Tag : FengSui

36 ผลลัพธ์
ไม่ควรสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่า โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ไม่ควรสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่า โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ไม่ควรเลือกซื้อบ้าน หรือสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่าเด็ดขาด ถนนหนทางคนใช้สัญจรเดินทาง ผี หรือวิญญาณก็ใช้เดินสัญจรเหมือนกับเรา เดินมาเป็นแรมปี แล้วอยู่ๆ เราจะไปสร้างบ้านคร่อม แบบนี้ เราจะรู้สึกว่าเหมือนมีคนเดินผ่านบ้านตลอดเวลา เมื่อใดดาวที่ไม่เป็นมงคลมาเกิด ปีนั้นๆ หรือวันดีคืนดี คุณจะเห็นผีมาเดินในบ้านเรา จะทำให้เรานอนหลับไม่เป็นสุข ชีวิตก็วุ่นวาย มีแต่เรื่องแต่ราว เดือดร้อนไม่สิ้นสุด ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
ที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะปฏิกูล อย่าได้เลือก โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะปฏิกูล อย่าได้เลือก โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ไม่ควรเลือกที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะและปฏิกูล มาสร้างบ้านเด็ดขาด สำคัญมาก เพราะที่ดินนี้ จะมีขยะ สิ่งสกปรก เต็มไปด้วยมลพิษต่างๆ ความชั่วร้ายอยู่มากมาย ทำให้เราอยู่อาศัยแล้ว จะมีแต่โรคภัยไข้เจ็บ เจ็บไข้ได้ป่วยตลอดเวลา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ก่อนเลือก ควรสอบถามบ้านใกล้เรือนเคียง บริเวณนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อที่ดิน  ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
แก้เคล็ดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมดวงให้ราบรื่น

แก้เคล็ดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมดวงให้ราบรื่น

ฮวงจุ้ย ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งจากประเทศจีน เกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตหลายด้านตามความเชื่อ ซึ่งก็ได้รับความนิยมกันหลายประเทศในเอเชียที่มีการวางสถาปัตยกรรม สภาพแวดล้อมให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อความเจริญรุ่งเรือง แต่สำหรับฮวงจุ้ยที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องในห้องนอนค่ะ ถ้ารู้สึกว่าชีวิตทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย ก็ลองหันมาจัดแจงปรับเปลี่ยนห้องนอนของเรากันเสียหน่อย อาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นตามศาตร์ของฮวงจุ้ยก็ได้นะคะ 1.ฮวงจุ้ยห้องนอนไม่เป็นสี่เหลี่ยม จัดว่าเป็นห้องเชือดเฉือน ห้องนอนที่ไม่เป็นสี่เหลี่ยม แต่มีส่วนหนึ่งเว้าแหว่งไป จนเป็นรูปทรงคล้ายมีดบังตอ ถือว่าไม่ดี ยิ่งถ้าตั้งเตียงตรงบริเวณส่วนคมของมีดก็ยิ่งถือว่าไม่ดี จะทำให้สามี-ภรรยาชอบหาเรื่องทำร้ายกัน มิว่าทางกายหรือทางคำพูด หรืออาจต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่ วิธีแก้เคล็ดตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอน ให้ตั้งเตียงในส่วนที่เป็นด้านสันมีด แล้วติดลูกแก้วคริสตัลหรือตั้งกระถางต้นไม้ไว้ที่จุด A ถ้าเตียงจำเป็นต้องอยู่ทางคมมีด เพราะผนังด้านสันมีดเป็นห้องน้ำ ก็ให้ติดกระจกเงาบานใหญ่ไว้ทางผนังด้านตรงข้ามกับเตียง 2.ฝันร้ายบ่อย หงุดหงิดง่าย เพราะปลายเตียงแคบ บริเวณปลายเตียงนอนสมควรให้มีเนื้อที่ว่างอย่างน้อยที่สุดก็สัก 2 ฟุตครึ่ง (ถ้ามีเนื้อที่เหลือกว้างมากก็ยิ่งดี) พยายามอย่าให้มีตู้หรือโต๊ะมาตั้งไว้ที่ปลายเตียงจนเกือบชิด จะทำให้ฝันร้ายบ่อย และจิตใจมักหงุดหงิดไม่สบายอยู่เสมอ แก้เคล็ดฮวงจุ้ยห้องนอน แค่ปล่อยโล่ง  ควรปล่อยให้ปลายเตียงเป็นบริเวณโล่งๆ โปร่งๆ ถ้าเนื้อที่จำกัดจริงๆ และจำเป็นต้องวางตู้ขนาดใหญ่ไว้ที่ปลายเตียงก็ให้ติดผ้าม่านสีอ่อนๆ ที่หน้าประตูตู้ เมื่อนอนมองมาจะมีความรู้สึกสบายตา ไม่รู้สึกถูกพลังบางอย่างกดทับ 3.ฮวงจุ้ยห้องนอน ที่หัวเตียงหันผิดทิศ มีแต่เรื่องทุกข์ใจ  ถ้าตั้งหัวเตียงไปทางทิศตะวันตก คู่สามี-ภรรยาจะมีแต่ความเบื่อหน่ายหมดความรักความใคร่ในกันและกัน แม้เป็นคนโสดก็จะมีแต่เรื่องให้เป็นทุกข์และกังวลใจ ชีวิตถดถอยมากกว่าเจริญก้าวหน้า แค่ขยับเตียง ฮวงจุ้ยห้องนอนก็เปลี่ยนทันที ให้ย้ายหัวเตียงไปทางทิศอื่น แล้วชีวิตจะมีความสุขความเจริญขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คู่สามี-ภรรยาก็จะมีความรักใคร่กันอย่างสดชื่นยิ่งขึ้น 4.ชีวิตคู่แตกแยก การเงินติดขัด เพราะฮวงจุ้ยห้องนอนแบบนี้ การตั้งเตียงนอนต้องระวังให้มากที่สุด ดูด้วยว่าชั้นล่างบริเวณที่ตรงกับเตียงเรานั้น เป็นสิ่งของเครื่องเรือนใดบ้าง ถ้าตั้งเตียงทับเตาไฟในครัวชั้นล่าง หรือตั้งทับทีวี ตู้เย็นที่เป็นเครื่องไฟฟ้าก็ถือว่าไม่เป็นมงคล จะมีผลให้ชีวิตคู่แตกแยก การเงินติดขัด ฮวงจุ้ยห้องนอน ต้องแก้ด้วยการย้ายเตา เพื่อรักมั่นคง ต้องย้ายตำแหน่งของเตียงนอนไปยังมุมอื่น หรือย้ายการจัดวางเตาไฟในมุมครัวชั้นล่างไปวางตั้งยังมุมอื่น แล้วคู่สมรสจะรักกันมั่นคงยั่งยืน ฐานะการเงินก็มั่งคั่งขึ้น 5.ฮวงจุ้ยห้องนอนที่ดี เตียงนอนต้องไม่ขวางประตู  ถ้าตำแหน่งเตียงนอนตั้งอยู่ตรงกับประตู เมื่อนอนอยู่บนเตียงแล้ว มีลักษณะท่าทีคล้ายนอนขวางประตูอย่างหนึ่ง หรืออีกอย่างหนึ่งเหมือนนอนเอาปลายเท้าชี้หาประตู ถือว่าไม่ดี ติดผ้าม่าน เสริมฮวงจุ้ยห้องนอน ให้ติดผ้าม่านอย่างทึบ (มีลวดลายได้ แต่มิใช่ผ้าโปร่งบาง) ติดบังตาไว้โดยห้ามผุกรวบชายม่านเป็นอันขาด หรือหาฉากบานพับมาตั้งบังตาระหว่างเตียงกับประตูห้องนอน หรือกั้นขวางด้วยตู้เสื้อผ้าก็ได้ 6.ฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมดวงชีวิตราบรื่น เหนือเตียงต้องโล่ง มิควรติดตั้งตู้หรือชั้นวางของที่เหนือหัวเตียงเด็ดขาด แม้จะเป็นชั้นเล็กๆ หรือตู้ลอยแบบบิลด์-อินก็ตามแม้จะทำให้ได้ประโยชน์ในการใช้สอยแต่จะทำให้การงานติดขัด ความคิดไม่โลดแล่น จิตใจให้หดหู่ว้าวุ่นและเจ็บป่วยง่าย ย้ายเตียงตามฮวงจุ้ยห้องนอนไม่ได้ ก็เสริมดวงด้วยรูปภาพ ควรจัดการรื้อตู้และชั้นต่างๆ ออกจากบริเวณหัวเตียง ที่ผนังด้านเหนือศีรษะ หรือที่หัวเตียงติดรูปภาพลวดลายมงคลแทนจะดีกว่า 7.เตียงใต้คาน ฮวงจุ้ยห้องนอน กล่าวว่ามีปัญหาต่อสุขภาพ  การจัดวางเตียงนอนไว้ใต้คานถือว่าผิดฮวงจุ้ย การตั้งเตียงลักษณะนี้จะทำให้ผู้เป็นเจ้าของเตียงมักเจ็บป่วยง่าย สุขภาพไม่ดี ปวดศีรษะบ่อย ปวดเมื่อยเนื้อตัวบ่อย จิตใจอึดอัดกดดันโดยไม่รู้สาเหตุแน่ชัด เสริมดวงฮวงจุ้ยห้องนอนง่ายๆ ด้วยขลุ่ยจีนผูกด้ายแดง ควรจัดการเคลื่อนย้ายเสียใหม่ ตั้งเตียงไว้ในมุมอื่นที่มิได้อยู่ใต้คาน ถ้าย้ายไม่ได้จริงๆ ให้แขวนขลุ่ยจีนผูกด้ายแดง เพื่อแก้เคล็ดที่บริเวณคานนั้น 8.โต๊ะเครื่องแป้งอยู่ปลายเตียง ฝันร้ายบ่อย ถ้าโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ปลายเตียงพอดี หรือตั้งอยู่ข้างเตียง โดยหันกระจกเงาเข้าหาตัวเตียงพอดี จะทำให้ฝันร้ายบ่อยๆ พลังจิตใจอ่อนแอ ตื่นตกใจง่าย แก้เคล็ดฮวงจุ้ยห้องนอนด้วยผ้าม่าน ย้ายตำแหน่งของโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ถ้าย้ายไม่ได้จริงๆ ให้ติดผ้าม่านปิดกระจกเงาไว้ 9.ใต้เตียงสกปรก การเงินติดขัด  พื้นที่ว่างใต้เตียงถ้าทำเป็นที่เก็บของจนรกรุงรัง และมีข้าวของเก่าๆ ชำรุดเก็บไว้ด้วย จะทำให้สตรีที่ตั้งครรภ์อยู่แท้งได้ ผู้ที่นอนบนเตียงนั้นจะมีจิตใจกระสับกระส่าย การงาน-การเงินติดขัดไม่ราบรื่น ถ้าเป็นคู่สามี-ภรรยาก็จะมีปากเสียงกันบ่อย แก้เคล็ดฮวงจุ้ยห้องนอนได้ แค่หมั่นทำความสะอาด  นำข้าวของไปบรรจุใส่กล่องแล้วเก็บไว้ที่อื่น จัดใต้เตียงให้โล่ง ปัดกวาดให้สะอาดเสมอ ถ้าจำเป็นจริงๆ ให้เก็บของใส่กล่องให้เรียบร้อยเป็นระเบียบ แต่อย่าเก็บของหักๆ ชำรุดไว้ใต้เตียงเด็ดขาด เรื่องของฮวงจุ้ยไม่ได้มีเพียงเท่านี้นะคะ แต่ยังมีด้านอื่นๆ ด้วย เช่น วิธีแก้ฮวงจุ้ยในคอนโด ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน  บ้านเรียกทรัพย์ตามหลักฮวงจุ้ย  
แปลนบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่แล้วรวย

แปลนบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่แล้วรวย

ฮวงจุ้ยกับหลักการของบ้านก็เป็นเรื่องของความสมดุลที่เรียกว่า อินเอี๊ยง หรือ หยินหยาง คือมีความมืดและความสว่าง ถ้ามีความสว่างมากเกินไปก็จะกระตือรือร้น ร้อนรนมากเกินไป มุ่งมั่นแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ขณะเดียวกันความมืดก็คือ ความนิ่ง ความสงบ ถ้าความมืดน้อย ชีวิตก็จะไม่สงบสุข ฉะนั้นหากจะต้องสร้างบ้านใหม่ก็ลองหันมาดูเรื่องของแปลนบ้านให้ถูกต้องตามหลักของฮวงจุ้ย ช่วยเสริมในหลายๆ ด้านของชีวิต เช่น เรื่องเงินทองให้ไหลเข้าบ้าน แต่ไม่ไหลออกไป ซึ่งมีวิธีการดังนี้ วางแปลนบ้าน แบบแบ่งหน้า-หลัง ตามหลักฮวงจุ้ย ตามหลักฮวงจุ้ยต้องแบ่งหน้าบ้านกับหลังบ้านให้สมดุลกัน โดยหน้าบ้านต้องสว่าง หลังบ้านต้องมืดทึบ เปรียบได้กับหน้าบ้านสว่างเป็นน้ำไหลเข้ามา หลังบ้านทึบเป็นภูเขารับน้ำ แต่ถ้าอยู่สลับที่กัน เช่น หลังบ้านโล่ง แปลว่าไม่มีภูเขา หรือภูเขาตกน้ำ คนที่อยู่ภายในบ้านจะสุขภาพไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างเงินกับคน เพราะตามหลักฮวงจุ้ย หากจะดูเงินที่เข้ามาให้ดูที่ความเคลื่อนไหว ดูว่าจะเก็บอยู่หรือไม่ให้ดูความนิ่ง   ข้อห้ามที่ว่าไม่ให้ 2 ประตูตรงกัน แปลว่ามีแต่เงินเข้ามา แต่ทำเท่าไรก็ไม่เหลือเก็บ เราจึงต้องอุดข้างหลัง เหมือนโบราณกล่าวว่าถ้ามีคู่ต้องให้คู่เก็บ สามีทำงาน ภรรยาอยู่บ้านให้เก็บเงิน ไม่มีคนอยู่บ้าน ทำแทบตายไม่มีคนเก็บ หรือในคอนโดก็เช่นกัน ต้องแบ่งครึ่งระหว่างหน้ากับหลัง กฎของแม่น้ำกับภูเขาก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน     กฎของความสว่างกับความมืดทึบต้องอยู่ตรงข้ามกันเสมอ ทุกครั้งที่มีเข้ามาต้องมีการรับ เช่น ถ้ามีประตูต้องไม่มีหน้าต่างตรงกัน แสงก็เช่นกัน ต้องมีความสมดุลระหว่างสว่างและมืด ที่ว่าหน้าบ้านเป็นโบสถ์ วัด โรงเจ ถือว่าเป็นความมืด จะแก้ด้วยการติดไฟสว่างไว้ 1 ดวง เพื่อแก้ให้มีความสว่างเกิดขึ้น หรือหากหน้าบ้านมีรถไฟฟ้าเปรียบเสมือนภูเขาอยู่ตรงหน้า อาจไม่ดี ต้องแก้ด้วยความโล่งโปร่ง จึงต้องมีการวางน้ำพุ ลานน้ำผุดขึ้นมาแก้สร้างความสมดุล เพราะความทึบ คือ ความมั่นคง บุคคล ส่วนความโล่ง คือ การเงินหรือสุขภาพ แปลนบ้านที่สมดุล สัมพันธ์กับฮวงจุ้ย ความสมดุลของบ้าน เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ส่วนจะรู้ว่าสมดุลหรือไม่นั้น หลักการคำนวณเริ่มจากยืนจากหน้าบ้านใช้เข็มทิศวัด ว่าบ้านนี้หันหน้าไปทางทิศไหน หลังตั้งอยู่ทิศอะไร แล้วมาคำนวณ เบื้องต้นบ้านที่ดีต้องแบ่งด้านหน้าออกเป็น 3 ช่องได้เท่าๆ กัน   สำหรับลักษณะของบ้านที่ดีต้องเข้าตรงกลาง โดยให้เปรียบสัมพันธ์กับหน้าตาของคนเรา ทางเข้าถ้าเบี้ยวซ้าย เบี้ยวขวาเหมือนปากไม่ตรง กินไม่ถนัด และบ้านที่เอาบันไดไว้หน้าบ้านก็ไม่ดี เพราะเปรียบเสมือนเอาภูเขาไปอุดอยู่ข้างหน้า บ้านที่เป็นรูปลักษณะที่ดี คือ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่ด้านตั้งก็ด้านยาว การต่อเติมที่ไม่สมดุลมีส่วนเกินมาก ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบ 8 ทิศไม่สมบูรณ์ก็จะไม่ดีในแง่ฮวงจุ้ย   ในการพิจารณาตามศาสตร์ฮวงจุ้ยต้องดูเฉพาะตัวบ้าน ไม่ต้องสนใจที่ดิน ซึ่งประตูบ้านสำคัญกว่าประตูรั้ว เพราะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่เข้ามาหาเรา รูปลักษณะบ้านก็ต้องอยู่ในความสมดุล โดยบ้านที่ดีคือ บ้าน 2 ชั้นขึ้นไป ประตูกับบันไดควรสัมพันธ์กัน ทางเข้าต้องมีบันไดรับ ซ้ายหรือขวาได้ แต่ต้องไม่ใช่ตรงกลางบ้าน เปรียบเสมือนการรับทรัพย์และนำเข้าไปในตัวบ้าน   "การเลือกแปลนบ้านให้ใช้เกณฑ์ของกระแสที่ไหลมาเป็นตัวกำหนด คือ ให้ถนนเป็นหลัก หากว่าเป็นหลังสุดท้ายและติดริมรั้วเลยถือว่าไม่ดี เรียกว่าปลายน้ำ ยิ่งเป็นรั้วที่ติดกับหมู่บ้านและมีบ้านที่อยู่ภายนอกบังอยู่ด้วยยิ่งไม่ดี แต่ถ้าติดรั้วและอีกฝั่งเป็นที่โล่งยังถือว่ามีกระแสลมพัดผ่าน ไม่เข้าหลักเกณฑ์ข้อนี้ อย่างไรก็ตามยังต้องมองว่าต้นทางกับปลายทางสู้กลางทางไม่ได้" สรุปแปลนบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี ห้องรับแขก เมื่อเข้าประตูมาแล้วจะอยู่ซ้ายหรือขวาแล้วแต่ทิศทางเป็นตัวกำหนด ห้องใหญ่ที่สุด คือ ห้องของหัวหน้าครอบครัว เป็นคนที่หาเงินได้มากที่สุด บ้านที่ดีต้องวางแปลนบ้านให้มุมของพ่อแม่ควรเป็นมุมสงบอยู่ชั้นล่าง     ห้องครัว เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ถือเป็นมุมทรัพย์อีกแบบหนึ่ง ไม่โปร่งโล่งเกินไป ควรเป็นมุมที่ต้องแอบซ่อน เห็นครัวง่ายก็จะมีคู่แข่งตลอด อาหารการกินก็จะมีคนมาแย่งกิน กรณีนี้ยกเว้นสำหรับร้านอาหาร และครัวไทยที่ทำนอกบ้าน การทำครัว ให้เลี่ยงการประจันหน้าระหว่างเตาไฟกับอ่างล้างจาน เพราะน้ำกับไฟเจอกัน จะทำให้คนในบ้านทะเลาะกัน โดยหลักการฮวงจุ้ย การดูครัวให้ใช้ดวงชะตาของแม่บ้านเป็นหลัก เพราะถ้าแม่บ้านไม่มีแรง กลับบ้านมาก็ไม่มีใครป้อนอาหารให้มีความสุขได้ ควรเว้นการทำห้องน้ำตรงกลางบ้าน และตรงกลางของหลังบ้าน ห้ามส่วนที่เป็นจุดศูนย์กลางทั้งหมด เพราะจะทำให้ประธานมีปัญหา หน้าต่างและบันไดบ้าน ควรจัดสมดุลด้วยสายตาและยึดหลักจำนวนเลขคี่ เพราะเลขคี่ คือ พลังการเคลื่อนไหว ส่วนเลขคู่ คือพลังหยุดนิ่ง หลังคาบ้าน เปรียบเสมือนหมวก หากว่าออกแบบชายคาต่ำกว่าสายตา ทำให้คนในบ้านมองไปไม่ไกล ทัศนวิสัยไม่ดี เหมือนปิดหน้าปิดตาไว้   หากแปลนบ้านดี ตามหลักฮวงจุ้ย แต่อย่าลืมทางสามแพร่ง! ที่สำคัญทางสามแพร่งถือเป็นข้อห้ามอันดับหนึ่ง เพราะกระแสจะวิ่งตรงเข้ามาชนตัวบ้าน ชนประตู จะมีปัญหามาก คนที่อยู่บ้านลักษณะนี้จะไม่มีความสุขเพราะกระแสแรง ส่งผลต่อคนแต่ละคนและมีทิศทางเป็นตัวกำหนด หากพุ่งชนทิศตะวันออกจะเกี่ยวข้องกับคำพูด ลม ปากและคอแห้ง มักจะมีปัญหาสุขภาพเรื่องปอด ทิศตะวันตกมักจะมีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุ ทิศเหนือมีปัญหาเรื่องมดลูก ทิศใต้มีปัญหาเรื่องสายตา อย่างไรก็ตามบ้านลักษณะนี้เงินทองจะเข้าดีแต่สุขภาพจะไม่ค่อยดี   ขอขอบคุณข้อมูลฮวงจุ้ยดีๆ จาก อาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ (ซินแสมังกร) เกี่ยวกับอาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ อาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ  บทความอื่นๆ เกี่ยวกับแปลนบ้าน และฮวงจุ้ย ความสมดุลในบ้าน ประตู และหน้าต่างบ้าน ประตูหน้า-ประตูหลัง นั้นสำคัญไฉน บ้านที่มีรั้วสูง รั้วทึบเหมือนกำแพงคุก จะมีผลอย่างไร?  
ถนนแบบไหนทำธุรกิจเจ๊ง?

ถนนแบบไหนทำธุรกิจเจ๊ง?

รู้ไว้ไม่เสียหาย สำหรับเรื่อง “ถนน” ซึ่งนับเป็นเส้นทางการคมนาคมสำคัญและเป็นเหมือนสายเลือดหลักในการทำธุรกิจ ถนนดี ทำเลดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งในการส่งเสริมธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากถนนไม่ดี ย่อมส่งผลกระทบแน่นอน ดีไม่ดีอาจจะเจ๊งโดยไม่รู้ตัว ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่า “ถนนที่ดีจะต้องเป็นเส้นตรงไม่คดเคี้ยว มีกระแสไหลเวียนมาก ไม่เปลี่ยวร้าง ถนนจะต้องกว้างไม่แคบเพื่อให้สัญจรไปมาได้สะดวก” ถ้าตั้งบริเวณนี้มีความได้เปรียบกว่า การค้าขาย ธุรกิจรุ่งแน่นอน  ส่วนถนนไม่ดีที่นำพาธุรกิจของคุณไปในทางลบ ไม่คล่องตัว มีถนนแบบไหนบ้าง  ลองมาดูกันเลย ถนนสามแพร่งทั้งดีทั้งร้าย อยู่ที่ดวงจริงๆ สำหรับคนที่ตั้งธุรกิจบริเวร “ถนนสามแพร่ง” หรือ “ทางสามแพร่ง” เพราะเส้นทางนี้ในทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นจุดที่วุ่นวาย ทำให้มีทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับการทำธุรกิจ ข้อดี : การตั้งร้านบริเวณนี้ได้เปรียบ ร้านจะเด่นจากระยะไกล มองเห็นง่ายพราะอยู่บริเวณทางแยก ข้อเสีย :  ทางสามแพร่งมีความอันตราย ยิ่งถ้าไม่มีไฟจราจร อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะรถอาจจะเสียหลักแหกโค้งพุ่งชนร้าน ตามข่าวที่ออกให้เห็นกันบ่อยๆ อีกอย่างคือ สำหรับธุรกิจร้านค้าที่ต้องจอดรถจะเสียโอกาสหนักมาก เพราะเป็นทางที่จอดรถได้ลำบากกว่าเส้นทางอื่นๆ แต่ในทางกลับกัน ถ้าในห้างสรรพสินค้า ทางสามแพร่งกลับช่วยเรียกลูกค้าได้ อย่างน่าประหลาดใจ อย่างไรแล้วลองพิจารณาหรือว่าวิธีป้องกันให้ดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดี จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาทีหลัง ถนนโค้งคนมองไม่เห็น ทางโค้ง นับเป็น top 10 ทางฮวงจุ้ยที่อันตรายที่สุด ไม่ว่าจะโค้งด้านในหรือโค้งด้านนอก ก็เสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นที่ธุรกิจอาจจะย่ำแย่ หรือเจ้งโดยไม่รู้ตัว  สำหรับโค้งในรถส่วนใหญ่ที่ขับผ่านมักจะมองไม่เห็น หรือขับเลยร้าน ส่วนโค้งนอกนั้นเสี่ยงมากสำหรับอุบัติเหตุ รถเลี้ยวเข้ามายาก  ทางโค้งไหนๆ ก็ไม่เวิร์ค เพราะทางฮวงจุ้ยนับเป็นจุดบอด จอดรถยาก ขับรถก็ต้องระวังเป็นพิเศษ ทางแก้ไขคือ ควรติดป้ายไว้ล่วงหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้ามามากขึ้น ถนนตัว Y อันตรายที่สุด ทางสามแพร่งที่ว่าแน่ ก็ยังแพ้ถนนรูปตัว Y เพราะในทางฮวงจุ้ยถือว่า ถนนตัว Y อันตรายที่สุด! เป็นจุดอับ ทำให้รถจอดยาก เลี้ยวลำบาก ซึ่งนอกจากจะไม่เอื้อประโยชน์ต่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ถ้ายิ่งไม่มีสัญญาณไฟยิ่งอันตรายมากกว่าเดิม ไม่ควรตั้งร้านบริเวณนี้อย่างยิ่ง ถนนวันเวย์รับได้ทางเดียว เหมือนถูกตัดขาไป 1 ข้างถ้าตั้งร้านอยู่ในถนนสายวันเวย์ เพราะได้ลูกค้าเพียงทางเดียว แทนที่จะได้ลูกค้า 2 ทางเหมือนถนนปกติ นอกจากนี้ ถนนวันเวย์ มีเส้นทางแคบ จอดรถลำบาก เสียโอกาสเพราะลูกค้าส่วนใหญ่คงไม่เลี้ยวรถกลับมา ถนนคู่ขนานเสียโอกาสง่ายๆ ร้านบนทางคู่ขนานพบปัญหาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้ามักจะขับรถเลยร้าน มองเห็นร้านแต่เข้าไม่ได้จึงเลยตามเลย โอกาสที่จะไปกลับรถมาที่ร้านอีกรอบคงจะยาก เสียโอกาสเพราะคนคงไม่ชอบเสียเวลา ทางที่ดีควรทำป้ายบอกทางล่วงหน้าแบบย้ำๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้ ถนนยูเทิร์นเข้าออกยาก “ทางเลี้ยวยูเทิร์น” “ทางกลับรถ”ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่เหมาะที่จะเลือกตั้งร้านค้าบริเวณนี้ เพราะกระแสรถที่เลี้ยวไม่สามารถเข้าไปจอดหน้าร้านได้ หรือเข้ายากเพราะต้องเบี่ยงเข้าซ้ายสุด ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากนี้ลูกค้ามองเห็นร้านยาก เพราะคนขับต้องคอยระวังทางตรง  เลี้ยวแล้วก็ต้องรีบขับออกไป หลักฮวงจุ้ยเรียกว่า “กระแสตีจาก” หรือวิ่งหนี ร้านค้ามีแต่เสียประโยชน์ ถ้าตอนนี้ธุรกิจของคุณ เริ่มนิ่งหรือมีผลในทางลบ ให้ลองสังเกตุที่ดูที่ตั้งของร้าน ว่าอยู่ถนนแบบไหน และรีบหาทางแก้ไขโดยเร็ว สำหรับคนที่กำลังริเริ่มธุรกิจ ขอให้เลือกทางที่ใช่ ถนนที่โดน ! ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.home.co.th/hometips/detail/86530-ถนนแบบไหนทำธุรกิจเจ๊ง?-
ฮวงจุ้ยตู้เย็น วางตรงไหนถึงจะดี เลือกสีอย่างไรให้ถูกโฉลก

ฮวงจุ้ยตู้เย็น วางตรงไหนถึงจะดี เลือกสีอย่างไรให้ถูกโฉลก

ฮวงจุ้ยตู้เย็น มาดูการจัดวางตำแหน่งตู้เย็นในห้องต่าง ๆ อาทิ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอน รวมไปถึงการเลือกตู้เย็นให้ถูกโฉลก ช่วยเสริมดวงให้กับคนในบ้าน   "ตู้เย็น" เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกันแทบทุกบ้าน แต่รู้หรือไม่ว่าตู้เย็นก็มีผลต่อการใช้ชีวิตของคนในบ้านเหมือนกัน หากขาดการดูแลรักษา วางผิดตำแหน่ง หรือเลือกสีไม่ถูกต้อง ก็จะส่งผลเสียต่อชีวิต เช่น การงาน การเงิน ความสัมพันธ์ และสุขภาพ ฉะนั้นมาดูวิธีการจัดวางตู้เย็นที่ถูกต้องและเลือกสีตู้เย็นให้ถูกโฉลกกันเถอะ   การดูแลและรักษาความสะอาด ตู้เย็น เปรียบเหมือนสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ฉะนั้นไม่ควรปล่อยให้ตู้เย็นว่าง เพราะส่งผลให้สถานภาพทางการเงินของคนในบ้านแย่ลง ในทางกลับกันหากมีอาหารมากเกินไปจนเต็มตู้ ก็จะทำให้พลังชี่ (Qi) ไม่หมุนเวียน ฉะนั้นควรมีการจัดตู้เย็น ให้มองเห็นสิ่งของต่าง ๆ ภายในตู้ได้ง่าย หยิบสะดวกไร้กลิ่นเหม็น และไม่มีของหมดอายุค้างในตู้ นอกจากนี้ควรหมั่นเช็ดชั้นวางของ ช่องแช่แข็ง และลิ้นชักให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อทำให้พลังชี่ไหลเวียนได้สะดวก พร้อมทั้งทำให้คนในบ้านมีทั้งเงินทอง โชคลาภ และความโชคดี   การจัดวางตำแหน่งตู้เย็น ตำแหน่งการวางตู้เย็นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะล้วนมีผลกระทบกับความเป็นอยู่ของคนในบ้านทั้งสิ้น ทั้งในเรื่องของการเงิน ความมั่นคง และสุขภาพ ซึ่งมีข้อควรเลี่ยงในการจัดวางตู้เย็นตามห้องต่าง ๆ ดังนี้   ไม่ควรวางตู้เย็นตรงกับประตู : ไม่ว่าจะวางตู้เย็นในห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ตรงข้ามประตู เพราะจะทำให้การหมุนเวียนของพลังชี่วิตติดขัด และทำให้เก็บเงินไม่อยู่ มีเรื่องให้ใช้จ่ายตลอด ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ ให้นำเหรียญจีนโบราณ 5 จักรพรรดิ แขวนไว้เหนือประตู จะช่วยขับไล่พลังร้ายออกไปและเรียกโชคลาภเข้ามาแทน    ไม่ควรวางใกล้เตา : เพราะตู้เย็นจัดอยู่กลุ่มธาตุโลหะ ส่วนเตาจัดอยู่ในกลุ่มธาตุไฟ จึงไม่ควรวางของทั้ง 2 อย่างนี้ไว้ใกล้ ๆ หรือตรงข้ามกัน เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้ง มีปากมีเสียง และขาดความสามัคคี การจัดวางตู้เย็นในห้องครัวที่ดี ควรวางเตา อ่างล้างจาน และตู้เย็นให้เป็นรูปสามเลี่ยม เพื่อลดการปะทะหรือความความขัดแย้ง   ไม่ควรวางของบนตู้เย็น : โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ อาทิ เตาอบ ไมโครเวฟ และอื่น ๆ เพราะนอกจากจะมีผลต่อระบบระบายความร้อนของตู้เย็นแล้ว ทางฮวงจุ้ยถือว่าสิ่งของเหล่านี้จะไปขัดการไหลเวียนของกระแสลมที่เชื่อมโยงไปถึงเรื่องสุขภาพด้วย   ไม่ควรวางตู้เย็นในห้องนอน : เพราะเป็นอุปสรรคขัดขวางโอกาสความก้าวหน้าและความสำเร็จในเรื่องหน้าที่การงาน     การเลือกสีตู้เย็น ควรเลี่ยงการนำตู้เย็นสีแดงมาใช้ในห้องครัว : เพราะสีแดงจัดอยู่กลุ่มธาตุไฟ ที่จะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในบ้าน ส่วนสีตู้เย็นที่ถูกโฉลก ได้แก่ สีขาวและสีเงิน ซึ่งทั้ง 2 สีนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และสุขลักษณะที่ดี นอกจากนี้ก็มีสีเบจและสีขาวมุกที่จัดอยู่ในกลุ่มของธาตุดินและสามารถนำมาใช้ในห้องครัวได้เช่นกัน ตู้เย็นมีผลต่อชีวิตของเราหลายเรื่องเลยทีเดียว ทั้งการงาน การเงิน ความสัมพันธ์ และสุขภาพ ซึ่งก็ได้ทราบวิธีการจัดวางตู้เย็นและสีที่ถูกโฉลกกันไปแล้ว ก่อนจะซื้อตู้เย็นเครื่องใหม่หรืออยากจะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น ก็ลองนำฮวงจุ้ยตู้เย็นไปปรับใช้กันดูนะคะ ขอบคุณแหล่งที่มา : https://home.kapook.com/view178537.html          
8 ทริค จัดบ้านตามฮวงจุ้ย เปิดรับโชค อยู่แล้วรวยตลอดปี

8 ทริค จัดบ้านตามฮวงจุ้ย เปิดรับโชค อยู่แล้วรวยตลอดปี

เมื่อบ้านคือที่อยู่อาศัย และเป็นพื้นที่พักผ่อน ตัดขาดความวุ่นวายจากโลกภายนอกของสมาชิกในครอบครัวได้ จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่านิยามคำว่า 'บ้านคือวิมาน' นั้นหมายความว่าอย่างไร แต่การอยู่บ้านให้อยู่ เย็น เป็นสุข ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ควรคำนึงนะคะ เพราะหลายๆ คนที่เชื่อในเรื่องของ ฮวงจุ้ย ก็มักจะให้ซินแซเข้ามาเป็นผู้ดูแล ตรวจสอบในบ้านว่ามีอะไรผิดหลักไปบ้างหรือเปล่า ต้องจัดวางอะไรตรงไหนถึงจะเฮง ปังไปทั้งปี ซึ่งถ้าใครกำลังรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงตกทำอะไรก็ไม่ค่อยรุ่ง เงินขาดสภาพคล่องต้องหยิบยืมบ่อยๆ แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะสละโสดเหมือนคนอื่นสักที วันนี้ Review Your Living มี 8 ทริค จัดบ้านเพื่อรับโชคลาภ อยู่แล้วรวยตลอดปี มาฝากกันค่ะ บอกเลยว่าเป็นวิธีที่ง่ายมาก แถมยังไม่ต้องทุบ รื้อ ถอน ให้สิ้นเปลืองใดๆ เพียงแค่ใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยเรียกทรัพย์เสริมดวงกันหน่อย เงินทองจะได้ไหลมาเทมามีใช้ไม่ขาดมือแน่นอน 1.หน้าบ้านต้องเปิดโล่งรับทรัพย์ หลายๆ บ้านที่มักมีของกองอยู่หน้าบ้าน โดยเฉพาะรองเท้า คือข้อเสียในการกีดกันโชคลาภในหลักฮวงจุ้ย เพราะบริเวณหน้าบ้าน โดยเฉพาะลานที่ตรงกับหน้าประตู เปรียบเสมือนโต๊ะที่วางกับข้าว สำหรับป้อนเข้าปาก ส่วนประตู ก็เปรียบเสมือนปาก ที่รอรับอาหาร หรือพลังงานดีๆ นั่นเอง หากวางของกีดขวาง หน้าบ้าน หน้าประตู ก็เหมือนถูกขวางปาก ไม่ให้รับอาหารเต็มที่ ทำให้กินได้น้อย โชคก็น้อยตามไปด้วย หากจำเป็นต้องมีของวางจริงๆ ก็ควรวางให้อยู่ด้านใดด้านหนึ่ง และใส่ตู้เก็บให้เรียบร้อยมิดชิด ไม่ให้กีดขวางด้านหน้า และที่สำคัญไม่ควรอยู่เหนือลม เพราะลมจะพากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เข้ามาในบ้าน ซึ่งถือเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดี 2.เรียกเงินทองด้วยการเปิดประตูและหน้าต่าง การเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อเรียกเงินและทอง ไม่จำเป็นต้องเปิดทั้งวันนะคะ สำหรับบ้านบางพื้นที่ที่มีอากาศร้อนมาก ต้องเปิดแอร์ ก็ควรเปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศในช่วงเช้าๆ ก่อน เพื่อรับมวลอากาศใหม่ๆ ที่บริสุทธิ์เข้ามาในบ้าน ซึ่งเป็นการสะสมพลังงานดีให้บ้านของเรา สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แนะนำให้เปิดประตูหน้าต่าง ในขณะที่เริ่มเปิดแอร์  สัก 5-15 นาที เพื่อให้ความชื้นที่สะสมในแอร์ และเชื้อโรคที่คั่งค้าง ได้รับการระบายออกไปก่อน แล้วค่อยรับอากาศใหม่เข้ามาในบ้านของเราค่ะ เพราะเมื่อมีลม ก็จะมีโชค เพราะลมนำพาออกซิเจนเข้ามา เพิ่มความสดชื่น และความปลอดโปร่งให้กับบ้านของเราได้เป็นอย่างดี 3.เปิดแสงสว่างส่องทางเข้าบ้าน แสงสว่าง คือ พลังหยาง หรือการเคลื่อนไหว Active หากคุณผู้อ่านรู้สึกนิ่งๆ เนือยๆ โชคลาภ ก็ไม่ถูกกระตุ้น ถ้าจัดบ้านให้มีความเป็นหยางมากเกินไป ก็จะส่งทำให้บรรยากาศในบ้านเคร่งเครียด อยู่ไม่สุข ดังนั้นควรเลือกไฟให้เหมาะกับตำแหน่งที่ใช้งาน จะได้เสริมทั้งโชค และอยู่บ้านอย่างมีความสุขด้วย เช่น บริเวณที่เราชอบอ่านหนังสือ หรือมุมแต่งหน้า ควรใช้ไฟขาว จะได้ไม่หลอกตา และไม่เสียสายตา ส่วนมุมที่เรานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ก็อาจเป็นวอร์มไลท์ เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เคร่งเครียดมากเกินไปนะคะ ที่สำคัญทุกๆ พื้นที่ต้องมีไฟสว่างเพียงพอ ในตำแหน่งทางเดินต่างๆ ซึ่งเป็นเหมือนการนำทางพลังงานไปทุกที่ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี 4.จัดวางเฟอร์นิเจอร์ซะใหม่ เมื่อมุมนั่งเล่นในบ้านเป็นที่ที่สมาชิกครอบครัวทุกคนพุดคุยปรึกษากัน ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ควรจะจัดให้ล้อมวง หรือชิดกันเพื่อง่ายต่อการพูดคุยกัน ไม่ควรจัดชิดผนังทั้งหมด เพราะจะเป็นการเพิ่มระยะห่างและทำให้สมาชิกแต่ละคนอยู่ในมุมของตัวเอง อีกอย่างหนึ่งที่แนะนำคือการปูพรมรองพื้นเฟอร์นิเจอร์ ไม่จำเป็นต้องวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งตัวไว้บนพรมก็ได้ แต่อย่างน้อยควรให้ขาด้านหน้าของเฟอร์นิเจอร์วางอยู่บนพรม 5.เลือกของตกแต่งบ้านตามธาตุ ในวิชาโหราศาสตร์จีนและฮวงจุ้ยเชิงวิชาการ เรามองทุกสิ่งรอบตัวเป็นธาตุ รวมถึงทิศทางต่างๆ ด้วย ดังนั้นการตกแต่งบ้านให้รับโชค จึงควรทำระบบธาตุในบ้านของเรา เกิดความสอดคล้อง ทั้งก่อเกิด และถ่ายเท เพื่อความสมดุลของพลังงานทุกๆ ส่วนในบ้าน นอกจากจะช่วยส่งเสริมโชคลาภแล้วยังช่วยให้ผู้ที่อยู่อาศัย มีสุขภาพที่ดี และมีความรักใคร่สามัคคีกันอีกด้วย โดยในขั้นสูงนั้น ซินแสจะมีการเสริมธาตุที่ดีกับดวงให้กับแต่ละบุคคลอย่างเฉพาะเจาะจง ในตำแหน่งที่ดีกับดวงเป็นพิเศษด้วย   สำหรับทิศเหนือ : เป็นทิศธาตุน้ำ ควรตกแต่งด้วยน้ำพุหรือวัตถุทรงโค้ง ทรงกลม วาว รูปคลื่น หรือใช้สีฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ขาว เงิน ทอง และห้ามใช้สี เหลือง ส้ม ครีม น้ำตาล โอรส ตกแต่งบ้านเด็ดขาด ทิศใต้ : เป็นทิศธาตุไฟ ควรประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ ต้นไม้ หรือวัตถุทรงสูง ทรงกระบอก ทรงปิระมิด หรือใช้สีแดง ชมพู เขียว และห้ามใช้สี ฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ตกแต่งบ้านเด็ดขาด ทิศตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นทิศธาตุไม้ ควรตกแต่งด้วยต้นไม้ น้ำพุ หรือวัตถุทรงสูง รูปทรงคลื่น หรือใช้สีเขียว ฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ และห้ามใช้สีเงิน ทอง โลหะ ต่างๆ ตกแต่งบ้านในทิศนี้เด็ดขาด ทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ : เป็นทิศธาตุทอง ควรตกแต่งด้วยโลหะ ทรงกลม แวววาว เซรามิก เครื่องปั้นดินเผา หรือสีเงิน ทอง น้ำตาล ครีม เหลือง ส้ม โอรส ห้ามใช้สีแดง ชมพู ตกแต่งบ้านในทิศทางนี้โดยเด็ดขาด ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ : เป็นทิศธาตุดิน ควรตกแต่งด้วย เซรามิก เครื่องปั้นดินเผา หรือสีเหลือง ส้ม ครีม น้ำตาล โอรส แดง ชมพู ห้ามใช้สีเขียว ตกแต่งบ้านในทิศทางนี้โดยเด็ดขาด 6.เก็บกวาดบ้าน เตรียมรับโชค พื้นที่รกรุงรัง ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย มักจะทำลายพลังและนำความไม่มั่นคงมาสู่บ้าน ดังนั้นควรจัดการทำความสะอาดพื้นที่เหล่านั้นให้เรียบร้อย และเพิ่มต้นไม้หรือดอกไม้เข้าไปเพื่อปรับพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งถ้าเป็นไปได้ควรนำน้ำพุมาตกแต่งบ้านด้วยก็ดีนะคะ เพราะน้ำพุถือว่าเป็นตัวแทนของความมั่งคั่งในหลักของฮวงจุ้ย ซึ่งช่วยสร้างพลังและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของเงินทองด้วยค่ะ 7.เลือกใช้สีส่งเสริมการเงิน หากอยากเสริมโชคลาภ ส่งเสริมการเงิน ลองใช้สีที่สื่อถึงธาตุไม้ ธาตุน้ำ และธาตุดิน อย่าง สีเขียว สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีดำ สีส้มดิน หรือสีเหลืองอ่อน ตกแต่งในพื้นที่การเงิน ไม่ว่าจะในรูปแบบของสีผนัง สีผ้า หรือของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ก็จะช่วยส่งเสริมพลังแห่งความมั่งคั่งให้กับเราได้ นอกจากนี้สีของธาตุไฟอย่าง สีแดง สีส้ม สีม่วง สีม่วงแดง หรือสีชมพู ก็ช่วยกระตุ้นพลังทางด้านการเงินได้เช่นกัน เพียงแต่ควรใช้แต่น้อยหรือแค่แต่งแต้มเป็นบางจุดก็พอค่ะ 8.เครื่องรางทางฮวงจุ้ยก็ช่วยเกื้อหนุนได้ อีกหนึ่งทริคดีๆ ในการจัดบ้านเพื่อเรียกโชคลาภ ควรเลือกเครื่องรางทางฮวงจุ้ยที่ชอบและเข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านมาใช้ เช่น ตู้ปลาที่จัดถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย หรือเลี้ยงปลาที่ส่งเสริมโชคลาภ เช่น ปลาเงิน ปลาทอง ปลามังกร ปลาคาร์พ นอกจากนี้การตกแต่งบ้านด้วยเหรียญจีนโบราณมหาจักรพรรดิ แจกันความมั่งคั่ง เรือสำเภาจีน พระพุทธรูปแห่งความสุข (Laughing Buddha) คริสตัลไพไรต์ หรือซิทริน ก็ล้วนแต่ช่วยส่งเสริมโชคภาภได้เป็นอย่างดี   การจัดและตกแต่งบ้านอย่างถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย จะช่วยดึงดูดความมั่งคั่งร่ำรวยมาสู่คนในบ้านได้ ลองนำ 8 ทริค จัดบ้านเพื่อรับโชคลาภ อยู่แล้วรวยตลอดปี  ไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ นอกจากนี้ยังควรรักษาพลังงานให้สดชื่นและมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ โดยการทำบ้านให้มีกลิ่นหอมสดชื่นด้วยการใช้กลิ่นอโรมา กลิ่นดอกไม้สด หรือเทียนหอมก็ได้ค่ะ และอย่าลืมว่าแสงสว่างที่พอดีก็มีความสำคัญเช่นกันนะคะ รวมถึงอาจเปิดเพลงที่ฟังไพเราะเพื่อกระตุ้นพลังงานด้านบวก และสิ่งสุดท้ายที่ลืมไม่ได้ คือพื้นที่การเงินจะต้องสะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอนั่นเอง จัดบ้านตามฮวงจุ้ย เสริมสิ่งดีๆ หลากหลายด้าน ของแต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย ความรัก หาคู่แท้ ฮวงจุ้ยตำแหน่งเตียงนอน เสริมรักรุ่ง เงินพุ่ง ฮวงจุ้ยตู้เย็น วางตรงไหนเสริมดวง สีอะไรถูกโฉลก  
วางผิดชีวิตเปลี่ยน!! เผยทิศต้องห้ามวางหิ้งพระ

วางผิดชีวิตเปลี่ยน!! เผยทิศต้องห้ามวางหิ้งพระ

หลังจากที่ดูทริคการจัดหิ้งพระที่ควรทำไปแล้ว คราวนี้เรามาดูทิศต้องห้ามที่เจ้าของบ้านไม่ควรตั้งหิ้งพระกันต่อ มาดูกันว่าคุณเกิดปีไหนและห้ามไม่ให้ตั้งหิ้งพระตรงไหน   เจ้าของบ้านเกิดปีชวด ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้านเกิดอันตราย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต   เจ้าของบ้านเกิดปีฉลู ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน เจ้าของบ้านเกิดปีขาล ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้ผู้หญิงและสมาชิกในครอบครัวเกิดอันตราย   เจ้าของบ้านเกิดปีเถาะ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียคนในบ้านจะเสียชีวิต เจ้าของบ้านเกิดปีมะโรง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหายทั้งชายและหญิง   เจ้าของบ้านเกิดปีมะเส็ง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัวมีความยุ่งยากที่สุดจนหาความสงบสุขไม่ได้ เจ้าของบ้านเกิดปีมะแม ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้ครอบครัว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝัน   เจ้าของบ้านเกิดปีมะเมีย ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้ จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน เจ้าของบ้านเกิดปีวอก ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว   เจ้าของบ้านเกิดปีระกา ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะ จะทำให้ความทุกข์โศกมาเยือนครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ   เจ้าของบ้านเกิดปีจอ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะจะส่งผลร้ายให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้ เจ้าของบ้านเกิดปีกุน ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอด เสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล ได้หลักการจัดหิ้งพระแบบง่ายๆ กันไปแล้ว ก็ลองตรวจเช็คดูนะครับว่าเราวางถูกต้องแล้วหรือยัง   เป็นยังไงกันบ้างครับกับสาระดีๆ ที่เราเอามาฝาก ยังมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับบ้านและคอนโดแบบนี้อีกมากมาย ติดตามต่อได้ที่นี่เลยนะค้าบบบ www.reviewyourliving.com/infographic ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sanook.com/home/9521/
9 เรื่องฮวงจุ้ยควร-ไม่ควรทำ สำหรับปรับเปลี่ยนห้องนอน

9 เรื่องฮวงจุ้ยควร-ไม่ควรทำ สำหรับปรับเปลี่ยนห้องนอน

ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ฮวงจุ้ย Catherine Brophy เผยเคล็ดลับที่ควรทำและไม่ควรทำ เพื่อให้เรานอนหลับโดยปราศจากความเครียด ห้องนอนที่มีความสะอาดเรียบร้อยและสงบนั้น ส่งผลต่อชีวิตของเรา ดังนั้นการตกแต่งห้องนอนจึงต้องวางเป้าหมายไว้ก่อนว่าจะต้องเป็นพื้นที่ของการพักผ่อน สภาพแวดล้อมต่าง ๆ มีความกลมกลืน และ 9 สิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณจัดห้องนอนของคุณเป็นห้องนอนในฝันที่ถูกหลักฮวงจุ้ยได้ไม่ยาก ไม่ควรเก็บของไว้ใต้เตียง จะเสียฮวงจุ้ย แม้สิ่งเดียวก็ไม่ควร Brophy บอกว่า ของทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีพลังงานในตัวของมันด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นยิ่งคุณเก็บของไว้ใต้เตียงมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งจะเหลือพื้นที่สำหรับให้พลังงานไหลผ่านในขณะที่คุณนอนหลับพักผ่อนน้อยลงไป กฎข้อนี้มีประโยชน์สำหรับทุกคน ยิ่งใครที่นอนหลับยาก ก็ยิ่งต้องทำตามกฎข้อนี้ ฮวงจุ้ยที่ดี ห้องต้องสะอาดไม่รกเลอะเทอะ เพราะความสะอาดเรียบร้อยเป็นจุดเริ่มต้นของสภาพแวดล้อมที่สงบ ผ่อนคลาย ต้องแน่ใจว่า ห้องนอนของเรานั้นปราศจากของรกเลอะเทอะวางระเกะระกะ และในการทำความสะอาดก็ควรทำในทุกซอกทุกมุม แม้กระทั่งในตู้เสื้อผ้า ก็ควรหาเวลานำเสื้อผ้าออกมาแล้วทำความสะอาดในตู้บ้าง ดูดฝุ่นใต้เตียง อะไรที่ไม่ใช้แล้วก็ทิ้งไปบ้าง ประเมินพื้นที่ใช้สอย อย่าให้ดูอึดอัดคับแคบจนเกินไป เสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ก็นำไปบริจาคอย่าให้ของที่ไม่ใช้เหล่านั้นมารกพื้นที่พลังงานของคุณ อย่าอยู่กับอดีต เพราะฮวงจุ้ยทำเพื่อสิ่งใหม่ที่ดี เพราะการยึดติดกับอดีตจะเป็นการรบกวนปัจจุบันของคุณ อะไรที่หมดอายุ ใช้ไม่ได้แล้วก็ไม่ควรเก็บไว้อีก เธอเล่าว่าเคยมีลูกค้าคนหนึ่งมาปรึกษาว่า เธอและสามีนอนอยู่ที่เตียงเก่า ซึ่งเป็นเตียงที่สามีเคยนอนกับภรรยาคนเก่า และทุกครั้งที่เห็นเตียงทำให้นึกถึงแต่อดีต ดังนั้น หากคุณมีเฟอร์นิเจอร์ หรือมีสิ่งใด ที่คอยย้ำเตือนแต่อดีตก็ควรจะเปลี่ยน หรือนำออกไป คิดถึงประโยชน์ใช้สอยตามฮวงจุ้ยด้วย หลาย ๆ ครั้งที่เรานำอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาตกแต่งห้อง เพื่อให้สวยงาม แต่มันกลับทำให้พื้นที่แคบลง แถมไม่ได้ใช้งาน หรือใช้ไม่สะดวกสบาย ก็ไม่ควรจะมีไว้ ฮวงจุ้ยเตียงนอนต้องมีหัวเตียง เพราะหัวเตียงจะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัย รู้สึกว่ามีอะไรมาคอยปกป้องในขณะที่กำลังนอนหลับ และหัวเตียงก็ควรเป็นแบบเรียบ ๆ ชำรุดเสียหาย อย่าปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นจะเสียฮวงจุ้ย ต้องซ่อม หากไม่ซ่อมหรือซ่อมไม่ได้แล้ว ก็ให้นำออกไปเลย ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาเสีย พรมขาด เก้าอี้ชำรุด ฮวงจุ้ยไฟที่ดีต้องสามารถปรับความสว่างได้ เพราะแสงไฟก็มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกและพลังงานเช่นกัน ไฟในห้องนอนไม่ควรให้จ้ามากจนเกินไป และปัจจุบันนี้มีไฟหลายแบบ หลายลักษณะให้เลือกใช้ เราสามารถทดสอบเพื่อหาไฟในลักษณะที่เราใช้แล้วรู้สึกสบายที่สุด ฮวงจุ้ยที่ดีไม่ควรแขวนกระจกในห้องนอนมากเกินไป ในกรณีที่คุณต้องการจะแขวนกระจกในห้องนอนนั้น Brophy แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการแขวนกระจกตรงข้ามกับเตียงนอน หรือหน้าต่าง เพราะกระจกจะเป็นตัวสะท้อนพลังงาน และแสง การแขวนกระจกให้ส่องลงมาที่เตียงจะรบกวนการนอน และการแขวนตรงกับหน้าต่างก็จะสะท้อนไฟซึ่งอาจจะมีการส่องสว่างมาจากภายนอก ทำให้รบกวนการนอนได้เช่นกัน ความสบายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของฮวงจุ้ย ยิ่งคุณได้พักผ่อนในตอนกลางคืนมากแต่ไหน ก็ยิ่งทำให้มีพละกำลังมากในเช้าวันรุ่งขึ้น ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญกับที่นอน หากนอนไม่สบาย ก็ควรจะต้องลงทุนเพิ่มเท่าที่ไหว เพื่อให้ได้ที่นอนที่นอนแล้วรู้สึกสบายที่สุด เรื่องราวของศาสตร์ฮวงจุ้ย ของแต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย ความรัก หาคู่แท้ แปลนบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่แล้วรวย คอนโดฯ ฮวงจุ้ยดีๆ ทำไมต้องชั้นสูงๆ
คอนโดฯ ฮวงจุ้ยดีๆ ทำไมต้องชั้นสูงๆ

คอนโดฯ ฮวงจุ้ยดีๆ ทำไมต้องชั้นสูงๆ

คอนโดมิเนียมเป็นที่พักอาศัยประเภทหนึ่งที่สามารถจัดฮวงจุ้ยได้ แต่อาจจะต่างกับบ้านนิดหน่อยตรงที่คอนโดฯ มักมีข้อจำกัดหรือมีทางเลือกไม่มากนักในการจัดหรือปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ย เพราะฟังก์ชั่นหรือตำแหน่งของห้องต่างๆ หรือเฟอรนิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ล้วนถูกกำหนดหรือเรียกว่าฟิกซ์ค่อนข้างตายตัวเกือบหมดแล้ว ไม่เหมือนกับบ้านที่ยังพอปรับเปลี่ยนมุมหรือตำแหน่งได้ง่ายกว่า     อย่างไรก็ตามในทางฮวงจุ้ยถือว่าคอนโดฯ เป็นลักษณะของฮวงจุ้ยที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะดีกว่าบ้านด้วยซ้ำ เหตุผลเป็นเพราะอะไรมาฟังคำเฉลยของผู้รู้ไปด้วยกัน   อาคารสูงๆ ส่งเสริมพลังธาตุไม้และธาตุไฟ: หลักการของฮวงจุ้ยเชื่อว่าลักษณะโครงสร้างของอาคารเป็นเช่นไร ผู้อยู่อาศัยข้างในก็จะเป็นเช่นนั้น   *คอนโดฯ สูงเป็นลักษณะของพลังงานธาตุไม้และธาตุไฟ ส่งเสริมด้านสติปัญญาและชื่อเสียง ยิ่งอยู่ชั้นสูงๆ ยิ่งกระตุ้นให้เกิดความคิด สำเร็จในการขยายกิจการ ถ้าห้องมีระเบียงกว้างๆ หันหน้าไปทางทิศใต้หรือตะวันตกเฉียงใต้ก็จะยิ่งนำพารายได้เข้ามามาก   ด้วยเหตุนี้ลักษณะอาคารของคอนโดฯ ส่วนใหญ่ที่มักเป็นอาคารสูง หรือเป็นอาคารในทางยาว-แหลมอันเป็นลักษณะของพลังงานธาตุไม้และธาตุไฟ โดยพลังธาตุไม้เป็นการส่งเสริมด้านสติปัญญาและการพัฒนาตนเอง ขณะที่พลังธาตุไฟเป็นการส่งเสริมให้เกิดชื่อเสียง     ดังนั้นผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการใช้ความคิด เกี่ยวกับการใช้ชื่อเสียงเพื่อการหาเงิน หรือผู้ที่กำลังศึกษาหาความรู้อย่างนักเรียน นักศึกษาก็จะเหมาะมากสำหรับการอยู่คอนโดฯ   ห้องชั้นสูงๆ กระตุ้นความคิด: ข้อดีของการอยู่ในชั้นที่สูงนั้นไม่ค่อยมีอาคารอื่นมาบดบังระเบียงห้อง ซึ่งเปรียบได้กับปากประตูรับพลังจากลม ทำให้กระแสพลังแห่งโชคลาภพามาสู่ห้องเราได้ดีขึ้น และทัศนียภาพทางสายตาที่มีมีอะไรมาขวางกั้นจะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของผู้อยู่อาศัยให้คิดกว้างและคิดไกล ส่งผลให้มีโอกาสประสบความสำเร็จสามารถขยายกิจการได้ง่าย จนมีคำกล่าวไว้ว่า “หากผู้ใดจะทำมาหากินกับแดนไกล เหม่งตึ๊งจะต้องโล่ง”     ถ้าเปรียบตามความหมายนี้ก็คือหากผู้ใดที่ทำงานกับชาวต่างชาติหรือขยายกิจการรองรับงานต่างประเทศก็ควรจะให้จุดที่เรามองจากระเบียงคอนโดฯ นั้นโล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง เป็นการทำให้เกิดสภาพเหม่งตึ๊งดีๆ  ส่วนจะโล่งให้ไปถึงไหนนั้นขอนำเอาเคล็ดลับมาบอกคือ “หากอยู่ใกล้น้ำพิจารณาแม่น้ำหรือสระว่ายน้ำ อยู่ใกล้ถนนให้เลือกระเบียงไปหาถนน” เพราะทั้งถนนและแม่น้ำเป็นแหล่งจ่ายกระแสพลังนั่นเอง   มีระเบียงรับลมธรรมชาติ: ห้องคอนโดฯ ส่วนใหญ่มักเป็นห้องมีระเบียง โดยระเบียงห้องเปรียบได้กับประตูทางเข้าบ้านซึ่งเป็นทางที่มีลมธรรมชาติไหลเวียนผ่านมามากที่สุด ในทางฮวงจุ้ยใช้พิจารณาในเรื่องรายได้ หากสามารถรับลมเข้ามาได้มากยิ่งมีโอกาสรวยได้มากนั่นเอง   ดังนั้น ระเบียงที่เราเลือกก็ควรจะรับกับทิศทางลม และคอนโดฯ ที่หันระเบียงไปทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้จะทำให้ได้ลมเข้าบ้านได้มากที่สุด นอกจากทิศทางลมแล้วยังมีอีกสิ่งที่ต้องพิจารณานั่นคือขนาดของระเบียงหน้าประตู เราเรียกว่าเป็น “เหม่งตึ๊งภายนอก” ที่ยิ่งกว้างมากใหญ่มากยิ่งดีนั่นเอง   ที่กล่าวมาทั้งหมดจึงเป็นคำตอบได้ชัดเจนว่าการอยู่ในคอนโดฯ ชั้นสูงๆ นั้นส่งผลดีให้เราอย่างไรบ้าง แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดคงต้องทราบรายละเอียดดวงชะตาของผู้ที่จะเข้าไปอยู่ เนื่องจากซินแสผู้มีความรู้จะได้คำนวณเลือกห้องในตำแหน่งที่ดีที่สุดให้กับท่านนั่นเอง   ที่มา : คอลัมน์ Feng Shui ประจำเดือน ก.ย. 59 นิตยสาร Home Buyers' Guide  
ไม่อยากโสดตลอดชีวิต เช็กฮวงจุ้ยสักนิดก่อนจัดบ้าน!

ไม่อยากโสดตลอดชีวิต เช็กฮวงจุ้ยสักนิดก่อนจัดบ้าน!

คนโสดที่กำลังห่อเหี่ยวเดียวดายเพราะไร้คู่ อย่าเพิ่งท้อใจไปว่าจะต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต เพราะอาจมีคนดี ๆ เดินเข้ามาหากลองจัดบ้านใหม่ตามฮวงจุ้ย ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้  จะทนเหงาหงอยมองเห็นใครเขามีคู่อยู่ทำไม ใช่ว่าคนโสดคนสุดท้ายของโลกใบนี้จะเป็นเราซะเมื่อไร เพราะวันนี้คนโสดจะไม่ต้องทนเหงาอีกต่อไป ถ้าได้ลองจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยเรียกความรักที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ความรักดี ๆ ก็จะร้องเรียกหาคุณเอง งานนี้ขอบอกเลยว่าต่อให้คุณจะโสดเหงาเศร้าใจมานานนับแรมปี แต่ฮวงจุ้ยดี ๆ เหล่านี้จะทำให้คุณต้องเตรียมผ้าไว้ซับหัวกระไดบ้านทุกวี่ทุกวันแน่นอนครับ 1. เก็บความทรงจำเก่า ๆ เข้ากรุไปซะ แม้เรื่องราวและความทรงจำเก่า ๆ จะยังคงตราตรึงใจคุณมากแค่ไหน ถ้าหากอยากมีรักใหม่ก็จำเป็นที่จะต้องเก็บมันไว้ก่อน บรรดารูปภาพความทรงจำจากคนรักเก่า จดหมายรัก หรือของขวัญที่ยังอยู่เป็นหนามแทงใจคุณอยู่ควรเก็บลงกล่องให้หมด 2. จัดห้องนอนให้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นคู่ สาวโสดอย่างเราก็ควรจะจัดห้องนอนให้เหมือนกับคนมีแฟนได้นะ เพราะหากว่ากันตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว สาวโสดควรจัดห้องนอนให้มีมุมโรแมนติกอย่างโซนนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยเทียนไขคู่ สร้างบรรยากาศโรแมนติกเพื่อรักษาพลังชี่ (Chi) ทางด้านความรักให้ไหลเวียนอยู่สม่ำเสมอ 3. ตั้งเตียงให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ว่าจะจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยเพื่อดึงดูดความรักหรือจะจัดเพื่อรับโชคลาภก็ตาม อย่างไรเสียเตียงนอนก็ไม่ควรตั้งให้ตรงกับประตูห้องเพราะองศานี้เปรียบเสมือนทิศแห่งความตาย ที่สำคัญไม่ควรใช้กระจกบานใหญ่แต่งห้องนอนเพราะจะสะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องและทำให้สาว ๆ หมดความมั่นใจในตัวเอง 4. เปิดรับพลังแห่งรักให้ถูกทิศ ห้องนอนนั้นมีมุมพลังแห่งรักซ่อนตัวอยู่แล้วนั่นก็คือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ควรหาโมบายคริสตัลมาตกแต่งบริเวณนั้นด้วยริบบิ้นสีแดงหรือประดับห้องด้วยดอกโบตั๋นสีแดงที่มีความหมายเป็นสิริมงคลก็ได้ครับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีทาสีผนังที่ต้องการด้วยโทนสีชมพูหรือแดงแทนก็ได้ครับ ที่สำคัญอย่าลืมเก็บดอกไม้แห้งและของเก่าดูรกหูรกตาทิ้งไปซะให้หมด 5. ใช้องค์ประกอบของธรรมชาติมาตกแต่ง ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้ โลหะ และโลกถือว่าเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ดังนั้นตามหลักฮวงจุ้ยจึงแนะนำให้คนที่อยากมีคู่นั้นตกแต่งบ้านด้วยองค์ประกอบของธรรมชาติ อย่างเช่น เน้นใช้โทนสีขาว-เทา พรมถักจากเส้นใยธรรมชาติ โคมไฟประดับคริสตัล หรือนำรูปปั้นดินมาวาง เพื่อให้รักษาพลังและเติมเต็มความรักให้ห้องนอนของคุณ 6. เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เป็นผ้าลินิน ฮวงจุ้ยดี ๆ ไม่ได้มีแค่การจัดตำแหน่งให้ถูกทิศเท่านั้น แต่เราต้องเลือกใช้วัสดุและสีสันให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน แนะนำสาวโสดทั้งหลายเปลี่ยนผ้าปูที่นอนแบบธรรมดา ๆ มาเป็นผ้าลินินที่มีสีสันสุดโรแมนติกอย่าง แดง ขาว หรือเขียวสว่างกันเถอะครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ควรใช้ผ้าปูที่นอนผ้าลินินสีแดงบ่อยเกินไป เพราะความร้อนแรงของโทนสีนี้จะค่อย ๆ ลบล้างความโรแมนติกให้จางหายไปนั่นเอง 7. ไม่ควรวางโต๊ะทำงานในห้องนอน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าห้องนอนเป็นห้องที่ต้องการความเงียบสงบและผ่อนคลายเท่านั้น หากมีโต๊ะทำงานตั้งอยู่ในห้องนอนความเครียดจากการงานก็จะดึงพลังลบเข้ามาและทำให้รู้สึกเครียดทั้งตอนหลับและตอนตื่น ซึ่งแบบนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการทำลายบรรยากาศโรแมนติกของสาวโสดให้พบรักยากขึ้นไปอีก 8. จัดระเบียบบ้านให้ลงตัว การจัดระเบียบบ้านให้ใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวนั้น ถือว่าเป็นการเสริมสร้างเสน่ห์ให้สาวโสดดูฮอตขึ้นมาเลยล่ะ เพียงแค่จัดระเบียบข้าวของเครื่องใช้ ภายในครัว บนโต๊ะทำงาน หรือแม้กระทั่งโรงรถให้หยิบจับถนัดมือ เท่านี้การใช้ชีวิตของเราก็จะง่ายและคล่องตัวขึ้น รับรองเลยว่าใครเห็นก็ต้องหลงรักไปทุกราย 9. จัดห้องน้ำได้ถูกหลัก ความรักก็จะเข้ามาหาเอง สำหรับการจัดห้องน้ำของคนโสดให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย แค่ทาสีผนังด้วยสีทาบ้านโทนอบอุ่นเพื่อเสริมสร้างพลังชี่ (Chi) ให้ไหลเวียนอยู่ตลอด ตกแต่งด้วยภาพผลงานศิลปะที่เกี่ยวกับความรัก เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้มีสีหรือลายเป็นเซตเดียวกัน และที่สำคัญควรหมั่นดูแลห้องน้ำให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ 10. จัดสวนต้อนรับความรักสำหรับบ้านสาวโสด ฮวงจุ้ยไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในบ้านเพียงอย่างเดียวเพราะจริง ๆ แล้วการเลือกต้นไม้มาปลูกในสวนก็สำคัญไม่แพ้กัน แนะนำให้สาวโสดปลูกพืชที่เป็นผลไม้สัก 2-3 ชนิดหรือปลูกไม้ดอกงาม ๆ อย่าง ดอกโบตั๋นแดง เพื่อเปล่งประกายเสน่ห์และความอ่อนโยนในตัวคุณ ถึงฮวงจุ้ยจะเป็นหลักตามความเชื่อ แต่ก็มีจุดประสงค์และเทคนิคที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน หากสาวโสดคนไหนที่ยังคงนั่งเหงาใจอยากมีคู่กับใครเขาบ้าง ก็จงอย่าปล่อยให้เวลาผ่านเลยไป หันมาเอาใจใส่จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยเรียกความรักที่เรานำมาให้ชมกันในวันนี้ดีกว่าครับ   ขอขอบคุณข้อมูลจาก : home.kapook.com
เลือกคอนโดเสริมร่ำรวย

เลือกคอนโดเสริมร่ำรวย

 เลือกคอนโดฯ เสริมร่ำรวย คอนโดมิเนียมเป็นทางออกที่ดีมากสำหรับการอยู่อาศัยในเมือง เพราะสะดวกสบาย ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและการเดินทางไปทำงาน แต่เราจะเลือกคอนโดฯ ให้ส่งเสริมโชคลาภ และจัดฮวงจุ้ยอย่างไร เพื่อแก้ไขสิ่งร้ายให้กลายเป็นโชค (มากขึ้น) ลองพิจารณาคำแนะนำเหล่านี้ครับ     1.ทางเข้าออก ภาพของรวมโครงการ :   คอนโดฯ ที่ดีควรมีทางเข้าออกกว้างและสะดวก มีสวนหรือพื้นที่สีเขียวส่วนกลางมากๆ และเห็นกระแสพลังไหลเข้า เช่น เห็นสายน้ำไหลมาหา ถนนสายใหญ่มีรถวิ่งมาหาจำนวนมาก เพราะบริเวณดังกล่าวนี้ก็จะเป็นจุดสะสมกระแสพลังให้ภาพรวมของโครงการที่เราอาศัยอยู่นั้นเกิดความเจริญรุ่งเรืองและมีมูลค่าในระยะยาว สำหรับการอยู่อาศัยในเชิงพาณิชย์หรือเก็งกำไรก็ควรเลือกทิศที่ระเบียงอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก เพราะสามารถรับลมได้ดี สามารถหาคนเช่าอาศัยต่อได้ง่าย   2.กระแสพลัง :   พลังงานต้องมีทิศทางวิ่งเข้าหาห้องพักของเราได้ จุดเด่นของคอนโดฯ คือ ระเบียง เราถือว่าภายนอกอาคารนั้นระเบียงเป็นทิศจ่ายกระแสพลังงาน ลมต้องไหลเวียนเข้าจากระเบียงได้ดี การอยู่ชั้นสูงๆ จะได้เปรียบเรื่องทางลม ลมเข้ามากก็มีโอกาสรวยมาก ยิ่งอยู่ในชั้นที่เปิดประตูระเบียงแล้วไม่มีสิ่งปลูกสร้างบังเลย ก็จะทำให้โอกาสทางการเงินมากกว่าห้องอื่นๆ ระเบียง คือ ตำแหน่ง “เหม่งตึ๊ง” หรือเปรียบดัง “สถานที่สะสมความมั่งคั่ง” ให้กับคอนโดฯจึงควรมีสภาพโล่งกว้างที่สุด ไม่วางโต๊ะเก้าอี้เกะกะ หรือมีต้นไม้ปลูกบังขวางทางเดินและทิศทางลม สำหรับระเบียงที่อยู่สูงจากสระว่ายน้ำส่วนกลางไม่มากนักสัก 1-2 ชั้น ถือเป็นตำแหน่งดีด้วยเช่นกัน เพราะที่สระว่ายน้ำนั้นน้ำจะมีสภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นการกระตุ้นพลังอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นการเสริมโชคที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การวางโซฟาบริเวณโถงที่ติดกับระเบียงไม่ควรเลือกโซฟาชนิดหนา บังระเบียงจนทึบ ส่วนแหล่งจ่ายกระแสพลังภายในอาคารให้พิจารณาห้องพักตำแหน่งใกล้กับลิฟต์ ถือเป็นห้องที่รับกระแสพลังที่ดี หากบริเวณทางเข้าประตูห้องของเราไกลจากลิฟต์หรือมืด แนะนำให้ติดไฟให้สว่างบริเวณปากทางเข้าห้อง หากทำได้ให้ติดทั้งนอกและในห้องเลย ก็จะช่วยให้สภาพประตูมีความเป็นหยาง หรือพลังคึกคัก โชคลาภก็จะวิ่งเข้าประตูได้ดีขึ้น   3.การเลือกทิศหันหัวนอน :   หลักของการวางตำแหน่งหัวนอนในคอนโดฯ นั้น ใช้หลักของชัยภูมิที่ดี คือ ควรมองเห็นประตู เห็นคนที่จะเดินเข้าห้องและเห็นทิวทัศน์ที่หน้าต่างด้วย ถ้าจะให้ดีจริงๆ ก็คือ ก่อนไปเลือกซื้อควรปรึกษาซินแสว่าทิศไหนเป็นทิศหัวนอนที่ดีต่อเราจริงๆ จะได้เลือกตอนซื้อไปเลยเพราะคอนโดฯ บางแห่งเขาได้บังคับตำแหน่งหัวนอนตามรูปห้องไว้แล้ว ทำให้เราหาทิศเข้ากับดวงนั้นทำได้ยาก การหันทิศหัวนอนทางทิศตะวันตกไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้ายอย่างที่หลายๆ ท่านเข้าใจ เพราะทิศตะวันตกเป็นทิศธาตุทอง ซึ่งเพิ่มพลังแห่งการตัดสินใจที่เฉียบขาดให้ท่านและช่วยให้การควบคุมลูกน้องในปกครองเป็นไปได้ดี แต่สำหรับบางท่านที่ประสงค์จะทำการปล่อยให้เช่าหรือขายต่อ ท่านก็ต้องพิจารณาเลี่ยงการซื้อห้องซึ่งมีทิศหัวนอนทางทิศนี้ เนื่องจากผู้เช่าอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องอยู่ การปล่อยห้องให้เช่าหรือขายต่อก็อาจจะยากกว่าปกติ   4.ของใช้เพื่อการอยู่อาศัย :   ควรมีเท่าที่จำเป็น เพราะข้าวของที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้พื้นที่ใช้สอยและการไหลเวียนของพลังงานในห้องพักลดน้อยลง หากจำเป็นต้องมีหรือเก็บไว้ควรหาตู้เก็บเป็นสัดส่วน ไม่วางระเกะระกะจนรกไม่น่าอยู่ แนวทางในการจัดฮวงจุ้ยเพื่อให้มีพลังที่ดีแบบเฉพาะเจาะจงก็ยังสามารถใช้แนวทางของดวงชะตาและดาวเหินได้อีกด้วย   สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามได้ที่ www.100fs.com  
การจัดห้องน้ำให้ถูกหลักฮวงจุ้ย

การจัดห้องน้ำให้ถูกหลักฮวงจุ้ย

การจะจัดห้องน้ำให้ถูกหลักฮวงจุ้ย มีหลักการดังนี้ครับ   1. อย่าวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ใกล้ประตูบ้านมากเกินไป เพราะโดยทั่วไปซินแสจะจัดให้ประตูบ้านของท่านรับกับพลังงานที่ดีประจำยุค (ยุคปัจจุบันคือยุคที่ 8 ปี พศ.2547-2567 ในฮวงจุ้ยระบบดาวเหิน หรือ Xuan Kong Flying Star) ดังนั้นหากห้องน้ำมาอยู่ใกล้ประตูหน้าของบ้านมากเกินไป จะเป็นตัวดูดกระแสโชคเข้าไปที่ห้องน้ำและไหลออกไปทั้งหมด เป็นที่มาของการเสียหายทางด้านโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง   หากจำเป็นต้องวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ใกล้ประตูหน้าบ้านจริงๆ ก็ขอให้อย่าหันหน้าชนกับประตูหน้าบ้านโดยตรงนะครับ เพราะสภาวะของกระแสไหลออกจะได้ไม่รุนแรง หรือ หากจำเป็นต้องวางห้องน้ำให้ใกล้ประตูหน้าจริงๆ และยังต้องหันหน้าชนประตู ก็จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ปิดประตูห้องน้ำทุกๆครั้งที่เราไม่ใช้งานครับและก็ควรจะใช้ประตูห้องน้ำที่เป็นลักษณะบานทึบเพื่อกันให้กระแสอากาศไหลเข้าไปในห้องน้ำได้น้อยที่สุดครับ ส่วนการวางตำแหน่งของห้องน้ำที่ดีที่สุดหากเลือกได้ จะพยายามวางให้มองไม่เห็นประตูห้องน้ำจากตำแหน่งของประตูเข้าบ้าน   2. วางตำแหน่งห้องน้ำไว้ให้อยู่ในส่วนที่มีพลังงานที่ไม่ดีสะสมอยู่ สำหรับซินแสที่มีความสามารถและประสบการณ์ มักจะเลือกวางตำแหน่งห้องน้ำให้ตรงกับจุดที่มีพลังงานที่ไม่ดีของฮวงจุ้ยในระบบดาวเหิน เนื่องจากรู้ว่าห้องน้ำมีสภาวะการไหลออกของกระแสอยู่ตลอดเวลา หากเราสามารถเลือกตำแหน่งห้องน้ำให้ตรงกับพลังงานที่ไม่ดี ก็จะนำพาพลังงานที่ไม่ดีดังกล่าวออกไปได้มากเป็นพิเศษด้วย เรียกว่าเป็นการใช้ห้องน้ำให้เป็นประโยชน์ได้ดีมากๆเลยครับ   3. ไม่ควรหันหัวสุขภัณฑ์หนัก อ่างล้างหน้า หรือ ฝักบัว ให้ชนกับหัวเตียง โดยไม่สนใจว่าจะเป็นห้องน้ำในห้องนอนเราหรือห้องน้ำของห้องคนอื่นๆในบ้านนะครับ เนื่องจากเมื่อมีการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวจะเกิดเสียงและโดยเฉพาะสุขภัณฑ์หนักนั้นการใช้งานจะก่อให้เกิดประจุ “อิออนบวก” ซึ่งจะเข้ามารบกวนการทำงานของร่างกายเราได้ ดังนั้นหากเรานอนหันหัวเตียงเข้าหาอุปกรณ์ดังกล่าวก็ถือว่าเป็นข้อเสียต่อสุขภาพมากทีเดียวครับ หรือหากให้ดีไปกว่านั้นเราจะพิจารณาว่าเตียงที่หันหัวนอนชนผนังผืนเดียวกับอุปกรณ์ดังกล่าวก็ผิดหลักฮวงจุ้ยด้วยเช่นเดียวกันครับ   4. ห้องน้ำควรวางไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กับผนังด้านนอกบ้านหรือมีแสงสว่างเพียงพอ เพราะห้องน้ำเป็นห้องที่มีความชื้นสูง เป็นที่สะสมของเชื้อโรค หากเราไม่วางห้องน้ำไว้ในตำแหน่งที่มีอากาศถ่ายเท ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแสงแดดเข้า ก็จะยิ่งทำให้มีความชื้นสูงมากขึ้นไปอีก เป็นที่มีความสุขภาพที่ไม่ดีได้ครับ โดยสำหรับห้องน้ำที่ไม่มีส่วนเปียกหรือส่วนอาบน้ำ จะไม่พิจารณาว่าหลักการนี้มีความสำคัญมากนักครับ   5. ประตูห้องน้ำไม่ควรชนเตียงนอน พิจารณาหลักการข้อนี้สำหรับห้องนอนที่นอนมากกว่าหนึ่งคนครับ เพราะหากมีการเปิดปิดประตูห้องน้ำเมื่อใช้งานเมื่อไร ก็จะมีการรบกวนการนอนของผู้ที่นอนอยู่ได้ครับ จะเป็นที่มีของการรบกวนการนอน ทำให้สุขภาพไม่ดี