย อีกฝั่งจะเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ หันหน้าออกนอกระเบียง มีระแนงเหล็กกั้น ทางเดินต่อไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะเจอห้องนอนเล็กก่อนนะครับ แต่ขนาดก็ไม่ได้เล็กเท่าไหร่ วางเตียงแล้วยังพอมีที่เหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างได้อยู่ ที่ปลายเตียงเหลือให้พอได้เดินได้สะดวก ใช้ทีวีแบบแขวนเหมือนห้องตัวอย่าง จะทำให้ห้องดูโล่งกว่าครับ อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ระยะห่างระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้า ว่างพอให้วางของตกแต่งได้อีกหน่อย ข้ามฝั่งจากห้องนอนเล็กมาอีกด้านจะเป็นห้องน้ำ การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนกันห้องที่ผ่านมา เดินตรงมาที่ห้องนอนใหญ่ จะอยู่สุดทางเดินเลยครับ ห้องนอนใหญ่นี่ก็ใหญ่สมชื่อครับ วางเตียง 6 ฟุตแล้วยังมีที่เหลือให้จัดได้อีกเพียบ ปลายเตียงวางชั้นวางทีวีได้สบายๆ ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง โครงการวาง Daybed ไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ที่ติดกับ Daybed เป็นโต๊ะทำงาน ข้างเตียงอีกฝั่งมีทีเหลือพอให้วางโคมไฟหรือจะเป็นโต๊ะข้างก็ได้ มองไปมุมนี้จะเห็นตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างเตียง ต่อด้วยห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อีกหนึ่งห้อง ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นี่จะขนาดเท่ากับห้องแรกเลยนะครับ การจัดวางสุขภัณฑ์ก็เหมือนกัน ความคุ้มค่าน่าลงทุน โครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ น่าจะเหมาะกับกลุ่มคนที่ใช้รถส่วนตัว และชอบย่านที่ไม่ค่อยพลุกพล่านในขณะที่อยู่ไม่ห่างจากใจกลางเมืองมากนัก ด้วยศักยภาพของทำเลถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะมีเส้นทางเลี่ยงเข้าออกเมืองได้หลายทาง จะเดินทางไปไหนก็จัดว่าสะดวกมาก ที่สำคัญสาธารณูปโภคต่างๆ ก็แวดล้อมรอบด้านและครบครันมากๆ อีกทั้งราคาห้องเริ่มต้นในระดับไม่เกิน 3 ล้านในทำเลที่ห่างจากถนนสาทรแค่ 2 กิโลเมตร ถือว่าดึงดูดใจสุดๆ ไปเลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีด้อยอื่นๆ ที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณานะครับ เพราะที่ดินข้างๆ มีคอนโดมิเนียมของ Developer รายใหญ่ในตลาดซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างอยู่ถึง 2 โครงการ คือ ศุภาลัย ไลท์ สาทร-เจริญราษฎร์ และ The Key เจริญราษฎร์ ดังนั้นเรื่องศักยภาพความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งจึงไม่ต่างกันเลย แถมโครงการข้างๆ ดันเป็นของเจ้าตลาดระดับมหาชนด้วยแล้ว บริษัท สิราลัย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ Than Living จึงดูเสียเปรียบไปถัดตา เพราะตัวเปรียบเทียบมีความน่าเชื่อถือมากกว่า ทั้งเรื่องความเชี่ยวชาญในตลาดที่ทำมานานกว่า และจุดขายที่สร้างเสร็จก่อนขายของแบรนด์ The Key การจะตัดสินใจเลือกโครงการไหนจึงต้องทำการบ้านกางใบราคาเปรียบเทียบกันหนักหน่อย ว่าโครงการไหนจะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่ากัน ทั้งการเกร็งกำไรจากการขายต่อ และการทำกำไรในการปล่อยห้องเช่า
Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW)   ราคา 2 ล้านต้นๆ บาท/ตารางเมตร ประมาณ 60,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise โครงการใหม่จากศุภาลัย บนถนนเจริญราษฎร์ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน เพรียบพร้อมด้วยระบบขนส่งสาะารณะทั้ง BRT และ BTS จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 ที่ตั้ง: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 4-1-20 ไร่ ที่ตั้ง ถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.701594, 100.516427 ระบบขนส่งสาธารณะ BRT เจริญราษฎร์, BTS สุรศักดิ์ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สุรศักดิ์ BRT เจริญราษฎร์ โรงแรม เบสเวสเทิร์น พลัส แกรนด์ ฮาเวิร์ด โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ฟิวเจอร์มาร์ท (โฮมโปร พระราม 3) เอเชียทีค โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรบินสัน บางรัก เซ็นทรัลพระราม 3 ลักษณะโครงการ: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 34.5 – 35.5 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 49 – 54 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 80 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 26 ชั้น จำนวนห้อง 565 ยูนิต ส่วนกลาง: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 68% รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 40 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 400 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำบนชั้น 5F ห้องออกกำลังกายบนชั้น 5F สวนบนชั้น 5F Lobby สวนหย่อมบนชั้น 24F Sky Lounge 26F ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 188:1 ความหนาแน่นสูงสุด 28 ห้องต่อชั้น ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-211-2121 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.supalai.com/lite/gallery/ ข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2555
The Diplomat Sathorn : รีวิวคอนโด

The Diplomat Sathorn : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Diplomat Sathorn (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้นประมาณ 7,900,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 200,000 บาท เจ้าของโครงการ KPN Group Co., Ltd. จุดเด่น คอนโดหรู ติดรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ใกล้แหล่งธุรกิจหลักกลางใจเมือง จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2559 ที่ตั้ง: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 2 - 12 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.720135,100.52207 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สุรศักดิ์ สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม และ โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ อาคารหอการค้าไทย-จีน (Thai CC) และ ร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ อาคาร Chartered Square อาคาร บสก. (บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด) อาคาร Jewelry Trade Center Silo Health Land สาขาสาทร (สาทร 12) สถานีตำรวจยานนาวา โรงแรมอิสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (สีลม) วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) – ถนนปั้น ลักษณะโครงการ: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms 3 Bedrooms Penthouse ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 40 – 52 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 59 – 76.5 ตารางเมตร 3 Bedrooms ขนาด 85.5 – 99.5 ตารางเมตร Penthouse ขนาด 133 – 205 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 38 ชั้น จำนวนห้อง 192 ยูนิต ส่วนกลาง: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 192 คัน หรือ 100% – ไม่รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 80 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 800 บาท สาธารณูปโภค ห้องสันทนาการ ชั้น 8 (The Diplomat Club) สระว่ายน้ำสำหรับเด็กพร้อม Rain-Cloud และห้องพักผ่อนสำหรับผู้ปกครอง ชั้น 8 สวนพักผ่อนชั้น 8 และ ชั้น 35 Lap pool ชั้น 35 ห้องออกกำลังกาย ชั้น 36 สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 1:64 Service Lift 1 ตัว ที่จอดรถ 192 คัน คิดเป็น 100% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-637-8788 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thediplomatcondo.com/sathorn/index.php/home ข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2556
The Room Sathorn : รีวิวคอนโด

The Room Sathorn : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Room Sathorn (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 7,590,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 155,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น บนถนนปั้น จากแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และแหล่งธุรกิจย่านสาทร ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2559 ที่ตั้ง: The Room Sathorn (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 2 - 73 ไร่ ที่ตั้ง ถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.722364,100.523317 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สุรศักดิ์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง สถานฑูตพม่า วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์ โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก Baan Silom เซ็นทรัล สีลม โรบินสัน บางรัก สีลม คอมเพล็กซ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาล BNH วัดยานนาวา ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ Empire Tower   ลักษณะโครงการ: The Room Sathorn (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 45-50 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 78 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 25 ชั้น จำนวนห้อง 219 ยูนิต   ส่วนกลาง: The Room Sathorn (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 87% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 55 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Main Lobby Meeting Room Ozone System Swimming Pool Fitness Sky Reading Lounge Sky Garden   เพิ่มเติม: The Room Sathorn (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lh.co.th/condo/projects/207?lang=t ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2556